ถ้าบรรลุโสดาบันแล้วจะเสื่อมลงมั้ยครับ

โสดาบันจริงจะเอาอะไรไปผิดศีล มีแต่โสดาเดา โสดาจัดตั้งนึกเอาเอง รับรองกันเองว่าเป็นโสดา ถึงจะได้ไปผิดศีลข้อ 3 ได้อย่างนี้

 

กาเมสุมิจฉาจาร จะไม่มีสำหรับพระโสดาบัน

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน​

 

เป็นพระอานาคามีเเล้วจะเสื่อมลงได้หรือไม่ เช่นวันนี้ฉันไม่โกรธ ฉันไม่ติดในกาม แลัข้ออื่นๆ เเต่พรุ่งนี้ฉันไม่รู้เพราะฉันอยู่กับปัจจุบันตามที่พระท่านสอน ที่ฉันไม่กามในวันนี้เพราะเมื่อวานฉันไปปลดปล่อยกามต่างๆมาเเล้วเเต่ตั่งใจว่าจะไม่ติดในกามอีก

 

มั่วละคับ

กามไม่เกิดแล้วคับ แล้วจะเอาอะไรไปเสพกามติดในกามได้อีก

 

ทำไมคุณตอบผมสั้นจัง ทำไมไม่ตอบละเอียดละครับ พิจาราณาให้ละเอียดตอบให้ละเอียดสิครับ มั่วของคุณ คือจุดใดครับ ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องจริง ผมพูดผิดตรงไหนครับ ช่วยอธิบายมาเป็นส่วนๆ ด้วยครับ

 

http://palungjit.org/threads/จะเอาชนะกามราคะได้ต้องถึงอนาคามีใช่ไหม.511721/

 

นเรื่องของพระอนาคามี ต้องใช้คำพูดว่า อยากจะบอกว่าส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่จะสร้างฮอร์โมนต่าง ๆ เกี่ยวกับทางกาม มันคงจะเลิกทำงานไปเลย

ร่างกายส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกามราคะ มันเหมือนหยุดทำงานหมด

www.grathonbook.net/book/64.html

 

อนาคามี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อนาคามี แปลว่า ผู้ไม่มาเกิดอีก หมายความว่าจะไม่กลับมาเกิดในกามาวจรภพอีก แต่จะเกิดใน พรหมโลก อีกเพียงครั้งเดียว แล้วจะบรรลุอรหันต์แล้วนิพพานบนพรหมโลกนั้น

 

ถึงขั้น สกทาคามี ก็แทบไม่สนใจเรื่องกามแล้ว อนาคามีไม่ต้องคิดเลย ดับสิ้นแล้ว

เมื่อขั้นนั้นแล้ว ร่างกายจะปรับไปตามกำลังบุญของคนนั้น

เรื่องพวกนี้เป็นอจินไตย จะมาหาสาเหตุเถียงกันไม่จบหรอก

 

เป็นพระอริยะเจ้าโสดาบันแล้วไม่มีเสื่อมครับนี่ครับหลวงพ่อเล็กตอบไว้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ถาม : พระโสดาบันเวลาฌานเกิดขึ้นแล้วเสื่อมได้ไหมครับ ?
ตอบ : กำลังฌานเสื่อมได้ แต่ว่ามรรคผลที่ได้ไม่เสื่อม เพราะว่ากำลังฌานเนื่องด้วยกายมาก เอากำลังฌานแล้วใช้ปัญญาควบไปในการตัดกิเลส ตัดขาดแล้วขาดเลย เพราะฉะนั้น..ฌานเสื่อมได้ แต่มรรคผลไม่เสื่อม

ถาม : รวมถึงโลกุตรฌานไหมครับ ?
ตอบ : คำว่าฌานสมาบัติ พอถึงพระโสดาบันก็คือโลกุตรฌาน แต่ทีนี้ฌานสมาบัติเนื่องด้วยร่างกาย ถ้าร่างกายไม่ดีก็เสื่อม เอาแค่พระอัสสชิแล้วกัน นั่นพระอรหันต์นะ เวลาฌานเสื่อมถึงขนาดเจ็บปวดโอดโอย จนต้องส่งพระไปถามพระพุทธเจ้าว่า “ความดีของข้าพระพุทธเจ้าสูญไปหมดแล้วหรือ พระพุทธเจ้าข้า” พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า “ดูก่อน..อัสสชิ เธอเห็นร่างกายนี้เป็นของเธอหรือเปล่า ?” “ไม่ได้เห็นเลยพระเจ้าข้า” “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เสื่อม”

เพียงแต่สมาธิตก กำลังคุมร่างกายไม่ได้ อาการเจ็บปวดแสดงเต็มที่ ก็โอดโอยไปตามสภาพ เป็นปกติ เพียงแต่สภาพจิตของท่านที่ตัดกิเลสได้แล้วไม่ได้เสื่อม แค่กำลังสมาธิตก

 

ขออีกสักที

ไม่เสื่อมใน เจตนาอยากที่จะเป็นคนดี คือระดับโดสาบัน
แต่ความเผลอยังมี สติยังขาดได้ พร่องได้ ทำให้ศีลไม่เเจ่มใส ศีลทะลบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้จิตใจเสื่อมจากความต้องทรงทรงความดี พระโสดาบัน จึงได้กลับมารักษาศีลต่อ ให้ครบถ้วนเจริญต่อไป สรุปคือ เจตนาเป็นแกนหลัก ใฝ่ดีในพระโสดา สกิทาคามี + + หลวงพ่อฤาษีกล่าว ว่า พระอรหัตน์ยัง เผลอได้ เเต่ที่ไม่เผลอจริงๆคือไม่เผลอในการตัดขันต์ 5 ฟังเอาได้ นาทีที่ 29.30 นาที+

 

กระทู้นี่นานมากแล้วนะครับ..
แต่ขออนุญาตพูดนะครับ
เพื่อว่าจะใช้เป็นหลักสังเกตุตนเองดูครับ
ก่อนจะเป็นระดับที่กล่าวได้
จะต้องเป็นผู้ฟังที่ดีก่อนนะครับ
ย้ำว่าเป็นผู้ฟังที่ดีก่อน

และเสื่อมไม่เสื่อมอยู่ที่ว่า
ตัวจิตสามารถเริ่มคลายตัวเอง
ได้โดยธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้
อำนาจจิต ตบะ สมาธิ ญาน ฌาณ
หรือวิธีพิเศษใดๆ ในการทำให้จิต
มันคลายตัวเอง ถ้าเกิดตรงนี้ได้
จะไม่เสื่อมครับ ไม่ว่าระดับจิตหรือ
ความสามารถที่เกิดมีแต่จะพัฒนาขึ้น
ถ้าจิตยังไม่เคยคลายตัวเอง
โดยธรรมชาติของมันเอง และยังก่อตัวอยู่
ด้วยอำนาจจิต สมาธิ ตบะ ฌาณ ญาน
ยังไงๆก็เสื่อมได้ครับ
ปล.ประมาณนี้