ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผู้พเนจร จากฟากฟ้า

    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ชาร์จให้ถึง 70% ได้ภายใน 2 นาที มีอายุการใช้งานถึง 20 ปี

    [​IMG]

    เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า แบตเตอร์รีของโทรศัพท์มือถือ ชนิดแอนดรอยนั้น ใช้งานได้เฉลี่ยแค่วันเดียวเท่านั้น ก็ต้องชาร์ตบรรจุไฟใหม่ ทำให้ผู้ใช้งานไม่สะดวก หากต้องไปนอกพื้นที่ในการใช้ไฟฟ้า
    มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ประเทศสิงคโปร์ ได้คิดค้นพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่นใหม่ ที่มีคุณสมบัติสามารถชาร์จให้ถึง 70% ได้ภายใน 2 นาที แถมมีอายุการใช้งานนานถึง 20 ปี
    กลุ่มผู้คิดค้น ได้เปลี่ยนจากการใช้กราไฟต์ มาใช้ไทเทเนียมไดออกไซด์แทน ทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยไทเทเนียมไดออกไซด์เป็นสารที่มีจำนวนมาก ราคาถูก ใช้งานง่าย และปลอดภัย พบได้ตามพื้นดิน มักถูกนำมาใช้ในพวกอาหารเสริมและโลชั่นป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (ยูวี)
    ทั้งนี้เทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถนำมาผลิตขายได้ภายในปี ค.ศ.2016
    ทีนี้บริษัทบริษัทชายโทรศัพท์แอนดรอย ยิ้มเลย แต่บริษัทที่ผลิตที่แบคเตอรี่รุ่นเก่า และชาร์ตฉุกเฉินขายสารพัดยี่ห้อ อาจไม่ค่อยชอบนัก เพราะอายุการใช้งานรุ่นใหม่นี้นานถึง 20 ปี และชาร์ตเร็วซะขนาดนี้ อาจไม่จำเป้นต้องใช้ที่ชาร์ตฉุกเฉินสำรองเลย
    ถ้าประยุกติ์ไปใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ จะมีประโยชน์กับมนุษย์อีกมาก เช่น วิทยุสื่อสารภาคสนามของทหาร กู้ภัยภาคสนาม อุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ
    @ เสธ น้ำเงิน4
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kunakorn Kay

    จากคำให้สัมภาษณ์ ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ WHO แสดงถึงความกังวลในการแพร่ระบาดของ Ebola อย่างชัดเจน

    [​IMG]

    " Without an increased commitment to fighting the virus within 60 days, “a lot more people will die,” said Bruce Aylward, the organization’s assistant director-general, according to the Associated Press. "

    [​IMG]

    Ebola: W.H.O. Says New Cases Could Hit 10,000 Per Week
    บางสำนักข่าวที่ดูน่าเชื่อถือ ยังลงถึงขนาดว่า คาดว่าจะมีผู้ติดเชื่อ" ใหม่" มากถึง 10,000 รายต่อ"สัปดาห์" ===> World War Z ดีๆ นี่ๆ เอง "
    ‪#‎เตรียมพร้อม_ตระหนักแต่ไม่ตระหนก‬ ครับ
    New Ebola Cases May Rise to 10,000 a Week by December - WSJ - WSJ
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พู่กัน ทอง

    [​IMG]

    นักบินอวกาศแคนาดา สาธิต หากเราร้องไห้ในยานอวกาศจะเป็นอย่างไรทางด้านชาวเน็ตแห่ขอบคุณในความเอื้อเฟื้อความรู้

    วันนี้ (16 ต.ค. 57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปของ "VideoFromSpace" สมาชิกยูทูป ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ พันเอก คริส แฮดฟิลด์ นักบินอวกาศชาวแคนาดา ได้แสดงถึงหากเราร้องไห้ในยานอวกาศนั้นจะเป็นอย่างไร โดยสาธิตจากการนำน้ำดื่ม มาแทนน้ำตาจริงๆของเขาให้ผู้รับชมทราบ ทั้งนี้ทางด้านชาวเน็ตผู้ที่ได้รับชมคลิปดังกล่าวว่าต่างแสดงความขอบคุณเพราะเป็นสิ่งที่ชาวโลกหลายคนอยากรู้


    Kaokala Fc

    พันเอก คริส แฮดฟิลด์ นักบินอวกาศชาวแคนาดา สาธิต หากเราร้องไห้ในยานอวกาศจะเป็นอย่างไร

    <iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/1v5gtOkyCG0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2014
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    "เคปเลอร์ 186เอฟ" ดาวเคราะห์ (เกือบ) "ฝาแฝด" โลก!
    วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19:56:11 น.

    [​IMG]
    @เคปเลอร์ 186เอฟ คล้ายโลกมากที่สุด

    นักดาราศาสตร์สรุปแล้วว่า ดาวเคราะห์เคปเลอร์ 186 เอฟ ดวงนี้ เป็นดาวเคราะห์ที่มีความคล้ายคลึงกับโลกเรามากที่สุด ในบรรดาดาวเคราะห์ที่อยู่นอกระบบสุริยะทั้งหลายที่อยู่ภายในระยะห่างจากดาวฤกษ์ของมันที่เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิตหรือที่เรียกว่า "ฮาบิแทท โซน" ทั้งหลายที่มีการค้นพบกันมาแล้วหลายร้อยดวง

    เคปเลอร์ 186 เอฟ ไม่ถึงกับเป็น "ฝาแฝด" ของโลกเสียทีเดียว แต่ขนาดใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง มีความแตกต่างกันเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง มันโคจรอยู่รอบดาวฤกษ์ประเภทดาวแคระแดงในระบบดาวของมันเอง แต่ใช้เวลาโคจรครบ 1 รอบเพียง 130 วัน และได้รับแสงจากดาวฤกษ์ของมันเพียง 1 ใน 3 ของแสงที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์ ซึ่งนั้นหมายความว่า ยามเที่ยงบนเคปเลอร์ 186 เอฟนี้จะมีสภาพคล้ายคลึงกับช่วงเวลา 1 ชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ตกบนโลกของเรา

    นักวิทยาศาสตร์สรุปว่า สภาพของเคปเลอร์ 186 เอฟ คล้ายคลึงกับโลกเรามากจนอาจเป็นไปได้ที่จะมีสภาวะและเงื่อนไขต่างๆ ที่เอื้อให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่และวิวัฒนาการได้ ดาวเคราะห์คล้ายโลกอื่นๆ ในฮาบิแททโซน ถ้าไม่ใหญ่กว่าโลกมาเกินไป ก็อยู่ห่างจากดาวฤกษ์ของมันมากเกินไปจนไม่สามารถดำรงสถานะของน้ำให้เป็นของเหลวได้ตลอดเวลาเหมือนบนโลก

    ยังไม่มีใครรู้ว่าสภาพบนเคปเลอร์ 186 เอฟเป็นอย่างไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่คาดกันว่าคงเต็มไปด้วยหินและภูเขา อุณหภูมิของมันขึ้นอยู่กับบรรยากาศของเคปเลอร์ 186 เอฟเองว่ามีหนาแน่นมากน้อยแค่ไหน ในปี 2018 เมื่อ เจมส์ เว็บบ์ สเปซ เทเลสโคป ขึ้นไปอยู่บนวงโคจรได้สำเร็จ

    ก็น่าจะช่วยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์ดวงนี้และดวงอื่นๆ ได้มากขึ้น

    "เคปเลอร์ 186เอฟ" ดาวเคราะห์ (เกือบ) "ฝาแฝด" โลก! : มติชนออนไลน์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทีมแพทย์อังกฤษวิจัย "ชีวิตหลังความตาย"
    วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22:26:54 น.

    [​IMG]
    ทีมแพทย์อังกฤษวิจัย ชีวิตหลังความตาย

    ทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน ในเมืองเซาแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษ ใช้เวลานาน 4 ปี ศึกษาวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบผู้ป่วยจำนวน 2,060 คน ซึ่งป่วยหนักและมีอาการหัวใจหยุดเต้นในโรงพยาบาลต่างๆ รวม 15 โรงพยาบาล ทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และออสเตรีย

    ในจำนวนผู้ป่วยที่ใช้ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้้ มีผู้รอดชีวิตจากภาวะดังกล่าว 330 ราย เป็นกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการสอบถาม ซักประสบการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างละเอียด

    ถือเป็นการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ต่อภาวะ "เฉียดตาย" และ "ประสบการณ์นอกร่างกาย" ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยทำกันมาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

    นายแพทย์ แซม พาร์เนีย อดีตนักวิจัยรับเชิญประจำมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน ซึ่งปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา หัวหน้าทีมวิจัยครั้งนี้ สรุปผลการวิจัยเอาไว้ว่า ทีมวิจัยพบว่ามีกลุ่มตัวอย่างเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ที่รอดชีวิตจากภาวะการณ์ดังกล่าว หรือราว 140 คน บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านั้น "มีความรู้สึกตัว" บางอย่างคงอยู่ หลังจากที่ในทางการแพทย์ถือว่าคนเหล่านั้นเสียชีวิตแล้วเพราะหัวใจหยุดเต้น ก่อนที่จะได้รับการปั๊มหัวใจรอดชีวิตขึ้นมาใหม่

    หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นชายชาวเมืองเซาแธมป์ตัน วัย 57 ปี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์บอกว่า จำได้ว่าออกจากร่างกายตัวเอง แล้วไปหยุดมองหมอและพยาบาล พยายามทำให้ตัวเองฟื้นคืนชีพอยู่ตรงมุมห้อง ทั้งๆ ที่ชายผู้นี้หัวใจหยุดเต้นและในทางการแพทย์ถือว่า "ตาย" ไปแล้ว เป็นเวลา 3 นาที ที่ทีมวิจัยสามารถคำนวณระยะเวลาที่เขาเสียชีวิตไปได้ เนื่องจากชายผู้นี้จำรายละเอียดได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งเสียงของเครื่องมือแพทย์ชิ้นหนึ่ง ซึ่งจะส่งเสียง ปิ๊ด ทุกๆ 3 นาที เขาจำได้ว่าเขาได้ยินเสียงปิ๊ด 2 ครั้งด้วยกัน

    นายแพทย์ พาร์เนียระบุว่า ในทางการแพทย์นั้นเมื่อหัวใจหยุดเต้น สมองจะไม่สามารถทำงานต่อไปได้และจะปิดการทำงานทั้งหมดลงตามมาภายใน 20-30 วินาที แต่ในกรณีของชายผู้นี้ ความรู้สึกสำนึกดูเหมือนจะยังคงอยู่หลังจากนั้นไปแล้วนานถึง 3 นาที หลังจากการหยุดเต้นของหัวใจ

    นอกจากนั้น ยังสามารถให้รายละเอียดของทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องได้ ทั้งยังได้ยินเสียงอีกต่างหาก ทั้งนี้ นายแพทย์ พาร์เนียพูดถึงชายผู้นี้ว่า น่าเชื่อถือมาก และจากการตรวจสอบกับทีมหมอ-พยาบาล ทุกอย่างที่เขาบอกว่าเกิดขึ้น เกิดขึ้นจริงในห้วงเวลาดังกล่าว

    ในขณะที่มีอีกหลายคนมากที่ไม่สามารถย้อนรำลึกถึงรายละเอียดจำเพาะที่เกิดขึ้นได้ แต่โดยรวมแล้วผู้ที่มีประสบการณ์ทำนองนี้มักบอกเล่าออกมาคล้ายๆ กัน ที่พบทั่วไปอย่างหนึ่งคือ พวกเขารู้สึกถึงความสงบอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

    ในขณะที่อีกราว 1 ใน 3 บอกว่า เวลาสำหรับพวกเขาในเวลานั้นเปลี่ยนไปจากภาวะปกติ ถ้าไม่ช้าลงก็เร็วขึ้นจนรู้สึกได้ บางคนบอกถึงการได้เห็นแสงสว่างจ้าเหมือนแสงสีทองจ้าของดวงอาทิตย์ คนอื่นๆ เล่าถึงความรู้สึกกลัว หรือรู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำ หรือกำลังถูกฉุดลากผ่านน้ำลึกๆ 13 เปอร์เซ็นต์บอกว่า รู้สึกได้ว่าถูกแยกออกจากร่างกาย และ 13 เปอร์เซ็นต์ของผู้รอดตายเช่นกันที่ระบุว่า ประสาทสัมผัสต่างๆ ของตนไวและละเอียดอ่อนขึ้นมาก

    นายแพทย์ เดวิด ไวลด์ นักวิจัยด้านจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยนอตติงเเฮม เทรนท์ ชี้ว่า รายงานการศึกษาดังกล่าวถือเป็นหลักฐานที่ดีอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่ามีประสบการณ์บางอย่างเกิดขึ้นจริงหลังจากที่คนเราถือว่าตายไปแล้วทางการแพทย์

    นักวิทยาศาสตร์ทั้งสองสรุปเหมือนๆ กันว่า ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องมีการศึกษาให้ลึกซึ้งต่อไป


    ทีมแพทย์อังกฤษวิจัย "ชีวิตหลังความตาย" : มติชนออนไลน์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กทม.เปิดสวนสาธารณะ 28 แห่ง วันลอยกระทง ห้ามใช้โฟม
    โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 16 ต.ค. 2557 17:42

    [​IMG]

    กทม.เปิดสวนสาธารณะ 28 แห่ง ให้ประชาชนไปลอยกระทง ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 6 พ.ย. เข้มห้ามใช้วัสดุจากโฟม จุดพลุ ประทัด และห้ามขายของเด็ดขาด...

    เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นางสุวรรณา จุ่งรุ่งเรือง รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เทศกาลลอยกระทงในปี 2557 ตรงกับวันที่ 6 พ.ย. ทาง กทม. กำหนดเปิดสวนสาธารณะ 28 แห่ง เพื่อให้ประชาชนเข้าไปลอยกระทง ตั้งแต่เวลา 15.00-24.00 น. แต่ห้ามใช้กระทงที่ทำด้วยโฟม ห้ามจุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ตลอดจนห้ามขายกระทง สินค้า อาหาร และอื่นๆ ภายในสวนสาธารณะโดยเด็ดขาด

    สำหรับสวนสวนสาธารณะทั้ง 28 แห่ง มีดังนี้ 1.สวนลุมพินี เขตปทุมวัน 2.สวนจตุจักร เขตจตุจักร 3.สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร 4.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง 5.สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง 6.สวนสราญรมย์ เขตพระนคร 7.สวนรมณีนาถ เขตพระนคร 8.สวนสันติชัยปราการ เขตพระนคร ในสวนนาคราภิรมย์ เขตพระนคร 10.สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ

    11.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม 12.สวนนวมินทร์ภิรมย์ เขตบึงกุ่ม 13.สวนหนองจอก เขตหนองจอก 14.อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย 15.สวนน้ำบึงกระเทียม เขตมีนบุรี 16.สวนเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา (ฝั่งพระนคร) เขตบางคอแหลม 17.สวนสันติภาพ เขตราชเทวี 18.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน 19.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง 20.สวน 50 พรรษา มหาจักรีสิรินธร เขตประเวศ

    21.สวนวนธรรม เขตประเวศ 22.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา 23.สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย 24.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด 25.สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71 เขตลาดพร้าว 26.สวนสิรินธราพฤกษาพรรณ เขตบางกอกน้อย 27.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขตบางกอกน้อย และ 28.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขตสาทร

    กทม.เปิดสวนสาธารณะ 28 แห่ง วันลอยกระทง ห้ามใช้โฟม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc

    NASA จับตาดาวหาง Siding Spring เฉียดดาวอังคาร 19 ต.ค. นี้

    [​IMG]

    เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2557 เว็บไซต์เทคไทมส์ รายงานว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) เผยกำลังจับตาดาวหางเฉียดดาวอังคารในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ (เวลา 01.27 ของวันจันทร์ที่ 20ต.ค.ตามเวลาประเทศไทย) โดยใช้ยานอวกาศและยานสำรวจไร้คนขับ

    ดาวหางดวงนี้ มีชื่อว่า ไซดิ้ง สปริง (Siding Spring) หรือ C/2013 A1 มีขนาดประมาณภูเขา 1 ลูก จะเคลื่อนเฉียดดาวอังคารในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ในระยะห่างประมาณ 87,000 ไมล์ หรือราว ๆ 1.4 แสนกิโลเมตร น้อยกว่าระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์เสียอีก และจะเคลื่อนตัวผ่านดาวอังคารด้วยความเร็วประมาณ 2 แสนกิโลเมตรต่อชั่วโมง

    (ชมคลิป

    <iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/Oq8lEKAY_fI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
    )

    สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าว นาซาเผยว่า เป็นการมาเยือนของดาวหางที่น่าตื่นเต้นและจับตามองมาก เพราะดาวหางประเภทนี้ไม่เคยโคจรเข้ามาในระบบสุริยะชั้นในเลย

    อย่างไรก็ดีนาซาได้เตรียมจับตาปรากฏการณ์นี้จากหอสังเกตการณ์บนพื้นโลก และจากยานอวกาศไร้คนขับทั้งที่โคจรอยู่รอบดาวอังคารและที่อยู่ระหว่างปฏิบัติการสำรวจพื้นผิวดาวอังคารแล้ว ซึ่งคาดว่าข้อมูลที่จะได้จากปรากฏการณ์ดาวหางเฉียดดาวอังคารครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาเกี่ยวกับดาวหางต่อไป

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc

    16 ต.ค. NASA ย้ายยานสำรวจดาวอังคารหลบดาวหาง หวั่นถูกสะเก็ดดาวหางชน ดาวหาง Siding Spring จะพุ่งเฉียดดาวอังคาร19 ต.ค.นี้ หรือ 01.27 ของวันจันทร์(20 ต.ค.)ตามเวลาประเทศไทย

    หวั่นสะเก็ดดาวหาง ชนยานดาวอังคาร by สาธิต มนัสสุรกุล 16 ตุลาคม 2557 เวลา 10:04 น.

    <iframe width="660" height="371" src="//www.youtube.com/embed/Oq8lEKAY_fI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    นาซาย้ายยานสำรวจดาวอังคารหลบดาวหาง คาดก้อนน้ำแข็งผสมฝุ่นกว้าง 1.5 ก.ม.พุ่งเฉียดดาวเคราะห์สีแดงในระยะแค่ 1.4 แสนก.ม. เตรียมใช้กล้องบนรถหุ่นยนต์จับภาพอันน่าตื่นตา

    ในเวลา 01.27 ของวันจันทร์ตามเวลาประเทศไทย ดาวหางไซดิงสปริงจะเข้าใกล้ดาวอังคารมากที่สุด ทำให้นาซาต้องเคลื่อนตำแหน่งของยานโคจร 3 ลำไปอยู่ด้านหลังของดาวอังคาร เพื่อหลบวิถีของดาวหางขนาดกว้าง 1.5 ก.ม.ดวงนี้

    ขณะดาวหาง Siding Spring พุ่งผ่านดาวเคราะห์สีแดงในระยะ 140,000 ก.ม. ด้วยความเร็ว 203, 000 ก.ม./ช.ม. นาซาจะใช้กล้องบนรถหุ่นยนต์ ออพพอร์จูนิตี กับคิวริออซิตี จับภาพหางอันยาวเหยียด

    นาซาอยากรู้ว่า แรงโน้มถ่วงของดาวอังคารส่งผลอย่างไรต่อไซดิงสปริง และดาวหางดวงนี้ส่งผลอย่างไรต่อบรรยากาศของดาวอังคาร ในขณะที่มันเข้าใกล้เจ้าดาวเคราะห์สีแดงในระยะไม่ถึงครึ่งของระยะห่างระหว่างดวงจันทร์กับโลก

    [​IMG]
    @Image: http://upic.me/i/4d/la_01.jpg

    ไซดิงสปริงเป็นดาวหางที่หลุดออกมาจากกลุ่มเมฆออร์ตที่ขอบนอกของระบบสุริยะ เมฆออร์ตเป็นแถบวงแหวนที่ก่อตัวขึ้นจากเศษวัตถุหลงเหลือจากการก่อเกิดระบบสุริยะ กลุ่มเมฆนี้อยู่ห่างจากโลก 50 เท่าของระยะทางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์

    ดาวหางดังกล่าวถูกค้นพบเมื่อเดือนมกราคม 2556 เชื่อว่ามันเพิ่งมาเยือนระบบสุริยะชั้นในเป็นครั้งแรก หลังจากถูกเหวี่ยงผลักจากเมฆออร์ตเพราะแรงโน้มถ่วงของดาวฤกษ์ที่โคจรผ่านเมื่อราว 1 ล้านปีก่อน โดยทั่วไป ดาวหางมีเนื้อสารเป็นก้อนน้ำแข็งผสมฝุ่น

    ผลการคำนวณล่าสุดบ่งบอกว่า สะเก็ดฝุ่นจากหางของไซดิงสปริง คงไม่ปลิวไปกระทบกระแทกยานโคจรต่างๆ แม้กระนั้น นาซายังไม่วางใจ จึงได้ย้ายตำแหน่งของยานต่างๆให้พ้นรัศมี ทั้งนี้ อินเดียกับองค์การอวกาศยุโรปต่างมียานโคจรรอบดาวอังคารด้วย

    [​IMG]
    @Image: http://upic.me/i/zh/la_03.jpg

    สำหรับรถหุ่นยนต์ทั้งสองคัน คาดว่าจะปลอดภัย ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารจะทำให้สะเก็ดดาวหางมอดไหม้ก่อนตกถึงพื้นผิว ขณะที่กล้องบนรถจะบันทึกภาพฝนดาวตก

    บรรดากล้องโทรทรรศน์ ทั้งบนภาคพื้นและในอวกาศ จะเฝ้ามองไซดิงสปริงด้วยเช่นกัน เพื่อศึกษาน้ำ ธาตุคาร์บอน และมวลสารอื่นๆ ที่ดำรงคงอยู่มาตั้งแต่ตอนที่ระบบสุริยะก่อตัวเมื่อ 4,600 ล้านปีก่อน.

    Source: Reuters
    Images/Video: Nasa


    หวั่นสะเก็ดดาวหาง ชนยานดาวอังคาร - VoiceTV
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Voice World Wide

    ผู้นำสหรัฐฯออกแถลงการณ์เตรียมความพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของอีโบลาในประเทศ โดยให้เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนแผนรับมือให้สอดคล้องกับสถานการณ์

    ขนาดสหรัฐฯ..ก็ยังไม่พร้อมรับมือกับอีโบลา by Sutthiporn Bunchuay
    16 ตุลาคม 2557 เวลา 08:22 น.

    [​IMG]

    หลังจากที่สหรัฐฯ ตรวจพบผู้ติดเชื้ออีโบลาที่เป็นการติดต่อของเชื้อภายในประเทศถึง 2 คน ทำให้เกิดความหวาดระแวงว่า การรับมือของสหรัฐฯ ในกรณีดังกล่าวอาจยังมีช่องโหว่ และเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าแม้แต่ประเทศที่วิทยาการก้าวล้ำอย่างสหรัฐฯ ก็ยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับเชื้อร้ายที่ระบาดหนักอย่างควบคุมไม่ได้นี้

    เมื่อเดือนที่ผ่านมา นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของอีโบลาในสหรัฐฯ โดยระบุว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจริงๆ เช่น กรณีที่มีผู้ติดเชื้ออีโบลา เดินทางเข้ามาในสหรัฐฯนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะเปลี่ยนแผนรับมือใหม่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของอีโบลาในสหรัฐฯอยู่ในอัตราที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

    ถ้อยแถลงดังกล่าว ทำให้ชาวอเมริกัน รู้สึกมั่นใจกับการรับมือกับอีโบลาของทางการสหรัฐฯมากยิ่งขึ้น และมองว่าโรคอีโบลา ยังเป็นสิ่งที่ไกลตัวชาวอเมริกัน และการระบาดดังกล่าว อาจไม่มีวันเกิดขึ้นในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดประเทศหนึ่งของโลก แถมยังเป็นผู้นำด้านการพัฒนาสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในกลุ่มประเทศโลกตะวันตกอีกด้วย

    แต่แล้ว เมื่อมีรายงานว่า นายโทมัส เอริก ดันแคน ชาวไลบีเรียที่เดินทางมาเยี่ยมญาติที่เมืองดัลลัส มลรัฐเท็กซัสเมื่อเดือนก่อน ติดเชื้ออีโบลา และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็ทำให้เกิดความหวาดระแวงมากขึ้น โดยหลายฝ่ายมองว่า นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของอีโบลาในสหรัฐฯก็เป็นได้

    จากนั้นไม่นาน ก็มีรายงานว่า พยาบาลสาวนีนา แฟม ชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนามวัย 26 ปี ซึ่งให้การดูแลนายดันแคน ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเท็กซัส เฮลธ์ เพรสไบทีเรียน ก็ติดเชื้ออีโบลาด้วยเช่นกัน ตามมาด้วยข่าวการติดเชื้อของพยาบาลอีกคนหนึ่ง ซึ่งทำงานร่วมกับแฟม นั่นคือ แอมเบอร์ วินสัน อายุ 29 ปี พร้อมกับผู้ที่ยังอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังอาการอีกนับร้อยคน ก็ยิ่งกลายเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า สหรัฐฯขาดความพร้อมในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของอีโบลา และกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการระบาดไปแล้ว แม้ว่าจะเป็นอัตราที่ต่ำกว่าประเทศในแถบแอฟริกาตะวันตกก็ตาม

    ด้านสหภาพพยาบาลแห่งชาติของสหรัฐฯ ก็เร่งตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลเท็กซัส เฮลธ์ เพรสไบทีเรียน เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติต่อผู้ป่วยอีโบลา ซึ่งผลปรากฏว่า จากการสอบถามข้อมูลพยาบาลหลายคน พวกเขายอมรับว่า ไม่ทราบข้อปฏิบัติที่แน่ชัดเกี่ยวกับดูแลผู้ป่วยอีโบลา อีกทั้ง ยังไม่มีการฝึกอบรมโดยตรงเพื่อรับมือกับเรื่องนี้

    โดยในวันที่นายดันแคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อ 28 กันยายนที่ผ่านมา ด้วยอาการอาเจียน และท้องเสียอย่างรุนแรงนั้น มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจำนวนมาก ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และนายดันแคนไม่ได้ถูกส่งตัวไปยังห้องแยกเดี่ยวเพื่อเฝ้าดูอาการแต่อย่างใด แต่กลับอยู่รวมกับผู้ป่วยฉุกเฉินทั่วไป อีกทั้ง ยังไม่มีการระบุว่า นายดันแคนเป็นโรคอะไรกันแน่ จนกระทั่งวันที่ 30 กันยายนหรืออีก 2 วันถัดมา ทางโรงพยาบาลถึงประกาศว่า เขาป่วยเป็นโรคอีโบลา และต้องการการรักษาแบบแยกเดี่ยว

    ซึ่งระหว่างที่เขาพักรักษาตัวที่นี่ ก็มีความเป็นไปได้ว่า พยาบาลที่ให้การดูแล ไม่ได้สวมชุดป้องกันอย่างถูกต้อง และยังปล่อยให้มีช่องว่างของผิวสัมผัส จนทำให้ติดเชื้ออีโบลาในที่สุด ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน ก็คือการจัดอบรมและแนะนำวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง ให้กับโรงพยาบาลและคลินิกทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามแนวทางเดียวกัน ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของอีโบลาได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้


    ขนาดสหรัฐฯ..ก็ยังไม่พร้อมรับมือกับอีโบลา - VoiceTV

    ‪#‎อีโบลา‬ ‪#‎VoiceTV21‬ ‪#‎smartvoice‬ ‪#‎ฉลาดคิดฉลาดใช้ชีวิต‬
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2014
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc
    15 ต.ค. วัดพระแก้ว เชียงราย วัดแรกที่ค้นพบพระแก้วมรกต

    [​IMG]

    วัดพระแก้วเชียงรายเดิมชื่อวัดป่าญะ วัดนี้มีความสำคัญคือเป็นวัดที่ค้นพบพระแก้วมรกตหรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ปัจจุบันประดิษฐานอยู่วัดพระแก้ว กทม. ภายหลังทางวัดพระแก้ว จ.เชียงรายได้จำลองพระแก้วขึ้นมาใหม่พระนามว่า พระหยกเชียงราย หรือ พระพุทธรตนากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล

    ตามประวัติเล่าว่าเมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๗ ในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออกจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวสร้างด้วยหยก คือพระแก้วมรกตนั่นเอง

    ชาวเชียงรายได้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหม่ขึ้นแทน โดยสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพตร ดุสิตวนาราม ให้คณะสงฆ์หนเหนือ ๑๖ จังหวัด จัดเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุ ครบ ๙๐พรรษา และได้สร้างพระแก้วหยกเชียงรายขึ้น มิสเตอร์เหยน หวุนหุ้ย นายช่างจีนผู้แกะสลัก ได้นำเข้าประกอบพธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จมาร่วมพิธี พระมหาเถระจำนวน ๓๗ องค์ ปรกบริกรรมเจริญภาวนา ในพิธีเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๔ อัญเชิญประดิษฐานในบุษบกเป็นศรีสง่า ณ วัดพระแก้ว เมืองเชียงรายเรียกนามพระพทธรูปองค์นี้ว่าพระหยกเชียงราย หรือ พระพุทธรตนากร นวุติวัสสานุสรณ์มงคล

    พระพุทธรตนากร หรือ พระแก้วหยก เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ฐานเขียง พระเมาลีเป็นต่อมกลม สร้างด้วย หินหยกสีเขียว จากประเทศแคนนาดา ขนาดหน้าตักกว้าง ๔๗.๙ เซนติเมตร สูง ๖๕.๙ เซนติเมตรศิลปะแบบ เชียงแสนนำไปแกะสลักที่โรงงานหยกวาลินนานกู เมืองปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

    วัดพระแก้ว เชียงราย วัดแรกที่ค้นพบพระแก้วมรกต - VoiceTV
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นักท่องเที่ยวแดนกีวีเผยทำลายรูปสลักในปราสาทเขมรตามเสียงเทพสั่ง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 ตุลาคม 2557 16:45 น.

    [​IMG]
    @นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเยี่ยมชมปราสาทบายน หนึ่งในปราสาทที่โดดเด่นจากรูปสลักหน้าพักต์บนยอดปราสาท ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนคร จ.เสียมราฐ.-- Agence France-Presse/Tang Chhin Sothy.

    [​IMG]
    @วิลเลมาย เฟอมัท นักท่องเที่ยวจากนิวซีแลนด์.-- Photo/Stuff.co.nz/Facebook.

    แคมโบเดียเดลี่ - นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ทางการกัมพูชาต้องการตัว เนื่องจากทำลายพระพุทธรูปสลักในปราสาทบายนที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้ยอมรับว่า เป็นผู้กระทำการดังกล่าวจริง โดยอ้างกับสื่อของนิวซีแลนด์ว่า ทำลายรูปสลัก เพราะรูปสลักชิ้นนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของปราสาท

    วิลเลมาย เฟอมัท อายุ 40 ชาวดัตช์ ที่อาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์ถาวร เผยว่า เธอทำลายพระพุทธรูปสลักเนื่องจากเธอได้ยินเสียงที่บอกกับเธอว่า ปราสาทหลังนี้สร้างขึ้นในศาสนาพุทธ แต่ในความเป็นจริงเป็นของเทพธิดาองค์หนึ่งที่ชื่อ อินานนา (Inana)

    “เมื่อฉันไปถึงที่นั่นฉันรู้สึกแปลกมากๆ มีบางอย่างกำลังคุยกับฉัน แต่มันเป็นเหมือนความคิดของตัวฉันเอง” เฟอมัท กล่าวต่อ Stuff.co.nz หลังเดินทางถึงกรุงเวลลิงตัน ในวันจันทร์ (13)

    “สิ่งนั้นบอกแก่ฉันว่า ฉันต้องล้างขยะออกจากปราสาทหลังนี้เพราะมันมีมากเกินไป ทั้งที่มาจากพระ และคนอื่นๆ”

    เฟอมัท ที่มีรายงานว่า จบการศึกษาปริญญาเอกด้านภาษาศาสตร์ กล่าวต่อเว็บไซต์ข่าวของนิวซีแลนด์ ว่า เธอซ่อนตัวอยู่ในป่าขณะที่เจ้าหน้าที่ขององค์การอัปสราตามหาตัวเธอในปราสาทหลังหมดเวลาเยี่ยมชม

    หญิงชาวดัตช์ผู้นี้ระบุว่า ได้ย้อนกลับเข้ามาในตัวปราสาทเพื่อนั่งสมาธิ และตัดสินใจที่จะย้ายรูปสลักพระพุทธรูปออกหลังเสียงที่ได้ยินสั่งให้เธอทำเช่นนั้น แต่รูปสลักพังเสียหายโดยไม่ตั้งใจระหว่างที่เคลื่อนย้าย

    “ฉันตัดสินใจที่จะคุยกับสื่อเพราะฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่อินานนาต้องการ เพราะเธอระบุว่า ปราสาทหลังนี้เป็นของเธอไม่ใช่ศาสนาพุทธ เพราะในช่วงเวลาหนึ่งมีบางคนได้เข้ามาเปลี่ยนที่แห่งนี้ให้กลายเป็นปราสาทในศาสนาพุทธ” เฟอมัท กล่าว

    เจ้าหน้าที่บูรณะปราสาทพบเฟอมัทในเช้าวันศุกร์ (10) หลังหายตัวไปตั้งแต่ช่วงเย็นของวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวเพื่อสอบถามเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนปล่อยตัว หลังจากนั้นองค์การอัปสรา และตำรวจเริ่มค้นหาเธออีกรอบหลังพบว่า รูปสลักในปราสาทพังเสียหาย แต่เฟอมัท ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว โดยรูปสลักที่หักพังนี้มีอายุย้อนหลังอยู่ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปลายศตวรรษที่ 12 และได้รับการบูรณะใหม่ในปี 2531

    โฆษกองค์การอัปสรา ระบุว่า ผู้อำนวยการองค์การอัปสราได้พบกับรองผู้ว่าราชการ จ.เสียมราฐ เพื่อหารือถึงคดีที่เกิดขึ้น แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม.

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก ได้แชร์ รูปภาพ ของ ผู้พเนจร จากฟากฟ้า

    [​IMG]
    มีพิรุธหลายอย่างเกี่ยวกับการะบาดของไวรัสอีโบลาในแอฟริกา

    เรื่องการะบาดของไวรัส อีโบลาในแอฟริกา ยิ่งค้นคว้าก็ยิ่งพบพิรุธหลายอย่างนะครับ ล่าสุดทางการสหรัฐก็ปฏิเสธ ที่ส่งข้อมูลผลการทดสอบวัคซีนทหาร ที่วิจัยในปี 2004 เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ผลการวิจัยแอนติบอดีที่ ทางกองทัพสหรัฐได้พัฒนาขึ้น เพราะอ้างว่าเป็นลิขสิทธิ์ของสหรัฐ ทั้งๆที่เรียกร้องนานาชาติเข้ามาช่วยแก้ปัญหา การแพร่ระบาดที่กำลังเกิดขึ้น ในแอฟริกา ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับรัฐบาลรัสเซีย อย่างมาก เพราะรัสเซียเองก็ ได้เสนอความช่วยเหลือไปยังแอฟริกาจำนวนมาก Obama Refusal To Release Data On US Military Ebola Vaccine Shocks Russia
    .
    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ทางการไลบีเรีย และเซียราลีออนได้ปฏิเสธการแพร่ระบาด ของไวรัสอีโบลา ตามรายงานของสื่อตะวันตก และระบุว่าสาเหตุของการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา มาจากวัคซีนที่ กาชาดสากลนำมาแจกจ่าย และฉีดให้กับชาวแอฟริกานั่นเอง และกำลังขับไล่หน่วยงานกาชาดสากลออกนอกประเทศ Ebola Caused by Red Cross Shots? More Conspiracy Theories Emerge
    .
    นอกจากนี้สื่อบางสำนัก ยังระบุว่าการแพร่ระบาดใน 4 ประเทศในแอฟริกา มีเหตุผลหลักๆก็คือ สหรัฐต้องการส่งทหารเข้าไปยังในแอฟริกา เพราะสำรวจพบน้ำมันจำนวนมากใน แอฟริกาตะวันตกและไนจีเรีย นอกจากนี้ เซียราลีออนเป็นประเทศที่ส่งออก เพชรมากที่สุดในโลก และระยะเวลาที่ผ่านมา มีการประท้วงหยุดงาน ของคนงานในเหมืองเพชร เพื่อขอเพิ่มค่าแรง จนทำให้ไม่สามารถส่งเพชรไปยังตะวันตกได้ จึงมีความจำเป็นในการส่งทหารเข้าไปควบคุม และยุติปัญหาแรงงานดังกล่าว
    .
    Sierra Leone is the World’s Largest Supplier of Diamonds. For the past 4 months they have been on strike, refusing to provide diamonds due to horrible working conditions and slave pay. The West will not pay a fair wage for the resources because the idea is to keep these people surviving on rice bags and foreign aid so that they remain a source of cheap slave labor forever. A reason was also needed to get troops on the ground in Sierra Leone to force an end to the diamond miners strikes.
    Ebola Vaccine Weaponized...Don't Take It Under Any Circumstance! | Health
    .
    สรุปแล้วการแพร่ระบาดของ อีโบลาก็คง หนีไม่พ้นผลเรื่องผลประโยชน์ ทางธุรกิจของชาติตะวันตกนั่นแหละครับ และแฝงด้วยนัยยะของการ ลดจำนวนประชากรโลก "ผ่านวัคซีน" ที่กำลังจะถูกแจกจ่ายจาก CDC หรือกาชาดสากลนั่นเอง ซึ่งก่อนหน้านั้น มีกระแสต่อต้านจำนวนมาก...

    ที่มา Chalee Na Roied
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก

    สภาพอากาศแปรปรวนหนัก หิมะตก , พายุฝน , ลมกระโชกแรง ที่ออสเตรเลีย

    [​IMG]

    สภาพอากาศแปรปรวนหนักเมื่อวันที่ 15-16 ต.ค.57 ที่ออสเตรเลีย โดยที่เทือกเขาบลูเมาเท่นส์(blue mountain) ทางทิศตะวันตกเมืองซิดนีย์ของรัฐนิวเซาท์เวลส์เกิดพายุหิมะตกหนักสูงถึง 20 เซนติเมตร อย่างน่าแปลกใจ!! ส่งผลทำให้กว่า 14,000 ครัวเรือนทั่วนิวเซาธ์เวลส์ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ทั้งนี้มีรายงานเข้ามาว่า นอกจากหิมะตกแล้ว ยังมีลมกระโชกรุนแรงกว่า 160 กม/ชม. ในบางพื้นที่ของซิดนีย์อีกด้วย และมีพายุฝนฟ้าคะนองตกลงมาอย่างหนักส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในซิดนีย์และรัฐวิกตอเรียในเวลาต่อมา

    สภาพอากาศแปรปรวนหนัก หิมะตก , พายุฝน , ลมกระโชกแรง ที่ออสเตรเลีย | สถานการณ์ภัยพิบัติ
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผวาคริสต์มาสทมิฬ! ‘อีโบลา’ มัจจุราชแห่งศตวรรษที่ 21
    โดย ข่าวต่างประเทศ 17 ต.ค. 2557 05:30

    [​IMG]

    ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน เชื้อไวรัสมรณะ อีโบลา ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในแอฟริกา ตะวันตก ได้สำแดงเดชมากขึ้น และขยับใกล้เราเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ...

    ที่น่าสะพรึงกลัว คือ นับตั้งแต่พบการระบาดครั้งใหม่ในประเทศกินี ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.พ. จนมาถึงวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้ออีโบลาได้พุ่งทะยานขึ้นไปกว่า 8,800 ราย ในจำนวนนี้ เสียชีวิตแล้วกว่า 4,400 ราย

    องค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนดังๆ อีกครั้งหนึ่งว่า ปัจจุบัน อัตราผู้ติดเชื้ออีโบลา ที่เสียชีวิต ยังสูงขึ้นด้วย เพิ่มจาก 50% ขึ้นเป็น 70% หรือหมายถึง จากเดิมคนติดเชื้อ 100 คน จะมีอัตราการเสียชีวิต อยู่ที่ประมาณ 50 คน แต่ตอนนี้ เพิ่มเป็น 70 คนแล้ว

    [​IMG]
    @บรูซ อิลวอร์ด ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เตือน สิ้นปีอาจมีคนติดเชื้ออีโบลาสัปดาห์ละหมื่นคน

    พร้อมกันนั้น องค์การอนามัยโลกยังหวั่นเกรงว่า ในเดือนธันวาคมสิ้นปีนี้ อาจจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในแอฟริกา ตะวันตก เพิ่มขึ้นมาก ถึงสัปดาห์ละ 5,000-10,000 คนเลยทีเดียว

    เรียกว่า ช่วงเวลา 8 เดือน ความเพียรพยายามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในประเทศที่มีการระบาดของไวรัสอีโบลาอย่างหนัก ทั้ง กินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน ตลอดจนรัฐบาลหลายชาติ รวมทั้งหน่วยงานและองค์กรด้านสาธารณสุขต่างๆ อย่างองค์การอนามัยโลก ไม่อาจจะต่อกร หยุดยั้งความร้ายกาจของอีโบลาลงได้เลย

    ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้ ประชาชนในยุโรป โดยเฉพาะสเปน และสหรัฐฯ ต่างกำลังหวาดกลัวและวิตกกังวลเชื้ออีโบลาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก หลังจาก นางเทเรซา โรเมโร่ รามอส ผู้ช่วยพยาบาลหญิงชาวสเปน ได้ติดเชื้อมรณะ จากการดูแลบาทหลวงชาวสเปน 2 ราย ที่ติดเชื้ออีโบลาจากประเทศในแอฟริกา ตะวันตก และถูกส่งตัวกลับมารักษาที่สเปน

    [​IMG]
    @นีน่า ฟาม พยาบาลสาวชาวอเมริกันคนแรกที่ติดเชื้ออีโบลา

    ไม่กี่วันต่อมา ก็มีพยาบาลชาวอเมริกัน 2 ราย ซึ่งทำงานที่โรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสไบทีเรียน เมืองดัลลัส รัฐเทกซัส รายแรกคือ นีน่า ฟาม วัย 26 ปี และรายที่ 2 แอมเบอร์ วินสัน วัย 29 ปี ต้องติดเชื้อจากการดูแลพยาบาลนายโธมัส อีริค ดันแคน ผู้ป่วยชายชาวไลบีเรียที่ติดเชื้ออีโบลาและมารักษาที่โรงพยาบาลนี้เป็นเวลา 11 วัน ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา

    [​IMG]
    @แอมเบอร์ วินสัน พยาบาลอเมริกันคนที่ 2 ที่ติดเชื้อ

    โดย ทั้ง นางโรเมโร่ รามอส และนีน่า ฟาม นับเป็นชาวสเปนและชาวอเมริกันคนแรกของประเทศที่ติดเชื้ออีโบลานอกเขตพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงในแอฟริกา ตะวันตก! จนสร้างความหวาดผวาให้แก่ประชาชนในสองประเทศนี้เป็นอย่างยิ่ง

    เพราะความน่ากลัวของอีโบลา ได้ประจักษ์ให้เห็นแล้ว ว่า แม้แต่พยาบาลที่สวมชุดป้องกันการติดเชื้ออย่างรัดกุม ขณะดูแลพยาบาลผู้ป่วยไข้เลือดออกอีโบลา ก็ยังมีโอกาสที่จะติดเชื้อมรณะได้ ไม่ว่าจะด้วยความผิดพลาดเผอเรอ หรือชุดป้องกันเชื้อไม่ได้มาตรฐานเพียงพอ ตลอดจนอาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ที่ยังไม่อาจระบุชี้ชัดถึงสาเหตุที่ทำให้พยาบาลทั้ง 3 ต้องติดเชื้อระหว่างดูแลผู้ป่วยอีโบลา

    ขณะนี้ มีเพื่อนร่วมงาน, สามี, ญาติพี่น้อง, คนใกล้ชิด หรือบุคคลที่พบปะพูดคุยกับพยาบาลทั้ง 3 หลายสิบคน อยู่ระหว่างถูกแยกกักกันตัวอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อติดตามรอดูอาการว่าจะป่วยและติดเชื้ออีโบลาหรือไม่

    ที่สำคัญ กรณีการติดเชื้ออีโบลา ของแอมเบอร์ วินสัน พยาบาลหญิงรายที่ 2 ในสหรัฐฯ ยังสร้างความหวั่นวิตกมากขึ้นไปอีก เมื่อ วินสัน ได้ขึ้นเครื่องบินโดยสารของสายการบินฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส จากเมืองคลีฟแลนด์ มายังเมืองดัลลัส เพื่อกลับมาทำงาน เป็นระยะทางไกลถึงครึ่งประเทศ ขณะที่เธอมีไข้สูง เมื่อวันที่ 13 ต.ค. หรือเพียงแค่วันเดียวก่อนจะตรวจพบว่าเธอติดเชื้ออีโบลา!!

    บนเที่ยวบินนั้น มีผู้โดยสารร่วมเดินทางมาพร้อมกับวินสันอีก 132 คน และคนเหล่านี้ได้ถูกศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ติดตามตัวเพื่อเชิญมาสอบถามและติดตามดูอาการต่อไปแล้ว

    [​IMG]
    @ทอม ฟรีเดน ผอ.ซีดีซี ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ถึงวิกฤติอีโบลากับประธานาธิบดีบารัค โอบามา

    แต่คำถามที่ทำให้นายแพทย์ทอม ฟรีเดน ผู้อำนวยการซีดีซี ต้องถามออกมาก็คือ ทำไมถึงไม่มีการยับยั้ง ไม่ให้วินสันขึ้นเครื่องบินในช่วงนี้ เนื่องจาก เธอเป็นพยาบาลดูแลผู้ป่วยอีโบลา มิหนำซ้ำ ทอม ฟรีเดน คงต้องยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม เมื่อรู้ว่า วินสัน ได้โทรไปแจ้งที่ศูนย์ซีดีซีแล้วว่า เธอมีไข้สูง 99.5 องศาฟาเรนไฮต์ ก่อนจะขึ้นเครื่องบิน แต่เจ้าหน้าที่ซีดีซี เห็นว่าไข้ของเธอต่ำกว่า อุณหภูมิที่ซีดีซีตั้งไว้อยู่ที่ 100.4 องศาฟาเรนไฮต์ ที่อาจเข้าข่ายติดเชื้ออีโบลา

    [​IMG]
    @เครื่องบินโดยสารของฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส

    นี่เป็นเพียงตัวอย่างของ ช่องโหว่เล็กๆ ที่อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ ด้วยความคาดไม่ถึงว่า นี่อาจเป็นเหตุให้เชื้อมรณะยิ่งกระจายแพร่ระบาดออกไป แม้ว่าขณะนี้ การติดเชื้ออีโบลาระหว่างคนสู่คนนั้น เกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง อาทิ เลือด หรือน้ำลายของผู้ป่วยโดยตรง ยังไม่มีการแพร่ระบาดทางลมหายใจก็ตาม

    ท่ามกลางวิกฤตการณ์ระบาดของอีโบลาระบาดอย่างรุนแรง จนกลายเป็นวิกฤติสาธารณสุขระดับโลก ทางการหลายประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป และสหรัฐฯ ได้ดำเนินมาตรการคัดกรองผู้โดยสารที่สนามบินและท่าอากาศยานระหว่างประเทศ และมีมาตรการสกัดกั้นการระบาดของอีโบลาในด้านต่างๆ เข้มงวดกวดขันมากกว่าเดิม

    [​IMG]
    @ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตจากอีโบลา

    เพียงแต่ยังคงมีคำถามเกิดขึ้นเช่นเดิมว่า ชาวโลกจะสามารถหยุดยั้งการระบาดของอีโบลา เชื้อมรณะได้หรือไม่? โดย เจเรมี่ ฮันท์ รมว.สาธารณสุขอังกฤษได้แถลงต่อสมาชิกรัฐสภาให้เตรียมรับมือล่วงหน้าแล้ว เพราะคาดว่าช่วงเทศกาลคริสต์มาส ในเดือนธันวาคมที่จะนี้ มีแนวโน้มอาจพบผู้ติดเชื้ออีโบลาในสหราชอาณาจักร ถึงประมาณ 10 คน อีกทั้งแนวโน้มของการแพร่ระบาดของอีโบลา จะยิ่งเลวร้ายลง ก่อนจะสามารถควบคุมได้


    ขณะที่ ย่อมมีคำถามตามมาอีกเช่นกันว่า แนวโน้มของการระบาดของอีโบลาที่รุนแรงขึ้นนั้น จะทำให้มีผู้เสียชีวิต ล้มตายไปมากมายขนาดไหน กว่าที่เราจะสามารถหยุดมันได้ !!

    ผวาคริสต์มาสทมิฬ! ‘อีโบลา’ มัจจุราชแห่งศตวรรษที่ 21 - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มะกันส่งพยาบาลติดเชื้ออีโบลา รายที่ 2 ส่ง รพ.อีมอรีย์ แล้ว
    โดย ข่าวต่างประเทศ 16 ต.ค. 2557 17:42

    [​IMG]

    ทางการสหรัฐฯ ส่งตัว ‘แอมเบอร์ วินสัน’ พยาบาลสาว ติดเชื้ออีโบลา รายที่ 2 ไปรักษาที่ รพ.อีมอรีย์ เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ ในรัฐจอร์เจีย แล้ว ขณะที่ ผอ.ซีดีซี ชี้พยาบาลหญิงคนนี้ ไม่ควรขึ้นเครื่องบินระยะนี้ หลังเคยดูแลผู้ป่วยอีโบลาและเพิ่งเสียชีวิตไม่กี่วันก่อน

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้ากรณี แอมเบอร์ วินสัน นางพยาบาลชาวสหรัฐฯ วัย 29 ปี ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสไบทีเรียน เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เป็นนางพยาบาลรายที่ 2 ที่ติดเชื้ออีโบลา จากการดูแล นายโธมัส อีริค ดันแคน ผู้ป่วยชายชาวไลบีเรียที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นเวลา 11 วัน ก่อนจะเสียชีวิตว่า เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ทางการสหรัฐฯ ได้มีการนำตัว แอมเบอร์ วินสัน ขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศเพื่อส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย อีมอรีย์ เมืองแอตแลนดตา รัฐจอร์เจีย ซึ่งถือเป็นศูนย์การแพทย์ที่มีความชำนาญการด้านการควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการรักษา นายแพทย์เคนต์ แบรนต์ลีย์ และนางแนนซี่ ไวท์โบล ชาวอเมริกัน 2 คน ที่ติดเชื้อมรณะในประเทศไลบีเรียมาแล้ว

    [​IMG]
    @ซีเอ็นเอ็น รายงานข่าวด่วน แอมเบอร์ วินสัน ขึ้นเครื่องบินโดยสารเพียงวันเดียว ก่อนตรวจพบติดเชื้ออีโบลา

    ด้านนายแพทย์ทอม ฟรีเดน ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ ​กล่าวถึงกรณีที่กำลังมีความวิตกกังวลจากการที่แอมเบอร์ วินสัน นางพยาบาลรายที่ 2 ที่ติดเชื้ออีโบลา ได้ขึ้นเครื่องบินโดยสารของสายการบินฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส จากเมืองคลีฟแลนด์ มายังเมืองดัลลัส เป็นระยะทางไกลถึงครึ่งประเทศ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ต.ค.) ขณะที่มีผู้โดยสารอีก 132 คน บนเครื่องอยู่ระหว่างถูกติดตามให้มารายงานตัวกับทางการว่า แอมเบอร์ วินสัน ไม่ควรที่จะเดินทางโดยเครื่องบินในระยะนี้ เนื่องจากเธอเป็นหนึ่งในพยาบาลที่ช่วยดูแลนายดันแคน ผู้ป่วยไข้เลือดออกอีโบลาที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อ 8 ต.ค. และก่อนหน้า น.ส.นีน่า ฟาม พยาบาลที่เคยดูแลนายดันแคน ได้เป็นพยาบาลรายแรกที่ติดเชื้ออีโบลา

    [​IMG]
    @รถพยาบาลนำแอมเบอร์ วินสัน มาถึง รพ.อีมอร์รีย์

    อย่างไรก็ตาม มีเจ้าหน้าที่ซีดีซีคนหนึ่ง เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ซีดีซีคนใดยับยั้งแอมเบอร์ วินสัน ไม่ให้โดยสารโดยเครื่องบินเลย ทั้งที่ก่อนจะเดินทางนั้น เธอได้โทรศัพท์ไปแจ้งแก่ศูนย์ซีดีซีแล้วว่า เธอมีไข้สูงราว 99.5 องศาฟาเรนไฮต์ และหลังจาก แอมเบอร์ วินสัน ขึ้นเครื่องบินมาถึงเมืองดัลลัส เพียงวันเดียว เธอได้ไปพบแพทย์ และผลการวินิจฉัยออกมาว่าเธอติดเชื้ออีโบลา

    [​IMG]
    @เครื่องบินโดยสารของสายการบินฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส

    ข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ ซีดีซี ได้กำลังพิจารณาจะไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ซึ่งทำงานที่โรงพยาบาลเท็กซัส เฮลธ์ เพรสไบทีเรียน จำนวน 76 คน ขึ้นเครื่องบินโดยสารในระยะนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ซีดีซีคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ทางซีดีซีได้กำหนดอุณหภูมิร่างกายของคนที่เป็นไข้ และอาจมีอาการป่วยจากการติดเชื้ออีโบลา ขั้นต่ำไว้ที่ 100.4 องศาฟาเรนไฮต์

    มะกันส่งพยาบาลติดเชื้ออีโบลา รายที่ 2 ส่ง รพ.อีมอรีย์ แล้ว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ระทึก! หมึกยักษ์ 2 ตัวรุมโจมตีเรือดำน้ำ (ชมคลิป)
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ต.ค. 2557 06:43

    [​IMG]

    กลุ่มกรีนพีซ แพร่คลิปวิดีโอ หมึกยักษ์ 2 ตัวกำลังรุมโจมตีเรือดำน้ำ เพื่อรณรงค์การปกป้องหุบเขาใต้ทะเลจากอุตสาหกรรมประมง..

    <iframe width="570" height="351" src="//www.youtube.com/embed/FXH85ArwL8M" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติ 'กรีนพีซ' เผยแพร่คลิปวิดีโอ หมึก 'ฮัมโบลต์' หรือ 'หมึกบินจัมโบ้' ยักษ์ 2 ตัวกำลังรุมโจมตีเรือดำน้ำของพวกเขา ซึ่งกำลังสำรวจ 'เชมชุง แคนยอน' หุบเขาลึกใต้ทะเลเบอริง

    คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2007 โดยกลุ่มกรีนพีซนำมาเผยแพร่เพื่อรณรงค์การปกป้องหุบเขาใต้ทะเลจากอุตสาหกรรมประมง โดยเชื่อว่าหมึกทั้ง 2 ตัวโจมตีพวกเขาเพราะรุกล้ำอาณาเขตของพวกมัน

    ด้าน ดร.เดวิด กักเกนเฮม นักชีววิทยาทางทะเล ซึ่งเดินทางไปกับเรือดำน้ำดังกล่าวด้วย อธิบายในเวลานั้นว่า เหตุการณ์ในคลิปถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่ปกติของหมึกยักษ์ เพราะตลอดหลายปีที่เขาดำน้ำไม่ เขาไม่เคยถูกสัตว์ทะเลโจมตีเลย

    ระทึก! หมึกยักษ์ 2 ตัวรุมโจมตีเรือดำน้ำ (ชมคลิป) - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผู้ว่าฮ่องกงพร้อมเจรจาผู้ชุมนุม เร็วสุดสัปดาห์หน้า
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ต.ค. 2557 07:08

    [​IMG]

    ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เผยว่า เขาพร้อมจะเจรจากับผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย แต่เตือนว่ายังมีความเป็นไปได้ที่ตำรวจจะเข้าเคลียร์พื้นที่อยู่...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเหลียง เจิ้น อิง ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า เขาพร้อมที่จะพูดคุยกับเหล่าแกนนำนักศึกษา ของกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่า เจ้าหน้าที่จะไม่เคลียร์พื้นที่ชุมนุม

    นายเหลียงยังกล่าวปฏิเสธข้อเรียกร้องของเหล่าผู้ประท้วง ที่ต้องการให้ผู้สมัครสาธารณะสามารถลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฮ่องกง ในปี 2017 ได้ ไม่ต้องให้รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่คัดเลือก "เราไม่หาผู้สมัครจากพลเรือนในประชาธิปไตยแบบตะวันตกเช่นกัน" นายเหลียงกล่าว และหวังว่าเขาจะสามารถทำให้ผู้ประท้วงเข้าใจ ว่าเหตุใดการตัดสินใจของรัฐบาลปักกิ่งจึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

    [​IMG]
    @กลุ่มนักวิ่ง วิ่งเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อแสดงการสนับสนุนการชุมนุมในฮ่องกง

    ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มสูงขึ้น หลังจากสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งเผยแพร่คลิปวิดีโอซึ่งแสดงให้เห็น ตำรวจนอกเครื่องแบบกำลังรุมทำร้ายผู้ประท้วงคนหนึ่งในมุมมืด ทั้งที่ผู้ประท้วงคนนี้ไม่มีอาวุธและถูกใส่กุญแจมือ

    เพื่อลดทอนกระแสความไม่พอใจของผู้ประท้วง เลขาธิการเพื่อความมั่นคงและกรมความมั่นคงฮ่องกง ออกมาประกาศในเวลาต่อมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 7 นายที่เกี่ยวข้องในคลิปวิดีโอนี้ ถูกสั่งพักงานแล้ว

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักศึกษาที่ชุมนุมในเขตแอดไมรัลตี ใกล้ที่ทำการรัฐบาลฮ่องกง ยังคงไม่พอใจต่อเหตุการณ์ในคลิปวิดีโอ และประกาศจะสู้ไม่ถอย "พวกเขา (ตำรวจ) ทำตัวเหมือนพวกอั้งยี่ พวกเขาความปกป้องความปลอดภัยของพวกเรา เราจะเชื่อใจพวกเขาได้อย่างไรว่าพวกเขาจะสามารถปกป้องพกวเราได้ ในเมื่อพวกเขาทำกับเราอย่างนี้" ผู้ประท้วงคนหนึ่งกล่าว

    ผู้ว่าฮ่องกงพร้อมเจรจาผู้ชุมนุม เร็วสุดสัปดาห์หน้า - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มะเร็งปอดอาฆาตซุ่มรอโอกาส20ปี
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 17 ต.ค. 2557 08:00

    [​IMG]

    นักวิทยาศาสตร์พบความอำมหิตของมะเร็งปอด สามารถซุ่มเงียบสงบนิ่งอยู่ในตัวได้นานตั้ง 20 ปี แล้วกลับคุกรุ่นลุกขึ้นมาอาละวาดอย่างดุเดือดได้อีก

    พวกเขาได้รู้จากการศึกษามาจากคนไข้มะเร็งปอด 7 ราย ซึ่งมีทั้งที่เป็นคอยามาก่อน อดีตคอยาและผู้ไม่เคยสูบบุหรี่เลยรวมอยู่ด้วยว่า หลังจากที่ก่อตัวขึ้นสาเหตุจากความบกพร่องทางพันธุกรรม มันจะซุ่มเงียบคอยทีอยู่ได้นานเป็นแรมปีจนเกิดอุบัติขึ้นเป็นซ้ำสอง จะทำให้มันกลับชาติลุกขึ้นมาอาละวาดได้อีก

    ผลการค้นพบหนนี้ทำให้เป็นที่ตระหนักได้ว่า จำเป็นจะต้องมีหนทางค้นหามันให้พบให้ได้ก่อน เพราะเท่าที่เป็นอยู่กว่าจะตรวจเจอก็ปรากฏว่าโรคไปถึงขั้นลุกลามไปแล้ว ซึ่งทำให้การรักษาได้ผลน้อยมาก.

    มะเร็งปอดอาฆาตซุ่มรอโอกาส20ปี - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตะลึง! ฉลามหลายร้อยตัวไล่กินฝูงปลาถึงชายหาด (ชมคลิป)
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 ตุลาคม 2557 04:33 น.

    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/liijgHmbBzg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เนชันแนลจีโอกราฟิก - สื่อต่างประเทศเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ฉลามหลายร้อยตัวไล่ล่าฝูงปลาบลูฟิช มาจนใกล้ชายหาดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ปรากฏการณ์ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์บอกว่าพบเห็นไม่บ่อยนักที่สัตว์นักล่าอันดับต้นๆ ของระบบนิเวศทางทะเลสายพันธุ์นี้จะไล่ตามอาหารที่ถูกซัดมาเฉียดชายฝั่ง และนำพาชีวิตของพวกมันตกอยู่ในความเสี่ยงด้วย

    วิดีโอที่โพสต์ลงบนยูทิวบ์เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์ที่บันทึกได้โดยนายดอนนี กริกก์ส ในเอาท์เตอร์ แบงค์ส ของมลรัฐนอร์ทแคโรไลนา แถบเขตสงวนทางทะเล Cape Lookout National Seashore เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม

    “เป็นที่ทราบกันดีว่าปกติแล้วฉลามจะไล่ล่าฝูงปลาขนาดเล็กซึ่งเป็นอาหารของพวกมันห่างจากชายฝั่งหลายร้อยเมตร แต่ในกรณีนี้ ผมไม่เคยเห็นฉลามไล่ล่าอาหารตามแนวชายฝั่งแบบนี้มาก่อนเลย และฉลามถูกเหวี่ยงเข้าสู่เขตน้ำขึ้นน้ำลง” เกรกอรี สโคมอล นักชีววิทยาประมงระดับอาวุโสกล่าว

    [​IMG]

    นายสโคลมอลยังบอกด้วยว่า ข้อเขียนที่นายกริกก์สโพสต์ว่าฉลามกำลังไล่ล่าปลาบลูฟิชนั้นดูน่าจะเป็นจริง และภาพที่ปรากฏในวิดีโอแสดงให้เห็นว่าชีวิตของฉลามเหล่านั้นกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงจากการว่ายเข้ามาใกล้ชายหาดเกินไป เนื่องจากอาจทำให้พวกมันเกยตื้นได้ “ดูเหมือนพวกมันหิวโซมาก พวกมันคงคิดแต่จะกินอาหารให้ได้เท่านั้น มันน่าคิดจริงๆ”

    นักชีววิทยาประมงรายนี้บอกว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะระบุสายพันธุ์ของฉลามเหล่านั้น สืบเนื่องจากความไม่ชัดของภาพในวิดีโอ แต่เขาสงสัยว่ามันอาจเป็นฉลามครีบดำหรือไม่ก็ฉลามสันทราย

    [​IMG]

    เมื่อถูกถามว่าทำไมฉลามถึงร่วมกันล่าอาหาร นายสโคมอล ยอมรับว่าเหล่านักวิทยาศาสตร์เองก็ไม่มั่นใจว่าเพราะพวกมันร่วมมือกันเพื่อล่าหรือแค่มันเกิดขึ้นในสถานที่และเวลาเดียวกันเท่านั้น “เรื่องแบบนี้ก็คล้ายกับกรณีที่คุณพบผู้คนที่กำลังหิวในร้านอาหารมากกว่าตามซอกซอยต่างๆ นั่นแหละ ก็เพราะที่นั่นมันมีอาหารนั่นเอง” ส่วนกรณีที่มันร่วมมือกันหรือไม่นั้น การปรากฏตัวของฉลามจำนวนมาก บางทีก็ช่วยกดดันให้ปลาอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ง่ายต่อการไล่ล่ามากขึ้น

    ในความพยายามปัดเป่าความกังวลของนักท่องเที่ยว ไบรอัน เรกเกอร์ ซึ่งเป็นคนอัพโหลดวิดีโอของนายกริกกส์ ลงบนยูทิวบ์ เขียนชี้แจงว่า “ผมอยากชี้แจงให้ชัดเจนว่า Cape Lookout และชายหาดต่างๆโดยรอบ ยังปลอดภัยสำหรับคนเล่นน้ำ การปรากฏตัวของฉลามและฝูงปลาจำนวนมาก ความจริงคือมันเป็นสัญญาณว่าระบบนิเวศแถบนี้ดีเลิศมากเลย”

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,223
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สเปนผวา! อพยพลงจากเครื่องบิน พบคนอาการคล้ายอีโบลา-มะกันให้ลูกเรือหยุดงาน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2557 23:31 น.

    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/4KEg81UjK30" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="420" height="315" src="//www.youtube.com/embed/Sh5IjgQTQSQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    รอยเตอร์ - ระบบขนส่งมวลชนทางอากาศกำลังตื่นตระหนกกับการแพร่ระบาดของอีโบลามากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดในวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) เจ้าหน้าที่กรุงมาดริด ต้องอพยพผู้คนลงจากเครื่องบินของแอร์ฟรานซ์ หลังพบผู้โดยสารรายหนึ่งมีอาการไข้หนาวสั่นบนเที่ยวบินที่มาจากกรุงลากอสผ่านปารีส ด้วยความหวาดกลัวว่าบุคคลรายชื่ออาจติดเชื้อไวรัสมรณะ ส่วนฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส ก็ให้ลูกเรือ 6 คนหยุดงานเป็นเวลา 21 วัน เพื่อสังเกตอาการ หลังก่อนหน้านี้พบพยาบาลสหรัฐฯที่ติดเชื้ออีโบลา โดยสารเที่ยวบินของสายการบินแห่งนี้

    ในสเปน ภาพข่าวทางสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นผู้โดยสารรายต้องสงสัยถูกนำตัวขึ้นรถฉุกเฉินที่ขนาบข้างด้วยขบวนรถของตำรวจ ส่งโรงพยาบาลการ์ลอสที่ 3 ขณะที่คนขับสวมชุดป้องกันเต็มรูปแบบ ทั้งนี้เหล่าผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานกรุงมาดริดบอกกับรอยเตอร์ว่าเครื่องบินซึ่งจอดอยู่ ณ ลานจอด ถูกห้อมล้อมโดยรถฉุกเฉินและกลุ่มคนที่อยู่ในชุดป้องกัน ส่วนสายการบินแอร์ฟรานซ์ ให้ข้อมูลว่าได้ยกเลิกเที่ยวบินขากลับของเครื่องบินลำนี้แล้วและมันจะถูกนำไปฆ่าเชื้อโรค

    รัฐบาลสเปนยกระดับมาตการตอบสนองต่อกรณีต้องสงสัยติดเชื้ออีโบลา หลังพยาบาลคนหนึ่งในมาดริด กลายเป็นบุคคลแรกที่ติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้นอกแอฟริกา โดยพยาบาลเทเรซา โรมีโร ถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้ออีโบลาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากเป็นหนึ่งในคณะที่ดูแลบาทหลวง 2 รูปที่ล้มป่วยด้วยอีโบลาขณะปฏิบัติภารกิจในแอฟริกาตะวันตกและถูกส่งตัวกลับมารักษายังมาตุภูมิ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา เวลานี้เธอนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกาลอสที่ 3 เช่นกัน โดยอาการยังสาหัส แต่ก็ทรงตัว

    [​IMG]

    การติดเชื้อของพยาบาลรายนี้ กระตุ้นความเดือดดาลแก่เหล่าบุคลากรด้านสาธารณสุขที่บอกว่าไม่มีการฝึกฝนและจัดเตรียมชุดป้องกันแก่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลอย่างเพียงพอ พร้อมกับมีเสียงเรียกร้องให้รัฐมตรีสาธารณสุขลาออกจากตำแหน่ง จนทางการต้องออกมาประกาศในวันจันทร์ (13 ต.ค.) ว่ายกระดับการฝึกฝนแก่เจ้าหน้าทั้งหลาย

    เมื่อวันพฤหัสบดี (16 ต.ค.) เจ้าหน้าที่สเปนบอกว่าบุคคลรายหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังอาการ สืบเนื่องจากเคยสัมผัสกับโรมีโรจะถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลการ์ลอสที่ 3 หลังจากมีไข้ อันเป็นหนึ่งในอาการของอีโบลา แต่ที่น่ากังวลคือบุคคลรายนี้เป็นหนึ่งใน 68 คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้ออีโบลาค่อนข้างต่ำและได้รับอนุญาตให้ตรวจเช็กอุณหภูมิร่างกายตนเองเป็นประจำจากที่บ้าน ผิดกับคนอื่นๆอีก 15 ราย ในนั้นรวมถึงสามีของโรมีโร ที่ยังคงต้องอยู่ภายใต้การสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดที่โรงพยาบาล แต่ทังหมดยังไม่มีใครแสดงอาการใดๆ

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ สนามบินมาดริด มีขึ้นหลังจากในวันพุธ (15 ก.ย.) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ออกคำเตือนผู้โดยสาร 132 คนที่เดินทางจากเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ไปยังเทกซัส เมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมา บนเที่ยวบินเดียวกันกับพยาบาลคนที่ 2 ที่ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้ออีโบลาในอเมริกา ให้ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อการสัมภาษณ์และติดตามอาการ

    [​IMG]

    ต่อมาในวันพฤหัสบดี (16 ก.ย.) ทางสายการบินฟรอนเทียร์ แอร์ไลน์ส ก็เผยว่าได้ให้ลูกเรือของเที่ยวบินดังกล่าว 6 คนหยุดงานแบบได้รับค่าจ้างเป็นเวลา 21 วัน เพื่อสังเกตอาการ หลังจากทราบว่านางพยาบาลที่ดูแลคนไข้อีโบลาติดเชื้อไวรัสมรณะนี้เสียเอง ด้วยความกังวลว่าบางทีพยาบาลรายนี้อาจมีอาการไข้ตั้งแต่ตอนที่โดยสารเที่ยวบินเมื่อช่วงต้นสัปดาห์

    อีโบลาติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของร่างกายของผู้ติดเชื้อ แต่มันจะไม่แพร่กระจายสู่คนอื่นๆ จนกว่าคนไข้จะเริ่มแสดงอาการต่างๆ อย่างเช่นมีไข้ ปวดเมื่อย อาเจียนและท้องร่วง

    คำสั่งของสายการบินฟรอนเทียร์ ครอบคลุมถึงนักบิน 2 คนและลูกเรือ 4 คน บนเที่ยวบิน 1143 จากเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ไปยังเทกซัส เมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมา หลังเที่ยวบินนี้บรรทุกพบาบาลรายดังกล่าวก่อนเธอจะมีไข้ ซึ่งต่อมาผลตรวจก็พบว่าเธอติดเชื้ออีโบลา

    พยาบาลอัมเบอร์ วินสัน วัย 29 ปี ถูกกักตัวทันทีหลังจากแจ้งว่าตนเองมีไข้ในวันอังคาร (14 ต.ค.) ทั้งนี้เธอเป็นคนดูแลนาโทมัส อีริก ดันแคน ผู้ป่วยอีโบลาชาวไลบีเรีย ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ขณะที่เขาคือคนไข้อีโบลารายแรกที่แสดงอาการในสหรัฐฯ

     

แชร์หน้านี้

Loading...