ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

เอาไว้เตรียมตัวกันนะครับ ไม่ประมาท อย่าตื่นตูม
ตั้งสติ เตรียมตัวพร้อมรับมือคลื่นพายุซัดฝั่ง STORM SURGE
โชคดีครับ

 

ลมสลาตัน

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=gKObf26RQTE

 

พายุโซนร้อน "แกมี" ขึ้นฝั่งเวียดนามเตือนหลายพื้นที่ไทยระวังฝนถล่ม​

วันนี้ (6 ต.ค. 2555) เมื่อเวลา 01.00 น. พายุโซนร้อน “แกมี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 450 กิโลเมตร ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 14.0 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 113.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กม./ชม.
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะจะมีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนามในวันนี้ จากนั้นจะอ่อนกำลังลงและเคลื่อนผ่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 6-8 ต.ค.นี้ บริเวณพื้นที่ตามเส้นทางเดินพายุและพื้นที่ใกล้เคียง มีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ กับมีลมแรง โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัด สระแก้ว และปราจีนบุรีก่อน ส่วนภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรงในช่วงระยะนี้
สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 7-9 ตุลาคม 2555 โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังปานกลางยังคงพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเข้าสู่พายุ “แกมี”

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยาสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

"แกมี"ขึ้นฝั่งเวียดนามเตือนหลายพื้นที่ไทยระวังฝนถล่ม | เดลินิวส์

 

ข่าวเวียตนามภาคภาษาอังกฤษ
จังหวัดภาคกลางของเวีตนามเตรียมพร้อมรับมือพายุโซนร้อนหฤโหด "แกมี"
Central provinces brace for fierce tropical storm​

HA NOI (VNS) — Deputy Prime Minister Hoang Trung Hai yesterday scrambled a team to central Binh Dinh Province to make urgent preparations for the Gaemi Tropical Storm predicted to strike the area today.
Gaemi, the seventh storm this year, is forecast to get stronger with a projected wind speed of 102 kph. It will quickly move west-southwest coming in-land today at the latest after changing direction several times during the past 24 hours.
The coastal central provinces of central Binh Dinh, Phu Yen and Quang Ngai will be directly hit by the storm and flooding is a growing concern. Heavy constant downpours of up to 200mm are expected in the first 24 hours, striking central regions from Quang Binh to Khanh Hoa provinces and the Central Highland region.
The wet weather is expected to last for at least three days.
Deputy PM Hai ordered the newly-established steering committee to localise storm-prone areas and take timely preventative measures.
He stressed the high risk of flash floods and landslides triggered by heavy rain, urging local authorities to pay attention to the reservoirs of hydro-power plants in slope areas such as the Central Highlands, Quang Nam and Quang Ngai.
Another team was mobilised to Song Tranh 2 Hydro-power Plant to monitor the safety of its dam. Around 52 earthquakes have struck the area in the past year, posing a risk of breaching the dam and causing serious flash floods to hundreds of residents living nearby.
By Friday night, border soldiers had warned 50,256 vessels in the sea of the progress of the storm and no losses had been reported. Most coastal central provinces have banned ships from sailing out to the sea.
The Central Highland provinces and northern regions, including Ha Noi, will also experience rainfall. After hitting the central region, the storm will move west-southwest and weaken into a low pressure system.
Figures from the General Statistics Office show that in the past nine months, 229 people have died or were missing due to natural disasters. More than 2,200 houses have totally collapsed and 53,700 others have been damaged, while 153,700 hectares of rice and 39,100 hectares of subsidiary crops have also been destroyed.
Total losses are estimated to total VND3.2 trillion (US$153 million).
Nghe An has been the worst-hit province with 12 people dead or missing. The province's damage total was VND850 billion ($40.8 million), accounting for 27 per cent of the nation's losses.
The Government, relevant authorities, organi-sations and individuals have contributed VND7.8 billion ($374,400) to help victims stabilise their lives. — VNS


Boats anchored at Cua Viet Beach in central Quang Tri Province's Gio Linh District take shelter from a tropical storm forecast to hit the central coast today. — VNA/VNS Photo Ho Cau

 

อัพเดท พายุโซนร้อน "แกมี" วันที่ 6 ต.ค. 2555 เวลา 13.00 (ไทย)​

จากภาพถ่ายดาวเทียมอัพเดทเวลา 13.23 วันที่ 6 ตุลาคม 2555 พายุโซนร้อน "แกมี" ศูนย์กลางของพายุขึ้นฝั่งเวียตนามแล้ว ทางตอนกลางของเวียตนาม บริเวณเมือง ก๋วงนัง (Quy Nhon) ซึ่งอยู่ทางไต้ของเมืองดานังลงมา ด้วยความเร็วลม 72 ก.ม./ ช.ม. ความเร็วลมกรรโชก 88 ก.ม./ ช.ม. และเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 26 ก.ม./ช.ม.

 

ภาพถ่ายดาวเทียมพายุโซนร้อน "แกมี" จากกรมอุตุนิยมวิทยา วันที่ 6 ตุุลาคม 2555 อัพเดทเวลา 12.14 ไทย

 

ภาพถ่ายดาวเทียมพายุโซนร้อน "แกมี" จากหอสังเกตการณ์ฮ่องกง วันที่ 6 ตุุลาคม 2555 อัพเดทเวลา 13.03 ไทย

 

"ปชป."จี้ รบ.เผยข้อมูลความจริงปริมาณน้ำฝนจาก "แกมี"

เมื่อเวลา 11.30 น. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงพายุแกมีที่กำลังจะเคลื่อนมาสู่ประเทศไทย ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมตามมาว่า อยากให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลและข้อเท็จจริงแก่ประชาชนทราบ ในเรื่องปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ จะมีปริมาณมากน้อยเพียงใด รัฐบาลมีความพร้อมแค่ไหน ไม่ต้องการให้รัฐบาลที่ใช้เงินไปแล้ว 1.2 แสนล้าน และกำลังจะกู้อีก 3 .5 แสนล้านในปีนี้

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แต่เมื่อพายุจะเข้ามาคนที่รับผิดคือ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) พูดแต่ว่า ให้ประชาชนอยู่บ้าน ก็ไม่รู้ว่าเงิน 3.5 แสนล้าน ที่เอาไปจากภาษีประชาชนทำได้แค่นี้หรือ เพราะขณะนี้ชัดเจนว่า รัฐบาลไม่มีโครงการ ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ ที่จะดูแลแก้ไขหรือป้องกันปัญหาในปีนี้เลย

นายชวนนท์ กล่าวว่า ที่แย่คือดูเหมือนว่าสถานการณ์น้ำไม่มาก แต่ความสามารถในการรับมือลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา ก็คงเป็นสาเหตุที่พวกท่านเอาเงินการป้องกันน้ำท่วมไปทุจริต จนทำให้ไม่มีศักยภาพในการป้องกันน้ำท่วมให้ประชาชนในปีนี้ได้ แต่ที่แย่ที่สุดคือการเอาเรื่องนี้มาเล่นการเมือง ว่ามีการกลั่นแกล้งกัน กรณีถุงทรายในกทม. พรรคเพื่อไทยพยายามดิสเครดิต กทม.มาโดยตลอด เพื่อหวังผลเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ในอนาคต โดยการกล่าวอ้างว่า ไปพบถุงทรายในท่อระบายน้ำ หวังโยนความผิดให้กทม.ว่าไม่มีความรับผิดชอบในการลอกท่อ

"แต่ผลจากการตรวจสอบปรากฏว่าถุงทราย เป็นถุงใหม่ ที่เพิ่งมีการไปหย่อนใส่ เพราะจากหนังสือยืนยันและบันทึกข้อความ จากสำนักงานเขตมีนบุรี ที่ทำหนังสือถึงปลัดกทม.ยืนยันชัดเจนว่า ถุงทรายดังกล่าวเป็นของใหม่ ที่มีคนจงใจเปิดฝาท่อและหย่อนถุงทรายลงไป เพราะฉะนั้นผู้ที่กระทำการดังกล่าวและเป็นที่น่าสงสัยมากที่สุดคงหนีไม่พ้นคนที่ไปพบถุงทรายคนแรก คนที่เอาเรื่องถุงทรายมาป่าวประกาศ พยายามดิสเครดิต กทม.เป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุดว่ามีส่วนในการกระทำดังกล่าว และขอประณามพวกท่านอำมหิตมาก เอาความทุกข์ร้อนของประชาชนมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง นอกจากไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังกลับซ้ำเติมโดยเอาทุกข์คน กทม.มาเป็นเหยื่อในการสนองตัณหาทางการเมือง อยากให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมีความจริงใจในการแก้ปัญหา" นายชวนนท์ กล่าว

http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=653102

// " ? " //

 

เรื่องของสนามบินอู่ตะเภา

ปลอดประสพ-สุรพงษ์ ยืนยันในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชนว่า รัฐบาลยังคงสนับสนุนโครงการศึกษาวิจัยชั้นบรรยากาศร่วมกับนาซ่า โดยใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภาในปีหน้า พร้อมย้ำว่าเป็นความสนใจร่วมกันของนักวิชาการในภูมิภาคนี้ ไม่ใช่เพราะสหรัฐฯร้องขอฝ่ายเดียว

http://news.thaipbs.or.th/content/ป...์พบประชาชนว่า-รัฐบาลยังคงสนับสนุนโครงการศึกษา

 

ช่วยอีกแรง ! ทบ. เตรียมกระสอบทรายกว่า 8แสนใบ-เปิด 11ค่ายทำแก้มลิง รับมือน้ำท่วมใน กทม.

ขณะนี้ ทบ. ได้จัดเตรียมถุงกระสอบทรายจำนวน880,000ใบ รองรับสถานการณ์ป้องกันน้ำท่วมพื้นที่สำคัญใน กทม. พร้อมกับ เตรียมพื้นที่ภายในหน่วยทหาร๑๑แห่งในเขตดุสิต บางเขน พญาไท กทม.ใช้เป็นแก้มลิงรองรับน้ำช่วงฝนตกหนัก โดยได้พร่องน้ำในหน่วยทหารดังกล่าวไว้แล้ว

ช่วยอีกแรง ! ทบ. เตรียมกระสอบทรายกว่า 8แสนใบ-เปิด 11ค่ายทำแก้มลิง รับมือน้ำท่วมใน กทม. : มติชนออนไลน์

 

เห็นเขาบอกเป็นแค่ฝนรำคาญ ตกหยิมๆแค่กางร่มก็พอ ไม่เห็นต้องเตรียมอะไรมากเลย

 

“แกมี” ส่อแรง ทุกอำเภอตราดจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด​

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ปลัดจังหวัดตราด สั่งทุกอำเภอ และท้องถิ่นเร่งจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือส่วนหน้ารับมือพายุแกมี หวั่นปัญหาดินถล่มที่เกาะช้างและบ่อไร่ ขณะเดียวกัน ยังให้เร่งพร่องน้ำในเขื่อนที่มีปริมาณน้ำมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพายุแกมีมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นนั้น ล่าสุด จังหวัดตราดได้ออกคำสั่งให้แต่ละอำเภอ และท้องถิ่นทุกแห่งเตรียมรับมืออิทธิพลของพายุแกมีอย่างเร่งด่วน

โดยนายวิรัตน์ รัตนวิจิตร เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอทั้ง 7 แห่ง และทุกท้องถิ่นรับมือกับอิทธิพลพายุแกมี ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้สั่งการให้ทุกอำเภอจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยส่วนหน้าขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับฝนตกหนัก และพายุลมแรงที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคมนี้ โดยให้เตรียมทั้งคน และเครื่องมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอด 24 ชม.

“ในพ้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะอำเภอเกาะช้างที่อาจจะเกิดน้ำท่วม และดินถล่มขึ้นเหมือนปีก่อนนั้น ทางจังหวัดได้แจ้งให้อำเภอเกาะช้างเตรียมรับมือในเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่อยู่ในอำเภอเกาะช้างจะได้รับการดูแล และแจ้งเตือนตลอดเวลา ส่วนที่อำเภอบ่อไร่ได้ให้ทางอำเภอเร่งพร่องน้ำ และติตดามสถานการณ์ตลอด 24 ชม.เช่นกัน” ปลัดจังหวัดตราดกล่าว

ด้านนายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ นายอำเภอบ่อไร่กล่าวว่า ขณะนี้ทางอำเภอได้มีการประชุมส่วนราชการ และ 2 เทศบาลตำบล 4 องค์กรบริหารส่วนตำบล และ 13 โรงพยาบาลส่งเสริมตำบล เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม หรือน้ำหลากตลอด 24 ชม. ซึ่งอำเภอบ่อไร่ถือเป็นแหล่งต้นน้ำ จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ได้พร่องน้ำในอ่างฯ คลองโสนให้เหลือปริมาณน้ำเพียง 10% และพร่องน้ำในคลองให้เหลือ 20-30% ซึ่งเมื่อเกิดฝนตกหนักจะสามารถรองรับน้ำได้

อย่างไรก็ตาม จะมีการติดตามสถานการณ์น้ำทุก 3 ชม.เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนในอำเภอบ่อไร่ อำเภอปลายน้ำ ประกอบด้วย อำเภอเขาสมิง และอำเภอเมืองเพื่อเตรียมรับมือเช่นกัน







Local - Manager Online - “แกมี” ส่อแรง ทุกอำเภอตราดจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด

 

ปภ.เตือน 6 จว.ภาคตะวันออกรับมือ"แกมี"เปลี่ยนทิศ

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉิน (EOC) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นศูนย์เชื่อมโยงการทำงานจากรัฐบาลสู่การปฏิบัติระดับพื้นที่
ขณะเดียวกัน ประสาน 30 จังหวัดเสี่ยงภัย ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เน้นย้ำแผนเผชิญเหตุ โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง วางระบบสื่อสารหลัก และระบบสื่อสารสำรอง ให้สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา และหากสถานการณ์มีระดับความรุนแรง และยกระดับเป็นระดับ 3-4 นายกรัฐมนตรีจะมาบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเอง เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชน
ส่วนกรณีที่พายุแกมี มีแนวโน้มเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัว โดยอาจส่งผลให้พื้นที่ 6 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระยอง และชลบุรี มีฝนตกหนัก และหากเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ จ.เพชรบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ จึงขอให้จังหวัดดังกล่าวเพิ่มความเข้มข้นการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ในระดับที่รุนแรงมากขึ้น

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000122716

 

ปภ.เตือน 6 จว.ภาคตะวันออกรับมือ"แกมี"เปลี่ยนทิศ

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉิน (EOC) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นศูนย์เชื่อมโยงการทำงานจากรัฐบาลสู่การปฏิบัติระดับพื้นที่
ขณะเดียวกัน ประสาน 30 จังหวัดเสี่ยงภัย ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เน้นย้ำแผนเผชิญเหตุ โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง วางระบบสื่อสารหลัก และระบบสื่อสารสำรอง ให้สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา และหากสถานการณ์มีระดับความรุนแรง และยกระดับเป็นระดับ 3-4 นายกรัฐมนตรีจะมาบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเอง เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชน
ส่วนกรณีที่พายุแกมี มีแนวโน้มเปลี่ยนทิศทางเคลื่อนตัว โดยอาจส่งผลให้พื้นที่ 6 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระยอง และชลบุรี มีฝนตกหนัก และหากเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ จ.เพชรบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์ จึงขอให้จังหวัดดังกล่าวเพิ่มความเข้มข้นการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ในระดับที่รุนแรงมากขึ้น

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000122716

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุ “แกมี” (GAEMI)"
ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 06 ตุลาคม 2555​

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (6 ต.ค. 55) พายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) บริเวณใกล้ชายฝั่งเมืองกวีนอน ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 13.4 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 109.6 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 25 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งในเย็นนี้ (6 ต.ค. 55) ต่อจากนั้นจะเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่าง กัมพูชา และจะเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดสระแก้วในระยะต่อไป
พายุนี้จะเริ่มมีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยมีฝนตกหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นกับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ดังนี้

 ในช่วงวันที่ 6-7 ต.ค. 55 ผลกระทบโดยตรงบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก ผลกระทบโดยอ้อมบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

 ในช่วงวันที่ 7-8 ต.ค. 55 ผลกระทบโดยตรงบริเวณจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา เพชรบูรณ์ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผลกระทบโดยอ้อมบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา

 ในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. 55 มีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. 55 ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16.30 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุ “แกมี” (GAEMI)"
ฉบับที่ 22 ลงวันที่ 06 ตุลาคม 2555​

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (6 ต.ค. 55) พายุโซนร้อน “แกมี” (GAEMI) บริเวณใกล้ชายฝั่งเมืองกวีนอน ประเทศเวียดนาม หรือที่ ละติจูด 13.4 องศาเหนือ และ ลองจิจูด 109.6 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 25 กม./ชม. คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งในเย็นนี้ (6 ต.ค. 55) ต่อจากนั้นจะเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่าง กัมพูชา และจะเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดสระแก้วในระยะต่อไป
พายุนี้จะเริ่มมีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยมีฝนตกหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นกับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ดังนี้

 ในช่วงวันที่ 6-7 ต.ค. 55 ผลกระทบโดยตรงบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก ผลกระทบโดยอ้อมบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

 ในช่วงวันที่ 7-8 ต.ค. 55 ผลกระทบโดยตรงบริเวณจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา เพชรบูรณ์ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผลกระทบโดยอ้อมบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา

 ในช่วงวันที่ 8-9 ต.ค. 55 มีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 7-9 ต.ค. 55 ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16.30 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

วิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม วันที่ 6 ตุลาคม 2555 เวลา 18.30 น.​

 

วิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม วันที่ 6 ตุลาคม 2555 เวลา 18.30 น.​

 

เมฆในอ่าวไทย จากภาพถ่ายดาวเทียม ดูจะมีมากกว่าเมฆบนบก

ดาวเทียม MSAT 2 IR-1 เวลา 19.00 ไทย



ดาวเทียมอินเดีย เวลา 20.06 ไทย



ภาพดาวเทียมจากนาซา โดย Weather Underground เวลา 21.15 ไทย



ภาพดาวเทียมเคลื่อนไหวจากนาซา โดย Weather Underground ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง เวลา 21.15 ไทย



โปรดติดตามต่อไปครับ

 

พบคราบเงาน้ำมันเป็นระยะทาง 4 ไมล์ (6.4 ก.ม.) ที่อ่าวเม็กซิโก

พบคราบเงาน้ำมันเป็นระยะทาง 4 ไมล์ (6.4 ก.ม.) ที่อ่าวเม็กซิโก ใกล้แท่นเจาะน้ามัน บีพี (ซึ่งครั้งนั้นเป็นการรั่วไหลครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2553 เกิดมาจากการที่น้ำมันพุ่งขึ้นจากใต้ทะเล ซึ่งเป็นผลจากการระเบิดของแท่นขุดเจาะน้ำมันดีพวอเตอร์ฮอไรซัน)

ข่าวจาก CNN
Oil sheen mysteriously appears off Louisiana's Gulf Coast - CNN.com

เรื่องและภาพจาก NEW 4-Mile Long Oil Slick Near BP’s Gulf Oil Well - Washington's Blog