จิตหลุดออกจากร่างขณะหลับ ...จะขอคำแนะนำและช่วยเหลือค่ะ

โหท่าน....ที่นี่มัน เวป พลังจิต นะครับ...เวปของคนมีพลังจิต ครับ ...ถ้าไม่โชว์เรื่อง จิต เรื่องพลังจิต ก็ เป็นคนธรรมดา ที่ไม่มีอะไร น่าสนใจสิครับ

ถ้าเป็นคนไม่มีอะไรดี ไม่มีพลังอะไรเลย ไม่มีตาทิพย์หูทิพย์ ...เข้ามาเล่นเวปแล้ว ใครจักให้ความสนใจกันเล่าครับ....บางคน อยากดัง บางคนอยากขายของ บางคนอยากตั้งสำนักใหม่ บางคนอยากเป็นครูอาจารย์....ผม ก็ ยัง อยากด้วยเลย.....และ มีหลายคน เคย มาว่าผมว่า ทำไม ผมไม่มี ตาทิพย์ หูทิพย์ เอาไว้อวดคนบ้าง จะได้ ดังเร็วๆ.....เฮ้อ ผม ล่ะ หมดรมณ์

ก็ ทำไงได้ ผม มัน ไม่มี อภิญญา อะไรเลย....สุดท้าย เลยไม่เด่น ไม่ดัง ไม่มีคน มาคบ มาคุย ไม่มีใครยอมรับ ..เพราะคนแถวนี้ เขา จะกราบแต่ คนที่ มีอภิญญา ..หลับตาดูแล้ว สว่างจ้า ...ถึงขั้นไหนๆ ว่างั้นเถอะ

แล้ว มีที่ให้ผม ...ดัง มั้ยครับเนี่ย..คนธรรมดา ดังได้มั้ยครับท่าน

 

เป้ง...เป้ง... แบบนี้ โทรศัพท์ คุยกัน ไม่ง่าย กว่า หรือ นี้ !

 

ท่านชอบ ว่าย ท่าอะไรครับ

ส่วนผม ขอว่ายท่า ฟรีสไตล์แล้วกันนะครับ...หรือไม่ก้อ ไม่ว่าย ขอ นั่ง เรือ สบายๆ ดีกว่าครับ...

อุ๊ย เรือก็ไม่นั่งครับ เมาเรือ เมาห่วงยาง ขอ นั่งอยู่บ้าน สบายใจเฉิบๆ ดีกว่าครับ ...

 

ไม่ได้ท่าน เสียชื่อเวปพลังจิตหมดเลย มันต้องเจอกัน ในฝันครับ

เพราะ เจอมาหมดแล้ว ในฝัน ทั้ง หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่มั่น หลวงตามหาบัว พระพุทธองค์ นาค พระโมคคัลลาร์

ที่ผ่านมา เหนาะๆ ก็ เที่ยววัดกับ ผู้หญิงสูงศักดิ์ คนหนึ่ง ในฝันน่ะครับ

อะไรๆ ก็ต้อง ในฝันครับ เพราะ ผมคนธรรมดา...อิอิ

 

อืม...เจ้าของกระทู้ ผู้น่าสงสาร หวังว่าคงได้ข้อมูลเยอะ นะนี้ !

 

เท่าที่ อาจารย์ ของผม ท่านสอนเอาไว้ นะครับ ที่สุดของมันแล้ว....แม้แต่ความไม่ประมาท ก็ ไม่ต้องให้มันเหลือครับ

แต่ กระบวนท่าสุดท้ายเนี่ย ออกจะยากสักหน่อยครับ เพราะ ต้องได้รับความร่วมมือ จากคนอื่น คนทั้งโลก น่ะครับ....ถ้าคนทั้งโลกเป็นคนดี กันทุกคน...ก็ จักไม่ต้อง คอยมา ระวัง กับคำว่าไม่ประมาท กัน อีกน่ะครับ

เห็นทีต้องรอ กันอีกนาน น่าดูชม...อิอิ

 

โหคุณ เจ้าของกระทู้ น่าสงสาร หรือครับเนี่ย ผมว่า เจ้าของกระทู้เก่งออกครับ
เสียอย่างเดียว...เป็นดอกไม้แช่แข็ง นี่แหล่ะ ...ถ้ามันเป็นดอกไม้ ที่เบ่งบานตามปกติตามธรรมชาติแล้วล่ะก้อ ขึ้นชื่อว่า ดอกไม้ ก็ ล้วน สวยงาม กันทั้งนั้นแหล่ะครับ

เน๊าะ....เน๊าะ ...สวยกันทั้งนั้นแหล่ะ ไอ้สิ่งที่เรียกว่า เป็นธรรมชาติน่ะ

อ้าว เราด้วยนี่หว่า เราก็ เกิดมาจากธรรมชาติ เหมือนกัน กับดอกไม้ เหมือนกัน

เฮ้อ หนีไม่พ้น ธรรมชาติ กันเลย จริงๆ โลกนี้

 

อืม...ปัญหาคุณ เป็นดั่ง ละลอกคลื่นในทะเล หรือ นี้ !
น่า อัศจรรย์จริง !
ใคร หน่อ จะเป็นฝั่ง ให้คุณได้ ?

 

ฝั่งคือ บ้านเรานั่นไงครับ มีเมียที่รักและเข้าใจเรา มีลูกที่รักและเข้าใจเรา มีคนรอบข้าง เข้าใจเรา มีคนทั้งโลกเข้าใจเรา....เราอยู่ กับ ฝั่งอยู่แล้วครับ....ไม่ได้ ลอยทะเลออกไปไหนเลย(ถึงพวกเขาจะยังเข้าใจได้ไม่หมด ผมก็ อยู่กับ ฝั่ง ของ ตัวเอง เสมอมา อิอิ)

(ผมเห็นคุณค่า ของพวกเขาทั้งหลายเหล่านี้ ถึงแม้ ตอนนี้ พวกเขา จะยัง มองไม่เห็น คุณค่า ของเราสักเท่าไหร่ก็ตาม....รอ หวัง ว่า สักวัน)

เลิกหลง สมุทัย มานานแล้วครับ....ตอนนี้ คิดอยากอยาก สมุทัย ยังไม่รู้เลยว่า จะ สมุทัยออก ไปทำไมกัน

ก็ พากัน นั่ง หายใจ พะงาบพะงาบ เหมือนกันอยู่ในโลก เดียวกันนี่แหล่ะ..ผิดแต่ว่า ...ใครกันบ้าง ที่นั่งในโลก นั่งในบ้าน ...แต่ จิตใจ ไม่เคย อยู่กับ กาย อยู่กับ ตนเองเลย

อิอิ..สมุทัยกันเข้าไป ..จนออกนอกโลก โน่นเลยก็มี

อิอิ


คนหนอคน...ช่างพากัน คิด ..หลงอยู่แต่กับ ความคิด กัน เสียจริง....เฮ้อ อยากคิดมั่ง จะได้ เพ้อฝันออกนอกโลก เหมือนคนอื่น เขามั่ง แหม ช่างคิดกันจัง

 

ประเด็นเปลี่ยนซะแล้ว..........หมดยกที่ 1

 

ปัญญาจะรู้กันได้ ด้วย การสนทนา จริงๆ หรือนี้ !
โอ้ น่า อัศจรรย์ จริงๆ
ว่าแต่ ง่วงนอน ยังละ จะได้ เตรียมตัว ฝันหวานๆ ไง ล่ะ
คุณ ผมเองครับ ?

 

ขอบคุณค่ะ คุณสมมติสงฆ์ ที่ยังนึกถึง -*-

 

ไม่เอาหรอก ฝันหวานๆ น่ะ กลัว แมงกินฟัน อิอิ กลัวโรคเบาหวาน กลัวอ้วนด้วย

หวานมากไป มันเลี่ยนครับ...ขอแบบว่า อย่ามาแกล้งเราในฝันเป็นพอ เพราะ ในฝันก็เหนื่อย เป้นเหมือนกันแฮะ

อิอิ สักวัน เราจะ แกล้ง กลับมั่ง แต่ไม่กล้าหรอก...เพราะเราเป็นคนดี

 

แต่ถ้าคุยกัน ด้วยกัน เป็นมิตร ต่อกัน ก็ เป็น การ เสริมสร้างปัญญา ให้แก่กันและกันได้ครับ

ไม่จำเป็นต้องโทรมาก็ได้ครับ เพราะ เปลืองตังค์

เช่นเราอ่านหนังสือ ฝ่ายเดียว คิดฝ่ายเดียว ..อานิสงฆ์ แม่ไม่ครบ 5 ประการ ก็ ยัง ถือว่า ได้ ปัญญารู้ ในสิ่ง ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ได้ นี่ครับ

การคุยกัน ก็ สนุกๆ จะเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีครับ....แม้ผมอาจไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่ อิอิ

แต่จะพยายาม ให้ชิน เข้าไว้

 

ปัญญาเกิดจากการสนทนา ก็มีนะ สุตตมยปัญญา กับจินตามยปัญญา เกิดจากการฟังอ่าน และคิดตาม เป็นปัญญาหยาบ ๆ ประหารกิเลสไม่ได้ เป็นปัญญาชนิดเดียวกับที่เกิดจากการอ่านพระไตรปิฏก ฟังเทศน์​

ส่วนภาวนามยปัญญานั้น เกิดจากการปฏิบัติวิปัสสนา ให้อ่านคิดฟังยังไงก็ประหารกิเลสไม่ได้

ไม่ใช่ไร สนับสนุนให้เถียงกันคุยกันให้มากเข้า เป็นเชื้อให้อยากปฏิบัติวิปัสสนา แต่บางทีพอเข้าเรื่องอภิญญาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ หรือเรื่องหาเงิน ก็ดูไม่ค่อยดี

 

แค่คุยสนุกๆ น่ะครับ....กะว่าจะเข้ามาหลอกหาเงิน กับ คนในเวปนี้ ต่อไป อยู่เหมือนกันครับ แต่สงสัย จะพากัน รู้ตัว ระวังตัว กลัวการ หลอกให้ทำบุญ กันหมดทุกคนแล้วมั้งครับ

เฮ้อไม่มีใคร เต็มใจให้หลอก กันเลย รึเนี่ย.....

แล้ว ที่ผ่านมา เขาหาว่าผม เป็น คนหลอกลวง ต้มตุ๋น...ยังงี้ ก็ ทำไม่ได้ เลิกเป็นคนหลอกลวง ต้มตุ๋น ไปเลยสินะเนี่ย

อยากเป็น คนไม่ดี ต่อไปน่ะครับ...เพราะ เคยถูกว่า ว่า เป็น คนไม่ดี มาเยอะแล้ว ถ้าหาก ไม่มีใคร มาว่า อีก เห็น ที....ต้อง เลิกเป็น คน หลอกลวง ต้มตุ๋น แล้วล่ะ

โอ ..อาชีพนี้...รักษา ยากจัง อาชีพชอบเลย นะเนี่ย อิอิ

ขนาด อาชีพที่ไม่ดี ยัง ต้องเลิก.....โห ใครนะ เก่งจัง

 

เข้าประเด็น เรื่อง พระห้อยคอดีกว่านะ หาก นอกประเด็นจะเป็นการเสียมารยาท !
คุณ noorun คงได้ข้อมูลเพิ่มเติม.

 

งั้นคงไม่ได้ เข้าร่วมประเด็นนะครับ เพราะ ผม เลิก ห้อย ทุกอย่าง มาหลายปีแล้วครับ พระ อยู่ที่ใจครับ...สำหรับผม

 

หาบทสวดสิครับ ซักอย่าง ระลึกถึงพระพุทธ เจอเหตุการณ์แปลกๆเราตัดวงจรพวกนั้นออกด้วยการตั้งสติระลึกถึงพระพุทธได้ง่ายๆ ไม่ต้องหาพระมาห้อยคอ ได้สติที สามารถสวดบทสวดซึ่งควรแปลออกด้วย เอาแบบง่ายๆ ไม่ต้องยาก และแปลได้ไปในทางระลึกถึงพระพุทธเจ้า การตั้งสติระลึกถึงอะไรบางสิ่ง เช่น บิดามารดา หรือพระพุทธเจ้า หรืออะไรก็ได้ที่เราเคารพ จะทำให้ นิมิตขาดเป็นช่วง ๆ และกลับสู่ภาวะปกติได้ไม่ยาก

 

เราพิจารณาว่า คุณ noorun เคยมี กรรม กับพระนะนี้ !
ไม่ปัจจุบันชาตินี้ ก็ ชาติที่ ผ่านๆ มา จึงส่งผลให้ คุณ noorun แขวนพระไม่ได้
คุณลองนึกดู ให้ดีๆนะ !
แต่ เรื่อง กฎแห่งกรรม เนี่ย...มันเป็น เรื่อง อจินไตย นะ คือ พระพุทธองค์ท่านไม่ให้
คิดมากกับเรื่องนี้ จนทำให้ พลาดจากประโยชน์ตน เพราะจะทำให้มีส่วนแห่งความเป็น
คนบ้า

อจินไตย 4 อย่าง คือ
1.เรื่องโลกเกิดโลกดับ ด้วยเหตุใด ? ทำไม ? อย่างไร ?
2.เรื่องกฎแห่งกรรม
3.เรื่องวิสัยของพระพุทธเจ้า
4.เรื่องวิสัยของผู้ได้ณานสมาบัติ

ทั้งหมดนี้ มิได้หมายความว่าห้ามคิด แต่หมายความว่าไม่ควรวิเคราะห์
แบบตายตัว เจาะจงลงไป เพราะจะทำให้ พลาดจากประโยชน์ตน
อาจมีส่วนแห่งความเป็นบ้าได้.

ในกรณี ของคุณ noorun หากเราจะวิเคราะห์ในหลักเหตุผล
แล้วใช้จิตที่เราฝึกมา พิจารณาดู เราก็จะพบว่าเป็นกรรมในลักษณะใด
อันนี้ เป็นการแสดงทัศนะคติส่วนตัว ขอให้คุณเก็บไว้เป็นข้อมูล
ส่วนความเชื่อเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เลือกเอาเองเถิด
เหตุผลใดขัดต่อหลักธรรมแล้ว ไม่ควรถือไว้ หนักสมอง เปล่าๆ

วิธีแก้ คือ ตามที่ศึกษาจากครูบาอาจารย์ ท่านให้กล่าวคำขอขมากรรม
ต่อพระรัตนตรัย พร้อมด้วยพระสงฆ์ 4 รูปขึ้นไป จะเป็นวัดใดก็ได้ที่ตนนับถือ
มีดอกไม้ธูปเทียน เครื่องไทยธรรม บอกเจตนาต่อท่าน แล้วพระท่านจะแนะ
คำกล่าว เปล่งวจีกรรมให้เราเอง ไม่ยากสำหรับกรณีนี้.

ได้ผลอย่างไรอย่าลืม pm มาบอกด้วย หากหลังจากปฎิบัติดังนี้แล้ว
คุณ อาจแขวนพระห้อยคอได้ นะ เราหวังเช่นนั้น.