ตำนานที่ยังอยู่เกจิดังที่โลกลืม หลวงปู่ทองอินทร์ วัดกลางคลองสี่

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย jj85, 17 พฤศจิกายน 2010.

  1. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    หลวงปู่ด๊วด ปรมาจารย์แห่งวัดกลางคลองสี่(พระอาจารย์ของหลวงปู่ทองอินทร์)

    ***ประวัติโดยย่อของท่าน ลป.ด๊วด วัดกลางคลองสี่***
    หลวงปู่ด๊วด ญาณวโร หรือ พระครูวิเศษธัญญโศภิต เป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ในศีลาจารวัตรงดงามยิ่งนัก ท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของ วัดกลางคลองสี่ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี สมัยเมื่อแรกเริ่มก่อสร้างวัดใหม่ๆ สภาพโดยทั่วไปย่านวัดกลางคลองสี่มีสภาพเป็นท้องทุ่งนาโล่ง วัดกลางคลองสี่สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2453 ตรงกับปีจอ วันพุธ ขึ้น 9 ค่ำเดือน 4 ค.ศ.1911 ร.ศ.129 จ.ศ.1272
    เดิมทีย่านวัดกลางคลองสี่มีบ้านอยู่ไม่กี่หลัง โดยรอบเป็นทุ่งนาโล่ง นางวัน แกมเงิน, นายลับ นางแนะ สังวาลย์เล็ก, และนายโต๊ด กระดาษทอง ได้พร้อมใจกันอุทิศที่ดินส่วนหนึ่ง ตั้งเป็นวัดขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกบ้านไม่ต้อง้เดินทางไปทำบุญกันไกลๆ การคมนาคมสมัยนั้นใช้ทางคลองเป็นหลัก หรือไม่ก็เดินลัดทุ่งกัน การสร้างวัดแต่แรกเริ่มต่างก็ระดมกำลังชาวบ้านมาช่วยกันสร้างกุฏิพอให้พระสงฆ์จำวัดได้ กุฏิก็ใช้จากมุงหลังคา เมื่อสร้างเสร็จก็ตั้งชื่อว่า “วัดใหม่คลองสี่” ต่อมาเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดกลางคลองสี่” เมื่อปี พ.ศ.2483
    ครั้นเมื่อสร้างวัดเสร็จ ชาวบ้านก็พร้อมใจกันไปนิมนต์หลวงปู่ด๊วด ญาณวโร มาเป็นเจ้าอาวาสปกครองรูปแรกขณะนั้น หลวงปู่ด๊วดท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดสายไหม เมื่อมาอยู่ที่วัดกลางคลองสี่ใหม่ๆ แทบไม่มีอะไรเลย หลวงปู่ก็เริ่มพัฒนาวัดก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ จนกระทั่งวัดเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา



    หลวงปู่ด๊วด ญาณวโร หรือ พระครูวิเศษธัญญโศภิต นามเดิมว่า ด๊วด นามสกุล ลิ้มทองน้อย เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2427 เป็นชาวตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เป็นบุตรคนสุดท้องของนายลิ้ม-นางทองน้อย ลิ้มทองน้อย มีพี่ 3 คน หลวงปู่ด๊วดเกิดขึ้นในครอบครัวชาวนา ทางบ้านทำนาเป็นอาชีพหลัก ครั้นถึงวัยศึกษาเล่าเรียนบิดามารดาก็พาเด็กชายด๊วดไปศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดเชิงท่า เขตอำเภอเมืองนนทบุรี ไม่ห่างไกลจากบ้านเท่าไรนักศึกษาเล่าเรียนพออ่านออกเขียนได้เด็กชายด๊วดก็ลาออกจากวัดมาช่วยทางบ้านทำนา
    จนกระทั่งอายุย่างเข้าเบญจเพส 25 ปี บิดามารดาจึงให้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดออเงิน ตำบลออเงิน เขตบางเขน จังหวัดพระนคร(สมัยก่อนโน้น) โดยมรพระอธิการนุ่ม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูราชปริต(ลับแล) วัดบวรมงคล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการญัติ อุตตฺโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ญาณวโร” เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2451 หลังจากบวชท่านก็ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมอยู่กับพระอธิการญัติ หรือ หลวงปู่ญัติ ที่วัดสายไหม ท่านตั้งศึกษาเล่าเรียนจนเป็นที่ชื่นชอบของหลวงปู่ญัติ ครั้นสิ้นพรรษาหลวงปู่ด๊วดก็ออกธุดงค์ ท่านได้รับการถ่ายทอดการเดินธุดงค์จากหลวงปู่ญัติพอสมควร
    การธุดงค์ของหลวงปู่ด๊วดท่านธุดงค์เข้าไปถึงประเทศพม่าเลยทีเดียว ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดทอง เมืองย่างกุ้ง ได้ 2 ปี ท่านก็เดินทางกลับประเทศไทยมาจำพรรษอยู่ที่วัดสนามเหนือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และในปีนั้นเอง ชาวบ้านย่านคลองสี่ก็พร้อมใจกันมานิมนต์ท่าน ให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดกลางคลองสี่ ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ หลวงปู่ก็ตกลงใจเดินทางมาอยู่ที่วัดแล้วก็เริ่มงานการสร้างวัดเป็นการถาวรต่อไป
    ท่านเริ่มสร้างกุฏิสงฆ์ สร้างหอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ และเสนาสนะต่างๆ จนแล้วเสร็จ ที่สำคัญคือท่านสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมให้พระเณรได้ศึกษาเล่าเรียน นอกจากนี้ท่านยังสร้างโรงเรียนประชาบาลให้บุตรหลานละแวกวัดได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือ ในสมัยนั้นพระเณรที่อยู่วัดย่านคลองสาม คลองสี่ และคลองห้า ต่างก็มาเรียนนักธรรมที่วัดกลางคลองสี่กัน ปี พ.ศ.2472 หลวงปู่ด๊วดท่านเป็นกรรมการตวจข้อสอบนักธรรมตรี ต่อมาปี พ.ศ.2473 ท่านได้เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลลาดสวาย
    ในปี พ.ศ.2481 เป็นองค์การเผยแพร่ประจำอำเภอลำลูกกา ปี พ.ศ.2496 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูวิเศษโศภิต” และในปี พ.ศ.2507 ท่านได้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทเกียรติคุณที่จารึกมาตราบจนทุกวันนี้ก็คือ ท่านได้เปิดโรงเรียนประชาบาล ขึ้นเป็นแห่งแรกของอำเภอลำลูกกา ในปี พ.ศ. 2466 และเปิดโรงเรียนพระปริยัติเป็นแห่งแรกของอำเภอลำลูกกาเช่นกัน
    หลวงปู่ด๊วดท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป้นที่น่าเลื่อมใสศรัทธาแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง พระรูปไหนที่ชอบทำนอกรีตนอกรอย ท่านจะไล่ไม่ให้อยู่ในวัดเลย พระเณรที่บวชอยู่กับท่านต้องศึกษาเล่าเรียน เมื่อบวชแล้วจะมานั่งๆ นอนๆ เช้าเอน เพลฉัน กลางวันนอนไม่ได้ ท่านมีลูกศิษย์เอกอยู่รูปหนึ่งคือ หลวงพ่อทองอินทร์ เตชวุฑโฒ มาบวชอยู่กับท่านเมื่อยังเป็นสามเณรจนกระทั่งบวชเป็นพระก็ศึกษาเล่าเรียนอยู่ช่วยงานวัดกับท่าน
    สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ หลวงปู่ด๊วดท่านจะไม่ยอมจับเงินเป็นอันขาด เพราะถือว่าผิดวินัยและพระที่บวชที่วัดสมัยท่านๆ จะไม่ให้จับเงินด้วย เวลาไปไหนมาไหนต้องขึ้นรถโดยสารหรือต้องใช้เงินซื้อของใช้จำเป็นท่านก็จะสั่งให้พระรูปนั้นเอาลูกศิษย์ไปด้วย แล้วให้ลูกศิษย์คอยจ่ายเงินให้เป็นอย่างนี้มาตลอด
    หลวงปู่ด๊วดท่านเป็นนักเผยแพร่ธรรมที่เก่งมาก ประกอบกับการที่ท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัย การอบรมเผยแพร่ธรรมจึงได้ผลดี เป็นที่เชื่อถือของท่านเจ้าคณะผู้บังคับบัญชาทางคณะสงฆ์ จึงแต่งคั้งให้ท่านเป็นองค์เผยแพร่ของอำเภอลำลูกกา ซึ่งท่านมักใช้วีการเผยแพร่แบบอุปนิสินกถา(นั่งสนทนาอย่างใกล้ชิด) มากกว่าขึ้นธรรมาสน์เทศน์ หรือแบบปาฐากถาธรรม
    หลวงปู่ด๊วดอยู่ปกครองดูแลวัดจนกระทั่งวถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2513 ด้วยอาการสงบท่ามกลางศิษยานุศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ที่คอยเฝ้าพยาบาลท่านอยู่ ท่านจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจให้แก่พระเณร และชาวบ้านย่านคลองสี่เป็นอันมาก รวมอายุได้ 86 ปี หลังจากที่หลวงปู่ด๊วดมรณภาพลงไป พระอาจารย์ทองอินทร์ หรือหลวงพ่อทองอินทร์ก็ได้เป็นเจ้าอาวาสแทน ต่อมาได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็น “พระครูธัญศีลคุณ” อยู่เป็นเจ้าอาวาสสืบมาจนทุกวันนี้

    อ้างอิง:http://www.g-pra.com/auctionc/view.php?aid=2673461
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2011
  2. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ประวัติย่อ ของท่านพระครูวิเศษธัญญโศภิต (หลวงปู่ด๊วด)


    [​IMG]
    ประวัติย่อ
    ของท่านพระครูวิเศษธัญญโศภิต
    พระครูธัญญโศภิต เดิมชื่อ ด๊วด นามสกุล ลิ้มทองน้อย เกิดวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๔๒๗ ที่ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี เป็นบุคคลที่ ๖ ของนายลิ้ม นางทองน้อย มีพี่น้องร่วมบิดามารดาด้วยกัน ๖ คน คือ

    • นางครุ คลังเงิน
    • นายดุ๊ ลิ้มทองน้อย
    • นางหอม ปราบภัย
    • นางพร้อม นิลบรรจง
    • นายแอ๊ด ลิ้มทองน้อย
    • พระครูวิเศษธัญญโศภิต (ด๊วด ลิ้มทองน้อย)
    เมื่อยังเยาว์ได้ไปอยู่วัดเชิงท่า อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เรียนหนังสืออยู่กับวัดอ่านออกเขียนได้พอสมควร จึงลาออกจากวัด ไปอยู่กินกับบิดามารดา ช่วยประกอบสัมมาอาชีพช่วยทำนาร่วมกับพี่น้อง โดยปกติสุขตลอดมา ครั้นเมื่ออายุได้ ๒๕ ปี ได้ออกบรรพชาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดออเงิน ตำบลออเงิน อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร ซึ่งมีอธิการนุ่มเป็นอุปัชฌายะ พระครูราชปริต (ลับแล) วัดบวรมงคล เป็นกรรมวาจาจารย์ พระอธิการญัติอุตตโม วัดสายไหม เป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๔๕๐
    พ.ศ.๒๔๕๑ จำพรรษาเรียนปริยัติธรรมที่วัดสายไหม ๑ พรรษา
    พ.ศ.๒๔๕๒- ๒๔๕๓ ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดทอง ร่างกุ้ง ประเทศพม่า รามัญ
    พ.ศ.๒๔๕๔ กลับมาประเทศไทย จำพรรษาอยู่วัดสนามเหนือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
    พ.ศ.๒๔๕๕ มาเป็นเจ้าอาวาสวัดกลางคลองสี่
    พ.ศ.๒๔๗๓ เป็นอุปัชฌายะ
    พ.ศ.๒๔๘๐ ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลลาดสวาย (เป็นเจ้าคณะตำบลมาก่อน)
    พ.ศ.๒๔๘๑ เป็นองค์การเผยแผ่ประจำอำเภอลำลูกกา
    พ.ศ.๒๔๙๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูวิเศษธัญญโสภิต
    พ.ศ.๒๕๐๗ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท
    การปกครอง
    พ.ศ.๒๔๕๕ ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้วได้เปิดการศึกษาโรงเรียนประชาบาล เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ ขึ้นที่วัดกลางคลองสี่ เป็นแห่งแรกในอำเภอลำลูกกา
    พ.ศ.๒๔๗๐ ได้เปิดโรงเรียนนักธรรมขึ้นที่วัดกลางคลองสี่ก่อน ในอำเภอลำลูกกาให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป มีภิกษุและสามเณรทั้งในวัด และนอกวัดมาอาศัยศึกษาเล่าเรียนจนปรากฏว่า มีนักเรียนสอบไล่นักธรรมชั้นตรีในปีแรกส่งเข้าสอบ ๕ รูป ได้ทั้งหมด ๕ รูป ปีต่อมามีการศึกษามากขึ้นเป็นลำดับ มากบ้าง น้อยบ้าง จนกระทั่งมีนักธรรม ตรี โท เอก เสมอมา ส่วนบาลีท่านได้ส่งภิกษุ สามเณรไปศึกษาในพระนครบ้าง และที่มีการศึกษาบาลีที่ไหน ท่านก็กรุณาส่งไปเรียนจนได้เป็นพระเปรียญก็มีมากรูปด้วยกัน สำหรับภิกษุที่เป็นนักธรรมในสำนักวัดกลางคลองสี่ ท่านก็ได้ส่งออกไปเป็นเจ้าอาวาสในวัดต่าง ๆ มีหลายวัด ศิษยานุศิษย์ของท่านที่ได้รับดำรงตำแหน่งก็มีอยู่​
    การปฏิสังขรณ์
    เมื่อดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว ได้ปฏิสังขรณ์เสนาสนะ อาทิ เช่น
    พ.ศ.๒๔๖๑ สร้างหอสวดมนต์ ๑ หลัง ราคา ๑๓๐๐ บาท
    พ.ศ.๒๔๗๑ สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ราคา ๑๓๐๐ บาท
    พ.ศ.๒๔๗๒ สร้างกุฏิ ๑ หลัง ราคา ๑๓๐๐ บาท
    พ.ศ.๒๔๗๔ สร้างกุฏิ ๑ หลัง ราคา ๑๒๕๐ บาท
    พ.ศ.๒๔๘๐ สร้างพระอุโบสถ ๑ หลัง ราคา ๔๐๐๐ บาทเศษ
    พ.ศ.๒๔๙๐ บูรณะศาลาการเปรียญขึ้นใหม่ ราคา ๓๘๐๐ บาท
    พ.ศ.๒๔๙๑ สร้างกุฏิ ๑ หลัง ราคา ๒๐๐๐๐ บาท
    พ.ศ.๒๔๙๑ สร้างถังจุน้ำได้ ๑๗๐๐ ปี๊บ ราคา ๔๐๐๐ บาท
    พ.ศ.๒๔๙๒ สร้างกุฏิ ๑ หลัง ราคา ๒๔๐๐๐ บาท
    พ.ศ.๒๕๐๑ สร้างกุฏิ ๑ หลัง ราคา ๔๐๐๐๐ บาท
    พ.ศ.๒๕๐๑ สร้างศาลาท่าน้ำ ๑ หลัง ราคา ๑๐๐๐๐ บาท
    พ.ศ.๒๕๐๒ สร้างศาลาการเปรียญ ๑ หลัง ราคา ๑๔๒๕๑๐ บาท
    พ.ศ.๒๕๐๒ สร้างวิหาร ๑ หลัง ราคา ๓๐๐๐ บาท
    ตลอดจนได้สร้างถนนคอนกรีต ๕ แถว ยาว ๕ เส้น ๑๐ วา ๑ สาย นอกนั้นยาว ๑ เส้นขึ้นไป​
    การศึกษา
    พ.ศ.๒๔๖๖ ได้เป็นผู้ดำเนินการเปิดโรงเรียนประชาบาล และโรงเรียนนักธรรมขึ้น เป็นโรงเรียนแรกที่วัดกลางคลองสี่ อำเภอลำลูกกา
    พ.ศ.๒๔๗๑ เป็นกรรมการควบคุมการสอบธรรมสนามหลวงตลอดเรื่อยมาจนถึง พ.ศ.๒๕๐๗
    พ.ศ.๒๔๗๓ เป็นกรรมการตรวจข้อสอบนักธรรมตรี
    นับว่าประวัติการณ์ที่ท่านได้ริเริ่มก่อสร้างเสนาสนะ และเริ่มการศึกษาประชาบาลขึ้นในครั้งนั้น เพื่อความเหมาะสมกับท้องถิ่น ด้วยความอุตสาหะวิริยะ ด้วยดีตลอดมา ควรแก่การเชิดชูบูชาและนับถือเป็นหลักปฏิบัติได้เป็นอย่างดี​
    งานเผยแผ่
    ท่านเป็นนักเผยแผ่ที่ดีมาก กล่าวคือท่านเป็นนักปฏิบัติที่เคร่งครัด ต่อพระธรรมวินัย เป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธาแก่ผู้พบเห็นมาก เรื่องนี้ท่านผู้ที่เป็นสัทธิวิหาริกอันเตวาสิก ตลอดจนผู้ที่คุ้นเคยกับท่านย่อมทราบได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้การอบรมสั่งสอนเผยแผ่ธรรมของท่านจึงได้ผลดี เป็นที่เชื่อถือของเจ้าคณะผู้บัญชาการ จึงเห็นสมควรแต่งตั้งเป็นองค์การเผยแผ่ของอำเภอลำลูกกา แต่ส่วนมากท่านใช้วิธีการเผยแผ่แบบอุปนิสินกถา (นั่งสนทนาอย่างใกล้ชิด) มากกว่าขึ้นธรรมาสน์เทศน์หรือแบบปาฐกถา โดยปรกติแล้วท่านมีพลานามัยดีตลอดมา แต่ด้วยเหตุความชราภาพของท่านก็มีอันเป็นไป คือ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๘ ได้อาพาธด้วยโรคไส้ติ่ง ได้ทำการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ก็หายเป็นปรกติ ต่อมาครั้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๘ ท่านได้เริ่มอาพาธด้วยโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ ก็ได้ไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงฆ์ จนกระทั่งหายเป็นปรกติตลอดมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๑๒ ๒๕๑๓ ท่านได้อาพาธด้วยโรคลม เมื่อเวลา ๑๗.๐๐ น. ได้มีพระภิกษุสามเณรตลอดจนศิษยานุศิษย์ของพุทธบริษัท วัดกลางคลองสี่ได้มาเฝ้าถวาย พยาบาลดูอาการป่วยของท่านตลอดจนกระทั่งรุ่งเช้าของวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๓ เลา ๐๖.๐๐ น. เศษ ก็ได้ถวายอาหารต้มแก่ท่าน เมื่อท่านฉันเสร็จก็หลับลงไปบ้างตื่นบ้างด้วยอาการของโรคยังทรงอยู่ ศิษยานุศิษย์ตลอดจนพระภิกษุ สามเณรก็เฝ้าดูอาการตลอดมา ครั้นถึงเวลา ๑๐.๓๐ น. เศษ ได้จัดถวายอาหารเพลแด่ท่านโดยป้อนอาหารให้ท่าน จนกระทั่งเห็นอาการของท่านผิดปรกติ ท่านอาจารย์ทองอินทร์ ซึ่งนั่งปฏิบัติท่านอยู่ ณ ที่นั้น จึงอุทานขึ้นว่า “หลวงปู่เป็นอะไร” ในเมื่อเห็นอาการของท่านคงจะใกล้ดับลง จึงจัดแจงเปลี่ยนสบง จีวร ตลอดจนสังฆาฏิให้ท่านใหม่ พร้อมทั้งได้นำพัดยศที่ท่านได้พระราชทานเป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรของท่าน มาตั้งไว้ต่อหน้าใกล้ท่านได้มองเห็น เมื่อท่านมองเห็น ท่านก็ได้ยกมือประณม แล้วก็เอามือมาประสานกันที่หน้าอกของท่านแล้วเหลียวดู พระภิกษุสามเณร และศิษยานุศิษย์ที่มาพยาบาลอยู่ ณ ที่นั้น แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า “อยู่กันดีดีนะ” แล้วท่านก็เงียบไปด้วยอาการอันสงบในท่ามกลางศิษยานุศิษย์ ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ที่เฝ้าพยาบาลอยู่ ทุกคนก็ได้แต่มองด้วยความรู้สึกเสียดาย และอาลัยอย่างยิ่ง สุดที่จะพรรณนา เมื่อเวลา ๑๑.๓๑ น. เป็นอันสิ้นสุดแห่งชีวิตของท่านครั้งสุดท้ายไม่มีวันที่จะกลับคืนได้อีกแล้ว
    _______________________________________________________________
    คัดจาก : หนังสือ กายนคร ของ นายแปลก สนธิรักษ์
    พิมพ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูธัญญโศภิต
    ณ เมรุวัดกลางคลองสี่ วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๑๕


    อ้างอิง:วัดกลางคลองสี่ จ.ปทุมธานี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ในเรื่องของประวัติหลวงปู่ทองอินทร์กับหลวงปู่กาหลงผมได้ตั้งกระทู้ในเว็บของทางวัดแล้วครับว่าท่านเป็นสหายธรรมกันจริงๆมั้ยแล้วมีประวัติความเป็นมาอย่างไรถ้าได้คำตอบผมจะนำมาลงให้ทุกท่านทราบครับ!!!
     
  4. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ผมได้คำตอบจากเว็บมาสเตอร์ของทางวัดกลางคลองสี่แล้วครับว่า

    ความว่า...

    ผมก็เคยอ่านเจอใน internet นะครับ แต่จากการสอบถามหลวงปู่ หลวงปู่เองท่านก็ไม่รู้จักกับหลวงปู่กาหลงเลยครับ (หลวงปู่ท่านยังถามกลับมาว่าหลวงปู่กาหลงเป็นใคร อยู่ที่วัดไหน)


    แต่ในเรื่องนี้ผมก็เคยสืบค้นหาในเว็บต่างๆเจอเช่นกันครับว่าท่านเป็นสหายธรรมกัน และได้เจอในเว็บหลวงปู่กาหลงที่ผู้ศรัทธาสร้างขึ้นด้วยอีกต่างหากครับ

    นี่ครับ ลิงน์นี้ครับ



    แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปน่ะครับ
     
  5. ภะควา

    ภะควา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +435
    เมื่อวันอาทิตย์ได้ไปที่วัด หลวงปู่ไปฉันนอกวัด เลยบูชาพระสมเด็จปี2516 และพระทรงขุนแผน ครบ 90ปี วัดร่มรื่นมากครับ โมทนา สาธุ
     
  6. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ในเรื่องกรณีหลวงปู่ทองอินทร์กับหลวงปู่กาหลงผมจะเดินทางไปสอบถามจากหลวงปู่ด้วยตัวเองครับเพื่อให้ได้ข้อสรุปครับ แต่อย่างไรก็อย่าปักใจเชื่อไปในทางใดทางหนึ่งน่ะครับจนกว่าจะได้ข้อสรุปจากหลวงปุ่เองเลยครับหรือถ้าใครรอไม่ไหวสามารถไปนมัสการหลวงปุ่และถามหลวงปุ่เองได้เลยน่ะครับแล้วอย่าลืมนำมาเล่าสู่กันฟังด้วยน่ะครับ
    แต่ในประวัติหลวงปุ่กาหลงได้ไปกราบหลวงปู่ด๊วดเป็นอาจารย์ด้วยครับ
    แต่หลวงปู่ทองอินทร์ท่านบวชมานานแล้วที่วัดและได้เป็นศิษย์เอกหลวงปู่ด๊วดด้วยครับเลย งงๆๆเลยครับว่าความจริงเป็นเช่นไรครับเดี๋ยววันไหนว่างๆจะไปสอบถามเองเลยดีกว่าครับ
     
  7. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ครับผม แต่วันนั้นที่ไปไม่ได้พบหลวงปู่ใช่มั้ยครับน่าเสียดายมากครับแต่แค่ไปที่สัดก็เหมือนได้ไปนมัสการท่านแล้วล่ะครับ
    วัดท่านสงบมากครับไม่มีอะไรคุยโอ้อวดเลยว่าน่คือวัดของพระเกจิขนานแท้และเก่าแก่สมัยร.6ครับ
    วันหลังว่างๆผมก็เชิญชวน คุณ ภะควา
    ไปเที่ยวอีกสักครั้งสิครับ แต่วันอาทิตย์หลวงปู่ไปฉันนอก นานๆได้พบครับสักครั้งครับ
    อนุโมทนาสาธุด้วยน่ะครับที่ได้ไปเที่ยวที่วัดหลวงปู่ครับผม!!!
    สาธุ
     
  8. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ใครที่ยังไม่เคยไปกราบหลวงปู่ผมก็ขอเชิญชวนทุกท่านไปครับผม!!!
    ไปแล้วไม่ผิดหวังจริงครับ
     
  9. วารินทร์ นานา

    วารินทร์ นานา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ได้ข่าวว่า มีเด็ก ถ่ายรูปพระพุทธชินราชในวัดเเล้วยิ้มได้ ลงใน น ส พ . วันนี้
    ที่วัดท่านนี้ละ ไม่รู้จริงประการใด ?
     
  10. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    เป็นความจริงทุกประการครับ
     
  11. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    หลวงปู่ท่านมีเมตตาสูงและท่านเก่งในด้านของคาถาอาคมฝ่ายวิชาแห่งคุณพระมากๆครับ
    พระห้อยคอของท่านไม่ว่าจะเป็นเหรียญหรือพระผงต่างๆล้วนแล้วมีประสบการณ์ทั้งสิ้นครับ
    และท่ายยังเป็น มหาเถระกลางกรุงผู้หยั่งรู้กาล ด้วยครับเชิญไปกราบท่านได้ที่วัดครับผม!!!!
     
  12. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ช่วงนี้ใครไปกราบท่านที่วัดอย่าลืมไปกราบนมัสการ พระพุทธชินราชจำลอง(หลวงพ่อยิ้มแฉ่ง )ที่โด่งดังในตอนนี้ครับ

    ไปแล้วถือโอกาสในวัดได้กราบสิ่งศักสิทธิ์ที่อยู่คู่วัดกลางคลองสี่ คือ
    1.หลวงพ่อสุโขทัย
    2.หลวงพ่อยิ้มแฉ่ง(พระพุทธชินราชจำลองที่ลือลั่นในตอนนี้ครับ)
    3.หลวงปู่ด๊วด
    4.หลวงปู่ทองอินทร์
     
  13. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ในข่าวของวัดกลางคลองสี่ตอนนี้กำลังสแกนลงอยู่ครับ(ต้องการที่มาจากหนังสือพิมพ์จริงๆครับ)
     
  14. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    เอาข่าวในเว็บของข่าวสดไปก่อนล่ะกันน่ะครับ
     
  15. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ตะลึงภาพถ่าย-"พระพุทธรูป"ยิ้มแฉ่ง

    แห่ไหว้แน่นวัด คลองสี่-ปทุมฯ



    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    พระยิ้ม - พระพุทธรูปพระพุทธชินราชจำลอง ภายในวัดกลางคลองสี่ จ.ปทุมธานี ซึ่งเด็กวัย 8 ขวบถ่ายภาพไว้ ปรากฏว่าพระพักตร์มีรอยยิ้ม สร้างความตื่นตะลึงจนมีคนแห่กราบไหว้จำนวนมาก


    </TD></TR></TBODY></TABLE>ฮือฮาพระพุทธรูปยิ้มได้ เด็กวัยแปดขวบถ่ายรูปไว้นำไปให้พ่อแม่ดูแล้วปรากฏมีพระพักตร์ยิ้มแย้มเป็นที่อัศจรรย์ โจษจันกันปากต่อปากจนร่ำลือกันทั่วทั้งปทุมธานี "ข่าวสด" รุดตรวจสอบที่วัดกลางคลองสี่ อ.ลำลูกกา พบว่าเป็นพระพุทธรูปชินราชจำลอง หล่อด้วยทองเหลืองเงางามอร่าม สมภารเผยอาจเป็นการหักเหของแสง ไม่อยากให้งมงาย ขอให้ทุกคนตั้งตนอยู่ในความดีมากกว่า

    จากกรณีผู้เข้าไปทำบุญที่วัดกลางคลองสี่ หมู่ 5 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อกราบไหว้พระขอพรเนื่องในช่วงท้ายปีขาลรับปีเถาะ และกราบสักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่จะนำมาประดิษฐานภายในศาลา ปรากฏว่ามีเด็กอายุ 8 ขวบ ได้ถ่ายรูปพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่ามีรอยยิ้ม จึงนำไปให้มารดาดูก็พบว่าเป็นความจริงเป็นที่น่าอัศจรรย์ เล่าลือแบบปากต่อปากต่อๆ กันมา จนเป็นที่โจษจันกันอยู่ในขณะนี้

    เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดกลางคลองสี่ เพื่อตรวจสอบ ซึ่งพบว่าพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวหล่อด้วยทองเหลือง เงางามอร่าม สวยงามตามแบบพระพุทธรูปพระพุทธชินราช คลุมด้วยพลาสติกใส เพื่อเตรียมย้ายไปประดิษฐานภายในศาลา

    พระมงคลศีลาจาร (หลวงปู่ทองอินทร์ เตชวุฑโฒ) เจ้าอาวาสวัดกลางคลองสี่ ให้สัมภาษณ์ว่าพระสมเด็จพระพุทธชินราชองค์นี้ เป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองเหลือง ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาในกรุงเทพมหานครจัดสร้างในราคา 300,000 บาท นำมาถวายเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2553 ทางวัดจึงได้จัดพิธีเบิกเนตรในวันเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้บูชาขอพรเนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งทางวัดได้สร้างศาลาตั้งพระประธานปางต่างๆ มาเกือบครบแล้ว โดยจะนำพระพุทธชินราชจำลององค์ดังกล่าวเข้าไปเก็บด้านในศาลาด้วย

    ส่วนเรื่องที่มีผู้ถ่ายภาพพบว่าพระประธานยิ้มได้นั้น ทั้งๆ ที่เป็นพระพุทธรูปทองเหลืองปั้นตามปกติ ไม่ได้หล่อขึ้นเพื่อให้มีลักษณะยิ้มแย้มแต่อย่างใด พระมงคลศีลาจาร กล่าวว่า อาตมาก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร เพราะเท่าที่ดูภาพแล้วอาจจะเป็นปรากฏการณ์ หรือภาพย้อนแสง ซึ่งไม่มีใครสามารถตอบได้ ไม่อยากให้ประชาชนงมงาย แต่ควรเชื่อในเรื่องทำความดี ถ้าหากคนเราทำดีต้องได้ดี ตั้งอยู่ในศีลธรรม และยิ้มแย้มเข้าหากันด้วยความสุขทั้งปี

    ผู้สื่อข่าวสังเกตว่าหลังจากชาวบ้านทราบข่าวว่ามีผู้ที่ถ่ายภาพพระพุทธชินราชยิ้มได้ ต่างเข้ามาขอดูภาพถ่ายจากเจ้าอาวาสและเข้ากราบไหว้บูชากันไม่ขาดสาย

    http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOakV4TURFMU5BPT0=
     
  16. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    อันนี้คือหนังสือพิมพ์ที่ได้ตีพิมพ์เป็นเล่มที่ผมตั้งใจซื้อมาเพื่อนำมาลงในกระทู้ครับเป็นหนังสือพิมพ์ที่ลงจริงๆครับ

    [​IMG] Thanks: โยกัง โยกัง
     
  17. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ขออภัยครับ
    เดี๋ยวจะลงใหม่ให้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • img008.jpg
      img008.jpg
      ขนาดไฟล์:
      378.6 KB
      เปิดดู:
      261
    • img005.jpg
      img005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      762.4 KB
      เปิดดู:
      295
    • img006.jpg
      img006.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      283
    • img007.jpg
      img007.jpg
      ขนาดไฟล์:
      69.1 KB
      เปิดดู:
      220
  18. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    นมัสการหลวงพ่อสุโขทัย หลวงปู่ด๊วด หลวงปู่ทองอินทร์ และหลวงพ่อยิ้มแฉ่ง ขอรับ
    หลวงปู่สุดยอดครับทำพิธีเบิกเนตรได้ขลังสุดๆครับเบิกเนตรจนพระพุทธรูปยิ้มได้ศักสิทธิ์มากๆครับ แล้วเหรียญของหลวงปู่ล่ะครับจะเหลือหรอครับ ขนาดเบิกเนตรยังขลังขนาดนี้แล้วเหรียญของท่านที่ท่านตั้งใจทำพิธีปลุกเสก อย่างเข้มขลังและลงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ
    พระสังฆคุณล่ะครับ ไม่ยิ่งขลังเข้าไปใหญ่เลยหรือครับ(คิดเอาเองน่ะครับ)
    ศรัทธาหลวงปู่มากๆครับ

    อย่าลืมไปทำบุญที่วัดกันน่ะครับ!!!!
     
  19. jj85

    jj85 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,754
    ค่าพลัง:
    +7,607
    ในเรื่องนี้ผมขอตอบอีกทีจากการพิจารณาดูแล้วครับผมขอตอบตามหลวงปู่ทองอินทร์เลยครับ
    แต่ความส่วนตัวว่าน่าจะเป็นการหักเหของแสงเพราะรอยยิ้มของท่านอยู่ใต้ปากท่านซะอีกครับแต่อย่างไรก็เป็นเรื่องแปลกที่อะไรๆจะมาเหมาะเจาะเช่นนี้ครับ
    ปล.ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของบุคคลครับ
    สาธุ
     
  20. วีรวัช

    วีรวัช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    2,622
    ค่าพลัง:
    +5,029
    เห็นข่าว แว๊บๆในโทรทัศน์เมื่อวาน จำได้แม่นเลยว่า วัดนี้ อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...