ถาม-ตอบ โดย หลวงพ่อ ปราโมทย์ ปาโมชโช

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย pump - อภิเตโช, 16 พฤศจิกายน 2009.

  1. บาราคูดา

    บาราคูดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +114
    เห็นด้วยครับ
     
  2. nanosong

    nanosong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +505
    ผมว่า เรียนกันมาก็เยอะ ไม่น่าจะมาเถียงกัน ครูบาอาจารย์ก็ให้สำรวม ระมัดระวัง จิตใจของตนเอง ออกมานั่งเถียงกันนี่ ระลึกถึงครูถึงอาจารย์ที่สั่งสอนด้วยนะครับ ว่าท่านสั่งสอนไว้ว่ายังไง ถ้าอยู่วัดเดียวกัน คงโดนไล่ออกไปแล้ว

    แล้วก็กระทู้ที่ใช้เพื่อโจมตี ฝ่ายอื่น นี่ผมว่าก็ปิดๆ ไปเถอะ ไม่ได้เกิดประโยชน์ หรือสร้างสรรค์ อะไรเลย นอกจากคนมานั่งทะเลาะกัน ครูบาอาจารย์ของใครๆ ก็รักครับ

    อีกอย่าง ไม่มีพระพุทธเจ้าชี้ขาด ทั้งนั้น ว่าใครผิดใครถูก ส่วนพวกเรา ก็ไม่ได้มีคุณอันวิเศษเป็นพระอรหันต์อะไร มานั่งเถียงกันยังไงก็ไม่จบ แม้พระอรหันต์ ภูมิความรู้ ยังเหลื่มล้ำไม่เท่ากันเลย
     
  3. จิตนิพพาน

    จิตนิพพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +414
    ผมเห็นด้วยที่ทีมงานเวปพลังจิตดอทคอม ที่ได้ลบกระทู้ที่ตำหนิติเตียนพระสงฆ์ออกไป และขอร้องทีมงานเวปพลังจิตทุกท่าน ให้ใช้ความเด็ดขาดในบทความที่กล่าวหา ให้ร้ายและติเตียนพระสงฆ์ ในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นพระรูปใดๆด้วย และถึงแม้จะเป็นสมาชิกเก่าแก่ หากตำหนิติเตียนพระสงฆ์ ก็ต้องดำเนินการ

    เพราะหากมีบทความให้ร้ายตำหนิพระสงฆ์ บรรดาลูกศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือท่าน ก็จะต้องออกมาโต้แย้ง และเป็นเหตุให้บรรยากาศ ในเวปไม่สงบสุขและร่มเย็น ดังนั้นการตัดไฟเสียแต่ต้นลมจึงดีที่สุด เห็นด้วยเป็นอย่างมากในความเด็ดขาดของทีมงานเวปพลังจิตทุกท่าน และขอสนับสนุนให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ด้วย

    ขออนุโมทนา ในการกระทำของทีมงานเวปพลังจิตทุกท่านครับ
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 กุมภาพันธ์ 2010
  4. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    สำหรับตัวผมเองนะครับ ที่บางวันก็ดูอาการตัวเองออกบางวันก็ดูไม่ออก ผมว่าวันที่ผมดูออกนั้น ใจจะมีสมาธิดีประมาณหนึ่ง แล้วมองดูสิ่งต่างๆก็จะได้ประมาณหนึ่ง บางวันว้าวุ่นก็ดูไม่ออก ทำอกุศลกรรมมากไปมันก็กลืนกินใจเราจนดูไม่ออก ผมว่าผมโชคดีที่ดูออกบ้างไม่ออกบ้าง แล้วรู้ตัวว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ผมพิจรณาในตัวเราหาจุดบกพร่องในตัวเราจะได้แก้ข้อผิดพลาดในตัวเรา โทษคนอื่น ดูคนอื่นแล้วอกุศลในใจมันลดลงหรือมันหายไปก็ไม่ใช่ครับ เราทำกรรมก่อกรรมกันมาหลายรูปแบบแตกต่างกันมา วิธีแก้ก็แตกต่างตามจริตตามสำนัก ใครพบทางแล้วผมอนุโมทนาด้วยครับ
     
  5. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    สำหรับผู้มีสมาธิน้อย สมาธิน้อยๆในชีวิตประจำวันเกิดขึ้นเองเยอะแยะหลายเวลาครับแต่เราใช้สมาธินั้นไปในทางอื่นเอง เช่นการดูหนังละคร การคิดถึงคนโน้นคนนี้ การอยากให้เป็นอย่างโน้นนี้ ซึ่งอยู่ภายใต้กิเลส เราลองเปลี่ยนใช้สมาธิน้อยๆของเราแบ่งมาดูกายเคลื่อนไหว ดูใจทำงานบ้าง หากใจได้หลุดจากอำนาจกิเลสเสียบ้างแล้ว อาจพบประสบการใหม่ในชีวิตก็ได้ครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
     
  6. thumboon.com

    thumboon.com Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +26
    เขาจะดี กว่าเรา ช่วยเขาเถิด มันจะเกิด ผลดี กว่าที่หวง
    ไว้ดีเด่น แต่เรา เฝ้าประทวง โลกยิ่งกลวง จากความดี คืออะไร??

    ขออนุโมทนา สำหรับคำถาม และคำตอบทุกท่านครับ
     
  7. paislam

    paislam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +146
    ผมมีความเหนว่า การดูจิตแนวพระอาจารย์ปราโมทย์ มันไม่ใช่การหลอกจิต หรือเป็นการทำให้จิตชินกับอารมณ์ จนจิตเกิดความแข็งกระด้าง หรือใช้ความเคยชินกับอารมณ์ว่าเดี่ยวมันก็ดับไปเองเป็นสัญญาขึ้นมา

    แต่ส่วนตัวคิดว่า คือการที่จิตได้เห็นความจริงของสภาวะธรรม ที่เกิด - ดับ
    จนจิตเองเกิดความเบื่อหน่าย จนไม่อยากวิ่งไล่ตามสภาวะธรรมอีกต่อไป จนกลายเป็นความปล่อยวาง มีใจที่เป็นกลางต่อสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น หรือจะเรียกได้อีกว่า ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสภาะวะธรรม

    การที่คิดว่า เมื่อสภาวะธรรมเกิดขึ้นเดี่ยวก็ดับไปเอง แล้วทำใจให้เฉยๆ อย่างนี้
    มันไม่เป็นปัจจุบันธรรม ผมว่าเปนการหนีสภาวะ และการคาดเดาล่วงหน้า มีครูมาสอนก็ต้องเรียนให้จบ ต้องดูในสภาวะขณะปัจจุบัน จนดับไปในที่สุด หรือมีสภาวะอย่างอื่นแทรกซ้อนหรือไม่ บางที่เราก็อาจเกิดความอยากให้สภาวะตรงนั่นหายไป ก็ต้องรู้ทันลงไปอีก

    ผมว่าท่านก็สอนประยุกต์ให้กับจริตของแต่ละคน ใครเคยกำหนดก็ให้กำหนดต่อไป
    เพียงแต่เมื่อเกิดสภาวะธรรมก็ให้รู้เท่าทัน แต่ส่วนตัว ผึก สมาธิ+วิปัสนา คู่กันครับ

    เวลาทำงานผมก็ดูจิตไป ถึงช่วงเวลาปฎิบัติในรูปแบบก็ทำไป เวลาจิตเริ่มเคลื่อนก็รู้ทันที และดับทันที ที่ต้นจิต การปฏิบัติ ก็ไม่ควรยึดมั่นในตัวครูอาจารย์ ขนาดพระพุทธเจ้า ตอนที่จะเสด็จดับขันธ์ ก็ยังไม่ให้เหล่าสาวกยึดมั่นในพระองค์ แต่ให้ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอน

    ที่ว่าไม่มีพระปฎิบัติ ออกมารับลองก็ไม่ได้หมายความว่าท่านผิด
    ก็เป็นไปได้ว่า พระปฏิบัติกับพระปฎิบัติเหนกัน ก็ไม่มีอะไรจะต้องว่ากล่าวต่อกันก็เปนได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...