คุณคือ "ผู้พเนจรจากฟากฟ้า" (Wanderer) หรือ "เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว" (Star Seed) หรือไม่??

เอ่อ ลืมไปเลยเชียวว่าคุณชยุตไม่ได้ต้องการให้คนมาถกเถียงเนื่องจากเค้าเป็นคนมาแปลให้อ่านอย่างเดียว ต่อไปจะอ่านอย่างเดียวละกันนะ
"ผมไม่เถียงครับ -*- "
อิๆๆ

 

อย่าเข้าใจผิด ว่าผมห้ามโต้แย้งเนื้อหาของข้อมูลนะครับ

เพราะบางเรื่องผมก็รู้สึกขัดแย้งอยู่ข้างในด้วยเช่นกัน
เพราะความรู้เดิมที่มีอยู่ มันไม่เข้ากันอะไรแบบนั้นเป็นต้น

แต่ที่กล่าวไว้บ่อยๆก็คือ

1). ผมเป็นเพียงผู้แปลข้อมูลมาแบ่งปันให้อ่านเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วย หรือคัดค้านประการใด
ก็ไม่ได้แปลว่าคุณเห็นด้วย หรือ คัดค้าน ตัวผมเลยแม้แต่น้อย
เพราะผมไม่ใช่เจ้าของข้อมูล

2). เพราะฉะนั้น ผมถึงเลี่ยงที่จะตอบคำถาม และ
เลี่ยงที่จะไปแก้ไขความเข้าใจของใคร หรือ ไปโต้กับใคร
ว่าความเชื่อของใครถูกต้องกว่ากัน อะไรแบบนั้นหนะครับ

เพราะเหนื่อยมามากแล้ว กับการโต้เถียงกัน ว่าฉันถูก เธอผิดอะไรแบบนี้
มันไม่เคย หรือเคย แต่น้อยมาก ที่จะจบลงด้วยคำว่า

"เออ..ขอบคุณนะ ที่ช่วยให้ความเข้าใจของฉันกระจ่างขึ้น
ถ้าไม่ได้เธอ ฉันก็คงยังโง่อยู่ต่อไปนั่นเอง..." อะไรทำนองนี้

สรุปว่า ผู้ที่เขาได้ประโยชน์ จากข้อมูลเดียวกันนี้
ในขณะที่เราเสียประโยชน์ ก็ยังมีอยู่

เพราะว่าต่างคน ก็ต่างระดับของพื้นฐานความรู้ ต่างประสบการณ์หนะครับ
รู้เห็นมาไม่เท่ากัน จะไปว่ากันก็ไม่ได้ เพราะใครๆก็ต้องแสดงความคิดเห็นออกมา
เท่าที่ตัวเองรู้มาทั้งนั้นแหละ...

..........................................

 

ขอบคุณสำหรับการแปลทุกๆข้อความเลยครับคุณชยุต
อย่างน้อยก็สามารถทำให้พวกเราหลายๆคนได้เคลื่อนเข้าใกล้แถบสีแห่งปัญญาญาณ( wisdom spectrum) ได้เร็วขึ้นจริงๆครับ

(เอ่อ..ช่องสำหรับตอบข้อความในกระทู้ การเตรียมการอพยพมนุษย์โลกฯ หายไปน่ะครับคุณชยุต เหมือนถูกซ่อนเอาไว้เลย มีใครเป็นแบบนี้บ้างรึเปล่าเนี่ย?)

 

คุณชยุตแปลมาให้อ่านได้ประโยชน์มากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ทำต่อไปนะคะ

 

มีปัญหาเหมือนกัน ข้อความที่ 927 ไม่แสดง แต่สามารถ Copy จากข้อความที่ 926 จะติดข้อความที่ 927 มาอ่านได้

 

ถูกค่ะ และที่ทำให้ดูนี่คือ การสะท้อนกลับไปถึงสิ่งคุณกุญแจฯกำลังคิด
คนอื่นเค้าก็ทำได้เช่นเดียวกันกับคุณ อยู่ที่เค้าเลือกที่จะทำหรือไม่เท่านั้นเอง

อีกอย่าง สิ่งที่หมวยโพสต์แสดงความคิดเห็น อาจทำให้บางคน "คิดไปเอง"
ว่าไปว่ากระทบตนเข้า นั่นก็อยู่ที่ "ใจ" ของคุณคนเดียวเท่านั้น

และอีกอย่าง สิ่งที่หมวยโพสต์แสดงความคิดเห็น อาจทำให้บางคน "คัดค้าน"
และหรือ "ไม่เห็นด้วย" และพยายามแก้ไขทางอ้อม
นี่ก็อยู่ที่ "ใจ" ของคุณแต่ละคนอีกเท่านั้นเช่นกัน

มันอาจฟังดูเห็นแก่ตัว ไม่รับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองแสดงความคิดเห็นออกไป
แต่หมวยรู้ว่า ตนเองกำลังพูดอะไร รู้สึกอย่างไร และตั้งใจจะแสดง

"แต่ละคน มีเส้นทางของตัวเอง"
ชอบหน้าหรือไม่ชอบ มันไม่เกี่ยว มันเกี่ยวอยู่แค่ "เข้าใจหรือไม่เข้าใจ"
ถ้าทำความเข้าใจ ในความเ้ข้าใจและความคิดของผู้อื่นได้
มันก็ไม่มีปัญหา มาถกเถียงกันหรอก

นี่พูดอ้อมๆนะ ไม่เจาะจงผู้ใด แต่หมวยรู้ว่าใครรู้สึกยังไงกับหมวย
ประสบการณ์ทางเน็ต ไม่ได้น้อยไปกว่าใครหรอกนะ

สิ่งที่คุณๆเห็นว่าเป็นหมวยนี่ อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะจ๊ะ

ปล. แหม เริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆละว่า แต่ละโพสต์ของหมวยเองนี่
ส่งผลกระทบต่อผู้คนพอสมควรเลย *-*

 

ชอบข้อความนี้มากๆๆเลยครับพี่ชยุต
คนส่วนใหญ่คิดว่า ตนเองถูกในสายตาของตนเองเสมอ และ จะเอาชนะคนอื่นเสมอเลย
ผมว่ามันน่าเบื่อมากๆๆ เลยครับ

 

แวะมาเยี่ยมครับ ^^

 

ขอบคุณ คุณmead ที่แจ้งข่าวให้ทราบ...
เป็นตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ วันนี้ก็ยังเป็นอยู่ หรือระบบเหนือระบบ ยังไม่ให้โพส :boo:

 

ผมและคุณเดรดอีกคน ที่ใช้ Firefox เปิดแล้วทำได้ทุกอย่างครับ
แต่พอใช้ IE เปิด กระทู้จะไปค้างอยู่ตรงโพสต์เรื่องการถอดจิตหนะครับ

ซึ่งอันที่จริงแล้ว โพสต์นั้นมันมีอยู่ 2 โพสต์ติดกัน
แต่มันกลับขึ้นมาให้เห็นแค่โพสต์เดียวเอง
มิหนำซ้ำ ยังขึ้นชื่อตอนที่ 1 และ 2 ต่อกันให้เราเองเฉยเลย
เนื้อหาของตอนที่ 1 ก็หายไป เหลือแต่ตอนที่ 2 หนะครับ

ตอนนี้ผมได้แจ้งทางเวปแล้วหละครับ
เดี๋ยวเขาคงช่วยแก้ให้เร็วๆนี้กระมังครับ

....................................

 

ในกระทู้เตรียมการฯ โพสต์ ตอนที่ 2 การถอดจิต คุณชยุต เช็คเรื่อง ภาพที่อัพโหลดขึ้นไปใหม่ให้ดี

มันมีการอัพภาพขึ้นไป 2 ภาพ ซึ่งภาพหนึ่ง ไม่ปรากฏให้เห็นค่ะ

 

นั่นสิคะ คนสร้างประเด็น มักจะเป็นคนที่คิดตัวเองถูก ซะด้วยสิ
และก็จะกลายเป็นว่า คนมาแก้ประเด็น กลายเป็นคนที่เอาชนะ ไปเสีย
555

 

ที่มา : หนังสือชื่อ The Divine Cosmos
โดย : นาย David Wilcock

จากเวปไซท์ : http://divinecosmos.com/
...................................................................

ตอนที่ 1 :งานวิจัยชิ้นนี้ได้ใช้การหยั่งรู้เข้ามาร่วมด้วย


เนื้อหาส่วนใหญ่ของหนังสือเล่มนี้ จะไม่ถูกนำมาลงไว้ หากว่ามันยังไม่ได้ถูก “ไปดูให้เห็นกับตามาก่อนแล้ว”

เพราะว่าถ้าแค่พิจารณาข้อมูลใดๆ ด้วยเหตุผลแบบด้นๆเดาๆเหมือนทั่วๆไปหละก็
มันก็อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดของข้อมูลขึ้นมาได้ในภายหลัง จนนับไม่ถ้วน...

(นักวิทยาศาสตร์ชาวตะวันตกส่วนใหญ่ ก็รู้อยู่เต็มอกว่า เหตุการณ์แบบนี้มันได้เกิดขึ้นกับทฤษฎี
หรือแบบจำลองเรื่องต่างๆที่พวกเขาพากันตั้งขึ้นอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่เคยที่จะหันมาให้การยอมรับ
วิธีการที่ใหม่กว่าแบบนี้เลย แม้ว่าวิธีการใหม่ที่ว่านี้จะสามารถป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาได้ดีกว่าก็ตาม

แบบจำลองทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่นำสิ่งที่มันไม่สามารถจะอธิบายหรือเข้าใจได้โยนทิ้งไป
เช่น เรื่องพลังจิตเป็นต้น แบบจำลองนั้นๆก็นับว่ายังมีข้อบกพร่องอยู่)


ในงานวิจัยของพวกเรา หากว่าจะต้องแก้ไขปัญหาใดๆแล้วหละก็ พวกเราก็จะเริ่มต้นด้วย
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่แล้วก่อน จากนั้น ก็จะไปดูมันให้เห็นกับตาในมิติที่สูงกว่า
ด้วยการ “ฝัน” และ “การเข้าฌาน” เพื่อจะได้รู้ว่าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เหล่านั้น มันเป็นอย่างที่ว่านั้น
ในมิติที่สูงๆกว่าด้วยหรือเปล่า

ตัวอย่างเช่น การศึกษาเรื่อง “แรงโน้มถ่วง” แทนที่เราจะมานั่งคิดเดาเอาเองว่า
มันน่าจะเกิดจาก แรงดึงดูดจากใจกลางโลกเพียงสาเหตุเดียว แต่มันก็ยังสามารถเกิดจากพลังงานจากภายนอกโลก
ที่หลั่งไหลลงมาสู่โลกจากทุกทิศทุกทางได้อีกด้วย

เพราะฉะนั้น ในช่วงต่อไป คุณจะได้เห็นว่าแรงโน้มถ่วงมันมีพฤติกรรมเช่นนั้นจริงหรือไม่


เมื่อเราได้คำตอบของแต่ละปัญหามาแล้ว มันก็มักจะมีการค้นพบเรื่องที่น่าทึ่งและไม่เคยรู้มาก่อนตามมาด้วยเสมอ

เช่น ในกรณีของการศึกษาเรื่องแรงโน้มถ่วง ยังนำมาซึ่งบทเรียนใหม่ที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า
แท้ที่จริงแล้ว “โลกกำลังหายใจอยู่” ดาวเคราะห์โลกกำลัง “หายใจเข้า” เอาพลังงานใหม่
จากทุกสรรพชีวิตบนโลกเข้าไป แล้วแปรเปลี่ยนพลังงานเหล่านี้ไปเป็นสสาร หรืออะตอมและโมเลกุลของมัน
จากนั้นก็ “หายใจออก” ปลดปล่อยพลังงานออกไปสู่อวกาศ

เรื่องนี้ทำให้เรามีทางที่จะแก้ปัญหาเรื่องเกี่ยวกับควอนตัมพิสิกส์ได้ด้วย เพราะว่าเมื่อเราเข้าใจเช่นนี้แล้ว
เราก็จะเข้าใจด้วยว่า ทุกๆอะตอม และโมเลกุล ก็ใช้วิธีดูดเอาพลังงานจากสรรพชีวิตเข้าไป ด้วยวิธีเดียวกันนี้นั่นเอง


ความรู้นี้ ได้มาจากระดับจิตวิญญาณของหลายคน เช่น John Keely, Edward Leedskalnin,
Dr. Walter Russell และ Dr. Nikolai Kozyrev ซึ่งพวกเขาแต่ละคน ได้แก้ปัญหา
ในเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ให้สำเร็จลงได้

(ยังมีต่อครับ)
.....................................

 

จากข้อความข้างบนนี้ ถ้าให้ผมสรุป จากข้อมูลที่ผมรู้มา
บวกกับข้อความข้างบนนี้หละก็ ผมก็จะบอกว่า...

1). สวรรค์ชั้นต่างๆ และรวมถึงพรหมโลกด้วย ตามนัยยะของพุทธ
ทั้งหมดนี้ เป็นระนาบๆหนึ่ง หรือเป็นเปลือกหุ้มหัวหอม ชั้นหนึ่ง
ที่ยังอยู่ภายในขอบเขตของดาวเคราะห์โลกนี้เองเท่านั้น

2). ส่วนพวกต่างดาว หรือ ต่างมิตินั้นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง
เพราะพวกนั้นจะอยู่นอกขอบเขตของดาวเคราะห์โลกของเรา




.........................................

 

-(^._.^)-

Wow...
เรารักพวกเขาจังเลยมนุษย์ต่างดาว We Love You Alien ! พวกเขาชั่งน่ารักและเป็นมิตรไมตรีที่ดีกับมนุษย์โลกของเราเหลือเกินและดาวเคราะห์ดวงน้อย ๆ ในระบบสุริยจักรวาลอันน้อยนิดของเรา...ถึงแม้ว่าบ้างครั้งพวกเขาจะดูน่ากลัวไปก็ตามแต่พวกเราก็รักเขา We love them! We love them!
-----------0------------
-------0000000--------
------00000000--------
-----00--------00-------
--00000000000000----
-----0000000000-------
-------0000000---------
--------------------------
-------------00000------
------------0*00*0-----
------------000000------
--------------000--------
---------------00---------
-----000---000000------
-----000--0000000------
-----00----0-000-0000--
---00000--0-000--------
-----00------0--00-------
-----000---00----0-------
-----0-0---0------00-----
----0---0-----------------

............**................
...........*..*...............
..........*....*...............
.........******.............
........*........*.............
.......*...........*...........
.............**................
.............**................
.............**................
.............**................
.............*******........
......*******...............
......*******...............
.........***..................
.........***..................
.........***..................
......*******..............
..............*******......
..............*******......
..............**..............
..............**..............
..............*******......
..............**..............
..............*******......
........***..................
........*********.........
........**.......***.........
........**.......***.........
........**.......***.........
........**.......***.........

..........000000000.......
......0000000000000...
....000---00000---000..
...000----0000----0000
..0000---00000---00000
..000000000000000000
...000-------------0000
....0000--0000--0000.
......000--------0000..
.........0000000000...
We Love Them !

 

ผมคาดว่าบางท่านอาจจะยังมีข้อมูลไม่มากพอ
อาจจะเพราะว่า เพิ่งได้มาอ่านข้อความเหล่านี้เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้

จึงยังมีความเข้าใจไม่มากพอ เกี่ยวกับคำว่า "มนุษย์ต่างดาว" หรือ "Alien"

เพราะถ้าให้ผมเดานะครับ บางคนคงคิดว่า "Alien" คือพวกที่หน้าตาประหลาดๆ
ตาโตๆกลมๆตัวสีเขียว หรือสีเทา มีนิ้ว 3 นิ้ว ชอบจับคนไปผ่าพิสูจน์และทดลองใช่ไหมครับ

อันนั้นก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ว่าพวกนั้นหนะ (พวกที่ทำไม่ดีกับมนุษย์)
เป็นพวกฝ่าย "อธรรม" หรือ "ฝ่ายมาร" ต่างหาก

พวกที่เขาดีๆ ก็ออกจะมีอยู่เยอะแยะ เยอะกว่าพวกฝ่ายมารด้วยซ้ำไป
และที่สำคัญ รูปร่างหน้าตาของพวกเขา ส่วนใหญ่ก็ไม่ต่างอะไรกับเราเลยด้วยซ้ำ
เพราะว่า "รูปแบบมาตรฐาน" ของร่างกายมนุษย์นี้ เขาใช้กันอยู่ทั่วจักรวาลนี้เลยทีเดียว

...........................................

 

ลองอ่านตรงนี้ดูหน่อยนะครับ จะได้รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงอยากจะมาช่วยเรานักหนา

ที่มา:

http://palungjit.org/threads/การเตร...และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-40

.......................................................

สรุปข้อความจากนาย Matthew Ward
เกี่ยวกับเรื่องการเลื่อนระดับขึ้น (Ascension) ของดาวเคราะห์โลก

7 กุมภาพันธุ์ 2009


- ชาวโลกที่ได้รับ “แสงสว่างนั้น” (The light) จะมีการยกระดับทางกายเนื้อไปพร้อมๆกับดาวเคราะห์โลก
ซึ่งจะก้าวหน้าไปสู่ระดับการสั่นสะเทือนของมิติที่ 4 และ 5

- โครงสร้างเซลของร่างกายมนุษย์ในมิติที่ 3 ที่เป็น Carbon-base จะเปลี่ยนไปเป็น Crystal-base ในมิติที่ 5

- กระบวนการยกระดับดังกล่าวนี้ ได้เริ่มเกิดขึ้นมานานร่วม 70 ปีของมนุษย์แล้ว และบัดนี้ก็ยังคงดำเนินไปอยู่
มันจะสิ้นสุดลงในปี 2012

- แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้แปลว่าภายหลังปี 2012 แล้ว จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีก
เพราะว่ามันยังจะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆอีกมากมายที่วิเศษและยอดเยี่ยมอยู่ อีกต่อไป

- การตัดสินว่าใครจะได้ยกระดับขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับบุคคลผู้นั้นเอง ไม่ใช่จะมีใครไปตัดสินโดยพละการให้ได้
เพราะมันขึ้นอยู่กับระดับพลังงานของแต่ละบุคคล ซึ่งได้สมัครใจเลือกที่จะเป็นแสงสว่างหรือความมืดเอง
ผู้ใดที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งแสงสว่างก็จะได้ยกระดับขึ้น

- การยกระดับขึ้น ไม่ได้หมายถึงการถูกนำขึ้นไปไว้บนยานอวกาศ

- ดาวเคราะห์โลกจะไม่ถูกทำลายอย่างแน่นอน ในทางตรงกันข้าม ดาวเคราะห์โลกกำลังถูกปรับสภาพ
ให้กลับไปอยู่ในสภาวะที่มีสุขภาพดีเหมือนเดิม ตลอดเส้นทางแห่งกระบวนการยกระดับขึ้นนี้
และสวนแห่งเอเดน (Eden) ที่สวยงามก็จะกลับคืนมาอีกครั้ง

- การยกระดับขึ้นของแต่ละบุคคลคือการรวมจิตสำนึกและวิญญาณของคนๆนั้นให้เป็น หนึ่งเดียว

- ในช่วงหัวลิ้วหัวต่อนี้ จิตสำนึกโดยรวม (The Collective Consciousness)
จะยังคงได้รับอิทธิพลจากพลังแห่งความมืดที่ยังหลบซ่อนและแอบซุ่มโจมตีอยู่

- ชาวโลกคนไหนที่จมปรักอยู่แต่ในโลกมืด มีความโหดเหี้ยมไร้จิตสำนึก กระหายอำนาจ จะต้องตายไปจากโลกนี้
และเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นปราศจากพลังงานแห่งแสงสว่าง ที่เป็นพลังชีวิตของวิญญาณที่สำคัญ
ดังนั้นร่างกายของพวกเขาจะตาย ส่วนวิญญาณของพวกเขาจะดิ่งลงไปสู่ระนาบต่างๆที่มีระดับพลังงานหนาทึบมากๆ
ที่เหมาะเจาะกับรูปแบบพลังงานที่ถูกบันทึกไว้ตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา

- ทุกๆอารยะธรรมทั่วทั้งจักรวาลนี้ ต่างก็มีจิตสำนึกมวลรวมเป็นของตนเอง
และเพราะว่าพลังงานเป็นสิ่งที่สามารถถูกกำหนดทิศทางได้ แต่ไม่สามารถห่อให้เป็นกลุ่มก้อน
หรือแบ่งแยกออกให้เป็นส่วนๆได้ ดังนั้น จิตสำนึกมวลรวมของแต่ละอารยธรรม หลายๆอารยธรรม
จึงประสานรวมกันเกิดเป็นจิตสำนึกมวลรวมของทั้งจักรวาลขึ้นมา (Universal consciousness)
หรือเกิดเป็นจิตใจของจักรวาล (Universal mind)

- พลังงานความคิดและความรู้สึกของพวกคุณมันไปส่งผลเสียต่อจิตสำนึกมวลรวมของ จักรวาล
นี่จึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมรูปธรรมชีวิตชั้นสูงจากที่ต่างๆทั่วทั้งจักรวาล มากมาย
จึงพากันปรารถนาดีและกระตือรือร้นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกคุณ ให้โลกของพวกคุณมีสันติสุข
รักใคร่กลมเกลียวกัน อย่างที่พวกคุณปรารถนา

- ตอนนี้ดาวเคราะห์โลกกำลังอยู่ระหว่างเส้นทางของการยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ และกำลังเข้าสู่ระนาบ
ที่มีระดับการสั่นสะเทือนของคลื่นความถี่ที่สูงขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีระดับการสั่นสะเทือนที่ต่ำกว่าจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

- ทุกๆกระแสความคิด ความรู้สึก และการกระทำที่เป็นด้านลบจากโลกมืดจะสิ้นสุดลง
เพราะว่าพลังงานเหล่านั้นไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ได้ในระดับความสั่นสะเทือน ที่สูงแบบนั้น

- จิตสำนึกมวลรวมของผู้คนบนดาวเคราะห์โลก จะขับไล่กระแสความคิดและความอยากที่เป็นด้านลบออกไป
แล้วจิตวิญญาณที่เติมเต็มด้วยแสงสว่างทั้งหลายก็จะสามารถลงมือทำในสิ่งที่ พวกเขาคิด
และปรารถนาได้อย่างไม่มีอะไรขวางกั้น

- ข้อความตอนสุดท้ายนี้ ผมจะตอบข้อสงสัยที่อยู่ในใจของคนหลายคน ที่ถามกันว่า

“โลกทุกวันนี้จะสามารถถูกเปลี่ยนสภาพ (Transform) ไป อย่างเห็นได้ชัด ภายในสิ้นปี 2012 ได้อย่างไร?”
และผู้อ่านหลายรายก็กล่าวกันว่า

“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้รวดเร็วอย่างนั้น หรือไม่ก็ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลยด้วยซ้ำ”

ผมจะขอบอกอีกครั้งว่า เพราะว่าจิตสำนึกมวลรวมแห่งจิตใจที่เติมเต็มด้วยแสงสว่างของพวกคุณทั้งหลาย นั่นเอง
ที่จะเป็นผู้ทำให้มันเกิดขึ้นได้ ความเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างบนดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกคุณ
กำลังดำเนินไปบนทางของพวกมันอยู่ การเปลี่ยนแปลงสันดานของมนุษย์โลก เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งที่สุด
ดังนั้น ได้โปรดเลิกสงสัยว่าความรุ่งเรืองแห่งยุคทองมันจะเป็นไปได้จริงหรือเปล่าซะ ที
เพียงแต่รู้ไว้ว่ายุคนั้นกำลังจะมาถึงแล้วก็พอ

- ในข้อความล่าสุดนั้น ผมได้กล่าวถึงแผนงานหลักสำหรับการเข้าสู่ยุคทองของดาวเคราะห์โลก (Golden Age Master Plan)

ซึ่งในแผนงานนี้รวมถึงเรื่องที่ Barack Obama ถูกเลือกให้เป็นประธานาธิปดีสหรัฐด้วย
เพราะเรื่องนี้ ก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของแผนการยกระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลกด้วย
และอีกครั้งหนึ่ง ผมจะขออ้างถึงจิตสำนึกมวลรวมว่า แทนที่พวกคุณจะมามัวกลัวว่านาย Obama
จะถูกลอบสังหารหรือไม่ จงรู้ไว้เถิดว่าเขาถูกปกป้องด้วยแสงแห่งพระคริสต์อยู่

- สภาวะเศรษฐกิจของโลกจะยังคงดิ่งลงต่อไป จนกว่าสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาจะถูกค้นพบ
และกำจัดให้หมดไป หรือถูกปฏิรูปไป

- แผนงานด้านวิชาการความรู้ คือการปลดปล่อยเทคโนโลยีที่ถูกครอบครองมานานโดยองค์กรณ์
หรือโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เคยคิดที่จะแบ่งปันความรู้ของตนเองเลย

- ภายในระยะเวลา 1 ปี พวกคุณจะได้รับเทคโนโลยีจากอารยะธรรมชั้นสูง ซึ่งจะสามารถช่วยกำจัด
มลภาวะในโลกของคุณได้ และมันจะช่วยสร้างผลลัพธ์ให้เห็นอย่างน่าประหลาดใจ

- ผมเคยถูกถามเกี่ยวกับการหยุดนิ่งของโลก และ “3 วันแห่งความมืด” (3 days of darkness)

ถ้าแปลตามนิยามของคำว่า “หยุดนิ่ง” (stasis) จริงๆแล้วเนี่ย มันก็คือการหยุด การชะงัก หรือการนิ่ง

แต่ว่า “การหยุดนิ่ง” ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะว่าจักรวาลทั้งจักรวาลยังคงเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
และทุกอย่างมันต้องเป็นไปอย่างสมดุลกัน ไม่มีอะไรในจักรวาลนี้สามารถนิ่งอยู่ได้
ในขณะที่ทุกสรรพสิ่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้กำลังเคลื่อนที่อยู่

สำหรับเรื่องสามวันแห่งความมืดนั้น ในประเด็นนี้ มันสามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะกรณีที่ดวงอาทิตย์
ได้จากระบบสุริยะจักรวาลของพวกคุณไป หรือว่าเกิดมีดวงดาวที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารมากๆมาบังดวงอาทิตย์ไว้เท่านั้น

(ยังมีต่อครับ)
......................................

 

ยังมีข้อความอีกเพียบครับ

ตามลิงค์ข้างบนนั้นไป และเปิดใจออกมาเพื่อรับรู้ซะตั้งแต่ตอนนี้

เพราะว่ายังไงช้า-เร็วคุณก็ต้องรู้อยู่ดี
เพราะเขาจะมาบอกคุณด้วยตัวพวกเขาเอง

....ในไม่ช้านี้....

"เรื่องจริง ยิ่งกว่านิยาย
อะไรก็เกิดขึ้นได้
อย่าตีกรอบ"

.........................

 

to คุณ lady of light นะครับ คือผมไม่ได้ไปว่าคนที่เชื่อเนื้อหาในกระทู้นี้เลยนะครับ ที่ผมโพสน่ะมันเป็นความคิดเห็นของผมเท่านั้น ถ้าคุณอ่านๆดีคุณจะเห็นว่าผมไม่ได้ว่าคนที่เชื่อเรื่องนี้สักนิดเดียว แล้วผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองถูกซะด้วย เป็นเพียงความคิดของผมเท่านั้น ผมก็รู้เท่าที่ผมรู้ มากกว่านั้นผมก็ไม่ทราบครับ
คือข้อความนั้นที่ผมโพส ที่ผมต้องการจะสื่อก็คือไม่ว่าคุณจะอยู่ดาวดวงไหนก็ตามถ้าคุณมาอยู่ที่นี่ก็ให้คิดซะว่าที่นี่ก็เป็นบ้านของคุณเช่นเดียวกันแค่นั้นแหละครับ ไม่ได้ว่าคุณหรือคนที่เชื่อเรื่องนี้ใดๆทั้งสิ้น
กลายเป็นว่าโดนว่าๆเป็นคนไม่ดีซะแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ดูเหมือนว่าความเป็นจริงบางอย่างเกี่ยวกับตัวผมมันค่อยๆหายไป แต่ก็ช่างเหอะครับ ผมบังคับให้ทุกคนมาชอบผมไม่ได้อยู่แล้ว
แหะๆ