ธรรมชโย วัดพระธรรมกาย จริงๆแล้วเป็นใคร??มีคำตอบ..

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย maxgatod, 16 มกราคม 2011.

  1. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +1,862
    ไม่เห็นด้วยกับวัดธรรมกายไม่เป็นไร

    แต่เล่นถึงหลวงพ่อฤาษี นรกท่วม

    เชอะ!!!
     
  2. กายวาจาใจ

    กายวาจาใจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมจะลองยกตัวอย่างนะครับ ท่านยอมรับมั้ยครับว่า ในสังคมนี้มีคนดีที่ทำดีจริงๆแต่ถูกคนทั่วไปติเตียน ท่านเคยมั้ยครับที่ทำดีแล้วคนไม่เข้าใจ
    ท่านยอมรับมั้ยครับว่ามีแพะรับบาปที่ถูกสังคมตราหน้าว่าทำผิด ถูกทำให้ติดคุกแทนโดยผู้มีอิทธิพล

    ถ้าท่านรับข่าวที่มีเพียงด้านเดียวโดยเกิดจากสื่อหรือนักข่าวที่ไร้จิตสำนึก ต้องการขายข่าวอย่างเดียวโดยไม่สนใจอย่างอื่น อิงกระแสอย่างเดียว พอหนังสือพิมพ์เล่มโน้นเล่นข่าวนั้นแล้วดัง เกิดกระแสในสังคม ทุกเล่มก็เล่นข่าวนั้นๆตามๆกันไป แต่พอทุกสิ่งอย่างมันเคลียร์แล้ว ถ้าจะมีคำขอขมาใดๆ ก็มีเพียงแค่ช่องเล็กๆอยู่หน้าไหนก็ไม่รู้ บางทีก็เงียบหายไปเลย ไปเล่นข่าวอื่นที่ดังๆแทน แต่ไอ้สิ่งที่นำเสนอไปแล้วมันยังอยู่ในใจของคนที่อ่านไปแล้วทุกคน

    ที่อยากจะบอกก็คือว่าทุกขั้นตอนก่อนที่ท่านจะรับรู้มันสามารถผิดพลาดกันได้ทั้งนั้นแหละครับ ตั้งแต่มูลเหตุ จนถึงขั้นสุดท้าย ในกรณีนี้ถ้าจะลองคิดตามคือถ้ามีคนตั้งใจทำลายพุทธศาสนา เรื่องราวก็จะถูกบิดเบือนตั้งแต่มูลเหตุ ถ้านักข่าวอยากขายข่าวโดยไม่มีจิตสำนึก ข่าวก็จะถูกบิดเบือนบ้างต่อเติมบ้างพูดให้คิดต่อเองเป็นอื่นบ้าง ถ้าผิดที่ขั้นตอนสุดท้ายทุกสิ่งอย่างก็อาจถูกทำให้เงียบไป

    คืออยากจะบอกว่าการที่ท่านนำข้อมูลจากไหนต่อไหนมาพูดกันน่ะ มันก็เป็นไปได้ใช่มั้ยครับที่ข้อมูลมันจะผิด เหมือนกรณีแพะรับบาปที่ถูกจับติดคุก จนพ้นโทษออกมาแล้วบางคนสังคมก็ยังตราหน้าอยู่เลย คนทำผิดตัวจริงๆก็ลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม ซึ่งจะผิดที่ขั้นตอนไหนเราก็ไม่อาจทราบได้

    ก่อนที่ท่านจะว่ากล่าวใครควรเข้าไปศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนโดยเฉพาะการจาบจ้วงล่วงเกินต่อพระรัตนตรัยและผู้มีพระคุณ

    อย่างกรณีแม่ชีที่เป็นข่าว ข่าวมันก็เล่นอยู่หัวข้อเดียวนั่นล่ะให้ไปเอาเด็กอะไรนั่น ตื้นลึกหนาบางยังไงลองไปศึกษาเองนะครับการอธิบายไปถ้าใจยังมีความต่อต้านอยู่มันก็หาข้อแย้งมาจนได้ล่ะครับ การที่จะอธิบายเฉพาะหัวข้อนั้นๆให้เคลียร์โดยไม่สนใจเรื่องอื่นที่ท่านเคยสอนมา มันเป็นการไม่ยุติธรรมนะครับท่านฟังความมาข้างเดียวตัดตอนมาแค่เล็กน้อยปรับนิดเสริมหน่อย ผมได้ลองศึกษาการสอนของท่าน ฟังสิ่งที่ท่านสอนเป็นร้อยๆเรื่อง ผมกล้าพูดได้เลยว่าผมจะไม่ปรามาสท่านเด็ดขาด

    กรณีกระทู้นี้ก็เหมือนกัน ผมก็เป็นคนเสพสื่อเหมือนกับหลายๆท่านนี่ล่ะครับ ก็ได้ข่าวลบๆมา ได้เคยปรามาสท่านไว้เหมือนกัน ทั้งชีวิตเคยเข้าวัดนี้ครั้งเดียวเข้าไปวนๆแล้วก็ออกไม่ได้เจอใครเลยวันนั้น พอได้มีโอกาสศึกษาก็ศึกษาจริงๆจังๆด้วยใจกลางๆ ไม่เข้าข้างแต่ก็ไม่อคติ ดูสิ่งที่ท่านสอน สิ่งที่ท่านทำ ก็เหมือนกรณีแม่ชีแหละครับ นักข่าวพวกนี้ยกมาแค่บางช่วงบางตอน นำเสนอในส่วนที่คิดว่าข่าวต้องดังต้องขายข่าวได้เยอะเป็นกระแสสังคมได้ถือเป็นความภาคภูมิใจ หารู้ไม่ว่าลงนรกคนเดียวยังไม่พอ ยังฉุดคนอื่นลงนรกไปด้วย ถ้าท่านลองเปิดใจศึกษาตลอดก็จะเข้าใจเองเหมือนผม

    ณ ตอนนี้ผมยังหวั่นๆใจเลยว่า ตกลงเรื่องพระอาจารย์ยันตระที่ผมปรามาสท่านไว้เยอะแยะมากมาย จะเหมือนกับสองกรณีนี้มั้ย ได้แต่ขอขมาขออโหสิกรรมต่อท่านทุกครั้งที่นึกถึง เพราะตอนนั้นก็เสพสื่อด้านเดียวเหมือนกันไม่ได้ศึกษาคำสอนนขอองท่านจริงๆจังๆ

    ที่อยากจะพูดในเรื่องนี้ก็คือเราชาวพุทธเหมือนกัน ถ้าคิดว่าอยากช่วยศาสนาพุทธจริงๆอย่างที่ท่านว่า ก่อนจะว่ากล่าวตามสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา ขอให้เข้าไปศึกษาในวัดด้วยใจเป็นกลาง ย้ำคำว่า ศึกษาด้วยใจเป็นกลางนะครับ ลองเข้าไปหาหลักฐานจากในวัดบ้าง ไม่ใช่ไปวันเดียวแล้วเลิกเลยนะครับ เอาให้เข้าใจ

    จากสองกรณีที่เห็นมากับตาตัวเอง เข้าใจกับหัวใจตัวเอง ผมพูดได้คำเดียวครับว่านับจากนี้เป็นต้นไปถ้ามีข่าวเสียๆหายๆกับพระพุทธศาสนา ผมจะไม่เชื่อและไม่ไปออกความเห็นที่ไหนเด็ดขาดถ้าไม่ได้ไปศึกษาด้วยตัวเอง

    หากพูดผิดใจใครไปผมขออโหสิกรรมด้วยนะครับ อยากให้ลองพลิกเหรียญมาดูอีกด้านบ้าง
     
  3. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949

    ผู้ที่มีฌาณสูงกว่า จึงสามารถมองการปฏิบัติผู้อื่นเห็น และรู้ว่าใครถึงไหน ระดับไหน แสดงว่าท่านวิถีคนจร ต้องสำเร็จฌาณขั้นสูงแล้วเป็นแน่แท้ จึงสามารถดูออกว่าหลวงพ่อสด และหลวงพ่อฤาษีมิใช่ของจริง หรือท่านอาจสำเร็จอร
    หันต์แล้วกระมัง

    หัวใจพระพุทธศาสนาที่ผมพอรู้มาบ้าง คือ "ละเว้นความชั่ว ทำความดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" และองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนาให้สัตว์โลกพ้นจากความทุกข์ ดังนั้นผู้ที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ใช่ว่าจะหลุดพ้น จะพบนิพพานทุกคน เนื่องด้วยกรรม เนื่องด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เนื่องด้วยปัจจัยความพร้อมต่าง ๆ หลาย ๆ ด้าน

    จริตคนเราก็แตกต่าง บางคนมโมยิทธิ บางคนกสิน บางคนสมถ ดังนั้นแนวทางการสอนของครูบาอาจารย์แต่ละท่านอาจแตกต่าง แต่เป้าหมายคือทางพ้นทุกข์ ละเว้นชั่ว ทำความดี จิตใจบริสุทธิ์ นี่ต่างหากที่จะทำให้พุทธศาสนาคงอยู่สืบต่อไปครบ 5000 ปี
     
  4. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    วิถีคนจร สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Oct 2009
    ข้อความ: 399
    พลังการให้คะแนน: 118 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    เถรใบลานเปล่า กิเลสสูงเลยศรีษะ
     
  5. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    เกรงว่าจะไม่ใช่กุศโลบายล่ะสิครับ

    นานวันไป ความคิดใหม่ ความเข้าใจใหม่มันแตกออกมา

    เป็นสวดเพียว เที่ยวสวรรค์ ถึงนิพพาน

    แต่สวดมนต์อยู่กลับบ้านนี่ยังดีกว่าไปปฏิบัติอะไรมาผิดๆ อันนี้อันตราย
     
  6. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    ก็พยายามจะให้เป็นสันติวิธีอะครับ ผมรวบรวมข้อมูลอยู่
    เว็บนี้ลูกศิยษ์หลวงพ่อฤษีเยอะครับ ต้องค่อยๆ
    เพราะผมเห็น มนุษย์เกิดมา มักบ้า อัศจรรย์ ธรรมมะของพระพุทธเจ้า ไม่มีปฏิบัติแล้วได้เพิ่มครับ มีแต่ลดๆๆๆๆ จนไม่เหลือ เป็นความว่างไม่จับยึดอะไร
    เป็น ศูนยตา ไม่ใช่การมา ไม่ใช่การไป จะว่ามีก็ไม่ใช่ จะว่าไม่มีก็ไม่ใช่ จะว่ามีทั้งไม่มี และ มีก็ไม่ใช่ จะว่าไม่มี ทั้งมีและไม่มีก็ไม่ใช่ (ปรัชญา ศูนยตา)
    ไม่มี ตัว(อัตตา) ไม่ยึด ขันธ์ ............จะค่อยๆว่ากันไป ใครอยากด่าอยากวิจารณ์เชิญได้ครับ เบอร์ผมได้โพสไว้หลายที่แล้ว ผมมีเจตนาเพื่อไม่ให้ศาสนาพุทธ ผิดคอนเซ็ปเดิม คือการพ้นทุกไม่ว่าจะตรงหรือจะอ้อมครับ แต่ทุกวันนี้บางที่อ้อมไกลไปหน่อยหลงเลยครับกลับไม่ถูก
     
  7. patchara2

    patchara2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +258
    ครั้งหนึ่ง มีผู้จบที่วิทยาตร์ ระดับด็อกเตอร์ มีความภูมิ พอใจในความรู้

    ที่ตัวเองมีอยู่ แบบพวกคุณนี่ละ ผยอง แต่นักวิทยาศาตร์รายนี้

    เขาความรู้สูงจริง มีหน้าที่การงาน คุณวุติ ดีมาก

    ได้เดินทางร่วมไปกับคณะหลวงพ่อฤษี ที่เชียงไหม่ ไปเจอหลวงพ่อฤษี

    เขามีงานก่อสร้างกัน หลวงพ่อก็หยิบ เอาหัวน๊อตประมาณ สามหุน หยิบขึ้นมา

    แล้วก็ถาม นักวิทยาศาตร์ ว่า คุณว่าเหล็กนี่ มันจมน้ำหรือลอยน้ำ

    ท่านนักวิทยาตร์ ก็ตอบว่า ก็จมสิครับ หลวงพ่อ หลวงพ่อบอกว่า งั้นเอง

    เอาไปโยนน้ำ ท่านผู้นั้น ก็ส่ายหัว งงๆ แต่ก็ทำตาม เอาเหล็ก ไปโยนทันที

    ปรากฏว่าเหล็กลอย หัวน๊อตลอยน้ำ ตุบป่อง ตุบป่อง เป็นไปได้ไง นักวิทยาศาตร์

    ตาเหลือก ไม่เชื่อสายตาตัวเอง ยืนงงเป็นไก่ตาแตก หลวงพ่อจึงตระโกนบอกว่า

    เองไปหยิบเอาขึ้นมาดูสิ

    เขาก็ทำตาม ไปหยิบขึ้นมา เอาไปไห้หลวงพ่อ หลวงพ่อบอกเอาไหม่ ทีนี้เอง

    เอาไปโยนไหม่ ปรากฏว่า คราวนี้ ต๋อมเลย จมน้ำสนิท แบบเหล็กทั่วไป หลวงพ่อ

    บอกนักวิทยาศตร์นี่โง่จัด เป็นลีลาของท่าน

    พี่นักวิทยาศาตร์ ก้มลงกราบ หมอบราบคาบแก้วเลย ขอปาวนาตัวเป็นพุทธ

    ศาสนิกชนตลอดชีวิต หลวงพ่อฤษี เป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมสัมพุทธเจ้า

    อย่างจริงแท้ เป็นทองแท้ ไม่ไชทองปลอม

    เรื่องมันเยอะนะ

    อีกสักเรื่อง อันนี้ใกล้ตัวผมเอง เกิดขึ้นกับอาจารย์ผมเอง ตอนนี้ยังมีชีววิตอยู่

    อายุก็ 86แล้ว

    มีครั้งหนึ่ง พลตรี ตำรวจนะ แบบว่า วันดหลวงพ่อดัง มีคนรู้จักเยอะสมัยที่หลวง

    พ่อ มีชีวิตอยู่ ท่านนายพลคนนี้ จะไปขอบวช ที่วัด ไปถึงก็ก้มลงกราบ

    ขอบวช หลวงพ่อท่านบอก ยัง ยัง ยังบวชไม่ได้ ที่นี่ มีกฏอย่างหนึ่ง คนที่จะบวช

    ที่นี่ได้ ต้องได้ มโยมยิทธิ ถึงจะบวชได้ ท่านนาพล โกรธมาก แต่ก็ข่ม

    ลุกขึ้นยืน แล้วบอกกับหลวงพ่อว่า ผมนายพลนะ มีฐานะ ตระกูล ยศศักดิ์ อย่างนั้น อย่างนี้

    หลวงพ่อโบกมือ ไล่ นายพลตำรวจก้ต้องถอย

    และต่อมา อาจารย์ผม มีลูกศิษย์ เป็นทหารยศเล็กๆ อาจารย์ผมก็ทหารนะ

    ทหารเก่า นายทหารเก่า อาจารย์ผมท่านก็ฝึกสมธิไห้กับทหารหนุ่มคนนี้ จนได้

    มโนมยิทธิ คือทหารนี่แกจะบวช แต่อาจารย์ผมนะธรรมยุต หลวงพ่อฤษีน่ะมหา

    นิกาย หลวงตาอยากไห้ลูกศิย์ไปบวชท่วัดท่าซุง แกจึงพาไปกราบหลวงพ่อฤษี

    พอไปถึงก็เข้าไปกราบหลวงพ่อฤษี กราบ กราบ กราบ เส็จ ก็เงยหน้า

    ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ว่ามีธุระอะไร หลวงพ่อฤษี ท่านก็เอ่ยขึ้นว่าว่า เออ บวชวันนี้

    ก็แล้วกันว่ะ ฤกษดีว่ะ แล้วท่านก็กะวันที่ไห้ ว่าวันไหน เดือนไหน

    ..............................................................










     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2011
  8. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->วิถีคนจร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5090511", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG] <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ซัวเจ๋ง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5090384", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2011
    ข้อความ: 352
    พลังการให้คะแนน: 36


    วันที่สมัคร: Oct 2009
    ข้อความ: 400
    พลังการให้คะแนน: 119 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    ปุถุชน เต็มขั้น เต็นอัตรา พอได้อ่านพระไตรเข้าหน่อย รู้สะและ

    รู้ไปหมด อ่านเส็จ จำได้หมายรู้ สัญญา ทั้งนั้น ปัญญายังไม่เกิด

    พูดเจื่อยแจ้วเลยนะ พ่อนกแก้ว นกขุนทอง

    ธรรมะของพระพุทธเจ้า จากเหตุ ไปหาผล สุดท้าย ก็นอกเหตุ เหนือผล

    อย่างที่หลวงพ่อชา ท่านกล่าวไว้
     
  9. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    หลวงพ่อฤษีน่ะ ท่านสร้างศรัทธา ไห้คนละความชั่ว สร้างความดี

    มีคนศรัทธา หลวงพ่อฤาษี เหนือยใต้ กลาง ออก ตก มีจำนวน น่าจะ เฉียด

    ล้านๆนะ รวมหมด หรืออาจจกว่า

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->วิถีคนจร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5090511", true); </SCRIPT>
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ซัวเจ๋ง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5090384", true); </SCRIPT> แต่สองพน่อนี่ ทำไห้คนเสื่อมศร้ทธา ทั้งในองค์หลวงพ่อ
    และทั้งในพระธรรมคำสอน และสร้างความแตกแยก ไห้เกิดขึ้นในวงศาสนาด้วยกันเอง
    ด้วยความเชื่อที่ว่า ข้านีแหละ ถูกกว่า ดีกว่า และวก็โจมตีฝ่ายที่ตนเองไม่เห็นด้วย
    ผมถึงได้บอกว่า ทลึ่ง ศีลห้ายังไม่ครบ ทลึ่ง ไปวิพากษ์ พระผู้ทรงศีล 227ข้อ
    ศาสนาบรรลัย ก็เพราะคนประเภทนี้แหละ ไม่ไช่ใครที่ไหน เขามาทำลายหรอก
    ไม่ไช่ศาสนาอื่นหรอก ไอ่เนื่อเน่า มะเร็งร้ายนี่แหละ กัดกินเนื้อตัวเอง บ่อนทำลายศาสนาตัวเอง
     
  10. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    เอานะ เข้ามาในกระทู้นี้ ไม่ได้มาเข้าข้างใคร

    กล่าวไปตามที่เข้าใจ แต่ถ้ามันไปทิ่มใจใคร ก็ถือว่าเป็นวาสนาท่านแล้ว ^^

    พุทธศาสนา ต่างจาก พราห์มบรมอัตตา ก็ตรงนี้


    ส่วนเรื่องอ่านพระไตรปิฏกนิดหน่อยแล้วชูคอ เพราะสัญญาดี นั้น

    ถือว่าคำชม แซวนายซัวเจ๋งก็แล้วกัน หุหุ

    เพราะอ่านมาจริง ที่พูดนี่ก้มาจากพระไตรปิฏกจริง ปัญญาเกิดจากสุตะก็เกิดขึ้นจริง

    จะชมว่าเป็นนกแก้วนกขุนทอง ก็ขอน้อมรับ

    รู้อะไรก็พูดออกไป อ้าว! นิ่งเสีย นิ่งเสีย
     
  11. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ลองหาบทความของท่าน เสถียร โพธินันทะ มาด้วยสิครับ ^^
     
  12. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    ที่ออกมาว่าผมอย่างนั้นนี้ ไม่ทราบว่าอ่านผมเข้าใจรึเปล่านะครับ ขอย้ำอีกครับเรื่องกรณี
    ที่ผมกล่าวถึงหลวงพ่อฤษี ผมไม่ได้ไปปรามาสท่าน แต่ผมวิจารณ์ว่า วิชามโนยิทธิของท่าน
    ออกนอกทางแก่นธรรมครับ และไม่ได้เหมารวมวิชามโนยิทธิดั้งเดิมหรือของหลวงพ่อท่านอื่น


    การวิจารณ์ไม่ใช่การลบหลู่และปรามาสครับ เป็นการหยิบยกประเด็นมาคุยกัน

    เพราะพุทธศาสนาเป็น วิทยาศาสตร์ พุทธศาสตร์แห่งความรู้แจ้งแทงตลอด สามารถพิสูจน์ได้ไม่ว่าจะด้วยผัสสะต่างๆ หรืออาจด้วยกำลังญาณ ยกเว้นเรื่องอจิณไตยเท่านั้นเพราะพิสูจน์1ชั่วชีวิตคนก็หาไม่พบ และก็ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์"""ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาแบบเทวะนิยม""" บาปไม่บาปมีผลที่เจตนาครับ แต่ศาสนาพุทธ บาปบุญไม่ใช่ประเด็นเช่นกัน

    เลยขอยกข้อนี้มาพิจรณากันครับ
    มหาสาโรปมสูตร (แก่นไม้สูตรใหญ่)

    ลาภสักการะ – กิ่งและใบศาสนา

    ศีล – สะเก็ดศาสนา

    สมาธิ – เปลือกศาสนา

    ญาณทัศนะหรือปัญญา – กระพี้ศาสนา

    อาสวักขยญาณหรือวิมุตติที่ไม่กำเริบอีก – แก่นศาสนา

    จูฬสาโรปมสูตร (แก่นไม้สูตรเล็ก)

    ชี้ว่า ควรบวชเพื่อแสวงหาแก่นแห่งชีวิตให้ได้ “ พรหมจรรย์นี้มีการหลุดพ้นจิตเป็นแก่นแท้ ”
     
  13. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    ผมไม่ได้อคติอะไรนะครับ ผมเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาครั้งแรกก็เพราะหนังสือของหลวงพ่อฤษีลิงดับ เจตนาผมไม่ได้จะมาปราสมาสวิจารณ์เพื่อโจมตีท่านทั้งหลายที่ผมกล่าวมา แต่เจตตนาผม อยากให้พุทธศาสนานิกชน ทุกท่านแยกแยะ ว่าอะไรเป็นธรรมะเพื่อลดละอัตตาและอวิชา หรือ เป็นธรรมมะเพื่อ เพิ่มอวิชชา เพิ่มอัตตา ผมจึงหยิบยกกรณี วิชามโนยิทธิของหลวงพ่อฤษี และวิชาธรรมกายของหลวงพ่อสดมาคุยกัน แต่สำหรับวัดพระธรรมมะกายผมวิจารณ์ที่ระบบและโครงสร้างของวัดนั้นครับ หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจ

    และสนทนากันด้วยเหตุ และผล.......
     
  14. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    ถามว่า ถ้าผมเจอหลวงพ่อสด และ หลวงพ่อฤษีผมจะกราบไหม แน่นอนผมต้องกราบ โปรดเข้าใจย้ำอีกครั้ง ผมวิจารณ์หลักการวิธีการวิชาที่ท่านสอน ผมไม่ได้วิจารณ์ศีลท่าน
     
  15. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    ความดับทุกข์ (นิโรธ) คือ นิพพาน ( เป้าหมายสูงสุดของพุทธศาสนา ) อันเป็น แก่นของศาสนาพุทธ เป็นความสุขสูงสุด หรือเรียกอีกอย่างว่า
    วิราคะปราศจากกิเลส
    วิโมกข์พ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ
    อนาลโย ไม่มีความอาลัย
    ปฏินิสสัคคายะการปล่อยวาง
    วิมุตติ การไม่ปรุงแต่ง
    อตัมมยตา ไม่หวั่นไหว
    และสุญญตา ความว่าง

    wikipedia
     
  16. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682

    ที่กล่าวอ้างมานี่ ยกมานี่ ปริยัติล้วนๆ คุณทำไห้ได้สะก่อน แล้วค่อย

    มาคุย ทฤษฎีคุณแจ๋ว แจ่ม แต่การเข้าถึงทางด้านจิตใจไม่มีเลย

    ได้แต่ ภูมิธรรม ปริยัติเต็มๆ ความเป็นพระอริยเจ้าเบื้องต้น คุณก็ยัง

    เข้าไม่ถึง มีแต่หลักการ แบบนั้น แบบนี้

    ศาสนาพุทธ ไม่ไช่ศาสนาวิทยาศาตร์ อย่างที่คุณเข้าใจ ต้องมีเหตุ ผล ต้องพิสูจน์

    ได้ จับได้ ต้องได้ ต้องสรุป ที่มา ที่ไปได้ ไม่ไช่!!! ศาสนาพุทธ สูงกว่านั้น

    ละเอียดกว่านั้น เพราะว่าด้วยเรื่องของ

    กฏแห่งกรรม ศาสนาพุทธ นี่กรรมล้วนๆเลยนะ ซึ้งศาสนาอื่นไม่มี กรรม คือการกระทำ

    สิ่งที่เราได้กระทำลงไป จะมีผลต่อตัวเราเสมอ

    พี่น้องท้องเดียวกัน คนอื่นเกิดมา มีร่างกายสมบูรณ์ปกติ แต่มี

    อยู่คนหนึ่งตาบอดสนิท วิทยาศาตร์ มันตอบได้ไหมล่ะ ว่าทำไมเป็น

    แบบนี้เพราะอะไร เขาก็จะบอกว่า ยังพิสูจน์ไม่ได้ เครื่องไม้ เครื่องมือเรายัง

    ไม่ดีพอ ยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ ก็คือสรุปไม่ได้ ทำได้แค่พัฒนาหาสุนัขนำทางมาช่วยเหลือ

    สุดท้ายวิทยาศาตร์ก็ตอบไม่ได้ ฉนั้นแล้ว ศาสนาพุทธ พระพุทธองค์ จึงสอนไว้ว่า

    คนและสัตว์ที่เกิดนั้นมีวิบากรรม


    มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย

    มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ จะดีหรือร้าย จะอยู่ดี มีสุข หรือทุกข์ยาก

    ก็อาศัยเหตุแห่งกรรม ปัจจัยในอดีตที่ตนทำไว้ (อดีตชาติ)

    คนเราเกิดมามีขาวบ้าง ดำบ้าง กระด่างบ้าง ผิวพรรณหยาบกร้าน ผิวพรรณดีงาม

    เตี้ย หล่ำ ต่ำสูง ตระกูลสูง

    ตระกูลต่ำ แตกต่างกัน เพราะมีกรรมเป็นเครื่องจำแนก มีกรรมเป็นตัวคัดสรรค์ มีกรรมเป็นตัวกำหนด

    อันนี้วิทยาศาตร์ ยังอยู่ห่างอีกหลายร้อยเท่าตัวนะ

    ถ้าคุณบวชในสำนัก

    ธรรมยุต จะมีท่องในบทสวดมนต์ด้วย เรื่องกรรมนี่นะ

    มีกรรมเป็นที่พึ่ง มีกรรมเป็นแดนเกิดนี่น่ะ ท่องเป็นบาลี แล้วก็แปลเป็นไทย สวดมนต์เช้า เย็น ฯล..

    และเรื่องปรมัตสัจจะ ยิ่งไปกันใหญ่ ในเมื่อคุณพลาดตั้งแต่แรกเริ่มเลย
    บอกว่า ศาสนาพุทธ
    เป็นศาสนาวิทยาศาตร์ จริงอยู่ ศาสนาพุทธ เริ่มด้วยที่ว่า
    เหตุ และผล คล้ายๆ วิทยาศาตร์ แต่พอลงลึกไปแล้ว ถึงแก่น
    แล้วนี่ จะนอกเหตุ
    เหนือผลเลยนะ พูดง่ายๆ ก็คือเหนือโลก มรรคแปด อริยสัจสี่ นี่

    เป็นหนทางพ้นโลก เหนือโลก

    ผมถึงบอกว่าคุณน่ะ ปุถุชน ปุถุชนแปลว่าหนาไปด้วยกิเลส

    ความเข้าใจของคนมีกิเลส เลยศรีษะ แบบเราๆ คุณวิจารณ์

    ตรึก ไช้ความคิดสักขนาดไหน คิดสักแปดตลบ คุณก็ได้แค่

    สัญญา ก็เนื่องจากว่า ฐานความรู้จริงๆ ของคุณยังถูกห่อหุ้ม

    ด้วยอวิชาเต็มๆ ก็คือกิเลส ตัณหา หรือน้ำโคลนขุ่นคลัก

    มันบังตา บังใจ คุณอยู่ คุณมืดบอดอยู่

    ความเข้าใจ มรรคสัจจะ ปรมัตสัจจะ เข้าใจความหลุดพ้น

    คุณก็เข้าใจแบบตาบอดคลำช้าง เข้าใจแบบคนที่มีกิเลส

    สูงท่วมศรีษะ

    คุณไม่ได้เข้าใจ หรือ เข้าถึงอย่างที่พระอริยะเจ้า ทั้งหลาย

    ที่ห่างไกล จากกิเลส เข้าใจ!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กันยายน 2011
  17. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +1,862
    เอาตรงนี้ ว่ากันง่ายๆเลย

    ที่หลวงพ่อธัมมชโยทำนายไว้

    1 ตัวท่านจะมีอายุ 120 ปี

    2. ไทยจะเป็นประเทศที่เหนือกว่าประเทศทั้งปวง

    3. ค่าเงินดอลล่าร์จะเท่ากับ 1 บาทไทย (ท่านกล่าวตอน ทองหมื่นบาทนิดๆ)

    4. ภาษาไทยจะเป็นภาษาสากลเทียบเท่า อังกฤษ ฝรั่งเศส
     
  18. Army56

    Army56 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +1,862
    และคงไม่ธรรมดาหรอก

    ที่วันเกิดของหลวงพ่อธัมมชโย ไปตรงกับวัน Earth day ซึ่งก่อตั้งทีหลัง

    ทั้งที่ 22 เมษา ไม่ใช่วันสำคัญอะไรเลย

    อยู่ๆ สว. ก็ไปบอก เจเอฟเคว่า เอาวันนี้แหละเป็นวันคุ้มครองโลก โอเคมั๊ย

    เจเอฟเคไม่รอช้า ตระเวนไป 11 รัฐใน 5 วัน จนโดนลอบสังหาร
     
  19. หน้าใส

    หน้าใส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +128
    ปกติหมู่คณะวัดพระธรรมกายจะปล่อยปลาทุกเสาร์ต้นเดือน ปล่อยมาเกือบ 40ปีแล้วครับ ท่านบอกว่าอานิสงส์การปล่อยปลาจะทำให้อายุยืนและก็เป็นอิสระครับ ลองไปฟังโอวาทท่านดู

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=atpUH-IY7x4&feature=related"]ความฝัน มโนปนิธาณ หลวงพ่อธัมมชโย - YouTube[/ame]
     
  20. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    อนุโมทนานะครับ

    ปะเด็นนี้ผมเคยตอบไว้ในกระทู้อื่น ขอยกมาอีกรอบ

    เรื่อง การวิจารณ์ไม่ใช่การลบหลู่และปรามาสครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...