เรื่องเด่น นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 16 กันยายน 2014.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,705
    พระอาทิตย์ทรงกลดเหนือบริเวณพระธาตุนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ในวันเคลื่อนพระบรมศพ 14 ตุลาคม 2559


    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Views/142304_zps4plpcsfp.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Views/142304_zps4plpcsfp.jpg" border="0" alt=" photo 142304_zps4plpcsfp.jpg"/></a>
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Views/142307_zpsqntqtpzq.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Views/142307_zpsqntqtpzq.jpg" border="0" alt=" photo 142307_zpsqntqtpzq.jpg"/></a>
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Views/142303_zpsry5u4lxi.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Views/142303_zpsry5u4lxi.jpg" border="0" alt=" photo 142303_zpsry5u4lxi.jpg"/></a>
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Views/142306_zpsr0bysyyd.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Views/142306_zpsr0bysyyd.jpg" border="0" alt=" photo 142306_zpsr0bysyyd.jpg"/></a>
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Views/142305_zps9fhebj3y.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Views/142305_zps9fhebj3y.jpg" border="0" alt=" photo 142305_zps9fhebj3y.jpg"/></a>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2016
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,705
    <iframe src="https://www.facebook.com/plugins/video.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FPathToNirvana%2Fvideos%2F627363844107738%2F&show_text=0&width=560" style="border:none;overflow:hidden" scrolling="no" allowtransparency="true" allowfullscreen="true" height="315" width="560" frameborder="0"></iframe>

    รับชมการถ่ายทอดสดพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดท่าซุง ได้จากด้านบนนี้หรือในเพจมูลนิธิฯ ตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ

    https://www.facebook.com/PathToNirvana/?fref=ts
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2016
  3. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,705

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/man_04_115-1-1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/man_04_115-1-1.jpg" border="0" alt=" photo man_04_115-1-1.jpg"/></a>
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/E2D0E190E380E420E210E170E190E320E2A0E320E180E380.png.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/E2D0E190E380E420E210E170E190E320E2A0E320E180E380.png" border="0" alt=" photo E2D0E190E380E420E210E170E190E320E2A0E320E180E380.png"/></a>
     
  4. tossa

    tossa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +3,028
    กราบ กราบ กราบ
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,376
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    มีใครทราบว่าหลวงพ่อเทศกับท่านใดคะ (เพิ่งจะมีคนฟังแค่พันกว่าๆ)

    เทศน์แจง ๒ ธรรมาสน์ พระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง บ หมวดทั่วไป ทางไปนิพพาน
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/Drs3ASGpX50" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
    watpotv;-Published on Apr 1, 2015
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,153
    เทศน์แจง ๒ ธรรมาสน์ พระราชพรหมยาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง บ หมวดทั่วไป ทางไปนิพพาน

    หลวงพ่อฯเทศน์คู่กับ พระครูวิชาญชัยคุณ(หลวงพ่อสำราญ)วัดปากคลองมะขามเฒ่า ครับ...หลวงพ่อสำราญนิมนต์หลวงพ่อพระมหาวีระ ไปอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าช่วงระยะเวลาก่อนที่จะมาอยู่วัดท่าซุงครับ
     
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,376
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    .......
    ขอบพระคุณมากค่ะ สาธุๆๆค่ะ สนุกมากเลย:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Thank you.jpg
      Thank you.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.5 KB
      เปิดดู:
      102
  8. Norr

    Norr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +127,437
    น้อมกราบสมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ

    สวัสดีวันจันทร์พี่วรรณ และลูกหลานหลวงพ่อทุกๆท่าน


    [​IMG]
     
  9. RattanaMongkol

    RattanaMongkol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    906
    ค่าพลัง:
    +4,963
    ขอกราบสักการะบูชา สมเด็จองค์ปฐมและสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย หลวงปู่ปาน และ หลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นที่สุด

    สวัสดีครับคุณวรรณ และ ลูกหลานหลวงพ่อทุกท่าน

    ผมนำประกาศการใช้ถ้อยคำถวายความอาลัย จากประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี และตัวอย่างคำวลีถวายความอาลัย จากสำนักงานราชบัณฑิตยสภา มาให้ทุกท่านเพื่อเป็นความรู้และเป็นประโยชน์ในโอกาสต่อไปครับ

    ขออนุโมทนาสาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2016
  10. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112


    กราบครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,705
    คำชี้แจงเหตุผลในการทำลายหนังสือที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของวัดท่าซุง

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/0_zpsadrnyefz.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/0_zpsadrnyefz.jpg" border="0" alt=" photo 0_zpsadrnyefz.jpg"/></a>

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1996
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Page_4.jpg
      Page_4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      657.6 KB
      เปิดดู:
      129
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2016
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,705
    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/E2D0E190E380E420E210E170E190E320E2A0E320E180E380.png.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/E2D0E190E380E420E210E170E190E320E2A0E320E180E380.png" border="0" alt=" photo E2D0E190E380E420E210E170E190E320E2A0E320E180E380.png"/></a>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2016
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,705
    [​IMG]

    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/Views/9_zpsvhr8vuxh.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/Views/9_zpsvhr8vuxh.jpg" border="0" alt=" photo 9_zpsvhr8vuxh.jpg"/></a>

    <a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/DaTa/man_04_115-1-1.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/DaTa/man_04_115-1-1.jpg" border="0" alt=" photo man_04_115-1-1.jpg"/></a>

    ขอบคุณคุณ RattanaMongkol มากครับ
     
  14. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,705
    หลวงพ่อเล่าให้ฟังถึงเรื่องสมเด็จพระนเรศวรมหาราชครับ


    [​IMG]
    [​IMG]





    <dd><center> ฝึกอตีตังสญาณ ป่าศรีประจันต์</center>

    </dd><dd>วันนี้ วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๓๓ วันนี้ก็จะคุยกับบรรดาท่านพุทธบริษัทเรื่อง ซ้อมอตีตังสญาณ ที่ป่าศรีประจันต์ ตามเดิม ขณะอยู่ที่ป่าศรีประจันต์รู้สึกว่า มีความสุขมาก เพราะว่าในสถานที่นี้ลุงวิก็มาสร้างภูเขาให้ สร้างถ้ำให้ มีสนามเดิน มีสนามหญ้า มีสนามดอกไม้ มีต้นไม้ใหญ่พุ่มไสว มีเตียงนอน นุ่มนิ่ม เตียงเป็นหิน แต่ว่านุ่มนิ่ม ภายในถ้ำก็มีธารน้ำไหล อากาศก็ส่องสบาย มีความสุข

    </dd><dd>ต่อมาวันหนึ่ง ความจริงอยู่กันมา ๒ - ๓ วัน ที่นี่มีความสุขกว่าที่ป่าศรีประจันต์ด้านตะวันออกมาก ฝั่งทิศตะวันออก อยู่กับโคนต้นไม้ แต่ก็มีความสุข แต่ว่าป่าเวลานั้น บรรดาท่านทั้งหลายผู้ฟัง หากว่าท่านทั้งหลายมีอายุประมาณสัก ๖๐ ปีเศษ ๆ ขึ้นไป ก็จะเข้าใจถึงป่า ในเวลานั้น ถ้ามีอายุน้อยกว่านั้นจะมีความเข้าใจยาก ทั้งนี้ก็เพราะว่าเวลานั้นมีป่ามาก

    </dd><dd>ประเทศไทยมีที่ว่างน้อย คนไทยยังน้อย คนไทยมีประมาณ ๑๐ ล้านเศษ ๆ เครื่องจักรเครื่องกลทำลายป่ายังไม่มี ต้นไม้ต้องใช้เลื่อยเลื่อยบ้าง ใช้ขวานฟันบ้าง กว่าจะตัดออกสักต้นก็แสนยาก ดินแดนที่ทำมาหากินก็หาง่าย ถ้าใครต้องการป่าที่ไหนจะทำไร่ไถนา ก็ไปตัดต้นไม้ตรงโน้นไว้ต้นหนึ่ง มุมนี้ไว้ต้นหนึ่ง มุมนี้ไว้ต้นหนึ่ง มุมนี้ไว้ต้นหนึ่ง แสดงว่า ที่ตรงนี้เป็นที่ของฉัน

    </dd><dd>หลังจากนั้นก็ไปขอใบเหยียบย่ำจากเจ้าหน้าที่ แล้วก็มาค่อย ๆ ถางป่า ป่าก็มีมาก ความเย็นก็สูง พออากาศตอนเย็น ๆ ประมาณสัก ๓ โมงเย็น ก็เริ่มเย็นมากแล้ว ๔ โมงเย็น น้ำค้างตก ๕ โมงเย็น ถ้านั่งข้างนอก จีวรเปียก ป่ามันหนาว และก็มีความเย็นสูงมาก แค่ป่าใกล้ ๆ เป็นป่าสำหรับฝึกธุดงค์ขั้นอุกฤษฏ์ ที่หลวงพ่อปานท่านให้ปฏิบัติ

    </dd><dd>ก็ยังมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยเสือสางนางไม้ เก้ง ละมั่ง กระต่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุนัขจิ้งจอก และหมาป่าก็ยังมี ที่หายากเข้ามานิด ก็คือ ช้าง ช้างมีเหมือนกัน แต่นาน ๆ จะพบสักทีหนึ่ง เป็นอันว่า การอยู่ฝั่งทิศตะวันออกของ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ก็อยู่แบบชนิดที่เรียกว่า คนอยู่ป่าใหม่ ๆ เวลาตื่นขึ้นเช้า กลดที่บังน้ำค้างก็เปียกโชก

    </dd><dd>น้ำไหลโกร๊ก ดีไม่ดีก็ชื้นลงข้างล่าง ทีนี้พอลุงวิท่านพามา มาอยู่ที่ถ้ำชั่วคราว ขอพูดตามท่าน อยู่ที่ถ้ำ และเขาชั่วคราว มันจะเป็นชั่วคราวหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ที่นี่มีความสุข สถานที่เดินก็มีเงื้อมเขา มีเงื้อมเขาชะโงกมาเป็นหลังคา น้ำค้างตกลงมาก็ไม่ถูก มีลานสำหรับเดินเล่น มีลานหญ้ามีต้นไม้สวย ๆ มีดอกไม้สวย ๆ และก็ไม่ต้องบำรุง ไม่ต้องรดน้ำ

    </dd><dd>ไม่ต้องทำอะไรทั้งหมด สวยจริง ๆ กลางคืนเสียงจักจั่นเรไรร้อง เสียงไพเราะ นาน ๆ จะได้ยินเสียงเสือร้องสักครั้งหนึ่ง เสือร้องกลางคืนเสียงครืด ๆ ๆ ไปใช่ ปี๊บ ๆ ๆ ก็มีความสุขอยู่กันอย่างสบาย และการอยู่ธุดงค์ต้องระมัดระวัง นั่นก็คือว่า การที่จะต้องอดข้าวกิน จะต้องระวังทางด้านจิตใจ ไม่ให้นิวรณ์กวนใจ ขึ้นชื่อว่า นิวรณ์ บรรดาท่านผู้ฟัง มันต้องกวนตลอดเวลา

    </dd><dd>คำว่า นิวรณ์ เดี๋ยวท่านจะไม่ทราบว่าอะไร บางท่านไม่ทราบ คำว่า นิวรณ์ เป็นภาษาบาลี ตามพระไตรปิฎกท่าน แปลว่า เป็นกิเลสหยาบที่ทำปัญญาให้ถอยหลัง นั่นก็หมายความว่า คนใดถ้านิวรณ์รบกวนใจ ประจำใจอยู่ เวลานั้นเป็นคนไร้ปัญญา นิวรณ์ ๕ ประการ ก็คือ

    </dd><dd>๑.ความรักในระหว่างเพศ ขอเจาะเอาสั้น ๆ คือ รักรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ ก็ขอพูดสั้น ๆ ว่า ความรักระหว่างเพศ รักแก้ว ถ้วยโถโอชาม สร้อยถนิมพิมพา ก็รักแค่นั้นแหละ ความรุ่มร้อนมันมีน้อย ถ้าเกิดรักคนสวยขึ้นมานี่ ความเร่าร้อนมันมีมาก เลยถือใช้คำนี้เป็นคำสำคัญ และก็

    </dd><dd>๒. อารมณ์ไม่พอใจ จะต้องมีอารมณ์แช่มชื่นอยู่เสมอ
    </dd><dd>๓. ความง่วงในขณะที่ปฏิบัติความดี
    </dd><dd>๔. อารมณ์ฟุ้งซ่านนอกรีตนอกรอย สร้างวิมานในอากาศ
    </dd><dd>๕. สงสัยในความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และกฎของกรรม

    </dd><dd>รวมความว่า ทั้ง ๕ อย่างนี้ จะต้องไม่ให้เป็นเจ้าหัวใจ มันมีได้ แต่ทว่า มันก็ต้องมี ไม่ใช่ไม่มี แต่มันมีขึ้นเดี๋ยวเดียว ต้องรีบตกลงไป ถ้า กามฉันทะ เกิดขึ้น ก็ใช้ กายคตาสติ กับอสุภกรรมฐาน เข้าหักล้าง ถ้า ความโกรธ ความพยาบาท เกิดขึ้น ใช้ พรหมวิหาร ๔ เข้าหักล้าง ถ้า ความง่วง เกิดขึ้น เอาน้ำล้างหน้า หักล้าง

    </dd><dd>ความฟุ้งซ่าน เกิดขึ้นจับ อานาปานสติ หักล้าง ความสงสัย เกิดขึ้น ใช้ ปัญญา ใคร่ครวญความเป็นจริง ถึงความ มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น ความแก่ ความเก่าในท่ามกลาง การเปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง การแตกสลายในที่สุด ค่อย ๆ ทำมันไปตามนี้เบา ๆ ไม่ต้องเรียนมาก เวลาที่เข้าป่า เพิ่งได้นักธรรมตรี กำลังจะเรียนนักธรรมโท

    </dd><dd>และเวลาว่างก็อ่านแบบนักธรรมโทไปด้วย หนังสืออธิบายด้วย ถ้าหากว่าไม่เข้าใจ ตอนไหนก็ขีด ๆ เส้นใต้ ไว้ถามพระท่านต่อไป พระท่านอธิบายเข้าใจง่าย ๆ ไม่ยากเหมือนครูสอน ตอนนี้มาก็มานั่งหารือกันว่า บรรดาพวกเราทั้งหลาย ก่อนที่จะมาอยู่ที่นี่ ขณะที่เราฝึกอยู่ที่ป่าช้า วัดบางนมโค ตอนนั้นหลวงพ่อปานสั่งอะไรไว้เป็นสำคัญ สิ่งที่สั่งไว้เป็นสำคัญก็คือ อตีตังสญาณ รู้เหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาแล้ว

    </dd><dd>อย่างที่ป่าช้าวัดบางนมโคมีอะไรบ้าง ต้องเขียนแต่ละสมัย ไปรายงานให้หลวงพ่อปานทราบ เวลาที่เราไปเที่ยว วัดบางปลาหมอ ก็กลับมาเขียนรายงานให้ทราบว่า ในอดีตมีอะไรบ้าง ไปเที่ยววัดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ก็ต้องรายงานให้ทราบ ไปเที่ยววัดสามกอ ก็ต้องรายงานให้ทราบ อย่างนี้เป็นต้น

    </dd><dd>ทีนี้ก่อนจะมา หลวงพ่อปานสั่งว่า เธอจะไปที่ไหนก็ตาม ไปพักที่ไหนก็ตาม ต้องรู้อดีตของที่นั่น แต่ทว่าความสำคัญที่พวกเรารู้ บางทีหลวงพ่อปานก็ขีด ๆ ว่า ถูก บางทีก็บอกว่า ถูก แต่ไม่ครบถ้วน บางทีก็บอกว่า ถูก แต่ว่าผิดสมัย สมัยที่น่าจะรู้มากกว่านี้ ทำไมจึงไม่รู้ ก็รวมความว่า เรารู้ไม่จริง ความรู้จริงต้องอาศัยตามที่ อาจารย์ทอง พูด

    </dd><dd>อาจารย์ทองบอกว่า การรู้ด้วยกำลังของฌาณ ๔ ยังมีอุปาทานกินมาก ถ้าจะรู้จริง ๆ ไม่พลาด ต้องอาศัยถามองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเอง คือ ถามพระพุทธเจ้าเอง ทีนี้เวลานี้ สมัยที่อยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำศรีประจันต์ ใกล้อำเภอผักไห่ เราไม่มีเวลาจะทำ กลางวันก็แย่ กลางคืนก็เครียดจากความหนาว เวลานี้เรามีความสุขสบายแล้ว

    </dd><dd>ในเรื่องการรู้เรื่องราวสถานที่ต่าง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องนั่งตรงนั้น ทั้งทั่วประเทศ หรือทั่วโลก เราอยากจะรู้อะไรอยู่ที่ไหน เราก็สามารถรู้ได้ แต่ว่าพวกเราจะรู้กันอย่างไรเอามาสอบกันดีไหม ต่างคนต่างใช้ อตีตังสญาณ แล้วมาสอบกัน เพื่อนทั้ง ๒ ก็ค้าน ท่านลิงขาวบอกว่า ทำอย่างนั้นได้ แต่ว่าอุปาทาน มันจะกินมาก ยิ่งเรามีความสนใจมากอุปาทานก็กินมาก

    </dd><dd>และอีกประการที่ ๒ เราไม่มีเครื่องสอบสวน เอากันอย่างนี้ดีกว่า ทางที่ดี ถามตรงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเป็นการรบกวนท่านเกินไปไหม ความจริงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้ ไม่น่าจะกวนพระพุทธเจ้า ท่านอีกองค์หนึ่ง ท่านลิงเล็กก็บอกว่า เป็นความจริง เรื่องอย่างนี้ไม่น่าจะกวน ก็คิดว่า อย่างน้อยที่สุด ท่านเจ้าของที่ คือ ภุมเทวดา

    </dd><dd>ท่านต้องรู้ ภุมเทวดาไม่ใช่ว่าจะมีขอบเขต และมีร่างกายเป็นทิพย์ มีใจเป็นทิพย์มีอารมณ์เป็นทิพย์ มีตาเป็นทิพย์ มีหูเป็นทิพย์ ทิพย์ทั้งหมด ถ้าหากว่า ภุมเทวดาท่านบอกว่า ความรู้ท่านแคบไป เราเอาแค่ท่านรู้ หลังจากนั้นก็ถาม รุกขเทวดา รุกขนางฟ้า ถ้ารุกขเทวดา รุกขนางฟ้า ท่านบอกเราแคบเกินไป เราก็ถาม อากาศเทวดา ต่อไป ดีไหม ทุกองค์ก็เห็นพร้อมใจกันบอก ดี

    </dd><dd>ทีนี้เราจะรู้อะไรก่อน เพื่อนก็บอกว่า เวลานี้เรามาอยู่ใกล้ดอนเจดีย์ ดอนเจดีย์เป็นสถานที่บรรจุ พฤติการณ์ไม่ทราบว่าตอนต้นเขาเขียนกันว่าอย่างไร จริง ๆ แล้วมีความเข้าใจว่า ฝังศพพระมหาอุปราช เขาว่าอย่างนั้น ทีนี้เราก็ไม่แน่ใจว่า คนเขียนเขาจะเขียนถูกหรือเขียนผิด หรือเราจะรู้ถูกรู้ผิด เราก็ไม่ทราบ เราจะถามใคร ทั้ง ๒ องค์ก็นิ่ง เมื่อนิ่งแล้วก็เสียงดังคล้าย ๆ

    </dd><dd>หินโยนตึ๊กข้างหลัง เหลียวไปดู เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งแต่งตัวสวย เขาใช้ชุดทรงสีขาวนุ่งผ้าพื้น ใส่รองเท้าเชิงงอน ใส่เสื้อเรียบ ๆ มีเครื่องผูกหัวน่ะ ผูกผมนิดหน่อย เป็นผู้ชาย เดินมาแล้วก็ยกมือไหว้ถามว่า ท่านคุยกันเรื่องอะไรครับ ก็ถามว่า คุณมาจากไหน ท่านก็ตอบตรงไปตรงมาว่า ผมเป็นภุมเทวดาที่นี่ครับ เป็นอันว่า ท่านวิ ลุงวิสั่งผมไว้ว่า ท่านมีธุระอะไร

    </dd><dd>ถ้าไม่เกินวิสัยของผม ให้ ผมบอก ถ้าเกินวิสัยของผม ให้ถามรุกขเทวดาต่อ ถ้ารุกขเทวดา ตอบไม่ได้ ถามอากาศเทวดาชั้นจาตุมหาราช ถ้าเกินวิสัยจากท่านนั้น ก็ให้ถามตรงท่านวิเลย สำหรับท่านวิ อะไร ๆ ก็รู้หมด เลยถามว่า ท่านเป็นภุมเทวดาอยู่ที่นี่นานไหม ท่านบอกว่า ถ้าจะนับอายุมนุษย์ก็ประมาณ ๓๐๐ ปีเศษแล้ว ก็ถามว่า ถ้านับอายุเทวดาจะเท่าไร

    </dd><dd>ท่านบอกว่า ใช้ ๕๐ หารสิครับ ๕๐ ปีของมนุษย์เป็น ๑ วันของผม ๓๐๐ ปีนี่มันกี่วัน ๖ วันเท่านั้นเอง ก็ถาม ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีเวลาหลับเวลานอน ท่านบอก เทวดาไม่มีความจำเป็นต้องนอน เทวดาไม่มีความจำเป็นต้องหลับ คำว่า เหนื่อยของเทวดา ไม่มี เพราะเทวดาไม่มีขันธ์ ๕ เลยถามท่านว่า ถ้าอย่างนั้นที่ดอนเจดีย์นี่ อยากจะทราบว่า เขาฝังศพพระมหาอุปราชใช่ไหม

    </dd><dd>ท่านบอกว่า ไม่มีใครเขาเอาข้าศึกมาบูชาหรอกครับ แหม…ท่านตอบน่ารัก มหาอุปราชกษัตริย์ของพม่าเวลานั้น เป็นศัตรูกับคนไทย ยกทัพมาย่ำยี ไทยอาศัย พระนเรศวรกับพระเอกาทศรถ ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีบุญญาธิการมาก จึงเข้าชนช้างกัน ในที่สุดก็ฟันพระมหาอุปราชตาย และพระเอกาทศรถก็ฆ่านายทหารของเขาตายพร้อมกัน

    </dd><dd>ทีนี้ศพคนเลว ๆ แบบนี้ ไม่มีใครบูชา ก็เลยถามว่า ถ้าอย่างนั้นเขาฝังอะไรไว้ล่ะ ท่านบอก เขาฝังเครื่อง ศาสตราวุธที่มีอยู่บนหลังช้างทั้งหมด ก็ถามว่า ช้างไม่วิ่งหนีหรือ ท่านตอบ ช้างมันวิ่งหนีไม่ได้ เพราะควาญช้างก็ถูกฆ่าตายเช่นเดียวกัน จับช้างได้ จึงเอากูบช้างลงมา อาวุธทั้งหมดในนั้นมีครบ ถอดเครื่องกษัตริย์วางไว้ แล้วก็นำมาขุดหลุมฝังที่ตรงนี้ แล้วทำเจดีย์ครอบ

    </dd><dd>ก่อนที่จะฝังน่ะ เขาทำพิธีกรรมเหยียบย่ำกันอย่างหนัก เรียกว่า สาปให้พม่าฉิบหายขายตนไปเลย เมื่อถามท่านต่อมาว่า การเหยียบย่ำ ใครเหยียบ ก็บอกว่า พราหมณ์ หรือเจ้าพิธีกรรมเป็นคนเหยียบ ไม่ใช่พระนเรศวรเป็นคนเหยียบ เพราะตอนทำพิธีกรรมเหยียบย่ำแล้ว เขาทำอ่างเก็บไว้ เวลานี้ของทั้งหลายเหล่านั้นยังอยู่ดี เขาทำเป็นอ่างเก็บดีเรียบร้อย ไม่มีสนิม

    </dd><dd>และก็ปิดสนิท หลังจากนั้นก็ทำเจดีย์ เมื่อทำเจดีย์เสร็จ ก็นิมนต์พระมาสวด พระมาทำพิธีกรรม พระแก่ที่เป็นหัวหน้าที่สุดเป็น อรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ เวลานั้นมีพระอรหันต์มาร่วมจริง ๆ ๖ องค์ นอกจากนั้นก็เป็นพระอันดับต่ำลงมา พระทรงฌานโลกีย์ แล้วก็ถามท่านต่อไป แล้วอย่างไรต่อไป ท่านก็บอกว่า ถามเท่านี้ ตอบเท่านี้

    </dd><dd>แล้วจะเอาอย่างไรอีกล่ะ แล้วก็ถามต่อไปว่า ถ้าอย่างนั้นคำสาปของพระอรหันต์จะมีผลขนาดไหน ท่านตอบว่าคำสาปของพระอรหันต์ ท่านลุงวิบอกแล้ว บอกว่า ประเทศไทยก็เป็นประเทศไทย ไม่เป็นประเทศราช ไม่เป็นขี้ข้าของพม่าต่อไป แต่พม่ายังจะมีการรุกรานประเทศต่อไปอีก ตามกฎของกรรมของคนไทย และก็เป็นกรรมของทหารพม่า ทั้งนี้เพราะอะไร

    </dd><dd>เพราะว่าทหารพม่าเจ้านายยกทัพมามันก็ต้องตายกัน พลัดลูกพลัดเมีย ผู้หญิงเป็นหม้ายไปตาม ๆ กัน ก็รวมความว่า สงครามไม่มีอะไรดี สงครามมีแต่ความโหดร้าย แล้วต่อไปประเทศไทยก็ต้องย้ายไปที่ บางกอก คือ ฝั่งธนบุรี หลังจากนั้นจะต้องอยู่ฝั่ง กรุงเทพ คือ ฝั่งบางกอกใหญ่ แล้วก็ถามท่านบอกว่า เวลานี้ก็อยู่ที่กรุงเทพแล้ว ก็อยากจะทราบจริง ๆ เอากันจริง ๆ นะว่า

    </dd><dd>พระนเรศวรมหาราชทรงสวรรคตขณะที่ยกทัพไปตีพม่า กำลังใจของท่านเวลานั้น มีกำลังใจอย่างเดียว คือ ฆ่า หรือจับ ยึดประเทศชาติให้ได้ ทำลายพม่าให้ได้ กำลังใจเต็มอารมณ์ของความบาป อยากจะทราบว่า พระนเรศวรตกนรกหรือเปล่า ท่านภุมเทวดา ท่านก็บอกว่า ไม่ตกนรกครับ เลยถามท่านบอกว่า ขนาดที่บาปยกทัพจะไปรบกันน่ะ มันมีแต่อาวุธ

    </dd><dd>ทั้งกำลังใจตั้งใจจะห้ำหั่นกัน ท่านภุมเทวดาท่านก็บอกว่า ความจริงการยกทัพไปรบก็มีอารมณ์ ๒ อย่าง
    </dd><dd>๑. อยากจะห้ำหั่นข้าศึก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องการมากอย่างยิ่ง คือ ยึดพื้นที่
    </dd><dd>และประการที่ ๒ มีความต้องการให้บุคคลภายหลังในประเทศของเรา อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ด้วยความเมตตาปรานี เพราะจะได้ไม่ถูกบรรดาพม่าทั้งหลายรบกวนต่อไป กำลังใจเป็นทั้งบุญ และบาป

    </dd><dd>และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักรบทุกคนที่ไปรบนั้น หรือเวลาอื่นก็ตาม ทุกคนตื่นขึ้นเช้า เป็นนักบุญหมด พอเทวดาพูดอย่างนั้น ก็ตกใจว่า นักรบเป็นนักบุญหมด ถาม นักรบเป็นนักบุญอย่างไร ท่านก็ตอบบอกว่า นักรบทุกคน ตื่นขึ้นมาแล้ว นึกถึงพระอันดับแรก พระที่ห้อยอยู่ที่คอ ความจริงนะ พระจริง ๆ ไปรบมากกว่าคนไปรบ คน ๓๐ คน มีพระเกิน ๑๐๐ องค์ที่ร่วมรบ

    </dd><dd>เลยถามว่า พระวัดไหนกันนะ คงไม่ใช่พระวัดท่าซุงนะ ท่านบอกว่า เวลานี้พระวัดท่าซุงก็ไปรบ ขณะที่เขามีการก่อการร้ายกันน่ะ พระวัดท่าซุงออกมาเป็นหมื่น ก็เลยบอกว่า พระวัดท่าซุงไม่มีเป็นหมื่นนะ จำพรรษาอย่างเก่งก็ ๕๐ – ๖๐ ท่านบอก นั่นพระสงฆ์ นี่ผมไม่ได้พูดถึงพระสงฆ์นี่ ก็ถาม พระอะไร พระห้อยคอ

    </dd><dd>เป็นอันว่า นักรบทุกคนเวลาตื่นขึ้นเช้าไม่อยากตาย ปลุกพระ อาราธนาบารมีพระให้ช่วย คำว่า พระที่ห้อยคอ นี่หมายถึง พระพุทธเจ้า และก็หมายถึง พระสงฆ์ผู้ทำพระ เขานึกถึงพระที่ห้อยคอแล้ว เขาก็ปลุกด้วยคาถาตามที่เขาเรียนมา เป็นการอาราธนาบารมี ขอความปลอดภัยของตัว เขาเป็นนักบุญทุกวัน ในเมื่อเขาเป็นนักบุญอย่างนี้ ถ้าถูกฆ่าตายในขณะที่จิตใจนึกถึงพระ

    </dd><dd>แทนที่เขาจะไปนรก เขาไปสวรรค์ทันที เพราะใจนึกถึงพระ เอาเข้านั่น และพระนเรศวรมหาราชก็เช่นเดียวกัน พระองค์ไม่ได้นึกถึงพระเฉพาะป้องกันพระองค์เอง นึกถึงพระให้ป้องกันทหารในกองทัพทั้งหมดนึกว่าขอให้ชนะข้าศึก เพื่อให้คนไทยทั้งหมดมีความเป็นสุข เมตตาสูงมาก ฉะนั้น พระนเรศวรมหาราชท่านจึงไม่ลงนรก

    </dd><dd>เมื่อฟังไปแล้วก็คิดว่า เอ๊ะ…นี่เราได้ความรู้จากเทวดา เราคิดกันมานานแล้วว่า ถ้านักรบต้องลงนรก นี่ไม่ใช่เสียแล้ว เทวดาพูด เราต้องเชื่อ ถ้าใครจะไม่เชื่อ ก็เชิญไปซักเทวดาที่ศรีประจันต์ก็แล้วกัน ข้าง ๆ กับดอนเจดีย์ เลยถามไปนิด ถามว่า ขอต่ออีกหน่อยได้ไหม ท่านถามว่า ต่ออะไร อยากจะถามว่า พระนเรศวรมหาราชทรงสวรรคตแล้ว ไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน

    </dd><dd>ท่านตอบทันทีเลยว่า นักรบไปอยู่ชั้นจาตุมหาราช เป็นนายของพวกผม ถามว่า เวลานี้ พระนเรศวรมหาราชอยู่ทิศไหน ท่านบอกว่า เวลานี้พระนเรศวรมหาราชอยู่ทิศตะวันออกของประเทศไทย คำว่า ตะวันออก นี่หมายถึง ประเทศไหน หรือแหล่งไหน ท่านบอก ไม่ใช่ เวลานี้พระนเรศวรมหาราชเกิดเป็นคนแล้ว และอยู่ในประเทศ อยู่ด้านทิศตะวันออกของประเทศไทย

    </dd><dd>จึงถามท่านบอกว่า พระนเรศวรมหาราชเป็นคนไทย หรือเป็นคนแขก หรือเป็นคนลาว หรือว่าเป็นฝรั่ง ท่านบอกว่า เป็นคนไทยที่เกิดในเมืองฝรั่ง และในการต่อไปข้างหน้า วาระเข้ามาถึง พระนเรศวรมหาราชจะเข้ามาครองประเทศไทยในฐานะเป็นพระมหากษัตริย์ บรรดาท่านผู้ฟัง ฟังเรื่องนี้แล้ว ฟังทิ้งไว้ก่อนนะ อย่าเชื่อนะ อย่าไปเชื่อ ถ้าจะเชื่อ ถามท่านผู้รู้จริง ๆ

    </dd><dd>อันนี้เป็นการฟังจากภุมเทวดา ถามว่า เป็นกษัตริย์ จะเป็นกษัตริย์นักรบไหม ท่านบอก ขึ้นชื่อว่า พระนเรศวร เกิดชาติไหน รบชาตินั้น แต่การรบตอนหลังพระนเรศวรจะไม่มีเวลาพักผ่อนตั้งแต่เริ่มต้นเป็นกษัตริย์ ก็จะรบเรื่อยไป จนกระทั่งยันวันตาย เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นคนไทยทั้งชาติไม่ต้องทำมาหากินกันละ ก็รบกันอย่างเดียว ภุมเทวดาท่านบอก ไม่ใช่ คนไทยทั้งชาติตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน แต่พระนเรศวรมหาราชจะตั้งหน้าตั้งตารบ

    </dd><dd>ถามว่า รบองค์เดียวหรือ ท่านบอกว่า มีคู่หูรบ ถามว่า รบกับอะไร รบกับใคร รบอย่างไร ท่านบอกว่า รบกับความยากจนของคนทั้งชาติ นั่นคือพระนเรศวรมหาราชมีพระเมตตากรุณากับคนไทยมามาก ในกาลก่อนที่ต้องการรบ ก็เพราะว่า ต้องการให้บรรดาประชาชนมีความสุข ถ้าพม่ารบกวนอย่างนั้น คนไทยจะมีความสุขไม่ได้ จะตั้งตัวไม่ได้ ก็มีความจำเป็นต้องรบ เสี่ยงชีวิต

    </dd><dd> แม้ต้องปีนค่าย เอาปากคาบดาบ เอามือยึดค่าย เท้าปีนค่ายก็เอา ขึ้นไปฟันกับข้าศึก ถ้าพลาดพลั้ง มันก็ต้องตาย เสียสละชีวิตของพระองค์ เพื่อคนไทยทั้งชาติขนาดนี้ และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นนิสัย ขึ้นชื่อว่า นิสัย นี่ละไม่ได้ หรือว่าอีกอย่างหนึ่ง ภาษาไทย ๆ อย่าพูดเลย เอาว่า นิสัยละไม่ได้ก็แล้วกัน ดู พระสารีบุตร เคยเป็นลิงเหมือนก่อน แต่นิสัยลิงต้องโดด เมื่อถึงลำคลองลำรางพอจะข้ามได้ ก็ไม่ข้าม ก็โดด จนกระทั่งพระบวชใหม่สงสัย

    </dd><dd>องค์สมเด็จพระจอมไตร จึงบอกว่า กิเลส ละได้ แต่นิสัย ละไม่ได้ ขนาดเป็น อัครสาวก ทีนี้สำหรับ พระนเรศวรมหาราช เป็นนักรบ เป็นนิสัย เกิดชาติไหน ก็ต้องรบชาตินั้น ในเมื่อเกิดชาติตอนหลังขึ้นมา โอกาสที่จะรบอย่างนั้นไม่มี เพราะว่า มีแม่ทัพ มีนายกอง มีรัฐบาลควบคุม งานการบริหาร รัฐบาลควบคุม พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญก็ต้องวางแผนรบกับความยากจน

    </dd><dd>ของบรรดาประชาชนชาวไทย ถามท่านว่า อีกกี่ปี จะถึงวาระ ที่พระนเรศวรมหาราชมาครองประเทศไทย ท่านบอกว่า หากว่าท่านอยู่ไปไม่ตาย ไม่นานนัก ท่านก็มาครองประเทศไทยแน่ เวลาที่ถาม เป็นสมัยของรัชกาลที่ ๘ เอาละ..บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย เวลานี้สัญญาณบอกหมดเวลาปรากฏแล้ว ขอลาก่อน ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒน มงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน

    </dd><dd><center>สวัสดี</center></dd><dt></dt>



    (จากหนังสืออ่านเล่นเล่ม 15 หน้า 74 - 84 และจากเวบวัดท่าซุงตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ)

    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1557#7
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2016
  15. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,705
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/005_zps7n2aulcv.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/005_zps7n2aulcv.jpg" border="0" alt=" photo 005_zps7n2aulcv.jpg"/></a>
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/001_zpsvrye8jlq.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/001_zpsvrye8jlq.jpg" border="0" alt=" photo 001_zpsvrye8jlq.jpg"/></a>
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/004_zpspfsirenb.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/004_zpspfsirenb.jpg" border="0" alt=" photo 004_zpspfsirenb.jpg"/></a>


    <iframe width="1280" height="720" src="https://www.youtube.com/embed/j8MQBpQCc6M" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนต่างประเทศ เมื่อ พ.ศ. 2522 เกี่ยวกับความรักความผูกพันระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับพระองค์ เมื่อครั้งแรกพบ


    https://www.facebook.com/SiamUpdates



    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/FPKQ-0089-800x800_zpshtraebj4.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/FPKQ-0089-800x800_zpshtraebj4.jpg" border="0" alt=" photo FPKQ-0089-800x800_zpshtraebj4.jpg"/></a>
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/002_zpsapvuebzz.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/002_zpsapvuebzz.jpg" border="0" alt=" photo 002_zpsapvuebzz.jpg"/></a>
    <a href="http://s1259.photobucket.com/user/Onenachai005/media/003_zps5hn6soqs.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1259.photobucket.com/albums/ii546/Onenachai005/003_zps5hn6soqs.jpg" border="0" alt=" photo 003_zps5hn6soqs.jpg"/></a>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2016
  16. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    111
    ค่าพลัง:
    +225,705
    <iframe width="1280" height="720" src="https://www.youtube.com/embed/JsO-aooQbI0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนต่างประเทศ เมื่อ พ.ศ. 2522 เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์

    พระราชินีทรงตรัส "ไม่มีใครหนีความตายได้"

    สมเด็จพระราชินี ทรงตรัสว่า "​ความรัก และความเมตตา เป็นของจริงเป็นสิ่งมีค่า ที่เราควรมอบมันให้แก่ผู้อื่นมากกว่าที่เราจะรับมาจากผู้อื่น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทั้งสองพระองค์ จึงสามารถทรงงานหนัก วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า โดยไม่เหน็ดเหนื่อย และความเจ็บป่วยนั้น ก็ไม่อาจเข้ามาทำร้ายพระองค์ได้"

    https://www.facebook.com/SiamUpdates
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2016
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,376
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เคยรับเสด็จตอนที่ท่านเสด็จมาพระราชวังไกลกังวล ผิว(ลืมราชาศัพย์ค่ะ ขออภัย)ท่านสวยมากก พอท่านรับสั่งถาม"น้องใหม่หรือจ้ะ?" พูดไม่ออก ยืนเฉยเลย พี่หัวหน้าต้องตอบแทนให้ เป็นความจดจําที่ไม่มีวันลืมในชีวิต ตอนเด็กๆจะวิ่งไปที่วัดอรุณราชวราราม(วัดแจ้ง)ทุกปี ดูท่านเสด็จในเรือหงส์ พอโตๆมาต้องนั่งรถเมล์ไปตามที่ที่ในหลวงพระราชินีจะเสด็จผ่าน เห็นนิดนึง แวปนึงก็ชื่นใจแล้ว อยู่เมกาท่านก็มาโปรดในฝันนะคะ ๓-๔ครั้ง นี่ก็เลยนอนไม่หลับมาหลายวันแล้ว:'(
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,376
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    หัวหินนั่นท่านก็บุกเบิกนะคะ ท่านเสด็จไปพระราชวังไกลกังวลที่นั่น แต่ก็เข้าไปในป่าลึกในแต่ละวัน ซึ่งหลังจากนั้นพวกเราRedcross ต้องไปทุกเดือน โดยมีทหารนําหน้า ๑คัน ท้าย ๑คัน แจกยา รักษาไข้ ...etc ตอนนั้นหัวหินมีร้านขายของ๒-๓ร้านเท่านั้น พอหลังจากนั้นจึงมีถนนหนทางมากขึ้น
     
  19. เช่นนี้เอง

    เช่นนี้เอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2014
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +1,817
    พี่เล่าต่อครับอยากอ่านเรื่องพระองค์ท่านพี่สัมผัสมา
     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,376
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    หมอจาก ร.พ.จุฬา จะมาประจําสถานีกาชาด ๑เดือนต่อปีช่วงที่ท่านเสด็จมา แต่พอหลังจากที่พระองค์ท่านบุกเบิกเปิดทางก็เลยมีหมอประจําตลอดปี(ธรรมดาพวกเราทํากันเอง ให้ยา เย็บแผล ทําคลอด สารพัด ชาวบ้านเลยเรียกว่าพวกเราหมอ)เดี๋ยวนี้เท่าที่ทราบ(สิบกว่าปีที่แล้วนะคะ)มีหมอ๒คนประจํา และจากเรือนเล็กๆก็ใหญ่ขึ้นมากเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน ทั้งนี้ก็จากการทํางานของเกล้าเหนือหัวที่ถึงจะเสด็จพักผ่อนแต่พระองค์ท่านก็ยังทํางานเพื่อพวกเราตลอดเวลานะคะ (มีเรื่องขําๆเยอะเกี่ยวกับชาวบ้านสมัยก่อนบุกเบิก)

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำเข้าเฝ้าในหลวง
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/bFA6uoqwZJI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    Naris buesingean;-Published on Aug 11, 2012

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำเข้าเฝ้าในหลวง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...