ติดตามสถานะการณ์

เมื่อธรรมะ (ดาวพฤหัสดี) ปะทะ อธรรม (ดาวเสาร์) “ในเรือนเกณฑร์” ตอนที่ ๓ (ตอนจบ) พิมพ์ อีเมล เขียนโดย ดิลก แสงอุทัย วันพฤหัสบดีที่ ๐๕ มกราคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๓:๓๔ น.


จากบทความทั้ง ๒ ตอนที่ผ่านมา ได้สรุปความหมายและความสำคัญของเรือนเกณฑร์เอาไว้ ตลอดจนได้ยกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาในอดีด เมื่อครั้งที่ดาวประธานทั้งสองจรมาส่งกระแสถึงกันในเรือนเกณฑร์ของดวงเมืองและดวงโลก และยังได้อธิบายช่วงระยะเวลาที่ดาวทั้งสองจะจรมาเป็นเกณฑร์กันในปีนี้และปีหน้า โดยในบทความตอนสุดท้ายนี้จะอธิบายขยายความในเรื่องความสำคัญของดาวประธานคู่นี้ที่มีต่อชาตาเมืองของเรา และจะสรุปเหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ซึ่งอาจจะยังประโยชน์ให้กับเราท่านที่สนใจใฝ่ศึกษาในโหราศาสตร์และผู้ที่สนใจทั่วไปได้พอควร

ความสำคัญของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์กับดวงเมือง

เมื่อแรกครั้งที่ตั่งดวงเมืองนั้น ดาวประธานทั้งสองกุมกันแบบสนิทองศา โดยในปูมโหรนั้นดาวทั้งสองจะอยู่ร่วมนวางค์เดียวกัน แต่เมื่อนำมาคำนวณแบบสากลแล้ว ดาวทั้งสองจะอยู่คนละนวางค์กัน แต่ทว่าจะอยู่ห่างกันเพียงแค่ ๒ องศาเศษเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่ากุมกันแบบสนิทองศาเช่นกัน โดยดาวทั้งสองยังโคจรวิกลคติพักร (ถอยหลัง) อีกด้วย ซึ่งถือว่าดาวทั้งสองมีผลต่อชาตาเดิมของดวงเมืองอย่างมาก

ในพิธีวางเสาหลักเมืองเมื่อครั้งที่ตั่งดวงเมืองกรุงเทพพระมหานครนั้น ครั้นถึงเวลาพระฤกษ์ที่จะลงเสา ปรากฎว่ามีงูเล็ก ๔ ตัวได้เลื้อยลงไปอยู่ในก้นหลุมซึ่งไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้วในขณะนั้น ดังนั้นจึงจำต้องลงเสาตามฤกษ์ที่กำหนดเอาไว้ โดยงูเล็ก ๔ ตัวนี้เป็นมูลเหตุของการทำนายดวงเมืองอีกหลายต่อหลายครั้งซึ่งขอละที่จะกล่าวในที่นี้ และเมื่อพิจารณาจากตำราพิชัยสงครามในเรื่องนามศาสตร์ ดาวเสาร์จะเป็นนาคนามหรือก็แทนได้กับงูนั่นเอง ดังนั้นดาวเสาร์จึงถือว่าเป็นดาวที่มีความเกี่ยวข้องกับดวงเมืองมาตั่งแต่ครั้งแรกเริ่ม โดยรายละเอียดในเรื่องพิธีลงเสาหลักเมืองนั้น ท่านที่สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมจากตำราของท่านอ.เทพย์ สาริกบุตร โดยท่านได้กล่าวไว้หลายเล่มด้วยกัน

จากคำทำนาย ๑๐ ยุค หรือบางท่านเรียกว่าคำทำนาย ๑๐ รัชกาลนั้น ท่านอ.เทพย์ สาริกบุตร วิเคราะห์ว่าล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑ เป็นผู้ทำนาย โดยพระองค์ท่านจับเอาความสัมพันธ์เดิมของดาวประธานทั้งสองเมื่อครั้งที่ตั่งดวงเมืองและเมื่อดาวทั้งสองโคจรมาสัมพันธ์กันมาทำนาย และในปีที่มีการเปลียนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ นั้น เจ้านายที่ประสูติในปีมะเส็งหรือปีงูเล็กทั้ง ๔ พระองค์ ก็ล้วนแต่ได้รับเหตุเภทภัยจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีดล้วนมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น

จากหลักเกณฑ์พื้นฐานเบื้องต้นในการทำนายดวงจร ตำแหน่งดาวเดิม ความเป็นเจ้าเรือน และความโดดเด่นหรือเข้มแข็งของดาวในดวงเดิมตลอดจนจุดที่ดาวเสียหรือไม่มีกำลังนั้น เป็นสิ่งที่จะต้องนำมาพิจารณาเสมอ และเมื่อพิจารณาพื้นดวงเดิมของดวงเมืองนั้น จุดที่ดาวประธานทั้งสองกุมกันแบบสนิทองศา เป็นจุดที่สำคัญมากที่จะนำมาพิจารณา โดยเมื่อใดก็ตามที่ดาวประธานทั้งสองจรมาส่งกระแสสัมพันธ์ถึงกัน ก็มักจะมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ เกิดขึ้นกับบ้านเมืองของเราเสมอ และในการจรมาเป็นเกณฑ์ (เล็ง) กันในภพที่ ๑ และ ๗ ในครั้งนี้ ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆ กับบ้านเมืองได้อีกเช่นกัน

ดวงพินธุบาทว์ (ดวงแตก)

ได้ยินได้ฟังโหรน้อยโหรใหญ่ตลอดจนหมอดูมีชื่อทั้งหลายของบ้านเรากล่าวว่าในขณะนี้ “ดวงเมืองแตก” เพราะว่าดาวเสาร์จรมาเล็งลัคนาดวงเมือง ดังนั้นจะขออธิบายเรื่อง “ดวงแตก” สักเล็กน้อยเพื่อให้ท่านที่ไม่เคยศึกษาโหราศาสตร์มาก่อนจะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และจะรู้ว่าที่แท้จริงแล้ว ดวงเมืองของเราจะแตกจริงตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างหรือไม่

ตามตำราโหรฝ่ายไทยของเรา โบราณาจารย์ท่านแต่งโศลกคำกลอนที่เรียกว่า “ดวงพินธุบาทว์ หรือดวงแตก” ไว้ ๒ โศลกด้วยกันดังนี้

“ระวิภุมมะทั้งโสรา ปัญจะแก่ลัคนา พุธเก้า
จันทร์กับชีวาเป็นแปด ศุกร์เจ็ดอาจารย์เจ้า ว่าร้อนนิรันดร์”

แปลว่า ถ้า ระวิ (ดาวอาทิตย์) หรือภุมมะ (ดาวอังคาร) หรือโสรา (ดาวเสาร์) อยู่ภพที่ ๕ จากลัคนา หรือเมื่อดาวพุธอยู่ภพที่ ๙ จากลัคนา หรือเมื่อดาวจันทร์ หรือชีวา (ดาวพฤหัสบดี) อยู่ภพที่ ๘ จากลัคนา หรือเมื่อดาวศุกร์อยู่ภพที่ ๗ จากลัคนา “ครูโหรท่านว่าเป็นดวงพินธุบาทว์หรือดวงแตก” โดยโศลกข้างต้นนี้ บางตำราว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับวันเกิดของเจ้าชาตาด้วย และ

“เสาร์เพ่งเล็งลัคน์แล้วอสุรา ภุมเมนทร์อัษฎา ว่าไว้
จันทร์สิบเอ็ดแก่ราหูเล่า อาภัพอัปภาคย์ให้ โทษแท้ประเหินหิน”

แปลว่า เมื่อดาวเสาร์หรือพระราหูเล็งลัคนา หรือเมื่อภุมเมนทร์ (ดาวอังคาร) อยู่ภพที่ ๘ จากลัคนา หรือเมื่อดาวจันทร์อยู่ภพที่ ๑๑ จากพระราหู “ครูโหรท่านว่าเป็นดวงพินธุบาทว์หรือดวงแตก” เช่นกัน

อันที่จริงในการทำนายทายทักนั้น โบราณาจารย์ท่านแต่งโศลกขึ้นมาเพื่อให้จดจำได้ง่าย แต่ท่านก็แฝงหลักต่างๆให้เราท่านต้องขบคิดพิจารณากันเอาเอง แต่ทว่าในปัจจุบันเมื่อท่องโศลกกันมายังไงก็ทายกันไปตามนั้น “เป็นหมอดูหรือว่าโหรคำกลอนกันเป็นส่วนมาก” หาได้คิดพิจารณาในจุดที่ครูท่านได้แฝงเอาไว้ เพราะว่าตอนทำนายถ้าพูดเป็นโศลกหรือกลอนนั้นจะดูเข้มขลัง เหมือนตอนที่พระท่านเทศน์ ท่านก็มักจะยกคำบาลีขึ้นมาเพื่อให้ดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นเป็นต้น ดังนั้นเมื่อเห็นดาวเสาร์จรมาเล็งลัคนาก็บอกว่าดวงเมืองแตกกันเป็นแถว

อันที่จริงครูโหรท่านแฝงหลักคิดในเรื่องดวงพินธุบาทว์เอาไว้มากมาย เช่นการใช้หลักทุสถานะภพร่วมของดาวมาพิจารณา โดยถ้ามีโอกาสจะอธิบายขยายความให้เราท่านได้เข้าใจกันมากขึ้นในภายหลัง แต่จะขออธิบายวิถีการโคจรของดาวให้เราท่านได้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ดาวเสาร์โคจรรอบจักรราศีใช้เวลา ๓๐ ปี และถ้าเป็นพินธุบาทว์หรือว่าดวงแตกอย่างที่หมอดูบ้านเราพูดกันก็จะหมายความว่า คนเราจะต้องดวงแตกเพราะดาวเสาร์จะจรมาเล็งลัคน์ทุก ๆ ๓๐ ปี และแตกครั้งละ ๒ ปีครึ่งตามอัตราการโคจรของดาวเสาร์ในหนึ่งราศี

แต่ถ้าเราพิจารณาดาวดวงอื่นๆที่มีวิถีจรเร็วกว่า เช่น ดาวจันทร์โคจรรอบจักรราศีใช้เวลา ๑ เดือน ซึ่งหมายความว่าดาวจันทร์จะโคจรมาอยู่ในภพที่ ๘ ของดวงชาตา และมาเป็น ๑๑ แก่พระราหู เดือนละครั้ง ดังนั้นเราท่านจะดวงแตกเดือนละครั้งหรือไม่ ดาวอาทิตย์โคจรรอบจักรราศีใช้เวลา ๑ ปี ซึ่งหมายความว่าดาวอาทิตย์จะต้องโคจรมาอยู่ในภพที่ ๕ ของเราท่านปีละครั้ง ครั้งละหนึ่งเดือน ดังนั้นดวงของเราท่านจะแตกกันปีละครั้ง ครั้งละเดือนหรือไม่

โดยยังมีดาวอื่น ๆ อีกมากมายในโศลก และถ้าพิจารณาดวงจรเป็นดวงแตกตามโศลกข้างต้นแล้ว เราท่านทั้งหลายคงจะต้องดวงแตกกันมากมายหลายต่อหลายครั้งในรอบปีหนึ่ง ซึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่นั้น เราท่านที่พอมีสติปัญญากันอยู่บ้างก็คงจะหาคำตอบได้อย่างไม่ยากนัก

นายกสมาคมโหรฯ ท่านหนึ่งกล่าวว่าดวงเมืองแตก โดยจับทั้งดาวเสาร์จรมาเล็งลัคน์ บวกกับดาวอังคารจรมาอยู่ภพที่ ๕ ว่าเป็นพินธุบาทว์ เราท่านทั้งหลายผู้มีความรู้ในทางโหรเล็กๆน้อยๆ เมื่อฟังแล้วก็ได้แต่อมยิ้มในหลักวิชาโหรของนายกสมาคมท่านนั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อดาวเสาร์ที่เป็นประธานฝ่ายบาปพระเคราะห์จรมาเล็งลัคนานั้น เหตุและผลของความเป็นบาปพระเคราะห์ย่อมจะบังเกิดอยู่แล้ว แต่เราท่านก็จะต้องพิจารณาดาวดวงอื่นๆมาประกอบในการทำนายทายทักด้วย มิใช่ท่องกลอน ท่องโศลกกันไปเรื่อยจนทำให้ผู้ที่ไม่รู้ ผู้ที่ไม่เข้าใจเกิดความปริวิตกกันไปทั่ว

ผลของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์จรมาปะทะกัน ปี ๒๕๕๔-๒๕๕๕

ดาวประธานทั้งสองจะจรมาเป็นเกณฑ์หรือว่าเล็งกันตามศัพท์หลายๆท่านใช้กัน ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ จนถึงวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ หรือประมาณ ๖ เดือน โดยมีช่วงเวลาที่น่าสนใจดังนี้

๐ ในช่วงแรกที่ดาวมาเป็นเกณฑ์กันนั้นดาวพฤหัสบดีโคจรถอยหลังหรือเสมือนดาวโคจรหนีห่างจากดาวเสาร์จนถึงวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ ที่ดาวพฤหัสบดีกลับมาโคจรในวิถีจักรปกติ

๐ ช่วงที่ดาวประธานทั้งสองโคจรเข้าหากันคือตั่งแต่วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ กล่าวคือดาวเสาร์จะโคจรวิกลคติพักร (ถอยหลัง) ในวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ โดยเปรียบเสมือนว่าดาวเสาร์โคจรถอยหนีดาวพฤหัสบดีออกไปหลังจากนั้น

๐ ดาวประธานทั้งสองจะเล็งกันในดวงนวางค์กล่าวคือดาวเสาร์จะเข้าเกาะนวางค์อังคารพิจิกในวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ เล็งกับดาวพฤหัสบดีที่จรอยู่นวางค์ศุกร์-พฤษก โดยดาวพฤหัสบดีจะย้ายนวางค์ในวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๕ ซึ่งหมายความว่าช่วงระยะเวลาดังกล่าวดาวทั้งสองจะเล็งกันในดวงนวางค์จักร

จากที่ได้เคยกล่าวมาแล้วในบทความตอนแรกว่า ศักดิ์และศรีของดาวประธานทั้งสองนั้นเท่ากัน มีสิทธิ์ที่จะให้คุณให้โทษแก่ดวงชาตานั้นพอ ๆ กัน แต่ผลที่ได้จะดีหรือร้ายนั้นก็จะต้องพิจารณาไปตามธรรมชาติของดาว เช่นบาปพระเคราะห์เมื่อให้ผลดีก็จะต้องฝ่าฟันอุปสรรค เหนื่อยยากลำบากเสียก่อนจึงจะสำเร็จเป็นต้น และเมื่อไปพิจารณาเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีดนั้น เมื่อใดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอ่อนกำลังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดาวพฤหัสบดีอ่อนกำลังแล้ว ผลในทางร้ายมักจะเกิดขึ้น

เหตุการณ์ต่าง ๆ ในทางร้ายที่เกิดขึ้นในอดีดเมื่อดาวประธานทั้งสองจรมาปะทะกันในเรือนเกณฑร์ที่ ๑ และ ๗ นั้น เป็นที่น่าสังเกตว่าดาวเสาร์จะจรอยู่ที่ราศีเมษ เป็นนิจน์ (เสีย ต่ำต้อย) และดาวพฤหัสบดีจะจรอยู่ที่ราศีตุลย์ ซึ่งก็ตรงกับหลักวิชาโหรเบื้องต้นในการทำนายที่ว่า เมื่อดาวได้ตำแหน่งนิจน์ก็จะให้โทษ แต่ทว่าการโคจรของดาวเสาร์ในครั้งนี้ ดาวเสาร์จะได้ตำแหน่งอุจน์ (ดี เข้มแข็ง) ดังนั้นดาวเสาร์จะให้โทษอย่างมหันต์ จะเป็นดวงแตกอย่างที่เราท่านได้ยินมากระนั้นหรือ

ดาวเสาร์เป็นดาวทำลายล้าง เมื่อทายทุกข์โทษท่านก็ให้ดูที่ดาวเสาร์ ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานที่เราท่านเมื่อศึกษาวิชาโหรจำเป็นต้องจดจำให้ได้ และเมื่อโคจรมาเล็งลัคนาอยู่ในภพที่ ๗ โดยความหมายของภพที่ ๗ หรือภพปัตนิก็คือ หุ้นส่วน ผู้ร่วมลงทุน ศัตรูที่เปิดเผย ฯลฯ ดังนั้นบ้านเมืองของเราจะต้องมีปัญหา และความวุ่นวายในความหมายของภพที่ดาวเสาร์จรไปสถิตย์อยู่ราว ๒ ปีครึ่ง

โดยจะเห็นได้ว่าศัตรูเปิดเผยต่อชาติและราชบัลลังค์ได้ฮึกเหิม กล้าที่จะเปิดหน้าชก ไม่ได้แอบอยู่ในคราบของนักวิชาการหนือวิชากินกันอีกต่อไปแล้ว แต่ยังพอมีพวกลิงหลอกเจ้าให้เห็นอยู่บ้าง ในความหมายของดาวก็คือ ศัตรูเปิดเผยพวกนี้จะมีกำลังมากขึ้น แต่ทว่าดาวเสาร์เป็นดาวแห่งการทำลายล้าง และเมื่อจรมาเป็นอุจน์ (ดี เข้มแข็ง) แล้ว พวกลิงหลอกเจ้าและศัตรูที่เปิดเผยเหล่านั้น คงจะได้จดจำอานุภาพแห่งการทำลายล้างของดาวเสาร์ไปอีกนานเท่านาน

ในหลักวิชาโหรทางฝ่ายภารตะซึ่งเป็นรากเหง้าของโหรทุกสาย ได้กล่าวถึง “ภพอุปจัย” เอาไว้โดยท่านว่าเมื่อดาวบาปพระเคราะห์ไปอยู่ในภพอุปจัยนั้นจะให้คุณ เช่นเมื่อดาวบาปพระเคราะห์ไปอยู่ในภพที่ ๖ ดาวจะไปทำลายความหมายของ หนี้สิน โรคภัย ตลอดจนอุปสรรคต่าง ๆ ในความหมายของภพที่ ๖ ได้ ดังนั้นเมื่อดาวเสาร์จรมาอยู่ในภพที่ ๗ ดาวเสาร์ก็จะทำลายความหมายของภพที่ ๗ หรือศัตรูเปิดเผยของบ้านเมืองได้โดยใช้หลักการพิจารณาเดียวกัน

เมื่อพิจารณาสมผุส (ตำแหน่งองศา) ของดาวในช่วงที่จรมาเป็นเกณฑ์กันนั้นจะพบว่า ตำแหน่งของดาวไม่ได้ไปต้องกับดาวเดิมของดวงเมือง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อดาวใหญ่จรมาส่งกระแสถึงกันแล้ว ความวุ่นวายย่อมจะบังเกิดขึ้นในโลกเล็กๆใบนี้ และประเทศไทยของเราก็เป็นประเทศเล็กๆประเทศหนึ่งในโลก ดังนั้นบ้านเมืองของเราคงอาจจะได้รับผลกระทบพอสมควร

แต่เมื่อพิจารณาในดวงนวางค์จักรนั้นจะพบว่า ตำแหน่งที่ดาวไปเล็งกันนั้นไปต้องกับตำแหน่งดาวเดิมในดวงนวางค์จักรของดวงเมืองพอดี โดยลัคนาของดวงเมืองเกาะนวางค์อังคาร-พิจิก ซึ่งหมายความว่าดาวเสาร์จรมาทับลัคนาของดวงเมืองตั่งแต่วันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกัน ดาวพฤหัสบดีก็จรเกาะนวางค์ศุกร์-พฤษก ซึ่งหมายความว่าในขณะนี้ดาวประธานทั้งสองได้ทับและเล็งลัคนาดวงเมืองในดวงนวางค์จักรอยู่ โดยดาวพฤหัสบดีจะเปลี่ยนนวางค์ในวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๕ นี้

เป็นที่น่าสังเกตุว่า ถ้าดาวส่งกระแสถึงกันอยู่นั้นผลต่างๆจะยังไม่เกิด จนกระทั้งดาวดวงใดดวงหนึ่งเพลี่ยงพลั้งและเมื่อนั้นผลต่างๆไม่ว่าจะดีหรือร้ายมักจะเกิดขึ้น โดยหลังจากวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๕ เราท่านจะได้เห็นการทำลายล้างของดาวเสาร์อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น และเมื่อดาวเสาร์เริ่มโคจรวิกลคติมนฌ์(หยุดนิ่ง) ราว ๑๒ วันเพื่อที่จะโคจรพักร (ถอยหลัง) ในวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ที่ ๕ องศา ๒๘ ลิปดา ณ ราศีตุลย์ โดยจุดวิกลคติพักร (ถอยหลัง) นี้ได้ไปทับลัคนาในดวงนวางค์จักร ดังนั้นช่วงเวลาดังกล่าวจะเกิดความวุ่นวายเพราะไอ้อีผู้ที่ไม่รู้จักคุณของแผ่นดินเกิด ผู้ที่เป็นศัตรูเปิดเผยของบ้านเมือง

ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์จะเกิดปรากฎการณ์ “ดาวเนปจูนดับ” โดยไปดับในนวางค์อังคาร-พิจิก ธาตุน้ำ ทับลัคนาดวงเมืองในดวงนวางค์จักร ดังนั้นมีโอกาสที่จะเกิดภัยธรรมชาติในทางน้ำอีกครั้งในช่วงนั้น

ช่วงต้นเดือนมีนาคม ดาวอังคารตนุลัคน์ของดวงเมือง และสามารถแทนได้กับหหารจะไปเล็งกับดาวอาทิตย์ เกิดปรากฎการณ์ “ดาวอังคารเพ็ญ” ในวันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๕๕ กล่าวคือดาวอังคารจะมีกำลังมากที่สุดและอยู่ใกล้โลกมากที่สุดในช่วงนั้น โดยจุดที่เพ็ญนี้ไปทับจุดศูนย์กลางภพที่ ๕ ตามดวงแบบ ภวจักรของดวงเมือง

จากโศลกที่ครูโหรท่านกล่าวไว้ในเรื่องดาวอังคารพักรว่า “พระอังคารพักรในราศีเมษธนู “สิงห์” สามสิ่งนี้ร้ายหนักหนา เป็นนิมิตรแก่แผ่นพสุธา จะแยกเป็นสองว่าอัศจรรย์ อีกจะเกิดลมพายุวิปริต จะเกิดไข้ทรพิษเป็นมหันต์ มหาชนจะพินาศลงดาษครัน อังคารนั้นมนท์เกิดไข้ตาย ฯ” โดยในขณะนี้ดาวอังคารพักรในราศีสิงห์ แต่อย่างไรก็ตามดาวอังคารมีการโคจรพักรเป็นปกติอยู่แล้ว ดังนั้นผลร้ายที่จะเกิดตามที่โศลกกล่าวไว้ เราท่านจะต้องพิจารณาในจุดอื่นๆเพิ่มเติมด้วย ซึ่งเมื่ออังคารพักรและก็เพ็ญในตำแหน่งจุดศูนย์กลางภพของดวงเมือง ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวเราท่านคงจะได้เห็นอานุภาพของการทำลายล้างดาวบาปพระเคราะห์ดวงนี้ โดยคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ดาวอังคารนั้นหมายถึงผู้ใด

ในช่วงปลายเดือนมีนาคมจะเกิดปรากฎการณ์ “ดาวมฤตยูดับ” และ “ดาวอังคารจะพักรไปทำมุมโยคร้าย ๑๕๐ องศากับดาวมฤตยูจร” โดยจุดดังกล่าวไปทับดาวพุธเดิมในดวงเมือง ดังนั้นช่วงนั้นมีโอกาสที่จะเกิดภัยธรรมชาติได้สูงมาก ซึ่งสอดคล้องกับการที่ดาวพลูโตจรจะวิกลคติหยุดนิ่งเพื่อที่จะพักร (ถอยหลัง)ในช่วงต้นเดือนเมษายนด้วย

กล่าวโดยสรุปเรื่องการจรมาปะทะกันในเรือนเกณฑร์ของดาวประธานทั้งสองนั้น ดาวเสาร์บาปพระเคราะห์จรมาอยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็งและให้คุณ แต่ธรรมชาติของความเป็นบาปพระเคราะห์นั้นยังไงก็ให้ทุกข์โทษเสียก่อน โดยช่วงระยะเวลาที่กล่าวมาข้างต้นเป็นช่วงที่ต้องจับตามองมากที่สุด อย่างไรก็ตามความวุ่นวายตลอดจนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็มีโอกาสที่จะเกิดได้มากเช่นกัน และในช่วงต้นเดือนมิถุนายนจะเกิด “จันทรคราส” โดยจุดที่เกิดคราสจะไปทับดาวอังคารตนุลัคน์ของดวงแบบสนิทองศา ซึ่งเป็นช่วงต่อเนื่องของดาวประธานทั้งสองจรมาปะทะกัน ซึ่งจะขออธิบายขยายความในโอกาสต่อไป

อย่างไรก็ตาม ความไม่ประมาท และมีสติถึงพร้อมดังปัจฉิมโอวาทของพระพุทธองค์และพรปีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปีนี้นั้น เป็นสิ่งที่เราท่านควรที่จะปฎิบัติอย่างเคร่งครัดในรอบขวบปีที่วุ่นวายมากเช่นนี้ และเมื่อทำได้เช่นนั้นแล้ว เราท่านทั้งหลายก็จะสามารถผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี.


อ้างอิง

๐ ปฏิทินโหราศาสตร์ประจำปี ๒๕๕๕ แบบไดอารี่ ตามแนวทางท่าน อ.เทพย์ สาริกบุตร

เมื่อธรรมะ (ดาวพฤหัสดี) ปะทะ อธรรม (ดาวเสาร์) “ในเรือนเกณฑร์” ตอนที่ ๓ (ตอนจบ)

 

ชาวบ้านยะลาเตรียมพร้อม รับมวลน้ำจากเขื่อนบางลาง
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 27 ธ.ค. 2557 10:28



ชาวยะลาเตรียมกระสอบทราย รับมือ มวลน้ำ จากเขื่อนบางลาง ชาวบ้านถือโอกาส จับปลาบึกขนาดใหญ่ หนัก 80-100 กก.

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 27 ธ.ค. มีรายงานบรรยากาศทั่วไปในพื้นที่จังหวัดยะลา ว่า วันนี้ท้องฟ้าโปร่งใสมีแดดออกในช่วงเช้า ส่วนกระแสข่าวของการปล่อยน้ำจากเขื่อนบางลาง ก็ยังทำให้ประชาชนยังคงเฝ้าระวัง เนื่องจากมวลน้ำที่ปล่อยอกมาจากเขื่อนจะถึงพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ประมาณ 10.00 น. วันนี้ ทำให้ประชาชนที่อยู่พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมภายในเขตเทศบาลนครยะลา ได้จัดเตรียมหากระสอบทราย เพื่อมาปิดกั้นน้ำไม่ให้เข้าไปภายในบ้าน หรือร้านค้า

ด้านทางเทศบาลนครยะลาได้อำนวยความสะดวกในเรื่องของกระสอบทรายเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบันนังสตา โดยเฉพาะผู้ที่อยู่หน้าเขื่อนบางลางได้พากันจับปลาบึกขนาดใหญ่ น้ำหนักกว่า 80 - 100 กิโลกรัม ได้จำนวนหลายสิบตัว เนื่องจากปลาเหล่านั้นได้ไหลลงมาจากกระแสน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากเขื่อน ทำให้ปลาเหล่านั้นกระแทกกับโขนหินจนอ่อนแรง และชาวบ้านสามารถจับได้ง่ายด้วยมือเปล่า

อย่างไรก็ตาม ในเวลา 10.00 น.วันนี้ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ผู้แทนพระองค์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมคณะ จะเดินทางไปมอบถุงยังชีพพระราชทาน แก่พระภิกษุ คนชรา และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ณ ห้องประชุมโรงเรียนอินทรฉัตร อ.บันนังสตา และห้องประชุมโรงเรียนตะโละซูแม อำเภอกรงปินัง และที่ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง จ.ยะลา ในวันนี้ตลอดทั้งวันอีกด้วย

ชาวบ้านยะลาเตรียมพร้อม รับมวลน้ำจากเขื่อนบางลาง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

รองผู้ว่าฯ ยะลา สั่งทุกฝ่ายรับมือน้ำล้นเขื่อนบางลาง
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 27 ธ.ค. 2557 16:00



รองผู้ว่าฯ ยะลา สั่ง จนท.ทหาร ตร. ฝ่ายปกครอง พร้อมรับน้ำล้นเขื่อน ขณะที่เทศบาลนครยะลา เร่งเดินเครื่องสูบน้ำ ทำกระสอบทรายกั้น ป้องกันน้ำท่วมเขตเมือง...

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เมืองยะลา ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีรายงานระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ที่สถานีวัดระดับน้ำบ้านท่าสาป อยู่ที่ 17.18 ม. ปริมาณลดลง 0.12 ล้นตลิ่งซ้าย ต.พร่อน อยู่ที่ 0.68 ม. และต่ำกว่าคันกั้น น้ำตลิ่งขวาเขตเทศบาลนครยะลา อยู่ 1.52 ม. ส่วนแม่น้ำสายบุรี ที่สถานี อ.รามัน อยู่ที่ 16.90 ม. ลดลง จากครั้งที่แล้ว 0.80 ม. ล้นตลิ่งซ้ายอยู่ 0.80 ม. และล้นตลิ่งขวาอยู่ 0.40 ม. โดยทั่วไประดับน้ำยังคงปกติ แต่ทั้งนี้จะต้องดูปริมาณน้ำหลังจากที่เขื่อนบางลางระบายน้ำออก และตามที่ได้คาดการณ์ว่าจะไหลเข้าสู่พื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา ประมาณเที่ยงของวันนี้นั้น

นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ได้คาดการณ์ว่า มวลน้ำจะไหลผ่านเขตเทศบาลนครยะลาอย่างช้าที่สุด ราว 17.00 น. และคาดว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจะมีปริมาณน้ำในแม่น้ำสูงสุดในช่วงเวลา 20.00 น. วันเดียวกัน ซึ่งทางเทศบาลนครยะลาได้ดำเนินการเตรียมรับสถานการณ์ไว้แล้ว ขณะที่บริเวณหลังมัสยิดปากีสถาน ชุมชนบ้านร่ม เขตเทศบาลนครยะลา ทางเทศบาลนครยะลาได้เร่งเดินเครื่องสูบน้ำ เร่งสูบน้ำที่ท่วมขังออกลงสู่แม่น้ำปัตตานี ส่วนที่บริเวณชุมชนหัวสะพานสะเตงเจ้าหน้าที่กองช่างของเทศบาลนครยะลา พร้อมด้วยนักเรียนนายสิบ โรงเรียนตำรวจภูธรตำรวจภูธร 9 ยะลา กว่า 20 นาย นำกระสอบทรายปิดท่อน้ำขนาดใหญ่ ที่จะไหลเข้ามาในชุมชน เทศบาลนครยะลา ซึ่งหากประชาชนต้องการรับกระสอบทราย สามารถติดต่อขอรับได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครยะลา ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เขตเมืองยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่ม และได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา ได้เตรียมพร้อมรับภาวะน้ำท่วมที่จะเกิดจากการปล่อยน้ำของเขื่อนบางลาง โดยขนสิ่งของยานพาหนะไว้ในที่ปลอดภัย

สำหรับสถานการณ์ของน้ำในพื้นที่บ้านลิมุด หมู่ 3 ต.ท่าสาป และบ้านหน้าถ้ำ ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่บ้านเรือนของชาวบ้านในบางจุด ที่เป็นพื้นที่ต่ำ ขณะที่ปริมาณน้ำในหมู่บ้านได้ลดลงเกือบหมดแล้ว ชาวบ้านสามารถกลับเข้ามาอาศัยในพื้นที่บ้านเรือนของตัวเองได้ตามปกติ ซึ่งขณะนี้แม่น้ำปัตตานีมีปริมาณน้ำที่ลดลงตามลำดับ เนื่องจากฝนในพื้นที่ตกน้อยลง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่นำยารักษาโรคบางส่วนไปมอบให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งประกาศแจ้งเตือนชาวบ้าน ให้เก็บข้าวของไว้ในที่สูง เตรียมความพร้อมรับน้ำจากเขื่อน ชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ลุ่ม ริมแม่น้ำปัตตานี อาจได้รับผลกระทบ น้ำอาจเอ่อเข้าท่วมอีกระลอก

ขณะที่ศูนย์ปฎิบัติการอำเภอเมืองยะลา นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธ์ รอง ผวจ.ยะลา ได้ทำการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ชุดให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.เมืองยะลา ทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมือง เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา ที่ 16 อ.เมืองยะลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านในพื้นที่บ้านลิมุด หมู่ 3 ต.ท่าสาป และบ้านหน้าถ้ำ ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา รวมทั้งพื้นที่ลุ่มใกล้แม่น้ำปัตตานี ให้เตรียมความพร้อมรับน้ำจากเขื่อนในเที่ยงวันนี้ โดยมี นายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ ปลัดจังหวัดยะลา นายโอฬาร บิลสัน รักษาราชการปลัดอำเภอเมืองยะลา พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา ผกก.สภ.เมืองยะลา พ.ท.ธรรมรัตน์ เหรียญทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 16 อ.เมืองยะลา.

รองผู้ว่าฯ ยะลา สั่งทุกฝ่ายรับมือน้ำล้นเขื่อนบางลาง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ชาวมาเลย์สวดยับรัฐช่วยน้ำท่วมล่าช้า



รัฐบาลมาเลเซียตกเป็นเป้าวิจารณ์อย่างหนักจากสังคม จากการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ใน 5 รัฐทางตะวันออกที่ล่าช้า ขณะที่นายกรัฐมนตรีไปเล่นกอล์ฟกับประธานาธิบดีสหรัฐที่ฮาวาย

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/BHwBOY3rECA?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/h9_Gsr8qOeY?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


วันเสาร์ 27 ธันวาคม 2557 เวลา 14:13 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ว่านายมูห์ยิดดิน ยาสซิน รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงเรื่องการจัดสรรงบประมาณอย่างน้อย 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 462 ล้านบาท ) ในการจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือประชาชนจำนวนมากใน 5 รัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ กลันตัน ตรังกานู ปะหัง เประ และปะลิส ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศในภาพรวมที่ยังคงไม่สู้ดีนัก บวกกับสภาพภูมิศาสตร์ของพื้นที่ประสบภัย ยังคงเป็นอุปสรรคในการทำงานของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ ขณะที่ประชาชนพากันออกมาวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลในเรื่องนี้ว่าล่าช้าโดยปราศจากเหตุผลสมควรมารองรับ

ด้านนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ประสบภัยด้วยตัวเองภายในวันนี้ หลังเดินทางกลับจากการพักผ่อนในสหรัฐก่อนกำหนด ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อมีข่าวออกมาด้วยว่า ในช่วงที่ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ แต่ผู้นำประเทศกำลับใช้เวลาเล่นกอล์ฟกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่สนามในรัฐฮาวาย

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของมาเลเซียรายงานการอพยพผู้ประสบภัยเพิ่มเป็นมากกว่า 120,000 คนแล้ว ส่วนสำนักงานอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนประชาชนในรัฐกลันตัน ตรังกานู และปะหัง ให้เตรียมรับมือฝนที่จะตกลงมาอีก ขณะที่ระดับน้ำสะสมตั้งแต่กลางเดือนยังคงสูง

ชาวมาเลย์สวดยับรัฐช่วยน้ำท่วมล่าช้า | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

มาเลเซียพยายามต่อสู้น้ำท่วม-นาจิบเดินทางกลับ



มาเลเซียกำลังพยายามต่อสู้กับปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้และน้ำดื่มไม่เพียงพอ ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ ส่วนนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ร่นเวลาพักผ่อนในสหรัฐกลับประเทศ ตรวจน้ำท่วม

วันเสาร์ 27 ธันวาคม 2557 เวลา 17:33 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่27 ธ.ค.ว่ามาเลเซียกำลังต่อสู้กับอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปีตามบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศซึ่งมีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย5 คนและมีประชาชนมากกว่า 100,000คน อพยพออกจากบ้านเรือนตัวเองขณะที่ นายกรัฐมนตรีนาจิบราซัค ผู้นำมาเลเซียก็เดินทางกลับจากพักผ่อนในสหรัฐแล้วและเขามีกำหนดเดินทางไปตรวจพื้นที่น้ำท่วมในรัฐกลันตันทางภาคเหนือของประเทศ

ทั้งนี้รัฐทางภาคตะวันออกของมาเลเซียมักถูกน้ำท่วมอยู่เป็นประจำในช่วงฤดูมรสุมแต่ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กล่าวว่าฝนตกหนักและกระแสลมแรงทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเลวร้ายลงในบางพื้นที่ เมืองทั้งเมืองจมอยู่ใต้บาดาลและไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ในหลายพื้นที่ชาวบ้านผู้ประสบภัยกล่าวว่าเพราะไม่มีทั้งไฟฟ้าไม่มีทั้งน้ำดื่มร้านค้าทั้งหมดก็ถูกปิดเพราะฉะนั้นเราจึงไม่รู้ว่าอาหารที่มีอยู่จะเพียงพอหรือไม่จึงต้องตัดสินใจออกจากพื้นที่และเดินทางไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์

เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังพยายามอย่างหนักที่จะนำเอาอาหารและสิ่งของจำเป็นไปแจกจ่ายผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิงให้เพียงพอ

ด้านนายกรัฐมนตรีนาจิบต้องยกเลิกการพักผ่อนวันหยุดในช่วงเวลาที่เหลือหลังจากสื่อมาเลเซียเผยแพร่ภาพของเขากำลังเล่นกอล์ฟกับประธานาธิบดีบารัคโอบามา ในรัฐฮาวายซึ่งเป็นภาพที่ทำให้ชาวมาเลเซียจำนวนหนึ่งเชื่อว่ารัฐบาลไม่ได้ดำเนินการอย่างมากพอในการป้องกันน้ำท่วม

มาเลเซียพยายามต่อสู้น้ำท่วม-นาจิบเดินทางกลับ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

รัสเซียประกาศให้นาโตเป็นศัตรูทางทหารเบอร์หนึ่ง



เอกสารด้านความมั่นคงฉบับล่าสุดของรัฐบาลรัสเซีย ระบุให้นาโตมีสถานะเป็นภัยคุกคามทางทหารหมายเลข 1 ของประเทศ

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/qWFzD_hWl74?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันเสาร์ 27 ธันวาคม 2557 เวลา 08:24 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ลงนามรับรองหลักนิยมทางทหารฉบับปรับปรุง เมื่อวันศุกร์ ที่มีการเพิ่มหลักการและแนวทางสำคัญหลายประการ รวมถึงการประกาศให้ความพยายามขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) ที่ต้องการขยายอิทธิพลทางทหารในยุโรปตะวันออก และเข้ามาประชิดติดพรมแดนของรัสเซีย คือภัยคุกคามจากภายนอกขั้นร้ายแรงที่สุด

นอกจากนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกที่หลักนิยมทางทหารของรัฐบาลมอสโกมีเนื้อหาระบุให้กองทัพสามารถใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงในด้าน "ความแม่นยำและการทำลายล้าง" เพื่อสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ของมาตรการป้องกันเชิงรุก อย่างไรก็ตาม ไม่มีใจความส่วนใดระบุกรอบระยะเวลาในเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจน

ต่อมาไม่นาน นาโตออกแถลงการณ์ปฏิเสธการเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงต่อรัสเซีย แต่เตือนความเคลื่อนไหวด้านกลาโหมครั้งล่าสุดของรัฐบาลมอสโกจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างด้านความมั่นคงของยุโรปโดยรวม ทั้งนี้ หลักนิยมทางทหารของรัสเซียฉบับก่อนปรับปรุง เมื่อปี 2553 ระบุให้นาโตเป็นภัยคุกคามทางทหารต่อประเทศในระดับสูงเช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่า วิกฤติการณ์ในยูเครนที่ยืดเยื้อมาตั้งปลายปี 2556 คือปัจจัยสำคัญที่ทวีความตึงเครียดให้กับความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย

รัสเซียประกาศให้นาโตเป็นศัตรูทางทหารเบอร์หนึ่ง | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

สหรัฐส่งเรดาร์กันขีปนาวุธชุดที่ 2 ให้ญี่ปุ่น



รัฐบาลสหรัฐส่งมอบระบบเรดาร์ป้องกันขีปนาวุธชุดที่ 2 ให้ญี่ปุ่น เพื่อเสริมขีดขั้นการป้องกันการโจมตีจากเกาหลีเหนือ



วันศุกร์ 26 ธันวาคม 2557 เวลา 23:39 น.
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐ แถลงเมื่อวันศุกร์ ว่า สหรัฐส่งมอบระบบเรดาร์ป้องกันขีปนาวุธ แบบ เอเอ็น/ทีพีวาย-2 (AN/TPY-2 : Army Navy/Transportable Radar Surveillance system) ชุดที่ 2 ให้ญี่ปุ่นแล้ว เพื่อเสริมขีดขั้นสมรรถนะการป้องกันขีปนาวุธของญี่ปุ่นและแผ่นดินใหญ่สหรัฐ ในการป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ โครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ถือเป็นความวิตกด้านความปลอดภัยอย่างใหญ่หลวง ในภูมิภาคแปซิฟิกและอื่นๆ

พล.ร.อ.เจมส์ เอ. วินเนเฟลด์ จูเนียร์ รองประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม กองทัพสหรัฐอเมริกา กล่าวย้ำช่วงต้นปีนี้ ว่า สหรัฐจะสานต่อการให้ความสำคัญ กับการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธในภูมิภาค และการ่วมมือกันจะให้ผลดีกว่าการดำเนินการโดยลำพังของประเทศใดประเทศหนึ่ง

ญี่ปุ่นจะติดตั้งระบบเรดาร์ เอเอ็น/ทีพีวาย-2 ชุดใหม่จากสหรัฐ ที่แหลมเคียวกามิซากิ จังหวัดเกียวโต ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศตะวันตกประมาณ 600 กม. ส่วนระบบเรดาร์ชุดแรกติดตั้งที่เมืองชาริกิ จังหวัดอะโอะโมะริ ทางภาคเหนือของประเทศ.

สหรัฐส่งเรดาร์กันขีปนาวุธชุดที่ 2 ให้ญี่ปุ่น | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

อีโบลายังคร่าชีวิต-ติดเชื้อเพิ่มในแอฟริกาตะวันตก?
เชื้อไวรัสอีโบลายังคร่าชีวิต และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ใน 3 ประเทศทางภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกา



วันเสาร์ 27 ธันวาคม 2557 เวลา 01:51 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ทางภาคตะวันตกของทวีปแอฟริกา ยังคงรุนแรง โดยแถลงการณ์ของ องค์การอนามัยโลก (ฮู) จากสำนักงานใหญ่ในนครเจนีวา เมื่อวันศุกร์ ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอีโบลาล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 7,693 ศพ จากผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบ 19,695 ราย ใน 3 ประเทศทางตะวันตกของแอฟริกาคือ เซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย และกินี โดยตัวเลขจากการแถลงครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ ในวันที่ 22 ธ.ค. อยู่ที่ เสียชีวิต 7,518 ศพ จากผู้ติดเชื้อ 19,340 ราย

หากนับรวมผู้เสียชีวิตจากการระบาดของอีโบลาหนล่าสุดทั่วโลก มีอย่างน้อย 7,708 ศพ รวมถึง 6 ศพในมาลี 1 ศพในสหรัฐอเมริกา และ 8 ศพในไนจีเรีย ซึ่งประกาศปลอดเชื้ออีโบลาตั้งแต่เดือน ต.ค. ขณะที่สเปนและเซเนกัลซึ่งต่างก็ประกาศเป็นประเทศปลอดอีโบลาแล้ว มีผู้ติดเชื้อประเทศละ 1 คน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต

แถลงการณ์ของฮู ยังระบุอีกว่า ล่าสุดเซียร์ราลีโอนแซงหน้าไลบีเรีย กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออีโบลามากที่สุด โดยนับถึงวันที่ 24 ธ.ค. มีผู้ติดเชื้อเท่าที่ตรวจพบ 9,203 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 2,655 ศพ ตัวเลขเมื่อ 4 วันก่อนหน้านั้นมีผู้ติดเชื้อ 8,939 ราย เสียชีวิต 2,556 ศพ.

อีโบลายังคร่าชีวิต-ติดเชื้อเพิ่มในแอฟริกาตะวันตก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ราคาน้ำมันเอเชียเพิ่มหลังเหตุถล่มคลังน้ำมันลิเบีย



เหตุโจมตีคลังน้ำมัน 2 แห่งทางตอนเหนือของลิเบีย เมื่อวันพฤหัสบดี คร่าชีวิตทหารอย่างน้อย 22 นาย และเป็นปัจจัยทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดเอเชียปรับตัวสูงขึ้น

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/W_9teB8FG0c?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันศุกร์ 26 ธันวาคม 2557 เวลา 14:30 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงตริโปลี ประเทศลิเบีย เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ว่ากองทัพลิเบียรายงานเรื่องกลุ่มนักรบหัวรุนแรงทางศาสนา เชื่อเป็นสมาชิกของกลุ่ม "ฟาจาร์ ลิเบีย" ใช้เรือเร็วเป็นพาหนะ ยิงจรวดและปืนโจมตีทหารซึ่งกำลังรักษาการอยู่ที่ท่าเรือของคลังน้ำมันในเมืองราส ลานูฟ และอัล-ซิดรา ทางตอนเหนือของประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดี เป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 22 นาย ในจำนวนนี้ 18 ศพ เป็นทหารรักษาการที่ท่าเรือในเมืองราส ลานูฟ

นอกจากนี้ จรวดบางลูกยังสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ทางตอนใต้ของคลังน้ำมันในเมืองอัล-ซิดรา และเกิดเพลิงไหม้อีกด้วย ขณะที่ในเวลาไล่เลี่ยกันยังเกิดเหตุสู้รบระหว่างทหารของรัฐบาลกับกลุ่มนักรบหัวรุนแรงในเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกของประเทศ ส่งผลให้ทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 6 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 14 นาย

ทั้งนี้ หลายฝ่ายเชื่อว่าเหตุการณ์รุนแรงครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในลิเบีย ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดเอเชียปรับตัวสูงขึ้น โดยสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนก.พ. ปิดตลาดเมื่อช่วงเช้าที่ 56.12 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ( ราว 1,851.96 บาท ) เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ ( ราว 9.24 บาท ) ขณะที่สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนก.พ. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13 เซนต์ ( ราว 4.29 บาท ) ปิดตลาดเมื่อช่วงเช้าที่ 60.37 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ( ราว 1,992.21 บาท )

ราคาน้ำมันเอเชียเพิ่มหลังเหตุถล่มคลังน้ำมันลิเบีย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เลื่อนเจรจาสันติภาพครั้งสำคัญยูเครน-กบฏ



การเจรจาสันติภาพครั้งสำคัญระหว่างรัฐบาลยูเครนและกบฏแบ่งแยกดินแดน ในกรุงมินสก์ ของเบลารุส วันนี้ มีอันต้องเลื่อนออกไป โดยที่ไม่มีการให้เหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น

วันศุกร์ 26 ธันวาคม 2557 เวลา 20:13 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมินสก์ประเทศเบลารุส เมื่อวันที่26ธ.ค.ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเบลารุสแถลงว่า การเจรจาสันติภาพครั้งสำคัญระหว่างรัฐบาลยูเครนและกบฏแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียซึ่งมีกำหนดขึ้นในกรุงมินสก์เมืองหลวงเบลารุส ในวันศุกร์นี้(26ธ.ค.)มีอันต้องเลื่อนออกไปซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศเบลารุสก็ไม่ได้ให้เหตุผลในทันทีทั้งนี้ การเจรจาได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเพื่อพยายามที่จะยุติความขัดแย้งในภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ4,700คน

ข้อตกลงหยุดยิงและกรอบข้อตกลงสันติภาพถูกประกาศในกรุงมินสก์ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับการปฏิบัติตามอย่างเหมาะสม

การเจรจาครั้งล่าสุดมีรัสเซียและองค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรปหรือโอเอสซีอี เข้าร่วมด้วยโดยการเจรจาในวันศกร์คาดว่าจะมีการพูดคุยแก่ปัญหาในหลายประเด็นซึ่งรวมทั้งการถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้า,การแลกเปลี่ยนตัวนักโทษและการยุติการปิดล้อมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ที่กบฏยึดครองของรัฐบาลยูเครน

ดมิทรีมีรอนชิค โฆษกกระทรวงต่างประเทศเบลารุสกล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่าจะไม่มีการประชุมวันนี้แต่เขากล่าวเพิ่มเติมว่าเบลารุสพร้อมที่จะเสนอให้กรุงมินสก์เป็นสถานที่จัดการเจรจาต่อไป

ส่วนกาารเจรจากันเมื่อวันพุธมุ่งเน้นไปที่การถอนกำลังทหารและความช่วยเหลือแม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดของความก้าวหน้าใดๆ ออกมาก็ตาม แต่เมื่อหนึ่งวันก่อนรัฐสภายูเครนลงมติเดินหน้าสมัครเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโตซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวหนึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากฝ่ายรัสเซียโดยนายอนาโตลี อันโตนอฟรัฐมนตรีช่วยกลาโหมรัสเซียกล่าวหาสมาชิกนาโตว่าพยายามที่จะเปลี่ยนยูเครนเป็นหน้าด่านของการเผชิญหน้ากับรัสเซีย

ตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้งในภาคตะวันออกของยูเครนในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตแล้ว 4,707คนจากตัวเลขของสหประชาชาติหรือยูเอ็น ซึ่งในจำนวนนี้มีถึง 1,357คนเสียชีวิตตั้งแต่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดหยิงเมื่อวันที่5ก.ย.ที่ผ่านมา


เลื่อนเจรจาสันติภาพครั้งสำคัญยูเครน-กบฏ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เกาหลีใต้ สหรัฐ และญี่ปุ่นร่วมมือสู้โสมแดง



เกาหลีใต้ สหรัฐและญี่ปุ่น ลงนามข้อตกลงไตรภาคีแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองร่วมกันครั้งแรก เพื่อรับมือกับภัยนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ

วันศุกร์ 26 ธันวาคม 2557 เวลา 18:11 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 26ธ.ค.ว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันศุกร์ว่าเกาหลีใต้ สหรัฐและญี่ปุ่นจะลงนามแบ่งปันข่าวกรอง 3ฝ่ายเป็นครั้งแรกในสัปดาห์หน้าเพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่กำลังเพิ่มมากขึ้นจากเกาหลีเหนือขณะเดียวกันสหรัฐก็แยกลงนามในข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรองทวิภาคีกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่นต่างหากซึ่งพันธมิตรทั้งสองประเทศต่างก็มีทหารสหรัฐหลายพันนายประจำการอยู่ในประเทศ

แต่โซลและโตเกียวก็ไม่ได้มีข้อตกลงทวิภาคีในลักษณะดังกล่าวท่ามกลางความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานอันเนื่องมาจากการเข้ายึดคาบสมุทรเกาหลีเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นจากปี2453-2488 และในปี2555ทั้งสองประเทศก็เกือบลงนามในข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรองกันเป็นครั้งแรกแต่การลงนามมีอันต้องยกเลิกไปในนาทีสุดท้ายเนื่องจากเกิดปฏิกิริยาไม่พอใจในเกาหลีใต้

ภายใต้ข้อตกลงไตรภาคีนี้เกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะแบ่งปันข่าวกรองเฉพาะเรื่องโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือผ่านสหรัฐเท่านั้นตามแถลงการณ์จากกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้

เกาหลีใต้ สหรัฐ และญี่ปุ่นร่วมมือสู้โสมแดง | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ ระนอง เตือนภัย



แผ่นดินไหว ในทะเลอ่าวไทยใกล้รอยต่อไทย-มาเลย์
ความแรง 4.8 ลึก19 กม
(แจ้งให้ทราบว่ามีบ่อย..แต่เราไม่เคยทราบเพราะมันไม่อยู่ในระบบ)
ระนอง เตือนภัย กับ Paweena Yuyen และคนอื่นๆ อีก 3 คน
แผ่นดินไหว ในทะเลอ่าวไทยใกล้รอยต่อไทย-มาเลย์
ความแรง 4.8 ลึก19 กม
(แจ้งให้ทราบว่ามีบ่อย..แต่เราไม่เคยทราบเพราะมันไม่อยู่ในระบบ)

 

Pst Nong ได้แชร์โพสต์ของ ระนอง เตือนภัย



ญาติพี่น้องพวกพ้องใครอยู่ชุมพร..ประกาศเตือนภัยครับ
ปล..ชุมพร สุราษ นครศรี พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส

 

สาวงามยาซิดี เลือกจบชีวิต เลี่ยงถูก ISIS ขยี้กาม
เกาะติดสถานการณ์ซีเรียตะวันออกกลางอิรักby อิบรอฮีม อาแว - ธ.ค. 26, 2014



สุดรันทด สาวงามชาวยาซิดี เลือกปลิดชีพตัวเอง แต่ไม่ยอมถูกจับเป็นเชลย และเป็นทาสกามารมณ์ของกลุ่มไอเอส
สำนักข่าว ดิ อินดิเพนเดนท์ รายงานข่าว ญีลาน หญิงสาวงามชาวยาซิดี วัย 19 ปี ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ด้วยการเชือดข้อมือ และแขวนคอในห้องน้ำ เพื่อหวังหลบหนีการตกเป็นทาสกามารมณ์ เมื่อถูกกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย หรือ ไอเอส จับไปเป็นเชลยในเมืองโมซุล ประเทศอิรัก ซึ่งเป็นเมืองที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มดังกล่าว
อัลบาบ วัย 19 ปี ถูกสมาชิกกลุ่มจิฮัดจับตัวไป เธอเล่าว่า เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างทารุณ ทั้งๆที่กำลังตั้งครรภ์ และท้องของเธอก็ใหญ่พอที่จะสังเกตได้แล้ว พวกนั้นกระทำสิ่งที่โหดร้ายต่อเธอโดยปราศจากความปราณี และขู่ว่าหากไม่ยินยอม เธอจะถูกส่งไปขายในประเทศซีเรีย และหากหลบหนี ครอบครัวของเธอจะต้องตกอยู่ในอันตรายเกินจะคาดคิด

จากการอ้างอิงขององค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุว่า สาเหตุที่เหยื่อต้องปลิดชีพตนเอง เนื่องจาก หากถูกกระทำชำเรา ตามหลักศาสนาจะถือเป็นการสูญเสียเกียรติและอาจจะทำให้ครอบครัวของพวกเขามัวหมอง และไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ในสังคมต่อไปได้อย่างภาคภูมิ หากไม่เลือกจบชีวิต พวกเธอจะต้องทนมีชีวิตอยู่อย่างทรมาน
โดนาเทลลาร์ โรเวอรา หนึ่งในพยานซึ่งเคยถูกจับเป็นเชลยของกลุ่มไอเอส เผยหลังได้รับอิสรภาพว่า ไอเอสใช้วิธีการขืนใจเหยื่อ มาใช้ในการโจมตี เนื่องจากว่านี่ไม่ใช่วิธีการฆ่าในทางตรง แต่เป็นการบังคับให้เหยื่อต้องลงมือฆ่าตัวตายเองในที่สุด ซึ่งถือเป็นการฆ่าทางอ้อม
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ได้มีรายงานจากสำนักวิเคราะห์ข่าว ซึ่งระบุว่า กลุ่มไอเอสมองว่ากลุ่มยาซิดี เป็นกลุ่มนอกรีต หากไม่จับมาเปลี่ยนศาสนาและจับแต่งงานกับนักรบในกลุ่มตน ก็จะจับไปขายตามชายแดนซีเรียในที่สุด

ที่มา The independent



สาวงามยาซิดี เลือกจบชีวิต เลี่ยงถูก ISIS ขยี้กาม | abnewstoday

 

มาเลย์อ่วม น้ำท่วมภาคตะวันออก อพยพแล้วกว่าแสนคน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 ธ.ค. 2557 01:12


น้ำท่วมที่เมืองเปงกลันเชปา ใกล้เมืองโกตาบารู (ภาพ: AFP PHOTO)

เกิดเหตุน้ำท่วมรุนแรงบริเวณพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ จากอิทธิพลของพายุในฤดูมรสุม ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายราย และประชาชนนับแสนคนต้องอพยพ...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประเทศมาเลเซียกำลังเผชิญกับภาวะน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี บริเวณพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ จากอิทธิพลของพายุในฤดูมรสุม ซึ่งปีนี้ฝนตกหนักและลมแรงกว่าปกติ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย และประชาชนกว่า 100,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้าน


ด้านนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ซึ่งร่นกำหนดการพักผ่อนในสหรัฐฯและรีบกลับประเทศ เดินทางไปเยือนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท้วมมากที่สุดอย่างรัฐกลันตัน ทางเหนือของประเทศแล้ว โดยในบางเมืองในรัฐนี้ถูกน้ำท่วมทั้งเมือง ขณะที่หน่วยกู้ภัยกำลังประสบปัญหาในการส่งอาหารและเสบียงต่างๆให้แก่ครอบครัวที่หลบภัยอยู่ตามศูนย์บรรเทาทุกข์

ทั้งนี้ ชาวมาเลเซียบางส่วนเชื่อว่ารัฐบาลดำเนินการไม่เพียงพอในการป้องกันเหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดียวกันนี้ของทุกปี และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สื่อในสหรัฐฯเผยแพร่ภาพนายกฯราซัค กำลังตีกอล์ฟกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา บนเกาะฮาวาย ทั้งๆที่ประชาชนยังเดือดร้อนจากอุทกภัย ยิ่งสร้างความไม่พอใจแก่ชาวมาเลเซียขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม นายกฯราซัค จัดงานแถลงข่าวที่เมืองโกตาบารู เมืองเอกของรัฐกลันตัน และแก้ตัวเรื่องที่เขาไปออกรอบตีกอล์ฟกับนายโอบามาว่า เป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธคำชวนซึ่งวางแผนเอาไว้มาสักระยะหนึ่งแล้ว ทุกวันที่เขาอยู่ในสหรัฐฯเขาได้รับข่าวล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมตลอด และเมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้น เขาจึงตัดสินใจเดินทางกลับมาเลเซียอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และตรงมาที่เมืองโกตาบารูทันที โดยที่ยังไม่ได้กลับบ้านของเขาเลย

มาเลย์อ่วม น้ำท่วมภาคตะวันออก อพยพแล้วกว่าแสนคน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สาวงามยาซิดี เลือกจบชีวิต เลี่ยงถูก ISIS ขยี้กาม
เกาะติดสถานการณ์ซีเรียตะวันออกกลางอิรักby อิบรอฮีม อาแว - ธ.ค. 26, 2014



สุดรันทด สาวงามชาวยาซิดี เลือกปลิดชีพตัวเอง แต่ไม่ยอมถูกจับเป็นเชลย และเป็นทาสกามารมณ์ของกลุ่มไอเอส
สำนักข่าว ดิ อินดิเพนเดนท์ รายงานข่าว ญีลาน หญิงสาวงามชาวยาซิดี วัย 19 ปี ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ด้วยการเชือดข้อมือ และแขวนคอในห้องน้ำ เพื่อหวังหลบหนีการตกเป็นทาสกามารมณ์ เมื่อถูกกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย หรือ ไอเอส จับไปเป็นเชลยในเมืองโมซุล ประเทศอิรัก ซึ่งเป็นเมืองที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มดังกล่าว
อัลบาบ วัย 19 ปี ถูกสมาชิกกลุ่มจิฮัดจับตัวไป เธอเล่าว่า เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างทารุณ ทั้งๆที่กำลังตั้งครรภ์ และท้องของเธอก็ใหญ่พอที่จะสังเกตได้แล้ว พวกนั้นกระทำสิ่งที่โหดร้ายต่อเธอโดยปราศจากความปราณี และขู่ว่าหากไม่ยินยอม เธอจะถูกส่งไปขายในประเทศซีเรีย และหากหลบหนี ครอบครัวของเธอจะต้องตกอยู่ในอันตรายเกินจะคาดคิด
จากการอ้างอิงขององค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุว่า สาเหตุที่เหยื่อต้องปลิดชีพตนเอง เนื่องจาก หากถูกกระทำชำเรา ตามหลักศาสนาจะถือเป็นการสูญเสียเกียรติและอาจจะทำให้ครอบครัวของพวกเขามัวหมอง และไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ในสังคมต่อไปได้อย่างภาคภูมิ หากไม่เลือกจบชีวิต พวกเธอจะต้องทนมีชีวิตอยู่อย่างทรมาน
โดนาเทลลาร์ โรเวอรา หนึ่งในพยานซึ่งเคยถูกจับเป็นเชลยของกลุ่มไอเอส เผยหลังได้รับอิสรภาพว่า ไอเอสใช้วิธีการขืนใจเหยื่อ มาใช้ในการโจมตี เนื่องจากว่านี่ไม่ใช่วิธีการฆ่าในทางตรง แต่เป็นการบังคับให้เหยื่อต้องลงมือฆ่าตัวตายเองในที่สุด ซึ่งถือเป็นการฆ่าทางอ้อม
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ได้มีรายงานจากสำนักวิเคราะห์ข่าว ซึ่งระบุว่า กลุ่มไอเอสมองว่ากลุ่มยาซิดี เป็นกลุ่มนอกรีต หากไม่จับมาเปลี่ยนศาสนาและจับแต่งงานกับนักรบในกลุ่มตน ก็จะจับไปขายตามชายแดนซีเรียในที่สุด
ที่มา The independent
http://www.abnewstoday.com/…/สาว%E…/

 

คมนาคมอินโดฯ ชี้สภาพอากาศเลวร้าย ทำแอร์เอเชียขาดการติดต่อ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 ธ.ค. 2557 13:21



คมนาคมอินโดฯ ชี้สภาพอากาศเลวร้าย ทำแอร์เอเชียขาดการติดต่อระหว่าง กาลิมันตัน-เบลิตุง ด้านสิงคโปร์ส่งกำลังค้นหาหลังเครื่องบินสูญหาย

วันที่ 28 ธ.ค. มีรายงานภายหลังจากเครื่องบินแอร์เอเชียอินโดนีเซีย มาสิงคโปร์ ขาดการติดต่อนั้น นายฮาดิ มัสโตฟาร์ เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า เครื่องบิน QZ8501 ได้ขาดการติดต่อระหว่างกาลิมันตัน และเกาะเบลิตุง ทั้งนี้ในช่วงที่เครื่องบินขาดการติดต่อ มีรายงานว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพอากาศในพื้นที่ไม่ดีนัก ซึ่งอาจทำให้นักบินต้องเผชิญหน้ากับสภาพอากาศที่เลวร้ายอย่างหนัก

ด้านโฆษกกองทัพอากาศอินโดนีเซีย ยืนยันว่า จากรายงานของเรดาร์พื้นที่ดังกล่าว เต็มไปด้วยเมฆ ขณะที่สเตรทส์ไทม์ ได้รายงานว่า RSAF ของสิงคโปร์จะส่ง C130 เพื่อทำการค้นหาเครื่องบินที่สูญหายต่อไป

ขณะที่สำนักข่าว CCTV ของทางการจีน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของทางการอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ไม่มีความเป็นไปได้ที่เครื่องบินลำดังกล่าวจะยังบินอยู่กลางอากาศ เนื่องจากมีเชื้อเพลิงใช้สำหรับการเดินทางเพียง 4.5 ชั่วโมงเท่านั้น.

ล่าสุด แอร์เอเชีย อินโดนีเซีย เปิดเผยว่า นักบินเครื่องบิน เที่ยวบินที่ QZ8501 ลำที่สูญเสียการติดต่อกับหอบังคับการบิน ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้้ร้องขออนุญาติเปลี่ยนเส้นทางกับหอบังคับการบินที่สนามบินจาการ์ตา จากแผนเส้นทางการบินเดิม เนื่องจากพบสภาพอากาศที่เลวร้าย โดยได้เปลี่ยนจากระดับความสูงจากระดับ 32,000 ฟิต ไปอยู่ที่ระดับ 38,000 ฟิต เพื่อเลี่ยงกลุ่มเมฆ เมื่อเวลา 06.12 น. ก่อนที่จะขาดการติดต่อเมื่อเวลา 06.17 น. ตามเวลาท้องถิ่น

คมนาคมอินโดฯ ชี้สภาพอากาศเลวร้าย ทำแอร์เอเชียขาดการติดต่อ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Chalee Na Roied



ในขณะที่คนทั้งโลก โดยเฉพาะชาวยุโรปส่วนใหญ่ ยังไม่ตระหนักถึง ชะตากรรมของตัวเองนะครับ หากเกิดการเผชิญหน้าระหว่าง กองกำลังนาโตและสหรัฐ กับรัสเซียในวิกฤติการณ์ที่ยูเครน เมื่อสองสัปห์ดาที่แล้ว มีบรรดาบุคคลที่มีชื่อเสียง ระดับศาสตราจารย์ นักเขียนตลอดจน อดีตนักการเมือง และอดีต รมต.กลาโหม แม้กระทั่ง อดีต ปธน. และอดีตนายกฯ เยอรมัน และบุคคลสำคัญอื่น ในประเทศยุโรป ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง รัฐบาลเยอรมัน เพื่อต่อต้านสงครามในยุโรป ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่ในนามของพวกเรา "War in Europe Again? Not in Our Names!" และให้รัฐบาลเยอรมัน เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยและสร้างสันติภาพ ให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะวิกฤติการณ์ในยูเครน
บรรดาผู้มีชื่อเสียงกลุ่มนี้ รู้ดีว่าสหรัฐกำลัง บีบบังคับให้ประเทศในยุโรป เผชิญหน้ากับรัสเซีย ซึ่งแน่นอนครับ สำหรับประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ก็หนีไม่พ้นชาวยุโรป และรัสเซียนั่นเอง ยังไม่นับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น จากมาตรการคว่ำบาตร เพราะเยอรมัน มีความสัมพันธ์ด้านการค้า กับรัสเซียมากว่า 25 ปี http://www.zerohedge.com/…/60-prominent-germans-appeal-agai…
และก็อย่าแปลกใจครับว่า ทำไมบรรดาบุคคลผู้มีชื่อเสียงกลุ่มนี้ ถึงได้ลุกขึ้นมาเรียกร้อง รัฐบาลเยอรมัน ตลอดจนปลุกชาวยุโรป ตลอดจนคนทั้งโลกให้ตื่นขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะเวลานี้รัฐบาลสหรัฐ เดินหน้าเต็มที่ เพื่อเปิดฉากสงครามกับรัสเซียแน่นอน จากการผ่านร่างกฎกมาย "Ukraine freedom support act 2014" เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา https://www.congress.gov/bi…/113th-congress/senate-bill/2828
และทันทีที่บารัค โอบามา ได้ลงนามผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม ทั่วโลกก็เฝ้าจับตา มาตรการตอบโต้จากรัสเซียครับ และแน่นอนไม่ต้องรอนาน เพราะล่าสุดทาง ผู้นำรัสเซียก็ได้ ลงนามใน "หลักนิยม(doctrine) ในการใช้กำลังทหาร ที่ปรับปรุงแก้ไขล่าสุด โดยกองกำลังนาโต และรัฐบาลสหรัฐ คือ ภัยคุกคามอันดับหนึ่ง ซึ่งเนื้อหารวมถึง ภัยคุกคามรูปแบบอื่น ทั้งกลุ่มก่อการร้าย IS ที่กำลังลุกลามยังแถบเอเชียกลาง อัฟกานิสถาน การเตรียมการใช้กำลัง ปกป้องผลประโยชน์ในแถบขั้วเหนือ ภัยคุกคามหรืออาวุธจากห้วงอวกาศ ตลอดจนความร่วมมือ ด้านความมั่นคงกับประเทศ ในกลุ่มBRICS และ SCO ซึ่งแม้รัสเซียจะต่อต้าน การใช้อาวุธนิวเคลียร์ แต่ก็สงวนสิทธิ์ในกรณีรัสเซีย และพันธมิตรของรัสเซีย ที่รวมถึงอิหร่านและซีเรียถูกโจมตีซึ่ง ในเวลาต่อมา ทางกลาโหมรัสเซีย ก็ได้ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ทันที Russia’s new military doctrine lists NATO, US as major foreign threats — RT News
และนอกจากนี้ครับ เป็นที่แน่นอนแล้วว่า รัสเซียและจีนได้ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันโดยตรง โดยไม่ใช่ดอลลาร์แล้ว แน่นอนครับเกมส์นี้ จีนและรัสเซียเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด เพราะรัสเซียรู้ดีว่า ต่อให้รัฐบาลสหรัฐและยุโรป คว่ำบาตรรัสเซีย แต่จีนไม่เอาด้วยมาตรการคว่ำบาตรก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเงินดอลลาร์ ไม่มีหลักประกันใดๆ แต่รูเบิลมีน้ำมันและก๊าซ จากรัสเซียเป็นหลักประกัน ซึ่งเศรษฐกิจของจีน ยังไงก็หนีไม่พ้น การนำเข้าก๊าซจากรัสเซีย และทางจีนเองได้เคยประกาศ เพราะก่อนหน้านั้น จีนเองก็ได้ประกาศลดการซื้อพันธบัตรสหรัฐเรียบร้อยแล้ว
http://oilprice.com/…/The-End-Of-An-Era-Is-The-US-Petrodoll…




ซึ่งสื่อทั่วโลกไม่ได้ จับตาในเรื่องนี้ทั้งๆที่มีความสำคัญ ซึ่งรายงานเป็นภาษารัสเซีย และภายหลังแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกที ตอบคำถามก่อนหน้านั้น เป็นอย่างดีว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีน ได้เปรียบดุลย์การค้ากับชาติตะวันตกจำนวนมาก แต่การถือครองพันธบัตรสหรัฐกลับลดลง และจีนกับรัสเซียรู้ดีว่า ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำล่วงหน้า(paper gold)มีมูลค่า 360พันล้านดอลลาร์ แต่ทองคำจริงๆมีเพียง 280พันล้านดอลลาร์เท่านั้น นั่นหมายความว่า สหภาพยุโรปจะต้องหาทองคำจริงๆ มาเพื่อแลกซื้อสินค้าจากจีน พร้อมทั้งก๊าซและน้ำมันจากรัสเซียเท่านั้น ซึ่งนับวันทองคำจริงๆ ก็หมดลงเรื่อยๆ เกมส์นี้ของผูนำรัสเซีย ถ้าเปรียบหมากรุก เรียกว่า เป็นกับดักชั้นเซียนของปูติน Grandmaster Putin’s Trap: Russia is Selling Oil and Gas in Exchange for Physical Gold | Global Research



และรัสเซียรู้ดีว่าแม้เศรษฐกิจยุโรป แม้จะอิงอาศัยกับ"petrodollar" แต่สหภาพยุโรป ก็ยังต้องพึ่งพาก๊าซและน้ำมันจากรัสเซีย และสมัยสหภาพโซเวียตล่มสลาย ในยุคนั้นสหภาพโซเวียต ต้องเทขายทองคำสำรองออกมาจำนวนมาก แต่ในเวลานี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลก พร้อมๆกับราคาทองคำร่วงลงมา รัสเซียก็ทยอยกว้านซื้อทองคำมาเก็บไว้
เพราะฉะนั้นสิ่งที่โลกกำลังเผชิญอยู่แน่ๆ คือ สงครามเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐ กับรัสเซียที่จีนให้การสนับสนุน ผู้นำรัสเซียได้บทเรียน จากสมัยสหภาพโซเวียตเป็นอย่างดี จึงมีการเตรียมรับมือค่อนข้างดี ในขณะที่เศรษฐกิจของยุโรปและสหรัฐ กำลังอยู่ในสถานการณ์"งูกินหางเรียบร้อยแล้ว" เพราะแก้ปัญหา ด้วยการมาตรการ QE ของสหรัฐ กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ก่อหนี้ระยะยาว คนรวยก็ยิ่งรวยมากขึ้น คนจนก็ยิ่งจนลง ตัวเลขเศรษฐกิจขยายตัว แต่อัตราว่างงานสูงขึ้น และรัสเซียและจีน จะเริ่มซื้อขายแลกเปลี่ยนกันโดยตรง(swap) ระหว่างหยวนและรูเบิล ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในวันจันทร์นี้ ซึ่งถือว่าเป็น ภัยคุกคามต่อ "petrodollar" และความมั่งคั่ง ของบรรดากลุ่มชนชั้นสูง ที่ครอบงำรัฐบาลสหรัฐมาอย่างยาวนาน อย่างชัดเจน http://thebricspost.com/china-launching-forwards-swaps-wi…/…



รัฐบาลสหรัฐมีทางเลือกเพียง 2 ทางเท่านั้น ในการจัดการกับรัสเซียและจีน
1. การปฏิวัติเสื้อสี"color revolution" เพื่อโค่นล้มรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศ ตะวันออกลางอื่นๆ แม้กระทั่งบ้านเรา แต่ชาวรัสเซีย ส่วนใหญ่ยังชื่นชมผู้นำรัสเซีย และรู้ดีว่ารัฐบาลสหรัฐ และตะวันตกมุ่งหวัง ที่จะเข้ามากอบโกย ทรัพยากรในประเทศเท่านั้น และผลสำรวจล่าสุด คะแนนนิยมของ ปูตินเพิ่มขึ้นมากกว่า 80% เกมส์นี้ น่าจะยากพอสมควรครับสำหรับสหรัฐ เพราะชาวรัสเซียส่วนใหญ่ ได้ตื่นขึ้นแล้ว
2. ใช้กำลังทหารและโจมตีด้วยเครื่องบินรบ เรื่องนี้เป็นที่รับรู้เป็นอย่างดีว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย สำหรับสหรัฐและนาโต เพราะรัสเซีย "ไม่ใช่" ลิเบีย อิรัก ซีเรีย หรือ ยูโกสลาเวีย เพราะรัสเซียคือมหาอำนาจ ทางนิวเคลียร์ ซึ่งสงครามนิวเคลียร์ สหรัฐรู้ดีว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่เฉพาะชาวรัสเซีย และชาวอเมริกันเท่านั้น แต่หมายถึงคนทั้งโลก ซึ่งเวลานี้มีรายงาน รัฐบาลสหรัฐมีแผนการ ในการทำลายอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย ภายในเวลาหนึ่งนาที ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง เพราะเชื่อว่า ถ้าทำลายอาวุธนิวเคลียร์ ของรัสเซียได้ ก็จะสามารถจัดการ กับรัสเซียได้นั่นเอง http://www.eutimes.net/…/usa-harbors-plans-to-decapitate-ru…
เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจครับว่าปี2015 เพราะทุกประเทศ แทบจะอยู่ในสถานการณ์ที่ต่างฝ่าย ไม่สามารถถอยได้ เราจึงได้เห็นบรรดา นักการทหาร และผู้เชี่ยวชาญออกมาคาดการณ์ สถานการณ์ที่นำไปสู่สงคราม(flash point) ที่จะประทุขึ้นแทบจะทุกมุมโลก เพราะหนทางแทบจะตีบตัน ความขัดแย้ง ยังคงดำเนินอยู่ โดยที่ต่างฝ่าย ไม่สามารถเจรจาหาข้อยุติได้นั่นเอง Bloomberg Graphics - A Pessimist's Guide to the World in 2015 - Global Hot Spots
ถูกใจ · · หยุดการแจ้งเตือน · แชร์ · แก้ไข ·

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 28 ธ.ค.57 รัสเซียพร้อมลุยแล้วประกาศ “หลักนิยมทางทหาร” ฉบับใหม่ พร้อมใส่นิวเคลียร์ไม่ยั้ง
ประธานาธิบดีปูติน ประกาศ “หลักนิยมทางทหาร” ฉบับใหม่ 2014 ระบุว่า NATO คือ “ภัยคุกคามขั้นพื้นฐาน” ต่อสหพันธรัฐรัสเซีย ระบุว่า กองทัพรัสเซียมีสิทธิ์ " ใช้มาตรการทางทหาร เข้าตอบโต้ก็ต่อเมื่อทางเลือกที่ปราศจากความรุนแรงอื่นๆ ไม่อาจระงับความขัดแย้งได้แล้ว "
กองทัพรัสเซีย ขอสงวนสิทธิ์ในการนำอาวุธนิวเคลียร์ออกมาใช้ " โจมตีประเทศใดๆ ก็ได้ " ในกรณีที่รัสเซีย หรือชาติพันธมิตรถูกโจมตี หรือเผชิญภัยคุกคามต่อการอยู่รอดของรัฐ...แม่เจ้า !!
----------------------------->
สมัยก่อน การประกาศหลักนิยมทางทหารแบบยกระดับกร้าวนี่แหละ ไม่นานต่อจากนั้น ประเทศมหาอำนาจก็จับขั้ว แล้วประกาศสงครามต่อกัน เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมีคนตายไปราว 70 ล้านคน
การประกาศของรัสเซียครั้งนี้ไม่ใช่การขู่ แต่คือการกัดฟันเอาจริง ท่ามกลางอารมณ์โกรธ ของคณะผู้นำรัสเซีย การเสริมกำลังทหารและอาวุธหนัก แนวชายแดนยูเครน เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสำหรับมะกัน และ NATO แต่มันคือสัญญาณย่อยยับของชาติ EU
มะกัน และยุโรปตะวันออก ไม่ฉลาดเลยที่ยั่วยุ เล่นกับไฟ ที่เป็นไฟความโกรธของผู้นำที่มีหิวรบนิวเคลียร์ติดอันดับ 1 ใน 2 ของโลก
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/topsecretthai

 

Thanong Fanclub



เผยโฉมแม่ทัพการเงินสหรัฐฯที่ถล่มรูเบิ้ล
Paul Craig Roberts อดีตผู้ช่วยคลังสหรัฐฯสมันรัฐบาลเรแกนเชื่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการถล่มระบบการเงินของรัสเซียและรูเบิ้ลคือUS Federal Reserve หรือธนาคารกลางของสหรัฐฯ และ US Department of Treasury หรือกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ แต่ถ้าจะให้ระบุตัวลงไปเลยว่าใครเป็นแม่ทัพทางการเงินของสหรัฐฯที่รับผิดชอบการถล่มระบบการเงินหมีขาว บุคคลนั้นน่าจะเป็นDavid S. Cohen ปลัดกระทรวงการคลัง รับผิดชอบด้านการก่อการร้ายและความมั่นคงทางการเงิน (รูปที่1) เขาได้รับการแต่งตั้งโดยโอบามามาทำงานในตำแหน่งนี้ตั้งแต่ปี2011 โดยหน่วยงานนี้ถือว่าเป็นหน่วยงานทางความมั่นคงของสหรัฐฯที่ทำงานประสานกับหน่วยงานทางความมั่นคงอื่นๆอีก15หน่วย (รูปที่3)
ในการใช้ยุทธวิธีทางทางสงครามการเงินในการทำลายเป้า หรือศัตรูของสหรัฐฯ ด้วยการใช้กลไกของระบบธนาคารระหว่างประเทศ ตลาดการเงิน ตลาดทุน การแซงชั่น รวมทั้งใช้สถานะภาพการเป็นเงินสกุลหลักของโลกของดอลล่าร์ และข้อมูลเชิงลับที่ได้จากหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆในทำทำลายเป้าผ่านสงครามการเงินอย่างเต็มรูปแบบ ถ้าต้องการลงรายละเอียดว่ากระทรวงการคลังสหรัฐฯใช้ยุทธวิธีใดในการทำสงครามการเงินให้อ่านหนังสือ Treasury's War: The Unleashing of a New Era of Financial Warfare เขียนโดย Juan Zarate ผู้เคยทำงานในกระทรวงการคลังสหรัฐฯและทำงานในทำเนียบขาวด้านสงครามการเงินโดยเฉพาะ (รูปที่2)
คู่ปรับของนางพญาElvira Nabiullinaผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย (รูปที่4)ที่กำลังปกป้องค่าเงินรูเบิ้ลอย่างสุดความสามารถคือDavid Cohenของกระทรวงการคลังสหรัฐฯนั่นเอง ทั้งคู่กำลังประลองกำลังกันในสงครามการเงินที่เข้มข้นและผ่านมาหลายรอบแล้ว แต่ในปีหน้าอาจจะได้วัดดวงกันจริงๆระหว่างรูเบิ้ลแจ๊คและดอลล่าร์ยักษ์ว่าใครจะอยู่ หรือใครจะไปกันแน่
thanong
28/12/2014
http://en.wikipedia.org/…/Under_Secretary_of_the_Treasury_f…
http://www.amazon.com/Treasurys-War-Unleashing…/…/1610391152