คำทำนายภัยพิบัติที่แม่นยำ และการปกป้องภัยพิบัติ ของพระมหาโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล

คำทำนาย ภัยพิบัติ น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2554

คำทำนาย ภัยพิบัติ น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2554

มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ เราจะสร้างพระใหญ่ชัยภูมิเพื่อปกป้องภัยพิบัติทั้งสี่

ขออนุญาตครับ

เพื่อให้ได้เห็น ได้ฟัง คำทำนาย ภัยพิบัติ น้ำท่วมใหญ่ปี 2554
ผมจึงขออั๊พโหลดที่ตัดต่อใหม่ จะได้ เห็น ได้ยิน ได้ฟัง
อย่างชัดเจนมากขึ้น

จะเอาสองตอนมาต่อกันให้ดู

ตอนที่1= 11 วินาที
ตอนที่2= 15 วินาที


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Lvt6FSy_WMY&feature=channel_video_title]คำทำนาย ภัยพิบัติ น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 = 11 บวก 15 วินาที เมื่อ 8 พ ค 2554 - YouTube[/ame]

ญาติธรรมทุกท่านสามารถดูที่ต้นฉบับเดิมได้ที่เว็บลิ้งค์ข้างล่าง

ตอนที่1 เวลาในคลิป 0:19:09 - 0:19:19

ตอนที่2 เวลาในคลิป 0:25:46 - 0:26:00
​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=ujdcxacn1og&feature=channel_video_title]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ พิธีเปิดบุญประจำสัปดาห์ วันอาทิตย์ที่ 8 พ ค 2554 - YouTube[/ame]

ช่วยกันดู และช่วยกันพิจารนาว่า ถ้าท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์
ท่านไม่รู้ ท่านไม่เห็น เรื่องภัยพิบัติทั้งสี่อย่างละเอียดแล้ว
ท่านจะนำพาสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ เพื่อป้องกันภัยพิบัติทำไม

แล้วเขตที่น้ำท่วมใหญ่ทั้งหลายนี้ พวกเขาเหล่านั้น
รู้จักท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์หรือไม่
รู้จักพระใหญ่ชัยภูมิหรือไม่

ถ้ารู้จัก แล้วทำไมท่านจึงไม่รู้คำทำนายนี้

บริษัทรถยนต์ที่ทำบุญกับพระใหญ่อย่างเหนียวแน่น ผมเคยเห็นแต่
บริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์ และนิสสันมอเตอร์ ครับ

ถึงตอนท้าย ผมก็ระลึกได้ว่า ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2554 นั้น
มีคุณป้าท่านหนึ่ง ถามท่านอาจารย์ทิพากรว่า

คุณป้าถาม

"บ้านฉันอยู่อยุธยา ก็อยู่ระดับพื้นราบทั่วไปนี่ละ สูงกว่าถนนเล็กน้อย"

"แล้วฉันต้องทำอย่างไร"

ท่านอาจารย์ทิพากร ตอบว่า

"ให้หาที่สูงๆอยู่"

คุณป้าถาม

"แล้วข้าวของในบ้านจะให้ย้ายหมดเลยหรือ"

ท่านอาจารย์ทิพากร ตอบว่า

"ย้ายให้หมดเลย"

คุณป้าถาม

"แล้วบ้านจะทำอย่างไร"

ท่านอาจารย์ทิพากร ตอบว่า


"ถ้าย้ายบ้านได้ ให้ย้ายหมดทั้งหลัง"

"ย้ายได้ไหมละ เชื่ออาจารย์ไหม"

ถึงตอนนี้คุณป้านั่งตลึงจังงัง นัยย์ตาเบิกกว้างท่านคงตกใจมาก
(ตำแหน่งที่คุณป้าท่านนี้นั่งก็อยูประมาณ ปลายเข่าของท่านอาจารย์ทิพากรนั่นละครับ)
เสียดายตอนที่คุณป้าท่านถามผมไม่ได้บันทึกไว้

ดูเอา พิจารนาเอานะครับ ท่านที่มีบุญบารมีพอ คงจะรู้จัก ตักตวงเอาแต่ประโยชน์ได้

ส่วนท่านที่บุญ บารมีน้อย ปัญญาน้อย คิดอะไร เขียนอะไร
ข้อคิด ข้อเขียน ของท่าน มันก็ประจานตัวเองอยู่แล้ว

ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมทุกๆท่าน
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณครับ
ลุงมหา

 

เห็นโพสไว้ที่กระทู้หนึ่ง เห็นบอกว่า...

----------------------

ขอนำคำทำนายของพระโพธิสัตว์มาบอกเล่าหน่อย

เพื่อจะได้ติดตามผลต่อไป

เรื่องที่1เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพและปริมณทล

“แถวภาคกลางเราไม่ต้องห่วงหรอก กรุงเทพ ปริมณฑล”
“ไครจะว่ากรุงเทพจะล่ม จะจมก็ยาก ยาก”
“เพราะว่ามีศรัทธาต่อพระพุทธเจ้านะครับ”
“มั่นคงไม่หวั่นไหวใดๆ”

เรื่องที่2 ญาณของพระอรหันต์ กับทศพลญาณ

นอกจากนี้ก็มีญาติธรรมถามว่า

“มีพระผู้ใหญ่ทางเพชรบูรณ์ บอกว่าจะเกิดภัยพิบัติใหญ่เร็วๆนี้”

ท่านอาจารย์ทิพากรก็ตอบว่า

“พระอรหันต์ก็ดูอนาคตได้ แต่จะขุ่นมัวไม่แจ่มชัด”

“ดูได้ก็ไม่รู้เคล็ด ไม่รู้วิธีแก้ไข”

ญาติธรรมถามว่า

”แล้วจะรู้ได้อย่างไร? ”

ท่านอาจารย์ทิพากรตอบว่า

“ต้องทศพลญาณ”

ญาติธรรมถามว่า

”ทศพลญาณคืออะไร?”

ท่านอาจารย์ทิพากรตอบว่า

“ทศพลญาณ เป็นญาณหยั่งรู้ของพระพุทธเจ้า”

“และพระโพธิสัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว และ บำเพ็ญ บารมีมาเต็มหรือเกือบจะเต็มแล้ว”

“ญาณของพระอรหันต์ยังไม่ถึง”

ส่วนญาณของเด็กแปดขวบ ผมของดวิจารณ์ครับ
ท่านผู้มีสติปัญญา คงคิดคงประเมินได้อยู่แล้ว

http://palungjit.org/threads/%E0%...A5.305910/

ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมทุกๆท่าน
ขอขอบพระคุณครับ
ลุงมหา
----------------------------------------------


แล้วที่อาจารย์ U มาบอกว่า ภาคกลาง ปริมณฑล กทม. ไม่ต้องห่วงนี่มันยังไง ตอนนี้จะเป็นทะเลน้ำจืดกันไปหมดแล้ว อีกหน่อย กทม.ก็ไม่รอด

ญาณของพระโพธิสัตว์ U นี่ ทำไมมันขุ่นมัวจังละท่านมหา

 

"ขอนำคำทำนายของพระโพธิสัตว์มาบอกเล่าหน่อย

เพื่อจะได้ติดตามผลต่อไป

เรื่องที่1เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพและปริมณทล

“แถวภาคกลางเราไม่ต้องห่วงหรอก กรุงเทพ ปริมณฑล”
“ไครจะว่ากรุงเทพจะล่ม จะจมก็ยาก ยาก”
“เพราะว่ามีศรัทธาต่อพระพุทธเจ้านะครับ”
“มั่นคงไม่หวั่นไหวใดๆ”.....


บทความข้างบนที่ท่านเคยโพสต์คืออะไร...
เคยบอกว่าปริมลฑลและกรุงเทพไม่จม ไม่ล่ม
ตอนนี้ปริมลฑลน้ำท่วม เดือดร้อนกันแสนสาหัส
และน้ำกำลังจะท่วมกรุงเทพฯ


มาวันนี้...ท่านก็พลิกไปอีกอย่าง....

 

ลุงมหาครับ ผมก็ไม่เข้าใจนะว่าลุงจะมาเดือดร้อนอะไรมากมาย คนอื่นเขาไม่เชื่อก็เป็นสิทธิของเขา ทำไมลุงไม่รู้จักปล่อยวางซะบ้างละครับ ลุงก็น่าจะรู้ว่าเถียงกันไปมาก็ไม่เกิดประโยชน์ขึ้นมาหรอก....แต่ถ้าลุงต้องการเอาชนะก็เถียงไปเถอะครับ

พระโพธิ์สัตว์ใหญ่เวลานี้ผมก็รู้จักแต่ในหลวงของเราเท่านั้นแหละ ที่หลวงพ่อฤาษีเคยบอกไว้

 

เห็นด้วยค่ะ ในหลวงนี้ล่ะคะ พระโพธิสัตว์ของจริง เป็นพระโพธิสัตว์ในระดับนิยตโพธิสัตว์ด้วยค่ะ

"ในหลวงของเรา บำเพ๊ญบารมีเหนือกว่า และความเป็น"พระโพธิสัตว์"ของในหลวงนั้น ก็เป็นถึงระดับ"นิยตโพธิสัตว์"ผู้เที่ยงแท้ต่อพระโพธิญาณในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นอย่างแท้จริงด้วย สมจริงดังที่หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ ได้กล่าวรับรองไว้"

 

จะไม่ท่วมได้ไง น้ำจ่อคอหอยอยู่แล้ว มั่ว ๆ ๆ ๆ ๆ จะสร้างพระใหญ่แค่ไหน ก็เอาชนะธรรมชาติไม่ได้หรอก

 

ไม่เห็นในพระธรรมคำสั่งสอนที่ไหน บอกว่าสร้างโน่น สร้างนี้ แล้วรอดพ้นกรรม นอกจากสร้างความดี พุทธพาณิชย์ อวดฤทธิ์ อวดเดช ยกตนข่มคนโน้่นคนนี้ พอเสียทีเหอะ มันน่าสมเพช ...

 

ขออนุญาตล๊อคข้อความไว้ครับ กลัวหาย

ขออนุญาตล๊อค ข้อความกันหายครับ

ว่างจะมาตอบให้ครับ

ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมผู้มีสติปัญญาทุกๆท่าน

ขออนุโมทนา

ขอขอบพระคุณครับ

ลุงมหา

 

สงสัยว่าทำไม ลุงมหาเชื่อว่า อ.ทิพากร ว่าเป็น

มีหลักฐานใดมาอ้างอิงในความเชื่อเปล่าครับ พยากรณ์เรื่องน้ำแม่นเปล่าครับ

ถามพุทธประวัติ ที่เคยศึกษามาเล็กน้อยของกระผม
พระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ จะเป็นคนพยากรณ์ว่า ท่านใดๆจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปในอนาคต
พระพุทธเจ้าทรง จะเป็นคนพยากรณ์ว่า ท่านใดๆจะเป็นสาวกทางใด และอรหันต์ใดๆ

...พระพุทธเจ้าในตอนนี้เข้าสู่กระแสนิพพาน พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะทราบ
แล้วใครมาบอกว่า อ.ทิพากร เป็นตามที่ท่านว่ามา อ.ทิพากร เป็นคนบอกเองเหรอครับ


ผมพยายามทำใจเป็นกลางที่สุด
ถ้าเป็นจริงก็อนุโมทนาสาธุในบุญกุศล ที่เสียสละต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย แต่ถ้าไม่จริงนี่ คงรู้ผลนะครับ ว่าจะเป็นยังไง
ผมเคยไปงานเปิดบุญ อ.ครั้งนึง ก็เป็นลักษณะการบูชาเทพ เทวดา จะว่าไปก็คล้ายๆการ ไหว้พระสวดมนต์ ไปงานกฐิน ผ้าป่า อะไรทำนองนั้น

*การมาโพสแบบนี้ มันสุ่มเสี่ยงมาก ตามพุทธประวัติที่เคยศึกษา
ไม่เคยมีพระพุทธเจ้าองค์ใดว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า ก่อนจะได้เป็น อย่างนี้ทางสงฆ์เรียกว่าอวดอุตริมนุสธรรม...

 

อ้าวจะรีบไปไหนครับท่าน ตอนนี้น้ำท่วมภาคกลางไปแล้วครับ อาจารย์ของท่านรู้ข่าวหรือยังครับ กระซิบบอกแกหน่อยนะครับ ว่าชาวบ้านมีเคือง
ปล. จากบทความบางตอนที่โพสว่ามีป้าคนหนึ่งอยู่อยุธยาถามว่าจะท่วมไหม อาจารย์ท่านบอกให้รีบไปอยู่ที่สูง อ้าวไหนบอกภาคกลางไม่ต้องห่วงไงล่ะครับ แล้วจะให้ไปอยู่ที่สูงทำไม ไฉนคำพูดขัดกันเองล่ะ ขำกลิ้ง(deejai)(deejai)(deejai)

 

ไม่น่าเอาสมเด็จทั้งสามท่านมาเกี่ยวเลย ท่านมีแต่เมตตา ไม่ใช่ว่าละเลยท่านแล้ว เพราะฉะนั้นเอาภัยพิบัติไป ตอนนี้ท่านก้อทรงมีความห่วงใยบ้านเมืองอยู่นะคะ

 

ว่างๆ ค่อยมาตอบก็ได้ ...เพราะต้องใช้เวลาพอสมควร และขอให้อ้างอิง
คำสอนของพระพุทธเจ้านะครับ ถ้ายกคำสอนคำพูดของท่านอื่นมาตอบ
มันก็ไม่จบ...และที่สำคัญชาวพุทธทุกคนเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า คำสอน
ของพระองค์ยังทรงอยู่ ชาวพุทธที่ดีต้องเชื่อและศรัทธาในคำสอนของท่าน
ตอนนี้อยู่ในยุคของพระพุทธเจ้าโคดม...นะครับ

 

เห็นด้วยกับคุณ มโนวิญญาณ ครับ ใจเย็น ๆนะครับลุงมหาทุกคนรอคำตอบอยู่

 

หลวงปู่อ่ำ วัดโสมนัส

“หลวงพ่อ” เคยกล่าวว่า คนเรามักคาดไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าพระดีควรจะเป็นอย่างนั้น ควรจะเป็นอย่างนี้ กลายเป็นคนกิเลสท่วมหัว แต่ไปกำหนดคุณสมบัติพระอริยเจ้า เลยไม่ต้องพบพระดีกันทั้งชาติ “มันเดินชนพระอรหันต์ตายไปหลายหลายองค์แล้ว...” “หลวงพ่อ” ปรารภ...

เช่นเดียวกับ หลวงปู่อ่ำ (พระราชกวี) วัดโสมนัสวรวิหาร ท่านเป็นพระดีที่ไม่ยอมแสดงออก จนหลวงพ่อต้องเปิดเผยให้ทราบ พวกเราจึงได้ไปกราบไว้ทำบุญกับท่าน หลวงพ่อบอกว่า “องค์นี้ คือช้างปาลิไลยกะ จะมาตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์สุดท้ายของกัปป์นี้...”

บรรดาพระภิกษุจากวัดท่าซุง พากันไปกราบสนทนาธรรมกับหลวงปู่ แล้วพากันกล่าวขานถึงความเป็นยอดปราชญ์ของท่าน อาตมาก็เพียงรับฟังไว้ เนื่องจากโอกาสที่จะไปกราบขอความรู้จากท่านยังมาไม่ถึง เพราะทำตัวเป็นคนไม่มีเวลาว่างเสียที ทั้งที่จะไปจริง ๆ ก็สามารถปลีกตัวได้...

วันหนึ่งอาตมาลงมากรุงเทพฯ เพื่อสวดมนต์-ฉันเพล ที่บ้านของโส่ย (จันทกานต์ ตรีอุดมสิน) ในวาระทำบุญเปิดร้านใหม่ รับข้าวของที่เขาถวายมามากมาย ซึ่งอาตมายึดตามแบบของหลวงพ่อเสมอมา คือ ของเกิดขึ้นที่ไหนก็ทิ้งไว้ที่นั่น...

แต่นี่มันเป็นบ้านไม่ใช่วัด แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ...? พอดีนึกขึ้นมาได้ว่าที่นี่ห่างจากวัดโสมนัสไม่ไกล เลยให้เสี่ยล้ง (สุเมธ ตรีอุดมสิน) ขับรถขนของไปส่ง มีพี่มุกดา (คุณมุกดา เพชรชื่นสกุล) กับหัวหน้าชาติชาย (ปัจจุบันคือพระชาติชาย สุธมฺมธนปาโล) ขอตามไปกราบหลวงปู่ด้วย จะได้ช่วยกันแบกของไปถวายท่าน...

ทันทีที่เปิดกุฏิออกมารับ ประโยคแรกที่หลวงปู่ทักอาตมา ทำเอาพี่มุกดากับหัวหน้าชาติชายงงเป็นไก่ตาแตก คือ “เป็นอย่างไรบ้างเพื่อน...ไปถึงไหนแล้ว...?” แต่อาตมาเข้าใจดี กราบเรียนท่านว่า “ไม่ไหวครับหลวงปู่ กระผมเลิกแล้วครับ...” หลวงปู่ยิ้มแบบให้กำลังใจ พลางกล่าวว่า “น่าเสียดายนะ...”

ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น...? ก็หลวงปู่เป็นพระโพธิสัตว์ จะตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท้ายกัปป์นี้ อาตมาเองก็เคยปรารถนาเช่นนี้มาก่อน แต่ว่าหมดกำลังใจที่จะทำต่อ ขอลาจากความปรารถนานั้นแล้ว บรรดาพระโพธิสัตว์ทั้งหมด ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมสร้างบารมีมาด้วยกันทั้งสิ้น หลวงปู่เห็นหน้าจึงทักเช่นนั้น...

หลังจากถวายสิ่งของกับหลวงปู่แล้ว อาตมาขอให้หลวงปู่เทศน์เรื่องสังโยชน์ ๑๐ เรียกว่าลองของกันซึ่ง ๆ หน้าเลย...! หลวงปู่บอกว่า “นั่นเป็นเรื่องที่พระอริยเจ้าท่านพูดกัน ฌานโลกีย์อย่างคุณ อย่างผมพูดไปก็ผิด...”
ในที่สุดเมื่อเสียไม่ได้ หลวงปู่ก็เทศน์วนอยู่แค่สังโยชน์ ๕ เป็นการเปิดให้ดูก้นหีบว่า มีอยู่แค่นี้เอง พออาตมาถามถึงเรื่องนรก - สวรรค์ – พรหม – นิพพาน หลวงปู่นิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะกล่าวว่า “ผมเกรงว่าจะอวดอุตริมนุสสธรรม...”
“ไม่ใช่การปรารภเพื่อลาภผลนี่ครับหลวงปู่...” เท่านั้นเอง เรื่องราวก็พรั่งพรูออกจากปากหลวงปู่ ตั้งแต่ครั้งเรียนบาลีอยู่ อ่านเรื่องช้างปาลิไลยกะอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า พอพระพุทธเจ้าจากไป ก็อาลัยรักจนอกแตกตาย...

“อ่านถึงตรงนี้ทีไรมันจับอกจับใจ ถึงแก่ร้องไห้ทุกที...” แต่ตอนนั้น หลวงปู่ยังไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะนั่งดูตะวันตกดินอยู่ สภาพจิตทรงฌานอัตโนมัติ กายทิพย์หลุดจากร่าง ตรงไปเฝ้า สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตร...
สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรตรัสเล่าให้ทราบ ว่าหลวงปู่คือช้างปาลิไลยกะ เคยปรารถนาพุทธภูมิมาพร้อมกัน สมัย องค์สมเด็จพระสิริมิตรสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่หลวงปู่ประเดิมความเป็นพระโพธิสัตว์ชาติแรกเยี่ยมมาก คือ ตกนรก...!
เวียนตายเวียนเกิดมานับชาติไม่ถ้วน ชาติที่สำคัญคือ เกิดมาเป็นผู้ประดิษฐ์อักษรไทย ซึ่งหลวงปู่ยืนยันหนักแน่นว่า อักษรไทยมีมาก่อนสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และคนไทยอยู่ในสุวรรณภูมินี้มาแต่ดั้งเดิม ไม่ใช่อพยพมาจากภูเขาอัลไต...

ชาตินี้ความจริงไม่ใช่วาระที่หลวงปู่จะมาเกิด เป็นคิวของพระศรีอาริย์ แต่งานสำคัญคือ ต้องมารวบรวมประวัติการเกิดอักษรไทย พระศรีอาริย์ท่านเห็นว่า หลวงปู่เป็นคนต้นคิดเอง ก็สมควรจะมาเกิดเพื่อทำงานนี้ซะเอง...
หลวงปู่จึงต้องลัดคิวลงมาทำหน้าที่นี้ และบัดนี้ได้รวบรวมประวัติหนังสือไทยและพระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิไว้เรียบร้อยแล้ว “ตอนนี้ยังหาคนยอมรับได้ยาก ต้องให้ผมตายไปแล้วนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นเขาเชื่อแต่ จอร์จ เซเดย์...”

ท่านขนเอาตำรับตำราอักษรโบราณต่าง ๆ ตลอดจนกระเบื้องดินเผาจารอักษร ที่ขุดได้จากเมืองเก่าราชบุรี (เมืองโบราณคูบัว) มาให้ดู เป็นที่น่าอัศจรรย์มากที่ตัวอักษรไม่ว่าชาติใดภาษาใด ตลอดถึงอักษรในกระเบื้องจาร...
พอหลวงปู่ชี้เท่านั้น ทั้งอาตมา พี่มุกดา และหัวหน้าชาติชาย ต่างก็เห็นว่ามันคืออักษรไทยปัจจุบันนี้เอง สามารถอ่านได้ทุกคำ แต่เมื่อหลวงปู่ยกนิ้วขึ้น ทุกคนก็เห็นเป็นตัวยึกยืออะไรก็ไม่รู้ อ่านไม่ออกซักคำ...!

“ผู้คิดดัดแปลงอักษรให้แก่ชนชาติอื่น ๆ นั้นเก่งมาก ทั้งที่มีรากฐานไปจากอักษรไทยแท้ ๆ แต่ดูจากสายตาทั่วไปแล้วจะไม่เห็นเค้าเลย...” ฮั่นแน่...ชมตัวเองก็เป็นเหมือนกันนะครับหลวงปู่...ฮิ...ฮิ...
กว่าสามชั่วโมงที่หลวงปู่เมตตาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง จนกระทั่งขอตัวกราบลา และกราบขอขมาที่ล่วงเกินหลวงปู่ ท่านเมตตากล่าวว่า “คุณถามเพราะใฝ่รู้ไม่ถือว่าเป็นการล่วงเกินอะไรหรอก...”

หลังจากกราบลาแล้ว ทั้งที่หลวงปู่กำชับว่า ให้ไปหาอีกทันทีที่มีโอกาส แต่อาตมาก็ทำตัวเป็นคนไม่มีเวลา จนกระทั่งหลวงปู่มรณภาพ แต่ผลงานของหลวงปู่ก็ยังอยู่นะครับ หัวหน้าชาติชายตัวขึ้สงสัย โดนหลวงปู่ต้อนเข้าวัดไปเลย บวชซะแล้วครับ...!

๓๐ กันยายน ๒๕๓๕
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ​

ที่มา http://grathonbook.net/book/past/past12.html<!-- google_ad_section_end -->

 

ช้างป่าลิไลยกะ จะเป็นพระพุทธเจ้าวิริยาธิกะ องค์ที่ ๑๐

....ท่านเจ้าคุณอ่ำบวชเณรที่วัดโสมนัสฯพ.ศ. ๒๔๗๓ บวชแล้วมิได้สึกจนมรณภาพรวมอายุ ๗๘ ปี โดยเป็นฆราวาสเพียง ๑๖ ปีเท่านั้น ชีวิตพรหมจรรย์ ๖๒ ปีคือเป็นพระ ๕๘ พรรษา

ความเห็นของพระราชพรหมยานเถระหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้มีคำพูดถึงท่านเจ้าคุณอ่ำในหนังสือ "ธัมมวิโมกข์" ว่า "เจ้าคุณพระราชกวี วัดโสมนัสวิหาร องค์นั้นท่านรู้จริง ไปถามท่านดูซิ (เกี่ยวกับพระกาลมาบอกเวลาตาย)

ท่านปรารถนาพุทธภูมิ ความจริงยังไม่เคยเจอะหน้ากันเลยนะ แต่มีจิตใจยอมรับนับถือกันและกัน อาตมาก็ยอมรับนับถือท่าน ต่างคนต่างฝากข่าวไป-หากัน พบกันแค่ข่าว ถึงกระนั้นก็ดี แต่ว่าข่าวของท่านกับข่าวของอาตมาตรงกัน ความรู้สึกตรงกัน ใครสงสัยอาตมาพูดว่าพระพุทธเจ้ามีจริง พระพุทธเจ้าบอกอย่างนั้น..อย่างนี้ ไปถามเจ้าคุณได้และก็ไปถามคนที่เขาปฎิบัติได้ ให้ได้จริงๆก็แล้วกัน ที่เขาทำทิพจักขุญาณได้ก็ดี ทำอภิญญาได้ก็ดี อันนี้เขาตอบได้แน่นอน"

ความเห็นของหลวงพ่อฤาษีลิงดำดังกล่าวแสดงถึงการรับรองว่า ท่านเจ้าคุณอ่ำเป็นผู้รู้จริงปฎิบัติได้จริง ท่านยังกล่าวด้วยว่า "พระราชกวีอ่ำคือช้างป่าลิไลยกะสมัยพุทธกาลโน้น ในอนาคตกาลจะเป็นพระพุทธเจ้าวิริยาธิกะ องค์ที่ ๑๐ ทรงพระนามว่า พระสุมงคลสัมมาสัมพุทธเจ้า..." ในจารึกคำทำนายของพระอรหันต์ในกบื้องจาน คำกล่าวของหลวงพ่อฤาษีลิงดำตรงกับข้อความในลายสือไทยในกเบื้องจาน แผ่นที่๑๖๖ หน้า ๑ ซึ่งพระปุณณเถร (ทำนาย) จารึกไว้เมื่อวันขึ้น ๑๑ ค่ำเดือนอ้าย พุทธพัสสา ๒๑ ว่า "ปุณณมุณี (ปุณณเถร) ถ้ำพุทธ (ถ้ำเขางู จ. ราชบุรีซึ่งมีจารึกว่า พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับ)..

http://www.secret-thai.com/Webboard/viewtopic.aspx?wcode=secret&qId=2264<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>

 

คำพูดของครูบาอาจารย์ ขอให้พิจารนาให้ละเอียดนะครับ

ขออนุญาตครับ

ก่อนอื่นต้องขออภัยญาติธรรมทุกๆท่านก่อนนะครับ

เพราะช่วงนี้ ต้องรับใช้ครูบาอาจารย์ เรื่องงาน กฐิน หลายที่ เข้าใจกันนะครับ

จากคำพูดของท่านอาจารย์ทิพากรข้างบน ยกลงมาให้ดูอีกก็ได้

เรื่องที่1เรื่องน้ำท่วมกรุงเทพและปริมณทล

“แถวภาคกลางเราไม่ต้องห่วงหรอก กรุงเทพ ปริมณฑล”
“ไครจะว่ากรุงเทพจะล่ม จะจมก็ยาก ยาก”
“เพราะว่ามีศรัทธาต่อพระพุทธเจ้านะครับ”
“มั่นคงไม่หวั่นไหวใดๆ”.....

การตีความหมายของประโยคนี้

“ไครจะว่ากรุงเทพจะล่ม จะจมก็ยาก ยาก”

พวกท่านต่างพากันตีความหมายของคำว่ายาก ยาก แปลว่า น้ำจะไม่ท่วมหรือครับ

ท่านอาจารย์ทิพากรท่านเป็นครูสอนหนังสือมาก่อนนะครับ

คำว่า น้ำท่วม ทุกท่านคงเข้าใจดีกันอยู่แล้วว่ามันคืออะไร

คำว่า น้ำเจิ่งนอง คือ น้ำท่วมไม่สูง และหายไปในเวลาไม่นาน

คำว่า ล่ม จม แปลว่าน้ำท่วมมาก ระดับ ท่วมสูง อย่างน้อย 2-3 เมตร

ก็ระดับท่วมถึงหลังคาบ้านชั้นเดียว

แล้วคำว่า น้ำท่วม ยาก ยาก พวกท่านจะเข้าใจว่า น้ำจะไม่ท่วม อย่างนั้นหรือ

ไม่ใช่แปลความหมายว่า ถึงจะท่วมก็ท่วมได้ยาก ดอกหรือ

เมื่อเอา

“ไครจะว่ากรุงเทพจะล่ม จะจมก็ยาก ยาก”

มาแปลความหมายนี้ก็แปลว่า

"ที่พูดกันว่า กรุงเทพ น้ำจะท่วมระดับ 2-3 เมตรขึ้นไปนั้น ยาก ยาก"

พวกท่านพากันแปล พากันเข้าใจว่า
น้ำจะไม่ท่วมกรุงเทพได้อย่างไร

แค่คำว่า น้ำท่วม
กับคำว่า น้ำท่วมยาก ยาก

พวกท่านไม่เข้าใจหรือ

คำให้สัมภาษของท่านผู้ว่ากรุงเทพ ท่านก็บอกเมื่อสองสามวันที่แล้วว่า

"น้ำไม่ท่วมกรุงเทพชั้นในหรอกครับ"
"เราระวังรักษาเต็มที่"
"ถ้าท่วมกรุงเทพ ผมจะเป็นคนแรกที่บอกพ่อแม่พี่น้อง"
"ไม่มีเหตุผลอะไร ที่เราจะปกปิดไว้"

ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็ถามเด็กอนุบาล เด็กประถม เด็กมัธยม ข้างบ้านดูนะครับว่า

น้ำท่วม กับคำว่า น้ำท่วมยาก ยาก
มันเป็นอย่างไร มันต่างกันอย่างไร

แล้วที่พวกท่าน พากันแปลความหมายว่า น้ำจะไม่ท่วมนั้น
พวกท่านไปเอามาจากไหน

หรือเอามาจากสติปัญญาของท่านเอง

ก็ท่านอาจารย์ทิพากร ท่านรู้ ท่านเห็น ท่านบอก ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค 2554 แล้วว่า

ฝนจะตกมาก น้ำจะท่วม จังหวัดไหนบ้างให้คอยดู

แม้แต่ที่พากันสงสัยว่า ทำไมน้ำจึงท่วมอยุธยามากกว่า

ท่วมหรือแทนที่จะท่วม กรุงเทพ ผมก็เขียนไปบ้างแล้วในกระทู้นี้

กระทู้อื่นยังสงสัยอยู่เลยว่าทำไม

ลองพิจารนาดูนะครับ

น้ำท่วม
กับคำว่า
น้ำท่วมยาก ยาก

มันเป็นอย่างไร มันต่างกันอย่างไร

หรือจะไปถามครูสอนภาษาไทย ก็ดีนะครับ

แล้วทำไมพวกท่านไม่ยอมคิดมุมกลับบ้างว่า
ผมก็เผยแผ่คำเตือนของท่านอาจารย์ทิพากร ไปตั้งนานแล้ว ในห้องนี้
ถ้าช่วยกันดู ช่วยกันถาม ช่วยกันตรวจสอบ

หรือหน่วยงานของรัฐ หรือ เหล่าผู้เสียหายทั้งหลาย
รู้จักไปสอบถามท่านอาจารย์เอง

ผลมันจะออกมาอย่างนี้หรือ

ยังจะมาจิก มาตี มาตรวจสอบ ผมอยู่อีกหรือ
แล้วที่แห่ไปอ่านกันเยอะๆนั้น ได้ประโยชน์อะไรบ้าง

เขาก็ออกตัวตั้งแต่หัวเรื่องว่า นิยายๆ

เขาก็ถามอยู่โทนโท่ว่า ไม่รู้เหมือนกันว่า
ทำไมเห็นว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพ
แล้วกลายมาเป็นอยุธยาได้

สุดท้ายก็บอกออกมาตรงๆว่า ที่เห็นนั้นเป็นแค่ รูปภาพแผ่นเดียว

ยังมาถามว่าช่วยกันแปลหน่อยว่ามันหมายถึงอะไร

ท่านที่ไม่มีส่วนได้เสีย ก็พิจารนาเอานะครับ

เราจะสร้างพระพุทธปฎิมาไว้เป็นที่พึ่งที่ระลึก ไว้กราบไหว้บูชา
ก็เพราะเราเชื่อมั่นศรัทธาใน

"มหาพุทธานุภาพ อันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์"

ก็ออกความเห็นต่อต้านว่า พึ่งไม่ได้หรอก อย่างโ้นอย่างนี้

หรือพวกเขาเหล่านั้นไม่เชื่อแม้แต่

"มหาพุทธานุภาพ อันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์"

หรือพวกเขาเหล่านั้น ไปเชื่อญาณของเด็กแปดขวบแทนแล้ว

ขออนุโมทนาในกุศลผลบุญร่วมกับทุกๆท่าน

ขออนุโมทนา

ขอบพระคุณครับ

ลุงมหา

 

พูดจากำกวม วกไปวนมา แบบนี้ก็หาทางเลี้ยวไปได้เรื่อยซิ น้ำท่วมยาก ใครอ่าน ก็แปลว่า ไม่ท่วม นั่นแหละ แม้แต่เ็ด็กเพิ่งอ่าน ก ออก ยังรู้เลย หมายว่า ไม่ท่วม ลิ้นไม่มีกระดูกก็แบบนี้แหละ
แก้ตัวไปน้ำขุ่น ๆ

 

เทาที่ได้อ่านมา เราเคยเข้าใจความหมายของคำว่า น้ำท่วมกทมยากก็คือ เขาจะมีการป้องกันเต็มที่หรือเหนี่ยวกันสุดๆ ทั้งกำลังคน กำลังเทพ กำลังบุญ เเต่ที่ท่านบอกว่า น้ำท่วมยากหมายถึง จะไม่ท่วมถึง 2-3 เมตร มันเเปล่งๆ แต่ก็ยังโอเค

เเต่มาตอนท้าย ที่พาดพิง ผู้อื่น อันนี้ ผิดหวังค่ะ

 

ก็ยังยกตนข่มคนอื่นอยู่เหมือนเดิม ... การที่คนเขาจะเชื่อมั่นหรือศรัทธาใคร มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล คุณไปบังคับ ใครไม่ได้หรอก บังคับให้ศรัทธา ขู่ให้ศรัทธา (บางที่บอกใครไม่เชื่อ ไม่ศรัทธาอาจจะถึงตาย ว่าไปโน่น) นั่นไม่เรียกศรัทธา มันเรียกอะไร ไปคิดดูเอง ... อาจารย์ของท่าน เสื่อมเสียเพราะท่านเองนี่แหละ รู้ไว้ด้วย

 

อยากเห็นจังครับโครงการพระใหญ่ไปถึงไหนแล้วเห็นว่าได้ยอดบริจาคเยอะลุงไม่เอามาลงให้ดูบ้างครับผมยังไม่เคยเห็น