ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โจทย์ท้าทาย กนง. ‘ลด-ไม่ลด’ ดอกเบี้ยวันนี้ | #บทบรรณาธิการกรุงเทพธุรกิจ
    .
    บ่ายสองโมงวันนี้ (10 เม.ย.) น่าจะทราบผลแล้วว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตัดสินใจอย่างไรกับดอกเบี้ยนโยบาย... “ลด” หรือ “ไม่ลด” ซึ่งถ้าถามความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ มองตรงกันว่ายังไงก็ “ต้องลด” เพียงแต่จะลดในการประชุมรอบนี้เลย หรือจะรอรอบหน้า (12 มิ.ย.) เป็นเรื่องที่ กนง. น่าจะหยิบมาพิจารณาในการประชุมวันนี้
    .
    สาเหตุที่ “ต้องลด” เพราะข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงภาวะที่เกือบจะ “ชะงักงัน” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก และเป็นเช่นนี้มาเกินกว่าครึ่งปีแล้ว ขณะที่เงินเฟ้อก็หดตัวลงต่อเนื่องถึง 6 เดือน ตัวเลขล่าสุดเดือนมี.ค.2567 เงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.47% ทำให้กระทรวงพาณิชย์ต้องปรับคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปีของปี 2567 ใหม่เหลือเพียง 0-1% โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 0.5% นั่นหมายความว่า เงินเฟ้อทั้งปีมีโอกาสที่จะต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของแบงก์ชาติที่ 1-3% ค่อนข้างสูง
    .
    ส่วนสาเหตุที่นักเศรษฐศาสตร์อีกกลุ่มประเมินว่า ถ้าจะลดอาจยังไม่ใช่ครั้งนี้ แต่จะเป็นการประชุมในคราวหน้า เพราะเชื่อว่า กนง. คงอยากรอดูตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 2567 แบบชัดๆ ก่อน เพราะตอนนี้แม้จะเชื่อว่าการเติบโตอาจต่ำกว่าคาด แต่ก็เป็นเพียงการประเมินเท่านั้น และที่สำคัญ กนง. คงอยากรอให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) หั่นดอกเบี้ยลงมาก่อนสัก 1 รอบ ไม่เช่นนั้นส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยไทยกับสหรัฐจะยิ่งถ่างจากกันมากขึ้น อาจมีผลต่อเนื่องถึงค่าเงินบาทที่ยิ่งอ่อนค่าลงได้
    .
    ประเด็นที่อยากชวนคิดต่อ คือ ถ้าลดดอกเบี้ยตอนนี้ แล้วทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลง จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร แน่นอนว่าการอ่อนค่าของเงินบาททำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศสูงขึ้น โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าพลังงาน ซึ่งมีผลต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้เช่นกัน
    .
    ส่วนผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศจะมีค่าใช้จ่ายที่แพงขึ้นจากการอ่อนค่าของเงินบาท แต่ในทางตรงกันข้ามเงินบาทที่อ่อนลงมีผลให้การส่งออกเมื่อแปลงกับมาเป็นเงินบาทจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยก็จะมีต้นทุนการท่องเที่ยวที่ลดลง เพราะสามารถแลกเงินบาทได้ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
    .
    แบงก์ชาติคงต้องชั่งน้ำหนักให้ดีระหว่าง “ข้อดี” กับ “ข้อเสีย” ของเงินบาทที่อาจจะอ่อนค่าลงจากการลดดอกเบี้ย แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากๆ แม้แต่นักเศรษฐศาสตร์ยังมีความเห็นตรงกัน คือ เศรษฐกิจไทยอ่อนแอเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และดูเหมือนว่าดอกเบี้ยในเวลานี้ดูไม่สอดคล้องกับพื้นฐานทางเศรษฐกิจเท่าไรนัก ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าคนกลุ่มล่างยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากจากภาระหนี้ที่ล้นตัว เราจะเยียวยาคนกลุ่มนี้อย่างไรได้บ้าง เพราะเขาน่าจะรอแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยอยู่!
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจEconomic

    https://www.facebook.com/share/p/aL5m5fJ9qKT4Hyu5/?mibextid=oFDknk
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวลึกปมลับ
    //////////////
    ปัญหากากแคดเมียม
    หน่วยงานรัฐปิดหูปิดตา
    ผลเสียตามมามหาศาล
    ///////////
    กลายเป็นเรื่องใหญ่ถึงขนาดที่คนระดับนายกรัฐมนตรีต้องลงมากำชับด้วยตัวเอง สำหรับกรณีการขนย้ายกากแคดเมียมจากจังหวัดตากเข้ามายังโรงงานที่จังหวัดสมุทรสาครประมาณ 15,000 ตัน โดยเรื่องนี้มีประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด 2 เรื่อง ได้แก่ ผลกระทบทางสุขภาพ และความโปร่งใสในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ

    ในประเด็นของผลกระทบทางสุขภาพนั้น พบว่าสารแคดเมียมสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 2 ทาง คือ จมูก จากการหายใจเอาควันหรือฝุ่นของแคดเมียม และทางปากจากการบริโภค อาหารที่มีการปนเปื้อนแคดเมียม อีกทั้ง ยังเป็นพิษต่ออวัยวะที่สำคัญอย่างไต ซึ่งจะทำให้เกิดไตวายเรื้อรังได้ในที่สุด ไม่เพียงเท่านี้ จะยังเป็นพิษต่อกระดูก เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนและอาจมีอาการปวดกระดูกอย่างมาก ซึ่งอาการหนึ่งของโรคอิไต – อิไต โดยกระทรวงสาธารณสุขเองยังไม่สามารถสรุปได้ว่าประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพไปแล้วเท่าใด เนื่องจากยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องก่อน

    แต่ประเด็นที่ต้องตามอย่างใกล้ชิดเห็นจะเป็นความไม่โปร่งใสที่เกิดขึ้นของหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากกากแคดเมียมที่ถูกค้นพบนั้นมีต้นทางมาจากจังหวัดตากของโรงงานถลุงแร่สังกะสีบริษัทผาแดง อินดัสทรี จำกัด ซึ่งได้เคยถูกฝังกลบอย่างถาวรไปแล้ว นอกจกานี้ ยังมีรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ที่ระบุว่าเป็นกากอุตสาหกรรมอันตรายที่ให้ฝังกลบแบบถาวร

    ทั้งนี้ ในเรื่องดังกล่าวนายสนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ตั้งข้อสังเกตน่าสนใจว่า "ตามกฏหมายมาตรการในรายงานอีไอเอดังกล่าวถือเป็นเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตที่ต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัดและ จ.ตาก ยังอนุญาตให้ขนส่งไปรีไซเคิลยังโรงงานเจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานได้รับอนุญาตให้กักเก็บและบดย่อยกากอุตสาหกรรมและหล่อหลอมอะลู มิเนียมเท่านั้น ได้อย่างไร"

    จากเหตุการณ์ดังกล่าวแน่นอนว่ากระแสโจมตีจึงตกไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในยพื้นที่จังหวัดตาก เนื่องจากก่อนหน้านี้การตรวจสอบของคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร พบว่ามีการใช้เครื่องจักรกลหนักเข้าไปทำงานบริเวณหลุมเก็บกากแร่ แต่อุตสาหกรรมจังหวัดตาก ยืนยันว่าทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ก่อนที่ในเวลาต่อมานางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งย้ายอุตสาหกรรมจังหวัดตากเข้ามาช่วยราชการ ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่างานนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ

    ความเสียหายที่เกิดขึ้นในจังหวัดสมุทรสาคร อาจไม่ได้มีเพียงเฉพาะเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่เท่านั้น แต่อาจลามไปถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะสินค้าอาหารทะเล ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากเวลานี้รัฐบาลยังไม่มีการให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าโรงงานที่จังหวัดสมุทรสาครที่ครอบครองกากแคดเมียมดังกล่าว ได้ทำการหลอมไปบางส่วนหรือไม่ จึงน่าเป็นห่วงอาจเป็นสาเหตุให้ระยะยาวสินค้าจากทะเลของจังหวัดจะถูกยกเลิกการสั่งเลิก ซึ่งนั่นหมายถึงผลกระทบที่จะตามมาเป็นลูกโซ่อีกจำนวนมาก

    รัฐบาลชุดนี้กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาสิ่งแวดล้อมถึงสองเรื่องใหญ่ๆ รวมไปถึงปัญหามลพิษจากฝุ่นPM2.5 ซึ่งยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลเองก็ยังพายในเรืออ่างอยู่พอสมควร พร้อมกับอ้างโน่นอ้างนี่อีกสารพัด ดังนั้น เมื่อมีกรณีของกากแคดเมียมเพิ่มขึ้นมาอีก จึงไม่ต่างอะไรกับการเป็นบทพิสูจน์ของรัฐบาลมีดีพอที่จะบริหารประเทศในสภาพการณ์ที่เต็มไปด้วยปัญหารอบด้านหรือไม่

    /////////

    ปัญหากากแคดเมียม หน่วยงานรัฐปิดหูปิดตา ผลเสียตามมามหาศาล : ข่าวลึกปมลับ 09/04/67



    ปัญหากากแคดเมียม หน่วยงานรัฐปิดหูปิดตา ผลเสียตามมามหาศาล : ข่าวลึกปมลับ 09/04/67

    https://fb.watch/rksUqyr7HN/
    https://www.facebook.com/share/p/ZBH76YhwCWbED5CQ/?mibextid=oFDknk
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Apr 10, 2024 ด่วน! กรรมการเสียงแตก 5 ต่อ 2 เสียง มีมติคงดอกเบี้ยระยะสั้นแบงก์ชาติ 2.50% เป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่อง กรรมการเสียงแตกเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน

    คณะกรรมนโยบายการเงิน หรือกนง. ธนาคารแห่งประเทศไทย แถลงมีมติด้วยคะแนน 5 ต่อ 2 เสียง ให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.50% ต่อไปเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่ 29 พ.ย. 2566 เป็นต้นมา ส่งผลให้ยังคงเป็นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่สูงในรอบ 10 ปีต่อเนื่องมาเป็นเวลา 5 เดือนต่อเนื่อง

    ย้อนกลับไปเมื่อครั้งการประชุมก่อนถึงครั้งนี้ นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี โดย 2 เสียงเห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี

    ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ 9 เมษายน นายเศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์พิเศษเฉพาะกับสำนักข่าวรอยเตอร์สชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ว่า ในสัปดาห์นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยควรจะปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงมาอย่างน้อย 0.25% หรืออาจลดลง 0.5% เพื่อสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลในการฟื้นภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ในอาเซียน

    ภายใต้ภาวะเงินเฟ้อไทยในปัจจุบันที่ติดลบมาต่อเนื่อง ความคาดหวังของนายกรัฐมนตรี คือการลดดอกเบี้ยลงไม่เพียงแค่ลง 0.25% อาจจะต้องลงถึง 0.5% สาเหตุจากเวลาในการปรับลดดอกเบี้ยของแบงก์ชาติเลยผ่านเนิ่นนานมาแล้ว ในความเป็นจริง แบงก์ชาติควรจะลดดอกเบี้ยตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

    นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านไป อาจจะขยายตัวอย่างเบาบางน้อยกว่า 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ในปีผ่านไปที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพียง 1.7% การใช้มาตรการสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศโดยเฉพาะการบริโภคในประเทศก็มีความจำเป็นแท้จริง ได้แต่หวังว่าภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 จะได้เห็นผลลัพธ์อะไรบางอย่าง

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook(เฟซบุ๊ก): https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube(ยูทูป): https://m.youtube.com/c/MisterBan
    TikTok(ติ๊กตอก): https://www.TikTok.com/@btimes_ch3
    X (เอ็กซ์): https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads(เทร็ดส์): https://www.threads.net/@btimes.ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    Podcast(พ็อดคาสท์): https://btimes.podbean.com/

    #แบงก์ชาติ #ดอกเบี้ย #ตรึงดอกเบี้ย #เศรษฐกิจ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/AXAuQz637L1PActo/?mibextid=oFDknk
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Apr 10, 2024 เสียงแตกอีก! กนง.แบงก์ชาติมีมติ 5 ต่อ 2 ให้คงดอกเบี้ยร้อยละ 2.5 ต่อไป ชี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวมากกว่าปีก่อน จากแรงหนุนการบริโภคเอกชน ท่องเที่ยว การใช้จ่ายภาครัฐ

    นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. โดยระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี โดย 2 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี

    โดยกนง. มีความเห็นว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้นจากปีก่อน โดยได้รับแรงสนับสนุนต่อเนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว รวมทั้งมีแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่ภาคการส่งออกยังมีแรงกดดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ด้านอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำจากปัจจัยด้านอุปทานและมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ โดยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน รวมถึงเห็นว่านโยบายการเงินมีประสิทธิผลจำกัดในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ แต่ยังต้องติดตามความไม่แน่นอนของปัจจัยที่จะเข้ามากระทบเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นว่าควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น และจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้บ้าง

    เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ขยายตัวชะลอลงจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกที่ล่าช้า การใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลงมาก และแรงกดดันจากสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูงกว่าปกติ สำหรับปี 2567 ปัจจัยลบดังกล่าวจะทยอยลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้น อยู่ที่ร้อยละ 2.6 และ 3.0 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้นทั้งในด้านจำนวนนักท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายต่อคน การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่องแม้จะชะลอลงจากปีก่อนที่ขยายตัวสูง และการใช้จ่ายภาครัฐที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่การส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยโดยรวมที่โน้มต่ำลงหลังวิกฤตโควิด สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างที่กดดันศักยภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการส่งออกและการผลิตที่เผชิญความท้าทายจากความสามารถในการแข่งขันที่ปรับลดลงและภาวะสินค้าล้นตลาด ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจำกัด

    อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.6 และ 1.3 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มอยู่ที่ร้อยละ 0.6 และ 0.9 ในปี 2567 และ 2568 ตามลำดับ ตามการปรับลดลงของราคาอาหารสดบางกลุ่มเนื่องจากปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก อีกทั้งจากราคากลุ่มพลังงานที่ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ ซึ่งหากหักผลของมาตรการดังกล่าว อัตราเงินเฟ้อทั่วไปตลอดช่วงที่ผ่านมายังคงเป็นบวก ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นกลับเข้ากรอบเป้าหมายได้ภายในปลายปีนี้ โดยต้องติดตามปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการภาครัฐที่ส่งผลต่อราคาพลังงาน

    ภาวะการเงินโดยรวมทรงตัว ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนผ่านธนาคารพาณิชย์และตลาดตราสารหนี้ใกล้เคียงเดิม สินเชื่อภาคธุรกิจและครัวเรือนขยายตัวชะลอลงจากการชำระคืนหนี้ ขณะที่ปริมาณสินเชื่อปล่อยใหม่ในภาพรวมยังขยายตัว อย่างไรก็ดี ธุรกิจขนาดเล็กบางกลุ่มและครัวเรือนรายได้น้อยเผชิญภาวะการเงินที่ตึงตัว เนื่องจากมีปัญหาเชิงโครงสร้างในการเข้าถึงสินเชื่อมาต่อเนื่อง ประกอบกับความสามารถในการชำระหนี้ปรับลดลงจากรายได้ที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งสอดคล้องกับยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพที่คาดว่าจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นแต่ไม่เร่งตัวแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ มีความกังวลเกี่ยวกับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และเห็นความสำคัญของกระบวนการปรับลดสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ (debt deleveraging) ที่ควรมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยลดความเปราะบางของเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว รวมถึงพิจารณาว่านโยบายการเงินมีประสิทธิผลจำกัดในการแก้ปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อ จึงสนับสนุนนโยบายของ ธปท. ในการดำเนินมาตรการเฉพาะจุดผ่านสถาบันการเงิน โดยเฉพาะมาตรการการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending)

    ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. เคลื่อนไหวผันผวน โดยอ่อนค่านำสกุลเงินภูมิภาค ตามการคาดการณ์ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกอบกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจการเงินในประเทศในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ติดตามความผันผวนของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook(เฟซบุ๊ก): https://m.facebook.com/btimesch3/
    YouTube(ยูทูป): https://m.youtube.com/c/MisterBan
    TikTok(ติ๊กตอก): https://www.TikTok.com/@btimes_ch3
    X (เอ็กซ์): https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
    Threads(เทร็ดส์): https://www.threads.net/@btimes.ch3
    เว็บไซต์: https://btimes.biz
    Podcast(พ็อดคาสท์): https://btimes.podbean.com/

    #กนง #ดอกเบี้ยนโยบาย #เศรษฐกิจ #ดอกเบี้ย #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/WFrDGCkKGAgrspZf/?mibextid=oFDknk
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Apr 10, 2024 แจงละเอียด! บอร์ดดิจิทัลชุดใหญ่ เคาะแหล่งเงินกลุ่มเป้าหมาย-เงื่อนไข เสนอครม.ใน เม.ย.นี้ ยันเริ่มใช้จ่ายไตรมาส 4 ปี 67 คลังยันทำตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องครบถ้วน

    นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเปิดเผยว่าคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ได้เห็นชอบกรอบหลักการเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่และช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ เช่น กลุ่มเปราะบาง เกษตรกร เป็นต้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวและชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจ สามารถพึ่งพาตนเองได้
    รวมทั้งสร้างและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม

    โดยแหล่งเงิน จะใช้เงินจากงบประมาณจาก 3 แหล่ง ได้แก่ เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท และการบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับกฎหมายต่าง ๆ เช่น มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 (พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ) ซึ่งกำหนดว่ารัฐต้องดำเนินนโยบายการคลังตามหลักการรักษาเสถียรภาพและการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และหลักความเป็นธรรมในสังคม และต้องรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด มาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ ซึ่งกำหนดว่าการดำเนินการใด ๆ ของรัฐที่มีผลผูกพันทรัพย์สินหรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ ต้องพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐด้วย
    (มีต่อหน้า 2/2)

    (ต่อหน้า2/2)
    สำหรับแนวทางการดำเนินโครงการฯ ที่สำคัญ ดังนี้
    1. กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนจำนวนประมาณ 50 ล้านคน โดยจะมีเกณฑ์ ได้แก่ อายุเกิน 16 ปี ณ เดือนที่มีการลงทะเบียน ไม่เป็นผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินเกิน 840,000 บาทต่อปีภาษี และมีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
    2. เงื่อนไขการใช้จ่าย
    2.1 ระหว่างประชาชนกับร้านค้า ใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ (878 อำเภอ) โดยกำหนดให้ใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กที่ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเท่านั้น
    2.2 ระหว่างร้านค้ากับร้านค้า ไม่กำหนดเงื่อนไขการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ระหว่างร้านค้ากับร้านค้าในระดับอำเภอและขนาดของร้านค้า
    การใช้จ่ายเงินสามารถใช้จ่ายได้หลายรอบ โดยรอบที่ 1 จะเป็นการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็กเท่านั้น (ตามกระทรวงพาณิชย์กำหนด) ตั้งแต่รอบที่ 2 ขึ้นไป จะเป็นการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้าโดยไม่จำกัดขนาดร้านค้า
    3. ประเภทสินค้า สินค้าทุกประเภทสามารถใช้จ่ายผ่านโครงการฯ ได้ ยกเว้น สินค้าอบายมุข น้ำมัน บริการ และออนไลน์ เป็นต้น และสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดเพิ่มเติม
    4. คุณสมบัติร้านค้าที่สามารถถอนเงินสดจากโครงการฯ ต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี ดังนี้ (1) ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax: VAT) หรือ (2) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax: PIT) เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร หรือ (3) ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax: CIT)

    ทั้งนี้ ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีหลังประชาชนใช้จ่าย แต่ร้านค้าจะสามารถถอนเงินสดได้เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่ในรอบที่ 2 เป็นต้นไป
    5. การจัดทำระบบ จะเป็นการพัฒนาต่อยอดของรัฐบาลดิจิทัลโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีเป้าหมายให้เป็น Super App ของรัฐบาล โดยการใช้งานจะพัฒนาให้สามารถใช้จ่ายได้กับธนาคารอื่น ๆ ในลักษณะ open loop ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดทำของภาครัฐ รัฐบาลจะดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปอย่างรอบคอบ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ตามกฎหมาย
    6. แหล่งเงิน จะใช้เงินจากงบประมาณจาก 3 แหล่ง ได้แก่
    * เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท ซึ่งได้ขยายกรอบวงเงินงบประมาณเรียบร้อยแล้ว
    * จากการการดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท โดยจะใช้ มาตรา 28 โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดูแลประชาชนในกลุ่มที่เป็นเกษตรกร จำนวน 11 ล้านคนเศษ ผ่านกลไก มาตรา 28 ของปีงบประมาณ 68
    * การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลจะพิจารณาว่ารายการไหนสามารถใช้หรือปรับเปลี่ยนได้ รวมถึงงบกลางที่อาจนำมาใช้เพิ่มเติมได้หากวงเงินไม่เพียงพอ
    (มีต่อหน้า 3/3)

    (ต่อหน้า3/3)
    7. ช่วงเวลาการดำเนินโครงการ ประชาชนและร้านค้าจะสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 และจะมีการเริ่มใช้จ่ายภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567
    8. มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ โดยมีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธาน และผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นอนุกรรมการและเลขานุการร่วม ซึ่งจะมีหน้าที่หลักในการตรวจสอบ วินิจฉัยเกี่ยวกับการกระทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ รวมถึงการกระทำที่อาจฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    สำหรับมติที่ได้รับความเห็นชอบในวันนี้ กระทรวงการคลัง จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปภายในเดือนเมษายน 2567

    สำหรับความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการฯ การให้สิทธิแก่ประชาชน จำนวน 50 ล้านคน คิดเป็นจำนวนเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 5 แสนล้านบาท และกำหนดให้ใช้จ่ายในร้านค้าที่กำหนดซึ่งจะเป็นการเติมเงินลงสู่ฐานราก โดยจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจประมาณ1.2 - 1.8% จากกรณีฐาน

    นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า การดำเนินการในเรื่องแหล่งเงิน เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายวินัยการเงินการคลัง กฎหมายงบประมาณ หรือ พ.ร.บ.เงินตรา ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีข้อกังวล ณ วันที่เริ่มโครงการในช่วงปลายปี จะมีเงิน 5 แสนล้านบาทอยู่ทั้งก้อน ไม่มีการใช้เงินสกุลอื่น หรือใช้มาตรการอื่นแทนเงิน ยืนยันว่าทำตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องครบถ้วน ทั้งนี้คาดว่าขะกระตุ้นจีดีพีได้1.2-1.8%

    https://www.facebook.com/share/p/pxH5HkGWKVDBTrws/?mibextid=oFDknk
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Apr 10, 2024 ยอดแย่ต่อ! ผลงานตลาดหุ้นไทยมีนาคมตกต่ำ ซื้อขายหุ้นทั้ง SET และ MAI เฉลี่ยดิ่งเหวถึง -30% ยอมรับจบไตรมาส 1 เงินต่างชาติแห่ตีจากหุ้นไทย รุมขายหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ มองการซื้อขายหุ้นไทยเมษายนทรุดถึง 22%
    .
    นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1 ปีนี้ เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวลง และมีปัจจัยท้าทายหลายด้าน เช่น ธนาคารกลางสหรัฐที่อาจชะลอการลดดอกเบี้ยออกไป ฯลฯ ในส่วนของไทยเศรษฐกิจยังมีแรงส่งจากการท่องเที่ยวและการส่งออกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาวะตลาดหลักทรัพย์ในเดือน มี.ค. 2567 โดย SET Index ปิดที่ 1,377.94 จุด ยังเพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้า แต่ลดลง 2.7% เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2566 ซึ่งถือว่ายังสอดคล้องกับภูมิภาค โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการ กลุ่มการเงิน และกลุ่มทรัพยากร
    .
    สำหรับในเดือนมีนาคม 2567 พบว่า มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของดัชนีหุ้น SET และดัชนีหุ้น mai อยู่ที่ 42,782 ล้านบาท ลดลงมากถึง -30.2% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 อย่างไรก็ตามตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) นั้น มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 499,897 สัญญา เพิ่มขึ้น 26.9% จากเดือนก่อนหน้านี้
    .
    อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 1/67 นี้ ยังเห็นสัญญาณเงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะในหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้หุ้นขนาดกลางและเล็กได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น แต่หากพิจารณา Earning Yield Gap พบว่าหุ้นใน SET50 ยังมี Valuation ที่ต่ำกว่าหุ้นขนาดกลางและเล็ก
    .
    ทั้งนี้ ในเดือนเมษายนนี้ พบว่าการซื้อขายโดยเฉลี่ยแล้วจะลดลง 20% จากช่วงเวลาปกติ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยมีวันหยุดทำหารมาก โดยคาดว่าในเดือน เม.ย.ปีนี้ คาดว่าจะลดลงมากถึง -22%
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/4apVMKf
    .
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/c/MisterBan
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #ตลาดหลักทรัพย์ #ตลาดหุ้นไทย #หุ้นไทย #ต่างชาติ #นักลงทุน #เศรษฐกิจ #มีนาคม #เมษายน #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/dksK4aVPUNLREdcY/?mibextid=oFDknk
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ระบุในวันอังคาร(9เม.ย.) การปรากฏตัวของอิสราเอลในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มองได้ว่าเป็นภัยคุกคามและพวกเขาอาจปิดช่องแคบฮอร์มุซถ้ามีความจำเป็น ส่วนหนึ่งในการแก้แค้นเหตุโจมตีสถานกุงสลของเตหะรานในซีเรีย ที่พวกเขากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล

    อิหร่านขู่แก้แค้นเหตุโจมตีทางอากาศถล่มสถานกงสุลของพวกเขาในกรุงดามัสกัส ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล เมื่อวันที่ 1 เมษายน สังหารเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม 7 นาย ในนั้นรวมถึงผู้บัญชาการระดับสูง 2 คน โหมกระพือความตึงเครียดระหว่าง 2 อริศัตรู ที่ร้อนระอุอยู่ก่อนแล้วจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในกาซา

    "เราจะไม่ยอมถูกเล่นงานโดยปราศจากการเอาคืน แต่เราจะไม่เร่งรีบในการแก้แค้นของเรา" พลเรือจัตวาอาลิเรซา ตังซีรี ผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านกล่าว ตามรายงานของสันักข่วสติวเดนท์ นิวส์ สื่อมวลชนกึ่งรัฐของอิหร่าน

    "เราสามารถปิดช่องแคบฮอร์มุซ แต่เราไม่ทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าศัตรูเข้ามาปั่นป่วนเรา เราจะทบทวนนโยบายของเรา" พลเรือจัตวาตังซีรีกล่าว

    น้ำมันคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของการบริโภคน้ำมันโดยรวมทั่วโลก ได้ลำเลียงผ่านช่องแคบแห่งนี้ในทุกๆวัน และจากข้อมูลของ Vortexa บริษัทวิเคราะห์ด้านพลังงาน พบว่าระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายน 2023 มีน้ำมันดิบ,ก๊าซธรรมชาติเหลว และผลิตภัณฑ์น้ำมัน ถูกลำเลียงผ่านช่องแคบฮอร์มุซ 20.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

    สหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอ่าวเปอร์เซีย กับอิหร่าน กลายมาเป็นชาติอาหรับที่โดดเด่นมากที่สุด ในความพยายามหล่อหลอมความสัมพันธ์กับอิสราเอลในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงหนึ่งที่มีสหรัฐฯเป็นคนกลางเมื่อปี 2020 อย่างไรก็ตามขณะเดียวกับ สหรัฐอาหรับเอเมิเรตส์ ก็มีความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้าอันเป็นปกติกับอิหร่าน

    "เรารู้ว่าพวกไซออนิสต์(อิสราเอล) ไม่ได้เข้าสู่ยูเออี เพื่อจุดประสงค์ทางเศรษฐกิจ แต่เป็นงานด้านการทหารและความมั่นคง นี่คือภัยคุกคามเราและไม่ควรเกิดขึ้น" ผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านกล่าว

    (ที่มา:รอยเตอรื)

    https://www.facebook.com/share/p/ddDwi7DiLptTzWS2/?mibextid=oFDknk
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด หลังวิดีโอหนึ่งที่เผยแพร่โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน(ซีซีทีวี) เผยให้เห็นว่ากองทัพอากาศของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน(PLAAF) ได้ทำการซ้อมรบกระสุนจริงตามแนวชายแดนระหว่างจีนกับพม่า โดยใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งทางอากาศและภาคพื้น ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่กองทัพพม่า พันธมิตรของปักกิ่ง เพลี่ยงพล้ำใกล้พ่ายกองกำลังชาติพันธุ์ในหลายสมรภูมิ

    ในเรื่องนี้ กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคใต้ (Southern Theatre Command) ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ชี้แจงว่าการประจำการดังกล่าว มีเป้าหมายทดสอบการเคลื่อนที่เร็วของทรัพย์สินทางทหาร การเล็งเป้าหมายอย่างแม่นนำ การปิดล้อมอย่างครอบคลุมและศักยภาพการโจมตีร่วมของกองกำลังจีน

    นอกเหนือจากกองทัพอากาศแล้ว ทหารราบยานเกราะ, ปืนใหญ่ และกองกำลังป้องกันตนเองต่อต้านอากาศยาน เช่นเดียวกับอื่นๆ ก็เข้าร่วมซ้อมรบครั้งนี้เช่นกัน โดยมันเป็นการเคลื่อนพลอย่างรวดเร็วไปยังพื้นที่ที่กำหนดไว้ เพื่อทำซ้อมรบร่วมกระสุนยิง ในพื้นที่ต่างๆและในช่วงเวลาที่ต่างกันออกไป

    ในบรรดาทรัพย์สินทางทหารที่ถูกใช้ในการซ้อมรบครั้งนี้ ทางกองทัพจีนได้ทำการทดสอบศักยภาพและพลานุภาพของเครื่องยิงจรวด, ปืนใหญ่อัตตาจร"ฮาวอิตเซอร์" ที่ติดตั้งบนยานพาหนะ และปืนครก

    อาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้ มอบศักยภาพการยิงที่แม่นยำใส่เป้าหมายที่หลบซ่อน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นแถบเทือกเขาตามแนวชายแดน และภายในกรอบปฏิบัติการนี้ พวกมันยังสามารถโจมตีอย่างแม่นยำใส่เป้าหมายต่างๆที่กำหนดไว้แบบเรียลไทม์ จากหลากหลายทิศทาง ในขณะที่วิดีโอที่เผยแพร่ออกมา ยังเผยให้เห็นถึงทรัพย์สินทางอากาศต่างๆนานาด้วยเช่นกัน ในนั้นรวมถึงเครื่องบิน เครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์

    หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ส ชี้แจงการซ้อมรบครั้งนี้ ว่าถูกออกแบบมารับมือกับสถานการณ์ที่ต้องมีการประสานงานต่างๆนานา การระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมถึงฝึกซ้อมเคลื่อนที่เร็ว และการซ้อมรบครั้งนี้จะเดินหน้าต่อไปอีกหลายวัน

    พันเอกอาวุโส เทียน จุนหลี่ โฆษกกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคใต้ แห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน เน้นย้ำว่าพวกเขาเตรียมการการซ้อมรบนี้ เพื่อที่จะสามารถตอบสนองสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ และมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติและเสถียรภาพตามแนวชายแดน

    สถานการณ์ตามแนวชายแดนติดกับพม่า ทวีความหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ สืบเนื่องจากหลายปัจจัยและเหตุผลต่างๆนานาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อเร็วๆนี้ที่กองทัพพม่าเพลี่ยงพล้ำใกล้พ่ายกองกำลังชาติพันธุ์ในหลายสมรภูมิ

    ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กองทัพพม่าเผชิญกับภัยคุกคามครั้งเลวร้ายที่สุด เมื่อกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเปิดฉากโจมตีหลายพื้นที่ของประเทศ

    ในขณะที่จีนและพม่า มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่กลุ่มกบฏตามแนวชายแดนทางเหนือ ได้คุกคามความมั่นคงและเสถียรภาพตามพื้นชายชายแดน นับตั้งแต่รัฐบาลทหารก่อรัฐประหารก้าวเข้าสู่อำนาจในปี 2021

    บรรดาผู้เชี่ยวชาญ บอกว่าการที่จีนและพม่า มีชายแดนติดกันเป็นระยะทางยาวเหยียด และความร่วมมือระหว่างพวกเขาเป็นไปอย่างครอบคลุมและกว้างขวาง โดยเฉพาะโครงการความร่วมมือระเบียงเศรษฐกิจจีน-พม่า ที่กำลังมีความคืบหน้า ดังนั้นความมั่นคงและเสถียรภาพของพม่า จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ของทั้ง 2 ชาติ

    (ที่มา:โซนามิลิตาร์)

    https://www.facebook.com/share/p/xKvdFusn5YBZQfGZ/?mibextid=oFDknk
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ซุนยัตเซ็น
    วิจารณ์ว่า
    ขบวนการซิ่งจงฮุ่ย คือเล่าปี่ และจูกัดเหลียง
    ส่วนฮ่องเต้แมนจูคือโจโฉและสุมาอี้
    (กระผมแอบขำ...ถึงว่าทำไมสุดท้ายถึงล้มเหลว 555)
    .
    #เหมาเจ๋อตุง วิจารณ์โจโฉไว้ว่า
    #โจโฉ รวมภาคเหนือของจีนและก่อตั้งรัฐเว่ย
    เขาได้ปฏิรูปนโยบายที่ไม่ดีหลายประการของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก
    กำจัดพวกนอกคอก
    พัฒนาการผลิตและการเกษตร
    ส่งเสริมการใช้กฏหมาย
    และส่งเสริมความประหยัด
    เพื่อให้แผ่นดินที่เสียหายกลับมาฟื้นตัวและมีเสถียรภาพ
    .
    ยังไม่หมด ประธานเหมายังบอกอีกว่า
    โจโฉเป็นนักการเมืองและนักยุทธศาสตร์การทหารผู้ยิ่งใหญ่
    อีกทั้งยังเป็นเป็นกวีที่โดดเด่น
    งานเขียนและบทกวีของโจโฉนั้น
    ออกมาจากใจเขาจริงๆ อย่างตรงไปตรงมา
    .
    เหมาเจ๋อตุงน่าจะชอบผลงานบทกวีของโจโฉเป็นอย่างยิ่ง
    เพราะชื่นชมยกย่องเป็นอย่างสูง
    บอกว่าเป็นความสง่างามในจิตวิญญาณ
    ถ่ายทอดได้อย่างจับใจ
    โจโฉสมเป็นมหาบุรุษที่แท้จริง
    .
    อีกทั้งเหมาเจ๋อตุง ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า
    โจโฉมีข้อบกพร่อง 2 ประการ
    .
    1. เอาชนะเตียวล่อได้แล้ว กลับไม่ไปตีเสฉวนต่อ
    จึงบอกว่าโจโฉเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป
    คำแนะนำดีๆ ของ #เล่าหัว กับ #สุมาอี้ ไม่ปฏิบัติตาม
    .
    2. ความผิดพลาดในศึกผาแดง (ศึกชื่อปี้) ที่จบลงด้วยความพ่ายแพ้
    แต่โจโฉกลับไม่แสดงความรับผิดชอบ
    ทั้งที่เคยบอกว่าแม่ทัพทำสงครามหากแพ้จะถูกลงโทษ
    ตัวเองนำทัพไปศึกผาแดงแท้ๆ แต่กลับผ่อนปรนกับตัวเอง

    .
    https://www.facebook.com/share/p/x1a8ujmCkU1iUTt2/?mibextid=oFDknk
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Apr 10, 2024 เล็งขึ้นราคา! ส.อ.ท. บอกไม่ผิดคาด กนง.คงดอกเบี้ย 2.5% เชื่อยังรอดูทิศทางเฟด ชี้เศรษฐกิจซบเซา ต้นทุนทุกอย่างพุ่ง ขู่อั้นราคาสินค้าได้อีกแค่ 3-6 เดือน หากไม่ไหวต้องปรับขึ้น

    นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เป็นไปตามที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงอัตราดอกบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% แม้ว่าหลายภาคส่วนจะมีความหวังที่จะให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก็ตาม เดื่อลดภาระให้กับผู้ประกอบการ และ SMEs

    โดยการคงดอกเบี้ยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก กนง. รอดูท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อน และก็คาดว่าในชาวงครึ่งปีแรกเฟดจะยังไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยแน่นอน ดังนั้นไทยก็น่าจะมีแนวทางเดียวกัน

    ในส่วนของภาคเอกชนเอง แน่นอนว่าต้องการให้ลดดอกเบี้ย เพื่อเป็นการเพิ่มกำลังซื้อในประเทศให้มากขึ้น หลังจากมีภาระเรื่องดอกเบี้ยลดลง บวกกับนโยบายดิจิทัลวอลเลตที่กำลังจะเกิดขึ้น ยิ่งจะส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งในเมื่อทุกอย่างไม่ได้ถูกคลี่คลาย แถมราคาน้ำมันก็มีแนวโน้มจะพุ่งไปแตะ 100 เหรียญ/บาเรล มันยิ่งซ้ำเติมต้นทุนที่ผู้ประกอบการต้องแยกรับจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง

    อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดมันก็จะส่งผลต่อราคาสินค้าที่อาจต้องปรับขึ้นตามมา ตอนนี้ผู้ประกอบการยังอั้นราคาสินค้าไว้ได้อีก 3-6 เดือน แต่ถ้าเมื่อไรที่ราคาพลังงาน ต้นทุนด้านอื่น ๆ ขึ้น ภาระจากอัตราดอกเบี้ย ตอนนั้นเอกชนก็ต้องขึ้นราคาสินค้า

    #สอท #ดอกเบี้ย #กนง #ต้นทุนสินค้า #SMEs #เฟด #เอกชน #BTimes

    https://www.facebook.com/share/c3KxESdn1CrbkDbG/?mibextid=oFDknk
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️[BREAKING]⚠️ 19.30 น. คืนนี้ จับตาดูตัวเลข CPI ให้ดี ! ตลาดคาดตัวเลข CPI เพิ่มขึ้นเป็น +3.4% พร้อมคาดการณ์ FED ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง

    นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตามองรายงาน CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภค ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยตลาดมองว่า

    1) CPI ทั่วไป (รวมหมวดอาหารและพลังงาน) ของเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นที่ +3.4% เมื่อเทียบรายปี และปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.2% เมื่อเทียบรายเดือน

    2) CPI พื้นฐาน (ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน) ของเดือนมีนาคมจะปรับตัวลดลงเหลือ +3.7% เมื่อเทียบรายปี และปรับตัวลดลง -0.1% เมื่อเทียบกับรายเดือน

    เมื่อไม่นานมานี้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก สอดคล้องกับการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) โดยผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นแตะ +4.36% นักลงทุนรอดูตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะลดลงในปีนี้อย่างน้อย 1-3 ครั้ง

    ก่อนหน้านี้ พิมโค บริษัทจัดการด้านการลงทุนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐปรับลดคาดการณ์เกี่ยวกับจำนวนครั้งในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ลงเหลือ 2 ครั้ง หลังจากการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนมี.ค.

    ล่าสุดตอนนี้ FedWatch Tool ของ CME Group ยังชี้ว่านักลงทุนให้โอกาสสูงถึง 93.7% ที่ FED ยังจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ต่อไป และมี 6.3% เท่านั้นที่คาดว่า FED ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 5.00-5.25%

    มุมมองตัวเลข CPI คืนนี้จากธนาคารและนักวิเคราะห์ชื่อดังต่าง ๆ

    BANK OF AMERICA 3.3%

    BARCLAYS 3.4%
    CITI 3.4%
    GOLDMAN SACHS 3.4%
    JP MORGAN 3.4%
    MORGAN STANLEY 3.4%
    HSBC 3.4%
    UBS 3.4%
    BMO 3.4%
    TD 3.4%
    CITADEL 3.4%

    WELLS FARGO 3.5%
    SCOTIABANK 3.5%

    MEDIAN 3.4%

    จะเห็นได้ชัดว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงมองว่า CPI จะปรับตัวเพิ่มขึ้น +3.4% และถือเป็นครั้งแรกที่คาดการณ์ว่า CPI จะสูงขึ้นกว่าเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ต่ำกว่าตัวเลขครั้งก่อนเสมอ ทำให้ยังต้องจับตาต่อไปว่า FED จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อไหร่ ?

    ดังนั้นมาติดตามกับทีม Business Tomorrow ได้ครับ ว่าตัวเลขที่แท้จริงจะออกมาเช่นไร 19.30 น. คืนนี้

    ผู้เขียน กิตตินันท์ จอมประเสริฐ

    ข่าวเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567

    #BusinessTomorrow #BizTMR #FED #FOMC #CPI #InterestRate #อัตราดอกเบี้ย #ดอกเบี้ย

    กดกระดิ่งและติดตามข่าวสารธุรกิจรอบโลกก่อนใคร
    อย่าลืม! เลือกเป็น 'รายการโปรด' ~ จะได้ไม่โดนการปิดกั้นการมองเห็นจากทาง Facebook

    https://www.facebook.com/share/yakrxP3eCSSkmJZ1/?mibextid=oFDknk
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วุ่นแล้ว กทม. ประกาศพื้นที่อันตรายโรงงานซุกแคดเมียมย่านบางซื่อ เร่งตรวจสุขภาพประชาชนบริเวณโดยรอบ หลังเบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบสารเคมี จำนวน 98 ถุง น้ำหนักประมาณ 150 ตัน #กทม #พื้นที่อันตราย #กากแคดเมียม #บางซื่อ #ฐานเศรษฐกิจ
    .
    อ่านข่าวเพิ่มเติมในคอมเมนต์

    https://www.facebook.com/share/to98xLRxnCnmrDau/?mibextid=oFDknk
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐเผยตัวเลข CPI สูงกว่าคาดการณ์ +3.5% พาตลาดหุ้นสหรัฐร่วงหนัก

    สหรัฐฯ เผยตัวเลข CPI ประจำเดือน มี.ค.โดยดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น +3.5% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่คาดการณ์ที่ +3.4% จากระดับ +3.2% ในเดือน ก.พ.

    เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือน มี.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3% จากระดับ 0.4% ในเดือน ก.พ.

    ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.8% ในเดือน ก.พ.

    ข่าวเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567

    #BusinessTomorrow #BizTMR #CPI #FED #FOMC #สหรัฐ

    กดกระดิ่งและติดตามข่าวสารธุรกิจรอบโลกก่อนใคร
    อย่าลืม! เลือกเป็น 'รายการโปรด' ~ จะได้ไม่โดนการปิดกั้นการมองเห็นจากทาง Facebook

    https://www.facebook.com/share/h1M52N8VsoQxXEHR/?mibextid=oFDknk
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศาลปค.สูงสุดยืนตีตกคำฟ้องขอพิจารณาคดีใหม่ของนิติบุคคล "แอชตัน อโศก" ชี้ไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย

    ศาล ปค.สูงสุด สั่งยืนไม่รับคำฟ้องขอพิจารณาคดีใหม่ของนิติบุคคลอาคารชุดแอชตัน อโศก ชี้ไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย ระบุหากมองถูกกระทบสิทธิการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ยื่นฟ้องศาลได้

    วันนี้(10 เม.ย.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของนิติบุคคลอาคารชุด แอชตัน อโศก ไว้พิจารณา

    คดีดังกล่าวนิติบุคคลอาคารชุดแอชตันอโศก ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครอง หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคารโครงการอาคารชุด แอชตัน อโศก โดยให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่ออกหนังสือฉบับดังกล่าวลงวันที่ 23 ก.พ.58 โดยอ้างว่าคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดดังกล่าว มีผลกระทบต่อการจดทะเบียนอาคารชุด แอชตัน อโศก หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด และการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับห้องชุด ทำให้นิติบุคคลอาคารชุดแอชตัน และเจ้าของร่วมไม่สามารถเข้าไปดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลางและทรัพย์สินส่วนบุคคลได้ และการรื้อถอนอาคารชุดจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่นิติบุคคลอาคารชุดแอชตันและเจ้าของร่วมในอาคารชุด แอชตัน อโศก อย่างร้ายแรงจนยากแก่การเยียวยา และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากผลแห่งคำพิพากษาดังกล่าว จะขยายวงกว้างออกไปมากกว่าเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนที่ฟ้องคดีจะได้รับ

    ส่วนเหตุผลที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งดังกล่าวระบุว่าที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งที่ 351/2567วินิจฉัยว่า การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างฯ และใบรับแจ้งการก่อสร้างฯ ที่ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ออกให้แก่บริษัทอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ทู จำกัด มีผลในทางกฎหมายเพียงว่า บริษัทอนันดาฯ ก่อสร้างและดัดแปลงอาคารชุดโครงการ แอชตัน อโศก โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นต้องไปพิจารณาดำเนินการตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 ต่อไป แต่ไม่ได้มีผลเป็นการเพิกถอนการจดทะเบียนอาคารชุด หนังสือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด และการจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดของโครงการ แอชตัน อโศก แต่อย่างใด หากข้อเท็จจริงปรากฏภายหลังว่า เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ใช้อำนาจดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว กับอาคารโครงการแอชตัน อโศก ก็ไม่เป็นการตัดสิทธินิติบุคคลอาคารชุดแอชตันฯและเจ้าของร่วมจะใช้สิทธิทางศาลต่อไป กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่า คำพิพากษาของศาลปกครองในคดีนี้มีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของนิติบุคคลอาคารชุดแอชตัน ฯและเจ้าของร่วมอาคารชุด โครงการแอชตัน อโศก ดังนั้นนิติบุคคลอาคารชุด แอชตันฯ จึงไม่ใช่บุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียหรืออาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีนี้ในอันที่จะมีสิทธิยื่นคำขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งชี้ขาดคดีปกครองนั้นใหม่ได้ ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 เมื่อไม่ใช่บุคคลภายนอก ผู้มีส่วนได้เสียหรืออาจถูกกระทบจากผลแห่งคดีนี้แล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่า มีเหตุที่ศาลปกครองจะพิจารณาคดีนี้ใหม่ได้ตามมาตรา 75 วรรคหนึ่ง (1) ถึง (4) ตามอุทธรณ์ของนิติบุคคลอาคารชุดแอชตัน ฯหรือไม่ เพราะไม่ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป จึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำขอของนิติบุคคลอาคารชุดแอชตันไว้พิจารณา

    https://www.facebook.com/share/p/XSqRQpGa3jfygfpm/?mibextid=oFDknk
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถอนหมุดข่าว

    โล้นห่มเหลือง
    ไม่มีแผ่ว..
    เล่นว่าวฉาวสู่ฉันบวบเณร

    เมื่อวันเวลาผ่านไปพร้อมกับสภาพสังคมและวิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป ทำให้จิตสำนึกของผู้ที่ละทางโลกเข้าสู่การบรรพชาบางคนไม่ใช่พระสงฆ์ที่แท้จริงอีกต่อไป

    แต่วันนี้ พระสงฆ์จำนวนหนึ่งกลายเป็นโล้นห่มเหลืองที่ประพฤติตนตามอำเภอใจ ผิดจากพระธรรมวินัยที่กำหนดไว้ จนทำให้ศาสนาพุทธเสื่อมเสียจากพฤติกรรมของบรรดา “พระที่ไม่ใช่พระ”

    ซึ่งในสัปดาห์แรกของเดือนเมษายนที่ผ่านมา ข่าวฉาวโฉ่จากโล้นห่มเหลืองได้เกิดขึ้นติดต่อกันชนิดที่สังคมไม่คาดคิดว่าจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว

    เริ่มจากกรณีพระครูธรรมธรกิตติศักดิ์ สุภทโท อดีตเจ้าอาวาสวัดทวีการะอนันต์ ถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินวัด และนำเงินเข้าบัญชีส่วนตัว ก่อนจะถูกปล่อยคลิปฉาวขณะช่วยตัวเอง เพื่อสำเร็จความใคร่ หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า เล่นว่าว จนมีการแชร์สนั่นโลกออนไลน์

    แต่แทนที่พระครูฉาวจะยอมรับว่า การกระทำนั้นไม่เหมาะสม กลับกลายเป็นการออกมาตอบโต้ในที่ประชุมสงฆ์ว่า มีพระภิกษุสามเณรองค์ไหนบ้างที่ไม่เคยเล่นว่าว

    หลังจากเกิดข่าวฉาวโฉ่เมื่อวันที่3 เมษายนที่ผ่านมา และพระครูคนดังกล่าวยืนยันว่า จะไม่ยอมลาสิกขา ทั้งที่โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากทั่วสารทิศ

    ไม่ทันข้ามสัปดาห์ก็เกิดกรณีโล้นห่มเหลืองรายใหม่ที่อัปยศยิ่งกว่าคลิปหลุดพระ ครูสไลด์หนอนดังที่กล่าวมาข้างต้น

    เพราะคราวนี้ผู้ก่อเหตุเป็นถึงเจ้าอาวาสวัดดัง จังหวัดนครสวรรค์ ก่อเหตุพยายามล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายที่เข้ามาบรรพชาเป็นสามเณรในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน จนคณะสงฆ์ จังหวัดนครสวรรค์ ต้องสั่งปลดออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสพร้อมสอบวินัย เพื่อเตรียมที่จะมีคำสั่งให้ลาสิกขาในลำดับต่อไป

    ทั้งนี้ เจ้าอาวาสที่มีรสนิยมชายรักชายได้ เข้าไปล่วงละเมิดทางเพศสามเณรขณะกำลังนอนหลับในศาลาที่พัก โดยเจ้าอาวาส ได้เข้าไปนอนกอด ใช้ปากสำเร็จความใคร่จนเสร็จกิจ ทั้งที่มีสามเณรรูปอื่นนอนอยู่ข้างๆ จากนั้นเจ้าอาวาสพยายามขืนใจสามเณรต่อแต่ไม่สำเร็จ จึงได้นอนกอดเณร

    โดยบอกว่าถ้าร่วมหลับนอนแบบนี้จะให้ครั้งละ 1,000 บาท โดยมีเพื่อนเณรที่นอนข้างๆ เห็นพฤติกรรมการกระทำของเจ้าอาวาสทั้งหมด

    ต่อมารุ่งเช้า พ่อกับแม่เณร มาทำบุญฉลองเณรใหม่ เห็นลูกเณรนั่งตาแดงๆ จึงเข้าไปถามซักไซ้จนความแตก ทำให้พ่อแม่สามเณรแต่ละรูป จึงรีบมาย้ายสามเณรทั้งหมดออกจากวัด โดยไปฝากไว้แต่ละวัดในเขตอำเภอโกรกพระ และไปแจ้งความเพื่อเอาผิดกับเจ้าอาวาสกามวิปริต

    เจ้าอาวาสที่ถูกกล่าวหายังคงปฏิเสธว่า ไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศสามเณร แต่แค่คืนนั้นไปตรวจตราความเรียบร้อยตามปกติ และเห็นสามเณรนอนไม่ห่มผ้า จึงเข้าไปพูดคุย และยอมรับว่า มีการนอนคุยและกอดเณรจริง
    แต่เป็นการกอดปลอบเณรที่บวชใหม่ตามประสาผู้ใหญ่ เพราะเห็นว่าคิดถึงพ่อแม่คิดถึงบ้าน

    ยืนยันว่าไม่ได้กระทำอนาจาร ส่วนเรื่องเงิน ยอมรับว่ามีการตกลงว่าจะให้เงินจริง เพราะคิดว่าการกอดนั้นอาจทำสามเณรเสียหายหรืออับอายจึงยอมจ่ายเงิน ซึ่งไม่ใช่เงินค่าทำขวัญการล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด

    ไม่ว่าเจ้าอาวาสฉันบวบล่วงละเมิดเณรจะแก้ตัวอย่างไรก็ตาม แต่หลักฐานต่าง ๆ ที่มัดแน่นคงจะถูกจับถอดจีวรอย่างแน่นอน และทำให้โล้นห่มเหลืองที่แฝงตัวเข้ามาเป็นเหลือบเกาะกินพุทธศาสนาถูกกำจัดออกไปอีกหนึ่ง

    เชื่อเถอะว่าในวัดทั่วประเทศ ยังมีพระปลอมที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม ผิดพระธรรมวินัยหลบซ่อนอยู่ในวงการสงฆ์อีกหลายรูป อยู่ที่ว่าพฤติกรรมอันเลวร้ายเหล่านั้น จะหลุดออกมาให้สังคมได้รับรู้เมื่อไหร่เท่านั้นเอง

    ดังนั้นพวกเราชาวพุทธจึงต้องช่วยกันสอดส่องดูแล อย่าให้พระปลอม หรือ โล้นห่มเหลืองกระทำการใด ๆ ที่ทำลายพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยได้อีกต่อไป

    ******
    โล้นห่มเหลือง ไม่มีแผ่ว.. เล่นว่าวฉาวสู่ฉันบวบเณร : ถอนหมุดข่าว 10/04/67



    โล้นห่มเหลือง ไม่มีแผ่ว.. เล่นว่าวฉาวสู่ฉันบวบเณร : ถอนหมุดข่าว 10/04/67



    https://www.facebook.com/share/p/ruCmduZpzGSwcsKE/?mibextid=oFDknk
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คลาดสายตาไม่ได้เด็ดขาด!!! จับตา: ล้มไม่ล้ม! "เทียนยุ่ยสุ่ยหนี" 天瑞水泥 บริษัทซีเมนต์ของเจ้าสัวใหญ่ ผู้เคยขึ้นชื่อว่าเป็นเศรษฐีอันดับ 1 แห่งมณฑลเหอหนาน ส่อไม่รอด --- ผวา "โดมิโน" ลากวิกฤติจีน (เดิมก็โงนเงนกับความเสี่ยงของวิกฤติอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว!)
    ยุ่ยซะแล้ว!
    เกิดอะไรขึ้น ไฉนหุ้นของ "เทียนยุ่ย" ถึงยุ่ยยับ ทิ้งดิ่ง 99% ในเวลาเพียง 15 นาที ก่อนปิดตลาดวันที่ 9 เม.ย.
    มูลค่าตลาด market cap จาก 14,600 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง เหลือแค่ 141 ล้านดอลลาร์ ในพริบตาเดียว!!!
    คิดคร่าวๆ ก็เหลือแค่ 1 ใน 100 จากของเดิม (เมื่อ 15 นาทีก่อนหน้า)
    (*รายละเอียด: ช่วงกระหน่ำเทขายมหาประลัย มีจำนวนหุ้นถึง 281 ล้านหุ้นที่โยกย้ายเปลี่ยนมือ --- คิดเป็น 1 ใน 3 ของหุ้น "เทียนยุ่ย" ที่ free float - ที่รายย่อยซื้อขายได้)

    เห็นไม่ได้การ ตลาดหุ้นฮ่องกง เช้าวันที่ 10 เม.ย. ทุบโต๊ะ สั่งหยุดเทรดหุ้น "เทียนยุ่ย" ก่อนจะเปื่อยยุ่ยไปกว่านี้
    วันที่ 11 ก็แล้ว และย่างเข้าวันนี้ วันที่ 12 ก็แล้ว ก็ยังไม่วี่แววจะกลับมาเทรดได้
    ยุ่ยยาว ยู่ยี่ ยุ่งเหยิง
    ทำไม?
    ก็ยังเป็นปริศนา ไม่มีอะไรผุดออกมาจากความดำมืด
    ว่ากันว่า ต้นตอเป็นเพราะบริษัท "เทียนยุ่ย" เอาหุ้นมาค้ำเพื่อกู้เงินมหาศาล แล้วโดน margin call
    (*ไม่มีเงินใช้หนี้ ก็ต้องโดนยึดหุ้นที่เอามาเป็นหลักประกัน ซึ่งเข้าใจว่าเจ้าหนี้ไม่เอาหุ้น แต่บังคับให้ขายหุ้นแลกมาเป็นเงินสด --- กรณีนี้ถึงทำให้หุ้นลงถล่มทลายขนาดนี้ได้)
    สื่อฝรั่งเขาว่าแบบนั้น
    สื่อจีนก็มองว่าอาจเป็นเยี่ยงนั้น แต่บ้างก็ว่าโดนนักลงทุนรายย่อยเทขายเอง
    ก็ยังไม่มีความกระจ่าง

    "หลี่หลิวฝ่า" 李留法 เถ้าแก่ "เทียนยุ่ย" ผู้ร่ำรวยมโหฬาร ไยชะตาชีวิตพลิกผันเช่นนี้
    (*หลายสิบปีก่อน สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สูง 208 เมตร ที่เมือง "ผิงติงซัน" มณฑลเหอหนาน เลื่องลือไปทั่วสารทิศ)

    ปี 2023 "เทียนยุ่ย" ขาดทุน 634 ล้านหยวน
    แต่ก็ไม่น่าจะกระเทือนหนักหนา --- ปี 2019-2022 กำไรรวมกันเกิน 5 พันล้านหยวน
    ไม่น่าเป็นประเด็น ...

    ยังไม่มีแถลงการณ์จาก "หลี่หลิวฝ่า"
    ผู้คนทั่วโลกหวาดผวา เพราะเสียววิกฤติอสังหาฯ จีนอยู่แล้ว --- ซึ่งก็คิดเชื่อมโยงตรงไปตรงมาเลย ถ้าอสังหาฯ ไม่ดี ปูนซีเมนต์จะไปดีได้ยังไง (ก่อสร้างก็ต้องใช้ปูนซีเมนต์นิ)
    ความผูกเกี่ยว ลากมาแบบนี้อันตรายอย่างยิ่ง!!!

    จับตาอนาคตซีเมนต์ "เทียนยุ่ย" ด้วยใจระทึก
    จะยื้อยุดกลับมาได้ หรือจะยุ่ยสลาย
    https://www.reuters.com/breakingviews/hong-kongs-latest-problem-is-99-nosedive-2024-04-10/
    https://www.bloomberg.com/news/arti...ng-after-99-dive-in-moments?fromMostRead=true

    https://www.facebook.com/share/p/StYQdAJVy51u3pte/?mibextid=oFDknk
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถึงทีของ ... ชาเขียวนมแล้วครับ

    ผมผสมทั้งหมด 3 สีผสมอาหารสังเคราะห์เพื่อให้ออกมาสีคล้ายชาเขียวนมที่ขายตามท้องตลาดให้ได้มากที่สุดครับ ได้แก่

    Tartrazine สีเหลือง
    Brilliant Blue สีน้ำเงิน/ฟ้า
    Sulfite ammonia caramel สีน้ำตาลเพื่อให้สีของชาเขียวนมไม่แปร๋นไปดูเป็นธรรมชาติ

    ++ =

    ผมใช้ใบชาเขียวเกรดกลางที่ไม่ย้อมสี ไม่แต่งกลิ่น 25 กรัม ชงกับน้ำเดือด 100 มล. ใส่นมสดไขมันเต็ม 500 มล. แล้วนำมาเติมสีตามภาพครับ

    ... ดังนั้นทุกแก้วจะมีทุกองค์ประกอบเหมือนกัน ความหวาน มัน หอม ต่างกันแค่สีนะครับ

    แก้ว A เลยดูจืดไปเลยทั้งๆที่ถ้าหลับตากิน แก้ว A-G รสเหมือนทุกอย่าง

    ปริมาณสีผสมอาหารแต่ละตัวอย่างอยู่ในตารางและเมื่อเอามาเทียบค่า ADI ครับ
    ถ้าผู้หญิงน้ำหนัก 50 kg กินชาเขียวนมทุกวัน สีที่ไม่ควรรับประทานทุกวันต่อเนื่องคือแก้ว E , F , G ครับเพราะมีปริมาณ brilliant blue ที่เกินค่า ADI ครับ

    ✅ส่วน tartrazine (เหลือง) และสี sulfite caramel (น้ำตาล) ไม่เกิน ADI ทุกกลุ่มตัวอย่างครับ เย้ๆๆ (ดีใจทำไม)

    *** ตัวอย่าง A คือไม่ใส่สีผสมอาหารเลย สีก็จะตุ่นๆ ส่วนตัวอย่าง H คือใช้ชาเขียวเกรด ceremonial ชงครับ ไม่มีสีผสมอาหาร ***
    _________

    ✅จะเห็นได้ว่าถ้าชาเขียวที่สีสวยจริงๆ โดยไม่ต้องใช้สีผสมอาหาร จะต้องเป็นเกรดที่ค่อนข้างดีเลย เช่น มัตฉะเกรด ceremonial เป็นต้น จะให้สีเขียวอมน้ำเงินตามธรรมชาติ แต่ราคาจะแพงมากกก แก้วนึงเห็นขายตามคาเฟ่คือ 120-180 บาทครับ

    ‼️❌ถ้าแก้วละ 30-60 บาท รับประกันเลย ชาเขียวเกรดกลางผสมสีผสมอาหาร 100000%

    FB_IMG_1712897208469.jpg

    แก้ว H คือชาเขียวนมที่ใช้ชาเขียว matcha แท้ๆ เกรด ceremonial ในการชงครับ (ความจริงสีเขียวเข้มกว่าในรูปแต่มันมีฟองขาวๆ) เป็นสีเขียวธรรมชาติไม่มีสีผสมอาหารครับ แต่ขายตามท้องตลาดแก้วละ 120++ บาทขึ้นครับ เพราะผงชาเขียวที่สีสวยแบบนี้แพงมาก (100 กรัม 600-1000บาท)

    ถ้าชาเขียวนม แต่สีแบบ ceremonial ราคา 40-60 บาทยังไงก็ผสมสีผสมอาหารครับ

    FB_IMG_1712897210690.jpg

    FB_IMG_1712897213128.jpg

    https://www.facebook.com/share/p/1FuWiyfSeSTFA1CW/?mibextid=oFDknk
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จัดไปเลยครับท่าน ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เหยียบ 92 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้ว

    ระดมพล! อิสราเอลป้องกันตัวเมืองเต็มกำลัง หลังกะเก็งว่าอิหร่านอาจจู่โจมภายในเสาร์นี้ เพื่อทวงหนี้แค้นที่อิสราเอลส่งโดรนบึ้มสถานทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย
    ตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาสอุบัติเมื่อ 7 ต.ค. 2023 ยังจำกัดวงแค่ในสมรภูมิกาซานะครับ อาจจะมีซัดกันนอกพื้นที่นั้น ก็ปะทะประปรายในลักษณะ "สงครามหน้าฉาก" proxy war ซึ่งนัวเนียกันระหว่างอิสราเอลกับกองกำลังที่อิหร่านหนุน ในซีเรีย อิรัก เลบานอน แต่ก็เปะปะ ไม่ได้ลุกลามบานปลายขยายวง
    มีเสียวไหม ก็มี เพราะไม่ใช่แค่พวกกองกำลังที่โดนเด็ดหัว แต่คนของอิหร่านเอง (สังกัดกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม IRGC ของอิหร่าน) ก็มีดับ
    แต่จนแล้วจนรอด ถือว่ายังพอมองผ่านได้
    แต่ แต่ แต่ ครั้งนี้ อาจต่างออกไป เพราะระดับสถานทูตอิหร่านนี่มัน "โดยตรง" ไม่มีฉากเฉิก ซึ่งๆ หน้าเลยล่ะครับท่าน (เมื่อ 1 เม.ย. 2024)
    แบบนี้ไม่ใช่ลูบคม ไม่ใช่หยามด้วยซ้ำ แต่ถึงขั้น "ท้ารบ" กลายๆ
    (เคยโพสต์ไปแล้วหนหนึ่งถึงประเด็นนี้)
    ต่อให้อิหร่านอยากปล่อยผ่านก็ปล่อยไม่ได้
    ไม่งั้นคนอื่นจะมองอิหร่านยังไง
    (เทียบกรณีนายพล กอเซ็ม สุไลมานี แล้วพูดยาก * โพสต์คราวก่อนละเอียดแล้ว คราวนี้ขอข้าม)
    หนาวๆ ร้อนๆ นะครับ อิสราเอลเดินหมากตานี้ไม่รู้ว่าพลาดไหม
    ต่อให้อิหร่านไม่โจมตี แต่ก็จะหลอนระแวงไปตลอด อยู่ไม่เป็นสุข

    FB_IMG_1712932065474.jpg FB_IMG_1712932096251.jpg

    https://www.wsj.com/world/middle-east/iranian-attack-expected-on-israel-in-next-two-days-42b0537c

    https://www.bloomberg.com/news/arti...for-potential-direct-attack-from-iran-in-days

    https://www.facebook.com/share/QCQJwAtsVpGg9CC8/?mibextid=oFDknk
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,661
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [ALERT] - วันนี้เรากำลังเจอสัญญาณที่ประหลาดมากในตลาดทุนซึ่ง #สำคัญมาก ที่นักลงทุนควรจะทราบไว้

    1️⃣ ราคา #ทองคำ ปรับตัวสูงขึ้น +20% ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา

    โดยปกติแล้วราคาทองคำจะไม่ปรับตัวสูงขึ้นรวดเร็วขนาดนี้ ในยามที่สถานการณ์เป็นปกติ ราคาทองคำพุ่งเร็วมากจนให้ผลตอบแทนมากกว่าดัชนี S&P 500 ที่บวกขึ้นมา +10% ในช่วงเดียวกันถึง 2 เท่า (นี่ไม่ใช่สถานการณ์ธรรมดาแน่ๆ)

    2️⃣ สิ่งที่ทำให้ยิ่งแปลกคือ ช่วงเวลาเดียวกัน #ราคาพันธบัตร กลับปรับตัวลดลงสวนทางกัน

    ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา Bond Yield พุ่ง +20% จาก 3.7% ขึ้นมาที่ 4.5% เพราะความคาดหวังในการที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 6 ครั้งในปีนี้ ดูเหมือนจะหายไปจากตลาดแล้ว และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เปลี่ยนมุมมองและคิดว่าจะเหลือเพียง 1-2 ครั้ง (อย่างเก่ง)

    3️⃣ โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็น ราคาทองคำ และ พันธบัตร มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันเสมอ หาก Bond Yield ปรับตัวสูงขึ้นก็จะเป็นแรงกดดันทองคำ (สินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน) อยู่เสมอ

    แต่... การที่ทั้ง 2 สินทรัพย์วิ่งไปคนละทางเช่นนี้เป็น #สัญญาณให้นักลงทุนต้องเอะใจ

    4️⃣ และหากกันไปมองตัวเลข #เศรษฐกิจ ในสหรัฐ ตัวเลขต่างๆก็ยังชี้ว่าเศรษฐกิจน่าจะมีโอกาสทำ Soft Landing ได้ หรือไม่ได้เกิดการถดถอยรุนแรงเหมือนที่เคยกังวลในอดีต

    แต่... ทำไมราคาทองคำในตลาดโลกถึงพุ่งแรงเช่นนี้ ?

    ดูเหมือนคำตอบเดียวที่จะอธิบายความเคลื่อนไหวที่ประหลาดในตลาดทุนตอนนี้ได้คือ...

    #สงคราม

    ซึ่งคงหนีไม่พ้นความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ที่ทางหน่วยข่าวกรองตะวันตกออกมาเตือนว่า "อิหร่าน" อาจโจมตี "อิสราเอล" ครั้งใหญ่ภายใน 48 ชั่วโมงข้างหน้านี้

    5️⃣ #น้ำมัน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มักปรับตัวสูงขึ้นหากจะมีสงครามในตะวันออกกลาง (ผู้ผลิตน้ำมันใหญ่ของโลก) ก็เป็นอีกสัญญาณที่กำลังชี้ไปในทางเดียวกัน เพราะเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ได้พุ่งขึ้นไปแตะ 92 เหรียญต่อบาร์เรล หรือทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน

    6️⃣ และหากมองดู VIX Index หรือ #ดัชนีชี้วัดความกลัว ของตลาด S&P500 ที่พุ่ง +25% ภายในวันเดียว มันทำให้เราเห็นชัดเลยว่านักลงทุนกำลังรุมซื้อประกันให้พอร์ตของตัวเอง เพื่อป้องกันการร่วงของตลาดครั้งใหญ่

    เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ? มีรายใหญ่ในตลาดที่รู้อะไร ที่เราไม่รู้หรือไม่ ? สงครามใหญ๋จะเกิดขึ้นในช่วงปิดตลาดสุดสัปดาห์นี้ ? หรือมันจะเป็นแค่การ Panic Sell ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ?

    #TraderKP ชวนทุกท่านมาติดตามข่าวการเงินโลกเป็นที่แรกก่อนใคร อย่าลืมกดติดตาม และเปิดกระดิ่งแจ้งเตือนข่าวสารที่สำคัญกับพวกเราไว้ได้เลย

    https://www.facebook.com/share/WK28DEJmSm75XBQs/?mibextid=oFDknk
     

แชร์หน้านี้

Loading...