คู่มือรักษาโรคด้วย "พลังจักรวาล"

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย Little yoda, 5 ตุลาคม 2007.

  1. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    สำหรับวิธีแก้อาการธาตุไฟเข้าแทรกดังกล่าว ผมไม่รู้ครับ เพราะตอนนั้นยังไม่ได้รับตำราการฝึก จากท่านอาจารย์ จำได้ว่ามีวันหนึ่งตอนนั่งทานข้าวเย็น,และดูทีวี จู่ ๆ มันเกิดปวดแสบร้อนที่ฝีเย็บอีก รู้สึกโมโหครับ ไม่ได้ทำมาธิ ไหงเป็นเช่นนั้น เลยรีบขึ้นไปสวดมนต์ จิตคิดไปว่า ถ้าจะตาย หรือถ้าจะบ้า จากการฝึก ก็ขอให้ได้ระลึกถึงพุทธคุณเป็นครั้งสุดท้าย ภาวนาพุทโธ ธัมโม ไปเรื่อย สักครู่หนึ่ง อาการแสบร้อนแถวบั้นเอวมาเยือน ขอสรุปดีกว่าครับ คือผมดัันอาการแสบร้อนขึ้นไปตามจักกระต่าง ๆ จนมาถึงช่วงครึ่งหัวด้านหลัง ซึ่งมันมีก้อนกระจุกอยู่ก่อนหน้า

    สิ่งที่ผมจะเล่าต่อจากนี้ไป มันไม่ตรงกับตำราหรือความรู้ที่ท่านคุรุทั้งหลายเล่ามาครับ คือผมรู้มาว่า จะต้องดันหรือขับสิ่งที่อุดตันออกทางกลางกระหม่อม (ตรงกลางหัว) ...แต่...เมื่อมาถึงจุดนี้คล้ายกับศรีษ่ะ ถูกดึงให้สูงขึ้น ๆ ๆ สิ่งที่อัดแน่นอยู่หลังหัว กลายเป็นความเย็น ซ่า ๆ แล้วค่อย ๆ ลอยขึ้นไปข้างบน มันออกไปแถว ๆ บนหัวนี่แหละครับ แต่ไม่ใช่กลางกระหม่อม แถวขอบศรีษ่ะข้างหลังมากกว่า มีพลังบางอย่างพุ่งขึ้นไปข้างบน หัวโล่ง ปลอดโปร่ง สบาย รู้สึกอัศจรรย์กับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ไม่นาน จู่ ๆ ไม่รู้ว่า มีอะไรตกใส่หัว แล้วแผ่กระจาย คลุมหมดทั่วร่าง
    ท่านไหนที่เข้ามาอ่านแล้วไม่เชื่อ จงถือว่า ฟังนิทานก็แล้วกัน
    ผมยังมีเรื่องเล่าการฝึกตามแบบของท่าน อาจารย์ SUWI และการอาบน้าทิพย์ของคุณย่าเยาวเรศ ที่พึ่งผ่านมา เล่าต่อพรุ่งนี้ครับ



     
  2. dont_worry

    dont_worry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +1,221
    ขอบคุณค่ะอาจารย์ หายจริงๆด้วยค่ะ
     
  3. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ คุณมารโลกันต์ ที่ผ่านพ้นอุปสรรคมาได้
    ตอนแรกผมยังนึกห่วงๆ อยู่ว่าพลังจะติดอยู่ที่ท้ายทอย พอรู้ว่าคุณสามารถดันออกไปได้ค่อยรู้สึกโล่งอกเลยครับ ก้าวหน้าเร็วจริงๆ ครับ

    การอาบน้ำทิพย์ของคุณย่าเป็นยังไงบ้างครับ เหมือนของ อ.Suwi หรือเปล่า ผมคิดว่าอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่คอนเซ็บก็คงคล้ายๆ กัน

    ต้องขอขอบคุณ อ.Suwi และ อ.สามเหลี่ยม มากครับ ที่แวะเวียนเข้ามาให้ความรู้ตลอดเชื่อว่าคงจะมีประโยชน์ต่ออีกหลายท่านที่กำลังฝึกฝนเรียนรู้กันอยู่ครับ(good)(good)(good)
     
  4. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ขอบคุณอาจารย์สามเหลี่ยมมากที่ช่วยส่งพลังให้เมื่อคืน ไม่งั้นนอนไม่ได้แน่ ๆ เลยค่ะ สรุปตอนเช้าไข้ขึ้นสูง แต่หนูไปถอนฟันมาแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะอาจารย์ (โชคดีมากเพราะเมื่อคืนไม่ต้องกินยายกแผงเหมือนเดิม)
     
  5. frozenprince

    frozenprince สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    2เล่มครับ อยากได้มากเลยครับ ติดต่อกลับทีนะครับ

    frozen_prince@windowslive.com
     
  6. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ทักทายครับท่าน Little yoda ว่าง ๆ อยากคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ครับ เดี๋ยวผมหาจังหวะดี ๆ โทรไปคุยด้วย แต่ตอนนี้อยากเล่าเกี่ยวกับการฝึกพลังเกศา,โลมา ของท่านอาจารย์ SUWI ครับ เริ่มจากภาวนาเกศา เกศา พร้อมกำหนดความรู้สึกไปที่เส้นผม ..........................รายละเอียดและวิธีการฝึก ผมว่าให้ท่านอาจารย์ SUWI อนุญาตก่อนดีกว่าครับ ขอข้ามตัดตอนไปเลย............................หลังจากภาวนาเกศาอยู่ได้พักหนึ่ง มีความรู้สึกเหมือนมีลูกคลื่น วิ่งไปวิ่งมาอยู่แถวกลางตัว และบริเวณแถวแก้มและข้างหู มีความรู้สึกว่ามันขยับขึ้นขยับลงได้ ผมนั่งดูไปได้พักใหญ่ ๆ จึงรู้ว่ามาผิดทาง เพราะตำรากล่าวไว้ว่า หากทำได้ ความรู้สึกจะเหมือนมีครอบแก้วที่หัว ตกลงวันนั้น ล้มเหลวครับ
    อีก 2 วันต่อมา เริ่มฝึกใหม่ ภาวนาเกศา ส่งความรู้สึกไปที่เส้นผมเหมือนเดิม เกศา เกศา เกศา ไม่รู้จะเอาจิตไปจับไว้ที่ส่วนไหนของเส้นผมดี งงเหมือนกัน มาเผลอสติตอนไหนไม่ทราบ ...........รู้สึกหัวมันเริ่มโตหรือขยายออก แต่พอนั่งดูมันไปอีกหน่อย หัวไม่ได้โตครับ แต่มันเป็นอะไรผมบอกไม่ถูก คล้าย ๆ กับมีรัศมีหยุ่น ๆ มันพองออกมาจากรอบหัว แล้วล้อมหัวผมไว้อยุ่ อันนี้กระมังที่ อาจารย์ SUWI เรียกครอบแก้ว พอได้เจ้าตัวเกศาแล้ว ตำราเขาบอกว่า............ต่อไปฝึกโลมา โลมา โลมา ภาวนาไปไม่ถึง 2 วินาที (ถ้าทำความรู้สึกที่เกศาได้แล้ว อันอื่นจะมาเร็วมาก) รู้สึกเส้นขนตั้งชันขึ้นมา และมีรัศมีหยุ่น ๆ ค่อย ๆ พองออก ๆ ๆ ล้อมรอบตัวผมไว้ พอเอาใจนึกให้มันพองใหญ่ขึ้นหรือเล็กลง ก็ทำได้ครับ มหัศจรรย์มาก ต่อไป...ในตำราบอกว่าต้องคงความรู้สึกที่เกศาไว้ให้ได้ด้วย ก็เลยนึกกลับไปที่เกศาใหม่ อิอิ ความรู้สึกพองที่เกศาชัดเจน แต่ความรู้สึกที่ โลมา กลับน้อยลงไป..........ภาวนานขา นขา นขา เป็นคำที่สาม รู้สึกแถวหัวแม่มือ และบริเวณมือทั้ง 2 ข้าง มีอะไรแปล๊บปล๊าบ ๆ อยู่ พอมาดูที่ท้องน้อย รู้สึกเสียว ๆ ร้อน ๆ ตำำราบอกว่า ต้องคงความรู้สึกที่ เกศาและโลมาไว้ด้วย ฮ่า ๆ ๆ
    เสดครับ อิอิ หงายท้องเก๋งเลย ความรู้สึกที่พองอยู่ตรงเกศา โลมา หายวับไปกับตา .............ศิษย์มารโลกันต์ ไม่เอาถ่านจริง ๆ ครับ ท่านอาจารย์ SUWI
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2008
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    นี่คือหนึ่ง ในอาการที่เกิดขึ้น และผู้ฝึกยังไม่เข้าใจ การเดินปราณ ทำให้ปราณอัดกระจุกอยู่ในร่าง
    ซ้ำนี้ยังมีพรสวรรค์ กระตุ้น กุลฑาลินีได้ อาการจึงทวีคูณ
    อาการยังมีมากกว่านี้มากมาย ตะครั่นตะครอไปทั้งตัว เจ็บตรงโน้น ปวดตรงนี้ไม่มีที่ไปที่มา อยู่ๆก็เป็นขึ้นมา ฯลฯ ๆๆๆ
    ทำไปทำมา เอ โดนผีเข้า หรือเทพเทวดามาขออยู่ด้วยหว่า ฯลฯ วิตกจริตร ไปต่างๆนาๆ
    มันทรมารชนิดบนอกไม่ถูก เล่าบอกอาการให้ใครฟังก็บอกไม่ได้
    บอกคืนวิชาได้ ก็อยากคืนๆไปซะให้พ้นๆตัว

    นี่จึงเป็นที่มาของการขอปิดจักระ ตามที่ได้เล่าให้ฟังไปแล้ว

    และเมื่อเข้าใจในเรื่องของพลัง เข้าใจการหมุนเวียนถ่ายเท ปัญหาต่างๆก็จบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2008
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    จุดดังกล่าว ถ้าใช้มือคลำดู จะพบรอยบุ๋มเล็กๆ
    เวลาที่ suwi ปิดจักระ หรือรักษาอาการต่างที่ไม่มีที่ไปที่มา อาการปวดศีรษะแบบไม่รู้สาเหตุ
    suwi จะใช้พลังที่เหนือกว่า บังคับให้ปราณที่กระจุกทั้งตัว ไหลออกที่จุดนี้ พร้อมจัดสนามพลังไปพร้อมกัน

    จุดดังกล่าวเป็นจักระย่อยระหว่างจักระ 6 กับ จักระ 7
    ใครก็ตามมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา เมื่อถ่ายพลังให้จุดนี้ สายตาจะดีขึ้น
    ถ้ากำหนดจิตไว้จุดนี้ดึงพลังลง(ดูด) พร้อมกุลฑาลินีขึ้น รวมที่ท้ายทอย(กำด้น)พุ่งไปที่หน้าผาก ตาจะดีขึ้น (ระวังอาจเห็นผีได้)

    สังวรการฝึกด้วย อย่าให้มากเกินจนร่างทนไม่ได้
    ถ้าตึงท้ายทอยมากเกิน ให้ระบายออกด้านบนที่จุดดังกล่าว
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ตรงที่เน้นสีแดงไว้ เป็นปกิณกะ ที่ใช้ประโยชน์อย่างอื่น
    ฝึกสายตรงให้คล่องก่อน
    วิชชานี้มี ปกิณกะเป็นของเล่นมากมาย ใช้ได้ไม่รู้จบ แล้วแต่กำลังปัญญาของแต่ละคน
     
  10. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ขอบพระคุณท่านอาจารย์ SUWI เป็นอย่างสูงครับ ผมลองเอามือคลำแล้ว มีรอยบุ๋มอยู่ตรงนั้นจริง ๆ น่าจะต่ำกว่าขอบศรีษ่ะ 1 - 2 นิ้ว พอดีไม่มีไม้บรรทัดวัดครับ
    เวลาที่พลังมันวิ่งขึ้นไป ไม่ได้วิ่งแบบพรวดพราดครับ มันค่อย ๆ ลอยขึ้นไปข้างบน แบบช้า ๆ (ความรู้สึกของผมน่าจะประมาณ 10 วินาที) แล้วมันหยุดของมันเอง มาตกใส่หัวเอาทีหลัง
    อยากเห็นผีครับท่านอาจารย์ แต่ให้ดึงพลังคุณฑาลิณีขึ้นมา คงต้องหยุดครับ ผมเพิ่งรอดมาหวุดหวิด มันเป็นบทเรียนที่ต้องจำ ห้ามยุ่งกับมัน จักกระที่ 1 :'(
     
  11. ha801

    ha801 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +928
    เห็นด้วยครับ ควรมีอาจารย์ ไม่ควรฝึกเอง โดยปกติแล้ว มันจะเปิดเองทำงานเอง ถ้าฝึกหมุนจักระบ่อยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2008
  12. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    เรื่องการอาบน้ำทิพย์ของคุณย่าเยาวเรศ ใจแท้จริงแล้ว ผมอยากจะเริ่มตรงจุดการสร้างลูกแก้วสีขาว ตั้งแต่ลูกแรก จนถึงลูกสุดท้าย เพื่อเผยแพร่เป็นวิทยาทาน ซึ่งผู้ที่ฝึกได้ จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างยิ่งยวด แต่...ดูเหมือนในวันที่ฝึกรุ่นพัฒนาจักกระ ได้ยินคุณย่าเอ่ยถึง มีลูกศิษย์บางคนนำข้อความที่ไม่เหมาะ ไปโพสต์ทางอินเตอร์เน็ท ซึ่งท่านไม่ได้เอ่ยชื่อว่าใคร สรุปเป็นว่า ผมจะขอเล่าแต่เพียงบางส่วน เพื่อเป็นการเคารพต่อครูบาอาจารย์ และไม่ให้เกิดความเสียหายแก่วิชา หรืออะไรก็แล้วแต่

    เริ่มเล่าเรื่องราว ตัวผมเอง ภรรยา และบุตรสาว ทุกคนต่างเข้ารับการฝึกเพราะมีความสนใจในแนวเดียวกัน หลังพิธีอาบน้ำทิพย์เสร็จสิ้น ภรรยาไม่มีความรู้สึกอย่างใดเกิดขึ้น ส่วนลูกสาวบอกขนลุกทั้งตัว ได้สอบถามเพื่อนที่อยู่ใก้ลเคียง ต่างบอกว่าขนลุกตั้งชัน แต่...ของผม มีอาการดังนี้ครับ..........................หลังจากรวมลูกแก้วทั้ง 7 ลูก มาไว้ที่กลางกระหม่อมได้แล้ว ได้ยินเสียงคุณย่าบอกว่า ให้นำพลังส่งลงมาอาบทั่วร่าง....แต่ในขณะที่คุณย่ากล่าวนั้น จิตผมแวบ ๆ ไปว่า ไม่ทันแล้วครับ เพราะพอลูกแก้วมารวมกันครบ 7 ลูก พลังบางอย่างมันไหลลงมาเอง ลักษณะคล้าย ๆ กับหลอดไฟนีออนสีขาว มีรัศมีจาง ๆ แผ่ออกมาจากสีขาวอีกทีหนึ่ง หว่า! บรรยายยากครับ เอาเป็นว่ามันไหลจากกลางกระหม่อม ลงมาที่ข้างแก้ม ลงไปตามบ่า ลงไปตามแขน และหน้าตัก เป็นเส้นขาวเรื่องแสง ไหลไปตามท่าที่ผมนั่งอยู่ ขนลุกชันขึ้น ตัวพอง ไม่รู้จะบรรยายไง เอาเป็นว่า ตามนี้ครับ สำหรับใครอยากรู้ขั้นตอนการฝึก ผมคงจนปัญญาเพราะคำว่า " อาจารย์ " นั้นคำหัว ต้องไปศึกษาเองครับ

    ผมมาสงสัยตรงที่ว่า ตัวเรานี้ไม่มีทิพย์จักษุ แต่ในเวลาขณะนั้น มันมองเห็นเส้นสีขาวได้อย่างไร
     
  13. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    เรื่องการอาบน้ำทิพย์ของคุณย่าเยาวเรศ ใจแท้จริงแล้ว ผมอยากจะเริ่มตรงจุดการสร้างลูกแก้วสีขาว ตั้งแต่ลูกแรก จนถึงลูกสุดท้าย เพื่อเผยแพร่เป็นวิทยาทาน ซึ่งผู้ที่ฝึกได้ จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างยิ่งยวด แต่...ดูเหมือนในวันที่ฝึกรุ่นพัฒนาจักกระ ได้ยินคุณย่าเอ่ยถึง มีลูกศิษย์บางคนนำข้อความที่ไม่เหมาะ ไปโพสต์ทางอินเตอร์เน็ท ซึ่งท่านไม่ได้เอ่ยชื่อว่าใคร สรุปเป็นว่า ผมจะขอเล่าแต่เพียงบางส่วน เพื่อเป็นการเคารพต่อครูบาอาจารย์ และไม่ให้เกิดความเสียหายแก่วิชา หรืออะไรก็แล้วแต่

    เริ่มเล่าเรื่องราว ตัวผมเอง ภรรยา และบุตรสาว ทุกคนต่างเข้ารับการฝึกเพราะมีความสนใจในแนวเดียวกัน หลังพิธีอาบน้ำทิพย์เสร็จสิ้น ภรรยาไม่มีความรู้สึกอย่างใดเกิดขึ้น ส่วนลูกสาวบอกขนลุกทั้งตัว ได้สอบถามเพื่อนที่อยู่ใก้ลเคียง ต่างบอกว่าขนลุกตั้งชัน แต่...ของผม มีอาการดังนี้ครับ..........................หลังจากรวมลูกแก้วทั้ง 7 ลูก มาไว้ที่กลางกระหม่อมได้แล้ว ได้ยินเสียงคุณย่าบอกว่า ให้นำพลังส่งลงมาอาบทั่วร่าง....แต่ในขณะที่คุณย่ากล่าวนั้น จิตผมแวบ ๆ ไปว่า ไม่ทันแล้วครับ เพราะพอลูกแก้วมารวมกันครบ 7 ลูก พลังบางอย่างมันไหลลงมาเอง ลักษณะคล้าย ๆ กับหลอดไฟนีออนสีขาว มีรัศมีจาง ๆ แผ่ออกมาจากสีขาวอีกทีหนึ่ง หว่า! บรรยายยากครับ เอาเป็นว่ามันไหลจากกลางกระหม่อม ลงมาที่ข้างแก้ม ลงไปตามบ่า ลงไปตามแขน และหน้าตัก เป็นเส้นขาวเรื่องแสง ไหลไปตามท่าที่ผมนั่งอยู่ ขนลุกชันขึ้น ตัวพอง ไม่รู้จะบรรยายไง เอาเป็นว่า ตามนี้ครับ สำหรับใครอยากรู้ขั้นตอนการฝึก ผมคงจนปัญญาเพราะคำว่า " อาจารย์ " นั้นคำหัว ต้องไปศึกษาเองครับ

    ผมมาสงสัยตรงที่ว่า ตัวเรานี้ไม่มีทิพย์จักษุ แต่ในเวลาขณะนั้น มันมองเห็นเส้นสีขาวได้อย่างไร
     
  14. RuamJit

    RuamJit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +628
    ยินดีด้วยครับ มารโลกันต์ ที่ผ่านมาได้
    และ ขอบคุณ อ.suwi มากๆครับ ที่นำความรู้ดี ๆ มาฝากน้องๆครับ เอามา POST อีกนะครับ น้องๆรออยู่:VO
     
  15. Little yoda

    Little yoda เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,453
    หลังจากที่ได้พูดคุยกับ คุณมารโลกันต์ ก็ทำให้ทราบว่า
    เมื่อก่อนจากที่เป็นคนไม่ค่อยจะเชื่ออะไรง่าย ๆ
    ตอนนี้กลับกลายเป็นคนละคนไปแล้วครับ หลังจากที่ได้พบกับ
    ประสบการณ์หลายๆ ที่ตื่นเต้นหลายอย่างด้วยตนเอง จนไม่รู้ว่า
    จะหาคำใดมาอธิบายได้หมด ทำให้เกิดความต้องการที่จะเรียนรู้
    ในระดับที่สูงขึ้นต่อไป เพื่อพัฒนาความสามารถของตนเอง

    ก็ขออนุโมทนาด้วยนะครับกับสิ่งดีๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ผมว่า
    น่าจะเปลี่ยนชื่อจาก มาร เป็น เทพ ก็น่าจะฟังดูดีนะคราบบ
    (sing)(sing)(sing)
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    อ้าว .. เข็ดขี้อ่อนขี้แก่เสียแล้วหรือ
    ทำไงได้..ของมันเคยขึ้นมาแล้ว ทาง(นที)ถูกกรุยผ่านแล้ว ทางสะดวกแล้ว
    ไม่อยากยุ่งด้วย ก็ต้องยุ่ง เลี่ยงยังไงก็เลี่ยงไม่พ้น ถ้าตราบใดยังฝึกอยู่

    วิธีดีที่สุด ศึกษา ทำคามรู้จัก เหตุที่เกิด วิธีการควบคุม และวิธีใช้ประโยชน์
     
  17. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เรื่อง ไฟธาตุแตก และวิธีการรักษา 1. (เป็นนิทานเรื่องยาว ตามอ่านหน่อนนะ)


    ทั้งหมดขออธิบายตามหลักวิชาการของไทย


    ธาตุสี่ ที่ประกอบเป็นกายมนุษย์ ประกอบด้วย
    ๑. ธาตุดิน ๒๐ (เกสา โลมา ...... มัถเกมัถลุกัง)
    ๒. ธาตุน้ำ ๑๒ (นำเลือด นำหนอง .. ฯลฯ)
    ๓. ธาตุลม ๖ (อุทังมาวาตา อัทโธ ...ฯลฯ)
    ๔. ธาตุไฟ ๔ (สันตัปปัคคี ปริณาหัคคี ปริทัยหัคคี ชิรนัคคี)

    ธาตุที่เป็นแกนหลักของร่างกายคือ ธาตุดิน
    ธาตุที่เป็นพลังงานคือธาตุ น้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ
    ธาตุน้ำ เป็นธาตุเชื่อม ระหว่างสสาร(ดิน)กับพลังงาน
    ธาตุลม เป็นธาตุที่อยู่กลางระหว่างธาตุน้ำและไฟ ทำให้น้ำและไฟเคลื่อนที่ผสมกลมกลืนกันเพื่อให้เกิดความสมดุลย์
    และน้ำเป็นผู้นำ ไฟไปหลอ่เลี้ยงดิน
    เมื่อดินมีความชุ่มชื้นและอบอุ่นเพียงพอก็จะสามารถทำงานได้ ตามบัญชา(เจสิก)แห่งชีวิต(จิตวิญญานที่มาอาศัยอยู่)

    ไฟจะไม่หล่อเลี้ยงดินโดยตรง แต่หล่อเลี้ยงดินโดยผ่าน น้ำ
    หากลมแปรปรวน น้ำ-ไฟจะผสมกันไม่ได้
    น้ำ-ไฟ จะไปกระทบดินโดยตรง
    อาการหนาว - ร้อน จะเกิดกับร่างกายในเวลาติดๆกัน(เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว)
    และมีอาการ ของเลือดลมกระจุกตัวเป็นก้อน เป็นดาน อยู่ตามร่างกาย
    เหมือนคลองที่ถูกกั้นไม่ให้น้ำไหลไปมาได้ ไม่นาน น้ำก็เน่าเสีย
    ครั้นทิ้งนานไป มีเชื้อโรค/จิตวิญญานอื่น เข้าแทรก อาการโรคก็จะแปรไปต่างๆนาๆยากรักษา

    นี่คืออาการไฟธาตุแตก ทีพวกเรารับรู้กันอยู่

    แต่ความจริงแล้วไฟธาตแตกยังมีเรื่อราวมากกว่านี้
     
  18. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    พอดีผมกับท่าน Little yoda ได้โทรคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เมื่อวันอังคาร แหม ! เอาความลับส่วนตัวมาเปิดเผย เท่านั้นยังไม่พอ แอบตะล่อมถามวิธีฝึก การอาบน้ำทิพย์ ป่านนี้ไม่รู้ไปถึงไหน เห็นเปลี่ยนรูปแทนตัวจากสีเขียวเป็นสีแดง ช่างน่าสงสัย ! ในมวลพลัง
    มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่ท่าน Little yoda ได้แสดงความยินดี ที่ผมผ่านเรื่องธาตุไฟเข้าแทรก ผมได้ตอบกลับไปในทำนองว่า คลับคล้ายมันยังมีอยู่ คือมันยังจิ๊ด ๆ อยู่ ตรงฝีเย็บ (จักกระ 1) เพียงแต่ เจ้างูสีแดงหนึ่ง และงููสีเขียวอีกหนึ่ง มันคงเกิดอาการเซ็ง ที่ผมไม่เต็มใจต้อนรับ เลยรอดูท่าทีผมไปก่อน เข้าใจว่างั้นครับ
    เมื่อมาเห็นข้อความท่านอาจารย์ SUWI จิตคิดไปว่า ท่านช่างรอบรู้จริง ๆ นับถือ ๆ
     
  19. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ขอความเมตตาจากคุรุทั้งหลาย

    ผู้ป่วยรายนี้ เดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปหาภรรยาที่ จ.ชลบุรี คืนเกิดเหตุเป็นวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา ผู้ป่วยได้ชวนภรรยาออกไปเวียนเทียน ระหว่างที่รอภรรยาอาบน้ำนั้น ตัวบุตรสาว ได้ตะโกนบอกคุณแม่ว่า แม่ ๆ พ่อเป็นอะไรไม่รู้ตัวเขียว ๆ ภรรยาจึงรีบออกจากห้องน้ำ และตกใจที่เห็นตัวผู้ป่วย เขียวไปทั้งตัว และหยุดหายใจ สรุปเป็นว่าเธอได้นำส่งโรงพยาบาล ซึ่งจากการที่ผมสอบถาม ได้ความว่า ผู้ป่วยหยุดหายใจไปถึง 20 นาที ซึ่งความจริงน่าจะเสียชีวิต แต่หมอก็เก่งครับ ที่สามารถทำให้ฟื้นขึ้นมาได้ เธอหมดค่ารักษาเพียงวันเดียว ห้าแสนกว่าบาท จึงขอย้ายผู้ป่วยมาโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งขณะนี้ ผู้ป่วยลืมตาได้ กรอกตาไปมาได้ แต่ไม่สามารถพูดหรือขยับตัว อาการแบบนี้ ผมเข้าใจว่าคงถึงขั้นตรีทูต หากตัวผมเองมีพลังที่สามารถรักษาทางไกลได้ ผมจะส่งพลังไปรักษาทันที แต่..ผมไม่รู้วิธี..จึงขอความเมตตา จากคุรุทั้งหลาย ส่วนผลออกมาอย่างไรนั้น คงเป็นไปตามกงล้อกรรม...



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Photo-0016.jpg
      Photo-0016.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.3 KB
      เปิดดู:
      103
    • Photo-0017.jpg
      Photo-0017.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.3 KB
      เปิดดู:
      100
    • Photo-0019.jpg
      Photo-0019.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.8 KB
      เปิดดู:
      93
  20. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    วันนี้เมื่อช่วงบ่าย บังเอิญมองเห็นตะขาบตัวเขื่อง ๆ เลื้อยอยู่แถวกองหินที่บ้าน
    ผมจึงนำอุปกรณ์บางอย่าง ไปจับขึ้นมา ใส่ถังน้ำ แล้วนำเจ้าตะขาบไปปล่อยในพงหญ้า
    ตัวผมเอง เท่าที่จำความได้ เจอะตะขาบมาแล้วนับร้อยตัว ที่เข้ามายังบ้าน แม้แต่งููเห่า
    งูแมวเซา เจอมาแล้วมากมาย ครั้งหนึ่งบังเอิญเดินข้ามทางรถไฟ เห็นคนกลุ่มหนึ่ง กำลัง
    จะหาไม้ตีลูกงูเห่า ผมจึงเข้าผสมโรง จับลูกงูเห่าตัวนั้น ใส่ถุง เสร็จแล้ว นำไปปล่อยในที่ปลอดภัย เคยมีผู้หญิงรายหนึ่ง เกิดงูแมวเซามาขดอยู่ในเตา พอผมทราบ จึงเริ่มปฏิบัติการ ไม้กดคอ มือคีบหัว จับใส่กล่องกระดาษ แล้วพามันไปปล่อย กระทำเช่นนี้มาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน ,มองเห็นแมลงลอยน้ำอยู่ตรงหน้า รู้ว่ายังมีชีวิต กิ่งไม้อยู่ใก้ล อิอิ มา ๆ ขึ้นมาจากน้ำ จิตใจอย่างผมนี่แหละที่เรียก มารโลกันต์ หากใครเห็นผู้ป่วยแล้วไม่เกิดความเวทนา แม้เพียงหนึ่งเสี้ยว จะเรียก.......รัยดี !
     

แชร์หน้านี้

Loading...