ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ส่วนองค์นี้เป็นพิมพ์ปิดตา อรหัง ที่มีอักษรคำว่าอรหัง ด้านหลังองค์พระ เป็นพระกรุแรกเช่นกันได้มายี่สิบกว่าปี พิมพ์นี้อย่าว่าแต่กรุแรก แม้นแต่กรุใหม่ก็ไม่ได้พบง่ายๆนัก แต่องค์นี้เลี่ยมทองมาไม่ต่ำกว่าสิบปีเลยดูไม่ชัดครับ

 

จบด้วยภาพ พระสารีริกธาตุของพระพุทธปัจเจกพุทธเจ้า ที่ผมได้รับความเมตตาจากพระอริยะสงฆ์ผู้เป็นศิษย์สายหลวงปู่มั่น หลวงปู่ขาว ท่านคือ หลวงปู่จันทา วัดป่าเขาน้อย จังหวัดพิจิตร ท่านเก็บบูชาไว้ในกุฏิท่าน เมื่อประมาณสิบปีมาแล้ว ท่านบอกว่าได้จากเจดีย์เก่าที่ผุพังตามกาลเวลา ทั้งรับรองว่าเป็นของพระปัจเจกพุทธเจ้า เดิมได้มามีวรรณะเป็นสีออกขาวใส แต่ปัจจุบันกลายเป็นสีดังรูปครับ

 

<CENTER></CENTER>
กว่าจะข้าม...ธรณีกรรม


<!-- Main -->[SIZE=-1]<CENTER>การที่ต้องผจญกับผีในร่างคนทุกวัน ๆ
จากที่กลัวมาก ๆ จนแทบบ้า
กลายเป็นความเคยชินที่ต้องทนอยู่ร่วมกัน
นาน ๆ เข้าก็กลายเป็นความเบื่อไปในที่สุด

คงเป็นความจริงที่ว่า
คนเราถ้าไม่มีเวรกรรมต่อกัน
คงเป็นยากที่จะเจอกันในสภาพที่
ต่างคนต่างเกลียดกัน
จองล้างจองผลาญกัน
อย่างสุดขั้วในนภพชาตินี้เป็นแน่
และถึงอยากจะหนีจากกันมากสักเท่าใด
ยิ่งเหมือนเพิ่มแรงกระชาก
ให้กลับมาอยู่ไก้ลกัน
ยากที่จะพบทางแยกขาดจากกันได้

แต่ก็ใช่ว่าจะหมดหนทางซะทีเดียว
เมื่อเราตั้งสติและศึกษาพระธรรม
คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างจริงจัง
เราก็จะพบคำตอบที่ไม่ใช่ทางหนี
แต่เป็นแนวทางสายกลาง

ที่ทำให้การอยู่ร่วมกับผีในร่างคน
หรือคนในร่างผีอย่างไม่เบียดเบียนกัน
และถ้าฝึกกรรมฐานจนจิตสงบ
ก็จะสามารถลดหรือลบล้าง
เวรกรรมที่ได้ผูกมัดรัดเกี่ยวกันมา
ไม่รู้กี่ภพกี่ชาตินั้น
ให้หมดเวรหมดกรรมต่อกัน
ในภพชาตินี้ก็เป็นได้
</CENTER>[/SIZE]<!-- End main-->



ขอขอบคุณ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=feelof40age&month=26-08-2008&group=9&gblog=2

 

<CENTER></CENTER>
จากหนังสือเตือนสติผู้ปฏิบัติธรรม ของพระธรรมธีรราชมหามุนี (เจ้าคุณโชดก ปธ.๙)

"อย่าพูดว่า ทำกรรมฐานแล้ว ไม่ต้องทำบุญทำทานอะไรอีก"

การทำบุญทำทานเป็นการสร้างความดี ไม่ใช่สร้างความชั่ว ผู้ที่มีใจถึงธรรมแล้ว จะมีใจเปี่ยมด้วยปสาทศรัทธาอันแก่กล้าอยู่เสมอ ย่อมจะบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนาเป็นประจำ แม้โบราณท่านก็สอนไว้ว่า

 

ผมนำภาพพระสกุลวังหน้ามาให้ชมกันเป็นตัวอย่าง ซึ่งถ้าท่านที่ได้ชมไปเห็นที่ไหนจะได้นำท่านมาบูชาที่บ้านแทนที่จะให้ท่านไปอยู่ตามริมฟุตบาทข้างถนน พระที่นำมาให้ชมนี้ได้ผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วว่าเป็นพระแท้ ผมเก็บสะสมบูชามาประมาณ 5 ปีแล้ว เอาไว้ต่อๆไปผมจะนำพระพิมพ์สกุลวังหน้าที่วงการพระเครื่องไม่นิยมและพระพิมพ์ที่วงการพระเครื่องเขานิยมที่ผมได้เก็บสะสมบูชาทยอยนำมาให้ชมให้ดูให้ทัศนศึกษากันเรื่อยๆต่อๆไปครับ

พระพิมพ์สกุลวังหน้า 2408 แบบ 2 หน้าและมีกริ่งในตัว







พระพิมพ์สกุลวังหน้า 2408 แบบหน้าเดียวฝังพระแก้วมรกตและสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)




พระพิมพ์สกุลวังหน้า 2408 แบบหน้าเดียว
















พระพิมพ์สกุลวังหน้า 2408 แบบพระสมเด็จชิ้นฟัก (ด้านหน้า)



พระพิมพ์สกุลวังหน้า 2408 แบบพระสมเด็จชิ้นฟัก (ด้านหลัง)




พระพิมพ์สกุลวังหน้า แบบพระสมเด็จชิ้นฟัก




​

 

มาชมกันต่อครับ

พระพิมพ์สกุลวังหน้า แบบพระสมเด็จชิ้นฟักจารึกปี พ.ศ.2411







พระพิมพ์สกุลวังหน้า แบบพระสมเด็จทรงครุฑข้างฉัตร



พระพิมพ์สกุลวังหน้า แบบพระสมเด็จแหวกม่าน




พระพิมพ์สกุลวังหน้า แบบพระสมเด็จหลังเบี้ย





พระพิมพ์สกุลวังหน้า แบบพระสมเด็จโตนั่งเทศนา





​

 

มาชมกันต่ออีกครับ

พระพิมพ์สกุลวังหน้า สมัยอยุธยา พิมพ์นางพญา(วัดโพธิ์)








พระพิมพ์สกุลวังหน้า พิมพ์ยืนอุ้มบาตรเล็ก รวมคณะพระธรรมฑูต(สีประจำวัน)







พระพิมพ์สกุลวังหน้า พิมพ์ปิดตาหลังแบบที่เรียกกันว่าหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์



พระพิมพ์สกุลวังหน้า




พระพิมพ์สกุลวังหน้า แบบพิมพ์ พ.ศ.2408 ฝังพระธาตุ ด้านหลังรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)





พระพิมพ์สกุลวังหน้า พิมพ์ปรกโพธิ์ใหญ่



​

 

พี่ปุ๊ลงภาพพระพิมพ์ชุดใหญ่เลยนะครับ ผมขอลงภาพพระสารีริกธาตุหรือพระธาตุที่บูชาอยู่ที่บ้านนาน..แล้ว ทั้งหมดไม่ได้ซื้อหามา โดยมากรับจากพระอริยะสงฆ์ให้มา หรือทำบุญช่วยศาสนาแล้วท่านมอบให้



ที่เห็นในภาพได้รับมาจากการบริจาคสร้างเจดีย์ท่านให้มาทั้งผอบด้วย


พระสารีริกธาตุ(ท่านที่ให้มาบอกว่าเป็นส่วนน้ำเหลืองและเลือด และส่วนอื่นๆด้วยได้มาจากทางประเทศ ลาว และ ทางเหนือของไทย) โดยได้มานานแล้วจำได้คราวๆว่า สร้างพระพุทธรูป หรือ ปิดทองเจดีย์และท่านมอบให้มาครับ

 

ส่วนพระสารีริกธาตุหรือพระธาตุ(ที่ผมต้องบอกว่าเป็นพระสารีริกธาตุหรือพระธาตุนั้นเพราะท่านที่มอบให้ไม่ได้บอกว่าเป็นของพระพุทธเจ้าหรือพระสาวก)

ในภาพได้รับจากพระอาจารย์เชื่อม ศิษย์ในหลวงพ่อยี ซึ่งเป็นสายโลกอุดรสำคัญพระองค์หนึ่ง ท่านนำผอบที่บรรจุพระสารีริกธาตุหรือพระธาตุนี้มาตักแบ่งให้ทุกท่านที่มากราบท่านที่กุฏิในวันนั้นคนละหนึ่งช้อนชาจนครบทุกคน แต่น่าแปลกใจที่ผอบของท่านเล็กนิดเดียว คนมาเต็มกุฏิตักเท่าใดก็ไม่หมดเป็นที่น่าอศัจรรย์ครับ ผมบูชามาเกือบยี่สิบปีแล้ว ผอบไม้ที่เห็นในภาพเป็นไม้จันทร์หอมที่ปัจจุบันหาของแท้ๆยากเหมือนกัน

พระอาจารย์เชื่อม นี้เป็นพระอาจารย์ผมมาเกือบยี่สิบปี ท่านจะมีอายุครบ 80 ปีในธันวาคมนี้ ไว้จะนำประวัติท่านและบอกบุญให้เพื่อนๆทราบ พี่ใหญ่ยังเอ่ยปากว่าท่านเก่งดีพี่ชอบนะพระองค์นี้ คงไม่กลับมาอีกแล้ว

 

แต่การที่มีพระสารีริกธาตุ หรือ พระธาตุต่างๆแล้ว ใช่ว่าจะแสดงว่าเป็นผู้มีบุญบารมีเหนือบุคคลอื่น ตราบใดถ้ายังไม่ปฏิบัติบูชา หรือปฏิบัติตาม ศีล ทาน สมาธิ ไม่เช่นนั้นแม่ค้าที่มีพระสารีริกธาตุหรือพระธาตุที่ท่าพระจันทร์จะเป็นผู้มีบารมีมากสุด เพราะที่แผงมีมากจริงๆหลายโหลมากครับ

 

ขอโทษเรื่องพระพิมพ์ที่นอกจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง และพระอรหันต์อัครสาวกองค์ใดองค์หนึ่งได้ทรงเมตตาแผ่บารมีให้แล้ว ไม่มีองค์ผู้เสกใดที่สามารถอธิษฐานฤทธิ์ได้เท่าชุดนี้แน่ พระพิมพ์ของบรมครูพระเทพโลกอุดร หรือหลวงปู่ใหญ่ดีที่สุดครับ




<CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER></CENTER>
รูปเอามาจากของนายสติเอง ส่วนของทุนนิธิฯ ยังมีเหลือเยอะ ปีหน้าจะนำมาแจกฟรีอีกเช่นกัน อย่างที่บอกตอนนี้อยู่ในคอพี่จิ๋วลูกชาย อ.ประถม เพียงองค์เดียวเท่านั้นซึ่งเป็นพระที่ได้รับไปจากทุนนิธิฯ น่าจะเป็น "พิมพ์สังกัจจายน์ใหญ่" เมื่อวานยังโทร.คุยกับพี่จิ๋วเรื่องสถานการณ์ในทำเนียบทั่วไป ก็เลยได้ทราบว่า พี่จิ๋วไม่ได้อาบน้ำมา 2 วันแล้ว อยู่ที่ประตู 5 หลังทำเนียบ บอกคันตัวชิปเป๋งเลย ได้น้ำฝนมาอาบแทนซักแห้งในตัวเสร็จ (ตากฝนแล้วถูขี้ไคล) ชีวิตการ์ดอาสาพันธมิตรมาด้วยใจ ไม่มาพ่อก็ไล่ให้มาเป็นงี้ล่ะครับ นับถือน้ำใจจริงๆ (เรื่องพันธมิตร เป็นความชอบส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับการทำบุญให้สงฆ์อาพาธครับเพราะการช่วยสงฆ์เป็นของกลาง เป็นเรื่องสาธารณะ เป็นเรื่องชาวพุทธโดยส่วนรวม) ส่วนในรูปองค์ที่ 2 ด้านบนสุดจากซ้าย เป็นพิมพ์ "นะ" เอกลักษณ์ ที่ได้มาจาก อ.ประถมเมื่อปี 2533 ช่วงต้นปี ที่น้องตาดีบอกว่า เห็นตัว "นะ" สีทองเบ้อเร้อ ขึ้นมาก่อนเลย ส่วนแถวที่ 2 จากซ้ายองค์แรก "ปิดตาสังฆาฏิ"ได้มาจาก อ.ประถม ต้นปี 2532 พิมพ์นี่ละ ตัดรุ้งขาด ทำงานปีนึงปรับเงิน 3 ครั้ง ก็พิมพ์นี้ล่ะ ส่วนสังกัจจายน์เล็กท้ายสุดแถวล่างได้มาพร้อมกับสังฆาฏิ แขวนท่านไว้หน้ารถตั้งแต่มีรถ คันที่ 1 ถึง คันที่ 4 ส่วนคันที่ 5 เลยนำพิมพ์รูปเหมือนใหญ่มาวางไว้แทน สาธุ พระนอกพิมพ์มาตรฐานวงการไม่ยอมรับ มีก็เอาไว้บูชา ไว้แจก เท่านั้นเองครับ

 

เมื่อวานนี้(28 ส.ค. 2551)ผมได้นำเงินที่มีผู้บริจาคให้ตอนที่ไปทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ส.ค.2551ที่ผ่านมาไปเข้าบัญชีเรียบร้อยแล้วนะครับก็กราบขอบพระคุณและโมทนาในบุญกุศลด้วยนะครับ
โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ

รายนามของท่านผู้บริจาคมีดังนี้ครับ

1. คุณดิเรก ศรีเจริญ และครอบครัว 500 บาท
2. คุณอนุพงศ์ สงวนทรัพยากรและครอบครัว 500 บาท
3. คุณชนะพันธ์ นาคศิลป์ธนัตและครอบครัว 2000 บาท
4. คุณกรกนก ทรัพย์เจริญและครอบครัว 700 บาท
5. คุณอณาธร(Kitty Kids),นางแจ้,น.ส.อรสา 400 บาท
6. คุณChaipatและครอบครัว+เพื่อนๆ 3400 บาท
7. คุณกุ้งมังกอน 100 บาท
8. คุณ16และครอบครัว 200 บาท
9. คุณOnimaru_u 200 บาท
10.น้องเอ 100 บาท
11. คุณ MEA 200 บาท
12. คุณ Narongwateและครอบครัว 400 บาท
13. คณะทำบุญเมื่อ 24 ส.ค. 2551 600 บาท
14. คุณ ละออง-คุณแพรพรรณ 100 บาท

รวมเงินทั้งสิ้น 9300 บาท
รวมเงินในบัญชีทั้งสิ้น 179,872.55 บาท

โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ โมทนา สาธุ

 

พรุ่งนี้วันพระ เป็นวันเสาร์

ใส่บาตรทำบุญกันนะจ๊ะ

สาธุครับ

 

วันนี้ลืมขอบคุณไปอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องยอดเงินที่บริจาค จะเห็นได้ว่ามียอดเงินค่อยๆ สูงขึ้น ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า เห็นยอดเงินขนาดนี้แล้วไม่สบายใจ เพราะเงินที่กองขนาดนี้ไม่ได้นำไปช่วยรักษาสงฆ์อาพาธอย่างเร็วพลัน แสดงว่าการบริหารเงินเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สงฆ์อาพาธยังดีไม่พอ หรือไม่ดีพอ ดังนั้นจึงต้องเร่งเรื่องซื้อเครื่องดูดเสลดที่จะมอบผ่านกองทุนหลวงปู่เทสก์ เพื่อกระจายไปยัง หลวงปู่ หลวงพ่อ ต่างๆ ถวายไว้ประจำตัวท่านตามที่ตั้งใจไว้ให้เร็วที่สุดโดยตั้งเป้าไว้ว่า เดือนละ 1 เครื่อง (ราคาเครื่องละ ไม่เกิน 6,000.-บาท)

อีกเรื่องนึงที่ไม่สบายใจ ที่มีผู้ที่ไม่ได้รับเชิญ แอบเข้ามาเยี่ยมในกระทู้ แล้วนำข้อมูลไปเขียนกระแนะกระแหน กระทบกระเทียบ เรื่องการดำเนินกิจกรรมของทุนนิธิฯ เรื่องพระพิมพ์ที่แจก ผมเองอุตสาห์ตั้งใจตรงสงบนิ่งในเรื่องนี้มานาน ตามคำแนะนำของครูอาจารย์เพราะทราบดีว่า เรื่องของบุญ เรื่องของพระนั้นสำคัญที่สุด แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ยุติธรรมกับกระทู้นี้เลย ที่นำข้อมูลที่ลงไว้ไปกระทบกระเทียบ ก็รู้สึกข้องใจเหมือนกัน จึงอยากจะขอบอกเลยว่า ทีหลังมาจะมาแอบดูน่ะ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ และไม่เข้าใจแล้ว ให้ pm. มาถามผมโดยตรงจะดีกว่า หรือใช้ชื่อจริงมาโพสท์ถามเลย จะได้จบซะที ผมจะได้ไม่ต้องนั่งฟังคนโน้นมาพูดที คนนี้มาพูดที รำคาญใจ เพราะอย่างที่บอกแล้ว กระทู้นี้ตั้งใจทำบุญไม่ได้ตั้งกระทู้มาเพื่อทะเลาะกับใคร

ดังนั้น ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม ถ้าไม่อยากทำบุญแต่ เข้ามาทำเป็นคนแอบดูแล้วเอาไปเขียนว่าในกระทู้ตนเอง ช่วยกรุณาไปทางอื่น ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณครับ พูดอย่างนี้แล้วที่หลังอย่าเข้ามาอีกน๊ะ เพราะผมจะได้มีความคิดในเรื่องช่วยสงเคราะห์สงอาพาธอย่างสนิทใจเสียที

แต่สำหรับผู้ที่เข้ามาดูแล้ว เข้ามาด้วยจิตใจที่บริสุทธิ เข้ามาเพื่ออยากศึกษาหาข้อมูล หรือสิ่งละอันพันละน้อย ในเรื่องแนวทางปฏิบัติ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับครอบครัว หรือตนเองแล้ว ยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งครับและหากมีการติชมหรือช่วยโพสท์ในสิ่งที่ดีๆ เข้ามาในกระทู้ด้วยแล้ว จะเป็นพระคุณอย่างสูงจริงๆ

สายบุญมีอยู่แค่นี้ก็เอาแค่นี้ เพราะทุกเดือนเราก็เอารายชื่อสายบุญที่บริจาคมาในรอบเดือนนั้นๆ ที่ up-date ได้จากสมุดบัญชี ให้พี่ใหญ่กล่าวถวายฝากบุญกับท่านองค์ใหญ่ข้างบนอยู่แล้ว อย่าให้ผมจุดธูปถวายสายบาป ไปพ่วงด้วยตัวเองอีกเลยครับไม่ใช่วิสัยผมจริงๆ ทั้งๆ ที่ผมก็มีความสามารถจะทำได้ (ในฐานะประธานทุนนิธิฯ ที่ดูแลรักษาสงฆ์อาพาธที่เป็นพุทธบุตรลูกหลานท่าน)

ขอบ่นแค่นี้ล่ะ และต้องขออภัยท่านที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุด้วย หวังว่าต่อไปเมื่อขจัดสิ่งเลวร้ายไปได้แล้ว ทุนนิธิฯ นี้ ในนามของคณะกรรมการฯ และน้องๆ ที่ช่วยสนับสนุนการทำงาน จะได้มีสมาธิกับการทำงานในการสร้างกุศลผลบุญในพุทธศาสนาให้เกิดกับท่านที่บริจาคปัจจัยมาทั้งหมดต่อไป

นับถือน้ำใจของสายบุญของท่านองค์ใหญ่ทุกท่านที่เข้ามาร่วมช่วยสงฆ์อาพาธในกระทู้นี้ด้วยกันครับ ขอโมทนา

พันวฤทธิ์
ในฐานะประธานทุนนิธิฯ สงเคราะห์สงอาพาธ
อ.ประถม อาจสาคร
29/8/51
<CENTER></CENTER>

​

 

สวัสดีวันเสาร์ครับ วันนี้ขอเปิดโพสท์ด้วยสายตรงจากพี่จิ๋ว ลูกชาย อ.ประถมที่เป็นการ์ดอาสาของพันธมิตร ที่มาอยู่ในทำเนียบตามคำสั่งพ่อ ตั้งแต่เวลา 9.30 น.ก็เลยขอให้เล่าเรื่องการปะทะกันในวันเมื่อวานนี้ พี่จิ๋วเลยเล่าให้ฟังว่า สงสัยพี่จะแคล้วคลาดด้วยพระหลวงปู่ที่เป็นพิมพ์สังกัจจายน์ใหญ่ที่พี่จิ๋วและเพื่อนได้จากพี่ใหญ่ที่ให้แขวนติดตัวไว้คนละองค์ ว่าตอนเช้าที่เริ่มปะทะกัน พี่จิ๋วออกไปอาบน้ำพอดี ตอนที่ตำรวจชาร์จเข้ามา จึงรีบอาบน้ำ เพื่อเดินทางมายังจุดปะทะ พอมาถึงก็เริ่มซากันระดับหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่วาย ได้มีโอกาสต่อยกับตำรวจ แต่ไม่เป็นไร นี่คือรอบแรก จนกระทั่งผลักดันตำรวจออกไปได้ในช่วงบ่าย รอบที่สองช่วงกลางคืนหน้า บชน.ในฐานะการ์ด จึงถูกเกณฑ์ไปร่วมอีก คราวนี้พี่จิ๋วอยู่ตรงกลาง พอแก๊สน้ำตายิงออกมา พี่จิ๋วบอกมาว่ามองเห็นชัดเลย ว่ายิงมาจาก บชน. พอด้านหน้าเริ่มล้มเพราะทั้งหนี ทั้งแสบตา ทั้งกระสุนยาง พี่จิ๋วจึงถอยออกมา การ์ดบางส่วน ก็วิ่งเข้าไปเพื่อโยนแก๊สน้ำตาเข้าไปที่ บชน. พอตำรวจโดนแก๊สน้ำตาโยนคืน จึงได้หยุดการยิง ส่วนพี่จิ๋วบอกว่า โชคดีที่มีเวลาใช้ผ้าเปียกคลุมหน้าและอยู่ตรงกลางขบวนจึงไม่ค่อยเป็นไร เพียงแต่แสบตาไม่มาก ล้างหน้าก็หาย เลยถอยกลับไปที่ลานพระรูป พี่จิ๋วบอกอีกว่า เห็นภาพข่าวใน NBT รับไม่ได้จริงๆ ที่บอกว่าตำรวจไม่ได้ยิงแก๊สน้ำตา คุยกัน 15 นาที เลยบอกพี่จิ๋วว่าระวังตัวด้วย เพราะทราบว่าทหารเตรียมพร้อมกันแล้ว พี่จิ๋วบอกว่าทราบเหมือนกัน เพราะสายข่าวมารายงานเป็นระยะๆ และหากมีอะไรจะได้โทร.คุยกันอีก ส่วนเรื่องที่หลับที่นอนนั้นไม่ต้องห่วงทุกวันซอกตึกบ้าง ใต้ต้นไม้บ้าง แกบอกนอนใต้ต้นไม้นั้นเป็นประสบการณ์ดี สุดท้ายก่อนจบฝากพี่จิ๋วซื้อมือตบให้ลูกสาวด้วย พี่จิ๋วบอกเออ.ถ้าไม่ลืมเพราะ อันละ 25.-บาทเอง ส่วนใครอยากไปดูการอาบน้ำแบบกระโจมอกในทำเนียบ ตากผ้า ตากกางเกงบนต้นปาล์มต้นละแสน หรืออยากนอนอย่างพี่จิ๋วก็เชิญตามสบายครับ ชีวิตนี้มีครั้งเดียว

ที่โพสท์ให้ดูนี่ ก็เพื่อให้ทราบว่าความจริงเป็นยังไง ส่วนสื่อไหนจะเบี่ยงเบน ก็เลือกเสพ เลือกพิจารณากันเอง แต่สื่อธรรมะอย่างพลังจิต ห้ามเลิกเด็ดขาด ยังไงๆ ก็เข้ามาช่วยกันเข้ามาดูในกระทู้ด้วยครับ สำหรับพระที่จะแจกนั้นก็อย่าลืมขอกันมาน๊ะครับ อาจจะหย่อนงามหน่อย ก็อย่าเพิ่งว่ากันน๊ะครับ ถือว่าตอบแทนน้ำใจก็แล้วกัน แถมขณะนี้ นำไปขอบารมีเพิ่มจากท่านข้างบนก่อนนำมาแจกอีกแค่นี้ก็เหลือกินแล้ว เอ้าใครอยากได้ ขอมาเลยให้ฟรี แบบมีเงื่อนไขนิดหน่อยครับ

 

ยามว่างมาดู มาศึกษาพระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่าฯ ต่อดีกว่า พระพิมพ์ชุดนี้ น่าจะถูกโฉลกกับผู้ที่ทำงานด้านการติดกับผู้คน หรืองานด้านติดต่อกับชาวต่างชาติ หรือค้าขาย ตามชื่อของกรมท่าฯ ครับ ดูจุดโค๊ตเอาเองเหมือนกันทั้ง 6 องค์

 

สำหรับพวกชอบงานศิลป์บนแผ่นหลังที่เรียกว่า "สักยันต์"

รวมภาพสักยันต์ต่าง ๆ

สักยันต์เก้ายอด สักยันต์โสรสมงคล

​

​

สักยันต์จตุทิศหัวใจเมตตา​

สักยันต์ไก่ฟ้ามหาเมตตา

สักยันต์ 16 พระองค์ตัวผู้

​

สักยันต์หนุมานอมจันทร์


สักยันต์หนุมานเชิญธง สักยันต์เสือมหาอำนาจ

​

สักภาพมังกรคะนองฤทธิ์

สักยันต์พระพรหม​

สักยันต์ดอกบัว สักยันต์เสือ


สักยันต์พระพิฆเนศ สักยันต์วางเป็นระเบียบ

สักยันต์แคล้วคลาด สักยันต์หนุมานตัว 9

สักยันต์มงกุฏแก้ว สักยันต์ตระกร้อ

สักยันต์จักรวาฬครอบฟ้า สักยันต์หงษ์




ขอบคุณสำหรับรูปการสักยันต์บนแผ่นหลัง

http://www.checkduang.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=405990

อ่านประวัติการสักยันต์อย่างละเอียดได้ที่
http://www.bp-th.org/tattoo.html

 

พี่พันวฤทธิ์อาจารย์สักท่านนี้ดูจากประวัติตามhttp://www.checkduang.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=405990 ที่ให้มาอาจารย์ท่านนี้เป็นบุตรบุญธรรมของอาจารย์ประถม อาจสาคร ได้เรียนวิชาหลายอย่างกับอาจารย์เมื่อปี 2526 ไว้มีโอกาสลองถามพี่ใหญ่หรืออาจารย์ประถมว่าความเป็นมาอย่างไร แต่ลายสักที่โชว์ในรูปสวยๆทั้งนั้น มีฝีมือไม่ธรรมดาเลย ส่วนจะขลังอย่างไรคงต้องลองกันเอง และดูราคาค่าครูแล้วก็ไม่แพงเหมือนอาจารย์สักที่ดังสนั่นเมืองบางคน กว่าสักยันต์เสร็จครบทั้งหลังเกือบหมื่น

 

เล่นเอาความลับมาเปิดเผย จริงๆ แล้ว อ.เขียว ยังมีสิ่งที่ควรเรียนรู้ให้ผู้ที่มีจิตใจดีได้เรียนรู้อีกเยอะ แต่จริตท่านชอบทางด้านการเรียนรู้ เรื่องของขลัง เรื่องฤทธิ์เดช เช่น การสักยันต์ มากหน่อย เลยอุบไว้ เพราะท่านก็เป็นศิษย์รุ่นใหญ่ของ อ.ประถม เช่นกัน ผมเกรงว่าต่อไปพอเปิดเผยตัวท่านแล้วท่านอาจจะต้อนรับลูกศิษย์อื่นๆ เยอะขึ้น ทำให้เกิดการรบกวนท่านมากเกินไป เพราะท่านเป็นทนาย มีเวลาน้อย แต่กับลูกศิษย์ท่านที่ฝึกมาตอนนี้มาทำบุญกับทุนนิธิฯ ทุกเดือนนั้น มีความรู้ทางจิตที่ดีทีเดียวครับ และเท่าที่รู้อีกเหมือนกัน ท่านดูจิตคนที่ไปหาท่านได้เหมือนกัน ไม่ได้รับลูกศิษย์ง่ายๆ ยกเว้นลูกศิษย์ท่านที่มาทำบุญกับทุนนิธิฯ ท่านให้เป็นลูกบุญธรรมท่าน ซึ่งน้องคนนี้ ผมก็แปลกใจว่ามาทำบุญกับทุนนิธิฯ ได้อย่างไร เวบไม่เคยเข้า ไม่เคยได้รู้จักกัน เพียงแต่ตามเพื่อนมา จนกลายเป็นสมาชิกด้วยกันทุกครั้ง เลยทำให้นึกถึงคำของพี่ใหญ่ว่า "ถึงเวลาสายบุญเขาก็จะมารวมตัวกันเอง" ครับ ก็น่าคิดอยู่เหมือนกันในเรื่องอจินไตยทางจิตนี้

 

ได้มีโอกาสโทร.คุยกับพี่ใหญ่ ในฐานะที่ท่านเป็นรองประธานที่ปรึกษาเรื่องกิจกรรมของทุนนิธิฯ รวมถึงเรื่องที่เป็นแนวทางในบริจาคเงินที่มีอยู่ในบัญชีของทุนนิธิฯ กระจายไปยัง รพ.ที่อยู่ในส่วนภูมิภาคที่ยังขาดอยู่คือที่ภาคเหนือ และภาคใต้ ให้โดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ทำให้ครบตามแผนบุญที่วางไว้คือ ส่วนกลางในกรุงเทพฯ คือที่ รพ.สงฆ์ เป็นหลัก และภาคอื่นๆ ทั้ง 4 ภาค โดยพี่ใหญ่ก็ให้คำปรึกษาต่อว่า เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และควรจะทำให้เร็วที่สุด ดังนั้น ขั้นตอนต่อไปในภาคปฏิบัติที่จะทำคือจะพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับ รพ.ที่มีหอสงฆ์อาพาธ อย่างเช่น รพ.สวนดอกใน จ.เชียงใหม่ หรือ รพ.สงขลานครินทร์ ใน จ.สงขลา เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้น มาประมวลจัดทำเป็นแนวทางในการบริจาคปัจจัยของทุนนิธิฯ ให้กับ รพ.เหล่านี้ต่อไปและเมื่อได้ผลเป็นอย่างไรแล้ว จะได้แจ้งให้ทราบในกระทู้นี้ครับ

ดังนั้นในสัปดาห์นี้จึงสรุปกิจกรรมและแนวทางของทุนนิธิฯ ที่จะดำเนินต่อไปให้ทราบเพียงเท่านี้ และจะสรุปต่อไปให้ทราบเป็นรายอาทิตย์ครับ

พันวฤทธิ์
31/8/51









ขอแก้ไขเพิ่มเติมอีกนิดนึงครับ ส่วนเครื่องดูดเสลดที่จะถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ทางภาคอีสานแถวอุดร ขอนแก่นนั้น คราวต่อไป จะได้เชิญพนักงานขายของร้านขายเครื่องมือแพทย์นำมาสาธิตวิธีการใช้งานให้ดูก่อนที่จะเลือกซื้อต่อไปครับ ส่วนที่ท่านยังไม่ได้ส่งรายชื่อใช้สิทธิในการขอพระพิมพ์ซุ้มไทรย้อย และซุ้มไข่ปลา ในสมัยอยุธยา ที่อธิษฐานจิตโดยท่านหลวงปู่ใหญ่ หรือ บรมครูเทพโลกอุดร สำหรับวังหน้าในสมัยพระบรมไตรโลกนาถนั้น ให้รีบส่งรายชื่อไปที่คุณโสระเลยครับ