ถาม-ตอบ โดย หลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชโช

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย pump - อภิเตโช, 16 พฤศจิกายน 2009.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ดังอธิบายในข้อต้น
    จะรู้ทันอาการของจิตเร็วขึ้น จนจิตจะกระด้างคุ้นชินต่ออารมณ์
    เพราะ เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองวางเฉยต่ออารมณ์ได้(ไม่ปรุง) ..... ซึ่งแท้จริงไม่ใช่เลย

    เพราะตามดูความคิดจนจิตคุ้นชินต่ออารมณ์เหล่านั้น
    พอเกิดปั๊บ รู้ปุ๊บ เพราะคุ้นเคยว่า เดี๋ยวก็ดับไปเอง
    มีอารมณ์เฉยมาแทนที่ เพราะความที่สั่งตัวเองว่าให้ดูเฉยๆ
    เป็นความเฉยที่ไม่ได้เกิดจากปัญญาในการปล่อยวางอารมณ์
    ไม่ใช่ปัญญาที่ไหนหรอกครับ เป็นการหลอกตัวเองไปวันๆเท่านั้น

    พอกลับสู่สภาวะเดิม ดูจิตคิดไปเรื่อยๆจนเหนื่อยหน่ายเช่นเดิม
    วนเวียนเป็นวัฏฏะอยู่แบบนี้ เมื่อไหร่หละจึงจะสิ้นสุดสักที(หยุดคิดเป็น)
    มีแต่รู้เร็วขึ้น แต่ไม่ใช่เพราะมีปัญญา แต่เป็นสัญญาที่คุ้นชินต่ออารมณ์
    ทำให้จิตหยาบกระด้างโดยไม่รู้ตัว เมื่อเจออารมณ์ก็จะเฉยๆ
    ไม่ใช่เฉยเพราะปล่อยวางอารมณ์ แต่เฉยเพราะอยู่ในอารมณ์เฉยๆต่างหาก

    เป็นการบ่มเพาะความทุกข์ให้เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะยังวนเวียนอยู่ในวัฏฏะ
    ยังไม่ได้แม้แต่สักก้าวที่จะออกจากวัฏฏะเลย นั่นคือ พลิกออกจากทุกข์ไม่เป็น

    ;aa24
     
  2. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192

    ท่านกล่าวถึงหลวงปู่ดูลย์ พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
    ผู้ที่ท่านมักนำมาอ้างว่าตนเป็นศิษย์ ว่ากล่าวธรรมคลาดเคลื่อน

    อันนี้ไม่ทราบว่าท่านกำลังสอนศีลธรรม จริยธรรมให้ลูกศิษย์ของท่านกระมัง

    [​IMG]
     
  3. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ผิดแล้วคุณ การดูจิตนี่ ง่ายสำหรับทุกคนนะ คนไม่มีสติก็ดูได้ดูเท่าที่สติจะมี
    แต่ถ้าไม่มีเลยก็ดูไม่ได้จริงๆแฮะ

    ดูจิตนี่ง่ายสุดแล้วดูเฉยๆ คอยชำเลืองดูจิต บ่อยๆ ก็บรรลุเอง . . . บางคนเรียกกรรมฐานครอบจักรวาลนะ (k).
    ดูจิตยังทำไม่ได้นี้อย่างอื่นก็คงทำไม่ได้ทั้งหมดละแค่ ดู ดู ดู ดู ดู ดู
     
  4. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความคิดเห็นครับ ทุกท่านเรียนรู้มาดีแล้ว

    กราบขออภัยล่วงหน้าครับ โดยส่วนตัวผม การฟังธรรม ต้องตั้งใจให้เป็นกลาง ฟังไปพิจารณาตามไป พระอาจารย์มั่นและหลวงปู่แหวน กล่าวว่า พระธรรม 84,000 พระธรรมขันธ์นั้น รวมอยู่ที่กายเรานี่แหละ ไม่ต้องไปดูไกลตัว ดูที่ตัวเราเอง

    ผมคิดว่าการไปนั่งจับผิด ผู้หนึ่งผู้ใดก็ดี แม้ว่าเขาจะดีจริงหรือไม่ดีจริง ก็ไม่ใช่ทางของผู้ที่ดำริที่จะออกจากทุกข์ แต่เป็นทางของผู้ที่ดำริที่จะอยู่กับทุกข์มากกว่า พระพุทธเจ้าท่านว่า อย่าพึ่งไปเชื่อเพราะเขาเป็นครูเราฉันใด เราก็ต้องคิดแบบพระองค์ท่าน ธรรมใดว่าดี เราน้อมนำมาปฏิบัติ ธรรมใดว่าไม่ใช่ทางดับทุกข์ก็รับทราบไว้ ประดับความรู้ เพราะไม่มีธรรมใดที่จะไม่มีประโยชน์ เพราะทุกอย่างในโลกนี้นั้นเป็นครูสอนเราได้ ถ้าเรานำมาประยุกต์ใช้ด้วยปัญญาครับ
     
  5. innertruth

    innertruth Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +64
    ขอบคุณธรรมภูติสำหรับคำชี้แจง ขอน้อมรับไว้บางข้อ บางข้อก็ยังไม่เชื่อนะครับ เพราะผมก็ดูจิตควบอานาปานสติ แล้วก็พบว่า บางครั้ง การดูจิตสามารถช่วยให้เกิดปัญญาบางอย่างได้.. แต่ผมก็ยังอยู่เลขหลักกิโลต้นๆ คงไม่สามารถ เอาข้อปริยัติ หรือปฏิบัติมาแย้งได้ เพราะยังไม่ได้รู้แจ้งเอง

    น่าสนใจที่ว่า การดูจิต เป็นเพียงแค่สัญญาที่คุ้นเคย ยังไม่ค่อยจะซื้อไอเดียนี้เท่าไหร่ แต่ว่าคงต้องปฏิบัติเองถึงจะรู้ ขอน้อมรับความเห็นไว้แล้วกันครับ

    อนุโมทนา

     
  6. aum hermit

    aum hermit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +124
    อานาปานสติ เป็นยอดกรรมฐาน เหมาะกับทุกจริตครับ เป็นกรรมฐานกลาง เป็นกรรมฐานพื้นฐาน
    เพราะลมหายใจทุกคนมีครับ ถ้าไม่มีก็ตายครับ เลยทำได้ตลอดเวลาครับ

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CUsers%5CNEWADW%7E1%5CAppData%5CLocal%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-2130706429 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} /* List Definitions */ @list l0 {mso-list-id:300155431; mso-list-type:hybrid; mso-list-template-ids:-1691591984 539552242 67698713 67698715 67698703 67698713 67698715 67698703 67698713 67698715;} @list l0:level1 {mso-level-tab-stop:63.0pt; mso-level-number-position:left; margin-left:63.0pt; text-indent:-18.0pt;} ol {margin-bottom:0cm;} ul {margin-bottom:0cm;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]กรรมฐานที่เหมาะกับจริต [/FONT][FONT=&quot]เป็นดังนี้[/FONT][FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
    <!--[if !supportLists]-->[FONT=&quot]1.[/FONT]<!--[endif]-->[FONT=&quot]คนราคะจริต รักสวยรักงาม ใช้ อสุภะ [/FONT][FONT=&quot]10 และอนุสติ ข้อ 8 <o></o>[/FONT]
    <!--[if !supportLists]-->[FONT=&quot]2.[/FONT]<!--[endif]-->[FONT=&quot]คนโทสะจริต โกรธง่ายใจร้อน ใช้พรหมวิหาร [/FONT][FONT=&quot]4 และอนุสติข้อ 9 (ลมหายใจ)<o></o>[/FONT]
    <!--[if !supportLists]-->[FONT=&quot]3.[/FONT]<!--[endif]-->[FONT=&quot]คนโมหะจริต หลงลืม เลื่อนลอย ใช้อนุสติข้อ [/FONT][FONT=&quot]9 (ลมหายใจ)<o></o>[/FONT]
    <!--[if !supportLists]-->[FONT=&quot]4.[/FONT]<!--[endif]-->[FONT=&quot]คนศรัทธาจริต เชื่อง่ายๆ ใช้อนุสติ [/FONT][FONT=&quot]6 ข้อแรก<o></o>[/FONT]
    <!--[if !supportLists]-->[FONT=&quot]5.[/FONT]<!--[endif]-->[FONT=&quot]คนพุทธิจริต ช่างคิด ช่างพิจารณา ใช้อนุสติ [/FONT][FONT=&quot]4 ข้อท้าย และหมวดย่อย<o></o>[/FONT]
    <!--[if !supportLists]-->[FONT=&quot]6.[/FONT]<!--[endif]-->[FONT=&quot]คนวิตกจริต ฟุ้งซ่าน วิตกกังวล ใช้กสิณ [/FONT][FONT=&quot]10 และอนุสติ ข้อ 9 (ลมหายใจ)<o></o>[/FONT]

    จะปฏิบัติอย่างไรก็แล้วแต่จริตคนครับ
    ใครที่มีบุญวาสนาบารมีมากพอ ก็จะพบกับครูบาอาจารย์ที่ดี สอนให้เรามีสัมมาทิฐิ
    ส่วนใครที่มีบุญวาสนาบารมีน้อย ก็อาจจะไม่พบ ไม่เจอ หรือ เจอแล้วอาจจะไม่สนใจก็ได้ครับ

    คนมีหลากหลาย ความเชื่อ หลากหลาย ความคิด ความเห็น ปัญญาก็ต่างกันครับ
    ศาสนา ลัทธิ ต่างๆ จึงมีอยู่มากมาย เพื่อให้เหมาะกับ สติปัญญาภูมิธรรมแต่ละคน ที่จะเชื่อ ศรัทธา ที่จะนับถือครับ

    พระอรหันต์ยังมีตั้งหลายแบบเลยครับ

    นรก ก็กว้างขวางหาประมาณไม่ได้ รับไม่จำกัด
    ใครไม่รู้จริงหลงเชื่ออะไรง่ายๆ เข้าก็ระวังไว้นะครับอันตราย

    ขันธ์ห้าไม่ใช่เรา ขันธ์ห้าไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในขันธ์ห้า ขันธ์ห้าไม่มีในเรา <<ใครหา"เรา"เจอคนนั้น จะเข้าใจเอง>>

    ขันธ์ห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    เรา หลงว่ารูป เป็นเรา ของเรา<<ใครเข้าใจความหมายนี้ด้วยใจ ไม่ได้จำ ก็จะเข้าใจเอง>>
    เรา หลงเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นเรา เป็นของเรา<<ใครเข้าใจความหมายนี้ด้วยใจ ไม่ได้จำ ก็จะเข้าใจเอง>>

    ส่วนคำว่าดูจิตนั้น ใครเป็นคนรู้ คนดูจิต และจิตคืออะไร อาการของจิต คืออะไร << ก็จะเข้าใจเองเช่นกัน>>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2009
  7. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    อนุโมทนาเจ้าของโพท์สความเห็นนี้ครับ
     
  8. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ท่านครับ ถูกต้องแล้วครับที่ท่านปฏิบัติภาวนาอานาปานสติกรรมฐาน
    ควบคู่ไปกับการดูจิต เพราะการภาวนาอานาปานสติกรรมฐานนั้น เห็นพระไตรลักษณ์ได้ชัดเจน
    เป็นการดูจิตที่มีประสิทธิมากที่สุดกรรมฐานหนึ่ง ทำให้รู้จักจิตที่แท้จริง ไม่หลงไปกับอาการของจิต

    เมื่อภาวนาอานาปานสติกรรมฐานไปจนกระทั่งชำนาญคล่องแคล่วในการทำลมหายใจเข้าออก
    ได้ฐานที่ตั้งของจิต ที่เรียกว่า ได้กรรมฐาน(ฐานที่ตั้งเพื่อทำงานทางจิต อ่อนควรแก่การงาน)
    จิตจะมีกำลังสติมาก(รู้ตัวทั่วพร้อม) ย่อมรู้จักสภาวะจิตที่สงบตั้งมั่นไม่หวั่นไหวและสภาวะจิตที่วุ่นวาย

    เมื่อเวลานั้นมาถึงการดูจิตก็มีประสิทธิภาพในการปล่อยวางอารมณ์ ไม่ติดในอาการชองจิต(ติดดีในดี)
     
  9. เสฏฐวุฒิ

    เสฏฐวุฒิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +173
    คนรู้ไม่จริง เจอ คนรู้ไม่จริง โต้เถียงกันจนตายไปข้างหนึ่ง
    คนรู้ไม่จริง เจอ คน(ปฏิบัติจน)รู้จริง ไม่โต้เถียงกัน เพราะคน(ปฏิบัติจน)รู้จริงจะไม่โต้เถียงด้วย
    คน(ปฏิบัติจน)รู้จริง เจอคน(ปฏิบัติจน)รู้จริง ไม่มีเรื่องที่จะโต้เถียงกัน เพราะหมดเรื่องที่จะโต้เถียง ปฏิบัติจนเข้าใจแจ่มแจ้งโลกหมดแล้ว
     
  10. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    ดีค่ะ วันนี้เพิ่งจะฟังหลวงพ่อฤาษีเหมือนกัน
    (smile)
     
  11. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    (smile) อานาปานสติกรรมฐาน เป็นบาทฐาน เป็นพื้นฐานที่ต้องทำให้ได้เป็นอันดับแรก


     
  12. tinnakornten

    tinnakornten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +494
    ล่อแหลม ๆ อันตราย ๆ

    ผมยังไม่บรรลุ อะไร แต่รู้จักแยกแยะ บาป บุญ
    ดี ชั่ว
    มหันตภัย จากกรรมที่เกิดจากการคิด ปรุงแต่ง แล้วยึด ระวังนะ
    ตอนนี้ท่านไม่เห็น แต่หลังจาก แตกตายทำลายขันธ์ที่ท่านยึดอยู่

    มันจะสนอง!!

    ทุกข์หนอ ๆ ขอจงเป็นผู้เห็นภัย และ พ้นภัยโดยเร็วเทอญ
     
  13. tinnakornten

    tinnakornten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +494
    ขออนุโมทนา กับเจ้าของกระทู้นะครับ

    ท่านนำสิ่งที่ดีแล้ว มานำเสนอ เห็นชอบด้วยจากโอวาท
    พระอริยะเจ้าทุกประการ เพราะท่านนำเสนอธรรมที่เป็นอมต
    มิใช่เพื่อนำเสนอ ตัว เสนอ ตน อันมิใช่คำสอนของพระพุทธองค์

    ชี้ให้เห็นขนาดนี้ เวลามองดูเค้า แล้วเก็บไปสังเวทใจนะครับ
    จะได้ไม่ทำตาม เพราะจะมีที่ไปในเบื้องต้ำ
     
  14. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  15. lowprofile

    lowprofile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,391
    ค่าพลัง:
    +6,023
    อยากฟังความเห้นท่านขันธ์
     
  16. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    จัดให้ค่ะ ขออนุญาตอาจารย์ขันธ์ด้วยนะคะ

    จากกระทู้ http://palungjit.org/threads/การสอน...่านสัญชัยปริพาชกในครั้งพุทธกาล.212378/page-43

    <table id="post2629269" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">ขันธ์<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2629269", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Oct 2006
    สถานที่: หาไม่เจอว่าอยู่ตรงไหน
    ข้อความ: 5,938
    Groans: 385
    Groaned at 555 Times in 407 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 2,074
    ได้รับอนุโมทนา 13,740 ครั้ง ใน 3,841 โพส
    พลังการให้คะแนน: 950 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2629269" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->การดูจิตตามแนว พระ... เป็นที่แน่นอนแล้วว่าไม่ใช่ทางแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า
    เนื่องจาก
    1 ไม่ใช่เป็นคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ไม่ปรารภความเพียรในการดับกิเลส

    2 ไม่ปรารภในการทำสมาธิ ดังปรากฎในคำสอนว่า คนเมืองไม่ต้องทำฌาณ ฌาณจำเป็นสำหรับผู้มีบารมีแล้วเท่านั้น ฌาณเป็นวิธีสำหรับพระอภิญญาเท่า่นั้น

    3 ไม่ปรารภในศีล คือ วินัยในการสำรวม ระวัง รักษา ดังปรากฎในคำสอนว่า จิตมันอยากจะทำอะไรปล่อยให้มันทำไป คอยดูเฉยๆ


    4 ไม่ปรารภในปัญญา คือ สติ ธัมมวิจย เพียร เพื่อให้เห็นแจ้งรู้จริง

    ดังปรากฎในคำสอนว่า อย่าไปคิด คิดเป็นเหตุแห่งทุกข์ อย่าไปเพียร ให้ดูเฉยๆ

    แม้ปรากฎภายหลังว่า พระป จะพยายามแก้ต่างๆ อย่างไรก็ตามแต่ ก็เข้าหลักภาษิตที่ว่า ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวมาปิดไม่มิด
    และ คำแก้ต่าง ต่างๆ นาๆ โดยการอ้างว่า สมมติบัญญัติไม่เหมือนกัน ท่านต้องการสื่ออย่างหนึ่ง แต่คนฟังเข้าใจอีกอย่างหนึ่งเอง ข้อนี้ก็ดูเหมือนว่า จะโยนความผิดมาให้คนฟัง

    อัตตานัง โจทยัตตานัง ซ้ำร้าย ภายหลังมานี่ ปรากฎว่า ห้ามไม่ให้ บุคคลเอาคำสอนของพระท่านอื่น ไปถามพระป ด้วย โดยอ้่างว่า แนวต่างกันย่อมมีวิธีการต่างกัน

    แต่ท่านครับ ท่านจะไม่มองกลับไปที่ตนเองเลยหรือว่า ท่านสอนผิด จนไม่สามารถตอบคำถามได้

    ผมก็ฝากไว้เท่านี้
    </td></tr></tbody></table>
     
  17. ธรรมะสวนัง

    ธรรมะสวนัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,305
    ค่าพลัง:
    +1,255
    นี่แหละ อาจารย์ขันธ์ พูดแบบตรงดีจริงๆ

    (smile)

    <table id="post2586082" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] 07-11-2009, 11:05 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #24 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ขันธ์<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2586082", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Oct 2006
    สถานที่: หาไม่เจอว่าอยู่ตรงไหน
    ข้อความ: 5,938
    Groans: 385
    Groaned at 555 Times in 407 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 2,074
    ได้รับอนุโมทนา 13,740 ครั้ง ใน 3,841 โพส
    พลังการให้คะแนน: 950 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2586082" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->มีประเด็นอยู่มากมาย พอมีคนพูดตำหนิมากๆ พระปราโมทย์ท่านว่า

    หลวงพ่อ สอนเฉพาะบุคคล

    พอบอกว่า หลวงพ่อไม่มีแบบแผนหรอก เห็นจิตใครเป็นแบบใด ก็สอนแบบนั้น
    การพูดเช่นนี้อ้างเจโต อันไม่มีในตน และไม่ตรงประเด็น เป็นเพียงอ้างให้พ้นผิดไป
    เพราะปรากฎว่า ทุกคน ที่ท่านสอนมีแบบแผนเดียวกันหมด ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างอุบาย

    เพราะว่า ไม่เห็นเจโตจริง เพราะว่า เจโตนี่เขาจะเห็นกิเลส เห็นโทสะ โลภะ โมหะ ในจิต แล้วหาอุบายแก้ไข ให้ ด้วยการพิจารณา หาใช่ด้วยคำสอน ชูโรง ว่า ดูเฉยๆ เท่านั้นจะดับกิเลสได้

    ข้อต่อมา เรื่องคำสอน เทียบหลวงปู่ดูลย์ เทียบหลวงพ่อพุธแบบผิดๆ

    รวมถึง การอ้างถึง หลวงตามหาบัว ผู้เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ของพระอริยะหลายๆท่านทั้งหลาย โดยพระปราโมทย์เรียกว่า

    สำหรับ อาจารย์มหาบัว ..... ผมถามว่านี่ท่านเป็นรุ่นเดียวกับ พระปราโมทย์หรือ

    จริงอยู่คำพูดเล็กน้อย แต่มันสะท้อน ความรู้สึกออกมา ว่า อัตตามานะทิฎฐิในพระปราโมทย์ ไม่เป็นสองรองใคร

    หลวงตาท่านบวชมากี่พรรษา วันที่ท่านสอนคนให้เป็นพระอริยะมา ไม่รู้เท่าไร พระปราโมทย์ยังหัวดำพิมพ์ข้อความเล่นเน็ตอยู่เลย
    วันนี้จะมาเทียบรุ่น

    ผมไม่รับ cd ใดๆ ของพระปราโมทย์ทั้งสิ้น และ หากเว็บพลังจิตเปิด cd พระปราโมทย์ ผมจะปิด ไม่ทำอะไรหรอก แต่จะปิดเดี๋ยวนั้น เพราะว่ามันเสนียดหู
    </td></tr></tbody></table>
     
  18. tinnakornten

    tinnakornten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +494
    ทำความเข้าใจที่ผมโพสด้วยนะครับ บอกแล้วว่าอันตราย
    อย่าชี้นำ เพราะไม่มีใครรู้ว่าจริง หรือ หลอก ท่านชี้นำดีก็ดี
    ถ้าชี้นำผิดละ เป็นภัยต่อท่านและผู้อื่นในการปรามาส ละขันธ์ที่ยึดซะ
    ไม่มีใครได้ ไม่มีใครเสีย แต่ถ้าจะได้ ต้องทำมาปฏิบัติแล้วท่าน
    จะหมดข้อสงสัย ขึ้นชื่อว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ย่อมเป็น
    สรณะแก่คนทั้งหลาย ไม่มากก็หน่อย อยู่ที่การแสวงหา และเพียรพยายาม
    ของแต่ละบุคคล อย่ากระทำสิ่งเหล่านี้ต่อไปอีกเลยนะท่าน

    ข้าพเจ้าเคยคิดตำหนิ แบบนี้สุดท้ายเห็นว่า หาประโยชน์มิได้ เพราะตน
    ก็ยังไม่รู้อะไรเลย ยังเป็นผู้โง่เคลา และยังมัวเมาด้วยกิเลส หาเป็นผู้ฉลาด
    หาเป็นผู้แสวงหาความรู้ความหลุดพ้นไม่ มิได้เป็นไปเพื่อคำสอนของพระพุทธองค์เลย กับจะกลายเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยโดยไม่รู้ตัว เพราะเหตุ
    แห่งความไม่รู้

    ขอทุกท่านจงเป็นผู้พ้นภัยเทอญ (พระไตรภพ เคยโพสให้ผมเข้าใจแค่ประโยคสั้นๆเท่านี้ และผมก็พิจารณาและเข้าใจแล้ว)
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก่อนอื่น ขอเล่าความเป็นมาก่อน จะได้เข้าใจกันว่า ไม่ได้มีอคติเป็นทุนเดิม

    แรกเริ่มเดิมที 2 ปีก่อนผมเข้ามาอยู่กับ กลุ่มเพื่อนๆในเว็บพลังจิต เราก็พูดเรื่องการดูจิต การภาวนา ในแบบ จิตภาวนา ขององค์หลวงตามหาบัว แต่สำหรับคนอื่น มาจากสายไหนผมก็ไม่ทราบ ก็คุยกันว่า เจตสิกตัวไหนมีลักษณะอาการอย่างไร จะดับทุกข์กันอย่างไร

    แต่ไม่นานก็เริ่มผิดสังเกตุว่า ทำไมหลายๆ คนปล่อยจิตให้ดำเนินไป อย่างเลื่อนลอย
    (สำหรับ การปล่อยจิตไป ตามแนวทางพระอริยะ นั้นท่านเป็นตามจริต แต่ไม่ได้หมายความว่า ปล่อยตามกิเลส ) พระอริยะท่านไม่ปรุงแต่ง ท่านก็ไม่ฝืนในสิ่งที่ท่านทำ เพราะท่านไม่ได้ทำไปด้วยอำนาจกิเลส แต่ทีนี้หลายๆ คนยังไม่เข้าใจว่าตนเองทำไปด้วยอำนาจกิเลส ก็ปล่อยจิตกันไป อันจะลงไปแต่ทางต่ำ
    ประกอบกับ มีคนมาถามผมว่า ดูเฉยๆ หรือ ดูแล้วต้องพิจารณา ผมก็บอกว่า ดูแล้วต้องพิจารณาหาหนทาง ไอ้คนๆ นั้นก็ดันมาเถียงผม ผมก็เลยอยากรู้ว่า มันไปเอาวิธีการมาจากไหน ก็สอบถามได้ความว่า มาจากพระปราโมทย์ ผมก็เลยไปอ่านธรรมของท่าน เพราะว่าได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ศึกษา พอไปอ่านธรรมของท่านก็เห็นชัดว่า ท่านหยิบธรรมจากแต่ละที่มาผสม แล้วประยุกต์ขึ้นเป็นของตน โดยท่านไปหยิบ
    1 จากนิกายเซ็น 2 จากหลวงปู่ดูลย์ 3 จากหลวงพ่อพุธ 4 จากหลวงพ่อเทียน 5 พระอภิธรรมปิฎก จากนั้นท่านก็เข้าใจของท่านตามที่ สังขารจะโยงใยกันไป จึงทำให้ท่านสรุปข้อธรรมได้อย่างหนึ่ง คือ ดูเฉยๆ มันก็จะดับไปเอง ขอเพียงได้เห็นสภาวะแล้วมันจะดับลงไป
    ข้อนี้ผมยอมรับว่า จริง หากคนนั้นมีปัญญาแทงตลอด และเข้าถึง โคตรภูญาณ อันผ่านสังขารุเบกขาญาณมาแล้ว จะทิ้งกองสังขารทั้งปวงในจิตได้ บางคนในนิกายเซ็น อาศัยเพียงแค่การเปล่งเสียง กาๆๆๆ แล้วจิตเพิกออกจากการปรุงแต่งทั้งปวง เข้าสู่เฉพาะเสียง แล้วเกิดทัสนะในความไม่ปรุงแต่งขึ้น
    รวมถึงในอริยมรรค อริยผล นั้น พระอริยท่านกำหนดจิตเดินออกจาก กองสังขารทุกข์ ท่านก็ทำได้ด้วยการเดินจิตออกไปเฉย ทุกข์ก็ดับลงทันใด และนั่นเป็น ผู้ที่เชี่ยวชาญ และ แจ้งในมรรคและผลแล้ว อีกทั้ง กิเลส ต้องเบาบางแล้ว มีจิตเป็นเอกคตาจิตครองอยู่แล้ว จึงจะทำได้
    แต่ว่า จริตคนแตกต่างกันมาก ต่างคนต่างบารมี จะให้ไปมองแจ้งแทงตลอดนั้นก็เป็นไปไม่ได้มีแต่ พวก สุขาปฏิปทาทัญทาภิญญา หรือ พวกตรัสรู้เร็ว ทุกข์น้อยเท่านั้น เป็นพวกระดับอัครสาวก ของพระศาสดา
    การสอนจึงมุ่งไปแต่ การดูเฉยๆ ไม่ได้ เพราะว่า ลืมเส้นทางไปว่า กว่าจะมาดูเฉยๆ ให้เห็นสภาพไตรลักษณ์ของสรรพสิ่งนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ในคนทั่วไป เพราะว่านิวรณ์นั้นยังมีกันอยู่มากมาย จะมองเห็นตามความจริงไม่ได้
    เพราะด้วยความที่ยังไม่เข้าใจ ลักษณะของจิตว่า แม้เห็นสภาวะแต่จิตแล้วแต่ยังไม่ยอมรับสภาพนั้นเข้าสู่ใจ ก็ยังคงต้องลูบๆคลำ ตลอดไป เช่นเดียวกับคนทุกคนรู้ว่า เราต้องตาย แต่ไม่มีใครยอมรับมันได้สักคน นั่นเป็นเพราะว่า เรายังไม่ถึง ภาวนามยปัญญา อันมีสมาธิเป็นบา่ท

    นอกจากนี้ ที่แย่ที่สุด จนผมต้องออกมาพูด เตือนเพื่อนๆ คือ คำสอนเริ่มมีการแหวกแนวมากขึ้น เช่น อ้า่งอภิธรรม อธิบายสภาพจิตแบบผิดๆ เพื่อให้เข้าพ้องกับคำสอนของตน เริ่มมีการดึงพระอริยะมาสนับสนุนความของตน เริ่มมีการพูดความไม่จริง เช่น หยิบเอาคำสอนท่านพระพุทธทาสในหนังสือ ฮวงโป มากล่าวอ้างกันในกลุ่มหลวงพ่อปราโมทย์ว่า นี่คือคำสอนหลวงปู่ดูลย์ เริ่มมีการเอาครูบาอาจารย์ที่ท่านไม่รู้ไม่เห็นคำสอนนี้ มาสนับสนุนตนเอง
    เช่น ยกหลวงพ่อพุธขึ้นมาว่า ท่านสอนให้ดูเฉยๆ ซึ่งคำสอนนั้นท่านต้องการบอกกับผู้ที่จะทำสมาธิแต่จิตยังฟุ้งอยู่เท่านั้น หาได้เป็นการสอนอะไรที่พิสดารไปไม่ หรือแม้แต่ การไปพูดว่า สมาธิไม่เหมาะกับคนเมือง อานาปานสติยากเกินไป หรือ หลวงพ่อเทียนสอนให้ยกมือนั้นไม่มีในพระไตรปิฎก แม้จะวกกลับด้วยการบอกว่า วิธีไหนก็เป็นกุศโลบายที่ดี แต่นั่นล้วนแล้วแต่แสดงถึงมานะทิฎฐิ ที่ว่าไม่เห็นวิธีการคนอื่นดีกว่าตน และ ของตนเท่านั้นที่ดีแล้ว

    นอกจากนี้ยังมีอีกมากที่ ระหว่าง ท่านแสดงธรรม แต่กลับกลายเป็นแสดงกิเลสออกมาปะปนอยู่ตลอด ใครไม่ทราบแต่ผมทราบ

    สุดท้าย ไม่มีใครอยากจะไปตำหนิพระหรอกครับ ทุกคนมีหิริโอตัปปะ และกลัวบาป
    แต่ เพราะเล็งเห็นแล้วว่า ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ จะมีคนถูกดักด้วยแห มากมายเต็มไปหมด
    ด้วยเพียงแค่คนๆเดียว แล้วมันจะกระจายไปเรื่อยๆ หากไม่มีธรรมแท้เป็นน้ำดับไฟ

    เรื่องนี้ ก็ลองใช้วิจารณาญาณไตร่ตรองกันเอาเอง ผมก็ให้ข้อมูลได้เท่านี้
    ไม่ใช่จะไปทำลาย และผมกล้าท้าให้ไปสังเกตุดูว่า ใครก็ตามฝึกแบบพระปราโมทย์ ถ้าไม่หลง หรือคนรอบข้างสังเกตุเอาก็ได้ว่า สุดโต่งมากขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่จริง เอาเท้าสุนัขมาลูบหน้าผมทีหนึ่งได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2009
  20. tinnakornten

    tinnakornten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +494
    ภูมิธรรมคุณสูงจริง ๆ
    ในธรรมทั้งหลาย ผู้มีปัญญาย่อมสามารถจำแนกธรรมเพื่อให้ถูกกับจริตตน
    และไม่มีผู้ใดสามารถนำธรรมตามจริตตน ไปสอนให้เห็นธรรมได้กับทุกคนทุกจริต
    นอกจากพระสัพพัญญูโคดมเจ้า เท่านั้น เห็นเหตุ แล้ว ความสงสัยย่อมหมดไป
    สาธุเจริญในธรรมครับ

    (ช่วงนี้ว่่างจัด เลยสิงอยู่ตามบอร์ดรอพระอาจารย์กลับมา หุหุ)
    ขอบพระคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...