จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    555 ครูพี่วิทย์ล้างท่อ สงสัยจะอารมณ์เดียวกับต่อเมิลล้างกระจกแน่ ๆ เลย เวลาทำความสะอาดบ้านจะคิดได้เยอะอะคะ เช่น เวลาล้างกระจก กระจกในห้องน้ำต้องเช็ดทุกวันนะ ไม่งั้นคราบติดแน่น เช็ดออกยาก เช็ดไปก็คิดไป กระจกเช็ดออกก็สะอาด แล้วใจเราจะเอาอะไรทำความสะอาดดีเน้อถึงจะใสเหมือนกระจก
    ฝุ่นดูดทุกวันเลย มีให้ดูดทุกวันฝุ่น ดูดไปพิจารณาไปโลกนี้มันสกปรก มันไม่เที่ยงจริง เพราะถ้ามันเที่ยงเราคงไม่ต้องมาดูดฝุ่นกันทุกวันแบบนี้ @^ ^@
    เสร็จแล้วก็ตบเข้ามาที่...เออเช็ดกระจกทุกวัน ดูดฝุ่นทุกวัน เมื่อยอะ ทุกข์เนอะ ไม่เอาแล้วของไม่เที่ยงในโลกนี้ ไปหาของที่เที่ยง ๆ ดีกว่า
    *ขออภัยในภาษาเขียนที่ไม่ค่อยถูกต้องนะคะ อยากคนอ่านให้ได้อารมณ์ภาษาพูดนะคะ
     
  2. ่jarunee

    ่jarunee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +1,917
    [FONT=&quot]คุณเลือกได้ ตายแล้วจะไปไหน[/FONT]

    [FONT=&quot]พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)[/FONT][FONT=&quot]
    ท่านกล่าวไว้ในหนังสือ ตายแล้วไปไหน ตายแล้วไม่สูญ
    ถึงทาง ๕ สาย ที่ทุกคนต้องไป เมื่อตายจากโลกนี้ [/FONT]
    [FONT=&quot](สรุปย่อจากหนังสือ)

    ๑. อบายภูมิ ได้แก่ เกิดเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน
    ๒. เกิดเป็นมนุษย์
    ๓. เกิดเป็นเทวดาหรือนางฟ้าอยู่บนสวรรค์
    ๔. เกิดเป็นพรหม
    ๕. ไปพระนิพพาน


    ท่านที่ตายแล้วจะไปเกิดที่ใด
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสบอกเหตุที่จะไปเกิดไว้ครบถ้วน
    ตามกฏของกรรม คือ การกระทำ
    ได้แก่ ความประพฤติดีหรือชั่วในสมัยที่เกิดเป็นมนุษย์นี่เอง
    กฏของกรรมหรือการทำดีหรือชั่ว
    ที่จะพาไปเกิดในที่ใดที่หนึ่งในทาง ๕ สาย ดังนี้


    แดนเกิดสายที่หนึ่ง ที่เรียกว่า อบายภูมิ มีนรกเป็นต้น
    เป็นผลจากการประพฤติชั่วจากการละเมิดศีล ๕ คือ
    ๑. ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
    ๒. ลักขโมยของบุคคลอื่น
    ๓. ละเมิดบุตร, ภรรยา, สามี และคนในปกครองของคนอื่น
    ๔. พูดโกหกทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
    ๕. ดื่มสุราเมรัย

    แดนเกิดสายที่สอง คือ เกิดเป็นมนุษย์
    คนที่ตายแล้วจะมาเกิดเป็นมนุษย์ได้ต้องเป็นคนมีศีล ๕ กรรมบท ๑๐

    แดนเกิดสายที่สาม ได้แก่ สวรรค์
    คนที่ตายแล้วจะไปเกิดเป็นเทวดา-นางฟ้าได้
    ต้องเป็นคนที่มี หิริ-โอตัปปะ คือ
    ละอายต่อความชั่ว
    ไม่ทำความชั่วในที่ทุกสถาน
    และเกรงกลัวต่อผลของความชั่วจะทำให้เกิดความเดือดร้อน
    ทำความดีทุกอย่าง บำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา

    [/FONT]

    [FONT=&quot]แดนเกิดสายที่สี่ ได้แก่ พรหมโลก[/FONT][FONT=&quot]
    คนที่ตายแล้วไปเกิดในพรหมโลกได้
    ท่านว่าต้องเป็นนักเจริญกรรมฐานและมีอารมณ์จิตสุดท้ายก่อนตาย
    เป็นอารมณ์จิตที่ทรงฌานที่เรียกว่าเข้าฌานตาย

    [/FONT] [FONT=&quot]แดนเกิดสายที่ห้า ได้แก่ พระนิพพาน[/FONT][FONT=&quot]
    คนที่ตายแล้วไปพระนิพพานได้ ต้องตัดสังโยชน์ ๑๐
    สังโยชน์ แปลว่า กิเลสเครื่องร้อยรัดจิตใจ
    ให้จมอยู่ในวัฏฏะสงสาร ๑๐ อย่างคือ

    ๑. สักกายะทิฏฐิ
    มีความเห็นว่า ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณนี้ เป็นเรา
    เป็นของเรา เรามีในขันธ์ ๕ ขันธ์ ๕ มีในเรา
    ๒. วิจิกิจฉา
    สงสัยผลของการปฏิบัติ
    สงสัยในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
    และไม่เคารพในพระรัตนตรัยด้วยความจริงใจ
    ๓. สีลัพพตปรามาส
    ถือศีลไม่จริงไม่จัง สักแต่ว่าถือตามๆ เขาไป
    รักษาศีลได้ไม่บริสุทธิ์
    ๔. กามราคะ
    มีความกำหนัดยินดีในกามคุณ ๕ คือ
    รูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย
    และยินดีในการถูกต้องสัมผัสกับเพศตรงข้าม
    ๕. ปฏิฆะ
    มีความไม่พอใจกับอารมณ์ที่มากระทบ อันนี้เป็นโทสะแบบเบาๆ
    ๖. รูปราคะ
    พอใจในรูปธรรม คือความพอใจในวัตถุ หรือรูปฌาณ
    ๗. อรูปราคะ
    พอใจในอรูป คือเรื่องราวที่กล่าวถึง หรืออรูปฌาณ
    ๘. อุทธัจจะ
    มีอารมณ์ฟุ้งซ่าน คิดนอกลู่นอกทาง
    ๙. มานะ
    ความถือตัวถือตน
    โดยมีความรู้สึกว่าเราดีกว่าเขา เราเลวกว่าเขา เราเสมอเขา
    ๑๐. อวิชชา
    ความโง่ คือ หลงพอใจในกามคุณ ๕ และกำหนัดยินดีในกามคุณ[/FONT]

    [FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot]
    พิจารณาจนจิตละสังโยชน์ทั้ง ๑๐ อย่าง โดยไม่กำเริบอีกแล้ว
    ท่านผู้นั้นเป็นผู้บรรลุอรหัตตผล
    เมื่อตายแล้วก็เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน เป็นแดนเอกันตบรมสุข
    ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสงสารอีกต่อไป

    [/FONT] [FONT=&quot]ท่านจะเลือกว่าท่านจะไปทางสายใด[/FONT][FONT=&quot]
    ท่านก็ต้องสร้างเหตุด้วยการประพฤติปฏิบัติ
    ตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
    ท่านต้องการความสุข
    ท่านก็ต้องบำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา
    ถ้าต้องการความทุกข์
    ท่านก็ทำแต่ความชั่ว ทานไม่ต้องทำ ศีลไม่ต้องรักษา
    ท่านจะพบแต่ความทุกข์แน่นอน


    [/FONT] [FONT=&quot]แล้วท่านจะเลือกทางสายไหน [/FONT][FONT=&quot]???[/FONT]

    [FONT=&quot]
    [/FONT]

    [FONT=&quot]
    [/FONT]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  3. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    เก่งมากๆ ลูกศิษย์ที่ชิลที่สุด

    ภาษาก้อแค่สมมุติ สิ่งที่เมิลสื่อ แก่นมันอยู่ในเนื้อหา

    ยอดเยี่ยม
     
  4. Plapersia

    Plapersia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +775
    ใจเย็นๆค่ะ พ่อวิทย์ อิอิ ขอลูกทิวปั่นการบ้านทางโลกแบบ หัวไหม้ก่อนนะคะ(เผาก็ว่าได้)
    เพราะปิดเทอมมั่วแต่ทำการบ้านทางจิต ฮ่าๆ
    ไว้วันจันทร์ค่อยว่ากันอีกทีนะคะ จะหาเดอะแก๊งค์ไปหาค่ะ

    เปิดเทอมแล้วอ่านจะไม่ได้เข้ามาทักทายนะคะ ฮ่าๆ
    เน็ตที่ห้องยังไม่ติดค่ะ(ต้องลงมาใช้เน็ตหอที่ชั้นล่าง+ยุงรุมT^T)
    ต้องตกลงกะรูมเมทก่อน ไว้ติดแล้วจะเข้ามาเหมือนเดิมนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  5. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    จะบอกเทคนิคให้ ยุงจะไม่กัดหมู อยากปลอดยุง จงอ้วนนนนนนนนนนนนน 5555
     
  6. Plapersia

    Plapersia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +775
    อ้วนยังไงก็หนีไม่พ้นยุงธรรมศาสตร์หรอกค่ะ เยอะมากๆๆๆ คูคลองรอบม. แหล่งน้องเงินน้องทอง ฮ่าๆ
    ขนาดทิวขี่จยย.ใส่กางเกงยีนส์แล้ว ยุงยังกัดได้เลย ฮ่าๆ รถวิ่งมันยังกัดได้:boo:
     
  7. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    งั้นยอมมันเถอะ .... รู้ วาง

    เค้าจะกัดก้อทำบุญไป

    ถ้ากัดไม่เลิก เดี๋ยวให้หว้าคุงไปเคลียร์ให้ 555555
     
  8. อัญญะมณี

    อัญญะมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +2,169
    คุ้น คุ้นอ่ะ 55555 (หัวเราะวันละนิด จิตเบิกบาน)
    โมทนาสาธุกับพี่วิทย์และคุณนก ช ด้วยค่ะ
     
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    บอกเล่าเก้าสิบ​


    (พอดีไปตอบปัญหาผู้ถามมาในPM นึกไป นึกมาก็นำมาลงที่กระทู้นี้กันดีกว่า
    เพื่อจะมีประโยชน์กับพวกเราไม่มากก็น้อย หรือสำหรับผู้ที่ยังบกพร่องอยู่เล็กน้อย แต่ถ้ารู้กันแล้ว ก็ขอให้ผ่านไป เพราะพวกเราพยายามตามแก้ไขจุดบกพร่องกันให้อยู่ อยากให้พวกเราทำกันได้ อยากให้พ้นทุกข์กันไวๆ หลุดพ้นกันไวๆ นิพพานกันไวๆ)

    การเรียนรู้เรื่องจิต ไม่เหมือนกับการเรียนรู้กับเรื่องทางโลก
    เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย เป็นต้น

    เพราะฉะนั้นการเรียนรู้เรื่องจิต (โดยเฉพาะจิตตนเอง)
    เราจะต้องนำจิตไปเรียนรู้ มิใช่ตัวเรา
    แต่ก่อนเราจะไปถึงจิตของเรากันได้นั้น เราจะต้องสร้างสติกันให้มากๆเสียก่อน
    แต่ถ้าเราไม่ทำอย่างนั้นกัน เราเองนี่แหล่ะก็จะตามจิตตนเองไม่ทัน
    หรือไม่รู้ว่าจิตของเราอยู่ที่ไหน และกำลังทำอะไรอยู่
    เมื่อเรียนรู้เรื่องจิตของตนเอง แต่เราไม่สามารถเข้าไปตามดู ตามรู้จิตตนเองแล้ว ก็อย่าเพิ่งไปพูดถึงกระแสธรรม หรือมีดวงตาเห็นธรรมกันเลย
    เพราะสติยังมีกันไม่มากพอ หรือสติ สมาธิเกิดไม่ต่อเนื่อง

    การเรียนรู้เรื่องจิตนั้น สติสำคัญมาก และจะต้องทำอย่างต่อเนื่องด้วย
    เพราะจิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก และยากจะเข้าใจ

    ในเมื่อจิตของเราอยู่ที่ตัวเรา ก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจกันดีพอเลย แล้วเราจะให้คนอื่นๆมาเข้าใจตนเองนั้น จึงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

    เรื่องจิตเป็นเฉพาะแห่งตน

    การเรียนรู้เรื่องจิตจำเป็นจะต้องอาศัยการปฎิบัตินำความลังเลและความสงสัยของตนเอง เป็นหลัก
    แต่อย่าสงสัยก่อน ถามก่อน ก่อนการปฎิบัติ เพราะมันไม่มีประโยชน์
    ยกเว้นแต่ผู้ที่ไม่เคยทำสมาธิ หรือไม่มีความรู้พื้นเรื่องสมาธิมาก่อน
    อันนี้จะต้องถาม และต้องศึกษามาก่อน ถึงจะเริ่มปฎิบัติ

    แต่สำหรับผู้ผ่านการปฎิบัติมาแล้ว จะต้องปฎิบัตินำความสงสัยของตนเอง
    แต่ก่อนจะทำจิตเกาะพระ เราจะต้องรู้จักวางของเก่ากันซะก่อน
    แต่ถ้าวางไม่ได้ วางไม่เป็นก็จะช้า หรืออาจจะทำไม่สำเร็จ
    เพราะจิตเคยชิน /เคยทำแบบของเดิม จนติดเป็นนิสัย

    เมื่อก่อนผมก็เคยติดอานาปานสติ เช่นกัน
    เพราะกรรมฐานกองอื่นๆนั้น ก็ทำได้ทุกกอง แต่ข้อเสียก็คือ ตัวเราเองนี่แหล่ะ! ที่ความเพียรน้อยไปหน่อย จึงไม่ต่อเนื่อง
    อาจจะเป็นเพราะว่า เนื่องจากหน้าที่ การงาน หรืออื่นๆก็ตามแต่
    เพราะว่า มนุษย์มักจะมีข้ออ้างกันเยอะ

    แต่จริงๆแล้ว การปฎิบัติดูจิตนั้น ไม่จำเป็นจะต้องใส่ชุดขาว หรือต้องไปทำที่วัด ที่สำนัก เหตุที่ไปก็เพราะว่า ทำตามกัน หรือไม่เคยทำมาก่อน
    อันนี้ไม่เป็นไร เราไม่ตำหนิกัน

    แต่สำหรับผู้ที่เคยปฎิบัติมานานแล้ว
    ขอให้เราทำอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือคนเดียว
    การปฎิบัติดูจิตนั้น เราจะต้องอยู่แห่งความเป็นจริง
    หมายถึง กระทำได้ทั้งลืมตาและก็หลับตา
    เพราะทุกธรรม หรือทุกสิ่งที่มากระทบกับจิตของตนนั้น
    นั่นแหล่ะ! ก็คือการปฎิบัติธรรมที่ดีที่สุด และก็ต่อเนื่องด้วย

    ที่พูดต่อเนื่องบ่อยๆนี่้ก็หมายถึง การเจริญสติ หรือการสร้างสติบ่อยๆ
    นี่ก็คือ ความต่อเนื่อง
    และความต่อเนื่องของพวกเรา หรือนักภาวนามักจะบกพร่องกันซะส่วนใหญ่

    แต่จะขอแนะนำอีกนิดนึงก็คือ โดยเฉพาะผู้ที่เคยทำกรรมฐานกองอื่นๆ หรือคำภาวนา เช่น ยุบหน๋อ พุท-โธ นะมะพะทะ หรืออานาปานสติ เป็นต้น
    เวลาทำจิตเกาะพระกันนั้น ถ้าจะให้ได้ผลไวๆ เราจะต้องเลิกทำภาวนาที่กล่าวมาแล้ว
    เพราะถ้าพวกเราทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
    จิตจะงง จิตจะไม่ยอมจำอะไรทั้งสิ้น และนี่ก็อีกเหตผลนึงที่อาจจะทำให้เราทำสำเร็จช้า หรืออาจจะไม่สำเร็จเลย ก็ได้

    ขอให้พวกเราปฎิบัติตามที่กล่าวไปแล้ว
    เพราะจิตเราไม่สามารถทำ/จำอะไรได้หลายหอย่าง ในเวลาเดียวกัน
    จิตจะจำ/ทำหน้าที่ได้เพียงครั้งละหนึ่งอย่าง ในเวลาเดียวกัน เท่านั้น

    (อันนี้ขอให้ผู้ปฎิบัติทำจิตเกาะพระ พึงควรระวังกันด้วย ทำอะไรก็ตามอย่าไปจับปลาหลายมือ หรือคนหลายใจมันไม่ดี เพราะทำไปมีแต่ผลเสีย)

    แต่ถ้าวันใด ที่จิตของเราเบื่อทำจิตเกาะพระ
    ก็ยกเว้น ให้พวกเรามาทำแบบเดิมที่เราชอบไปพลางๆก่อน แต่ขอให้เป็นระยะสั้นๆ แต่ทำบ่อยๆไม่ได้
    เดี๋ยวจิตจะไปจำ/ไปทำของเดิมๆกันอีก อันนั้นจะแย่ จะช้าเอา

    สำหรับผู้ไม่เคยทำภาวนามาก่อน อันนี้จะสอนง่าย เพราะจิตกำลังว่าง
    แต่สำหรับผู้ที่เคยทำภาวนามาหลายปีแล้ว แต่ไม่รู้จักวาง
    อันนี้จะสอนยาก เพราะว่ามีสัญญาเก่ามาก ยึดมาก หลงมาก อัตตาตัวตนมาก หรือไม่รู้จักวาง
    อันนี้แหล่ะ! จะเป็นตัวกำแพงขวางกั้น มิให้เข้าถึงกระแสจิต กระแสธรรมได้โดยง่ายๆ

    เรื่องปฎิบัตินั้น เป็นเรื่องปัจจัตตัง เราจะต้องช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด
    เพราะพวกเราก็แค่บอกกันเฉยๆ เป็นผู้ชี้แนะแนวทางการปฎิบัติให้กันเฉยๆ
    แต่การลงมือปฎิบัตินั้น เราเท่านั้น ที่จะต้องช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด เพราะจะไม่มีผู้ใดมาปฎิบัติแทนกันได้

    สำหรับผู้ที่มีความตั้งใจสูง มีความเพียรสูง และจะต้องกระทำกันอย่างจริงๆจังๆ อันนี้จะสำเร็จได้โดยไม่ยาก
    แต่ถ้าใครมีสติ สร้างสติอย่างต่อเนื่อง อันนี้ก็จะสำเร็จไว เพราะมีความต่อเนื่องนี้ ถือว่าสำคัญสำหรับพวกเรา หรือนักภาวนา

    นักภาวนา หรือผู้ปฎิบัติเก่งๆนั้น เขามีความเพียรกันอยู่แล้ว เพียงแต่จะความต่อเนื่องกันเท่านั้นเอง
    (อันนี้สำคัญมาก)

    จิตเราจะเลิกโง่ จิตเราจะเลิกหลงกัน เราจะต้องหมั่นเจริญสติ หรือสร้างสติกันให้มากๆ หรือระลึก/นึก/จำ/จับภาพพระกันให้มากๆ
    เพราะเมื่อพวกเราเข้าถึงกระแสจิต กระแสธรรมกันได้แล้ว
    และตัวของเราเองนั่นแหล่ะ! จึงจะอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขกันได้สักทีนึง

    ไม่ใช่เป็นผูู้ปฎิบัติ ที่มีจิตใจขึ้นๆลงๆกันอยู่ หรือยังวิ่งตามกระแส ยังวิ่งตามความโกรธของตนกันอยู่เลย อันนี้ยังถือว่า ใช้ไม่ได้
    ขอให้พวกเราพยายามฝึกสติกันมากๆ จิตเราจึงจะนิ่งสงบได้
    เพราะถ้าจิตของเราไม่นิ่งเพียงอย่างเดียวกันแล้ว ทุกอย่าง แม้นกระทั่งคนรอบข้างเราก็จะพลอยไม่นิ่ง หรือจะคอยโดนลูกหลง จะโดนหางเลขไปด้วย หรืออาจจะทำคนอื่นๆสั่นคลอน หรือเป็นทุกข์ตามเราไปด้วย
    อันนี้ก็จะกลายเป็นผู้ที่กระทำผิดศีลละเอียดอยู่เรื่อยๆ ถ้าจิตคนเราไม่นิ่ง

    แต่ถ้าใครอยากได้บุญทุกนาที ทุกลมหายใจ
    ขอให้พวกเราหมั่นเจริญสติกันให้มากๆ หรือพยายามทำความรู้สึกตัวให้มากๆ
    นั่นแหล่ะ! เท่ากับเรากำลังสร้างกำลังใจ สร้างบุญบารมีของตนกันแล้ว

    ธรรมะสวัสดี
    จบ.2

    สงสัยจิตบุญ ดวงที่ 28 กำลังจะเกิดขึ้นไวๆนี้ เพราะวันนี้ผมได้ยินเสียงพระสวดมนต์ทั้งวันเลย ตั้งหลายชั่วโมงแล้ว
    และผมสังเกตดูว่า เมื่อไหร่ที่ได้ยินเสียงพระสวด จะมีดวงจิตยกกันทุกคราไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 มิถุนายน 2012
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    น่าน! โดนจนได้
    อุตส่าห์หนีมาอยู่ตั้งไกล ไม่รอด
    จะฟ้องครู ครูดัชชี่ (ครูปกครองแห่งบ้านจิตเกาะพระ) จัดการคุณวิทย์ จั๊กหน่อย!
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,438
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    กราบท่านภูค่ะ catt1เหมือนรู้ใจลูกศิษย์เลย อธิบายก่อนถามเสียอีก จะพยายามทิ้งของเก่าค่ะ แล้วจะเกาะพระไว้ตรงไหนคะ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่๗เหนือสะดือ ๒นิ้วมือได้หรือเปล่า?
     
  12. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    คุณวิทย์ครับ ท่อที่บ้านผมไม่ตันนะ
    แต่ต่อมน้ำตาของผมมันนั้น ตื้นตันยังไงไม่รุ๊
    ผมดีใจนะ ปลาบปลื้มใจแทนคุณด้วย ที่คุณได้จิตเดิมแท้กลับไป

    วันนี้ผมอยากจะพูดคำว่า ขอบคุณ ขอบใจกับครูเพ็ญ คุณวิทย์ และจิตบุญ จิตบำเพ็ญ จิตกำลังเกาะพระทุกๆดวงจิตในกระทู้ แฃะนอกกระทู้นี้
    ขอบพระคุณมาก ขอบใจมากๆ โดยเฉพาะำผู้ที่ตั้งใจปฎิบัติ จนจิตยกแล้ว
    แต่กลับไม่ทิ้งกัน ไม่ยอมมีสุขแต่เพียงผู้เดียว
    ผมขอสรรเสริญทุกๆดวงจิตที่มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมวัฎฎะกันนี้
    ช่วยนำพากันยกจิต ถึงจะเป็นสมมุติกันขึ้นมาก็ตามที แต่พวกจิตบุญมีความตั้งใจที่จะเป็นเพื่อนนำทางให้พวกเราพบกับความสุขได้ไม่ยากนัก
    นั่นก็คือ มารู้จัก พากันทำจิตเกาะพระ และยังมีอีกมายมายที่ยังไม่รู้จักเลย
    แต่ผู้ที่รู้จักแล้ว ก็พยายามมุ่งหมั่น หมั่นฝึกกันให้สำเร็จกันไวๆ
    เพราะเวลาที่เราสูญเสียกันไปแต่ละวินาทีนั้น มีค่ายิ่ง
    เพราะทุกคนก็รู้ดีกันว่า ชีวิตหลังความตายเราเตรียมพร้อมกันหรือยัง?
    แต่ถ้าเราสามารถยกจิตกันได้ก่อน ก็จะมีกำไรมหาศาลยิ่ง เพราะท่านที่จิตยกแล้ว นั่นก็หมายความว่า จิตนั้นพร้อม จิตนั้นมีที่ไปแล้วหลังโลกความตายนั้น
    แต่ถ้าพวกที่ยกจิตยังไม่ตาย ก็จะอยู่บนโลกนี้ อย่างผู้ไร้ทุกข์ หรือบรมสุขยิ่งนัก
    และขอให้ผู้ที่กำลังทำจิตเกาะพระ อยู่ณ.เวลานี้กันว่า ได้โปรดสังเกตชาวจิตบุญ หรือผู้ที่จิตยกกันนั้น พวกเขารู้สึกอย่างไร
    พวกเขามีทุกข์กันอยู่เหมือนกับพวกเราๆ มีแต่เพียงจิตเท่านั้น ที่ยก ที่เหนืออยู่ขันธ์5 ของตน หรือจิตแยกออกจากกาย แยกจากกองทุกข์นี้เสียได้

    แต่ผู้ที่จิตยังไม่ยก เราก็เหมือนยืนอยู่ในน้ำ จึงหนีความเปียกชื้นกันไม่ได้
    นอกเสียจากผู้นั้นนั้น ออกมาจากจุดที่ยืนอยู่นั้นเสีย จึงจะหนีความเปียกชื้นกันได้

    เมื่อก่อน ผมสังเกตดูคุณวิทย์ กับคุณดัชชี่(ครูฝ่ายปกครองแห่งบ้านจิตเกาะพระ)เข้ามาในกระทู้ใหม่ๆ ท่านจะเขียนแค่ บรรทัดเดียว หรือประโยคเดียว
    แต่ทำไมมาถึงตอนนี้ เหมือนอ่านนวนิยายเลย
    กระดาษ A-4 น่าจะไม่พอซะแร๊ววว...

    เมื่อคุณวิทยตั้งใจอยากจะเป็นครูสอนธรรมะ ครูสอนจิตเกาะพระ
    ท่านได้บอกกับครูเพ็ญ บอกกับท่านพ่อด้วย
    ตอนนี้ท่านก็คงสมใจนึกแล้ว
    ผมให้คาถาไปแล้วว่า
    ...อย่าอยาก...อย่ารู้โน้นรู้นี่...อย่าลังเลสงสัยมาก
    ให้ทำไปๆ ปฎิบัติลูกเดียว
    อย่าแวะข้างทาง อย่าไปหลงดูฌาน ญาณ นิมิต
    ขอให้เดินตรง(นิพพาน)ลูกเดียว แต่ถ้าจิตยกกันแล้ว แต่ถ้ายังพอมีลมหายใจ ก็ค่อยมาเก็บตกเอากันเอง พอยกกันเข้ามาจริงๆ กับไม่มีความอยากกันอีก ความอยากตั้งแต่แรกๆมันหายไปไหนกันหมดก็ไม่รุ๊

    เมื่อจิตยกกันแล้ว นิพพานกันแล้ว แต่ก็ล้วนสิ่งสมมุติกันทั้งสิ้น พวกเราอย่าไปสนใจในคำพูดของคนบางคน เพราะผู้ปฎิบัติที่สอบผ่านกันจริงๆเท่านั้น ถึงจะรู้ได้ อย่าไปฟังเขา ตัวเราดี ตัวเราชั่วนั้น ย่อมรู้ดี
    ถึงใครจะว่า นินทาก็ช่างเขาปะไร พวกเราจักต้องขอบใจเขาที่มาทดสอบจิตของพวกเราว่า สอบผ่านหรือไม่ เรายังมีอัตตา ตัวตน หรือจิตของเรายังวิ่งตามความโกรธกันอยู่ไหม๊
    นี่คือ เครื่องทดสอบจิตยกกัน ว่าจะผ่านหรือไม่ นั่นเอง
    เพราะจิตยกแล้ว ไม่ว่าอะไรมากระทบ ก็ต้องกำหนดรู้ เมื่อรู้แล้ว ทุกอย่าง ทุกธรรมก็ย่อมปล่อยวางไปเสีย ไม่มีผลกระทบต่อจิต เพราะจิตผ่านการวิปัสสนามาแล้ว จิตเข้าไปถึงธรรมชาติแห่งจิต จิตเข้าไปพบธรรมชาติ ธรรมดา ธรรมะ ซึ่งจะอยู่ภายในจิตนั้น

    จำไว้นะว่า
    อย่าอยาก อย่าอยากรู้โน่นรู้นี่ ทำไปๆ เดี๋ยวดีเอง ยกเอง นิพพานโดยไม่รู้ตัว
    เมื่อผู้ปฎิบัติเลิกอยากกันเมื่อไหร่ ก็จะถึงฝั่งกันเมื่อนั้น
    เพราะถ้าเราอยากมากกันเทาไหร่ มักจะได้สิ่งตรงกันข้าม ก็คือ ไม่ได้
    แต่ก็มีเทคนิคว่า ถ้าเรอยากจริงๆ ก็ขอให้เราทำสิ่งตรงกับข้าม
    นั่นก็คือ เลิกอยาก เลิกอยากรู้อยากเห็นกันซะ!

    ธรรมดา
    จบ.2
     
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ยินดีครับ
    ตรงไหนก็ได้ครับ
    อยู่ที่ว่าทำแล้วจิตสบาย จิตจำง่าย
    เน้นความสบายก่อนจึงค่อยลงมือปฎิบัตินะครับ
    เพราะจิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว


    [​IMG]
     
  14. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    โมทนาสาธุกับคุณSupatornด้วยครับ..
    วางของเดิมไว้ก่อน มาปฎิบัติจิตเกาะพระอย่างเดียวก่อนให้สำเร็จ
    ถ้าตั้งใจและมีความเพียร ไม่นานสำเร็จแน่นอน..
    จุดเด่นของจิตเกาะพระคือ จิตจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว(ต้องทำจริงจังนะ)
    เมื่อสำเร็จแล้ว ท่านจะลองกลับไปทำกรรมฐานกองเดิมของตนเองก็จะค้นพบว่า มันก็จะก้าวหน้าได้ดีอีกเช่นเดิม.. คือเรากำลังจะบอกว่าเมื่อทำจิตเกาะพระสำเร็จแล้ว.. ไม่ว่าจะไปลองทำกรรมฐานกองไหนๆก็จะสามารถเข้าฌาน4 ได้โดยไม่ยากเลย
    อย่าว่าแต่กรรมฐานเลย แค่สวดมนต์เท่านั้นนะ จิตก็จะดิ่งเข้าฌาน4เลย
    สวดไปสวดมา สวดไม่จบเพราะจิตดิ่งก่อนแล้ว พอเข้าฌานลึกขึ้นจิตจะละองค์ฌาน2ตัวคือ
    วิตก วิจารณ์ จึงทำให้เราลืมบทสวด เลยสวดไม่จบก็ปล่อยให้มันดิ่งลงไปเลย
    ถ้าทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้สำเร็จแล้ว กรรมฐานกองอื่นๆบอกได้ว่าไม่ยากแค่ใช้เวลาปรับตัวไม่นานก็จะสามารถทำได้เอง..
    แต่ว่าตอนเราฝึกให้เลือกจิตเกาะพระก่อนเพราะว่าจะสำเร็จเร็วที่สุด
    ที่พูดได้นี่ก็เพราะว่า เคยเป็นมาก่อน แต่ก่อนเวลาเราทำสมาธินี่ ซัดไปเกือบ20กองใน1ชม.
    เราพยายามลองดูว่ากองไหนก้าวหน้าที่สุด รวดเร็วที่สุด สุดท้ายก็มาเจอที่นี่นั่นเอง..
    อย่างทุกวันนี้อยากเข้าฌาน4ก็สามารถเลือกกรรมฐานกองไหนก็ได้แล้วแต่อารมณ์
    แต่ว่าจะมีอยู่หนึ่งกองที่เราถนัดที่สุดและเข้าฌานได้รวดเร็วที่สุดนั่นคือ จิตเกาะพระ..
    พอจิตยกแล้วไม่ต้องไปกำหนดมันเลย จิตจะทำหน้าที่ของมันเองเป็นออโต้โหมดเลย..
    ตั้งแต่ตื่นเช้ามาจนถึงมืดค่ำนอนหลับไป (สติหลับแต่ว่าจิตมันก็ยังเกาะพระตอนสติเราหลับ)

    ส่วนการกำหนดภาพพระที่ฐานใดๆนั้น เรามีข้อแนะนำว่า:-
    - ลองกำหนดไปดูหลายๆฐานแล้วดูว่าเราถนัดฐานไหนที่สุด ก็ให้เอาฐานนั้น
    - คำว่าถนัดให้พิจารณาจาก ผลแห่งการปฎิบัติที่ดีที่สุดก้าวหน้ามากที่สุดเป็นหลัก (อย่าเอาความชอบส่วนตนเป็นหลัก เพื่อความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนะ)
    - ฐานกำหนดก็มีเช่น ที่ศรีษะ ที่หน้าผาก(ตาที่3) ที่จมูก ที่หน้าอก ที่ท้องน้อย(กึ่งกลางกาย) ที่ภายนอกอยู่ข้างๆกายเรา(แนะนำว่าให้อยู่ในกายเราจะดีกว่าเพราะในกายเราจะบังเกิดมี พุทธานุภาพมากๆเลย.. ยิ่งสมาธิดีๆนะยิ่งกว่าแขวนพระเครื่องสัก10องค์เลย..ไปถึงไหนมีแต่รังษีพุทธะแผ่ออกจากตัวเองออกมาเต็มไปหมด ถามว่ารู้ได้ไง?.. ตอบ:เอาไว้ให้จิตเรานิ่งให้ได้ก่อนแล้วก็จะรู้ได้ด้วยตนเอง-ปัจจตัง)

    อันตัวเราเองนั่งอ่านกระทู้นี้ตั้งแต่เปิดมาอ่านไปอยู่หลายเดือนแล้วก็ซุ่มทำเอง มั่วๆไปก็ได้บ้าง
    แบบงูๆปลาๆ พอสุดท้ายตัดสินใจ(เอาว่ะ..(ขออภัย) ลองสมัครเป็นศิษย์เขาหน่อย ลดทิฏฐิมานะตนเองลงในฐานะผู้ปฎิบัติมาก็มากคนนึง.. ลองดูซักตั้งหนึ่ง..) ขอมีครูฝึกให้ช่วยแนะนำ สุดท้ายเราก็สามารถปฎิบัติได้ประมาณ20กว่าวันเท่านั้นเอง(แต่ว่าความเพียรเราสูงอยู่นา คือเกาะพระทั้งวันทั้งคืนจนมันเป็น ออโต้โหมดไปเลย)
    หวนนีกอยู่..แล้วตรูดันนั่งอ่านแอบฝึกอยู่ได้ตั้งหลายเดือน เสียเวลาจริงๆเลย รู้งี้สมัครเป็นศิษย์มีครูพี่เลี้ยงตั้งนานแล้ว.. ครูฝึกท่านผ่านมาหมดแล้ว ท่านจะช่วยให้เราเร็วมากยิ่งๆขึ้น

    ท้ายนี้..แนะนำว่าคุณSupatornควรหาครูฝึกคอยช่วยแนะนำจะดีที่สุดเพื่อวางกำลังใจให้ถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น อย่าเป็นเหมือนอันตัวเราแต่เก่าก่อนเลย.. เสียเวลาๆโดยเฉพาะผู้มีบารมีเดิมมาอย่างคุณSupatornนี่.. ก็จะน่าเสียดายเวลาอย่างยิ่ง.. ลองพิจารณาดูนะครับ

    ก็ขออวยชัยอวยพรให้มีกำลังใจในการปฎิบัติและมีดวงตาเห็นธรรมโดยเร็ววันด้วยเทอญ
    ขอบารมีพระรัตนตรัยช่วยดลบันดาลให้กุศลผลบุญของข้าพเจ้าทั้งหมดทั้งมวลทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน จงถึงแก่คุณSupatornด้วยเทอญ..

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป.. สาธุ สาธุ..
     
  15. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    เด็จน้องห้ามชิ่ง
    ต้องมาช่วยเด็จพี่ด้วยนะ อิอิอิ
     
  16. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    เคล็ดวิชาจิตเกาะพระ.. สำหรับผู้ฝึกใหม่

    เอาสั้นๆง่ายๆนะครับ แต่ว่าเป็นเคล็ดวิชา นี่ถ้าทำได้ รับรองก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว คือ
    1. ให้มีสติระลึกนึกถึงพระให้ได้ตลอด ทั้งวันทุกอริยาบท ส่วนภาพพระจะชัดเจนหรือไม่นั้น อย่าพึ่งไปซีเรียส ทำแบบสบายๆชิวๆระหว่างทำกิจการงานใดๆก็แล้วแต่.. ให้มีสติรู้ว่าจิตเกาะพระอยู่ มองเห็นหรือมองไม่เห็นก็บ่เป็นหยัง..
    2. ความชัดเจนของภาพพระจะตามมาภายหลังเอง.. อย่าไปเข่นว่าต้องให้ได้ๆ.. (เดี๋ยวจะยิ่งช้าเข้าไปใหญ่..)
    สรุปคือว่า ให้นำ้หนักจำนวนครั้งในการระลึกนึกถึงพระให้มากๆเข้าไว้เป็นหลักก่อน ความชัดเจนในภาพเดี๋ยวก็จะตามมาเองในภายหลัง..
    (คล้ายๆกับนักมวยนะ.. ให้ออกหมัดถี่ๆบ่อยๆ ต่อยโดนไม่โดนไม่เป็นไร ชกลูกเดียว..)

    ถ้าเป็นภาษาทางการนะ หัวใจเลยเขาเรียกว่า "การมีสติระลึกรู้ รู้สึกตัวทั่วพร้อม"
    แต่ในที่นี้เราระลึกนึกถึงภาพพระ เพื่อเป็นการปฎิบัติสมถกรรมฐานควบคู่กับวิปัสสนากรรมฐานไปพร้อมๆกันเลย (2 in one..) แถมทำได้ทั้งวันทั้งคืน ถ้าลืมก็แสดงว่าเรา "สติเผลอ" ก็ไม่เป็นไร..ให้กลับมาระลึกนึกถึงใหม่ "อย่าเผลอ" ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ..แล้วท่านก็จะพบกับความมหัศจรรย์ทางจิตของตัวท่านเอง..

    เอ้าสองวันนี้บ่นมากไปแล้ว..

    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะครับ.. สาธุ สาธุ
     
  17. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุ
    ในธรรมะของคุณลูกพลังด้วย
    ธรรมะของท่านช่างเฉียบแหลมเสียจริงๆ
    ท่านกล่าวมาทั้งหมดนั้น ถูกต้องแล้ว
    ครูเพ็ญๆ เราหายเหนื่อนละ ได้คุณลูกพลังมาเสริมทัพ กับคุณวิทย์ละ
    คุณวิทย์ กับคุณนกชาย ท่านก็เป็นหนุ่ม DJ.ประจำกระทู้ไปแล้ว
    ตอนนี้ได้พิธีกรหนุ่มไฟแรงอีกหนึ่งท่านละ
    คุณนกชายนี่ก็ใช่ย่อย

    เห่อพี่ภูกับครูเพ็ญหายเหนื่อยเป็นปิดทิ้ง
    เอ๊าจิตบุญท่านผู้หญิงหายไปไหนกันหมดหล่ะ!
    มาปะทะคารมกับDJ&พิธีกร

    มาๆ มาช่วยกันยกจิตกันไวๆ
    บุญใครบุญมัน บารมีใครบารมีมันนะ มาสร้างกันเองละกัน

    ว่าแต่ว่า คุณดัชชี่ ท่านไปเยือนต่างประเทศ นี่ยังไม่กลับมากันเลย
    คุณน้องหนูไปไหนแล้ว
    ส่วนชาวจิตบุญ ท่านอื่นๆอย่าละทิ้งกันไปเฉยๆนะ
    มาสร้างแสงให้กับดวงจิตกันต่อเลย
    ชาตินี้พ้นทุกข์ หลุดพ้นกันแล้ว ก็ขอให้มารีบสร้างแสงสว่างแห่งจิตของตนกันต่อเลย เพราะเมื่อเราจากโลกนี้กันไปแล้ว
    และสิ่งที่จะติดตามดวงจิตของเราไปกัน ก็คือ บุญ
    คือแสงสว่างที่อยู่ในดวงจิต
    เพราะว่าข้างบนโน้นเขาวัดกันที่แสงสว่างกันนะ

    อันนี้พูดจริงนะ แบบซีเรียส
    ว่าแต่ว่า weekend นี้จะมีจิตยกกันอีกรึป่าวนะ
     
  18. taktay

    taktay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +338
    พอดีเมื่อเช้าแวะเข้ามาแว๊บๆแล้วรีบพาลูกสาวไปเคลือบฟันรีบกลับมาสารภาพ...ข้อความนี้ของครูวิทย์หลังจากที่แอบเข้าอ่านทำให้ร้องไห้ชนิดที่แบบว่ามากๆ คิดทั้งวันและตัดสินใจเข้ามาแบบอย่ารออะไรอีกเลยเวียนว่ายตายเกิดเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการอีกแล้วจิตใจจำนงค์ตรงต่อพระนิพพาน
    ได้จับภาพพระมาได้ซักพักหลายเดือนแล้วแต่ยังไม่แม่นเดี๋ยวนี้เห็นอะไรก็คิดว่าโลกมันไม่ใช่สิ่งที่ควรยึดในโลกไม่มีอะไรให้เรายึดถือได้แม้แต่กายเราเองจะให้มันมีพละกำลังเหมือนตอนอายุ16ก็ไม่ได้555 ลูก สามีก็ยึดไม่ได้เพราะพวกเขาก็ไม่ใช่ของเรา เบื้องหน้าก็ต้องจากกันไปตามสภาวะกรรมของแต่ละคน ขอเพียงให้ได้เจอกันที่สุดท้ายคือพระนิพพาน

    ...ต่อไปนี้จะปฏิบัติตามที่คุณครูจะเมตตาสอนสั่ง...
    สิ่งที่ยังทำไมได้ในหลายๆอย่างคือ ความมักโกธร และเหมือนที่ครูว่าให้วางอุเบกขา อย่าไปจับพอไปจับก็หนัก (สั่งสอนตัวเองประจำ และไม่รู้จักจำ)
    อยากเดินถูกทาง การเดินทางจะได้สิ้นสุดลงซะที
    ...ขอบพระคุณที่เมตตาต่อจิตที่โง่เขลาค่ะ...:cool:
     
  19. taktay

    taktay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +338
    ไม่รู้จะพูดว่าอะไรจริงๆค่ะแอบร้องไห้ไปเมื่อเช้าแล้วรอบหนึ่งกลับมาอ่านก็ขออีกรอบขอขอบคุณที่เมตตามากมายเหลือเกินที่มีให้กับจิตที่โง่เขลาดวงจิตนี้
    ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ช่วยดลบันดาลบุญของข้าพเจ้าที่ได้สร้างสมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติส่งถึงคุณลูกพลัง ครูภู ครูวิทย์และครูทุกท่าน น้องๆพี่ๆทุกคนในนี้และในจิตเกาะพระนะค่ะสาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2012
  20. taktay

    taktay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +338


    (โดนเลยเจ้าค่ะ รับทราบพร้อมนำไปปฏิบัติค่ะ สาธุสาธุ):cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...