จิตจักรวาล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 3 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790

    ไม่ต้องขออภัยกันหรอกครับ เราแค่สนทนาธรรมกันตามปกติ คนเราไม่ต้องศึกษาเลยก็ได้ แค่มีกายกับใจมาสนทนาธรรม ก็พอแล้ว

    จุดประสงค์จริงๆ คือ เมื่อผมไปอ่านจิตจักรวาลแล้ว ก็ไม่อยากให้นำแนวคิดนั้น มาทำให้หันเหไปจากที่พุทธศาสนาสอน และที่ต้องคุยกับท่านก็เพราะมีแค่ท่านกับท่านjityim เท่านั้น ที่เหมือนจะคุยกับ จขกท รู้เรื่อง เพราะผมอ่านที่ จขกท เขียน สามสี่รอบก็ยังไม่เข้าใจ เหมือนการที่ จขกท มาพูดรวมกันทำให้ผม คิดว่า จขกท สร้างระบบการสอนใหม่ หรือเปล่า มันเป็นความสงสัย

    นอกจากนี้ การขึ้นหัวข้อของ จขกท ว่า จิตจักรวาล มารฟ้า พระพุทธเจ้า สุริยธาตุ ทั้งหมดนี้คือสิ่งเดียวกัน มันสุ่มเสี่ยงว่าปรามาสพระรัตนตรัยหรือไม่ด้วย แต่อ่านไปแล้วก็ยังงงว่า จขกท มีความมุ่งหมายอะไร ถ้าสิ่งใดไม่มีอยู่นอกจากความฟุ้งซ่านปรุงแต่ง แต่เอามาเทียบกับพระพุทธเจ้า มันจะไม่เหมาะสม

    แต่เพื่อรอมชอม เพราะภาษาอาจทำให้เข้าใจผิดแต่เจตนาเป็นคนละเรื่องก็ได้ ก็เลยแค่จะวิจารณ์ จขกท และวิจารณ์กระทู้นี้ ผ่านการพูดคุยกับท่าน ถือวิสาสะคุยกับท่านแทน ว่า ระบบจิตจักรวาล กับศาสนาพุทธ มันคนละระบบกันเลย การมาพูดเทียบกันหากไม่ระวัง ความข้างจิตจักรวาลอาจบิดเบือนข้างพุทธศาสนาครับ

    ปล. ผมสิต้องขออภัย ที่ถือท่านกับท่านjityim เป็นตัวแทนของ จขกท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2016
  2. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ดีครับความรู้ทั้งหลายจะเกิดขึ้นและเข้าใจได้ก็ต้องผ่านการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันนี่ละครับ เพราะแต่ละคนที่ปฏิบัติเรียนรู้มาได้พบเจออะไรที่แตกต่างกันมากมายล้วนเป็นสิ่งล้ำค่าทั้งนั้นแต่ก็ต้องรับฟังและพิจารณาให้ดี
    แต่จะให้บิดเบือนคงยากเพราะถ้าจะเดินก้าวต่อไปโดยไม่มีคำสอนของพระองค์เป็นแนวทาง น่าจะไม่รอดครับ แค่เป็นคนดียังไม่ได้มันก็ตกๆหล่นๆอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน
    ธรรมจากธรรมชาตินั้นก็มาจากที่เดียวกันนี่ครับอยู่ที่เราเข้าใจธรรมตัวนั้นมากแค่ไหนใช้อย่างไรเท่านั้นเอง และบางครั้งก็ตีความไปตามสัมมา และมิจฉา ที่เขาได้เรียนรู้มาอีกสำหรับผมรู้อะไรก็จะมาไล่เรียง ตามมรรคละครับว่าเบียดเบียนข้อไหนหรือเปล่า พอใช้บ่อยๆมันก็เป็นนิสัยนะครับมันจะเช็คเองเมื่อจะทำอะไร
    หวาย ผมแทนใครไม่ได้หรอกครับผมยังเป็นเด็กซนๆอยู่เลยครับ:cool:
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ไม่รู้ว่าท่าน ณ ฉัตรได้อ่านติดตามโพสของ jityim หรือเปล่า
    ถ้าไม่ได้ติดตามก็คงจะไม่รู้ว่า jityim เจอความอัศจรรย์อะไรบ้าง
    ซึ่งสิ่งที่เจอนั้น ทำให้ได้อ่านข้อความต่างมิติเข้าใจได้อย่างดี
    เพราะมันตรงกับจิตภายใจของ jityim ที่ตนเองสัมผัสมาด้วยตนเองนะคะ

    แล้วตนเองเป็นผู้นับถือศาสนาพุทธ ศึกษาคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
    และครูบาอาจารย์ท่านอื่น ๆ มานานมากแล้ว และก็มีเหตุให้ได้อ่านหนังสือ
    ของ อ.ป เล่มแรกเนื่องจากมีผู้นำมาให้ เนื่องจากอ่านแล้วจิตได้เข้าใจ
    ว่าใช่และตรงกับสิ่งที่ตนเองสัมผัสมานะคะ

    และในหนังสือนั้น ผู้เขียนก็บอกว่า มิใช่ความรู้ส่วนตัวที่มีอยู่เลยแม้แต่น้อย
    แต่เป็นการสื่อสารระบบจิตสู่จิต เป็นข่าวสารจากต่างมิติ คือ รับคลื่นสัญญาณ
    ที่เป็นผลึกทางความคิด จากกลุ่มรูปธรรมทางพลังงานที่อยู่ในสนามพลังงาน
    เหนือจักรวาลโลก

    การเผยแพร่คลื่นความคิดจากต่างมิติ เป็นการสื่อรับสัญญาณวิธีใหม่
    ที่ไม่ใช่การเข้าทรง ไม่ใช่สิ่งอัศจรรย์เฉพาะตัว หากผ่านการฝึกฝนจนเกิดทักษะ
    ใคร ๆ ก็สามารถปฏิบัติได้ โดยเฉพาะยุคพลังงานใหม่ เนื่องจากช่องทาง
    การสื่อภาษาที่สาม หรือ ตาที่สาม ที่บุคคลพิเศษหลาย ๆ คนเข้าใจดีว่า
    คุณสมบัติตาที่สามคืออะไร จะสามารถทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากว่า...
    การเปลี่ยนแปลงพลังงานยุคใหม่นี้...

    หากยืนยันเฉพาะตนเองคงไม่มีใครเชื่อ...

    ได้เคยเข้าไปอ่านสาสน์ของหลวงปู่เทพอุดรท่านก็ยังกล่าวถึง..พลังงานใหม่
    และสิ่งมหัศจรรย์ที่ jityim link มาให้ดูค่ะ

    สาส์นสำคัญจากหลวงปู่เทพโลกอุดร | เตือนภัยพิบัติโลก

    link นี้อยู่ในห้องภัยพิบัติ ซึ่งความจริงไม่ได้ต้องการจะตอบโพสนั้น
    เพราะคิดว่าเรารู้จริงหรือยัง..ถ้าไม่แน่ใจจะไม่ลง แต่จะจดจำวันที่โพสล่าสุดไว้
    เพื่อจะนำมาอ่านอีกครั้งหากว่าเป็นข้อมูลเชื่อมโยงสำคัญได้ แต่เข้าไปค้นหา
    แล้ว ดูวันที่สุดท้ายกลับไม่มีโพสนี้ ก็เลยแปลกใจ ทำอย่างไรดีหว่า!
    ก็เลยตัดสินใจอย่างไรก็ตอบโพสไปก่อน เพื่อที่จะนำสาสน์นี้มาได้อีกที
    ก็ต้องตอบโพสไปก่อนแล้วค่อยไปค้นไปที่ชื่อตอบโพสของ jityim
    ก็คงหาได้ง่ายกว่า ดีกว่าหาไม่เจอ

    ความรู้จากจิตจักรวาลนี้ ยังมีข้อมูลของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล และที่ท่านธรรมชาติ
    นำมาลง และ ประสบการณ์ของ jityim ที่กระทู้นี้

    http://palungjit.org/threads/%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8.547855/page-2

    อ่านที่ หน้า 2 # 33 ถึง 35 นะคะ ถ้าจะให้ชัดในข้อมูลที่ท่านธรรมชาติตอบ
    ต้องไปที่ห้องภัยพิบัติ กระทู้ ของท่าน Supako ประมาณหน้า 10-11

    เห็นว่าเป็นความรู้ใหม่ ที่เกี่ยวกับเบื้องหลังมิติโลก และ เกี่ยวกับพิบัติภัยธรรมชาติ
    เนื่องจากสาเหตุใด เราและโลกเกี่ยวข้องกันอย่างไร

    เพื่อให้มวลมนุษย์ชาติเข้าใจ เพราะจักรวาลยึดถือความเป็นหนึ่งเดียวกัน
    ไม่ได้ต้องการสร้างลัทธิใหม่ และทำลายศาสาใดอันศักดิ์สิทธิ์บนโลกนี้
    แต่ต้องการยกระดับสติปัญญาของมนุษย์ ด้วยความรู้ใหม่เพื่อให้ทุกคนเติมเต็ม
    ในส่วนที่ขาด ให้สามารถเข้าถึงแก่นแท้ของสัจธรรมแต่ละศาสนา
    ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้น ..ผู้เขียนบอกสื่อความคิดจากจิตจักรวาล

    ส่วนความเข้าใจของผู้ใดจะได้มากน้อยแค่ไหน...ก็ที่อยู่บุคคลคนนั้นค่ะ
    เพราะศาสนาพุทธ ก็ได้สอนเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อหลุดพ้น
    แต่ข้อความคลื่นนี้ ต้องการให้ทราบว่า โลกประสบปัญหานี้จิตใจของคน
    ตกต่ำไปในระดับไหน โลกก็มีสภาพอย่างที่เห็นกันคือ ภัยพิบัติโลก
    เกิดจากจิตใจคน ถ้าทุกคนในโลกไม่ช่วยกัน หรือ ศีลธรรมไม่กลับมา
    โลกาจะวินาศ เพื่อให้รู้ว่า เราและโลกคือสิ่งเดียวกันแยกออกจากกันไม่ได้

    ทำให้คิดว่า ทำไมยุคที่จิตใจคนดีงาม อย่างยุคพระศรีอาริย์ในอนาคตข้างหน้า
    ที่พระพุทธองค์จะทรงลงมาเกิด จึงเรียกว่า ยุคศิวิไลย์ สิ่งนั้นก็ต้องเป็นโลก
    ที่สวยสดงดงามดั่งสวรรค์ และยุคสุดท้ายก่อนสิ้นกัลป์บรรลัยกัลย์คนอายุน้อย
    มาก 10 ปี จิตใจคนโหดเหี้ยดุร้าย เข่นฆ่ากัน ต้องพินาศด้วยไฟบ้าง น้ำบ้าง
    ลมบ้าง ก็แล้วแต่จิตใจของคนนั้นมากไปด้วยอะไร คือ โลภะ โทสะ โมหะ
    เป็นการที่ทำให้เรารู้ในสิ่งที่เป็นความรู้ใหม่ เพื่อให้ได้เข้าใจตนเองมากขึ้น
    เพราะถึงอย่างไร ถ้าเราไม่มีคำสอนของพระพุทธองค์ที่ทรงรับรองอยู่แล้ว
    พื้นฐานภายใต้จิตใจที่หลงยึดติดตัวตนจะไม่มีวันเชื่อได้เลย แต่นี่สื่อที่ส่งมา
    ล้วนแล้วอธิบายศาสนาพุทธให้เข้าใจได้กว้างขวางยิ่งขึ้น..สำหรับตัวเอง

    และ รหัสลับพุทธทำนาย

    เท่าที่ได้อ่านน่าทึ่ง ที่สื่อความคิดจิตจักรวาล รู้ได้ในสิ่งที่มนุษย์ยังไม่รู้
    และก็ได้เกิดขึ้นบางส่วนแล้วจริง ๆ ตามที่ได้อ่านมา

    หากการอ่านนี้ทำให้เรารู้เพิ่ม หรือ ไมว่าจะเป็นข้อมูลอะไรที่ทำให้เราได้
    สั่งสมเพิ่มพูนเป็นปัญญาก็น่าเป็นสิ่งที่สนใจนะคะ เพราะอย่างไรเราชาวพุทธ
    ก็ต้องใช้พิจารณาด้วยสติปัญญาของตนเอง ตามหลักกาลามสูตรด้วยแล้ว
    เพราะพระพุทธองค์ก็ทรงให้หลักในการตรวจสอบตรงคำสอนของพระพุทธองค์ไว้
    ว่าชาวพุทธควรทำอย่างไร

    หากสิ่งนี้ เป็นข้อมูลความรู้ที่ทำให้ได้เข้าใจตนเองมากขึ้น ก็ไม่น่าเสียหายอะไร
    นะคะ ส่วนเรื่องปรมัตถ์ เรื่องจิต เรื่องนิพพาน ต้องตอบกันเป็นประเด็น ๆ
    และต้องนำหลักคำสอนของพระพุทธเจ้ามาประกอบ และ ที่นี้ ท่านเหล่านั้น
    ได้สัมผัสสภาวะนิพพานชั่วคราวแล้วหรือยังนะค ถึงจะคุยกันรู้เรื่องน่ะ

    แต่ถ้ายังไม่ได้สัมผัสต้องเปิดใจกว้างก่อนค่ะ แล้วค่อย ๆ มาพิจารณาร่วมกัน
    คือ คำสอน และ ความรู้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์ที่ท่านปฏิบัติได้ และ
    จากเพื่อสหธรรมมิกด้วยกัน เพื่อจะได้เรียนรู้และเข้าใจความจริงได้เหมือนกัน
    แม้ว่าจะเป็นการล่วงรู้ ที่ยังไม่หยั่งรู้ ก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลยก็ดีเหมือนกันนะคะ
    เพราะจุดสุดท้ายแล้วเราจะได้เดินไปถูกทางกันนะคะ

    ขออภัยต่อผู้ที่ปราถนาพุทธภูมิทุกท่านนะคะ มิได้บังอาจบอกแต่เห็นว่า
    บางทีอาจมีหน้าที่อะไรบางอย่างก็ได้ค่ะ ...คิดว่า
     
  4. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    แต่อย่างไรก็ตาม ผมขอติงว่า พึงระวังไม่ให้ จิตจักรวาล แบบอาจารย์ปริญญา ฯ มาปนเปกับคำสอนหรือบิดเบือนคำสอนของหลวงปู่ หรือทำให้เข้าใจว่า จิตจักรวาลของอาจารย์ปริญญาฯ เป็นคำสอนของหลวงปู่ไปด้วย

    ความเห็นส่วนตัวนะครับ
     
  5. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    อืมมม ฝ่ายหนึ่งกลัวพระสัทธรรมโดนปฏิรูป. อีกฝ่ายต้องการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ในอีกแง่มุมหนึ่ง เข้าใจทั้งสองฝ่าย
     
  6. loongken

    loongken Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +29
    ตาบอดคลำช้าง

    แล้วนี่เราคลำอะไร...
    ที่ไหนสักแห่ง
    เวิ้งว้างอนันต์
    แสงนวล
    สุขมาก
    ไม่มีอะไร
    อิสรภาพสูงสุด
    ไม่มีตัวตน


    คลำไปคลำมา"จักรวาล"น่าจะเป็นคำตอบ
    แต่ "ถูกต้องน้ะคร้าบบบบบรึเปล่า??????"
    ปวดหัว ไม่คิดมากดีกว่า

    กลับมาเป็นปุถุชนคนธรรมดา
    อยู่กะทางโลกแวะเที่ยวทางธรรม
     
  7. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    คงไม่ต้องถึงระดับจักรวาล เอาแค่ในโลกเรา หรือในประเทศไทยเรานี้
    ก็มีดวงจิตของสิ่งมีชีวิต และจิตวิญญาณ นับไม่ถ้วน
    หากเรานั่งสมาธิเพื่อติดต่อกับใครสักคน เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ผู้ที่เราติดต่อด้วยนั้น
    คือจิตของจักรวาลจริง ไม่ใช่ความคิดปรุงแต่งของเราเอง ไม่ใช่เทพ ไม่ใช่มาร
    หรือไม่ใช่ดวงวิญญาณดวงใดดวงหนึ่งที่มารับสมอ้างว่าเป็นจิตจักรวาล
    แล้วก็สอนเราต่างๆนาๆ ให้ข้อมูลในสิ่งที่เราอยากรู้
    ในเมื่อการติดต่อนั้น ก็ไม่ต่างกับการพูดโทรศัพท์กับคนที่เราไม่เคยเห็นหน้ากัน
    ไม่เคยได้ยินเสียง เพียงแต่เขาบอกว่าตัวเองเป็นนั่นเป็นนี่ แต่เราเองก็ไม่รู้ว่า
    สิ่งที่เขาอ้างนั้นจะเป็นจริงหรือเปล่า
    บางทีเขาอาจบอกเราว่า เขาคือพระเจ้า บางทีเขาอาจบอกเราว่า เขาคือพระพรหม
    บางทีเขาอาจบอกเราว่า เขาคือผู้สร้างโลก เราก็ได้แต่เชื่อ เพราะเราไม่อาจพิสูจน์ได้
    แล้วเราก็นำกลับมาคิดเป็นจริงเป็นจัง
     
  8. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ขออนุญาติครับ ผมมองว่านั่นคือการทดสอบนะไม่ว่าเขาจะเป็นใครหรือมาจากไหน เกิดขึ้นมาได้อย่างไร แต่ก็เกิดขึ้นมาแล้วครับ อยู่ที่เรายังสามารถดำรงค์ชีวิตเป็นมนุษย์ปรกติธรรมดาได้หรือเปล่า ได้เบียดเบียนสิ่งใดหรือเปล่า คือเขาจะเป็นอย่างไรนั่นเป็นเรื่องของเขา อยู่ที่เราเป็นอย่างไรมากกว่าก็กลับมาดูที่ตัวเองอีกที
    โชคดีจริงๆที่คำสอนของพระองค์อยู่ในใจเสมอ
     
  9. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    จริงๆ เท็จๆ เท็จๆ จริงๆ จริงคือเท็จ เท็จคือจริง

    ความฝันมีอิทธิพลต่อความเชื่อของคนแค่ไหน ?
    แน่นอนคือ ความฝันไม่มีอิทธิพลต่อความเชื่อของคนเท่าไรนัก
    แต่ถ้า คนๆหนึ่งฝันว่าได้รับจดหมาย แล้วต่อมาอีกวันสองวัน ก็มีส่งจดหมายมาให้จริงๆ
    อันนี้ชักจะยังไงๆเสียแล้ว ยิ่งถ้าเจอความฝันทำนองเดียวกันอีกหลายๆครั้ง
    ก็จะยิ่งตอกย้ำความเชื่อว่า ความฝันเป็นจริง

    ในทำนองเดียวกัน ความรู้ความเห็นอันเกิดจากสมาธิ ซึ่งเป็นความรู้ที่เกิดในขณะตื่นอยู่
    ไม่ใช่การหลับ ตัวผู้รู้ยังคงมีความรู้สึกนึกคิดสมบูรณ์ครบถ้วนทุกประการ
    สิ่งที่รู้และเห็นจากสมาธินี้ จะมีอิทธิพลต่อความเชื่อของคนมากกว่าความฝันที่เป็นจริง
    หลายเท่านัก เพราะคนที่รู้และสัมผัสได้จะเชื่ออย่างเป็นจริงเป็นจังว่านี่คือเรื่องจริง
    ยิ่งถ้าการได้รู้ได้สัมผัสนั้น เป็นการไปรู้ถึงเหตุการสำคัญอะไรเข้าสักอย่าง
    สักครั้งสองครั้ง หรืออย่างมากไม่เกินสามครั้งเท่านั้นแหละคุณเอ๋ย
    คราวนี้ก็จะมีบุคคลอย่าง เจน ญาณทิพย์ หมอปลาย เสียงกระซิบจากพยายม
    หรือนักวิทยาศาสตร์ที่สื่อสารจิตติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ เกิดขึ้นเป็นแถว
    ในครั้งแรก ครั้งสอง ครั้งสาม อาจจะจริง แต่ว่า ในครั้งต่อไป หรือในเรื่องที่ลึกซึ้งต่อๆไป
    ไม่แน่ว่าจะเป็นจริงอีกหรือไม่
    เหมือนคนถูกหวย งวดแรกดวงดี งวดที่สองดวงดี งวดที่สามดวงดี
    แต่งวดที่สี่ที่ห้าที่หก ไม่ทราบ...
    โบราณจึงมีคำว่า จริงๆ เท็จๆ เท็จๆ จริงๆ จริงคือเท็จ เท็จคือจริง
    ความเท็จที่พาให้คนหลงเชื่อถือก็คือ ความเท็จที่มีความจริงนำมาก่อน
    และความจริงที่อันตรายก็คือ ความจริงที่มีความเท็จดักเป็นหลุมพราง
     
  10. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ไม่ทราบค่ะ jityim เป็นเพียงบุคคลธรรมดาคนหนึ่งเองค่ะ

    ลักษณะของสุญญตา เป็นธรรมชาติที่ไร้การปรุงแต่ง เป็นธรรมที่เร้น
    ซ้อนซ่อนอยู่ในธรรมชาติ บริสุทธิ์ หลุดพ้น อิสระ ไร้การปรุงแต่งใด
    อยู่เหนือการปรุงแต่งใด ๆ ทั้งปวง สิ่งใด ๆ ไม่สามารถปรุงแต่งธรรมชาตินั้นได้
    ทราบแค่นี้ค่ะ
     
  11. พรหมณี

    พรหมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,547
    ค่าพลัง:
    +12,864
    เข้ามาแอบอ่านเขาคุยกันค่ะ....เรื่องจิตจักรวาลนี่น่าสนใจมากจริงๆ
     
  12. พรหมณี

    พรหมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,547
    ค่าพลัง:
    +12,864
    สนใจเรื่องจิตจักรวาลเหมือนกันค่ะ...พอดีสื่อสารกับปรอทได้ ปรอทมาสอนธรรมในเรื่องของวิญญาณธาตุ....อันนี้ไม่เกี่ยวกับพุทธศาสนานะคะ

    การสื่อถึงโลกธาตุเกี่ยวเนื่องกับวิญญาณธาตุในวัตถุของธรรมชาติที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับการอุบัติของโลก....การสัมผัสทางจิต การแปลผล บางอย่างสามารถพิสูจน์ได้แบบวิทยาศาสตร์ค่ะ....ไม่ใช่การนั่งหลับตาแล้วรู้สึกแบบนั้นแบบนี้แล้วก็วัดผลจากความรู้สึกว่าอย่างนั้นอย่างนี้....ก็จะเกิดการถกเถียงกันไปมา สู้ทำการทดลองให้เห็นจริงเป็นที่ประจักษ์ไม่ได้

    ตัวอย่างในเรื่องของการนั่งสมาธิกัมมัฏฐาน แล้วเดินธาตุกัมมัฏฐานจะมีความร้อนเกิดขึ้นมา เมื่อเราถ่ายธาตุลงในวัตถุ จะมีการเปลี่ยนแปลง...ตัวอย่างถ่ายความร้อนลงในลูกแก้ว ลูกแก้วปริแตกและเปลี่ยนสีได้

    ในเรื่องของจิตจักรวาลก็พอสัมผัสได้เลาๆ แต่ไม่ได้เข้าสมาธิหลับตานะคะ...ตัวอย่างในเรื่องของการเหลื่อมมิติของโลกบนคู่ขนาน....เคยอยู่บ้าน ตอนกลางวันเดินขึ้นบันไดจะไปกวาดบ้านข้างบน เหมือนเดินสวนกับใคร และได้ยินเสียงเขาคุยกันว่า เหมือนรู้สึกว่าเดินสวนกับใครบางคน อีกคนก็บอกว่าสงสัยจะเป็นผีมั้ง.....กลับกลายว่าเราเป็นผีซะแล้ว

    นอนอ่านนิยายข้างล่างก็ได้ยินคนเดินอยู่ข้างบน เราก็แปลกใจเดินขึ้นไปดูก็ไม่เห็นใคร แต่ได้ยินเสียงคนเดินอยู่ในห้อง ไม้กระดานลั่น....

    จึงเชื่อว่าในจักรวาลนี้น่าจะมีคู่ขนานอีกมิติหนึ่ง และเป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์หาทางพิสูจน์อยู่เพื่อให้เป็นรูปธรรม

    ส่วนในเรื่องนั่งหลับตาแล้วเดินจิตเพียงอย่างเดียว อันนี้ศึกษาแต่ยังไม่ถึงระดับ...แต่พอจะเชื่อมโยงกับพลังจักรวาลได้บ้าง....ตัวอย่างคือยกคนไข้หนักเป็น 100 กก.ได้ ก็ได้จากพลังจักรวาลหรือซี่ที่ถ่ายเทพลังงานมาสู่กลางกระหม่อมอย่างนี้เป็นต้นค่ะ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2016
  13. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    ไม่อยากสนทนาก็ไม่ว่ากันครับ
     
  14. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,423
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ถ้าไม่ทราบก็ไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ
    จะตอบเฉพาะที่ตอบได้ค่ะ
     
  15. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    อืมม อะนะ อิอิ
     
  16. loongken

    loongken Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +29
    เราเคยเจอสถานการณ์คล้ายคุณจิตยิ้ม
    เราเจออะไรอย่างหนึ่งแล้วอยากหาคำตอบว่า มันคืออะไร
    แล้วก็โดนซักถาม โดนซัก โดนอ้างอิงด้วยตำราที่เราไม่ได้ศึกษาหรือถนัดมาก่อน
    ก็ไม่รู้จะตอบยังไงดี
    ที่บอกได้แน่ๆคือข้อเท็จจริงของประสบการณ์ที่ได้พบ
    ยิ่งโต้ยิ่งสับสน
    งั้นหยุดคุยดีกว่า

    สำหรับกระทู้นี้เราเจอคำว่า"จักรวาล" เลยมาสนทนาด้วย
    แต่ไม่เคยอ่าน จิตจักรวาล อะไรของ อ.ปริญามาเลย เลยไม่มีความรู้เรื่องนั้น
    และก็ไม่รู้ในหลายๆเรื่องที่เอามาจากพระไตรฯ

    เลยตอบแต่อะไรที่ธรรมดาๆทั่วไปยุคนี้เท่านั้น
     
  17. loongken

    loongken Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +29
    ปรอท คืออะไร? คงไม่ใช่ ปรอทวัดไข้ นะ
    อ่านตอนแรกนึกว่าออกทางไสยศาสตร์อ่านตอนหลัง อ้อ มีความสามารถพิเศษส่วนตัวและไม่ไสยศาสตร์
    น่าจะบอกกล่าวเล่าสิบให้มากกว่านี้อีกหน่อย
    แต่ผมหมายเหตุไว้แล้วว่า คุณน่าจะเป็น"หนูทดลอง"ได้อีกสักตัว
     
  18. พรหมณี

    พรหมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,547
    ค่าพลัง:
    +12,864
    เรื่องปรอทและการสื่อสารของปรอทเป็นเรื่องของการฝึกจิต เมื่อจิตมีความละเอียดถึงระดับหนึ่งจะมีพลังงาน สามารถหุงปรอทที่เหลวให้แข็งตัวได้ ไฟที่ร้อนสามารถกลับให้เป็นไฟเย็นได้

    เป็นเรื่องของการวัดระดับของจิตที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ สมัยยุคฤๅษีรุ่งเรือง....แล้วสรรพวิชานี้ก็สาบสูญไร้การสืบทอด พอมาวันหนึ่งมีเสียงสั่งมาในจิตให้ไปหุงปรอท....ก็ลองพิสูจน์ดูก็สามารถกระทำได้จริงคือปรอทสามารถแข็งตัวได้โดยไม่ได้ใช้ว่านยาเหมือนคนอื่นเขา ก็นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์

    ที่แวะเข้ามาอ่านไม่ได้ย้อนขึ้นไปดูว่าเขาถกเถียงอะไรบ้าง เพียงแค่สนใจเรื่องจิตจัดรวาลและหาเพื่อนเผื่อว่าจะศึกษาเรื่องจิตไปในแนวทางเดียวกัน
     
  19. loongken

    loongken Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +29
    เคยเดินเที่ยวในวัดแห่งหนึงเห็นพระรูปหนึ่งกำลังปั้นดินเหนียวง่วนอยู่และก็มีพืช วัตถุอื่นๆอยู่
    เลยถามท่านว่า ทำอะไรอยู่ ท่านว่า หุงปรอท จำไม่ได้แล้วว่าซักถามได้ความอะไรมามั่ง
    คลับคล้ายว่า ลดความเป็นพิษของปรอท หรือเป็น วัสดุที่เกี่ยวกับไสยศาสตร์หรือพระเครื่องอย่างหนึ่งนี่แหละ

    ในแง่วิทยาศาสตร์ ในอุณหภูมิปรกติ ปรอทอยู่ในสภาพของไหล จะให้แข็งหรือกลายเป็นไอ มันต้องเกี่ยวกับพลังงานกับอุณหภูมิ
    ส่วนการหุงปรอท น่าจะเป็นการทำให้เกิด สารตัวใหม่ที่มีปรอทเป็นองค์ประกอบ

    อยากทราบว่าที่ "มีเสียงสั่งมาในจิตให้ไปหุงปรอท" สั่งว่าอย่างไรเหรอ?
    อยากจะลองดูมั่งว่าทำตามได้มั้ย
     
  20. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    จริงอยู่ว่า การสนทนาธรรม ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ตำรา แต่เผอิญ กระทู้นี้ เค้าเชิญชวนมาคุยเรื่อง จิตจักรวาล ซึ่ง จขกท ตอนแรกที่เขียนชวนอ่านชวนคุย ไม่ได้บอกว่า ท่าน จขกท พูดคุยบนพื้นฐานความรู้ใด เราก็นึกคิดได้ว่า จขกท พยายามยำอะไร หรือพูดถึงแนวความคิดของใคร แล้วท่าน jityim ขออนุญาตที่เอ่ยนาม (555 แบบที่พูดกันในรัฐสภา) ก็ได้แชร์ความรู้และความคิดเห็นเกี่ยวกับ จิตจักรวาล และนิพพาน จิต ธาตุ ไว้ด้วย

    ผมต่างหากที่ไม่รู้ จิตจักรวาล ทีนี้ คนอ่าน คำว่า จิตจักรวาล แม้ไม่รู้ นิยามความหมายของใคร ก็อ่านแบบบ้านๆ แล้วแปลว่า จิตของจักรวาล ซึ่งในการกล่าวแม้จะอยู่ใน ชื่อ วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ แต่ว่า ลักษณะมีการกล่าวพาดพิงพุทธศาสนาและศาสนาอื่นพอสมควร จึงกลายเป็นว่าต้องมี พื้นฐาน ก่อน

    ทีนี้ พออ่านไปสักสองสามหน้าของกระทู้นี้ มีการกล่าวถึง จิตประภัสสร อ้างอิงคำสอนหลวงปู่ดุลย์ มันจึงจำต้องสอบทานในฐานะพุทธศาสนิกชน ว่า บิดเบือน หรือไม่ (เพราะผมก็ไม่เคยได้ยิน การตีความข้ามระบบแบบนี้มาก่อน)

    แล้วทำไม ต้องมาทำหน้าที่อันนี้ล่ะ ซีเรียสไปป่าว คงสงสัยกันว่า ผมซีเรียสรึป่าว

    ส่วนหนึ่ง เป็นเรื่องจริงจัง เพราะคำสอนของพระพุทธองค์นี่ เป็นทางเดียวที่นำคนไปสู่นิพพาน หลุดพ้นอย่างแท้จริง ส่วนที่กล่าวอย่างนี้ อาจดูเป็นการยึดมั่น แต่มันมาจากประสบการณ์เผชิญความทุกข์ของตนเอง ถ้ามีการกล่าวหรือพูดแล้วไปบิดเบือน คำสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไร แต่ก็ช่วยกันสอบทานเพราะถ้าคำสอนเปลี่ยนไป ทางที่พระพุทธองค์วางไว้จะถูกทำลาย มันเป็นบาปกรรม เพราะคนเราถ้าฟังธรรมที่ถูกต้องก็พ้นทุกข์ได้ทุกระดับ แต่ถ้าผิดก็หลงในวัฏสงสารอีกนาน แถมพาคนอื่นหลงทางตามๆ กันไป

    จึงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาก่อนจะพูดคุย เพราะอย่าลืมว่า ข้อความในเว็ปบอร์ด เป็นอินเตอเนท มีคนอ่านมาก

    ผมไม่มีความรู้เรื่อง จิตจักรวาล ก็จำต้องค้นคว้าทางกูเกิ้ล จนเจอเว็ปทางการของอาจารย์ปริญญา และเข้าไปอ่านเว็ปที่ทำเผยแพร่คำสอนของหลวงปู่ดุลย์ เพื่อจะได้สอบทานกันว่า มีการตีความระบบความเชื่อหนึ่งมาปนเปว่าเป็นคำสอนของหลวงปู่ดุลย์ หรือทำให้เข้าใจว่าคำสอนหลวงปู่ดุลย์ไปรับรองความเชื่อ จิตจักรวาลของอาจารย์ปริญญา หรือเปล่า

    จริงอยู่ ธรรมชาติเป็นของสากล แต่ตัวอย่างง่ายๆ การพูดคนละภาษา ก็ทำให้พูดกันไม่รู้เรื่อง ทั้งที่พูดถึง ธรรมชาติเดียวกัน ยิ่งเป็นการตีความด้วยแล้วนั้น เป็นเรื่องที่แต่ละคนปรุงแต่งกันไปได้ เหมือนสมัยพุทธกาล มีพราหมณ์ ฤษี ดาบส นักบวช ระลึกชาติได้มากมายเป็นแสนชาติ เป็นอสงไขย รู้เรื่องจักรวาล ขนาดเหาะเหินได้ แต่ กับมีทิฏฐิ เป็นมิจฉา แตกต่างกันไม่ลงรอยกัน หลายทิฏฐิ ทั้งที่ รู้เห็นธรรมชาติการเวียนว่ายตายเกิดของตนเอง และสัตว์อื่น มามากมายทีเดียว

    ทีนี้ การที่ผมมาสอบทานนี้ ก็อาจเข้าใจกันว่า มาทำตัวเป็นไม้บรรทัดวัดคน เอาความถูกผิด ซึ่งอาจเข้าใจอย่างนั้น จึงต้องบอกไปเลยว่า เป็นการร่วมถกอภิปราย สนทนาธรรมกันนะ ซึ่งการสนทนาไม่ว่าเรื่องใด การกล่าวนำ ถามติง ถามค้าน เป็นเรื่องปกติ ผมจึงได้ถามย้ำว่า ได้อ่านทั้ง อาจารย์ปริญญา และเว็ปคำสอนหลวงปู่ดุลย์ (ทั้งที่ ไม่เคยอ่านเลย) แล้ว ผมแสดงความเห็นว่า มันคนละเรื่องครับ ต่อให้อธิบาย เรื่อง ธาตุ รูปนาม ความว่างหรืออากาศ แรงดึงดูดระหว่างธาตุหมุนวนกัน การสั่นสะเทือนของพลังงาน ผมก็เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน โดยยกระบบหลัก คือ จิตจักรวาล มีสถานะเป็นพลังงานระดับมิติสูงที่เป็นพระเจ้า

    (อ่านการ์ตูนญี่ปุ่น มีเรื่องผู้มาจากมิติระดับสูง ทุกคนเรียกว่าพระเจ้า แต่พลังงานอันนั้นบอกว่า เราไม่ใช่พระเจ้า คนก็ถามว่า มาแทรกแซงเรา ช่วยเราทำไม ถ้าเราเป็นแค่สสารและพลังงาน พลังงานมิติระดับสูงตอบว่า เป็นหน้าที่ในระดับหนึ่งเท่านั้น การมีอยู่ของเจ้า(มนุษย์) ไม่มีอะไร นอกจากสสารและพลังงงาน ว่าแล้วก็เนรมิตร่างและจิตคนตายกลับมา ให้พูดคุย เสร็จแล้วก็ระเบิดร่างทิ้ง คนที่มีความยึดมั่นถือมั่นก็จะแค้นพระเจ้ามาก แต่ทำอะไรไม่ได้ มีคนหนึ่งถามว่า หลังจากคนเราตายเป็นอย่างไร พลังงานมิติระดับสูงตอบว่า เมื่อคนเราตาย สสารและพลังงานปริมาณหนึ่งจะโยกย้ายข้ามมิติกาลเวลา กลับไปกลับมาระหว่างสภาวะในมิติกับการมาเป็นรูปธรรมนามธรรมนี้ คนเรานั้นก็คลายความยึดมั่นถือมั่นในการตาย แต่น่าจะยึดมั่นถือมั่นในการตายเกิดต่อไป อยู่ดี)

    แต่คำสอนหลวงปู่ดุลย์ แม้พูดอธิบาย เรื่อง ธาตุ รูป นาม การหมุนวน พูดถึงจักรวาล แต่ไม่มีที่ไหนที่กล่าวว่า มีจิตจักรวาล มีจิตของจักรวาล ที่เป็นพระเจ้าที่กำหนดสัจธรรมขึ้นเอง หมายถึง จะสามารถกำหนดว่า จักรวาลนี้คนไม่มีวันตายก็ได้ (การ์ตูนญี่ปุนอีกเรื่อง กล่าวว่า คนอาจเป็นพระเจ้าได้ และสามารถกำหนดเงื่อนไขของจักรวาลเสียใหม่ ทำให้่ไทม์ไลน์แยกออกเป็นคู่ขนาน จักรวาลจะแยกเป็นจักรวาลของพระเจ้าภายใต้พระองค์ใหม่ แต่จักรวาลแบบเดิมจะถูกทำลายเฉพาะที่จุดพระเจ้าใหม่กำเนิดขึ้น หรือจะดูเทอมิเนเตอร์ 5 ก็ได้)

    ผมจึงถามแบบอ้อมๆ ประมาณว่า ระบบความเชื่อ มันคนละระบบระหว่างเทวนิยม กับอเทวนิยม จิตนิยม กับสสารนิยม เหล่านี้ ถ้าคนยึดถืออย่างใด เค้าจะปฏิเสธอีกด้าน ซึ่งไม่อาจคุยกันได้หรือมารวมกันได้ ในเมื่อคนวางความเชื่อว่า ทุกสิ่งเป็นจิต จิตนิยม คำอธิบายทุกอย่าง จะอธิบายในรูปที่จิตเป็นแกน อย่างอื่นไม่มีจริง ในขณะที่ถ้ามีแต่สสาร ไม่มีจิต ก็อธิบายว่า มันมีแต่สสาร จิตเป็นความหลงผิดไป การอธิบายต่างจะสนับสนุนว่า จริงๆ มีแต่สสาร

    ยังมีความเชื่อในระบบ ที่พูดถึงว่า ก็มีทั้งสองนั้นแหละ แต่จิตใหญ่ หรือสสารใหญ่กว่า สำคัญกว่า ก็ว่ากันไป

    แต่ระบบมันจะเป็นคนละเรื่อง

    ปล. ในเมื่อคุณ jityim ขออนุญาตที่เอ่ยนาม เป็นผู้กล่าวเรื่อง จิตจักรวาล จิตประภัสสร จิต ธาตุ นิพพาน อาจารย์ปริญญา และหลวงปู่ดุลย์ ขึ้นมา แต่กลับมาบอกว่า ไม่มีความรู้ แต่ตอนแรกได้พูดว่า jityim พบประสบการณ์น่าอัศจรรย์ ติดต่อทางต่างมิติ แต่ไม่เล่าว่าติดต่ออย่างไร มากล่าวถึงสุญญตา ตามประสบการณ์ของท่านjityim ซึ่งกล่าวเหมือน สุญญตา เป็นห้วงมิติ ที่ซ้อนทับในรูปกับนาม ความจริงอยากพูดต่อว่า ก่อนจะตัดสินใจว่า คือ ตนเข้าถึงแดนสุญญตา พูดเหมือนอย่างนั้น ซึ่งผมไม่ได้คัดค้านความจริง เท็จ ถูก ผิด แต่อยากจะบอกว่า อ่านรูปฌาณ อรูปฌาณ สัญญาเวทยิตนิโรธ ก่อน แค่นั้น (ซึ่งผมก็ต้องพลิกกูเกิ้ล อ่านวิกิพีเดีย อ่านเว็ปนั้นนี้นู้น ว่าสุญญตา จิตประภัสสร ฯ) แล

    ทั้งที่ ในเมื่อท่าน jityim เล่าประสบการณ์ ผมก็ได้เล่าประสบการณ์บ้าง ซึ่งเพื่อนผมที่เป็นพุทธหรือคริสต์ ยังมาว่าผมบ้าเลย ผมจึงไม่ค่อยอยากเล่า ประสบการณ์ทางจิตสมาธิในเว็ปบอร์ด ถูกกล่าวหาว่า บ้าตั้งแต่ ม. 2 - ม.6 แต่ในเมื่อไม่ยอมพูดว่า ประสบการณ์ของ jityim เป็นจิตจักรวาลอย่างไร สุญญตาอย่างไร ทั้งที่ เกริ่นมา

    จึงลงลึกไม่ได้ว่า ติดต่อจิตจักรวาลโดยตรงได้ ได้อย่างไร หรือจิตติดต่อต่างมิติ ติดต่อกับใคร คนที่ตายไปแล้ว ผู้ที่ไม่เคยรู้จัก เทพ ปีศาจ สัมภเวสี ผู้ที่อยู่ในภพน้อย จึงไม่ทราบว่า เป็นสื่อสารแบบใหม่ จริงหรือเปล่า (พระโพธิสัตว์ เคยประทับจักรแก้วไปทั่วสี่ทวีป ขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระภิกษุหลายองค์เคยลงนรก ท่องสวรรค์ ไปภพเล็กภพน้อย) จะได้คุยกันต่อไป

    แต่ในเมื่อกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าเข้าใจ สุญญตา อันเป็นธรรมขั้นสูงในพระพุทธศาสนา และมากล่าวว่า ไม่ทราบอีก

    จะไม่ให้เข้าใจได้อย่างไรว่า jityim ไม่อยากสนทนากับข้าพเจ้า ไม่ใช่ไม่ทราบ

    ปล. กระทู้นี้ กับทุกคนที่มาพูดคุยกัน ก็ได้ทำให้ผมได้รู้ ศึกษา จิตจักรวาล ของอาจารย์ปริญญา

    ส่วนคำสอนหลวงปู่ดุลย์ ผมได้อ่านครั้งแรกตามที่ jityim แนะนำ ขออนุญาตที่เอ่ยนามอีกครั้ง แต่บอกได้ว่า เหมือนทราบอยู่แล้ว เพราะอะไร อาจเป็นเพราะอ่านหนังสือพระแต่เด็ก สาระเนื้อหาไม่ต่างจากอ่านอภิธรรม ที่มีพระท่านสอน (ไม่มีปัญญาอ่านระดับไตรปิฎก )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2016

แชร์หน้านี้

Loading...