ทุกสิ่งอยู่ที่จิต รู้เห็นด้วยจิต ยึดติดด้วยจิต หลุดพ้นด้วยจิต

ยังอ่าน กันอยู่อีกรึขอรับ ดีแล้ว ติดขัดอะไรก็แย้งได้ ใช้เหตุผล ด้วยเรื่อง(อาหาร)

 

ผมไม่เคยอ่านหรอกคับ พอดีเคยไปทำกับที่วัดแถวคอลอง 10 รู้สึกคุ้นเลยถามดู

 

เราอ่านตลอด เพื่อทบทวน ให้แน่ใจยิ่งขึ้น อ้างอิงได้ทุกพระสูตร ว่าด้วยเรื่องอาหาร เพราะมีตัณหาเป็นเหตุและแดนเกิดของอาหาร...(มหาตัณหาสังขยสูตร)

 

" ถาม : ในมหาสติปัฏฐาน
บอกว่า ทางนี้เป็นทางสายเดียว
เพื่อ...ความพ้นทุกข์
ก็มี ต้องพิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม
ผู้ที่จะพ้นทุกข์
จะต้องพิจารณาทั้ง ๔ อย่างทั้งหมด หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : กาย เวทนา จิต ธรรม น่ะ
อันนี้ ! มัน ของอย่างเดียวกัน
รู้อันหนึ่ง ก็เหมือนรู้หมด เหมือนเรารู้คน คนหนึ่ง
ก็รู้...หมดทุกคนในโลก
เหมือนเรา รู้จักลิงตัวหนึ่ง ลิงตัวอื่นนอกนั้น
เหมือนลิงตัวนี้เหมือนกัน
นี่ ! จะพูดกันง่าย ๆ
หลักใหญ่ของสติปัฏฐาน มัน เป็นอย่างนี้
อันนั้น มันเป็นลักษณะของมัน
เมื่อรู้...กาย เวทนา จิต ธรรม
สักแต่ว่า กาย
สักแต่ว่า เวทนา
สักแต่ว่า จิต
สักแต่ว่า ธรรม
มันเป็น...สักแต่ว่า ทั้งนั้นแหละ ทั้ง ๔ นั่นน่ะ
มัน ก็พอแล้วนะ
ถึงแม้ว่า...
มันจะรู้ อันเดียว มัน ก็ได้."
__________________________________________
หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง
ที่มา : จากมรดกธรรมเล่มที่ ๓๔ คำตอบหลวงพ่อชาหน้า ๕๑
ที่มา : fb วัดพระธาตุขุนบง

 

ของเดิมนั้นว่าง(ว่างจากตัวตน) ทั้ง กาย เวทนา จิต ธรรม ....(อนัตตา)

 

พึ่งตน ให้รู้จักตน รู้ถึงตนแล้ว ดับไม่เหลือเฉพาะตน

 

กาย เวทนา จิต ธรรม(ธรรมารมย์)เป็นสังขารธรรมที่มีการเกิดดับ เกิดดับ
เกิดดับ เกิดดับ จึงไม่ใช่ตัวตนที่มั่นคง
ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้ ถ้าใครยึดจะเป็นเหตุแห่งทุกข์คับ

 

เห็นสิ่งใดใน กาย เวทนา จิต ธรรม จึงไม่เข้าไปถือมั่น เหมือนอ้อยเข้าปากช้างแล้ว ช้างคงไม่ยอมคายออกมาง่ายๆ

 

ฉาบปูน คุ้นๆ 55

 

มีวิชาพลังอัตภาพพลิกโลกรึป่าว all new 55

 

เล่นซ่อนแอบกันรึขอรับ

 

ต้องสร้างบุญบารมีด้วยตนเอง(พึ่งตน) หากยื่มคนอื่นมา สุดท้ายก็ต้องคืน

 

พระศรี..คิวยาวมาก กว่าจะคัดเลือก สอบสัมภาษณ์ ปลอมหรือจริง สิ้นกัปล์กันพอดี ขอเปิดตัวภรรยาคนที่๘ละกัน(เราเลือกทางโลก) 55

 

ธรรมแท้ ย่อมไม่สร้างความขัดแย้ง สุดท้ายก็ปรองดองกันด้วยธรรม หายวับ 55

 

มุมมองต่างกัน สำคัญต้องอยู่ใน 55

 

เดินตามทางบิดาแห่งตน มารมองไม่เห็น ไม่ถูกฆ่าด้วยมาร 55

 

ยุคนี้เมตตาอย่างเดียวเอาไม่อยู่ ต้องมีครบ ทั้งพรหมวิหารธรรม

 

มองเห็น(เพ่ง)คุณ(สุข พอใจ)และโทษ(ทุกข์ ไม่พอใจ) ต้องมีอุบายเห็นความเบื่อหน่าย(ความเสื่อม) ทั้งคุณและโทษ เพื่อจางคลาย สลัดคืน ไม่ติดใจ(วิราคะ) หลุดออกคุณและโทษนั้นได้

 

พิจารณาเห็นธรรมทั้งหลาย มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ที่เป็นธรรมปัจจุบัน(เป็นเหตุ(มรรค)เป็นผล(วิมุตติ))

 

ทางสายกลาง เห็นได้ที่(เวทนา) เป็นธรรมปัจจุบัน ย่อมบัญญัติให้รู้ว่า ทุกข์เป็นอย่างนี้ เหตุให้เกิดทุกข์เป็นอย่างนี้ ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้ ทางให้ถึงความดับแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้