ธรรมนำใจ..ธรรมนำชัย ‘ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์’

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย aprin, 26 สิงหาคม 2011.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    'ความในใจของข้าพเจ้า' บทประทานสัมภาษณ์'ฟ้าหญิง'

    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปทรงเป็นประธานเปิดตัวหนังสือ "ความในใจของข้าพ เจ้า" ที่จัดโดยบริษัท วู้ดดี้เวิลด์ จำกัด และสำนัก พิมพ์ดีเอ็มจี พร้อมทั้งทรงบรรยายในหัวข้อ "การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน" ตามหลักของหลวงตามหาบัว โดยมี นายวุฒิธร มิลินทจินดา ประธานกรรมการ บริษัท วู้ดดี้เวิลด์ จำกัด นายดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ผู้บริหารสยามพารากอน และคณะกรรม การการจัดงาน เฝ้าฯ รับเสด็จ เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี รับสั่งในบรรยายว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าพูดในวันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นคำสอนของข้าพเจ้า แต่เป็นคำสอนของหลายหลวงปู่ หลวงตา โดย 99 เปอร์เซ็นต์เป็นของหลวงตามหาบัว ซึ่งข้าพเจ้าเป็นลูกศิษย์อยู่ 15 ปี

    คนเราเมื่อเกิดมาบนโลกใบนี้ย่อมมีความทุกข์ ความทุกข์ที่เกิดจากความไม่เสมอภาค ซึ่งความเสมอภาคเป็นไปไม่ได้ การเกิดมาจนหรือรวย แข็งแรง เจ็บป่วย หรือหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ทั้งหมดถูกกำหนดด้วยกรรมที่ทำมาเอง คนเราจึงเกิดมาไม่เท่าเทียมกัน คนที่กรรมดีมากก็จะมีความสุขมาก การที่คนเราจะสุขร้อยเปอร์เซ็นต์ นั้นไม่มี ยกเว้นแต่จะฟอกจิตใจให้บริสุทธิ์อย่างหลวงตามหาบัว ท่านไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง ท่านทำทุกอย่างเพื่อสังคม ละกิเลสทั้งหมด <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    รับสั่งด้วยว่า เรื่องเกิดแก่เจ็บตายเป็นความทุกข์ ข้าพเจ้าเองก็ยังไม่สามารถตัดได้ วิธีเดียว คือเป็นพระอรหันต์ จึงอยากมาแบ่งปันความรู้ที่ทำให้ข้าพเจ้าตื่นมาและยิ้มได้ทุกวัน โดยมีหลายหลวงปู่และหลวงตาให้เคล็ดมาว่าอดีตมันผ่านไปแล้ว ไม่มีใครนำมาแก้ไขได้ อย่าไปยึดติด ทำให้เราเศร้าหมอง อดีตดีอยู่อย่างเดียวคือเป็นเครื่องเตือนใจว่าจะไม่ทำซ้ำสอง ส่วนอนาคต เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง การทำนาย คาดเดา ปรุงแต่ง ทำให้จิตฟุ้งซ่านและเป็นทุกข์ คนเราควรอยู่กับปัจจุบันและทำให้ดีที่สุด

    ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทอดพระเนตรประชาชนที่มาร่วมรับฟังการบรรยาย รับสั่งว่ามีผู้หญิงมาเยอะ อยากบอกเคล็ดลับความงามของวัดป่าบ้านตาด ใบหน้าสะท้อนจิตใจข้างใน เราทำเรื่องดี มองโลกในแง่ดี ทำจิตใจสดใส หน้าตาจะสดใส ถ้ามัวแต่คิดร้าย จิตใจหมกมุ่นในเรื่องร้ายๆ จะแต่งเท่าไหร่ก็ไม่สวย คนเราสวยได้ด้วยธรรมะ คือทำแต่สิ่งที่ถูกต้องและดีงาม

    รับสั่งถึงพลังใจในการทำงานว่า มีอยู่ 3 องค์ องค์แรกคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์ที่สองควบคู่กันคือสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินีนาถ ตั้งแต่เด็กมาเห็นตัวอย่างจากพ่อแม่ที่ทำงานเพื่อประชาชน ตอนเด็กไม่เข้าใจ พอโตเข้าใจแก่นสารของชีวิตว่าทำประโยชน์กับประชาชนได้แค่ไหนเป็นความปลาบปลื้ม

    สำหรับแรงใจในการทำงานองค์ที่สาม คือ หลวงตามหาบัว ที่เป็นเหมือนพ่อบุญธรรม ท่านทำเพื่อส่วนรวมตลอด คนเอาเงินมาบริจาค มากมาย ไม่เคยเก็บไว้กับตัว ไปสร้างโรงพยาบาลให้พระ ให้คนยากจน ไม่เคยทำเพื่อตัวเอง ท่านทำเพื่อโลกและประชาชน

    "จะเห็นว่าแรงบันดาลใจของข้าพเจ้าไม่เคยทำอะไรเพื่อตัวเอง และในเมื่อข้าพเจ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตอนนี้ท่านทรงพระชนมายุมากแล้ว ไปตรากตรำไม่ได้ ตอนนี้เป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ ทั้งสองพระองค์เปรียบเสมือนธงชัยที่ทำให้ข้าพเจ้าทำงาน ความรักความห่วงใยที่เพื่อนมนุษย์มีให้ข้าพเจ้าก็เป็นแรงบันดาลใจอย่างยิ่ง และในฐานะลูกบุญธรรมของหลวงตา จะเผยแพร่ธรรมเพื่อเป็นประโยชน์ด้วย"

    รับสั่งถึงการทรงงานว่า ข้าพเจ้าไปทำงานที่ต่างจังหวัดมา 3 วัน และไม่สบาย กลับมาเมื่อวานมือบวม หมอต้องฉีดยา ให้พักผ่อนเยอะๆ แต่จะพักได้เดือนกันยายน ข้าพเจ้าเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง เป็นโรคเดียวกับพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่ผ่านมาหลายปีมีผลกระทบที่กระดูกเป็นส่วนใหญ่ ข้าพเจ้าใช้ฉีดยาแก้ปวดและทำงานเอา เป็นสิ่งที่เป็นอุปสรรค แต่คิดว่าจะต้องข้ามไปให้ได้ จะพยายามทำตามเจตนารมณ์ต่อไป

    สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสอนเน้นหนักว่าให้มีสติ และสิ่งที่สำคัญที่สุดให้รำลึกรู้หน้าที่ที่ตัวเองมี ในฐานะที่เกิดมาเป็นลูก ท่านสอนให้รำลึกถึงหน้าที่ที่มีต่อประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทรงบอกว่าเราอยู่ได้เพราะประชาชน ฉะนั้นต้องทำทุกอย่างเพื่อประชาชนคนไทย

    จากนั้นทรงนำนั่งสมาธิกำหนดจิตใจเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเวลา 5 นาที และทรงบอกบุญกับแขกที่มาร่วมงานถึงโครงการพิเศษที่กำลังดำเนินการจัดทำพิพิธภัณฑ์ให้หลวงตามหาบัว สามารถร่วมสมทบทุนก่อสร้างได้ที่บัญชีมูลนิธิจุฬาภรณ์เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงตามหาบัว ณ วัดป่าบ้านตาด เลขที่บัญชี 229-0-983333 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาหลักสี่พลาซ่า บัญชีสะสมทรัพย์

    สำหรับหนังสือ "ความในใจของข้าพเจ้า" ได้รับพระราชทานพระอนุญาตจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ให้นำบทสัมภาษณ์จากรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ซึ่งออกอากาศไปแล้วทั้งสามตอนทางโมเดิร์นไนน์ทีวี มาเรียบเรียงและจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบหนังสือ รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เพื่อสมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง

    [FONT=Tahoma,]หน้า 25[/FONT]

    http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNeE5BPT0=&day=TWpBeE1TMHdPQzB5T1E9PQ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2011
  2. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ทรงเน้นให้มีสติ การกระทำทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกฎฯ

    [​IMG]

    ภายหลังพระราชทานพระอนุญาตให้นำบทสัมภาษณ์จากรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ทั้งที่เคยเผยแพร่และยังไม่เคยเผยแพร่ที่ใดมาก่อน มาเรียบเรียงและจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบหนังสือ“ความในใจของข้าพเจ้า” พร้อมพระฉายาลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์ 8 ภาพ โดยการจัดทำหนังสือครั้งนี้มีจำนวน 20,000 ชุด ในราคาชุดละ 399 บาท (ฉบับพิเศษพร้อมกล่อง) และฉบับชุดละ 299 บาทโดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง และในวันเปิดตัวหนังสือคณะผู้จัดทำได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธาน ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมทรงบรรยายธรรมในหัวข้อ “การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน” และทรงนำนั่งสมาธิกำหนดจิตใจร่วมกับประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ

    ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงบรรยายธรรมตามหลักคำสอนของหลวงตามหาบัว ที่พระองค์ทรงเป็นลูกศิษย์มานานกว่า 15 ปี ทรงเน้นหลักกฎแห่งกรรม การเกิด แก่ เจ็บ ตาย และการมีสติ รวมทั้งหลักปฏิบัติให้เกิดความสุขได้ในชีวิตประจำวัน ทรงมีรับสั่งว่า คนเราเกิดมาในโลกนี้ย่อมมีทุกข์ ความทุกข์ก็อาจพูดได้ว่าเกิดขึ้นเพราะความไม่เสมอภาค ไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย รูปโฉมสวยงามหรือขี้เหร่ ทั้งหมดนี้ถูกกำหนดมาด้วยกรรมของแต่ละคน อาจเป็นกรรมที่เราจำไม่ได้ เพราะเป็นการกระทำตั้งแต่ชาติก่อนและเพิ่งมาใช้กรรม กรรมนั้นหมายถึงการกระทำ การทำดีก็ถือเป็นกรรมดี ทำชั่วก็ได้กรรมชั่วติดตัว ดังนั้นคนเราเกิดมาไม่มีทางการเสมอภาคกัน เพราะความดีที่สะสมมาแต่ชาติก่อน ส่วนความทุกข์นั้น ประการแรกอยู่ที่การเกิด มีพระรูปหนึ่งพูดว่า เคยเห็นเด็กที่เกิดมาแล้วหัวเราะหรือไม่ ทุกคนเกิดมาก็ต้องร้องไห้ ทางการแพทย์บอกว่าเด็กที่อยู่ในท้องแม่ไม่ต้องทำอะไรเอง แต่เมื่อเกิดมาต้องหายใจเอง ทั้งนี้การที่เวลาเกิดมาแล้วร้องอาจเป็นเพราะเจ็บหรือได้พบเจอกับสิ่งแปลกใหม่ ความแก่ สิ่งนี้ไม่มีใครต้องการแน่นอน ความเจ็บป่วย ย่อมเกิดมาควบคู่กับความทรมาน และความตาย คนส่วนใหญ่มักเกรงกลัวความตาย อาจเป็นเพราะเมื่อตายแล้วไม่รู้จะไปไหน ซึ่งทั้ง 4 ปัจจัยล้วนแล้วแต่เป็นความทุกข์ทั้งสิ้น

    หลักปฏิบัติที่ทำแล้วสามารถยิ้มมีความสุขได้ในทุกวันนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี รับสั่งว่า ประการแรกหลวงตามหาบัวให้เคล็ดลับว่า อดีตทำเมา อนาคตทำเมา ปัจจุบันธัมโม แปลว่า อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านพ้นไปแล้ว หากได้ตัดสินใจผิดพลาดในอดีตก็ไม่สามารถนำอดีตนั้นมาแก้ไขได้ สิ่งที่ดีของอดีตมีอย่างเดียวคือ ถ้าเป็นสิ่งผิดก็ใช้เป็นเครื่องเตือนใจไม่ให้ทำผิดซ้ำซ้อน แต่ถ้าเป็นสิ่งดีก็ไม่ควรลุ่มหลง ส่วนอนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง การคาดเดาและปรุงแต่งทำให้จิตใจฟุ้งซ่านกลายเป็นความทุกข์ สำหรับปัจจุบันควรทำตอนนี้เดี๋ยวนี้ให้ดีที่สุด เพราะการทำดีย่อมได้ดีแต่ถ้าทำชั่วก็ได้ชั่ว ไม่มีการทำดีได้ชั่ว ทำชั่วได้ดี กฎแห่งกรรมก็ต้องเป็นไปตามกฎ ให้ยึดหลัก “ไม่หมกมุ่นอดีต ไม่ปริวิตกกับอนาคต”

    ประการที่สอง การพิจารณาและการละวาง หากมีเรื่องเข้ามากระทบจิตใจ เช่น เรื่องข่าวลือว่าเราดีหรือชั่ว ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่ชอบ หลวงตาบัวสอนว่า “อย่านำจิตแส่ส่ายออกไปข้างนอก ให้นำจิตกลับเข้ามาที่ตัวเองและพิจารณาตัวเอง”เพื่อแก้ไขในจุดที่บกพร่อง เมื่อพิจารณาแล้วต้องละวางไม่เก็บเรื่องเหล่านั้นมาหมกมุ่น ครุ่นคิด จะทำให้จิตใจเราหมอง ประการที่สาม การทำทานเป็นสิ่งที่ดี ไม่ว่าจะบริจาคทรัพย์สินหรือสิ่งของให้แก่ผู้ด้อยโอกาส แต่การ “อภัยทาน” นั้นเป็นบุญใหญ่ ใครคิดไม่ดีกับตัวเราก็ควรให้อภัย ไม่นำมาใส่ใจ เพราะผลดีย่อมเกิดกับตัวเราเองทั้งสบายกาย สบายใจ ไม่ต้องครุ่นคิดคับแค้นใจ สุดท้าย การมีสติ คือต้องรำลึกรู้ว่าขณะนี้กำลังทำอะไร เพราะการมีสติจะช่วยลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในชีวิตได้ ทุกอย่างที่ทำไม่ควรรีบร้อนหรือช้าเกินไป ให้ยึด “หลักทางสายกลาง”

    นอกจากนี้ทรงมีรับสั่งด้วยว่า “การทำงานในปัจจุบันแม้มีอาการเจ็บป่วยไม่สบายบ้าง ตอนนี้เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือโรคพุ่มพวง ซึ่งมีผลกระทบกับกระดูกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีอาการบวมและเจ็บปวด บางครั้งต้องให้หมอฉีดสเตียลอยด์และรับประทานยาแก้ปวด แล้วทำงานต่อ แต่เพราะได้รับพลังใจที่ดีจาก 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และหลวงตามหาบัว จึงมีกำลังใจในการต่อสู้และทำงาน เพราะตั้งแต่เด็กเห็นพ่อแม่ทำงานเพื่อประชาชนก็ไม่ได้เข้าใจอะไร แต่พอโตขึ้นมากลับเข้าใจมากขึ้นๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และหลวงตามหาบัว ทำให้เห็นว่า ทำเพื่อส่วนรวมมาโดยตลอด ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสอนและเน้นย้ำเสมอว่า ให้มีสติและรำลึกในหน้าที่ที่ตัวเองมี ให้รำลึกรู้ถึงหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อประชาชนเป็นอย่างยิ่ง พวกเราอยู่ได้เพราะประชาชน เพราะฉะนั้นต้องทำทุกอย่างเพื่อประชาชนคนไทย”.

    Daily News Online > หน้าสตรี > ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ทรงเน้นให้มีสติ การกระทำทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกฎฯ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p21url.jpg
      p21url.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.5 KB
      เปิดดู:
      132
  3. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ทรงพระเจริญ ขอให้มีพลานามัยสมบูรณ์โดยเร็วด้วยเจ้าค่ะ

    เจ้าหญิงผู้ทรงธรรม ...สาธุ
     
  4. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    ธรรมะที่ทำให้ "ยิ้มได้" ของ "ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์"

    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>แม้จะทรงงานหนักมาโดยตลอด "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี" ก็ยังทรงมีกำลังพระทัยในการประกอบพระกรณียกิจนานัปการ โดยกำลังพระทัยสำคัญที่สุดมาจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และหลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ

    เรื่องราวทั้งหมดนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีรับสั่งในโอกาสที่เสด็จไปทรงเป็นประธานเปิดหนังสือ "ความในใจของข้าพเจ้า" โดยบริษัท วู้ดดี้ เวิลด์ จำกัด ร่วมกับสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ได้รับพระราชทานพระอนุญาตให้นำบทสัมภาษณ์จากรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย มาเรียบเรียงและจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบหนังสือ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยรายได้จากการจำหน่ายหนังสือ หลังจากหักค่าใช้จ่ายจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อสมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์ ช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็ง

    "พลังใจใหญ่ของข้าพเจ้าที่ทำงานให้ลุล่วงด้วยดีทุกประการ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และหลวงตามหาบัว ท่านไม่เคยทำอะไรเพื่อตัวเองเลย ท่านทำเพื่อส่วนรวม ในเมื่อข้าพเจ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของทั้ง 2 พระองค์ ตอนนี้พูดตรงๆ ท่านแก่แล้วจะให้ท่านไปตรากตรำตามชายแดนอย่างแต่ก่อนก็เห็นจะไม่ได้ จึงเป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของทั้ง 2 ล้นเกล้า

    "จริงๆ แล้วข้าพเจ้าไม่สบาย เป็นโรคซิสเต็มมิค ลูพัส หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง พูดแบบคนไทยเป็นโรคเดียวกับพุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งข้าพเจ้าเป็นมาหลายปี ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งผลกระทบที่กระดูก เมื่อวาน (23 สิงหาคม) กระดูกมือบวมไปหมด เจ็บปวดมาก ตลอด 3 วันที่ไปทำงานอยู่ที่กระบี่ พังงา และภูเก็ต ข้าพเจ้าใช้ยาฉีดแก้ปวด แล้วทำงานพอกลับมาถึงกรุงเทพฯ สภาพแย่เต็มทน ปวดจนทนไม่ไหว หมอให้ฉีดสเตียรอยด์บล็อกไว้ ไม่ให้มันไปมากกว่านี้ และฉีดยาแก้ปวดด้วย <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    "อันนี้เป็นอุปสรรคเหมือนกัน แต่ข้าพเจ้าคิดว่าต้องข้ามมันให้ได้ ตั้งใจว่า แม้จะเป็น แต่พยายามทำงานตามเจตนารมณ์ อันนี้คือคำตอบของแรงบันดาลใจ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หลวงตามหาบัว เปรียบเสมือนธงชัยที่นำให้ข้าพเจ้าทำงาน ทำให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจ และความรักความห่วงใยของประชาชนอันนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจของข้าพเจ้าอย่างยิ่ง"

    นอกจากกำลังพระทัยที่ทรงมีอยู่เปี่ยมล้นแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ยังทรงมีหลักในการดำเนินชีวิตที่ทำให้ "ทรงยิ้ม" ได้ในทุกวัน

    พระองค์รับสั่งว่า เคล็ดลับแรก "อยู่กับปัจจุบัน"

    "หลายหลวงปู่ หลายหลวงตา ท่านให้เคล็ดมาว่า อดีตทำเมา อนาคตทำเมา ปัจจุบันธรรมโม คำว่า ทำเมา แปลว่า ทำให้มัวเมา ขอแปลความหมายของหลวงตามหาบัว ว่า อดีต ทำไมถึงทำเมา หลวงตาบอกว่า มันผ่านไปแล้ว ทำยังไงๆ ก็ไม่สามารถแก้อดีตได้ ไม่ควรยึดติดอยู่กับอดีต บางครั้งทำให้จิตเศร้าหมอง อดีตมีส่วนดีอยู่อย่างเดียว คือเป็นเครื่องเตือนใจ เช่น ถ้าทำผิดก็เตือนใจตัวเองว่า จะไม่ทำซ้ำสอง แต่ถ้าทำดีแล้ว ก็จำไว้ว่า นี่คือเรื่องดีที่เราทำ แต่อย่าไปหมกมุ่นกับมัน

    "ส่วนอนาคต ทำไมทำเมา เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึงตัวเรา การที่จะไปทำนาย คาดเดา ปรุงแต่ง ว่ามันจะเป็นยังไง อันนี้จะทำให้จิตฟุ้งซ่าน หลวงตาท่านสอนว่า ปัจจุบันธรรมโม ควรจะอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ถ้าเราทำวันนี้ให้เป็นวันที่ดี แน่นอนเรายิ้มได้เลย อันนี้คือหลักที่จะทำให้ทุกคนสามารถนอนหลับได้ โดยไม่มีกังวล คือไม่หมกมุ่นกับอดีต ปริวิตกกับอนาคต เป็นหลักหนึ่งของข้าพเจ้าที่ทำให้ยิ้มได้ทุกวัน"

    เคล็ดลับที่ 2 "การพิจารณา และ การละวาง"

    "เราทุกคนต้องมีสิ่งกระทบใจ ซึ่งมีทั้งที่เราชอบ เราไม่ชอบ เพราะเราไม่สามารถบังคับใจคนอื่นเขาได้ ถ้าสิ่งที่เราไม่ชอบมากระทบใจ หลวงตาท่านสอนว่า ต้องพิจารณา โดยพิจารณาตัวเอง ท่านบอกว่า อย่านำจิตแส่ส่ายออกไปข้างนอก ให้นำจิตกลับมาที่ตัวเอง และพิจารณาตัวเอง ถ้าเราพิจารณาแล้วว่าไม่เป็นความจริง ให้วางไปเลย แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง ก่อนที่จะวางก็ต้องแก้ไขก่อน และเมื่อแก้ไขได้แล้วก็อย่าปล่อยให้ขุ่นอยู่ในใจ หลวงตามหาบัวสอนข้าพเจ้าว่า ก้อนหินถ้าถือไว้ก็หนัก แต่ถ้าวางลงแล้วก็จะสบาย เพราะฉะนั้น การปล่อยวางก็เป็นอีกเคล็ดลับหนึ่งที่ทำให้เราสบายใจ"

    เคล็ดลับที่ 3 "อภัยทาน"

    "อภัยทาน หมายความว่า ใครมาทำไม่ดีกับเรา แทนที่เราจะไปคับแค้น ให้อภัยเขาไปเลย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา จะเกิดความโล่งความสบาย

    การทำทานเป็นของดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะบริจาคทรัพย์สินเพื่อช่วยคนยากไร้กว่า หรือบริจาคทรัพย์บำรุงวัดก็ได้บุญ แต่จะแนะอะไรอีกสักอย่าง ซึ่งเป็นบุญใหญ่ทำไม่ยากอยู่ที่ใจตัวเอง เป็นทานที่เรียกว่า อภัยทาน หมายความว่า ใครมาทำไม่ดีกับเรา แทนที่เราจะไปครุ่นคิด คับแค้น ให้อภัยเขาไปเลย เมื่อเราให้อภัยแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราจะเกิดความโล่งความสบาย"

    เคล็ดลับที่ 4 "มีสติในการดำรงชีวิต"

    "คนเรา ไม่ว่าทำอะไรทั้งสิ้นต้องมีสติ สติคือการรำลึกรู้ การที่คนเรามีสติตลอดเวลา จะช่วยลดความผิดพลาดในชีวิตได้มากมาย สติเป็นตัวกำกับสำคัญในการดำเนินชีวิตอยู่ อย่างการนั่งสมาธิ มีวัตถุประสงค์จริงๆ คือ เพื่อให้จิตเรานิ่ง การกำกับจิตตัวเองให้นิ่งเป็นการฝึกสติ ความนิ่งของจิตทำให้เกิดปัญญา เพราะปัญญาเป็นส่วนหนึ่งให้เรานำมาแก้ไขปัญหา

    "ทั้งหมดนี้เป็น 4 เคล็ดลับที่ข้าพเจ้าใช้เสมอและได้ผล คือ 1.อยู่กับปัจจุบัน 2.ละวาง 3.อภัยทาน 4.มีสติในการดำรงชีวิต"
    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ รับสั่ง



    นับเป็นหลักธรรมที่หากใครนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตก็คงจะ "ยิ้ม" ได้เช่นกัน



    [FONT=Tahoma,]หน้า 25,มติชนรายวัน ฉบับวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 2554[/FONT]
    ธรรมะที่ทำให้ "ยิ้มได้" ของ "ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์" : มติชนออนไลน์=
     
  5. sukh_anand

    sukh_anand เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +731
    ผมเชื่อว่าพระองค์ท่านจะเป็นหลักชัยของชาติไทยในไม่นานนี้ ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...