ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>นาทีต่อนาทีเครียด! "แดง"ปะทะ "ตร.-ทหาร"ครั้งแรก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การชุมนุมใหญ่เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา

    ที่ม็อบเสื้อแดงเผชิญหน้าและปะทะกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร เมื่อวันที่ 6 เมษายน นับเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างตึงเครียด เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลส่งกำลังเข้าไปตั้งจุดสกัดประชิดแยกราชประสงค์ เพื่อสกัดการเคลื่อนทัพทั่วกรุงเทพฯ


    ต่อจากนี้ไปเป็นลำดับเวลานาทีต่อนาทีการเผชิญหน้ากันตั้งแต่เช้าวันที่ 6 เมษายนจนถึงบ่าย

    08:00 น. แกนนำเสื้อแดงขึ้นเวทีประกาศจัดทัพคนเสื้อแดงหลายหมื่นคนที่บริเวณแยกราชประสงค์ เตรียมเคลื่อนพลบุก 11 เส้นทางสายหลักของกรุงเทพฯ ในเวลา 11.00 น. และจะให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปักหลักคุมที่มั่นอยู่ที่แยกราชประสงค์

    08:10 น. ศอ.รส.เตรียมกำลังผสมตำรวจ-ทหารจำนวนประมาณ 203 กองร้อย เคลื่อนเข้าไปยังแยกเพลินจิต แยกราชดำริ แยกประตูน้ำ และแยกปทุมวัน โดยเฉพาะที่แยกราชดำริ และแยกปทุมวัน ใช้กำลังตำรวจปราบจลาจล และตำรวจ 191 ประมาณ 900 นาย ตั้งแถวแนวขวาง หวังสกัดมิให้ทัพเสื้อแดงเคลื่อนพลบุก 11 เส้นทางทั่วกรุงเทพฯ

    09.10 น. ตำรวจ - ทหารเคลื่อนเข้าประจำ 4 แยกหลัก ส่วนที่สวนลุมพินี ตำรวจนำรถผู้ต้องขังมาจอดขวางเส้นทางแยกชิดลม และแยกสีลมไว้สกัดกั้นผู้ชุมนุม

    09.15 น. เสื้อแดงระดมกำลังจากสะพานผ่านฟ้าฯ มาสมทบที่แยกราชประสงค์ ขณะที่บริเวณแยกสารสิน มีการประจัญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่และกลุ่มเสื้อแดง

    09.45 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผอ.ศอ.รส. ยืนยันว่าการส่งกำลังบล็อคเสื้อแดงเคลื่อนทัพ เป็นการปฏิบัติตามหลักสากล ย้ำว่าจะไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเตรียมออกหมายจับ 10 แกนนำเพิ่มเติมวันนี้

    10.00 น. ผู้ดำเนินรายการบนเวทีที่สะพานผ่านฟ้าฯ ได้ประกาศแจ้งให้ผู้ชุมนุมที่เหลืออยู่ไม่กี่ร้อยคน ปักหลักชุมนุมอยู่ในที่ตั้ง ไม่ต้องเคลื่อนไปสมทบที่แยกราชประสงค์แล้ว ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสลายการชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้าฯ

    10.30 น. นพ.เหวง โตจิราการ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นำเสื้อแดงไปประจัญหน้าตำรวจ-ทหาร ที่หน้าสถานีรถไฟฟ้าราชดำริ ตำรวจ-ทหารเริ่มถอยร่นเรื่อยๆ ขณะที่คนเสื้อแดงเริ่มผลักดันหนัก มีการตะโกนต่อว่าต่อขานเจ้าหน้าที่จนเกิดการกระทบกระทั่งเป็นระยะ หนักเข้าก็ขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บรุนแรง

    10.35 น. กลุ่มเสื้อแดงประมาณ 1,000 คนพยายามผลักดันตำรวจชุดปราบจลาจล 2 กองร้อย พร้อมรถควบคุมผู้ต้องขัง 6 คัน ออกจากแยกชิดลมตัดถนนวิทยุ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมจากแยกประตูน้ำเคลื่อนโอบล้อมกำลังตำรวจจนติดอยู่กลางวงล้อม และใช้ตีนตบและโห่ไล่ให้ออกไป ในที่สุด ตำรวจยอมถอนกำลังทั้งหมดออกไป

    10.40 น. นายสุพร อัตถาวงษ์ ประกาศบนเวที ขอให้เสื้อแดงต่างจังหวัดเข้ายึด-เผาศาลากลางจังหวัด และที่ว่าการอำเภอ ถ้าหากมีการสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ โดยใช้ชื่อยุทธการว่า "ผึ้งแตกรัง"

    11.00 น. ศอ.รส. แถลงไม่ปราบปราม หรือสลายการชุมนุม เพียงแต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่กดดันผู้ชุมนุมเพื่อมิให้ออกจากแยกราชประสงค์ไปดาวกระจายที่อื่น

    11.02 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประกาศยกเลิกเคลื่อนพล 11 จุด เพื่อรอดูท่าทีรัฐบาล และขอร้องมิให้รัฐบาลใช้ความรุนแรง

    11.45 น. กลุ่มเสื้อแดงส่วนหนึ่งเข้าล้อมตำรวจเพื่อกดดันให้ถอนกำลังออกจากบริเวณชิดลม

    12.00 น. มีเฮลิคอปเตอร์บินวนใกล้แยกราชประสงค์ เพื่อกดดันผู้ชุมนุม ทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจชูตีนตบ และทั้งตะโกนทั้งโห่ไล่

    12.20 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นเวทีปราศรัยที่แยกราชประสงค์ ประกาศอีก 1 ชั่วโมง จะปรับยุทธวิธีต่อสู้อีกครั้ง

    13.00 น. นพ.เหวง โตจิราการ นำขบวนเคลื่อนไปผลักดันกำลังตำรวจ-ทหารที่ตั้งจุดสกัดที่สวนลุมพินี ด้านถนนวิทยุ และให้อาสาสมัครจำนวนหนึ่งยึดรถฉีดน้ำของกองทัพบก 4 คัน รรถหุ้มเกราะอีก 1 คันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้นำมาสลายการชุมนุม จากนั้นได้ปิดประตูสวนลุมพินีด้านถนนวิทยุ ไม่ให้ตำรวจ-ทหารออกมา

    13.30 น. นายขวัญชัย ไพรพนา และนายสุพร อัตถาวงศ์ นำขบวนรถปิคอัพ รถมอเตอร์ไซด์ และรถแท๊กซี่ ประมาณ 1,000 คน เคลื่อนจากสะพานผ่านฟ้าฯ ไปยังสวนลุพินี ผ่านถนนสีลม ผ่านสำนักงานธนาคารกรุงเทพฯ และอาคารซีพี ก่อนจะวกกลับที่ตั้ง

    14.20 น. กำลังตำรวจ-ทหารส่วนใหญ่ถอนตัวออกจากสวนลุมพินี เพื่อคลายแรงกดดันจากม็อบ

    15.20 น. นพ.เหวง โตจิราการ ได้ทำหนังสือส่งมอบรถทหาร 4 คัน ผ่าน พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รักษาราชการผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรากฏว่า รถบางคันถูกเจาะลมยางจนแบน

    15.30 น. กลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งดาวกระจายมาชุมนุมและจอดรถปราศรัยหน้าสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ขาเข้า ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อทวงถามความเป็นกลางของการเสนอข่าว ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัด

    <!-- <script Language="JavaScript">function BackPage() {history.back();}</script>
    กลับสู่หน้าแรก ​
    -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แตกตื่น!แผ่นดินไหว7.8ริกเตอร์เขย่าเกาะสุมาตรารุนแรง ไทยยกเลิกประกาศเตือนภัยสึนามิ จว.อันดามันแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลา 05.15 น.วันที่7 เมษายน ตามเวลาในประเทศไทย ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.8 ริกเตอร์

    จุดศูนย์กลางอยู่ที่ตอนเหนือหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เบื้องต้น มีรายงานว่า ในหลายประเทศแถบทะเลอันดามัน ต่างแจ้งเตือนการเกิดสึนามิและแจ้งเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว


    ทั้งนี้ สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้มีจุดศูนย์กลางห่างจากเมืองซิโบลกา ราว 204 กิโลเมตรและลึกลงไปใต้ดินราว 28.6 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือตัวเลขผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

    ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติของไทย ได้มีการประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนจังหวัดแถบทะเลอันดามัน ตั้งแต่จ.สตูลขึ้นมา

    เตรียมอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ขณะที่จังหวัดแถบภาคใต้ ได้แก่ สงขลา หาดใหญ่ รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวในครั้งนี้ และยังเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
    ด้านนอ.ศรัณย์ ทัพภะสุด ผอ.กลุ่มงานเตือนภัยและเผยแพร่ ศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบจากทุ่นลอยว่าจะมีผลจากการเกิดสินามิเพียงใด ล่าสุดพบว่ามีการเกิดขึ้นในมหาสมุทรอินเดียแล้ว ขณะนี้กำลังตรวจสอบทุ่นลอยจากจุดเกาะเนียง ในพื้นที่ภูเก็ตว่าจะมีสึนามิหรือไม่


    ต่อมา เมื่อเวลา 07.00 น. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ประกาศยกเลิกคำสั่งเตือนภัยสึนามิในประเทศไทย แถบจังหวัดอันดามันแล้ว ระบุไทยไม่มีโอกาสเกิดสึนามิ


    ขณะที่สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า ในหลายประเทศหลายเมืองแถบทะเลอันดามันเกิดไฟฟ้าดับ ไปทั่วเมือง

    และต้องเฝ้าระวังการเกิดคลื่นสึนามิที่จะตามมา ส่วนสำนักข่าวโทรทัศน์ของอินโดนีเซียรายงานว่า ประชาชนต่างพากันแตกตื่น วิ่งหนีขึ้นไปอยู่บนที่สูง
    รอยเตอร์รายงานว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อคแล้ว 3 ระลอก ขณะที่ศูนย์เตือนภัยแปซิฟิกที่ฮาวาย ของสหรัฐ ระบุว่า ไม่น่าจะเกิดสึนามิลุกใหญ่เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาเมื่อปี 2004 แต่ก็ยังไม่มีการยกเลิกการเฝ้าระวังเตือนภัยสึนามิ


    ต่อมา เมื่อเวลา 06.06 น. ทางวิทยุจส.100 ได้ทวิตผ่าน เว็บไซต์ทวิตเตอร์ดอดคอม หลังมีแผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ข้อความว่า "ตึกสูงย่านถนนพญาไท หลังสวน /จ.เพชรบูรณ์ และหลายจังหวัดของไทย รู้สึกได้ถึงแผ่นดินไหว"


    อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อ วันที่ 26 ธันวาคม 2547 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงขนาด 9.0 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย บริเวณด้านตะวันตกของหัวเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 228,000 ถึง 310,000 คน โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตเนื่องจากคลื่นสึนามิที่พัดเข้าสู่ชายฝั่งทะเล สำหรับในประเทศไทย ตัวเลขประมาณการผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ที่ประมาณไม่ต่ำกว่า 5,000 คน


    บริเวณที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากคลื่นสึนามิ ที่พัดเข้าสู่ชายฝั่งรอบมหาสมุทรอินเดีย ได้แก่
    จังหวัดภูเก็ต, พังงา, กระบี่ และระนอง ในประเทศไทย จังหวัดอาเจะห์ ในประเทศอินโดนีเซีย ชายฝั่งของประเทศศรีลังกา ชายฝั่งของรัฐทมิฬนาฑูของอินเดียตลอดจนไกลถึงชายฝั่งของประเทศโซมาเลียในแอฟริกาซึ่งห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวถึง 4,100 กิโลเมตร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือนอากาศร้อนจัด และอาจมีลูกเห็บตก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนทั่วประเทศ อากาศร้อนจัด และอาจเกิดพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก...

    พยากรณ์อากาศประจำวัน

    ประจำวันที่ 7 เมษายน 2553 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่เข้ามาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและ ทะเลจีนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันนี้ (7 เม.ย. 53) ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออกมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่ทำให้ต้นไม้หักโค่น และป้ายโฆษณาหรือที่พักอาศัยได้รับความเสียหายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้นใน ระยะนี้ ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
    ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่
    อุณหภูมิสูงสุด 39-43 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากด้านตะวันตกของภาค ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศา โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง
    เป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีลูกเห็บตกในบางพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และอำนาจเจริญ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบริเวณจังหวัดสระแก้ว อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง บางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
    ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต ตรัง และสตูล ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2010
  2. LnWLnW

    LnWLnW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +936
    โห 7.8 ริกเตอร์เลยหรอคะ

    ทำไมช่วงนี้แผ่นดินไหวบ่อยจังเลยอ่ะคะ
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไทยยกเลิกเตือนภัยสึนามิ หลังไม่เกิดคลื่นยักษ์จากธรณีพิโรธรุนแรงเขย่าอินโดฯ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 เมษายน 2553 07:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    เอเอฟพี/เอเจนซี - ไทยยกเลิกประกาศเตือนภัยสึนามิ หลังเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.8 เขย่า เกาะสุมาตรา ทางเหนือของอินโดนีเซียในช่วงเช้าวันพุธ (7) แต่ทำให้เกิดเพียงคลื่นลูกเล็กๆ เท่านั้น ขณะที่ชาวอิเหนาตื่นตระหนก หลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงตามมาอีกอย่างน้อย 2 ระลอกในอาเจะห์ จังหวัดที่ได้รับความหายร้ายแรงในเหตุการณ์สึนามิเมื่อ 5 ปีก่อน

    ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยแผ่นดินไหวของไทยได้ยกเลิกประกาศเตือนภัยสึนามิ เมื่อเวลา 7.20 น. หลังพบว่าไม่เกิดสึนามิรุนแรงเกิดขึ้น มีเพียงแต่คลื่นลูกเล็กๆ หลายระลอกเท่านั้น

    ก่อนหน้านี้ ศูนย์แจ้งเตือนภัยพิบัติแห่งชาติของไทย ระบุว่ามีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดคลื่นสึนามิตามชายฝั่งทะเลอันดามัน หลังจากมหันตภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2004 ได้คร่าชีวิตพลเรือนในไทยไปราว 5,400 คน

    สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้มีจุดศูนย์กลางห่างจากเมืองซิโบลกา ราว 204 กิโลเมตรและลึกลงไปใต้ดินราว 28.6 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือตัวเลขผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

    ด้านศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก ประกาศเตือนภัยสึนามิระดับท้องถิ่นเช่นกัน แต่คาดหมายว่าจะเป็นคลื่นยักษ์ที่ไม่มีอานุภาพทำลายล้างอย่างกว้างขวางแต่อย่างใด

    ทั้งนี้สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าหลังแผ่นดินไหวระดับ 7.8 ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกอย่างน้อย 2 ระลอกในจังหวัดอาเจะห์ บนเกาะสุมาตรา

    ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ในอาเจะห์ รายงานต่อว่าเกิดความตื่นกลัวขึ้นในหมู่ประชาชนและมีไฟฟ้าดับในพื้นที่บางแห่งหลังจากแผ่นดินไหว ขณะที่สำนักข่าวเมโทร ระบุว่าราษฎรในบางพื้นที่ต่างพากันขึ้นไปอยู่พื้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย

    ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่าประชาชนของบันดา อาเจะห์ บอกว่าพวกเขาสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนรุนแรงนานราว 1 นาที บางส่วนหนีออกจากบ้านหรือขับขี่จักรยานยนต์หนีห่างจากพื้นที่ชายฝั่งในความหวั่นกลัวต่อสึนามิทำลายล้าง

    คลื่นยักษ์สึนามิที่ถล่มอินโดนีเซียและประเทศอื่นๆในขอบเขตมหาสมุทรอินเดีย เมื่อปี 2004 ได้สังหารชีวิตพลเรือนไปกว่า 220,000 คน และเหยื่อส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดอาเจะห์ ทางเหนือของเกาะสุมาตรา

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9530000048060
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    นำบุญมาฝากทุกท่านนะจะ หลานชาย 2 คนบวชเณรที่วัดปทุมคงคา แถวตลาดน้อย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในอุโบสถพระประทานสวยมากๆ นำมาฝากด้วยจ๊ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0650.jpg
      IMG_0650.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.4 MB
      เปิดดู:
      80
    • IMG_0652.jpg
      IMG_0652.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.8 MB
      เปิดดู:
      81
    • IMG_0655.jpg
      IMG_0655.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4 MB
      เปิดดู:
      87
    • IMG_0654.jpg
      IMG_0654.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.2 MB
      เปิดดู:
      97
    • IMG_0658.jpg
      IMG_0658.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      80
    • IMG_0659.jpg
      IMG_0659.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.7 MB
      เปิดดู:
      85
    • IMG_0663.jpg
      IMG_0663.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.1 MB
      เปิดดู:
      85
  5. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แดงบุก"รัฐสภา""ชัย"สั่งปิดประชุมบันไดหนีม็อบแดงล้อม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>แดงประกาศเคลื่อนบุก"รัฐสภา"ที่ประชุมครม. หลัง"มาร์ค"ชิงเดินทางไปถกศอ.รส.ให้"สุเทพ"เป็นปธ.แทน "เทพเทือก"ติดอยู่ในรัฐสภาโดนเสื้อแดงสกัดไม่ให้ออก"ชัย"สั่งเลิกประชุมสภา จนท.เตรียมบันไดแล้ว

    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]"ชัย"สั่งปิดประชุมสภาเตรียมบันไดฉุกเฉินปีนหนีม็อบแดงล้อม

    เมื่อเวลา 11.00 น.นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ได้สั่งปิดประชุมสภาหลังเสื้อแดงมาชุมนุมหน้าสภาเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบเนื่องจากมีส.ส.บางส่วนได้เดินทางกลับไปก่อนหน้านี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่รัฐสภาได้นำบันไดไปพาดกำแพงฝั่งพระที่นั่งวิมานเมฆเพื่อเตรียมให้ข้าราชการและ ส.ส.ใช้เป็นทางออก เนื่องจากประตูทางออกไม่สามารถนำรถออกไปได้


    "เทพเทือก"ติดอยู่ในรัฐสภาโดนเสื้อแดงสกัดไม่ให้ออก"ชัย"สั่งเลิกประชุมสภา

    ผู้สื่อข่าวรายงานเวลา 11.00 น.วันที่ 7 เมษายน กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้เคลื่อนพลถึงและปิดล้อมอาคารรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯยังติดอยู่ภายในอาคารรัฐสภาทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดล้อมทางเข้าออกด้านถนนราชวิถีเพื่อไม่ให้นายสุเทพออก

    ทางด้านนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ได้สั่งยุติการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว โดยแจ้งต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าไม่สามารถดำเนินการประชุมได้ต่อไปเนื่องจากกลุ่มคนเสื้อแดงได้เคลื่อนพลมาปิดล้อม

    แดงประกาศเคลื่อนล้อม"รัฐสภา"ที่ประชุมครม. หวังกดดันยุบสภา

    เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 7 เม.ย. นายพายัพ ปั้นเกตุ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ประกาศบนเวทีผ่านฟ้าลีลาสว่า ได้ข่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อยู่ที่รัฐสภา ขอให้รอเดี๋ยวกลุ่มคนเสื้อแดงจะไปสภาฯ เพื่อกดดันให้นายอภิสิทธิ์ยุบสภา

    "มาร์ค"หน้าเครียดทิ้งประชุมคณะรัฐมนตรีบอกต้องเดินทางไปถกศอ.รส.

    ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์เดินทางเข้าไปที่รัฐสภาเพื่อร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ห้องงบประมาณ อาคาร 3 เมื่อเวลา 08.00น.วันที่ 7 เมษายน โดยมีวาระสำคัญคือการเสนอต่ออายุพ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จากกรณีสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยนายกฯมาประชุมเร็วกว่าปกติจากเดิมที่การประชุมจะเริ่มขึ้นเวลา 08.30 น.

    อย่างไรก็ตามเมื่อการประชุมครม.ผ่านไปได้ประมาณ 30 นาที นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ได้เดินทางออกจากห้องประชุมและเป็นที่น่าสังเกตว่า นายกฯมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า จะเดินทางไปประชุมศอ.รส. (ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย)

    ผู้สื่อข่ายรายงานว่า ภายหลังนายกรัฐมนตรี เดินทางออกไปจากรัฐสภาแล้ว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงทำหน้าที่การประชุมต่อ ขณะที่รัฐมนตรีร่วมคณะรัฐบาลบางคนก็เพิ่งเดินทางมาถึงและไม่ทราบว่านายกฯ เดินทางออกไปจากรัฐสภาแล้ว อาทิ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทวงการท่องเที่ยว และกีฬา เป็นต้น

    [/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผู้ว่าฯ ภูเก็ตเผยสถานการณ์ปกติหลังแผ่นดินไหวเกาะสุมาตรา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ภูเก็ต 7 เม.ย.- นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

    เปิดเผยถึงแผ่นดินไหวในทะเลบริเวณทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินดินโดเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.6 ริกเตอร์ รู้สึกได้ในประเทศไทยทางภาคใต้ว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้ให้ 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.กะทู้ และอ.ถลาง นำรถออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมพร้อมอพยพหากเกิดสึนามิ และเมื่อเวลา 07.20 นาที ได้แจ้งยกเลิกการประกาศเฝ้าระวังเหตุแล้ว โดยไม่มีเหตุการณ์ใด

    ล่าสุดจากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายหาดป่าตอง อ.กะทู้ พบว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวที่พักอยู่ตามชายหาดมีความตื่นตัวอย่างมาก

    ถือเป็นเรื่องดีสามารถลดความสูญเสียได้ โดยพบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวบางส่วนนำรถยนต์ขึ้นมาจอดในที่ปลอดภัยหลายจุดทั้งในพื้นที่ป่าตอง และพื้นที่หาดกะรน ซึ่งขณะนี้ประชาชนกลับสู่บ้านพักอาศัยแล้ว และนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตามปกติ อย่างไรก็ตาม จังหวัดได้ตั้งวอลรูมชั่วคราวที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>บราซิลอ่วมฝนตกหนัก-น้ำท่วม-ดินถล่มกลืนเกือบร้อยชีวิต </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น

    ได้เกิดฝนตกหนักที่สุดในประวัติศาสตร์นครริโอเดจาเนโร เมืองใหญ่อันดับสองของบราซิล ทำให้เกิดดินถล่ม ใส่ชุมชนแออัดหลายแห่งบริเวณไหล่เขา และเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 95 คน ขณะที่ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ถนนกลายสภาพเป็นแม่น้ำ การสัญจรกลายเป็นอัมพาต


    ทั้งนี้ ฝนตกหนักในช่วงไม่ถึง 24 ชม. ทำให้มีปริมาณน้ำฝน 11 นิ้ว (29 ซม.) และคาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มอีก

    เจ้าหน้าที่ระบุว่า บ้านเรือนประชาชนอย่างน้อย 10,000 หลัง ในนครริโอเดจาเนโร เสี่ยงประสบภัยโคลนถล่ม กระทั่งนายกเทศมนตรีมนครรีโอเดจาเนโร ต้องสั่งให้คนงานระงับการก่อสร้างสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และฟุตบอลโลก พร้อมสั่งปิดสถานศึกษาทุกแห่งเป็นการชั่วคราว ขณะที่ธุรกิจส่วนใหญ่ก็ปิดทำการ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้รับคำแนะนำให้อพยพไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เนื่องจากฝนที่ตกลงมามีปริมาณมากที่สุด


    ด้านประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ดา ซิลวา ของบราซิล ขอให้คนบราซิลช่วยกันสวดภาวนาให้ฝนหยุดตก และว่าฝนครั้งนี้ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์นครริโอเดจาเนโร

    ด้านผู้แทนหน่วยดับเพลิงในเมืองดังกล่าว เผยว่า ขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม 95 คน และเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 44 คน โดยเหยื่อส่วนใหญ่อาศัยในชุมชนแออัดบริเวณไหล่เขา ซึ่งบ้านเรือนของพวกเขาถูกกองโคลนและเศษดินหินหลายตันถล่มทับ เจ้าหน้าที่คาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ขณะเดียวกัน ระดับน้ำที่สูงขึ้นยังทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนติดค้างนับพันคน.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ดับแล้ว 6 รายแผ่นดินไหวเขย่าเกาะสุมาตราอินโดฯ

    [​IMG]

    แผ่นดินไหวบริเวณเกาะสุมาตรา ระดับ 7.8 ริกเตอร์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 เม.ย. เกิดเหตุแผ่นดินไหว ที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย วัดระดับความรุนแรง 7.8 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ทางตะวันเฉียงใต้ของจังหวัดสินาบังราว 75 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปราว 34 กิโลเมตร เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (05.15 น.) ตามเวลาในประเทศไทย ขณะเจ้าหน้าที่เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 คน อาคารบ้านเรือนพังเสียหายบางส่วน

    อย่างไรก็ตาม แม้เบื้องต้นจะมีการประกาศเตือนสึนามิทั้งที่อินโดนีเซีย และ ประเทศไทย แต่เมื่อเวลาประมาณ 7.30 น. ศูนย์ภัยพิบัติได้ประกาศยกเลิกแล้ว

    ไทยรัฐออนไลน์ วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.thairath.co.th/content/oversea/75425
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ศูนย์เอราวัณสั่งแพทย์เตรียมพร้อมทั่วกรุง ขยับใช้แผน “เอราวัณ 2” รับมือฝูงแดง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 เมษายน 2553 12:21 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ศูนย์เอราวัณ ขยับแผนปฏิบัติการใช้แผน “เอราวัณ2” รับมือ “ม็อบแดง” สั่งหน่วยแพทย์เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ทั่วกรุง สรุปยอดผู้เจ็บป่วยและบาดเจ็บจากการชุมนุมตั้งแต่ 12 มี.ค. 289 รายแล้ว

    ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกประกาศวันนี้(6 เม.ย.)เรื่อง เพิ่มระดับแผนปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน ระบุว่า ด้วยสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณแยกราชประสงค์ และแยกผ่านฟ้าลีลาศ มีการเปลี่ยนแปลง ศูนย์ปฏิบัติการทางการแพทย์ในสถานการณ์ฉุกเฉินพื้นที่กรุงเทพมหานคร

    ขอเพิ่มระดับแผนปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินจาก “แผนเอราวัณ 1” เป็น “แผนเอราวัณ 2” และให้หน่วยปฏิบัติการในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพฯ เตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์และทรัพยากรทางการแพทย์ ระบบการสื่อสาร และระบบปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมให้การสนับสนุนช่วยเหลือการปฏิบัติการทางการแพทย์ เพื่อรับสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป

    ศูนย์เอราวัณ ได้รายงานจำนวนผู้ป่วยและบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม - 5 เมษายน มีทั้งหมด 289 ราย รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลทั้งหมด 68 ราย แยกเป็นผู้ป่วย 46 ราย ผู้บาดเจ็บ 22 ราย กลับบ้านได้แล้ว 221 ราย ยังเหลือรักษาในโรงพยาบาลอีก 6 รายคือ

    โรงพยาบาลกลาง 2 ราย โรงพยาบาลหัวเฉียว โรงพยาบาลบางปะกอก โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลตากสิน แห่งละ 1 ราย ทั้งนี้ อาการที่พบบ่อยคือ เป็นลม ชักเกร็ง อ่อนเพลีย แน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก ปวดท้อง ท้องเสีย ส่วนผู้ที่บาดเจ็บ มาจากการถูกทำร้ายร่างกาย อุบัติเหตุจักรยานยนต์ชน หรือล้ม แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุม

    ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000047648
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ดวงชะตาเมืองไทย 2553 : ตอนที่ 3 ผ่าอนาคตดวงเมืองไทยในปี พ.ศ. 2553 (ปีเสือร้องไห้) </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย อ.ณัฐ นรรัตน์ ทำนายไว้เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ.2553
    [​IMG]

    การพยากรณ์ดวงชะตาเมืองไทยในหลายปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็มักจะเขียนเเละลงในสื่อให้คนได้อ่านได้ฟัง เพื่อเตรียมตัวตั้งรับตั้งทัพกับเเนวโน้มที่อาจมีเหตุดีเหตุร้ายต่อไปในบ้านเมืองหรือต่อตนเอง ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมไปเเล้วถึงการออกมาให้สัมภาษณ์ของนักพยากรณ์ ต่างสำนักทั้งการพยากรณ์ทางโทรทัศน์ พยากรณ์ทางหนังสือนิตยสารต่างๆ หรือจะเป็นทางสื่อวิทยุเเต่ในขณะที่ท่านผู้อ่านได้อ่านอยู่ ณ ขณะนี้เป็นการเขียนบทความวิเคราะห์ดวงชะตาเมืองไทยเเบบ original เป็นต้นฉบับที่ผมเขียนลงในเว็บไซค์ manager เพียงที่เดียวเเห่งเดียวที่อ่านต้นฉบับได้ทาง internet เเละในเว็บนี้เท่านั้น

    หลายท่านตั้งข้อสงสัยถึงการยึดเอาวันไหนเเน่ เป็นวันที่เเท้จริงในการวิเคราะห์ดวงเมืองมากที่สุดเพราะประการเเรก ฤกษ์ที่หนึ่ง ยึดวันก่อตั้งดวงชะตาเมืองเมื่อครั้งรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่1 เพราะเป็นฤกษ์เเรกก่อตั้ง ประการที่สอง นักพยากรณ์บางท่านขอยึดเอาฤกษ์การเเก้ดวงเมืองใหม่เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่4) เป็นฤกษ์เพื่อการคำนวนโดยให้เหตุผลว่าพระองค์ทรงเปลี่ยนดวงเมืองใหม่เนื่องจากลัคนาหรือจุดเกิดของพระองค์เป็นอริกับดวงเมือง เกรงว่าจะมีปัญหาตามมาจึงต้องเเก้ไขโดยการตั้งเสาพระหลักเมืองต้นที่สองอีกต้นในศาลหลักเมืองใกล้พระบรมมหาราชวัง ประการสุดท้ายบางท่านเเย้งว่าต้องใช้ฤกษ์ของการปฏิวัติเปลี่ยนเเปลงการปกครองสิเพราะเป็นการเปลี่ยนระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช เมื่อรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่7)

    ให้ข้อคิดเห็นไปต่างๆ นานา จนมีบางท่านที่เพิ่งเริ่มศึกษาในวิชาโหราศาสตร์ไทยว่าตกลงจะใช้ฤกษ์ใดกันเเน่ ผมจะเรียนอย่างนี้ครับ ให้ลองนึกดูถึงบ้านหลังหนึ่งซึ่งก็เปรียบดั่งประเทศ เมื่ออยู่ต่อมาสักพักก็อยากเปลี่ยนอะไรให้ใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์เเละยุคสมัยเลยไปทุบผนังตรงโน้นที ต่อเติมครัวหลังบ้านทีก็คล้ายกับการเปลี่ยนเเปลงดวงชะตาเมืองให้เข้ากับยุคนั้นๆ ต่อมาเกิดการเปลี่ยนเเปลงคนในบ้านออกคนโน้นออกคนนี้เข้า สร้างกฎเกณฑ์การอยู่ใหม่ในบ้านให้เป็นระเบียบมากขึ้นก็เสมือนเมื่อครั้งเกิดการเปลี่ยนเเปลงการปกครอง

    เเล้วสุดท้ายอยากถามว่าบ้านนั้นยังอยู่ตำเเหน่งทำเลเเละหมู่บ้านเดิมไหม เจ้าของบ้านซึ่งเป็นทายาทเดิมก็ยังสืบทอดการดูเเลช่วยเหลือคนในบ้านที่ผ่านมาหลายยุคหลายสมัย เปลี่ยนก็เเต่คนอยู่อาศัยในบ้าน ผู้ช่วยดูเเลบ้านที่เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาไปตามสถานการณ์บ้านเมืองเท่านั้น(เเต่ก็เเปลกถึงที่ผ่านมากลับมีผู้ช่วยดูเเลบ้านคนก่อนมักมากอยู่นาน ต้องการบ้านที่ตนเคยช่วยดูเเล อยากเอามาเป็นเจ้าของเสียเอง) ดังนั้นบ้านก็อยู่ที่เดิม เจ้าของบ้านก็ไม่ได้เปลี่ยนจากคนไทยไปเป็นชาวต่างชาติที่ไหน เสาต้นเดิม ฐานรากต้นเดิม

    เมื่อเป็นดังนี้ การพยากรณ์ดวงชะตาบ้านเมือง จึงต้องใช้ของเดิมเมื่อครั้งก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ก็คือ วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน ปีพุทธศักราช 2325 เวลา 06: 54 น. เป็นหลักในการคำนวนที่ตรงเเละถูกต้องที่สุด ดังนั้นการวิเคราะห์คำนวนดวงชะตาบ้านเมืองผมจึงขอใช้ฤกษ์มงคลนี้ในการพยากรณ์ เรามาเริ่มอ่านเเละมองเห็นภาพอนาคตกันก่อนเวลาที่เหตุการณ์ต่างๆจะเกิดกันเลยละกัน

    ในปีพุทธศักราช 2553 เรื่องปากท้องของคนในชาติ เรื่องของเศรษฐกิจเเละการทำมาหากิน ดาวพระเสาร์ (7) ตัวเเทนภาคการงานเเละกิจกรรมความเป็นอยู่ต่างๆของคนในชาติ โคจรเป็นอริกับดวงเมือง ดาวราหู (8)เปรียบได้ดั่งความมืดมน ความคลุมเครือโคจรเข้าภพ ศุภะที่เป็นจุดเเสดงถึงความสุขของประชาชน เเปลความตามดาวให้เข้าใจโดยทั่วกันก็คือ การทำมาหากิน การเเก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านเเละเศรษฐกิจยังเป็นในรูปของการลูบหน้า ปะจมูก อุดรอยรั่วตรงโน้นที ตรงนี้ที เศรษฐกิจต่างประเทศจะทรุดเเบบฉับพลันอีกครั้งเเละจะกระทบบานปลายมาถึงประเทศไทย

    โดยที่รัฐบาลจะควบคุมเหตุการณ์เเบบเดิมได้ลำบาก เพราะมัวเกรงใจคนใกล้ตัว จนทำให้ต้องเปลี่ยนเเปลงคณะทำงานภาคกระทรวงพาณิชย์เเละการคลังนำพาให้เกิดข้อครหา ของการนำคนหรือพรรคพวกของตนยัดไส้เข้ามาในคณะทำงานใหม่ โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคม 2553 จะถูกโจมตีอย่างหนักในระลอกเเรก จุดที่สองที่จะออกมาตรการ นโยบายเเก้ปัญหาไม่ตรงจุดเนื่องจากการวิเคราห์ภาพรวมที่ผิดเเละสุดท้ายจะโดนยาสั่งอย่างเเรงในช่วงเดือนสิงหาคมไม่เกินเดือนกันยายน จนเป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่ในคณะรัฐมนตรี

    ต่อมาเรื่องการเมือง อันนี้หนักที่สุดครับ ดวงชะตาเมืองช่วงกลางมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายนดาวพระอาทิตย์(1)โคจรเข้าภพวินาศน์ทับคู่อริของตนเองเล็งดาวเสาร์(7) ธาตุไฟที่รออยู่ก่อนเเล้ว เสมือนมีการวางเเผนการในจุดต่างๆล่อลวง ขุดหลุมพราง ทั้งหลุมหอกเศรษฐกิจ หลุมมีดการเมือง หลุมดาบการถูกใส่ความเเละถูกขุดคุ้ย เพื่อลวงมาให้ตกลงก้นหลุมเเต่สุดท้ายดวงของคุณอภิสิทธิ์ เป็นดวงเทพอารักษ์ ในช่วงเวลาดังกล่าวถึงเเม้จะต้องเจอการสร้างสถานการณ์เลวร้าย เเต่สายการข่าวส่วนตัวรวมถึงเเบ็คอัพที่ปรึกษายังเเข็ง จึงทำให้คุณอภิสิทธิ์ผ่านหลุมพรางหลายจุดนั้นไปได้อย่างเเน่นอน

    เเต่หลุมดำเเห่งเคราะห์กรรมหนักๆ เป็นช่วงที่ท่านนายกดวงเข้าจุดอับตัวช่วยหายไป ลูกน้องบริวารสร้างปัญหาใหญ่ เกิดสนิมเนื้อในจะอยู่ในช่วง วันที่ 17 มิถุนายน บวกไปอีกหนึ่งเดือนเป็นไปได้ถึงการถูกโจมตีอย่างหนักศึกนอก ศึกในมาพร้อมๆกันทำให้เสียขบวนอย่างหนัก เป็นเหตุให้ช่วงต่อมาจากนั้นไม่นานคือในช่วงเดือนสิงหาคมไม่เกินเดือนกันยายน เกิดการปรับคณะรัฐมนตรีโดยสุดท้ายกำลังดาวของรัฐบาล ของท่านนายกจะหมดพลังอย่างเเรงจนถึงขั้นอับเเสงที่สุดนั้นอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมไม่เกินเดือนพฤศจิกายน เกิดมุมของการยุบสภา ลาออก

    กับกลุ่มของขั้วอำนาจเก่าจะมีบทบาทเเรงๆ สร้างสถานการณ์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวกันอีกครั้งจะเริ่มต้นหลังปีใหม่ไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ เเต่ครั้งนี้จะมีเหตุให้ถอนกำลัง ยับยั้งการเดินเกมต่อเเบบฉับพลันเนื่องจากการวางหมากผิดพลาดถูกเเก้เกม เเต่อีกครั้งที่การเดินทัพเเบบเเทงไฮโลว์ ตามเเบบฉบับจะรุนเเรงจริงจังทั้งในทุกมิติ บน กลาง ล่าง

    เกิดความปั่นป่วนอีกครั้งในช่วง กลางเดือนมีนาคม เรื่อยไปจนถึงก่อนสงกรานต์ จะเกิดการชุมนุมขับไล่ในเเบบเเหวกเเนว มีการใช้คนมาเป็นเครื่องมือพร้อมทั้งสร้างเงื่อนไขในเชิงรุก มีการปลุกระดมมวลชนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ เเละสุดท้ายก็จะสลายการชุมนุมไป

    ดวงของอภิสิทธิ์เมื่อวิเคราะห์ดูให้ลึกจะเห็นได้ชัดว่าในปีเสือ พ.ศ.2553 นั้นดวงคุณอภิสิทธิ์ช่วงครึ่งปีเเรกจะเอาตัวรอดอย่างสะบักสะบอม ยิ่งครึ่งปีหลังยิ่งหนักขึ้นอีกหลายเท่า เเละถ้าถามว่าสิ่งใดที่จะเป็นจุดบอดในดวงของนายกท่านนี้ เห็นจะเป็นเรื่องของบริวารครับ ดาวบริวารเสื่อม ยิ่งปีเสือนี่เสื่อมหนักโดยเฉพาะช่วงเดือน มิถุนายนถึงกรกฎาคม 2553 จะเกิดการบาดหมางกันอย่างเเรงในพรรคร่วมรัฐบาลต่อจากนั้นจะเอาไม่อยู่ ต่างคนต่างทำงานกันอย่างชัดเจนกว่าช่วงที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้ช่วงเดือน ตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายนเกิดการยุบสภาเเต่ถ้ายังดึงทำท่ายืดเวลา เตะถ่วงเเบบน่าเกลียดก็มีโอกาสจะถูกกรรมการที่ใส่เสื้อสีเขียวออกมาให้ใบเเดงได้เช่นกัน

    สรุปตามนี้ครับ ดวงคุณอภิสิทธิ์จะเสื่อมก็ต่อเมื่อตนเองสะดุดขาตนเองหรือลูกน้องบริวารเเหย่ขาให้หัวทิ่มเรียกว่าตายน้ำตื้น ถูกคนใกล้ตัวเเทงข้างหลังสร้างปัญหาใหญ่ บวกกับความไม่เด็ดขาดในการตัดสินใจจนเป็นรากของต้นที่กำลังจะตายเเละเหี่ยวลงจะมีโครงการบางโครงการที่เกี่ยวกับการทุจริตเรื่องที่ดิน ไม่โปร่งใสเป็นประเด็นเปิดหัวในความเสื่อม มิใช่การถูกฝ่ายตรงข้ามโค่นล้มโดยตรงอย่างที่สถานการณ์กำลังจะเป็นอย่างเเน่นอนชัวร์..ล้านเปอร์เซ็นต์

    โดยที่ปีนี้ดาวพระเสาร์(7) ตัวเเทนของความเก่า ความโบราณ ของเดิมๆโคจรเป็นอริกับดวงเมืองยังหมายถึงพรรคการเมืองเก่าๆ นักการเมืองหน้าเก่า จะมีเหตุให้ล้มหายตายจากลงไป เเปลความตามดาวได้ถึงว่าจะมีนักการเมืองที่ทำงานการเมืองมานาน เป็นที่รู้จักกันดีในบ้านเมืองจะเสียชีวิต หรืออย่างดีที่สุดก็จะประกาศล้างมือในกะลาทองคำ นักการเมืองหน้าเก่าเลือกตั้งทุกทีก็เห็นหน้ากันทุกทีจะไม่สามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้เลย มันเป็นวาระของชะตาบ้านเมืองที่ถึงจุดผลัดใบ

    จะมีนักการเมืองหน้าใหม่ พรรคการเมืองที่เกิดใหม่เข้ามามีบทบาทต่อสังคมต่อการเสนอเเนวทางพัฒนาประเทศได้ดีกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา ต่อจากนี้ไปจะเป็นช่วงเวลาของคนรุ่นใหม่ในทุกๆภาคอาชีพทุกภาคสาขาให้จับตาดูองค์กรต่างๆจะดันผู้บริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นจักรกลสำคัญขององค์กรนั้นๆอย่างต่อเนื่อง ภาคการเมืองถ้ายังไม่มีการเปลี่ยนเเปลงคนเก่าหน้าเดิมจะถูกลดบทบาทลงเป็นไปได้ถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนหน้าใหม่

    ส่วนนักการเมืองรุ่นเหรียญทอง ที่ผ่านมาทุกเวทีเเล้วได้มาทุกตำเเหน่งจนถึงที่สุดเเล้วจะหมดกำลังความสามารถในการนำพาพรรคพวกของตนอย่างเห็นได้ชัด มีเวทีเดียวที่จะคงความน่านับถือให้คงอยู่คือการเป็นที่ปรึกษาเเละไม่ต้องมีบทบาทออกหน้าสื่อเท่านั้นจึงจะอยู่รอด ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าจากนี้ไปเสือตัวใหม่กำลังจะเกิดจ่าฝูงจะเป็นคนหน้าใหม่หรืออย่างน้อยอาจเป็นคนหน้าคุ้นตาเเต่ต้องไม่ใช่พวกขาประจำจึงจะนำพาประเทศไปได้

    ส่วนกลุ่มขบวนฐานอำนาจเดิม จะเปิดประเด็นปลุกระดมพรรคพวกของตนซึ่งจะนำไปถึงการเกิดความรุนเเรง เกิดการปะทะกันอีกครั้ง โดยครั้งนี้ให้ระวังการเเฝงตัวเข้าในกลุ่มเจ้าหน้าที่เเล้วเกิดการทำร้ายประชาชนเพื่อเป็นข้ออ้างของการก่อความไม่สงบที่ทวีคูณความหนักเเละเเรงขึ้นในสถานการณ์ต่อไป เเผนการย้อนรอย ก็อปปี้เเผนการเดินหมากของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อครั้งเข้ายึดสถานที่สำคัญจะนำมาใช้เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบเเต่ของกลุ่มชนที่บุกเข้ายึดครั้งนี้จะรุกเเละเร็วกว่าเเรงกว่าเนื่องจากเป้าหมายคนละเป้าหมายกัน

    ดังนั้นจึงควบคุมคนของตนได้ไม่นานนัก จึงต้องรีบสรุปเเละตามพื้นชะตาผู้นำของฐานอำนาจเก่านั้นมีเวลาไม่มากในการรอคอยสิ่งที่ตนหวังเเละต้องการ ไม่ใช่เรื่องเงินทุนเเน่เพราะตามชะตายังซุกไว้อีกหลายหีบยังไม่หมดง่ายๆ เเต่ด้วยเรื่องการคอนโทรลบริวารของตนเพราะดวงนี้เป็นดวงที่มีจุดสกัดในชะตาอยู่ที่บริวาร ดาวบริวารเสื่อม พังเพราะลูกน้อง ยิ่งการห่างการควบคุมในระยะไกลเผลอเมื่อไหร่บริวารทำเจ๊งเมื่อนั้น กอรปกับเรื่องสุขภาพร่างกายที่มีปัญหาสุขภาพภายในเเน่ๆยิ่งเป็นเเรงขับให้ต้องรีบดำเนินการสรุปเเผนการของตนให้จบโดยเร็ว

    เเต่ในดวงชะตาถ้าเกิดภาระกิจไม่สมตามที่มุ่งหมายก็ยังมีไพ่ไม้ตายที่เก็บเอาไว้ซ่อนพรางเอาไว้ไม่ให้คนโฟกัสให้เห็นนั่นคือ ยังมีอดีตคนใกล้ตัวเพศหญิงก็จะเข้ามาสานต่ออุดมการณ์อย่างเเนบเนียนเเละเเยบยลยิ่งหลากเหลี่ยมหลายมุมยิ่งขึ้นเเสดงว่าอย่างไรในปีเสือทุกอย่างก็ยังไม่จบครับ ยังเป็นการเปลี่ยนข้างเข้าทำคนละทีนกหวีดยังไม่มีทางเป่าจบเวลาอย่างเเน่นอนเเต่สถานการณ์จะเลวร้ายในบ้านเมืองมากยิ่งขึ้นจนมีเกณฑ์ถึงขั้นสีเขียวจะลงมาควบคุมถ้าคุณอภิสิทธิ์ตามเกมไม่ทัน

    ส่วนท่าทีของทหารตั้งเเต่วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552 จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2553 ดาวอังคารซึ่งเปรียบเสมือนเป็นตัวเเทนของทหาร ของตำรวจ นักกีฬาในชาติโคจรหมดพลังคือเป็นนิจจ์ ในมุมของโหราศาสตร์ไทยรวมทั้งยังเดินเเบบวิปริตเดินหน้าถอยหลัง ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าในทุกๆวงการที่กล่าวมานี่ย่ำเเย่ ถูกดูถูก มีเรื่องมีราวให้เสื่อมเสียเกียรติ์อย่างต่อเนื่องเเสดงว่าเราก็คงต้องเห็นบรรดาสาขาอาชีพเหล่านี้ก็จะมีเเต่มูลเหตุการถูกเหยียดหยาม ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่สำเร็จ ใส่เกียร์ว่างเเต่ดันไปทำเรื่องหรือรับงานในสิ่งที่ไม่ควรกระทำอย่างต่อเนื่องไม่ละเว้นเเต่พอหลังเดือนพฤษภาคมไปเเล้วดวงทหารมาเเรงเเซงทางโค้งจะเข้ามามีบทบาทในบ้านเมืองมากยิ่งขึ้นจนถึงมากที่สุดก็เป็นได้

    อีกประการจะมีการลอบทำร้ายบุคคลสำคัญบุคคลที่มีชื่อเสียง ในประเทศ ระวังการลอบฆ่า ลอบทำร้ายเเกนนำ คนที่มีส่วนได้เสียในวงการเมือง โดยเฉพาะช่วงก่อนสงกรานต์เเละในช่วงเดือนกลางเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคมจะมีเหตุลอบฆ่าเเบบเนียนดูเสมือนเป็นอุบัติเหตุเกิดขึ้นใครรู้ตัวว่าเข้าข่ายก็ต้องระวังอย่างรัดกุมที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าวโดยเฉพาะบุคคลที่มีอักษรขึ้นต้นหรืออักษรหลักคือตัว จ ส เเละ อ เป็นบุคคลต้องระวังตัวเองให้มากที่สุดมีโอกาสถูกอริสั่งเก็บถูกทำร้าย

    ต่อมาในเรื่องของภัยพิบัติ ปีเสือเป็นปีที่เสือดุ เดือนเมษายนจะเกิดอุบัติเหตุที่มาจากไฟไหม้ครั้งร้ายเเรง เเละเกิดอุบัติเหตุอย่างรุนเเรงในท้องถนนมีคนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เดือนกรกฎาคมต้องระวังเรื่องน้ำท่วมอย่างฉับพลัน รุนเเรงโดยเฉพาะช่วงหน้าฝนปีนี้ จะเป็นปีที่ผู้ประสบภัยที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่เคยมีประวัติน้ำท่วมหนักในสถานที่นี้มาก่อน จะได้รับความเสียหาย ต่อมาช่วงปลายเดือน กรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมจะมีเหตุที่เกี่ยวกับเครื่องบิน เช่นเครื่องบินออกนอกรันเวย์ เครื่องบินตก มีข่าวเกี่ยวกับการลอบทำร้ายบุคคลที่มีชื่อเสียงในบ้านเมือง

    ส่วนเดือนกันยายนจะมีภัยที่เกี่ยวกับน้ำเเรงๆ น้ำท่วมฉับพลัน เรือล่ม ช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวที่ติดเกาะ เป็นภัยพิบัติที่มาจากลมเเละน้ำอย่างน่ากลัวเป็นข่าวดังไปทั่ว เดือนตุลาคมอันนี้จะเป็นเรื่องของไฟไหม้ยังสถานที่สำคัญ ตึกทรุด อาคารทรุด โรงงานพังทลายทับคน เเละที่สำคัญที่สุดในช่วงเทศกาลวันหยุดใหญ่ๆในปีเสือ 2553 จะมีเหตุการณ์ไฟไหม้ ระเบิดมีคนเสียชีวิตอย่างมากมายเกิดขึ้นยังสถานที่ที่มีคนไปรวมกันอยู่เยอะๆ เช่นห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิงที่มีชื่อเสียง โรงเรียน โรงพยาบาล เรียกได้ว่าจะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่เนื่องจากความประมาทของคนในสถานที่นั้นๆ ต้องระวังให้มากๆในช่วงเทศกาลใหญ่ๆอย่าประมาทครับบอกเเล้วครับว่าครั้งนี้เเรง

    วงการเสี่ยงโชคจะมีการเปิดการเเทงหวยในรูปเเบบใหม่ๆไม่ซ้ำปีที่ผ่านมา เปลี่ยนระบบการเสี่ยงโชคให้มีวิธีการเสี่ยงโชคด้วยวิธีเเบบใหม่ขึ้นมาเเบบถูกกฎหมาย

    วงการกีฬาขอเน้นไปที่ฟุตบอลโลก ทีมที่ได้เเชมป์ปีนี้จะเป็นทีมหน้าเดิมที่เคยได้เเชมป์มาเเล้วเเต่ก็ห่างเหินจากถ้วยนี้มานานเเละทีมเต็งหนึ่งจะตกรอบน็อคเอาท์

    การต่างประเทศจะมีการลอบสังหารลอบทำร้ายผู้นำ ในประเทศมหาอำนาจโดยเฉพาะประธานาธิบดีโอบามา เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นโดยเฉพาะประเทศที่ต้องระวังภัยทั้งทางเศรษฐกิจ เเละภัยก่อการร้ายมากที่สุดยังเป็นสหรัฐอเมริกา ทุบเปรี้ยง!! ได้เลยว่าสหรัฐยังร่วง จะมีการก่อการร้ายอย่างรุนเเรงอีกครั้ง

    วงการบันเทิงในประเทศหนังไทยจะโกอินเตอร์เป็นปีทองของวงการบันเทิง ภาคสื่อทั้งโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์จะเเข่งขันกันอย่างรุนเเรงเกิดการเเบ่งขั้วกันชัดเจนขึ้น สื่อทางอินเตอร์เน็ทจะครองเมือง สื่อเคเบิ้ลทีวีจะมีกระเเสเเรงขึ้นจนเกิดการวิพากษ์ถึงความเหมาะสมในการปล่อยให้โตเเบบไม่ควบคุมคุณภาพ เเต่ต้องระวังยาเสพติดในหมู่คนบันเทิงจะระบาดควรระวัง ส่วนคู่รักดาราเมืองไทยคู่ไหนจะเลิก คู่ไหนเตียงหักไม่ขอทายครับเพราะเป็นเสมือนการสะกดจิตให้คนทั้งสองระเเวงกันมากกว่าไม่มีประโยชน์ใดๆในการพยากรณ์เเต่ถ้าต่างประเทศให้จับตาดูคู่ เเบรด พิตท์ กับ เเองเจลิน่า โจลี่ จะมีข่าวดังลงหน้าหนึ่งหนังสือดาราเเละหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในความสัมพันธ์ที่สิ้นสุดลง เเละจะมีดารานำชายวัยรุ่นชื่อดังกำลังมาเเรงเสียชีวิตในบ้านพักในปีนี้

    การท่องเที่ยวของไทย บริษัททัวร์จะถูกบริษัทจากต่างประเทศแฝงตัวเข้ามาเเข่งขันโดยการตัดราคาอย่างรุนเเรงเพื่อการฆ่าบริษัทเล็กๆให้จบลงเหลือเเต่รายใหญ่ๆเอาไว้เเล้วเข้ามาซื้อกิจการเเบบเเนบเนียน ดังนั้นในส่วนนี้น่าห่วงกับบริษัทของคนไทยครับโดยเฉพาะบริษัทที่มีขนาดกลางจะปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของชาวต่างชาติที่ใช้ราคาเป็นตัวล่อเหยื่อเพื่อทุบวงการทัวร์เเละบริษัทท่องเที่ยวของคนไทย

    ภาคใต้ของเรายังไม่สงบครับกลับจะเกิดความรุนเเรงมากขึ้น ยังมีคนล้มตายอีกเป็นจำนวนมากดูจะเพิ่มกว่าปี พ.ศ.2552 ด้วยซ้ำให้ระวังระเบิดพลีชีพจะนำมาใช้มากขึ้น

    สุดท้ายในต่างประเทศจะเกิดภัยพิบัติครั้งรุนเเรงมากๆ ในประเทศจีนที่เกี่ยวกับน้ำเเละเเผ่นดินทรุด ใครจะข้ามขึ้นไปทางฝั่งนี้ควรเช็คสภาพดินฟ้าอากาศก่อนทุกครั้ง อย่าประมาทรวมถึงญาติพี่น้องของทุกท่านที่อ่านก็ควรเตือนเอาก่อนจะเกิดเหตุ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปี พ.ศ.2553 นี้ภาพโดยรวมมีเเต่เรื่องหนักทั้งนั้น เมื่ออ่านเเล้วไม่ต้องการที่จะให้หดหู่ไม่สบายใจนะครับ เพียงเพื่อต้องการเตือนภัยในจุดที่ไม่ปลอดภัย

    ช่วงที่ไม่น่าไว้วางใจเพื่อการเตรียมรับมือ กับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงๆได้ทันท่วงที ดังคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงการเตรียมพร้อมในทุกๆสิ่งที่จะเข้ามาด้วยความไม่ประมาท เเละเพื่อที่ท่านผู้อ่านจะได้คิดวางเเผนเตรียมความพร้อมรับมือก่อนใคร ก็จะเซฟปัญหารวมทั้งความเสียหายที่จะตามมาได้เป็นอย่างดี ขอให้โชคดีเเละใช้ชีวิตด้วยความเป็นอยู่เเบบพอเพียง ดังพระราชดำรัสของพ่อหลวงของเรา ก็จะรอดพ้นวิกฤตทุกๆสิ่งทุกอย่างในโลกเเห่งการไม่พอใบนี้เเละต่อจากนี้เป็นต้นไปกับปี “เสือร้องไห้” ครับ

    ที่มา http://www.norsorpor.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 21867.jpg
      21867.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.7 KB
      เปิดดู:
      1,748
  9. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ฆ่ารัดคอ-หมกไร่ ขืนใจดญ. ดาวเด่นโรงเรียน

    ทั้งๆที่นอนอยู่ในบ้าน ถูกลากออกไปขยี้ยับ พบขนเพชรหลักฐาน ล่าไอ้โหด-คนใกล้ชิด



    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    หื่นโหด - ด.ญ.นันทิชา มูลสูตร อายุ 11 ขวบ น.ร.ป.5 บ้านท่าซุง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ถูกคนร้ายลากตัวจากบ้านไปข่มขืนในไร่มัน แล้วรัดคอขันชะเนาะติดกับโคนต้นมัน พบศพเมื่อ 22 พ.ย.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>สุดสลดเด็กหญิงวัย 11 ดาวโรงเรียนระดับประถมย่านแปดริ้ว ถูกฆาตกามโหดข่มขืนรัดคอฆ่าชีวิตเศร้าพ่อ-แม่แยกทางกันไปและช่วงเกิดเหตุต้องอยู่คนเดียว เผยเป็นเด็กดีจนเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านและครู อีกทั้งยังเป็นดาวเด่นของโรงเรียนมีความสามารถทั้งฟ้อนรำและตีกลองยาวตระเวนออกโชว์หลายจังหวัด ตร.เร่งล่าคน ร้ายมั่นใจคนในพื้นที่เพราะรู้ความเคลื่อนไหวและฆ่าเด็กเพื่อปิดปาก

    เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 พ.ย. ร.ต.ท. จรัญ ดลโสภณ พนักงานสอบสวน สภ.สนาม ชัยเขต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา, พ.ต.ท.ประวัติ แพพ่วง รอง ผกก. สภ.สนามชัย เขต, พ.ต.ท.สมบูรณ์ อุดม สวป. สภ.สนามชัย เขต, พ.ต.ต.จักรกรี วงศ์จินดา สารวัตรสืบสวน สภ.สนามชัยเขต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการ พิสูจน์หลักฐาน จากตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิง เทรา และแพทย์เวรจากร.พ.สนามชัยเขต เข้าตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ ด.ญ.นันทิชา มูลสูตร หรือ "น้องเฟิร์น" อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านท่าซุง หลังรับแจ้งจากคนงานในไร่มันสำปะหลังว่า พบศพเด็กสาวถูกฆ่ารัดคอเสียชีวิต

    ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกลางไร่มันสำปะหลัง ห่างจากด้านหลังของวัดท่าซุงเก่า พื้นที่ ม.3 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต ประมาณ 300 เมตร สภาพศพถูกฆ่ารัดคอด้วยเชือกหูรูดกางเกงสีขาวอย่างแน่นหนา แบบขันชะเนาะติดอยู่กับโคนต้นมันสำปะหลัง สวมชุดนอนสีฟ้าลายดอกไม้ นอนเสียชีวิตในลักษณะตะแคงข้างคว่ำหน้าแบบติดกับคันดินร่องมัน ใต้ศพมีผ้าขนหนูผืนใหญ่ และรองเท้าหนังแบบสวมสีดำตกอยู่หนึ่งคู่ บริเวณที่เกิดเหตุพบรอยเท้าการเหยียบย่ำของคนร้าย และร่องรอยของการดิ้นรนแบบทุรนทุรายต่อสู้ของเหยื่อ

    จากการชันสูตรของเจ้าหน้าที่ พบว่าเหยื่อถูกคนร้ายลงมือข่มขืนล่วงละเมิดทางเพศ จนมีเลือดไหลเปื้อนติดอยู่ที่บริเวณขาหนีบ รวมทั้งยังติดแห้งกรังอยู่ที่เป้ากางเกงชุดนอนสีฟ้าที่ผู้ตายสวมใส่อยู่ นอกจากนี้ ตามแขนขายังมีร่องรอยของการดิ้นรนต่อสู้จนมีร่องรอยถลอก เจ้าหน้าที่สามารถเก็บเศษเส้นผมและขนเพชรของคนร้ายจากในที่เกิดเหตุจำนวนหลายเส้น ทั้งที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าและที่บริเวณภายในอวัยวะเพศของเหยื่อ โดยคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 24 ช.ม.

    นายมานพ มูลสูตร อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 418 ม.6 ต.ลาดกระทิง บิดา ให้การว่า ด.ญ. นันทิชาหายตัวไปจากบ้านตั้งแต่เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากพบกันครั้งสุดท้ายอยู่ที่บ้านเมื่อเวลา 20.00 น. ก่อนที่ตนจะออกไปรับจ้างกรีดยางร่วมกับพี่สาว และเดินทางกลับมายังบ้านพักเมื่อเวลา 04.00 น. เพื่อจะมารับบุตรสาวไปส่งที่โรงเรียนวัดท่าซุง ในตอนใกล้รุ่งสางของวันที่ 21 พ.ย. เพื่อที่จะเดินทางไปประกวดการแสดงตีกลองยาวของนักเรียน ที่ จ.ชลบุรี แต่ไม่พบตัวบุตรสาว

    จากนั้นจึงเดินทางเข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าบุตรสาวหายตัวไป เมื่อเวลา 06.00 น. ของวันเดียวกัน พร้อมทั้งยังแจ้งทั้งผู้ใหญ่บ้าน และกำนันให้ช่วยกันออกมาช่วยค้นหาแต่ก็ไร้วี่แววที่จะพบตัว จนมาพบอีกครั้งหลังจากมีคนงานในไร่มันจะเข้ามาถางไร่เพื่อขุดหัวมันยังที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ จึงมาพบว่าบุตรสาวเสียชีวิตแล้ว

    นายมานพกล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุที่ต้องปล่อยให้บุตรสาวอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียวนั้น เนื่องจากตนและอดีตภรรยา คือนางพัชรินทร์ แสงจันทร์ อายุ 29 ปี เลิกรากันไปตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ เมื่อ 8 ปีก่อน โดยที่ภรรยาเก่าไปมีสามีใหม่ ส่วนตนมาอยู่กินกับ น.ส.อารียา ศรีเพชร อายุ 20 ปี ที่บ้านหลังปัจจุบัน เลขที่ 347 ม.3 ต.ลาดกระทิง ในวันเกิดเหตุ น.ส.อารียา ไปทำงานยังโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรม 304 กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพื่อเข้ากะกลางคืน ส่วนตนเดินทางไปรับจ้างกรีดยาง จึงปล่อยให้บุตรสาวอยู่บ้านแต่เพียงลำพัง ซึ่งหากภรรยาเข้ากะกลางวันและตนไม่ได้ไปกรีดยางจึงจะอยู่ร่วมกันพร้อมหน้า 3 คน

    ด้านนางบังอร เจริญแพทย์ อายุ 58 ปี กำนัน ต.ลาดกระทิง กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุจากผู้ ใหญ่บ้านในวันที่เด็กหายตัวไป จึงพากันช่วย ออกค้นหาอยู่ตลอดทั้งวัน แต่ก็ไม่พบ ที่ผ่านมาในตำบลและหมู่บ้านแห่งนี้ไม่เคยเกิดเหตุร้ายแรงสะเทือนขวัญ ฆ่าข่มขืนเด็กอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้มาก่อน ซึ่งเด็กคนนี้เป็นเด็กนิสัยดี หน้าตาดี ขยัน และร่วมกับทางโรงเรียนทำกิจกรรมสร้างชื่อเสียงมาโดยตลอด จนเป็นที่รักใคร่ของ ครูอาจารย์ในโรงเรียน จึงอยากให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยไว

    ขณะที่นางวิรัตน์ ช่วยงาน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 318 ม.6 ต.ลาดกระทิง ชาวบ้าน กล่าวว่า ตนอยู่คนละหมู่บ้านกัน แต่ก็ทราบว่าเด็กคนนี้นิสัยดี ขยันช่วยงานโรงเรียนและยังเป็นดาวเด่น ร่วมทำกิจกรรมการแสดงต่างๆ ของโรงเรียน ทั้งฟ้อนรำ การแสดงตีกลองยาว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีชื่อเสียงของโรงเรียน และเป็นเด็กหน้าตาดี จึงทำให้คนร้ายหมายที่จะเข้ามาข่มขืนทำร้าย เพราะทราบว่าอยู่บ้านแต่เพียงลำพังคนเดียว บ้านยังปลูกสร้างด้วยไม้ยกพื้น ฝาประตูหน้าต่างเป็นสังกะสี ไม่มีห้องกั้น อยู่เป็นหลังสุดท้ายของหมู่บ้าน ห่างออกมาจากในตัวชุมชน จึงค่อนข้างเปลี่ยวในเวลากลางคืน คนร้ายจึงเข้ามาลงมือก่อเหตุฉุดลากไปได้ง่าย

    ด้าน พ.ต.อ.สุรพลกล่าวว่า จากการตรวจชัน สูตรในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่และน่าจะลงมือเพียงลำพัง หรือไม่เกิน 2 คน โดยอาจเป็นคนใกล้ชิด รู้จักคุ้นเคยกับครอบครัวนี้เป็นอย่างดี จึงลงมือฆ่าเพื่อปิดปาก เพราะรู้ถึงความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา โดยทางเจ้าหน้าที่พบหลักฐานหลายอย่างตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

    สำหรับผู้เสียชีวิตนั้น คาดว่าถูกลงมือฆ่าทิ้งมาแล้วไม่นานมากนัก เนื่องจากขณะที่มีคนมาพบ ศพร่างของผู้เสียชีวิตยังอยู่ในสภาพอุ่นอยู่ ถือว่าคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมข่มขืนสะเทือนขวัญเป็นอย่างมาก โดยจะส่งศพไปชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งยังสถาบันนิติเวช เพื่อหาหลักฐานทางวิทยา ศาสตร์ต่อไป
     
  10. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    อธิปไตย์ของไทย นี้กำลังจะสิ้นไปจริงๆหรือนี้ ต่างชาติที่จ้องกระสวกใส้ประเทศที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้อยู่ก็จะเริ่มลับมีดกันเป็นทิวแถว มีที่ไหนแห่งใดในโลกแม้จะเป็นที่พัฒนาแล้วหรือพัฒนาน้อย ที่ผู้ถืออำนาจอธิปไตย์ คือทหารที่ดูแลปกปักรักษา สถาบัญทั้งหลายภายในชาตินั้น โดนลากไปปู้ยี่ปู้ยำขนาดนี้ ไม่ใช้ญาติ ของใครไม่รู้หรอกจะรู้สึกว่าเป็นยังไง ให้มีคนคนมาบอก เอ้ย พี่ชายแก น้องชายแก ไปเฝ้าสถานที่หรือทำงานเพื่อสวนรวมอยู่ โดนลากไปกระทืบอยู่แนะ ก็จะค่อยๆเริ่มรู้สึกกันบ้างละม้าง....
     
  11. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ออก พรก ฉุกเฉินร้านเเรงแล้วขอให้ทุกคนรอดพ้นจากกรรมใหญ่ที่จะเกิดด้วยเทิน ไปไหนมาไหนระวังด้วยนะครับคนใน กทม คนต่างจังหวัดเป็นห่วงท่านทุกๆคนนะ ที่ร้านผมเป็นห่วงเป็นใยคนใน กทมกันทุกคนเลย
     
  12. amm.

    amm. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +613
    ขอความร่วมใจของผู้ปราถนาในความสงบสุข...ร่วมอธิฐานบารมีแผ่เมตตาให้แก่ปวงสรรพสัตว์ทั้งหลายให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบและสันติไม่ว่าจะเป็นชนชาติใดๆทั้งในอดีตและปัจจุบัน...บัดนี้เราได้มาหลอมรวมเป็นหนึ่งแล้ว...เพื่อเหตุอันจะเกิดผลแห่งความสงบสุขแห่งลูกหลานภายภาคหน้าจงอภัยให้แก่กันและกันเถิด...สาธุ...
     
  13. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงสวดมนต์ หนึ่งชั่วโมงทุกคืน<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--zone = "15";url = "http://ads.palungjit.org";//--></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://ads.palungjit.org/show.js"></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript src="http://ads.palungjit.org/show.php?z=15&w=0&pl=0&ad_type=0&shape=0&c_border=0&c_background=0&c_text1=0&c_text2=0&c_text3=0&c_text4=0&c_text5=0&c_text6=0&c_text7=0&c_text8=0&c_text9=0&c_text10=0&code=1270660351140"></SCRIPT><LINK rel=stylesheet type=text/css href="http://ads.palungjit.org/files/sticky_note1269462145/styles.css"><TABLE class=sticky_table border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>[​IMG]แจกฟรีสติ๊กเกอร์เว็บพลังจิต
    เดือนเมษายนปีนี้ จะครบรอบ 7 ปีของเว็บพลังจิต มีทีมงานได้ทำสติ๊กเกอร์เว็บพลังจิต เพื่อแจกฟรีมาให้แจกสมาชิก สมาชิกท่านใดต้องการได้ โปรดส่งซองเปล่าจ่าที่อยู่ตัวท่านเองพร้อมติดสแตมป์ 3 บาท
    ส่งมาตู้ป.ณ.ของเว็บพลังจิต
    </TD></TR><TR><TD align=right>Hide Box</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE class=sticky_table_small border=0><TBODY><TR><TD align=right>Show Box</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=1 bgColor=#000000><TBODY><TR><TD><TABLE class=alt1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>




    ในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา คุณหญิงทิพยา ยังพัฒนา สุภาพสตรีผู้เป็นคุณข้าหลวงในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถวายการรับใช้ใกล้ชิดพระองค์ท่านมานานถึง 26 ปี ให้เกียรติบอกเล่าถึงพระราชกรณียกิจ ตลอดจนพระจริยวัตรอันงดงามที่คนไทยน้อยคนนักจะเคยได้รับทราบ
    ...........................

    คุณหญิงทิพยา ยังพัฒนา เล่าว่า ดิฉันเข้าเฝ้าฯ ถวายตัวรับใช้สมเด็จพระนางเจ้าฯ ตั้งแต่พ.ศ. 2520 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นคุณข้าหลวงในพระองค์ท่าน ถวายงานรับใช้ในส่วนพระองค์

    ก่อนบรรทมตื่นต้องเตรียมฉลองพระองค์ที่จะทรงของใช้ในห้องสรง ช่วยคุณข้าหลวงเวรตั้งเครื่องเสวยกลางวัน สมัยที่ดิฉันถวายรับใช้ใหม่ๆ เวลาเสวยเครื่องกลางวันจะทรงงานด้วยพร้อมกัน ทรงงานไปถึงเย็นจึงเสด็จฯ ไปทรงออกพระกำลังตอนค่ำ ทรงพระดำเนินและทรงโยคะเกือบทุกวัน

    ประมาณสี่ทุ่มครึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ สมเด็จพระเทพฯ ทูลกระหม่อมพระองค์เล็กทั้งสี่พระองค์ จะเสด็จฯ มาร่วมเสวยเครื่องค่ำกัน

    จากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ จะเสด็จเข้าห้องทรงนมัสการ โปรดที่จะปักดอกบัวสัตตบงกชและดอกไม้หอมเกือบทุกชนิด ถวายพระด้วยพระองค์เอง ทรงสวดมนต์ทุกคืนประมาณหนึ่งชั่วโมง และทรงนั่งสมาธิด้วย

    ทรงยึดมั่นในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก ทรงสอนข้าหลวงเสมอว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้นประเสริฐนัก เพราะมนุษย์สามารถสร้างบุญสร้างกุศลได้ ทุกวันเมื่อตื่นขึ้นมาให้มีสติอยู่กับตัวและให้คิดทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น ให้สร้างแต่กรรมดี ละเว้นความชั่ว

    สมัยก่อนถ้าทรงมีเวลาจะโปรดทรงงานหนังสือพุทธประวัติ เรื่องพระอานนท์ ทรงอ่านลงในเทปสิบกว่าม้วนแล้วพระราชทานแก่คนเฒ่าคนแก่ที่เจ็บไข้ ซึ่งทรงคุ้นเคยได้ฟังรับสั่งว่า เขาจะได้สบายใจคลายทุกข์ ได้ฟังเรื่องที่เกี่ยวกับพระพุทธองค์

    น้ำพระทัยของพระองค์ท่านนั้นยิ่งใหญ่เกินจะพรรณนา เมื่อเสด็จฯ ไปเยี่ยมราษฎรตามถิ่นทุรกันดาร ทอดพระเนตรเห็นราษฎรคนไหนเจ็บไข้ไม่สบายมาก จะโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงฉัตรแก้ว นันทาภิวัฒน์ จัดส่งโรงพยาบาล รักษาอย่างดีด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์

    หากทอดพระเนตรเห็นว่าคนนี้จน คนนี้ซีดมาก คนนี้เสื้อขาดกะรุ่งกะริ่ง ก็โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่มาซักประวัติว่าเป็นใคร มีลูกกี่คน ทำมาหากินอะไร จากนั้นท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ฑีขะระ จะนำราษฎรที่มีประวัติแล้วขึ้นมาเฝ้าฯ พระองค์ท่านจะพระราชทานงานตามความสมัครใจของเขา บางคนเป็นชาวไร่ชาวนา แต่เมื่อเข้ามาเป็นสมาชิกศิลปาชีพในความดูแลของท่านผู้หญิงสุภรเพ็ญ หลวงเทพ เราเห็นฝีมือเขาแล้วตกใจ ทั้งที่ตอนแรกเขามาเฝ้าฯ เราก็นั่งอยู่ ปีนี้ยังทำไม่เป็น เขาก็ส่ายหน้าว่า แม่หลวง ทำไม่เป็นจริงๆ ท่านก็ทรงปลอบโยนว่าไม่เป็นไร ลองไปฝึก เอาครูไปสอนทรงพยายามให้กำลังใจแก่ชาวบ้าน ในที่สุดเขาก็ทำได้จริงๆ

    ทุกปีพระองค์ท่านจะต้องเสด็จฯ กลับไปเยี่ยมราษฎรที่ทรงช่วย โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปไว้ แล้วเอารูปมาเทียบกับปีนี้ ซึ่งหน้าตาเขาสดใสขึ้น เพราะมีงานทำ มีรายได้ พอมาถวายงานก็ได้เงินตอบแทน เท่ากับพระองค์ท่านให้อาชีพ

    พระองค์ท่านทรงเป็นผู้หญิงที่อดทนที่สุด เวลาเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรบางพื้นที่ เช่น ทางภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ต้องเสด็จฯ ด้วยเฮลิคอปเตอร์ 45 นาที ต่อรถ 30 นาที และทรงพระดำเนินขึ้นเขาไปตามถนนแคบๆ ขรุขระอีกกว่าจะถึง อากาศตอนกลางวันร้อนมาก แดดเปรี้ยง อุณหภูมิเกือบ 40 องศาเซลเซียส พระพักตร์มีแต่พระเสโทเป็นทาง ฉลองพระองค์เปียกพระเสโทโชก แต่ไม่เคยรับสั่งสักนิดว่าทรงเหนื่อย ร้อนเจ็บพระบาท หรือทรงพระดำเนินไม่ไหว เมื่อไปถึงพระองค์ท่านจะประทับทรงงานกับพื้นศาลา เคยประทับนานถึงห้าชั่วโมงครึ่ง แล้วสมัยก่อนเข้าไปในป่า ไม่มีห้องสรง ก็ทรงกลั้น ไม่เสวยน้ำเลย ตลอดเวลาที่ทรงงาน

    ครั้งหนึ่งเสด็จฯ ไปประทับเต็นท์ชั่วคราวกลางทุ่งนาที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตอนนั้นมืดแล้ว ไม่มีไฟ พอจะทรงงานต้องเปิดไฟฉาย แมลงมาเล่นไฟทั้งเต็นท์ มาเกาะที่พระกร พระชงฆ์ ดิฉันคอยปัดถวาย ทรงมีรับสั่งว่า แมลงขึ้นไปเดินอยู่บนพระเกศา ได้แต่เอาพระหัตถ์เข้าไปนิดๆ มันก็ไม่ออก แล้วไม่ทรงฆ่าสัตว์กลับถึงพระตำหนักทรงแพ้แมลง ที่พระชงฆ์พระกรมีตุ่มแดงเต็มเลย ในพระเศียรถูกแมลงกัดเม็ดใหญ่ๆ ที่พระศอแมลงกัดเป็นรอยไหม้ พระองค์ท่านทรงอดทนมาก เวลาพระดำเนินเยี่ยมราษฎรในหมู่บ้าน พระบาทบวมกลับมาทุกวัน แต่ไม่ทรงบ่นสักนิด ถ้าบวมมากก็แช่พระบาท ทายา แต่พรุ่งนี้ก็ต้องเสด็จฯ ไป ไม่มีวันหยุด รับสั่งอยู่เสมอว่า นี่เป็นความสุขของพระองค์ท่าน ต้องไปทรงช่วยชาวบ้าน ชาวบ้านคอยอยู่ ทรงห่วงใยราษฎรทั้งหมด
     
  14. tamm16

    tamm16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +466
    มีแต่ข่าวรัฐบาล ตลอดเลย ผมว่ายิ่งทำงี้คนเค้ายิ่งไม่พอใจ เหมือนตุลา 16 ยิ่งทำงี้ยิ่งบานปลาย และที่สำคัญ ตุลา 2516 ครั้งที่ 2 กำลังจะเริ่มขึ้น เมื่อรัฐบาลสั่งยิงประชาชนเมื่อนั้นรัฐบาลปัจจุบัน จะไม่ต่างจาก สมัยนั้นเลย
     
  15. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    พรก เขาบอกว่าห้ามปล่อยข่าวทำให้เกิดความวุ่นวายปลุกปั่นบิดเบื่อนให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชนต่างๆ ยังจะมาพูดแบบนี้อีก แล้วพูดแบบนี้เป็นการใส่ร้ายแก่ผู้ที่ประณีประนอมทุกทางอยู่ในขณะนี้ ทุกๆคนในเวลานี้รวมถึงคน กทม เขาไม่อยากให้เกิดอะไรแบบนั้นหรอก อีกอย่างถ้ารัฐบาลเขาคิดจะยิงก็คงจะถูกไปบ้างแล้วแต่นี้ยังไม่มีข่าวช่องไหนเลยที่ที่บอกว่ามีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะก่อความรุนแรง ขนาดทำร้ายกันขนาดเมื่อวานนี้ครับ ที่มีข้อความนี้แสดงไว้เพื่อผู้ที่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสาร ให้เช็คข่าวให้ดีนอกเหนือจากการอ่านข้อความปลุกปั่นให้ร้ายให้ฝ่ายใดฝ่านหนึ่งเท่านั้นเช็คให้ดีครับไม่มีอะไรหน้ากลัวหรือแก้ไขได้ ทุกอย่างจะเป็นไปตามผลของกรรมเพียงเท่านั้น
     
  16. ภัทร555

    ภัทร555 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +47
    คนที่ใฝ่ธรรม ศึกษาธรรม ย่อมเข้าใจว่าชีวิตต้องมีสุขและมีทุกข์เคล้าปนกันไป ถึงตัวเองได้รับทุกข์บ่างในช่วงขณะของชีวิตก็ต้องเข้าใจว่าเป็นผลมาจากการกระทำของตัวเอง เพราะทุกอย่างล้วนเกิดแต่เหตุ ควรดูตัวเองพิจารณาตัวเองให้มาก ไม่ควรจ้องโทษผู้อื่น การจ้องโทษผู้อื่นก็เหมือนการสร้างทุกข์ โยนทุกข์ให้ผู้อื่น ที่สุดแล้วที่เท่ากับสร้างทุกข์ ป้ายทุกข์ให้ตัวเองเช่นกัน
     
  17. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    พอเถอะครับ ผมรู้ว่าเพื่อนๆพี่หลายท่านไม่อยากคุยเรื่องนี้หรือจุดประเด็นในเรื่องนี้ให้เกิดความวุ่นวายทั้งใจและกายเพราะประเด็นนี้เป็นประเด็นร้อน ซึ่งเป็นการผ่อนแรงให้แก่ผู้บริหารหรือดูแลเว็ปบอร์ด ใช้ว่าตัวผมเองนั้นเป็นกลางอย่างที่หลายๆคนคิดว่านั้นดีแล้วและพึงกระทำอยู่ ซึ่งผมก็คิดว่าสร้างสรรย์กว่าการที่เถียงกันไปเถียงกันมาซึ่งในบางอย่างก็โชว์ความโง่เงาหรือไม่ถึงไหนของตัวเองออกมาอย่างไม่อายฟ้าดินหรือแม้กระทั้งตัวเอง ทำให้เกิดความร้อนลุ่มกันไปตามๆกันเพราะในบางข่าวหรือบางข้อมูลไม่จำเป็นต้องออกมาจากปากหรือบทความของผู้ใดผู้หนึ่ง ทำให้เหมือนการชี้แนวทางความคิด ผมจึงบอกว่า วิเคราะห์ ฟัง อ่าน ดู และวิเคราะห์อีกที อีกทีๆ อย่าใช้อารมณ์ตัดสิน และสุดท้ายแม้ว่าในจิตในใจเรามันจะตีผลออกมาแบบใดก็อย่าพึ่งเชื่อสะสนิทใจไปทุกอย่างที่เข้าใจ เพราะอย่างที่เราเรียนรู้มาตลอดชีวิตของพระพุทธองค์ได้บอกไว้แล้วว่า มันจะไม่มีอะไรแน่นอนเลยซักอย่างเดียว ที่กล่าวมาทั้งหมดเพื่อ อยากให้การพูดคุยเรื่องร้อนๆเหล่านี้ จงผ่านพ้นไปอย่าไปยึดกับมันมากมายเลย เพราะว่า ใช้ว่าคนดีก็อาจจะไม่ได้ทำดีได้ตลอดชีวิต คนที่ชั่วร้ายก็ไม่ได้อาจจะทำสิ่งที่ชั่วร้ายตลอดชีวิตไม่ หากยังไม่ถึงในกระแสธรรมเข้าสู่พระอริยะเจ้า ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนเลยแม้แต่อย่างเดียวนอกเสียจาก เกิด แก่ เจ็บ และตาย ขออภัยที่นำเรื่องเหล่านี้มาให้ทีมงานต้องทำงานหนักขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยผมก็รู้สึกผิดครับผมผิดเอง ขอโทษครับ
     
  18. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    [​IMG]
    นิธิ เอียวศรีวงศ์

    <!-- End More Pics --><!-- End More picture--><!-- Begin Thumb More picture -->ภาพประกอบข่าว
    <SCRIPT type=text/javascript> function change(num, step) { /*fadeOut*/ if (step == 1) { opacity -= 10; if (opacity > 0) { fader(opacity); timer2=setTimeout('change(' + num + ', 1)',50); } else { change(num, 2); } } /*change picture*/ else if (step == 2) { currPic = num; /* SMT */ msDivs[0].style.display = (num == 0 ? "block" : "none"); msButtons[0].className = (num == 0 ? "on" : "off"); /* End SMT */ change(num, 3); } /*fadeIn*/ else if (step == 3) { opacity += 10; if (opacity <= 100) { fader(opacity); timer2=setTimeout('change(' + num + ', 3)',50); } } } </SCRIPT>
    <!-- End Thumb More picture --><!-- Media Navigator content -->
    <!-- End Media Content --><!-- Begin Content --><!-- Begin Box Tools and more Picture --><!-- Begin Tool --><FIELDSET class=tools><LEGEND>TOOLS</LEGEND>
    • [​IMG] [​IMG] ขนาดตัวอักษร
    • [​IMG] พิมพ์ข่าวนี้
    • [​IMG] ส่งต่อให้เพื่อน
    • <!-- AddThis 2.0 Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript> var addthis_config = { ui_language: "th", ui_header_color: "#010D5B", ui_cobrand: "กรุงเทพธุรกิจ", } var addthis_localize = { share_caption: "แบ่งปันข่าว", email_caption: "ส่งต่อให้เพื่อน", email: "ส่งต่อให้เพื่อน", favorites: "เก็บหน้านี้ไว้", print: "พิมพ์ข่าวนี้", more: "อื่นๆ" }; </SCRIPT> แบ่งปันข่าว

      <SCRIPT type=text/javascript src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js#pub=bangkokbiznews"></SCRIPT><!-- AddThis 2.0 Button END -->
    </FIELDSET> <!-- Begin Related News --><FIELDSET class=related><LEGEND>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</LEGEND>
    </FIELDSET> <!-- Begin Other Column --><FIELDSET class=other-column><LEGEND>คอลัมน์อื่นๆ</LEGEND>
    </FIELDSET>
    <!-- End Box Tools and more Picture-->"นิธิ"หวั่นคนไทยฆ่ากันเอง เหตุแตกแยกถึงรากโคน แนะเพิ่มช่องตรวจสอบ-การแสดงออก ชี้คนชนบทจะเรียกร้องสูงขึ้น "วิษณุ"หนุนปรัชญาพอเพียงก่อสมดุล
    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>--><SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1270721985&num_ads=3&channel=8724309246&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.45.2&url=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2Fdetail%2Fpolitics%2Fpolitics%2F20091008%2F80776%2F%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2596%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B1%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2586%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599.html&dt=1270721985843&shv=r20100331&correlator=1270721985843&frm=0&ga_vid=3558730292589606000.1241581889&ga_sid=1270721986&ga_hid=1728525676&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=0&u_java=1&u_h=800&u_w=1280&u_ah=766&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1259&bih=586&ref=http%3A%2F%2Fwww.google.co.th%2Fsearch%3Fsourceid%3Dnavclient%26ie%3DUTF-8%26rlz%3D1T4SHCN_enTH330TH330%26q%3D%25e0%25b8%2586%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b7%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25ad&fu=0&ifi=1&dtd=0"></SCRIPT>โฆษณาโดย Google
    105 นามบัตร 4 สี บาทเดียวแพกเกจตรงๆพร้อมส่ง สิ่งพิมพ์ทุกชนิด Digital Offset/Offset/Silkscreenwww.105printing.com
    M2CONรับสร้างบ้านมืออาชีพด้วยประสบการณ์ทีมสถาปนิกและวิศวกร พบกับPROMOTIONใหญ่ประจำปีในราคาเบาๆwww.m2con.com/Tel.0-2728-1898

    ที่สถาบันศศินทร์ จัดประชุมทางวิชาการดุลยภาพของสถาบันกับการพัฒนาประชาธิปไตย โดยการเสวนาในหัวข้อ “เส้นทางสมดุลทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคมไทย” ศาสตราจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการ กล่าวว่า ปัญหาความไม่สมดุลภายในสังคมไทยมีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงในอดีต ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 กระทั่งปัจจุบันที่เกิดปัญหาบาดหมาง แตกแยกมานานถึง 20 ปี ไม่ได้มาแตกแยกในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา
    ซึ่งเป็นการแตกแยกถึงรากถึงโคน และทำให้เกิดปรากฏการณ์การแบ่งชนชั้นที่ต่างจากอดีตที่มีคนชนชั้นสูง ชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง แต่ปัจจุบันการเมืองที่ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม ทำให้คนชั้นล่างเปลี่ยนเป็นคนชั้นกลางระดับล่างที่มีค่าครองชีพสูงแต่รายไม่มากนัก มีสัดส่วนถึง 40% ซึ่งอยู่ทั้งในชนบทและในเมือง ที่สำคัญคนเหล่านี้ได้เข้ามามีส่วนร่วมในนโยบายสาธารณะ ดังที่เห็นได้จากการเลือกตั้ง โดยที่พรรคการเมืองสามารถที่จะตอบสนองความต้องการของคนเหล่านี้ได้ ในอนาคตพวกเขาเหล่านี้จะไม่ได้เรียกร้องแค่ความเท่าเทียมทางการเมืองแต่จะเรียกร้องเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้นในสังคม ตนไม่แน่ใจว่า คนชั้นกลางจะยอมรับได้หรือไม่
    ศาสตราจารย์นิธิ กล่าวว่า ทางออกของความตึงเครียดความไม่สมดุลนั้น ไม่มีคำตอบที่สำเร็จรูป แต่สิ่งที่น่ากลัวและร้ายแรงคือ การนองเลือดที่ไม่จำเป็นและไม่มีเหตุผล และเราจะมีทางหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่ เพราะคนไทยจะฆ่ากันเองโดยไม่มีเหตุผล
    "สิ่งที่ต้องทำในขณะนี้คือ การลดปัจจัยการนองเลือดที่อาจจะมีขึ้นทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้น คือ การเพิ่มระบบการตรวจสอบการเมืองให้มากขึ้น โดยให้ประชนรู้สึกได้ว่ามีช่องทางในการตรวจสอบมากกว่าที่เป็นอยู่ เพิ่มพื้นที่การแสดงออกของประชาชน การออกกฎหมายชุมนุมในที่สาธารณะจะทำให้ประชาชนรู้สึกว่าหมดหนทางในการต่อสู้ ซึ่งจะส่งผลให้ใช้วิธีนอกกฎหมายและความรุนแรงมากขึ้น ส่วนในระยะยาวจะต้องมีการสถาปนานิติรัฐให้มากขึ้น เน้นเรื่องรัฐสวัสดิการเพื่อเป็นหลักประกันให้กับประชาชนคนชั้นกลางระดับล่าง ให้การศึกษามากขึ้น" นายนิธิ กล่าว
    "วิษณุ" แนะนำปรัชญาเศรษฐกิจมาสร้างสมดุลการเมือง
    นายวิษณุ เครืองาม อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการดำเนินชีวิต ที่มีเรื่องปากท้องของชาวบ้านได้ แต่ทั้งนี้ จำเป็นต้องคำนึงองค์รวมที่ต้องมีการสร้างความสมดุล ไม่สุดโต่ง ไม่ลด ไม่มาก ไม่น้อย ไม่ขาด แต่เป็นการปรับใช้อย่างมีเหตุ มีผล สร้างสมดุลยภาพในสังคมอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ อย่างในทางการเมือง โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญก็จัดให้มีการทำประชามติร่างมติ ร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่ผ่านมา ว่าเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น
    ซึ่งจะเห็นว่า การจะแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการทลายภูมิคุ้มกันเก่า และสร้างภูมิคุ้มกันใหม่ขึ้นมา ซึ่งไม่สามารถบอกได้ว่าถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งความพยายามจะแก้ไขกฎหมาย และกระบวนการทางกฎหมายหลายฉบับ อาทิ การแก้ไขกฎหมายอาญา ระบุความผิดที่ไม่มีอายุความ เช่น ความผิดเกี่ยวกับการทุจริต ฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสารให้เป็นความผิดอาญาที่ไม่มีอายุความ ถ้ามองในทางนิติธรรมก็ดูดี แต่เมื่อพิจารณาอย่างถ่องแท้แล้วความผิดบางอย่าง เช่นการปลอมแปลงเอกสาร จะให้เป็นคดีที่ไม่มีอายุความ ไม่มีจะระบุเช่นนั้นเพราะอาจปัญหาในอนาคตได้ ดังนั้นเราต้องมองในองค์รวม และความสมดุล โดยจับเอาความพอเพียงเพื่อสร้างดุลยภาพให้เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การสร้างดุลยภาพ และความพอเพียงเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาและความอดทน
    "พิสิฐ" แยะปรับตัวลงทุนอุตฯไปกับสิ่งแวดล้อม
    นายพิสิฐ ลี้อาธรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเล็กๆ ในโลกใบนี้ ซึ่งเราต้องเดินตาม ที่ผ่านมาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจประเทศได้ได้รับบทเรียนมาแล้ว เมื่อเกิดวิกฤตการเงินในปีนี้ ประเทศไทยก็สามารถที่จะปรับสมดุลได้โดยเฉพาะสถาบันการเงิน ทำให้เราได้รับผลกระทบน้อย แต่ในอนาคตเราจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของโลกโดยเฉพาะเรื่องสภาพแวดล้อมที่ประเทศมหาอำนาจเริ่มให้ความสำคัญ ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวรับโดยเฉพาะการลงทุนด้านอุตสาหกรรมที่จะต้องเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ
    อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลกำลังใช้งบประมาณของโครงการไทยเข็มแข็ง จึงขอให้รัฐบาลดูแลงบประมาณในส่วนนี้ให้ดี เพราะงบตัวนี้จะทำให้รัฐบาลมีภาระเรื่องการบริหารหนี้สาธารณะ การขาดดุล ดังนั้นจะต้องบริหารจัดการให้ดี รวมทั้งรัฐบาลจะต้องทุ่มงบประมาณให้กับสังคมมากขึ้น เพื่อสร้างหลักประกันให้กับชีวิตของประชาชนในระดับกลางและล่าง
     
  19. tamm16

    tamm16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +466
    ผมไม่อยากพูดมากไปกว่านี้เพราะผมรู้ว่าข่าวต่างๆที่เอามาให้มาจากทางไหนและข่าวมันไม่เป็นกลางตั้งแต่ที่เขากล่าวมานิครับ ผมถึงดูแค่ข่าวภัยพิบัติพอการเมืองเลยเลิกพูด ครั้งนี้แค่ลงความเห็นว่ามีแต่สื่อทางรัฐที่ไม่เป็นกลางเท่านั้น

    ปล.ทางแก้ที่ดีผมอยากแนะนำว่าไม่ควรมีข่าวการเมืองเลย ให้ไปติดตามเอาเองดีกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2010
  20. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 08 เมษายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7070 ข่าวสดรายวัน


    ยันเขื่อนกาญจน์แข็งแรง



    นายวีรชัย ไชยสระแก้ว ผู้ช่วย ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์-บริหาร เปิดเผยว่า จากข่าวเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ จ.เชียงราย ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ อ.เวียงชัย ห่างจากตัวเมืองเชียงรายออกไปทางทิศตะวันออกเพียง 15 ก.ม. วัดระดับความสั่นสะเทือนได้ 3.5 ริกเตอร์ ห่างจากตัวเขื่อนศรีนครินทร์ 626 ก.ม. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ ได้ตรวจสอบข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งทั้งสองเขื่อน

    ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีแรงกระทำมาถึงตัวเขื่อน เนื่องจากอยู่ไกลจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว จึงขอให้วางใจว่า ทั้ง 2 เขื่อนใน จ.กาญจนบุรี ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ขออย่าได้วิตกกับข่าวต่างๆ

    ทั้งนี้ ทั้งสองเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรงพร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ อีกทั้งยังมีมาตรการในการดูแลบำรุงรักษา การตรวจสอบ และการประเมินความมั่นคงปลอดภัยของตัวเขื่อน ที่มีการดูแลอย่างสม่ำเสมอตามมาตรฐานสากล สามารถดูสภาพตัวเขื่อนได้ นอกจากนี้ ทั้งสองเขื่อนได้เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา

    หมอชี้ร้อนจัด-โรคเครียดคุกคาม



    มหาสารคาม - น.พ.สุริยา รัตนปริญญา นายแพทย์สาธารณสุข จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศร้อน อุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียสในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกลางแจ้งทั้งภาคการเกษตร การก่อสร้าง รวมถึงผู้ที่จำเป็นต้องอยู่กลางแจ้งนานๆ ท่ามกลางแสงแดด หรือแม้แต่ผู้ที่อยู่ในบ้านเรือนก็ได้รับผลกระทบ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ส่งผลให้เกิดภาวะเครียด และอาจลุกลามเป็นโรคจิตได้ ซึ่งพบผู้ป่วยแล้ว 781 คน

    น.พ.สุริยา กล่าวอีกว่า นอกจากโรคเครียดแล้ว ยังพบผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ รวมถึงโรคระบบทางเดินอาหารเพิ่มขึ้น เนื่องจากเชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน ประชาชนจึงควรหาทางออกและวิธีผ่อนคลายด้วยการรักษาระดับอารมณ์ ไม่ดื่มน้ำเย็นจัดหรือไม่ควรอาบน้ำทันทีหลังทำงานกลางแจ้งนานๆ เนื่องจากจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ขณะเดียวกันควรจัดอนามัยสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านให้ปลอดโรค และที่สำคัญควรออกกำลังกายทุกวัน ผู้ที่มีปัญหาภาวะเครียด สามารถมาขอใช้บริการได้ที่ร.พ.มหาสารคาม ทุกวันอังคาร

    จ่อออกหมายจับคาร์บอมบ์โพไซดอน

    พบ 2 กลุ่มใหญ่ป่วนบึ้ม – เล็งขอคำชี้แนะ “เสธแดง”


    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 เม.ย. ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต ผบก.สส. พร้อมฝ่ายสืบสวนร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ

    พล.ต.อ.ภาณุพงศ์กล่าวก่อนการประชุมว่า เหตุเกิดในกทม.และปริมณฑล 33 คดี และต่างจังหวัด 9 คดี ซึ่งบางส่วนก็คืบหน้าไป เช่น คดีคาร์บอมบ์ที่โพไซดอน ก็มีความคืบหน้าอย่างมาก เชื่อมั่นว่าไม่กี่วันน่าจะออกหมายจับได้ ตอนนี้ทราบแล้วว่าผู้กระทำผิดเป็นใคร ส่วนผู้อยู่เบื้องหลังก็จะสืบสวนต่อไป ส่วนคดีล่าสุดเมื่อคืนนี้ที่พรรคการเมืองใหม่และตึกทีพีไอนั้น คนร้ายทั้ง 2 คดี น่าเชื่อว่าเป็นชุดเดียวกัน เพราะมีการใช้อาวุธ เอ็ม 16 และเอ็ม 79 ซึ่งทั้ง 2 คดี ตำหนิ รูปพรรณ ยานพาหนะต่างๆ ใกล้เคียงกัน ซึ่งในส่วนนี้จะพยายามทำภาพให้ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การออกหมายจับ สำหรับคดีระเบิดที่ช่อง 5 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม และมูลนิธิรัฐบุรุษ เมื่อ 30 มีนาคมนั้น ทั้ง 2 คดีนี้ก็เป็นคนร้ายชุดเดียวกัน กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุจับภาพได้ ยังอยู่ในส่วนการทำภาพให้ชัดเจนเพื่อออกหมายจับ โดยจะไปเชื่อมโยงกับคดีที่ สน.สำราญราษฎร์ ที่คนร้ายใช้อาร์พีจียิง และในรถพบ เอ็ม 67 อีก 3 ลูก ซึ่งเมื่อตรวจสอบล็อตนัมเบอร์ ตำหนิรูปพรรณพิเศษ ซึ่งใกล้เคียงกับคดีที่คนร้ายส่วนใหญ่ใช้ เอ็ม 67 เชื่อว่าน่าจะมาจากล็อตเดียวกัน

    “นอกจากนี้อีก 2 คดีที่คนร้ายใช้ปืนขนาด .38 ยิงใส่ธนาคารกรุงเทพสาขาสะพานขาว และธนาคารกรุงเทพสาขาบางยี่ขันนั้น ผู้ชำนาญตรวจสอบแล้ว พบว่าหัวกระสุนมาจากปืนกระบอกเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นความคืบหน้าที่ได้ โดยคดีทั้งหมดได้นำแผนประทุษกรรมคนร้าย ตำหนิรูปพรรณ ยานพาหนะที่คนร้ายใช้ ลักษณะอาวุธ และตรวจโดยผู้ชำนาญ ก็พอสรุปความคืบหน้าในส่วนนี้ ส่วนคดีที่ออกหมายจับได้ รรท.ผบ.ตร. เน้นย้ำให้ดูแล จนไปสู่การออกหมายจับให้ถูกต้อง ซึ่งถือว่าคืบหน้าตามลำดับ ส่วนผู้อยู่เบื้องหลังจะรวบรวมหลักฐานไปถึงตัวผู้กระทำผิดต่อไป” พล.ต.อ.ภาณุพงศ์กล่าวและว่าโดยคดีทั้งหมด มี 2 กลุ่มใหญ่ แต่แยกกันทำและใช้อาวุธที่ต่างกันทำ ทั้งหมดส่วนมากเป็นการสร้างสถานการณ์เพราะไม่เน้นถึงกับชีวิต

    ถามถึงคดีคาร์บอมบ์ที่โพไซดอน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ตอบว่า คดีนี้ไม่มีปัญหา ทราบเจ้าของรถ รู้ว่าอยู่ไหน บุคคลต่างๆที่เชื่อมโยง ให้พนักงานสอบสวนที่เกิดเหตุประสาน บช.ภ. 5 คดีนี้คืบหน้าไปมาก ไม่กี่วันนี้จะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานจับกุมเบื้องต้นได้

    ถามถึงคดียิงระเบิดที่กองทัพบกเพราะเป็นครั้งที่ 2 แล้ว พล.ต.อ.ภาณุพงศ์กล่าวว่า ในส่วนนี้ก็คงเป็นไปตามข่าวที่ปรากฏ หากส่วนใดเรามีพยานหลักฐาน เชื่อมโยงได้จะนำมาประกอบกัน ส่วนคดีระเบิดแสวงเครื่องที่หน้าจุฬาฯก็ตรวจสอบอยู่ โดยช่วงหลังมีระเบิดแสวงเครื่องทั้งหมดในกทม. มี 9 คดี ซึ่งในลักษณะการกระทำเริ่มมีการใช้ปุ๋ยยูเรียประกอบกับท่อพีวีซี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่แผนประทุษกรรมแตกต่างไป โดยกำลงตรวจสอบข้อมูลที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.)ที่ตั้งไว้
    ถามว่าถึงเวลานี้ควรที่จะเรียกพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือเสธ.แดง มาสอบสวนหรือไม่ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์กล่าวว่า ก็สนิทกัน ตนกับพี่แดงสนิทกัน เพราะรุ่นทันกันก็นับถือกัน ก็ตั้งใจว่าว่างจะโทรหรือนัดคุยกัน เพื่อเอาพี่แดงมาช่วยสืบด้วย เพราะเป็น ตท.รุ่น 11 ตนรุ่น 12 สนิทกัน เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์เพราะพี่แดงมีความรู้ประสบการณ์ต่างๆ และเชื่อว่าทุกคนหวังดีต่อชาติบ้านเมืองอยู่แล้ว โดยจะมาในฐานะรุ่นพี่และเป็นนักรบเก่าที่มีความชำนาญ ต้องไปขอความรู้


    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>แรดยังทนร้อนไม่ไหวที่สวนสัตว์เชียงใหม่

    ต้องฉีดสปริงเกอร์ชวยคลายร้อน

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 เม.ย. นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้ช่วย ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้นำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ออกทำการพ่นน้ำให้กับสัตว์ต่าง ๆ ในสวนสัตว์เชียงใหม่เพื่อให้สัตว์ได้คลายร้อน เนื่องจากอุณหภูมิในช่วงนี้ร้อนมาก ทำให้สัตว์ป่าในสวนสัตว์เชียงใหม่หลายชนิดทนความร้อนไม่ไหว แม้กระทั่งแรดที่มีความอดทนต่อความร้อนได้ดี ยังต้องทำการพ่นน้ำและติดสปริงเกอร์ให้กับกรงของแรดด้วยเพื่อให้แรดได้คลายร้อน และฉีดน้ำให้กับแรดด้วย
    นายนิพนธ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้ทำการออกฉีดน้ำและเปิดสปริงเกอร์ปล่อยน้ำให้กับสัตว์ต่าง ๆ ในสวนสัตว์เชียงใหม่ทุกวันในช่วงบ่าย และบางชนิดเราก็จะทำการฉีดน้ำให้ แม้กระทั่งแรดอินเดียที่มีความอดทนสูงทนต่อสภาพอากาศร้อน เราก็มีการฉีดน้ำและติดสปริงเกอร์ให้กับกรงแรดด้วย โดยเจ้าแรดอินเดีย นั้นเมื่อมีการเปิดสปริงเกอร์และฉีดน้ำให้ เจ้าแรด หรือเจ้ากาลิ จะเดินมาหาคนที่ฉีดน้ำหรือไม่ก็นอนแช่อยู่ที่น้ำขังไม่ไปไหน เพื่อระบายความร้อน แรดยังทนไม่ไหว สำหรับน้ำนั้นทางสวนสัตว์ได้เจาะบาดาล นำน้ำจากบาดาลใส่รถน้ำตระเวนไล่ฉีดให้สัตว์ตามกรงต่าง ๆ และน้ำจากน้ำตกผาลาด และน้ำตกห้วยแก้วด้วย ตอนนี้หวั่นเรื่องการขาดแคลนน้ำ เราก็จะใช้น้ำให้อย่างมีคุณค่ามากที่สุด สำหรับกรงหมีแพนด้าและที่ซูอะควาเรี่ยม นั้นไม่มีปัญหาเพราะมีระบบปรับอุณหภูมิให้กับสัตว์พวกนี้อยู่แล้ว


    </TD><TD vAlign=top align=left>




    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295 border=0><TBODY><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD width=21 height=21>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...