ประวัติ และอภินิหารย์หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม สุพรรณบุรี ศิษย์ 3 ต.

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย hellotawan, 10 กรกฎาคม 2012.

  1. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เมื่อคราวที่แล้วเล่าค้างไว้ถึงตอนที่หลวงปู่ถูกทำร้ายครั้งแรก มาวันนี้จะมาเล่าต่อในตอนที่หลวงปู่ท่านถูกทำร้ายครั้งที่ ๒ ซึ่งแต่ละครั้งท่านโดนหนักขึ้นเรื่อยๆ

    ในปีถัดมาคือ ๒๕๔๗ หลวงปู่ก็โดนทำร้ายอีกครั้งด้วยการทุบตีอย่างรุนแรง และแทงด้วยเหล็กขูดชาร์ปอีกนับสิบครั้ง หมายเอาชีวิตให้ตาย แต่คมเหล็กก็ไม่สามารถแทงทะลุเข้าไปได้ เห็นแต่เพียงรอยจากการถูกแทง หลวงปู่ท่านได้พาเอาร่างกายอันบอบช้ำหนีออกไปทางด้านหลังกุฏิ พวกโจรใจบาปกลัวว่าหลวงปู่จะทำหน้าได้ และเหล็กก็แทงไม่เข้า จึงได้ไปหาก้อนหินบริเวณนั้นมาทุบหลวงปู่อีกนับครั้งไม่ถ้วนหวังให้ท่านตาย จนสุดท้ายท่านสลบไป พวกโจรก็ได้รื้อค้นทรัพย์สินหนีไป ด้วยกายอันไร้เรี่ยวแรง หลวงปู่ท่านได้ส่งกระแสจิตไปเข้าฝันศิษย์ท่านหนึ่งที่อยู่ละแวกนั้น ในฝันศิษย์ท่านนั้นบอกว่า เห็นหลวงปู่ท่านนอนหายใจรวยริน บอกว่ามาช่วยกูทีกูถูกทำร้าย รุ่งเช้าศิษย์ท่านนั้นจึงรีบเดินทางไปหาหลวงปู่ก็พบสภาพหลวงปู่เป็นจริงเหมือนในฝัน จึงได้รีบนำหลวงปู่ส่งโรงพยาบาลเดิมบางนางบวช ในระหว่านั้นหลวงปู่ท่านได้ใช้วิชาอีกาคาบข่าวไปบอกอาจารย์ตู่ ซึ่งขณะนั้นได้งานอยู่ในกรุงเทพฯ วันนั้นอาจารย์ตู่ได้เห็นฝูงอีกาบินมามากมาย ร้องระงงไปทั่ว ทำให้นึกถึงคำของหลวงปู่ได้ในทันทีว่า ถ้าวันใดมึงเห็นฝูงอีกาบินวนไปมา และร้องระงม ให้รู้ไว้ว่าวันนั้น กูไม่เจ็บ ก็ตาย เมื่อเห็นดังนั้นอาจารย์ตู่จึงรีบไปพบหลวงปู่ทันที เมื่อไปถึงก็ได้ทราบว่าหลวงปู่ท่านอยู่โรงพยาบาลแล้ว ขณะนั้นกำลังส่งตัวหลวงปู่เข้าห้องผ่าตัดพอดี ปรากฏว่า แพทย์ที่ทำการรักษาไม่สามารถทำการรักษาได้ หลวงปู่ท่านไม่ยอมบอกว่าเป็นกรรมของท่าน คมมีดของหมอจึงไม่สามารถผ่าเข้าไปได้ หลวงปู่ท่านได้ประสานกระดูกเอง ทำให้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คางหลวงปู่จึงเบี้ยว เหล่าศิษย์ได้ถามท่านว่าใครทำร้ายท่าน หลวงปู่ท่านก็ไม่ยอมบอก ได้แต่พูดว่าเป็นกรรมของกูที่เคยทำไว้กับพี่น้องในชาติก่อน อาจารย์ตู่ และศิษย์ที่อยู่ในขณะนั้นจึงนิมนต์ท่านไปอยู่ที่อื่นที่ดีกว่า แต่ท่านก็ไม่ยอมไป ท่านว่ากรรมของท่านยังต้องชดใช้ นี่แค่สองครั้ง ยังเหลืออีกครั้ง
     
  2. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ถ้าหน้าไมค์มันจะผิดกฏคับ หลังไมค์แทนแล้วกัน
     
  3. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เรื่องเหรียญ ผมขอกระซิบดังๆ อย่างนี้คับว่า รุ่น ๓ เป็นเหรียญแบบบังคับกระบอกคือไม่มีการตัดเหรียญ รุ่นนี้จะไม่พบรอยตัด และเป็นห่วงเชื่อมแบบโบราณ ส่วนรุ่น ๔ จะเป็นแบบสมัยใหม่เลย ตามสมัยนิยมในขณะนั้น ถ้าใครจะเก็บเหรียญรีบเสาะแสวงหานะคับ เพราะช่วงนี้คนนิยมรุ่น ๓ มาก และราคาถีบตัวสูงขึ้นพอสมควร ดังนั้น ในช่วงที่คนอื่นกำลังเก็บรุ่น ๓ เราก็รีบเก็บรุ่น ๔ ก่อนที่ราคาจะแพง อันนี้ถือว่าบอกกันแล้วนะคับ ผมรับประกันว่าเหรียญหลวงปู่วิ่งแน่ ที่จริงก็วิ่งกันเงียบๆ อยู่แล้ว เซียน หรือคนมีตังค์เค้าเก็บตุนเอาไว้มากอยู่ ถามปล่อยก็บอกเอาไว้ก่อน ตอนนี้ก็รีบไขว่คว้านะคับ ส่วนเครื่องรางท่านใดมี หรือสงสัยถามมาได้คับ
     
  4. PeacE123

    PeacE123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,179
    ค่าพลัง:
    +2,485
    เหรียญรุ่น4 หลวงปู่ท่านเสกเน้นมาทางไหนเหรอครับ
     
  5. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เหรียญรุ่น ๔ ท่านเสกทิ้งทวนคับ ท่านรู้ว่าจะมรณะเมื่อไหร่ ได้กำหนดไว้แล้ว ท่านจึงเร่งให้สร้างรูปหล่อขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเหรียญแจกทานด้วย เวลาท่านเสกเรียกว่ามีอะไรใส่หมด อธิษฐานเอาเวลาใช้คับ เสกกันแบบว่าทั้งโจร ทั้งตำรวจใช้ได้หมด เสกบนยอดมณฑปวัดหัวเขา เพื่อเคล็ดการเป็นยอดคนสูงส่งกว่าใคร ในฤกษ์ที่เป็นเอกอุดมสูงสุด ยังไม่นับรวมเสกในฤกษ์อื่นๆ อีกนับครั้งไม่ถ้วนคับ

    โดยปกติแล้วหลวงหลวงปู่ท่านจะเสกไว้ครอบคลุมหมด ขึ้นกับว่าเราจะอธิษฐานใช้ทางไหน อย่างขุนแผนท่านเสกไปทางเมตตา แต่เวลานำไปใช้ลูกศิษย์ก็เกิดประสบการณ์ทางแคล้วคลาด คงกระพันด้วย ก็เลยว่ากันว่าของหลวงปู่ท่านครบเครื่องใช้ได้ทุกทาง ยกเว้นตะกรุดที่ส่วนมากจะเน้นทางคงกระพัน เช่น ตะกรุดผู้ชนะสิบทิศ ตะกรุดมหาทมึน ตะกรุดมหากาฬ ตะกรุดแม่ทัพ แต่ก็จะมีตะกรุดบางชนิดที่เน้นไปทางเมตตา เช่นตะกรุดสาริกา ตะกรุดเมตตา ตะกรุดหนังงู ตะกรุดทางเสริมดวงก็มี เช่น ตะกรุดจักรพรรดิ์ แต่ถ้าเป็นเหรียญ หรือพระผงแล้วท่านจะเสกเอาไว้หมด ครอบคลุมทุกด้านตามแต่ศิษย์จะอธิษฐานใช้คับ
     
  6. ชาวประมง

    ชาวประมง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4,657
    ค่าพลัง:
    +22,538
    สวัสดีตะวันพี่มาแจ้งว่าพรุ่งนี้ไม่ได้ไปด้วยแล้วนะ ติดภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้นสักกะที เลยไม่ได้ไปด้วย โทษทีนะน้อง
     
  7. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ไม่เป็นไรคับ ว่างเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน
     
  8. champ_amulet

    champ_amulet สาธุ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +83
    ปลัดขิกหัวแดง แรงฤทธิ์ ครับ
     
  9. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
  10. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    วันนี้เป็นวันดีได้ราชาฤกษ์ อาจารย์ตู่จึงได้เอาของมาแจกแก่คนที่ไปบ้านวันนี้ สีผึ้งทิ้งทวนสีผึ้งนี้ดีมาก มวลสารชั้นครู แถมแจกฟรีด้วย แต่เอาตลับไปใส่เอง ผ้ายันต์นารายณ์ทรงครุฑมีจารด้านหลัง และตะกรุดมหาระงับน้อย ตะกรุดนี้จารมือถักเชือกเป็นมงคลระงับเพศภัย กันโจรผู้ร้ายไม่มาเบียดเบียน ลงด้วยยันต์หลักคือยันต์มหาระงับน้อย พร้อมทั้งหัวใจ และนะต่างๆ จนเต้มแผ่นยันต์ มาว่ากันที่สีผึ้งต่อ สีผึ้งนี้ส่วนผสมดีมาก ผงพุทธคุณที่เก็บมาตั้งแต่สมัยหลวงปู่อิ่ม แน่นอนมีผงของหลวงพ่อมุ่ย หลวงพ่อกวย แน่ๆ นอกจากนั้นยังมีน้ำมันเสน่ห์ของหลวงพ่อกวยที่หุงผสมด้วยว่าน และน้ำมันทางเสน่ห์ต่างๆเก็บไว้นานมากแล้ว น้ำมันว่านเสน่ห์ของหลวงปู่ตี๋ ซึ่งแน่นอนว่าว่านสำคัญต่างๆ มีใส่ไปหมด รวมทั้งว่าดอกทองอันลือลั่น ที่อาจารย์ตู่ปลูกเองและรดด้วยน้ำมนต์ทุกวัน จนออกดอกตามตำราว่าไว้ จากนั้นจึงพลีว่านนี้มาผสมน้ำมันเสกโดยหลวงปู่ตี๋ ผงชานหมากหลวงปู่ละมัย รวมทั้งผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม ที่ตกทอดมาแต่ครั้งหลวงปู่ตี๋ไปฝากตัวเรียนวิชาเสกขุนแผน ปลุกกุมาร ทำผงพรายกุมารกับหลวงปู่ทิมเป็นเวลา ๑ พรรษา
    [​IMG]
     
  11. Ferrare

    Ferrare Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +56
    รอฟังเรื่องเล่าต่อเลยครับ :cool:
     
  12. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    หลวงปู่ถูกทำร้ายครั้งที่ 3
    ในปี ๒๕๔๘ หลวงปู่ก็ถูกทำร้ายอีกครั้ง พวกโจรได้ขึ้นกุฏิท่านแล้วฟันเข้าที่ศีรษะด้วยมีดเหน็บถึงสามครั้ง แต่คมมีดไม่สามารถทำอะไรท่านได้ พวกโจรจึงได้เปลี่ยนมารุมซ้อมท่านจรสลบ และได้รื้อค้นกุฏิเอาทรัพย์สินไปเช่นเคย หลวงปู่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ด้วยความที่ท่านถูกทำร้ายถึงสามครั้งในวัย ๘๑ ปี ความบอบช้ำจากภายในก็สะสมมากเข้า ประกอบกับอาการถุงลมโป่งพองที่ท่านเป็นมาอยู่แล้ว อาการท่านจึงทรุดหนักลงมาก ไม่สู้ดีเอาเสียเลย เมื่อเป็นเช่นนั้นอาจารย์ตู่ไม่รู้ว่าจะทำอย่าไร จึงได้จุดธูปบอกกล่าวต่อครูบาอาจารย์ไว้ว่าขอให้นิมนต์หลวงปู่ท่านไว้ก่อน อย่าเพิ่งเป็นอะไรตอนนี้ มันเร็วไป หากหลวงปู่หาย และอาการดีขึ้นจะสร้างศาลาถวายครูบาอาจารย์ ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นอาการของหลวงปู่ที่ทรุดหนักกลับดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อ เรียกว่าจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการสร้างศาลาทศพรรวมใจไว้ที่วัดศรีธาตุ จ.ยโสธร ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของศิษย์ ปัจจุบันศาลานี้ยังอยู่ และได้ใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจของสงฆ์อย่างสม่ำเสมอ ในเวลาต่อมาพวกโจรใจบาปก็ถูกจับได้ทั้งหมด แต่หลวงปู่ท่านไม่ได้เอาความกลับเอาเงินไปประกันตัวโจรออกมาอีก ในส่วนของวัตถุมงคลที่ถูกขโมยไปนั้นประกอบด้วย เหรียญรุ่น ๒ พร้อมบล็อก เหรียญฤาษี รูปหล่อรุ่นแรก บางส่วนที่เหลือก็แจกจ่ายไป และนี่เองเป็นสาเหตุให้ศิษย์ไม่ค่อยเล่นหาเหรียญรุ่น ๒ กัน หลวงปู่เคยบอกไว้ว่า ของขโมยใครเอาไปใช้ก็ไม่ดี รุ่นนี้จึงไม่เป็นที่นิยมเล่นหากัน
    เมื่อหลวงปู่ท่านหายดีแล้วก็กลับมาพักรักษาตัวที่วัดตามเดิม แต่ด้วยโรคถุงลมโป่งพองที่ท่านเป็นอยู่ ทำให้ท่านต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และร่างกายไม่แข็งแรงนัก เมื่อเป็นดังนั้นอาจารย์ตู่จึงได้นิมนต์หลวงปู่มาอยู่ที่วัดท่ามะกรูด(นับรวมเวลาแล้ว ๓ เดือน) ด้วยเห็นว่าวัดท่ามะกรูดอยู่ใกล้โรงพยาบาล และอยู่ใกล้บ้าน นาง อ ที่เป็นลูกบุญธรรมท่าน ซึ่ง นาง อ นี้มีรถยนต์สามารถไปรับไปส่งหลวงปู่ไปโรงพยาบาลได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเหยียบย่ำหลวงปู่จากผู้ที่ได้ชื่อว่า ลูก สามารถกระทำต่อหลวงปู่ผู้ที่ชุบชีวิตใหม่ให้กับตนเอง
     
  13. wuttt

    wuttt สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7


    สีผึ้งใช่รุ่นเดียวกันกับที่แจกในงานไหว้ครูใช่ป่าวครับพี่ตะวัน...........!!
     
  14. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ใช่คับรุ่นเดียวกัน ตอนนี้แจกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงวันที่ 3 สิงหาคมนี้คับ
     
  15. achocolate

    achocolate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +276
    อยากได้แจกบ้างจังคะ ต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ
     
  16. wuttt

    wuttt สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +7


    ขอบคุณครับพี่ตะวัน.............!!
     
  17. PeacE123

    PeacE123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,179
    ค่าพลัง:
    +2,485
    อยากได้ไว้บูชาบ้างจังครับ ต้องไปที่บ้านอาจารย์เหรอครับ
     
  18. torr200925

    torr200925 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    753
    ค่าพลัง:
    +2,680
    ขอ 1 ชุด ครับ อิอิอิ :cool::cool:
     
  19. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,320
    ค่าพลัง:
    +13,240
    อยากได้บ้างครับ ต้องทำไง?
     
  20. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    มาต่อคับ เรื่องยังไม่จบแค่นี้

    ในระหว่างที่หลวงปู่ท่านมาอยู่ที่วัดท่ามะกรูดนี้ ท่านก็ไปๆ มาๆ ระหว่างวัดกับบ้านของ นาง อ มาอยู่ทีก็เป็นระยะเวลานานบ้าง สั้นบ้าง ทุกครั้งที่มาอยู่บ้าน นาง อ ก็มักจะเบิกเงินซื้อข้าวจากท่านทุกวัน วันละ 300 บาท แต่สิ่งที่ได้กลับมาเป็นเพียง ข้าวเหนียวหมูปิ้งบ้าง ข้าวเปล่ากับแกง ใสจานวางทิ้งไว้ให้ แล้วแต่หลวงปู่จะฉันไม่ได้สนใจ บางครั้งวางไว้จนมดขึ้น เน่าบูด ท่านก็ไม่ได้ฉัน เวลาฉันยาด้วยความที่คางท่านเบี้ยว เวลาท่านฉันยาก็มักจะไม่เข้าปาก ซึ่งท่านก็จะไม่ทราบ ทุกครั้งที่อาจารย์ตู่ไปเยี่ยมท่านที่บ้านศิษย์ท่านนี้ก็อดสงสารหลวงปู่ไม่ได้ ภาพที่เห็นทุกครั้ง คือ ข้าวใส่จานวางทิ้งไว้ให้ ยาที่ตกเกลื่อนรอบตัวท่าน ในระหว่างที่หลวงปู่ท่านอยู่วัดท่ามะกรูดนี้ นาง อ ก็มักเอาพระยกร้อยบ้าง เอาเครื่องรางต่างๆ ทำมาแล้วให้หลวงปู่เสก บางอย่างก็ทำเกิน หรือไม่ได้ให้เสกก็มี เพราะหลวงปู่ท่านไม่ได้สนใจตรงจุดนี้มากนัก ก็เป็นช่องให้ นาง อ หวังที่จะรวย บางส่วนทำแล้วเอาไปวางไว้วัด เพื่อคนที่มาก็นึกว่าวัดสร้าง บล๊อก หรืออะไรก็ไม่ได้มี เวลาสร้างออกมาก็สำเร็จมาแล้ว ยกมาให้หลวงปู่เสกอย่างเดียว ในจังหวะนี้ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ศิษย์หลายๆ ทาเข้ามาหวังรวย เอาของมาให้ท่านเสก โดยไม่ทราบจำนวน ดังนั้นวัตถุมงคลของหลวงปู่บางส่วน ต้องดูที่รอยจาร หรือโค๊ต เป็นหลัง โดยเฉพาะโค๊ตนี้นำวัตถุมงคลที่เหลือมาตอกทีหลังเพื่อป้องกันของเกิน หรือของที่เหลืออยู่ที่ นาง อ จะเอาออกมาขายภายหลัง ซึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
     

แชร์หน้านี้

Loading...