ปิดรับบริจาค ช่วยค่าใช้จ่ายหลังผ่าตัดคุณพ่อคุณจันทร์จิราหน้า 7 #131

เมื่อวันที่ 17/8/58 คุณหมอนัดดูแผล และสอบถามอาการ คุณหมอบอกว่าเคสของพ่อแปลกตรงที่ ไม่ปวดแผลที่ผ่า แต่กลับปวดสะโพกลงขาแทน การผ่าไม่ได้มีเป้าหมายให้ท่านกลับมาเดินได้ แต่เหตุผลสำคัญคือ บริเวณที่ผ่าสัมพันธ์กับระบบขับถ่าย ส่วนการนั่งรถเข็น ยังไม่ต้องรีบค่ะ ให้ใจเย็น รอให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีกว่านี้ค่อยมาว่ากันอีกที นัดอีกครั้งเดือนตุลาคมค่ะ

 

ยังไง ๆ ก็ต้องใกล้แพทย์เข้าไว้ บอกอาการแก่หมอให้ครบและปฏิบัติตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดนะครับ

 

รับทราบค่ะ

เมื่อวานไปตรวจการได้ยินที่ รพ.ใหญ่ ตามใบนัดตั้งแต่เช้า ได้เรียกเข้าตรวจก็ 14.00 น.แล้วค่ะ คุณหมอมาดูแล้วบอกว่ายังตรวจให้ไม่ได้เพราะพ่อยังลงนั่งรถเข็นไม่ได้ หนูพยายามขอคุณหมอแล้วว่า จุดรถเข็น/เปลก็อยู่ใกล้ห้องตรวจ ขอคนเปลช่วยกันเอาลงนั่งแล้วเข็นแล้วเข็นเข้าห้องตรวจได้หรือไม่ คุณหมอก็ให้เหตุผลว่า อยากให้พ่อนั่งได้เองดีกว่า เพราะห้องตรวจแคบ อีกอย่างกลัวล้มขณะเคลื่อนย้าย จึงให้มาตรวจหูใหม่อีก 6 เดือนค่ะ

 

การตรวจออดิโอแกรมนั้น ผู้รับการตรวจต้องนั่งได้จริง ๆ ครับ ถูกต้องตามที่แพทย์สั่งแล้ว เนื่องจากห้องตรวจออดิโอแกรมแคบมาก ไม่สามารถมีคนเข้าไปได้อีกแม้แต่คนเดียว ผู้รับตรวจต้องมองผ่านกระจกออกมาเพื่อดูคำสั่งมือหรือใบคำสั่ง

ระหว่างนี้ถ้าคุณพ่อดื่มน้ำได้มาก ๆ วันละอย่างน้อย 2 ลิตร ให้ดื่มไว้ก่อน ปัสสาวะมากและบ่อยไม่เป็นไรครับ เพราะยาหลายตัวอาจไปคั่งค้างอยู่ในตับไต เมื่อดื่มน้ำได้มากแล้ว ยาไม่ค้าง ทุกอย่างอาจดีขึ้น

มียาตัวนึงที่ดีต่อการได้ยิน คือ merrisron และอาจมี methylcobalt แต่ยังไงก็แล้วแต่ควรถามแพทย์ประจำตัว เนื่องจากยาทุกชนิดอาจมีผลข้างเคียงหรือผลโดยตรง ลองหาหมอคลีนิคข้างนอกบ้างก็ได้ในกรณีหูได้ยินน้อย

 

ลองหาหมอคลีนิคที่ไม่ต้องตรวจออดิโอแกรม มักจะเป็นคลีนิค ตา หู คอ จมูก ลองดูครับ ถ้ายังไงหาแล้วอาจต้องกินยา Merrisron ตลอดชีวิตก็เป็นไปได้ ลองถามคุณหมอก็ได้ครับว่ามีคนบอกชื่อยานี้มาให้ แต่ไม่แน่ใจว่าคนไข้จะกินยาตัวนี้แล้วมีผลข้างเคียงหรือไม่ ? อย่างไร ?

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ แต่คงต้องรอจนกว่าพ่อจะนั่งรถเข็นได้ จึงจะสามารถพาไปคลินิคได้ค่ะ ส่วนเรื่องรถเข็นทางโรงพยาบาลแจ้งมาว่าเตรียมไว้ให้แล้ว รอให้นัดกายภาพมาประเมินวันศุกร์อีกทีค่ะ

 

....................

วันนี้มีคนเสนอว่า หากใครก็ได้รวบรวมเงินที่ค้าง กยศ.
เมื่อได้เวลาสักระยะหนึ่งแล้วนำไปเข้าธนาคารกรุงไทย
เพื่อหักกลบลบหนี้ กยศ. ให้คุณจันทร์จิรา อย่างนี้จะดีไหมครับ
คุณจันทร์จิรา ผู้เสนอเป็นคนในประเทศไทยครับ
ไม่ใช่คนไทยที่อยู่ต่างประเทศ

 

ทุกครั้งที่ไปจ่ายหนูต้องยื่นบัตรประชาชนค่ะ ธนาคารก็จะเข้าข้อมูลให้ โดยพิมพ์รหัสบัตรประชาชน

ไม่แน่ใจว่าหากท่านแจ้งชื่อ-นามสกุล อย่างเดียวจะได้หรือไม่

หรือหากจะเป็นวิธีการโอนเงินมาให้ หนูก็ขอรับรองว่า จะนำไปจ่าย กยศ.จริงและถ่ายรูปหลักฐานแนบมาให้ค่ะ

หนูขอขอบพระคุณในความกรุณามา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

คุณคนที่เสนอความคิดเห็นมาตอนต้น สามารถแสดงความคิดเห็นได้นะครับ

 

รูปบัญชี เมื่อครั้งที่คุณมะลิ คุณนิธิมาและคุณศรันย์ภร โอนมาให้เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการดูแลพ่อ จำนวน 999.12 บาท นะคะ
ขอบคุณค่ะ

 

ในเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากครับ สำหรับท่านที่ต้องการช่วยลดหนี้ กยศ. ของคุณจันทร์จิรา หากต้องการให้คุณจันทร์จิราไปตัดบัญชี กยศ. เป็นเงินเท่าใด ก็อาจถามขึ้นมาบนกระทู้ก่อน หรือจะถามส่วนตัวก็ได้ว่า หากตอนนี้โอนเงินให้เท่าใด คุณจันทร์จิราพร้อมจะไปโอนเข้าบัญชี กยศ. หรือไม่ ? หากพร้อมแล้วหลังโอนไม่เกิน 3 วันทำการ ให้คุณจันทร์จิราโพสต์ใบนำฝากบัญชี กยศ. พร้อมโพสต์บัญชีของ กยศ. ว่าหนี้ลดลงแล้วหรือไม่ ? อย่างนี้ก็ได้ครับ น่าจะถือว่าดีที่สุด

 

วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ส.ค. ๕๘ ผมได้โทรกราบนมัสการเรียนกับพระณัฏต์ฐนันท์เรื่องโคมไฟสแตนเลส เป็นโคมหัวเสาหรือโคมไฟสนามตัวเรือนเป็นสแตนเลส ใช้กระจกแผ่นเสียบทั้งสี่ด้าน ภายในใช้ขั้วไฟ E27 และหลอดประหยัดไฟ ที่คุณจันทร์จิราอาจขายได้เพื่อนำไปช่วยครอบครัวและคุณพ่อคุณแม่คุณจันทร์จิรา แต่คุณจันทร์จิราส่งข่าวมาว่า คงขายไม่ได้ราคาตามที่เจ้าภาพคือคุณวิชัยต้องการให้เป็น ผมจึงขออนุญาตคุณจันทร์จิราว่า ถ้าเช่นนั้นเราน้อมถวายต่อสงฆ์เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาอันมีพระภิกษุณัฏต์ฐนันท์เป็นองค์แทนสงฆ์รับแทนจะดีไหม ? คุณจันทร์จิราอนุโมทนาแล้ว ผมเรียนทุกฝ่ายทราบแล้วและผมขอเป็นตัวแทนทุกท่านเป็นเจ้าของโคมไฟหัวเสาทั้ง 6 ชุดนี้น้อมถวายเป็นของสงฆ์นะครับ

ขออนุโมทนาครับ


โคมไฟหัวเสาสแตนเลส 6 ชุดขอให้ทุกท่านร่วมเป็นเจ้าของและน้อมถวายเป็นของสงฆ์นะครับ


ขออนุโมทนาคุณ passavee เจ้าภาพกล่องบรรจุขนาดใหญ่มาก 3 กล่อง


กล่องยาวประมาณ 1 เมตรเศษ สูงประมาณ 90 ซ.ม. หนาประมาณ 60 ซ.ม.


เทียบกับตู้ใส่รองเท้าแล้วยาวกว่าเสียอีก




คุณวิชัยเป็นเจ้าภาพกระจกแผ่นทั้งหมดด้วย ขออนุโมทนา

 

คุณวิชัยขอเปลี่ยนปลายทาง โดยต้องการให้ปลายทางไปที่วัดในถิ่นทุรกันดารสุด ๆ ของภาคเหนือ ให้ผมจัดส่งไปให้คุณพนมกรเพื่อทำหน้าที่กระจายออกเป็น 6 แห่ง

ผมต้องขออภัยที่มีการเปลี่ยนแปลงกระทันหันนะครับ ขออนุโมทนา

 

คุณพนมกรรับทราบแล้วด้วยความดีใจที่พระภิกษุผู้ปฏิบัติธรรมในป่าลึกจะได้รับประทีปโคมไฟ ครั้งนี้เป็นตะเกียงสแตนเลส คุณพนมกรบอกว่า เขารู้ระบบพลังงานโซลาเซลที่วัดป่าที่เขาเลือกไปทำบุญนั้น จะมีการชาร์จเข้าแบตก่อน จากนั้นตกกลางคืนจึงเปิดไฟเพื่อให้แบตจ่ายไฟผ่านตัวแปลงมาเป็นไฟ 220 โวลท์ ซึ่งจะจ่ายมาที่โคมไฟนี้ได้

 

เมื่อวานแพคกระจกแผ่นเตรียมส่งคุณพนมกรเรียบร้อยแล้ว คาดว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้คงส่งได้

 

มีเจ้าภาพค่าส่งและขั้วแล้ว

 

จัดส่งโคมแสตนเลสทั้ง 6 ชุดให้คุณพนมกรส่งต่อถวายพระในถิ่นทุรกันดารสุดขีดที่รถยนต์เข้าถึงได้ยากแสนสาหัส แม้จะเข้าไปก็ต้องค้างหลายคืนกว่าจะกลับออกมาได้ ต้องรอดินแห้งรถกระบะจึงออกได้

 

.........................................

หลายสัปดาห์ก่อน ผมได้รับแจ้งจากคุณจันจิราว่า คุณพ่อของคุณจันจิราที่ได้นอนพักรักษาตัวบนที่นอนลม บัดนี้ได้หายจากอาการแล้ว สามารถลุกขึ้นได้ ไปทำงานได้ และที่นอนลมนั้นคุณจันจิรากับคุณพ่อได้ทำบุญโดยส่งมอบต่อให้กับผู้ป่วยรายอื่นที่เขาต้องนอนติดเตียงไปแล้ว

ผมได้แจ้งกับคุณผู้หญิง " หรั่ง " ที่เขาเป็นเจ้าของที่นอนรับทราบแล้ว คุณหรั่งบอกว่า เขาอาจจะลืมไปว่า เขาได้ยกที่นอนของคุณหรั่งให้คนอื่นไป ผมก็อึ้งเหมือนกันว่า เอาละสิ จริงอย่างที่คุณหรั่งพูดด้วย

ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวค่อยว่ากัน

 

........................................

นับเป็นเวลานานเกือบ 2 ปี ที่ที่นอนลมของคุณหรั่งได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ ช่วยให้คนป่วยหายจากป่วย แต่อาจจะนานเกินไปจนลืมว่า ของที่ยืมนั้นเป็นของคุณหรั่ง เลยผู้ป่วยที่ยืมไปเอาไปทำบุญให้คนอื่นไป

เดี๋ยวผมหาทางเคลียร์กับคุณหรั่งเอง เพราะได้บอกเขาไปเมื่อวานนี้ ทั้งที่ควรบอกไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนแล้ว เพราะเพิ่งพบกันที่งานทิ้งกระจาดที่ลาดพร้าววังหิน 65 คุณหรั่งมาขอข้าวสารตราฉัตรให้ผู้ป่วยนอนติดเตียงอีก 2 ราย และคนเฒ่าคนแก่อีก 4 - 5 รายในความดูแลของประธานชุมชนหลัง ว.ค. ที่บังเอิญมีทั้งคนแก่ช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ กับผู้ป่วยติดเตียง แต่วันนั้นที่งานทิ้งกระจาดที่นั่นเขาไม่ให้ข้าวสาร เพราะเขาบอกให้เอาคนป่วยมาขอเอง ก็เลยเอวัง

 

คนยากคนจนเขาฉลาดทีเดียว พอไปงานทิ้งกระจาดที่ไหนที่ข้าวสารอาจจะไม่ดีพอ เขาจะขายทิ้งทันทีในราคาไม่กี่สิบบาท รองเท้าเขาก็ขายทิ้งทันที บางคนขาย 2 คู่ 20.- บาท สรุปว่า งานทิ้งกระจาดที่ดี ๆ ยังพอมีเหลืออยู่ไหม ? พอที่คนยากคนจนจะได้พึ่งพิงกันจริง ๆ

พอไปพบไปเจอที่ทิ้งกระจาดที่ประกาศว่าจะให้ข้าวสารตราฉัตรถงละ 5 ก.ก. เป็นข้าวหอมมะลิ ประธานชุมชนก็ส่งรองประธานชุมชนมาขอเพื่อช่วยคนเจ็บไข้ได้ป่วยและคนแก่ที่ช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ แต่กลับบอกให้เอาคนป่วยมาขอเองก็จะได้ 1 ถุง แต่ต้องมาให้ทันงานทิ้งกระจาดซึ่งแจกไม่ครบตามที่ประกาศไว้

สรุปว่า ของฟรีไม่มีในโลก