ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตำรวจฮ่องกงโหด 'รุมยำ' ผู้ชุมนุมในมุมมืด (ชมคลิป)
    โดย ข่าวต่างประเทศ 15 ต.ค. 2557 17:17

    [​IMG]

    โทรทัศน์ฮ่องกงแพร่คลิป ตำรวจลากผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเข้ามุมมืด ก่อน 'รุมยำ' ร่วม 4 นาที หลังปะทะกันในการสลายการชุมนุม

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โทรทัศน์ช่อง TVB ของฮ่องกงเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ที่ นายเคน ซัง กินชิว สมาชิกพรรคการเมืองท้องถิ่นของฮ่องกง และเป็นหนึ่งในผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลจีนและทางการฮ่องกง ถูกตำรวจปราบจลาจล ลากตัวไปทำร้ายระหว่างเข้าสลายการชุมนุมของม็อบประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย เมื่อคืนวันที่ 14 ต.ค. จนทำให้นายซังได้รับบาดเจ็บที่แขน

    โดยนายเคน ซัง กินชิว ได้ถูกกลุ่มตำรวจนำตัวไปยังบริเวณตึกที่ลับตาคน ก่อนรุมทำร้ายนายซัง เป็นเวลากว่า 4 นาที โดย นายอลัน เหลียง หัวหน้าพรรคการเมืองที่นายซังสังกัดอยู่กล่าวว่า ทางพพรรคฯ ได้เตรียมให้ทนายนำตัวนายซังส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย ซึ่งทนายที่ได้พบกับนายซังเมื่อตอนเช้ากล่าวว่า นายซังรู้สึกโกรธและเจ็บบาดแผลที่ถูกทำร้าย

    <iframe width="570" height="351" src="//www.youtube.com/embed/P2aITGfN0qk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ด้านนายอีริค ชอง ทัท มิน คณะกรรมการอิสระในการร้องเรียนตำรวจ กล่าวกับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายประชาชนในมุมมืดนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม โดยจะต้องมีการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ต่อไป

    [​IMG]

    นายเคน ซัง ที่โรงพยาบาล หลังถูกกลุ่มตำรวจรุมทำร้ายร่างกายร่วม 4 นาที

    ทั้งนี้ ทางการฮ่องกงได้มีคำสั่งให้กำลังตำรวจปราบจลาจลเข้าสลายการชุมนุมของม็อบต่อต้านรัฐบาลจีนและทางการฮ่องกงที่ปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณด้านหน้าตึกที่ทำการรัฐบาล ในเขตแอดไมรอลตี้ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (14 ต.ค.) ตำรวจได้เปิดฉากใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจจึงลุกขึ้นมาต่อสู้ ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะกัน และผู้ชุมนุม 45 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไป

    ตำรวจฮ่องกงโหด 'รุมยำ' ผู้ชุมนุมในมุมมืด (ชมคลิป) - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทางการฮ่องกงอ้าง เด้งตร.ที่ทำร้ายผู้ชุมนุมในคลิปแล้ว
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ต.ค. 2557 04:22

    [​IMG]

    เลขาธิการเพื่อความมั่นคงฮ่องกง เผยว่าได้ย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในคลิปวิดีโอทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมออกจากตำแหน่งแล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายหลี ตง-กั๋ว เลขาธิการเพื่อความมั่นคงแห่งกรมความมั่นคง ของรัฐบาลฮ่องกง เปิดเผยในวันพุธ (15 ต.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 6 นายที่ถูกบันทึกภาพขณะกำลังทำร้ายร่างกายผู้ประท้วงที่ถูกใส่กุญแจมือ ถูกย้ายออกจากตำแหน่งแล้ว

    [​IMG]
    @ตำรวจฉีดสเปรย์พริกไทยใส่ผู้ประท้วง

    ทั้งนี้ ชาวฮ่องกงนับหมื่นคนออกมารวมตัวประท้วงต่อต้านสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ประชาธิปไตยปลอม หลังรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ประกาศให้ชาวฮ่องกงมีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าของพวกเขาเองเป็นครั้งแรก ในการเลือกตั้งปี 2017 แต่รัฐบาลจีนจะคัดเลือกผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งเอง

    ในวันพุธที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมหลายพันคงออกมารวมตัวกันที่จุดประท้วงหลักในเขตแอดไมรัลตี เพื่อฟังปราศรัยของแกนนำผู้ชุมนุม ที่เรียกร้องให้พวกเขาประท้วงอย่างสงบแม้เผชิญกับความรุนแรงหลังจากความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเช้ามืด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มทำการรื้อถอนเครื่องกีดขวางบางส่วน และใช้ทั้งกำปั้น, กระบอง และสเปรย์พริกไทยในการผลักดันผู้ประท้วงให้ถอยร่นกลับไป

    ต่อมาสถานีโทรทัศน์ ทีวีบี แพร่คลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบหลายนาย ลากผู้ประท้วงคนหนึ่งเข้าไปทำร้ายร่างกายในมุมมืด โดยที่ผู้ชุมนุมรายนี้ที่ไม่มีอาวุธและถูกใส่กุญแจมือ ทำให้เกิดกระแสความโกรธเคืองในหมู่ผู้ชุมนุม ขณะที่นักเคลื่อนไหวและนักกฎหมายออกมาเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าว

    ในความพยายามผ่อนคลายความตึงเครียด นายหลี ตง-กั๋ว ออกมาให้คำมั่นกับผู้ชุมนุมว่าจะมีการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างนยุติธรรม และประกาศเรื่องการย้ายเจ้าหน้าที่ในเวลาต่อมา ขณะที่ นายริมสกี หยวน เลขาธิการเพื่อความยุติธรรมแห่งกรมยุติธรรมของรัฐบาลฮ่องกง ยืนยันว่า หากจำเป็นต้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ปรากฏในคลิปทั้ง 6 คน พวกเขาก็จะดำเนินคดีโดยไม่มีการเข้าข้างใดๆ

    [​IMG]
    @ริมสกี หยวน

    ทางการฮ่องกงอ้าง เด้งตร.ที่ทำร้ายผู้ชุมนุมในคลิปแล้ว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โอบามามั่นใจเอาอยู่ไวรัสอีโบลา

    [​IMG]

    ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ แสดงความมั่นใจว่ารัฐบาลจะจัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาในประเทศได้ แม้พยาบาลในรัฐเทกซัสติดเชื้อเพิ่มอีกรายก็ตาม

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/k6V6FbnXYp4?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/AdAdGvVgSDA?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    วันพฤหัสบดี 16 ตุลาคม 2557 เวลา 07:48 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีวาระฉุกเฉิน สั่งยกระดับมาตรการตรวจสอบและเฝ้าระวังเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศให้มีความเข้มงวดมากขึ้นอีกหลายเท่า เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไม่ให้ออกสู่วงกว้าง โดยเบื้องต้นจะมีการจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วพร้อมลงพื้นที่ต้องสงสัยมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคตลอด 24 ชั่วโมง

    ทั้งนี้ ท่ามกลางบรรยากาศหวั่นวิตกเรื่องเชื้อไวรัสมรณะที่กำลังปกคลุมไปทั่วประเทศ ผู้นำสหรัฐสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ด้วยการยืนยันว่า รัฐบาลจะสามารถควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาได้อย่างแน่นอน

    ท่าทีล่าสุดของโอบามามีขึ้นหลังศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค ( ซีดีซี ) ยืนยันการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาคนที่ 2 ในประเทศ คือน.ส.แอมเบอร์ วินสัน วัย 29 ปี ซึ่งเป็นพยาบาลประจำโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสบิเทียเรียน ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ที่เดียวกับน.ส.นีนา ฟาม วัย 26 ปี ผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาคนแรกในสหรัฐ โดยทั้งคู่รับหน้าที่ดูแลนายโธมัส เอริค ดันแคน ชายชาวไลบีเรียซึ่งเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    ในขณะที่ฟามรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลที่เธอทำงาน วินสันได้รับการเคลื่อนย้ายไปรับการรักษายังโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเอมอรี ในเมืองแอตแลนตาแล้ว ขณะที่ซีดีซีสั่งกักบริเวณเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสบิเทียเรียน เพิ่มอีก 70 คนเพื่อเฝ้าระวัง และออกประกาศขอความร่วมมือให้ผู้ที่เดินทางไปกับสายการบินฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส จากเมืองคลีฟแลนด์สู่ดัลลัส เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ทั้ง 132 คน ให้รายงานตัวต่อทางการด้วย เนื่องจากเป็นเที่ยวบินที่วินสันโดยสาร 1 วันก่อนแสดงอาการป่วย

    โอบามามั่นใจเอาอยู่ไวรัสอีโบลา | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐเล็งห้ามผู้เกี่ยวข้องกับอีโบลาเดินทาง

    [​IMG]

    ทางการสหรัฐอาจออกมาตรการห้ามเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา หรืออยู่ในข่ายเฝ้าระวังเดินทางด้วยพาหนะสาธารณะเป็นการชั่วคราว หลังผู้ป่วยรายล่าสุดโดยสารเครื่องบินข้ามรัฐเพียง 1 วันก่อนแสดงอาการ

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/s5wnOlkh7UQ?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/BQzicGnJYiQ?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    วันพฤหัสบดี 16 ตุลาคม 2557 เวลา 11:10 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่าที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ทั้ง 15 ประเทศ ออกแถลงการณ์เตือนประชาคมโลกยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างเพียงพอ ส่งผลให้เชื้อไวรัสมรณะเป็นฝ่ายนำหน้ามนุษย์ ด้วยการขยายขอบเขตของการแพร่กระจายออกเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกนาที โดยเฉพาะในไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอน ซึ่งเป็นประทเศในภูมิภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกาที่เป็นพื้นที่แพร่ระบาดรุนแรงที่สุด

    ในเวลาเดียวกัน การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐ คือน.ส.แอมเบอร์ วินสัน วัย 29 ปี พยาบาลประจำโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสบิเทียเรียน ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ที่เดียวกับน.ส.นีนา ฟาม วัย 26 ปี ผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาคนแรกในสหรัฐ โดยรับเชื้อมาจานายโธมัส เอริค ดันแคน ชายชาวไลบีเรียซึ่งเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะ ที่โรงพยาบาลแห่งนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังแสดงอาการเมื่อปลายเดือนก.ย.

    ทั้งนี้ การที่มีข้อมูลออกมาว่า ก่อนวินสันโดยสารเที่ยวบินพาณิชย์ของฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส จากเมืองคลีฟแลนด์สู่เมืองดัลลัส เมื่อวันที่ 13 ต.ค. เธอติดต่อไปยังศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค ( ซีดีซี ) เพื่อรายงานว่าตัวเองมีไข้ 37.5 องศาเซลเซียส แต่กลับไม่ได้รับการห้ามขึ้นเครื่องบิน เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากนพ.ทอม ฟรีเดน ผู้อำนวยการของซีดีซี ซึ่งกล่าวว่าวินสันไม่ควรโดยสารเที่ยวบินในวันนั้นไม่ว่ากรณีใดก็ตาม เนื่องจากเธอเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ดูแลดันแคน

    ขณะที่แหล่งข่าวในซีดีซีเผยว่า กรณีของวินสันกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่พิจารณาเตรียมขยายมาตรการ ด้วยการออกรายชื่อ "ห้ามเดินทาง'" ด้วยระบบขนส่งสาธารณะทั้งเครื่องบินและรถประจำทางชั่วคราว โดยจะเป็นบุคคลที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังการติดเชื้อ หรือเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อ

    ด้านองค์การอนามัยโลก ( ฮู ) ออกรายงานสถิติผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาตั้งแต่เดือนมี.ค. อยู่ที่อย่างน้อย 4,493 ศพ จากจำนวนผู้ป่วย 8,997 คน พบใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไลบีเรีย กินี เซียร์ราลีโอน ไนจีเรีย เซเนกัล สเปน และสหรัฐ

    สหรัฐเล็งห้ามผู้เกี่ยวข้องกับอีโบลาเดินทาง | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภัยธรรมชาติคร่าชีวิตมนุษย์กว่า 20,000 ศพเมื่อปีที่แล้ว

    [​IMG]

    สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศเผย ภัยธรรมชาติตลอดทั้งปี 2556 คร่าชีวิตประชากรโลกรวมกัน 22,452 ศพ

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/7yECGSh97gs?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/aPXGQDzGLlc?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    วันพฤหัสบดี 16 ตุลาคม 2557 เวลา 12:29 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่ารายงานประจำปีของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ( ไอเอฟอาร์ซี ) ว่าด้วยความสูญเสียที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ระบุเมื่อปีที่แล้วภัยธรรมชาติคร่าชีวิตประชากรโลกรวมกัน 22,452 ศพ ในจำนวนนี้เกิดจากอิทธิพลของซูเปอร์ไต้ฝุ่น "ไห่เยี่ยน" ซึ่งเคลื่อนตัวเข้าถล่มภาคกลางของฟิลิปปินส์เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว มากที่สุด 7,986 ศพ

    รองลงมาคือมหาอุทกภัยในรัฐอุตตราขัณฑ์ทางตอนเหนือของอินเดีย ที่กินเวลายาวนานหลายวันเมื่อเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว ซึ่งสถิติของไอเอฟอาร์ซีบันทึกจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเอาไว้ที่ 6,054 ศพ ขณะที่จำนวนประชากรโลกซึ่งต้องเผชิญความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติตลอดทั้งปีที่แล้วสูงถึงเกือบ 100 ล้านคน ส่วนมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 119,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3.87 ล้านล้านบาท )

    อย่างไรก็ตาม สถิติผู้เสียชีวิตล่าสุดของปีที่แล้วยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากน้อยกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2547-2556 ซึ่งอยู่ที่ปีละ 97,954 ศพ เนื่องจากเมื่อเดือนธ.ค. 2547 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและสึนามิยักษ์ในมหาสมุทรอินเดีย คร่าชีวิตประชาชนใน 15 ประเทศ รวมถึงอินโดนีเซีย อินเดีย ศรีลังหา มาเลเซีย และไทย รวมกันอย่างน้อย 242,829 ศ

    ภัยธรรมชาติคร่าชีวิตมนุษย์กว่า 20,000 ศพเมื่อปีที่แล้ว | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นศ.จีนเจ๋งคิดค้น 'ร่มอากาศ' ไม่ต้องกางก็กันฝนได้

    [​IMG]

    นักศึกษาระดับปริญญาโทของจีนเผยโฉมต้นแบบของ "ร่มอากาศ" อุปกรณ์กันฝนรูปแบบใหม่ ใช้งานแสนง่ายโดยไม่ต้องกาง แต่อาศัยพลังงานลมแทน

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/ZMyKYj5JPTo?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    วันพฤหัสบดี 16 ตุลาคม 2557 เวลา 11:57 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองหนานจิง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่ากลุ่มนักศึกษาปริญญาโทของมหาวิทยาลัยอากาศยานและอวกาศหนานจิง ในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน เผยโฉมโมเดลต้นแบบของ "ร่มอากาศ" โดยอาศัยพลังงานลมทำหน้าที่เสมือนผ้ากันร่ม ซึ่งลมดังกล่าวออกมาจากใบพัดและมอเตอร์ที่ทำงานด้วยแบตเตอรีลิเธียมซึ่งติดอยู่ด้านบนของตัวร่ม

    [​IMG]

    ทั้งนี้ ร่มอากาศมีหลายขนาดให้เลือก ซึ่งความายาวมาตรฐานอยู่ที่ 50 เซนติเมตร น้ำหนัก 800 กรัม และแบตเตอรีทำงานได้นาน 30 นาที เบื้องต้นกลุ่มนักศึกษาคาดว่าจะสามารถนำสินค้าออกวางจำหน่ายจริงในท้องตลาดได้ภายในเดือนก.ย. ปีหน้า หลังใช้เวลาคิดค้นและพัฒนามาตั้งแต่ปี 2555

    [​IMG]

    นศ.จีนเจ๋งคิดค้น 'ร่มอากาศ' ไม่ต้องกางก็กันฝนได้ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นาซาฉงน! วัตถุลึกลับ คล้ายจานบินยูเอฟโอ เฝ้าดู 2นักบินอวกาศ (ชมคลิป)
    โดย ข่าวต่างประเทศ 16 ต.ค. 2557 11:26

    [​IMG]

    นาซาแปลกใจ เห็นวัตถุลึกลับ ลักษณะคล้ายจานบิน ยูเอฟโอ บินอยู่ใกล้ๆ สถานีอวกาศนานาชาติ เหมือนเฝ้าดูนักบินอวกาศสองคนกำลังปฏิบัติหน้าที่ออกมาเดินนอกสถานีอวกาศ

    เว็บไซต์ นสพ.เดอะ มิร์เรอร์ ในอังกฤษรายงานเมื่อ 15 ต.ค.ว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) เผยแพร่ภาพปริศนาที่ปรากฏอยู่ใน ‘ฟุตเทจ’ ที่บันทึกโดยนาซา แสดงให้เห็นเหมือนมียานลึกลับ ลักษณะคล้าย จานบิน ของมนุษย์ต่างดาว บินอยู่ใกล้ๆ สถานีอวกาศนานาชาติ ขณะที่ รีด ไวส์แมน และอเล็กซานเดอร์ เกอร์ส นักบินอวกาศ 2 คนจากสำนักงานอวกาศยุโรป กำลังปฏิบัติหน้าที่ ออกมาเดินนอกสถานีอวกาศ

    [​IMG]
    @วัตถุลึกลับ คล้ายจานบิน บินอยู่ใกล้สถานีอวกาศนานาชาติ

    จากคลิปความยาว 5 นาที ที่ถูกนำมาโพสต์ลงในยูทูบ แสดงให้เห็นว่า มียานลึกลับ บินอยู่ใกล้ๆ สถานีอวกาศ เป็นเวลา 2-3 นาที ขณะนักบินอวกาศทั้งสองกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นอกสถานีอวกาศ จนสามารถสังเกตเห็นได้จากในภาพถ่าย ที่ด้านหลังมืดสนิท เนื่องจากเป็นห้วงอวกาศระหว่างโลกกับสถานีอวกาศนานาชาติ

    <iframe width="570" height="351" src="//www.youtube.com/embed/qbs0No3MKlc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ขณะเดียวกัน ด้านเจ้าหน้าที่องค์การนาซา แม้จะมีความประหลาดใจต่อภาพที่มีลักษณะคล้ายจานบินของมนุษย์ต่างดาว แต่ก็ยังคงไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อวัตถุลึกลับนี้ เพียงแต่ทางนาซายืนยันว่า นักบินอวกาศทั้งสองคนมีการปฏิบัติหน้าที่ออกมาเดินนอกสถานีอวกาศจริง เมื่อวันอังคารที่ 7 ตุลาคม เพื่อซ่อมแซมแก้ไขปัญหาของสถานีอวกาศที่ชำรุดเสียหาย อีกทั้งยังมีกำหนดที่ต้องออกมาเดินนอกสถานีอวกาศอีกครั้งในวันที่ 15 ต.ค.

    นาซาฉงน! วัตถุลึกลับ คล้ายจานบินยูเอฟโอ เฝ้าดู 2นักบินอวกาศ (ชมคลิป) - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ใช้น้ำแข็งนาบพุง ลดความอ้วน
    โดย ทีมข่าวการศึกษา 16 ต.ค. 2557 12:01

    [​IMG]

    นัก​วิทยาศาสตร์​โรงเรียน​แพทย์  มหาวิทยาลัย​เ​คน​ตัก​กี  พบ​วิธี​ลด​ความ​อ้วน​ทาง​ลัด เอาก้อน​น้ำแข็ง​มา​ร้อย​เป็น​เข็มขัด คาดรัด​ไข​มัน​ตาม​ตัว​ไว้ นอกจาก​จะ​ทำให้​ผอม​แล้ว​ยัง​แข็ง​แรงสมบูรณ์ดีด้วย

    ความ​เย็น​จะ​ทำให้​ไข​มัน​ขาวๆแถว​ต้น​ขา​และ​รอบ​พุงกลาย​เป็น​ไข​มัน​สี​น้ำตาล​อ่อน ที่​ร่างกาย​เผา​ผลาญ​ให้​กลาย​เป็น​พลังงาน​ได้​ง่าย

    ไข​มัน​ซึ่ง​เรียก​กัน​ว่า​เนื้อเยื่อ​ไข​มัน​พวก​นี้ จะ​ถูก​เผา​ผลาญ​ให้​เป็น​พลังงาน​กับ​กลูโคส​ กลายเป็น ความร้อน ตั้งแต่​ทารก​รวม​ถึง​สัตว์​เล็กๆอื่น​ด้วย ล้วนแต่​อาศัย​ไข​มัน​นี้​สร้าง​ความ​อบอุ่น การ​เผา​ผลาญ​ไขมัน​นี่เอง ช่วย​ป้องกัน​ความ​อ้วนใน​สัตว์​พวก​หนู​ได้

    ดร.​ฟิลิปปส์ เอ.เค​ริน ชี้แจง​ว่า “เรา​ต้องการ​รู้​ลง​ไป​ว่ามนุษย์​ที่​เป็น​ผู้ใหญ่​แล้วเมื่อ​ถูก​ความ​เย็น​จะ​มี​ความ​สามารถ​แปลง​ไข​มัน​ขาว​ให้​เป็น​ไข​มัน​ สี​น้ำตาล​อ่อน​ได้​หรือ​ไม่ เพราะ​ไข​มัน​สี​น้ำตาล​อ่อนเป็น​ตัว​ป้องกัน​ความ​อ้วน​ชั้น​เลิศ.

    ใช้น้ำแข็งนาบพุง ลดความอ้วน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อีสานเตรียมต้อนรับอากาศหนาว
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ต.ค. 2557 11:19

    [​IMG]

    ผามออีแดง จ.ศรีสะเกษ อากาศเย็นลงแล้ว นักท่องเที่ยวแห่ชมพระอาทิตย์ขึ้นคึกคัก ด้านมุกดาหารเตรียมความพร้อมรับภัยหนาว เร่งจัดทีมสื่อสารเพื่อกระจายข่าวสารทั่วถึง...

    เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 16 ต.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดชมวิวผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อากาศเริ่มหนาวเย็นแล้ว โดยอุณหภูมิเช้านี้ต่ำสุดอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส ลมแรง มีหมอกบาง อากาศสดชื่น มีนักท่องเที่ยวทั้งจากในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จากในตัวเมืองศรีสะเกษ และอำเภออื่นๆ รวมถึงต่างจังหวัด พากันขึ้นเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้นและทิวทัศน์ที่สวยงามกันคับคั่ง

    [​IMG]
    นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาว

    นายจิณณะ สามศรี ผช.หน.อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร กล่าวว่า ทางอุทยานฯ ได้มีนโยบายที่จะขยายเวลาเปิดการท่องเที่ยวจากเดิมเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.ทุกวัน เป็นเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นได้ตั้งแต่เวลา 05.30-16.30 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สดชื่น และสายหมอกยามเช้าและชมพระอาทิตย์ขึ้น จึงได้ทำเรื่องขอความเห็นชอบจากฝ่ายความมั่นคง โดยหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กกล.สุรนารี และได้เห็นชอบและอนุมัติให้อุทยานฯขยายเวลาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวบริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้ตามเวลาดังกล่าว เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 57 เป็นต้นไป

    ด้านจังหวัดมุกดาหารเตรียมพร้อมรับมือภัยหนาว ทั้งระบบการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าผ่านเครือข่ายการสื่อสารของทางราชการ และสื่อมวลชนพื้นที่แล้ว

    [​IMG]

    แสงอาทิตย์ยามเช้า

    โดย นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผวจ.มุกดาหาร กล่าวว่า เมื่อปี 2556 จังหวัดมุกดาหารได้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยหนาวทั้งจังหวัด จำนวน 42 ตำบล 426 หมู่บ้าน ก่อให้เกิดความเสียหายประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ซึ่งจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน สำหรับในปีนี้ จังหวัดมุกดาหาร ได้เตรียมรับมือภัยหนาวที่อาจเกิดขึ้น โดยในเบื้องต้นได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น พร้อมเจ้าหน้าที่รับผิดชอบประจำศูนย์ จัดให้มีระบบเตือนภัยล่วงหน้า ผ่านเครือข่ายการสื่อสารของทางราชการ สื่อมวลชนในพื้นที่ รวมถึงจากอาสาสมัครมิสเตอร์เตือนภัย.

    อีสานเตรียมต้อนรับอากาศหนาว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อีโบลาอาจนำไปสู่วิกฤตการณ์อาหาร

    [​IMG]

    หน่วยงานด้านอาหารของสหประชาชาติวอนประชาคมโลกช่วยเหลือด้านอาหารให้กับกลุ่มประเทศในแอฟริกาตะวันตก ที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา เนื่องจากสถานการณ์มีแนวโน้มเลวร้ายถึงขั้นก่อให้เกิดวิกฤติด้านอาหารในภูมิภาค

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/qzUm3cn38QA?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/BmoZn3OdjYA?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    วันพฤหัสบดี 16 ตุลาคม 2557 เวลา 13:29 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่าองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ( เอฟเอโอ ) เผยแพร่แถลงการณ์ของนายเดนิส บราวน์ ผู้อำนวยการเอฟเอโอประจำภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก เนื่องในโอกาส "วันอาหารโลก" ที่ตรงกับวันที่ 16 ต.ค. ของทุกปี แสดงความกังวลว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในเวลานี้ ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ อาจก่อให้เกิดวิกฤติด้านอาหารในภูมิภาค

    ปัจจุบัน 3 ประเทศในแอฟริกาตะวันตกที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะอย่างรุนแรง คือไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอน มีประชากรประสบกับภาวะอดอยากรวมกันราว 1.3 ล้านคน แต่เอฟเอโอและโครงการอาหารโลก ( ดับเบิลยูเอฟพี ) สามารถให้ความช่วยเหลือได้แล้วเพียง 534,000 คน แม้ภายในสิ้นเดือนนี้จะสามารถเพิ่มความช่วยเหลือได้ แต่คาดว่าจะได้เพียงราว 600,000-700,000 คนเท่านั้น ทางหน่วยงานจึงขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมกันให้ความช่วยเหลือด้านอาหารแก่พื้นที่ประสบภัย นอกเหนือจากบุคลากรการแพทย์และยารักษาโรค

    ทั้งนี้ ไลบีเรียเป็นประเทศที่น่าเป็นห่วงที่สุดจากการประเมินของเอฟเอโอ เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาส่งผลให้ราคาอาหารในเขตโลฟา พื้นที่ทุรกันดารที่สุดทางตอนเหนือของไลบีเรีย เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 75 ในเดือนส.ค.เพียงเดือนเดียว

    ขณะที่นายโจเซฟ แซม เซเซย์ รมว.กระทรวงเกษตร ป่าไม้และความปลอดภัยด้านอาหารของเซียร์ราลีโอน กล่าวว่าร้อยละ 40 ของพื้นที่เกษตรกรรมในประเทศกลายเป็นที่รกร้างไปแล้ว เนื่องจากประชาชนหวาดกลัวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา

    อีโบลาอาจนำไปสู่วิกฤตการณ์อาหาร | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    [​IMG]

    วันที่ 16-18 ตุลาคม จะมีการเรียงตัวของดาวเคราะห์ระหว่าง ดาว ศุกร์ พุธ และ โลก เป็นเส้นตรง

    วันที่ 16-18 ตุลาคม จะเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์อีกวันหนึ่ง คือมีการเรียงตัวระหว่าง ดาว ศุกร์ พุธ และ โลก เป็นเส้นตรง นอกจากนั้นยังเป็นช่วงแรม 8 ค่ำ โดยที่ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ จะเรียงตัวในแนวตั้งฉาก จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการสังเกตการณ์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุภายนอกโลก กับความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกมากเป็นพิเศษ โดยทุกท่านที่สนใจสามารถ สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นที่ดวงอาทิตย์และโลกเป็นพิเศษ สำหรับบนโลกนั้น ให้สังเกตปฏิกริยาใต้ผิวดินหรือสภาพอากาศ โดยติดตามข่าวสารจากสื่อมวลชนต่างๆจากทั่วโลก หรือสังเกตสิ่งต่างที่อยู่รอบๆตัว รวมถึงสภาพจิตใจด้วยตัวท่านเอง ซึ่งผมจะรายงานข่าวสารบางส่วนให้ทุกท่านทราบในช่วงวันดังกล่าวอีกทีหนึ่งครับ

    วันที่ 16-18 ตุลาคม จะมีการเรียงตัวของดาวเคราะห์ระหว่าง ดาว ศุกร์ พุธ และ โลก เป็นเส้นตรง | สถ
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    ฤดูหนาวปีนี้ มีแนวโน้มว่า Polar Vortex จะกลับมาอีกครั้ง และจะรุนแรงกว่าเดิมในรอบ 100 ปี

    [​IMG]

    ปีนี้สภาพภูมิอากาศโลกฤดูหนาวจะมาในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน โดยในช่วงเดือนตุลาคมอุณหภูมิจะค่อยๆลดต่ำลง 1-2 องศาเซลเซียส และความหนาวเย็นจัดแบบ Polar Vortex มีแนวโน้มว่าจะกลับมาอีกครั้ง ด้านสำนักกรมอุตุฯ ของต่างประเทศคาดการณ์ว่า ทางฝั่งสหรัฐอเมริกา ยุโรป คือช่วงประมาณเดือนมกราคมปี 2015 มีแนวโน้มว่าจะเกิด Polar Vortex ซึ่งส่งผลทำให้อุณหภูมิติดลบต่ำกว่า - 50 C และจะหนาวยาวไปจนถึง 5 เดือน ประมาณปลายเมษายน 2015

    ทั้งนี้สหรัฐและอังกฤษ ได้ประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมแบบสุดๆสำหรับฤดูหนาวหฤโหดในรอบ 100 ปี เนื่องจากมันจะส่งผลกระทบทำให้ ไฟฟ้าดับ , แก๊สไม่สามารถจ่ายไปถึงบ้านได้ , น้ำประปาไม่ไหล , หรือแม้แต่การขาดแคลนอาหารเป็นจำนวนมาก

    ส่วนที่ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ประเทศไทย เริ่มหนาวแล้ว หลังจากเช้านี้วัดได้ต่ำสุดเหลือ 6 องศาฯ จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน วัดได้ 8 องศาฯ คาดได้เห็นแม่คะนิ้งในหนาวนี้ ขณะที่อุณหภูมิทางภาคอีสานและภาคกลางเริ่มลดต่ำลง 1-2 องศาเซลเซียส ในช่วงนี้ ส่งผลทำให้มีอากาศเย็นขึ้น

    ฤดูหนาวปีนี้ มีแนวโน้มว่า Polar Vortex จะกลับมาอีกครั้ง และจะรุนแรงกว่าเดิมในรอบ 100 ปี | สถานการณ์
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Govy Goyly

    UNเตือนอาจพ่ายอีโบลาหากไร้มาตรการควบคุม
    16 ตุลาคม 2557 เวลา 08:08 น.

    [​IMG]

    ยูเอ็น เผย อีโบลากำลังเป็นฝ่ายวิ่งนำหน้าเข้าเส้นชัย โดยหากยังไม่มีมาตรการควบคุมการระบาดที่ได้ผล ด้าน องค์การอนามัยโลก คาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มจำนวนเป็น 9,000 คนภายในปลายสัปดาห์นี้

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า แอนโธนี แบนเบอรี หัวหน้าหน่วยงานฉุกเฉินของสหประชาชาติเพื่อตอบโต้การระบาดของโรคอีโบลา แถลงผ่านวิดีโอลิงก์จากสำนักงานใหญ่ ในกานา ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในนิวยอร์กว่า ขณะนี้เชื้อไวรัสอีโบลากำลังวิ่งนำหน้ามาตรการรับมือของทั่วโลกไปมากแล้ว อีกทั้งยังกำลังวิ่งได้รวดเร็วกว่า และกำลังเป็นผู้ชนะในการแข่งขันแบนเบอรีสำทับว่า ด้วยอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเร็วมากทุกๆ วัน UNMEER จะต้องใช้เตียงผู้ป่วยถึง 7,000 เตียงหากเราไม่สามารถหยุดยั้งอีโบลาได้ในขณะนี้ เราจะเผชิญสถานการณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนอย่างสิ้นเชิง และก็ยังไม่มีแผนการที่จะรับมือทั้งนี้ แบนเบอรี่ กล่าวว่า ข่าวดีก็คือ เรารู้วิธีหยุดยั้งการระบาดของอีโบลา เพียงแต่ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเท่านั้น"

    คำเตือนของแบนเบอรีมีขึ้นไล่เลี่ยกับที่บรูซ อิลวอร์ด ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก คาดว่า อัตราการติดเชื้ออีโบลาอาจเพิ่มเป็น 5,000-10,000 คนต่อสัปดาห์ เมื่อถึงช่วงสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม หากยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสร้ายนี้ได้ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเวลานี้อยู่ที่ 4,447 ราย จากผู้ติดเชื้อที่ได้รับรายงาน 8,914 ราย ส่วนใหญ่อยู่ใน 3 ประเทศในแอฟริกาตะวันตกด้าน องค์การอนามัยโลก คาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มจำนวนเป็น 9,000 คนภายในปลายสัปดาห์นี้

    news.voicetv.co.th/world/121691.html
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ammy Chumnankit

    สั่งกักตัว 2 นักแสวงบุญบินกลับจากพิธีฮัจญ์ หลังพบไข้ขึ้นสูง หวั่น! ติดเชื้อ “อีโบลา”
    นราธิวาส - สาธารณสุขนราฯ สั่งกักตัว 2 นักแสวงบุญที่เพิ่งเดินทางกลับจากประกอบพิธีฮัจญ์ ประเทศซาอุฯ หลังตรวจพบมีไข้สูง โดยขณะนี้อาการยังทรงตัว ด้านแพทย์หวั่นติดเชื้อ “อีโบลา”

    [​IMG]

    สั่งกักตัว 2 นักแสวงบุญบินกลับจากพิธีฮัจญ์ หลังพบไข้ขึ้นสูง หวั่น! ติดเชื้อ “อีโบลา”(ชมคลิป) โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ตุลาคม 2557 16:48 น.

    [​IMG]

    นราธิวาส - สาธารณสุขนราฯ สั่งกักตัว 2 นักแสวงบุญที่เพิ่งเดินทางกลับจากประกอบพิธีฮัจญ์ ประเทศซาอุฯ หลังตรวจพบมีไข้สูง โดยขณะนี้อาการยังทรงตัว ด้านแพทย์หวั่นติดเชื้อ “อีโบลา” เนื่องจากพิธีมีผู้เข้าร่วมที่มาจากประเทศแถบแอฟริกา คาดใช้เวลาตรวจเชื้อประมาณ 20 วันจึงรู้ผล

    วันนี้ (14.ต.ค.) ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.นราธิวาส นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สาธารณสุข จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า การป้องกันโรคระบาดอีโบลา และไวรัสโคโรนา ซี่งเป็นโรคที่มีความอันตรายความเสี่ยงสูง เป็นโรคติดต่อคนสู่คน โดยกลุ่มเฉพาะบุคคลเป้าหมายผู้เดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งในประเทศที่กล่าวถึงมีคนแอฟริกาเข้าไปร่วมทำพิธีฮัจญ์ด้วย และเป็นกลุ่มประเทศที่มีเชื้อไวรัสอีโบลา จึงเป็นที่น่ากังวลว่า คนไทยที่ไปเข้าร่วมประกอบพิธีฮัจญ์จะได้รับเชื้อมาด้วย

    โดยในประเทศซาอุดีอาระเบีย มีคนเสียชีวิจากเชื้อไวรัสอีโบลาจำนวนมาก และในช่วงวันที่ 11-12 ต.ค.ที่ผ่านมา นักแสวงบุญประมาณ 600 คน ได้เดินทางกลับจากซาอุดีอาระเบีย ผ่านช่องทางสนามบินนราธิวาส ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทำการสุ่มตรวจผู้เดินทางกลับทั้งหมด พบว่ามีไข้สูงกว่า 39 องศา ซึ่งถือว่าเป็นผู้อยู่กลุ่มเสี่ยงประมาณ 22 คน จึงได้มอบให้โรงพยาบาลประจำตำบล และอำเภอทำการรักษา และติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ให้กลับบ้านแล้ว และให้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา โดยหากมีไข้สูงต้องไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน

    นอกจากนี้ ทางสาธารณสุขได้กักตัวอีก 2 คน มีอาการไข้สูงผิดปกติ และได้นำมารักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อทำการวินิจฉัยเพื่อหาเชื้อไวรัสอีโบลา และไวรัสโคโรนา ซึ่งในขณะนี้คนไข้ยังมีอาการยังทรงตัว และอยู่ในการเฝ้าระวังของแพทย์ โดยอนุญาตให้ญาติเยี่ยมได้ แต่ต้องฟังคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งการตรวจเชื้อดูไวรัสอีโบลานั้นจะต้องใช้ระยะเวลา 20 วัน และเชื้อไวรัสโคโรนา ประมาณ 15 วัน

    นายแพทย์อุทิศศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ผู้แสวงบุญที่กลับจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ราว 8,000 คนเศษ จะใช้สนามบิน 3 จุด คือ สนามบินนราธิวาส สนามบินหาดใหญ่ และสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และด่านตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบตามขั้นตอนทุกคน แต่อาจจะมีบางรายที่เล็ดลอดไปบ้าง ทางสาธารณสุขยืนยันว่า เจ้าหน้าที่มีข้อมูลนักแสวงบุญทั้งหมด และได้สั่งการให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน ติดตามลงพื้นที่เพื่อให้เฝ้าระวังป้องกันการติดเชื้อดังกล่าว

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดูไบตระหนกอีโบลา! กักตัวผู้ต้องสงสัยหวั่นซ้ำรอยสหรัฐฯ ผู้นำโลก-UN ร้องฮึดสู้มากขึ้น โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2557 05:26 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี/รอยเตอร์/ASTVผู้จัดการ - โลกกำลังกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการแพร่ระบาดของอีโบลาที่มากับการสัญจรทางอากาศ ตามหลังกรณีชายชาวไลบีเรียนำเชื้อโรคเข้าสู่สหรัฐฯ ล่าสุดดูไบสั่งกักตัวผู้โดยสารรายหนึ่งที่มาจากแอฟริกาตะวันตก หลังมีอาการป่วยคล้ายไวรัสมรณะ นับเป็นผู้ต้องสงสัยติดเชื้อรายแรกของอ่าวเปอร์เซีย ขณะที่เหล่าผู้นำโลกเห็นพ้องกันประกาศให้อีโบลาเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติก็เรียกร้องประชาคมนานาชาติขยายความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้กับไวรัสชนิดนี้

    กระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บอกว่า ผู้โดยสารชายคนดังกล่าวที่เดินทางมาจากไลบีเรียผ่านโมร็อกโก ถูกกักตัวเพื่อตรวจสอบแล้ว หลังมีอาการท้องร่วง แม้ว่าอุณหภูมิร่างกายยังปกติก็ตาม นอกจากนี้ผู้โดยสารทุกคนบนเที่ยวบินเดียวกันก็ถูกตรวจสอบเท่าที่จำเป็นในมาตรการป้องกันไว้ก่อน

    อีโบลาติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของร่างกายของผู้ติดเชื้อ แต่มันจะไม่แพร่กระจายสู่คนอื่นๆจนกว่าคนไข้จะเริ่มแสดงอาการต่างๆ อย่างเช่นมีไข้ ปวดเมื่อย อาเจียนและท้องร่วง ขณะที่นับตั้งแต่ต้นปี ไวรัสมรณะชนิดนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 4,493 ศพ จากผู้ติดเชื้อ 8,997 คน ส่วนใหญ่อยู่ในไลบีเรีย เซียร์ราลีโอนและกินี

    การกักตัวผู้ต้องสงสัยในดูไบ มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯพบผู้มีอาการป่วยด้วยโรคอีโบลารายแรกในประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน ได้แก่นายโทมัส เอริก ดันแคน ชายชาวไลบีเรียที่ติดเชื้อไวรัสมรณะในแอฟริกาตะวันตก แต่มาแสดงอาการป่วยระหว่างเดินทางมาเยี่ยมครอบครัวในเทกซัส ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในแผนกกักกันโรควันที่ 8 ตุลาคม ทั้งนี้ตอนที่เขาเดินทางเข้าสหรัฐฯนั้น เขาไม่แสดงอาการไข้ใดๆ

    ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ เผยเมื่อวันพุธ (15 ต.ค.) ว่าพวกเขากำลังเร่งตามหาผู้โดยสารและลูกเรือ 132 คนของเที่ยวบินหนึ่ง เพื่อดำเนินการซักถาม หลังพบว่าผู้ติดเชื้ออีโบลารายที่ 2 ของสหรัฐฯ ได้โดยสารเครื่องบินภายในประเทศ จากโอไฮโอสู่เทกซัส ในวันที่ 13 ตุลาคม หนึ่งวันก่อนถูกวินิจฉัยโรคว่าล้มป่วยด้วยไวรัสมรณะชนิดนี้ ทั้งนี้เธอคือพยาบาลประจำโรงพยาบาลเท็กซัส เฮลท์เพรส ไบเทอเรียน ที่ให้การดูแลนายดันแคนเช่นเดียวกับผู้ติดเชื้อคนแรกของอเมริกา

    โธมัส ไฟรเดน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ยอมรับว่าการกรณีเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์สหรัฐฯ ติดเชื้ออีโบลาเป็นรายที่ 2 คือความกังวลอย่างยิ่ง และเตือนถึงความเป็นไปได้ว่าจะพบผู้ติดเชื้อสหรัฐฯเพิ่มเติมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมบอกว่าผู้ติดเชื้อรายหลังนี้ไม่ควรขึ้นโดยสารเครื่องบินก่อนหน้าผลวินิจฉัยโรคจะออกมา แม้มีความเป็นไปได้ต่ำมากที่เธอจะนำเชื้อไปติดผู้โดยสารคนอื่น

    “เธออยู่ในกลุ่มบุคคลที่รู้ตัวว่าได้สัมผัสกับอีโบลา เธอไม่ควรเดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์” ไฟรเดนบอกกับผู้สื่อข่าว “คำแนะนำของซีดีซีอย่างคร่าวๆก็คือจำเป็นต้องควบคุมการเคลื่อนไหว และต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับระบบขนส่งมวลชนใดๆ”

    พยาบาลรายนี้โดยสารเครื่องบินของสายการบินฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส จากท่าอากาศยานนานาชาติฟอร์ทเวิร์ทในดัลลัส สู่คลีฟแลนด์ ในวันที่ 10 ตุลาคม จากนั้นก็โดยสารเครื่องบินอีกเที่ยวกลับมาในวันที่ 13 ตุลาคม โดยเธอพบว่าตนเองมีไข้เมื่อวันอังคาร (14 ต.ค.) และถูกกักกันโรคที่โรงพยาบาลในทันที ก่อนที่ผลวินิจฉัยโรคจะออกมาในวันพุธ (15 ต.ค.)

    จากความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการแพร่ระบาดของอีโบลาที่มากับการสัญจรทางอากาศ ส่งผลให้ฝรั่งเศสตัดสินใจเป็นชาติล่าสุดที่จะดำเนินการคัดกรองด้านสาธารณสุขต่อผู้โดยสารเครื่องบินที่เดินทางมาจากเหล่าประเทศในแอฟริกาตะวันตกที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสมรณะ

    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจากนายฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประชุมทางไกลทางวิดีโอกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลี เพื่อหารือถึงวิกฤตอีโบลา

    ในเวลาต่อมาทางสำนักนายกรัฐมนตรีของนายคาเมรอน เปิดเผยว่า “เหล่าผู้นำโลกเห็นพ้องกันว่านี่คือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขสากลครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี และประชาคมนานาชาติจำเป็นต้องดำเนินการให้มากกว่าเดิมและเร็วยิ่งขึ้น เพื่อระงับการแพร่ระบาดของอีโบลาในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ” ส่วน จอช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงกับผู้สื่อข่าวว่าโอบามา ได้เรียกร้องเหล่าผู้นำชาติตะวันตกทั้งหลายเช่นกันว่าโลกจำเป็นต้องอุทิศความพยายามมากขึ้นอีกหลายเท่าเพื่อหยุดยั้งไวรัสมรณะชนิดนี้

    เช่นเดียวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ในวันเดียวกัน ก็ได้เรียกร้องประชาคมนานาชาติเร่งมือและขยายความช่วยเหลืออย่างทันทีทันใดสำหรับต่อสู้กับการแพร่ระบาดของอีโบลา โดยในมติที่รับรองคำแถลงอย่างเป็นเอกฉันท์ ทาง 15 ชาติสมาชิกยังเตือนด้วยว่ามาตรการตอบสนองของโลกในตอนนี้ยังล้มเหลวในการจัดการกับระดับของการแพร่ระบาดและผลกระทบของอีโบลา

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Hot Issue : ฮือฮา! รบ.อิเหนาประกาศทุ่มงบเกือบ 1.3 ล้านล้าน เดินหน้าเมกะโปรเจกต์สร้างกำแพงครุฑ กันน้ำท่วมซ้ำซาก “กรุงจาการ์ตา”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2557 06:10 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์สร้าง “กำแพงกั้นน้ำท่วม” กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศ โดยแนวกำแพงจะถูกออกแบบเป็นรูปร่าง “ครุฑ” สัญลักษณ์ประจำชาติของแดนอิเหนา

    รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า รัฐบาลอินโดนีเซียชุดใหม่ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ที่เตรียมก้าวขึ้นบริหารประเทศอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ ประกาศเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์สร้างแนวกำแพงความยาว 35 กิโลเมตรบริเวณ “อ่าวจาการ์ตา” ที่อยู่ทางตอนเหนือของเมืองหลวง เพื่อป้องกันการเกิดอุทกภัยที่คุกคามชีวิตของผู้คนนับสิบล้านคนในมหานครแห่งนี้

    โครงการก่อสร้างดังกล่าวซึ่งถูกขนานนามว่า “เดอะ เกรต วอลล์ ออฟ จาการ์ตา” ถูกระบุว่า อาจต้องใช้เวลาก่อสร้างยาวนานจนถึงปี ค.ศ. 2025 ถึงปี 2030 กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ และอาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.29 ล้านล้านบาท) สำหรับก่อสร้างแนวกำแพงที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง “7 เมตร”

    ด้านแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงจาการ์ตาออกมาเปิดเผยว่า โครงการนี้จะเป็นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลอินโดนีเซียกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำและรับมือภัยพิบัติจากประเทศ “เนเธอร์แลนด์” ขณะที่การออกแบบแนวป้องกันน้ำท่วมทั้งหมดนั้น อาจออกมาเป็นรูปร่างของ “ครุฑ” ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของอินโดนีเซีย

    ทั้งนี้ กรุงจาการ์ตาต้องเผชิญกับเหตุน้ำท่วมเป็นประจำในช่วงฤดูฝนของทุกปี เป็นเหตุประชาชนหลายหมื่นคนต้องกลายสภาพเป็น “ผู้อพยพซ้ำซาก” ที่ต้องคอยหนีตายออกจากบ้านเรือนของตนอยู่เป็นประจำ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในกรุงจาการ์ตาในแต่ละปีก็มีจำนวนนับร้อยราย โดยเฉพาะเหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2007

    อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าทีมผู้เชี่ยวชาญจากเนเธอร์แลนด์กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งสำคัญ ที่อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อโครงการนี้ นั่นคือ การที่พื้นที่ชายฝั่งตอนเหนือของกรุงจาการ์ตามีโครงสร้างทางภูมิศาสตร์อยู่บน “ดินอ่อน” ที่มีการ “ทรุดตัว” ลงโดยเฉลี่ยสูงถึงปีละ 14 เซนติเมตร ซึ่งหมายความว่ามีความเป็นไปได้ที่เมืองหลวงของอินโดนีเซียอาจกลายเป็นเมืองที่อยู่ “ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล” ได้ภายในไม่กี่ทศวรรษนับจากนี้

    [​IMG]
    @“เดอะ เกรท วอลล์ ออฟ จาการ์ตา” ถูกระบุว่า อาจต้องใช้เวลาก่อสร้างยาวนานจนถึงปี ค.ศ.2025 ถึงปี 2030 กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ และอาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.29 ล้านล้านบาท)

    [​IMG]
    @ที่ผ่านมาประชาชนหลายหมื่นคนต้องกลายสภาพเป็น “ผู้อพยพซ้ำซาก” ที่ต้องคอยหนีตายออกจากบ้านเรือนของตนอยู่เป็นประจำ

    [​IMG]
    @กรุงจาการ์ตาต้องเผชิญกับเหตุน้ำท่วมเป็นประจำในช่วงฤดูฝนของทุกปี


    Hot Issue :
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โพลเผย! มีชาวมะกันมากขึ้น อยากให้รบ. ส่ง “ทหารราบ” เข้ากำราบ “ไอเอส”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 ตุลาคม 2557 22:02 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ขณะนี้กำลังมีชาวอเมริกันจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่า การต่อสู้กวาดล้างกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ควรขยายวงครอบคลุมการใช้กองทหารราบสหรัฐฯ ผลการสำรวจที่เผยแพร่วันนี้ (15) ระบุ

    โพลของ เอ็นบีซีนิวส์ /วอลสตรีทเจอร์นัล ระบุว่าจำนวน 41 เปอร์เซ็นต์ของผู้ถูกสำรวจเชื่อว่า การสู้รบดังกล่าวควรครอบคลุมทั้งการโจมตีทางอากาศและกองทหารภาคพื้นดิน โดยเพิ่มขึ้นจาก 34 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายน

    ขณะที่ผู้ถูกสำรวจ 35 เปอร์เซ็นต์ให้การสนับสนุนเพียงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ ที่เข้ายึดดินแดนอันกว้างขวางในซีเรียและอิรักเท่านั้น ซึ่งลดลงจาก 40 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายน โพล ระบุ

    โพลอธิบายว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ที่สนับสนุนการขยายปฏิบัติการครอบคลุมทหารภาคพื้นดิน ส่วนใหญ่มาจากประชาชนที่เป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน

    ขณะที่ระดับการสนับสนุนในหมู่ฐานเสียงพรรคเดโมแครต ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มวัยรุ่นและสตรีผิวขาว โดยพื้นฐานแล้วไม่มีเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา

    โพลเสริมว่า ชาวอเมริกัน 55 เปอร์เซ็นต์ไม่สนับสนุนวิธีที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา กำลังใช้ต่อสู้กับกลุ่มนักรบญิฮัดไอเอส ขณะที่ 37 เปอร์เซ็นเห็นด้วย

    ทั้งนี้ โพลนี้ดำเนินการสอบถามความคิดเห็นประชาชน 1,000 คน และมีค่าความคลาดเคลื่อน 3.1 เปอร์เซ็นต์

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดียเข้ม! ออก กม.บังคับขยาย “คำเตือนบนซองบุหรี่”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2557 00:29 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - กระทรวงสาธารณสุขอินเดียแถลงในวันพุธ (15 ต.ค.) ว่า เหล่าบริษัทยาสูบในประเทศจะต้องพิมพ์ข้อความและภาพคำเตือนด้านสุขภาพขนาด 85 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่บนซองบุหรี่ ซึ่งนับเป็นอีกชาติที่หันมาใช้กฎหมายด้านการตลาดที่เข้มงวดตามหลังประเทศต่างๆ อย่างไทยและออสเตรเลีย

    เมื่อปี 2010 รัฐบาลออกมาเปิดเผยว่า ในทุกๆ ปีจะมีชาวแดนภารตะราว 800,000-900,000 คนเสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาสูบ ขณะที่โครงการควบคุมยาสูบนานาชาติ (International Tobacco Control Project) คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวอาจทะยานแตะ 1.5 ล้านคนภายในปี 2020 ถ้าผู้คนไม่สามารถละเลิกพฤติกรรมดังกล่าว

    นอกจากภาพประกอบแสดงผลกระทบเชิงลบของการสูบบุหรี่แล้ว ตัวซองจะถูกกำหนดให้ต้องมีคำว่า “คำเตือน” บนพื้นหลังสีแดงและข้อความระบุว่า “บุหรี่เป็นสาเหตุของมะเร็งปาก” บนพื้นหลังสีดำ กระทรวงสาธารณสุขระบุในคำประกาศ

    หร์ษะ วรธัน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินเดีย กล่าวว่า “นี่จะเป็นการบอกให้ทุกคน รวมถึงผู้เสี่ยงเป็นสิงห์อมควันได้ทราบว่า ผลของบุหรี่ไม่มีอะไรนอกจากความตาย”

    กฎหมายใหม่ฉบับนี้ที่บังคับให้พิมพ์ภาพและคำเตือนบนด้านหน้าและด้านหลังของซองบุหรี่ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนปีหน้าเป็นต้นไป กระทรวงระบุ

    กระทรวงกำหนดให้พื้นที่ 60 เปอร์เซ็นต์ของหน้าซองบุหรี่ต้องมีภาพคำเตือน พร้อมกับข้อความเตือนอยู่บนพื้นที่อีก 25 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากขนาด 20 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน

    รายงานฉบับหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ เผยให้เห็นว่า แดนภารตะติดอันดับที่ 136 จากรายชื่อ 198 ประเทศที่ใช้ภาพบนซองเพื่อห้ามปรามผู้สูบบุหรี่

    รายงานระบุว่า ไทย, ออสเตรเลีย และอุรุกวัย กำหนดให้พื้นที่หน้าซองบุหรี่ต้องมีคำเตือนขนาด 80 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า ขณะที่ออสเตรเลียเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เปลือยเปล่าเพื่อห้ามการแสดงเครื่องหมายการค้าของบริษัทยาสูบ

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คะแนนนิยม “โอบามา” ร่วงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ครองอำนาจ โพลล์ชี้ เหลือแค่ “40%” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2557 05:11 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผลโพลล์ล่าสุดยืนยัน บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯมีคะแนนนิยมลดลง จนร่วงสู่ระดับ “ต่ำสุด” นับตั้งแต่ก้าวขึ้นครองอำนาจอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคมปี 2009

    ผลโพลล์ซึ่งจัดทำโดยสื่อดังอย่าง “เอบีซี นิวส์” และ “วอชิงตัน โพสต์” ที่มีการเผยแพร่ในวันพุธ (15 ต.ค.) ระบุว่าในเวลานี้มีชาวอเมริกันเพียงร้อยละ 40 เท่านั้นที่ระบุว่าตนเองพอใจกับการทำหน้าที่ประธานาธิบดีของโอบามา ถือเป็นระดับความนิยมที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่ที่โอบามาก้าวขึ้นครองตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันเมื่อปี 2009

    ผลสำรวจครั้งนี้ถูกเผยแพร่ออกมาในช่วงก่อนถึง “การเลือกตั้งกลางเทอม” ของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน และถือเป็น “ปัจจัยเชิงลบ” ที่ส่งผลต่อการหาเสียงของบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสส์สังกัดพรรคเดโมแครต ตลอดจนบรรดาผู้ว่าการรัฐต่างๆ ที่เป็นสมาชิกพรรคเช่นเดียวกัน

    โพลล์ล่าสุดยังพบข้อมูลว่า ในความเป็นจริงแล้วคะแนนนิยมของบารัค โอบามาในวัย 53 ปี ได้ลดต่ำลงเหลือเพียงร้อยละ 33 ด้วยซ้ำ หากคิดเฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ออกเสียงอิสระ ที่มิได้เป็นผู้สนับสนุนทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน

    ทั้งนี้ ผลสำรวจล่าสุดพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวอเมริกันร้อยละ 51 ให้โอบามา “สอบตก” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการว่างงาน ขณะเดียวกันยังพบข้อมูลว่ามีชาวอเมริกันเพียงร้อยละ 35 เท่านั้นที่เห็นว่าโอบามา “สอบผ่าน” ในการรับมือภัยคุกคามของกลุ่มนักรบหัวรุนแรงรัฐอิสลาม (ไอเอส)

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮือฮา!! “เฟซบุ๊ก-แอปเปิล” จ้างพนักงานหญิง “ 20,000 ดอลลาร์ ให้แช่แข็งไข่”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 ตุลาคม 2557 18:23 น.

    [​IMG] [​IMG]

    เอเจนซีส์ - หลังจากซีอีโอไมโครซอฟท์ออกวาทะบรรลือโลกถึงอัตราเงินเดือนที่พนักงานหญิงพึงได้รับ ล่าสุดบริษัทแอปเปิลและบริษัทเฟซบุ๊กมีนโยบายจ่ายเงินสูงถึง 20,000 ดอลลาร์ เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้พนักงานหญิงระดับสูงลาออกหลังจากมีบุตร โดยการเสนอให้ใช้บริการ “ฝากไข่แช่แข็ง” เพื่อลดความเครียดของพนักงานหญิงที่ต้องเร่งมีบุตรก่อนอายุ 40 ปี เนื่องจากเงื่อนไขตามธรรมชาติ

    เดอะเทเลกราฟ สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(14)ว่า บริษัทเฟซบุ๊กได้เริ่มออกนโยบายเสนอเงินจำนวนถึง 20,000 ดอลลาร์ ให้พนักงานหญิงของบริษัทรับบริการ “ฝากไข่แช่แข็ง” ที่กระบวนการนี้เรียกว่า “ocyte-cryopreservation” เพื่อให้พนักงานหญิงของบริษัทสามารถเลื่อนกำหนดการมีบุตรออกไปจนกระทั่งช่วงหลังของชีวิตการทำงาน ซึ่งกระบวนการฝากไข่แช่แข็งนี้มีสนนราคาระหว่าง 10,000 – 15,000 ดอลลาร์ รวมถึงค่าเก็บรักษาไข่แช่แข็งต่อปีอีก 1,000 ดอลลาร์

    นอกจากนี้บริษัทเฟซบุ๊กยังเสนอเงินช่วยเหลือให้พนักงานชายของบริษัทที่ต้องการมีบุตรเพื่อให้สามารถใช้บริการ “การวางแผนครอบครัว” ที่คล้ายกับพนักงานหญิง

    สื่ออังกฤษยังรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัทแอปเปิลประกาศที่จะเริ่มเสนอเงินช่วยเหลือในการ “ฝากไข่แช่แข็ง” ให้กับพนักงานหญิงของบริษัทในเดือนมกราคม 2015

    ทั้งนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีระดับโลกทั้งสองหวังว่า โครงการจ้างฝากไข่แช่แข็งจะช่วยดึงดูดให้มีพนักงานหญิงเพิ่มจำนวนมากขึ้น และรั้งให้พนักงานหญิงเหล่านั้นยังทำงานอยู่กับบริษัทต่อไปโดยการลดความเครียดกับการที่ต้องเร่งมีบุตรในช่วงอายุที่เหมาะสม

    ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าวัยเจริญพันธุ์ของผู้หญิงที่สามารถมีบุตรได้สมบูรณ์และปลอดภัยนั้นไม่ควรเกิน 35 ปี และความสามารถนั้นจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อผู้หญิงเข้าสู่ช่วงอายุ 40 ปี ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงคนทำงานกำลังเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน และแทนที่เธอเหล่านั้นจะมุ่งมั่นปีนขึ้นสู่ระดับผู้บริหาร บรรดาพนักงานหญิงที่มีบุตรจำนวนมากเลือกที่จะลาออก และทำให้องค์กรขาดบุคลากรที่มีความสามารถไป

    ดังนั้นการเสนอให้ผู้บริหารหญิงของบริษัทสามารถเลือกที่จะแช่แข็งไข่ของตนเองจะทำให้ทั้งแอปเปิลและเฟซบุ๊กโดดเด่นออกมาจากบริษัทชั้นนำอื่นๆที่ล้วนแล้วแต่มีผู้บริหารเป็นชายทั้งสิ้น

    โครงการ “ฝากไข่แช่แข็ง” ของเฟซบุ๊กมีขึ้นเพื่อลบล้างความคิดที่เชื่อว่า “ผู้หญิงควรมีบุตรเมื่อมีอายุน้อย” มากกว่าที่จะมีบุตรเมื่อมีความพร้อมด้านหน้าที่การงาน ซึ่งเชอริล แซนด์เบิร์ก (Sheryl Sandberg) ผู้บริหารด้านปฎิบัติการของเฟซบุ๊กได้กล่าวในหนังสือของเธอ “Lean In” ว่า “ผู้หญิงควรจะมีอิสรภาพในการเลือกโดยมีศูนย์กลางจากหน้าที่การงานมากกว่าข้อจำกัดเงื่อนไขของการมีบุตร” และเชื่อว่าโครงการนี้จะให้อิสรภาพกับผู้หญิงวัยทำงานของบริษัทมากขึ้นซึ่งถือเป็นหนึ่งในการผลักดันความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน เพราะไม่น่าเชื่อว่าสหรัฐฯที่เป็นหนึ่งในประเทศชาติอุตสาหกรรมแต่กลับมีปัญหาด้านความเท่าเทียมทางเพศเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆในยุโรป อาทิ นักการเมืองสหรัฐฯไม่ต้องการให้บริษัทประกันสุขภาพ หรือนายจ้างซึ่งเป็นผู้จ่ายประกันสุขภาพต้องรับภาระ “ค่าใช้จ่ายการคุมกำเนิดให้กับผู้หญิงอเมริกัน” หรือปัญหาการเท่าเทียมด้านอัตราเงินเดือน

    อย่างไรก็ตามโครงการของเฟซบุ๊กนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เห็นตรงกันข้าม และตั้งข้อสงสัยถึงผลกระทบข้างเคียงจากโครงการนี้ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันให้กับผู้บริหารหญิงให้ต้องเลื่อนกำหนดการมีบุตรออกไปจนกระทั่งเกือบเกษียณ

    NBC News สื่อสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางบริษัทชั้นนำอื่นๆในซิลิคอนแวลเลย์ เฟซบุ๊กและแอปเปิลต่างแข่งขันเพื่อดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถให้ยังคงทำงานกับบริษัทต่อไป ซึ่งเฟซบุ๊กจะมอบเงินสด “4,000 ดอลลาร์” ที่เรียกว่า “baby cash” เพื่อให้พ่อแม่มือใหม่เหล่านั้นสามารถใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องการได้

    สื่อสหรัฐฯยังรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯมีแนวโน้มที่ต้องการเสนอสวัสดิการพนักงานที่น่าดึงดูดใจมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกจ้าง อาทิ มีการเสนอสวัสดิการเฉพาะให้กับพนักงานเพศที่ 3 และหากโครงการ “ฝากไข่แช่แข็ง” ประสบความสำเร็จอาจทำให้มีบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆเข้าร่วมเสนอสวัสดิการนี้ให้พนักงานหญิงของบริษัทเหล่านั้นเช่นกันในอนาคต

    อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐฯวิเคราะห์ว่า โครงการ “ฝากไข่แช่แข็ง” ของเฟซบุ๊กและแอปเปิลดูมีผลดีมากกว่าผลเสียสำหรับตัวบริษัทเอง เพราะจะช่วยกระตุ้นให้พนักงานยังคงต้องการยืดระยะเวลาการทำงานให้กับบริษัทต่อไป และตัดค่าใช้จ่ายการว่าจ้างและการฝึกอบรมพนักงานใหม่ให้กับบริษัท และหากพนักงานหญิงเร่งฝากไข่แช่แข็งตั้งแต่แรกเริ่มจะทำให้บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้สิทธิ์ลาคลอดในระยะยาวอีกด้วย และพนักงานหญิงสามารถเลี่ยงค่าใช้จ่ายมหาศาลโดยการใช้ไข่ฝากแช่แข็งของเธอเอง หรือการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยให้มีบุตรเมื่อยามที่เธอต้องการ

    ลินน์ เวสต์ฟาล (Lynn Westphal ) ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสแตนด์ฟอร์ดสหรัฐฯให้ความเห็นว่า การฝากไข่แช่แข็งเหมือนกับการซื้อประกันรถ ผู้ซื้อหวังที่จะไม่ต้องเกิดเหตุการณ์ที่ต้องเคลมประกัน แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นจริงผู้ซื้อกลับรู้สึกดีใจที่มีประกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น แต่กระนั้น การเลื่อนการเป็นมารดาออกไป หรือการต้องใช้บริการด้านการแพทย์เพื่อการมีบุตรอาจจะไม่สามารถทดแทนคุณค่าทางจิตใจและคุณค่าทางสังคมที่มนุษย์ยังคงให้ความสำคัญอยู่

    [​IMG] [​IMG]

     

แชร์หน้านี้

Loading...