ติดตามสถานะการณ์

ตอนนี้หน้าอมตะนคร จ.ชลบุรี ฝนกำลังตกครับ กลางๆไม่หนักมาก กำลังเบาๆลงแล้วล่ะ
ผมไม่มีเข็มทิศ แต่เดาๆดูแล้วลมจะมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือครับ เพราะมันพัดเข้าทางหลังห้องเต็มๆเลย ...


... ^^ ...

 

ทส.อ้างไม่จำเป็นต้องฟ้องค่าชดเชยน้ำมันรั่วเกาะเสม็ดจาก PTTGC

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 ตุลาคม 2556 19:23 น.

นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ทส.จะไม่ฟ้องร้องเอาผิดหรือเรียกค่าชดเชยกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล กรณีเป็นผู้ก่อเหตุน้ำมันดิบรั่วบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง เนื่องจากตามหลักกฎหมายของ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ได้ระบุว่า ผู้ใดที่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ผู้นั้นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่กรณีของ พีทีทีซีจี ทส.ยังไม่ได้ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าชดเชย บริษัทก็แสดงความรับผิดชอบแล้ว จึงไม่รู้จะฟ้องร้องเพื่ออะไร
ทั้งนี้ บริเวณชายหาดและหินตลอดแนวชายหาด ปะการังมีการฟื้นตัวดีขึ้น พบหอยเม่นทะเลจิ๋วใต้ทะเล และหอย ปูลม ปลาตัวเล็ก กลับมาอาศัยบริเวณชายหาด หาดหินด้วย ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางธรรมชาติกลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว จึงเห็นควรที่จะเปิดอ่าวพร้าวให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป
นายกัญจน์ ปทุมราช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและบำรุงรักษา บริษัท พีทีที กล่าวว่า การจ่ายค่าชดเชยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันดิบรั่วไหล ได้ทยอยจ่ายเงินชดเชยเกินร้อยละ 50 จากที่ลงทะเบียนไว้ รวมเป็นเงินกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งได้จ่ายชดเชยรายละ 3 หมื่นบาท

 

เตือน 'โรบินฮูดไทย' เที่ยวแล้วชิ่งหนี ส่งกลับ-ขึ้นแบล็กลิสต์!
หน้าหลัก » เศรษฐกิจ

เตือนเหล่าโรบินฮูดไทยที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไม่กลับใน 15 วัน ตามที่ ตม.ญี่ปุ่นอนุญาต จะถือว่าเป็นคนหลบหนีเข้าเมืองต้องถูกส่งกลับ และห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อีก 5-10 ปี หากแจ้งข้อมูลเท็จต่อเจ้าหน้าที่ เคยโดนส่งกลับ หรือ ติดแบล็กลิสต์ ห้ามเข้าเมืองทุกกรณี...

เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2556 หลังจากที่ไทยรัฐออนไลน์ เสนอข่าว "กงสุลญี่ปุ่นย้ำไม่เลิกยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวไทย" ที่ทางเจ้าหน้าที่แผนกกงสุล สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว “ไทยรัฐออนไลน์” เกี่ยวกับข่าวลือที่มีการส่งต่อกันอย่างแพร่หลายในโซเชียลมีเดียว่า ทางการญี่ปุ่น จะยกเลิกข้อยกเว้นขอวีซ่าท่องเที่ยวเข้าญี่ปุ่นเป็นเวลาไม่เกิน 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นไป หลังจากที่มีข่าวว่ามีคนไทยฉวยโอกาสหลบหนีเข้าเมืองเป็นจำนวนมาก โดยแผนกกงสุล สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ยืนยันว่า ยังไม่มีนโยบายเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม และไม่มีประกาศทั้งจากฝั่งรัฐบาลไทยและญี่ปุ่นในเรื่องการยกเลิกข้อตกลงดัง กล่าวมาตั้งแต่ต้น ไปแล้วนั้น

อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ก็ได้ออกประกาศเตือนเหล่าผู้ที่คิดจะมาเป็นโรบินฮูด หรือ ผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายชาวไทย ที่เข้าเมืองมาเที่ยวญี่ปุ่น ตามมาตรการยกเว้นวีซ่าให้กับคนไทยแล้วไม่กลับใน 15 วัน ดังนี้

ข้อระมัดระวังในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นโดยใช้มาตรการยกเว้นวีซ่าให้กับคนไทย

1. ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2556 ที่เริ่มมีมาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยนั้น (ตรวจสอบรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น หัวข้อ "การยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย") ผู้เดินทางสามารถพำนักในประเทศญี่ปุ่นได้ 15 วัน และหากผู้ใดประสงค์จะพำนักเกิน 15 วัน จะต้องยื่นขอวีซ่าก่อนการเดินทาง เมื่อไปถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว หากมีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ต้องพำนักเกิน 15 วัน ให้ติดต่อสำนักตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่นก่อนที่วีซ่าจะหมดอายุ

2. ในกรณีที่ไม่ได้รับการอนุญาตต่ออายุวีซ่า จากสำนักตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่นก่อนที่วีซ่าหมดอายุ จะถือว่าบุคคลนั้นพำนักผิดกฎหมายในประเทศญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นจะถูกส่งกลับประเทศและไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้อีก 5 ปี หรือ 10 ปี กรณีผู้ที่ละเมิดกฎหมายที่ประเทศญี่ปุ่น และถูกศาลตัดสินลงโทษให้จำคุกจะไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ตลอดไป

3. ในกรณีที่มีการแจ้งข้อมูลเท็จต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศญี่ปุ่น หรือเป็นผู้ที่เคยมีประวัติการถูกส่งตัวกลับจากประเทศญี่ปุ่น และเป็นผู้ที่อยู่ในระยะเวลาของการถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศนั้น จะไม่ได้รับการอนุญาตให้เข้าประเทศญี่ปุ่น.

รายละเอียดเพิ่มเติม
สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

โดย: ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
22 ตุลาคม 2556, 00:15 น.

 

Thanong Fanclub
ซีเรียและอิหร่านเริ่มหายใจออก ส่วนซาอุฯและอิสราเอลกำลังเพลี้ยงพล้ำ

ประธานาธิบดีโอบามาได้คลี่คลายความสัมพันธ์กับอิหร่านในทิศทางทีดีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์กับผู้นำอิหร่านHassan Rouhaniในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระหว่างนายRouhani มาประชุมยูเอ็นที่นิวยอร์ค ทำให้ท่าทีที่เคยเป็นศัตรูร้ายระหว่างสองประเทศคลี่คลายลงไปมากและล่าสุดมีรายงานว่าโอบามาอาจจะปล่อยเงินและทรัพย์สินอิหร่านมีมูลค่า$12,000ล้านที่โดนอายัติออกมา สหภาพยุโรปอาจจะตามน้ำด้วยการเลิกอายัติเงิน$35,000ล้านของอิหร่าน อันเป็นผลจากนโยบายแซงซั่นของมหาอำนาจตะวันตกต่ออิหร่านที่ถูกกล่าวหาว่าพยายามสร้างอาวุธนิวเคลียร์ อันนี้ก็เป็นอีกเปลาะหนึ่งของความคลี่คลายความตรึงเครียดในตะวันออกกลาง

ในขณะเดียวกันรัฐบาลซีเรียนำโดยนายAssad ก็กำลังตีตื้นขึ้นมา เริ่มจะคุมสถานการณืได้แล้ว เพราะว่าพวกขบถทั้งภายในและภายนอกประเทศอ่อนหล้า ได้ไม่รับการสนับสนุนเหมือนเดิม เนื่องจากนโยบายที่เปลี่ยนท่าทีไปของโอบามา อังกฤษและฝรั่งเศส ทั้งQatar, Jordan, Turkey และพวกต้านซีเรียในเลบานอนได้ลดการให้การสนับสนุนพวกขบถที่รบกับรัฐบาลซีเรีย เหลือเพียงแต่ซาอุดิ อาราเบียเท่านั้นที่ยังคงสนับสนุนพวกขบถอยู่ อิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรกับซาอุฯ เริ่มหวั่นไหว เพราะว่ากำลังจะโดนล้อมกรอบจากกลึ่มประเทศอาหรับ ที่อาจจะรวมตัวกันใหม่ เพราะว่าสหรัฐฯเริ่มลดบทบาทในตะวันออกกลางลง และประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียกำลังก้าวขึ้นมามีอิทธิพลแทน

นี้เป็นสาเหตุหลักที่ซาอุฯ ออกมาขู่ว่าจะทบทวนความสัมพันธ์ทุกอย่างกับสหรัฐฯอเมริกา เพราะซาอุฯกำลังเพลี้ยงพล้ำเกมภูมิศาสตร์การเมืองกับอิหร่าน ซาอุฯไม่ได้พูดชัดแต่เป็นไปได้ว่าอาจจะเลิกถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ$600,000กว่าล้าน และอาจจะขายน้ำมันเป็นเงินสกุลอื่นหรือทอง แทนที่จะขายเป็นดอลล่าร์ ถ้าซาอุฯเล่นไม้นี้ จะเป็นจุดจบของเปโตรดอลล่าร์ ที่หนุนความเป็นเงินสกุลหลักของโลกของดอลล่าร์มาตลาดระยะเวลา40ปีที่ผ่านมา

โอบามาไม่เห็นด้วยในการทำรัฐประหารในอิยิปต์ มีข่ายรายงานว่าอิสราเอลและเพนตากอนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้ทหารอิยิปต์ล้มรัฐบาลนายมอร์ซี่และพวกMoslim Brotherhood เพราะเกรงว่าอิยิปต์จะไปฝักใฝ่อิหร่าน และใช้หลักศาสนามากขึ้นในการปกครองประเทศ ยากต่อการควบคุม อันนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โอบามามีการปลดนายทหารหลักๆในกองทัพสหรัฐฯกราวรูด เพราะพวกนี้กระทำการโดยเอกเทศผ่านcp โดยที่โอบามาไม่ได้รับรู้

จีนเองก็คอยแอบตีท้ายครัวด้วยการเตรียมตัวเอาหยวนไปซื้อนำมัน สร้างเปโตรหยวนแทนที่เปโตรดอลล่าร์ เมื่ออิทธิพลสหรัฐฯลดลง เพราะปัญหาการเงิน เล่นพิมพ์QEไม่เลิก และปัญหาการแย่งชิงอำนาจระหว่างcpด้วยกันเอง ทำให้ทั้งจีนและรัสเซียจะมีบทบาทในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น เข้าไปทดแทนมหาอำนาจเดิมอย่างสหรัฐฯ อังกฤษและฝรั่งเศส

แต่สถานการณ์ตะวันออกกลางไม่น่าไว้วางใจ อาจจะมีเหตุร้ายที่สร้างขึ้นมาอย่างไม่คาดฝันได้ เพื่อให้เกิดสงครามปะทุขึ้นมาได้ เพราะว่าอย่างไรเสีย มหาอำนาจเก่าจะไม่ยอมสูญเสียอำนาจไปได้ง่ายๆ


thanong
29/10/2013

Obama’s potential release of $12bn of frozen Iranian assets would be followed by $35 billion from Europe


Syrian rebel factions in deals with local army commanders - both under Al Qaeda assault

 

Thanong Fanclub
ท่านเซ๋อร์ไอแซคเจ้งหุ้นจนเซ่อไปเลย

ืท่านเซ่อร์ ไอแซค นิวตัน (1642-1727) เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์เอกของโลก เป็นผู้ค้นพบกฎของแรงโน้มถ่วงของโลก แต่ไม่สามารถเอากฎนี้มาประยุกต์กับการลงทุนได้ ตำนานเล่ากันว่า วันหนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นแอบเปิ้ลเพลินๆ บังเอิญลูกแอลเปิ้ลหล่นลงมาใส่หัวดังตุ๊บพอดี นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้ผ่านไปเป็นอันขาด โดยไม่คิดหรือแสวงหาคำตอบ เพราะว่าการหล่นลงมาของลูกแอบเปิ้ลจากต้นไม้เป็นปรากฎการณ์ที่ยิ่งใหญ่ และไม่มีอะไรบังเอิญในโลกนี้ ท่านเซ่อร์เลยตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไมแอบเปิ้ลถึงตกใส่หัวของตน แต่ไม่ลอยออกไปนอกโลก อ้อก็เพราะว่ามีแรงดึงดูดนั่นเอง อันนำไปสู่การคิดค้นทฤษฏีแรงโน้มถ่วงของท่านเซ่อร์

ในช่วงนั้นฟองสบู่ของเงินกระดาษและตลาดหุ้นเป็นปรากฎการณ์แล้วในยุโรปโดยที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่เข้าใจ เพราะมัวไปสร้างทฤษฎี ทำการทดลองผสมสูตรในห้องทดลองอยู่ ในปี1637 ราคาของดอก Witte Croonen ทูลิปพุ่งทะยาน26เท่า ก่อนที่จะหล่นฮวบลงมาเหลือแค่1ส่วน20ของราคาที่ขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้านี้

อีก8ปีต่อมา John Law ร่อนเงินกระดาษในระบบเศรษฐกิจของฝรั่งเศส และขายหุ้นในบริษัท Mississippi Company ประชาชน นักลงทุนแห่กันซื้อหุ้นในบริษัทนี้ที่เป็นเพียงบริษัทกระดาษเปล่าๆ ไม่มีทรัพย์สินอะไรทั้งสิ้น หุ้นของบริษัทนี้เพิ่มถึง20เท่าในหนึ่งปี ก่อนที่จะราคาจะพังลงมาอย่างไม่เป็นท่า John Law ผู้เป็นฮีโร่ช่วงตลาดบูม ต้องหนีออกนอกประเทศอย่างหมดรูป

ข้ามทะเลไปยังเกาอังกฤษ ราคาหุ้นของบริษัทSouth Sea Companyโดนดันขึ้นมาจาก300ปอนด์ มาเป็น1,000ปอนด์ภายในไม่กี่สัปดาห์ ท่านเซอร์ ไอแซคนิวตันหวังรวยเร็วกับเขาด้วย ลืมทฤษฎีแอบเปิ็ลไปเลย ท่านเซ่อร์เข้าไปซื้อหุ้นปั่นนี้ โดยเข้าซื้อตอนเช้า และออกตอนบ่ายแล้วได้กำไร Day Trade เขามีมาตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว และเมื่อท่านเซ่อร์กลับเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทนี้ใหม่ตอนราคาพีค และรีบกระโดดออกมา ไม่ทันการเสียแล้ว ท่านเซ่อร์ติดบนดอย หมดตัวเจ้งหุ้นอย่างไม่เป็นท่า

ท่านเซ่อร์ไอแซคอาจจะเข้าใจทฤษฎีแรงโน้มถ่วงอย่างดี ว่าอะไรก็ตามที่ขึ้นไปสูงแล้ว ต้องหล่นลงมาเพราะแรงดึงดูดของโลก แต่ไม่เฉลียวใจเลยว่าหุ้นที่ถูกปั่นขึ้นไปแล้ว ย่อมต้องตกลงมาเหมือนกัน หรือถ้าท่าเซ่อร์รู้ว่าหุ้นตัวนี้ต้องโดนแรงโน้มถ่วงเล่นงาน แต่อาจจะคำนวนความเร็ว (velocity)ผิด ออกตัวไม่ทัน ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงได้มา ต้องแลกกับหัวโน ทฤษฎีหุ้นปั่นฟองสบู่ได้มาด้วยกับการหมดตัว ท่านเซ่อร์เจ้งจนกลายเป็นเซ่อจริงๆ

thanong
29/10/2013



Nobel Prize Winner: Bubbles Don't Exist | Casey Research

 

Adepto Perfectus = dutchsinse
8 ชั่วโมงที่แล้ว ·

3MIN ROBO-NEWS - 10/29/2013 - Yellowstone EARTHQUAKE threat supercedes volcanic eruption

3MIN ROBO-NEWS - 10/29/2013 - Yellowstone EARTHQUAKE threat supercedes volcanic eruption - YouTube
3MIN ROBO-NEWS - 10/29/2013 - Yellowstone EARTHQUAKE threat supercedes volcanic eruption

 

ศุภนนท์ หวันวงค์ ▶ เครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ภาคประชาชน PS-EMC
12 นาทีที่แล้ว
ไต้หวันฮือฮาจับ "ปลาแผ่นดินไหว" ยาว 5 ม. หนักกว่า 50 กก.

เฟิงหวง - ชาวประมงท้องถิ่นไต้หวันดวงเฮง จับ “ปลาแผ่นดินไหว” ได้ ความยาวตัวปลา 5 เมตร น้ำหนักกว่า 50 กก.

รายงาน (29 ต.ค.) กล่าวว่า นายกัว ชิวหลิน ชาวประมงท้องถิ่นไต้หวัน ตกปลา “ปลาแผ่นดินไหว” ได้ ความยาวตัวปลา 5 เมตร น้ำหนักกว่า 50 กก. ต้องใช้แรงผู้ชายแบกถึง 4 คน บริเวณชายหาดใกล้สวนไห่ปิน ชายฝั่งเขตไถตง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวัน เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา

นายกัว เผยว่า มีประสบการณ์ตกปลามากว่า 20 ปี เพิ่งจับปลารูปร่างประหลาดได้เป็นครั้งแรก โดยเมื่อบ่ายวานนี้ (28 ต.ค.) เขาไปตกปลาแถวๆชายหาดที่เป็นเขตยามฝั่งที่ 81 พอเริ่มตกปลา ก็รู้สึกว่ามีแรงมหาศาลดึงลากเบ็ด ต้องอาศัยลมทะเลและคลื่นช่วยส่งปลาขึ้นฝั่ง พยายามอยู่ราว 40 นาที ก็จับปลาได้

หลังจากตะลึงงันกับขนาดและรูปร่างของปลาประหลาด เขาโทรศัพท์เรียกเพื่อนให้มายังชายฝั่งอย่างรวดเร็ว บรรดาเพื่อนของนายกัวเชื่อว่า ปลาขนาดใหญ่จะนำความโชคดีมาให้ นายกัวจึงตัดสินใจนำปลากลับไปปรุงอาหารที่บ้าน

นายเฉิน เหวินอี้ ผอ. ประจำศูนย์วิจัยชีววิทยาทางทะเลตะวันออกของไต้หวัน ระบุว่า ปลาประหลาดดังกล่าว รู้จักกันในชื่อ “ปลาแผ่นดินไหว” เป็นพันธุ์ปลาที่หายากมาก และไม่น่าเชื่อว่าจะใช้เบ็ดตกปลาขนาดใหญ่อย่างนี้ได้

ฐานข้อมูลปลาของไต้หวัน (The Fish Database of Taiwan) ระบุว่า “ปลาแผ่นดินไหว” มีอีกชื่อว่า ปลาหวงไต้อี๋ว์ หรือชื่อสากล คือ “ราชาแห่งปลาเฮอริง (皇带鱼/King of herrings) อาศัยอยู่ในระดับน้ำทะเลลึก 20 - 1000 เมตร เหตุที่ได้รับการขนานนามว่า ปลาแผ่นดินไหว เนื่องจากมักจะปรากฏตัวช่วงก่อนและหลังแผ่นดินไหว คนโบราณมีความเชื่อว่า เมื่อเกิดแผ่นดินไหวหรือภัยพิบัติ ปลาประหลาดดังกล่าวจะตกใจและว่ายน้ำมายังบริเวณน้ำตื้น ก่อนหน้านี้ไต้หวันเคยจับปลาชนิดนี้ได้เมื่อปี 2554

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 ตุลาคม 2556 17:47 น.

 

Tribulation Now ได้แชร์ ลิงก์
1 ชั่วโมงที่แล้ว ·
American Blackout 2013 National Geographic
Here is the full length video. In case y'all missed it or want to watch again.
American Blackout 2013 National Geographic - YouTube
American Blackout Tribulation Now ได้แชร์ ลิงก์
1 ชั่วโมงที่แล้ว ·
American Blackout 2013 National Geographic
Here is the full length video. In case y'all missed it or want to watch again.
American Blackout 2013 National Geographic - YouTube
American Blackout 2013 National Geographic
YouTube
National Geographic

 

พายุแรงลมเท่าเฮอริเคนถล่มยุโรป ตายกว่า 10 จราจรเป็นอัมพาตอื้อ-วัง"บัคกิ้งแฮม"เจอด้วย
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12:31:08 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ว่า เกิดเหตุพายุแรงลมเท่าเฮอริเคนถล่มตอนเหนือของยุโรป ส่งผลให้การจราจรกลายเป็นอัมพาตอย่างกว้างขวาง และมีผู้เสียชีวิต 10 ราย โดย 4 ราย เสียชีวิตในอังกฤษ 3 รายในเยอรมนี 2 รายในเนเธอร์แลนด์ และอีก 1 รายในเดนมาร์ก โดยจำนวนนี้รายหนึ่งเป็นเด็กหญิงอังกฤษ เสียชีวิตเพราะถูกต้นไม้ล้มทับรถของครอบครัวขณะกำลังหลับ และอีกรายเป็นคุณพ่อวัย 50 ถูกต้นไม้ถล่มทับรถยนต์ โดยทั้งสองรายเสียชีวิตในกรุงลอนดอน

รายงานระบุว่า พายุดังกล่าวซึ่งมีแรงลม 159 กิโลเมตรต่อ ชม. ได้เคลื่อนผ่านพื้นที่ชายฝั่งทะเลทางตอนใต้ของอังกฤษ และตัดขาดระบบไฟฟ้ากระทบต่อบ้านเรือนในอังกฤษและฝรั่งเศสกว่า 5 แสนหลัง นอกจากนี้ พิษพายุยังตัดระบบไฟฟ้าที่สถานีไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ด้วย โดยโรงไฟฟ้าได้ทำการปิดเตาปฏิกรณ์ 2 เครื่องเองโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ พิษพายุยังส่งผลให้ระบบให้บริการขนส่งทางรถไฟทั่วอังกฤษตอนใต้, เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และบางส่วนของเยอรมนี ต้องถูกยกเลิก และยังมีผู้คนกว่า 500 ราย ติดอยู่ที่เครื่องบินของสนามบินโคเปนเฮเกน เนื่องจากไม่สามารถลงจากเครื่องได้เพราะสนามบินไม่สามารถเชื่อมบันไดเข้ากับประตูทางออกเครื่องได้เพราะพิษพายุแรงพัดกระหน่ำ และอีก 450 ราย ติดอยู่บนเรือข้ามฟากบริเวณท่าโดฟเวอร์ เป็นเวลากว่า 2 ชม.

ส่วนสนามบินฮีธโรว์ของอังกฤษ ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 13 เที่ยวบิน หรือราว 10 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งยังมีการเลื่อนให้บริการของรถไฟยูโรสตาร์ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า แม้แต่พระราชวังบักกิ้งแฮม ในกรุงลอนดอน ยังได้รับผลกระทบ มุงหลังคาหลุด และมีกระจกแตก 2 บาน แต่ขณะเกิดเหตุ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ไม่ได้ทรงพำนักอยู่

พายุแรงลมเท่าเฮอริเคนถล่มยุโรป ตายกว่า 10 จราจรเป็นอัมพาตอื้อ-วัง"บัคกิ้งแฮม"เจอด้วย : มติ

 

อยากถามว่า ช่อง national geographic nasa และ สื่อมะกัน จะมาประโคมข่าวเรื่องอาจมี blackout event ทั่วประเทศจากการโจมตี เพือชี้โพรงให้กระรอกทำไมครับ?

 

เรียนคุณ. Sunny430
อยากถามว่า ช่อง national geographic nasa และ สื่อมะกัน จะมาประโคมข่าวเรื่องอาจมี blackout event ทั่วประเทศจากการโจมตี เพือชี้โพรงให้กระรอกทำไมครับ?

ผมคิดว่าเป็นการทำหน้าที่ของสื่อครับ. เพราะถ้ามีความเป็นไปได้ของสื่อเขาก็จะเคือนให้ประชาชนระวังไว้.
ซึ่งจะช่วยลดความตื่นกลัวถ้ามีเหคุการณฆ์เกิดขึ้นจริง. และลดความเสียหายเพราะอาจมีประชาชนบางส่วนหาทางป้องกันเช่นสำรองน้ำมันไว้เดินเครื่องปั่นไฟ. หรือซื้อแผงโซล่าเซลไว้ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าตามบ้าน และช่องเหล่านี้ก็ชอบออกรายการในลักษณะนี้อยู่แล้วเช่นการออกรายการในลักษณะเตือนแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางด้านชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเป็นต้น ครับ

 

Tribulation Now ได้แชร์ ลิงก์
6 นาทีที่แล้ว ·
Comet ISON Hybrid Eclipes Nov. 03, 2013, Monday Morning !
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=vMYGLAdZWSs]Comet ISON Hybrid Eclipes Nov. 03, 2013, Monday Morning ! - YouTube[/ame]
Comet ISON Hybrid Eclipes Nov. 03, 2013,

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล ได้แชร์ลิงก์ผ่าน Tee Noo
16 นาทีที่แล้ว
Red Alert เฝ้าระวัง จับตาและเตรียมพร้อม เดือนพ.ย. 2013 เป็นต้นไป
Red Alert เฝ้าระวัง จับตาและเตรียมพร้อม เดือนพ.ย. 2013 เป็นต้นไป - GotoKnow

Red Alert เฝ้าระวัง จับตาและเตรียมพร้อม เดือนพ.ย. 2013 เป็นต้นไป
บทความนี้ ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาให้ใครแตกตื่นตกใจไปกับข่าว ---รับฟัง รับรู้ เตรียมตัว และปล่อยวาง--- เป็นเพียงการวิเคราะห์และคาดเดาจากความเห็นส่วนตัวเท่านั้น เหมือนเตรียมตัวสอบที่ต้องอ่านหนังสือทั้งเล่ม ถึงเวลาข้อสอบอาจจะไม่ได้ออกทั้งเล่ม ตามที่เตรียมอ่านมานั้นเลยก็ได้ค่ะ อย่าเครียด ^__^

(ใครจะเอาไปแชร์ คิดดีดีก่อนนะคะ
พรบ.เผยแพร่ข่าวสารภัยพิบัติ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลอันจะทำให้สาธารณชนแตกตื่น ปี พ.ศ.2555

บทความนี้ แค่เอาข้อมูลมาร้อยกัน เพื่อตั้งสมมติฐานใหม่ และการเตรียมการรับมือจากภาคประชาชนอย่างมีสติจากข้อมูลอันมีอยู่แล้ว)

ปฐมบท

ช่วงนี้ กระแสข่าวภัยพิบัติที่วนเวียนในโลกไซเบอร์มีอยู่ไม่กี่เรื่องค่ะ แต่ก็น่าสงสัยว่าทำไมหลายกลุ่มส่วนใหญ่จึงตื่นเต้นกันน่าดู ช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเมืองไทยหรือว่าเมืองนอก

Clue 1

สืบไปสืบมา ซับซ้อนพอควร ความก็มีให้เอะใจ เมื่อเสิร์ชไปเจอคำว่า Cyber Attack และผู้เตือนเรื่องนี้คือ Janet Napolitano เลขา DHS (Secretary of Defense, Department of Homeland Security เตือนอยู่ไม่นาน เธอก็ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ...เอ้ย อะไรกันเนี่ย คือกว่าจะดำรงตำแหน่งสำคัญขนาดนี้ ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ ไอ้จะมาลาออกกันกลางอากาศแบบนี้ มันต้องมีเรื่องสำคัญมากๆแน่นอนค่ะ ขอบอก

Janet เตือนว่า ในอนาคตอันใกล้โลกจะต้องประสบกับปัญหา “การทำลาย(ล้าง)ระบบไซเบอร์ (Cyber Attack)” ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ร้ายแรงถึงขนาดฐานข้อมูลประเทศเสียหายจากภัยใหญ่บางอย่าง

อะเจ้ย เว้ยเห้ย

ทำไมมันจะรุนแรงขนาดนั้น

โลกไซเบอร์นี่มันวิถีชีวิตแอมมี่เลยอะ แล้วยังคือชีวิตของคนทั่วโลกที่ยังต้องพึ่งพาระบบอินเตอร์เน็ต ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม เคเบิ้ลใต้น้ำ ระบบสื่อสารบนมือถือ ตู้เอทีเอ็ม โรงเรียน มหาวิทยาลัย วัด โรงพยาบาล บริษัท โรงงาน ห้างร้าน ระบบเศรษฐกิจ ความมั่นคง กองทัพ (ระบบฐานข้อมูล C31) และอื่นๆ ของทุกประเทศทั่วโลก มันจะมีอะไรที่ทำได้ถึงขนาดทำให้เกิดการทำลายล้างกันได้ขนาดนั้น ???

Clue 2

กลิ่นมันทะแม่ง ทะแม่งเนอะ เราเลยต้องตามต่อ โดยกระจอก(งอกง่อย) ข่าว หนูแอมมี่

ก็ปรากฎข่าวการซ้อมรบครั้งใหญ่ระดับประเทศและความร่วมมือกับหลายประเทศทุกสิ่งอย่างให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 ตค 13 ซึ่งอันนี้เฉลยแล้วเพราะเค้าประเมินว่าจะเกิดการหยุดกิจการภาครัฐ (Government Shutdown)เนื่องจากงบประมาณไม่ผ่านสภา นาซ่าหยุดทำการ แล้วก็มีดาวเทียมสำรวจอวกาศ 24 ดวงถูกสั่งปิดทำงานไปด้วย (24 Surveillance Satellites System) แต่กลับไม่ยอมเปิดระบบกลับมาใหม่เมื่อรัฐบาลผ่านงบฯเมื่อวันที่ 17 ตค ---อันนี้ เป็นเรื่องน่าสงสัยมากค่ะ เพราะดาวเทียมพวกนี้ปกติก็เอาไว้สำรวจอุกาบาต (ยิ่งตกเยอะๆอยู่ แล้วดันมาสั่งปิด)ตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมในอวกาศ และการตรวจการยิงอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศศัตรูคู่แข่ง ที่จริงเปิดใช้มานาน 50 ปีแล้ว .... จึงยิ่งเป็นไปได้ยากที่อเมริกาจะยอมทำแบบนี้ (ปกติประชาชนสามารถใช้ความถี่นี้ร่วมรับรู้ได้ หรือมีคนต้องการปกปิดอะไรอยู่หรือ)....มันจึงต้องมีเรื่องอะไรที่ใหญ่และสำคัญกว่านั้นมากๆ น่าสงสัยใช้มั๊ยคะ ....

ข้อมูลความเคลื่อนไหวแปลกๆของยักษ์ใหญ่อเมริกาเมื่อเดือนกันยายน 2013 อยู่ในอ้างอิงข้างล่างนะคะ (เยอะซะจน ใครๆก็ต้องสงสัยและเอะใจเนอะ)

Clue 3

ช่วงนี้อีกเช่นกัน ดวงอาทิตย์เกิดอาการแอคทีฟ มีปฏิกิริยาพ่น CME ออกมาระดับ X class และ M class หลายลูก ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวบนโลกระดับ 6-7 ริกเตอร์กว่าๆ ส่วนหนึ่งทำให้ภูเขาไฟทั้งบนดินและใต้น้ำระเบิด รวมทั้งมีผลข้างเคียงต่อสภาพภูมิอากาศบนโลกที่แปรปรวน สนามแม่เหล็กโลกก็แปรปรวนตามไปด้วย

อย่างที่ตามๆ ข้อมูลกันมา ดวงอาทิตย์กลับขั้วทุก 11 ปี ครบปีนี้พอดี และมีปฏิกิริยาพ่น CME ออกมามากที่สุดช่วงนี้ ถ้าดูตามค่าสถิติ ตอนนี้ก็เกินระดับปกติไปแล้ว และถ้าระเบิดรุนแรงก็จะปล่อย EMP (Electro Magnetic Pulp) ออกมาสู่โลก ทำลายอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์บนดาวเทียม ดาวเทียมนำทาง GPS จรวดอวกาศ เครื่องบินให้ช๊อร์ตและหยุดทำงาน หากเข้ามาชนชั้นบรรยากาศโลกระดับ แมกนีโทสเฟียร์ ซึ่งเป็นชั้นสนามแม่เหล็กโลก ส่งผลให้เส้นแรงแม่เหล็กของโลกเกิดการยุบตัวลง ก็อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “พายุแม่เหล็กโลก” ได้อีก ส่งผลให้อุปกรณ์อะไรก็แล้วแต่ที่เป็นอิเลคทรอนิกส์และไฟฟ้าบนพื้นโลก เช่น สถานีไฟฟ้าใหญ-ย่อย เสาไฟฟ้าแรงสูง เกิดการช๊อตและดับวูบไม่สามารถส่งไฟฟ้าให้ได้เลยทั่วโลก

ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ก็เข้าเค้าว่า Cyber Attack ก็อาจจะเกิดขึ้นได้จริง เพราะถ้าระบบไฟฟ้าถูกตัดขาด ระบบไซเบอร์ก็มีสิทธิล่ม ... แล้วมันเป็นไปได้แค่ไหนกันหละทีนี้ ???

Clue 4

แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ปลาพญานาคโผล่ พายุฝนประหลาดเกิดขึ้นทั่วโลก

แม้ว่าปรากฎการณ์เหล่านี้ บางท่านอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติของมันอยู่แล้ว

แต่หากนำสถิติจริงๆ มาเทียบดูจะพบว่า สำหรับปี 2013 นี้ ทุกค่าเกินกว่าระดับปกติ

หากถามหาสาเหตุ ก็ตอบได้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากพายุสุริยะที่มีผลทำให้สนามแม่เหล็กโลกแปรปรวน และสภาพภูมิอากาศแปรปรวน ส่งผลต่อการเกิดเมฆลักษณะแปลกๆ พายุไต้ฝุ่น เฮอร์ริเคน ทอร์นาโด พายุงวงช้าง เกิดแผ่นดินไหวระดับ 4-8 M ปริมาณมากเกินค่าปกติ แถมยังไหวในบริเวณที่ไม่เคยไหวมาก่อน ภูเขาไฟชิงกันปะทุ พ่นลาวาออกมาแข่งกัน ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีลูกใหม่ๆ พ่นะถ้าถ่านมาทำลายบรรยากาศโลกอีกกี่ลูก ไม่นับรวมปลาพญานาค (หรือปลาออร์) ที่โผล่ขึ้นมาตาย 3 ตัวในเวลา 2 สัปดาห์ (13, 21, 29 ตค 2013)

นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ

ซากออร์ฟิชยาว 5.5 เมตรที่ลอยอยู่ห่างจากชายฝั่งขึ้นมา เมื่อ 13 ต.ค.2013 (เอพี/สถาบันทางทะเลคาทาไลนาไอส์แลนด์)

Clue 5

เมื่อมีเว็บไซค์ที่ (เชื่อว่าเป็น) ของนาซ่าออกมาประกาศว่า จะมีการประกาศถึง “การค้นพบครั้งใหญ่ (Major Discovery)” ที่จะถึงขั้นสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งโลก (Shake the World)” ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2013 (RememberThe13th.com)

(ปล หลายสำนักบอกว่า อเมริกาท่าจะหาเหตุก่อการร้ายประเทศตัวเอง เป็น drill แบบ บอร์มเวิร์ลเทรด บอสตันมาราธอน และอื่นๆ เพื่อ End Game ระบบเศรษฐกิจ ไม่ต้องใช้หนี้ เริ่มต้นใหม่)

และที่ผิดสังเกตุเอามากๆ คือ ไม่ได้เป็นเว็บไซต์ทางการของนาซ่า ออกมาประกาศแปลกๆ แบบนี้ เอ๊ะมันยังไงกัน

ซึ่งทำไมมันถึงได้เป็นวันเดียวกับการประกาศซ้อมรับมือไฟดับระดับประเทศ (อเมริกา-แคนาดา-เม็กซิโก) GridEx II ที่มีบริษัท ห้างร้าน เอกชน เข้าร่วมกว่า 150 แห่ง ในวันที่ 13-14 พย 2013 นี้ เพราะถ้าพายุสุริยะมาทำให้ไฟดับทั้งประเทศจริง ความเร็วในการแก้ไขให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้คือ ตั้งแต่ 4 เดือนจนถึง 10 ปี (แงๆ เข้าเน็ตไม่ได้ วันเดียวก็แย่แว้วว)

อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น

ลองดูโลโก้งานนี้สิคะ มีพายุสุริยะด้วยค่ะ น่าสนใจจริงๆ

Clue 6

ดาวหาง ISON

ใครๆ ก็ทราบว่า การเข้ามาของดาวหางจะเกิดผลกระทบมากมายต่อโลกขนาดไหน ยิ่งเป็น ISON ที่ลึกลับ (ทางด้านภาพถ่ายขนาดใกล้) และกำลังเดินทางมาเฉี่ยวโลกให้เลื่องลือ (วันที่ 28 พย. ถึงดวงอาทิตย์ ใกล้โลก 26-27 ธันวาคม และโลกจะวิ่งผ่านเส้นทางโคจรขากลับของดาวหางดวงนี้ในวันที่ 14-15 มกราคม 2014 ปีหน้า) จนถึงตอนนี้ ก็หวั่นกันว่า มันจะมาเพิ่มน้ำให้โลก (แบบที่มันไปเติมน้ำให้ดาวอังคาร) หรือว่ามันจะมาทำให้โลกยิ่งร้อนแห้งแล้ง (เพราะหลังผ่านดวงอาทิตย์มันจะแปลงจากน้ำแข็งเป็นลูกไฟแทน) ก็จับตากันต่อไป

(นี่ไม่รวมข่าวลือหนาหูว่า ISON คือยานบินขนาดใหญ่ที่กำลังจะมาเปิดตัวเพื่อนต่างดาวหลายเผ่าพันธุ์ให้มนุษย์โลกรู้จัก ที่เป็นกระแสมากมายในอินเตอร์เน็ตและยูทู้ปขณะนี้)

ยังมีดาวหาง 2P/Encke อีกดวงทีจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ในวันที่ 21 พย. นี้

Clue 7

เป็นความน่าสงสัยสุดท้ายในช่วงเดือนตุลาคมนี้ค่ะ

ที่อยู่ดีดี ญี่ปุ่นก็ประกาศว่าจะย้ายแท่งเชื้อเพลิงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่โรง 4 (มีอยู่ 1,300 แท่ง) (ที่โรง 3 มี 6,500 แท่ง รวมแล้วทุกโรงจะมีประมาณ 11421 แท่ง) จากกำหนดการเดิมว่าจะใช้เวลาย้าย 10 ปี ไปเป็นแค่ 1 ปี และจะเริ่มทำในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2013 ....

ก็น่าสงสัยว่า ญี่ปุ่นกลัวอะไร ทำไมจึงต้องบีบกำหนดการให้มันเร็วกว่าเดิม

เว็บไซต์นี้บอกผลกระทบว่าถ้าใช้เครนยกแล้วกระทบกัน จะเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบลูกโซ่ (Chain reaction) ได้รุนแรงขนาดไหน (คลิกอ่านที่นี่)

การตรงกันในลักษณะแบบนี้ มันก็น่าจับตา (และเตรียมพร้อม) นะคะ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2013
สรุปเหตการณ์

- Cyber Attack

- พายุสุริยะ

- การค้นพบครั้งใหญ่ของนาซ่า (RememberThe13th.com) 13 พ.ย. 2013

- GirdEx II 13-14 พ.ย. 2013

- ดาวหาง ISON 28 พ.ย. 2013

- การเคลื่อนย้ายแท่งเชื้อเพลงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่ญีุ่ปุ่น 8 พย.2013

การปิด-Shutdown ดับเครื่อง การเร่งมือ เร่งรีบต่างๆ ของมหาอำนาจในโลก ทำให้เราอาจจะประเมินเบื้องต้นได้ว่า พวกเค้ากำลังเตรียมตัวรับมือกับภัยจากพายุสุริยะ (หรืออาจจะเรื่องอื่นๆ) ด้วยการปิดอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ ไฟฟ้า สถานีไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ไหม้ ช๊อร์ต ดับ ระบบล่มกันทั้งประเทศก็ได้

เพราะถ้าปล่อยให้เกิด ลองคิดสิคะว่าจะจราจลกันขนาดไหน (เค้าจึงต้องเตรียมกองทัพ เตรียมบังเกอร์ช่วยคนที่อาจจะหนีจากความรุนแรง)

ถ้าเกิดอะไรขึ้นรุนแรง มันอาจจะเป็น The Begining of The End ของหมู่มวลมนุษยชาติ บ๊าย บาย ชาวโลก ของแท้ก็ได้

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านค่ะ
Ammy Chumnankit
30-10-13
- ข้อมูลความเคลื่อนไหวแปลกๆของยักษ์ใหญ่อเมริกาเมื่อเดือนกันยายน 2013

-มีการอนุญาติให้กองกำลังต่างชาติเข้ามาทำการในสหรัฐประมาณ 30,000 นาย (ที่แน่ๆทหารรัสเซีย 15,000 นายที่ผ่านการฝึกด้านการบรรเทาภัยพิบัติและควบคุมการจราจลเพื่อไปคุม FEMA area 3 ครอบคลุมรัฐโคลัมเบีย เดลาแวร์ แมรี่แลนด์ (ที่ตั้ง เมืองหลวงวอชิงตันดีซี) เพนซิลเวเนีย เวอร์จิเนีย และเวสต์เวอร์จิเนีย)

- FEMA สั่งซื้ออาหาร MREs และอาหารอุ่นทานได้ $14.2 ล้านเหรียญ, และสั่งซื้อน้ำดื่มฉุกเฉิน 22 ล้านถุง ให้ไปส่ง area 3 ก่อนวันที่ 1 ตค

- FEMA สั่งซื้ออาหาร MREs และอาหารอุ่นทานได้ $13.6 ล้านเหรียญ ให้ไปส่งที่ Austin (Texas) ก่อนวันที่ 1 ตค

- การอบรม 9 สัปดาห์ของหน่วยรักษาความสงบ UN ที่ฐาน CONUS หลักสูตร Urban Warfare, English and US weapon systems เริ่มเดือนกค. ให้กับทหารจำนวน 386,000 นาย ต้องแล้วเสร็จก่อน 1 ตค

- CDC สั่งซื้อยาปฏิชีวนะ antibiotics $11 ล้านเหรียญ ให้ส่งที่ FEMA area 3ก่อนวันที่ 1 ตค

- ทหารอเมริกันถูกสั่งห้ามลา ห้ามออกนอกพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 28 กย – 5 พย 2013

- มีการซ้อมใหญ่ของหน่วยงานที่ประจำชายฝั่งทั้งหมดของอเมริกาในวันที่ 26 กย.2013

- สั่งการให้ โรงเรียน 300 โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมเป้ฉุกเฉินสำหรับอยู่ได้ 3 วัน สำหรับนักเรียนทุกคน

- สั่งการให้ตรวจสอบระบบการข่าวสารเตือนภัย Emergency Broadcasting System ครั้งใหญ่วันที่ 25 กย – 2 ตค 2013

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย dr-ammy

 

พายุสุริยะ มหันตภัยใกล้กว่าที่คิด
โดย Taste 18 กรกฎาคม 2555 15:38 น.



ดูหนังที่เกี่ยวกับพายุสุริยะมาก็หลายเรื่อง
รอดูข่าวทีวีมาก็หลายรอบ แต่ไม่เห็นเกิดอะไรขึ้นเลย คิดว่าหลายคนคงมีความรู้สึก “เฉยๆ” กับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นที่อาจไม่มีอะไรมากนอกเสียจากภาพท้องฟ้าสวยๆ ที่ส่องประกายออร่าแสงเขียว ที่เรียกกันว่า “แสงเหนือใต้” โบกสะบัด หรือภาพพระอาทิตย์พิโรธเหมือนลูกบอลโดนราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผาลุกกลางอวกาศ

เราเปิดนิตยสาร National Geographic ฉบับเดือนกรกฏาคม พบข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการจนอยากเอามาเล่าสู่กันฟัง อาจจะเพราะหน้าปกที่โคลสอัพดวงอาทิตย์ที่เกิดพายุสุริยะ กับ ตัวหนังสือตัวโตพาด “มหาพายุสุริยะ มหันตภัยใกล้ตัวกว่าที่คุณคาดคิด” ที่ทำให้เราสะดุดตาก็เป็นได้

พายุสุริยะ คือ กระแสของอนุภาคพลังงานสูงที่พัดมาจากดวงอาทิตย์ด้วยปริมาณและความเร็วสูงกว่าระดับปกติ อนุภาคนี้มีทั้งอิเล็กตรอนและโปรตอน เป็นตัวการทำให้เกิดแสงเหนือใต้ และพายุแม่เหล็ก ซึ่งส่งผลต่อดาวเทียม ยานอวกาศ และระบบสายส่งบนโลก ปกติพายุสุริยะจะไม่ส่งผลโดยตรงต่อโลกและสิ่งมีชีวิตบนโลก เนื่องจากโลกมีบรรยากาศและสนามแม่เหล็กคุ้มกัน มีเพียงนักบินอวกาศที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในอวกาศเท่านั้นที่อาจได้รับอันตรายทั้งจากพายุสุริยะและรังสีจากดวงอาทิตย์

ในอดีตพายุสุริยะเคยสำแดงฤทธิ์เดชให้เห็นแล้วหลายครั้ง เช่น ใน ปี 1859 พายุสุริยะทำให้สายโทรเลขลัดวงจรจนทำให้เกิดเพลิงไหม้หลายแห่งในยุโรปและอเมริกา และ ปี 1989 พายุสุริยะก็เคยทำให้หม้อแปลงของไฟฟ้าระเบิดจนทำให้ไฟดับทั่วทั้งควิเบกของแคนาดามาแล้ว นอกจากนี้ดาวเทียมและยานอวกาศที่อยู่ในอวกาศก็อาจเสียหายจากพายุสุริยะได้ ในอดีตเคยมีดาวเทียมหลายดวงเสียหายจากเหตุการณ์นี้มาแล้ว เนื่องจากปัจจุบันชีวิตประจำวันของผู้คนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีอวกาศมาก ทั้งโทรศัพท์ โทรทัศน์ การกระจายเสียงวิทยุ ระบบบอกพิกัด ฯลฯ ดังนั้นหากมีพายุสุริยะมาทำให้ดาวเทียมเหล่านี้เสียหายไป ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างแน่นอน

คาร์ล ไชรเวอร์ นักดาราศาสตร์ในแคลิฟอร์เนีย ยอมรับว่า เราสามารถพยากรณ์ว่าดวงอาทิตย์จะทำอะไรล่วงหน้าได้เพียงไม่กี่วัน ดวงอาทิตย์ประกอบด้วยพลาสมา เมื่ออะตอมแตกตัวกลายเป็นโปรตอนกับอิเล็กตรอนอิสระ อนุภาคมีประจุเหล่านี้ทำให้พลาสมากลายเป็นตัวนำไฟฟ้าชั้นเยี่ยม นอกจากนี้ ดวงอาทิตย์ยังเต็มไปด้วยสนามแม่เหล็กที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นผิว แต่บางครั้งก็เผยตัวออกมาเป็นท่อที่มีขนาดใหญ่กว่าความกว้างของโลก และเป็นต้นเหตุของพลังลมสุริยะที่พ่นพลาสมาวินาทีละ 1 ล้านตันออกมาด้วยความเร็ว 700 กิโลเมตรต่อวินาที

ดังนั้น ดวงอาทิตย์จึงเป็นเสมือนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดมหึมา เส้นสนามแม่เหล็กที่โอบรอบจากขั้วสู่ขั้ว เส้นสนามแม่เหล็กย่อยที่พัวพันกับพลาสมาในเขตความร้อนมักบิดและงอจนทะลุพื้นผิวขึ้นมาให้เห็นเป็นบ่วงพลาสมาอันร้อนแรงเจิดจ้า เมื่อสองบ่วงชนกันอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและนำไปสู่ระเบิดครั้งใหญ่รุนแรงเท่าระเบิด TNT หลายร้อยล้านเมกะตัน

ปรากฏการณ์พายุสุริยะที่คาร์ริงตันเมื่อปี 1859 เกิดอนุภาคที่มีประจุพุ่งเข้าสู่บรรยากาศโลกชั้นบน ก่อให้เกิดแสงเหนือใต้เข้มข้นที่เห็นได้เกือบทั้งโลก บางคนถึงกับคิดว่ากำลังเกิดอัคคีภัยลุกใหม้ทั่วทั้งเมือง! เหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นการระเบิดที่รุนแรงครั้งหนึ่งในรอบหลายศตวรรษ เมื่อมนุษย์ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีที่ติดตั้งไว้ในอวกาศมากขึ้นเรื่อยๆ พายุสุริยะจึงสร้างความเสียหายได้อย่างใหญ่หลวง

1) เมื่อภูมิอากาศขัดข้อง มีผลให้นักบินเที่ยวพาณิชย์ที่ในแต่ละปีต้องบินผ่านขั้วโลกเหนือกว่า 11,000 เที่ยวเกิดขัดข้องเนื่องจากวิทยุคลื่นสั้นที่ใช้ในการสื่อสารถูกรบกวน นักบินต้องเปลี่ยนเส้นทางบิน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึงเที่ยวละ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ
2) ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ที่ปั่นป่วนจะรบกวนสัญญาณจีพีเอส ส่งผลให้การกำหนดพิกัดอาจผิดพลาดได้มากถึง 50 เมตร แท่นขุดเจาะน้ำมันลอยน้ำจะปรับตำแหน่งให้อยู่กับที่ได้ยากและนักบินยังไม่สามารถพึ่งพาระบบจีพีเอสที่ใช้ตามสนามบินต่างๆ ที่ใช้ในการลงจอดได้
3) การลุกจ้าของดวงอาทิตย์ยังรบกวนวงโคจรดาวเทียมด้วยการทำให้บรรยากาศร้อนขึ้นซึ่งจะเป็นการเพิ่มแรงดัน นาซาบอกว่าสถานีอวกาศนานาชาติลดระดับลงวันละ 300 เมตร นอกจากนี้พายุสุริยะยังอาจทำลายระบบอิเล็กทรอนิกส์ในดาวเทียมสื่อสารที่ลอยคว้างไปในวงโคจรจนใช้การไม่ได้

4) หม้อแปลงขนาดใหญ่มักต่อสายดินลงพื้นโลกโดยตรง พายุสุริยะจึงอาจเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้าแปลงร้อนจัดจนลุกเป็นไฟหรือระเบิดได้ ความเสียหายรุนแรงถึงขั้นหายนะ จากพายุสุริยะที่เกิดขึ้นเมื่อปี 1921 หากเกิดขึ้นวันนี้จะทำให้ไฟฟ้าในทวีปอเมริกาเหนือดับไปกว่าครึ่ง คนหลายร้อยล้านต้องกลับไปใช้ชีวิตเหมือนสมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นเวลาหลายสัปดาห์หรืออาจจะหลายเดือน

ดังนั้น นักวิจัยจึงมุ่งพยากรณ์ความรุนแรงของพายุสุริยะและเวลาที่น่าจะมาถึง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ระบบต่างๆ ที่อาจได้รับความเสียหาย ล่าสุดได้เริ่มใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ชื่อ “เอ็นลิล” ที่สามารถทำนายเวลาได้ช้าเร็วไม่เกิน 6 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อ 8 มีนาคมที่ผ่านมา เอ็นลิลพยากรณ์ว่าพายุอาจมีขนาดใหญ่เกิดขึ้น ปรากฏว่าคลาดเคลื่อนไปเพียง 45 นาทีเท่านั้น พายุคราวนั้นเป็นแค่สายลมแผ่วๆ แต่คราวหน้าเราอาจไม่โชคดีอย่างนั้นอีก

 

10 ปรากฎการณ์ประหลาด ผลกระทบวิกฤต "โลกร้อน!"
ที่มาข้อมูลจาก 10 ปรากฎการณ์ประหลาด ผลกระทบวิกฤต "โลกร้อน!" | Yenta4 Webboard

แอมมี่เพิ่มเติมในส่วนของความคิดเห็นอีกแนวนึง เพื่อนำเสนอข้อมูลใหม่ๆ กับความเชื่อแปลกๆจ้า .... ทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกันนะจ๊ะ และหาข้อมูลเพิ่มเติมหากอยากรู้เรื่องราวมากขึ้นค่ะ ^^

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภัย "โลกร้อน" ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน อาทิ อากาศร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หรือระดับน้ำทะเลโลกสูงขึ้นเท่านั้น แต่ปัจจุบันยังเป็นต้นเหตุของปรากฎการณ์แปลกๆ มากมาย ซึ่งเกี่ยวพันกับการหายสาบสูญของทะเลสาบ โรคภูมิแพ้โดยไม่ทราบสาเหตุ วิถีโคจรของดาวเทียมในอวกาศ ฯลฯ!

1. สารภูมิแพ้แพร่ระบาด
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เกิดปรากฎการณ์ประหลาดขึ้นทุกๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ

นั่นคือ ประชาชนไอ จาม ป็นภูมิแพ้ และหอบหืดกันง่ายขึ้นและบ่อยขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ

จากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปกับสภาพมลพิษในอากาศ เป็นสาเหตุสำคัญของอาการดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยใหม่ๆ ชี้ให้เห็นว่า วิกฤตอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นและมีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมากขึ้น คือต้นเหตุทำให้พืชพรรณต่างๆ ผลิใบเร็วกว่าเดิม ขณะเดียวกันปริมาณละอองเกสรที่ฟุ้งกระจายไปตามอากาศก็มากขึ้นเช่นกัน

คนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืดเมื่อสูดละอองเหล่านี้เข้าไปมากๆ อาการจึงกำเริบง่าย

note: จริงด้วยค่ะ ตอนอยู่ที่ชิคาโกเมื่อสองสามปีก่อน (แอมมี่ใช้ชีวิตที่ชิคาโก 10 ปีค่ะ ก่อนกลับไทย) พอเข้าหน้า spring ต่อ summer ประมาณสามปีก่อนกลับไทย ก็จะต้องซื้อยาภูมิแพ้มาทานตลอดทั้งเดือน เพราะจะจามตลอดเวลา ตอนแรกเข้าใจว่า แพ้เกสรดอกไม้ที่ปลิวกระจายเต็มอากาศ บางช่วงมีมากทั้งวัน จนไม่อยากอยู่นอกบ้าน

กระแสความเชื่อนึงช่วงนี้ เล่ากันลับๆว่า รัฐบาลอเมริกันส่งเครื่องบินไปปล่อยสารเคมีบนอากาศ (ที่เรียกกันว่า Chemtrails) เพื่อหลายวัตถุประสงค์

http://3.bp.blogspot.com/_T1pQraqz0L0/ShbQkXh1HSI/AAAAAAAAACk/WYNOnc7AOJU/s400/chemtrails.jpg http://www.truthnews.com.au/storage/images/chemtrails.jpg

1) ปิดข้อมูลเรื่องที่ว่าจะมีดวงอาทิตย์ดวงที่ 2 เดินทางโคจรเข้ามาใกล้โลก และอาจจะเฉียดโลกในปี 2012 (หลายท่านเชื่อว่า คือดวงที่นาซ่าตั้งชื่อว่า นีมีซิส nimeses คนส่วนใหญ่เรียก Nibiru หรือ Planet X) ซึ่งเชื่อว่า ส่งผลต่อภัยธรรมชาติหลากหลายที่เกิดขึ้น และทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (เพราะดวงอาทิตย์ถึง 2 ดวง ย่อมร้อนกว่าดวงเดียว)

นักจับผิดรัฐบาลบางท่าน ถ่ายวีดิโอสังเกตว่า เครื่องบินจะบินปล่อย chemtrails หลายเส้นเพื่อบดบังไม่ให้ผู้คนเห็นดวงอาทิตย์ดวงที่สอง ในช่วงเช้าและก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หลายท่านบอกว่า สามารถถ่ายภาพได้แล้วด้วย (สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้จาก youtube )

คนที่เชื่อเรื่องนี้ กล่าวว่า เพราะรัฐบาลอเมริกันไม่อยากให้คนแตกตื่น เลยไม่เปิดเผยข้อเท็จจริง และปิดบังด้วยการปล่อยสารเคมีไปบังท้องฟ้าดีกว่า พอคนส่วนใหญ่ไม่เห็นก็จะไ่ม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่พอฝนตก สารเคมีพวกนี้ก็จะตกลงมาสู่พื้นดิน ทำให้ประชาชนทั่วไป อาจจะเกิดอาการแพ้เวลาหายใจเอาไอของสารเคมีเหล่านั้นเข้าไป

Chemtrails มีส่วนประกอบของสาร Ethylene Dibromide (a chemical pesticide, carcinogen and chemical toxin) สาร Aluminum (a metal associated with Alzheimer's Disease) และสาร Barium (a radioactive substance)

2) ความเชื่อนี้ extreme เหลือเชื่อสุดๆ เพราะโยงเข้าไว้กับเรื่องขบวนการรวมอำนาจโลกไว้ในมือกลุ่มคนกลุ่มเีดียวที่เรียกว่า New World Order (การจัดระเบียบโลกใหม่) สารเคมีนั้น ตั้งใจจะวางยาให้คนอเมริกันไม่มีความคิดต่อต้าน เหมือนกับที่หลายคนเชื่อว่า ที่จริงไม่มีโรคไข้หวัด 2009 เกิดขึ้นจริงหรอกค่ะ แต่คือการสร้างสถานการณ์เพื่อให้คนเกิดความหวาดกลัวและยอมฉีดวัคซีน (ซึ่งผลิตโดยขบวนการ NWO นั่นแหละ) และคนบ้าฉีดกันทั้งโลก ฉีดแล้วก็อาจจะโดนควบคุมง่ายขึ้นมั๊ง ประมาณโดนคนบงการสั่งให้ทำอะไรก็จะเชื่อตามค่ะ เช่นเดียวกับเรื่องการฝังชิป RFID เข้าไปไว้ในตัวมนุษย์ (ที่มือระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ค่ะ)

http://images.quickblogcast.com/9/4...logs/photos/uncategorized/2007/08/01/rfid.jpg

2 สัตว์อพยพไร้ที่อยู่
ผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน ทำให้สัตว์บางชนิด เช่น กระรอก ตัวชิปมังก์ หรือแม้กระทั่งหนู ต้องอพยพหนีขึ้นไปอยู่บนที่สูงขึ้น

สัตว์ที่กำลังเผชิญปัญหาใหญ่ ได้แก่ "หมีขั้วโลก" ที่ในอนาคตอาจมีชีวิตอยู่ในถิ่นฐานเดิมแถบอาร์กติก ขั้วโลกเหนือไม่ได้ เนื่องจากธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว

3 "พืช"ขั้วโลกคืนชีพ
ช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ผลจากภาวะน้ำแข็งขั้วโลกละลายเพราะโลกร้อน ส่งผลต่อการดำรงอยู่ของพืชและสัตว์จำนวนมาก ตามปกติ พืชแถบอาร์กติกจะถูกปกคลุมอยู่ในน้ำแข็งตลอดทั้งปี

แต่ปัจจุบัน เมื่อน้ำแข็งละลายมากขึ้นเรื่อย โดยเฉพาะในช่วงก่อนฤดูใบไม้ผลิต จึงทำให้พืชที่เคยถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งกลายเป็นอิสระ สามารถเริ่มกระบวนการสังเคราะห์แสงและกลับมาเติบโตขึ้นอีกครั้ง

กลายเป็นอีก 1 ปรากฎการณ์ใหม่ของพื้นที่ขั้วโลกเหนือ

4 ทะเลสาบหายสาบสูญ

เรื่องประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นในเขตอาร์กติก หรือ ขั้วโลกเหนือยังไม่หมดแค่นั้น

มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า ในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา "ทะเลสาบ" ประมาณ 125 แห่งได้หายสาบสูญไปจากเขตอาร์กติก เป็นสัญญาณหนึ่งที่ช่วยให้เห็นว่า ภัยโลกร้อนส่งผลกระทบเร็วมากต่อสภาพแวดล้อมแถบขั้วโลก

สาเหตุที่ทะเลสาบหายไปก็เพราะ "เพอร์มาฟรอส" ที่เป็นน้ำแข็งแข็งตัวอยู่ใต้พื้นทะเลสาบนั้นละลายหมดสิ้นไป ดังนั้น น้ำในทะเลสาบจึงซึมเข้าสู่พื้นดินข้างใต้ได้ เหมือนกับเวลาเราดึงจุกปิดน้ำออกจ���กอ่างอาบน้ำแล้วน้ำจึงไหลหมดไปจากอ่าง นั่นเอง

นอกจากนี้ การที่ทะเลสาบขั้วโลกหายวับไป ยังส่งผลลูกโซ่ปั่นป่วนไปถึงระบบนิเวศในพื้นที่ที่พึ่งพิงน้ำจากทะเลสาบอีก ด้วย

5 น้ำแข็งใต้พื้นโลกละลาย

ภาวะโลกร้อนไม่ได้เพียงแค่ทำให้ธารน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างต่อเนื่อง เท่านั้น

แต่ยังส่งผลให้ชั้นน้ำแข็งถาวรที่มีอยู่ใต้พื้นผิวโลกค่อยๆ ละลายลดปริมาณลงไปเช่นกัน

ผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นตามมาในอนาคตก็คือ จุดใต้พื้นโลก ซึ่งเคยเป็นน้ำแข็งหายไปจนเกิดเป็น "รูรั่ว" ใต้ดินขึ้นมา

เมื่อเป็นเช่นนี้สภาพทางภูมิศาสตร์ในพื้นที่ย่อมเปลี่ยนไป

สิ่งปลูกสร้าง หรือ สิ่งก่อสร้างของมนุษย์ เช่น ทางรถไฟ ถนน บ้านเรือน ฯลฯ ซึ่งตั้งอยู่เหนือจุดดังกล่าวมีโอกาสได้รับความเสียหายตามไปด้วย

ถ้าปรากฎการณ์น้ำแข็งละลายเกิดขึ้นบนที่สูง เช่น ภูเขา จะก่อให้เกิดภัยธรรมชาติตามมา อาทิ หินถล่มและโคลนถล่ม เป็นต้น

note เรื่องนี้อาจจะเป็นสาเหตุของธรณียุบ (Sinkhole) ที่กัวเตมาลา และหลายจุดทั่วโลก

http://cellar.org/2007/guatsinkhole1.jpg

6 ชนวนเกิดไฟป่า
นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยืนยันตรงกัน ทั่วโลกว่า ภัยโลกร้อนเป็นสาเหตุให้ธารน้ำแข็งละลายและพายุก่อตัวบ่อยและรุนแรงขึ้นกว่าในอดีต

ยิ่งไปกว่านั้น ภาวะโลกร้อนยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิด "ไฟป่า" ได้ง่ายขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก

และชาติเมืองหนาวในซีกโลกตะวันตก ซึ่งตามปกติไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องไฟป่า ก็เริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงนี้กันแล้ว

เหตุเพราะสภาพป่าแห้งกว่าเดิม จึงเป็นเชื้อไฟอย่างดี

7 ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นถึงอยู่รอด

โลกร้อนส่งผลให้หน้าหนาวหดสั้นลง และหน้าร้อนมาถึงเร็วขึ้น

บรรดา "นกอพยพ" หลายสายพันธุ์ต่างมึนงง ปรับ "นาฬิกาชีวภาพ" ในตัวของมันให้เข้ากับสภาพความผันแปรของฤดูกาลที่บิดเบี้ยวไปไม่ทัน

สัตว์ที่จะเอาชีวิตรอดจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวนในทุกวันนี้ได้ต้องเป็นสาย พันธุ์ที่แข็งแรงที่สุดเท่านั้น

ในที่สุดสัตว์ที่อยู่รอดจะต้อง "กลายพันธุ์" หรือปรับพันธุกรรมในตัวมันเสียใหม่ เพื่อรับมือภัยโลกร้อนให้ได้ และมีสัตว์หลายชนิดกำลังวิวัฒนาการตัวเองเช่นนั้นอยู่

8 ดาวเทียมโคจรเร็วกว่าเดิม
การปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์จากโรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้าถ่านหิน ยวดยานพาหนะ ฯลฯ คือ ตัวการสำคัญของวิกฤตโลกร้อน

ล่าสุดพบว่า เจ้าก๊าซตัวเดียวกันนี้เองที่ขึ้นไปสะสมมากขึ้นในชั้นบรรยากาศโลก ได้กลายเป็นต้นเหตุทำให้ "ดาวเทียม" ที่อยู่ในวงโคจรโลกเคลื่อนที่เร็วกว่าเดิม

ตามปกติ อากาศในบรรยากาศชั้นนอกสุดของโลกจะเบาบาง แต่โมเลกุลของอากาศจะยังคงมีแรงดึงดูดมากพอในการทำให้ดาวเทียมโคจรช้าๆ ดังนั้น เราอาจเคยได้ยินข่าวกันมาบ้างว่า ผู้ควบคุมต้องจึดระเบิดดาวเทียมเป็นระยะๆ เพื่อให้ดาวเทียมโคจรต่อไปอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม เมื่อคาร์บอนไดออกไซด์ลอยไปสะสมในบรรยากาศชั้นล่างมากไป จะทำแรงดึงดูดของบรรยากาศชั้นนอกสุดลดกำลังลง ดาวเทียมจึงโคจรเร็วกว่าปกติ

9 ภูเขากระเด้งตัวเหนือพื้นโลก
ภูเขาและเทือกเขาสูง หลายแห่งทั่วโลกกำลังขยายตัว "สูง" ขึ้น เพราะผลจากโลกร้อน!

นั่นเป็นเพราะ ตามธรรมชาติที่ผ่านๆ มานับพันปี ยอดภูเขาในเขตหนาวเย็นโดยทั่วไปจะมี "น้ำแข็ง" ปกคลุมอยู่ ทำหน้าที่เป็นเหมือนกับตุ้มน้ำหนักที่คอยกดทับให้ฐานล่างของภูเขาทรุดต่ำลง ไปใต้พื้นผิว

เมื่อน้ำแข็งบนยอดเขามลายสูญสิ้นไป ส่วนฐานล่างที่เคยถูกกดจมดินลงไปจะค่อยๆ กระเด้งคืนตัวกลับมาเหนือผิวโลกอีกครั้ง

10 โบราณสถานเสียหาย
โบราณสถาน เมืองเก่าแก่ ซากปรักหักพังทางประวัติศาสตร์ ฯลฯ อันเป็นสิ่งแสดงถึงวัฒนธรรมอันรุ่งเรื่องของมนุษย์ในอดีตได้รับผลกระทบจาก โลกร้อน

เหตุเพราะโลกร้อนทำให้อากาศทั่วโลกแปรปรวน ทั้งเกิดพายุ น้ำท่วม ภัยแล้ง ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง และล้วนแต่ยิ่งสร้างความเสียหายให้กับมรดกตกทอดทางประวัติศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งมีสภาพทรุดโทรมอยู่แล้ว

โบราณสถานอายุ 600 ปีในจังหวัดสุโขทัยของประเทศไทยเรา ก็เคยเสียหายอย่างหนักเพราะภัยน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งเป็นผลจากภัยโลกร้อน มาแล้วเช่นกัน

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย dr-ammy

· คำสำคัญ: 10 ปรากฎการณ์ประหลาด ผลกระทบวิกฤต โลกร้อน!

10 ปรากฎการณ์ประหลาด ผลกระทบวิกฤต "โลกร้อน!" - GotoKnow

 

ปลาแผ่นดินไหว เมาทะเลมาติดเบ็ด กินแล้วจะนำโชคดีมาให้คิดแบบชาวประมง
หรือคนเขียนข่าวกุขึ้นมาเอง ไม่ยอมคิดนอกกรอบกันเลยนะมนุษย์

ปลาใต้ทะเลลึกถึง 2,000 เมตรเมาหมัดมาติดเบ็ด นั่นมันเป็น"โชคร้าย"
ของพวกสัตว์น้ำทั้งหลาย และเป็น"ลางร้าย"ของพวกมนุษย์ทั้งหลายต่างหาก

 

SolarHam.com



A major solar flare exceeding X2.0+ remains in progress. A strong R3 level radio blackout is currently in progress. More to follow.

Piyacheep S.Vatcharobol ได้แชร์ รูปภาพ ของ SolarHam.com

ความรุนแรงของปฏิกิริยาดวงอาทิตย์เกิดอีกครั้งเช้านี้ เวลา ๐๕.๕๕ น.
ที่ X 2.3 ที่จุดดับ ๑๘๗๕ และแนวโน้นการเกิด X Class ยังสูงที่ ๓๐%
จากประสบการณ์ที่ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น สอนชี้แนะมา พบว่าการระเบิดด้านข้าง
โดยเฉพาะทางทิศตะวันตก ให้ผลกระทบที่รุนแรงโดยตรงต่อโลกมากกว่าตรงกลาง

การรายงานผลทางการระบุแค่การรบกวนการสื่อสารระดับ R 3 จากสุงสุด R 5 ไม่พบการรายงานคาดการณ์พายุสนามแม่เหล็กไฟฟ้า พายุกัมมันตภาพรังสี แต่จากระดับการระเบิด วัดความแรงจากแสงเดินทางถึงโลกนาที่ที่ ๘ และนาที่ที่ ๑๕ การรบกวนสูงถึง R 3 นั้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อมวลพลังงานมาถึงโลก ผลกระทบย่อมรุนแรงกว่าวันที่ ๒๘-๒๙ ที่ผ่านมา ที่ M และ X ถึงโลก ที่ทำให้เกิดพายุกัมมันภาพรังสีในช่วงสั้นระดับ S 1 และ S 2

ดังนั้น ระหว่างวันนี้ถึง ๓ พฤศจิกายน ความรุนแรงของภูมิอากาศโลก แผ่นดินไหว น่าจะมากกว่า ๗ ริคเตอร์ขึ้นไป เพราะอิทธิพลของดาวเรียงตัวเกิดหลายระนาบ และดาวหางไอซอนที่เหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กจากดาวอังคาร ทำให้เกิดSpaceQuake แม้นจะไม่รุนแรงเท่าดวงอาทิตย์ แต่มีผลต่อภูมิอวกาศ โดยเฉพาะโลกที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าดาวอังคาร
อุณหภูมิ ความร้อน และความสว่างของดาวพุธ ดาวศุกร์เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมมาก หมายความว่า ดาวพุธ ดาวศุกร์ รับพลังงานจากดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้น เมื่อดาวพุธกับดาวศุกร์รับความร้อย รับไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้น
ทำไมรายงานต่างๆทางการของ NASA NOAA ESA JIMA ถึงดูปกติ
ในขณะที่ข้อมูลจากนักวิชาการในสถาบันการศึกษาที่คิดนอกกรอบ
และนักวิชาอิสระ ต่างวิเคราะห์ข้อมูลได้อีกแบบหนึ่ง?

ดวงอาทิตย์ กำลังสลับขั้วสนามแม่เหล็กอยู่นะครับ
ขั้วสนามแม่เหล็กบวกและลบ แยกออกเป็น ๔ ขั้วอยู่ในขนาดนี้
ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการในเดือนธันวาคมนี้
และกลับเป็น ๒ ขั้วตามปกติ ในขณะที่เหตุการณืการสลับขั้ว
ของสนามแม่เหล็กโลกก็กำลังเกิดพร้อมๆกับปรากฏการณ์นี้
ที่คาดว่าจะเกิดการสลับขั้วพร้อมๆกับดาวอาทิตย์

ผลกระทบต่อโลกง่ายๆแบบเด็กที่ไม่มีใครเถียงได้ว่า
มหาพิบัติภัยจะเกิดอะไรบ้าง? แรงขนาดไหนบ้าง? เราไม่ว่ากัน
เพราะที่แน่ๆ ระหว่างการสลับขั้วขั้นสุดท้ายนั้น
สนามแม่เหล็กโลกที่เป็นเกราะกันอันตรายให้กับโลกจะบางลง
หรือไม่มีเลย อันมีผลให้พลังงานสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ
ความร้อนจากดวงอาทิตย์เข้าสู่โลกได้อย่างง่ายดาย
และแน่นอน เป็นความร้อนสูง ปัญหานี้คงไม่มีใครเถียงใครแย้งนะครับ
Ella Kalouch
A major solar flare exceeding X2.0+ remains in progress. A strong R3 level radio blackout is currently in progress. More to follow.

A major solar flare exceeding X2.0+ remains in progress. A strong R3 level radio blackout is currently in progress. More to follow.

รูปภาพ : A major solar flare exceeding X2.0+ remains in progress. A strong R3 level radio blackout is currently in progress. More to follow..

Piyacheep S.Vatcharobol จุดดับที่ ๑๘๗๕ ที่ยังไม่วนลับไปดี ยังมีพลังงานระดับปล่อย X Class ได้อีก

ในขนาดที่จุดดับ ๑๘๘๒ ยังสามารถปล่อย X Class ได้อีก อย่างน้อย ๑๕ วัน และ...

จุดดับที่ ๑๘๘๔ สามารถปล่อย X Class ได้อีก ๒๐ วัน

สรุปคร่าวๆ ณ วันนี้ว่า หากไม่มีจุดดับเกิดใหม่ แรงขึ้น จุดดับที่มีค้างอยู่ ๑๘๘๒ และ ๑๘๘๔ สามารถปล่อย X Class ได้ถึงวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน

Solar_Region_Summary: 2013 Oct 28
# Region Location Sunspot Characteristics
# Helio Spot Spot Mag.
# Num Lat.,CMD Long. Area Extent class count class
1873 N13W0* 57 10 1 HRX 1 A
1875 N06W78 30 770 13 EKC 15 BGD
1877 S12W56 8 230 5 DAI 13 BG
1879 S12W41 353 70 4 DAO 6 B
1881 S22W20 332 10 2 BXO 3 B
1882 S08E21 291 330 8 DKC 24 BGD
1883 N04E45 267 40 2 CSO 3 B
1884 S14E53 259 130 8 DAO 10 BGD
1885 S17E49 262 170 3 HSX 1 A

 

Kaokala Fc
5 ชั่วโมงที่แล้ว
29 ต.ค. ดวงอาทิตย์ปะทุรุนแรงระดับ X ต่อเนื่อง

นาซาเผยภาพการลุกจ้าเมื่อวันที่ 28 ต.ค.จากจุดมืด AR1875 (ขวา) โดยกล้อง SDO (NASA/SDO)

เป็นไปตามที่คาดเมื่อเข้าสู่ปี 2013 ดวงอาทิตย์ของเราก็กลับมาตื่นตัวอีกครั้ง ทำให้เกิดการ “ลุกจ้า” ถี่ขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น และในช่วงเวลาไม่กี่วันนี้ดาวฤกษ์ของเราก็ปะทุรุนแรงระดับ X ซึ่งเป็นระดับรุนแรงที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง แต่นาซาระบุไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก เพียงแต่หากรุนแรงพอก็อาจรบกวนสัญญาณสื่อสารผ่านดาวเทียมและจีพีเอส

สเปซด็อทคอมระบุว่า ในช่วงเวลาแค่ 3 วันดวงอาทิตย์ลุกจ้าถึงระดับ X เป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 28 ต.ค.2013 ที่ผ่านมา โดยจัดให้อยู่ในระดับ X1.0 ซึ่งเป็นการปะทุจากจุดมืด AR1875 และหอดูดาวอวกาศโซลาร์ไดนามิคส์ (Solar Dynamics Observatory: SDO) ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) จับภาพปรากฏการณ์ดังกล่าวได้พอดี

นักดาราศาสตร์แบ่งความรุนแรงของการลุกจ้าบนดวงอาทิตย์เป็น 3 ระดับ - ระดับ C ซึ่งเป็นระดับอ่อนๆ
- ระดับ M เป็นพายุสุริยะที่พลังมากและทำให้เกิดแสงออโรราบนโลกได้ แต่ยังจัดเป็นแค่เหตุการณ์ระดับกลาง
- ระดับ X ซึ่งเป็นระดับรุนแรงสุดที่จะรบกวนการสื่อสารผ่านดาวเทียมและระบบนำทางผ่านดาวเทียม รวมถึงมนุษย์อวกาศในวงโคจรได้ หากการลุกจ้านั้นหันมายังโลกตรงๆ

 

Surviving Earth Changes 2013 and Beyond ได้แชร์ลิงก์ผ่าน Wonka Williams
11 ชั่วโมงที่แล้ว
<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/aaAeoUtA5qg?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

Power Grid Down Drill To Be Conducted By US Government
Written by: Tara Dodrill Alternative Energy August 28, 2013 191 Comments

power grid drill
Power grid vulnerabilities are finally garnering some attention by government officials.
An electrical grid joint drill simulation is being planned in the United States, Canada and Mexico. Thousands of utility workers, FBI agents, anti-terrorism experts, governmental agencies, and more than 150 private businesses are involved in the November power grid drill.
The downed power grid simulation will reportedly focus on both physical and cyber attacks. The antiquated electrical system in the United States has been one of the most neglected pieces of integral infrastructure.
The EMP Commission, created by Congress, released a report in 2008 calling for increased planning and testing, and a stockpiling of needed repair items.
The SHIELD Act, which is stalled in Congress, is the first serious piece of legislation in many years to attempt to address the vulnerabilities of the power grid in. As previously reported by Off The Grid News, a recent American Society of Civil Engineers (ASCE) report gave the power grid a “D+” when grading various pieces of infrastructure and public services in the United States.
The disaster drill is being described as a crisis practice unlike anything the real power grid has ever experienced. The GridEX II drill Nov. 13-14 will focus primarily on how governments will react if the electrical grid fails and, for instance, the food supply chain collapses.
American utility companies are responsible for running approximately 5,800 power plants and about 450,000 high-voltage transmission lines, controlled by various devices which have been put into place over the past decades. Some of the utility companies which oversee the power grid reportedly use “antique computer protocols” which are “probably” safe from cyber hackers,” The New York Times reported.
The Times said experts call the power grid the nation’s “glass jaw.” Even the military gets 99 percent of its power the same way everyday citizens get it – from commercially run companies.
Harness the power of the sun when the power goes out…
“If an adversary lands a knockout blow, [experts] fear, it could black out vast areas of the continent for weeks; interrupt supplies of water, gasoline, diesel fuel and fresh food; shut down communications; and create disruptions of a scale that was only hinted at by Hurricane Sandy and the attacks of Sept. 11,” The Times said.
Former Federal Energy Regulatory Commission chairman Curt Hebert stated that if the nation fails at electricity, “we’re going to fail miserably” at everything else.
Hebert also noted that during prior power grid drills, the scenario assumed the system would be up and running again relatively quickly after an attack. This drill will assume it’s out much longer.
If the power grid fails, a lack of electricity and food delivery are only the first wave of troubles facing the American people. Police could face major problems with civil unrest. Of course, there also would not be any electric heating or cooling, which easily could lead to many deaths depending on the season.
A 2012 report by the National Academy of Science said terrorists could cripple the nation by damaging or destroying hard-to-replace components, some of which aren’t even made in the United States.
“Of particular concern are giant custom-built transformers that increase the voltage of electricity to levels suited for bulk transmission and then reduce voltage for distribution to customers,” The Times said in a summary of the report. “… Replacing them can take many months.”
Said Clark W. Gellings, a researcher at the Electric Power Research Institute, “I don’t think we pay quite enough attention to the technology fixes that would allow us to make the power system more resilient.”

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/fs6wLPA0rew?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

Power Grid Down Drill To Be Conducted By US Government | Off The Grid News