จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    พวกเราทำจิตเกาะพระกันทำไม?
    พวกเราฝึกดูจิตกันทำไม??


    สำหรับผู้ที่ไม่ได้ฝึกฝนจิตมาดี
    เราก็จะไม่มีทางมองเห็นการเกิด-ดับของจิต หรือมองไม่เห็นการเกิด-ดับของจิตตนเองได้
    จิตจึงไม่เข้าใจ จิตจึงหลงผิด คือหลงเห็นชอบไปตามกิเลสเป็นธรรมดา
    เพราะจิตมองไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นโทษที่แท้จริง
    และท้ายที่สุดก็ต้องหนีทุกข์กันไม่พ้น และไม่ต้องวิ่งหนีทุกข์ วิ่งหาสุขกัน
    เพราะทั้งสุข ทั้งทุกข์นี้ มันก็อยู่ภายในร่างกายของเรา เพียงแต่เราจะต้องเข้าไปเรียนรู้กับมัน
    และจะต้องอยู่กับมันให้ได้ด้วย

    แต่สำหรับผู้ที่ฝึกฝนจิตมาดี
    หมายถึง ผู้ฝึกสติให้เกิดอยู่บ่อยๆ เนื่องๆ หมั่นตามดู ตามรู้จิตตน ด้วยความเป็นกลาง
    ไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป จนเกินไป หรือ เราจะต้องไม่ลงไปเล่น ไปช่วย ไปยุ่ง ไปกำหนด ไปบงการ ไปบังคับ ขู่เข็น
    เหมือนเราเป็นผู้ดูที่ดีอยู่ห่างๆจิตจึงรู้ จิตจึงเข้าใจ และจิตปล่อยวาง
    เราจึงจะอยู่แบบสุขสบายกันได้ ​
     
  2. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอแสดงความยินดีกับอริยบุคคลฝ่ายฆราวาสใหม่ล่าสุด(ถอดด้าม)
    กับท่านนิวเวป หนึ่งเก้าห้าเก้าด้วยนะครับ

    การปฎิบัติธรรมนั้น เราจะต้องมีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน
    หมายถึงต้องนำจิตเกินตรง หรือเจริญมรรคมีองค์8 (ศีล สมาธิ ปัญญา)
    ไม่ใช่เห็นเขาทำดี ทำบุญแล้ว เราจึงทำตามเขา ปฎิบัติตามเขาไปอย่างนั้นแหล่ะ! หรือทำบุญตามกระแส
    อันนั้นมันไม่ใช่ ไม่ถูก เราจะต้องปฎิบัตินำความศรัทธากันให้ได้
    เพราะพระพุทธศาสนามิใช่เป็นเรื่องของ ความเชื่อ
    แต่ต้องลงมือปฎิบัติเอง เพื่อพิสูจน์ด้วยตนเอง จึงจะเชื่อว่า เห็นเอง ชอบเอง ไม่ใช่ปฎิบัติไปงั้นๆแหล่ะ!
    หรือโดยเฉพาะจะต้องมีผู้แนะนำให้ว่าจะต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้
    อันนั้นไม่ใช่ผู้มีปัญญาเป็นของตนเอง คือคิดไม่เป็น
    (อันนี้ไม่ได้กล่าวถึงใคร หรือพลาดพิงไปถึงผู้ใด พูดกลางๆ)

    ขอโทษนะคุณพี่นิวเวป การที่จะทำความดีจะต้องกล้าแสดงออก
    คนทำความชั่วมันยังไม่แอบทำเลย ยิ่งคนสมัยนี้ ยุคนี้ยิ่งแล้วใหญ่
    พูดมาก ศีลละเอียดผมก็ยิ่งจะขาด ไม่พูดเลยก็ไม่รู้เรื่องกันอีก
    งานนี้ยอมตนเองเสีย เพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์
    อยากทำความดีเฉยๆ แต่ไม่อยากเด่น และก็ไม่อยากดังด้วย

    ทำไมวันนี้พูดมากจัง
    ไปดำจิต แบบคุณวิทย์บ้างดีกว่า

    ว่าแต่ว่าสงสารคุณลูกพลังเขานะ ตอนนี้กำลังโดนครูใหญ่(ครูเพ็ญ) กับผช.ครูใหญ่(ครูดชน.)ติวเข้มกันอยู่
    555...สมนำหน้าอยากหลงเข้ามากันดีนัก ต้องเอาให้เข็ด...เห่อๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 พฤษภาคม 2012
  3. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ไปขโมยมาจากห้องบินเกาะหมู่ จากห้องจิตเกาะพระมาฝาก
    นี่ก็แอบทำกัน ผมก็เลยนำมาให้คนทั่วโลกได้รับรู้กันไปเลย
    รู้ดำรู้แดงกันไป ทำความดีไม่ต้องไปแอบทำ ทำความชั่วว่าไปอย่าง
    ลองอ่านกันดูนะ...
    (ขอโทษนะคุณดชน.ไม่ทันผมแล้ว ซีนหาย...)

    คุณวิทย์ว่างๆ คุณไปทำpowerpoint วิธีทำจิตเกาะพระเบื้องต้น ให้ครูเพ็ญหน่อยดิ

    รายงานวัดดอยเปา(กลุ่มคนใหม่)

    วันนี้มีน้องอิ๋วอั๋นไปด้วย น้องทั้งสองน่ารักมากตั้งใจจะไปวัดกับพี่ดัช
    พี่ดัชก็อยากให้น้องทั้งสองได้รับธรรมะจากครูเพ็ญเหมือนกัน
    แต่พอไปถึงครูเพ็ญกำลังพูดคุยให้ธรรมะกับคุณพี่อุบล
    ท่านนี้ก้อมาใหม่ เห็นบอกว่า ไปฝึกการทำสมาธิจากที่อื่นมา
    รวมทั้งอ่านเองจากหนังสือด้วย
    พอได้เวลาคนก็ทยอยกันเข้ามามากขึ้น
    น้องอิ๋วอั๋นได้พูดคุยกับครูเพ็ญบ้าง
    เราเริ่มการทำวัตรเย็นกัน จบแล้วพระอาจารย์ก็มากล่าวแนะนำ
    พร้อมทั้งยกให้ครูเพ็ญเป็นผู้ดำเนินรายการ
    แต่ครูเพ็ญบอกทำเป็นสองกลุ่ม คนใหม่ มาทาง ดชน
    คนเก่าไปสอบอารมณ์กับครูเพ็ญ
    แล้วเราก้อเริ่มดำเนินรายการ..........

    กลุ่มใหม่ ครูฝึกหัดได้เกริ่นว่าการทำจิตเกาะพระเป็นการภาวนาอย่างหนึ่ง โดยการใช้จิตไประลึกนึกให้เห็นภาพพระ จะได้เปรียบกว่าการทำการภาวนา
    อย่างอื่นคือ เราได้บารมีของพระพุทธเจ้ามาช่วยดึงจิตเราให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิ
    นั่นเอง ระหว่างที่พูดก็ให้ทุกคนลองทำใจสบายๆ หลับตา ให้ลองนึกถึงภาพ
    แล้ว ก็ย้ำไปว่า การนึกระลึกถึงภาพพระต้องเป็นไปอย่างสบายอารมณ์
    ไม่ไปกดเกร็ง ให้เกิดความเครียด ทุกคนตั้งใจหลับตาปฎิบัติกัน เราก็พล่ามไป
    ว่า พอหลับตาแล้ว ให้นึกถึงภาพพระได้เลย เอาใจให้สบายใครไม่เห็นภาพพระ
    ก็หายใจลึกๆ ค่อยๆนึกไป ให้เห็นภาพพระเหมือนเราเห็นภาพใบหน้าพ่อ แม่ ลูก หรือ แฟน ของเรา ใครที่เห็นภาพพระให้ลืมตาขึ้นมา ก็มี ลืมตาขึ้นมาเกือบทั้งหมด เริ่มจาก
    พี่อุบล ท่านนี้นึกเห็นภาพพระเป็นสีทอง เห็นได้ทั้งหลับตาและลืมตา สมาธิท่าน
    ตั้งมั่นดีทีเดียว เหมือนท่านจะมั่นใจ ถามเรื่องศีล ท่านก็บอกของท่านผ่านแน่ พี่อุบลได้คุยกับครูเพ็ญไปแล้วเลยคิดว่าน่าจะเก็ตในเรื่องจิตเกาะพระไปบ้างตอนท้ายมาก็ขอเบอร์ครูฝึกหัดไป ก็คิดว่าวันพระหน้าคงได้สอบอารมณ์ยกระดับจิตดูอีกที
    ท่านต่อมาคือน้องอิ๋ว น้องอิ๋วโดยจริตของเธอแล้ว เธอจะเป็นประเภทอะไรก้อได้ สบายๆ ไม่เรื่องมาก พอให้มาจับภาพพระ เธอก้อจับได้ทันทีทั้งลืมตาและหลับตา สามารถ วางจิตให้นิ่งได้อย่างรวดเร็ว เธอบอกว่าเห็นภาพพระเป็นสีทองอร่ามเช่นกัน ครูฝึกหัดก็เลยลองให้เธอเดินหน้าต่อไปโดยการเกาะพระและทำให้ภาพพระเป็นประกายพรึก(ตอนนี้โทรมาว่า ได้แล้วและเกาะพระแน่นเลย) เธอไม่มีคำถามเพราะเป็นอะไรที่บอกอะไรก้อไปอันนั้น ถึงว่าทำไมถึงไปได้เร็ว

    พี่อีกคน จำชื่อไม่ได้ ท่านบอกว่ามาทำความสะอาดวัด อยู่กับองค์พระตลอด เห็นองค์พระบ่อยๆ พอครูบอกให้จับภาพพระพี่เขาก็จับได้เลยเป็นสมเด็จองค์พระปฐมฯ พี่เขาสามารถทำใจให้สบายๆ ไม่เครียดไม่แคร์ใดๆ แต่พอถามเรื่องศีลท่านบอกว่า ศีลท่านไม่พร้อม คือพอเห็นตุ๊กแกท่านจะรังแกทันที ไม่จับไม่ไล่ก้อต้องตีโยนทิ้ง เราบอกว่าพี่ทำไมต้องทำเขา พี่บอกไม่รู้เป็นอะไรเห็นไม่ได้ มันเป็นเวรเป็นกรรมกันมา เคยถูกตุ๊กแกกัดมือเลือดกระเด็น งูก้อเคยถูกกัดด้วย เราก้อเลยให้พี่เขาวางกำลังใจ โดยการใช้พรหมวิหารสี่ โดยเฉพาะตัวเมตตา พร้อมทั้งให้พี่เขาตัดเวร ตัดกรรมตัดภพตัดชาติโดยการไม่ไปจองเวรกับตุ๊กแก ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวหากพบเจอเห็นให้แผ่เมตตาให้เขา และให้พี่จับภาพพระเอาจิตมาเกาะพระบ่อยๆ เวลาจะไปทำอะไรตุ๊กแก เดี๋ยวพระท่านจะปรามเราเอง คนนี้ คุยไปด้วย ขำไปด้วย ท่านอื่นบอกเผลอศีลข้อ 1 พี่เขาบอก พี่ไม่เผลอพี่เจตนาเลยอ่ะ 555 ได้ขำกันทั้งวง พอวางกำลังใจแล้วท่านก็บอกจะพยายาม

    น้องอั๋น แฟนน้องอิ๋ว นี่ตอนแรกให้จับภาพพระ น้องไปจับที่เท้าของครูบาร์ศรีวิชัย เราก็บอกได้เห็นเป็นแบบไหน น้องก็บอกเป็นสีทอง เพราะจำได้ว่าเคยไปติดทองที่เท้าท่าน พอรอบสองเห็นขึ้นมาเห็นองค์ด้านข้าง บอกน้องเขาว่าทำใจให้สบายที่สุด ไม่เครียด ให้เห็นท่านเหมือนเห็นอิ๋วอ่ะ พอน้องเก็ตตอนนี้โทรมาบอกได้เป็นภาพประกายพรึกเลย เห็นอยู่เรื่อยๆ เออดีแบบนี้
    ท่านต่อมาก้อจำชื่อไม่ได้อีก เคยไปวัดท่าซุง เห็นหลวงพ่อฤาษีฯตลอด มีสองภาพ เห็นทั้งยามหลับตาและลืมตา ทำอะไรก้อเห็น คือจิตพี่เขาเกาะติดอยู่กับหลวงพ่อแล้ว ก็เลยบอกให้พี่เขาเลือกเอาภาพเดียว พี่เขาเหมือนจะได้มโนฯแต่ไม่แน่ใจเพราะท่านยังงงกับตัวเองและจะพูดซ้ำๆในเรื่องเดียว เราก็เลยบอกว่าถ้างั้นพี่นำจิตเกาะหลวงพ่อเลย ให้แน่นนะ ส่วนศีลพี่เขาบอกผ่านชัวร์ ก็เลยบอกว่าวันพระหน้าจะให้ครูเพ็ญสอบอารมณ์ยกระดับจิตให้
    หลวงพี่ ท่านเพิ่งบวช วันนี้เอง(วันพระ) ท่านบอกว่า ท่านฝึกสมาธิเอง ทำไปเรื่อยๆแบบนั้นแหละ พอให้จับภาพพระรอบแรกท่านบอกว่า เห็นเหมือนเป็นโครงพระแต่เป็นเงามืดดำ พอรอบที่สองไม่เห็นอะไรแล้ว ก็เลยปรับอารมณ์ท่านโดยให้ท่านทำใจให้สบาย เพราะท่านออกอาการเกร็งๆไม่ได้ปล่อยให้อารมณ์ลื่นไหลสบายๆ พอถามว่าท่านมีคำถามมั้ยท่านบอกว่า ขอเวลาปฎิบัติซักสองสามวัน เพราะเรื่องนี้ใหม่มาสำหรับท่าน
    มาถึงลุงพ่อของพี่หนุ๋ย (พี่หนุ๋ยไปอยู่รวมกลุ่มกับครูเพ็ญ) ลุงบอกมืด ไม่เห็นอะไรเลย พอปรับอารมณ์ท่าน ลุงก็บอกว่า เออ เห็นแล้วเห็นพระเหมือนพระประธานในวัด แต่มาแป๊ปเดียว แล้วก้อหายไปเลย มาบ่อยมั้ยลุง? หลับตาก็เห็นมาบ่อย แต่พอลืมตาไปไหนไม่รู้แล้ว หุหุ ลุงพยายามน่าดูชม
    ตกลงเอาแบบคร่าวๆไปนะคะ แล้ววันนี้ไปต่อที่วัดดอยเปา จะพยายามไม่อืดแบบนี้อีกค่ะคราวหน้า ผิดพลาดประการใดโปรดอภัย ให้คนใกล้แก่(ใกล้นะแต่ยังไม่)
    อ๋อ รอบนี้โลกทิพย์มากันเพียบจ๊ะ(แห๊ม ถามกันพรึมพรำเชียว)แต่แปลกพอกลับมาบ้านโทรหาครูเพ็ญ ....ครูเกิดไรขึ้นน่ะ ท่านที่เข้ามาใต้ศาลาดูท่าทางใหญ่โตแต่ระยะห่างออกไปมีออกันเป็นแถวเลย ...ครูบอกเกิดปฎิกิริยาแพ้รัศมีกัน
    เดี๋ยวครูละเอียดมา อธิบายว่าเกิดไรขึ้น(หุหุ จะโดนมั้ยเนี่ย ยกไปให้ครูให้หมดคำอธิบาย )


    คัดมาจาก คุณดชน.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 พฤษภาคม 2012
  4. เมิล

    เมิล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +3,132
    คุณภูทยานฌาน2 คะ รออ่านภาค 2 หลังจากถอดกายทิพย์ขึ้นไปบนฟ้าอยู่นะคะ
    รออยู่นะคะ
     
  5. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932


    อนุโมทนาสาธุ สาธุ กับท่านnewwave1959
    ดวงจิตลูกพลังขอกราบดวงจิตท่านนิวเวฟด้วยครับ...
     
  6. Plapersia

    Plapersia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +775
    ยอมรับว่าจิตแอบตกค่ะ ฮ่าๆ แต่ตอนนี้กระทู้นั้นมีsomeone(รึผู้หวังดี?)มาทำให้กระทู้ปั่นป่วนค่ะ
    ตอนนี้จากจิตตกกลายเป็นเบื่อแทนแล้วค่ะ ตอนนี้เพิ่งทราบว่ามีคุณฟ้าที่เอาไปเผยแผ่ในเฟสบุ๊ค อันนี้วุ่นวายสุดๆ รวมมิดทุกบทควมเตือนภัยในเว็บพลังจิเลยค่ะ
    เกือบจะไปโฆษณาจิตเกาะพระให้พี่ภูแล้วเชียว... อิอิ^^

    ขอมาก็จัดไปค่ะพี่ภู น้ำตก + คอหมูย่างค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2012
  7. Plapersia

    Plapersia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +775
    ส่งการบ้านต่อค่ะ ฮ่าๆ

    เมื่อวานเราฝึกจิตเกาะพระไปด้วย คุมน้องอ่านหนังสือไปด้วยค่ะ เอารูปพระมาจ้องต่อหน้าน้องเลย(น้องก็มองงงๆค่ะ เจ๊ทำไรอ่ะ?) ตอนนั้นจิตเราลืมภาพพระอีกแล้วนึกไม่ค่อยออก พระท่านเลยส่งแบบฝึกอย่างโหดรวดเร็วทันใจมาให้ค่ะ
    คือ มองรูปพระ-หลับตาระลึก-เห็นพระทั้งองค์ไม่ชัดลางมากๆ-ลืมตามองรูปพระอีกที-พอปิดตาระลึก มีกระดาษวาดรูปเศียรพระแบบการ์ตูนมาปิดตรงเศียรท่าน จิตก็นึกว่า ไหนลองนึกภาพเศียรท่านให้ออกสิ พอนนึกออก-ลืมตาดูรูปพระต่อ-มีกระดาษมาปิดตักอีก-ระลึกได้ลอง-มองรูปพระใหม่-หลับตาอีกที่ก็ปิดแขน-ปิดตัว-ปิดนาค จนเราสามารถระลึกท่านได้เต็มองค์ค่ะ ฮ่าๆ แปลกดีไหมค่ะ ถึงไม่ชัดมาก แต่เราก็เห็นท่านเต็มๆองค์ค่ะ(จิตกลับมาจับภาพพระได้อีกครั้ง)

    พอเราเอากายหยาบไปอาบน้ำ ก็เอารูปพระไปแปะที่กลางจอคอมพิวเตอร์ค่ะ(กันน้องเล่นคอม) น้องก็ฮาค่ะ ฮ่าๆ ส่วนเราก็อาบน้ำอย่างสบายใจค่ะ พอส่งน้องขึ้นนอนตอน5ทุ่มแล้ว เราก็แอบไปนอนสักแปปกะว่าจะตื่นมาส่องกระทู้รอบดึกค่ะ

    พอตื่นมาส่องกระทู้นี้ แล้วก็ลองทำตามบทความที่พี่ภูมาโพสดูค่ะ ได้ผลดีขึ้นเยอะเลย เรารู้สึกยังไง ก็ทำการรับรู้ในจิตว่า "อืม มีอาการปวดขาแล้วนะ....อืม ตาจะเปิดแล้วนะ ... อืม เห็นภาพที่จิตปรุงแต่งอยู่นะ(เหมือนเห็นผีอยู่ข้างหลังอ่ะ-ขนลุกทั้งหลัง- ก็เลยรีบรู้ไวๆ-หนีผี- แต่ไม่ไล่เขานะ วิปัสนาว่ามันเป็นจิตที่เราปรุงแต่งเองท่าเดียว จะได้หายไปเร็วๆ จิตนาการทิวล้ำลึกไหมล่ะ) ....อืม ใจเราเต้นเร็วอยู่นะ... อืม ภาพพระหายนะ... อืม ภาพระท่านหันข้างนะ ..."

    สลับกันแบบนี้ไปเรื่อยเลยค่ะ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ทนปวดขาไม่ไหว ชาจนไม่รู้จะชายังไง ยกเว้นจิตนาการเรื่องผีนะโดนไปสองรอบ หน้าทีหลังที หนีแทบไม่ทัน(ดูคนอวดผีไปสามเทปรวดค่ะ เลยฟุ้งซ่านไปเยอะ แต่ละตนอาฆาตแรงๆทั้งนั้น อีกอย่างทำตอนตี2ครึ่งด้วย) ฮ่าๆ

    สรุปแล้วทำได้ถึง เห็นพระเป็นรูปใสๆค่ะ แต่ไม่ชัดมาก ตาจ้องแต่ที่ตักขัดสมาธินั่นแหละ เพราะเป็นคนที่ชอบท่านั่งของพระพุทธรูปมาก ตอนเด็กๆนี่ังลองนั่งตามท่านเลย ยังเคยสงสัยนะ ทำไมพระภิกษุท่านไม่นั่งท่านี้บ้าง มันแลดูสวยงาม สบายดีออก

    นอกเรื่องไปไกลแล้ว แหะๆ ระหว่างที่เห็นพระใสๆ ก็มีความรู้สึกตัวเบาตัวโตขึ้นค่ะ(หลังจากฟุ้งซ่านไปเจอผีสยองสองรอบ)
    รู้สึกว่ากายเนื้อเราหายไปบางส่วน(ไม่มีความรู้สึกที่กายเนื้อบริเวณนั้น เหมือนมันหายไปเลยค่ะ แต่ไม่ใชอาการชานะค่ะ) จิตก็รับรู้ว่า อืม..รู้สึกว่าตัวเราโตขึ้นนะ ...อืม...แขนเราหายไปนะ พอเราไม่ไหวเราก็ถอยออกมาค่ะ ที่จริงจิตเรายังไม่อยากถอยออกมานะค่ะ แต่คิดว่าปวดขาเกินกว่านี้คงจะไม่ไหว ปวดท้องเข้าห้องน้ำเข้าไปอีก เลยขอจบดีกว่า ทนได้แต่ไม่ดีนี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ^^

    --- that's all ---- จบการบ้านค่ะ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2012
  8. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    เรียนท่านผู้รู้
    วันนี้ข้าพเจ้ามีปุฉาธรรมะมาถาม คือ อะไรเป็นเหตุผลที่สำคัญที่ทำให้คนเข้าหาธรรมะ?
    ตอบ3ข้อเรียงตามลำดับความสำคัญ
    1.
    2.
    3.

    ขอเชิญทุกๆท่านร่วมวิสัชชนา ตามมุมมองแลปสก. ของท่าน
    กราบขอบพระคุณและขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่านครับ
     
  9. Kim_UoonSo

    Kim_UoonSo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +5,937
    [​IMG]

    แวะมาให้ของขวัญและกำลังใจคนเก่ง คนดี มีจิตดี มีพระในจิตจ้า
    ขอให้ทุกท่านหมั่นดูจิต มีสติ สนใจแต่จิตตนเอง...
    มีจิตเกาะพระแนบแน่น ยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ
    โดยเฉพาะคนพิเศษ สมาชิกใหม่แห่งบ้านทรายทองจ้าา
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    น่าน ลำปาง ลำพูน ไปอีกนิดก็จะถึง เชียงใหม่แร๊ะ!

    ผมอุตส่าห์ไม่เอ่ยนามแฝงจริงของท่านนะ
    แต่คุณลูกพลัง ท่านเอ่ยนามแฝงจริงๆเลยคราวนี้
    ทั้งโลก มิใช่แค่เฉพาะประเทศไทยนะ เพราะเวปนี้ดังไปทั่วโลก

    ขออภัยท่านเวปด้วยที่อาจล่วงเกินจิตของท่าน

    สมองคนนึกว่าเลิศแล้วนะ แต่คุณรู้กันมั๊ยว่า เลิศกว่าสมอง ก็คือ จิตคของคุณเอง
    เพราะว่า สมองเก่ง หรือจำอะไรได้ดี เดี๋ยวอีกไม่นาน สัญญาก็จะตกกระป๋องเหมือใครบางคน หลายๆท่าน อาทิเช่น ครูเพ็ญ....อิอิ

    แต่จิตยกแล้วยกเลยนะ จิตเรียนรู้ครั้งเดียว และรู้ไปตลอดชีวิต ตลอดภพชาติด้วย
    พวกเราคอยสังเกตดูกันตรงพระสุปฎิปันโน(ปฎิบัติ ปฎิบัติชอบ)กันดูเอาเอง
    ท่านอรหันต์ไว บางท่านไม่ทันอรหันต์ ก็ละสังขารเสียก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2012
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    เอ่อ! มีคนสนใจด้วย นึกว่าไม่มี
    ผมเล่าไปแล้ว ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามแต่ใจกันนะ ผมมิได้ห้ามใจใคร
    แต่ถ้าล่วงเกินอะไรใคร หรือบางอย่างก็ขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย
    เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะ
    ผมไม่กลัวคนด่า
    คนด่าหมายถึง ครูเราดีๆนี่เอง เพราะจะได้เช็คชื่อ นายมานะ อัตตา ตัวตนไปพร้อมกัน ว่าพวกเขายังมีอยู่ภายในจิตใจของผมไหม๊?
    คนด่าหมายถึง โลกธรรม8 ยังมีอยู่จริง
    คนด่าหมายถึง ยังมีคนคิดถึง จึงพูดถึง แต่จะเป็นทางลบก็ตาม
    เพราะจิตเข้าถึงอุเบกขาญาณได้นี่ มันดีจริงๆ คือเหมือนก้อนหินดีๆนี่แหล่ะ!
    คือกระทบไปเถอะ ไม่ผิดหู ปิดตาหรอก เพราะไฟกิเลสในจิตมันมอดน่ะ
    เขาเรียกว่า ดับหรือเปล่า ผมไม่ทราบ ผู้ที่ทราบต้องมาเป็นเองถึงจะรู้

    ว่าจิตเกาะพระนี้ได้ผลเกินคาด (เฉพาะผู้ที่ปฎิบัติได้นะ)
    สำหรับบางท่านอยากทำได้ ผมบอกทริคนิดเดียวว่า คุณก็นำจิตของตนเองออกจากทางโลกกันให้ได้ก่อนเห่อ แล้วค่อยทำจิตเกาะพระ
    เพราะพระ พระพุทธเจ้า หรือพระอริยเจ้า ตามที่ท่านเกาะอยู่นั้น ท่านมิได้ปรารถนาความสุขแบบมนุษย์โลก แบบเราๆ แต่ท่านปรารถนาบรมสุข หรือโลกพระนิพพาน

    ขอฝากให้คิดกันแค่นี้นะ
    เจริญพรฯ
     
  12. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โอ้โห! ขอบใจเธอมากนะ ดูก็อิ่มแล้ว น้ำลายสอเลย

    นั่นดิ! ใครจะไปขยายกรรมกันต่อไปก็เป็นเรื่องของเขา เราก็อย่านำจิต(อันบริสุทธิ์)ของตนไปยุ่งเกี่ยวเชียวนะ กรรมใครกรรมมัน มิมีใครมาทำให้กับเราหรอก นอกจากเสียตนเอง
    นำจิตไปเกาะพระ เกาะแต่บุญ กุศลกันอย่างเดียวนะ อย่าลูหลานเอ๊ย!
    ทางนั้นมันหนทางสู่นรกแท้ ทางประเสริฐไม่รู้จักทำ ไม่รู้จักไปกัน
    เราก็แค่ได้แต่บอกปากจะจะฉีกถึง(รู)หูแล้ว

    เธอไม่ต้องไปโฆษณาหรอก เดี๋ยวถ้าเป็นลูกหลานเหลนของพระพุทธเจ้า หรือสมเด็จองค์ปฐม หรือพลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นต้น
    หรือผู้พอจะมีบุญ หรือจิตพร้อมที่จะยกกัน เดี๋ยวเขาจะมาเอง ตามแรงบุญของคนๆนั้น
    เดี๋ยวครูเพ็ญของผมท่านจะตายเสียก่อน แค่นี้ก็หลายสิบแล้ว
    ผมเป็นคนโยน แต่ครูเพ็ญและท่านอื่นเป็นคนเสิร์ฟ(เคยดูตะกร้อไทยกันไหม? เอ่อน่ะเหมือนกัน)

    เธอก็เหมือนกัน อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ

     
  13. Plapersia

    Plapersia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +775
    เพราะกลัวพวกครูพี่ๆทั้งหลายไม่ไหวเนี่ยแหละค่ะ เลยไม่คิดจะโฆษณาในตอนนั้น เพราะคนในนั้นมีสองประเภท คือ จิตบุญ กะ จิตตก แต่อย่างหลังนี่เยอะกว่า

    แล้วอีกอย่างจิตเรายังไม่รู้เลยว่ามันดีที่สุดยังไง ทำแล้วได้ผลจริงไหม (กำลังอยู่ในขั้นตอนปฏิบัต ด้วยตนเอง และ ปริยัติ ยังไม่ได้ปฏิเวธ ที่พึงประสงค์ หรือควรได้ที่สุด จากการฝึกกรรมฐานนี้ค่ะ

    (ทิวคิดว่า ถ้าจะมีคนโฆษณา ก็ควรจะเป็นคนที่จิตยกแล้วมากกว่า คนที่ยังไม่รู้แจ้งเห็นจริงค่ะ^^)
     
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    อาการปิติทั้ง5 หรือจิตเข้าถึงความละเอียดมากขึ้นแล้ว คือ จิตถึงอุปจารสมาธิ(เฉียดฌาน) แต่บางท่านยังคงมีเวทนา หรือยังหลงเหลือเพียงนิวรณ์5 นิดๆ
    แต่ถ้าจิตเข้าฌานแล้ว จะมีองค์ฌานทั้ง5ครบ หรือจิตเข้าอัปปนาสมาธิ คือจิตเข้าฌาน จิตกับสติจะรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น และนิวรณ์5 จะไม่มีเหลือแล้ว และเลยปิติ5 แล้ว แต่ก็ต้องอยู่ที่จิตว่าทรงฌานอะไรอยู่ เพราะฌาน1-2-3 นั้น ระบบประสาทกายกับจิตยังไม่ตัดขาดจากกันทีเดียว
    แต่จะขาดตอนฌาน4 ขึ้นไป เช่น อาการหูดับ นิวรณ์5(หรือเวทนาไม่มี) ปิติ5ไม่มี องค์ฌาน5มีแค่ เอกัคคตา+อุเบกขา คือการวางเฉยเพิ่มมาอีกหนึ่ง ประกอบองค์ฌาน2

    เธอนี่ความเพียรน้อยไปนิดนึง แต่ถ้าเธอรออีกหน่อย จิตก็จะถึงฌานแล้ว แต่ถ้าถึงฌานแล้ว เวทนาจะหายไปหมด เพราะระบบประสาทกายกับจิตจะตัดออกจากกัน เพียงชั่วคราว เห็นไหมจิตเธอมิได้อยากออก เพราะยังไม่ถึงเวลาจิตจะออก แต่ถ้าถึงเวลาเมื่อไหร่ จิตเขาจะคลายออกมาเอง นี่เธอเอาสติตนเองไปบังคับให้จิตถอนซะแล้ว น่าเสียดาย เอาใหม่นะ
    นั่งเพลิน ทำจิตเกาะพระนี่ไม่จำเป็นต้องไปนั่งท่าสมาธิ ท่าทางการอะไมาก ขอให้เน้นกันตรงแก่น คือดู สนใจแต่จิตเท่านั้น
    ขอให้จิตสบายในขณะที่ทำก็พอแล้ว ทำสมาธิแบบจิตเกาะพระง่ายที่สุด เพราะไม่ต้องไปห่วงคำบริกรรม เพราะในขณะที่พวกเรากำหนดจิตไปเกาะพระกันอยู่นั้น ก็เหมือนเราคำภาวนากันอยู่แล้ว คือแตกต่างบนความเหมือน

    ให้ครูเพ็ญตอบมั่ง คนอื่นๆตอบมั่ง เพราะจะได้ให้ผู้อื่นอื่นๆแสดงวิชั่น หรือทัศนะ ความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง เพราะเราไม่รู้ว่าใครไปถูกจริตใคร พวกเราแนะนำมิได้คิดว่าใครเก่งกว่า อันนั้นเราไม่สนใจ เพราะนายมานะ นายอัตตา นายตัวตนพวกเราไม่มี แล้วจะไปคิดกันทำไม ใส่เกียร์เดินหน้าเต็มตัว เพื่อตั้งหน้า ตั้งตาช่วยยกจิตคนต่อไปฯ

    เจริญพรฯ
     
  15. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    เธอผู้มีปัญญา จิตเป็นสัมมาทิฎฐิ(ความคิดเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง)อยู่ภายในจิตของเธอแล้ว ดีแล้วที่เธอคิดได้อย่างนั้น เพราะอะไร ขอให้เธอทำได้ก่อน สำเร็จก่อน ช่วยตนเองก่อน แต่ถ้าช่วยยกจิตตนเองสำเร็จแล้ว เธอก็จะไปช่วยหรือไม่ช่วยก็เป็นเรื่องเธอแล้วนะ คราวนี้
    เพราะถ้าไม่อย่างนั้น ถ้าเราไม่รู้จริง
    แล้วคนอื่นถามมาแล้วเราจะตอบคำถามเขาเหล่ากันได้อย่างไร
    เพราะจิตเกาะพระนี้ละเอียด ปลีกย่อยเยอะ สรุปแล้วเราจะต้องทำได้ก่อน ต้องรู้จริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นเราจะจนมุม และคนอื่นจะพลอยไม่เลื่อมใส เพราะว่าไม่มีจริง ไม่มีผลจริง
    เธอต้องปฎิบัติให้ได้ผลก่อน(ปฎิเวธก่อน) เราจึงงบอกปฎิยัติคนอื่นๆต่อไปได้ จริงไหม๊?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2012
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    (คำตอบสีแดง)

    ทำไมหมู่นี้เราตอบคนเดียว
    ลูกหลานไปไหนกันหมด
    เอ๋อ! ครูเพ็ญกับคุณดชน. มัวแต่ยุ่งๆกับนักบิน(เกาะหมู่)จิตเกาะพระกันที่วัดดอยเปา
    นี่ท่านเล่นยกจิต ดวงจิต วิญญาณกันเลยหรอนี่
    ต่อไปจะช่วยยกจิตทั้ง สัตว์ คน หรือมนุษย์ อมนุษย์ หรือท่านที่กายละเอียดอยู่เบื้องบนกันเลยหรือนี่...เป็นไปได้
    ต่อไปนี้ไม่มีเพียงแต่พวกเราแล้ว

    ปล.อย่าเข้าใจผิดว่าพวกจิตบุญไปรับรองจิตของพวกเขานะ เพราะหน้าที่พวกเราแค่ช่วยยกจิตเบื้องต้นกันเท่านั้น
    แต่ผู้มีหน้าที่รับรองจิตที่ยกได้จริงๆกันนั้น ก็คือ พระพุทธเจ้า เท่านั้น แต่จะเป็นพระองค์ไหนไม่ทราบ เดี๋ยวท่านจะมาในนิมิต หรือกายเนื้อเหมือนบางคนเจอมา แต่พูดไม่ได้ ห้ามพูด ห้ามอวดตริมนุษยธรรม พูดแต่วงในก็พอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2012
  17. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้วสำหรับ บางกระทู้ เช่น
    กระทู้ของ อ.อัญญสิทธิ์
    แต่ถ้าไม่เป็นจริงแล้ว ก็จะกลายเป็นเหมือนดั่งกรณีพ่อปลาบู่
    และกำลังมีคนกลุ่มหนึ่งตามเล่นงานจังหวะสองของท่านอยู่
    หรือกลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน
    ส่วนใครจะไปสร้างกรรมกับใครก็เรื่องของเขา เราอย่าไปยุ่ง

    ขอโทษนะผมมิได้ให้พวกท่านไป ทาเก็ต หรือให้ไปดู ไปสนใจกรณีนั้นเขา
    ที่ผมกำลังจะมาบอก มาเตือนกันพวกท่านทั้งหลายก็คือ
    กรรมใครกรรมมัน เราไปแก้กรรม ไปตัดกรรมให้กับผู้อื่นไม่ได้
    แต่เราจะแก้ไขที่ตัว ที่จิตของเราได้ เท่านั้น
    คือมาหยุดที่กระทำความชั่วของตนเอง ทั้งกาย วาจา ใจของตน

    อย่าไปใส่ใจ
    สิ่งที่ใส่ใจของตนเองในขณะนี้ ก็คือ จิตของตัวท่านเอง
    ใครจะชม ใครจะด่า ใครจะเกิด ใครจะตายช่างหัวมัน!
    ขอให้ท่านนำจิตเกาะพระกันให้ได้ เอาจิตตนเองให้รอดก่อน

    แต่ถ้าภัยพิบัติเกิดขึ้นกันจริงๆ ตามที่ท่านอื่นทายกันไว้จริง
    สรุปแล้วคนรอดมีน้อย และคนส่วนใหญ่ที่รอดก็มักมีศีล มีธรรมอยู่ภายในจิตใจกัน ตามที่ใครก็กล่าวกันไปแล้ว
    ร่างกายปล่อยไปตามยถากรรม เพราะกายนี้ไม่เที่ยง นั่นเอง
    แต่ไม่มีอะไร หรือใครจะไปกับเราหรอก หลังโลกความตายนั้น
    แล้วท่านจะไปสนใจกาย สนใจจิตของผู้อื่นทำไมให้เสียเวลา
    ไม่ต้องไปดู ไม่ต้องไปชม ไปภูมิใจ ไปดีใจกับบาป กับบุญของคนอื่นเขาหรอก ไม่มีประโยชน์เสียเวลาเปล่า
    ให้เอาเวลามาทำแต่บุญ พูดแต่เรื่องบุญ จิตก็เกาะพระไป เกาะบุญกุศลของตนเอง จะดีกว่าไหม๊?

    ปลง ผมขอเตือนกันซะก่อนนะว่า ใครหลงไปปรามาสพระ หรือผู้ปฎิบัตินั้นมีแต่เสีย มีแต่ขาดทุน
    บุญไม่ทำ มัวแต่ไปจับผิดคนอื่นเขามันไม่ดีแน่ ถึงจะเป็นเรื่องจริง หรือไม่จริง
    เรามิใช่หน้าที่ แต่จะเป็นหน้าที่ของกฎแห่งกรรม
    ถามว่าพวกเรารอดพ้น หรืออยู่เหนือโลก เหนือกฎแห่งกรรมกันหรือยัง???

    น่าคิดกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2012
  18. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    สอนคนชอบยุ่งกับเรื่องของคนอื่น
    โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ​


    อย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่น ภาวนามากๆ ดูตัวเองมากๆ
    หลวงพ่อ (พระโพธิญาณเถร) บอกว่า "ธรรมดาเราดูแต่คนอื่น 90 % ดูตัวเองแค่ 10 %"
    คือคอยดูแต่ความผิดของคนอื่น เพ่งโทษคนอื่น คิดแต่จะแก้ไขคนอื่น

    กลับเสียใหม่นะ
    ดูคนอื่นเหลือไว้ 10 % ดูเพื่อศึกษาว่า
    เมื่อเขาทำอย่างนั้น คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร เพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ
    ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง 90 % จึงเรียกว่าปฏิบัติธรรมอยู่

    ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเอง
    โบราณพูดว่า "เรามักจะเห็นความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดของตนเองเท่ารูเข็ม"
    มันเป็นความจริงอย่างนั้นด้วย เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มากๆ

    เห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10
    เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย 10 จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรม
    เพราะเหตุนี้เราจะต้องพยายามมองแง่ดีของคนอื่นมากๆ และตำหนิติเตียนตัวเองมากๆ
    แต่ถึงอย่างไรๆ เราก็ยังเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ

    พยายามอย่าสนใจการกระทำ การปฏิบัติของคนอื่น
    ดูตัวเอง สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมากๆ
    เช่น เข้าครัวเห็นเด็กทำอะไรไม่ถูกใจ แล้วก็เกิดอารมณ์ร้อนใจ

    ยังไม่ต้องบอกให้เขาแก้ไขอะไรหรอก รีบแก้ไข ระงับอารมณ์ร้อนใจของตัวเองเสียก่อน
    เห็นอะไร คิดอะไร รู้สึกอย่างไร ก็สักแต่ว่า ใจเย็นๆ ไว้ก่อน ความเห็น ความคิด ความรู้สึกก็ไม่แน่..... ไม่แน่
    อาจจะถูกก็ได้ อาจจะผิดก็ได้ เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้ สักแต่ว่า..... สักแต่ว่า..... ใจเย็นๆ ไว้ก่อน ยังไม่ต้องพูด

    ดูใจเราก่อน สอนใจเราก่อน หัดปล่อยวางก่อน
    เมื่อจิตสงบแล้ว เมื่อจิตปกติแล้ว จึงค่อยพูด จึงค่อยออกความเห็น
    พูดด้วยเหตุ ด้วยผล ประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา
    ขณะมีอารมณ์อย่าเพิ่งพูด ทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่น ทำให้เสียความรู้สึกของตัวเอง
    ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร มักจะเสียประโยชน์ซ้ำไป

    เพราะฉะนั้น
    อยู่ที่ไหน อยู่ที่วัด อยู่ที่บ้าน ก็สงบๆ ๆ ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิดๆ ๆ
    ดูแต่ตัวเรา ระวังความรู้สึก ระวังอารมณ์ของเราเองให้มากๆ
    พยายามแก้ไข พัฒนาตัวเรา.....
    นั่นแหละ

    เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน
    เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา ถ้าไม่ระวัง
    ก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อยๆ หาเรื่องอยู่อย่างนั้น เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมด
    มีแต่ยินดี ยินร้าย พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวัน อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวันๆ
    ก็หมดแรง

    ระวังนะ
    พยายามตามดูจิตของเรา รักษาจิตของเราให้เป็นปกติให้มาก
    ใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไร ดีหรือไม่ดี เรื่องของเขา
    แม้เขาจะทำกับเรา ว่าเรา..... ก็เรื่องของเขา
    อย่าเอามาเป็นอารมณ์
    อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา

    ดูใจเรานั่นแหละ
    พัฒนาตัวเองนั่นแหละ
    ทำใจเราให้ปกติ สบายๆ มากๆ หัด-ฝึก ปล่อยวาง นั่นเอง
    ไม่มีอะไรหรอก

    "ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการตามรักษาจิตของเรา คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข"​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2012
  19. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    นี่ท่านพี่เกเรเป็นด้วยเรอ อุตส่าห์รออ่าน แห๊ม..ไหงตั้งท่าเหมือนจะไม่เขียนเลยนะ หุหุ จงมา จงเขียน น้องๆรออยู่ อยู่ อยู่ อยู่
     
  20. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    เชิญเลยจ๊ะ เผื่อท่านที่เผลอเข้ามาอ่านแล้วเก็ตอะไรไปบ้าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...