ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ข้อมูลเว็บภัยพิบัติ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2556

    ประกาศฉบับที่ 17 ของทาง JTWC คาดว่า ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนหลังจากถล่มฟิลิปปินส์ จะลงสู่ทะเลจีนใต้แล้วมาขึ้นฝั่งเวียดนามราววันที่ 10 พ.ย. จากนั้นจะเข้าไปสลายตัวในลาว

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    [​IMG]

    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    การลงทันฑ์เริ่มขึ้นเมื่อดาวหางดวงหนึ่งปรากฏ - ทำนายของแม่ชี Hildegarde

    คำทำนายที่ว่า "ถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล" แว๊ปเข้ามาในความคิดอีก เมื่อหลายสำนักพูดถึงทำนายของแม่ชี Hildegard von Bingen ที่ท่านเคยทำนายเกี่ยวกับดาวหางดวงหนึ่งและสิ่งที่จะเกิดตามมาหลังดาวหางปรากฏขึ้น?

    นักบุญ Hildegard von Bingen ผู้มีความสามารถหลากหลาย ท่านเป็นซิสเตอร์คาทอลิกสมัยชาวเยอรมัน เป็นผู้มีญาณทิพย์ที่มีชื่อเสียงมากในยุโรปสมัยนั้น เป็นผู้ได้มีพรสวรรค์ในการทำนาย เป็นผู้ได้รับนิมิตจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน เหตุการณ์สำคัญหนึ่งในทำนายที่น่ากลัว และกำลังเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในขณะนี้คือ "การลงทัณฑ์" จะเกิดขึ้นเมื่อโลกจะถูกปกครองโดยเจตนารมณ์ของ แอนตีไครสต์* ในรูปของสงคราม โรคระบาด และดาวหางดวงหนึ่ง ??

    เมื่อดาวหางปรากฏบนแผ่นดินโลกทำให้เกิดน้ำท่วมและโรคระบาด หลังจากที่ดาวหางปรากฏชาติที่ยิ่งใหญ่ในมหาสมุทรจะได้รับความเสียหายจากการเกิดแผ่นดินไหว, พายุ, สึนามิ, โรคระบาด และบางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ ชาติที่ยิ่งใหญ่ก็จะประสบความพ่ายแพ้โดยทหารเสือสิงโต

    ..ดาวหางดวงหนึ่งที่ท่านพูดถึงหลายคนมองว่าเป็น ISON แต่จริงแล้วอาจเป็นดาวหางอื่น ส่วนสิ่งร้ายเหล่านั้นจะเลวร้ายขนาดไหน หากสาธยายคงไม่หมด แต่ลองนึกภาพเอาเองหลังสึนามิขนาดยักษ์ถล่ม แผ่นดินไหวที่มาพร้อมกัน โรคระบาดตามมาติดๆ ฯลฯ

    ..หาก ISON เป็นดาวหางในคำทำนาย? ISON จะทำให้เกิดภัยพิบัติเหล่านี้ หรือ ISON จะเป็นเพียงถูกนำมาใช้เพื่อปกปิดการกระทำของมารและทีมงานของเขา? หรือ ฯลฯ ไม่มีใครแน่ใจ .. แต่คำทำนายฮิลดีการ์ดมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งที่เห็นที่เป็นข่าว และยิ่งเมื่อได้อ่านในใบเบิ้ล "สิ่งที่พูดว่าเธอจะถูกทำลาย" คำถามใหญ่คือ เมื่อถ้าดาวหางที่อ้างถึงในคำทำนายเป็นดาวหาง ISON "ดาวหางของศตวรรษ" ที่พวกเขาเรียกมัน..

    9 กษัตริย์ทั้งหลายบนโลก ที่ได้ทำบาปทางเพศกับเธอและร่วมในความมั่งคั่งฟุ้งเฟ้อกับเธอจะร้องไห้คร่ำครวญให้เธอ เมื่อพวกเขาเห็นควันไฟที่เผาไหม้เธอ
    10 พวกเขาจะยืนอยู่ห่างๆเธอ เพราะกลัวจะต้องร่วมในความเจ็บปวดทรมานของเธอ พวกเขาจะพูดว่า

    ‘นครที่ยิ่งใหญ่ เจ้าช่างน่าอับอาย น่าอับอายเสียจริงๆ
    บาบิโลนนครที่เต็มไปด้วยอำนาจ
    เพราะการพิพากษาโทษของเจ้านั้นมาถึงภายในเวลาแค่ชั่วโมงเดียว’
    วิวรณ์ 18 ข้อ 9 และ 10

    .. เมืองๆหนึ่งอาจจะถึงคราวซวยจริงๆ อาจจะถึงเวลาบอกลาเมืองที่หลายคนให้สมญาว่า บาบิโลน ? ...


    * แอนตี้ไครสต์คือใคร คืออะไรหลายท่านรู้ๆกันอยู่นะ??
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      178.5 KB
      เปิดดู:
      1,748
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แอนตี้ไครส์ (antichrist)

    หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า คำว่า แอนตี้ไครส์ ถูกเอ่ยถึงในพระคัมภีร์ 5 ครั้งเท่านั้นคือในจดหมายของนักบุญยอห์น 1 และยอห์น 2 และถูกเอ่ยถึงโดยใช้ลักษณะนามที่เป็นพหูพจน์

    จดหมายนักบุญยอห์น 1 เขียนไว้ว่า “ลูกๆทั้งหลาย เวลานี้เป็นวาระสุดท้าย และตามที่ลูกได้ยินมาแล้วว่าปรปักษ์พระคริสต์ (antichrist) กำลังจะมา แม้แต่ในเวลานี้ปรปักษ์พระคริสต์ (antichrists มี S) ก็ได้ปรากฏมาแล้ว”

    ในตอนอื่นๆของพระคัมภีร์ นักบุญยอห์นได้พูดถึงปรปักษ์พระคริสต์เมื่อท่านบรรยายถึง “มังกร” หรือ “สัตว์ร้าย” หรือ “คนที่ไร้กฎหมาย” ซึ่งหมายถึง "จิตแห่งปรปักษ์พระคริสต์" จดหมายนักบุญยอห์นฉบับที่ 1 4:3 กล่าวว่า มันคือจิตที่ปฏิเสธพระคริสตเจ้า และจิตนี้ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว

    และจิตนี้มีอำนาจเข้มแข็งมากในยุคสมัยของเรา มันสามารถเร่งให้เกิดหายนะภัยแก่มนุษยชาติได้

    Father Joseph M. Esper ได้เขียนหนังสือชื่อ Defiance: The Antichrists of History and their Doomed War Against the Church (ปรปักษ์พระคริสต์ในประวัติศาสตร์และสงครามต่อสู้กับพระศาสนจักร) เพราะมันไม่เพียงแต่ปฏิเสธพระตริสตเจ้าเท่านั้น แต่มันยังพยายามทุกวิถีทางที่จะกำจัดมนุษย์ทุกคนที่รักพระองค์ด้วย

    ลองพิจารณาดูจากประวัติศาสตร์ ในอดีตจักรพรรดิโรมันที่ทำร้ายคริสตชนรุ่นแรกได้แก่ จักรพรรดิซีซาร์ , โดมิเชี่ยน , เนโร, จักรพรรดิ ดิโอเคลเชี่ยน ถึงกับตั้งตนเป็นพระเจ้าเสียเองทีเดียว (เวสปาเซี่ยน จักรพรรดิต่อจากเนโรกล่าวว่า “ข้าคิดว่า ข้าได้กลายเป็นพระเจ้าองค์หนึ่งแล้ว”) และยังมีชนชาติฮั่นจากมองโกลที่ยกทัพเข้ามารุกรานกรุงโรมในสมัยที่ศาสนาคริสต์ได้รับอิสระแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีกษัตริย์อเล็กซานเดอร์ที่ 6 นักปรัชญาบางคนเช่น Weishaupt และ มาร์ก (Marx ผู้ก่อตั้งลัทธิมาร์กซิส) และที่สำคัญอีกคนหนึ่งก็คือฮิตเลอร์ Hitler

    ในยุคสมัยของเรา ข่าวซึ่งเราได้รู้ได้เห็นกันดี ก็คือการกระทำของมุสลิมหัวรุนแรงซึ่งตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อโลกสมัยใหม่รวมถึงบรรดาคริสตชนด้วย คนพวกนี้ไม่ให้ความเคารพนับถือต่อคนที่นับถือศาสนาอื่น และได้รับการสั่งสอนให้ใช้ความรุนแรงต่อผู้ที่ไม่นับถือศาสนาอิสลาม พวกเขาพยายามทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ (jihad) ต่อประเทศที่นับถือศาสนาอื่น. นาย Walid Shoebat ซึ่งเคยเป็นผู้ก่อการร้ายมุสลิมคนหนึ่งที่ได้กลับใจมาเป็นคริสตชน ได้เขียนหนังสือ “God's War on Terror” เขียนไว้ว่า นักรบอิสลามเหล่านี้จะได้รับการชี้นำจาก “จิตแห่งปรปักษ์พระคริสต์”

    พระศาสนจักรให้ความเคารพต่อผู้นับถือศาสนาอื่นเสมอ รวมทั้งศาสนาอิสลามด้วย จากสังคยนาวาติกันที่สอง ระบุว่า “พระศาสนจักรคาทอลิกมิได้ปฏิเสธความจริงและความศักดิ์สิทธิของศาสนาเหล่านี้ ในทางตรงกันข้าม ความคิดและความเชื่อของพวกเขาบ่อยครั้งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงรังสีแห่งความจริงและความสว่างของพระเป็นเจ้าที่ส่องมายังมนุษย์ทุกคน” สำหรับศาสนาอิสลาม สังคายนาวาติกันกล่าวว่า “พระศาสนจักรให้ความเคารพต่อชาวมุสลิม พวกเขานมัสการพระเป็นเจ้าองค์เดียวกันกับเรา ปฏิบัติตามทบัญญัติของพระองค์ด้วยความศรัทธา องค์พระผู้สร้างสวรรค์และแผ่นดินทรงตรัสกับมนุษย์ทั้งหลายเท่าเทียมกัน” ชาวมุสลิมยังนับถือพระเยซูเจ้าว่าเป็นประกาศกองค์หนึ่งด้วย (ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่นับถือพระองค์เป็นพระเจ้า แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธพระองค์) ยิ่งไปกว่านั้น ชาวมุสลิมจำนวนมากมีความศรัทธาต่อพระนางพรหมจารีย์มารีย์มาก (ในคัมภีร์โกรานเอ่ยถึงพระนางมากกว่าพระเยซูเจ้า) แม่พระแห่งเมดจูกอเรจ์ เคยตรัสว่า “ลูกไม่ใช่คริสตชนที่แท้จริง ถ้าลูกไม่ให้ความเคารพต่อผู้นับถือศาสนาอื่น” พระนางยังเคยตรัสด้วยว่า หญิงมุสลิมในซาราเจโวคนหนึ่ง ดำเนินชีวิตเหมือนนักบุญทีเดียว

    พระอัครสังฆราชฟุลตัน ชีน (Archbishop Fulton J. Sheen) เชื่อว่าวันหนึ่ง พระนางมารีย์จะทรงชนะจิตใจชาวมุสลิมและนำพวกเขาให้กลับมาหาพระเยซูเจ้า

    เวลานี้มีชาวมุสลิมจำนวนมากอพยพจากประเทศในตะวันออกกลาง, จากอัฟริกาและที่อื่นๆ เข้าไปอาศัยอย่างถาวรในทุกประเทศทั่วทวีปยุโรป (โดยเฉพาะในฝรั่งเศส ซึ่งตามสถิติเวลานี้ระบุว่า มีมุสลิมอยู่มากที่สุดหมายเหตุ) และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆและนี่อาจถือได้ว่าเป็นสงครามประเภทหนึ่งที่เรียกว่า สงครามประชากร เป็นการรุกรานต่อประเทศในทวีปยุโรปโดยชาวมุสลิมเหมือนการทำสงครามในยุคกลาง

    จะมีสักวันไหม ที่คนเหล่านี้จะยอมรับในความเป็นพระเจ้าของพระเยซูเจ้า? ขอพระแม่มารีย์ทรงเปิดจิตใจของพวกเขา ขอให้พระนางมีชัยชนะต่อจิตใจของพวกเขาและนำพวกเขามาหาองค์พระบุตรของพระนางด้วยเทอญ

    หมายเหตุ : ในการศึกษาที่ดำเนินการโดยกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส: การสำรวจสถิติบ่งชี้ว่า ในฝรั่งเศสมีมัสยิดจำนวน 2,300 แห่ง และมีประชากรมุสลิม 7 ล้านคน ซึ่งทำให้ศาสนาอิสลามกลายเป็นศาสนาในลำดับที่ 2 รองจากศาสนาคริสต์ในฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์อีกด้วยว่าชาวมุสลิมจะมีจำนวนหนึ่งในสี่ของประชากรฝรั่งเศสเมื่อเข้าสู่ปี ค.ศ.2025 ในขณะที่การคาดการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่ามุสลิมจะมีจำนวน 20% จากพลเมืองของยุโรปในปี ค.ศ.2050


    BOOK DISCUSSES 'ANTICHRISTS' IN HISTORY AND WHETHER THE ANTICHRIST WILL RISE IN MIDDLE EAST
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 18 กันยายน 2553 00:00:12 น.
    สนธิ สารธรรม
    บาทหลวงแอนดรู จะเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเหตุ การณ์ก่อนสิ้นยุคเปิดเผยโดยเซนต์ไมเคิลต่อไป :

    มืด 3 วัน 3 คืน คืออะไร?3 วัน 3 คืน อันมืดมิด (ซึ่งจริงๆ แล้ว จะเป็นเวลาถึง 6 วันทีเดียว) จะเป็นการลงทัณฑ์ที่เลวร้ายที่สุดที่พวกเธอเคยประสบมา ก่อนอื่นจะเป็นการมืดตามธรรมชาติถึง 3 วัน ซึ่งจะไม่มีแสงสว่างจากพระอาทิตย์ตามปกติ นี่เป็นสัญญาณเตือนแก่โลก เป็นการให้เวลาแก่บรรดาสัตบุรุษ เพื่อจะหาที่พักพิง และที่หลบภัย



    จากนั้นจะมีอีก 3 วันอันมืดมิด ซึ่งเป็นความมืดเหนือธรรมขาติ 3 วัน ความมืดนี้มิใช่เป็นเพียงความมืดและความเย็นทางจิตวิญญาณด้วย เป็นการครอบงำของมารไปทั้งโลก มารเป็นความมืด เมื่อมันสามารถครอบงำบุคคลหนึ่งได้ มันก็ย่อมครอบงำโลกทั้งโลกได้เช่นกัน

    สัญญาณเตือนคืออะไร?สัญญาณเตือนข้อที่ 1 การประจันหน้ากันระหว่างประชาชนกับประชาชน จะมสงครามระหว่างเชื้อชาติ การปฏิวัติรัฐประหาร การปะทะกันระหว่างประ ชาชาติต่อประชาชาตินี้ ไม่ใช่สงครามโลก แต่ โลกใบนี้จะอยู่ในสงคราม เหมือนกับทั้ง 30 ประเทศ ทำสงครามระหว่างกันและกัน (หากเป็นสงครามโลกก็แค่ 2 ฝ่าย แต่นี้ 30 ชาติ ก็ 30 ฝ่าย) เป็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งก็นำไปสู่สัญญาณเตือนข้อที่ 2 ประชาชนส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัวถึงสัญญาณเตือนข้อแรก จนกระทั่งสงครามมาประชิดติดเรือนชานนั่นแหละ

    สัญญาณเตือนข้อที่ 2 ก็คือ ทุกสิ่งในธรรมชาติต่างระเบิดออกมาอย่างโศกสลด เหมือนกับว่ากำลังเจ็บ ปวดแสนสาหัส จึงได้ปล่อยผลกระทบอันรุนแรงผิดปกติ อย่างเช่นความแห้งแล้ง น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด พายุทอร์นาโด เฮอริเคน แผ่นดินไหว ฯลฯ ซึ่งจะทำให้มนุษย์สยบซบลงแทบพื้นกราบวันทาองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงมหิทธิเดชนุภาพ สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นและจะนำไปสู่ สัญญาณเตือนข้อต่อไป คือ สัญญาณเตือนข้อที่ 3 อัน ได้แก่ สัญญาณเตือนภายใน เป็นสัญญาณเตือนทางจิตวิญญาณ กล่าวคือแสงสีแดงประหลาดจะส่องทะลุเข้าไปในจิตวิญญาณว่า เราได้ทำกรรมดีหรือกรรมชั่วแล้วจะให้ผลเป็นเช่นไร ตามที่ได้แจกแจงมาแล้ว

    ความหนาวจับแข็งไม่ใช่เป็นสัญญาณเตือน แต่เป็นส่วนหนึ่งของการลงทัณฑ์ และเป็นกิจเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า ที่ว่าเป็นพระเมตตาเพราะเหตุว่าผู้สูงอายุ คนยากจน คนไม่มีบ้าน และเด็กๆ จะเป็นคนส่วนใหญ่ ซึ่งจะต้องจากโลกนี้ไป คนที่แข็งแรงเท่านั้นจะอยู่รอดเหลือ ความหนาวจับแข็งได้ถูกเลื่อนออกไป จนกระทั่งจะถึงเหตุ การณ์มืด 3 วัน 3 คืน ความหนาวจับแข็งก็คือนิวเคลียร์นั่นเอง

    มหาวิปโยค (Tribulation) คืออะไร?มหาวิปโยค คือ ช่วงเวลาระหว่างการครองอำนาจของแอนตี้ไครสต์ (Antichrist) มหาวิปโยคถูกพยากรณ์จากพระคัมภีร์ ขณะนี้เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น แต่ทุกสิ่งจนกระทั่งถึงเวลานั้นถือเป็นการลงทัณฑ์ย่อย เพื่อทำให้มนุษย์ตื่นขึ้น และหันหน้ากลับมาทำตามพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

    การส่องสว่างของพระจิตครั้งที่ 2 (Second Pentecost) คืออะไร?
    การส่องสว่างของพระจิตครั้งที่ 2 จริงๆ แล้วก็คือ เหตุการณ์ที่เรียกว่า ปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ นั่นเอง รายละเอียดเกี่ยวกับปาฏิหาริย์นี้ได้มาจากคำพรรณนาของแม่พระที่ปรากฏมาที่หมู่บ้าน คาราบันดัล แม่พระกล่าวว่า เสาที่ลุกเป็นเปลวไฟ (จะลุกโชนทั้งวันทั้งคืน ไม่มีวันดับ) จะปรากฏมาที่ต้นสน 9 ต้น ที่แม่พระเคยปรากฏมา เสาไฟฟ้านี้จะปรากฏมาทุกแห่งในโลกที่แม่พระเคยปรากฏมา เช่น ลูรด์ ฝรั่งเศส ฟาติมา โปรตุเกส อากีตะ ญี่ปุ่น เมดจูกอเรีย บอสเนีย นอกจากนี้เสาไฟที่ลุกโชนทั้งวันทั้งคืนนี้จะปรากฏมาลอยเด่นเหนือโบสถ์ที่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เท่านั้น

    แต่เรายังพอมีเวลาเหลืออีกสักหน่อยไหม?พอมีอีกนิดหน่อย แต่ผมไม่อยากเน้นนัก แต่พวกเธออาจตั้งข้อสังเกตไว้ว่า เป็นความเขลาอย่างมหันต์ ที่บุคคลหนึ่งจะกล่าวว่า "โอ้ยยังมีเวลาถมไป" แทนที่จะพูดว่า "อุ้ยเวลาเหลือน้อยนิดเดียว" (หน้าร้อนนี้ 1996 เราจะต้องทำพิธีถวายตัวแก่พระผู้เป็นเจ้า ไม่ควรช้าไปจาก 2 ปีนี้)

    สงครามต่างๆ จะดำเนินต่อไปสักระยะหนึ่งหลังจากการลงทัณฑ์หรือเปล่า?
    ไม่ใช่ เมื่อพวกเธอพูดถึงการลงทัณฑ์ สงคราม ผมคะเนว่าพวกเธอกำลังพูดถึงหลังสัญญาณเตือนมาแล้ว เมื่อสัญญาณเตือนมาถึง สงครามต่างๆ จะยุติ จะมีเพียงการปะทะแบบอื่น เป็นการต่อต้าน ปรปักษ์พระคริสต์ (Antichrist, The Matreiya โปรดสังเกตคำ "มาเตรอิยา" มี the นำหน้า น่าจะเป็นการบอกถึงตำแหน่งหรือสมญามากกว่า ไม่น่าจะเป็นชื่อ หรืออาจจะเป็นการบอกใบ้ด้วยการสลับอักษร ANAGRAM ซึ่ง Nostradamus นิยมใช้เป็นประจำสนธิ) การต่อต้านจะดำเนินไปแบบใต้ดิน

    ช่วงเวลาแห่งสันติภาพจะเกิดขึ้นเมื่อไร?ช่วงเวลาแห่งสันติภาพ 25 ปี ได้ผ่านพ้นไปแล้วใครจะเป็นผู้ประกาศข่าวดี?ระหว่างปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ ประชาชนทุกคนจะได้รับพระพรแห่งพระปรีชาญาณอย่างเต็มเปี่ยม อย่างไรก็ดี ผู้ได้รับเลือกจากพระเจ้าจำนวน 144,000 คน จะได้รับการแปลงสภาพสู่สถานภาพเหนือธรรมชาติ พวกเขาจะมีสมรรถนะทาง ร่างกายเหมือนที่อาดัมและอีฟเคยมี พวกเขาจะไม่ถูกควบคุมด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก ที่จะต้องออกแรงเดิน วิ่ง นั่ง เหมือนคนทั่วไป แต่จะเป็นเหมือนนักบุญ หรือผู้ศักดิ์สิทธิ์ในประวัติศาสตร์ ซึ่งสามารถปรากฏตัวสองสถานที่ในเวลาเดียวกัน สามารถเดินทะลุกำแพง และไม่มีใครทำให้เขาตายได้ พวกเขาจะมีสภาพหนึ่งที่เราเรียกว่า เหนือธรรมชาติ แต่อยู่ในสภาพที่มีมา ก่อนธรรมชาติ ปัจจุบัน จึงเรียกสภาพนี้ว่า "ก่อนธรรมชาติ" (preternatural) คือก่อนสภาพของเราที่เป็นมลทิน นั่นก็คือ พวกเขาจะมีสภาพไร้บาป

    ผู้แพร่ข่าวดี 144,000 คนเหล่านี้ จะสามารถไปแพร่ข่าวดีแก่โลกใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ (พวกเขาไม่ต้องพลีชีพเพื่อพระศาสนา) นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจึงตรัสว่า "จนกว่าทุกคนจะได้รับแจ้งข่าวดี และได้รับการสอนหลักธรรมอย่างถ้วนทั่วแล้วเท่านั้น"

    ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าเองจะเป็นผู้คัดสรรผู้แพร่ข่าวดีเหล่านี้ ซึ่งจะออกไปเทศน์สอนมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าหญิงหรือชาย ไม่ว่าไพร่หรือผู้ดี จะยอมรับนับถือผู้แพร่ข่าวดีเหล่านี้ด้วยความเต็มใจ เพราะสัญญาณเตือนนั้นชัดเจน และเร้าใจอยู่ในตัว ผู้แพร่ข่าวดีเหล่านี้จะมุ่งหน้าไปบอกเล่าเก้าสิบถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น แล้วเล่าเรื่องอย่างซื่อๆ ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงสัญญาณต่างๆ เหล่านี้ แล้วผู้คนจะพากันกระหายใคร่รู้ความจริง

    ใครคือ แอนตี้ไครสต์?มาเตรอิยา (Matreiya) คือ ปรปักษ์พระคริสต์ (Antichrist) ไม่มีภาพถ่ายมาแสดงได้ เพราะเขาปรากฏตัวเป็นคน 3 เชื้อชาติ เชื้อชาติอารามาอิก เข้มๆ แบบคนสเปน เชื้อชาติยุโรปภาคเหนือ และเชื้อชาติอังโกล แซกชั่น

    ปัจจุบันนี้ (ปี 1996) ส่วนใหญ่เขาจะอยู่แถวตะวันออก กลาง บริเวณเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกแถบประเทศบอล ติก เขาเป็นผู้หนึ่งซึ่งเป็นสื่อกลางในทุกเรื่องที่องค์การนาโต กระทำในประเทศต่างๆ แถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เขาเป็นคนหนึ่งจะก่อเรื่องยุ่งๆ ไปทั่ว แล้วก็จะเสนอหน้ามาบอกว่า "ปัญหานี้ข้าพเจ้าช่วยจัดการให้ได้"

    ไม่มีใครได้ยินถึงเขา...แอนตี้ไครสต์จะเริ่มลงมือปฏิบัติการก็ต่อเมื่อได้เกิดปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ขึ้นแล้ว ฉะนั้น ช่วงนี้หากเขาจะทำอะไรก็เป็นแค่การเตรียมการเท่านั้น

    แอนตี้ไครสต์จะตายเมื่อไหร่แน่?แอนตี้ไครสต์ในฐานะที่เป็นบุคคลหนึ่ง จะถูกฆ่าตาย 2-3 สัปดาห์ก่อนช่วงสุดท้าย ที่เกิดมืดไปทั่วโลก แต่ในฐานะที่เป็นมารไม่ใช่บุคคล มันจะไปพร้อมๆ กับพวกมารทั้งหลาย แล้วก็จะพากันไปทำลายโลกต่อไป

    วันนี้ขอยุติการบรรยายของบาทหลวงแอนดรูไว้แค่นี้ก่อน
    แต่จะขอให้คำตอบว่าใครคือ แอนตี้ไครสต์ ตามการตีความของบาทหลวงกอบบี
    ตามพระวิวรณ์บทที่ 13 สัตว์ร้ายตัวที่สองที่ขึ้นมาจากแผ่นดิน คือ ประกาศกเทียม เป็นผู้รับใช้สัตว์ร้ายตัวแรก ประกาศกเทียมหรือ False prophet หมายถึง ศาสนาจารย์จอมปลอม ท่านบาทหลวงกอบบีตีความว่าเป็นพวกฟรีเมซอนที่แทรกซึมเข้าไปในพระศาสนจักร พระวิวรณ์กล่าวว่า เขาผู้นี้จะใช้อำนาจทั้งหมดของสัตว์ร้ายตัวแรก เมื่อสัตว์ร้ายตัวที่สองนี้ทำให้แผ่นดิน และผู้อาศัยบนแผ่นดินกราบไหว้สัตว์ร้ายตัวแรกที่มีบาดแผลฉกรรจ์ถึงตายแต่หายแล้ว

    ดังนั้น จำเป็นต้องมีปรีชาญาณ ผู้มีปัญญาจงนับตัวเลขของสัตว์ร้ายตัวที่สองนี้ให้ได้ เพราะมันเป็นจำนวนเลขที่หมายถึงมนุษย์คนหนึ่ง จำนวนเลขนั้นคือ 666

    หมายเลข 7 ตามพระคัมภีร์หมายถึงความสมบูรณ์ ครบครัน เต็มเปี่ยม เช่น พระศาสนจักรทั้งเจ็ด

    หมายเลข 6 หมายถึง ความไม่สมบูรณ์ ความบกพร่อง หรืออีกนัยหนึ่ง 6 = 7-1
    666 คือ ยอดแห่งความบกพร่อง หรือยอดแห่งความชั่วร้าย
    เซนต์จอห์นผู้บันทึกพระวิวรณ์เป็นภาษากรีกได้ให้รหัสชื่อของแอนตี้ไครสต์ ซึ่งจะเป็นประมุขโลกในยุคจักรวรรดิโร มันฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ (EU) ว่า LETEINOS คือ พวกละติน ซึ่งหมายถึง พวกโรมันนั่นเอง หากเอาอักษร LETEINOS มาแทนค่าตัวเลขตามแบบฉบับของชาวกรีก ก็จะได้ L=30 A=1

    T=300 E=5 I=10 N=50 O=70 S=200 ผลลัพธ์ก็คือ 666 อันเป็นชื่อของสัตว์ร้ายตัวนี้

    พระเยซูมิได้ตรัสอย่างจะแจ้งตรงไปตรงมาว่า คำอธิบายนี้คือ วิบัติที่ 1 ตามวิวรณ์ 9 : 1-11 แต่ทว่าคนตาบอดเท่านั้นที่ยังอาจจะสงสัย

    พระองค์อธิบายว่าใครคือดาวที่ร่วงหล่น? ขุมอเวจีหมายถึงอะไร? การเปิดขุมอเวจีหมายถึงอะไร ควันและตั๊กแตนที่ออกมาจากขุมอเวจีนั้นหมายถึงอะไร ทำไมแมงป่องไปต่อยคนที่ไม่มีเครื่องหมายของพระคริสต์ แต่จะไปต่อยผู้ที่มีเครื่องหมายของซาตาน คือ หมายเลข 666

    แอนตี้ไครสต์ซึ่งมอบโอกาสให้มารซาตานปรา กฏตนลงมาจากฟ้าท่ามกลางผู้คน โดยปรากฏตนมีหน้า มีเสียง และมีมือเหมือนมนุษย์ที่มีเนื้อหนังมังสา เป็น การปรากฏนำหน้าการเสด็จมาครั้งที่ 2 ของพระเยซู เพื่อจะได้ทำลายพระองค์และทุกอย่างบนโลกให้พินาศเพื่อว่าเมื่อพระองค์จะเสด็จมาก็จะไม่พบอะไรเลยนอกจากศัตรู และซากเปื่อยเน่าผุพัง แต่ผลสุดท้ายจะตรงกันข้าม เหมือนพระมหาทรมานของพระองค์ จะเป็นเหมือนตะแกรงที่จะกรองเอาสิ่งดีๆ ไว้ แล้วปล่อยให้สิ่งผุพังเน่าเปื่อยเสียจนแก้ไขไม่ได้แล้วหลุดลอยไป และพระองค์จะเก็บสิ่งดีๆ ไว้ แล้วจะเริ่มประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติใหม่ ดังเช่นเคยทำในสมัยน้ำวินาศมาแล้วคำอธิบายข้อปลีกย่อยอื่นๆ เกี่ยวกับเทวทูตองค์ที่ 5 เป่าแตร ควันเตาใหญ่ซึ่งเปิดกว้างออกมาจะทำให้พระอาทิตย์และอากาศมืดมัวไป ทำให้ท้องฟ้าแห่งบรรยากาศของโลก และท้องฟ้าแห่งบรร ยากาศของดวงดาวมืดมัว หมายความว่า ผลแห่งกิจกรรมของมารและของวิญญาณของคนชั่วจะขัดขวางหน้าที่การงานอันอิสระ ทั้งเรื่องทางโลกและทางธรรม หากผู้นั้นไม่ออกแรงอย่างสุดฤทธิ์ในการบังคับตัวเอง ในการพินิจพิจารณาและในการบำเพ็ญภาวนา ก็จะสูญเสียแสงสว่างแห่งความเชื่อและเหตุผลจะถูก

    พวกมากลากไป ตามกระแสโลกจนไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ คล้ายๆ กับเหตุการณ์วันที่พระเยซูกำลังจะถูกนำไปตรึงกางเขน พระองค์ได้ตรัสกับผู้ที่ถูกว่าจ้างมาจับพระองค์ว่า "เราอยู่กับท่านในพระวิหารทุกๆ วัน แต่พวกท่านมิได้จับกุมเรา แต่บัดนี้เป็นเวลาของพวกท่าน เป็นเวลาที่อำนาจแห่งความมืดกำลังเป็นใหญ่" (ลูกา 22:53)

    เพื่อขัดขวางมิให้สานุศิษย์ของพระองค์ตกใจจากการถูกจู่โจมพระเยซูจึงย้ำแก่พวกเขาว่า "จงตื่นเฝ้าและภาวนาเพื่อมิให้ถูกประจญ เนื่องเพราะจิตนั้นพร้อมอยู่แต่ร่างกายนั้นอ่อนแอ"

    คำเตือนนี้ใช้ได้สำหรับพวกเราในปลายศตวรรษที่ 20 ซึ่งเรากำลังอยู่ใกล้กับเหตุการณ์สำคัญและน่าสะพรึงกลัว แต่ทว่าผลคงจะไม่เหมือนกัน สำหรับผู้ที่มีเครื่องหมายจากพระเจ้า กับผู้ที่มีเครื่องหมายของแอนตี้ไครสต์ ผู้ที่มีเครื่องหมายของแอนตี้ไครสต์ก็จะถูกบีบคั้นจากความไม่ดีอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะต้องทรมานทางร่างกายเหมือนกับที่คนถูกแมงป่องต่อย ก็จะปวดร้าวเพราะพิษของมัน พิษแมงป่องจะทำให้เจ็บปวดไปชั่วครู่ จะบวมไปสัก 4-5 ชั่วโมง ไม่ถึงทำให้ตาย ผลของจิตชั่วไม่ถึงทำให้ตาย ผลของจิตชั่วก็เช่นกัน ก็แค่ชั่วครู่ชั่วยาม

    เซนต์จอห์นยังมองเห็นอีกแง่มุมหนึ่งเป็นตั๊กแตน ก็หมายถึง มารหรือวิญญาณของคนชั่ว ทั้งหมดก็เป็นนรกนั่นเอง ไม่มีอะไรแตกต่างกันระหว่างมารและวิญญาณของคนชั่ว

    ท่าทีของตั๊กแตนก็จะเป็นเช่นเดียวกับม้าศึก เวลาจะเคลื่อนตัวก็ทำให้เกิดเสียงกระทบกันเหมือนตั๊กแตนขยับปีก ก็เกิดเสียงดังครืนครันหมายความถึงจิตชั่วที่จู่โจมเข้าใส่มนุษย์ที่ไม่ทันตั้งตัว หรือหลับใหลอยู่ในบาป พวกมันก็จะเอาชนะได้อย่างง่ายดาย บนหัวของพวกมันก็มีมงกุฎทองคำ ก็หมายถึง ความจองหองพองขนไร้ขอบเขต มีหน้าตาคล้ายมนุษย์ หมายถึงลัทธิถือหลักเหตุผลเป็นสำคัญ ซึ่งแพร่ภาพของโลกที่เป็นของมนุษย์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับความเชื่อที่เหนือไปกว่านั้น มีผมแบบผู้หญิง หมายถึง ถือการสนุกสนานสำราญบานใจเป็นสำคัญ มีฟันคล้ายสิงโต หมายถึงการพัฒนาอย่างไร้ขอบเขตในเรื่องการกินอยู่ (บริโภคนิยม) ถือลัทธิเทวนิยมแบบมาร์กซิสต์เป็นใหญ่ ถือเงินเป็นพระเจ้านั่นเอง ที่หน้าอกคลุมด้วยทับทรวงเหล็ก หมายถึง ความเห็นแก่ตัวอย่างไร้เทียมทาน ทุกอย่างต้องเป็นของฉันแต่ผู้เดียว ที่หาง (ของแมงป่อง) มีเหล็กในที่มีพิษ หางก็คือ ประกาศกเทียม หรือผู้เอาศาสนามาหากิน พิษก็คือ ความปลิ้นปล้อนหลอกลวง ซึ่งจะคร่าวิญญาณพวกเขาจะมีกษัตริย์เป็นผู้กำหนดชะตากรรม ก็คือมารซาตาน หรือพญามังกรนั่นเอง ในวิวรณ์บทที่ 12 ที่มีกล่าวถึง พญามังกรที่ตวัดหางกวาดเอาดวงดาวบนท้องฟ้าร่วงหล่นลงสู่พื้นโลกเสียหนึ่งในสามของดวงดาวทั้งหมด หมายถึงมารซาตานจะล่อลวงพระสงฆ์องค์เจ้านักบวช นักพรต ให้เลิกปฏิบัติธรรม ถลำตัวพัวพันในโลกียวิสัยไปหนึ่งในสาม.

    คำคมPer aspera ad astra แปรู อาสเปรา อัด อาสตราทางรกวกขึ้นสวรรค์
    บรรยายใต้ภาพ
    แอนตี้ไครสต์จะเข้าพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า และจะขึ้นบัลลังก์ของพระองค์ให้ผู้คนมากราบไหว้มันเป็นพระเจ้า

    คอลัมน์: สู่ฟ้าใหม่ แผ่นดินใหม่: แอนตี้ไครสต์จะเป็นใครกันแน่...
     
  5. วิปัสนะ

    วิปัสนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    601
    ค่าพลัง:
    +647
    เมื่อเวลา 20 นาฬิกา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • latest.jpg
      latest.jpg
      ขนาดไฟล์:
      125.1 KB
      เปิดดู:
      81
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผู้ทำลายล้างมนุษยชาติในกุรอาน ดัจญาล (หรือสัญลักษณ์ 666 ในไบเบิล)

    มีบันทึกว่า
    “ท่านศาสดาได้เข้ามายังพวกเราในขณะที่พวกเรากำลังคุยกันอยู่ ท่านถามว่า "พวกท่านกำลังพูดคุยเรื่องอะไรอยู่?"
    พวกเราตอบว่า กำลังพูดถึงเรื่องวันการตัดสิน(กิยามะฮฺ) ท่านนบีกล่าวว่า
    "วันแห่งการตัดสินหรือยุคสุดท้ายของโลก(กิยามะฮฺ)จะยังไม่อุบัติขึ้นจนกว่าพวกท่านจะได้เห็นสัญญาณก่อนหน้านั้นสิบประการ" โดยท่านได้กล่าวถึง
    -ควันออกจากพื้นดิน
    -การปรากฏตัวของดัจญาล
    -จะมีสัตว์(พูดกับมนุษย์)
    -ดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก
    -นบีอีซา(เยซูคริส์ต) จะลงมาจากฟ้า
    -ยะอ์ญูจญ์และมะอ์ญูจญ์(ผู้ช่วยดัจญาล)จะออกมา
    -จะมีเหตุการณ์ธรณีสูบสามแห่ง เกิดทางทิศตะวันออก เกิดทางทิศตะวันตก และเกิดบริเวณคาบสมุทรอาหรับ
    -และประการสุดท้ายจะมีไฟพุ่งออกมาจากประเทศยะมัน(เยเมน)ไล่ต้อนมวลมนุษย์ให้ไปที่แหล่งรวม(มะห์ชัร)ของพวกเขา”
    (มุสลิม : 2901)
    ดัจญาล มาจากรากศัพท์ในภาษาอาหรับว่า ดะ-ญะ-ละ แปลว่า " เขาได้ปกปิด...หรือปิดบัง" อีกความหมายก็คือ "พูดเท็จ ผู้หลอกลวง"

    เมื่อเทียบกับความหมายทางศาสนศาตร์ ของคริสเตียนแล้ว คำนี้ก็คือ "แอนตี้ไครสต์" หรือผู้ที่ต่อต้าน ขัดขวางพระคริสต์ ซึ่งก็คือ นบีอีซา (อ.ล.) ในศาสนาอิสลาม
    ดัจญาลเป็นมนุษย์เพศชาย ซึ่งจะปรากฏตัวในวาระสุดท้ายของโลก มันจะอ้างตนเองว่าเป็นพระผู้เป็นเจ้า โดยจะปรากฏตัวครั้งแรก ณ เมืองคุรอาซาน(ปัจจุบันอยู่ในอิหร่าน ) จากนั้นมันจะเดินทางเข้าไปยังทุกหนแห่ง ยกเว้น มัสยิดบัยตุลมักดิส(มัญยิดโดมทอง-ปาเลสไตน์) มัสยิดอัฏฏูร(แหลมซีนาย ประเทศอียิปต์) เมืองมักกะฮฺ และมะดีนะฮฺ
    มันไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่ดังกล่าวได้เพราะมีฑูตสวรรค์คอยพิทักษ์รักษาอยู่ (เมื่อมันไม่สามารถเข้าเมืองมะดีนะฮฺได้) มันจะหยุดอยู่ ณ พื้นที่แห้งแล้งไม่มีต้นไม้(อัส-สะบะเคาะฮฺ) แล้วเมืองมะดีนะฮจะสั่นไหวสามครั้ง เมื่อนั้นบรรดาผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาและพวกกลับกลอก(มุนาฟิก)จะถูกขับกระเด็นออกจากเมืองมะดีนะฮฺทั้งหมด
    คุณลักษณะของดัจญาล
    ท่านศาสดาได้ตักเตือนพวกเราไม่ให้หลงเชื่อดัจญาล ดังนั้นท่านจึงอธิบายแก่พวกเราถึงคุณลักษณะของมันเพื่อให้พวกเราได้ระวังตัว ท่านได้ระบุว่ามันเป็นชายวัยฉกรรณ์มีผิวสีแดง มีตาพิการ เป็นหมันไม่ให้กำเนิดลูก บนหน้าผากจะมีอักษรอาหรับเขียนว่ากาฟิรฺ มุสลิมทุกคนเมื่อเห็นแล้วสามารถอ่านออกได้ ดังบันทึก(หะดีษ)
    ท่านศาสดาได้กล่าวว่า
    ความว่า “แท้จริงดัจญาลผู้ตาบอดนั้นเป็นชาย รูปร่างเตี้ย เดินขาถ่าง ผมหยิก ตาข้างหนึ่งของมันพิการ(บอด)ไม่มีแวว ดวงตาของมันไม่โปนบวมและยื่นออกมา(ผิวบริเวณตาจะเรียบ) ถ้าหากมันมาหลอกลวงพวกท่านเพิ่งรู้เถิดว่าแท้จริงพระผู้เป็นเจ้าของท่านไม่ได้มีตาพิการ”
    ความว่า "คืนหนึ่ง ฉันฝันเห็นตัวฉันอยู่ที่กะบะห์และฉันเห็นคนผิวดำรูปร่างสง่างามที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเขามีผมยาวลงมาระหว่างหูทั้งสองข้างและบ่าของเขา เป็นเส้นผมที่สวยงามที่สุดเท่าที่ท่านเคยเห็น เขาหวีผมของเขาและมีน้ำหยดลงมา เขาเอนพิงคนสองคนหรือพิงบนบ่าคนสองคนที่กำลังเวียนรอบกะบะห์
    ฉันได้ถามเขาว่า เขาเป็นใคร และได้รับคำตอบว่า อัลมะซีฮ์ อิบนุมัรยัม ดงันันเราจึงเดินไปใกล้กับชายผมหยิกและตาบอดเหมือนกับองุ่นที่ลอยน้ำ ฉันได้ถามว่า คนผู้นี้เป็นใคร และได้ถูกบอกว่า มันคืออัลมะซฮ์ อัดดัจญาล"
    ยังมีรายงานเสริมอีกว่า ดัจญาลจะครองโลกเป็นเวลา 40 วัน เนื่องจากโกลได้ผ่านสงครามมาอย่างหนักจนแทบเสียสมดุล วันแรกจะเท่ากับหนึ่งปี วันที่สองจะเท่ากับหนึ่งเดือน วันที่สามจะเท่ากับหนึ่งสัปดาห์ ส่วนวันที่เหลือจะเป็นปกติ ดังนั้นดัจญาลจะมีอำนาจปกครองเป็นเวลา 14 เดือน และ 14 วัน
    เชื่อกันว่ามันจะล่อหลอกผู้คนเป็นอันมาก และทำให้เกิดสงครามไปทั่วบริเวญที่มันผ่านจนนำมาซึ่งความวุ่นวายจนกระจายกันไปทั่วโลก
    มุสลิมเชื่อว่าการปรากฏตัวของดัจญาล เป็นบททดสอบศรัทธาอันยิ่งใหญ่สำหรับผู้ศรัทธา เพราะพระเจ้าจะให้มันมีความสามารถทำอภินิหารให้ผู้คนแปลกใจ
    มีหลักฐานจากตัวบทว่าดัจญาลนั้นจะล่อหลอกด้วยสวรรค์และนรก(ปลอม) นรกของมันก็คือสวรรค์ที่แท้จริง ส่วนสวรรค์ของเขาก็คือนรกที่แท้จริง
    มันมีภูเขาขนมปัง มีแม่นํ้า มันสามารถสั่งฟ้าให้หลั่งนํ้าฝน สามารถสั่งพื้นดินให้พืชพันธุ์งอกเงยได้ ทรัพยากรมีค่าในดินก็ทำตามมัน
    มันสามารถเดินทางบนพื้นแผ่นดินอย่างรวดเร็ว เหมือนกับฝนเมื่อมีลมพายุพัด มันจะอยู่ในพื้นพิภพนี้นาน 40 วัน โดยจะมี 1 วันที่นานเหมือน 1 ปี มี 1 วันที่นานเหมือน 1 เดือน และมี 1 วันที่นานเหมือน 1อาทิตย์ส่วนวันที่เหลือจะเหมือนวันปกติธรรมดาทั่วไป

    จากนั้น นบีอีซา(เยซูคริส์ต)
    จะเป็นผู้ลงมือฆ่ามัน ณ ประตูลุ๊ด
    ในประเทศปาเลสไตน์
    หมายเหตุ
    มุสลิมหลายๆยุคตีความในส่วนบรรยาเกี่ยวกับพลังของดัจญาล ต่างกันออกไป ในยุคปัจจุบันจะเชื่อกันว่ามันได้เสนอความสบายและแนวคิดที่ตามใจจนเกินขอบเขตและนำมาซึ่งการทำให้คนเสียนิสัย และเสนอกิเลสเป็นสวรรค์ ตอบสนองความอยากของคนของมันอย่างไร้ข้อจำกัด จนมาครอบครองทรัพยากรของโลกที่เป็นของคนอื่นมาปรนเปรอสาวกของมัน ความสามารถในการเดินทางของมันแทนเทคโนโลยี
    แต่ที่แน่ๆ มันจะเริ่มด้วยการหลอกลวงและสร้างสาวก
    โดย Sigree

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    [​IMG]

    Kaokala Fc
    8 พ.ย. นักดาราศาสตร์ตะลึง!ส่องพบอุกกาบาต 6 หาง

    เอเอฟพี/ไอบีเอ็มไทม์ส - นักดาราศาสตร์ถึงกับงงงวย หลังส่องพบอุกกาบาตประหลาดหลายหางระหว่างดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี ผ่านกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลของนาซา และมีการเปิดเผยออกมาในวันพฤหัสบดี(7)

    รายงานในวารสารวิชาการ Astrophysical Journal Letters ระบุแทนที่จะเห็นแค่จุดแสงขนาดเล็กๆเหมือนกับอุกกาบาตทั่วไป แต่อุกกาบาตที่ส่องพบคราวนี้กลับมีหางฝุ่น (dust tail)คล้ายกับดาวหางแผ่ออกมาถึงครึ่งโหล

    "มันยากที่จะเชื่อว่าเรากำลังส่องดูอุกกาบาตอยู่" เดวิด เจวิตต์ ศาสตราจารย์ฝ่ายวิทยาศาสตร์โลกและอวกาศของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส ผู้นำทีมตรวจสอบกล่าว "เราประหลาดใจมากตอนที่เห็นมัน น่าอัศจรรย์ รูปร่างของหางอุกกาบาตนี้เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในช่วง 13 วันนี้เอง"

    เจวิตต์ คาดหมายด้วยว่ามันอาจเป็นครั้งแรกที่เหล่านักดาราศาสตร์ค้นพบสิ่งแปลกประหลาดทางอวกาศลักษณะนี้ "ในดาราศาสตร์ เมื่อคุณพบครั้งหนึ่ง ท้ายที่สุดคุณก็จะพบทั้งหมดทั้งมวล นี่มันเป็นแค่วัตถุแรกที่น่าตื่นตะลึงสำหรับเรา แต่แน่นอนว่าอย่างอื่นจะตามมามากกว่านี้"

    จากภาพที่เผยแพร่เผยให้เห็นถึงแสงของฝุ่นที่แผ่กระจายออกจากอุกกาบาตดวงนี้ขณะที่มันเคลื่อนผ่านอวกาศ ขณะที่ภาพถ่ายในอีก 2 สัปดาห์ต่อมาก็เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของหางภายในเวลาห่างกันไม่กี่วัน Manager Online
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    [​IMG]

    เตือนภัย พิบัติโลก
    ภูเขาไฟ Momotombo นิการากัวปะทุและสั่นไหว 300 ครั้งในวันเดียว

    November 8, 2013 – NICARAGUA – A seismic swarm in the Momotombo volcano in August claimed nearly 300 microearthquakes in a single day, more than twice as common tremors reported the same month, reported the Nicaraguan Institute of Territorial Studies (INET). According to the Monthly Bulletin of Earthquakes and Volcanoes of INET, the Momotombo swarm of microearthquakes caused 284 on August 17. The Momotombo, located north of Lake Managua, presented 524 microearthquakes between 16 and 18 August, according to the report. The microearthquakes are earthquakes with magnitudes less than the magnitude of 1.0 on the Richter scale, which are not perceived by the population. The swarm in August Momotombo volcano did not cause any damage in Nicaragua. Regarding the normal seismic activity, the INET recorded 177 tremors with a magnitude of 1.0 Richter or more, both on the Pacific Ocean, and in the volcanic chain and northern Nicaragua. The tremors under the Pacific Ocean were located off the coast of Corinto , Masachapa and The Small mouth, in the subduction zone, ie at the point of collision of continental plates Cocos and Caribbean, according to the report. The earthquakes in the volcanic chain were located in San Cristobal volcano, Masaya and Concepcion. The northern tremors occurred in the provinces of Estelí, Madriz, Nueva Segovia and the North Atlantic Autonomous Region (RAAN). Most of the earthquakes, ie 54, had magnitudes between 3.0 and 3.9 Richter. Another 50 earthquakes showed a magnitude of between 2.0 and 2.9 Richter. The rest had magnitudes between 1.0 and 1.9 Richter, according to the bulletin. Nicaragua is considered a country with high frequency of earthquakes. 2,000 tremors occur each year on average, according to statistics from INET. –El Nuevo Diario (translated)
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ข้อมูลจากเว็บภัยพิบัติ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556

    20:00 ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนลดกำลังลงเหลือระดับ 4 กำลังจะเคลื่อนออกจากฟิลิปปินส์

    10:00 ทิศทางของไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนหลังลงสู่ทะเลจีนใต้ ประเมินล่าสุดโดย TSR พายุจะขึ้นฝั่งเวียดนามจากนั้นเข้าไปในลาวแล้วเลี้ยวขึ้นทางตอนใต้ของจีน
    [​IMG]

    07:23 สภาพสถานีขนส่งของเมือง Ormoc จังหวัดเลเต้
    [​IMG]

    06:55 สภาพเมืองทาโคลบาน จังหวัดเลเต้ ก่อน และหลังโดนคลื่นสตอร์มเสิร์จ ถล่มเละเทะ ผลจากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน
    [​IMG]
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    In & Outside World

    [​IMG]

    [​IMG]

    ISON เริ่มเห็นได้ด้วยตาเปล่า แล้วนะครับ จากไทย
    กล้อง ธรรมดา สามารถถ่ายได้
    ทุกวัน เวลา เย็น ปรนะมาณ ๑๘ นาฬิกา... ตั้งแต่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ มาแล้ว...ที่ใหน ก็ได้ ใน เมืองไทย และ ทั่วโลก ...ทิศตะวันตก ห้างจากดวงอาทิตย์ ประมาณ ๒๐ องศา และสูงจากเส้นขอบฟ้า.. ประมาณ ๓๐ องศา ครับ ... เห็นได้ ทุกท้าน...อีก ๑๐ วัน ก็น่าจะ มองเห็นได้ โดย ไม่ต้องใช้ กล้องสองตา
    Cr Kwanchai Suwansamrith & Siripol Pong
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Sukit Chongchokdie
    ก้องภพ อยู่เย็น ได้แชร์ ลิงก์
    8 นาทีที่แล้ว ·
    วันที่ 7 พฤศจิกายน เกิดปฏิกริยาที่ดวงอาทิตย์เป็นมุมกว้าง โดยทิศทางหลักออกไปทางทิศตะวันออก แต่มีบางส่วนมาทางโลก เหตุการณ์นี้เกิดร่วมกับปริมาณรังสี X-ray ระดับ X1 ในวันที่ 8 เวลา 4:26 UT จากโมเดลพบว่าคลื่นพลังงานจะเดินทางมาถึงในแนววงโคจรโลกสองจังหวะคือในวันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 18 UT และ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน เวลา 12 UT +/- 7 ชั่วโมง

    ท่านผู้สนใจเรื่องความสัมพันธ์บนโลกต่อเหตุการณ์นอกโลกครั้งนี้ โปรดติดตามได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 12 พฤศจิกายนครับ

    ข้อมูลเพิ่มเติมมีดังนี้
    - ภาพถ่ายดวงอาทิตย์มุมกว้าง มุมมองจากโลก CACTUS CME Details
    - โมเดลจำลองการแพร่กระจายของพลังงานจากดวงอาทิตย์สู่วงโคจรโลก
    http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov:8080/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=593376717 http://iswa.ccmc.gsfc.nasa.gov:8080/IswaSystemWebApp/StreamByDataIdServlet?allDataId=593495235
    - ภาพถ่ายดวงอาทิตย์มุมกว้าง โดยโลกอยู่ทางด้ายซ้ายมือของภาพ
    http://stereo.gsfc.nasa.gov/browse/2013/11/07/ahead_20131107_cor2_512.mpg

    [​IMG]
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    [​IMG]

    Piyacheep S.Vatcharobol
    ข้อมูลราชการ NASA รายงานว่าพบสิ่งแปลกประหลาด
    ดาวหาง ๖ ดวง วิ่งต่อตามท้ายอุกาบาตใหญ่

    นักต่างดาววิทยา ก็วิเคราะห์ แยกสปคตรัมแสง และวัดค่าต่างๆออกมาเป็น ยานอวกาศยักษ์ ที่ตามด้วย ยานลูกใหญ่ๆ ๖ ยาน พร้อมยานเล็ก อีกจำนวนหนึ่ง

    ภาพจากกล้องฮับเบิ้ลจะเห็นแบบหนึ่ง ตามภาพที่นาซาเอามาแถลง ซึ่งแท้จริงแล้วเพื่อกลบเกลื่อนภาพที่ถ่ายได้จากคลื่นไมโคเวฟ ที่ให้ภาพ และสามารถบอกรายละเอียดของวัตถุได้ต่างกัน เพราะอุกาบาต กับยานอวกาศต่างมีโลหะเป็นส่วนผสมด้วยเช่นกัน

    ท่านลองหันไปทางทิศตะวันตก มองขึ้นไปประมาร ๑๕ อวศา จะพบดวงดาวใหญ่สุกสกาวมาก ซึ่งหลายท่านบอกว่าไม่ใช่ดวงประจำเมือง

    ปรากฏการณืดวงอาทิตย์ ๒ ดวง เคยเกิดที่กรุงเทพมหานคร และเห็นกันทุกภาคมาหลายหนแล้ว

    ดังนั้นปรากฏการณืดวงอาทิตย์ ๗ ดวง หรือ ๙ ดวง ก็จะมีให้เห็นในไม่ช้านี้ ด้วยอุกาบาต หรือ ดวงหาง ที่วิ่งเข้าหาดวงอาทิตย์ แล้วก่อเกิดปฏิกิริยาลุกเป็นไฟ หรือ สะท้อนพลังงานแก่กล้าออกมาสว่างไสวดั่งเช่นดวงอาทิตย์ดวงน้อยๆ ๗-๙ ดวง ซึ่งต้องตามข้อมูลเพิ่มเติมอีกเป็นระยะๆ

    แต่ที่แน่ๆ สามารถยืนยันได้คือ ในชีวิตเราๆท่าน หรือ รุ่นผมที่อายุ ๓๒ ปี ๒๔๐ เดือน จะได้เห็นปรากฏการณืดวงอาทิตย์ ๒ ดวง แบบระยะยาวกึ่งถาวร ก่อนสิ้นอายุขัย

    ส่วนคนที่อายุต่ำกว่าผมก็คงต้องเรียนรู้การอยู่ในสภาพการที่แปลกแยกแตกต่างกันไป เพราะ หากยังมีพระอาทิตย์ขึ้นและตก แม้น ๒ ดวง ก็ยังดูไม่มีอะไรมาก แต่หาก มีดวงอาทิตย์ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ดวงใหญ่เวลากลางวัน ดวงเล็กเวลากลางคืน ก็อาจจะปรับตัวยากหน่อยนะครับ

    การวิเคราะห์ข้อมูล ปรากฏการณ์ของจักรวาลไฟฟ้านี้ ท่านต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมใน กูเกิ้ล ยูธูป นะครับ มากมาย ผมนำมาไม่หมด และผมมีข้อจำกัดด้านอุปกรณ์ที่หายไป คอมช้า และเน็ตเริ่มเข้าไม่ค่อยได้แล้ว

    ศึกษาเพิ่มเติมนะครับ หรือ อย่าน้อย ติดตามข้อมูลข่าวสารของ ดร. ก้องภพ อยู่เย็น ข้อมูลข่าวสารท่านไม่เคยผิดพลาดเลย ผมรู้จักกับท่านตัวเป็นจะ ๓ ปีเต็มแล้ว ผมศึกษาผลงานการวิเคราะห์ของท่านย้อนหลังไป ๕ ปี ทั้งหมดรวม ๘ ปี

    ข้อมูลท่านไม่เคยพลาด ไม่เคยไม่ถูกต้องเลยนะครับ

    มาเรียนรู้โลก ระบบสุริยะ ระบบกาแลคซี่ ระบบจักรวาล และระบบอนัตจักรวาล กับข้อมูลจริงๆที่เห็นได้ ทดสอบได้ แต่อาจไม่มีสอนในตำราเรียน เพราะผลประโยชน์ทางการค้าและความมั่นคง

    อย่าลืมนะครับ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ตายไป ๓ ปี แล้ว จึงยอมรับกันทั่วโลกว่าโลกกลม แต่ช่วงที่คริสโตเฟอร์บอกตอนยังมีชีวิตอยู่ คนก็ด่า ว่ากัน และจับจะเผาว่าเป็นพ่อมด ไป ๓ ครั้งแล้ว แต่รอดมาได้

    เราเรียนรู้ได้ รับรู้ได้ หากเราจะสนใจในสิ่งนั้น
    เพราะครูของครูคนแรกคือประสบการณ์จากการสังเกตุ จด จำ

    Hubble Sees an Asteroid with Six Comet-like Tails Pin it

    Nov. 7, 2013: Astronomers viewing our solar system's asteroid belt with NASA's Hubble Space Telescope have seen for the first time an asteroid with six comet-like tails of dust. Designated P/2013 P5, the asteroid resembles a rotating lawn sprinkler.
    "We were literally dumbfounded when we saw it," said lead investigator David Jewitt of the University of California at Los Angeles. "Even more amazing, its tail structures change dramatically in just 13 days as it belches out dust. That also caught us by surprise. It's hard to believe we’re looking at an asteroid."
    splash
    This NASA Hubble Space Telescope set of images reveals a never-before-seen set of six comet-like tails radiating from a body in the asteroid belt, designated P/2013 P5.
    Jewitt leads a team whose research paper appears online in the Nov. 7 issue of the Astrophysical Journal Letters.
    P/2013 P5 has been ejecting dust periodically for at least five months. Astronomers believe it is possible the asteroid's rotation rate increased to the point where its surface started flying apart. They do not believe the tails are the result of an impact with another asteroid because they have not seen a large quantity of dust blasted into space all at once.
    Scientists using the Pan-STARRS survey telescope in Hawaii announced their discovery of the asteroid Aug. 27. P/2013 P5 appeared as an unusually fuzzy-looking object. The multiple tails were discovered when Hubble was used to take a more detailed image Sept. 10.
    Auroras Underfoot (signup)
    When Hubble looked at the asteroid again Sept. 23, its appearance had totally changed. It looked as if the entire structure had swung around.
    "We were completely knocked out," Jewitt said.
    Careful modeling by team member Jessica Agarwal of the Max Planck Institute for Solar System Research in Lindau, Germany, showed that the tails could have been formed by a series of impulsive dust-ejection events. She calculated that dust-ejection events occurred April 15, July 18, July 24, Aug. 8, Aug. 26 and Sept. 4. Radiation pressure from the sun stretched the dust into streamers.
    Radiation pressure could have spun P/2013 P5 up. Jewitt said the spin rate could have increased enough that the asteroid's weak gravity no longer could hold it together. If that happened, dust could slide toward the asteroid's equator, shatter and fall off, and drift into space to make a tail. So far, only about 100 to 1,000 tons of dust, a small fraction of the P/2013 P5's main mass, has been lost. The asteroid's nucleus, which measures 1,400 feet wide, is thousands of times more massive than the observed amount of ejected dust.
    Astronomers will continue observing P/2013 P5 to see whether the dust leaves the asteroid in the equatorial plane. If it does, this would be strong evidence for a rotational breakup. Jewitt's interpretation implies that rotational breakup must be a common phenomenon in the asteroid belt. It might even be the main way small asteroids die.
    "In astronomy, where you find one, you eventually find a whole bunch more," Jewitt said. "This is just an amazing object to us, and almost certainly the first of many more to come."
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สถานะ
    รูปภาพ
    เหตุการณ์ในชีวิต
    Sukit Chongchokdie ได้แชร์ ลิงก์
    เมื่อสักครู่ ·
    Sukit Chongchokdie ได้แชร์ ลิงก์
    เมื่อสักครู่ ·
    Piyacheep S.Vatcharobol ได้แชร์ ลิงก์

    วันนี้คอยดูรูปว่ามีใครถ่ายอุกาบาตขนาดเท่าเรือบรรทุกเครื่องบินที่วิ่งเฉียดโลกไปจะพ้นประมาณเที่ยงวัน วันนี่

    ข่าวทยิยออกมมาเรื่อยๆแล้ว ถือเป็การเตือนแล้วนะครับ ว่าช่วงเวลาจากนี้ไปถึงมกราคม ๒๕๕๘ อุกาบาตจำนวนมากจะวิ่งผ่านโลก และอุกาบาตจำนวนมากจะตกใส่โลก บางครั้้งตกแบบถี่ๆมาก จนเรียกว่า ฝนอุกาบาต

    โลกเราเข้าสู่ระยะการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากๆ เราต้องปรับตัวตั้งรับ อย่าหลงระเริงกับตัณหาต่างๆ วัตถุนิยม บริโภคนิยม จนลืมรากเหง้าพื้นเพชาวนาชวนสวนที่เราสืบทอดมาจากบรรบุรุษเรากันนะครับ

    2013 MASSIVE Asteroid Pass By Earth! Will It Impact? - YouTube
    2013 MASSIVE Asteroid Pass By Earth! Will It Impact?

    NASA - Comet ISON Meteor Shower to hit Earth in 2014 - YouTube

    WARNING NASA ASTRONOMER LEAKS TRUTH ABOUT COMET ISON 4/27/2013 - YouTube

    2013 MASSIVE Asteroid Pass By Earth! Will It Impact?
     
  14. pcgclub

    pcgclub Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +31
    คุณ สุกิจSukit ครับ ใช่ดาวที่อยู่ตำแหน่ง ทิศตะวันตกเยื้องมาทางทิศใต้ นิดๆ เหรอเปล่าครับ ที่สว่างอยู่ดวงหนึ่ง ตอนแรกนึกว่าไฟจากเครื่องบิน
    สว่างมาก จะเห็นชัดตั้งแต่ 19.00 เป็นต้นไป แล้วจะลับขอบฟ้าไปประมาณ 22.00 ถ้ามองจากพื้นดิน จะมองขึ้นไป ประมาณ 50 องศา ผมมองอยู่เขตดินแดง กรุงเทพครับ
     
  15. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    ดาวศุกร์ ( VENUS ) ครับ

    เพิ่มเติม :

    ดาวหาง ISON จะลับขอบฟ้า(ก่อนดวงอาทิตย์)ในเวลา 14:50 น. เวลาไทย จึงไม่สามารถมองเห็นได้หลังเวลาประมาณ 14:30 น.

    ส่วนที่มองเห็นช่วง 18:00 น. คือ ดาวศุกร์ ครับ

    [​IMG]

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    War Room Falkman

    [​IMG]

    ฟิลิปปินส์พบศพเหยื่อ “มหาไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน” กว่า 100 ร่างนอนเกลื่อนถนน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤศจิกายน 2556 13:13 น.

    ชาวบ้านฟิลิปปินส์เดินผ่านชายทะเลขณะเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งที่เมือง Legaspi จังหวัด Albay ทางตอนใต้ของกรุงมะนิลา วานนี้(8)
    เอเอฟพี - ทางการฟิลิปปินส์พบศพผู้เสียชีวิตกว่า 100 ร่างนอนเกลื่อนถนนในเมืองแห่งหนึ่งที่ถูกมหาไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน (Haiyan) ซัดถล่มวานนี้ (8) ขณะที่ทหารเร่งลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือชุมชนผู้ประสบภัยแล้ว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานวันนี้ (9)

    ซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดขึ้นสู่เกาะเลย์เตและซามาร์ทางภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ (8) ด้วยความเร็วลมสูงสุด 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ไห่เยี่ยนเป็นมหาไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในโลกปีนี้ และยังเป็นไต้ฝุ่นทรงพลังที่สุดที่ทำให้เกิดฝนตกบนแผ่นดิน

    กระแสไฟฟ้าและระบบโทรศัพท์ในเมืองต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทางผ่านของพายุถูกตัดขาดทั้งหมด โดยรายงานความเสียหายที่เริ่มจะมีเข้ามาตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่วันนี้ (9) ก็ทำให้เห็นได้ชัดถึงพลังทำลายล้างของมหาไต้ฝุ่นลูกนี้

    ที่ Tacloban ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดเลย์เต ผู้จัดการสนามบินท้องถิ่นรายงานว่า พบศพผู้เสียชีวิตกว่า 100 คนกระจัดกระจายอยู่บนถนนรอบๆ สนามบิน และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 100 คน

    “ตามข้อมูลจากผู้จัดการสถานี สนามบินเมืองเลย์เตเสียหายยับเยิน” จอห์น แอนดรูส์ รองผู้อำนวยการองค์การการบินพลเรือนฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ ABS-CBN

    กองทัพฟิลิปปินส์ได้ส่งเครื่องบินลำเลียง C-130 นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังเมือง Tacloban ซึ่งมีพลเมืองอาศัยอยู่ราว 220,000 คน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

    ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น GMA ก็รายงานการพบศพเหยื่อพายุราว 20 ร่างอยู่ภายในโบสถ์เมืองปาโล ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลที่อยู่ห่างจาก Tacloban ไปทางทิศใต้ราวๆ 10 กิโลเมตร

    เกว็นโดลีน ปัง ผู้อำนวยการสภากาชาดฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์ต่อเอฟเอฟพีเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาพรวมว่า “เราได้รับรายงานอาคารพังถล่ม, บ้านเรือนถูกพายุพัดจนกลายเป็นเศษซาก, คลื่นพายุซัดฝั่ง และดินถล่มในหลายพื้นที่... แต่ยังไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้ว่าความเสียหายมากน้อยเพียงใด”

    ปัง ระบุด้วยว่า ยังไม่มีใครสามารถติดต่อหรือเข้าถึงเมือง Guiuan ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงบนเกาะซามาร์ที่มีประชากรราว 40,000 คน และเป็นจุดแรกที่ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนพัดขึ้นฝั่ง นอกจากนี้ยังแสดงความเป็นห่วงชาวบ้านในจังหวัด Capiz ซึ่งอยู่ห่างจากเมือง Tacloban ไปทางตะวันตกราวๆ 200 กิโลเมตร เนื่องจากสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้รับความเสียหายรุนแรง

    สภาจัดการภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์ยืนยันยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเพียง 4 ราย แต่ก็ยอมรับว่า ยังไม่ทราบข้อมูลความเสียหายทั้งหมด

    หมู่เกาะฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นราวๆ 20 ลูกต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพายุที่มีความรุนแรงมาก

     
  17. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    นึกว่าดาวนาเม็ก หรือไม่ก็ดาวไซย่า เพราะไม่มีความรู้เรื่องดาราศาสตร์เอาสะเลย ข้อมูลมาแล้ว ขอบพระคุณจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2013
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เวียดนามเตรียมรับพายุไห่เยี่ยน-สั่งอพยพ ปชช.กว่า 5 แสนคน


    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤศจิกายน 2556 15:54 น.


    ชาวเวียดนามในจังหวัดกวางนัม และจังหวัดกวางงายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนามพากันวางแนวกระสอบทรายสร้างพนังกั้นน้ำ และเสริมความแข็งแกร่งของหลังคาบ้าน เพื่อรับมือกับพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนที่จะพัดเข้าถล่มในวันพรุ่งนี้อย่างเต็มที่ ขณะที่รัฐบาลได้ออกประกาศให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่เสี่ยงต่อผลกระทบจากพายุให้อพยพไปยังที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว โดยให้ไปอาศัยยังสถานที่ทำการของรัฐบาลหรือตามโรงเรียนต่างๆ เป็นที่คาดว่าประชาชนที่ได้รับคำสั่งให้อพยพมีราว 216,000 คนในจังหวัดกวางงาย 147,000 คน ในจังหวัดกวางนัม และ 120,000 คน ในจังหวัดทัว เทียน เว้

    สำนักพยากรณ์อากาศของเวียดนามได้ประกาศว่า พายุไตฝุ่นไห่เยี่ยนได้ทวีกำลังอย่างรวดเร็ว หลังจากเคลื่อนออกจากฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ และเตรียมเข้าถล่มเวียดนามราวเช้าวันพรุ่งนี้
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    In & Outside World
    วันนี้ เวลา 0:31 น. ·

    [​IMG]

    ข้อมูลใหม่ที่เผยให้เห็นความแข็งแรงของการควบรวมกิจการหลุมดำ
    ...
    เครือจักรภพวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมองค์การ ( CSIRO ) ในภาคตะวันออกของออสเตรเลียได้ช่วยเปิดเผยข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับความแข็งแรงของการควบรวมหลุมดำ

    ยักษ์หลุมดำทั่วทั้งจักรวาลคู่บางครั้งขึ้นและผสานการส่งคลื่นความโน้มถ่วงที่กระเพื่อมไปทั่วพื้นที่และเวลา อัลเบิร์ Einsteinคาดการณ์ว่าคลื่นเหล่านี้อยู่ แต่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้ตรวจสอบอย่างใดอย่างหนึ่งโดยตรง

    นักดาราศาสตร์ก็สามารถที่จะใช้ CSIRO ที่จะเปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการควบรวมหลุมดำรวมทั้งความถี่ของพวกเขาระยะทางจากโลกและมวล แม้ว่าการศึกษานี้ไม่ได้สังเกตโดยตรงคลื่นแรงโน้มถ่วงมันเป็นขั้นตอนที่ใกล้ชิดกับยุคใหม่ของดาราศาสตร์
     
  20. คนเฝ้าดู

    คนเฝ้าดู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +267
    ทำไม ISON ใน starrynight จึงขึ้นตอนเช้าครับ หรือว่าคนละ ISON
    ในรูปประมาณ 04:30 น.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...