ติดตามสถานะการณ์

Kaokala Fc
23 ธ.ค. อเมริกามาเหนือทดสอบกระสุน "เลี้ยวกลางอากาศ" คาดเสร็จปี 2016!!!



สหรัฐฯ ทดสอบกระสุนชนิดใหม่ หันเหทิศทางได้กลางอากาศ ยิงเป้าหมายได้แม้อยู่หลังที่กำบัง

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2557 เว็บไซต์วอชิงตันไทมส์ รายงานว่า สำนักงานวิจัยและทดลองของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ทดสอบกระสุนชนิดใหม่ หันเหทิศทางได้กลางอากาศ แต่ไม่ยอมเผยว่าใช้เทคโนโลยีและวิธีการอย่างไร

กระสุนที่สามารถเลี้ยวได้เพื่อไปทำอันตรายต่อเป้าหมายที่อยู่ในที่กำบัง ถือเป็นความฝันของนักแม่นปืนทุกคน สำนักงานโครงการวิจัยก้าวหน้าด้านกลาโหม หรือดาร์ปา ของสหรัฐอเมริกา กำลังทำให้ความฝันที่ว่านั้นเกิดเป็นความจริงขึ้นมา ด้วยกระสุนชนิดใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพก่อนนำเข้าประจำการ

กระสุนดังกล่าวมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "เอ็กซตรีม แอคคิวเรซี ทาสก์ ออร์ดแนนซ์" หรือเรียกสั้นๆ ว่า " EXACTO เอ็กแซคโต " เป็นกระสุนขนาด .50 คาลิเบอร์ ที่สามารถเปลี่ยนทิศทางได้ขณะอยู่ในอากาศ อย่างไรก็ตาม ดาร์ปา ไม่ยอมเปิดเผยหลักการการทำงานของมันโดยยังคงถือเป็นความลับสุดยอดอยู่ในเวลานี้

"เอ็กแซคโต" ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้งานในหน่วยสไนเปอร์ หรือพลแม่นปืน ที่มีความแม่นยำสูงอยู่เป็นทุนอยู่แล้ว การปรับปรุงขีดความสามารถเพียงเล็กน้อยก็จะยิ่งทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของสไนเปอร์มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม "เอ็กแซคโต" ไม่ได้เป็นกระสุนชนิดแรกที่ผลิตออกมาเพื่อทำลาย หรือลดทอนประสิทธิภาพของเป้าหมายในที่กำบัง ก่อนหน้านี้ ดาร์ปา เคยพัฒนา กระสุนระเบิดกลางอากาศแบบ "เอ็กซ์เอ็ม-25" ออกมา โดยออกแบบให้ตัวกระสุนระเบิดกลางอากาศเมื่อเดินทางได้ถึงระยะที่กำหนดไว้

กองทัพบกสหรัฐกำหนดจะทดสอบ เอ็กซ์เอ็ม-25 ให้แล้วเสร็จภายในปี 2016 และเตรียมสั่งซื้อเข้าประจำการต่อไป

มะกันทดสอบกระสุน "เลี้ยวกลางอากาศ" คาดเสร็จปี 2016!!! : มติชนออนไลน์
อเมริกามาเหนือ ทดสอบกระสุนเลี้ยวได้กลางอากาศ

 

Kaokala Fc
23 ธ.ค. ระทึก ธนาคาร"Trust Bank"รัสเซียจ่อล้มละลายแล้ว ปชช.แห่ถอนเงินสด หลังศก.วิกฤต"รูเบิลดิ่งเหว"



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ว่า ธนาคาร"Trust Bank"ของรัสเซีย ได้ประสบภาวะใกล้ล้มละลายแล้ว หลังจากเจอสถานการณ์ผู้คนแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร จากวิกฤตสถานการณ์ค่าเงินรูเบิลดิ่งตก โดยประชาชนได้พากันถอนเงินและแลกเป็นสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากหวั่นภาวะค่าเงินรูเบิลร่วงไม่หยุด และภาวะราคาสินค้านำเข้าพุ่งทะยาน ขณะที่ธนาคารกลางรัสเซียประกาศว่า จะจัดสรรเงินกู้จำนวน 545 ล้านดอลลาร์ให้แก่ธนาคารนี้ เพื่อกู้สถานการณ์สภาพคล่องและคุ้มครองเงินฝากของลูกค้าด้วย

รายงานระบุว่า สถานการณ์นี้มีขึ้นหลังจากค่าเงินรูเบิลได้ดิ่งร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และทางการรัสเซียได้นำเงินจากคลังสำรองเข้าแทรกแซงค่าเงินรูเบิล รวมทั้งประกาศจะใช้หลายมาตรการที่จะฟื้นสถานการณ์ของสถาบันการเงินของรัสเซีย รวมทั้งการอัดฉีดเงินจำนวน 16,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่ธนาคารรัสเซียในปีหน้า และแผนค้ำประกันเงินฝากที่มีจำนวนมากกว่า 23,000 ดอลลาร์ด้วย

ระทึก ธนาคารรัสเซียจ่อล้มละลายแล้ว ปชช.แห่ถอนเงินสด หลังศก.วิกฤต"รูเบิลดิ่งเหว" : มติชนออน

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย
วันที่ 24 ธ.ค.57 พี่หมีมอบ ระบบป้องกันภัยทางอากาศให้มังกรจีน



ระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะไกลของรัสเซีย S-400 (นาโต้เรียก SA-21 Growler ) ระบบเสร็จสมบูรณ์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และถูกนำเข้าประจำการในกองทัพรัสเซียเมื่อ 7 ปีที่แล้ว จัดเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศที่มีสมรรถนะและความแม่นยำสูงมาก

ระบบประกอบ ด้วยเรดาร์ 91N6E ที่ตรวจจับได้ไกล 600 กม.และเรดาร์มัลติฟังก์ชันแบบ 92N2E ที่ตรวจจับได้ไกลกว่า 400 กม. สามารถป้องกันภัยทางอากาศได้อย่างครอบคลุม ทั้งเครื่องบินต่างๆ อากาศยานไร้คนขับ อากาศยานล่องหน (สเตลท์) และขีปนาวุธทุกชนิด

มีระยะยิงตั้งแต่ 120-400 กม. โจมตีเป้าหมายได้พร้อมกัน 36 เป้าหมาย ด้วยความเร็ว 5 มัค ลูกจรวดมีระบบป้องกันการรบกวน ปัจจุบันรัสเซียมีประจำการ 14 กองพัน (112 หน่วย) (1 กองพันมี 8 ชุดยิง ชุดยิงละ 4 นัด) โดยรัสเซียจะจัดหาเข้าประจำการให้ได้ 28 กองพันภายในอนาคตนี้

ที่ผิดปกติคือ รัสเซียมอบเจ้าอาวุธที่ทันสมัยนี้ให้กับพันธมิตรจีน เพื่อให้ดำเนินการบ้างอย่างในทะเลจีนใต้ ทำให้จีนพึงพอใจมาก ที่จะเตรียมพร้อมยึดครองน่านฟ้า บริเวณหมู่เกาะพิพาททั้งหมด ที่มีปริมาณน้ำมันมหาศาล

แม้รัสเซีย จะไม่มุ่งพัฒนาเรือรบขนาดใหญ่เหนือน้ำ แต่รัสเซีย กลับมุ่งมั่นพัฒนาความไฮเทคของ "เรือดำน้ำ" ตลอดมา และทำให้ยุโรป และมะกันปวดหัวมาแล้วหลายครั้ง เพราะเรือดำน้ำรัสเซียชอบไปผลุบๆ โผล่ๆ แถวยุโรปเป็นประจำ แต่ NATO กลับค้นหาไม่พบ จนเสียวหลังกันเรื่อยมา

แค่พี่หมีสั่งระดมยิงขีปนาวุธ ติดหัวรบนิวเคลียร์ จากเรือดำน้ำ ประเคนใส่ยุโรป ก็ยากที่ต่อกรกับรัสเซียแล้ว ดูตอนนี้ความกลัวโดนโจมตีของอุตสาหกรรมขนส่งทางเรือ ฝั่งตะวันตกของมะกันไปญี่ปุ่น เริ่มส่งผลแล้ว เพราะมันฝรั่งจากมะกัน ขาดแคลนในญี่ปุ่น จนต้องปันส่วนโควต้าขายให้ประชาชน

ส่วนทางทะเลจีนใต้ทางนี้ จีนก็รอแก้แค้นญี่ปุ่นมานาน 70 ปีเช่นกัน ด้านเกาหลีใต้ไม่ต้องพูดถึง พี่คิมจองอึน จากเกาหลีเหนือ เขาจองกฐินไว้แล้ว ดูเหมือนว่าประเทศยักษ์ใหญ่ เริ่มมาร์คจุดยุทธศาสตร์สงครามกันชัดเจนขึ้นทุกทีแล้ว

@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

Kaokala Fc
21 ธ.ค. อึ้ง! มีงี้ด้วย แฉเมืองท้องถิ่นจีนแสบ"เอา"ยาม" มาเป็น"ตำรวจ" ใช้ทำงานขวางปชช.ไม่ให้เข้า"ร้องทุกข์"



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ว่า เกิดเหตุชวนอึ้งในจีน เมื่อทางการเมืองเจียมู่ซือ ในมณฑลไห่หลงเจียง ถูกแฉว่า ได้ใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขัดขวางประชาชนไม่ให้เข้ามาร้องทุกข์ โดยถึงกับแจกเครื่องแต่งกาย และติดยศให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ด้วย

รายงานระบุว่า ทางการเมืองเจี่ยมู่ซือ ได้อ้างว่า พวกเขาจำเป็นต้องใช้ยามเป็นตำรวจ เพื่อจัดการกับปัญหาประชาชนที่ต้องการร้องเรียนเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มคนเหล่านี้ได้บุกเข้ามายังอาคารรัฐเป็นจำนวยหลายพันคนในทุก ๆ ปี จนทางการไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ จึงจำเป็นต้องใช้ยามมาทำหน้าที่เป็นตำรวจ

อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายของจีน โดยตามกฎหมายพรบ.ตำรวจของพรรคคอมมิวนิสต์ระบุว่า บุคคลที่จะสวมเครื่องแบบตำรวจได้ ต้องทำงานในด้านตำรวจและด้านพิทักษ์สันติราษฎร์เท่านั้น

ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทางการเมืองดังกล่าว ได้ใช้"ตำรวจปลอม"มาตั้งแต่ปี 2001 โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบางคนเผยว่า ได้รับบัตรตำรวจและรับมอบเครื่องหมายติดยศให้มาเกือบเจ็ดปีแล้ว และภายหลังการเปิดเผยนี้ ทำให้ทางการเมืองเจี่ยมู่สี ได้เรียกคืนเครื่องแบบและเครื่องหมายตำรวจทั้งหมดจากยาม และไม่มีมาตรการลงโทษแต่อย่างใด

อึ้ง มีงี้ด้วย แฉเมืองท้องถิ่นจีนแสบ"เอา"ยาม" มาเป็น"ตำรวจ" ใช้ทำงานขวางปชช.ไม่ให้เข้า"ร้อ

 

อินเดียตัดงบสาธารณสุขสู่ระดับต่ำสุดแห่งหนึ่งในโลก
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/12/24 12:01 PM



นิวเดลี 24 ธ.ค. – รัฐบาลอินเดียสั่งตัดงบด้านสาธารณสุขประจำปี 2557/2558 ลงเกือบร้อยละ 20 จากปัญหางบประมาณตึงตัว ส่งผลต่อความเสี่ยงในการควบคุมโรคระบาดที่อินเดียซึ่งมีงบประมาณด้านสาธารณสุขอยู่ในอันดับต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขสองคนกล่าววันอังคารว่า งบกว่า 60,000 ล้านรูปี หรือราว 948 ล้านดอลลาร์ถูกตัดออกจากเงินงบประมาณที่จัดสรรให้ราว 5,000 ล้านดอลลาร์ในปีการเงินที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แต่รัฐบาลหลายประเทศยังคงจำกัดงบประมาณด้านสาธารณสุข โดยอินเดียให้งบด้านสาธารณสุขเพียงร้อยละ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เปรียบเทียบกับจีนร้อยละ 3 และสหรัฐร้อยละ 8.3 นอกจากนี้อินเดียยังลดงบประมาณในโครงการโรคเอชไอวี/เอดส์ลงราวร้อยละ 30 ด้วย ทั้งที่อินเดียมีผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีจำนวนมากติดอันดับโลกเมื่อปลายปีที่แล้ว .-สำนักข่าวไทย

อินเดียตัดงบสาธารณสุขสู่ระดับต่ำสุดแห่งหนึ่งในโลก | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

น้ำท่วมในจังหวัดอาเจะห์-ชวาตะวันตก อพยพกว่า 34,000 คน
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2014/12/24 11:04 AM



จาการ์ตา 24 ธ.ค.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียว่า เกิดน้ำท่วมในจังหวัดอาเจะห์และจังหวัดชวาตะวันตกตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาทำให้ประชาชนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยราว 34,642 คน
นายสุโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานการจัดการภัยพิบัติทางธรรมชาติกล่าวว่า ในเขตตาเมียงของจังหวัดอาเจะห์ ทางเหนือสุดของเกาะสุมาตรา บ้านเรือนจมอยู่ใต้น้ำราว 2,370 หลัง ทำให้ประชาชนราว 28,000 คนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวในที่สูง
ส่วนในจังหวัดชวาตะวันตก ทางตะวันตกของเกาะชวา น้ำที่ไหลล้นจากแม่น้ำซิตารุมลดระดับลงแล้ว แต่บ้านเรือนกว่า 5,000 หลังยังคงจมอยู่ใต้น้ำเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประชาชนราว 6,642 คนจึงยังต้องอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานการจัดการภัยพิบัติท้องถิ่น ตำรวจและทหารได้แจกจ่ายอาหาร ยารักษาโรคและความช่วยเหลือพื้นฐานอื่นๆให้แก่ผู้ประสบภัยแล้ว แต่ยังต้องการอาหาร ยา ผ้าห่ม เสื้อผ้า นมสำหรับเด็กและความช่วยเหลืออื่นๆ เพิ่มเติม.- สำนักข่าวไทย
เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ทอร์นาโดถล่มมิสซิสซิปปี
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 24 ธันวาคม 2557 12:52



พายุลูกใหญ่พัดถล่มหลายเมืองในรัฐมิสซิสซิปปี สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย

พายุลูกใหญ่พัดถล่มหลายเมืองในรัฐมิสซิสซิปปี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและธุรกิจต่างๆทั่วรัฐ ทำให้ผู้ว่าการรัฐนายฟิล ไบรอัน ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ 2 เขตเนื่องจากประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยเฉพาะเมืองโคลัมเบีย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแจ็คสัน ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 130 กิโลเมตร ด้านนายมาร์ดาทูลอส ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการฉุกเฉินเขตโจนส์ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 4 ราย นอกจากนี้ ทางการยังสั่งปิดทางหลวง 3 สายที่มุ่งหน้าไปยังเมืองโคลัมเบีย เนื่องจากต้นไม้โค่นล้ม สายไฟขาด และมีซากความเสียหายต่างๆ

 

“พายุทอร์นาโด” ถล่มทางใต้สหรัฐฯ “ดับ 4-มิสซิสซิปปีประกาศภาวะฉุกเฉิน-เที่ยวบินกลับบ้านมะกันช่วงคริสมาสป่วน” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 ธันวาคม 2557 13:45 น.



รอยเตอร์/เอเจนซีส์- สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์แห่งการเดินทางของชาวสหรัฐฯที่ต้องการกลับไปเยี่ยมครอบครัวเพื่อร่วมฉลองเทศกาลคริสมาส แต่กลับต้องพบกับความโกลาหลในการเดินทางกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยเมื่อพบว่า มีพายุทอร์นาโดพัดถล่มทางตอนใต้ของประเทศจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และรัฐมิสซิสซิปปีประกาศภาวะฉุกเฉิน เมื่อวานนี้(23) รวมไปถึงมีการยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 850 เที่ยว และมีเที่ยวบินที่ต้องล่าช้าอีกไม่ต่ำกว่า 5,600 เที่ยว

เมื่อวานนี้(23) เกิดพายุทอร์นาโดพัดผ่านรัฐมิสซิสซิปปี ทำลายบ้านเรือนชาวอเมริกันทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง มีผู้เสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทางรัฐมิสซิสซิปปีต้องออกประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งสื่อไทมส์รายงานว่า สถานีโทรทัศน์พยากรณ์อากาศท้องถิ่นรายงานว่า พายุทอร์นาโดที่เกิดล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดของรัฐนับตั้งแต่ปี 1953 เป็นต้นมา

ซึ่งหนึ่งในบริเวณที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดเกิดขึ้นที่ย่านดาวน์ทาวน์เมืองโคลัมเบีย แมเรียน เคาน์ตี (Marion County) เลียบถนนฟรีเวย์ I-98 ประมาณ 30 ไมล์ทางตะวันตกของแฮตตีสเบิร์ก(Hattiesburg) เกลน ฟลินน์ โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติประจำรัฐมิสซิสซิปปีให้ข้อมูลกับรอยเตอร์

“เรามีหลังคาบ้านทั้งหลังวางเรียงรายบนถนน ผู้คนติดอยู่ภายในบ้านของตนเอง รถยนต์ถูกพัดหงายท้อง” เบิร์กลีย์ ฮอล( Berkley Hall ) นายอำเภอประจำแมเรียน เคาน์ตี กล่าว

นอกจากนี้มีหญิงคนหนึ่งเสียชีวิตที่บริเวณศูนย์การค้าในเมืองโคลัมเบีย ซึ่งเป็นเมืองที่ห่างไกล และมีประชาชนอาศัยอยู่เพียง 6,500 คน และพบผู้เสียชีวิตรายที่สองใกล้กับบ้านเคลื่อนที่ นอร์มา วิลเลียมสัน (Norma Williamson) เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพประจำเคาน์ตีให้ความเห็น

“เกิดโกลาหลขึ้นที่นี่” วิลเลียมสันให้ความเห็นหลังพายุทอร์นาโดได้พัดผ่านไป ซึ่งรัฐมิสซิสซิปปีถูกพายุเข้าตั้งแต่เวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันอังคาร(23)

นอกจากนี้ภาพข่าวสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นยังแสดงให้เห็นถึงความเสียหายเป็นวงกว้างของบ้านเรือนพัง ต้นไม้ล้ม ถนนที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนต่างๆขวางอยู่ รวมไปถึงพาหนะที่ถูกพัดจนหงายท้อง รวมไปถึงรถพยาบาลฉุกเฉิน

และในอีก 1 ชั่วโมงหลังจากนั้น มีพายุพัดเข้ามาเพิ่มเติมอีก 2 ลูกที่โจนส์ เคาน์ตี(Jones County) ผ่านไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ และทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 2 รายเสียชีวิตภายในบ้านพักเคลื่อนที่ของตนเอง แทมมี เวลส์ ( Tammy Wells ) โฆษกโฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติประจำเคาน์ตีกล่าว

ด้านฟลินน์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พบผู้บาดเจ็บในทั้งแมเรียน เคาน์ตี และโจนส์ เคาน์ตี ซึ่งมีบางส่วนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ความเสียหายดูจะหนักมากที่แมเรียน เคาน์ตี

ด้านผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี ฟิล ไบรอันต์ (Phil Bryant )ประกาศภาวะฉุกเฉินครอบคลุมทั้งสองเคาน์ตีที่ถูกพายุทอร์นาโดเข้าเล่นงาน พร้อมทั้งเปิดไฟเขียวให้สามารถเข้าถึงสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ยังพบว่า พายุทอร์นาโดทำให้ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้กว่า 7,000 คน

นอกจากนี้สื่อไทม์สรายงานเพิ่มเติมว่า พายุทอร์นาโด และลูกเห็บ ยังคงมีต่อเนื่องทั่วภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ และเป็นผลทำให้การเดินทางช่วงวันหยุดคริสมาสของชาวอเมริกันต้องติดขัด พบว่ามีพายุทอร์นาโดอย่างน้อย 2 ลูกพัดเข้ารัฐลุยเซียนา และรัฐจอร์เจีย และในส่วนรัฐแอละแบมา รัฐมิสซิสซิปปี และรัฐเทกซัส มีการเริ่มเฝ้าระวังพายุทอร์นาโด

ส่วนการเดินทางอากาศ FlightAware.com รายงานว่า ในวันอังคาร(23) เวลา 22.00น. พบมีเที่ยวบินเกือบ 850 เที่ยวถูกยกเลิกกระทันหัน และอีกไม่ต่ำกว่า 5,600 เที่ยวถูกเลื่อนการเดินทางให้ล่าช้าออกไป

 

FBI เตือนตร.มะกันเฝ้าระวัง หลังได้รับแจ้ง IS วางแผน “บึ้ม” สะพานข้ามแม่น้ำมิสซิสซิปปี โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 ธันวาคม 2557 13:50 น.



รอยเตอร์ - สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ออกโรงเตือนเจ้าพนักงานในท้องถิ่น ว่า มีความเสี่ยงที่สมาชิกกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) อาจระเบิดสะพาน เมมฟิส แอนด์ อาร์คันซอ ซึ่งเชื่อมสองฟากฝั่งแม่น้ำมิสซิสซิปปี โฆษกของหน่วยงานอเมริกันเปิดเผยวานนี้ (23 ธ.ค.)

คริส อัลเลน โฆษกสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ ระบุว่า สะพานแห่งนี้นับเป็นเส้นทางสายหลักที่เชื่อมระหว่างมลรัฐเทนเนสซี กับมลรัฐอาร์คันซอ โดยเอฟบีไอได้บอกต่อให้ตำรวจท้องที่ทราบถึงเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเตรียมการรับมือแต่เนิ่นๆ

เขากล่าวว่า “ที่กล่าวมานั้น เป็นคำขู่จากบุคคลไม่ทราบชื่อ ที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน” พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่า ยังไม่ได้รับเบาะแสใดๆ ที่เป็นประโยชน์จากหน่วยข่าวกรอง

อย่างไรก็ตาม อัลเลน ไม่ได้ชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งล่วงหน้าว่า อาจเกิดการก่อการร้ายตั้งแต่เมื่อไร และในรูปแบบใด ขณะที่ช่องฟ็อกซ์ 13 นิวส์ ของเมมฟิส ก็รายงานการประกาศเตือนของเอฟบีไอด้วย

สถานีโทรทัศน์เจ้านี้ รายงานโดยอ้างคำเตือนจากเอฟบีไอ ซึ่งระบุว่า หน่วยงานนี้ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวลับว่า กลุ่มรัฐอิสลามได้สั่งการให้สมาชิกที่แทรกซึมในเมืองเมมฟิส “ระเบิดสะพานเมมฟิส - อาร์คันซอ ในวันเวลาที่ไม่ได้ระบุแน่ชัด พร้อมกับปลดปล่อยนักโทษไอเอสออกจากเรือนจำผู้ต้องขังคดีก่อการร้ายในสหรัฐฯ”

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน กลุ่มรัฐอิสลามได้เป็นหัวหอกบุกยึดดินแดนอันกว้างใหญ่ในอิรักและซีเรีย รวมทั้งประกาศจัดตั้งรัฐอิสลาม ที่ปกครองด้วยระบบคอลีฟะห์ (กาหลิบ) รวมทั้งอ้างฐานะการเป็นผู้นำของชาวมุสลิมทั่วโลก

FBI

 

เสียท่า! ‘ไอเอส’ สอยบินรบพันธมิตรร่วง จับนักบินจอร์แดนเป็นเชลย
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 24 ธ.ค. 2557 17:30



ด่วน...กลุ่มไอเอส ยิงเครื่องบินรบของชาติพันธมิตรตก ใกล้เมืองรักกา ทางตอนเหนือของซีเรีย ขณะปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ พร้อมยังจับนักบินชาวจอร์แดนไปเป็นเชลย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด่วน กลุ่มติดอาวุธนิกายสุหนี่หัวรุนแรง ‘รัฐอิสลาม’ หรือกลุ่มไอเอส ยิงเครื่องบินรบของกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ ตกที่เมืองรักกา ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย เมื่อวันพุธที่ 24 ธ.ค. ระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายกลุ่มติดอาวุธสุดโหด พร้อมกันนั้น กลุ่มไอเอส ยังอ้างว่า พวกตนได้จับตัวนักบินชาวจอร์แดนนายหนึ่งไปเป็นเชลย

ขณะเดียวกัน กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ได้ออกมายืนยันรายงานข่าวนี้ว่า เป็นความจริง โดยกลุ่มไอเอสได้จับตัวนักบินสัญชาติอาหรับไปเป็นเชลย หลังจากกลุ่มไอเอสได้ใช้ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานยิงเครื่องบินรบตกใกล้เมืองรักกา


ข่าวแจ้งว่า กลุ่มไอเอสในเมืองรักกาได้เผยแพร่ภาพนักรบของพวกตนจับกุมนักบิน ลงในเว็บไซต์ของนักรบญีฮัด พร้อมกับบรรยายใต้ภาพว่า นักบินคนนี้เป็นชาวจอร์แดน

ขอขอบคุณภาพ จาก บีบีซี

เสียท่า! ‘ไอเอส’ สอยบินรบพันธมิตรร่วง จับนักบินจอร์แดนเป็นเชลย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

นารายาณะ พุทธะ กับ Laddawan Kesthong



แก้เคล็ดดวงเมืองดาวพฤหัสกาลีจร ในวันปีใหม่
ปีใหม่ตรงกับวันพฤหัสที่1มค. เวลาเช้าพระอาทิตย์ขึ้น6.41น.เป็นต้นไป ลัคนาฤกษ์ราศีธนู ดาวพฤหัส๕เป็นเจ้าเรือน ดวงฤกษ์ดาวพฤหัส๕เจ้าเรือนไปอยู่ในเรือนมรณะ(ความเสียสละ เหน็ดเหนื่อย) และเรือนพันธุซึ่งมีดาวพฤหัสเป็นเจ้าเรือนเช่นกันไปอยู่ในเรือนมรณะ(เสียสละ) และดาวเจ้าเรือนมรณะคือดาวจันทร์๒ไปอยู่ในเรือนปุตตะ(โชคดีและความสุข)ในราศีเมษ ซึ่งเป็นราศีลัคนาดวงเมือง
ขยายความว่า เจ้าตัว(ตนุ)และครอบครัวเสียสละเหน็ดเหนื่อยแล้วจะมีโชคดีกลับมา
*จึงขอแนะนำว่ารัฐบาลหรือแต่ละจังหวัด ควรจัดทำบุญเปิดโรงทานแจกอาหารยารักษาโรค หรือทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ โดยนำแพทย์ตรวจรักษาฟรี
หรือง่ายๆสำหรับบุคคลทั่วไป วันพฤหัสที่1 ดาวอาทิตย์เป็นศรี(เสน่ห์เมตตา) ใช้น้ำและหันหน้าสู่พระอาทิตย์ อธิษฐานขอพรแล้วประพรม เพื่อความเป็นมงคล พระอาทิตย์ฤกษ์เศรษฐี เอาเงินทอง(ต้องเหรียญใหม่หรืออัญญมณีใส่ในน้ำด้วยหรือจะดาวเรืองก็ได้)ดาวอาทิตย์และดาวศุกร์มีพลังมาก ในราศีเรือนศุภะ(ความเจริญรุ่งเรือง)ของดวงเมือง แดงน้ำเงินขาวชมพูให้โชค
*เช้าปีใหม่ของทุกปีพระอาทิตย์ขึ้น จะอยู่ในราศีธนู ซึ่งเป็นราศีของพระเจ้าอยู่หัว ดาว๑ดาว๖(ศรีและเดช) อยู่ในราศีธนู ขอพลังมงคลความสุขเกษมถวายพระองค์ด้วย
งดสีดำเด็ดขาด

 

“ยืนตีนเดียว” ตรวจสมองเสื่อม
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 25 ธ.ค. 2557 10:01



วารสาร “โรคหลอดเลือดสมอง”ของอเมริกัน แจ้งว่า ได้มีการวิจัยพบว่า ผู้ที่ยืนด้วยขาเดียวได้ลำบาก แม้แต่แค่ 20 วินาที ส่อว่ากำลังเฉียดเข้าใกล้อาการหลอดเลือดฝอยในสมองเสียหาย อาจจะทำให้สติปัญญาย่อหย่อนไปได้

ดร.ยาสุอารุ ตาบาร่า ศาสตราจารย์บัณฑิตวิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยเกียวโต กล่าวว่า “การทดสอบสุขภาพสมองด้วยการยืนขาเดียว นับเป็นการทดสอบสำคัญอย่างหนึ่ง ผู้ที่แสดงว่ามีอาการทรงตัวด้วยขาเดียวยาก ควรจะได้รับการตรวจด้วยความใส่ใจ เพราะมันอาจส่อว่ากำลังเฉียดเข้าใกล้โรคของสมองและสติปัญญาเสื่อม”

คณะนักวิจัยได้ศึกษากับคนไข้อายุเฉลี่ย 67 ปี จำนวนพันกว่าคน โดยทดลองให้ยืนขาเดียว ในเวลาไม่เกิน 60 วินาที

ดร.ตาบาร่าบอกต่อไปว่า “การทดสอบด้วยการให้ยืนขาเดียว เป็นการตรวจการทรงตัวอย่างง่าย และอาจทำให้เจออาการผิดปกติของสมองได้”.

“ยืนตีนเดียว” ตรวจสมองเสื่อม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ทวีศักดิ์ ยุวนะวนิช



สมุนไพรที่ใช้รักษาโรคไขมันอุดตันคือสมุนไพรที่มีกรดไลโนลิค เอซิด ซึ่งสามารถลดไขมันในเส้นเลือดได้ ได้แก่ คำฝอยและเก๊กฮวย
วิธีทำใช้ดอกคำฝอยประมาณ ๑ หยิบมือ ผสมด้วยดอกเก็กฮวย ประมาณ ๑๐ ดอก
ผสมด้วยน้ำบริสุทธิ์ประมาณ ๕๐๐ ซี.ซี. ต้มน้ำประมาณ ๓๐ นาที แล้วดื่มต่างน้ำชาวันละ ๒-๓ ครั้ง ๆละ ๑ ถ้วยแก้วน้ำเย็น หรือประมาณ ๗๕ -๑๕๐ ซี.ซี. รับประทานติดต่อกันประมาณ ๓-๗ วัน
กรดไลโนลิคแอซิด ในดอกคำฝอยย่อมจะเข้าไปทำปฎิกิริยากับไขมันในโลหิตและ ขับออกทางปัสสาวะและอุจจาระ
ส่วนคุณสมบัติของดอกเก็กฮวยนั้น มีส่วนช่วยให้ปอดและหลอดลมแข็งแรง ทำให้ระบบการหายใจสะดวก ยิ่งขึ้น และไปกระตุ้นไตให้ทำงานตามปกติ หากต้องการให้รสชาดของคำฝอยหายขื่นและเฝื่อน ควรผสมน้ำตาลทรายขาว ประมาณ ๒-๓ ช้อนชา ต่อน้ำคำฝอย ๑ ถ้วยแก้ว

 

สหรัฐโต้ไอเอสอ้างยิงบินรบจอร์แดนตก



รัฐบาลสหรัฐออกโรงปฏิเสธกรณีกลุ่มไอเอสอ้างยิงเครื่องบินรบของกองทัพจอร์แดนตกในซีเรีย และจับตัวนักบินเอาไว้ โดยยืนยันเครื่องบิน "ตกเอง" พร้อมกับเรียกร้องให้อีกฝ่ายปล่อยตัวประกันโดยเร็ว

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/GnKIEVls0UU?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันพฤหัสบดี 25 ธันวาคม 2557 เวลา 08:53 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ว่าศูนย์บัญชาการกลางของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) ออกแถลงการณ์ประณามกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส ซึ่งควบคุมตัวนักบินของกองทัพจอร์แดนเป็นตัวประกัน หลังเครื่องบินประสบเหตุตกที่เมืองเมืองรักกา ทางตอนเหนือของซีเรีย เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันอย่างปลอดภัยโดยเร็ว

นอกจากนี้ เนื้อหาในแถลงการณ์ยังตำหนิกลุ่มไอเอสอย่างรุนแรง ที่บิดเบือนข้อมูลเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ด้วยการอ้างว่าเป็นผู้ยิงเครื่องบินของกองทัพจอร์แดนจนประสบอุบัติเหตุตก เนื่องจากกองทัพสหรัฐตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า เครื่องบินไม่ได้ตกด้วยฝีมือของกลุ่มไอเอสหรือกลุ่มหัวรุนแรงรายใด

ขณะที่นายโมฮัมเหม็ด อัล-โมมานี โฆษกคณะรัฐมนตรีจอร์แดน กล่าวว่ารัฐบาลติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และกำลังดำเนินการให้ความช่วยเหลือ "เท่าที่จะเป็นไปได้" พร้อมทั้งยืนยันเป็นความสมัครใจของจอร์แดนเอง ในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับสหรัฐเพื่อต่อสู้กับกลุ่มไอเอส เดิมทีทุกฝ่ายเชื่อเช่นกันว่า เครื่องบินถูกยิงตก แต่หลังจากนั้นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติออกรายงานปฏิเสธ

ด้านครอบครัวของนักบินหนุ่มซึ่งถูกกลุ่มไอเอสจับตัวไป และมีการเผยข้อมูลในเวลาต่อมา คือร.อ.โมอาซ อัล-คาซาสเบห์ อายุ 26 ปี ประจำฝูงบินเอฟ-16 ออกมาเรียกร้องให้กลุ่มหัวรุนแรงปล่อยตัวบุตรชายเช่นกัน

สหรัฐโต้ไอเอสอ้างยิงบินรบจอร์แดนตก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

น้ำท่วมหนักแหล่งท่องเที่ยวดังมาเลเซีย



ทางการมาเลเซียใช้ ฮ. อพยพนักท่องเที่ยว ทั้งชาวมาเลย์และต่างชาติ ที่ติดค้างในรีสอร์ตชื่อดังทางภาคกลาง จากฝนตกหนักน้ำเอ่อท่วมสูง

วันพุธ 24 ธันวาคม 2557 เวลา 23:01 น.
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ว่า เจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซียปฏิบัติการกู้ภัยและช่วยเหลือครั้งใหญ่ในวันนี้ ใช้เฮลิคอปเตอร์หลายลำ อพยพนักท่องเที่ยวหลายร้อยคน ทั้งชาวมาเลเซียและชาวต่างชาติ ออกจากวนอุทยานแห่งชาติทามานเนการา หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศ ในรัฐปะหัง ทางภาคกลางตอนบน ที่เกิดฝนตกหนักและน้ำเอ่อท่วมไหลหลาก โดยนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งประมาณ 100 คน ครึ่งหนึ่งเป็นชาวต่างขาติ รวมถึงชาวฝรั่งเศส เยอรมนี ออสตรเลีย และอังกฤษ ถูกอพยพออกจากมูเทียรา ทามานเนการา รีสอร์ต ที่อยู่กลางอุทยาน

เจ้าหน้าที่มาเลเซีย เผยว่า ฝนฤดูมรสุมตกหนักอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. ส่งผลกระทบหนักกระทบต่อพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง ทางการต้องอพยพประชาชนกว่า 60,000 คน ออกนอกพื้นที่เสียงในเขต 6 รัฐ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้วอย่างน้อย 6 ราย ขณะเดียวกันมีรายงานระดับน้ำในแม่น้ำซันไก เทเบลิง ที่ไหลผ่านวนอุทยานทามานเนการา เอ่อสูงขึ้นสู่ระดับ 75.76 เมตร ทำลายสถิติสูงสุดเดิมในปี พ.ศ. 2514.

ขอขอบคุณภาพจาก The Malaysian Insider.

น้ำท่วมหนักแหล่งท่องเที่ยวดังมาเลเซีย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

โซนีปล่อย 'ดิ อินเทอร์วิว' ในแบบออนไลน์



โซนี พิคเจอร์ส นำภาพยนตร์ล้อเลียนเสียดสีเกาหลีเหนือเรื่อง "ดิ อินเทอร์วิว" จำหน่ายทางอินเตอร์เน็ท หลังประกาศเตรียมนำเข้าฉายแบบจำกัดโรงในวันคริสต์มาส แต่ตอนนี้เฉพาะผู้ชมในสหรัฐเท่านั้น

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/x3mOMyo8A7c?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันพฤหัสบดี 25 ธันวาคม 2557 เวลา 07:37 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ว่าบริษัทโซนี พิคเจอร์ส ผู้จัดจำหน่าย "ดิ อินเทอร์วิว" ภาพยนตร์ตลกร้ายที่มีเนื้อหาเสียดสีและล้อเลียนรัฐบาลเกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์เรื่องการนำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวออกจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ seetheinterview.com เว็บไซต์ทุกแห่งในเครือของโซนี พิคเจอร์ส ตลอดจน ไมโครซอฟท์ เอ็กซ์-บ็อกซ์ ยูทูบ และกูเกิ้ล เพลย์ บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ตามเวลามาตรฐานสากลของวันที่ 24 ธ.ค. เป็นต้นไป ( 01.00 น. วันที่ 25 ธ.ค. ตามเวลาในประเทศไทย )

อย่างไรก็ตาม บริการดังกล่าวที่มีค่าธรรมเนียม 5.99 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 197.67 บาท ) สำหรับการเช่าเพื่อชมต่อครั้ง และ 14.99 ดอลาร์สหรัฐ ( ราว 494.67 บาท ) สำหรับการซื้อขาด เปิดให้บริการสำหรับผู้ชมในสหรัฐเท่านั้น

ขณะที่ยูทูบเผยเพิ่มเติมด้วยว่า ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเจรจากับแอปเปิ้ล เรื่องการนำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกจำหน่ายบนไอจูนส์ แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของโซนี พิคเจอร์ส มีขึ้น 1 วันหลังแถลงการณ์แจ้งเรื่องการนำดิ อินเทอร์วิว เข้าฉายแบบจำกัดโรงเฉพาะในสหรัฐ ตามกำหนดเดิมคือในวันคริสต์มาส หลังก่อนหน้านี้ประกาศเลื่อนฉายอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากถูกแฮกเกอร์โจมตีระบบคิมพิวเตอร์ภายในอย่างหนัก ทั้งนี้ การตัดสินใจระงับฉายดิ อินเทอร์วิว ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักในวงการฮอลลีวู้ด ไปจนถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามา

ดิ อินเทอร์วิว ภาพยนตร์เรทอาร์ความยาวเกือบ 2 ชั่วโมง นำแสดงโดยเซ็ธ โรแกน และเจมส์ ฟรังโก ในบทบาทของผู้สื่อข่าวที่ได้รับการว่าจ้างจากสำหนักข่าวกรองกลาง ( ซีไอเอ ) ให้เดินทางไปยังเกาหลีเหนือเพื่อลอบสังหารนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของรัฐบาลเปียงยาง สวมบทโดยแรนดัล ปาร์ค

โซนีปล่อย 'ดิ อินเทอร์วิว' ในแบบออนไลน์ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ค่ายเดินป่าตามหาสมุนไพรผักพื้นบ้าน



สมุนไพรรักษาโรคเกาต์ เพื่อล้างกรดยูริก หาง่าย ทำง่าย กินง่าย ไม่ต้องทรมานกับโรคเก๊าต์ ไม่ต้องเสียเงินซื้อยา
สูตร 1
ใบรางจืด 10 ใบ ตอน้ำ 5 แก้วตากแห้งต้มดืมกินทุกวัน
สูตร 2
มะละกอดิบ 1 ลูก เอาเมล็ดออก ไม่ต้องปลอกเปลือก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นทอนๆ ต้มน้ำ 3 ลิตร ดื่มทุกวันอาการปวดลดลงจนหาย
สูตร 3
ใบมะรุมสดๆ 3 ยอด ต้มน้ำ 2 ลิตร ดื่มทุกวัน ลดอาการเก๊าต์ได้
สูตร 4
ใบยอ 4 ใบ + มะตูมแห้ง 1 แว่นย่างไฟให้เหลือง นำมาต้มกับน้ำ 3 ขวด เคี่ยวให้เหลือ 2 ขวด ดื่มกินต่างน้ำทุกวันจนกว่าจะหาย
สูตร 5
น้ำมะกรูด ผสมน้ำผึ้งนิดหน่อย แล้วเอาน้ำอุ่นเติมใส่ไม่ต้องมาก หรือน้ำเย็น ผสมแล้วนำมาดื่ม ใช้เวลาประมาณเดือนครึ่ง ดื่มทุกวันช่วยบรรเทาอาการ
อาหารที่ช่วยลดอาการเก๊าต์
1.ใบมะรุมสด ลวกจิ้มน้ำพริก
2.ลูกเดือยต้มกับข้าวเจ้า แบบข้าวต้ม ทานบ่อย ๆ
3.ใบรางจืด + ใบเตย ต้มน้ำดื่มประจำ
4.ใบย่านางสดวันละ 10 ใบ (คั้นน้ำดื่ม) ดื่มบ่อย ๆ แต่ไม่ต้องทุกวัน

 

ปูตินจับมือผู้นำ 4 ชาติตั้งกลุ่ม “สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย” ผนึกกำลังสร้างการเติบโตทางศก. ชี้มูลค่าจีดีพีรวม ทะลุ “4.5 ล้านล้าน”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 ธันวาคม 2557 07:48 น.



เอพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-รัสเซียประกาศจับมือเบลารุส คาซัคสถาน อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน จัดตั้งกลุ่มความร่วมมือ “สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย” ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าเสรีในหมู่สมาชิก

รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงมอสโกยืนยันว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ร่วมกับผู้นำของอีก 4 ชาติที่เคยเป็นส่วนหนึ่งในยุคสหภาพโซเวียตจัดตั้งสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (Eurasian Economic Union : EEU) ซึ่งจะมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2015 เพื่อส่งเสริมการค้าเสรีและสร้าง “ระบบการเงิน” ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตลอดจนการพัฒนาเครือข่ายเส้นทางคมนาคม นโยบายการเกษตรและแรงงาน

ประธานาธิบดีปูติน ผู้นำรัสเซียระบุว่า สมาชิกของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียทั้ง 5 ประเทศ มีมูลค่าของจีดีพีรวมกันสูงถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ และมีประชากรซึ่งมีกำลังซื้อรวมกันมากกว่า 170 ล้านคน นอกจากนั้น ยังถือเป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่บน “จุดเชื่อมต่อ” ระหว่างยุโรปและเอเชีย

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ผู้นำรัสเซียพยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลยูเครน เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจใหม่ล่าสุดนี้ แต่ระบอบการปกครองของประธานาธิบดีวิคตอร์ ยานูโควิชแห่งยูเครน ซึ่งมีจุดยืนฝักใฝ่รัสเซียมีอันต้องถูกโค่นล้มโดยฝ่ายโปรตะวันตก ไปเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซียจะมีการจัดตั้ง “ธนาคารเพื่อการพัฒนา” เป็นของตนเองที่นครอัลมาตีของคาซัคสถานเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความร่วมมือทางการเงิน โดย “ไม่จำเป็นต้องพึ่งพา” ความช่วยเหลือจากธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่เป็นสถาบันการเงินที่ตกอยู่ในความควบคุมของสหรัฐฯและโลกตะวันตก

ปูตินจับมือผู้นำ 4 ชาติตั้งกลุ่ม “สหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย” ผนึกกำลังสร้างการเติบโตทางศก. ชี้มูลค่าจีดีพีรวม ทะลุ “4.5 ล้านล้าน”

 

ไครเมียไฟดับทั้งเมือง หลังยูเครนหยุดจ่ายไฟ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 ธันวาคม 2557 02:29 น.



เอเอฟพี - ไครเมียต้องเผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ในวันพุธ(24ธ.ค.) หลังยูเครนหยุดจ่ายไฟโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า เป็นเหตุให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก โรงพยาบาลต้องปิดบริการและก่อความตื่นตระหนกไปทั่วแหลมแห่งนี้

สถานีรถไฟ แหล่งธุรกิจการค้าและสนามบินจำเป็นต้องปิดบริการ ส่วนไฟสัญญาณที่ดับสนิทก็เป็นสาเหตุให้การจราจรตัดขัดอย่างหนักในซิมเฟโรโปล เมืองหลักของแหลมไครเมีย ขณะเดียวกันก็มีรายงานผู้คนหลายรายติดอยู่ในลิฟต์

เซอร์ดก เยโกรอฟ รัฐมนตรีพลังงานไครเมียเปิดเผยว่ายูเครนหยุดจ่ายไฟตอนประมาณ 11.10น.(ตรงกับเมืองไทย 15.10น.) และด้วยที่ดินแดนแห่งนี้ต้องพึ่งพิงไฟฟ้าจากเคียฟถึงกว่าร้อยละ 80 การตัดไฟโดยไม่มีคำเตือนใดๆมาก่อนโดยที่ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ได้สำรองไฟฟ้าตามสถานีพลังงานแก๊ส มันจึงส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตามราว 3 ชั่วโมงต่อมา การจ่ายไฟฟ้าก็คืนสู่ภาวะปกติ

ส่วนโวโลดีมีร์ เดมชีชีน รัฐมนตรีพลังงานยูเครน ยืนยันว่าเคียฟดำเนินการตัดไฟฟ้าที่จ่ายไปยังไครเมีย โดยอ้างว่าแหลมแห่งนี้บริโภคไฟฟ้าเกินกำหนดตามข้อตกลงภายใต้สัญญาที่ทำไว้ตั้งแต่ตอนที่ยูเครนถูกบีบให้ต้องปันส่วนแบ่งทางพลังงาน

เดมชีชีน บอกด้วยว่ายูเครน จำเป็นต้องสำรองพลังงานมากขึ้นหลังจากรัสเซียหยุดส่งมอบถ่านหิน พร้อมเผยว่าเขาอยู่ระหว่างหารือในเรื่องการนำเข้าทั้งถ่านหินและไฟฟ้ากับรัฐมนตรีพลังงานของมอสโก

นายอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค นายกรัฐมนตรียูเครนระบุว่าตลาดพลังงานของเคียฟอยู่ในภาวะฉุกเฉินตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และจำเป็นต้องใช้วิธีการตัดไฟในพื้นที่ต่างๆ ในนั้นรวมถึงดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย "ถ้าไม่มีแสงไฟในยูเครน ดินแดนต่างๆที่อยู่ภายใต้การควบคุมชั่วคราวรัสเซียก็จะไม่มีแสงไฟเช่นกัน" เขาบอกกับที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพุธ(24ธ.ค.)

รัสเซียผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อเดือนมีนาคม ผ่านการลงประชามติอันเป็นที่ถกเถียง และไม่ได้รับการรับรองจากเคียฟกับชาติตะวันตก อย่างไรก็ตามแหลมแห่งนี้เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่รัสเซีย เพียงแค่ทางเรือเฟอร์รี ส่วนด้านพลังงาน น้ำและแก๊ส รวมถึงเสบียงอาหารอื่นๆ ยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าจากยูเครน

me src="//www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=https%3A%2F%

 

Hot Issue:ผลสำรวจล่าสุดชี้ ชาวรัสเซียสุด “ยี้” โอบามา ระบุผู้นำ US ชอบ “ก่อสงคราม-สร้างความขัดแย้ง” ให้โลกลุกเป็นไฟ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
25 ธันวาคม 2557 03:23 น.



เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในแดนหมีขาวชี้ ชาวรัสเซียส่วนใหญ่มีทัศนคติแง่ลบต่อ “บารัค โอบามา” ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนปัจจุบัน

ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่จัดทำโดยศูนย์วิจัยความคิดเห็นสาธารณะแห่งรัสเซีย (WCIOM) ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ (24 ธ.ค.) ที่ผ่านมา พบข้อมูลว่า กว่าร้อยละ 81 ของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพลเมืองรัสเซียยอมรับว่า พวกเขามีทัศนคติในแง่ลบต่อประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ โดยพบว่า มีพลเมืองแดนหมีขาวไม่ถึงร้อยละ 5 ที่ระบุว่า ตนเองรู้สึกดีต่อผู้นำเมืองลุงแซม

ผลสำรวจดังกล่าวระบุว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ชาวรัสเซียรู้สึก “ยี้” ต่อผู้นำสหรัฐฯเป็นผลพวงโดยตรงมาจากการดำเนินนโยบายต่อต้านรัสเซียอย่างออกนอกหน้าของโอบามามากที่สุด (ร้อยละ 22 ของกลุ่มตัวอย่างระบุเช่นนี้) ตามมาด้วยเหตุผลของกลุ่มตัวอย่างชาวรัสเซียอีกร้อยละ 18 ที่ระบุว่า รู้สึกไม่พอใจที่ชายที่เป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2009 อย่างโอบามามีพฤติกรรมในการ “ก่อสงคราม” และ “สร้างความขัดแย้ง” ในพื้นที่ต่างๆทั่วโลก รวมถึงอยู่เบื้องหลังความขัดแย้งใน “ยูเครน’ ที่เป็นเพื่อนบ้านของรัสเซีย

ผลสำรวจล่าสุดของสถาบัน WCIOM ยังพบข้อมูลว่า ร้อยละ 76 หรือมากกว่า 3 ใน 4 ของชาวรัสเซีย ระบุว่า บารัค โอบามา “ไม่คู่ควร” กับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่เขาได้รับเมื่อ 5 ปีก่อน เพราะมีพฤติกรรมที่ “สวนทาง” กับการสร้างสันติภาพอย่างสิ้นเชิง

ทั้งนี้ ทัศนคติของชาวรัสเซียต่อประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯได้แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จากที่เคยมีชาวรัสเซียสูงถึงร้อยละ 56 เมื่อปี 2010 ที่ระบุว่า มองโอบามาในเชิงบวก

ผลสำรวจล่าสุดของสถาบัน WCIOM ถูกระบุว่า ได้มาจากการรวบรวมความเห็นของพลเมืองรัสเซียจำนวน 1,600 คนในพื้นที่ 46 เขตปกครองทั่วแดนหมีขาวในระหว่างวันที่ 22-23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

Hot Issue: