ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    พวกตายเน่าสองตัว...กลอนก็เน่า ความคิดเห็นก็เน่า เก่าๆ พลังงานเก่าๆ ปลักตมเก่าๆ
    มันไม่พัฒนาใครได้หรอก พวกนี้เหมือน อยู่ในคุกเน่าๆ ติดในเรื่องเน่าๆ กรรมเน่าๆ..ขยะเน่าๆ

    อิอิ..
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ช่าย...นี่แหล่ะธรรมหมาบ้า แฮ่...แฮ่
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ก่อนเข้าสู่ยุคศรีอาริยะ
    ต้องเจอธรรมตีหม้อก่อน555
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    หือว่าอะไรนะ พูดใหม่อีกทีซิ
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    สำแดงความคิดเห็นได้ดีมีความไพเราะไม่ซ้ำแบบใคร
    หรือเปล่า เลยมีคนอิจฉาซะละมัง
     
  6. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ตอนแรกๆ เข้ามากระทู้นี้ก็ถือดอกบัวมา
    ทุกทีแหละเพื่อแลกธรรมด้วยความเคารพ..

    เวลาต่อมามีธรรมโปเกม่อนโผล่มาในช่วงเวลา
    ไล่เลี่ยกับ Pokemon Go พอดี
    คราวนี้เข้ามาด้วยดอกบัวไม่พอแล้ว
    ต้องมีขวานติดมาด้วย

    พอเข้าใจได้ไม่ยากว่า ดอกบัวไว้มอบให้
    ธรรมบัวบาน
    ส่วนขวานมอบธรรมโปเกม่อน
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    จิตประภัสสร กล่าวกี่ที ก็ไม่ยอมรับความจริงกันสักที!


    ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจนะ อธิบายง่ายมากๆ แต่เพราะไม่ยอมรับความจริง จึงไม่เกิดความคิดเห็นที่เป็นกลางตรงทางได้ (สัมมาทิฏฐิ) เพราะอะไร? เพราะหลายท่านยึดมั่นว่าต้องทำลายกิเลส ต้องดับกิเลส ต้องฝึกจิต ต้องทำสมาธิ ต้องปฏิบัติอะไรต่อมิอะไร พอเราไปบอกสิ่งที่ขัดแย้งกับความคิด, ความเชื่อ, อีโก้ และอัตตาของพวกเขา ก็เลยไม่ยอมรับ พอไม่ยอมรับก็เถียงมั่ว จนธรรมะเลอะเทอะไปหมด บ้างเถียงไปว่าจิตมันบริสุทธิ์ก็จริง แต่มันก็ยังต้องขจัดกิเลส อ้าว ก็มันบริสุทธิ์อยู่แล้ว ต้องไปอะไรอีกทำไม? บ้างก็เถียงว่าจิตบริสุทธิ์แล้วก็จริง แต่ก็ยังต้องอะไรต่อมิอะไร อ้าว เอาเข้าไป เลอะเทอะ มีแต่นึกคิดกันขึ้นมาเองทั้งนั้น เพื่อเถียงเอาชนะ เพื่อสนองอีโก้และอัตตา หล่อเลี้ยงมันต่อไปเท่านั้นเอง อาการเหมือนคนกลัวตายถ้าเถียงไม่ได้ เพราะอีโก้มันจะตาย ตัวตนมันจะตาย เลยเกิดอาการอย่างนั้น ทีนี้ไม่ต้องหากันแล้วสัจธรรม, อภิธรรมอะไร ธรรมะทำใหม่ ธรรมะตัวกูของกูก็ออกมาเต็มไปหมด นี่เพราะอีโก้ทั้งนั้น

    จิตเดิมแท้ประภัสสร มีกิเลสมาจรเป็นครั้งคราว เหมือนเมฆที่บดบังดวงจันทร์ เราต้องไปเขี่ยเมฆออกไหม? ไม่ต้อง เพราะของมันไม่เที่ยงอยู่แล้ว มันอนัตตาอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปอะไรกับมันเลย มันก็เกิดๆ ดับๆ เป็นธรรมะ ธรรมดานั่นแหละ แล้วจิตละมันไม่เหมือนเมฆ มันเหมือนดวงจันทร์ ประภัสสร สว่างไสวอยู่อย่างนั้น แสงจันทร์นั้นเต็มรอบตลอดทุกวันนะ แต่เป็นแสงที่ตาเปล่าเรามองไม่เห็น ต้องดูด้วยใจเท่านั้น ทุกสรรพสิ่งมีคลื่นแสงในตัวเองหมด แต่ตามนุษย์เรามองไม่เห็นเท่านั้นเอง ดวงจันทร์ก็เช่นกัน อย่าไปหลงแสงจันทร์ที่ตาเรามองเห็น อันนั้นไม่ใช่แสงจันทร์จริง เป็นแค่แสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์อีกที เหมือนธรรมะนี่ละ เราอย่าไปหลงธรรมะที่อธิบายได้ ธรรมะที่อธิบายได้ก็เหมือนแสงจันทร์ที่สะท้อนจากดวงอาทิตย์ ตาเปล่าเรามองเห็นได้ แต่มันไม่ใช่แสงของดวงจันทร์จริงๆ แสงของดวงจันทร์จริงๆ ก็เหมือนสัจธรรม มันเป็นธรรมะที่อธิบายไม่ได้นะ จิตของเราก็ประภัสสรอยู่แล้ว เหมือนคำกล่าวของท่านเว่ยหลางที่ว่า "กระจกใสแล้ว ไม่ต้องเช็ด" จิตเราก็บริสุทธิ์อยู่แล้ว ไม่ต้องไปเพียรตัดกิเลส ดับกิเลสอะไรกันอีก แต่ไม่ใช่อ้างว่าเรามีจิตบริสุทธิ์แล้ว เลยเป็นอรหันต์กันแล้ว พุทธะกันแล้วนะ ไม่ใช่ เราได้หนึ่งในสามองค์คุณเท่านั้น ธรรมชาติสร้างมนุษย์ทุกคนมาให้มีบริสุทธิคุณ องค์คุณแห่งความบริสุทธิ์ เท่าเทียมกัน ต่อไปเรายังต้องพัฒนาองค์คุณแห่ง "ปัญญาธิคุณ" ถึงจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ และองค์คุณแห่ง "มหากรุณาธิคุณ" ถึงจะบรรลุพุทธะได้ องค์คุณทั้งสามนี้ อันได้แก่ พระบริสุทธิคุณ, พระปัญญาธิคุณ, พระมหากรุณาธิคุณ มีครบในพระพุทธเจ้าทั้งหลายนะ เรามีแค่หนึ่งองค์คุณ ยังต้องพัฒนาต่อไป

    ถ้าเข้าใจเรื่องจิตประภัสสรได้ ถึงจะต่อเรื่ององค์คุณทั้งสามได้ครับ
     
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    หายนะของ "พรรคการเมืองของกษัตริย์" (King's party)


    ในประเทศไทยตอนนี้ เกิดคนกลุ่มหนึ่งมีความคิดวิปริตผิดมนุษย์มนาเขา ทั่วโลกไม่มีใครเขาทำ อยากจะเอาประเทศไทยเป็นหนูลองยา ทำเป็นประเทศแรก คิดว่า "กูเก่งฉิบหายเลย ทำได้เป็นที่แรกในโลก" แต่ชายว่ามันไม่จริง มันจะหงายหลังเอาเหมือนโครงการรถไฟฯ ที่ทำกับจีนน่ะละครับ คนทำแม่ง มั่นใจเต็มเหนี่ยว ทุ่มเต็มกำลัง ปรากฏว่าผลออกมาตรงกันข้าม หงายหลังไปเลย ชายเตือนแล้วเตือนอีก คราวนี้อีกเช่นกัน ได้โอกาสชนะการโหวตแล้ว พวกเขาก็เริ่มอยากจะ "คิดอุตริ" แบบใหม่ๆ เอาประเทศไทยเป็นหนูลองยาอีก โดยให้เกิดมี "พรรคการเมืองของกษัตริย์" ขึ้น ฟังเหมือนดูดีมากเลย แบบว่ารักกษัตริย์แบบสุดตีนเลย แถมถ้าใครมาเถียง มาแย้งก็จะบอกว่า "แกไม่รักกษัตริย์น่ะสิ" ฉันรักกษัตริย์มากจึงทำเช่นนี้ คือ ชายน่ะ เคยถูกคนอื่นรักนะ แล้วคนที่มารักเรานี่แหละ ทำร้ายเราได้อย่างมาก รักอย่างไม่มีปัญญาควบคุมสมดุล พูดไปคนยิ่งไม่เชื่อใหญ่ พอบอกใครเขาว่าเขายังไม่มีปัญญานะ เขาจะไม่เชื่อเราทันที ต้องบอกว่า "เธอฉลาดมาก หาใครเหมือนเธอไม่ได้อีกแล้วในโลก" แบบนี้ เขาจะเชืื่อทันที เอาละ ชายไม่มีส่วนความรับผิดชอบในความเชื่อของใคร ความศรัทธาเป็นสิ่งที่คนๆ นั้นต้องสร้างเองครับ (ดังนั้น จึงไม่ใช่หน้าที่ของชายที่จะต้องพูดให้น่าเชื่อถือประจบใครแต่อย่างใดเลยครับ)

    ชายอยากจะบอกแค่ว่าการทำ "พรรคการเมืองของกษัตริย์" นั้นคือ "แผนหลอกทำลายสถาบันกษัตริย์อย่างแนบเนียนที่สุด" ชายไม่ใช่คนที่รักสถาบันกษัตริย์หรอกนะครับ ไม่รักเลย เพราะชายไม่รู้จักใครในนั้นทั้งนั้น ชีวิตจริงของชายไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา แต่ที่ชายมาพูดนี่ เพราะชายเกลียดคนเลว คนที่ชอบทำเลวเนียนๆ แล้วหลอกคนอื่น ชายไม่ชอบการหลอกลวง ชายเห็นพวกเขาหลอกลวงพวกลูกหลานกษัตริย์ ด้วยการทำตัวให้น่าเชื่อถือน่าศรัทธาทุกอย่างดีไปหมด ก็แน่ละ เขาต้องทำให้เป็นเช่นนั้น เพราะมันคือสิ่งที่จะทำให้แผนของพวกเขาสำเร็จไงครับ "แผนยืมมือกษัตริย์เล่นงานศัตรู" แล้วยืมมือต่างชาติมารุมทึ้งสถาบันกษัตริย์ แผนของพวกเขาแนบเนียนมาก แต่ลุงสมชายรู้ทัน คนอื่นไม่รู้ทันแผนเนียนๆ พวกนี้หรอก ลุงสมชายรู้ทันแต่บอกตรงๆ ไม่ได้ พูดตรงๆ ไม่ได้ ก็จะบอกแบบ "ธรรมดาๆ" เช่น พอเพียงนะ จริงๆ แล้วลึกๆ มันมีอะไรมากนัก เช่น พวกที่ทำลายชาติ เขาจะหลอกให้เราอยากรวย ซื้อตัวเรา ชนิดเอาเงินมาฟาดเป็นกองก็ดี ให้เงินเดือนเราก็ดี ฯลฯ ชายไม่ได้อยากรวยหรือจน คนอย่างชายมีชีวิตเป็น "ปกติสุข" ดีอยู่แล้ว จะรวยก็ได้ จะไม่รวยก็ได้ ชิลๆ มาก ได้ทุกอย่าง ไม่มีปัญหา No problem ทว่า อีกหลายคนอยากรวย อยากมีอำนาจ ก็โดนซื้อตัวหมด ณ ขณะนี้ ก็อยากบอกแค่ว่า "อย่าเชื่อใจใครเกินไป" โดยเฉพาะขี้ข้าชอบเลียที่รายล้อมรอบตัว มันถูกซื้อตัวไปหมดแล้วทั้งนั้นแหละ อย่าคิดว่ามันทำดีจริง มันหลอกให้พวกศักดินาหลงกล ด้วยคำไพเราะอ่อนหวาน จากนั้น มันก็หลอกให้ "หลงตัวเอง มั่นใจเต็มเหนี่ยว" จนประมาท นี่ มันต้องการให้ประมาท มันก็แกล้งสอน "พลังจิตเชิงบวก และพลังแห่งความเชืื่อมั่น" ทว่า มันคือการหลอกครับ หลอกให้ประมาท ไม่ทันคิด ไม่ทันระวัง พอมั่นใจเต็มเหนี่ยว ก็ออกตัวสุดแรง ก่อตั้ง "พรรคการเมืองของกษัตริย์" ขึ้นมาเป็น "หนังหน้าไฟ" ไม่มีที่หลบซ่อนอีก ทีนี้ จุดจบของสถาบันกษัตริย์ก็จะมาถึง!

    ใครที่เกลียดสถาบันฯ ไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ คนที่ทำมันมีอยู่แล้ว!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 สิงหาคม 2016
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ปกติ ท่านดอกไม้ว่ามาเรื่อง คนไกล้ตัว ...ก็รู้สาเหตุอยู่แล้วนี่นา

    พรรค จะมาเป็นต้นเหตุได้ไง...กัน ในเมื่อ มีกันตั้ง 5 พรรค
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อย่างการระเบิด หลายที่....ถ้า เจ้าหน้าที่บ้านเมือง เอาจริงเอาจัง กับการรักษาความปลอดภัย ทำไม จะป้องกันไม่ได้ ไม่เคยได้ยิน สโลแกน นี้เหรอ

    ภายไต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งไหน ที่โปริสไทย ทำไม่ได้
    และเช่นเดียวกัน ถ้าโจรมันเอาอย่างตาม...แบบ

    มันก็ต้องแข่งกันที่ ใครพวกมากกว่า เทคโนโลยีดีกว่า..ย่อมได้เปรียบ
    ไม่ไช่ว่า...รู้ว่ามีระเบิด รู้ว่าจะวางระเบิด ....แต่ ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่ ที่ไหน..(ได้ยังไง)

    มันไม่สมเหตุสมผลเลย ว่ามั้ย....ข่าวกรองมาขนาดนี้ ก็ เท่ากับรู้ดี แต่...แรงบันดาลใจ อะไรที่จะทำให้เจ้าหน้าที่...ทำงาน อย่างดีล่ะ...นอกจาก... เจ้าหน้าที่ ก็เสี่ยงชีวิตอดหลับอดนอน แต่ไม่คุ้มค่าที่เสี่ยง...เท่านั้นเอง

    รัฐ ดูแล ให้พวกเขา เสี่ยง ทำงาน อย่างคุ้มค่า กับ ชีวิต และครอบครัว ของพวกเขามั้ยล่ะ

    ก็แค่นี้แหล่ะ
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ถ้าพูดสิ่งที่ไม่จริง ไม่มีใคร ดิ้นตาม หรอกครับ

    มีแต่ความเป็นจริงเท่านั้น ที่ป่วน...ได้
     
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ดูไปดูมา ความจริงป่วนคนได้...ความจริงป่วน..อิอิ
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ความจริง ผมไม่อยากเข้ามารับพลังงานไม่ค่อยจะดี จากบางคน แถวนี้หรอกครับ แต่ถึงผมไม่เข้ามาเอา พลังงานที่คนบางคนอยากระบาย มันก็ไปหาผมอยู่ดี แต่ มันไปไม่มาก สู้ปมเข้ามาในเวป รับเละ ไปเลย แล้ว..ก็หายต๋อมไป รักษาแผลตนเอง

    ถ้าผมไม่เข้ามาเอาขยะทางความคิด ของเขาเหล่านี้ คนเหล่านี้ ก็ระบายขยะในใจเขาออกไปไม่ได้ครับ

    ผมเทศบาลเก็บขยะครับ...ทางเวปน่าจะจ่าย เงินเดือนให้ผมด้วยซ้ำ
     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    มันเป็น การฝึกของผมครับ ฝึกรับพิษ เพื่อเพิ่มความทนทาน
    การรีไซเคิลด้วย ปัญญาในตนครับ...เหมือนเที่ยวไปรับ ปัญหาชาวบ้านมาแก้ครับ
    ต้องแก้ได้ด้วยนะครับ เวทนาถึงจะหายไปได้ ไม่งั้น ตนเองก็ต้อง ทนรับเวทนาจากพลังงานปัญหเหล่านั้น จนกว่าจะแก้ได้

    เหมือนต้นไม้ที่แปลง อากาศเสียให้เป็นอากาศดีไงครับ

    แปลว่า คนที่กล้ารับพลังงานความคิดจากคนอื่นได้ ต้อง เสียสละตนครับ มีหลายคนที่บอกว่า ทำแบบผมคือโง่ ไม่มีใครเขาทำกัน..อิอิ..ภูมิใจชิพ
     
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ปกติคนที่ฝึกจิตระดับสูง จนสามารถเห็น รู้ เรื่องที่เป็นพลังงาน เช่น ตาทิพย์ ภาพ เสียง เขาจะปิด อายตนะของตน ไม่ค่อยยุ่งเรื่องกรรมของคนอื่นครับ...แต่ผม รับเละ อิอิ

    ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจนะครับว่า ใครพูดเรื่องอะไรมา ทำไมผมต้อง รู้ไปกับเขาด้วย..
    ประมาณว่า ถ้าอยากมีความลับ อย่ามาคิดถึงผม เพราะทุกความคิดในจิตคุณ จะมาที่ผมทั้งหมด
    แม้เรื่องที่คุณพยายามปกปิดเอาไว้ก็ตาม....อิอิ
     
  16. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    พลังงานปัญหาในจิตของคนอื่น ...มันถ่ายเทไปหาคนอื่นได้ ด้วยการคิดถึง..แปลว่า ถ้าคิดไม่ดี ก็เหมือนการทำร้าย หรือมีความทุกข์ความเศร้า ก็เหมือนการทำร้าย คนอื่น โดยไม่ตั้งใจ
    เพราะแค่คิดถึง คนอื่น พลังงานความทุกข์มันก็ไปหาคนอื่นละ

    ทีนี้ มันก็ขึ้นอยู่ว่า คนรับ เขารับไปคิดมั้ย เหมือนคนที่ถูกด่า เขารับเสียงด่าไปปรุงมั้ยนั่นเอง
    แต่ คนที่จะรับ ความคิดคนอื่นมาได้เพื่อ แก้ปัญหา ต้องมีปัญญาในตน หน่อย
     
  17. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ทีนี้ ความทุกข์จากคนอื่นที่มา มันก็อาจใช้เวลา แก้ไข ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ บางคน ไม่เปิดใจ พยายามปกปิด ความลับในใจตน อย่างยิ่งยวด กลัวอาย...ที่กลัวมีคนมารับรู้ ความชั่วในใจของตน ที่เคยกระทำมา...ดังนั้น การระบายถ่ายเทพลังงาน ไปสู่ดินน้ำลมไปธรรมชาติ หรือการส่งตีกลับไปหาเจ้าของปัญหาจึง ต้อง เรียนรู้ หลักการ เหล่านี้ด้วย
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    สมมุติว่า ผมเป็นอะไร ที่เรียกว่า อรหันต์ (สมมุตินะ) พลังความคิดที่มีเจตนาไม่ดี ของคนอื่นที่มา ก็ย่อม ถูก ความจริงในตัวผมเป็น ผู้กระทำ กลับ โดยอัตโนมัติ...ตามที่ผมอ้างประจำว่า กฏแห่งกรรม ใครทำกับผมมันจะสนองคืน เร็วกว่าไปทำกับคนอื่น

    ผมเลย เหมือน เข้ามาหาเรื่อง คนทั่วไป แต่ที่จริง เข้ามา ให้พวกเขา สร้างกรรมกับผม ต่างหาก....
     
  19. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    แต่ผมเป็นคนธรรมดา ที่ไม่หลงตัวเอง ดังนั้นเวลารับพลังงานความคิด ความทุกข์ของคนอื่น ผมจึงไม่หลงจับมาปรุงเป็นอุปาทาน ต่อไป ได้...นั่นเอง

    ดังที่เขาว่า คนคนนึง คือโลกใบนึง ที่เป็นโลกปัจจุบัน แต่ดันพ่วงโลกอดีตกับโลกอนาคตมาด้วย พร้อมเจ้ากรรมนายเวร...ดังนั้น เวลารับพลังงานความคิดของคนอื่น จึง ไม่ง่ายนัก ไม่เลือกได้เหมือนทีวี ที่รับคลื่นในอากาศ ได้ทีละช่อง.. แต่คลื่นความคิดคนอื่น มีอยู่เต็มไปหมด ทั้งอากาศ และสิ่งของ ของคนคนนั้น..แม้ในอาหารที่เขาทำมาให้กิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2016
  20. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    กระทู้นี้มีแต่ไฟโทสะ ผ่านมาตั้งสองสามวันแล้วยังไม่ยอมดับอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...