ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. krittima helga

    krittima helga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +247
    ---หาจุดสมดุลย์..ในเมตตา..กรุณา..มุทิตา..อุเบกขา..โลกคือเรา..เราคือโลก..โลกภายนอกตัวเราเปลี่ยนไปตามเหตุ-ปัจจัย..แต่โลกภายในตอ้งอยู่ในจุดสมดุลย์โดยไม่เปลียนไปเหมือนแผ่นดินไหวน้ำทว่ม...จึงเรียนมาเพื่อทราบและแค่อยากส่องแสงสว่างช่วยกันเฉยๆแหละจ้า..เพราะมีความหวังว่าจะอยูรอดปลอดภัยในทุกๆโลกที่จิตสำนึกมวลรวมชว่ยกันสรา้งมา...:boo::mad:
     
  2. A-jitta

    A-jitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +888
    ทุกข้อความในช่วงนี้ ก็ดุเหมือนจะคล้ายๆกันอย่างที่คุณชยุตบอก...
    ว่าเรื่องราวของพลังงานต่าง ๆ ในต้นปีที่ผ่านมาก็ได้ผ่านไปแล้ว
    และต่อจากนี้ไป คงเป็นเรื่องการจัดการของผู้ที่ได้รับและรับรู้ได้ต่อพลังงานนั้นๆ ให้เข้าที่เข้าทาง
    ซึ่ง คุณ Hilarion ก็ดูเหมือนจะว่าอย่างนั้นเหมือนกัน...

    อจิตตะ...
     
  3. A-jitta

    A-jitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +888
    [​IMG]


    THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2014

    HILARION 2014 - The Rainbow Scribe
    May 18-25, 2014
    วันที่โพสท์ _Tue ,20/5/2014

    ผู้แปล: อจิตตะ

    การเพิ่มอัตราความเร็วในการก้าวย่างของการเปลี่ยนแปลงของโลก
    ในทุกหนทุกแห่งที่เกิดขึ้นต่อสภาพอากาศที่เลวร้าย
    ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมากทั่วโลกนั้น
    กลับเป็นการส่งสัญญาณและสร้างความชัดเจนยิ่งขึ้น
    ว่ามนุษย์ต้องมีความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน
    ด้วยความร่วมมือร่วมใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
    และสิ่งดีๆ ก็เป็นสิ่งที่มวลมนุษย์ต้องการ
    เพื่อที่จะเอาชนะกับความท้าทายที่สำคัญเหล่านี้
    และก็มีหลายคนที่กำลังถูกทดสอบด้วยความท้าทายเหล่านี้ด้วย
    โอยพวกเขาจะถูกกระตุ้นให้ผ่านไปได้ด้วยความเป็นตัวของตัวเอง
    และนี่ก็เป็นช่วงเวลาของการก้าวเข้าสู่ส่วนปลายสุด
    ในการเชื่อมโยงของเหล่าจิตวิญญาณที่สามารถเข้ามาอยู่ร่วมในแนวเดียวกัน

    ...นี่เป็นจุดสำคัญและเป็นเป้าหมายของการทดสอบในระดับสูงขึ้นไป
    ที่ต้องฝึกฝนจากความท้าทายในเวลานี้
    และก็เป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องนำพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาล
    และพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของความรักออกมาใช้ในเวลานี้



    การทะลักเข้ามาของพลังศรัทธาและความเมตตากรุณา
    ที่มามีบทบาทในหัวใจมนุษย์ในเวลานี้นั้น...ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
    เพราะจะทำให้แสงสว่างภายในจะยังคงสุกสว่างต่อไปอย่างต่อเนื่อง
    ต่อผู้ที่ยังคงอยู่ในเส้นทางของการบำรุงรักษาจิตวิญญาณ
    และเพิ่มพูนความรู้ให้กับแสงสว่างยิ่ง ๆ ขึ้น
    เพื่อให้พร้อมต่อการใช้งานเมื่อยามที่โลกต้องการความช่วยเหลือ
    ซึ่งเราก็หมายรวมถึงสิ่งที่คุณๆแต่ละคน
    ได้ร้องขอในวิธีการรักษาวิสัยทัศน์(มุมมอง=ผู้แปล)ที่มีต่อสัจจะ
    รวมถึงวิถีชีวิตที่ดีกว่าของมวลมนุษยชาติของดาวเคราะห์โลกใบใหม่นี้ด้วย
    และในเวลานี้ก็เป็นเวลาของความมีวิสัยทัศน์ที่สูงกว่าต้องตั้งมั่นอยู่กับการสวดมนต์ภาวนา
    จึงไม่ควรไปฟุ้งซ่านกับความวุ่นวายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วทุกมุมโลกในขณะนี้
    เพราะแสงสว่างของคุณเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องการมากที่สุด

    และในขณะที่คุณอยู่ในระหว่างบำรุงรักษาและเพิ่มขยายแสงสว่างของคุณเองอยู่นั้น
    เรา...ซึ่งเป็นมิติที่สูงกว่าก็ได้ขยายแสงสว่างนี้
    และช่วยรักษาเสถียรภาพและความสมดุลย์
    เพื่อทำงานร่วมกันกับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยนอยู่ในขณะนี้

    และต่อคำกล่าวที่ว่า “When the going gets tough, the tough get going”
    ซึ่งหมายความว่า เมื่อเกิดสถานนะการที่เลวร้าย ผู้ที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะต่อสู้
    และเผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างไม่ยอมแพ้
    ทั้งยังจะรักษาวิสัยทัศน์ที่สูงกว่านั้นไว้เพื่อเดินหน้าต่อไป



    ส่วนบรรดาผู้ที่ได้ผ่านการทดสอบผ่านแล้วนั้น
    ขณะนี้...พวกเขาได้อยู่ในตำแหน่งที่เป็นความหวังของโลกกับการยกระดับ
    ที่ยังคงอยู่ในสถานะการณ์ของการต่อสู้อย่างรุนแรงที่สุด
    และเกิดการเร่งเร้าให้มีการเปลี่ยนแปลง

    ...คุณมีเครื่องมือมากมายที่อยู่ในกระบวนการกำจัดสิ่งต่าง ๆ ของคุณ
    และทั้งหมดที่คุณต้องใช้ก็คือคงไว้ซึ่งแสงที่สว่างสดใส
    ดูแลรักษาความสงบของจิตใจและต้องปล่อยวางกับภาพรวมต่าง ๆ
    ที่คุณได้รับผ่านเครือข่ายการสื่อสารอยู่ตลอดทั้งวัน
    จงมองหาและพิสูจน์ความจริงเพื่อหาผลลัพย์ที่สูงสุดของทุก ๆสถานะการณ์
    ที่เข้ามาก่อนที่”ตัวรู้”จะทำตามแผนงานของเบื้องบน
    ที่คุณได้ไปนำมาเพื่อจะแสดงให้ปรากฏบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้

    จงมีความมั่นคงแน่วแน่ในการอุทิศตนเพื่อผลลัพย์สูงสุดทั้งหมดเหล่านั้น
    เหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่ของคุณต่างก็สามารถรับรู้ในพลังอำนาจนั้นได้
    ในขณะที่ความท้าทายกำลังเข้ามารุมเร้าพวกเขาอยู่
    และขอให้คุณจงใช้คุณลักษณะทั้งหมดของพระเจ้า
    ในการตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ที่สูงขึ้นไปนี้ด้วย

    “ ในทุกๆปัญหาย่อมมีคำตอบเสมอ...”
    และคุณลักษณะที่สูงกว่าของการรู้จักตัวเองนั้น
    จะสามารถนำความหวังซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมาก
    ต่อผู้ที่รู้สึกเดียวดายและหลงทางในการต่อสู้ของพวกเขา

    จงให้พวกเขาได้รับรู้เถิดว่า ทั้งหมดนั้นมิใช่”หลงทาง”หรอกนะ
    แต่นั่นคือเสาหลักที่จะคงอยู่ตราบเท่าที่พวกเขา
    ยังคงอยู่กับสัจจะที่เป็นไปในแนวทางของพระเจ้า
    และทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งดีต่อสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก
    ที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ ขณะนี้

    ดังนั้น...จงส่องประกายในการเป็นตัวอย่างของฑูตสันถวไมตรี
    ที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความหวังดี
    ถ้าคุณคือผู้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือในการฝึกฝนแก่ผู้ที่อยู่ในวงโคจรของคุณ...



    ...จงทะยานไปกับคลื่นของการเปลี่ยนแปลงอย่างมีชีวิตชีวา
    และตื่นเต้นต่อสภาวะของผู้ที่อยู่กับการตื่นรู้
    ที่ไม่มีวันเสื่อมสลายหรือถูกทำลายได้เลย...”

    และเป็นที่รู้กัน...ว่าเหล่า Lightworkers ของโลก คือผู้ที่ไม่ย่อท้อต่อการทำสิ่งที่ดี
    และคงอยู่กับความจริงด้วยความเป็นหนึ่งเดียวกับเป้าหมาย
    ที่ต้องอาศัยความเพียรและ การอุทิศตน
    ซึ่งเป็นแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้
    ที่คุณคุณทุกคนสามารถ “ทำได้” ในทุกขณะจิต...


    Until next week…
    I AM Hilarion
     
  4. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    อาจารย์สอนธรรม VS เจ้าลัทธิทั้งหก


    สำหรับท่านที่ไม่ใช่อาจารย์สอนธรรม แค่เอาข้อมูลมาให้เพื่อนๆ ดูเฉยๆ แปล
    ให้อ่านเฉยๆ จะไม่มีกรรมเช่นอาจารย์สอนธรรม คนที่ทำตัวเป็นอาจารย์สอนฯ
    อาจมีสภาพเช่น เจ้าลัทธิทั้งหกในสมัยพุทธกาลได้ พวกเขาจะใช้วิธีเอาธรรม
    ในพุทธศาสนาตื้นๆ มาเป็นพื้นฐาน เช่น เรื่องการทำบุญ ทำบุญเยอะๆ เพราะ
    ว่าพวกเขากลัวกรรมไงครับ เขาเลยต้องทำบุญมากๆ จากนั้น ก็สนุกเพลินไป
    กับการได้เป็นอาจารย์สอนธรรม โดยหารู้ไม่ว่าก่อนเขามาเกิดนั้น เขาอาจจะมี
    กำไรอยู่แล้ว ถ้าไม่ลงมาเกิด เขาก็ได้บุญเสวยอยู่บนสวรรค์ดีอยู่แล้ว ทั้งยังได้
    รับธรรมะจากพระวิสุทธิเทพโดยตรง พระอรหันต์ที่เป็นเทพและยังไม่หมดอายุ
    ขัยโดยตรงอีกด้วย ทว่า เขากลับยอมลงมาเกิด แล้วติดบ่วงกลายเป็นอาจารย์
    สอนธรรมไป ถ้าเขาเป็นได้จริง มีบารมีจริง มันก็ไม่มีปัญหานะครับเพราะเขามี
    บารมีเก่าทำมาเช่นนี้ อย่างผม ก็ไม่สอนใคร เพราะต่อให้สอนได้ ผมก็ไม่ได้มี
    บารมีจะมาเป็นครูอาจารย์ใครครับ ผมเป็นคนธรรมดา สนทนาธรรมกันได้ เช่น
    เทวดาบนสวรรค์เขาก็สนทนาธรรมกันได้ เป็นธรรมดาครับ นี่ไม่ได้เป็นอาจารย์


    มีหลายคนมากเลย เป็นอาจารย์สอนธรรม แล้วมีภพหน้าเป็น "คุกสวรรค์" ครับ
    ได้ขึ้นสวรรค์จริงๆ แต่ติดคุก บ้างอยู่หน้าประตูสวรรค์ อยู่ไปเป็นพันปี (เขาว่ามา)
     
  5. wawana

    wawana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +356
    ขอบคุณค่ะ คุณอจิตตะ เข้าใจในสิ่งที่ถามแล้วค่ะ..แฮ่แฮ่
     
  6. krittima helga

    krittima helga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +247
    ---ได้ยินมาว่า..เพราะสัตว์โลก (สัตว์โลกในที่นี้หมายถึงทุกสิ่งที่มีรูป กับนาม) เพราะสัตว์โลกยังมีมีความเชื่ออยู่ จึงยังอยู่ในโลกนั้นๆตามตามความเชื่อ..อย่างเช่น..เธอยังเชื่ออยู่ว่า..ยังมีถูกมีผิด..มันก็ยังอยู่ในโลกที่มีถูกมีผิด..และจะเกิดอะไรขึ้น..ถ้าเธออยู่ในโลกของความจริง..ความจริงที่ไม่ตอ้งหาเหตุผลมาอธิบาย..ความจริงที่..ไม่ตอ้งตัดสินถูก-ผิด..ความจริงที่ไม่มีอะไรตอ้งกลัว..แต่ความเชื่อนั้นมีอะไรๆให้ตอ้งกลัวไปตามความเชื่อนั้นๆ...เราไม่ได้สอนธรรมนะ..แค่เปิดมุมมองอีกมุม..เชื่อก็ช่าง..ไม่เชื่อก็ช่าง..เพราะคนเราเห็นไปตามมุมมองของตนๆ:d(deejai)
     
  7. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ก็สนทนาได้ ดีกว่าเงียบหาใครคุยไม่ได้อ่านะ
    เพียงแต่ว่าคุยเรื่องไรละ?
     
  8. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ม้าทรงกับการใช้หนี้กรรม


    ผมคิดว่าท่านคงเคยเห็นภาพม้าทรงในพิธีกินเจ ไหว้เจ้าอะไรกันมาบ้างนะครับ
    ที่เขาจะเอาเหล็กแหลมบ้าง, มีดบ้าง เสียบตามร่างกาย เช่น ปาก ต้องลุยไฟ
    อะไรแบบนั้น ซึ่งเหตุผลในตำราอืื่นๆ ก็มีมากมาย แต่นี่เป็น คคห. ของผมครับ


    ผมเชื่อว่ามันเป็นการ "ใช้หนี้กรรม" ที่เราอาจล่วงเกินไปกับสิ่งศักดิิสิทธิ์โดยไม่
    รู้ตัว เช่น เราอาจอ้างนามของเทพไปใช้โดยพละการณ์ เป็นโทษละ เราอาจใช้
    ธรรมะของเทพหรือพระอรหันต์องค์ใดเพื่อให้คนยอมรับนับถือเรา ก็เป็นโทษละ
    โทษเหล่านี้ ถ้าม้าทรงไม่ชดใช้กรรมบนโลก ตายไปเขาจะติดคุกสวรรค์เป็นพันปี
    ดังนั้น ม้าทรงจึงต้องใช้งานไหว้เจ้า เพื่อชำระหนี้กรรมนั้น อย่างที่เห็นกันอยู่ครับ


    ซึ่งผมเองก็เป็น แต่ผมเป็นตามวิบาก เช่น อยู่ๆ ก็เหมือนโดนทุบทั้งตัว บางทีเป็น
    เหมือนโดนมีดปาดคอก็มีครับ ผมเลยไม่ค่อยอยากทำอะไร ยุ่งกะใครมาก เพราะ
    แค่ตัวผมเองยังใช้หนี้กรรมไม่หมดเลย ไปยุ่งกะคนอื่น ก็ไปเอากรรมมายุ่งกะตนก็
    จะยุ่งเหยิงไปใหญ่ ใช้ไม่หมดสักที อย่างเรื่องลุยไฟ ผมก็ไม่ต้องทำกรรม ทำร้าย
    ตัวเองหรอกครับ เพราะมันมาเองตามวิบากเลย ฝ่าเท้าจะร้อนเหมือนไฟพุ่งออกมา
    บางคนอาจเหยียดหยามผมว่าไปทำผิดมาละสิ ก็ช่างเขาครับ ผมไม่สนใจ คนเราที่
    ทำงานทุกวันใครบ้างไม่เคยทำผิด ขนาดจะช่วยนกตัวหนึ่งที่ใกล้ตาย ยังมีกรรมไป
    พรากมันมาจากแม่ของมันเลย ดังนั้น เราทำงานทุกวัน ก็พลั้งพลาดได้ เป็นธรรมดา


    สิ่งนี้ ผมโดนมากับตัวเอง ผมจึงเชื่อ จึงมาเตือนคนที่ทำอยู่ ให้รีบแก้ไขเท่านั้นครับ
     
  9. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    พูดกันนักเรื่องแก้วพญานาค มีใครเชื่อว่าจะมี "แก้วมังกร" บ้างไหมครับ?


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=ASvhet5JPHo"]?????????????????????? ??? 1/1 - YouTube[/ame]
     
  10. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842

    อืม...แฮะ อ่านแล้วนึกถึงตอนเล่นเกมส์ น็อต ตรามนุษย์ เลยครับ
    ตามกลอนมนตราบทที่ว่า "แผ่นดินไหว ไทยนิ่ง ดั่งลิงหลับ" ยกบทที่สามมาให้ดูนะครับ

    ...แม้แผ่นดิน จะไหว ไทยอย่าหวั่น
    ใจจงมั่น ดั้นด้น ดลวิถี
    ทุ่มสติ ปัญญา ประดามี
    หาวิถี ทางเดิน เจริญใจ

    ...แผ่นดินไทย หนักแน่น กว่าแผ่นอิฐ
    แม้มีสิทธิ์ โยกไหว ไม่หนักหนา
    ด้วยข้าคุม แผ่นพื้น พสุธา
    มั่นอุรา เต็มจิต อย่าคิดเกรง

    ...ละเลงกาว เข้าแปะ แงะไม่ออก
    แผ่นดินบอก แน่นจัง ยังข้างหู
    สแกนทั่ว ชาติไทย ไม่มีรู
    เพราะว่าตู อุดไว้ ด้วยใจเซียน


    ...เราร่ำเรียน เยอะแยะ และยุบยับ
    แม้ยามหลับ ยังเรียน เพียรในฝัน
    เหล่าเทวา ยื้อแย่ง และแข่งกัน
    ยัดเยียดฉัน จนเบลอ ละเมอครวญ

    (ขออภัยด้วย ทีแรกว่าจะยกท่อนที่สามท่อนเดียว แต่ดูแล้วไม่ค่อยมันส์ส์ส์)

    ก็คงเป็นเรื่องบังเอิญอีกนั่นแหละ เนอะ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ใช่ไม๊
    ที่ใครจะไปทำให้แผ่นดินไหว มันไหวน้อยๆ แต่ไหวนานๆ
    หรือการร่ายกลอนมนตรา ทำนายล่วงหน้าไว้เป็นเดือนๆ
    คงมีแต่ นอสตราดามุส ทำได้ท่านเดียวล่ะมั้ง นะ

    แต่เราก็อดโมเมเข้าข้างตัวเองไม่ได้แฮะ ว่าคงมีส่วนช่วยโลกในคราวนี้ด้วย แค่ฝันก็เอาวะ


    ...หนึ่งโลกในใจเราเขาขยับ
    กระโดดงับโลกใหม่ที่ใหลหลง
    เทพนำทางข้างกายไม่พะวง
    แม้มีหลงลืมบ้างช่างหัวมัน


    สถานการณ์..เปลี่ยนขั้วเหนือ-ใต้..
    อันนี้หมายถึงเกมส์การเมืองรึป่าวเนี่ย 555
    แหม...อยากอวดกลอนมนตราอีกท่อนแล้วสิ ว่า

    ...ครุฑโวยตามลม สมใจจริงโว้ย
    ขับหัวขโมย ให้โกยไกลตา
    ข้านี้แสนเบื่อ เหลือเชื่อสายตา
    อึดอัดวิญญา แมวบ้ากินเมือง

    เดี๋ยวรอเล่นเรื่อง สร้างเมืองยุคใหม่
    เฉิดโฉมไฉไล ขาใหญ่จงออกมา


    ในที่สุด จุดเปลี่ยนของสถานการณ์ก็มาถึงจนได้ กฏอัยการศึก ครึ่งท่อน
    คงใช่ล่ะมั้งนะ วันนี้ถึงมีคนให้ยืมมอไซค์มาใช้ อาทิตย์นึง
    ก็ไม่รู้ว่าต้องโพสท์อะไรบ้าง แต่คงต้องมาอยู่ใกล้ๆ ระบบซักอาทิตย์แหละน่า นะ

    บังเอิญได้ใช้มาร้านเนทบ่อยๆ ได้พอดีเลย บังเอิญใช่ไม๊ ท่านชยุตต์ ศิษย์ต่างมิติ 555


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  11. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    [​IMG]

    ประกาศ "สงครามศักดิสิทธิ์" ฉบับที่ 1


    เนื่องด้วยบุญกรรมของปวงสัตว์ทำมาไม่เท่ากัน ทำให้สัตว์ที่สร้างบุญมากไปไกล สัตว์ที่สร้างบุญน้อยเอื้อมไม่ถึง เพื่อให้เกิดการเชืื่อมต่อกันได้ของห่วงโซ่บุญ จึงต้องทำให้สัตว์ที่บุญบารมีน้อย ได้เร่งสร้างบุญบารมีให้มาก เพืื่อให้ทันถึงสัตว์ที่ไปได้ไกลแล้ว

    และเนื่องจากสัตว์ที่มีบุญบารมีมากนั้น ได้สละชีพเพื่อชาติ ส่วนสัตว์ที่มีบารมีน้อยได้แต่คอยอยู่ในวัง เป็นนางกำนัลใน กินอยู่สบาย ไม่ได้ยากลำบาก ดังนั้น จึงต้องจัดสรรให้สตรีเหล่านั้นได้เกิดมาในชาตินี้ เพืื่อทำสงครามศักดิสิทธิ์ระหว่างกัน แล้วให้ฝ่ายชายหยุดสงครามทั้งสิ้นลงเสีย (เนื่องจากได้บารมีมาจากการสละชีพเพื่อชาติมากแล้ว) เฉพาะชายที่ไม่เคยสร้างบารมีสละชีพเพื่อชาติเท่านั้น เราจึงอนุญาติให้ท่านเข้าร่วมสงครามศักดิสิทธิ์ได้ ในสงครามศักดิสิทธิ์นี้ จึงเป็นสงครามของสตรีเพศ รบกันเอง เพื่อให้ได้บารมีทัดเทียมกับฝ่ายชายดังกล่าว หญิงทั้งหลายจึงพุ่งเข้าหากันด้วย "ความเกลียดชัง" และชายงามมากมายกลับเข้าหากันด้วย "ความรัก" เนื่องจากเคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ เสี่ยงตายมาด้วยกัน หญิงจะฆ่ากันเพื่อแย่งชิงชาย ส่วนชายจะเมินไปมองชายด้วยกัน เพื่อปลอมประโลมกัน ให้จิตของอดีตทหาร อ่อนโยนลง

    ขอให้ทุกท่านจงกล้าหาญพร้อมรับกับสงครามศักดิสิทธิ์ครั้งนี้

    ลิงค์ https://www.facebook.com/skyterra
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2014
  12. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    [​IMG]

    องค์ศรีอาริยเมตตรัยจะนำทัพ "สงครามรักระหว่างชาย"


    เนื่องจาก เพศชายมีอดีตชาติเกิดเป็นทหาร รบราฆ่าฟันกันมามากมาย ดังนั้น จึง
    ต้องหาวิธีทำให้จิตใจของพวกเขาทั้งตัวตนในอดีตและปัจจุบัน สงบสุขลง มีความ
    รักมากขึ้น ดังนั้น จะละทิ้งสนามรบไปไม่ได้ นั่นไม่ใช่วิถีแห่งวัชรยาน ไม่ใช่นักรบ
    แห่งแสงสว่าง แต่จะให้รบพุ่งกันดังเก่าก่อน ก็ไม่เหมาะสม เพราะบารมีจะมากล้น
    จนเกินกว่าฝ่ายหญิงจะตามทัน อีกทั้งยุคสมัยปัจจุบัน จะเริ่มเจริญขึ้นด้วยจิตใจ จะ
    เข้าสู่ยุคศรีวิไลซ์แล้ว จึงไม่ควรให้เพศชายรบดังเช่นเก่าก่อนแต่ยังคงต้องรบแบบ
    ใหม่ เพื่อคงวิถีของนักรบแห่งแสงสว่างไว้ นั่นเอง


    คือ "การรบด้วยสงครามแห่งรัก" ระหว่างเพศชายด้วยกัน ความพ่ายแพ้คือ การที่
    ผิดประเวณี, ก่อกรรม, ผิดศีล ฯลฯ ความขี้ขลาดคือ ไม่กล้ารัก ไม่กล้าเรียนรู้เรื่อง
    เพศ หรือมีอคติกับเรื่องความรักและกาม เป็นต้น คนที่จะรบชนะ คือ คนที่กล้ารัก
    กล้าเรียนรู้เรื่องกาม โดยไม่ผิดประเวณี ไม่ผิดศีลธรรม


    ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับเหล่านักรบแห่งแสงสว่างทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ ครับ
     
  13. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    ชายอาศัยหญิงเลี้ยงดูไม่ผิด?


    แท้แล้ว หญิงต่างหากที่อาศัยบารมีของชายดำรงอยู่ การที่หญิงได้โอกาส
    มีงานทำนั้น อย่าได้หลงเหลิงว่าตนดีนักหนา แต่สวรรค์ได้ประทานโอกาส
    มาให้ เพื่อให้ทำงาน ให้มีบารมีมากๆ และเพื่อให้ไปทันกัน ฝ่ายชายจึงจะ
    ต้อง "หยุดสร้างบุญบารมีในระดับหยาบ" เพื่อไปสู่ "ระดับละเอียด" แทน
    ด้วยการณ์นี้ ชายจึงต้อง "ไม่ทำงานทางโลก" แต่ทำงานทางธรรมหรือไป
    ค้นคว้าทางพัฒนาจิตใจ พัฒนาตนเองไป ฝ่ายหญิงจะต้องทำงานไปอย่าง
    เหนื่อยยาก ลำบากกาย มากมาย เพืื่อให้ได้บารมีมากทัดเทียมกันนั้น ห้าม
    ไม่ให้สตรีเพศดูถูกต่อว่าเพศชายว่าไม่ทำงาน, เกาะกิน, เอาเปรียบผู้หญิง
    การกระทำเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง เพราะเป็นการแพร่ความคิด ที่
    หลงทาง และทำให้กระบวนงานของสวรรค์พังไปหมด นับว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิ
    ในกรณีที่หญิงไม่ได้แย่งชิงชาย เพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นแล้วนั้นไซร้ ก็
    จะต้องรับชายที่ไม่มีงานทำไปเลี้ยงดู โดยห้ามมิให้คิดหรือกระทำการณ์ใดๆ
    อันเป็นการล่วงเกินชายดังกล่าว แต่หญิงใดที่ไม่ต้องการเลี้ยงดูชายแล้ว จึง
    ให้ออกจากบ้านเพื่อทำ "สงครามศักดิสิทธิ์" เพื่อแย่งชิงฝ่ายชายเสีย


    จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ...
    "กรวยศักดิิสิทธิ์" (Holy cone)
     
  14. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    เอ่อ..คือผม..ไม่เข้าใจสิ่งนี้เลยล่ะครับนกโกรธ:eek::eek::eek::eek::eek::eek::eek:
     
  15. Liinping

    Liinping สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +9
    ผมก็ ไม่ได้ปวดหัว คิดไรไม่ออก มานานมากละคับ จำอะไรไม่ได้ ถามคนอื่นว่าวันที่เท่าไหร่ ถึงขั้นขนาดจำเดือนปี ไม่ได้ คิดนึกอะไรไม่ออก มันตันๆ :)รู้สึกไทม์ไลน์ตัวเองสับสน ..เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 พฤษภาคม 2014
  16. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    [​IMG]

    ประกาศ "สงครามศักดิิสิทธิ์" ฉบับที่ 2


    เนื่องด้วยความหลงในโลกครอบงำปวงสัตว์ ส่งผลให้ปวงสัตว์หลงตัวเองและจะกลายเป็น "ปัจเจกชน" ที่ไม่สนใจสังคม คิดว่าตัวเองเก่ง เอาตัวเองรอดได้เอง ไม่ต้องพึ่งพาใครก็ได้ ผู้หญิงทำหยิ่งคิดว่าไม่ต้องพึ่งผู้ชายก็ได้ เพราะถือว่าตัวเองหาเงินได้เองแล้ว เลี้ยงตัวเองรอดแล้ว การคิดเช่นนี้ เป็นโทษและภัยต่อมวลมนุษยชาติมาก เพราะจะส่งผลให้เกิดพระปัจเจกฯ ขึ้นมากมาย สังคมมนุษย์ถูกทำลาย และผู้หญิงไม่อาจหลุดพ้นจากความเป็นหญิงได้ มนุษย์โลกก็จะสูญพันธุ์อีกด้วย ดังนั้น เพื่อทำให้โลกนี้ยังคงมีมนุษย์สืบเผ่าพันธุ์ต่อไป สังคมมนุษย์ไม่เป็นปัจเจกชน และผู้หญิงได้หลุดพ้นจากความเป็นสตรีเพศ จึงให้ออกกฏอัยการศึกดังนี้

    1. สตรีเพศห้ามลบหลู่บุรุษ แม้แต่คิดก็ไม่ได้ เพราะความคิด
    เป็นยาพิษร้ายที่ทำลายได้ไม่ต่างจากการกระทำ ดังนั้น หญิง
    ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษ รับกรรมแทนชายผู้นั้น เช่น หากหญิง
    นั้นคิดว่าทำไมชายคนนั้นไม่หางานทำ หญิงนั้นต้องรับกรรมคือ
    ตกงาน แทนชายผู้นั้น ให้เทพทั้งหลายทำทันทีในชาตินี้

    2. สามีสามารถกดขี่ข่มเหงภรรยาได้ ห้ามอ้างความเป็นเพศแม่
    เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแต่แม่! ถ้าไม่มีพ่อแล้ว ลูกมันจะเกิดมาได้
    ยังไง การอ้างคำว่าเพศแม่ เป็นมารยาดัดจริตของนางแพศยา
    เท่านั้น ฟังไม่ขึ้น ชายก็มีความเป็นพ่อเหมือนกัน อ้างแต่ความ
    เป็นแม่ได้ยังไง? สตรีต้องรับโทษจากสามี เพื่อให้จิตคลายพ้น
    จากความหลงเพลินในสตรีเพศ จนกว่าจะได้เกิดเป็นเพศชาย

    3. ผู้ชายมีหน้าที่สำคัญคือ การบำเพ็ญธรรมในระดับละเอียด
    เช่น การค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆ การพัฒนาจิตวิญญาณ การฝึก
    ฝนตนเอง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องของสตรีเพศ สตรีเพศมี
    หน้าที่ทำงาน รับใช้บุรุษ เลี้ยงดูบุรุษ เป็นข้าทาสบุรุษเท่านั้น
    ด้วยวิธีนี้ จึงบีบต้อนปวงสัตว์ให้หลุดพ้นจากความเป็นสตรีเพศ
    แล้วได้เกิดเป็นบุรุษได้ อันเป็นกิจที่พุทธะทั้งหลายกระทำกัน

    4. สตรีเพศที่ไม่ได้มีอาญาสิทธิ์ใดจะสอนบุรุษไม่ได้ เช่น ไม่
    ใช่แม่ ไม่ใช่ครู จะล่วงเกินบุรุษด้วยการสอนบุรุษไม่ได้ บุรุษ
    สอนสตรีเพศได้ไม่ผิด การสอนของบุรุษไม่จำเป็นต้องกล่าว
    ธรรมะ การเตะถีบ ทรมาน และการทอดทิ้ง ก็เป็นการสั่งสอน
    สตรีให้สำนึกในความผิดของตนได้เช่นกัน นี่คือ วิถีการสอน
    ของบุรุษ สตรีเพศจะกล่าวตำหนิหรือคิดเชิงลบ ไม่ได้เด็ดขาด

    5. สตรีเพศนางใด ไม่ได้ทำเพื่อผู้ชาย สตรีเพศนางนั้นต้องมี
    อันเป็นไป การทำเพื่อบุรุษมีหลากหลายแบบ ไม่จำเป็นต้อง
    ทำเพื่อสามี ทำเพื่อพี่ชายก็ได้ ทำเพื่อพ่อก็ได้ แต่สตรีเพศ
    จะทำเพื่อตัวเองไม่ได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้น จะทำให้เกิดมี
    พระปัจเจกพุทธเจ้ามาก สังคมมนุษย์จะล่มสลายไป สตรีนาง
    ใดที่คิดว่ารักตัวเอง ทำเพื่อตัวเองแล้ว จะไม่เหลืออะไรเลย
    สุดท้ายพบแต่ความว่างเปล่า และต้องฆ่าตัวตายไป ดังนั้น ก็
    จะต้องมีบุรุษเข้าไปฉุดช่วยไว้ สตรีนั้นจะตำหนิบุรุษว่ารูปไม่ดี
    ไม่งาม หรือมีตำหนิอันใด ไม่ได้ ถือเป็นโทษขั้นร้ายแรง

    จึงเรียนมาให้ทราบโดยทั่วกัน
    กรวยศักดิิสิทธิ์ (Holy cone)

    https://www.facebook.com/skyterra
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มีสมาชิกบางท่าน มาบ่นให้ผมฟังอยู่
    ว่าไม่อยากอ่านโพสต์ของสมาชิกบางท่านเลย
    เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่แนวที่ท่านผู้นั้นอยากรู้
    แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะว่าก็อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ
    ว่าสมาชิกผู้ที่สมาชิกท่านอื่นไม่อยากจะอ่านข้อความนั้น
    ทำยังไงก็ไม่ไปไหนซะที มาเที่ยววนเวียนอยู่นี่แหละ

    ผมก็เลยแนะนำไปว่า ก็อย่าไปสนใจโพสต์ของเขาสิครับ
    และก็อาจจะเพิ่มรายชื่อเขาเข้าไปใน ignore list ของเราเลยก็ได้

    เอาหละ..ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะแนะนำวิธีการทำให้อีกครั้งนะครับ

    เริ่มต้นจาก คลิกเข้าไปในส่วนของ "แผงควบคุมส่วนตัว" ของเรา
    ซึ่งอยู่มุมบนด้านซ้ายมือสุดภายในแถบสีฟ้าแถบบนสุดหนะนะครับ
    ตามภาพข้างล่างนี้ แต่ของผมมันจะเป็นภาษาอังกฤษหนะนะครับ
    ที่ชื่อว่า "User CP"

    [​IMG]

    แล้วจากนั้น มันก็จะปรากฎหน้าจอคล้ายๆภาพข้างล่างนี้

    [​IMG]

    ให้มองหารายการเมนูที่ชื่อว่า Edit Ignore List
    แล้วก็คลิกเข้าไปเลยครับ แล้วมันก็จะปรากฎช่องให้เราใส่ชื่อ
    ของคนที่เราต้องการ ignore หรือละเลย หรือเพิกเฉยลงไป
    ซึ่งเราต้องใส่ให้ถูกต้องตาม username ของเขาจริงๆนะครับ

    แล้วจากนั้นก็กด OK แล้วหลังจากนั้น โพสต์ของคนๆนั้น
    ก็จะไม่มาปรากฎให้รกหูรกตาท่านอีกเลย
    แม้ว่าเราจะเห็นอยู่ว่าเขาเข้ามาโพสต์ก็ตาม
    แต่ข้อความที่เขาโพสต์ทั้งหมด ในเวปพลังจิตแห่งนี้
    ไม่ว่าจะตั้งแต่สมัยไหนก็ตาม ก็จะถูกซ่อนเอาไว้หมดเลย

    สบายตาขึ้นเยอะเลยหละครับ ลองทำดูนะครับ
    เราจะยอมไปเสียอารมณ์ทำไมกับสิ่งที่เราไม่ชอบ
    เพราะว่าเราทุกคนมีสิทธิ์เลือกที่จะชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไรนี่นา
    ทำไมเราจะต้องยอมให้คนอื่นมาริดรอนสิทธินั้นของเราด้วยหละ
    .....................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2014
  18. A-jitta

    A-jitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +888
    ถึงคุณ dgtail ...ดูเหมือนคุณจะเพิ่งเข้ามาใหม่ ก็ขอเกริ่นแทน จขกท.นิดนึง
    ว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้ที่มุ่งเน้นในการแปลข้อความจากต่างประเทศ
    ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการเลื่อนระดับจิต
    และการรู้จักตนเองว่ามาจากไหน
    ซึ่งก็มีการโยงไปถึงเรื่องราวความรู้ของมิติต่าง ๆ
    รวมถึงในด้านวิทยาศาสตร์บ้างประปราย...

    ดังนั้น ข้อความที่อ้างอิงมานี้ อาจให้คุณได้ข้อมูลเพิ่มเติม
    จากข้อความที่คุณโพสท์มาก็เป็นได้
    ทั้งหมดมีสองตอน...

    และก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง ...
    ที่คุณชยุต และทีมแปลได้แปลไว้มากมาย
    ซึ่งสามารถ Tag เข้าไปดูได้ที่ชื่อ Chayutt ...

    ขอให้โชคดี
    อจิตตะ...


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2014
  19. A-jitta

    A-jitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +888

    ถึง คุณ dgtail
    IS ASCENSION REALLYHAPPENING?

    ตอน สอง...
     
  20. krittima helga

    krittima helga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +247
    ----โหหหห..คำสอนนี้ท่านได้แต่ไรมา..ท่านนกโกรธ..หาที่ลงในคำสอนพระพุทธเจ้าไม่เจอเลย..พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า..ดูก่อนอานนท์..คำสอนใดที่เธอได้ยินได้ฟังมา..ถ้าเธอนำเทียบกับคำสอนของคถาคตและเทียบลงกันได้ในสูตรใดๆเธอสามารถนำมาวิปัสนาใคร่ครวญดูได้ให้รอบครอบ..อย่างเช่น..ขอ้ความต่างมิติ..มิติ..สามารถนำมาเปรียบได้กับคำว่า..ภพภูมิ..ในคำสอนของพระพุทธเจ้า..และคำว่า หันกลับเข้าไปดูข้างในตนเอง..ก็เทียบได้กับ..จิตตะนุปัสนา..และอื่นๆที่สามารถเทียบกันได้อย่างลงตัวในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า...และคถาคตบอกว่า..อานนท์..ถ้าคำสอนใดที่เธอได้ยินได้ฟังมา..เมื่อนำมาเทียบในพระสูตรของคถาคตและไม่สามารถหาสูตรใดที่เทียบลงตัวได้..ให้อานนท์..ลืมไปได้เลยไม่ตอ้งนำมาใส่ใจ..และสูตรของท่านนกโกรธฉันก็เทียบจนเวียนหัวก็หาสูตรลงไม่เจอ...แต่โพสของท่านก็มีประโยชน์อยู่บ้าง..อย่างนอ้ยท่านก็เป็นหนึ่งในทีม..อาจมาในรูปแบบแปลกๆ..แต่ดีใจที่ได้รู้จักกัน..ในนาม..นกโกรธ..ท่านก็พูดถูกใจฉันบา้งไม่ถูกใจฉันบ้างมันก็เป็นเรื่องธรรมดา..เพราะฉันก็ไม่ได้หวังอะไรจากเธอ..แค่รู้จักกันก็พอ..ยินดีที่ได้รู้จักจ้าาาา..นกหลง....:cool:(kiss)(f)(deejai)
     

แชร์หน้านี้

Loading...