ติดตามสถานะการณ์

Chalee Na Roied







ตามข่าวนี้ให้ดีนะครับ ทางนาซาเปิดเผยว่าภายในเดือนนี้ จะมีอุกกาบาตผ่าน เข้ามาไกล้โลกมากกว่า 43 ลูก และตั้งแต่ มกราคมถึงมีนาคมปีนี้ รวมแล้วจะมี อุกกาบาตมากกว่า 80 ลูก อุกกาบาต แม้จะมีขนาดไม่ถึง 1 ไมล์ ถ้าพุ่งชนโลก ก็สามารถสร้างหายนะ แก่มวลมนุษยชาติเช่นเดียวกัน และที่น่าจับตามากที่สุด ก็คืออุกกาบาตขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเกือบ 1 ไมล์จะผ่านเข้าไกล้โลกในวันที่ 12 มกราคมนี้ ทั้งนี้รวมถึงดาวหาง เลิฟจอย ที่กำลังโคจรเข้ามาในห้วง เวลาเดียวกัน News about Silicon Valley Companies, Technology Innovations, and Other Cool Stuff | Tech Times
แน่นอนครับรายงานชิ้นนี้ ทางรัสเซียเองก็เฝ้าติดตามไม่แพ้กัน แต่ทางรัสเซียรายงานว่า สิ่งที่น่าวิตกกังวลมากกว่า ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น กับสนามแม่เหล็กโลก โดยเฉพาะบริเวณแถบทางตอนเหนือของสหรัฐ เพราะการโจรเข้ามาไกล้โลก ของดาวหางเลิฟจอย เพราะเมื่อปีที่แล้ว มีดาวหางบางดวงที่เคลื่อนผ่าน ชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร ซึ่งมีผลต่อชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร จนสามารถสังเกตได้ บนพื้นโลก ตลอดจนปราฏการณ์ ทางธรรมชาติ เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหว ที่ไอดาโฮ และลอสแองเจลีส มลรัฐแคร์ลิฟอร์เนีย สหรัฐ ตามที่เคยมีคำเตือนก่อนหน้านั้น http://www.usatoday.com/…/03/earthquake-california/21248913/
นี่คือสิ่งที่ บรรดานักวิทยาศาสตร์ วิตกกังวลไม่น้อย กับกระแสข่าว กองทัพอุกกาบาต ที่กำลังจะโคจรเข้าไกล้โลกในครั้งนี้ ตามรายงานของหน่วยงาน ป้องกันภัยในห้วงอวกาศของรัสเซีย http://www.eutimes.net/…/scientists-tremble-as-asteroid-ar…/
เอาเป็นว่าเรื่องนี้ ต้องฟังหูไว้หูครับ เรื่องอุกกาบาตจาก แอสทีรอยด์ เบลต์ เป็นสิ่งที่พูดถึงมาตลอด ห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา และ" บังเอิญ" มาเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์ ทางเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2008 อุกกาบาต มาพุ่งชนโลกช่วงที่ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกกำลัง เดินมาถึงทางตัน มิหนำซ้ำทาง สหประชาชาติ ก็ยังออกมาแสดงความเห็น ตอกย้ำความน่าเชื่อถือ และความเป็นไปได้อีก โดยยกเอากรณีที่เกิดขึ้นที่ รัสเซียเป็นตัวอย่าง http://news.yahoo.com/earths-leaders-respond-real-asteroid-…
เพราะฉะนั้นแน่นอนครับ ข่าวอย่างนี้จะยังคงมีอยู่ต่อไป ในขณะเดียวกัน ก็มีนักวิเคราะห์ ที่เป็นคอลัมนิสต์ เดวิด เชส เทเลอร์ ที่ติดตามเรื่องนี้ และกำลังลี้ภัยในสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า เรื่องของ "อุกกาบาต" มีความพยายาม นำเสนอในสื่อหลักๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และ"อาจจะ"เกิดจากฝีมือมนุษย์ โดยอาศัยเทคโนโลยี ที่เราไม่เคยทราบมาก่อน และถ้าเกิดอุกกาบาตพุ่งชน ส่วนใหญ่ย่อมเกิดในมหาสมุทรเท่านั้น เพื่อไม่ให้ปรากฎหลักฐาน ของร่องรอยอุกกาบาต แต่เพียงพอที่จะทำให้ เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ สร้างความเสียหาย กับชีวิตและทรัพย์สิน ทำลายเศรษฐกิจให้กับประเทศ ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ได้มากพอสมควร http://truthernews.wordpress.com/…/man-made-asteroid-attac…/
เอาเป็นว่าก็คงไม่ต้องไปวิตกกังวล จนเกินไปครับ แต่ขณะเดียวกัน เราก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ความไม่ประมาท เพราะอะไรๆในเวลานี้ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ธรรมชาติไม่ได้น่ากลัวเท่ากับ "ความโลภของมนุษย์" สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือเราต้องพร้อมที่จะปรับตัว ให้เข้ากับ การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ เพราะเป็นสิ่งเดียว ที่สามารถทำให้ มีชีวิตรอดได้
ในอดีตสัตว์ที่กินน้อย กินง่ายอยู่ง่าย ไม่ยึดติดกับถิ่นฐาน หรือหลักแหล่ง ส่วนใหญ่ก็มักจะสามารถ ดำรงค์เผ่าพันธ์ เอาตัวรอดมาได้ สัตว์ที่ตัวใหญ่ กินจุ เคลื่อนไหวลำบาก เช่น ไดโนเสาร์ ก็มักจะสูญพันธ์ เพราะปรับตัวลำบาก เมื่อเผชิญกับ ภัยพิบัติที่รุนแรง
มนุษย์เราก็เช่นกัน คนที่กินง่ายอยู่ง่าย ใช้จ่ายแบบพอเพียง ทำมาหาเลี้ยงชีพชอบ ก็จะไม่ค่อยเป็นทุกข์ เมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง
.."ฝึกไว้แต่เนิ่นๆครับ จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจ หากวันใดวันหนึ่ง ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง"..

 

Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc
การค้นพบที่ผิดปกติ ใน CAM อิตาเลียน
เผยแพร่เมื่อ 4 มกราคม 2015
STRANGE FINDINGS ON ITALIAN CAM.
Published on Jan 4, 2015
WATCH video >>>>>

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/Jk-AeJ2haQM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc


. ·
~> คนที่นี่เป็นอีกหนึ่งรูป gr8 ของวัตถุที่พุ่งผ่านประเทศบราซิล
28 ธันวาคม 2014:
~~~> guys, here is another gr8 pic of the objects passing over Brazil.
28th Dec 2014

วัตถุเรืองแสงหลายผ่านท้องฟ้าของประเทศบราซิล
ชม 2 วิดีโอ:
Several glowing objects passing through the skies of Brazil.
WATCH THE 2 VIDEO'S

>>>>
<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/JoS7PlUbJFo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

>>>>
<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/-WtO4IKIXe0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc



WOW guys, our Galatic families are here, this is the 2nd video
วิดีโอนี้เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ <~~~
~~~> this video is amazing <~~~

5 มกราคม 2015: วัตถุหลายเรืองแสงผ่านท้องฟ้าของประเทศบราซิล
January 5, 2015: Several glowing objects passing through the skies of Brazil.

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/JoS7PlUbJFo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วัตถุเรืองแสงได้ข้ามฟากฟ้าของบราซิลพบเห็นหลายโดยผู้อยู่อาศัย สถานที่ Mato Grosso do Sul 'วิดีโอที่คุณเห็นเพิ่มเติม' ชิ้นส่วนของไฟ
A glowing object has crossed the skies of Brazil, several sightings by residenti.Mato Grosso do Sul the location ', the video you see more' fragments of fire.

 

ไล่ไขมันออกได้ ทางลมหายใจ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 6 ม.ค. 2558 10:01



ใครๆฟังแล้วก็อาจจะแทบไม่เชื่อว่า ไขมันในตัวที่ลดลงไปนั้น สูญหายไปพร้อมกับลมหายใจ หลังจากแปรสภาพเป็นคาร์บอนไดออกไซด์

นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนิว เซาท์เวลส์ได้พบเมื่อศึกษาว่า เราลดน้ำหนักได้อย่างไร พบว่า เซลล์ไขมันนั้นประกอบด้วยปรมาณูของแก๊สคาร์บอน ไฮโดรเจนและออกซิเจน การที่จะปลดปล่อยไขมันที่ไม่ต้องการออกไป ก็จะต้องปล่อยอณูที่มีอยู่เหล่านั้นหลุดออกไป ด้วยการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน

เมื่อติดตามช่องทางที่อณูหลุดออกจากร่างกาย นักวิจัยพบว่า เมื่อไขมันปริมาณสัก 10 กก.ดูดซึมออกซิเจนเข้าไปจนเต็มอิ่ม จะเกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ระเหยผ่านปอดออกไป เป็นปริมาณ 8.4 กก. และปริมาณอีก 1.6 กก.ที่เหลือจะกลายเป็นน้ำ ในการวิเคราะห์ได้รู้ว่า จะต้องใช้ออกซิเจนให้มากกว่า 3 เท่า จึงจะเผาผลาญไขมันให้หมดลงได้

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ขบวนการนี้ได้เปิดเผยให้รู้ว่าปอดกลายเป็นอวัยวะขับถ่ายใหญ่เมื่อทำการลดน้ำหนัก ส่วนน้ำหนักที่เกิดขึ้นก็จะระบายออกไปกับปัสสาวะ อุจจาระ เหงื่อ ลมหายใจออก และน้ำตา.

ไล่ไขมันออกได้ ทางลมหายใจ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 6 ม.ค.58 เกิดแผ่นดินยุบตัวในอเมริกา จากฝนตกหนัก
ขณะที่อเมริกาเหนือเกิดหนาวฉับพลัน หิมะตกรุนแรง ผลสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้วยังไม่หยุดเท่านั้น เมื่อเกิดฝนตก น้ำท่วมหนักในบางส่วน ของวอชิงตัน อเมริกา เกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือน สะพานขนาด ถนนยุบตัว ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

มองเศรษฐกิจโลกปี′58 อนาคตสหรัฐ-จีน-ญี่ปุ่น-รัสเซีย
updated: 05 ม.ค. 2558 เวลา 20:59:02 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์



ปี 2557 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ผันผวน ทั้งราคาน้ำมันที่ดิ่งลงหลังช่วงกลางปีแล้วถึงกว่า 50% อยู่ที่ประมาณ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล การประกาศยุติมาตรการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ (คิวอี) ของสหรัฐ ตลอดจนเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว กระทบไปถึงห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาคอื่นๆ

นอกจากนี้ โลกยังต้องเผชิญกับสภาวะโรคระบาดอย่างเชื้อไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคดังกล่าวให้เข้าสู่สภาวะชะงักงันและถดถอย

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ประเมินการขยายตัวเศรษฐกิจโลกในปี 2557 ว่าอยู่ที่ราว 3.4% พร้อมตั้งเป้าไว้ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 2558 นี้จะขยายตัวที่ 4% โดยเขตเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างสหรัฐน่าจะกลับมาเป็นพระเอกฟื้นตัวได้ที่ราว 3% ขณะที่ในกลุ่มยูโรโซนน่าจะเติบโต 1.5% ส่วนญี่ปุ่นจะอยู่ประมาณ 1.1%

ส่วนธนาคารโลกประเมินว่าศูนย์กลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะย้ายจากประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนากลับไปยังประเทศร่ำรวยโดยคาดว่าในช่วงปี 2558-2559 เศรษฐกิจโลกน่าจะขยายตัว 3.4-3.5%

ดิ อิโคโนมิสต์ ตั้งข้อสังเกตว่าเศรษฐกิจในปี 2558 นั้นมีวัฏจักรคล้ายคลึงกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำมันมีราคาถูก และเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า เมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ โดยคาดการณ์ปีนี้การเติบโตทางเศรษฐกิจในสหรัฐอยู่ที่ 3%, จีน 7% ขณะที่ในญี่ปุ่นและกลุ่มยูโรโซนน่าจะเติบโตราว 1.1%

โดยหากเศรษฐกิจโลกในปี 2558 ไม่กระเตื้องขึ้นก็ต้องเสียสมดุลอย่างแน่นอน เนื่องจากหลายประเทศไม่สามารถดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่านี้แล้ว เช่น สหรัฐที่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0-0.25% เท่านั้น

ขณะที่ในยุโรปก็ดำเนินนโยบายรัดเข็มขัดเพื่อบริหารงบประมาณของประเทศ จนเริ่มมีกระแสความไม่พอใจจากนักลงทุนที่ไม่เห็นความพยายามในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล มีแนวโน้มจะเลือกพรรคนอกสายตาเข้ามาบริหารประเทศ

เจคอบ ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เผยกับบลูมเบิร์ก อย่างน่าสนใจว่า "เศรษฐกิจโลกจะขับเคลื่อนได้ ต้องใช้ 4 ล้อ ได้แก่ สหรัฐ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และจีน โดยถ้าไม่มีล้อใดล้อหนึ่ง การเดินทางก็จะไม่ราบรื่น" แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่จะต้องเกิดขึ้นในแต่ละภูมิภาคพร้อมๆ กัน

อนาคตสหรัฐสดใส

วอลล์สตรีต เจอร์นัล ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2558 เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ถูกลง และตลาดงานที่คึกคักมากขึ้น โดยอัตราการว่างงานในปีนี้ประเมินว่าน่าจะอยู่ที่ราว 5.3% โดยราคาน้ำมันที่ถูกลงน่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือน และการขับเคลื่อนในภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่ก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงกับภาคการผลิตน้ำมันดิบจากหินดินดาน (เชลแก๊ส) ที่ได้รับผลกระทบจากกำไรติดลบส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงไม่มีดีมานด์มากนัก เนื่องจากขอสินเชื่อยาก

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะขึ้นดอกเบี้ยในปี 2558 เป็นราว 1.9% อาจส่งผลกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายกับอัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลก ซึ่งน่าจะส่งผลดีกับญี่ปุ่นและยุโรปที่ค่าเงินในภูมิภาคอ่อนลง และกระตุ้นการส่งออก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นพิษกับบราซิลและอินเดียที่ต้องเผชิญสภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงขึ้น

จีนยังต้องพึ่งการลงทุน

หลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนพยายามปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนด้วยการบริโภคภายในประเทศ แต่กลับไม่เป็นผล ทำให้เศรษฐกิจจีนเสี่ยงเข้าสู่สภาวะเงินฝืด โดยสินค้าในประเทศนั้นมีราคาถูกลงตั้งแต่เมื่อปี 2555 เป็นต้นมา ขณะที่ การลงทุนยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของประเทศจีน คิดเป็นสัดส่วน 49% ของจีดีพี

อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงในแง่ของห่วงโซ่การผลิตโลกที่มองหาแหล่งผลิตที่มีแรงงานถูก ประกอบกับการลงทุนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในการสร้างสาธารณูปโภค และโรงงานผลิตสินค้าในประเทศจีนทำให้เกิด สภาวะ "ตลาดล้นเกิน" โรงงานหลายแห่งต้องประสบกับภาวะขาดทุน กระทบกับห่วงโซ่การขนส่งวัตถุดิบทั่วโลก

ยูโรโซนยังซบเซา

ขณะที่ยูโรโซน 18 ประเทศเศรษฐกิจในปีนี้จะยังคงขยายตัวอย่างช้า ๆ โดยประเทศที่ถือว่ามีผลงานทางด้านเศรษฐกิจดีที่สุดในภูมิภาคอย่างเยอรมนียังคงขยายตัวเพียงราว 1% และไม่มีการลงทุนเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มเลย ขณะที่เมื่อมองในภาพรวม สภาวะการว่างงาน และการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐและเอกชนยังคงไม่กระเตื้อง เนื่องจากนโยบายทางการเงินที่เคร่งครัด

ด้านฝรั่งเศสและอิตาลีต่างออกมาโจมตีนโยบายรัดเข็มขัดของเยอรมนีอย่างรุนแรงโดยทั้ง 2 ประเทศต้องการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่เยอรมนีตั้งให้ความสำคัญเรื่องการบริหารจัดการหนี้สาธารณะ



ญี่ปุ่นรอฤทธิ์ลูกศรดอกที่ 3

หลังจากที่ประกาศขึ้นภาษีการขายเป็น 8% เมื่อเดือน เม.ย. 2557 เพื่อลดภาระหนี้สาธารณะ แต่ญี่ปุ่นภายใต้นโยบายเศรษฐกิจ "อาเบะโนมิกส์" กลับถอยหลังเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง เนื่องจากความต้องการบริโภคสินค้าในประเทศหดหาย ประกอบกับค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง ทำให้สินค้านำเข้ามีราคาแพง

อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาวะการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับการประกาศอัดฉีดเงินเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น และแผนการปฏิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อกระตุ้นความสามารถในการแข่งขันของประเทศตามแผนซึ่งเป็น "ลูกศรดอกที่ 3" น่าจะทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวที่ราว 1-2%

รัสเซียอ่วมฤทธิ์คว่ำบาตร

รัสเซียอ่วมฤทธิ์คว่ำบาตรทำเอานักลงทุนหวั่นเกรงต่อสภาวะเศรษฐกิจที่อาจลุกลามไปทั่วโลกเช่นที่เกิดขึ้นเมื่อทศวรรษ 2540 หลังจากที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำเหลืองราว 60 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ ธนาคารกลางรัสเซียทุ่มเงินกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อพยุงค่าเงินรูเบิลและปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 17% แต่สุดท้ายก็ไม่อาจต้านไหว ประกอบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ตกลงมาที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยถ้าอยู่ในระดับนี้ไปถึงสิ้นปี น่าจะทำให้รัสเซียต้องเผชิญกับวิกฤตทางการเงิน เนื่องจากรายได้หายไปกว่า 2 ใน 3 ของปี 2557

นอกจากนี้ เรื่องการคว่ำบาตรทางการค้าทำให้รัสเซียขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค และต้องมองหาแหล่งสินค้าแห่งใหม่ เปิดโอกาสทางการค้าให้กับหลายประเทศ

อย่างไรก็ตาม ฟอร์บส์ตั้งข้อสังเกตว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับประเทศตะวันตกนั้นอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าที่รุนแรงมากขึ้น จนส่งผลกระทบกับตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก


ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

มองเศรษฐกิจโลกปี′58 อนาคตสหรัฐ-จีน-ญี่ปุ่น-รัสเซีย : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

น้ำมันขาลงกระทบ ศก.โลก ยังต้องจับตาส่งผลดีมากกว่าเสีย..จริงหรือ
updated: 03 ม.ค. 2558 เวลา 14:30:40 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ โดยทีมข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ



ราคาน้ำมันที่ร่วงลงสร้างแรงสั่นสะเทือนให้แพร่กระจายไปทั่วโลก โดยมีทั้งฝ่ายที่ได้รับความสูญเสียและฝ่ายที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ โดยราคาน้ำมันดิบร่วงลงเกือบครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2557 สร้างความบอบช้ำให้เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่บางแห่ง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือรัสเซีย ที่เงินสกุลรูเบิลดิ่งลงเหว และนักลงทุนหลายรายยังเป็นกังวลว่า เวเนซุเอลาอาจผิดนัดชำระหนี้

- น้ำมันโลกขาลงดีต่อ ศก.จริงหรือ

แต่สำหรับหลายๆ ชาติที่บริโภคน้ำมันจำนวนมาก เรื่องราวนั้นแตกต่างออกไป ประเทศที่มีเขตเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด 4 อันดับแรกของโลกคือ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป (อียู) ต่างก็ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง

"ในทางเศรษฐกิจแล้ว นี่เป็นเรื่องดีสำหรับสหรัฐ ยุโรป และจีน และเป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภคโดยส่วนใหญ่" ซาราห์ ลาดิสลาฟ ผู้อำนวยการโครงการพลังงานและความมั่นคงแห่งชาติของศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติในสหรัฐ กล่าวไว้

ทว่าที่สุดแล้ว การที่ราคาน้ำมันลดต่ำลงจะเป็นการช่วยเหลือหรือทำร้ายเศรษฐกิจโลกนั้นขึ้นอยู่กับว่า ราคาน้ำมันลดต่่ำลงไปอยู่ที่ระดับไหน และราคาคงอยู่ที่ระดับต่ำนานแค่ไหน และการลดต่ำของราคาน้ำมันครั้งนี้จุดชนวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ทำให้การค้าหยุดชะงักหรือทำให้นักลงทุนตื่นตกใจกลัวหรือไม่

โดยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2557 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือที่เป็นราคาน้ำมันอ้างอิงส่วนใหญ่ของโลกอยู่ที่ 59.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ร่วงลงราว 47 เปอร์เซ็นต์ จากระดับสูงที่สุดของปีนี้ที่ 115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งการลดลงของราคานี้ ทำให้อุตสาหกรรมน้ำมันของโลกสูญเสียรายได้ไปถึงวันละเกือบ 500,000 ล้านดอลลาร์ และเป็นการลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคลง

- ค่าเงินรูเบิลโดนถล่มต่ำสุดแห่งปี

ราคาหุ้นกู้ของบริษัทน้ำมันของรัฐบาลหลายแห่งรวมถึงราคาพันธบัตรในประเทศกำลังพัฒนาบางแห่งก็ลดลงด้วย และภาวะเศรษฐกิจถดถอยในรัสเซียในปี 2558 ที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปได้ แต่ทว่าตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนเทศกาลวันหยุดยาว โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจทั้งอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่โดดเด่นในไตรมาสที่ 3 ตัวเลขอัตราการจ้างงาน รวมทั้งการเพิ่มของอัตราค่าจ้าง ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่เมื่อปี 2550-2551

ขณะที่การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซียสร้างแรงกดดันให้กับค่าเงินรูเบิลอยู่แล้ว เมื่อราคาน้ำมันลดลงยิ่งทำให้อัตราเร่งของการอ่อนค่าเพิ่มขึ้นไปอีก การตัดสินใจของรัฐบาลรัสเซียเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมที่เข้าช่วยเหลือรอสเนฟต์ บริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดของประเทศซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในการชำระหนี้ ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลร่วงลงหนักเข้าไปอีก จุดชนวนให้เกิดความกังวลว่าจะมีการแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร ขณะที่ชาวรัสเซียต่างพากันไปซื้อสินค้านำเข้าราคาแพงเนื่องจากกลัวว่า สินค้าเหล่านี้จะแพงขึ้นอีกหลังจากที่มีการปรับอัตราตามการนำเข้ารอบใหม่ ส่งผลให้ธนาคารกลางรัสเซียออกมาตรการแบบใช้ "ยาแรง" หลายข้อ เพื่อช่วยพยุงค่าเงินรูเบิล อาทิ การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงขึ้นอย่างพรวดพราดจาก 10 เป็น 17 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันก็นำทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมาขายในตลาดเพื่อสนับสนุนค่าเงินรูเบิล ทำให้ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียฟื้นตัวติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน โดยมีมูลค่าเพิ่มมาราว 15 เปอร์เซ็นต์ ก่อนที่จะร่วงลง 4 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่ 26 ธันวาคม 2557 มาอยู่ที่ 54 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยรูเบิลนับเป็นสกุลเงินที่มีผลงานแย่ที่สุดในปีนี้ร่วมกับสกุลเงินฮริฟเนียของยูเครน ที่สูญเสียมูลค่าไปมากกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ

- หวั่นรัสเซียต้นเหตุวิกฤตศก.ครั้งใหม่

การส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติคิดเป็นเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากการส่งออกทั้งหมดของรัสเซีย ธนาคารกลางของรัสเซียระบุว่า หากราคาน้ำมันยังอยู่ที่ระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เศรษฐกิจของรัสเซียจะหดตัวลง 5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2558 และแม้ว่าราคาน้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เศรษฐกิจของรัสเซียก็ยังจะหดตัวลงอยู่ดีที่ 0.8 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้รัสเซียถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก เมื่อปี 2541 เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลกเมื่อรัสเซียผิดนัดชำระหนี้ และจะมีปัญหาอีกครั้งถ้าราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงนำไปสู่การล่มสลายของเศรษฐกิจรัสเซีย แม้ว่าขนาดของเศรษฐกิจรัสเซียจะค่อนข้างเล็ก โดยคิดเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีรวมทั่วโลก

หากดูจากขนาดและขอบเขตแล้ว โครงสร้างทางเศรษฐกิจของรัสเซียน่าจะทำให้การแพร่ขยายของผลกระทบอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรงนัก การไม่มีภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่ทันสมัย ทำให้ไม่มีความสำคัญต่อวงจรห่วงโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชนของโลก ทว่ามีอย่างน้อย 5 หนทางที่วิกฤตของรัสเซียสามารถแพร่ขยายออกไปได้

ปัญหาของรัสเซียตอนนี้เกิดจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างรุนแรง และพวกเขาไม่ใช่ประเทศเดียวที่ประสบปัญหาจากสาเหตุนี้ เวเนซุเอลาและอิหร่านเองก็พบว่า เป็นเรื่องยากที่จะสามารถรับมือกับระดับราคาน้ำมันที่ต่ำกว่า 70ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ หากรัสเซียเกิดไปไม่รอด จะมีคำถามตามมาคือ ใครจะเป็นรายต่อไป

- ห่วงผลพวงลามทั่วทวีปยุโรป

ปัญหาที่ 2 คือ รัสเซียมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดกับยุโรปตะวันออก ดังนั้นแล้วการล่มสลายของรัสเซียจะส่งผลสืบเนื่องที่ร้ายแรงต่อประเทศอย่างโปแลนด์และยูเครนที่กำลังย่ำแย่ไม่แพ้กัน ขณะที่ยุโรปตะวันตกก็จะได้รับผลกระทบจากการขาดหายไปของก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเช่นกัน

ปัญหาต่อมาคือ ความเชื่อมั่นจะถูกกระทบกระเทือน ผลงานที่อ่อนแอของเศรษฐกิจเยอรมนีนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วเป็นต้นมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่เศร้าหมองมากขึ้น การชะลอตัวในกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินสกุลยูโร (ยูโรโซน) ทั้งหมดมีผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเยอรมนี ปัญหาของรัสเซียที่เพิ่มเข้ามาอีกอาจเพียงพอต่อการทำให้เศรษฐกิจเยอรมนีเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ ที่จะเป็นสาเหตุให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เริ่มต้นใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือคิวอี

เหตุผลอีกข้อคือ ไม่มีใครแน่ใจว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียจะรับมือกับปัญหาท้าทายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศนับตั้งแต่ปี 2541 นี้อย่างไร ผลสะเทือนต่อความเชื่อมั่นจากวิกฤตครั้งนี้จะยิ่งทรุดหนักลงจากความรู้สึกที่ว่า รัสเซียปกครองโดยผู้นำที่มีความสามารถในการทำให้ประเทศยังมีความสำคัญด้านภูมิรัฐศาสตร์และมีอิทธิพลทางการทหาร

- เวเนฯ-ไนจีเรียออกอาการเป๋ตาม

ปัญหาสุดท้ายคือ สมมติฐานที่ว่าความเสี่ยงของตลาดการเงินต่อรัสเซียค่อนข้างจำกัด โดยดูจากจำนวนเงินที่ธนาคารต่างชาติปล่อยกู้ให้กับรัสเซียที่มีเพียงแค่ 209,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อมีการออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งนักลงทุนชาวตะวันตกดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการที่พวกเขายังมีเวลาในการนำเงินออก ทว่าตลาดค้าเงินในตอนนี้ซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะมากน้อยขนาดไหน

ขณะที่เวเนซุเอลาซึ่งเหมือนกับรัสเซียตรงที่ ประสบปัญหาเศรษฐกิจก่อนหน้าที่ราคาน้ำมันจะร่วงลงอยู่แล้ว แต่เวเนซุเอลาหนักยิ่งกว่าตรงที่พึ่งพารายได้จากน้ำมันมากกว่ารัสเซีย โดยรายได้จากส่วนนี้คิดเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากการส่งออกทั้งหมดของประเทศ ราคาพันธบัตรของรัฐบาลเวเนซุเอลาลดต่ำลงอย่างมากในช่วงหลายวันที่ผ่านมาจากการที่นักลงทุนเป็นกังวลว่ารัฐบาลจะผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะเป็นย่างก้าวที่จุดชนวนให้เกิดความสั่นคลอนทางการเมือง

ด้านไนจีเรียประกาศตัดลดงบประมาณรายจ่ายของประเทศในปี 2558 ลง 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบของราคาน้ำมันที่ลดลง

ขณะเดียวกัน บรรดาประเทศที่มีเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกก็เป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกเช่นเดียวกัน ราคาน้ำมันเบนซิน ดีเซล และเชื้อเพลิงของเครื่องบิน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากการที่ผู้บริโภคมีเงินให้ใช้จ่ายมากขึ้น และธุรกิจมีเงินสำหรับลงทุนเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงพลังงานสหรัฐประเมินว่า ราคาน้ำมันที่ต่ำลงจะช่วยให้ครัวเรือนอเมริกันประหยัดเงินได้เฉลี่ย 550 ดอลลาร์ ราคาหุ้นของบริษัทด้านการเดินทางและขนส่งอย่าง เช่น ยูพีเอสและเฟดเอ็กซ์เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานกองทุนสำรองแห่งรัฐ (เฟด) หรือธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา กล่าวไว้เมื่อกลางเดือนธันวาคม 2557 ว่าการลดลงของราคาเชื้อเพลิง "ดูเหมือนว่าจะมีแต่แง่บวก" สำหรับสหรัฐ แม้ว่าจะทำให้กิจกรรมการขุดเจาะน้ำมันภายในประเทศลดลงเนื่องจากสหรัฐยังคงเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุด

- ราคาน้ำมันขาลงเสียมากกว่าได้

ผู้บริโภคในจีน ญี่ปุ่น และยุโรปใช้เงินรายได้ไปกับการจ่ายค่าพลังงานด้วยสัดส่วนที่ลดลง ถึงอย่างนั้นก็ตาม การลดลงของราคาน้ำมันก็ยังไม่ช่วยอะไรมากนักสำหรับญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากในทางกลับกัน สิ่งนี้เป็นอุปสรรคในการผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นถึงเป้า 2 เปอร์เซ็นต์ที่กำหนดไว้เพื่อเอาชนะภาวะเศรษฐกิจซบเซา

อีกด้านหนึ่ง ประเทศที่มีความทะเยอทะยานในการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันอย่างบราซิล โคลอมเบีย และเม็กซิโก แน่นอนว่าจะต้องระงับโครงการไว้ก่อน

อุตสาหกรรมน้ำมันของบราซิลเพิ่งจะโซซัดโซเซมาจากกรณีอื้อฉาวด้านการทุจริตในเปโตรบราส บริษัทน้ำมันของรัฐบาล นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่มีอยู่ค่อนข้างมากของบราซิลยังต้องใช้ต้นทุนมหาศาลในการขุดเจาะเพื่อนำออกมาใช้ จากการที่แหล่งน้ำมันดิบดังกล่าวอยู่ลึกลงไปใต้ก้นมหาสมุทร ซึ่งราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงทำให้ผลตอบแทนที่จะลงทุนในส่วนนี้ไม่คุ้มค่า

ขณะที่อุตสาหกรรมน้ำมันของชาติในละตินอเมริกาอีกแห่งอย่างโคลอมเบีย มีพัฒนาการที่ดีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเขายังไม่ค้นพบแหล่งน้ำมันดิบใหญ่เพิ่มแต่อย่างใด แต่ก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากขึ้น ทว่าถึงตอนนี้ราคาน้ำมันร่วงลง การสำรวจแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ก็ต้องชะลอออกไปก่อน

ในส่วนของเม็กซิโกนั้น หลังจากที่ผลิตน้ำมันได้ลดลงมาหลายปี ก็ได้มีการปรับแก้รัฐธรรมนูญให้บริษัทต่างชาติเข้ามาดำเนินธุรกิจน้ำมันได้ โดยคาดว่าเม็กซิโกเป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่ยังไม่ถูกนำออกมาใช้ประโยชน์อยู่มากพอสมควรทั้งบนพื้นดินและนอกชายฝั่งทะเล ที่อย่างไรก็ตามบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ทั่วโลกคงจะชะลอการเข้ามาเจรจาสัญญาสัมปทานออกไปก่อน

และหากพูดถึงเรื่องราคาน้ำมันแล้ว ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ก็คือ องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก หรือโอเปก ที่สมาชิกรายใหญ่ของกลุ่มยังคงมีกำไรจากการขายน้ำมันอยู่แม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลง เนื่องจากต้นทุนในการผลิตน้ำมันนั้นยังต่ำกว่าระดับราคาน้ำมันในปัจจุบันมาก ถึงอย่างนั้นก็ตาม งบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลที่ประเทศเหล่านี้ตั้งไว้ ยังอยู่บนสมมติฐานที่ว่าระดับราคาน้ำมันสูงกว่านี้ โดยกระทรวงพลังงานสหรัฐประเมินว่า รายรับจากการขายน้ำมันของกลุ่มประเทศโอเปกจะลดลง 446,000 ล้านดอลลาร์ในปี ค.ศ. 2015 หรือปี 2558 ลดลง 36 เปอร์เซ็นต์ จากรายรับที่คาดว่าจะได้รับในปี 2557

คงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดถึงผลกระทบของราคาน้ำมันที่มีต่อเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบางในปี 2558 นี้ ว่าจะออกมาในรูปไหน

ที่มา : นสพ.มติชน

น้ำมันขาลงกระทบ ศก.โลก ยังต้องจับตาส่งผลดีมากกว่าเสีย..จริงหรือ : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

อนดล แซ่เล้า‎ภัยพิบัติ ก่อนวันสิ้นยุค

ถ้าไม่ใช่เพราะปิดข่าวก็ถูกลดระดับความรุนแรง


http://info.geonet.org.nz/…/6.0+Earthquake+shakes+central+S…


แรงสั่นของแผ่นไหวมันแปลก มันเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ เพราะไม่มีแรงสั่นเล็กๆออกมาก่อน

 

คดีมีมูล!'3ดีเอสไอ'พันส่วยน้ำมันโดนสอบวินัย
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



"สุวณา" อธิบดีดีเอสไอ เผย3จนท.พัวพันส่วยน้ำมัน คดีมีมูล สั่งตั้งกก.สอบวินัย ชี้ส่วยเดือน4แสนงบเอนเตอร์เทน

นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 3 รายพัวพันกับการเรียกรับส่วยน้ำมันเถื่อนของนายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ ปัตตานี ว่า คณะกรรมการที่มีนายนิธิต ภูริคุปต์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษเป็นประธาน ได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวมายังสำนักอธิบดีดีเอสไอแล้ว

โดยคณะกรรมการมีความเห็นว่าข้อเท็จจริงมีมูลเพียงพอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย เนื่องจากบุคคลทั้ง 3 มีความเชื่อมโยงกัน แต่ผู้มีรายชื่อพัวพันกับส่วยน้ำมันเถื่อน 1 ราย ถูกไล่ออกจากราชการไปก่อนหน้าแล้ว จึงตั้งกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยเพียง 2 ราย ตามปกติจะใช้เวลาสอบสวน 60 วัน หากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จสามารถขอขยายเวลาการสอบสวนออกไปได้ครั้งละ 30 วัน เว้นแต่เป็นกรณีที่มีความสำคัญหัวหน้าหน่วยงานสามารถสั่งการให้เร่งรัดกระบวนการสอบสวนได้ แต่จะต้องให้ความเป็นธรรมผู้ถูกกล่าวหาได้มีโอกาสชี้แจงและเข้าให้ข้อมูลแก้ข้อกล่าวหาอย่างเต็มที่

แหล่งข่าวจากดีเอสไอเปิดเผยว่า สำหรับพฤติการณ์ของข้าราชการดีเอสไอที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตรวจพบและเสนอให้ตั้งกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย แม้จะยังไม่ปรากฎความผิดชัดเจนแต่เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงตามข้อมูลบันทึกโทรศัพท์ของเสี่ยโจ้ นอกจากนี้ยังเป็นข้าราชการดีเอสไอที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคดีน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ภาคใต้จริง มีข้อมูลการติดต่อสื่อสารกันจริง ที่สำคัญโพยการจ่ายส่วยของเสี่ยโจ้บันทึกว่า จ่ายเงินรายเดือนให้ 2 ครั้ง จำนวน 400,000 บาท ค่าเลี้ยงอาหารรับรอง และค่าเอนเตอร์เทนและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า สำหรับ“เล็กดีเอสไอ” ซึ่งปรากฎชื่อในโพยจ่ายส่วย 1 ล้านบาทนั้น ข้อมูลในชั้นสืบสวนพบว่า "เล็ก" ไม่ใช่ข้าราชการดีเอสไอแต่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่มีประวัติค้าน้ำมันเถื่อน โดยอยู่ระหว่างการขยายผลว่าเป็นการเก็บส่วยส่งให้กับใครในดีเอสไอหรือเป็นการแอบอ้างดีเอสไอไปเก็บส่วย

สำหรับผู้ที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยคือ ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ อดีตผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล และนายอชิระ ยศยิ่ง ส่วนนายสรชัช แพใหญ่ ถูกสั่งให้ออกจากราชการไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

'ไอเอส'ระส่ำ! นักรบเคิร์ดยึดคืนเมืองโคบานีได้ 80% แล้ว
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 7 ม.ค. 2558 00:26


(ภาพ: AFP PHOTO)

นักรบชาวเคิร์ดในซีเรีย สามารถยึดคืนพื้นที่เมืองโคบานี เมืองยุทธศาสตร์สำคัญทางเหนือของประเทศซีเรีย จากกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลามได้กว่า 80% แล้ว หลังจากต่อสู้กันมานานหลายเดือน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักรบของกองกำลังชาวเคิร์ด ซึ่งต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในเมืองโคบานี เมืองชายแดนทางเหนือของประเทศซีเรีย สามารถยึดเขตสำคัญคืนจากนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ได้แล้ว และขณะนี้สามารถยึดคืนการควบคุมเมืองยุทธศาสตร์แห่งนี้ได้กว่า 80%

กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) เปิดเผยในวันอังคาร (6 ม.ค.) ว่า นักรบเคิร์ดซีเรียซึ่งรู้จักในชื่อ 'หน่วยปกป้องประชาชน' (วายพีจี) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม 'เปชเมอร์การ' นักรบเคิร์ดจากอิรัก สามารถยึดคืนเขตความมั่นคงและศูนย์บัญชาการตำรวจประจำเมืองคืนจากกลุ่มไอเอสได้แล้ว หลังจากปะทะกันมาตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน นาย ไอดริส นัสซัน เจ้าหน้าที่ของเมืองโคบานียืนยันรายงานของเอสโอเอชอาร์ และว่ากลุ่มไอเอสยังคงครอบครองเขตมัคตาลาและคานีคอร์ดาน ทางตะวันออกของเมืองโคบานีเอาไว้ และหวังว่ากลุ่มวายพีจีจะสามารถยึดคืนพื้นที่ทั้งหมดได้ภายในไม่กี่วันข้างหน้า

การโจมตีเมืองโคบานีของกองกำลังชาวเคิร์ด ยังได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ โดยศูนย์บัญชาการกลางสหรัฐฯ (ยูเอสเซนท์คอม) เปิดเผยว่า เครื่องบินรบของพวกเขาโจมตีทางอากาศ 8 ครั้งตั้งแต่วันจันทร์ ทำลายอาคารในครอบครองและค่ายของกลุ่มไอเอสไป 13 แห่ง

ทั้งนี้ กลุ่มไอเอสบุกโจมตีเมืองโคบานีในเดือนก.ย.ปีก่อน โดยหวังยึดเมืองยุทธศาสตร์แห่งนี้ซึ่งเชื่อมต่อกับชายแดนประเทศตุรกี และสามารถยึดพื้นที่ต่างๆของเมืองได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักรบชาวเคิร์ดในซีเรียลุกขึ้นมาต่อต้านอย่างหนักรวมทั้งได้รับความช่วยเหลือด้วยการโจมตีทางอากาศจากนานาชาตินำโดยสหรัฐฯ ทำให้นักรบเคิร์ดสามารถยึดคืนพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง

'ไอเอส'ระส่ำ! นักรบเคิร์ดยึดคืนเมืองโคบานีได้ 80% แล้ว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เกาหลีใต้เตือน “โสมแดง” อาจรุดหน้าถึงขั้นผลิต “นุกย่อส่วน” ติดปลายหัวรบได้แล้ว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 มกราคม 2558 15:30 น.



เอเอฟพี - เกาหลีเหนืออาจมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าถึงขั้นย่อส่วนระเบิดนิวเคลียร์ให้มีขนาดเล็กพอจะติดตั้งบนปลายหัวรบได้แล้ว กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกมายอมรับ วันนี้ (6)

คำเตือนดังกล่าวถูกระบุไว้ในเอกสารทางการซึ่งจะเผยแพร่วันนี้ (6) แม้ที่ผ่านมาเปียงยางยังไม่เคยแสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพพอที่จะผลิตระเบิดนิวเคลียร์ย่อส่วนมาก่อน

“ระดับความสามารถของเกาหลีเหนือในการย่อส่วนอาวุธนิวเคลียร์ (miniaturization capacity) ดูเหมือนจะก้าวหน้าไปมาก” ถ้อยแถลงจากกระทรวงระบุ

รัฐบาลเปียงยางเคยทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มาแล้ว 3 ครั้ง ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013

กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจมีพลูโตเนียมเกรดอาวุธเก็บไว้ในคลังมากถึง 40 กิโลกรัม ส่วนโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมก็ยังพัฒนาต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง

โสมแดงได้ทำลายเตาปฏิกรณ์ขนาด 5 เมกะวัตต์ที่โรงงานนิวเคลียร์ยองบยอนเมื่อปี 2007 ตามเงื่อนไขลดอาวุธเพื่อแลกความช่วยเหลือจากต่างชาติ แต่กลับซ่อมแซมขึ้นมาใหม่อีกครั้งในช่วงกลางปี 2013 ทำให้โรงงานยองบยอนกลายเป็นแหล่งผลิตพลูโตเนียมเกรดอาวุธที่สำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือ

จากการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลหลายต่อหลายครั้ง ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า เทคโนโลยีขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออาจรุดหน้าไปถึงขั้นสร้างจรวดที่โจมตีแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ ได้แล้ว กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เผย

เมื่อปี 2012 เปียงยางได้แสดงให้โลกเห็นว่าพวกเขามีศักยภาพพอที่จะส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร แต่ยังต้องรอดูต่อไปว่าโสมแดงจะก้าวไปถึงขั้นผลิตจรวดที่กลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก (re-entry) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ได้หรือไม่

สำนักข่าวยอนฮัปอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมซึ่งเปิดเผยว่า จรวดแตโปดอง-2 ของเกาหลีเหนือได้รับการปรับปรุงจนเพิ่มพิสัยเดินทางได้ไกลถึง 10,000 กิโลเมตร จากเดิมที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าไม่น่าจะเกิน 7,000 กิโลเมตร ทว่า จนบัดนี้ยังไม่มีวี่แววว่าเกาหลีเหนือจะนำขีปนาวุธพิสัยไกลออกมาใช้งานจริง



http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…

 

เจ้าตูบหลายสิบได้ชีวิตใหม่ในสหรัฐฯ หลังถูกช่วยจาก “ฟาร์มเนื้อหมา” ในเกาหลีใต้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 มกราคม 2558 15:04 น.


---
@ภาพของเจ้าตูบชื่อ สโนว์บอล ซึ่งถูกช่วยมาจากฟาร์มเนื้อสุนัขแห่งหนึ่งในเกาหลีใต้ ขณะอาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์ของสันนิบาตสงเคราะห์สัตว์แห่งอเล็กซานเดรีย เมื่อวันที่ 5 มกราคม ปี 2015
---

เอเอฟพี - สุนัข 12 ตัวที่แต่เดิมถูกกำหนดชะตาให้เป็นหนึ่งในเมนูบนโต๊ะอาหารในเกาหลีใต้ได้มาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.แล้ววานนี้ (5 ม.ค.) เพื่อที่จะถูกนำไปเลี้ยงในฐานะสัตว์เลี้ยงแทน

พวกมันคือสุนัขกลุ่มแรกในทั้งหมด 23 ตัวที่ถูกส่งเข้ามายังสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ในฐานะการรณรงค์เพื่อต่อต้านการรับประทานเนื้อสุนัขในเอเชียตะวันออก

สมาคมมนุษยธรรมนานาชาติ (Humane Society International - HSI) ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. พบสุนัขเหล่านี้ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในจังหวัดอิลซาน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโซล สถานที่ที่พวกมันถูกเลี้ยงไว้เพื่อการบริโภคของมนุษย์โดยเฉพาะ

เจ้าของฟาร์มแห่งนี้ยอมรับว่าส่วนตัวแล้วเป็นคนรักสุนัข ได้ตกลงที่จะไว้ชีวิตสุนัขพวกนี้ และรับข้อเสนอที่เป็นค่าชดเชยและทำการเพาะปลูกบลูเบอร์รีแทน เคลลี โอ’มีรา ผู้อำนวยการกลุ่ม HSI บอกกับเอเอฟพี ขณะที่สุนัขพันทางพวกนี้อาศัยอยู่ที่คอกสุนัขในสันนิบาตสงเคราะห์สัตว์แห่งอเล็กซานเดรีย (Animal Welfare League of Alexandria ) ในรัฐเวอร์จิเนีย หลังจากเดินทางบนเที่ยวบินอันยาวนานจากรุงโซล

HIS กำลังร่วมงานอยู่กับกลุ่มท้องถิ่นในจีน, ฟิลิปปินส์, ไทย และเวียดนาม เพื่อทำให้สังคมตระหนักรู้ถึงการค้าเนื้อสุนัขมากยิ่งขึ้น

“แต่เกาหลีใต้ไม่เหมือนที่อื่นเพราะที่นี่มีการเลี้ยงสุนัขเพื่อป้อนความต้องการจริงๆ” โอ’มีรา กล่าว ขณะที่ประเทศอื่นๆ จะเน้นจับพวกสุนัขจรจัดเป็นอาหาร

เธอกล่าวว่า ในทุกๆ ปี จะมีสุนัขถูกบริโภคระหว่าง 1.2-2 ล้านตัวในเกาหลีใต้ โดยถูกส่งมาจากฟาร์มต่างๆ “ไม่ต่ำกว่าหลายร้อยแห่ง”

โอ’มีรา กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่สุนัขจากเกาหลีใต้ที่เตรียมไว้ให้สำหรับการบริโภคของมนุษย์ได้รับการช่วยชีวิตและถูกส่งมายังสหรัฐฯ ที่ซึ่งมีความต้องการรับเลี้ยงสุนัขและแมวมาจากเครือข่ายของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์และสถานสงเคราะห์ต่างๆ ในทันที

สุนัขเกาหลีใต้ทั้ง 23 ตัวนี้ ซึ่งกลุ่มที่สองมีกำหนดมาถึงในวันนี้ (6) จะผ่านการตรวจร่างกายจากสัตว์แพทย์ในเมืองอเล็กซานเดรีย ก่อนที่จะถูกแบ่งสรรไปในกลุ่มสถานสงเคราะห์อื่นๆ 5 แห่งในรัฐต่างๆ ของเขตมิดแอตแลนติคเพื่อนำไปรับเลี้ยง

“ด้วยการช่วยเหลือสุนัขทั้ง 23 ตัวนี้ เราจะช่วยชีวิตสุนัขตัวอื่นๆ ได้อีกมากมายในเกาหลีใต้” ด้วยการทำให้สังคมตระหนักรู้ถึงการค้าเนื้อสุนัขเพิ่มขึ้น เมแกน เว็บบ์ ผู้อำนวยการบริหารของสันนิบาตสงเคราะห์สัตว์แห่งอเล็กซานเดรีย ซึ่งหาบ้านให้กับสุนับราว 1,000 ตัวต่อปี กล่าว

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…

 

ศาลอิสราเอลสั่งจำคุกตลอดชีวิตชายผู้เป็นชนวนสงครามกาซา
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 7 ม.ค. 2558 04:35


ฮัสเซม คาวาสเมห์ (ภาพ: REUTERS)
ศาลอิสราเอลตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตชายผู้วางแผนอุ้มฆ่าวัยรุ่นชาวอิสราเอล 3 คน ซึ่งเป็นชนวนเหตุทำให้เกิดสงคราม 50 วันในกาซา...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลทหารแห่งประเทศอิสราเอลมีคำพิพากษาตัดสินในวันอังคาร (6 ม.ค.) ให้จำคุกตลอดชีวิตนายฮัสเซม คาวาสเมห์ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ 'ฮามาส' ในฉนวนกาซา หลังจากพบว่ามีความผิดจริงฐานวางแผนอุ้มฆ่าวัยรุ่นชาวอิสราเอล 3 คนในเขตเวสต์แบงก์เมื่อเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นชนวนเหตุให้เกิดสงครามกาซา 50 วัน ในเดือนต่อมา
ทั้งนี้ นายคาวาสเมห์ถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนส.ค. และถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม ขณะที่สมาชิกปฏิบัติการของกลุ่มฮามาสอีก 2 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่า เป็นผู้ลงมือสังหารวัยรุ่นทั้ง 3 คน หลังจากลักพาตัวพวกเขาจากถนนใกล้ชุมชนชาวยิว เสียชีวิตไปแล้วเมื่อเดือนก.ย. ในการยิงปืนปะทะกับทหารอิสราเอล ณ ที่ซ่อนของพวกเขาเองในเขตเวสต์แบงก์
ในเดือนก.ค. หลังจากการตายของวัยรุ่นชาวยิวทั้ง 3 คนไม่ถึง 3 สัปดาห์ ก็เกิดเหตุอุ้มฆ่าเผาวัยรุ่นชาวปาเลสไตน์ ในนครเยรูซาเลม โดยมีผู้ต้องสงสัยเป็นชาวยิว 3 คน ทำให้เชื่อว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อแก้แค้นกรณีอุ้มฆ่า 3 วัยรุ่นชาวยิว
เหตุการณ์นี้และการไล่จับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มฮามาส ของอิสราเอล เพื่อหาตัวคนร้ายกรณีกรณีอุ้มฆ่า 3 วัยรุ่นชาวยิว ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างชาวปาเลสไตน์กับตำรวจอิสราเอลในนครเยรูซาเลมตะวันออก ขณะที่กลุ่มฮามาสยิงจรวดจากฉนวนกาซาเข้าใส่ดินแดนอิสราเอลหลายระลอก ทำให้อิสราเอลประกาศใช้มาตรการทางทหารในกาซา เพื่อให้ฮามาสหยุดยิงจรวด กลายเป็นสงครามกาซา
สงครามครั้งนี้กินระยะเวลา 50 วัน จากเดือนก.ค.-ส.ค. และจากข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 2,100 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ขณะที่อิสราเอลเสียทหาร 67 นาย และพลเรือนอีก 6 คน
ศาลอิสราเอลสั่งจำคุกตลอดชีวิตชายผู้เป็นชนวนสงครามกาซา - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

พบร่างเหยื่อเที่ยวบิน QZ8501 แล้ว 39คน ระดมเรือ-ฮ.หากล่องดำ
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 7 ม.ค. 2558 01:10



พบร่างเหยื่อเที่ยวบิน QZ8501 เพิ่มอีก 2 รวม 39 คน พิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว 16 คนส่งมอบให้ญาติ ทีมค้นหาระดมเรือกว่า 40 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 20 ลำ เร่งหาตัวเครื่องบินและกล่องดำ ท่ามกลางเมฆปกคลุม ฝนตก คลื่นสูงกว่า 3 เมตร...



เมื่อวันที่ 6 ม.ค. เฟซบุ๊กสายการบินแอร์เอเชีย ประเทศไทย ได้ออกคำชี้แจงฉบับที่ 13 ถึงความคืบหน้าล่าสุดของปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเที่ยวบิน QZ8501 ของสายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย ย่างเข้าสู่วันที่ 10 ณ เวลา 20:00 น. ตามเวลามาตรฐานท้องถิ่น เมืองสุราบายา ประเทศอินโดนีเซีย ว่า หน่วยค้นหาและกู้ภัยแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย หรือ BASARNAS ยังคงมุ่งเน้นไปยังพื้นที่บริเวณที่คาดว่าจะเป็นจุดที่ตัวเครื่องบินตั้งอยู่ ด้วยเรือกว่า 40 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 20 ลำ โดยสำรวจพื้นที่โดยรอบมุ่งเน้นไปที่การค้นหาลำตัวของเครื่องบินควบคู่ไปกับการค้นหากล่องดำของเครื่องบิน

สำหรับวันนี้( 6 ม.ค.) สภาพอากาศยังคงมีเมฆปกคลุม ฝนตกเล็กน้อย และมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อย่างไรก็ตาม กระแสน้ำใต้ทะเลยังคงมีความเร็ว 4-5 น๊อต ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการมองเห็นของนักประดาน้ำในการระบุพิกัดของวัตถุต่างๆใต้พื้นทะเล


ทั้งนี้ นายพล Moeldoko ผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย เดินทางไปยังฐานทัพในเมืองพังกาลันบัน เมื่อช่วงบ่าย เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงานค้นหาและเคลื่อนย้ายร่างของผู้โดยสารที่มีในวันนี้( 6 ม.ค.)โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หน่วยงาน BASARNAS ยืนยันพบร่างผู้โดยสารเพิ่มอีก 2 คน จากพื้นที่การค้นหาดังกล่าว โดยร่างของผู้โดยสารทั้ง 2 คน ยังคงอยู่ที่เมืองพังกาลันบัน เพื่อรอการเคลื่อนย้ายไปยังเมืองสุราบายา ก่อนทำการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป

ขณะที่หน่วยงานตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้ประสบภัยพิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย หรือ DVI POLRI ประกาศยืนยันรายชื่อของผู้โดยสารของเที่ยวบิน QZ8501 เพิ่มอีก 3 คน หลังตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ Indra Yulianto (เพศชาย) Hindarto Halim (เพศชาย) และ Jou Brian Youvito (เพศชาย) สายการบินแอร์เอเชียอินโดนีเซียได้ส่งมอบร่างของผู้โดยสารให้กับครอบครัวที่ โรงพยาบาลบายังคารา เมืองสุราบายา เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ หน่วยงาน BASARNAS ยืนยันพบร่างของผู้โดยสารทั้งสิ้น 39 คน โดยหน่วยงาน DVI POLRI ได้ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของผู้โดยสารแล้วเสร็จทั้งหมด 16 คน ส่วนอีก 23 คนยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ.

พบร่างเหยื่อเที่ยวบิน QZ8501 แล้ว 39คน ระดมเรือ-ฮ.หากล่องดำ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เชียงใหม่ ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว ครบทั้ง 25 อำเภอ
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 6 ม.ค. 2558 19:25



จังหวัดเชียงใหม่ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาวครบแล้วทั้ง 25 อำเภอ หลังอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส นานติดต่อกันเกิน 3 วัน จนท.เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนบนดอยสูง...

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 ม.ค.57 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นางภัชธนิตรา สดุดี หัวหน้า ปภ.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวว่า ขณะนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวของจังหวัดเชียงใหม่ ครบแล้วทั้ง 25 อำเภอแล้ว หลังจากที่ได้รับรายงานจากนายอำเภอ ทั้ง 25 อำเภอ พบว่าทุกอำเภอมีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียสนานติดต่อกันเกิน 3 วัน แต่ก็ไม่ได้ประกาศครบทุกตำบล เนื่องจากบางอำเภอมีบริบทพื้นที่ไม่เหมือนกัน

หัวหน้า ปภ.เชียงใหม่ เปิดเผยต่อว่า ยกตัวอย่างเช่นอำเภอเมืองพื้นราบอุณหภูมิอาจจะสูงกว่า 15 องศาฯ แต่บ้านแม้วดอยปุย กลับมีอุณภูมิต่ำกว่า 15 องศาฯ เป็นต้น ซึ่งหลังจากนี้ ทาง ปภ.จังหวัดเชียงใหม่ จะได้ดำเนินการตามแผนราชการในการนำเงินสำรองฉุกเฉิน จำนวน 1 ล้านบาท มาจัดซื้อเครื่องนุ่งห่มกันหนาว มาแจกจ่ายให้ราษฎร ผู้ประสบภัยหนาวอย่างเร่งด่วน ซึ่งที่ผ่านมาจากการสำรวจมีความต้องการผ้าห่ม อุปกรณ์กันหนาวทั้ง 25 อำเภอ มีประชาชนมีความต้องการกว่า 3 แสนชิ้น และขณะนี้ในบางพื้นที่เริ่มหน่วยงานราชการและภาคเอกชนได้เข้าไปให้การช่วยเหลือไปบ้างแล้ว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังพบว่ายังมีประชาชนที่ประสบภัยหนาวบางส่วนที่ตกสำรวจ เนื่องจากมีพื้นที่อยู่ห่างไกล ทางจังหวัดจะประสานกำนันผู้ใหญ่บ้านและองค์การบริหารส่วนปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งเข้าไปให้ความช่วยกันต่อไป

เชียงใหม่ ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว ครบทั้ง 25 อำเภอ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ตัดสินแล้วคดี'ฟันปากหมา' ประเดิมพรบ.ทารุณสัตว์ จำคุก 1ปี
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 7 ม.ค. 2558 06:01



ศาลตัดสินแล้ว คดีคนฟันปากหมาที่หนองคาย ให้ลงโทษจำคุก1ปี ปรับ2พันบาท แต่ให้รอลงอาญาไว้1ปี ถือเป็นคดีแรกหลังพ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์บังคับใช้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ที่คนทำร้ายสัตว์ถูกส่งฟ้องศาล และถูกตัดสินให้มีความผิด...

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 ม.ค.58 พ.ต.ท.นพดล ผลพัฒนา สวป.สภ.ท่าบ่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ไปเยี่ยม สุนัขเพศผู้ ชื่อ ก้านกล้วย อายุ 1 ปีเศษ ของนายสายยนต์ คำภูแก้ว อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 6 บ้านนาข่า ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย หลังจากเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา นางจอมศรี คำภูแก้ว ภรรยาของนายสายยนต์ ได้เข้าแจ้งความ ว่า สุนัขก้านกล้วย ถูกนายคำดี โคตรถา อายุ 50 ปี อยู่หมู่บ้านเดียวกัน และยังเป็นญาติ ใช้มีดฟันใบหน้าด้านขวาสุนัขก้านกล้วยจนได้รับบาดเจ็บ

ทั้งนี้ นางจอมศรีได้นำสุนัขไปรักษาที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอท่าบ่อ ต้องเย็บถึง 3 ชั้น มากกว่า 100 เข็ม และเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ท่าบ่อ ได้เรียกตัวนายคำดี โคตรถา มาสอบปากคำ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ที่ผ่านการพิจารณาของ สนช.และมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.57 ที่ผ่านมา


โดยนายคำดี ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า สุนัขจะวิ่งไปกัดไก่ของตน จึงขว้างมีดเพื่อไล่สุนัข ไม่หวังจะฆ่าให้ตาย และภายหลังทั้งสองฝ่ายต่างไม่อยากเป็นคดีความกัน แต่คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ใหม่ ที่เป็นความอาญา มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท โดยในวันนี้ พ.ต.ท.กิตติธัช สีหาชัย พงส.ชำนาญการพิเศษ สภ.ท่าบ่อ ได้นำสำนวนส่งให้กับอัยการและศาลจังหวัดหนองคายพิจารณาแล้ว

ด้านนายสายยนต์ คำภูแก้ว เจ้าของสุนัข กล่าวว่า สุนัขตัวนี้ได้ขอจากหลานสาวที่ อ.บ้านผือ นำมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นลูกหมา จนตอนนี้อายุปีเศษ ชื่อเจ้าก้านกล้วย นิสัยซุกซน ขี้อ้อน ชอบหยอก แต่ไม่เคยกัดไก่ หรือสัตว์เลี้ยงของเพื่อนบ้านแต่อย่างใด พอเจ้าก้านกล้วยถูกทำร้าย ก็รู้สึกสงสารเป็นอย่างมากเพราะมันร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด จนถึงตอนนี้แผลเริ่มดีขึ้น และสัตวแพทย์นัดไปตรวจดูอาการในวันที่ 7 ม.ค.นี้

"ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นคดีความใหญ่โต อยากให้เรื่องจบๆ กันไป เพราะไหนๆ ก็เป็นญาติกัน เกรงว่าจะมองหน้ากันไม่ติด แต่เมื่อตำรวจยืนยันว่าต้องดำเนินคดีตามกฎหมายก็ต้องเป็นไปตามนั้น" นายสายยนต์ กล่าว

ขณะที่ พ.ต.ท.นพดล ผลพัฒนา สวป.สภ.ท่าบ่อ กล่าวว่า สุนัขวันนี้อาการดีขึ้น เริ่มร่าเริง และหยอกล้อกับเจ้าของมากขึ้น ซึ่งคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างของผู้ที่กระทำการทารุณกรรมหรือทำร้ายสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าเป็นประเภทไหนก็ตาม หากมีผู้พบเห็นแล้วแจ้งความกับตำรวจ ก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. ศาลจังหวัดหนองคาย ได้พิจารณาตัดสินความผิดของนายคำดี โคตรถา จำเลยในคดีนี้แล้ว โดยให้จำคุก 1 ปี ปรับ 2,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี.

ตัดสินแล้วคดี'ฟันปากหมา' ประเดิมพรบ.ทารุณสัตว์ จำคุก 1ปี - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ทีมสอบสวนมั่นใจใช้แก๊สคลอรีนโจมตีหมู่บ้านในซีเรีย



ทีมสอบสวนมั่นใจมีการใช้แก๊สคลอรีนโจมตีหมู้บ่านที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกบฎในซีเรีย

วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 09:33 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากองค์การสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐเมื่อวันที่ 7ม.ค.ว่า ทีมสอบสวนอาวุธเคมีได้ข้อสรุปด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า มีการใช้แก๊สคลอรีนเป็นอาวุธโจมตี

หมู่บ้าน3แห่งที่ถูกควบคุมโดยฝ่ายกบฎในซีเรียเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลกระทบต่อประชาชนระหว่าง350ถึง 500 คนและเสียชีวิต 13ราย

รายงานชิ้นที่สามโดยทีมค้นหาความจริงจากองค์การห้ามอาวุธเคมี(โอพีซีดับเบิลยู)ยังไม่ได้ระบุว่าฝ่ายใดต้องรับผิดชอบ แต่จากการสอบถามประชาชน 32คนจากทั้งหมด 37คนบอกว่าพวกเขาเห็นหรือได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือหมู่บ้านในช่วงเวลาที่มีการโจมตีด้วยระเบิดถังน้ำมันที่ข้างในบรรจุสารเคมีพิษ นอกจากนี้ มีถึง 29คน ได้กลิ่นแก๊สอย่างรุนแรงหลังจากระเบิดกระแทกกับพื้น ซึ่งน่าจะเป็นแก๊สคลอรีน

อย่างไรก็ตาม แก๊สคลอรีน ไม่ได้ถูกจัดให้เป็นอาวุธเคมี และ 8ชาติสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งสหรัฐ ระบุว่า มติปี2556แจ้งว่า การใช้อาวุธเคมีถือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพของนานาชาติ ซึ่งสมควรต้องถูกประณาม ก่อนหน้านี้ นายเฟย์ซาล เม็กดัด รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศซีเรียบอกว่า รัฐบาลซีเรียไม่เคยใช้อาวุธเคมีหรือแก๊สคลอรีนในระหว่างสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมา4ปี

ทีมสอบสวนมั่นใจใช้แก๊สคลอรีนโจมตีหมู่บ้านในซีเรีย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

หิมะตกหนักหลายพื้นที่ของตุรกี



หิมะตกหนักปกคลุมหลายพื้นที่ของประเทศตุรกี ทำให้เส้นทางการจราจรติดขัดและต้องปิดสถานศึกษา

วันอังคาร 6 มกราคม 2558 เวลา 23:39 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอังการาประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 6ม.ค.ว่าสำนักข่าวโดกันแจ้งว่าเกิดหิมะตกหนักปกคลุมหลายพื้นที่ของประเทศตุรกีเช่น ที่จังหวัดคาบาบักรถโรงเรียนคันหนึ่งแล่นตกถนนเนื่องจากสภาพถนนลื่นจากหิมะปกคลุมทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต1ศพ และบาดเจ็บอีก 18คน

หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักยังทำให้เส้นทางการจราจรติดขัดในหลายพื้นที่และยังสร้างปัญหาการจ่ายกระแสไฟฟ้าซึ่งบางจุดนั้นมีปัญหาไฟฟ้าขัดข้องโดยเฉพาะในพื้นที่ทางตอนเหนือ

ด้านสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์สสายการบินแห่งชาติของตุรกีได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศและเที่ยวบินในประเทศ44เที่ยวซึ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากสนามบินเมืองอิสตันบูลรวมทั้งในบางเมือง เช่นกรุงอังการา

ส่วนในเมืองใหญ่เช่นอิสตันบูลนั้น ทางการได้เตรียมมาตรการป้องกันซึ่งอาจหมายถึงการสั่งปิดสถานศึกษาเพื่อป้องกันไว้ก่อนแต่ดูเหมือนว่า หิมะจะตกในเมืองไม่มากนักแต่เรือเฟอรีข้ามช่องแคบบอสฟอรัสได้ยกเลิกการเดินเรือ

สถานศึกษาในกรุงอังการาในบางพื้นที่นั้นทางการได้สั่งปิดไปแล้วเพราะมีหิมะตกหนัก วัดได้15-20ซม.

มีรายงานอุบัติเหตุอันเกิดจากสภาพอากาศทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไปหลายสิบคนการจราจรมีปัญหาในบางเส้นทางเช่น เส้นทางหลวง อิสตันบูล-อิซเมียร์เป็นต้น รถยนต์หลายร้อยคันเคลื่อนไปไหนไม่ได้เพราะหิมะทางการได้แจ้งเตือนไว้หลายวันแล้วว่าคลื่นอากาศหนาวเย็นอาจพัดผ่านและอุณหภูมิอาจลดลงถึงระดับลบ 20องศาเซลเซียสในเมืองอิสตันบูล


หิมะตกหนักหลายพื้นที่ของตุรกี | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

รถไฟชนกันที่บราซิลเจ็บ 158 คน



เกิดเหตุรถไฟสองขบวนชนกัน นอกเมืองริโอ เดอ จาเนโร ของบราซิล ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 158 คน

วันพุธ 7 มกราคม 2558 เวลา 00:07 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองริโอเดอ จาเนโร ประเทศบราซิลเมื่อวันที่ 7ม.ค.ว่านายคาร์ลอส โอโซริโอหัวหน้าฝ่ายคมนาคมของรัฐริโอเดอ จาเนโร แถลงว่าเกิดอุบัติเหตุรถไฟสองขบวนชนกันเมื่อเวลา 20.20น.ของคืนวันจันทร์ที่5ม.ค.ที่ผ่านมาเมื่อรถไฟขบวนหนึ่งได้หยุดรถที่สถานีแล้วก็มีรถไฟอีกขบวนหนึ่งแล่นเข้ามาชนด้านหลังเหตุเกิดที่เมืองเมสกิตาอยู่นอกเมืองริโอ เดอ จาเนโรห่างออกไป 34กม.

ซูเปอร์เวียคอมมิวเตอร์ เซอร์วิสขบวนรถไฟสายที่เกิดเหตุนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากประชาชนผู้ใช้บริการว่าอยู่ในสภาพทรุดโทรมไม่มีแม้แต่เครื่องปรับอากาศทั้งที่สภาพภูมิประเทศของบราซิลในพื้นที่ให้บริการนั้นมีสภาพอากาศร้อนชื้น

หัวหน้าฝ่ายคมนาคมของรัฐริโอเดอ จาเนโร ยืนยันว่า ซูเปอร์เวียคอมมิวเตอร์ เซอร์วิสจะต้องถูกลงโทษปรับแต่ไม่ได้ระบุว่าจำนวนเท่าใดส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 158คนนั้นส่วนใหญ่บาดเจ็บเล็กน้อยแค่บาดแผล และรอยถลอกเท่านั้นแต่ก็มี 7คนที่ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแต่เขาก็ยอมรับว่า ซูเปอร์เวียคอมมิวเตอร์ เซอร์วิสจำเป็นที่จะต้องยกระดับและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการที่ดีขึ้น

รถไฟชนกันที่บราซิลเจ็บ 158 คน | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์