ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน..อย่ารอแบบหวังลมๆแล้งๆ

ครับ คนเราไม่เท่ากัน(หมายถึงศีลธรรมน่ะครับ) ความประมาทของคนมีมากเหลือทน ไม่ว่าประชาชนคนธรรมดาหรือแม้แต่ผู้บริหาร นักคิด นักวิชาการทั้งหลาย ยังประมาทกับข้อมูลที่ตนมีอยู่ ทำให้วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ผิดพลาดไปมาก เคยทำอย่างไรจึงทำอย่างนั้นคิดว่าตนเองรับไหว ก้อแค่น้ำ ครับแค่น้ำจริงๆ อยุธยาจะจมอยู่ใต้น้ำในไม่ช้านี้แล้ว คนกรุงเทพโดยเฉพาะในส่วนเมืองยังเฉยกันมากครับ มีบ้างที่ตุนเสบียง ส่วนใหญ่ยังคิดว่าไกลตัว คิดว่ายังงัยเค้าก้อไม่ปล่อยให้กรุงเทพท่วมแน่ ใช่ครับเค้าไม่ได้ปล่อย แต่ดูเหตุการณ์และเหตุผลประกอบด้วยนะครับ ตอนนี้มันมากเกินที่ใครจะรับไหว ไม่มีใครกล้ายืนยันแล้วรับว่าจะไม่ท่วม ท่วมมาท่วมน้อยเท่านั้น ดังนั้นเริ่มจากตนเองก่อนทำเท่าที่ทำได้ก่อน ไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ก.ท.ม. แค่รอบขอบริมน้ำก็ดูแลกันไม่ทั่วแล้วครับ ตัวผมเองไม่ได้กลัวต้องรุยน้ำแต่กลัวเรื่องนำปะปาและไฟฟ้ามากกว่า โรงพยาบาลอยุธยาป้องกันนำได้แต่สุดท้ายต้องขนย้ายผู้ป่วยเพราะไม่มีไฟฟ้าและปะปาไปที่อื่น คิดดูครับแล้วกรุงเทพโรงพยาบาลที่กี่โรงถ้าย้ายจะย้ายไปไหน ที่ไหนจะรับไหวครับ ขอให้อย่าถึงขนาดนั้นเลยแล้วกันครับ ถ้าเกิดอะไรขึ้นอย่าทำตัวไปภาระให้ใครครับ อย่าโวยวายว่าไม่มีใครมาช่วย แค่เด็กกับคนชราก็เยอะมากแล้วครับ ช่วงนี้ใครมีลูกหลานที่เป็นวัยรุ่นกำลังเป็นช่วงปิดเทอมเตือนให้อยู่ใกล้ตา เตือนสติดูสถานการณ์กันหน่อยเวลาเกิดเรื่องจะได้ไม่ต้องห่วงกันมากนัก อย่างน้อยให้ข้อมูลในการดูแลตัวเองกันหน่อยครับ

 

โมทนากับความคิดของคุณ รุทธรักษะ ค่ะ ชีวิตประจำวันเราแค่ขาดไฟฟ้า-แสงสว่าง-น้ำประปา ก็รู้สึกลำบากแล้วมองก็ไม่เห็นร้อนก็ไม่มีแอร์-พัดลม ตึกคอนโดก็บังกันทึบไปหมด เปิดประตูก็กลัวขโมย..โอย สารพัดจะกลัว ยิ่งรพ.นี่จะยิ่งหนักขนาดไหน ทั้งอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่ต้องใช้ไฟฟ้าเปิดเครื่องไว้ตลอดเวลา ...อันตรายมาก
ถ้าตัดไฟฟ้าแล้วแต่ละแห่งมีการเตรียมเครื่องปั่นไฟฟ้าสำรองไว้น่าจะช่วยได้มาก...

 

วันนี้เขื่อนป่าสัก จะเปิดระบายน้ำแล้ว... ประชาชนที่อยู่แถบเส้นทางน้ำ และกทม. ให้เร่งป้องกันอย่างด่วนนะคะ...