ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

อยากไปร่วมฟังบรรยายมากเลยคะ แต่่ว่าอยู่ต่างประเทศ รบกวนแจ้งข่าวด้วยนะคะถ้ามีDVD การบรรยายพิเศษขายนะคะ
ขอบคุณคะ

 

จากที่อ่านข้อความของหลายๆ ท่าน
ซึ่งได้มาจากครูบาอาจารย์ต่างๆ
แสดงว่าเหตุการณ์ทุกอย่างก็งวดเข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
ถ้าเป็นกราฟก็คงอยู่ในช่วงวิ่งเข้าหาจุด peak
ขอบคุณทุกข่าวสารที่นำมาโพสนะครับ

 

ไฟล์แผ่นพับ ....สำหรับโหลดแล้วปริ้นได้เลยค่ะ


"แนวทางปฏิบัติเพื่อปลอดภัยจากวิบัติภัยน้ำทะเลยกตัว (Strom Surge)"

จากงานประชุมเสวนา "แผนรับมือวิบัติภัยน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น (Storm Surge)"

วันพุธที่ 13 สิงหาคม 2551

ณ ศาลาประชาคม จังหวัดสมุทรปราการ
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

เมื่อคืนผมฝันว่าเห็นท้องฟ้าสีแดงเป็นเลือดเลยครับ
เกิดเหตุสงคราม เหตุการณ์เหมือนจริงมาก
แล้วเข้าใจถึงความรู้สึกที่ว่าอยู่แต่ในบ้าน ออกไปไหนไม่ได้ หดหู่มาก

 

ข้อควรปฎิบัติ เมื่อมีงูหนีน้ำท่วมเข้ามากัดคนและสัตว์เลี้ยงในบ้าน
โดยคุณ ทัชชกร เจนมธกร​

​

ขอเพิ่มเกร็ดความรู้ให้หน่อยตามที่ได้เคยหาข้อมูลมาครับ

1. เมื่อถูกงูกัด ถ้าเป็นไปได้ ต้องจำลักษณะรูปร่าง ขนาด สีสัน ให้ได้ เพราะ เซรุ่ม ใช้เฉพาะกับงูแต่ละชนิดเท่านั้น ไม่มี เซรุ่มรวม ดังนั้น ถ้าบอกว่าเป็นงูพันธุ์ไหนไม่ได้ หมอต้องรอดูอาการอย่างเดียว ซึ่งก็เท่ากับว่าต้อง รอ รอ รอ อีก

2. ถ้าเป็นคนถูกงูกัด ให้ตรงไปที่ รพ. ขนาดใหญ่ของรัฐ จึงจะมั่นใจว่าไปไม่เสียเที่ยว รพ.เอกชน ต้องเป็นขนาดใหญ่ จึงจะมี เซรุ่มที่ใช้บ่อยๆ เช่น ผมเช็คที่ ศิครินทร์ ก็มีแค่ งูเขียวหางไหม้ และ งูเห่า เท่านั้น งูแบบอื่น ไม่มีนะคับ ผมแนะนำว่า ใครที่อยู่ในเขตอันตราย โทรถามไว้ก่อนเลย เพราะเมื่อส่ง รพ. จะได้ไม่ต้องไปเก้อ เสียเวลา ผมเอง ต้องเช็คไว้รอบๆ และ ทำแผนที่ทางไปที่สั้นที่สุด เก็บในที่ที่หาได้ง่านด้วย

3. ผมเอง ซื้อ siren สีน้ำเงิน ฉุกเฉิน ติดไว้ในรถเลย บางรุ่นมีเสียงด้วย

4. ถ้าเป็นสุนัขถูกงูกัด ลืม รพ.สัตว์ใกล้บ้านหรือคลีนิคไปเลย ผมเคยเช็คแถวบ้านทั้งหมดแล้ว ให้ทุ่มไปที่ รพ.รัฐ ทั้งหมด ซึ่ง กทม. ก็คงเหลือ จุฬา กับ เกษตร เท่านั้น แต่ผมไม่มั่นใจว่า จุฬาจะมีหมอทำงานกลางคืน หรือไม่ครับ แต่ เกษตรมีแน่นอน

5. ลองติดต่อ ร่วมด้วยช่วยกัน เขามี หน่วยจับงูด้วย แต่ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ กรณีของผมก็ไม่มีคนมาช่วยเหมือนกัน แต่อย่างไร ก็ลอง โทรดู 1677 เท่าที่รู้ มีหน่วยประจำแถวนนทบุรีครับ

ผมเคยเอาลูกงูเห่าไปส่งให้ที่ เสาวภา เขาบอกว่าช่วงฝนตก แต่ละวันมีคนเอางูมาให้ หลายสิบตัว เขามีสอน ให้เอา ท่อ PVC พร้อมเชือก ทำที่จับงู (ในกรณีจำเป็น) เป็นเชือกสอดจากปลายท่อด้านหนึ่ง ไปโผล่อีกด้านหนึ่ง และปล่อยปลายด้านที่จะใกล้งูเป็นห่วงกลมๆ เพื่อคล้องสวมคอ งู เมื่อ คล้องได้ก็ดึงจากปลายเชือกด้านที่เราถือเลยแล้วดึงรัดมันไว้

​

​

ขอให้ปลอดภัยทุกๆคน กันไว้ดีกว่านะครับ เกิดอะไรขึ้นจะคิดไม่ทันและเวลาอาจไม่เหลือให้คิดเลยครับ

โดย ทัชชกร เจนมธุกร - วันที่ 12 มิถุนายน 2008, 11:37AM

ที่มา http://www.bangkaew.com/elearning2/mod/forum/discuss.php?d=3860

พิชิตปัญหาสัตว์ - รู้ทัน "งู"
โดย - ปานเทพ รัตนากร​

รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร​

ข่าวเรื่องงูที่มีอยู่เสมอคืองูเข้าบ้าน พบงูในบ้านทั้งงูมีพิษและไม่มีพิษ ตลอดจนงูลักษณะพิเศษ เช่น งูสองหัว งูสองหาง ที่กลับเป็นงูให้คุณมีแต่คนเข้าหากราบกรานเพื่อขอเลขเด็ด ฯลฯ แม้แต่งูบนหัวคนแก่ ก็ดังไม่แพ้กันแม้ไม่ใช่งูจริงเป็นเพียงเฒ่าหัวงูก็เถอะ อันตรายกว่าอสรพิษตามธรรมชาติเสียอีก ​

ฉะนั้นจึงมีปัญหาตามเข้ามาเรื่อยๆ ว่าทำอย่างไรจะป้องกันงูเข้าบ้าน? จะไล่งูอย่างไร? วิธีจับงูทำอย่างไร? งูเข้าบ้านแล้วจะทำไงดี? สารพัดปัญหาจึงขอนำมาเฉลยไว้ ณ โอกาสนี้​

ทำไมงูจึงเข้ามาหรืออยู่ในบ้านของคุณ? :​

เหตุที่งูเลื้อยเข้าบ้าน หรืออาศัยอยู่ในบ้านเนื่องจาก​

1.บ้านหรือสถานที่นั้นเป็นแหล่ง "อาหาร" ที่อุดมสมบูรณ์ เช่น บ้านที่มีหนูชุกชุมเพราะรกรุงรัง หรือมีบ่อน้ำ สระน้ำที่มีปลาเยอะ หรือมีการเลี้ยงนกเลี้ยงไก่ไว้ ฯลฯ สุดแต่ว่าบ้านคุณจะมีเหยื่ออันโอชะประเภทใด ทั้งนี้เพราะงูทุกชนิดเป็นสัตว์นักล่า กินเหยื่อเป็นสัตว์ด้วยกัน​

2.บ้านนั้นมีความ "ปลอดภัย" สำหรับงู ไม่มีศัตรูก่อความรำคาญ หรือทำร้ายจนถึงชีวิต เช่น ไม่มีหมาคอยไล่เห่า ไม่มีห่านไล่งับ หรือไม่มีสัตว์คู่อริ เช่น พังพอน หรือน้ำท่วมไม่ถึง ฯลฯ​

3.บ้านมี "ที่อยู่" เหมาะสม เพียงพอ ได้แก่ มีที่หลบซ่อนตัว หลับนอน หลบภัย วางไข่ เช่น ใต้ถุนบ้าน บ้านที่มีฝ้าเพดาน ฯลฯ สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับงู นับแต่อุณหภูมิอบอุ่นจากดินหรือแสงแดด พื้นผิวที่ไม่ระคายเคือง ไม่มีกลิ่นและเสียงรบกวน (ซึ่งมากับความสั่นสะเทือน) ฯลฯ​

วิธีป้องกันงูเข้าบ้านทำอย่างไร?​

การป้องกันงูเข้าบ้านนั้นสามารถป้องกันได้โดยแก้จากเหตุจูงใจให้งูอยากเข้าบ้านโดย​

1.อย่าให้บ้านเราเป็นภัตตาคารของงู เช่น กำจัดหนูโดยการดัก เบื่อ และจัดบ้านให้สะอาด ทำกรงนกกรงไก่ให้แข็งแรงไม่มีช่องหรือรูให้งูเข้าไปกินได้ ฯลฯ​

2.ทำให้บ้านเราเป็นสถานที่อันตราย ไม่สบายสำหรับงู ได้แก่ หาอริไว้ไล่งู เช่น เลี้ยงหมาไว้รบกวน หรือบางท่านอาจเลี้ยงห่านไว้ไล่งูตามความเชื่อเดิมๆ ฯลฯ​

3.จัดสภาพแวดล้อมให้ยากและไม่เหมาะสมแก่งูที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ หรือทำรังวางไข่ เช่น การอุดรู ใส่ตะแกรงท่อระบายน้ำ หรือทุกเส้นทางที่จะเข้าไปในตัวบ้าน กลบหลุมหรือโพรงที่มีตามสนามหรือขอบรั้ว กำแพง ตัดกิ่งไม้ที่พาดหรือใกล้ชายคาตัวบ้านหรือรั้ว กำแพง ฯลฯ​

นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญให้ใช้สารเคมีหรือน้ำมันเบนซินไปราดไว้เพื่อกันงู แต่ก็ต้องระวังนะครับแทนที่งูจะไปกลับเป็นไฟมาเยือนแทน อีกทั้งน้ำมันสามารถระเหยอย่างรวดเร็วเดี๋ยวเดียวหายหมดแล้ว แม้แต่ความเชื่อดั้งเดิมที่ให้ใช้ลูกมะนาวมาวางไว้จะไล่งูไปได้ ก็ไม่แน่และไม่รู้ว่าต้องใช้มะนาวกี่ร้อยลูกจึงจะล้อมบ้านไว้ได้ตลอดไป เพราะไม่นานก็เน่าเสียแล้ว ฯลฯ​

คราวนี้เมื่องูเข้าบ้านแล้วคุณควรทำอย่างไร?​

1.ถ้าคุณเป็นคนรู้จักงูบ้างก็จะช่วยแยกแยะงูอันตรายซึ่งบ้านเรามีอยู่ชัดๆ เจอบ่อยๆ 2 พวกคือ งูเหลือมงูหลาม กับงูเห่า ซึ่งแยกค่อนข้างชัด โดยที่งูเหลือมงูหลามเป็นงูไม่มีพิษแต่มีอันตรายโดยการรัดเหยื่อ ส่วนงูเห่ามีแม่เบี้ยแผ่ให้เห็นชัดเจน ทำร้ายโดยการกัดและปล่อยพิษ ฉะนั้นการหลบหลีก หรือจับก็จะแตกต่างกัน​

2.งูจะพุ่งฉก หรือกัดเหยื่อที่เคลื่อนไหว ฉะนั้นหากเผชิญกับงูให้อยู่นิ่งๆ แล้วเคลื่อนไหว หรือถอยฉากหนีอย่างช้าๆ โดยจับตาดูการเคลื่อนไหวของงูไว้เพื่อหลบหลีก หากทำได้สามารถใช้กระสอบหรือผ้าเช็ดเท้าขนาดใหญ่ โยนไปคลุมงูไว้เพื่อไม่ให้สามารถมองเห็นและสงบมันลง​

3.ส่วนใหญ่มักพบงูในห้องน้ำ ฉะนั้นต้องปิดประตูขังงูไว้ในห้องก่อนจะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไป รวมถึงปิดช่องทางหลบหนีด้วย​

4.ถ้างูอยู่บนที่สูง เช่น บนขื่อ หรือฝ้า ให้หลีกเลี่ยงอย่าเข้าไปข้างใต้ หรือระยะที่งูจะทิ้งตัวถึง เพราะมันอาจฉกหรือโรยตัวลงมาได้​

5.กันสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหมาเอาไว้ให้ห่างเพราะอาจโดนฉกหรือทำร้ายได้ อย่าเชื่อนักนะครับว่าหมาที่มีปานดำบนลิ้นนั้นถูกงูพิษกันไม่ตาย พบว่าตัวแข็งไปก็ไม่น้อย​

6.กันไทยมุงออกไปโดยเฉพาะสมาชิกเด็กๆ ในบ้าน​

7.โทรศัพท์แจ้งหน่วยงานที่มาช่วยบริการจับงู ได้แก่ ตำรวจ 191 หรือมูลนิธิและอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ ฯลฯ​

ผมไม่แนะนำให้พยายามจับงูเองนะครับ เนื่องจากเป็นความสามารถที่ต้องฝึกฝนมาอย่างชำนาญเฉพาะตัว ไม่ควรลอกเลียนแบบครับ!​

ที่มา http://www.ranthong.com/smf/index.php?topic=6254.0;wap2​

 

วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เวลา 19:44:35 น. มติชนออนไลน์ ภาพจากแหล่งเดียวกัน




น้ำโขงท่วม! "เชียงราย-มุกดาหาร-อำนาจเจริญ" เด็กชาย"หนองคาย"สังเวย1ราย

มท.1รุดตรวจพท.'เชียงราย'แจกถุงยังชีพ 'มุกดาหาร'สำรวจเกษตรประสบภัยพิบัติ แม่น้ำโขงหนุนสูงจ่อขั้นวิกฤต 'หนองคาย'วันนี้น้ำขึ้นสูงสุด เลยระดับวิกฤติมาแล้วกว่า 57 ซม. ผวจ.'อำนาจเจริญ'พร้อมรับมือ เตือนปชช.อย่าดื่มน้ำโขง

<style> P { margin: 0px; } </style>
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในหลายจังหวัด อาทิ เชียงราย มุกดาหาร อำนาจเจริญ และหนองคาย เพราะระดับแม่น้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้น เอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทย (มท.) ได้ตรวจพื้นที่ในอำเภอเชียงแสน และอำเภอเชียงของ จ.เชียงราย ภายหลังจากน้ำในแม่น้ำโขงเอ่อล้นท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตร พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.โกวิท นำถุงยังชีพ น้ำดื่ม และยารักษาโรคกว่า 600 ชุด เข้าแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัย

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลงเหลือ 9 เมตร 34 เซ็นติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติกว่า 2 เมตร แต่ยังคงมีน้ำท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ติดแม่น้ำโขงอีกกว่า 500 หลัง และพื้นที่ทางการเกษตรอีกกว่า 5,000 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นนาข้าวและไร่ข้าวโพด ยังคงได้รับความเสียหายโดยมีน้ำท่วมขัง เช่นเดียวกับถนนสายเชียงแสน-เชียงราย ซึ่งถูกน้ำท่วม กว่า 3 จุด บางจุดระดับน้ำสูงร่วม 2 เมตร ทำให้ถูกตัดขาด แต่ขณะนี้ยานพาหนะสามารถสัญจรไปมาได้แล้ว

พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยจากน้ำท่วมแล้ว โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายออกให้ความช่วยเหลือ พร้อมกับแจกจ่ายถุงยังชีพ เบื้องต้นได้เข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่ประสบภัยบ้านปงน้อย หมู่ 5 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน และพื้นที่ประสบภัยบ้านศรีดอนชัย หมู่ 15 ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ พบว่าปริมาณน้ำได้ลดลงจำนวนมาก แต่บางพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรกรรมยังมีน้ำขังอยู่ จึงสั่งให้สำนักงานพัฒนาเกษตรเร่งนำเครื่องสูบน้ำ ทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่โดยด่วน ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว ทางรัฐบาลจะได้ประชุมในการสร้างแนวตลิ่งกั้นแม่น้ำโขง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำได้ไหลทะลักเข้ามาสร้างความเสียหาย และจะปรึกษากับทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ระดับน้ำโขงได้ลดลงแล้ว ทำให้ชาวบ้านบางพื้นที่เริ่มทำความสะอาดบ้าน แต่ยังไม่กล้าที่จะขนของเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ามาไว้ในบ้าน เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าประเทศจีนจะปล่อยน้ำจากเขื่อนออกมาอีกระลอก จึงเกรงว่าระดับน้ำโขงจะสูงขึ้นอีก และอยากให้รัฐบาลไทยประสานกับรัฐบาลจีนในการชะลอการปล่อยน้ำออกมา

ด้านนายสมบูรณ์ เสมราช หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จากการที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีปริมาณเพิ่มสูงเรื่อยๆ เนื่องจากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทำให้เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 14 สิงหาคม มีระดับน้ำแม่น้ำโขงสูง 12.45 เมตร เหลืออีกเพียง 7 ซม. ก็จะถึงระดับวิกฤตที่ 12.50 เมตร อาจส่งผลให้แม่น้ำโขงเริ่มไหลเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่งของจังหวัดมุกดาหาร อีกทั้งแม่น้ำโขงที่สูงขึ้นยังได้หนุนน้ำลำห้วยทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตรจนเกิดความเสียหายได้ โดยเฉพาะบริเวณใกล้กับลำห้วยต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะประสบกับปัญหาน้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนราษฎรได้

'สภาพอากาศในขณะนี้ยังอาจเกิดพายุก่อตัวขึ้นได้ทุกเวลา เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหา อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มและการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยได้ทันท่วงทีและทัน ต่อเหตุการณ์ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร จึงได้ประสานกับเทศบาลเมืองมุกดาหารเตรียมกระสอบทรายเพื่อน้ำไปสกัดกั้น บริเวณลำห้อยที่อาจเกิดน้ำท่วมได้พร้อมกับได้เตรียมเรือจำนวน 3 ลำเพื่อเตรียมขนย้ายสิ่งของให้กับประชาชนที่อยู่ใกล้บริเวณน้ำท่วมไปไว้ใน ที่สูงเพื่อความปลอดภัยในเบื้องต้น รวมไปถึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไข ปัญหาอุทกภัยและวาตภัยดินถล่ม ปี 2551 ระดับจังหวัดมุกดาหาร ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดมุกดาหาร โดยประชาชนที่ประสบภัยหรือได้รับความเดือดร้อนสามารถโทรศัพท์ขอความช่วย เหลือได้' นายสมบูรณ์ กล่าว

นายสัมฤทธิ์ โภคสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองมุกดาหาร เตรียมกระสอบทราย 5,000 ถุง นำไปวางปิดกั้นริมฝั่งแม่น้ำโขง และบริเวณปากห้วยมุก เพื่อป้องกันมิให้น้ำทะลักเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ในขณะเดียวกันได้เตรียมเรือท้องแบนจำนวน 3 ลำ ในการขนย้ายสิ่งของ และประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัย หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน รวมทั้งได้เตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมสำหรับให้การช่วยเหลือประชาชน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

นายสวัสดิ์ บึงไกร เกษตรจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจติดตามสำรวจพื้นที่ประสบอุทกภัยในจังหวัด มุกดาหารพบว่า มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมนาข้าว และไร่ข้าวโพดในพื้นที่ ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ ได้รับความเสียหายประมาณ 100 ไร่ ทางจังหวัดจึงได้เข้าไปให้การช่วยเหลือและตั้งศูนย์ช่วยเหลือเกษตรกรประจำ อำเภอ เพื่อเตรียมพร้อมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในทุกพื้นที่ โดยเมื่อได้รับแจ้งการเกิดภัยพิบัติในพื้นที่ต่างๆ ก็จะทำการจัดส่งเจ้าหน้าที่เกษตรออกไปช่วยเหลือเบื้องต้น หากพบว่าพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเสียหายมากก็จะนำเสนอต่อคณะกรรมการอำเภอ หรือองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่รับผิดชอบนั้น ให้การช่วยเหลือจากงบประมาณ ชดเชยพื้นที่ดังกล่าวในราคาไร่ละ 400 บาท
ส่วนที่จังหวัดอำนาจเจริญ นายปริญญา ปานทอง ผวจ.อำนาจเจริญ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมรับมือน้ำท่วมใหญ่ที่อำเภอชานุมาน เนื่องจากระดับน้ำในลำแม่น้ำโขงมีระดับสูงขึ้นกว่า 10 เมตร 50 ซม.หากสูงขึ้นอีกเพียง 2 เมตร ก็จะไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนได้ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากน้ำเหนือจาก จ.มุกดาหาร ไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่อง น้ำในลำแม่น้ำโขงมีสีแดงขุ่นข้นและมีเศษกิ่งไม้ขนาดใหญ่ รวมทั้งซากสัตว์ที่เน่าตายลอยปะปนมากับน้ำโขง จึงขอฝากเตือนประชาชนอย่านำน้ำโขงไปอุปโภค-บริโภคอย่างเด็ดขาด อาจทำให้ติดเชื้อโรคบางชนิดได้ นอกจากนี้ทางจังหวัดได้ตั้งเวรยามเฝ้ารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และให้เฝ้าดูระดับน้ำโขงว่าสูงขึ้นชั่วโมงละกี่เซนติเมตร แล้วให้รายงานความเสียหายจากผลกระทบจากระดับน้ำที่สูงขึ้น

'ระยะนี้ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดตอนเหนือ จ.อำนาจเจริญขึ้นไป มี จ.มุกดาหาร จ.นครพนมและจ.หนองคาย ซึ่งน้ำเหล่านี้จะใช้เวลาไหลมาถึงที่ จ.อำนาจเจริญก็ใช้เวลาประมาณ 5-6 วัน จึงต้องเตรียมการรับมือน้ำท่วมไว้ เพื่อที่จะเข้าทำการช่วยเหลือได้ทันท่วงที ส่วนนาข้าวและพืชสวนการเกษตร เช่น พริก มะเขือ มะละกอ สวนกล้วย สวนลำไย และพืชผักต่างๆ ที่ปลูกตามริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยน้ำท่วมไปแล้วกว่า 200 ไร่แต่หากระดับน้ำยังสูงขึ้นและท่วมขังนานกว่า 7-10 วันก็จะทำให้พืชผลทางการเกษตรเหล่านี้เน่าตายเสียหายได้ จึงต้องเตรียมการช่วยเหลือไว้ก่อน' ผวจ.อำนาจเจริญ กล่าว

ด้านจังหวัดหนองคาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัด วัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ อยู่ที่ระดับ 13.57 เมตร เลยระดับวิกฤติมาแล้วถึง 57 เซนติเมตร และมีแนวโน้มเริ่มทรงตัว ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย ได้พยากรณ์ไว้ว่า เป็นวันที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีระดับสูงสุด จากการที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีระดับสูงขึ้นอีก ส่งผลให้พื้นที่ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างขึ้น หลายพื้นที่ไม่สามารถรับมือกับระดับในแม่น้ำโขงที่ก่อนหน้านี้สามารถรับมือ มาได้ ก็ได้หันมาให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการขนย้ายสิ่งของ ในเรื่องอาหาร และที่พักแทน ทั้งนี้ อ.ท่าบ่อ เป็นอำเภอหนึ่งบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมเป็นจำนวนมาก จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น มีประชาชนได้รับความเดือนร้อน จำนวน 1,385 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะนาข้าว จำนวน 3,536 , กระชังปลา 1,600 ตารางเมตร และบ่อปลา 10 ไร่ โดยความเสียหายล่าสุดถนนสาย อ.ศรีเชียงใหม่ – อ.โพธิ์ตาก บริเวณบ้านสามัคคี- บ้านดอนก่อ ถูกน้ำท่วมสูงเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร รถไม่สามารถสัญจรไปมาได้

นอกจากนี้ ยังมีเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำแล้ว 1 คน คือ ด.ช.สหรัฐ เวียงคำ อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป. 2 บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี ที่ออกไปเล่นน้ำจนทำให้จมน้ำเสียชีวิต ส่วนของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม นอกจากจะเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากกองกำลังที่อยู่ในพื้นที่และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้ให้ความช่วยเหลือตั้งแต่คืนวันที่ 10 สิงหาคม ที่น้ำในแม่น้ำโขงเริ่มเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้ว ในวันนี้ มีกำลังทหาร กองทัพช่วยประชาชน จำนวน 75 นาย จากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 13 และจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กอ.รมน.ภาค 3 จังหวัดอุดรฯ ได้เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขต อ.ท่าบ่อ , อ.ศรีเชียงใหม่ และอ.เมือง

 

ฝากไปอ่านบทความที่ http://www.oknation.net/blog/Kati1789/2008/05/06/entry-1
คำถามเรื่องการเตือนภัยและแผน เขียนได้ดีค่ะ
ไม่อยากเอามาลง เพราะเดี๋ยวใครมาจับตาเว็ปเรา
วันสัมมนา มีผู้แจ้งว่า ผู้จัดสัมมนาอย่าพาดพิงบ้านเมือง...

 

น่านห่วงน้ำป่าทะลักปิดล่องแก่งน้ำว้าชั่วคราว​

​

น่าน 14 ส.ค.- ฝนยังตกต่อเนื่องในพื้นที่ จ.น่าน เตือนใช้เส้นทางปัว-บ่อเกลือ ระวังดินไหล-โค้งหักศอก พร้อมปิดท่องเที่ยวล่องแก่งน้ำว้าชั่วคราว หวั่นน้ำป่าหลากฉับพลัน

นายพูนสถิตย์ วงศ์สวัสดิ์ หัวอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน เปิดเผยว่าล่องแก่งน้ำว้าตอนบนและตอนกลาง ระหว่างเขต อ.บ่อเกลือ และ อ.ปัว เป็นอีกแห่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีลำน้ำว้ายาวที่สุด บรรยากาศ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติ ป่าเขา และโขดหิน หน้าผา แต่ขณะนี้สถานการณ์น้ำไม่น่าวางใจ ทางอุทยานแห่งชาติดอยภูคาและอุทยานแห่งชาติขุนน่าน จึงประกาศปิดท่องเที่ยวล่องแก่งน้ำว้าชั่วคราว ประกอบกับปีนี้มีฝนตกค่อนข้างมาก เกรงว่าจะเกิดน้ำป่าไหลหลากเป็นอันตรายกับนักท่องเที่ยว คาดว่าช่วงกลางเดือนกันยายนสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติและจะเปิดล่องแก่งได้

ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่านยังคงแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งและเชิงเขาให้ระวังน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม พร้อมกำชับให้มิสเตอร์เตือนภัยแต่ละพื้นที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่แขวงการทางน่านที่ 2 เตือนผู้ใช้รถใช้ถนนสาย อ.ปัว ไป อ.บ่อเกลือ ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่อง ทำให้ดินไหลตัวลงมาช่วงกิโลเมตรที่ 21 และถนนทรุดเป็นหลุมเป็นบ่อหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณกิโลเมตรที่ 19-20 ข้างทางเป็นเหวลึกกว่า 100 เมตร และเป็นทางโค้งหักซอก ซึ่งแขวงการทางฯ ทำป้ายกั้นไว้ตลอดระยะเส้นทางที่ชำรุด และอยู่ระหว่างการเร่งซ่อมแซม โดยผู้เดินทางสามารถสอบถามได้ที่หมายเลข 054-682240 .-สำนักข่าวไทย

2008-08-14 17:36:37

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

www.khaosod.co.th<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=1000 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width="100%" align=center bgColor=#dadada border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD><TD background=images/corner_dg_top_line.gif></TD><TD width=10></TD></TR><TR><TD background=images/corner_line_left.gif></TD><TD vAlign=top align=left width="100%" bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!--เนื้อหา--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 19 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6469 ข่าวสดรายวัน[/FONT]


[FONT=Tahoma,]ลาวเร่งกั้นแม่น้ำโขงเอ่อ[/FONT]



[FONT=Tahoma,]ซินหัวรายงานเมื่อ 14 ส.ค.ว่า จากระดับน้ำในแม่น้ำโขงทำสถิติสูงสุดในรอบ 30 ปี ทางการลาวขอให้ทหารและประชาชนในกรุงเวียงจันทน์เร่งเสริมแนวกั้นตามริมฝั่งแม่น้ำโขงโดยด่วน ภายหลังจากระดับน้ำขึ้นสูงเลยขีดอันตราย 12.5 เมตรแล้วและยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลาวเผชิญกับพายุฝนจากพายุโซนร้อนคัมมุริ[/FONT]

[FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 43 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6469 ข่าวสดรายวัน[/FONT]


[FONT=Tahoma,]คนผิวขาวในสหรัฐลดวูบ[/FONT]



[FONT=Tahoma,]เมื่อ 14 ส.ค. นิวส์เดย์รายงานว่า สำนักงานสัมมะโนประชากรสหรัฐอเมริกาประเมินว่า ภายในปี พ.ศ.2585 หรือ 34 ปีข้างหน้า คนผิวขาวจะกลาย เป็นชนกลุ่มน้อยในสหรัฐ ซึ่งเร็วกว่าที่เคยประเมินไว้ถึง 8 ปี ทั้งนี้ สหรัฐเป็นชาติที่เต็มไปด้วยคนอพยพจากหลายเชื้อชาติ ในอดีตส่วนใหญ่จะเป็นคน ขาวจากยุโรป แต่ระยะหลังมีคนเชื้อสายแอฟริกัน ละติน และเอเชียเข้ามาตั้งรกรากมากขึ้นจนในอนาคต 30-40 ปีข้างหน้าจะกลายเป็นคนส่วนใหญ่ของสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนราว 55 %[/FONT]

[FONT=Tahoma,]หน้า 7[/FONT]

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=images/corner_line_left.gif></TD><TD vAlign=top align=left width="100%" bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!--เนื้อหา--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 157 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6469 ข่าวสดรายวัน[/FONT]


[FONT=Tahoma,]รองเท้าทรานสฟอร์เมอร์[/FONT]



[FONT=Tahoma,]<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[/FONT]
[FONT=Tahoma,][/FONT]
</TD></TR></TBODY></TABLE>บริษัท เคแอนด์ที ของเยอรมนี ออกรองเท้ารุ่น Nat-2 มองดูแล้วคล้ายๆ รองเท้าผ้าใบยี่ห้อคอนเวิร์ส แต่ Nat-2 สามารถแปลงโฉมให้เป็นทั้งรองเท้าแตะและรองเท้าผ้าใบได้เพียงไม่กี่วินาที และมีให้เลือกกว่า 20 แบบ ราคาคู่ละ 5,000 บาท (เดลี่เมล์)

[FONT=Tahoma,]หน้า 28[/FONT]


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=620 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="56%" rowSpan=2></TD><TD width="44%"></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left width="44%"></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!--BEGIN WEB STAT CODE----><SCRIPT language=javascript1.1 src="http://64.4.10.250/cgi-bin/linkrd?_lang=EN&lah=d0bc3418831083009ea2603a701bd8bc&lat=1056465482&hm___action=http%3a%2f%2ftruehits1%2egits%2enet%2eth%2fdata%2fh0013863%2ejs"></SCRIPT><!-- END WEBSTAT CODE --><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc colSpan=3>หมวดข่าว / ข่าวออนไลน์</TD></TR><TR><TD colSpan=3></TD></TR><TR><TD colSpan=3 height=20><TABLE height=20 width="100%"><TBODY><TR><TD align=left>โดย บ้านเมืองออนไลน์</TD><TD align=right>เมื่อเวลา 9:23:00 วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2551</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TR><TD colSpan=3 height=51>คอลัมน์ : ฉลามเขียว : จะตายเพราะนิวเคลียร์
จะตายเพราะนิวเคลียร์

กรี๊ดกร๊าดซะอย่างมีความสุขมาก
สุขจริงๆ สำหรับพวกที่เกลียดชัง “ทักษิณ ชินวัตร” ทั้งหลาย ในทันทีที่มีข่าวออกจากปาก พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษก สตช.ว่าตำรวจได้ร่อนหมายจับ ทักษิณ+พจมาน ออกไปทั่วประเทศไทยแล้ว พร้อมสั่งให้ลงทะเบียนในประวัติอาชญากรอีกด้วย

เหยียบซะให้สะใจ
“คำนวณ ชโลปถัมภ์” ทนายความส่วนตัวของทักษิณที่ออกมาบอกว่า การที่ สตช.ทำอย่างนี้เข้าข่ายประจาน มีความผิดฐานหมิ่นประมาททักษิณ+พจมานนั้น ก็พูดได้ดี

ก็ไม่แน่นะท่านทนายคำนวณ อาจจะมีคนเดินขบวนไปจี้ตำรวจ ให้เอาหมายจับแปะเสาไฟฟ้าทุกต้นทั่วประเทศไทยก็ได้

วันก่อนผมเขียนวัดใจความกล้า กรณีที่ “วิฑูรย์ นามบุตร” ยื่นฟ้อง “สมบัติ รัตโน” ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคพลังประชาชน ฐานหมิ่นประมาทเอาวีซีดีวิฑูรย์ ตอนเลือกตั้ง 23 ธันวา 50 ไปแถลงข่าวที่สภาฯ ซึ่งเมื่อมีการฟ้องก็จะวัดความกล้าของ วีระ มุสิกพงศ์, ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ, จตุพร พรหมพันธุ์ จะกล้าเอา วีซีดีนี้ออกฉายทางจอ NBT ตามที่นัดประชาชนไทยไว้คืน 13 สิงหา 51 หรือไม่

ก็ปรากฏว่า จตุพร ประกาศยังไม่ฉาย เพราะจะเป็นการกดดันการทำงานของ กกต. รอไว้ให้ กกต.มีมติเป็นบทจบของคดีนี้ออกมาก่อนแล้วค่อยฉายออกทีวีก็ได้

ผมก็ว่าดี อย่าไปกดดัน กกต.ท่านเลย เพราะแค่นี้คนไทยก็รู้แล้ว จับเงินล้านสามให้ใบเหลือง

สำหรับคนไทยที่รักนายกฯ ทักษิณก็รอนู้นแหละ 12 สิงหา 2566

ผมก็ไม่แน่ใจว่าคนที่เกลียดๆ กันอยู่จะมีอายุอยู่ถึงวันโน้นหรือไม่ อาจจะตายก่อน

“สมิทธ ธรรมสโรช” ก็เพิ่งเตือนคนกรุงเทพฯ กำลังจะโดนพายุใหญ่และน้ำท่วมใหญ่

อีกสิ่งที่คนไทยกลุ่มหนึ่งกำลังกลัวที่สุดกลายเป็น “สงครามนิวเคลียร์” ระหว่างรัสเซีย กับสหรัฐอเมริกา อันมีเหตุมาจากสงครามในจอร์เจีย

สหรัฐจะสถาปนาจอร์เจียมาเป็นดินแดนบี้บีบรัสเซีย โดยจะให้เข้ามาเป็นสมาชิกนาโต ซึ่งจะทำให้สหรัฐส่งทหารเข้าไปประจำการได้ รัสเซียก็เลยชิงเข้าตีจอร์เจียก่อน

ขณะนี้กำลังลุ้นว่าสหรัฐจะส่งทหารเข้าไปช่วยหรือไม่ ถ้าเข้าไปสงครามนิวเคลียร์ก็ใกล้

เมื่อ 10 ส.ค.51 เพิ่งจะมีงานสัมมนาที่ รพ.วิชัยยุทธ ผู้รู้แนะนำวิธีปฏิบัติตัวหลายอย่างหากเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นมาเอาไว้ดีมาก

ใครไม่อยากตายเพราะนิวเคลียร์เปิดอ่านได้ในเว็บไซต์พลังจิต www.palungjit.org



</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--Middle--><TD vAlign=top align=left bgColor=#ffffff>จำนวนคนอ่านล่าสุด 346 คน <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6468 ข่าวสดรายวัน[/FONT]


[FONT=Tahoma,]อินเดียโปรโมตเปิบ"หนู"สู้อาหารแพง[/FONT]



[FONT=Tahoma,]เมื่อ 13 ส.ค. เอเอฟพีรายงานว่า นายวิชัย ปรากาต รัฐมนตรีสวัสดิการสังคม รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เสนอนโยบายสู้วิกฤตปัญหาราคาอาหารแพง เรียกร้องให้ชาวบ้านทั้งกลุ่มยากจนและร่ำรวยหันมาบริโภค "หนู" แทนเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เพราะมีประโยชน์หลายทาง เช่น อุดมไปด้วยโปรตีน หาง่าย ราคาถูก และถือเป็นการช่วยกันกำจัดหนูที่ชอบมากัดกินพืชไร่ของเกษตรกรพิหาร ซึ่งในแต่ละปีต้องสูญเสียผลผลิตเพราะหนูไปถึงร้อยละ 50 [/FONT]

[FONT=Tahoma,]นายวิชัยกล่าวว่า มีโครงการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปรุงอาหารเมนูหนูรับประทานกันในบ้านให้มากขึ้น นอกจากนั้นยังพยายามติดต่อขอให้ร้านอาหารทุกระดับ ไม่ว่าจะร้านหาบเร่แผงลอยริมถนน ร้านอาหาร หรือภัตตาคารตามโรงแรม 5 ดาวต่างๆ ขายอาหารหันมาขายอาหารที่ทำจากเนื้อหนู อย่างไรก็ตาม นายวิชัยกล่าวว่า การจะปรับทัศนคติหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้คนส่วนใหญ่กินหนูไม่ใช่เรื่องง่าย โดยตามปกติแล้วคนพิหารที่บริโภคหนูเป็นประจำจะมีแต่กลุ่มคนยากจน [/FONT]


</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD width=300>

​

</TD><TD width=519><SCRIPT src="http://164.115.2.192/banner/adshow.php?zid=91" type=text/javascript></SCRIPT></TD></TR><TR><TD>

ปีที่ 59 ฉบับที่ 18469 วันศุกร์ ที่ 15 สิงหาคม 2551​

</TD><TD>

เกี่ยวกับไทยรัฐ มูลนิธิไทยรัฐ ศูนย์ข้อมูลไทยรัฐ ​

</TD></TR><TR bgColor=#3c751f><TD colSpan=2></TD></TR><TR bgColor=#ffff00><TD colSpan=2></TD></TR><TR bgColor=#205306><TD colSpan=2></TD></TR><TR><TD colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #a4d18d 1px solid" width=133 bgColor=#205306>

:. หน้าแรกไทยรัฐ .:</SPAN> ​

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #a4d18d 1px solid; BORDER-LEFT: #2a680b 1px solid" width=101 background=images/bg.gif bgColor=#205306>

ข่าวประจำวัน​

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #a4d18d 1px solid; BORDER-LEFT: #2a680b 1px solid" width=118 background=images/bg.gif bgColor=#205306>

คอลัมน์ประจำวัน​

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #a4d18d 1px solid; BORDER-LEFT: #2a680b 1px solid" width=77 background=images/bg.gif bgColor=#205306>

เดลี่@เวบ​

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #a4d18d 1px solid; BORDER-LEFT: #2a680b 1px solid" width=120 background=images/bg.gif bgColor=#205306>

สายตรงต่างแดน​

</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #a4d18d 1px solid; BORDER-LEFT: #2a680b 1px solid" width=130 background=images/bg.gif bgColor=#205306>

ร่วมงานกับไทยรัฐ​

</TD><TD style="BORDER-LEFT: #2a680b 1px solid" width=101 bgColor=#205306>

ติดต่อโฆษณา ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR bgColor=#205306><TD colSpan=2></TD></TR><TR bgColor=#ae1414><TD class=text3 colSpan=2>

| การเมือง | เศรษฐกิจ | กีฬา | บันเทิง | วิทยาการ | สังคม-สตรี | การศึกษา | การเกษตร | ต่างประเทศ | กทม. | ​

</TD></TR><TR bgColor=#6e0808><TD colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE><!--End Menu--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 background=images/line_header.jpg border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD align=right><FORM id=bmform name=bmform action=bookmarknews.php target=_new></FORM> <!--a href="javascript:void(0);" onclick="bmform.submit();" class="link7">็บขวน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 10px">น้ำแข็งขั้วโลกอาจหมดใน 5 ปี ไม่นานถึง 60 ปี อย่างที่คาดเมื่อก่อน [14 ส.ค. 51 - 00:17]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>นักวิทยาศาสตร์รู้สึกผวา เมื่อใช้คอมพิวเตอร์ศึกษาภาพถ่ายดาวเทียม การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งปรากฏว่าละลายลงเร็วกว่าที่เคยทำสถิติ สมัยเมื่อปี พ.ศ. 2550 ครั้งนั้นน้ำแข็งได้ละลายหายลงไปเป็นเนื้อที่กว้างใหญ่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตาราง กม. ในช่วงที่โลกเพิ่งจะเริ่มจับไข้ตัวร้อน
หนังสือพิมพ์รายวัน “ดิ ออบเซอเวอร์” ของอังกฤษที่เสนอข่าวเรื่องนี้ แจ้งว่า ศาสตราจารย์ไวสลอว์ มาสโลว์สกี้ แห่งบัณฑิตวิทยาลัยมอนเตอรี ได้บอกว่า เรื่องที่น่ากลัวก็คือว่า เมื่อเข้าหน้าหนาว น้ำแข็งที่กลับมาจับปกคลุม ได้ บางลงกว่าเคย เมื่อนำมาคำนวณเข้ากับการประมาณขนาดความหนาของน้ำแข็งในปัจจุบัน คณะของเขาวิตกว่า ขั้วโลกเหนืออาจจะหมดน้ำแข็งลง ภายในปี พ.ศ.2556 นี้
นอกจากนั้น นักวิทยาศาสตร์ปีเตอร์ แวดแฮมส์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ก็ได้เสริมว่า “แบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่ละเอียดที่สุด ก็ส่อว่าน้ำแข็งในฤดูร้อนที่ขั้วโลกเหนือ อาจจะเหลืออยู่ได้อีกไม่กี่ปีเท่านั้น และตามที่เราเห็นมาเมื่อเร็วๆนี้ ข้าพเจ้าเชื่อว่ามันน่าจะถูก”.

</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=middle width=300><CENTER></CENTER><SCRIPT src="http://164.115.2.192/banner/adshow.php?zid=109" type=text/javascript></SCRIPT><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=link3 align=middle width=296>ติดต่อโฆษณา นสพ.ไทยรัฐออนไลน์ โทร 0-2636-0726</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** ประวัติศาสตร์โลกซ้ำไปซ้ำมา ****

ภูเขาสูง ภูผาหิน...เป็นสถานที่หลบภัย
ยุคโบราณ....คนเขาก็ใช้หลบภัย
จึงวาดรูป...ไว้ตามผนังถ้ำ ตามโขดผา ทิ้งไว้มากมาย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
โดย sutatip_b<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1428237", true); </SCRIPT> สมาชิก​

​

เห็นเรือยางแถวบ้าน เขาขายปลีก-ส่ง
ปลีก ๗๐๐ บาท ซื้อ ๑ โหลลดให้ ๑๐ %
เครื่องสูบลมมาต่างหาก ๑๒๐ บาท
ไม่มีไม้พายให้ด้วย
บอกว่า หนึ่งลำผู้ใหญ่นั่งได้ ๑ คนและเด็ก ๑ คน

วันนี้มีคนถามว่าทำไมอ.ไก่อยากได้เรือ
คือตัวเองมีแผน ๑ และแผน ๒
แผน ๑ คือถ้ารู้ว่าพายุมาแน่จะอพยพเด็กๆ และคุณยายฝากไปกับบริวาร (อยู่ด้วยกันมาเป็นสิบปี) อาจไปโคราชหรือเพชรบูรณ์
ส่วนตัวเองอาจต้องอยู่กทม.รอสามีและลูกคนโต (ที่อยู่ต่างประเทศ) กลับมา
ซึ่งป่านนั้นถ้าน้ำท่วมรถคงจอดตายบนถนน
จึงอาจต้องใช้แผน ๒ คือเรือ...

ในงานสัมมนาคุยกันเรื่องเดินป่า..
หุ หุ..... อุปกรณ์เพียบ อะไรอะไรก็เป็นเงิน...
ถ้าไม่ใช่ชาว treking Thai มาก่อนละก้อ..อย่าเสี่ยง..
ฟังข่าวพายุ ตัดใจไปก่อน ขับรถสบายๆ ก่อนใครๆเขาจะแห่กันออกมา
จอดรถถึงศาลาวัด ไม่ต้องแบกเป้ให้เมื่อยและหลงทางเปล่าๆ

รู้ (พาคนในอาณัติ) หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง
รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีค่ะ
แล้วค่อยไปช่วยคนอื่น (ที่ไม่ใช่ครอบครัวเรา)

marine24<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1428468", true); </SCRIPT> สมาชิก

ผมคิดเหมือน อ.ไก่ จะพาครอบครัวไปไว้ในสถานที่ปลอดภัย แล้วย้อนกลับมาช่วยเหลือคนอื่น แต่นั้นหมายถึง เราต้องมีเครื่องมืออุปกรณ์ในระดับหนึ่ง ตั้งแต่เชือก เรือ อุปกรณ์ปฐมพยาบาล เสบียงอาหารน้ำดื่ม ยานพาหนะพร้อมน้ำมันเชื้อเพลิง(ที่ตอนนั้น คงจะหายาก/ขาดแคลน ) จุดรวมพล ที่กลุ่มเราจะต้องนัดหมายพบกัน (เพราะจะต้องมาแชร์ใช้เครื่องมืออุปกรณ์ เสบียง อาหาร น้ำดื่ม เท่าที่มีอยู่ ในการไปช่วยคนอื่น)

ยาล้างตา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1408600", true); </SCRIPT> สมาชิก

เรือยางก็มีขายของ TOY R US ราคาประมาณ 5-600.- บาท แต่เป็นของแบบเล่นในสระ มีหลายขนาด ความยาว 1 - 1.8 เมตร แต่กลัวจะไม่ทนทานถ้าต้องใช้ แบบสถานการณ์น้ำไหลเชี่ยว อาจจะรั่วได้เพราะยางไม่หนาพอ แต่สะดวกในการขนย้าย.....ครับ (ใช้ในกรณีฉุกเฉิน)

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=132256&page=4

หมายเหตุ
<!-- / message --><!-- sig -->
ถ้าเป็นเรือยางแบบมาตราฐาน ราคาประมาณลำละ 10,000.- ขึ้นไปครับ

​

​

 

*** น้ำโขงกวาดบ้าน ****

ถ้ามีข่าวเขื่อนกั้นแม่โขง...ระเบิด แตก พัง
ให้รีบหนี....ขึ้นที่สูง
น้ำโขง...จะทะลักเข้าใส่ภาคเหนือ ถึงกลาง และอีสาน
ไม่ประมาท.... ผู้ว่าควรมีแผน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สำหรับเรือยางนั้น หากเป็นเรือยางแบบพายเล่นในสระน้ำ เนื้อจะบางมาก ไม่มีสารเคลือบกันแตก ดังนั้นโดนเศษไม้สะกิดหน่อยก็ไปแล้ว

อาจจะต้องทำเรือ หรือแพแบบบแสวงเครื่องเอาไว้

เช่นหาไม้กระดานมาพร้อมกับเตรียมยางในสิบล้อเอาไว้เป็นทุ่น

หรือใช้ ขวดน้ำเพทที่ใช้บรรจุน้ำขนาด 5-6 ลิตร มามัดรวมเป็นทุ่นครับ เพราะเป็นเนื้อพลาสติกที่มีความทนทานสูง

 

มาดูวิดีโอสตอร์มเสิร์จลูกเล็กๆครับ

http://video.msn.com/video.aspx/?mk...4ed1a31229c9&tab=m1197959790273&wa=wsignin1.0

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 10px">น้ำแข็งขั้วโลกอาจหมดใน 5 ปี ไม่นานถึง 60 ปี อย่างที่คาดเมื่อก่อน [14 ส.ค. 51 - 00:17]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=10 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>นักวิทยาศาสตร์รู้สึกผวา เมื่อใช้คอมพิวเตอร์ศึกษาภาพถ่ายดาวเทียม การละลายของน้ำแข็งขั้วโลก เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งปรากฏว่าละลายลงเร็วกว่าที่เคยทำสถิติ สมัยเมื่อปี พ.ศ. 2550 ครั้งนั้นน้ำแข็งได้ละลายหายลงไปเป็นเนื้อที่กว้างใหญ่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตาราง กม. ในช่วงที่โลกเพิ่งจะเริ่มจับไข้ตัวร้อน
หนังสือพิมพ์รายวัน

 

*** ใกล้โยกย้าย ****

ระดับน้ำทะเล จะสูงขึ้นเร็วกล่าวที่คิด
กรุงเทพและชายฝั่งจะท่วม กลับคืนสู่ธรรมชาติ
ควรพิจารณาทบทวนเมืองใหม่อนาคต
ย้อนกลับไปดูแผนที่โบราณ ยุคพุทธกาลดลกมีน้ำมาก
น้ำจะกลับมาสมบูรณ์ เหมือนอดีต
จึงควรรีบพัฒนาชนบทด่วน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สมิทธเตรียมลาออกแล้วพิษสตอร์มเซิร์จ หมวด » ข่าว » ข่าวทั่วไป

​

สมิทธ ธรรมสโรช เตรียมลาออกจากตำแหน่งศูนย์เตือนภัย หลังโดนถล่ม เหตุเผยจะเกิดน้ำท่วมใหญ่สมุทรปราการและ กรุงเทพเดือน ก.ย.นี้ ระบุชัดจะมีคนตายจำนวนมากเท่าพายุนาร์กีส

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยกับรายการไอเอ็นเอ็นฮอทนิวส์ ยอมรับว่า จะตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่ได้มีการออกมาเตือนเรื่องปรากฏการณ์ สตอร์ม เซิร์จ หรือ ภัยน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น และอาจท่วมพื้นที่ จ.สมุทรปราการ มีความรุนแรงเท่าพายุนาร์กีส

แต่ปรากฏว่า ได้รับกระแสต่อว่าอย่างมาก โดยย้ำว่าเหตุที่มาเตือน เพราะได้ตรวจสอบจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ โดยอาศัยสถิติพายุคิม ในปี 2526 ที่ทำเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ ซึ่งการคำนวณตามหลักสถิติและวิทยาศาสตร์พบว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวจะกลับมาเกิดอีกครั้งระหว่างเดือน ส.ค.ถึง ก.ย. จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเร่งดูรับมือ แต่กลับไม่มีใครสนใจ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ เพราะอาจส่งผลน้ำให้น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ และมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก


ดร.สมิทธ บอกด้วยว่า การเตรียมลาออกไม่ได้น้อยใจ แต่เพราะหากทำงานไปและเมื่อออกมาเตือนแล้วหน่วยงานอื่นเพิกเฉยก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปเพื่ออะไร






ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก

โดย: Supawan
ตั้งเมื่อ: <ACRONYM title="1 ชั่วโมง 25 นาทีที่ผ่านมา">11:34 น. 15 ส.ค. 2008</ACRONYM>
แท็ก: สมิทธ ธรรมสโรช สตอร์มเซิร์จ

 

จะขอพูดถึงตรงนี้ แล้วจะไม่พูดอีก
ขออนุโมทนาบุญท่านผู้ว่า จ. สมุทรปราการ ที่ท่านคำนึงถึงผลเสียหายที่อาจเกิดกับชีวิตของลูกเมือง
ขออนุโมทนาบุญท่าน ดร. สมิทธ ที่กล้าพูดในสิ่งที่ต้องพูด

ขอถามรัฐบาลและข้าราชการทุกท่านว่า ท่านมีประกันสุขภาพหรือไม่ ประกันอุบัติเหตุ ประกันมะเร็ง ฯลฯ บางท่านเบิกหลวงได้ก็ยังไปซื้อประกันข้างนอก
เพราะท่านกลัวความหายนะแก่ชีวิตท่าน ห่วงครอบครัวตัวเองที่จะเดือดร้อนเบื้องหลัง

การวางแผนป้องกันสาธารณภัย เป็นการซื้อประกันชีวิตให้คนในแผ่นดิน
แต่ท่านไม่เ็ห็นด้วย เพราะไม่ใช่ตัวเองและญาติของท่านใครๆ ที่มีอันจะกิน เขามีบ้านอยู่ปากช่อง-เขาใหญ่กันหมดแล้ว
ท่าไม่ดี ทราบข่าววงในจากพีดีเอ ก็นั่งรถคันละกว่าล้านไปเขาใหญ่ หรือไปเที่ยวช้อปปิ้งที่อ่องกง มาเก๊า ...
ลองไปดูเถิดว่าใครดูแลแผ่นดินตอนสึนามิเข้า ถ้าเราลำบากที่นี่วันนี้...พรุ่งนี้... เขาจะลำบากด้วยไหม

ให้ไปดุภาพยนต์เรื่องจอว์ มีคนเห้นกระดดงฉลามในอ่าว เมืองกำลังจะมีงานชายหาดประจำปี คนเห็น (พระเอก) บอกนายกเทศมนตรี..ให้ปิดงาน หรือเลื่อนงานให้ไกลหาด
นายกเทศมนตรีบอกว่า จะบ้าเรอะ พ่อค้าในเมืองจองบู๊ทเต็มหาด ขืนบอกคนมาเที่ยวก็็้กลับหมด โดนคนด่าทั้งเมืองแน่นอน (เสียตำแหน่งแน่ๆ)
พอฉลามกินคนไปคนหนึ่ง วิ่งโร่ไปตามพระเอกมาจับฉลาม
แต่หนังก้คือหนัง ไม่มีค่าเสียหายตีออกมาว่าแก้หลังเกิดเหตุเสีย...ไปเป็นมูลค่าเท่าไร
(ฮาฮา เมืองเก็บค่าออกบู้ทแล้วคงไม่คืน)

The Day After Tomorrow ก็เหมือนกัน
ชอบตั้งแต่แรกเจอ ดูแล้วดูอีก ก่อนรู้จักพลังจิต ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมจึงฝังใจ
พระเอกเป็นนักวิชาการ เตือนแล้ว คนไม่เชื่อ
ถ้าไม่เชื่ออย่าจ้างนักวิชาการจบนอกเลย เปลืองงบจ้างดร. จ้างยาม มานั่งตำแหน่งเฝ้าพริ้นท์เอ้าท์อุตุก็ได้ มีขีดโผล่ๆค่อยโทรแจ้งผู้บริหารบ้านเมือง (ที่ไม่ได้เรียนเรื่องการดูแผนที่อากาศมา ยากจะตาย)
ในหนัง คนแข็งตายกันเท่าไหร่
คนตายเสียภาษีไม่ได้นะคะ
ถ้าตายเสียห้าล้าน บ้านเมืองจะขาดรายได้ไปเท่าไหร่ ใครจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายเงินเดือนคุณ

การเตือนภัย ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ ไม่ต้องเช่าพาหนะเยอะๆ เงินไม่หมุนเวียน จึงไม่เป็นที่นิยม
เหมือนหมอชอบรักษาโรค ไม่ชอบป้องกันโรค เพราะป้องกันแล้วมีแต่คนฉีดยา ไม่ต้องผ่าตัดไม่ต้องบายพาส ไม่ตื่นเต้นเร้าใจ ของบสร้างโรงพยาบาลเพิ่มไม่ได้
รอให้คนป่วยเยอะๆดีกว่า ผ่าคน MRU CAT scan ฯลฯ ทุกคนได้เงินเยอะดี
แต่แม่กับภรรยานี่กินวิตะมินกันโรคกันน่าดู

เมื่อทุกท่านเข้าใจที่มาที่ไปตรงกันแล้ว
ก็ตามที่ข้อความข้างบนระบุมาละค่ะ
หน้าที่ในการดูแลตัวท่านเป็นหน้าที่ของท่านเอง
ก็ให้เงินประจำตำแหน่งแค่นี้ เขาก็ทำให้แค่นี้...
ว่าแล้วก็ติดตามข่าวสารห้องภัยพิบัติและการเตรียมการต่อไปนะคะ

 

ก็ยังหวังว่า ดร.สมิทธ จะยังคงทำงานต่อไปเพื่อคนจำนวนหนึ่งที่ยังเชื่อ และพยายามมุ่งสู่ทางรอด
แม้ไม่มีตำแหน่งในศูนย์เตือนภัยแล้วก็ตาม หลายคนยังคอยฟังข่าว และติดตามอยู่ตลอด
การออกมาเตือนแบบนี้ถือว่า ดร.สมิทธ ยอมเอาตัวเองเข้าเสี่ยงอย่างมาก
ตอนนี้ยังไม่เกิดเหตุ
1.คนไม่เชื่อก็กล่าวหา ว่ามาทำให้เกิดความตื่นกลัวโดยใช่เหตุ
2.คนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็ยังได้รับข่าวสารและมีโอกาส
3.คนเชื่อก็เตรียมตัว และมีโอกาสมากกว่า

ถ้าไม่เกิดเหตุ
ถือว่าเป็นความโชคดีของเราทุกคน การเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับใคร มีแต่สร้างความเข้มแข็งให้ร่างกาย และสติปัญญาของเรา ถือว่าเป็นความรู้รอบตัว

ถ้าเหตุเกิด
คนกลุ่ม 1 มีกี่ % ที่จะรอด เมื่อเหตุเกิดแล้ว ในเมื่อคุณไม่เชื่อ
คนกลุ่ม 2 รอดกี่ % คิดว่าคงมากกว่ากลุ่มที่ 1
คนกลุ่ม 3 รอดกี่ % คิดว่าคงมากกว่ากลุ่มที่ 2

คุณจะอยู่ในกลุ่มไหน...?
การเตรียมความพร้อมดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ก็เหมือนที่พระท่านสอนให้เตรียมตัวตายก่อนตาย
แล้วเราจะเข้าใจ และปล่อยวางได้ในที่สุด
คนใดรอดก็ทำหน้าที่ของตนไป
คนใดไม่รอดก็เป็นกรรมของปัจเจกบุคคล

 

คุณ old car and a man กล่าวถึง k_ isara ว่าอายุน่าจะอยู่ที่ 60 ปี จะให้ผมรีบแก่ไปถึงไหน เดี๋ยวผมก็ไม่มีแรง พาท่านสมาชิกหนีขึ้นที่สูงหรอก

k_isara ปีนี้อายุแค่ 54 เศษ วัยแค่แย้มฝา...? เท่านั้นเอง แต่ได้อาสาข้างบน นำผู้คนไปหลบที่ปลอดภัยในเวลา ไม่เกิน 8-10 ปี ข้างหน้า สถานที่ได้ถูกกำหนดแล้ว คือ วัดในอำเภอ เชียงคาน จังหวัด เลย
สำหรับท่านที่สนใจ จะไปด้วยต้องเป็นคนดี มีศีลธรรม ก็ pm เข้ามาคุยกัน

เวลาช่วงนี้ ขอให้ท่านสมาชิกทั้งหลาย ตั้งรับอยู่กับที่ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะทิ้งที่อยู่ เพื่อที่จะขึ้นที่สูง