คนเล่านิทานอัพเดท "แผนจัญไร"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Apinya17, 23 กันยายน 2014.

  1. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง "แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    ตอนที่ 10

    เรื่องต่อมาคือสภาพเศรษฐกิจของทั้ง 2 ฝ่าย

    สงสัยต้องให้เข้าไปอ่านจากเพจของอาจารย์ทนง ขันทอง ที่เขียนมานาน ชำแหละเสียจนผมไม่รู้จะเขียนอะไรเพิ่ม พอสรุปได้ว่า ตอนนี้อเมริกาแทบจะเหลือแต่เปลือก ดอลล่าร์ก็ถูกคว่ำบาตร ถูกท้าทายอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกของประวัติ ส่วนทองที่ว่ามีเต็มตู้ ตอนนี้ก็โดนสาระพัดชาติทวงคืน ล่าสุดนี่มีข่าวว่าทางสวิสเซอแลนด์ก็คิดจะทวง จะมีส่งคืนเขาเต็มจำนวนหรือเปล่าไม่ก็ไม่รู้

    ส่วนรัสเซียนั้น มองการณ์ไกล เหมือนมีแผนอะไรอยู่ในใจ เงินกระดาษไม่ว่าเป็นสกุลอะไร ที่ได้มาจากการขายพลังงานของตน เขาว่ารัสเซียเอาไปกว้านซื้อทองมาเก็บแทนเงินกระดาษ เพราะฉะนั้นใครที่ประมาทหน้า ว่ารัสเซียไม่เก่งเรื่องการเงิน ก็รอดูไปก่อนนะครับ อาจจะได้เห็นเงินกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ที่ตอนนี้ออกอาการเซถลาหัวทิ่ม อาจมีค่า เหลือแค่ห่อลูกกวาดเม็ดเดียวก็ได้ ฮู้ย รอจะไม่ไหวอยู่แล้ว

    ในขณะที่จีนเอง เขาว่า ก็ทยอยตุนทองมานานหลายปีอย่างเงียบๆ มีมากเสียจนต้องย้ายที่ไปเก็บในโกดังแทน ฮา นี่ถ้าเผื่อมีการรื้อฟื้นระบบวินัยการคลัง จะพิมพ์แบงค์ ต้องมีมีทองสำรองครบ ไม่ใช่เอาเศรษกิจปลอมๆ และอำนาจของกองทัพมากนุนแทนทอง อย่างที่อเมริกาทำมานาน อเมริกาจะทำอย่างไรล่ะ อย่าให้แพ้สงครามเชียว เผลอๆ อาเฮียกับพี่ปูเขาจับมือกัน รื้อฟื้นระบบนี้ขึ้นมาใหม่ ฝั่งนี้ใครไม่มีทองไม่เป็นไร อาเฮียมีเหลือเฟือ ให้พวกยืมไปเป็นทองสำรองได้ เผลอๆ แถมแอบเตรียมแผนไว้แล้วด้วย แต่ที่น่ากลุ้มใจแทน ดูเหมือนจะเป็นฝั่งอเมริกาใครจะยืมใคร

    เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษ คิดนำการรบ แต่อยู่ในสภาพล้มละลาย อังกฤษได้อเมริกาเป็นนายทุน ทำให้เดินหน้าทำการรบได้โดยไม่กลุ้มใจ และคราวนี้ล่ะ อเมริกามีทุนหนาพร้อมรบหรือ พูดไม่ได้เต็มปากหรอกนะ

    อเมริกาทุนหนาไม่พอ แล้วอังกฤษจะช่วยไหวไหม แหม ถ้าอเมริกาไปถามนาย David Cameron แบบนี้ สงสัยอาจถูกจีบปากด่ายับ ยุโรปเอง ยังไม่ฟื้นจากโรคทรัพย์จาง CNN ออก ข่าวประจานไม่เลิก แล้วใครจะเป็นนายทุนให้อเมริกา ตัวเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอด พรรคพวกก็มีแต่กระเป๋าขาด พวกเสี่ยน้ำมันตะวันออกกลาง กลุ่มเสี่ยซาอุนะหรือ ต้องรู้จักนิสัยพวกนี้นะครับ เขาทุ่มได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ทุ่มให้หมดหรอก ก็บอกแล้ว มิตรภาพในตะวันออกกลาง มีไว้ให้เช่าชั่วคราว แต่ไม่ได้ขายถาวร

    ฝ่ายรัสเซีย แม้จะไม่ใช่เศรษฐี และสื่อย้อมก็พยายามใส่สีว่า รัสเซียอาการหนัก หลังจากถูกคว่ำบาตร ก็หนักจริงแหละ แต่คงไม่ถึงอับจน เพราะบังเอิญมีเพื่อนรักเป็นอาเฮีย กำลังอู๋ ทั้งเงินทั้งทองกำลังท่วมตัว แค่นี้ทำไมจะแบ่งไปให้เพื่อนรักเอาไปใช้ทำสงครามไม่ได้ ได้ก็ได้ด้วยกัน เสียก็เสียด้วยกัน จริงไหมครับอาเฮีย ก็เพื่อนรักกันนี่หว่า

    และอย่าลืมว่ากลุ่ม BRICS เขา ผนึกกำลังกัน จะแบบแนบแน่น หรือแบบหลวมๆ อีกเรื่องหนึ่ง อาจมีบางประเทศวางตัวเป็นกลาง แต่รับรองไม่มีใครแตกแถว ไปยืนอยู่กับอเมริกาแน่นอน ส่วนกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ Shanghai Co-Operation พวกมีแหล่งพลังงานของตนเองแบบเหลือเฟือเกือบทั้งนั้น ไม่ใช่ประเภทมาเป็นภาระให้รัสเซียแน่นอน

    สรุปเรื่องสภาพเศรษฐิจ ฝ่ายอเมริกาพี่เบิ้มเก่าก็ไม่ใช่ได้เปรียบอย่างที่คิดกัน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    4 ธค. 2557
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ทานเรื่องจริง เรื่อง "แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    ตอนที่ 11

    เรื่องต่อมา คือเรื่องกำลังอาวุธของทั้ง 2 ฝ่าย

    อเมริกา ทำการบ้านมากมาย เพื่อให้รู้แน่ถึงศักยภาพของฝั่งรัสเซีย ไอ้พวกถังความคิดต่างๆ ทำงานเสียหน้ามืด แต่ขอทีเถิดนะ ที่หลังอย่าลอกการบ้านกัน หลอกเอาเงินสปอนเซอร์แบบนี้ คนอ่านแก่ๆ อย่างผม อ่านแล้วเสียอารมณ์ เห็นหน้าปกเป็นถังใหม่ ข้างในลอกกันเพียบ อย่างนี้มันน่าจะเป็นถังขยะ มากกว่าถังความคิด

    ต่อครับ อเมริกาคิดว่าตัวต่อตัว ระหว่างอเมริกากับรัสเซีย อเมริกาล้มรัสเซียได้ แต่พรรคพวกของรัสเซียนะซิ โดยเฉพาะจีนและอิหร่าน มีของจริงมากน้อยน่ากลัวแค่ไหน อเมริกาประเมินเรื่องกำลังอาวุธของจีนต่ำตลอด ถึงขนาดในการประชุมที่ Shangrila Dialogue ที่ เน้นเรื่องความมั่นคงของประเทศ ที่จัดเป็นประจำทุกปีที่สิงคโปร์ อเมริกาเคยปรามาสจีนอย่างไร้มรรยาท จนจีนไม่เข้าร่วมอยู่พักหนึ่ง ตอนนี้ก็ไม่แน่ว่าอเมริการู้จริงถึงศักยภาพอาวุธของจีน เพราะจีนปิดเงียบ ไม่มีการโม้ ไม่มีการโชว์

    แต่ที่อเมริกาให้เวลาในการวิเคราะห์มากมายอีกประเทศหนึ่ง คือ อิหร่าน เพราะอเมริกาคิดว่า อาวุธที่ทรงอานุภาพที่สุด และเป็นตัวตัดสินคือ อาวุธนิวเคลียร์ และอเมริกาคิดว่า อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มานานแล้ว อเมริกาถึงกับชักใย ให้สหประชาชาติใช้มาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่าน

    อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์จริงหรือไม่ อิหร่านบอกว่าไม่ได้ทำ แต่ถ้าเรื่องนี้กลับตาลปัตร พูดได้คำเดียวว่า "แหลก" ฝ่ายไหนแหลก ก็ลองประเมินกันเองบ้างครับ

    กรณีอิหร่าน ทำให้พอมองเห็นแนวคิดของอเมริกาเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ เมื่ออเมริกาคิดว่านิวเคลียร์คืออาวุธที่ทรงอานุภาพที่สุด และเป็นตัวตัดสิน อเมริกาจึงเน้นการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และบรรดาที่เป็น hardware เป็น ส่วนมาก เช่น เรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน รถถัง เครื่องบิน ฯลฯ เพื่อสร้างความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ ล๊อกเป้า เป็นต้น

    สิ่งที่น่าสนใจ และอเมริกาอาจจะไม่ให้ความสนใจพอในตอนแรก คือจีน เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าในเรื่องการพัฒนาระบบไอทีอย่างมาก อาวุธที่จีนพัฒนามาใช้ อาจไม่ใช่ในรูปแบบ hardware ทั้งหมด แต่เป็นรูปแบบไอที software ถ้าจีนพัฒนา software ที่สามารถสยบอาวุธหลากหลายของอเมริกาได้ สงครามครั้งนี้คงมีการสู้รบ รูปแบบต่างกับสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างแน่นอน และ มีความเป็นไปได้สูงมาก อย่าลืมว่าทางฝั่งของรัสเซีย นอกจากจีนแล้ว ยังมีอินเดียที่เป็นกูรูอีกรายในด้านไอที และถ้าฝั่งนี้เขาแชร์เทคโนโลยี่กัน คงเป็นเรื่องน่าสนใจมาก และน่าคิดและน่ากังวลมากสำหรับอเมริกา

    ตัวอย่างที่ทำให้น่าคิดว่า เรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี software ทางฝั่งรัสเซียและจีน ไม่ใช่เรื่องเกินจินตนาการคือ ข่าวเกี่ยวกับระบบ Sukhoi 24 หรือ Su-24 ของรัสเซียที่สยบเรือรบสัญชาติอเมริกาขื่อ USS Donald Cook เมื่อกลางปีนี้ ที่มีข่าวจาก Veterans Today เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2014 ว่า

    เรือรบสัญชาติอเมริกันชื่อ “USS Donald Cook” ซึ่งติดตั้งระบบ“Aegis” ที่ เป็นระบบที่ไฮเทคที่สุดของอเมริกา ที่สามารถใช้ทำการโจมตีและต่อสู้จรวดทางอากาศ ได้ไปลอยลำโชว์ตัวพร้อมจรวดโทมาฮอค เย้ยรัสเซียที่แถบทะเลดำเมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ.2014 ที่ผ่านมา การเข้าไปในน่านน้ำของ Donald Cook เป็นการฝ่าฝืน Montreux Convention ด้านประเภทและระยะเวลา

    รัสเซียไม่ได้ใช้อาวุธขับไล่ Donald Cook เพียงแต่ส่งเครื่องบินรบที่ติดตั้งระบบเรียกว่า Sukhoi 24 หรือ Su-24 ไปบินวนรอบเรือรบDonald Cook ซึ่งจับสัญญาณเครื่องบินรบรัสเซียได้ เครื่องเตือนภัยของเรือรบทำการแจ้ง แต่หลังจากนั้นแป๊บเดียว ระบบอิเลคทรอนิคทั้งปวงของ Donald Cook ก็ล่ม จอดับมืด ว่างสะอาดเกลี้ยงเกลา และไม่สามารถทำการกู้ระบบได้อีกเลย

    ระหว่างนั้นเครื่องบินรบที่ติดระบบ Su-24 ของรัสเซีย ก็บินวนเหนือดาดฟ้า Donald Cook 12 รอบ ก่อนบินจากไป

    เมื่อรู้ตัวว่าถูกลูบคมจนไม่เหลือ Donald Cook ก็รีบแล่นเข้าไปจอดเทียบท่าที่โรมาเนีย รายงานข่าวบอกว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ประจำการ 27 คนของ Donald Cook ก็ ยื่นใบลาออก และไม่มีการแถลงข่าวใดๆจากฝั่งอเมริกา ส่วนทางรัสเซียออกข่าวเพียงว่า เรายังไม่ได้ใช้อาวุธอะไรเลยนะ เพียงแค่ใช้ระบบคลื่นวิทยุทำลายการทำงานของระบบอเมริกันที่ว่าเยี่ยมสุดแค่ นั้นเอง..... และระบบที่ว่านี้ของอเมริกา เขาว่ากองเรือทั้งหมดของ NATO จะติดตั้ง เพื่อใช้ในการต่อสู้กับรัสเซีย หากรัสเซียบุกยูเครน...

    สรุปว่า ด้านอาวุธยุทธโธปกรณ์นั้น ยังตัดสินไม่ขาดว่า ฝ่ายใดจะนำหน้าใคร เพราะมีทั้งเรื่องนิวเคลียร์ hardware และ software ที่ต่างก็ซุ่มพัฒนา แต่ถ้าจีนสามารถสร้างระบบ software ที่สยบระบบที่ใช้กับอาวุธของอเมริกาได้หมด หรือเกือบหมด หนทางชนะสงครามชิงโลกของอเมริกา คงแทบไม่มีได้เห็นเลย !

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 ธค. 2557
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง "แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    ตอนที่ 12

    ปัจจัยสุดท้าย ที่จะตามประเมินกันคือ เรื่องกองกำลัง ซึ่งมีทั้งในระบบและนอกระบบ

    สำหรับกองกำลังในระบบ เป็นเรื่องที่ประเมินยาก เนื่องจากความแตกต่างทางข้อมูลของของแต่ละแหล่งที่มา ซึ่งแน่นอน มีทั้งการซ่อนตัวเลขไม่ให้อีกฝ่ายรู้ความจริง หรือแต่งให้ดูดีกว่าเป็นจริง จึงเป็นเรื่องที่ยากจะยืนยัน ตัวเลขที่จะนำมาแสดงต่อไปนี้ ผมได้มาจากหลายแหล่ง มีทั้งเวบด้านทหาร และข้อมูลที่มีผู้รู้ทางด้านนี้ส่งมาให้ ผมใช้ตัวเลขที่ประเมินจากทุกแหล่งข้อมูลที่ได้ มาเปรียบเทียบ และ ประมาณความเป็นไปได้นะครับ

    ฝ่ายอเมริกา 5 อันดับแรก

    - อเมริกา มีประมาณ 2.2 ล้านนาย
    - เกาหลีใต้ มีประมาณ 1 ล้านนาย
    - อังกฤษ มีประมาณ 4 แสนนาย
    - ฝรั่งเศษ มีประมาณ 4 แสนนาย
    - ออสเตรเลีย มีประมาณ 3.5 แสนนาย
    - ที่เหลือรวมๆกันของพันธมิตร มีประมาณ 2 ล้านนาย
    รวมทั้งหมดประมาณ 7 ล้านนาย

    ส่วนกองกำลังในระบบ ของฝ่ายรัสเซีย 5 อันดับแรก

    - จีน มีประมาณ 4.3 ล้านนาย
    - รัสเซีย มีประมาณ 3.2 ล้านนาย
    - อินเดีย มีประมาณ 3.4 ล้านนาย
    - เกาหลีเหนือ มีประมาณ 2 ล้านนาย
    - อิหร่าน มีประมาณ 3 ล้านนาย
    - ที่เหลือรวมๆกันของพันธมิตร มีประมาณ 2 ล้านนาย
    รวมทั้งหมดประมาณ 18 ล้านนาย

    สรุป กองกำลังในระบบ หรือประจำกองทัพ ระหว่างฝ่ายอเมริกากับฝ่ายรัสเซีย อัตราส่วนประมาณ 1: 2.5 ฝ่ายรัสเซียมีมากกว่าฝ่ายอเมริกากว่าเท่าครึ่ง

    คงพอเห็นแล้วว่า มีจำนวนพันธมิตรมาก ก็เรื่องหนึ่ง แต่เวลาทำสงคราม จำนวนนักรบ อาจสำคัญกว่าเพื่อนที่เป็นภาระรุงรังนะครับ

    เกี่ยวกับเรื่องกองกำลังนั้น อเมริกาเลิกระบบทหารเกณฑ์ไปแล้ว มีแต่ทหารสมัคร ขณะที่รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และ อิหร่าน ยังมีระบบทหารเกณฑ์ตามกฏหมายอยู่ ซึ่งจะทำให้ทั้ง 4 ประเทศ สามารถเรียกทหารสำรอง และทหารเกณฑ์ได้อีกหลายสิบล้านนาย

    ยังมีตัวแปรที่มีกองกำลังขนาดใหญ่ ที่ผมไม่ได้ใส่ไป 2 ประเทศ คือ บราซิล และตุรกี บราซิล นั้น อยู่ระหว่างจะเป็นกลาง หรือเข้ากับฝ่ายรัสเซีย มีกองกำลังประมาณ 4 แสนคน ส่วนตุรกีนั้น ด้วยความเป็นนก 2 หัว ชอบเล่นเกมเสียว ตุรกียังเล่นเสียวต่อ ไม่ตัดสินใจ มีกองกำลังประมาณ 6 แสนคน

    สำหรับไทยแลนด์ แดนสมันน้อยนั้น ผมไม่ได้เอามาใส่อยู่ฝ่ายใดเลย เพราะไม่สามารถคาดเดาความลึกซึ้งยาวไกลในวิสัยทัศน์ของท่านผู้นำได้ ไม่แตะดีกว่าครับ ได้แต่แอบหวังว่า พระสยามเทวาธิราชท่านคงดลใจให้ไปถูกทาง เพื่อให้สมันน้อยรอดพ้นจากอันตราย

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 ธค. 2557
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. เห็ดถอบ

    เห็ดถอบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +300
    ถ้าเหตุการณ์มันปะทุขึ้นจริงๆเจ้าสมันน้อยคงลำบากใจพิลึกว่าจะเหยียบเรือแคมไหนดี จะใช้มุกเสรีไทยเหมือนในอดีตก็ไม่รู้ว่าชาวโลกเค้าจะรู้แกวหรือปล่าว....55555เครียดแทนท่านผู้นำเลย
     
  5. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง "แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    ตอนที่ 13

    ส่วนกองกำลังนอกระบบนั้น เป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่ง เริ่มมีมาตั้งแต่หลังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ทหารเกณฑ์ทั้งหลาย โดยเฉพาะจากอังกฤษและแถบยุโรป เมื่อปลดประจำการ แต่ยังติดใจรสชาติการต่อสู้อยู่ ก็พากันไปเป็นทหารรับจ้าง Mercenaries ในแถบอาฟริกา และเมืองต่างๆที่เคยเป็นอาณานิคม และดิ้นรนที่จะให้หลุดพ้นจากการปกครอง ของพวกนักล่าอาณานิคม

    หลังสงครามเย็นเลิก และเมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลาย ในปี ค.ศ.1991 เป็นต้นมา บรรดารัฐต่างๆ ที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียต ต่างประกาศตัวเป็นอิสระ ขณะเดียวกับที่อเมริกา ก็เข้าไปแทรกแซงในการต่อสู้เพื่อเป็นอิสระของรัฐเหล่านั้น อเมริกาไม่ใช้กองทัพของตนเข้าไปทั้งหมด แต่ว่าจ้างให้กลุ่มนักรบเข้าไปทำการแทน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพวก Contractors ซึ่งทำหน้าที่ไม่ต่างกับ Mercenaries นัก และเมื่อมีการเข้าไปสำรวจ ขุดเจาะ ทรัพยากรในตะวันออกกลาง อาฟริกา ลาตินอเมริกา ฯลฯ พวกที่เข้าไปสำรวจ ก็จ้างนักรบเข้าไปดูแลทรัพย์สินและเจ้าหน้าที่ของตนด้วย Contractors จึงมีอีกชื่อหนึ่ง เรียกกันว่า Private Military Contractors หรือ (PMC) หรือ Private Security Contractors (PSC)

    สำหรับอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลคาวบอย Bush, Clinton รวมถึง Obama ล้วนใช้บริการของ Contractors ทั้งสิ้น และที่น่าสนใจ สหประชาชาติเอง ในการส่งกองกำลังของสหประชาชาติ ไปดูแลความสงบในประเทศใดๆ ที่อ้างว่ามีทหารจากประเทศสมาชิกส่งไปนั้น ของจริงมีจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวก Contractors ทั้งสิ้น โดยเฉพาะประเทศที่มีการปะทะกันรุนแรง

    อเมริกาเลือกใช้บริการของ Contractors เพื่อหลีกเลี่ยงการแถลงความจริงต่อสภาสูง เนื่องจากการส่งกองทัพไปประจำที่ใด ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาสูง และที่สำคัญ การใช้ Contractors มี ความคล่องตัวในการย้ายกองกำลังและทุนที่ใช้ โดยใช้ผ่านงบลับต่างๆ ซึ่งอเมริกาชำนาญการเดินเรื่องแบบสีเทาใต้โต๊ะเช่นนี้อยู่แล้ว และหากมีปัญหาอะไร การเก็บกวาดง่ายกว่าเป็นกองทัพ

    อเมริกาส่งกองกำลัง Contractors ไปทุกแห่ง ทั้งแถบอดีตสหภาพโซเวียต อาฟริกา ลาติน อาฟกานิสถาน เอเซีย ตะวันออกกลาง สำหรับตะวันออกกลางนั้น มีรายงานบอกว่า เมื่อสมัยทำสงครามอ่าว อัตราส่วนระหว่างพลประจำกองทัพ กับพวก Contractors ประมาณ 1:50 แต่เมื่ออเมริกาเข้าไปปฏิบัติการในอิรัก และอาฟกานิสถาน จำนวนของ Contractors มีจำนวนมากกว่า จำนวนทหารในกองทัพเสียอีก !

    ช่วงอเมริกาขยิ้อิรัก เขาว่าบริษัท Contractors งอก ขึ้นมาเป็นร้อย ในช่วงสูงสุดใช้ถึง 500 บริษัท มีทั้งบริษัทใหญ่ บริษัทย่อยและเป็นที่รู้กันว่า ในการรบ ปะทะ ยึดเมือง ทั้งหมด เกือบทุกรายการของอเมริกา ใช้ Contractors เป็นหัวเจาะนำเข้าไปก่อน และคุมพื้นที่ให้จนเรียบร้อย กองทัพตัวจริงจึงเข้ามา ดังนั้นความใหญ่ กร่าง และราคาของ Contractors จึงสูงขึ้นตามไปด้วย

    Contractors ส่วน ใหญ่ มีคนในรัฐบาลอเมริกันนั่นแหละ เป็นผู้มีส่วนจัดตั้ง ดูแล ส่งงานให้ และเป็นลูกพี่คุ้มหัวให้อีกต่อ เป็นธุรกิจมืดที่โด่งดัง มีอิทธิพล และราคาสูงจนน่าตกใจของอเมริกา

    Contractors ระดับ เจ้าพ่อของอเมริกา ที่สามารถระดมพลได้เป็นเรือนแสน และรับงานได้ทุกระดับความอันตราย ทุกพื้นที่ และเป็นเรื่องที่เป็นความลับสุดยอด ที่โด่งดัง มีอยู่ไม่เกิน 5 บริษัท หนึ่งในนั้นคือ Blackwater !

    ผมเคยเล่าเรื่อง Blackwater ให้ฟังกันประมาณกลางปีนี้ ในบทความนิทาน “หวังว่าเป็นเพียงข่าวลือ” สำหรับท่านที่ยังไม่เคยอ่าน หรือจำไม่ได้ ผมจะทบทวนให้ฟังเล็กน้อย

    Blackwater ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ.1997 โดยนาย Eric Prince ลูกเศรษฐีที่ชอบการต่อสู้ เขาเป็นอดีตนาวิกโยธิน และประจำหน่วย Seal ฝีมือดีของกองทัพอเมริกา Blackwater รับงานระดับจัดหนัก hardcore ทั้งสิ้น เช่น ปฎิบัติการที่ อาฟกานิสถาน อิรัก ลิเบีย ฯลฯ การเก็บผู้ก่อการร้ายสำคัญ ล้วนเป็นฝีมือของพวก Blackwater เป็นส่วนมาก ค่าจ้างของ Blackwater เป็นหลักพันล้านเหรียญขึ้นไป ธุรกิจของ Blackwaterไปได้สวยและโด่งดังมาก จน Blackwater ไปสะดุดหัวแม่เท้าของใครไม่ทราบ ปี ค.ศ.2009 ลูกน้องของเขาถูกจับและถูกสอบสวน กรณีทำให้ชาวบ้านตายที่อิรัก ส่วนตัวนาย Prince ถูกเล่นงานด้วยข้อหาหนีภาษี

    ข่าวบอกว่า Eric Prince ขายหุ้นใน Blackwater ทิ้งในปี ค.ศ.2010 และตัวเขาหลบไปอยู่ที่ Abu Dhabi บ้างก็ว่าไปอยู่ฮ่องกง ส่วน Blackwater เปลี่ยนผู้บริหารและเปลี่ยนชื่อเป็น Academi

    แต่นาย Eric Prince ไม่ได้ทิ้งงาน Contractors ไปจริงๆหรอก มีข่าวว่า เขาเข้าไปทำธุรกิจที่อาฟริกา ตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Frontier Resource Group อ้างว่าเป็นการลงทุนด้าน infrastructure ใน อาฟริการ่วมกับบริษัทจีน แถบซูดาน คองโก และไนจีเรีย จริงๆก็คือไปดูแลธุรกิจของจีน และนักลงทุนจีน ที่เข้าไปอยู่กันเต็มในอาฟริกา ตั้งแต่ปี คศ 2000 เป็นต้นมา

    หลังจากนั้นก็มีข่าวทยอยมาอีกว่า Frontier ไม่ ได้รับงานแค่ 3 ประเทศ แต่ดูแลไปถึง เคนยา, แองโกลา, เอธิโอเปีย, แทนซาเนีย, ยูกานดา, พิทแลนด์ ซึ่งเป็นรัฐอิสระอยู่ในโซมาเลีย ก็เกือบหมดอาฟริกานั่นแหละ !

    ที่อาฟริกา Frontier ของนาย Eric Prince ทำงานร่วมกับ Contractors ระดับเจ้าพ่ออีกรายชื่อ บริษัท Saracen ซึ่งมีสำนักงานอยู่หลายแห่ง เช่นที่ South Africa และ Lebanon เจ้าของ Saracenเป็นใคร ข้อมูลบางรายบอกว่าเป็นของนาย Lafras Luitingh บ้าง บางรายก็บอกว่านาย Luitingh ก็เป็นคู่หูของนาย Eric Prince นั่นแหละ

    Saracen มีฐานสำคัญอยู่อีก 2 ที่ ที่หนึ่งคือ Somalia อีกที่หนึ่งคือ Kosovo ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Poland ลองเดาดูกันมั่งครับ ว่ามีความหมายอย่างไร

    ท่านผู้อ่านคงสงสัย ผมเล่าเรื่องนาย Eric Prince และ Frontier กับ Saracen ทำไมยืดยาว

    เมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ.2014 South China Morning Post ลงข่าวแบบไม่ตีปีบว่า หุ้น DVN Holding ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือนายJohnson Ko Chun-shun และ Citic Group ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีน ทะยานขึ้น 7.3% ตั้งแต่มีการตั้งนาย Eric Prince อดีตเจ้าของบริษัท Blackwater ที่อื้อฉาวเป็นประธานบริษัท DVN ยังให้ สิทธิ Option ในการซื้อหุ้นแก่นาย Eric อีกด้วย DVN เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง !

    เรื่องนี้คงไม่เป็นแค่ข่าวลือ เพราะ South China ลงข่าวอย่างเป็นทางการ

    และหลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน วันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ.2014 ก็มีการแถลงข่าวที่อเมริกาว่า Academi (ชื่อใหม่ของ Blackwater ที่นาย Prince อ้างว่า ขายไปแล้ว) และบริษัท Contractors อีก 5 บริษัท ได้ควบรวมกับ Triple Canopy และตั้งเป็นบริษัท Contractors ที่ใหญ่ที่สุดในโลกชื่อ Constellis Holding ถือเป็นข่าวสะท้านวงการของพวกกองกำลังนอกระบบ และเสทือนไปถึงกองกำลังในระบบของอเมริกา !

    ในวงการเขาเล่ากันว่า นาย Eric Prince นั้นคุมกองกำลังพวก Contractors ประมาณ 30 % ของ Contractors ทั้งหมด ส่วน Constellis คุมอีก 40% ที่เหลือน่าจะเป็นของ Dyn Corp (ซึ่งเป็นของพวกทหาร ที่ออกมาจากหน่วย Special Force เป็นส่วนใหญ่ กลุ่มนี้ เป็นรุ่นแรกที่เป็นนักรบรับจ้างตั้งแต่สมัยสงครามเย็น โดยเข้าไปใน Bosnia, Kosovo) และบริษัทรายย่อย

    สำหรับนาย Eric Prince คงชัดเจนว่าแปรพักตร์ไปเรียบร้อยแล้วจากอเมริกา เขาเป็นผู้ชำนาญการแถบตะวันออกกลาง ถ้าดูระยะเวลาเมื่อดอก ISIS บาน ที่อิรักเมื่อกลางปี ค.ศ.2014 และพวกเสี่ยน้ำมันตะวันออกกลางกลุ่มซาอุดิ พยายามกดดันให้อเมริกาส่งกองกำลังไปจัดการ คงพอเป็นคำตอบได้ว่า อเมริกาจะเอากองกำลังนอกระบบที่ไหน ที่จะเข้าไปไล่จับ ISIS ในตะวันออกกลาง อย่างน้อยกองกำลังนอกระบบก็หายไปแล้ว 30% ที่เหลืออยู่ใช่ว่าจะอยู่ว่างๆเดินเล่น ต่างก็อาจติดภาระกิจที่ทำสัญญากันไว้แล้ว

    และถ้าปรากฏว่า Constellis Holding นั้น ก็ย้ายมาอยู่ฝั่งเดียวกับนาย Eric Prince ด้วย แล้ว อเมริกาคงเหนื่อยแน่ ดูจากสีหน้าอันโทรมจัดของนายโอบามา ระยะหลัง โดยเฉพาะเมื่อไปโผล่หน้าที่แดนมังกร ฝืนยิ้มได้ฝืดตลอดรายการ ก็เกือบจะเชื่อแล้วว่ามีการย้ายฝั่งกันจริง นายโอบามาคงจะเดินเสียวสันหลังตลอดเวลาที่อยู่แดนมังกร ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง อเมริกาจะแก้เกมอันนี้อย่างไรล่ะ ก็ต้องพึ่งกองกำลังในระบบคือกองทัพอย่างเดียว มิน่าเล่า นาย Chuck Hagel รัฐมนตรีกลาโหม ถึงได้ร้องเพลงถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า ไม่ต้องให้นายโอบามาบีบหรอกครับ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    6 ธค. 2557
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. s vachara

    s vachara สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +12
    กราบสวัสดีครับคุณลุงนิทาน

    1.ผมไม่ได้เข้าเว็บมานานมาก นึกกริ่งใจเลยแวะเข้ามา เจอกระทู้ที่ดีมากๆ ของลุงนิทาน ชะตาหรือเปล่า?

    2.จำความได้ ยืนอ่านหนังสือพิมพ์ตั้งแต่เด็กจนอายู 39 ดูทีวีก็แล้วตั้งแต่เด็ก จนเลิกดูมาเสพข่าวผ่านเน็ทแทน บทความของลุงคือคู่มือดูละครเรื่องที่ผม อ่าน ดู มาเกือบทั้งชีวิต เพิ่งมา ถึงบางอ้อ ก็เมื่ออ่านบทความลุง

    3.บทความเหล่านี้คือคู่มือดู ละครแห่งชีวิตนี้ ก่อนหน้านี้คนดูอย่างผม งง เพราะจับต้นชนปลายไม่ถูก ต้องอาศัยปัญญาของผู้เฒ่าที่ผ่านโลกมาเยอะ ไกด์ไลน์ให้ หลังอ่านบทความ พอมีข่าวหรือเหตุการณ์จาก ข่าวต่างประเทศ พอจะเดาได้ว่า อันใหนเป็นข่าวโดยธรรมชาติ อันใหนเป็นการสร้างสถานการณ์จากประเทศมหาอำนาจเพราะถ้าติดตามข่าวมาตลอด จะปะติดปะต่อเหตุการณ์ได้เอง เหตุการณ์ เครื่องบินหายของมาเลเซียเอย หรือ เครื่องบินตกที่ยูเครน 911 เป็นต้น จะว่าไปละครแห่งชีวิต น่าดูกว่า interstaller inception เจมส์บอนด์+starwars หรือสารคดีเด็ดๆ เป็นใหนๆ สรุป หนัง ละคร ที่เคยดูมาชั่วชีวิต ไม่มันส์เท่า หนังละครเรื่องนี้ เจ็บจริง ตายจริงไม่ใช่สแตนอิน
    4. ปรกติละคร หรือ หนังจะดูไม่รู้เรื่องถ้ามาดูตอนกลางเรื่อง มันต้องปูพื้นก่อนเข้า และเกริ่นต้นเรื่องสำหรับคนที่เกิดช้า และมีสกรุ๊ปพิเศษเบื้องหลังแทรก แก้ง่วง คุณลุงฯได้สร้างผลงานระดับ masterpiece ไว้ให้ลูกหลานไทยได้ศึกษาอย่างยิ่งโดยเฉพาะกบในกะลาเช่นผม ไม่ทราบ ต่างชาติเขามีคนแบบลุงคอยเตือนสติคนในชาติของเขาหรือไม่ หรือเป็นลักษณะนิสัยของคนประจำชาติไทยคือ ขี้สงสารมวยรองบ่อน
    5. ในบรรดามนุษย์แต่ละเผ่าพันธุ์ นิโกรดอยด์ดูจะเหมือนถูกกดขี่จากมนุษย์ผิวขาวตาสีฟ้าที่ชื่อว่าฝรั่ง เหมือนจะเป็นระเบิดเวลา เผ่าอินเดียนแดงเลิกคุยเพราะอารยธรรมดีเกินไป (พลาดที่อาวุธไม่ทันพวกผิวขาว)เมื่อเจอหมาป่ามีปืนใหญ่ บุกรุก เพราะแม้แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวด้วยกันเองยังจะมากินเลือดกินเนื้อกันจนอีกพวกต้องไปจับมือกับ มนุษย์พันธ์ปักกิ่ง ผิวเหลือง ส่วนแขกดำ แขกขาว (อีกพันธุ์เรียกไม่ถูกภาษาวิชาการ)กำลังสร้างแสงยานุภาพเพราะถูกกดขี่มาก่อน เขี้ยวยังไม่งอก เหลือแต่เผ่าพันธ์พระพุทธเจ้า นิโกลลอยด์อย่างเราๆท่านๆนิแหละที่พอจะมีเชิดหน้าชูตาบ้าง ก็ลุงนิทานเป็นต้น (เรื่องในอดีตเรายกยอดไปคุยทีหลัง)
    ุ6. บันทึกไว้เป็นหลักฐาน สงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายวอดวายกันไป ตาอยู่คือ อเมริการเลยคว้าโอกาสที่รอมานานจนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ถึงวันนี้ ww3 ตาอยู่น่าจะเป็นมนุษย์มองโกลลอยด์บ้างนะครับ เพราะแสงยานุภาพทางปัญญาบริสุทธิ์ มันเข้าตาผมเหลือเกิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2014
  7. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    เรียนคุณสมาชิก s vachara ข้อความของท่านได้ถูกส่งไปให้คุณลุงเล่านิทานแล้วค่ะ ขอบคุณมาก
     
  8. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง "แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    บทส่งท้าย

    สาธยายปัจจัยสำคัญของทั้ง 2 ฝ่ายไปเรียบร้อย ฝ่ายรัสเซียดูจะมีความได้เปรียบอยู่หลายปัจจัย แต่ปัจจัยตัดสิน น่าจะเป็นเรื่องอาวุธ แต่ก่อนจะลงความเห็น ย้อนมาดูเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ที่จะให้เห็นภาพการเปิดฉากสงครามชัดเจนขึ้น คือความพร้อมที่จะทำสงครามของแต่ละฝ่าย

    น่าสนใจว่า อเมริกานั่นแหละ ที่มีเป้าหมายที่จะเป็นฝ่ายชิงโลกใบนี้มาเป็นของตน และเตะฝ่ายอื่นที่ไม่ใช่พวกตน หรือขัดขวางความเป็นใหญ่ของอเมริกา ให้หลุดพ้นไปจากเส้นทางชิงโลกด้วยวิธีการต่างๆ ที่ดำเนินมาเป็นเวลานานแล้ว อย่างที่วิเคราะห์มาแต่ต้น แต่อเมริกาเป็นประเทศที่เดินแผน ตามเป้าหมาย อย่างมีขั้นตอนเสมอ แต่ขณะนี้ดูเหมือนจะเดินแผนผิด จนความพร้อม ดูจะกระพร่องกระแพร่งพิกลอยู่

    ช่วงตั้งแต่ รัฐบาลคาวบอยพ่อลูกเป็นต้นมา อเมริกามีนโยบายบุกมาตลอด และจัดสรรงบประมาณด้านกองทัพและอาวุธ เป็นจำนวนสูงอันดับแรกมาตลอด พร้อมกับการกระจาย กองกำลังและฐานทัพไปอยู่แทบจะทั้งโลก โดยเฉพาะที่ตะวันออกกลาง เพื่อชิงน้ำมัน รวมทั้งที่ยุโรปและแอตแลนติก เพื่อ เฝ้ารัสเซียไว้

    แต่พอมาถึงรัฐบาลโอบามา อเมริกาเริ่มรู้สึกฝืดคอ กลืนน้ำลายไม่สดวก จาก การโตเร็ว อ้วนท้วนสมบูรณ์ของจีน ประมาณปี คศ 2011 รัฐบาลโอมามา จึงประกาศปรับยุทธศาสตร์ใหม่ เรียกว่า Strategic Pivot เปลี่ยนทิศ มุ่งหน้ามาทางแปซิฟิกแทน ให้คุณนายคลินตันเดินสายเสียโทรม เพื่อจะบอกกับลูกหาบแถวเอเซียว่า เรามาแล้ว เราไม่ได้หายไปไหน เราจะอยู่ตรงนี้แหละ ตรง Asia Pacific นี้แหละ พร้อมกับรื้อฟื้น ปัดฝุ่น ฐานทัพของตัวที่ปล่อยทิ้งๆข้วางไว้ เช่นที่ฟิลิปปีนส์ หรือ เตรียมสร้างใหม่ที่เวียตนาม แม้กระทั่งไทยแลนด์แดนสมันน้อย ยังถูกจับเซ็นสัญญามัดสองทบเอาไว้อีกด้วย

    ขณะเดียวกันก็ประกาศ จะปรับน้ำหนักกองกำลังนอกประเทศ ที่วางไว้ 50:50 ระหว่าง แอตแลนติก กับแปซิฟิก เป็น 40:60 แทน รวมทั้งมีแผนจะ เปลี่ยนรูปแบบฐานทัพ ให้มีความคล่องตัว เป็นแบบกบกระโดดบนใบบัว Lily Pad. ทั้งหมดเพื่อ การควบคุมทะเลจีนใต้ เส้นทางขนส่งน้ำมันของจีน เป้าหมายของอเมริกา น่าจะเล็งไปที่จีนในช่วงนั้น (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่องยุทธการกบกระโดด)

    ดูเหมือนอเมริกา จะเดินหมากผิดตั้งแต่ตอนนั้น จะเป็นเพราะถูกหมากลวง ของอีกฝ่าย หรือฝีมืออ่านหมาก ของทีมนายโอบามาออกอ่าวเสียแล้วก็เป็นได้

    แค่นั้น คงยังออกอ่าวไกลไม่พอ ต้นปี ค.ศ. 2014 อเมริกาออกข่าวเพิ่มว่า มีแผนที่จะปรับปรุงกองกำลังของตนเอง ตามนโยบาย ที่อเมริกาเรียกว่า Right Sizing ขนาดกำลังเหมาะ เหมาะกับอะไร เหมาะกับเศรษฐกิจที่ กำลังเป็นลูกผีลูกคนของตนนั่นแหละ พร้อมกับมีแผนที่จะลดกองกำลังของตน ที่ไปทิ้งไว้ทั่วในต่างประเทศให้เล็กลง โดยเฉพาะที่อาฟกานิสถาน ถึงได้เอานาย Chuck Hagel มาเป็นรัฐมนตรีกลาโหม เพื่อคุมการถอนกำลังจากอาฟกานิสถาน โดยไม่ให้มีผลกระทบต่อความมั่นคงของอเมริกา

    แบบนี้ ฝ่ายรัสเซียน่าจะเห็นทางเดินหมาก ช่องโหว่ โป๊โล่งโจ้งของอเมริกา และใช้โอกาสนี้เดินหมากรุกเข้าไป ยึด Crimea ทันที เพื่อเป็นการป้องกันตัว จึงเหมือนเปลี่ยนจากเป็นฝ่ายรับ มารุกแทน และอเมริกา นักล่าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ท้าชิงในสงครามชิงโลก ก็กลายเป็นฝ่ายรับ ในเกมที่ตนเองสร้างขึ้น...

    หากฝ่ายรัสเซีย ซึ่งคงจะผลัดกันออกฉากกับจีน เดินหน้าเล่นเกมลักษณะนี้ต่อไป น่าจะแปลได้ว่า ฝ่ายนี้พร้อมแล้ว พร้อมเล่นเกมทุกรูปแบบ

    แล้วอเมริกาล่ะพร้อมแบบไหน จะเล่นแบบเป็นฝ่ายรับต่อ หรือปรับกระบวนท่าใหม่ ปรับทันใหม่ ลูกพี่ ลูกหาบถามมา

    การเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกลาโหม เป็นการเปลี่ยน หรือ ปลด นายChuck Hagel กลางอากาศก็ตาม น่าจะแปลได้ว่า อเมริการู้แล้วว่า ตนเองเดินหมากด้านความมั่นคง ผิด มาอย่างน้อย 3 ปีแล้ว และขณะนี้ เหมือนจะตกเป็นฝ่ายรับ และกำลังรีบแก้เกมอยู่ อีโบลา ISIS ล้วนเป็นการเอาออกมาแสดงสลับฉาก เบนความสนใจของโลก จากการที่อเมริกา กำลังเสียเชิงรัสเซียทั้งสิ้น ความรุนแรงต่างๆ อาจถูกสร้างให้เกิดขึ้น ในพื้นที่ต่างๆทั่วโลก เป็นการเบนเป้าหมายต่อไป จนกว่า อเมริกาจะหาเข็มทิศเจอ และกลับเข้ามาเดินหมาก แบบรุกคืบในกระดานได้ใหม่

    สรุปว่า ในด้านความพร้อมรบ อเมริกาน่าจะยังไม่พร้อมเข้าฉากทำสงคราม คงตีกรรเชียง วนสักพักกว่าจะตั้งตัวติด และไม่ว่าจะเป็นการเข้าฉากสงครามจริงตอนไหน อเมริกาจะเล่นอาวุธหนักและแรง และเราอาจจะได้เห็นสงครามนิวเคลียร์ของจริง

    จากนี้ไป น่าจะมีความเคลื่อนไหวของหมากในกระดานเกมชิงโลก เริ่มทยอยเกิดขึ้น และหากการเคลื่อนไหว มีทีท่าเป็นการยกระดับความเข้มข้น ก็ชัดเจนว่า ฉากสงครามชิงโลกเริ่มแสดงแล้ว โปรดติดตามดูกัน

    ดินแดนส่วนที่มี โอกาสจะได้เห็นการขยับหมาก จากคู่ชิงและพวกทั้งสองฝ่าย ไล่มาตั้งแต่ สวีเดน โปแลนด์ ยูเครน ตุรกี เลบานอน อิสราเอล อิหร่าน อาฟกานิสถาน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น คิวบา และอาจจะที่อเมริกาเอง ....

    มีโอกาสจะมาเล่าต่อครับว่า เริ่มที่ไหน เพราะอะไร และผลกระทบจะเป็นอย่างไร ระหว่างนี้เป็นช่วงติดตามดู

    อย่าลืมนะครับ โลกใบนี้ก็ของเราทุกคนเหมือนกัน มีสิทธิยืนบนโลกนี้เท่ากันด้วยเท้า 2 ข้างของเรา เท่ากันทุกคน ใจคอจะไม่ให้ความสนใจติดตามกันเลยหรือ ว่าเท้าของเราจะยังมีที่เหลือให้ยืนอยู่อีกหรือเปล่า และเหลือแบบไหน !!!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 ธค. 2557

    รอติดตามอ่านกันต่อน่ะ คุณลุงอาจจะขอพักเบรค ไปแอบปั่นนิทานที่ชายทะเลหรือบนดอยสักพักนึง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    คุณ s vachara ครับ ขอบคุณมากที่อ่านนิทาน และเขียนมาหา ข้อความของคุณ มีผลต่อจิตใจของผมอย่างประหลาด ทำให้ผมรู้สึก ตื้นตัน ปีติ ที่คิด และเขียนนิทาน และมีกำลังใจที่จะทำต่อครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. mam_2012

    mam_2012 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +293
    ดิฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ติดตามอ่านนิทานของคุณลุงเช่นกันค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาให้ความรู้ดีๆ เอาไว้ประดับสมอง และมองโลกในอีกแง่มุมหนึ่ง และก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณลุงเล่านิทานให้อ่านอีก ต่อไปนะคะ
     
  11. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    สถานีเก็บเม็ดพันธุ์

    เบรค อ่านข่าวที่น่าสนใจบ้าง

    อนาคตหลังสงครามจะเป็นเช่นไร ถ้าขาดแคลนสิ่งเหล่านี้

    Extension planned to pioneering 'Noah's Ark' project to protect rare seeds
    แหล่งข่างแปลจากมิสเตอร์กูรู แต่สรุปย่อๆคือ การเก็บรักษาพันธุ์พืช
    โดยแอนนา Liesowska02 ธันวาคม 2014
    สิ่งอำนวยความสะดวก cryostorage ใต้ดินจะกลายเป็นใหญ่ที่สุดในโลกโดยใช้ permafrost ของไซบีเรียธรรมชาติรักษาอาหารและพืช 100 ปี
    การทำงานเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่จะเริ่มต้นในขั้นต่อไปของการสำรวจใต้ดิน 'โนอาห์' เรือ 'ในไซบีเรียเพื่อปกป้องเมล็ดพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์โดยใช้ความเย็นตามธรรมชาติของ permafrost ต้นทุน 227,000,000 รูเบิลโครงการจะเห็นได้ถึง 1.5million ตัวอย่างจากทั่วโลกที่ตั้งอยู่ในสถานที่ cryostorage พิเศษที่สร้างขึ้นลึกลงไปใต้พื้นดิน

    พืชผักและเมล็ดธัญพืชจะถูกวางไว้ในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทกระจกได้ถึง 100 ปีด้วยอุณหภูมิแช่แข็งนอกช่วยรักษาไว้ในตู้เย็นธรรมชาติยักษ์

    ที่ไม่ซ้ำกันในโลก, ระบบระบายความร้อน permafrost นี้จะปกป้องของมากของแหล่งอาหารของโลกและพืชในหน้าของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, สงครามและภัยพิบัติหลุมฝังศพที่มี 100,000 เมล็ดส่วนใหญ่มาจากไซบีเรียที่มีอยู่แล้วบนเว็บไซต์ในสาธารณรัฐซาฮาที่เรียกว่าเป็นยาคเตีย แต่ขยายใหม่จะทำให้มันที่ใหญ่ที่สุดที่ใดก็ได้ในโลก
    Georgy Kuzmin นักวิจัยนำของ Permafrost สถาบันส่วนหนึ่งของสาขาไซบีเรียของรัสเซีย Academy of Sciences, กล่าวว่าจำนวนของช่องทางในแนวนอนจะถูกฝังอยู่ในพื้นดิน

    เขากล่าวว่าโครงการไม่ได้ใช้เครื่องจักรหรือไฟฟ้าหรือก๊าซและอื่น ๆ มันใช้เพียงเย็นตามธรรมชาติและตามลำดับต้นทุนการดำเนินงานที่น้อยที่สุด '

    ส่วนแรกของสิ่งอำนวยความสะดวกใน cryostorage ยาคุตสค์ถูกเปิดในเดือนธันวาคม 2012, บาง 35 ปีหลังจากที่นักวิทยาศาสตร์โซเวียตเริ่มทดลองในเหมืองของ Permafrost สถาบัน ที่ระดับความลึก 12 เมตรพวกเขาเริ่มการจัดเก็บข้อมูลระยะยาวของเมล็ดพันธุ์จากพืชตระกูลถั่วที่อุณหภูมิประมาณ -7 องศาเซลเซียสโดยใช้เพียงเย็นธรรมชาติจาก permafrost

    นักวิทยาศาสตร์ก็สามารถที่จะพิสูจน์ได้ว่าเมล็ดสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิที่หนาวเย็นมากกว่าโดยไม่สูญเสียใด ๆ ของกำลังการผลิตของพวกเขางอก

    ต่อมาประมาณ 1,000 เมล็ดพันธุ์จากพืชที่พบในยาคเตียถูกเพิ่มเข้าไปในสถานที่จัดเก็บพร้อมกับบางถิ่นที่หายากและใกล้สูญพันธุ์พันธุ์พืช

    เมื่อถึงเวลาที่สิ่งอำนวยความสะดวกเปิดในปี 2012 มีอยู่ประมาณ 11,000 ตัวอย่างและตอนนี้จะมีพื้นที่ในขณะนี้ประมาณ 100,000 เมล็ดพันธุ์จากทั่วรัสเซีย

    ที่ซับซ้อนไม่ได้ใช้แฟนหรือปั๊มเพื่อให้อุณหภูมิใต้พื้นดินเย็นและแทนที่จะอาศัยอากาศเย็นธรรมชาติเฟสใหม่จะรองรับ 1.5million ตัวอย่างเมล็ดและจะเต็มไปด้วยคอลเลกชันจากรัสเซียและส่วนที่เหลือของโลก

    นักวิทยาศาสตร์มุ่งมั่นที่จะรักษาจำนวนมากของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดของพืชและเมล็ดพันธุ์ให้มีได้ถึง 100 ปีโดยไม่จำเป็นต้อง replant พวกเขา

    หลายประเทศให้อัตคัดของเมล็ดของพวกเขาที่จะปกป้องพวกเขาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่สำคัญใด ๆ หมายถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในรัสเซียเป็นชนิดของ 'เรือโนอาห์' สำหรับพืช

    มีห้องปฏิบัติการการจัดเก็บข้อมูลที่คล้ายกันในสวาลบาร์ดคือในนอร์เวย์ แต่มันขึ้นอยู่กับมาตรการการระบายความร้อนเทียมเช่นเดียวกับ permafrost ที่มีอุณหภูมิต่ำถึง -18 องศาเซลเซียส นี้ตามที่นักวิทยาศาสตร์ในไซบีเรียทำให้มันมีความปลอดภัยน้อยลงเพราะอันตรายจากไฟฟ้าดับเสี่ยงกับความสามารถที่จะให้สถานที่เย็น

    ภาวะโลกร้อนยังอาจเพิ่มอุณหภูมิของทุ่งน้ำแข็งนอร์เวย์และละลาย permafrost สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในสาธารณรัฐซาฮา

    วลาดิมี Goncharov จากสถาบันเซลล์วิทยาและพันธุศาสตร์ในโนโวกล่าวว่าเมื่ออุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นโดยห้าองศาธารน้ำแข็งสวาลบาร์ดจะละลาย ที่จะละลาย permafrost ในอุณหภูมิยาคเตียต้องเพิ่มขึ้นประมาณ 20 องศา

    'ดังนั้นเราจึงมีค่อนข้างสถานการณ์ที่ไม่ซ้ำกันซึ่ง permafrost สร้างการเก็บรักษาในสภาพธรรมชาติที่รักษาอุณหภูมิที่ต้องการ

    'มันเป็นนิรันดร์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, ระบบที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติใด ๆ '

    ศาสตราจารย์บอริส Kershengolts, รองผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ของปัญหาทางชีวภาพของโซน Permafrost ในยาคุตสค์กล่าวว่า 'สิ่งที่สำคัญคือว่าในช่วงการทดลองของเราที่เราพบว่าเมื่อเราเก็บเมล็ดใน permafrost ในอุณหภูมิไม่ต่ำกว่าลบ 10C เราจะได้รับไม่เพียง แต่ความปลอดภัยที่สมบูรณ์และความมีชีวิตของเมล็ด แต่ยังความปลอดภัยของอุปกรณ์ทางพันธุกรรมโดยไม่มีการกลายพันธุ์ '
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. vissarut

    vissarut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +300
    ตอนนี้ซาอุประการศลดราคาน้ำมันเดือนมค.58เหลือ60เหรียญต่อบาร์เลลน่าจะพื่อบีบรัสเซียเริ่มมีเค้าราง
     
  13. darakul

    darakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +364
    Confirm ข้อมูลคุณ Apinya17 แน่นมีเหตุผลและตรรกในการวิเคราะห์ ประหยัดเวลาไม่ต้องไปรวบรวมข้อมูลจากสารพัดที่มานั่งวิเคราะห์เอง เป็น 1 ใน 3 กระทู้ที่เข้ามาติดตาม update ข้อมูลเพื่อเปิดหูเปิดตาและเพิ่มพูนความรู้ในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ขอบคุณที่สละเวลารวบรวมข้อมูลดีๆ มาเรียบเรียงวิเคราะห์ให้สมาชิกติดตามเพื่อประเทืองปัญญา รวมชุดเป็น PDF เมื่อไหร่บอกนะครับจะส่ง Email ไปขอ
     
  14. vissarut

    vissarut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +300
    ความแข็งแกร่งและทิศทางการพัฒนาของกองทัพรัสเซีย
        ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมากองทัพรัสเซียได้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและแข็ง แกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในปี 2013 กองทัพรัสเซียได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ๆจำนวน หลายรายการเข้าประจำการในกองทัพไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบเกือบร้อยลำ เฮลิคอปเตอร์มากกว่า 100 ลำ เรือรบและเรือดำน้ำมากกว่า 10 รายการ รถหุ้มเกราะรุ่นใหม่และรถถังที่ได้รับการปรับปรุงหลายร้อยรายการ รวมทั้งขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์และขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศรุ่นใหม่อีกส่วน หนึ่ง ซึ่งนอกจากการนำอาวุธรุ่นใหม่เข้าประจำการในกองทัพแล้วรัสเซียยังได้ประสบ ความสำเร็จในนโยบายความมั่นคงที่เกี่ยวกับต่างประเทศ เช่นการบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศร่วมกับคาซัคสถานและ เบลารุส การเพิ่มฝูงบินในคีร์กีซสถาน การเพิ่มกำลังทหารในอาร์เมเนีย ซึ่งคาดว่าในเร็วๆนี้การเจรจาข้อตกลงในการสร้างระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบ ครบวงจรร่วมกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคที่อยู่ในกลุ่มเครือรัฐอิสระ (CSI) จะบรรลุผลสำเร็จ และนอกจากนี้ในปีที่ผ่านมารัสเซียยังได้มีการซ้อมรบที่สำคัญอีกหลายรายการ ไม่รวมกับโครงการวิจัยและพัฒนาอาวุธทั้งโครงการที่พัฒนาอย่างเปิดเผยและ โครงการลับอีกหลายสิบโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
    งบประมาณทาง ทหารของรัสเซียในสามปีที่ผ่านมาจนถึงปี 2014 ได้เพิ่มสูงขึ้นมากเป็นประวัติการณ์นับแต่สหภาพโซเวียตล่มสลายและมีแนวโน้ม จะเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง
    สามปีที่ผ่านมา รัสเซียได้ใช้จ่ายเงินในการพัฒนากองทัพเป็นจำนวน 12.7 ล้านล้านรูเบิล (สี่แสนล้านดอลลาร์) มากกว่าค่าใช้จ่ายสูงสุดที่ผ่านมา 60% และจนถึงปี 2016 ค่าใช้จ่ายทางทหารทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่มูลค่า 1.064 ล้านล้านดอลลาร์ 
    ดังนั้นงบประมาณทางทหารของรัสเซียจะเท่ากับของจีนซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายทางทหารที่มากเป็นอันดับที่สองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา 
    รายการจัดซื้ออาวุธส่วนหนึ่งที่เป็นทางการของกองทัพรัสเซียในอีก 6 ปีข้างหน้า  
    ซื้อเครื่องบิน รบจำนวน 600 ลำ ซึ่งปัจจุบันรัสเซียมีเครื่องบินรบประเภทต่างๆที่พร้อมใช้งานจำนวน 1,200 ลำ เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่เดิม 50% โดยรายการหลักๆที่จะซื้อได้แก่ T-50, Su-35, Su-34, MiG-29K ฯลฯ

    ซื้อเฮลิคอปเตอร์โจมตีจำนวน 1,124 ลำ ซึ่งปัจจุบันรัสเซียมีเฮลิคอปเตอร์โจมตีประมาณ 700 ลำ เพิ่มขึ้นจากเดิม 150%  
    -ซื้อรถถังใหม่ จำนวน 2,300 คัน ปัจจุบันรัสเซียมีรถถังที่ทันสมัยและได้รับการปรับปรุงใหม่จำนวนประมาณ 3,000 คัน ซึ่งในจำนวนนี้มีรุ่นที่ทันสมัยที่สุด T-90A อยู่เพียง 500 กว่าคันและ T-90 อีกจำนวนหนึ่ง การจัดซื้อดังกล่าวถือว่าเพิ่มขึ้นจากเดิม(ที่ทันสมัย) 75% โดยรถถังใหม่นี้จะเป็นรุ่นที่กำลังพัฒนาคือรุ่น "Armata" ซึ่งรถถังรุ่นใหม่นี้ลูกเรือจะปฏิบัติการอยู่ในห้องควบคุมที่แยกต่างหากจาก ห้องเก็บกระสุน มีระบบอำนวยการรบแบบอัตโนมัติที่แยกจากกัน ห้องเครื่องได้รับการคุ้มครองอย่างดีเป็นพิเศษ มีระบบป้องกันตัวรถที่ครอบคลุมด้านข้าง 360 องศาและครอบคลุมถึงด้านบน ใช้อาวุธปืนหลักขนาด 152 มม. ที่มีความสามารถในการยิงขีปนาวุธโดยตั้งอยู่บนป้อมปืนที่ค่อนข้างสูงซึ่ง เป็นข้อได้เปรียบในเรื่องระยะการรบ ติดตั้งกล้องทรงสูงที่มีประสิทธิภาพและมีระบบป้องกันที่ดี ใช้เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพขนาด 1600 แรงม้าเกียร์อัตโนมัติ 
    -ต่อเรือรบ(ผิว น้ำ)ใหม่ 51 ลำ(ในจำนวนนี้ไม่นับเรือสนับสนุนประเภทต่างๆและเรือที่จะอัพเกรด) ซึ่งปัจจุบันรัสเซียมีเรือรบผิวน้ำประมาณ 220 ลำโดยเฉลี่ยแต่ละลำมีอายุประมาณ 20 ปี เพิ่มขึ้นจากเดิมทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ 25% และนอกจากรายการดังกล่าวแล้วยังจะได้รับเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ชั้น"Mistral" ที่ซื้อจากฝรั่งเศษอีก 4 ลำ 
    ต่อเรือดำน้ำ เอนกประสงค์จำนวน 16 ลำ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธทางยุธศาสตร์ชั้น Borei จำนวน 8 ลำ(ไม่รวมกับที่ได้รับก่อนหน้านี้ 2 ลำ) และเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ "Yasen Class" 8 ลำ (ปัจจุบันรัสเซียมีเรือดำน้ำประเภทต่างๆประมาณ 75 ลำ)
    จัดตั้งกองพันขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน S-500 จำนวน 10 กองพัน,S-400 จำนวน 28 กองพัน  
    มีการจัดสรรงบประมาณสำหรับการพัฒนาอาวุธในโครงการที่เป็นความลับ 24.8% ของงบประมาณค่าใช้จ่ายทั้งหมด
    นี่คือโครงการ จัดซื้ออาวุธของกองทัพรัสเซียภายในปี 2020 ส่วนหนึ่งซึ่งไม่รวมกับโครงการอื่นๆเช่นการจัดซื้ออาวุธประจำกายและอุปกรณ์ ประจำกายทหารแบบใหม่ การสร้างที่อยู่อาศัยของทหาร การจัดซื้อรถหุ้มเกราะทางทหารหรือปืนใหญ่แบบใหม่ รวมทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ขนส่งทางทหาร ฯลฯ ซึ่งหลังจากโครงการพัฒนากองทัพภายในปี 2020 แล้วรัสเซียยังมีโครงการพัฒนากองทัพระยะใหม่ภายในปี 2028 ที่จะดำเนินการต่อเนื่องกัน  
    นอกจากนี้รัส เซียยังให้ความสำคัญในการพัฒนากองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์โดยจะมีการนำ ขีปนาวุธรุ่นใหม่ๆเข้าประจำการทดแทนแบบเดิมและรือฟื้นการจัดตั้งกองกำลัง ขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์แบบเคลื่อนที่ที่ติดตั้งบนรถไฟซึ่งจะมีการพัฒนาให้ เหมือนรถไฟที่ใช้งานทางพลเรือนโดยจะไม่สามารถแยกแยะออกได้ด้วยการดูจากสายตา 
    ที่ผ่านมาราย ได้ต่อปีจากการส่งออกอาวุธของรัสเซียคิดเป็นค่าเฉลี่ยมากกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯประมาณ 1 ใน 4 ของยอดการส่งออกอาวุธทั่วโลกและคาดว่าในปี 2020 รายได้จากการขายอาวุธจะมีมูลค่าสูงสุดถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ 
    ในปลายปี 2014 รัสเซียวางแผนจะสร้างศูนย์เพื่อการป้องกันของรัฐขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นกอง บัญชาการทหารสูงสุดโดยเป็นองค์กรที่ใหญ่กว่าหน่วยงานเพนตากอนของสหรัฐฯ ซึ่งโครงสร้างนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการปกครองแบบเผด็จการในช่วงสงคราม. 
     
  15. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ขอบคุณผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นและที่อ่านอย่างเดียวเรื่องแปลกแต่จริง ข้าพเจ้าเขียนอะไรไปตั้งเยอะแยะ กดส่งแล้วไม่ปรากฎข้อความ น่าจะยังไม่ถึงเวลาอนุญาติให้เขียน ณ ตอนนี้ เฝ้าระวังค่ะ เตรียมตัว เตรียมใจกันน่ะ

    ระหว่างที่ท่านลุงเล่านิทานพักเขียนพอตนิทานเรื่องใหม่นั้น ผู้ส่งสารอาจจะมีโพสเกี่ยวกับการเตรียมตัวเบื้องต้นมาฝากบ้าง(ถ้ามีเวลา) หวังว่าโพสเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย หรือท่านใดมีข้อความหรือวิธีการต่างๆ ในการเตรียมตัวเตรียมใจและเป็นประโยชน์ต่อปวงชน เชิญโพสได้ค่ะ
     
  16. vissarut

    vissarut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +300
    สมาคมนิยมอาวุธรัสเซีย Russia military fanclub.
    รัสเซียยืนยัน S-500 จะมีความพร้อมขั้นต้นในปี 2016
    (ปัจจุบัน ตัวต้นแบบยังคงทำการผลิตอยู่ที่โรงงานใหม่ใน Kirov, Nizhniy Novgorod หลังจากมีปัญหาจากเหตุการณ์ในยูเครน)
    S-500 เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าถูกพัฒนามาจาก S-400
    สำหรับสกัดกั้นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) โดยลูกจรวด 77N6-N, 77N6-N1 ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ สามารถต่อตีเป้าหมายหัวรบได้ถึง 10 เป้าหมายพร้อมกันที่ระยะ 600km ที่ระดับความสูง 185km
    ทั้งนี้ S-500 ถูกออกแบบมาเพื่อต่อต้านขีปนาวุธแบบ Ultra-High Speed Missile เช่น LGM-118 Peacekeeper, DF-31
    In 2016, the Russian military will start deploying the new long-range surface-to-air missile systems S-500, chief of the Russian Air Forces said. Lieutenant General Viktor Bondarev gave an outline of his branch's modernization plans, including the build-up of Arctic infrastructure
    The S-500 is expected to use the following radars: the 91N6A(M) acquisition and battle
    management radar, the revised 96L6-TsP acquisition radar, and the new 76T6 multimode
    engagement and 77T6 ABM engagement radars.5
    in a radio interview with the Russian News Service station on Sunday, August 10, 2014.
     
  17. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    อีกหนึ่งฉาก ที่จัดสร้างด้วยนักล่า

    เอเจนซีส์ - มาลาลา ยูซาฟไซ (Malala Yousafzai) ชาวปากีสถานวัย 17 ปี เหยื่อกระสุนตอลิบาน นักรณรงการศึกษา กลายเป็นผู้รับรางวัลโนเบิลสาขาสันติภาพที่อายุน้อยที่สุดในโลก หลังจากในวันพุธ(10)เธอได้เข้าร่วมพิธีเข้ารับรางวัลโนเบิลที่กรุงออสโล นอร์เวย์ ร่วมกับไกรลาศ สัตยาธี ( Kailash Satyarthi ) นักเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิเด็กชาวอินเดีย ประกาศความตั้งใจจะเป็นนายกรัฐมนตรีปากีสถานในอนาคต และท่ามกลางงานมอบรางวัลโนเบิลที่ยิ่งใหญ่ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติทั่วโลก รวมถึง สตีฟ ไทเลอร์ นักร้องนำจาก วงแอโรสมิธ ควีน ลาติฟาห์ นักร้องเพลงแรปชาวอเมริกัน และเจ้าชายโฮคุน มกุฏราชกุมารแห่งนอร์เวย์ และเจ้าหญิงเมตเต มาริต มกุฏราชกุมารีแห่งนอร์เวย์ พระชายา ที่ถูกขัดจังหวะด้วยชายนิรนามกระโจนขึ้นเวทีพร้อมกับธงเม็กซิกันที่อยู่ในมือ

    เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(10)ว่า มาลาลา ยูซาฟไซ (Malala Yousafzai) ชาวปากีสถานวัย 17 ปี กลายเป็นผู้เข้ารับรางวัลโนเบิลสาขาสันติภาพที่มีอายุน้อยที่สุดเมื่อวานนี้(10) ร่วมกับไกรลาศ สัตยาธี ( Kailash Satyarthi ) นักเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิเด็กชาวอินเดีย ที่กรุงอออสโล นอร์เวย์

    โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์ก่อนพิธีที่จะเริ่มขึ้น ยูซาฟไซเปิดเผยว่า เธอมีความตั้งใจจะเข้าสู่แวดวงการเมืองปากีสถานหลังจากสำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ โดยมีเป้าหมายต้องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปากีสถานในอนาคต

    “ดิฉันต้องการทำงานเพื่อประเทศบ้านเกิด และมีความฝันจะทำให้ปากีสถานกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว นอกจากนี้ดิฉันต้องการเห็นเด็กชาวปากีสถานทุกคนได้รับการศึกษา” ยูซาฟไซให้สัมภาษณ์กับบีบีซี

    และเธอเปิดเผยต่อไปว่า “และหากการที่จะสามารถทำเพื่อประเทศบ้านเกิดได้มีประสิทธิภาพที่สุดโดยผ่านช่องทางการเมือง และจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ดิฉันจะเลือกเส้นทางนั้น”

    ทั้งนี้มาลาลา ยูซาฟไซ และเพื่อนของเธอ พร้อมทั้งนักเคลื่อนไหวอายุน้อยจากปากีสถาน ซีเรีย และไนจีเรีย โดยยูซาฟไซพบกับเด็กหลายพันคนที่กรุงออสโล ก่อนเข้ารับรางวัลที่หอประชุมกรุงออสโล

    ในการขึ้นรับมอบรางวัลที่ทรงพลังที่สุดในโลก ยูซาฟไซกล่าวกับผู้มีเกียรติในที่แห่งนั้นว่า “ดิฉันบอกเล่าเรื่องราวของตนเอง ไม่ใช่เพราะมันแตกต่าง แต่เป็นเพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นปกติสามัญ ดิฉันต้องการให้ที่นั่นมีสันติภาพเกิดขึ้นในทุกย่างก้าว ซึ่งพี่น้องชาวปากีสถานของดิฉันและตัวดิฉันกำลังพยายามทำให้สิ่งนี้เป็นจริง”

    และภายหลังไม่นานหลังจากยูซาฟไซสิ้นสุดการกล่าวสุนทรพจน์ เกิดเหตุที่น่าตื่นตลึงเมื่อมีผู้ประท้วงเป็นชายวัยไล่เลี่ยกับยูซาฟไซถือธงเม็กซิกันวิ่งขึ้นบนเวธีในขณะที่มาลาลา ยูซาฟไซยังถือรางวัลอยู่บนเวที

    แต่ไม่นานหลังจากนั้น ชายผู้นั้นถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยรวบตัวหลังจากโบกธงไปมา และพิธีมอบรางวัลโนเบิลยังดำเนินต่อไปตามปกติ

    ทั้งนี้ตำรวจออสโลเปิดเผยถึงนักประท้วงรายนี้ว่า เป็นนักศึกษาแพทย์จากเม็กซิโกที่ยื่นขอสถานภาพลี้ภัยในวันอังคาร(9) หลังจากที่เดินทางมาถึงนอร์เวย์ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านั้น

    และในเบื้องต้นนี้ยังไม่ทราบถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของชายผู้นี้ แต่พบว่าในระหว่างที่ชายผู้นี้กระโจนขึ้นเวทีดูเหมือนเขาพยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับยูซาฟไซ

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000142576
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ซึนามิ petrodollar

    บทความน่าสนใจ เลยแปลมาให้อ่่านกันค่ะ

    เงินดอลลาร์สหรัฐที่ได้รับอาจจะเป็นสิ่งที่ใกล้กับสกุลเงินทั่วโลกความจริงที่โลกเคยเห็นมาก่อน สำหรับทศวรรษที่ผ่านมาการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐได้รับอย่างโดดเด่นในการค้าระหว่างประเทศ นี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับระบบการเงินสหรัฐและสำหรับผู้บริโภคสหรัฐและจะได้ให้รัฐบาลสหรัฐพลังมหาศาลและมีอิทธิพลต่อทั่วโลก วันนี้กว่าร้อยละ 60 ของทั้งหมดสำรองเงินตราต่างประเทศในโลกที่อยู่ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนขอบฟ้าสื่อกระแสหลักในประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับแปลกเงียบเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่บางส่วนของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้รับการทำข้อตกลงกับแต่ละอื่น ๆ ที่จะย้ายออกจากการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีการผลิตน้ำมันบางประเทศซึ่งได้เริ่มขายน้ำมันในสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่เงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นภัยคุกคามที่สำคัญกับระบบ petrodollar ที่ได้รับในสถานที่สำหรับเกือบสี่ทศวรรษที่ผ่านมา และสถาบันระหว่างประเทศใหญ่ ๆ เช่นสหประชาชาติและกองทุนการเงินระหว่างประเทศได้รับแม้กระทั่งการออกรายงานอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความต้องการที่จะย้ายออกไปในรูปแบบเงินดอลลาร์สหรัฐและต่อสกุลเงินสำรองของโลกใหม่ ดังนั้นรัชสมัยของเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลกแน่นอนถูกคุกคามและการเปลี่ยนแปลงที่มาในการค้าระหว่างประเทศจะมีความหมายมากสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ

    จำนวนมากนี้จะถูกผลักดันจากประเทศจีน ประเทศจีนมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองบนใบหน้าของแผ่นดินและขนาดของเศรษฐกิจจีนคาดว่าจะผ่านไปขนาดของเศรษฐกิจสหรัฐฯโดย 2016 ในความเป็นจริงหนึ่งเศรษฐศาสตร์แม้แต่ฉายว่าเศรษฐกิจจีนจะเป็นสามครั้งใหญ่ กว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยในปี 2040

    ดังนั้นจีนกำลังนั่งอยู่ที่นั่นและสงสัยว่าทำไมเงินดอลลาร์สหรัฐจะยังคงเป็นที่โดดเด่นดังนั้นหากเศรษฐกิจจีนกำลังจะกลายเป็นหมายเลขหนึ่งของเศรษฐกิจในโลก

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจีนและอำนาจเกิดใหม่อื่น ๆ เช่นรัสเซียได้รับการรับการอย่างเงียบ ๆ การทำข้อตกลงที่จะย้ายออกจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศ อำนาจสูงสุดของเงินดอลลาร์สหรัฐไม่ได้เกือบเป็นของแข็งเป็นชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่ามันเป็น

    ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงจางหายไปมันเป็นไปได้ยากมากที่จะยืนยันว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะยังคงทำงานเป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลก สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและชาวอเมริกันส่วนใหญ่มีความคิดที่แนวโน้มเหล่านี้จะพาเราไม่มี

    ต่อไปนี้คือ 10 เหตุผลรัชสมัยของเงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินสำรองของโลกกำลังจะมาถึงจุดสิ้นสุด ...

    # 1 ของจีนและญี่ปุ่นมีการทุ่มตลาดเงินดอลลาร์สหรัฐในการค้าทวิภาคี

    ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในแผ่นดิน (จีน) และเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามในแผ่นดิน (ญี่ปุ่น) ตกลงที่จะส่งเสริมการใช้สกุลเงินของตัวเอง (แทนที่จะเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อการซื้อขายกับแต่ละอื่น ๆ นี่เป็นข้อตกลงที่สำคัญอย่างไม่น่าเชื่อที่ถูกละเลยความจริงทั้งหมดโดยสื่อสหรัฐ ต่อไปนี้มาจากบีบีซีรายงานเกี่ยวกับข้อตกลงที่ ...

    จีนและญี่ปุ่นได้เปิดเผยแผนการที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนโดยตรงของสกุลเงินของพวกเขาในการเสนอราคาเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับ บริษัท และเพิ่มการค้าทวิภาคี

    ข้อตกลงที่จะช่วยให้ บริษัท การแปลงสกุลเงินจีนและญี่ปุ่นโดยตรงในแต่ละอื่น ๆ

    ปัจจุบันธุรกิจในทั้งสองประเทศจำเป็นต้องซื้อดอลลาร์สหรัฐก่อนที่จะแปลงให้เป็นสกุลเงินที่ต้องการเพิ่มค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    # 2 BRICS (บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน, แอฟริกาใต้) แผนการที่จะเริ่มใช้สกุลเงินของตัวเองเมื่อทำการค้ากับแต่ละอื่น ๆ

    BRICS ยังคงดิ้นกล้ามเนื้อของพวกเขาข้อตกลงใหม่จะส่งเสริมการใช้สกุลเงินในประเทศของตัวเองเมื่อการซื้อขายกับแต่ละอื่น ๆ มากกว่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ต่อไปนี้มาจากแหล่งข่าวในประเทศอินเดีย ...

    ห้าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่สำคัญของ BRICS - บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีนและแอฟริกาใต้ - มีการตั้งค่าที่จะฉีดโมเมนตัมทางเศรษฐกิจมากขึ้นในการจัดกลุ่มของพวกเขาโดยการลงนามในสนธิสัญญาสองในการส่งเสริมการค้าภายใน BRICS ที่ประชุมสุดยอดผู้นำที่สี่ของพวกเขาที่นี่พฤหัสบดี

    สองข้อตกลงที่จะช่วยให้วงเงินสินเชื่อในสกุลเงินท้องถิ่นสำหรับธุรกิจของประเทศ BRICS จะลงนามในการปรากฏตัวของผู้นำของห้าประเทศ, Sudhir Vyas เลขานุการ (ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ) ในกระทรวงการต่างประเทศกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่นี่

    pacts ที่คาดว่าจะไต่ขึ้นการค้าภายใน BRICS ซึ่งมีการเติบโตในอัตราร้อยละ 28 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ใน $ 230,000,000,000 ยังคงต่ำกว่าศักยภาพของห้ามหาอำนาจทางเศรษฐกิจ

    # 3 รัสเซีย / จีนข้อตกลงสกุลเงิน

    รัสเซียและจีนได้ใช้สกุลเงินในประเทศของตัวเองเมื่อการซื้อขายกันมานานกว่าปีแล้ว ผู้นำจากทั้งรัสเซียและจีนได้รับการขอเรียกร้องให้สกุลเงินสำรองใหม่ทั่วโลกเป็นเวลาหลายปีและทั้งสองประเทศดูเหมือนจะมุ่งมั่นที่จะทำลายอำนาจที่เงินดอลลาร์สหรัฐที่มีมากกว่าการค้าระหว่างประเทศ

    # 4 การใช้เพิ่มขึ้นของสกุลเงินของจีนในแอฟริกา

    ใครที่คุณคิดว่าเป็นของแอฟริกาคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุด?

    มันไม่ได้เป็นประเทศสหรัฐอเมริกา

    ในปี 2009 จีนกลายเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของแอฟริกาและจีนอยู่ในขณะนี้อย่างจริงจังที่กำลังมองหาที่จะขยายการใช้งานของสกุลเงินของจีนในทวีปยุโรปว่า

    รายงานจากธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของแอฟริกามาตรฐานธนาคารเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ...

    "เราคาดว่าอย่างน้อย $ 100,000,000,000 (ประมาณ R768 พันล้านดอลลาร์) ในการค้าชิโนแอฟริกัน - มากกว่าการค้าทวิภาคีรวมระหว่างจีนและแอฟริกาในปี 2010 - ที่จะตั้งรกรากอยู่ในเงินหยวนในปี 2015"

    ดูเหมือนว่าจีนมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนวิธีที่การค้าระหว่างประเทศจะทำ ณ จุดนี้ประมาณ 70,000 บริษัท จีนมีการใช้สกุลเงินของจีนในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน

    # 5 จีน / สหรัฐอาหรับเอมิ Deal

    จีนและสหรัฐอาหรับเอมิได้ตกลงที่จะทิ้งเงินดอลลาร์สหรัฐและใช้สกุลเงินของตัวเองในการทำธุรกรรมน้ำมันกับแต่ละอื่น ๆ

    ยูเออีเป็นผู้เล่นที่ค่อนข้างเล็ก แต่นี้เป็นมั่นเหมาะเป็นภัยคุกคามต่อระบบ petrodollar จะเกิดอะไรขึ้นถ้า petrodollar น้ำมันอื่นประเทศผู้ผลิตในตะวันออกกลางตามเหมาะสม?

    # 6 อิหร่าน

    อิหร่านได้รับหนึ่งในประเทศที่ก้าวร้าวมากที่สุดเมื่อมันมาถึงการย้ายออกจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่นมันได้รับรายงานว่าอินเดียจะเริ่มใช้ทองที่จะซื้อน้ำมันจากอิหร่าน

    ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและสหรัฐไม่น่าจะหายไปเวลาเร็ว ๆ นี้และอิหร่านมีแนวโน้มที่จะยังคงทำสิ่งที่มันสามารถที่จะเจ็บปวดในสหรัฐอเมริกาในโลกการเงิน

    # 7 จีน / ซาอุดีอาระเบียสัมพันธ์

    ใครนำเข้าน้ำมันมากที่สุดจากประเทศซาอุดิอาระเบีย?

    มันไม่ได้เป็นประเทศสหรัฐอเมริกา

    แต่ก็คือประเทศจีน

    ขณะที่ผมเขียนเกี่ยวกับวันอื่น ๆ ที่จีนนำเข้า 1,390,000 บาร์เรลต่อวันจากประเทศซาอุดิอาระเบียในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 39 จากปีก่อนหน้า

    ซาอุดีอาระเบียและประเทศจีนได้ร่วมมือในการสร้างโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ใหม่ในซาอุดิอาระเบียและผู้นำจากทั้งสองประเทศมีการทำงานเชิงรุกขยายการค้าระหว่างประเทศทั้งสอง

    ดังนั้นวิธีที่ยาวซาอุดีอาระเบียจะไปติดกับ petrodollar ถ้าจีนเป็นลูกค้าที่สำคัญที่สุดของพวกเขา?

    นั่นคือคำถามที่สำคัญมาก

    # 8 แห่งสหประชาชาติได้รับการผลักดันให้โลกใหม่ทุนสำรองเงินตรา

    สหประชาชาติได้รับการออกรายงานที่เปิดเผยเรียกร้องให้ทางเลือกกับดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งสหประชาชาติรายงานวาดภาพ "ระบบสำรองของโลกใหม่" ซึ่งในสหรัฐอเมริกาไม่ได้มีการปกครอง ...

    "ระบบสำรองของโลกใหม่จะถูกสร้างขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่งที่ไม่ต้องอาศัยเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาเป็นสกุลเงินสำรองหลักเดียว."

    # 9 กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้รับการผลักดันให้สกุลเงินโลกใหม่สำรอง

    กองทุนการเงินระหว่างประเทศยังมีการเผยแพร่ชุดของรายงานเรียกร้องให้เงินดอลลาร์สหรัฐจะถูกแทนที่ด้วยความเป็นสกุลเงินสำรองของโลก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระดาษ IMF หนึ่งชื่อ "สำรองสะสมและเสถียรภาพการเงินระหว่างประเทศ" ที่ได้รับการตีพิมพ์ในขณะที่กลับเสนอจริงที่จะได้รับในอนาคตสกุลเงินทั่วโลกชื่อ "Bancor" และธนาคารกลางทั่วโลกในอนาคตอาจจะใส่ในค่าใช้จ่ายในการออกมัน ... .

    "สกุลเงินทั่วโลก, แบออกโดยธนาคารกลางทั่วโลก (ดูภาคผนวก 1 ส่วน V) จะได้รับการออกแบบมาเป็นร้านค้าที่มีเสถียรภาพของค่าที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับเงื่อนไขเฉพาะของเศรษฐกิจใด ๆ ในขณะที่การค้าและการเงินยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วและเพิ่มการรวมทั่วโลกถึงความสำคัญของมุมมองที่กว้างนี้ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง. "

    # 10 ส่วนที่เหลือของโลกเกลียดสหรัฐอเมริกา

    ความเชื่อมั่นทั่วโลกที่มีต่อประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปลี่ยนไปอย่างมากและนี้ไม่ควรที่จะประเมิน

    ทศวรรษที่ผ่านมาเราเป็นหนึ่งในประเทศที่รักมากที่สุดในโลก

    ตอนนี้เราเป็นหนึ่งในผู้ที่เกลียดที่สุด

    ถ้าคุณสงสัยนี้เพียงแค่ทำบางการเดินทางระหว่างประเทศ

    แม้จะอยู่ในยุโรป (ที่เราควรจะมีเพื่อน) ชาวอเมริกันได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับสิ่งสกปรก นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันหลายคนได้หันไปสวมใส่หมุดแคนาดาเพื่อที่พวกเขาจะไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนขยะในขณะที่เดินทางไปที่นั่น

    ถ้าส่วนที่เหลือของโลกยังคงรักเราพวกเขาอาจจะยินดีที่จะดำเนินการโดยใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ แต่เนื่องจากเราอยู่ในขณะนี้ไม่เป็นที่นิยมเพื่อที่จะช่วยให้ประเทศอื่น ๆ แรงจูงใจมากยิ่งขึ้นเพื่อการถ่ายโอนข้อมูลเงินดอลลาร์ในการค้าระหว่างประเทศ

    ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้ารัชสมัยของเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลกมาถึงจุดสิ้นสุด?

    ดีบางส่วนของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้รับการอธิบายไว้ในบทความล่าสุดโดยไมเคิลเพน ...

    "การตายของสกุลเงินดอลลาร์นอกจากนี้ยังจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงในการดำเนินชีวิตของชาวอเมริกัน เมื่อคลื่นสึนามิทางเศรษฐกิจฮิตอเมริกามันจะทำให้ปี 2008 ภาวะเศรษฐกิจถดถอยและผลที่มีลักษณะเหมือนไม่เกินชนเล็กน้อยในถนน มันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่พึงประสงค์มากในการดำเนินชีวิตของชาวอเมริกันผ่านอัตราเงินเฟ้อใหญ่อัตราดอกเบี้ยสูงในการจำนองและรถยนต์และเพิ่มขึ้นอย่างมากในค่าใช้จ่ายของอาหารเสื้อผ้าและน้ำมันเบนซิน; ก็จะมีผลกระทบต่อทุกแง่มุมของชีวิตของเราทุกคน. "

    ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักถึงวิธีการที่ต่ำราคาน้ำมันเบนซินในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเทียบกับส่วนที่เหลือของโลก

    มีพื้นที่ในยุโรปที่พวกเขาจ่ายเกี่ยวกับสองสิ่งที่เราทำสำหรับน้ำมันเบนซินอยู่ ใช่ภาษีมีจำนวนมากจะทำอย่างไรกับที่ แต่ความจริงที่ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่จะใช้สำหรับการเกือบทั้งหมดทำธุรกรรมน้ำมันยังมีบทบาทที่สำคัญ

    วันนี้อเมริกากินเกือบหนึ่งในสี่ของน้ำมันของโลก เศรษฐกิจทั้งหมดของเราจะขึ้นอยู่กับความสามารถของเราในการอย่างถูกขนส่งสินค้าและการให้บริการในระยะทางที่กว้างใหญ่

    ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากราคาของน้ำมันเบนซินหรือคู่ผสมอเนกประสงค์จากที่มันเป็นในตอนนี้หรือไม่

    นอกจากนี้หากการครองราชย์ของเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลกสิ้นสุดรัฐบาลสหรัฐกำลังจะมีช่วงเวลาที่ยากมากที่การจัดหาเงินทุนหนี้

    ตอนนี้มีความต้องการอย่างมากสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและหนี้ของรัฐบาลสหรัฐตั้งแต่ประเทศทั่วโลกจะต้องเก็บสำรองขนาดใหญ่ของสกุลเงินสหรัฐโกหกรอบเพื่อประโยชน์ในการค้าระหว่างประเทศ

    แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดหรือไม่

    เกิดอะไรขึ้นถ้าความอยากอาหารสำหรับดอลลาร์สหรัฐและหนี้สหรัฐแห้งขึ้นอย่างมาก?

    นั่นคือสิ่งที่คิดเกี่ยวกับ

    ในขณะที่ระบบการเงินทั่วโลกเป็นศูนย์กลางในประเทศสหรัฐอเมริกา

    แต่ที่จะไม่เสมอกรณี

    สิ่งที่พูดคุยเกี่ยวกับในบทความนี้จะไม่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะได้รับไอน้ำ

    ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม, การเปลี่ยนแปลงในโมเมนตัมจะกลายเป็นดินถล่มหรือหิมะถล่ม

    เห็นได้ชัดว่าเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการย้ายอย่างมีนัยสำคัญออกไปจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศ

    ดังนั้นเมื่อนี้จะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น?

    เวลาเท่านั้นที่จะบอก



    ท่านผู้อ่านพอจะเข้าใจบ้างหรือยังค่ะว่า ราคาน้ำมันโลกลดลงเพราะเหตุผลใด ลมเปลี่ยนทิศแล้ว เราคงได้เห็นยักษ์ล้มกันเร็วๆนี้แหละ
    http://theeconomiccollapseblog.com/archives/tag/petrodollar
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2014
  19. nussuw

    nussuw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +52
    เรียนนอกห้องเรียนสนุกอย่างนี้นี่เอง ตอนเด็กเรียนเรื่องสถาณการณ์โลกตั้งแต่สงครามเย็นรุ่นจิมมี กอร์บาชอฟ ฟิเดลคาสโตร ก็เข้าใจยากแล้ว ไม่คิดว่าเขาเล่นกันแรงขนาดนี้ พื้นโลก ใต้พิภพ ห้วงอวกาศ ต้องครอบครองจับจองให้หมด โลกนี้มันสลับซับซ้อนย้อนยอกซ่อนเงื่อนหลากมิติ สิ่งที่เห็น รู้มา อะไรๆดุเหมือนมันจะเหมือนจะจริงเหมือนจะไม่จริง เป็นยุคที่ท้าทายสติปัญญาและความสามารถในการอยู่รอดได้ หรือไม่อาจไม่สามารถกลับไปเป็นหุ่นไล่กาได้ดังเดิม มึนๆๆ แต่ก็สนุกมากๆ ได้คลายสงสัยในบางเรื่องและก็มีเรื่องให้สงสัยได้อีก ต่อไปต้อกลับมาอ่านข่าวรอบโลก กรอบเล้กกรอบใหญ่ วิเคราะห์ข่าวสุดสัปดาห์ ขอบคุณมากๆ ๆๆค่ะ มีเรื่องคิดเล่นขำๆ เวลาดูหนังผู้ร้ายเก่งต้องอยู่ฝ่ายตรงข้ามอเมริกาหรือเป็นศัตรูเก่าต่อให้เก่งแค่ไหนก็ยังแพ้อยู่ดี หรือดูว่าจะดึงฝ่ายตรงข้ามหรือพันธมิตรเขามาเป็นพวกเพื่อความได้เปรียบก้ยอมทำ ยังไม่เคยเห็นฝ่ายคู่ปรับชนะได้เลยสักที :cool:
     
  20. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ถ้าเราเป็นพุทธบุตรแล้ว สัจธรรมข้อนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลงค่ะ

    "ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เที่ยง"

    อารยะธรรมล่มมากี่สมัยแล้ว ก็ยังมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป อยู่ตลอดเวลาค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...