ติดตามสถานะการณ์

คำแปลของหัวข้อข่าวภาษาอังกฤษน่ะครับ ISIS สู้ลักลอบนำเข้าสู่ยุโรป 'ปลอมตัวเป็นผู้ลี้ภัย



Chalee Na Roied

นี่คือความน่ากลัวของ สงครามในยุคนี้นะครับ บางทีผู้อพยพกับ กลุ่มติดอาวุธก็แยกจากกันไม่ออก ก็ได้แต่"หวังว่า"สิ่งที่เกิดขึ้นในยุโรป คงจะไม่เหมือนเหตุการณ์ในบ้านเรา กรณีผู้อพยพชาวโรฮิงยานะครับ
คงต้องฝากไปถึงคนไทยบางกลุ่ม นักข่าวบางคนที่นำเสนอ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และกลายเป็นเครื่องมือ ของต่างชาติโดยไม่รู้ตัว
รู้และเข้าใจครับว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลักมนุษยธรรม แต่เราก็ต้องชั่งน้ำหนักดูครับว่า ระหว่าง "ความมั่นคงของประเทศ กับหลักของมนุษยธรรม" ที่มีเส้นบางๆกันอยู่นั้น เราจะเลือกอะไร?
และเกมส์นี้หวังว่ารัฐบาลไทย และชาติในอาเซียน จะมองออกนะครับว่า ชาติมหาอำนาจต้องการให้ ภูมิภาคนี้เดินไปสู่จุดใด?..
ISIS smuggling fighters into Europe ‘disguised as refugees’ | EUTimes.net

 

ชำแหละ 45 “บิ๊ก ขรก.-นักการเมืองท้องถิ่น”ก่อนถูก“บิ๊กตู่” ลงดาบพักราชการ พันคดีดังเพียบ จัดซื้อเครื่องเล่น-ภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้าน-นำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษี-ประกาศภัยพิบัติปลอม-ถูก ป.ป.ช.จับสดเรียกรับผลประโยชน์ วันจันทร์ ที่ 18 พฤษภาคม 2558 เวลา 20:00 น



“รายชื่อของเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 45 ราย เป็นส่วนหนึ่งของรายชื่อข้าราชการที่อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตที่ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ส่งให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาในล็อตแรก ทั้งสิ้น 198 รายชื่อ การโยกย้ายข้าราชการในส่วนนี้ แบ่งได้สองกลุ่ม คือกลุ่มที่เจ้ากระทรวงสามารถดำเนินการได้เอง และอีกส่วนไม่สามารถดำเนินการได้เอง ต้องอาศัยอำนาจหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 ซึ่งส่วนนี้จะมีเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้”

เป็นความเห็นล่าสุดของ “พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน ศอตช. ต่อกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช. ใช้คำสั่งที่ 16/2558 เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว ตามมาตรา 44

ส่งผลให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ นักการเมือง และข้าราชการท้องถิ่น รวมจำนวน 45 ราย ต้องถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่และโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่น

(อ่านประกอบ : นายกฯใช้ ม.44 เชือดยกลอต"บิ๊กขรก. ล้าง ก.ท่องเที่ยว-นักการเมืองท้องถิ่น 45 ราย )

เมื่อสังเกตรายชื่อทั้ง 45 ราย พบว่า เกือบทั้งหมดที่เข้าไปพัวพันกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการกระทำความผิดของภาครัฐ ตามที่ถูกสื่อมวลชน และองค์กรป้องกันและปราบปรามการทุจริต ตรวจสอบอยู่

สำนักข่าวอิศรา สำนักข่าวอิศรา จำแนกรายชื่อ 45 รายที่เข้าไปพัวพันในกรณีต่าง ๆ ไว้ แบ่งได้ดังนี้

กลุ่ม 1 ข้าราชการ 24 ราย แบ่งเป็น

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 4 ราย

1.นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวง
2.ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพ เกษตรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว
3.นายพัฒนา ชาติกฤติบวร อธิบดีกรมพลศึกษา
4.นายนิวัฒน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา

-เกี่ยวพันกรณีโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายและเครื่องเล่นนันทนาการ

เกิดจากสำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายฯ กับกรมการท่องเที่ยและกรมพลศึกษา ทำสัญญากับบริษัทเอกชนที่ขายสินค้าให้ในราคาแพงกว่าต้นทุนนับสิบเท่า ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ระบุว่า งบประมาณในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ในกรณีนี้ มีที่มาจากงบแปรญัตติของ ส.ส. ที่ดึงงบมาลงที่กระทรวง และกรมดังกล่าว

โดยเฉพาะ ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพ ที่เป็นผู้ลงลายมือชื่อในการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับเอกชน อย่างน้อย 3 สัญญา

ล่าสุด นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวฯ และนายสุวัตร (ขณะนี้ถูกคำสั่ง คสช. พักราชการแล้ว) ได้ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่า ให้ความสำคัญและตรวจสอบเรื่องนี้มาโดยตลอด และมีผลสรุปการตรวจสอบออกมาเป็นระยะแต่ยังไม่ชัดเจนจึงตีกลับไป ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้สอบถามถึงผลการตรวจสอบบ่อยครั้งเช่นกัน

(อ่านประกอบ : "บิ๊กตู่"จี้ถามผลสอบเครื่องเล่นบ่อย! "กอบกาญจน์"ขอ2สัปดาห์เคลียร์หลักฐานให้ชัด, "กอบกาญจน์"ปูดที่มางบแปรญัตติ 2กรมท่องเที่ยว-ใบสั่งส.ส.ซื้อเครื่องเล่นลงพื้นที่)

กระทรวงการคลัง 6 ราย แยกเป็น 2 ส่วน คือ

-เกี่ยวพันกรณีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาท มีจำนวน 4 ราย ได้แก่

1.นายศุภกิจ ริยะการ (นายสิริพงษ์ รยะการธีโชติ) สรรพากรพื้นที่นราธิวาส (ปัจจุบันถูกไล่ออกจากราชการแล้ว)

ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นสรรพากรพื้นที่ 22 บางรัก ที่ทำให้เกิดความเสียหายรวมมูลค่า 2.8 พันล้านบาท และถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนคดีมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ 40 ล้านบาท

2.นายพายุ สุขสดเขียว สรรพากรพื้นที่ปัตตานี

ขณะนั้นเป็นสรรพากรพื้นที่สมุทรปราการที่ทำให้เกิดความเสียหายรวมมูลค่า 1,135 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่นี้ได้คืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้บริษัทกลุ่มนายวีระยุทธ แซ่หลก (ผู้ต้องหาคดีคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม) อย่างน้อย 5 บริษัท รวม 650.8 ล้านบาท ต่อมาเป็นผู้ทำหนังสือถึงหัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า จ.สมุทรปราการ ขอให้ระงับการจดทะเบียนเลิกบริษัทดังกล่าวในเวลาต่อมาอีกด้วย

3.นายสาธิต รังคศิริ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง

ขณะนั้นเป็นอธิบดีกรมสรรพากร ในยุคที่เกิดกรณีการทุจริตคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม และเคยถูกนายศุภกิจ อ้างในหนังสือเวียนระบุว่า นายสาธิต อนุมัติให้คืนภาษีได้ทันที เมื่อผลการตรวจไม่พบประเด็นความผิด โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 6 เดือน ตามที่คณะผู้ตรวจราชการสำนักมาตรฐานการกำกับและตรวจสอบภาษี ให้คำแนะนำแก้ไขปัญหางานปฏิบัติงาน และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ชะลอการคืนภาษีช่วง 6 เดือนแรกไว้ก่อน

4.นายมานิตย์ พลรัตน์ สรรพากรอำเภอ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาเมืองตาก จ.ตาก

ขณะนั้นเป็นนักตรวจสอบภาษีชำนาญการพิเศษ ซึ่งปรากฏชื่อเป็นผู้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักบริการข้อมูลธุรกิจ 4 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอให้ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี 30 บริษัท

ส่วนนายป้อมเพชร วิทยารักษ์ ผู้เชี่ยวชาญประจำภาค 7 อดีตเคยดำรงตำแหน่งนักวิชาการสรรพากร สำนักงานสรรพากรภาค 4-7 ไม่มีข้อมูลระบุว่า เกี่ยวข้องกับกรณีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่

(อ่านประกอบ : เปิดพฤติกรรม 4 ‘ขรก.-บิ๊ก’พันคดี 4.3 พันล. สังเวยคมดาบ“ประยุทธ์”-ไร้ชื่อ 13 คน, “ศุภกิจ”ซี9สรรพากรคดีโกงภาษีไม่รอด! ก.คลัง สั่งลงโทษไล่ออก ขรก.แล้ว ,ขมวดปมคืนภาษีฉาว 4 พันล.“จุดเริ่มต้น-เด้งอธิบดี”ก่อนถึงมืออัยการ-ป.ป.ช. , “ศุภกิจ”ซี9สรรพากรคดีโกงภาษีไม่รอด! ก.คลัง สั่งลงโทษไล่ออก ขรก.แล้ว , พลิกปูมข่าวเจาะ“โกงแวต 4 พันล.-ทรัพย์สินแซม” ก่อนคว้าช่อสะอาด )

-เกี่ยวพันกรณีนำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษี

1.นายราฆพ ศรีศุภอรรถ ผู้ตรวจราชการกระทรวง

อดีตอธิบดีกรมศุลกากร ถูกกล่าวหาในช่วงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม กระทรวงการคลัง โดยกรณีนี้ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน กรณีใช้ตำแหน่งเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศต่ำกว่าความเป็นจริง

และมีพฤติการณ์ทุจริตปรับราคารถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีการสำแดงราคารถยนต์ที่นำเข้าต่ำกว่าความเป็นจริง ทำให้ผู้นำเข้ารถยนต์เสียภาษีอากรหรือค่าธรรมเนียน้อยกว่าที่ต้องชำระ
ล่าสุด นายภักดี ระบุว่า ป.ป.ช. ได้รวบรวมเจ้าหน้าที่จากหลายสำนัก เข้ารวบรวมรายละเอียดอย่างเร่งด่วนแล้ว และพบว่ามีเจ้าหน้าที่กรมศุลากรเข้าเกี่ยวข้องจำนวนหลายราย

(อ่านประกอบ :ป.ป.ช.เปิดชื่อทางการ "ราฆพ-ชัยพงศ์" คดีใช้อำนาจเรียกเงินแลกนำเข้ารถหรู ,เส้นทางชีวิต“ราฆพ”ก่อนปรากฎชื่อในบัญชีสอบคดีภาษีรถหรู"ป.ป.ช." พบอีก!!“วี.เจ.พี.ออโต้ฯ”ส่อปลอมลายเซ็น“คนตาย”นำรถผ่านด่านแหลมฉบัง แกะรอย"กลวิธี"เครือข่ายบ."ร้าง”นำเข้ารถหรู 53 คัน-สลับชื่อผู้รับมอบอุตลุด )

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2 ราย

1.นายปัญญา ศิลปะ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา
2.นายอุดร ชมาฤกษ์ เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี


กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1 ราย

1.นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง


กระทรวงมหาดไทย 10 ราย

1.นายแก่นเพชร ช่วงรังษี รองปลัดกระทรวง
2.นายกิตติภพ ตราชูวณิช ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง
3.นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
4.นายเวชสุวรรณ อาจวิชัย หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดมุกดาหาร
5.นายนิรันดร์บุญสิงห์ หัวหน้าสํานักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสุรินทร์
6.นายพรต ภูภักดิ์ นายอําเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม
7.นายภัลลพ พิลา นายอําเภอเมืองสระบุรีจังหวัดสระบุรี
8.นายสมภพ ร่วมญาติ นายอําเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี
9.นายอรรณพ อกอุ่น นายอําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
10.นายวีรชาติผ่องโชติ นายอําเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี

-รายชื่อข้าราชการทั้ง 3 กระทรวงข้างต้น เกี่ยวพันกับกรณีการอนุมัติใช้จ่ายงบภัยพิบัติ (จัดซื้อยาฆ่าแมลง)

โดยกรณีนี้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งผลการตรวจสอบกรณีนักการเมืองท้องถิ่น-ข้าราชการท้องถิ่น อนุมัติใช้จ่ายงบภัยพิบัติ (จัดซื้อปุ๋ย-ยาฆ่าแมลง) ทั้งที่ไม่มีภัยพิบัติเกิดขึ้นจริง ให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริง ซึ่ง ป.ป.ช. มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวน ร่วมกับ สตง. แล้ว ซึ่งพบว่ามีการเบิกจ่ายงบภัยพิบัติผิดปกติในหลายจังหวัด

โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี ที่ สตง. ตรวจสอบพบว่า อ.อุดมเดช ได้เบิกจ่ายงบประมาณในส่วนนี้ไปกว่า 65 ล้านบาท รวมไปถึงอำเภออื่น ๆ ครั้งละประมาณ 50 ล้านบาท โดยเตรียมดำเนินการเรียกเงินในส่วนนี้คืนแก่แผ่นดินแล้ว

(อ่านประกอบ : จ่อฟันยกจ.อุบลฯ!สตง.ชี้ประกาศภัยพิบัติ"เก๊"ลามทุกอ. ไม่ใช่แค่ "เดชอุดม", “รองผู้ว่าฯ-นอภ.”ระทึก! ป.ป.ช.จ่อส่งชื่อขรก.พันซื้อปุ๋ยแพงให้คสช.เชือด)

กลุ่ม 2 หน่วยงานของรัฐอื่น ๆ 1 ราย แบ่งเป็น

สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการวิทยุและโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

1.นายประเสริฐ อภิปุญญา กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน กสทช.

-เกี่ยวพันกรณีปลอมแปลงเอกสาร เรื่องการเบิกจ่ายเงิน

สมัยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กสทช. ถูกกล่าวหาว่า ดำเนินการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนเพิ่มเติม (โบนัส) แก่เจ้าหน้าที่ กสทช. รวมถึงปลอมแปลงเอกสาร อย่างไรก็ดี นายประเสริฐ อ้างว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด และสั่งการให้คืนเงินแก่ กสทช. เรียบร้อยแล้ว

กลุ่มที่ 3 นายกและรองนายกองค์การบริหารส่วนตําบล จํานวน 14 ราย

(1) นายชาติ กันล้อม นายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าตําหนัก อําเภอนครชัยศรีจังหวัดนครปฐม
(2) นายเดชาวุธ เสนยะ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลน้ำตก อําเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
(3) นายสนธยา มีสถิตย์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลลําเลียง อําเภอกระบุรี จังหวัดระนอง
(4) นายมนตรี ถ้ำเล็บมือ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลหนองเดิ่น อําเภอบุ่งคล้าจังหวัดบึงกาฬ
(5) นายสริภพ ภูนิสัย นายกองค์การบริหารส่วนตําบลทองเอน อําเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
(6) นายวรวุฒิ ยิ้มจันทร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตําบลทองเอน อําเภออินทร์บุรีจังหวัดสิงห์บุรี
(7) นายประทีป ยั่งยืน นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางเมือง อําเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
(8) นายภัทรพล จำปารัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบางแก้ว อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
(9) นายทรงชัย นกขมิ้น นายกองค์การบริหารส่วนตําบลราชาเทวะ อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
(10) นายมนตรีบุญสุยา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลแกใหญ่ อําเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
(11) นายสมภาร เคนหาญ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลกุดจิก อําเภอเมืองหนองบัวลําภู จังหวัดหนองบัวลําภู
(12) นายทนงทรัพย์ถนอมจิตต์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลจิกเทิง อําเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี
(13) นายสุวรรณ เมฆบุตร นายกองค์การบริหารส่วนตําบลคันไร่อําเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
(14) นายวงศ์พิสุทธิ์ดํารงค์สิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลช่องเม็ก อําเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี

กลุ่มที่ 4 นายกเทศมนตรี จำนวน 3 ราย

(1) นางสาวสุนีปูนกลาง นายกเทศมนตรีตําบลใหม่อําเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา
(2) นายปัญญา เขียวธง นายกเทศมนตรีตําบลต้นธง อําเภอเมืองลําพูน จังหวัดลําพูน
(3) นายรัชนาท ภูผินผา นายกเทศมนตรีตําบลทุ่งฝน อําเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี

และกลุ่มที่ 5 ปลัดและรองปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 3 ราย

(1) นางสาวมณีรัตน์ดวงกุณา ปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลหนองเดิ่น อําเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ
(2) นายฟ้าใส เสนาธรรม (นายชยพล เสนาธรรม) ปลัดเทศบาลตําบลบ้านแปะ อําเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
(3) นายนพคุณ พรหมพุทธา รองปลัดเทศบาลตําบลต้นธง อําเภอเมืองลําพูน จังหวัดลําพูน

-รายชื่อนักการเมือง-ข้าราชการท้องถิ่นข้างต้น ล้วนเกี่ยวพันกับกรณีการจัดซื้อจัดจ้างในองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น บางรายเกี่ยวพันกับการเรียกรับเงินเพื่อหาผลประโยชน์

กรณีของนายเดชาวุธ ที่เพิ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. สนธิกำลังกับตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าจับกุม พร้อมของกลางเป็นเงินสดกว่า 2.9 หมื่นบาท เนื่องจากมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากเอกชนในโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีต

หรือกรณีนายสิรภพ และนายวรวุฒิ ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. เข้าจับกุม พร้อมของกลางเงินสด 1 แสนบาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เนื่องจากได้รับแจ้งจากเอกชนว่าถูกนายสิรภพ เรียกรับเงินเป็นค่าตอบแทนในการว่าจ้างให้ติดตั้งกล้องวงจรปิด เป็นต้น

(อ่านประกอบ : เอาจริง! 7 ป.ป.ช.จังหวัดลุยจับสด“นายกอบต.-บิ๊กขรก.”เรียกรับเงินหาผลปย.)

ทั้งหมดคือต้นสายปลายเหตุที่ทำให้ “บิ๊กตู่” ต้องใช้ “ยาแรง” ลงดาบสั่งพักราชการ

ดังนั้นต้องจับตาดูอีกว่าจะมีลอตต่อไปหรือไม่ เพราะยังมีอีกจำนวนกว่า 100 คน ที่ ศอตช. ชงชื่อให้ “หัวหน้า คสช.” ใช้มาตรการเช่นนี้อีก

ชำแหละ 45 'บิ๊ก ขรก.-นักการเมืองท้องถิ่น'พันคดีฉาว ชนวน ม.44 'บิ๊กตู่'

 

ปอกเปลือก ทรราช
จับตาสนามรบแห่งใหม่ "ปฏิวัติสี" ในมาซิโดเนีย ใครอยู่เบื้องหลังและเพราะอะไร? (ยาวนิดนึง หากอยากรู้ต้องอ่าน)



------------
เกิดอะไรขี้นที่มาซิโดเนีย? ประเทศมาซิโดเนีย (Republic of Macedonia) เป็นหนึ่งใน 7 ประเทศ (Slovenia, Croatia, Bosnia-Hercegovina, Serbia, Kosovo, Montenegro และ Macedonia) ที่แยกตัวออกจาก "ยูโกสลาเวีย" (Yugoslavia) หลังอดีตปธน.ติโต (จอมพล Josip Broz Tito) ถึงแก่อสัญกรรมในปี 1980 เนื่องในภูมิภาคแห่งนี้มีหลายกลุ่มชาติพันธุ์และหลายศาสนามาก จึงมักจะเกิดเหตุปะทะกันอยู่บ่อยครั้งหลังจากผู้นำที่เข้มแข็งละโลกไป เปิดโอกาสให้มือที่สามและมือที่มองไม่เห็นมายุยงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้อยู่บ่อยครั้งจนนำไปสู่สงครามกลางเมืองและนาโต้นำโดยสหรัฐฯได้เปิดสงครามเต็มรูปแบบเพื่อถล่ม Kosovo ในปี 1999 ซึ่งเรียกว่า (Kosovo War) ไม่แพ้อิรัคในอดีตและเมือง Kobani ในซีเรียเลย เคยเล่าประวัติศาสตร์ช่วงนี้ให้ฟังแล้วหนหนึ่งเมื่อวันที่ 25 มี.ค.58 ที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่เข้ามาใหม่หากสนใจสามารถเข้าไปอ่านย้อนหลังได้ตามลิงค์นี้ "https://www.facebook.com/fisont/posts/1646263162260484" ภายใต้หัวข้อ "+ เซอร์เบียเรียกค่าเสียหายในสงครามโคโซโวจากนาโต้"
นั่นคือความเป็นมาโดยย่อของ Macedonia ในอดีต คราวนี้มาดูสิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้น และกำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้บ้าง ว่ามันกำลังจะพัฒนาไปสู่จุดใดกันแน่ สิ่งที่กำลังนิยมในการเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอดีตประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตก็คือสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิวัติสี" (color revolutions) เป็นการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในยุโรป เช่น "ปฏิวัติสีกุหลาบ" (Rose Revolution) ในจอร์เจียปี 2003, "ปฏิวัติสีส้ม" (Orange Revolution) ในยูเครนปี 2004, และ "ปฏิวัติดอกทูลิป" (Tulip Revolution) ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงในคีร์กิสถานปี 2005
ตอนนี้กำลังมีการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง (regime change) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับปฏิวัติสี (color revolutions) ที่เกิดขึ้นมาแล้วในหลายประเทศรวมทั้งอาหรับสปริง/อาหรับอัพไรซิ่ง ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางและในแอฟริกา รูปแบบการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจเก่าเหล่านี้มีทั้งต้องการให้เปลี่ยนจากผู้นำที่กุมอำนาจเพียงคนเดียวอย่างเช่นเคยเกิดขึ้นในอิรัค ลิเบีย อียิปต์ และซีเรีย และต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเช่นที่ยูเครน หรือที่กำลังเกิดขึ้นในซีเรียและในมาซิโดเนียในตอนนี้เมื่อรัฐบาลเหล่านั้นไม่ตอบสนองต่อความต้องการของสหรัฐฯและกลุ่มทุนในยุโรป ส่วนเรื่องการโค่นล้มอำนาจของรัฐบาลทรราชเผด็จการประชาธิปไตยแม้จะมาจากการเลือกตั้งก็มีเช่นกันคงไม่ต้องให้บอกว่าประเทศไหนนะ
เฉพาะที่เกิดขึ้นในมาซิโดเนียนี้มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ดังนี้ เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมามีกลุ่มชายฉกรรจ์ติดอาวุธจำนวน 40 คนพูดภาษาอัลบาเนียน ได้บุกเข้ายึดสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน Gosince ทางตอนเหนือของมาซิโดเนียใกล้ชายแดนของ Kosovo และ Serbia โดยเรียกร้องให้เปลี่ยนพื้นที่แห่งนี้เป็นรัฐอัลบาเนีย ซึ่งเมื่อดูตามแผนที่แล้วพบว่าค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากชายแดนของประเทศอัลบาเนียมากพอสมควร ครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต เหมือนเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างไปยังรัฐบาลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเนื่องจากพอยึดได้แล้วไม่กี่ช่วโมงกลุ่มผู้ก่อเหตุก็สลายตัวไป
วันที่ 6 พ.ค. 58 มีการเดินประท้วงและปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลและตำรวจคุมฝูงชน ส่งผลให้มีประชาชนจำนวน 40 คนและตำรวจ 38 คนได้รับบาดเจ็บ ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ค.58 เกิดเหตุการณ์ยิงปะทะกันระหว่างตำรวจกับกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งบางครั้งเรียกว่าเป็นผู้ก่อการร้ายที่เมือง Kumanovo ใกล้ชายแดนเซอร์เบีย ทำให้กลุ่มติดอาวุธเสียชีวิตไป 14 รายและฝ่ายตำรวจเสียชีวิตไป 8 นาย
หลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ก็ตามมาด้วยการระดมคนออกมาประท้วงเรียกร้องให้นาย Nikola Gruevski นายกรัฐมนตรีของมาซิโดเนียลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งแกนนำผู้ประท้วงในครั้งนี้ก็คือพรรคสหภาพประชาธิไตยสังคมแห่งมาซิโนเนีย (Social Democratic Union of Macedonia - SDSM) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน การประท้วงลุกลามมาจนถึงทุกวันนี้ซึ่งดูเหมือนว่ายังไม่มีท่าทีจะลดลง
ประเด็นที่กลุ่มผู้ประท้วงออกมาต่อต้านรัฐบาลก็ชูเรื่องการคอรัปชั่นเป็นหลัก โดยนาย Zoran Zaev ผู้นำของพรรค SDSM กล่าวว่าจะไม่ยอมเลิกลาจนกว่านายกรัฐมนตรีจะทำให้พวกเขาพอใจคือลาออกจากตำแหน่ง (เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ ทั้งๆที่นาย Nikola Gruevski ก็มาจากการเลือกตั้งเช่นกัน) ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวว่าหากนาย Nikola Gruevski ไม่ยอมเปิดทางก็จะเกิดสงครามขึ้นในมาซิโดเนียเช่นเดียวกับยูเครนแน่นอน (กรรม! พวกนักการเมืองมันพากันคิดได้แค่นี้จริงๆนะนี่) พวกที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกนั้นกล่าวว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลที่เข่นฆ่าประชาชนที่ติดอาวุธมาสู้กับตำรวจ สื่อฯตะวันตกจะเล่นข่าวในมุมนี้เป็นส่วนมาก (การเลือกตั้งสมัยหน้าในมาซิโดเนียคือปี 2018)
คำถามก็มีอยู่ว่าจริงๆแล้วมันมีสาเหตุมาจากอะไร? แล้วใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความวุ่นวายเหล่านี้? ให้เดา...
ทาง Zivadin Jovanovic ทูตเซอร์เบียและอดีตรมว.ต่างประเทศของยูโกสลาเวียกล่าวว่า "เหตุการณ์ทั้งหลายในมาซิโดเนียที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ เป็นพิมพ์เขียวของ 'การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง' (regime change) ในเซอร์เบียและที่อื่นๆในยุโรป แอฟริกาเหนือ หรือความพยายามในการทำลายเสถียรภาพ (destabilization) ในบราซิล เวเนซูเอล่า และอาเจนติน่า"
Zivadin Jovanovic กล่าวต่อว่า "กระบวนการนี้มีการสร้างกลไกโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง (propaganda) สร้างข่าวเท็จ จัดตั้งกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมาก รวมถึงการก่อเหตุด้วยอาวุธ โดยใช้วิธีเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง (ทางการเมือง) นำหน้า และจากนั้นก็จะโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง" (เหมือนในยูเครนและซีเรีย)
Zivadin Jovanovic สรุปว่า "แทบจะไม่ต้องสงสัยเลยว่ากระบวนการทำลายเสถียรภาพของมาซิโดเนียที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันนี้ [ไม่] อาจจะเกิดขึ้นได้ หากปราศจากความต้องการและการสนับสนุนทางด้านปัจจัยจากพวกตะวันตกเก่า แถลงการณ์จากเมืองหลวงของชาติตะวันตกหลายแห่ง, การมีส่วนร่วมของเอกอัครราชทูตตะวันตกในกลุ่มผู้ประท้วงพรรคฝ่ายค้านในกรุง Skopje (เมืองหลวงของมาซิโดเนีย), สโลแกนและโฆษาชวนเชื่อทางการเมือง โดยทั่วไปแล้วเป็นอะไรที่มากกว่าการเปิดเผยซะอีก"
คราวนี้มาดูความคิดเห็นจากฝั่งรัสเซียที่จับตาดูสถานการณ์และพฤติกรรมของบางประเทศที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในมาซิโดเนียกันบ้าง เมื่อวันที่ 16 พ.ค.58 ที่ผ่านมานาย Sergey Lavro รมว.ต่างประเทศของรัสเซียออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในมาซิโดเนียว่า "กรุงมอสโคว์อดคิดไม่ได้ว่าการโจมตีจากผู้ก่อการร้ายในมาซิโดเนียมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการที่ประเทศมาซิโดเนียไม่เห็นด้วยกับการแซงชั่นต่อต้านรัสเซีย และการที่ประเทศนี้ต้องการจะมีส่วนร่วมในโครงการท่อแก๊สสาย Turkish Stream ของรัสเซีย" (สำหรับโครงการนี้ทางเซอร์เบียก็สนใจด้วยเช่นกัน และการที่จะเข้าไปถึงเซอร์เบียได้นั้นก็ต้องผ่านมาซิโดเนียด้วย จุดที่เกิดเหตุปะทะกันนั้นก็อยู่ในแนวท่อแก๊สของรัสเซียที่จะผ่านมาซิโดเนียไปยังเซอร์เบียและเช็กด้วย)
Sergey Lavro กล่าวว่า "พวกเรา (รัสเซีย) รู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในประเทศมาซิโดเนีย และสถานการณ์ใน Kosovo ซึ่งไม่อาจทำให้เรามองโลกในแง่ดีได้เลย รัสเซียรู้สึกเป็นกังวลใจมากว่าเหตุการณ์เหล่านั้นน่าจะเป็นผลของการกระทำของผู้ก่อการร้ายที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ตะวันตกไม่ควรเล่นบทนกกระจอกเทศ (play ostrich) ต่อกรณีนี้เพื่อแสดงราวกับว่าไม่มีกองกำลังจัดตั้งอยู่เบื้องหลัง" [play ostrich หรือที่แปลว่า "เล่นบทนกกระจอกเทศ" ในที่นี้เป็นสำนวนหมายถึงปิดหูปิดตา หรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เช่นเดียวกับที่นกกระจอกเทศเอาหัวซุกลงในดิน]
รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวต่อว่า "เมื่อว่าตามเจตนาแล้วนั้น เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในมาซิโดเนียได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีพื้นฐานมาจากการต่อต้านรัฐบาลมาซิโดเนียซึ่งปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในการแซงชั่นรัสเซีย (ตามคำสั่งของสหรัฐฯ) และเสียงสนับสนุนโครงการท่อแก๊สสาย Turkish Stream จากเมือง Skopje (สโกเปีย) ก็มีมากด้วย แต่ก็มีหลายคนทั้งในกรุงบรัสเซลส์และทั่วทวีปยุโรปไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ของรัสเซีย ดังนั้นจึงช่วยไม่ได้ที่รัสเซียจะมีความรู้สึกว่ามีบางอย่างเกี่ยวข้องกันในกรณีเหล่านี้ด้วย"
นอกจากเรื่องท่อแก๊สแล้ว มีประเด็นอื่นที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในมาซิโดเนียด้วยหรือไม่? มีสิครับ อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นไงว่าพวกที่ก่อเหตุนั้นออกมาเรียกร้องดินแดนที่อยู่ในมาซิโดเนียให้เป็นส่วนหนึ่งของอัลบาเนีย พวกชาตินิยมชาวอัลบาเนียนี้ชูเรื่อง "Greater Albania" คือการรวมแผ่นดินจากหลายประเทศที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ของตนอาศัยอยู่ให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอัลบาเนีย ซึ่งประกอบด้วยโคโซโว บางส่วนของเซอร์เบียซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ในเขตเมือง Belgrade ทางตอนเหนือของเซอร์เบียอยู่ห่างไกลจากอัลบาเนียมาก และยังรวมถึงมาซิโดเนีย มอนเตเนโกร และกรีซบางส่วนด้วย ตอนนี้ทางกรุงวอชิงตันและกรุงบรัสเซลส์ยังไม่ยกเรื่อง Greater Albania ขึ้นมาพูดเพราะสถานการณ์ยังไม่สุกงอมพอ
ทางรัสเซียกล่าวโทษตะวันตกว่าเป็นผู้ที่อยู่เบื้องเหตุรุนแรงในมาซิโดเนีย รายงานบอกว่ามีกลุ่มชาตินิยมชาวมอนเตเนโกรถูกจับได้ในมาซิโดเนียในการให้ความช่วยเหลือพวกหัวรุนแรงนิยมโคโซโวอัลบาเนีย ดังนั้นฝั่งรัสเซียจึงมองว่านี่เป็นแผนการเคลื่อนไหวเพื่อทำลายเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศมาซิโดเนียและกำลังจะนำไปสู่การปฏิวัติสี
สิ่งนี้ยังพิสูจน์ให้เห็นด้วยว่าพวกตะวันตกชักใยให้เกิดเหตุการณ์หายนะดังกล่าวโดยผ่านตัวแทนในการดำเนินการ และใช้พลเมืองประเทศนั้นๆเช่นมอนเตเนโกร ซึ่งถูกล่อลวงให้ตกเป็นเหยื่อโดยนาโต้มาแล้วในยูเครน และคราวนี้ก็ที่มาซิโดเนีย นี่คือแถลงการณ์ที่รัสเซียออกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
เมื่อประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วจะเห็นได้ว่าเป็นโมเดลเดียวกันกับที่เกิดขึ้นยูเครน โดยเฉพาะในไมดานกรุงเคียฟที่มีการปลุกระดมผู้ประท้วงซึ่งส่วนมากเป็นเยาวชน ในมาซิโดเนียก็เช่นกัน ให้ลุกฮือต่อต้านรัฐบาลแม้จะมาจากการเลือกตั้ง โดยพยายามก่อเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและตำรวจเพื่อให้มีการเสียชีวิต จากนั้นก็นำเอาเรื่องนี้มาโจมตีรัฐบาล เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการขับไล่รัฐบาล เหตุการณ์ทั้งสองสถานที่นี้ (ยูเครนกับมาซิโดเนีย) คล้ายกันมาก เพียงแต่ในมาซิโดเนียยังไม่พัฒนาไปถึงขั้นเผาบ้านเผาเมืองและยิงกันตายมากมายอย่างที่เกิดขึ้นในกรุงเคียฟ (ส่วนอีกที่หนึ่งคงไม่ต้องบอกนะว่าเป็นที่ไหนจำปี 52 กับ 53 ได้ป๊ะ? นั่นแหละแนวเดียวกันเลย)
และอีกจุดหนึ่งที่คล้ายกันอีกก็คือมีการเรียกร้องแบ่งแยกดินแดนขึ้นในมาซิโดเนียด้วยเช่นกัน แต่คราวนี้ไม่ใช่จากฝ่ายนิยมรัสเซีย แต่เป็นฝ่ายที่นิยมนาโต้แทน พวกอัลบาเนียนี่อยู่ฝั่งสหรัฐฯและตะวันตก ส่วนเซอร์เบียและมาซิโดเนียนั้นอยู่ฝั่งรัสเซีย หากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่ Kumanovo ขยายตัวออกไปก็จะทำให้เกิดสงครามขึ้นในบริเวณดังกล่าว แน่นอนว่าท่อแก๊สสาย Turkish Stream ของรัสเซียก็จะผ่านไปยังเซอร์เบียไม่ได้ แล้วสหรัฐฯและอียูก็จะร่ำรวยจากการค้าอาวุธสงครามได้อีกหนึ่งสนามรบ หากกรีซยังดื้อไม่ฟังคำของสหรัฐฯกับตะวันตก พวกอัลบาเนียก็ขู่ว่าจะยึดดินแดนบางส่วนของกรีซที่อยู่ติดกับมาซิโดเนียและอัลบาเนียไป
ดินแดนอดีตยูโกสลาเวียนี้เคยเกิดสงครามใหญ่มาแล้วเพราะประชาชนแตกแยก ตกเป็นเครื่องมือของต่างชาติยุให้เข่นฆ่ากันเอง เคยประสบความสำเร็จในการอยู่ร่วมกันโดยสามัคคีมาแล้ แต่ก็ไม่เรียนรู้ สิ่งที่สหรัฐฯและอียูกลัวก็คือกลัวว่าจะมี "ติโต2" เกิดขึ้นมาในกลุ่มประเทศอดีตยูโกสลาเวีย ผู้ที่จะทำให้ประเทศเหล่านี้รวมกันได้และมีความสามัคคีกัน เช่นเดียวกับรัสเซียในตอนนี้ ดังนั้นจะต้องพยายามสุมไฟไม่ให้ประเทศเหล่านี้สามัคคีกันได้อีกครั้ง
เหตุการณ์ที่ว่ามานี้เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น ดังนั้นจึงต้องจับตาดูต่อไปว่า Skopje จะกลายเป็นไมดานสองหรือไม่? และ Kumanovo จะกลายเป็นยูเครนตะวันออกสองหรือไม่?
The Eyes
20/05/2558
----------
Unrest in Macedonia Follows ‘Regime Change’ Scenarios Used Worldwide / Sputnik International
Macedonian City of Kumanovo ‘Dragged’ Into Deadly Outside Conflict / Sputnik International
Macedonia Led to 'Color Revolution' by West - Russian Foreign Ministry / Sputnik International
Tens of Thousands Gather for Anti-Government Protests in Macedonian Capital / Sputnik International
http://rt.com/n…/259421-macedonia-opposition-rally-gruevski/
http://rt.com/n…/257661-macedonia-conflict-political-unrest/
Events in Macedonia Linked to Turkish Stream, Sanctions Stance – Lavrov / Sputnik International
http://rt.com/ne…/259245-machedonia-shooting-russia-support/
http://sputniknews.com/columnists/20150512/1022032444.html

 

ปอกเปลือก ทรราช
ธนาคารโลกอ้อนอยากมีเอี่ยวกับ BRICS ด้วยบอกว่าพร้อมให้ความร่วมมือเพราะมีประสบการณ์มากกว่า



------------
ฮั่นแน่... สหรัฐฯมามุกใหม่แต่ลูกไม้เก่า ลูกไม้เก่าอย่างไรรึ เล่าให้หน่อยดิ? ได้ครับ... จำตอนที่จีนเริ่มก่อตั้งธนาคาร AIIB ขึ้นมาในตอนแรกๆได้ไหม ตอนนั้นสหรัฐฯเข้าขัดขวางทุกวิถีทาง ทั้งประโคมข่าวเพื่อดิสเครติตจีนสารพัดผ่านสื่อฯกระแสหลักและสื่อฯในเครือของตัวเอง สหรัฐฯพยายามกดดันกลุ่มประเทศต่างๆที่เป็นพันธมิตรของตนในยุโรปไม่ให้เข้าร่วมในธนาคาร AIIB กับจีน แต่สุดท้ายก็ห้ามใครไม่ได้เลย ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน และประเทศอื่นๆในยุโรปและเอเซียต่างก็เข้าร่วมกับจีนเป็นอย่างมาก (ไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยนะ อย่าถามอีกหละว่าไทยร่วมกับ AIIB ด้วยหรือเปล่า?)
รัสเซียได้รับสิทธิ์พิเศษแม้จะเข้าสมัครเป็นสมาชิกของธนาคาร AIIB ภายหลัง โดยจีนจัดให้รัสเซียเป็นสมาชิกในกลุ่มประเทศเอเซีย ซึ่งจะมีสิทธิพิเศษมากกว่าสมาชิกที่ไม่ใช่เอเซีย เล่นเอาพวกยุโรปพูดไม่ออกเหมือนกันแต่ใครจะกล้าคัดค้านพี่จีนได้หละ ฮ่าๆๆ (ในฐานะคนเอเซียด้วยกันขอหัวเราะดังๆให้สะใจหน่อยนะ มันปลื้มมมมมอ่ะ) ต่อมาสหรัฐฯทนไม่ไหวจึงส่งบิ๊กบอสของ IMF เข้าไปทาบทามจีนว่าอยากจะมีเอี่ยวในธนาคาร AIIB ด้วย น๊านนนน… ให้มันได้อย่างนี้สิ ก็ไหนตอนแรกบอกว่าไม่ดีไง สุดท้ายก็กลืนน้ำลายตัวเอง แต่จีนก็เหมือนจะแกล้งทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินเสียงนกเสียงกาจาก IMF ซะอย่างนั้นแหละ อยากพูดอะไรก็พูดไป แต่จีนจะเดินหน้าซะอย่าง งานนี้อเมริกาก็เลยรับประทานแห้ว (เคยเล่าให้ฟังแล้วนะ วันนี้เอาย่อๆสำหรับผู้ที่มาใหม่เท่านี้ก่อนนะครับ)
จำได้ไหมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เล่าให้ฟังว่าทางรัสเซียเชิญกรีซเข้าร่วมกับธนาคาร New Development Bank (เรียกชื่อย่อว่า NDB เป็นชื่อใหม่ของธนาคารในกลุ่ม BRICS) ซึ่งทางรัฐบาลกรีซดูเหมือนจะชอบอกชอบใจที่รัสเซียให้เกียรติเชิญเข้าร่วมในกลุ่ม BRICS ด้วย นี่เป็นการแก้เผ็ดสหรัฐฯโทษฐานที่พยายามจะเป่าหูให้กรีซเปลี่ยนใจยกเลิกโครงการท่อแก๊สสาย Turkish Stream ของรัสเซีย แล้วหันมาใช้ท่อแก๊สของสหรัฐฯกับยุโรปแทน แต่ทางกรีซก็ยังไม่ได้รับข้อเสนอจากรัสเซียอย่างเป็นทางการ เมื่อดูแล้วก็มีแนวโน้มความเป็นไปได้ว่ากรีซอาจจะเข้าร่วมกับ BRICS ในอนาคตซะด้วยสิ
สหรัฐฯและอียูรู้ว่าถ้ากรีซมาร่วมกับ BRICS แน่นอนชาติอื่นๆในอียูอาจจะเดินตามกรีซด้วยก็ได้ เพราะขนาดธนาคาร AIIB ของจีนกลุ่มอียูยังเข้าไปร่วมเลย แล้วนี่ธนาคาร NDB ซึ่งก็มีจีนเข้าถือหุ้นมากกว่าชาติสมาชิกอื่นๆด้วยเช่นกัน และมีทุนเริ่มต้นเท่ากับ AIIB ด้วยคือ $100 billion (หนึ่งแสนล้านเหรียญสหรัฐฯ) เงินไม่ใช่น้อยๆนะนั่นหนะ แทนที่สหรัฐฯจะออกมาคัดค้าน และเล่นมุกดิสเครดิตธนาคาร NDB ของกลุ่ม BRICS แบบที่ทำมาแล้วกับกรณีธนาคาร AIIB สหรัฐฯก็ส่งธนาคารโลก (World Bank) ออกมาพูดว่าธนาคารโลก (ที่มีสหรัฐฯถือหุ้นรายใหญ่กุมหัวเรืออยู่) พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับธนาคารใหม่ของ BRICS โดยยกเหตุผลว่า เนื่องจาก World Bank มีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มายาวนานถึง 70 ปี ธนาคารแห่งใหม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้เร็วขึ้นโดยอาศัยพื้นฐานประสบการณ์ของ World Bank
แหม… พี่แกมามุกนี้เลยนะ ต้องการอยากจะเข้ามาวางกลไกบริหารจัดการในธนาคาร NDB ก็บอกเหอะ และหากเป็นไปได้ก็คงอยากจะให้ NDB ช่วยแบ่งหุ้นบางส่วนให้กับสหรัฐฯในนามของ World Bank ซักหน่อยก็จะดีหละสิ กลุ่ม BRICS นี้เขาฉลาดพอ เพราะมีที่ปรึกษาอาวุโสนั่งทำงานอยู่ใน World Bank ด้วย และสมาชิกส่วนมากของ BRICS ก็ถือหุ้นอยู่ใน AIIB ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญที่ทำให้สหรัฐฯต้องรีบขยับก็เพราะว่า BRICS ประกาศว่าจะเปิดกองทุนกู้ยืมภายในสิ้นปีนี้หรืออย่างช้าสุดก็ราวต้นปีหน้า
การที่นายกฯของกรีซเดินทางไปพบกับปูตินเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทำให้ทั้งสหรัฐฯและอียูต่างก็พากันนั่งไม่ติด พากันออกมาแสดงความกังวลใจว่ารัสเซียจะปล่อยเงินกู้ให้กรีซหักหน้าทรอยก้า (IMF, EU, ECB) จึงพากันเตรียมจะแซงชั่นรัสเซียรอบใหม่และกดดันรัสเซียเพิ่มขึ้นอีก แต่สุดท้ายปูตินก็ออกมาบอกว่ารัสเซียไม่ได้ปล่อยเงินกู้ให้กรีซเพื่อเอาไปใช้หนี้ทรอยก้าหรอก แค่มาเจรจากันเรื่องหาทางช่วยเหลือผลไม้และสินค้าการเกษตรของกรีซเท่านั้นเอง จึงทำให้ทั้งสหรัฐฯและอียูหายจากอาการอกสั่นขวัญหายได้ในระดับหนึ่ง แต่ที่ทำให้สหรัฐฯหงุดหงิดก็คือเรื่องท่อแก๊สของรัสเซียกับกรีซนี่แหละ มันจึงบานปลายกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตในมาซิโดเนีย
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะ แอ็ดมินมองอย่างนี้ รัสเซียจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้กรีซโดยตรง เพราะจะทำให้สหรัฐฯและอียูหาเรื่องรัสเซียได้ง่าย แต่ถ้าให้กรีซเข้าร่วมกับ BRICS และ BRICS ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซแทน แบบนี้ทั้งสหรัฐฯและอียูก็จะตำหนิรัสเซียไม่ได้ เพราะทำในนามของ BRICS ซึ่งประกอบด้วย บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ ถ้าอียูและสหรัฐฯโจมตี BRICS ก็เท่่ากับโจมตีห้าประเทศนี้ด้วย โดยเฉพาะจีนกับอินเดีย สหรัฐฯและอียูจะกล้าเล่นของแข็งหรือ? เจอมุกนี้ของปูตินเข้า สหรัฐฯถึงกับส่ง World Bank ออกมาทาบทามกันเลยนะ ฝีมือมันคนละชั้นกันจริงๆนะนี่
อ้อ… แถมให้อีกนิดนึง ทางกลุ่ม BRICS มีโครงการจัดตั้งสถาบันจัดอันดับโลก (rating agency) ทางด้านเศรษฐกิจและอื่นๆของตนขึ้นมาต่างหาก ซึ่งมีผู้เสนอว่าควรจะเป็นอิสระจากการควบคุมของรัฐบาลต่างๆด้วย เนื่องจากพบว่า rating agency รายใหญ่ๆทั้ง 3 สำนักของตะวันตกเช่น Fitch, Moody และ Standard & Poor ล้วนถูกครอบงำโดยอิทธิพลทางการเมือง ทางรัฐศาสตร์ภูมิภาค (geopolitics) จากรัฐบาลของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯและยุโรปด้วยกันทั้งนั้น
ดังนั้นทาง BRICS จึงต้องการที่จะจัดตั้งสถาบันจัดอันดับของตนเองขึ้นมาแข่งกับฝั่งตะวันตก แต่เพื่อความน่าเชื่อถือจึงบอกว่าให้ปลอดจากการควบคุมของรัฐบาล ซึ่งในความเป็นจริงนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะองค์กรเหล่านี้ต้องมีเงินอุตหนุนมีค่าใช้จ่ายในการทำการวิจัยและบริหารจัดการต่างๆมากมาย ในทางเทคนิคนั้นรัฐบาลเหล่านั้นอาจจะสนับสนุนโดยผ่านบริษัทเอกชน หรือองค์กรอื่น หรือผ่านการซื้อโฆษณาแทน เพราะเป้าหมายหลักก็คือกลุ่ม BRICS ต้องการจะก่อตั้งสถาบันจัดอันดับของตนเองขึ้นมา โดยไม่ต้องพึ่งพาสถาบันจัดอันดับจากกลุ่มการเมืองและกลุ่มทุนฝั่งสหรัฐฯและยุโรปนั่นเอง ถ้าหากตั้งขึ้นมาแล้วถูกฝั่งสหรัฐฯและยุโรปเข้ามาควบคุมแทนแล้วจะตั้งขึ้นมาทำไมหละ
The Eyes
19/05/2558
----------
http://sputniknews.com/business/20150519/1022299947.html
Greece to Escape West’s Chokehold by Joining BRICS Bank - European Lawmaker / Sputnik International
BRICS New Development Bank Aims to Open Coffers by Year-End / Sputnik International
Moscow Draws Greece Away From IMF – German Magazine / Sputnik International
Likelihood of Creating BRICS Rating Agency 'Very Low' - World Bank Advisor / Sputnik International

 

9 ชาติที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากซาอุดิอาระเบียมากที่สุด
ตะวันออกกลางby เอบีนิวส์ทูเดย์ - พ.ค. 19, 2015



راز همراهی کشورهای عربی با سعودی
alalam – กองทุนการเงินระหว่างประเทศ เปิดเผยในรายงานฉบับหนึ่งว่า จำนวนเงินที่ซาอุดิอาระเบียให้การสนับสนุนชาติพันธมิตรอาหรับ ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2011 ถึง เดือนเมษายน ปี 2014 เพื่อจุดมุ่งหมายให้ประเทศเหลานี้เข้ามาเป็นแนวร่วม เป็นเงินจำนวน 22.7 พันล้านดอลลาร์

ผู้สังเกตการณ์ถือว่า จุดมุ่งหมายของการให้ “สินบน” ครั้งมหาศาลของซาอุดิอาระเบียนั้น เพื่อเป็นการบีบบังคับให้เหล่าชาติที่รับเงินช่วยเหลือดังกล่าวปฏิบัติตามเจตจำนงทางการเมืองของซาอุดิอาระเบีย และเพื่อให้เศรษฐกิจของพวกเขาต้องพึ่งพาซาอุดิอาระเบีย

รายงานฉบับหนึ่งของหนังสือพิมพ์ “ริยาด” ตามการประเมินของผู้เชี่ยวชาญด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ถือ ว่าอียิปต์ เป็นประเทศที่รับเงินช่วยเหลือมากที่สุดในหมู่ประเทศต่างๆที่รับเงินช่วยเหลือจากซาอุดิอาระเบีย ซึ่งอียิปต์ รับเงินช่วยเหลือจากซาอุดิอาระเบีย ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2011 ถึง เดือนเมษายน ปี 2014 แล้ว จำนวน 6.5 พันล้านดอลลาร์

รายงานระบุอีกว่า เยเมน รับเงินช่วยเหลือจากซาอุดิอาระเบีย 3.8 พันล้านดอลลาร์ จอร์แดน 3 พันล้านดอลลาร์ บาห์เรน 2.8 พันล้านดอลลาร์ โอมาน 2.5 พันล้านดอลลาร์

กลุ่มขบวนการในปาเลสไตน์ 1.8 พันล้านดอลลาร์

นอกจากนั้น โมร็อกโค ยังได้รับเงินช่วยเหลือจากซาอุดิอาระเบีย 1.6 พันล้านดอลลาร์ ซูดาน 527 ล้านดอลลาร์ และ อันดับที่ 9 คือ จิบูติ 68 ล้านดอลลาร์

9 ชาติที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากซาอุดิอาระเบียมากที่สุด | abnewstoday

 

เยเมน ส่งศพนักบินชาวโมร็อกโกกลับประเทศ
ตะวันออกกลางเกาะติดสถานการณ์เยเมนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - พ.ค. 19, 2015



อัลอาลัม – กระทรวงมหาดไทยเยเมน เปิดเผย กรณีที่เยเมน ได้ส่งศพนักบินชาวโมร็อกโกกลับประเทศ โดยนักบินชาวจอร์แดนดังกล่าว เสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินรบตกในแคว้น ศออ์ดาห์ เยเมน

เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งประจำสนามบินนานาชาติกรุงซานา ย้ำว่า การส่งศพนักบินกลับประเทศ เพื่อเป็นการส่งสาส์นยังซาอุดิอาระเบียและชาติพันธมิตร ว่า แม้นว่าเยเมนจะถูกซาอุดิอาระเบียโจมตีทางอากาศอย่างหนัก และเรายังคงยึดมั่นต่อกฎหมายระห่างประเทศ

แหล่งข่าวความมั่นคงเยเมน เผยว่า การส่งศพนักบินกลับประเทศครั้งนี้ ได้รับการประสานงานจาก ญามาล เบโนมาร์ ตัวแทนยูเอ็นในเยเมน

เยเมน ส่งศพนักบินชาวโมร็อกโกกลับประเทศ | abnewstoday

 

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ถูกทำนายล่วงหน้า
เรื่องเด่นประเด็นร้อนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - พ.ค. 19, 2015



ต่อไปนี้เป็นบทความจาก The American Hebrew วันที่ 31 ตุลาคม 1919 ที่ทำนายถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (ฮอโลคอสต์)

Ben Hecht ที่เป็นยิวได้เขียนหนังสือ Perfidy ของเขา โดยหยิบยกคำพูดของ Max Nordau ที่กล่าวในสภาไซออนิสต์โลก ปี 1911 ว่า “รัฐบาลที่ชอบธรรมเดียวกันนี้กำลังเตรียมที่จะกวาดล้างประชาชนหกล้านคนให้สิ้นซาก”

ไม่มีการกล่าวถึงห้องรมก๊าซหรือการกวาดล้างหมู่ชาวยิวใดๆ ในจดหมาย บันทึก หรือบันทึกประจำวันของ Roosevelt, Truman, Eisenhower หรือ Churchill อันที่จริง นักประวัติศาสตร์ David Irving เขียนไว้ว่า

“มันล่าช้าจนกระทั่งถึงเดือนสิงหาคม 1943 หัวหน้า PWE จึงได้บันทึกเกี่ยวกับคณะรัฐมนตรีของ Churchill อย่างลับๆ ว่า ไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อยว่า เคยมีเครื่องมือเช่นนั้น (ห้องรมก๊าซ) และพวกเขายังเตือนต่อไปว่า เรื่องราวจากแหล่งข่าวชาวยิวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง”

จาก The American Hebrew โดย Martin H. Glynn อดีตผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ค

การตรึงกางเขนชาวยิวต้องยุติ!

จากฟากฝั่งทะเล ผู้ชายและผู้หญิงหกล้านคนร้องขอความช่วยเหลือจากเรา และเด็กเล็กๆ แปดแสนคนร้องขอขนมปัง
ในการเผชิญกับความตาย ในความเจ็บปวดของการอดอาหาร ไม่มีพื้นที่สำหรับการแบ่งแยกทางใจจากความเชื่อ ไม่มีพื้นที่สำหรับความแตกต่างทางกายจากชาติพันธุ์ ในมหันตภัยครั้งนี้ เมื่อมนุษย์หกล้านคนกำลังถูกเหวี่ยงลงสุสานด้วยชะตากรรมที่โหดร้ายและไม่ลดละ การกระตุ้นเตือนจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์อย่างถึงที่สุดเท่านั้นที่จะทำให้หัวใจหวั่นไหวและหันมาให้ความสนใจได้

ผู้ชายและผู้หญิงหกล้านคนกำลังล้มตายเนื่องจากขาดปัจจัยจำเป็นในการดำรงชีวิต เด็กๆ แปดล้านคนกำลังร้องขอขนมปัง และชะตากรรมนี้ตกอยู่กับพวกเขาโดยที่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลย โดยที่ไม่มีการกระทำผิดต่อกฎของพระเจ้าหรือของมนุษย์ แต่โดยทรราชย์แห่งสงครามผู้ยิ่งใหญ่ และความปรารถนาอันบ้าคลั่งต่อเลือดของชาวยิว

ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชีวิตมนุษย์ที่น่ากลัวนี้ ผู้ที่ถูกลืมคือความดีงามในจุดมุ่งหมายทางปรัชญา ถูกลืมเลือนเพราะความแตกต่างในการตีความทางประวัติศาสตร์



ที่มา https://www.stormfront.org/truth_at_last/predicted.htm

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ถูกทำนายล่วงหน้า | abnewstoday

 

Thanong Fanclub



1. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
กลางเดือนกันยายน ปี2015 อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ชี้เป็นชี้ตายของโลกที่เราจำต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด เพราะว่าอาจจะเป็นระยะเวลาของการเริ่มต้นการเปลี่ยนถ่ายจากโลกเก่าสู่โลกใหม่ โดยที่ผู้คนส่วนมากจะตั้งตัวกันไม่ติด
เพราะว่าโลกใหม่ที่จะเกิดขึ้นมาได้ โลกเก่าต้องถูกทำลายก่อน
ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้อย่างเป็นทางการว่า การเปลี่ยนแปลงสู่โลกใหม่จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ถ้าเกิดขึ้นจริงจะรุนแรง เฉียบพลันและครอบคลุมทั้งโลกนี้มากน้อยเพียงใด
แต่ในช่วงกลางเดือนกันยายน ปี2015นี้จะครบรอบการเฉลิมฉลองของชาวยิว (The Year of Jubilee)ที่มีขึ้นทุก50ปี ในปีเฉลิมฉลองนี้เสียงแตรจะดังสนั่นไปทั่ว และในวันที่ศักสิทธิ์ (Day of Atonement) จะมีการประกาศอิสระภาพทั่วทั้งดินแดนของอิสราเอลและแก่ชาวยิวทุกคน ที่ดินทำกินที่เคยถูกยึด หรือหนี้ที่ติดค้างอยู่จะได้รับการยกเลิก หรือได้รับการปลดปล่อยเพื่อให้ทรัพย์สินนั้นกลับคืนไปสู่มือของครอบครัวที่เป็นเจ้าของเดิม เพื่อว่าพวกเขาจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้โดยไม่มีภาระหนี้สิน
ในบทเลวีนิติ 25:8-12ของพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเขียนไว้ว่า:
"ทุกปีที่ห้าสิบ หลังจากปีสะบาโตผ่านไปเจ็ดครั้ง นั่นคือเป็นเวลา 49 ปี ในวันลบบาปคือวันที่สิบของเดือนที่เจ็ด จงเป่าแตรให้ดังทั่วทั้งแผ่นดินของเจ้าจงถือรักษาปีกึ่งศตวรรษเป็นปีบริสุทธิ์ และประกาศอิสรภาพทั่วดินแดนแก่พลเมืองทุกคน เป็นปีเฉลิมฉลองพิเศษสำหรับเจ้า เจ้าแต่ละคนจงกลับสู่ที่ดินกรรมสิทธิ์ของครอบครัว และกลับสู่วงศ์ตระกูลของตน ปีกึ่งศตวรรษเป็นวาระพิเศษสำหรับเจ้า อย่าหว่านและอย่าเก็บเกี่ยวสิ่งที่งอกขึ้นเอง หรืออย่าเก็บผลองุ่นที่ขึ้นเอง เพราะเป็นปีเฉลิมฉลองพิเศษ และเป็นปีบริสุทธิ์สำหรับเจ้า จงกินแต่พืชผลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ"
ชาวโลกส่วนมากจะถือเอาเดือนมกราคมเป็นระยะเวลาการเริ่มของปีใหม่ แต่ปีใหม่ของพวกยิวจะตกอยู่ในเดือนกันยายน-ตุลาคม ปีแห่งการเฉลิมฉลอง (Jubilee) ครั้งที่แล้ว -- หรือ50ปีที่แล้ว -- จะกินเวลา1ปีกว่าระหว่างวันที่24 กันยายน ปี1966 จนถึง13 ตุลาคม ปี1967 และในปีแห่งการเฉลิมฉลองนั้นเอง พวกยิวชนะศึกสามารถยึดเอาเยรูซาเลมได้สำเร็จในวันที่7 มิถุนายน 1967
ถ้าหากเราบวก49ปีที่แต่ละปีมี365.25วัน นับจากวันที่24 กันยายน ปี1966 เราจะถึงจุดสิ้นสุดในวันที่ 22 กันยายน ปี2015 และวันเริ่มต้นปีของการเฉลิมฉลอง (Jubilee)รอบใหม่จะเป็นวันที่23 กันยายน ปี2015 และจะกินเวลาไปถึงวันที่12 ตุลาคม ปี2016
เราจำต้องเฝ้าดูเหตุการณ์ใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในช่วงJubilee เพราะว่าพวกยิวครองอเมริกา และมีอิทธิพลเหนือระบบการเงินและระบบการเมืองโลก และดูเหมือนว่ามีความพยายามจากมือที่มองไม่เป็นที่จะผลักดันเหตุการณ์โลกให้เป็นไปตามคำทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล รวมทั้งความเชื่อโบราณของพวกยิว
Jubileeเป็นช่วงของการปลดปล่อย ปลดหนี้ ปลดพันธะทุกอย่างเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างมีอิสระภาพ เหมือนกับหลักคำสอนของศาสนาคริสต์ว่าพระเยซูยอมตายบนไม้กางเขนเพื่อปลดบาปให้มนุษย์เพื่อว่ามนุษย์ที่ศรัทธาในพระเจ้าจะได้เกิดใหม่ และจะได้ไปอยู่สวรรค์กับพระเจ้าในที่สุด
เห็นกรีซกำลังเข้าขั้นล้มละลายทางการเงิน และทำท่าจะเบี้่ยวหนี้อยู่ ไม่รู้ว่่าจะสอดคล้องกับปีJubileeของศาสนายูดาห์และศาสนาคริสต์หรือไม่ ถ้าเป็นไปตามพล๊อต เราคงจะได้เห็นมหกรรมการล้างหนี้ในระบบการเงินโลกปีJubileeนี้ เพื่อล้างหนี้เก่าของโลกเก่า และพาเราไปสู่โลกใหม่ที่ปลอดหนี้
แต่อย่าเพิ่งดีใจ เพราะว่ายังไม่มีใครรู้ว่าความเสียหายจากการล้างหนี้คืออะไร? และท้ายที่สุดแล้วต้องชดใช้ด้วยอะไร? หรือพวกเราจะไม่มีรายได้ใหม่ แต่ต้องกินของเก่าเหมือนช่วงปีเสียงแตรที่ห้ามหว่านพืชผล แต่ให้กินอาหารของเดิมที่สะสมเอาไว้

thanong
19/5/2015
https://www.biblegateway.com/passage/…
http://woodyoubelieveit.blogspot.com/…/the-fiftieth-jubilee…

 

Thanong Fanclub



2. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
ยังไม่ทันเข้าปีเสียงแตรJubilee เมืองฟิลาเดลเฟีย ของรัฐเพนซิลวาเนียต้องจ่ายค่าต๋งไปก่อน
ในวันที่12 พฤษภาคม 2015 เกิดเหตุร้ายรถไฟแอมแทรกที่กำลังพาผู้โดยสาร238คนไปนิวยอร์คตกรางที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิตไป8ราย และบาดเจ็บ200กว่าคน
ทางเจ้าหน้าที่เอฟบีไอยังไม่ได้สรุปว่า รถไฟแอมแทรกตกรางเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ หรือว่าเป็นเรื่องการก่อการร้าย แต่สำนักข่าวเอพีรายงานว่า รถไฟแอมแทรกอาจจะถูกวัตถุแข็ง หรือก้อนหินกระทบก่อนประสบเหตุร้ายทำให้เสียหลักตกรางที่ทางโค้ง
สถานีโทรทัศน์CNNรายงานว่า รถไฟแอมแทรกตกรางเวลา09:23 นาฬิกาพอดี
ในโลกนี้ไม่มีอะไรบังเอิญ
ทำให้มีคนตั้งข้อสังเกตุว่า เวลา09:23นาฬิกาที่รถไฟแอมแทรกประสบเหตุร้ายตรงกับวันที่ 23 เดือนกันยายน หรือเดือน9 ซึ่งจะเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ของเริ่มต้นของของการเฉลิมฉลองปีเสียงแตรJubileeพอดี ที่จะมีการประกาศอิสรภาพและการปลดหนี้สินหรือพันธะทั้งปวง เพื่อที่จะเริ่มวงจรรอบใหม่ หรือโลกใหม่
ในเมืองฟิลาเดลเฟียมี Liberty Bell หรือระฆังแห่งอิสระภาพภาพแขวนอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการประกาศอิสระภาพของสหรัฐอเมริกาจากการกดขี่และพันธะทางภาษีของอังกฤษ
ณ เมืองฟิลาเดลเฟียนี้ในวันที่ 4กรกฎาคม ปี1776 John Adams, Thomas Jefferson, Benjamin Franklin ผู้ร่วมก่อตั้งอเมริกาด้วย13รัฐ ซึ่งเป็นพวกโปรเตสแตนท์แบ๊บติสท์ได้มีคำประกาศอิสระภาพ (Declaration of Independence) จากทั้งอังกฤษ และจากการผูกขาดศาสนาคริสต์ของโรม
ก่อนจะได้สหรัฐจะได้อิสระภาพ ต้องมีการสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อและทรัพย์สินจากการทำสงครามกับอังกฤษ เหมือนกับก่อนที่โลกใหม่จะมาโลกเก่าต้องถูกทำลายก่อน
ดูเหมือนว่า ฟิลาเดลเฟียเป็นความสูญเสียที่ถูกบังคับให้จ่ายล่วงหน้า ภาษาอังกฤษเวลาใช้คำว่าtrain wreck เห็นภาพทันทีว่าเป็นหายนะ เช่น The economy is a train wreck for Obama. แปลว่าโอบามากำลังเผชิญกับเศรษฐกิจที่กำลังฉิบหาย
เราได้เห็นtrain wreck หรือรถไฟตกรางจริงๆแล้ว และเราจะต้องได้เห็นtrain wreckที่เป็นเชิงนัยของการทำลายที่จะตามมาในปีเสียงแตรJubileeนี้
thanong
19/5/2015
https://www.youtube.com/watch?v=wvU2MSkuGrY
http://www.breitbart.com/…/philadelphia-amtrak-crash-gets-…/

 

Thanong Fanclub



3. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
พอเริ่มต้นเข้าปีเสียงแตร (Year of Jubilee) องค์การสหประชาชาติจะจัดประชุมระดับผู้นำโลกเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Summit) ในระหว่างวันที่25ถึง27กันยายน 2015นี้ที่นิวยอร์ค โดยจะมีผู้นำโลกหลายคน รวมทั้งโป๊ปฟรานซิสไปร่วมประชุมและกล่าวสุนทรพจน์
หัวใจของการประชุมเรื่องความยั่งยืนคือธรรมาภิบาลของโลก (global governance) เพราะว่ายูเอ็นทำตัวเองเป็นรัฐบาลโลก(world government)มานานแล้ว
มือที่มองไม่เห็นต้องการผลักดันให้ประเทศต่างๆสละอำนาจอธิปไตย ยกเลิกความเป็นประเทศเพื่อมาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลโลกรัฐบาลเดียวภายใต้การกำกับของยูเอ็น (One World Government) โดยจะมีระบบธรรมาภิบาลโลกคอยกำกับควบคุมอีกที ซึ่งจะอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศ หรือกฎหมายภายในของทุกประเทศ
คงจำกันได้ว่านายกอานันท์เป็นผู้นำเอาเรื่องgovernanceมาให้เมืองไทยได้ชิมรสชาดก่อนเมื่อ20กว่าปีมาแล้ว เอามาจากฝรั่งคนไหนก็ไม่รู้ แต่เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮากันมาก เพราะคนไทยชอบเห่อของใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของฝรั่ง
ตอนแรกหาคำแปลยากสำหรับคำว่าgovernance ไปๆมาๆลงเอยที่ธรรมาภิบาล ปรากฎว่าธรรมาภิบาลขายได้สำหรับเมืองไทยที่ว่านอนสอนง่าย เพราะว่าชอบของฝรั่ง หลังจากนั้นมาบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆในเมืองไทยเอาหลักธรรมาภิบาลมาใช้ คือต้องบริหารงานให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม นักบริหารที่ต้องการดูเท่ห์ต้องบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ทำได้หรือไม่ได้อีกเรื่อง
เรื่องธรรมาภิบาลเป็นการล้างสมองมนุษย์ระดับโลกที่ใช้ได้ผลเกินคาดเพื่อให้รัฐบาลโลกปกครองเราต่อไป เพราะว่านักบริหารการเงิน บริษัทรวมทั้งหน่วยงานราชการทั้งหลายทั่วโลกต่างก็หลงกล พากันพัฒนากฎเกณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับหลักธรรมภิบาล คือโปร่งใส ตรวจสอบได้ เข้าใจในกฎเกณฑ์ร่วมกัน มีการแลกเปลี่ยนความรู้หรือหลักธรรมาภิบาลระหว่างประเทศกัน
มองดูเผินๆแล้วธรรมาภิบาลเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ถ้ามองลึกลงไป มันเป็นการย้อมสมองดีๆนี้เอง เพื่อเตรียมการให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งไทยแลนด์สมันน้อยผู้น่ารักยอมรับธรรมาภิบาลโลกที่รัฐบาลโลกจะกำกับเราอีกที
อันตรายของธรรมาภิบาลฝรั่งคือ ให้เรามองข้ามจารีตประเพณีเดิมของสังคม มองข้ามกฎหมายของประเทศตัวเองและต้องปรับกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติให้เข้ากฎหมายโลก หลักปฏิบัติที่เคยทำกันมาโดยบรรพบุรุษใช้ต่อไปไม่ได้กับธรรมาภฺบาลโลก ไม่มีหลักธรรมะที่ถูกผิดอย่างชัดเจนอีกต่อไป ขอให้ตรวจสอบได้ โปร่งใสแบบอะลุ้มอะหล่วยกันก็เดินหน้าต่อไปได้ และมันต้องปลอดภัยเพราะว่าเรากำลังเดินตามขบวนรถไฟธรรมาภิบาลโลก
หลักธรรมะบ้านเรามีอยู่แล้ว ครอบคลุมไปหมดทุกภาคส่วนอย่างสุดยอดประเสริฐศรีอยู่แล้ว แต่ไม่สนใจกัน ไปเดินตามก้นฝรั่งเรื่องธรรมาภิบาลที่เป็นกับดักให้เราคิดและปฏิบัติจนเคยชินเป็นนิสัย เวลายูเอ็นบังคับใช้หลักธรรมาภิบาลโลก โดยที่พวกมือที่มองไม่เห็นเขียนกันเอาเองโดยที่เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่จำเป็นต้อทำประชามติโลก เราจะได้ยอมทำตามโดยไม่ขัดขืน เพราะว่าโดนย้อมสมองมานาน
ปีเสียงแตร (Year 0f Jubilee) จะเริ่มมีการขยับเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านธรรมิภาลโลก โดยที่องค์การสหประชาชาติจะเป็นผู้กำกับดูแลให้โลกไปในทิศทางเดียวกัน เราก็เห็นกันอยู่ว่ายูเอ็นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อสงครามมาตลอด ไม่เคยปกป้องประเทศที่อ่อนแอ แต่จะคอยออกมติตามที่โรม ลอนดอน ดีซี และเทล อาวีฟกำกับอีกที มีแต่ประเทศมหาอำนาจเท่านั้นที่มีสิทธิ์ขาดในการวีโต้ ประเทศบริวารทั้งหลายได้แต่เฮโลเฮฮาตาม หลายครั้งต้องนั่งทำตาปริบๆเมื่อยูเอ็นแซงชั่นประเทศที่อ่อนแอ เพื่อให้มหาอำนาจเข้าไปล้มรัฐบาลเพื่อฮุบทรัพยากรธรรมชาติของประเทศเหล่านั้น
ระบบทาสกำลังมาภายใต้เสื้อคลุมธรรมาภิบาลโลก
thanong
20/5/2015
http://theeconomiccollapseblog.com/…/in-september-the-un-la…

 

Thanong Fanclub



4. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
ดูท่าแล้ว ยูเอ็นจะเอาจริงในปีเสียงแตรนี้ โดยที่ตั้งเป้าหมายที่จะบริหารโลกตามหลักธรรมาภิบาลโลก เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและรักษาสภาพแวดล้อมโลก
หัวข้อหลักที่จะพูดคุยกันระดับผู้นำประเทศสูงสุดจะหลากหลายมีทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ เศรษฐกิจ เกษตร การศึกษาและความเท่าเทียมกันทางเพศ
ต่อไปนี้คือ17หัวข้อหลักที่ทางยูเอ็นกำหนดเพื่อไปให้ถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน:
1. หยุดความยากจนทุกรูปแบบทั่วโลก
2. หยุดความอดอยาก ให้มีความมั่นคงทางอาหาร คุณค่าอาหารและส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืน
3. ให้ทุกคนบนโลกมีสุขภาพดี อยู่อย่างเป็นสุข
4. ให้มีการศึกษาที่ทัดเทียมกันและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
5. ให้มีความเท่าเทียมกันทางเพศ ผู้หญิงและเด็กหญิงสามารถกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้
6. ให้มีน้ำใช้ที่สะอาดเพื่อบริโภค
7. ให้มีการเข้าถึงแหล่งพลังงานสมัยใหม่ที่ถูกและยั่งยืน
8. ส่งเสริมให้เศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืนไปทั่วทุกภาคส่วน มีการจ้างงานเต็มที่ และเป็นงานที่ดีสำหรับทุกคน
9. สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคง พัฒนาระบบอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม
10. ลดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศ
11. ทำให้เมืองต่างๆ น่าอยู่ ปลอดภัย และยั่งยืน
12. ปีการบริโภคและการผลิดที่ยั่งยืน
13. ต่อสู้กับภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก (climate change) และผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม
14. อนุรักษ์มหาสมุทร ท้องทะเลและแหล่งทรัพยากรทางน้ำ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
15. ดูแลระบบสภาพแวดล้อม ป่าไม้ หยุดการเสื่อมโทรมของดิน และหยุดยั้งการสูญเสียความหลายหลากทางชีวะพันธุ์
16. ส่งเสริมความสงบของสังคมทั้งโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีความยุติธรรมสำหรับทุกคน ผ่านสถาบันที่มีประสิทธิภาพและมีความรับผิดชอบ
17. ส่งเสริมความร่วมมือระดับโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ฟังดูก็ดี แต่เอะใจขึ้นมาทันที นี้มันเหมือนการวาดฝันของสังคมในอุดมคติของพวกคอมมิวนิสต์ หรือสังคมที่ไม่มีชนชั้นไม่ใช่หรือ? ยูเอ็นเป็นคอมมิวนิสต์ไปตั้งแต่เมื่อไหร่?
โลกใบนี้ถูกครอบงำโดยยูเอ็น และองค์กรที่อยู่ภายใต้ร่มเดียวกันเช่นกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก ที่ปกป้องดอลล่าร์สหรัฐและผลประโยชน์ของมหาอำนาจมานานตั้งแต่เริ่มก่อตั้งช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ยูเอ็นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการส่งเสริมและดำเนินตามหลักการเสรีนิยมประชาธิปไตย ทุนนิยมการเงินและทุนนิยมการผลิต ตั้งเป้าหมายจีดีพีให้โตต่อเนื่องอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เปิดเสรีการเงินการค้า ขโมยหรือปล้นทรัพยากรของประเทศที่อ่อนแอผ่านสงครามและการปฏิวัติ โดยที่แอบปกป้องบริษัทยักษ์ (big corporations) และแบงค์ยักษ์ที่ปล่อยให้ล้มไม่ได้ (too big to fail banks)ที่โรม ลอนดอน นิวยอร์คเป็นเจ้าของที่แท้จริง
มันจึงเป็นเรื่องที่ขัดกันที่ยูเอ็นสงเสริมให้ทำลายทรัพยากรของโลกเพื่อดันจีดีพีโลก และสร้างความร่ำรวยให้โรม ลอนดอน นิวยอร์ค ทำให้โลกเรามาถึงจุดตกต่ำทุกวันนี้ โดยมีความแตกต่างอย่างมากในเรื่องมาตรฐานการดำรงชีพระหว่างประเทศที่พัฒนาและประเทศที่ด้อยหรือกำลังพัฒนา
วันดีคืนดียูเอ็นกลับมาตั้งเป้าหมายเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนให้โลกอยู่ได้ที่ขัดกันกับสิ่งที่ตัวเองทำมาตลอด
ที่สำคัญ ยูเอ็นแอบมาขโมยเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงของเราตั้งแต่เมื่อใด?
แต่ก็คงจะเอาเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนมาหลอกชาวโลกที่โง่เขลาอีกเช่นเคย เพราะว่าเป้าหมายที่แท้จริงของยูเอ็นคือการบริหารโลกทั้งใบผ่านรัฐบาลโลกที่ตัวเองกำลังจะเป็น โดยที่ประเทศต่างๆจำต้องยอมสละอำนาจอธิปไตย เพื่อยอมตามการกำกับของยูเอ็นที่จะใช้หลักธรรมาภิบาลโลกมาครอบอีกที
ปีแห่งเสียงแตรนี้ ยูเอ็นจะเป่าแตรเพื่อต้อนให้ทุกประเทศเข้าคอก รอวันโดนเชือดโดนเฉือนอีกที
thanong
20/5/2015
2015 - United Nations sustainable development agenda

 

ครม.เด้ง ' ปลัดทส.-ไอซีที ' เข้ากรุผู้ตรวจสำนักนายกฯ | เดลินิวส์



„ครม.เด้ง ' ปลัดทส.-ไอซีที ' เข้ากรุผู้ตรวจสำนักนายกฯ ครม.ตั้ง 'คุรุจิต' นั่งปลัดพลังงานตามโผ พร้อมเด้ง 2 ปลัดหญิง 'ทส-ไอซีที' นั่งผู้ตรวจพิเศษสำนักนายกฯ เซ่นคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2558 วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม 2558 เวลา 16:52 น.

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติรับโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามข้อ 1 วรรคสาม ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 ลงวันที่ 15 พ.ค.2558 จำนวน 2 ราย ได้แก่ นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อประโยชน์ของทางราชการในการปฏิรูปราชการแผ่นดินด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนางเมธินี เทพมณี ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ซึ่งผู้มีอำนาจสั่งบรรจุของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยินยอมในการโอนแล้ว อย่างไรก็ตามการโยกย้ายดังกล่าว นายกรัฐมนตรีระบุว่าไม่อยากให้มองให้เป็นความผิด แต่ขอให้เป็นไปตามกระบวนการสอบสวน อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามีรายชื่อทั้งสองราย อยู่ในบัญชีที่มีการตรวจสอบด้วย พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ครม. มีมติแต่งตั้ง นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงาน ขณะที่กระทรวงยุติธรรม มีการแต่งตั้งข้าราชการ 5 ราย ได้แก่ นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร รองปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง นายไพฑูรย์ สว่างกมล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง นางฉลอง อติกนิษฐ รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง และ น.ส.พรพิตร นรภูมิพิภัชน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ครม.ยังรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีกหน้าที่หนึ่ง จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงแทนตำแหน่งที่ว่างลง ทั้งนี้เพื่อให้งานด้านการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต่อเนื่อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ. ข่าวที่เกี่ยวข้อง... ' รมว.ไอซีที ' ยันเด้งปลัด ไม่ใช่ปัญหาขัดแย้งทำงาน“

อ่านต่อที่ : ครม.เด้ง ' ปลัดทส.-ไอซีที ' เข้ากรุผู้ตรวจสำนักนายกฯ | เดลินิวส์

 

ปรากฏการณ์ 'ผมนางฟ้า' ลูกแมงมุมนับล้านปลิวว่อน | เดลินิวส์



„ปรากฏการณ์ 'ผมนางฟ้า' ลูกแมงมุมนับล้านปลิวว่อน มีรายงานการพบเห็นปรากฏการณ์ 'ผมนางฟ้า' ทางตะวันตกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก เมื่อลูกแมงมุมนับล้านตกจากฟ้า วันพุธที่ 20 พฤษภาคม 2558 เวลา 2:27 น.

<iframe width="584" height="389" src="https://www.youtube.com/embed/4A1VFYz9ld8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="584" height="389" src="https://www.youtube.com/embed/pUwHAfRKUkc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เว็บไซต์ข่าวเอบีซี ประเทศออสเตรเลีย รายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ว่า มีรายงานปรากฏการณ์ 'แองเจิล แฮร์' หรือเส้นผมนางฟ้า เกิดขึ้นในเมืองโกลเบิร์น ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในชาวเมืองผู้พบเห็นเล่าว่า มันคือลูกแมงมุมนับล้านที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับใยของมัน ก่อนจะค่อยๆ ร่วงลงสู่พื้น และปกคลุมเต็มหลังคาบ้านของเขา ริค เวตเตอร์ นักวิจัยอาวุโสผู้เชี่ยวชาญด้านกีฏวิทยา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตริเวอร์ไซด์ สหรัฐ อธิบายว่า มันคือวิธีในการกระจายตัวที่เรียกว่า บอลลูนนิง ซึ่งเกิดหลังจากลูกแมงมุมฟักออกจากไข่ ความแออัดท่ามกลางพี่น้องจำนวนมหาศาล ทำให้พวกมันพยายามสร้างพื้นที่ของตัวเอง โดยเมื่อมันไต่ขึ้นสู่ที่สูง ก็จะปล่อยใยออกมา ซึ่งใยนั้นจะทำหน้าที่เป็นร่มชูชีพที่พามันปลิวไปกับลม ไมค์ เดรนีย์ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแมงมุมและชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-กรีนเบย์ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่มีบอลลูนแมงมุมมากมายขนาดนั้น แสดงว่าต้องมีแม่แมงมุมจำนวนไม่น้อยเช่นกัน และคาดว่าน่าจะเต็มไปด้วยลูกแมงมุมจากหลากหลายสายพันธุ์ โดยปัจจัยหนึ่งที่มีผลอย่างยิ่งคือสภาพอากาศ ซึ่งจะต้องไม่ใช้วันที่มีลมแรง แต่เป็นกระแสลมอุ่นที่พัดขึ้นสูง ทั้งนี้ เดรนีย์ยังแนะอีกว่า ไม่มีความจำเป็นต้องกลัวลูกแมงมุมเหล่านั้น เพราะมันยังเด็กเกินกว่าจะทำอันตรายเราได้. ที่มา: http://abcnews.go.com/International/baby-spiders-reportedly-rain-australian-town/story?id=31150629“

อ่านต่อที่ : ปรากฏการณ์ 'ผมนางฟ้า' ลูกแมงมุมนับล้านปลิวว่อน | เดลินิวส์

 

Kaokala Fc
19 พ.ค. วีรกรรมแสบ!ชายสหรัฐแอบแฮกนกเหล็กทำบินเอียงกลางเวหา



ชายสหรัฐก่อวีรกรรมสุดแสบ แอบแฮกนกเหล็กให้บินเอียงกลางเวหา อ้างแค่ต้องการช่วยแก้ไขช่องโหว่ของระบบความปลอดภัย

เว็บไซต์ข่าว'ดิอินดีเพ็นเดนต์' ของอังกฤษ ได้ตีแผ่เรื่องราววีรกรรมสุดแสบของแฮกเกอร์ชาวสหรัฐฯ จากแฟ้มคดี'เอฟบีไอ' (FBI) เมื่อนายคริส โรเบิร์ต ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์มืออาชีพได้คิดอุตริแฮกระบบควบคุมของเครื่องบินที่กำลังโดยสาร ก่อนจะสั่งการให้เครื่องยนต์เครื่องหนึ่งไต่ระดับขึ้นส่งผลให้ตัวเครื่องเอียงไปด้านข้างขณะอยู่กลางอากาศ

รายงานของเอฟบีไอระบุว่า โรเบิร์ต ได้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์พกพาของเขาเข้ากับกล่องอิเล็กทรอนิกส์ใต้ที่นั่งของเขา ซึ่งกล่องดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของระบบความบันเทิงบนเครื่องบิน(in-flight entertainment system : IFE) จากนั้นได้เจาะเข้าสู่ระบบควบคุมเครื่องบินและได้สั่งการให้เครื่องยนต์ 1 เครื่องไต่ระดับขึ้น

โรเบิร์ตรับสารภาพว่า ได้สร้างวีรกรรมแอบแฮกระบบรักษาความปลอดภัยบนเครื่องบินมาประมาณ 15-20 ครั้งแล้วในช่วงปี 2011-2014 ทั้งนี้เขาอ้างว่าเพียงแค่ต้องการแก้ไขช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยบนเครื่องบินเท่านั้น

หลังก่อเหตุครั้งล่าสุด โรเบิร์ตถูกเจ้าหน้าที่จับได้พร้อมของกลางเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขณะลงจากเครื่อง ก่อนจะถูกตักเตือนไม่ให้ทำอีกเพราะถือว่าเป็นภัยความมั่นคงต่อรัฐ โรเบิร์ตจึงให้สัญญาว่าจะไม่แฮกเครื่องบินโดยสารใดๆ อีกต่อไป

รายงานระบุว่า นายโรเบิร์ตไม่ได้ถูกตั้งข้อหาใดๆ ขณะที่สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ได้ขึ้นบัญชีดำห้ามหนุ่มรายนี้โดยสารเครื่องบินของทางสายการบินเด็ดขาดแล้ว

ที่มา : independent, USAToday
: http://www.posttoday.com/…/วีรกรรมแสบ-ชายสหรัฐแอบแฮกนกเหล็ก…

 

Kaokala Fc
19 พ.ค. สหรัฐฯ โชว์โดรนจิ๋วพร้อมรบ-ไอเดียจากจักจั่น



นักวิทย์กองทัพสหรัฐฯ พัฒนาโครนจิ๋วขนาดเท่าฝ่ามือ พร้อมสำหรับปล่อยจากฟ้าเพื่อปฏิบัติการทหาร ออกแบบมาให้เล็ก ราคาถูก และเรียบง่ายกว่าอากาศยานอื่นๆ แต่ยังสามารถปฏิบัติภารกิจในสนามรบได้อย่างสมบูรณ์ โดยการควบคุมระยะไกล

โดรนจิ๋วของกองทัพสหรัฐฯ ที่นักวิทยาศาสตร์ในสังกัดพัฒนาขึ้นมานี้มีชื่อเรียกล้อจักจั่นว่า “ซิคาดา” (Cicada) ซึ่งเป็นแมลงที่สร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนา จากการที่จักจั่นใช้เวลาอยู่ใต้นานหลายปี ก่อนจะโผล่ขึ้นมาเป็นฝูง สืบพันธุ์และตายตกสู่พื้นดิน

นักวิจัยเผยว่าชิ้นส่วนของยานซิคาดามีเพียง 10 ชิ้น ประกอบกันเหมือนเครื่องบินกระดาษที่ใช้เพียงแผงวงจรเล็กๆ และไม่ต้องใช้มอเตอร์เพื่อขับเคลื่อน อีกทั้งยังออกแบบให้ร่อนไปตามพิกัดจีพีเอส (GPS) ที่โปรแกรมไว้ หลังจากถูกปล่อยจากเครื่องบิน บอลลูนหรือโดรนลำใหญ่

จากการทดสอบเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาในเมืองยูมา รัฐแอริโซนา สหรัฐฯ โดยปล่อยยานซิคาดาลงมาจากระดับความสูง 17,500 เมตร พบว่าโดรนจิ๋วบินหรือตกลงเป็นระยะทาง 17 กิโลเมตร ก่อนจะลงจอดภายในระยะ 15 ฟุตจากเป้าหมาย และโดรนจักจั่นนี้ยังบินได้ด้วยความเร็ว 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อย่างเงียบๆ และไม่ต้องใช้เครื่องหรือระบบขับดันใดๆ

“มันเหมือนนกบินลงมา แต่มันก็มองเห็นได้ยาก” เดเนียล เอ็ดเวิร์ดส (Daniel Edwards) วิศวกรการบินจากห้องปฏิบัติการวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าว

ในการทดสอบการบินโดดรนซิคาดายังส่งมีเซนเซอร์ที่ส่งข้อมูลสภาพอากาศกลับมายังศูนย์ควบคุมได้ ทั้งอุณหภูมิ ความดันอากาศและความชื้น ซึ่งทีมวิจัยระบุว่า โดรนนี้ควรถูกใช้ภารกิจหลายๆ ด้าน และติดตั้งเซนเซอร์น้ำหนักเบาหลายชนิด รวมถึงติดไมโครโฟนด้วย

“พวกมันคือหุ่นยนต์นกพิราบแบกสัมภาระ คุณบอกจุดหมายให้พวกมันไป และพวกมันก็จะไปยังจุดหมายนั้น” เอ็ดเวิร์ดกล่าว

อีกหนึ่งภาพฉายที่น่าจะเป็นไปได้ในการใช้โดรนจิ๋วนี้คือการใช้สอดส่องการจราจรบนเส้นทางไกลนอกเขตแดนของศัตรู โดยคาห์นได้อธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อติดตั้งไมโครโฟนหรือเครื่องตรวจวัดการสั่นสะเทือน ปล่อยโดรนลงบนถนน แล้วโดรนเหล่านั้นก็จะบอกว่า ได้ยินเสียงรถบรรทุกหรือเสียงรถเก๋งบนถนน และจะทั้งความเร็วและทิศทางที่ยานพาหนะเหล่านั้นมุ่งหน้าไป

นักวิจัยระบุอีกว่า โดรนขนาดเล็กนี้ยังสามารถติดตั้งเซนเซอร์แม่เหล็กเพื่อตรวจจับเรือดำน้ำของภายตรงข้าม หรือเพื่อลอบฟังกองกำลังหรือการสื่อสาร แต่การติดตั้งอุปกรณ์ป้อนภาพวิดีโอกลับเป็นเรื่องยากเพราะการคัดลอกวิดีโอนั้นต้องใช้ช่วงความถี่ของคลื่นวิทยุหรือแบนด์วิดธมาก

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้โดรนยังอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งการใช้งานช่วงแรกจะเป็นงานนอกสนามรบอย่างการพยากรณ์อากาศก่อน ซึ่งนักนักอุตุนิยมวิทยาที่พยายามคาดการณ์การเกิดพายุทอร์นาโด ต้องอาศัยข้อมูลอุณหภูมิที่บันทึกจากภาคพื้น แต่โดรนซิคาดาจะให้ข้อมูลอุณหภูมิมากมายที่อ่านได้จากอากาศ ซึ่งจะให้ข้อมูลมากพอสำหรับสร้างแบบจำลองสามมิติสำหรับคาดการ์ณทอร์นาโด

แม้จะดูเหมือนของเด็กเล่นแต่โดรนซิคาดายังทนทานมาก โดยเอ็ดเวิร์ดอธิบายว่าเราโยนโดรนจิ๋วนี้ออกจากเครื่องบินซี-130 ได้โดยโดรนไม่เสียหาย โดรนยังบินผ่านต้นไม้ ตกกระแทกถนนลาดยางมะตอย ล้มใส่กล้อนกรวด หรือมีเม็ดทรายเข้าไปในเครื่องได้โดยไม่เป็นอะไร แต่สิ่งเดียวที่ทำลายโดรนนี้ได้คือพุ่มไม้ทะลทราย

http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx…

 

Kaokala Fc
19 พ.ค. ทบ.สหรัฐฯ ทดสอบ ‘รถถังรีโมท’



กองทัพบกสหรัฐฯทดสอบรถถังควบคุมระยะไกล สามารถบรรจุกระสุนและเปลี่ยนปืนได้เพียงกดปุ่มรีโมท หวังใช้วิ่งนำขบวนรถรบเข้าสู่สมรภูมิ ลดความเสี่ยงสูญเสียทหารเมื่อเข้าตีข้าศึก

<iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/AfVXPSNXTAk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
(ชมคลิป https://www.youtube.com/watch?v=AfVXPSNXTAk)

รถถังคันนี้มีชื่อว่า Ripsaw เป็นยานรบที่ติดตั้งปืนกลได้หลายชนิด หลายขนาด ควบคุมระยะไกลจากรถลำเลียงพลหุ้มเกราะที่แล่นตามในระยะ 1 ก.ม. มีทหารคนหนึ่งคอยกดรีโมท ควบคุมทั้งรถถังและปืน ขณะทหารอีกคนทำหน้าที่ขับรถเอพีซี

บ็อบ เทสตา แห่งแผนกอาวุธระยะไกล ศูนย์วิศวกรรม วิจัย และพัฒนาอาวุธยุทธภัณฑ์ บอกว่า ทีมของเขาไม่ได้ประดิษฐ์สิ่งใหม่ แต่นำเทคโนโลยีบังคับขับเคลื่อนระยะไกลของบริษัท Howe and Howe Technologies มาปรับประยุกต์ใช้ในทางการทหาร

การปรับประยุกต์ที่ว่านี้ทำโดยการติดตั้งระบบสั่งยิงจากระยะไกล ที่เรียกว่า CROWS ย่อมาจาก Common Remotely Operated Weapons Station

ระบบนี้ได้นำไปใช้ในอิรักตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งทำให้ทหารภายในรถถัง รถฮัมวี รถสไตรค์เกอร์ สามารถยิงปืนได้โดยไม่ต้องเข้าใกล้ข้าศึก ไม่ต้องแม้แต่ชะโชกหรือโผล่ศีรษะพ้นรถ เพราะกล้องและอุปกรณ์คำนวณระยะห่างทำหน้าที่เป็นดวงตาให้พลยิง อีกทั้งระบบยังเอนหรือหมุนปืนได้ด้วย

อย่างไรก็ดี ใช่ว่าทหารบนรถควบคุมจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์ ถ้ารถแล่นเหยียบทุ่นระเบิด หรือถูกยิง ทหารก็อาจเสียชีวิตหรือบาดเจ็บได้

แม้เทคโนโลยีมีศักยภาพที่จะพัฒนาไปถึงขั้นหุ่นยนต์รบ แต่ทางกองทัพบอกว่า นั่นจะเป็นการผิดจริยธรรม สงครามเป็นกิจการของมนุษย์ หุ่นยนต์จะไม่เข้าแทนที่ทหาร การตัดสินใจลั่นไกสังหารต้องเป็นเรื่องของมนุษย์เท่านั้น

Source: Daily Mail
Photo: U.S. Army
Video: Howe & Howe

ทบ.สหรัฐฯ ทดสอบ ‘รถถังรีโมท’ - VoiceTV

 

Kaokala Fc
19 พ.ค. จังหวัดภูเก็ตจัดฝึกซ้อมใหญ่ประจำปี หนีภัยฯ “สึนามิ”



จังหวัดภูเก็ตจัดฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยว

ชมประมวลภาพ จากเพจ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.821549451273251.1073747698.251594288268773&type=1

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 19 พ.ค. 58 ที่บริเวณศาลาเอนกประสงค์บ้านแหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต (ปภ.) ร่วมกับเทศบาลตำบลรัษฎา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบมีความเข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตนเองในการเตรียมความพร้อมในภาวะปกติ และการบริหารจัดการเมื่อเกิดภัยขึ้น รวมทั้งประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ โดยมีส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน สถานศึกษา ภาคเอกชน องค์กรมูลนิธิ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม

ทั้งนี้ได้มีการสมมติสถานการณ์ว่าเกิดแผ่นดินไหวในทะเลมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณด้านทิศใต้ อ.เกาะยาว จ.พังงา ที่ละติจูด 7.87 องศาเหนือ ลองจิจูด 98.57 องศาตะวันออก ความลึกประมาณ 10 กิโลเมตร ขนาด 5.0 ริกเตอร์ รับรู้แรงสั่นไหวบริเวณพื้นที่ จ.พังงา ภูเก็ตและกระบี่ ขณะเดียวกันได้เกิดแผ่นดินไหวบริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตร ประเทศอินโดนีเซีย โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้แจ้งเตือนมายังจังหวัดภูเก็ตให้เตรียมความพร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากเกิดเหตุสึนามิให้อพยพขึ้นที่สูงโดยด่วน และทางจังหวัดภูเก็ตได้แจ้งเตือนไปยังทุกอำเภอที่มีพื้นที่เสี่ยงภัย ตลอดจนท้องถิ่นและชุมชนเตรียมความพร้อม

ขณะที่นายนิสิต กล่าวถึงผลการฝึกซ้อมว่า ในภาพรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจ แต่เป็นห่วงในเรื่องการรับรู้ของประชาชนเกี่ยวกับที่ตั้งของจุดพักพิงในช่วงที่เกิดเหตุ ซึ่งการซ้อมแผนในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวภูเก็ตในการช่วยเหลือ รับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติ สร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตรวมถึงนักท่องเที่ยวที่อาจจะประสบภัยในขณะที่เกิดสึนามิ

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php…

 

'แยม ฐปนีย์' สุดทน! ขอแจงทุกข้อกล่าวหา
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 20 พฤษภาคม 2558, 10:18



โต้ขาเมาท์! "แยม ฐปนีย์" สุดทน ขอแจงทุกข้อกล่าวหา ย้ำตั้งใจทำงานสื่อกว่า15ปี อยากขอความเป็นธรรมปมไม่รักชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีการทำหน้าที่ของ น.ส.ฐปนีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวช่อง 3 เกี่ยวกับโรฮิงญา จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์

ล่าสุด น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวช่อง 3 โพสต์เฟซบุ๊ก Thapanee Ietsrichai ถึงกรณีดังกล่าวในช่วงเช้าวันนี้ (20พ.ค.) ระบุว่า พยายามคิดว่า การเงียบ เข้มแข็ง และ ตั้งใจทำงาน ไม่ตอบโต้อะไร น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ต่อสถานการณ์นี้แต่ความเกลียดชังที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทำให้เสียใจและคิดไปมากมาย ได้อ่านคอมเม้นต์ที่วิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งท้อ ทั้งคำกล่าวหา ไม่รักชาติ ทั้งข้อกล่าวหา ทำไมไม่ทำข่าวคนทุกข์ยากในไทย ไม่ทำข่าวสามจังหวัดชายแดนใต้ หรือขับไล่ให้ลงเรือไปกับชาวโรฮิงญา

จริงๆ ก็มีเหตุผลมากมายอยากอธิบาย อยากขอความเป็นธรรม แต่ไม่รู้จะมีใครรับฟังบ้าง เพราะดูเหมือนสังคมนี้ กำลังจะบอกให้ ฐปณีย์ หยุด จึงต้องคิดทบทวนค่ะหากการดำรงอยู่ในวิชาชีพสื่อมวลชน การตั้งต้นอยู่ในความตั้งใจเพื่อประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ การตั้งต้นในการทำข่าวเพื่อช่วยเหลือผู้คน การทุ่มเทเวลาทั้งหมดในชีวิต ตลอด 15 ปีในวิชาชีพนี้ การทำความดี มันเป็นสิ่งผิด

หากการทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจดี มันทำให้เกิดความรู้สึกไปมากมายขนาดนี้ คงต้องขอโทษและขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่ะและถึงเวลาต้องบอกตัวเองให้หยุด จริงๆ ก็เหนื่อยมามากแล้ว ถ้าไม่มีนักข่าวชื่อ ฐปณีย์ อะไรๆ มันอาจง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอบคุณหลายกำลังใจที่มีให้นะคะ

และ ขอแสดงความรับผิดชอบหากการทำหน้าที่ทำให้เกิดปัญหามากมายขนาดนี้มีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากบอกค่ะจะด่าว่า จะกล่าวหา ฐปณีย์ อย่างเสียหายก็พยายามอดทนค่ะ

แต่สิ่งที่เสียใจมากที่สุดขณะนี้คือ การที่ข่าวนี้กำลังทำให้เกิดความเกลียดชังต่อเพื่อนมนุษย์ กำลังถูกเชื่อมโยงการเมือง และส่อเค้าบานปลายถึงความขัดแย้งทางศาสนา

ขอยืนยันว่า การนำเสนอข่าวที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮิงญา ได้ทำตามหน้าที่ของสื่อมวลชน และเพื่อนมนุษย์อย่างดีที่สุดแล้ว ไม่มีเบื้องหลังและเจตนาใด นอกจากติดตามเรื่องนี้มาหลายปีและอยากเห็นการแก้ปัญหาให้ลุล่วงต่อข้อกล่าวหา บางเรื่องไม่ถูกต้อง จึงต้องชี้แจงว่า

ฐปณีย์ไม่เคยพูดว่าให้ตั้งศูนย์พักพิง

ฐปณีย์ ไม่เคยพูดว่ารัฐบาลไทยต้องดูแล

แต่ได้บอกเล่าถึงชีวิตและชะตากรรมของคนเหล่านี้ ในฐานะนักข่าวที่ได้ขึ้นไปสัมผัสชีวิตบนเรือของผู้อพยพชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นภาพแรกที่เราได้เห็นว่าพวกเขาเป็นอย่างไร และเจ้าหน้าที่ไทยได้ทำดีที่สุดแล้วแค่อยากให้โลกรับรู้ถึงชีวิตและชะตากรรมของพวกเขา เพื่อสังคมโลกจะช่วยกันหาทางออก ก็เท่านั้นเองค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จะพิจารณาตัวเองและรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ
- See more at: 'แยม ฐปนีย์' สุดทน! ขอแจงทุกข้อกล่าวหา

'แยม ฐปนีย์' สุดทน! ขอแจงทุกข้อกล่าวหา

 

Sanpet Jiam J และ คข.การจัดการ ภัยพิบัติพื้นที่ภาคใต้ ได้แชร์รูปภาพของ Ramrome Ronphibun



แผ่นดินไหว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก (17.15,101.05) ขนาด 2.8 วันที่ 20 พฤษภาคม 2558 เวลา 04:59 น. ตามเวลาประเทศไทย

 

In & Outside World



ท่อส่งน้ำมันแตก แคลิฟอร์เนีย
.....น้ำมันไหลลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกตามชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย
หน่วยยามฝั่งสหรัฐประมาณการว่าประมาณ 21,000 แกลลอนน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่มหาสมุทร ทิ้งคราบบนพื้นผิวประมาณ 100 ฟุตกว้างประมาณครึ่งไมล์
Oil spills off California coast in pipeline burst - CBS News
Pipeline Burst Along Santa Barbara Coast Spills Into 4-Mile Long Oil Slick