(ข้าว.7) ก้าวแรกที่ควรทำเพื่อแก้ปัญหาส่งออกข้าวคืออะไร นับจากที่เสียหายตั้งแต่โครงการจำนำข้าวปี 2554

ผมกลับมองว่าปล่อยให้จีนเล่นงานเรานี่แหละดีแล้ว
เราจะได้ไม่ต้องลงมือเอง จะกลายเป็นตัวร้ายเปล่าๆ
ฮ่าๆๆ ชาวนาจะต้องถูกบีบ ถูกกดขี่ นี่คือ ธรรมชาติ
ถ้าสินค้าที่ขายแบบ "วัตถุดิบ" ราคาสูง ทุกคนจะไม่
ได้อะไรจากมันเลย เหมือนน้ำมันดิบ ถ้าราคาสูงขึ้นก็
เจ๊งกันหมด ยกสายพานการผลิต


การกดขี่ กดราคาสินค้าที่เป็น "วัตถุดิบ" ต้องทำอยู่แล้ว
และต้องทำทุกๆ สินค้า ไม่ใช่แค่ข้าวด้วย อันนี้เรื่องธรรมดา


เราต้องปล่อยให้เขาล้ม แล้วให้เขายืนเอง ส่วน รบ. ที่อยาก
ไปช่วย เอาหน้า ให้คนมารัก มาชื่นชมอะไร ก็ช่างเขาไป ปล่อย
เขาจะได้ยุ่งเหยิง ฮ่าๆๆ มันก็ดีเหมือนกัน ลองคิดในเชิงการเมืองดูสิ


เรายืมแรงคนจีนที่โจมตีตลาดเรา มาเป็นข้อดีของเราได้ตั้งเยอะแยะครับ

 

อย่ามัวเถียงกันเลย เผด็จการทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว เลิกส่งเสริมการปลูกข้าว หันไปปลูกกัญชาแทน เพื่อการส่งออก เป็นการเพิ่มมูลค่า ใครเห็นต่างก็จับไปปรับทัศนะคติ พอมีฐานะดีขึ้นก็สุมหัวดูดกัญชา การเมืองจะได้นิ่ง ไม่มีใครแข็งข้อ เงินทองสะพัด ไหลมาเทมา คิดบวกๆๆๆๆๆ

 

ทำไมสินค้าบางชนิดต้อง "ถูกกดราคา" ?


สินค้าประเภท "วัตถุดิบขั้นต้น" ในกระบวนการผลิตจะต้องถูกกดราคาทั้งหมด เช่น น้ำมันดิบ, ข้าว, พลอยดิบ, อัญมณีดิบ, ปูนดิบ, อิฐดิบ ฯลฯ เพราะอะไร? เพราะสินค้าต้นทางเหล่านี้ จะถูกนำไปใช้ผลิตสินค้าอื่นๆ อีกหลายชนิด หากต้นทางมีราคาสูงแล้ว ก็จะดันให้ราคาปลายทางสูงขึ้นด้วย เช่น ถ้าข้าวราคาสูง มันจะทำให้เราต้องกินข้าวแพง จากจานละสี่สิบบาท อาจกลายเป็นจานละร้อยหรือสองร้อยบาทได้เลย ดังนั้น ชาวนาจะไม่ได้รวยขึ้นเพราะราคาข้าวสูงขึ้นหรอกครับ เราต้องตั้งสติถามตัวเองว่าถ้าราคามันจะสูงขึ้น มันจะสูงขึ้นด้วยอะไร ถ้ามันสูงขึ้นแบบไม่มีเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์ แต่สูงขึ้นเพราะอยากให้ชาวนารวยขึ้น แบบนี้ "เจ๊งทั้งระบบ" ครับ เพราะพอราคาต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น สินค้าที่ต้องเอาวัตถุดิบไปแปรรูปก็ต้องขายแพงขึ้นไปทั้งหมด เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยวก็แพงขึ้น, แป้งก็แพงขึ้น ฯลฯ เห็นไหมครับ ไม่มีใครได้ประโยชน์จากการเพิ่มราคาสินค้าวัตถุดิบแบบนี้เลย ถ้าคุณต้องการให้แพงขึ้น คุณต้องแปรรูป ให้มีมูลค่าเพิ่ม เช่น สีข้าวแล้วแบ่งขายเป็นถุงๆ แบบนี้ ราคาจึงจะแพงขึ้นได้ ไม่กระทบภาพรวมครับ

ดังนั้น ความพยายามที่จะทำให้ข้าวแพงขึ้น จึงฝืนธรรมชาติครับ

 

.

 

ประชาคมอาเซียน เรามี พันธกิจ ที่จะช่วยเหลือกัน พัฒนา ส่งเสริมกัน

พี่ไทย ในฐานะเขาพยายามชงให้เราเป็น ประเทศ คุณหนะทำ ก็เลยต้อง
สร้างโมเดลในการขายข้าวแปลกๆ ขณะเดียวกันก็ต้อง เปิดโอกาสให้ประเทศ
อื่นขายสินค้าของเขาได้ เพื่อให้เขามั่นใจที่จะมาช่วย พัฒนา อาเซียน

ปัญหาจำนำข้าวของพรรคหัวการค้า เขาใช้วิธี ดึงสินค้าออกจากตลาด เพื่อ
ให้ราคามันสูงขึ้น ...แต่....พอราคาสูงขึ้น เพื่อนบ้านเราเขาก็ทำการขาย และ
บังเอิญว่า เขาผลิตได้เยอะ ......มุขดึงสินค้าออกจากตลาด เลยแป๊ก มันไม่
ง่ายเหมือน ยางพารา ( แต่ตอนหลัง ยางพารา ก็ยาก เพราะ สายพันธ์ยางพารา
ไปๆมาๆ มันปลูกได้ทุกพื้นที่ ทั่วประเทศไปหมด ประเทศอื่นด้วย )

ดังนั้น มุขจำนำข้าว ดึงสินค้าออกตลาด มันเป็น มรดกวิธีการเก่าๆ ของพ่อค้า
ที่มีหัวการค้าแบบ พ่อค้าขี้โกง ตุนสินค้า

ถ้าจะแก้ด้วยวิธีนี้ ย่อม ตายอยู่อย่างเดิม เพราะ รอบการผลิต รอบการขาย มัน
ไม่สมดุล เพื่อนบ้านที่เขาปลูกแล้วขายได้ ชาวนาบ้านเขา ก็เหมือนพี่ไทยที่
เริ่ม เห่อปลูกข้าว ยิ่งห้าม ก็เหมือนยิ่งยุ ข้าวจึงมีแนวโน้ม ล้น กับ ล้น

การจะแก้ไข จึงต้องมาหาวิธี กระตุ้นการบริโภค ให้พฤติกรรม กินข้าวเหนียว
กินข้าวโพด กินข้าวสาลี มันเปลี่ยน

เราจะต้อง พัฒนาขนม นม เนย ที่มี ข้าว เป็นวัตถุประกอบอาหาร

จีน ....เป็นไปได้ไหม จะผลิต ซาลาเปา ขนมเปี๊ยะ ขนมแบบจีนๆ โดย
เอาข้าวหอมมะลิ เป็นส่วน ชูรส !!!

ค่อยๆ เอาไปแจกตามโรงเรียนจีน ไม่ต้องแพง ให้ขายถูกๆ ....รอสักสองสามปี
จนเด็กมัน ชอบ .....โตขึ้นมา มันก็จะ กินข้าวหอมมะลิ เป็นจานๆ ได้ วางแผน
รุกข้ามปี ข้ามยุค ข้าวสมัย เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน ให้หันมา กินข้าวหอม

พวกฝาหรั่งมังค่า เวลาจัดงานท่องเที่ยว ก็ให้พัฒนาขนมปง ขนมปัง คุ๊กกี้
ให้มี ข้าว เป็นส่วนผสม ทำให้อร่อย เอาให้เวิร์ก จนชื่อเสียงของการ
ได้มาเที่ยว ไม่ใช่แค่รอยยิ้ม แต่อาหารอร่อยเพราะมีข้าวผสม

ส่วน เมกา ....เมกา นี่ ร้านอาหารไทย อาหารไทยแปรรูป มันไปได้สวยอยู่
แล้ว สังเกตจาก หนังเมกา หนังซีรี่ การตูนsimson มันเล่นมุขช่วยขาย
ข้าวไทยอยู่แล้ว.....สิ่งที่ต้องทำก็อาจจะแค่ ครอบครัวไทย ในเมกาคน
ไหน ปั๊มลูกได้เพิ่ม 1คน เอาไปเลย ข้าว สิบ ร้อย ถังต่อปี .....


ทั้งนี้ ทั้งนั้น การผสมข้าวเข้าไปเป็นส่วนผสม ต้องเน้นไปในทาง ลดต้นทุนการผลิต

ไม่ใช่ พอผสมข้าว ส ใส่เกือกไป ขึ้นราคา

รอสัก 5 หรือ 10 ปี ให้ พลโลกติดข้าวหอมมะลิ งอมแงม ค่อยขึ้นราคา

 

ข้าวเน่า ขายใคร


ข้าวเน่า ให้เอาไปเสนอขายจีน ให้เอาไป ซ่อมกำแพงเมืองจีน แบบ โบราณเทคนิค

เอา ชาวจีนไปตระโกนด่า ขุนพล ขุนนาง ที่ประตูเมือง อย่าให้ ซ่อมสร้างกำแพง
ด้วย คอ นก รีต

ด่ามันเข้าไป จนกว่า จะยอมซื้อ ข่าวเน่าไปผสมน้ำส้มสายชู เอาไปสร้างกำแพงเมือง


จริงๆ เราก็น่า สร้างกำแพงเมืองจีน จำลอง ขนาดเท่าของจริง แถวๆ ชายแดนใต้

หรือ ชายแดนประเทศลาว ในพื้นที่ ที่เขาไม่อ่อนไหว เวลาเจอกำแพงกั้น แถม ฮา วิ่งมาเที่ยว


เหตุผลสวยๆ : รักษามรดกโลก !! แล้วขายขาดทุนไปสิ รออะไร CSR ให้โลก จะเป็นไรไป

 

พัฒนาวิจัย โครงการ แกล้งทราย ( เลียนแบบ แกล้งดิน )

ยุคนี้ ยุคโลกาพิบัติ เอ้ย วิวัฒน์ จีนไปเช่าที่ดินเวียดนาม ลาว เพื่อเพราะปลูก
กล้วย มะละกอ อ๊าาห์ มะละกอกล้วย

เราก็เอามั่ง ข้ามไปปู้น !!! ข้ามไปประเทศ ทะเลทราย ที่พอจะ หายใจทั่วท้อง

ซื้อผืนทรายเขา แล้วเอา ข้าวเน่า ข้าวล้นสะต๊อก เก่าๆ ไปเททิ้งในทราย ให้มัน
งอก หรือ เน่า ไป ไม่ต้องเสียดาย ข้าวที่ดีๆมันจะไม่ลอย ไม่ปลิว เวลาเจอน้ำ
ท่วม แถมมันอุ้มน้ำ พอร้อนมันก็คลาย ไอ้ที่แห้ง ก็กลายเป็น ชั้นผิวดินกันน้ำ
ไหลผ่าน( คล้ายยางมะตอย ) ทับไปสักชั้นสองชั้น หลังจากนั้น รออะไรหละ

ปลูกเข้าไปสิ แตงโม แตงไทย มะเขือเทศ อ๊าห์ .....ม.44


ขายมันตรงนั้นแหละ

หรือ ปลุกอะไรก็ได้ จนประเทศเขา เลิกแก่งแย่งเพราะ ไม่มีกิน



ปล. ทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ ....เพราะ ข้าวในสต๊อก มันเบิกออกไปไม่ได้
ถ้าไม่มีเหตุผล ...ทำให้ ค้าง แหม่ม อยู่อย่างนั้น ขายไม่ได้ ของใหม่มา
ก็ไม่มีที่จะเก็บ

ดังนั้น เพื่อให้สามารถ ขาข้าวออกไปจาก คลัง พระคลัง กำลังรบ ได้ก็ต้อง
มีเหตุผล ประหลาดๆ เช่น เอาไปลงทุน เพื่อการใหญ่ในอนาคต ว่าไปเรื่อย

 

นโยบายดึงราคาข้าวให้สูงขึ้นเป็นนโยบายที่ผิดพลาด


ผิดยังไง? ผิดเพราะข้าวเป็นสินค้าประเภท "วัตถุดิบมูลฐาน" เหมือนน้ำมันดิบ
ที่จะต้องควบคุมราคาให้ต่ำไว้ เพราะหากราคาไม่ต่ำ แต่กลับสูงขึ้นแล้วก็จะส่ง
ผลกระทบต่อสินค้าอีกหลายชนิดเป็นพันรายการ ทำให้สินค้าที่ต้องใช้ข้าวเป็น
วัตถุดิบในการผลิตนั้น มีต้นทุนสูงขึ้น และต้องปรับราคาสูงขึ้น ตามกันไปหมด
ผลคือ "ค่าครองชีพก็จะสูงขึ้น" เป็นอันดับสุดท้าย เพราะการขึ้นราคาข้าว เป็น
ผลให้สินค้าทั้ง supply chain ต้องขึ้นราคาตามต้นทุนที่สูงขึ้นกันไปทั้งหมด
สุดท้าย ไม่มีใครได้ประโยชน์จากมันจริงๆ ชาวนา เหมือนมีรายได้สูงขึ้น ก็จริง
แต่เมื่อค่าครองชีพสูงขึ้น คุณภาพชีวิตก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เหมือนนโยบาย รถคัน
แรก ที่หลอกให้ดีใจกับยอดขายที่สูงขึ้นแค่ปีเดียว แต่ไม่ได้ช่วยอะไรแท้จริง!


อยากให้ชาวนามีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องรวยด้วยราคาข้าวที่สูงขึ้นครับ

 

มีส่วนถูกครับ .. การจะตั้งราคาสินค้าอะไรให้สูง จะต้องมีเหตุผล
ในกรณีที่ ญีปุ่น หากต้องการจะเพิ่มมูลค่าสินค้า เขาจะแยกสินค้าที่คัดคุณภาพออกมาอีกตัว
แล้วโปรโมทขายราคาแพง และเพื่อจะได้ไม่ให้กระทบกับห่วงโซ่
การในการใช้สอยกันหลายๆ ทอดของสินค้าเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

อันที่จริง เรื่องนี้สามารถมองไปถึงเรื่อง ค่าแรงขั้นต่ำ บ้านเราด้วยก็ยังได้

 

กระทู้นี้ของผม โดยย่ำยีเสียแล้ว .. ยังไม่จบเลย

 

ยินดีด้วย .. ตอนนี้ยอดส่งออกข้าวทำ new high
.. มาถึงกลางปี 2560 ยอดส่งออกจะแตะ 11 ล้านตันแล้ว

อย่างที่บอกไว้เมื่อปีที่แล้ว.. เรื่องข้าวนี้ ..ต้องเน้นคุณภาพเป็นสำคัญที่สุด

"รมว.พาณิชย์" เผยปีนี้มีโอกาสที่ข้าวไทยจะส่งออกสูงถึง 11 ล้านตัน จากเป้าหมายที่ 10 ล้านตัน หลัง 6 เดือนส่งออกข้าวกว่า 5.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 20%
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/762152