เพื่อการกุศล ***ปิดแล้วค่ะ***ขอเชิญร่วมสร้างบุญใหญ่ เปิดจองวัตถุมงคล หลวงพ่อหนุน รุ่น"พิเศษ ชุด๑"

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย rs83, 14 เมษายน 2014.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    อานุภาพเหมือนๆกันครับจะต่างกันบ้างที่มวลสาร
    เครื่องยาใหญ่เป็นตำรับที่สร้างขึ้นมาที่จะแก้คุณไสยโดยเฉพาะ แก้ได้ครบทุกทาง เป็นตำรับสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นเครื่องยาที่ทำให้เกิดขึ้นได้ยากยิ่งมากๆๆ
    เพราะต้องใช้ทั้งความพยายามและความเสียสละทุนทรัพย์ จำนวนหลายแสนบาทเมื่อ 30 ปีก่อน อานุภาพแก้ได้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณไสย นำมาผสมกับชันโรงและผสมเป็นมวลสารทำตะกรุดไม้ครู
    แร่ตะกลูเหล็กไหลมากกว่า 30 ชนิด นำมาบดผสมเป็นมวลสารใช้อุดปากเบี้ยแก้ และ ตะกรุดไม้ครู
    ไม้อาถรรพ์ต่างๆ
    มวลสารที่มีอานุภาพสะท้อนกลับ
    1.กระท้อนตายพรายทำพิธีพลีกรรมตามแบบโบราณ
    2.ว่านตูบมูบหายากมากๆต้องขึ้นกลางตอเท่านั้น ต้องตามตำรา ถือว่าเป็นพญาว่านมีคุณป้องกันสะท้อนกลับ
    3.ตากระท้อนหน้าสุเหร่า เป็นของอาถรรพ์ป้องกันสะท้อนกลับ
    4.แผ่นผ้ายันต์ที่เกี่ยวกับอานุภาพสะท้อนกลับและป้องกัน
     
  2. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    เริ่มจากการหามวลสารที่จะนำมารีดเป็นแผ่น ก็ต้องหาเอามวลสารที่มีพลังที่มีอยู่ในตัวมวลสารนั้น และมีคุณวิเศษ ที่ครูบาอาจารย์ยอมรับว่าดีจริง
    1.แร่โคตรเศษรฐีของแม่ชีประทุม ที่หลวงพ่อฤาษี ท่านได้บอกไว้ว่าดี ไม่ต้องเสกก็ศักดิ์สิทธิ์ ใครมีไว้บูชาต่อไปจะป็นเศษรฐี และมีใครบอกจำไม่ได้ว่าสามารถกันรังสีนิวเคลียได้
    2.เหล็กเปียกที่หุ้มยอดองค์พระธาตุพนม อันนี้ก็ถือว่าสุดยอดกันปืนกันฟ้าได้และมีคุณอย่างอื่นอีกมาก เป็นของคุณชัยวิทย์ ใส่ผสมลงไปมาก เท่ากับขวดน้ำดื่ม
    3.หัวลูกปืนที่เป็นตะกั่ว เป็นเคล็ดโบราณ ลูกไม่ฆ่าแม่ แม่ไม่ฆ่าลูก ผ่านการเสกโดยหลวงน้าสายหยุด ศิษย์หลวงปู่ดู่
    นำไปหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง
    ตะกรุดไม้ครูผ่านพิธีมาเหมือนกับไม้ครู เริ่มตั้งแต่พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร วัดท่าขนุน
    เสาร์๕ วัดท่าซุง หลวงพ่อตุ๊มหาสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ
    ครูบาครอง ลำปาง ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน ครูบาตั้น ตอยปู่อิน หลวงปู่เจียม กุดไห
    หลวงปู่บู่ วัดสุมังคราม หลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์ หลวงปู่สุภา ท่านย้ายมาอยู่ที่สกลนครแล้ว จะนำไปให้หลวงพ่อหนุน ท่านอธิฐานจิตวันเสาร์๕ที่ ๑๖ มีนาคม อีกทีพร้อมกับเบี้ยแก้มหาลาภมหาป้องกันสะท้อนกลับ
     
  3. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ส่วนในเบี้ยแก้นั้น ก็ได้บรรจุยันต์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ยันต์ธงจักวาลเป็นยันต์โบราณที่มีคุณ เข้าไปได้ทุกที่ ใครที่พกเบี้ยแก้นี้ ถือเป็นคุณพิเศษ หมายความว่าที่ใดที่มีอาถรรพ์แรงก็สามารถผ่านไปได้โดยปลอดภัย โดยไม่มีอันตรายใดๆมาทำอันตรายได้เลย

    ส่วนมวลสารที่ได้นำมาบรรจุในเบี้แก้มหาลาภมหาป้องกันสะท้อนกลับและตะกรุดไม้ครูที่เหมือนกันก็มี
    1.ผงที่บรรจุสมเด็จองค์รุ่นแรกของหลวงพ่อหนุน วัดพุทธโมกข์
    2.ผงที่บรรจุในมีดฟ้าฟืน
    3.ผงที่บรรจุในพระขรรค์ไชยศรีปราบไพรีนาศ
    4.ผงที่บรรจุในพระฤาษีลัดดาบส
    5.ผงที่บรรจุในพระโมคลานะ
    6.ผงที่บรรจุในไม้เท้าพญายมราช-ท้าวเวรสุวรรณ
    7.ผงที่บรรจุในตะกรุดยันต์เกราะเพชร วัดถ้ำเขาวงศ์ 108-1009
    8.ผงตะไบมีดสายฟ้ามหาปราบไตรจักร ของหลวงปู่ญาท่านสวน
    9.ผงจักพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่และหลวงตาม้า
    10.ผงสมเด็จโต เช่นวัดระฆัง -วัดบางขุนพรหม-วัดเกศไชโย-พระนอนจักรสี-วัดอื่นๆ
    11.ผงรวม ๓๗ ประเทศ จำนวน 10000 กว่าชนิด (ได้มาใหม่)
    12.ผงต่างๆที่เกี่ยวกับพญานาค หายาก
    13.ผงตะไบชนวนนวะฤทธิ์ของแม่ชีประทุม
     
  4. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ส่วนเบี้ยแก้นั้นได้นำเอาปรอทและมวลสารต่างเช่นชันโรง มวลสารที่เป็นผงรวมแล้วเข้าพิธีพร้อมกับไม้ครูครับ เพราะการทำเบี้ยมันมีหลายขั้นตอนครับ ส่วนตัวเบี้ยก็ต้องทำพิธีล้างน้ำถึง 3 น้ำด้วยกันคือ 1.น้ำเกลือ 2.น้ำส้ม 3.น้ำเหล้าใช้ถึง16 กลม ในการล้างแต่ละน้ำนั้นการต้องทำการสวดคาถากำกับไปด้วย ใช้เวลา 9 วัน หลังจากนั้นการทำพิธีสวดบังสกุล-ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ถึงจะเสร็จ 1ขั้นตอนแรก

    ตะกรุดไม้ครูจะไม่ได้บรรจุปรอทและชันโรง ขั้นตอนของการทำเบี้ยแก้จะมากกว่า
    เบี้ยแก้จะเด่นด้านป้องกันและแก้ ความพิเศษอยู่ที่ผู้ทำและผู้เสกจะกำกับอีกทีบ้างอย่างบอกได้บ้างอย่างบอกไม่ได้ เจอแล้วเดี่ยวรู้เอง ให้อ่านย้อนไปดูอีกที
    ส่วนตะกรุดไม้ครูดอกเดี่ยวคุมได้ทั้งกลุ่มทั้งบ้านด้วยบารมีของครู(พระ)มีคุณเป็นเอนกอนันต์แล้วแต่จะอธิฐานเอาเพราะเป็นของสูงครับ
     
  5. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380


    อ้างอิง

     
  6. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ส่วนเพิ่มเติมได้มาเพิ่มอิฐสถูป
    สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    ที่ เมืองหาง(บรรจุในเบี้ย)
     
  7. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    มวลสารที่บรรจุในเบี้ย
    มวลสารอย่างเดี่ยวผมว่าก็สุดๆแล้วนะ มวลสารที่ได้มาใหม่อีกบ้างรายการ ผู้ที่ให้มาไม่ต้องการให้ลง(แต่บอกไว้เลยว่าสุดยอด)บ้างรายการลงได้ โดยมีผู้ที่นำมาถวายให้ ของใหม่ที่ได้มาจาก คุณจักรพงศ์ คุณรุ่งนภา รายการมวลสารที่พอจะบอกได้ โดยที่ท่านผู้ให้อนุญาติ เช่น อิฐพระสถูปสมเด็จพระนเรศวรที่หลวงตาม้านำมา ผงรวมมวลสารของกองทุนหลวงปูปาน(รวมไว้มากมายหลายเกินบรรยาย) ผงทันโตเศรษโถ(หายากสุดๆ) ผงอิฐธาตุหลวงปู่ดู่(พลังมหาจักรพรรดิ์)
     
  8. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    มวลสารที่บรรจุในเบี้ย
    1.แร่ปรอทเพชร
    2.แร่ปรอทชมพูนุช(ได้ครบสามชนิด)สีเงินสีเจ็ดสีและสีปีกแมงทับ
    3.น้ำพี้สีหยก(หายาก)
    4.แก้วเลือดนก
    5.มรกต
    6.เหล็กน้ำพี้
    7.แก้วแลฟ้า
    8.หัวใจถ้ำ
    9.ทองแดงเถื่อน
    10.แร่ฝนแสนห่า
    11.เหล็กทอง
    12.ตามังกร
    13.โปร่งข่าม
    14.แร่เขาอึมครึม
    15.หินไข่นก
    16.แร่ทอง
    17.แก้วจอมขวัญ
    18.กระดูกช้าง(สีดำ)เป็นพญาช้างพระโพธิสัตว์
    19.งาช้างดำ
    20.อุกาบาตรเหล็ก
    21.เหล็กละลายตัว
    22.แร่ดูดทรัพย์
    23.แก้วขนเหล็ก
    24.หัวใจป่า
    25.ตาจรเข้(แร่)
    26.หงอนพญานาค(สุดๆ)
    คุณครุฑยุดนาคร่วมบุญมาครับ
    27.ส่วนเนื้อหรืออะไรซักของพญานาค(แรงดีมาก)
    28.คตขนุนทองแดง
    29.เหล็กไหลตาน้ำ
    30.เบ้าหลอมพระเก่า
    31.เหล็กไหลขาว
    32.เหล็กไหลเจ็ดสี
    33.เหล็กไหลย้อย
    34.เหล็ไหลเพชรดำ
    35.เหล็กไหลตาแรด
    36.เหล็กไหลไพรดำ
     
  9. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ความเชื่อส่วนบุคคล
    หงอนพญานาค (เนื้อธาตุสำเร็จเหล็กไหล)
    วัตถุธาตุแห่งความเชื่อและศรัทธา
    คนปัจจุบันหลงเหลือเพียงความเชื่อที่ว่า นาคนั้นเป็นเพียงสัตว์ในตำนาน แต่คนโบราณเชื่อว่านาคมีอยู่จริงๆ ในพระพุทธศาสนาจำแนกและจัดหมวดหมู่นาคไว้นับพันชนิด
    พญานาค มีลักษณะคล้ายงูใหญ่ มีหงอน เป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนาบารมี
    และบันไดสายรุ้งสู่จักรวาล เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ จาการจำศีล บำเพ็ญภาวนา ศรัทธาในพระพุทธศาสนาแรงกล้ามาก และไม่เบียดเบียนผู้อื่น
    เมื่อคราวพญานาคอาศัยอยู่ในทะเลสีทันดร (ทะเลที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ ซึ่งอยู่ไกลโพ้นจากโลกนี้) พ่นน้ำในทะเลเล่น น้ำก็ลอยขึ้นไปในอากาศ แล้วถูกลมหอบมาเป็นฝน นาคเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับที่สถิตของเทพ “โลกศักดิ์สิทธิ์” ความเชื่อที่ว่าพญานาคกับรุ้งเป็นอันเดียวกัน ก็คือสะพานเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกสวรรค์นั่นเอง นาคสะดุ้งที่ราวบันไดโบสถ์สร้างจากคติความเชื่อโบราณ “บันไดนาค” ที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และสวรรค์หรือภาวะปกติกับภาวะศักดิ์สิทธิ์ ครั้งเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จจากดาวดึงส์เทวโลกโดยบันไดแก้วก็มีพญานาค 2 ตนหนุนเอาไว้ทั้ง 2 ข้าง พญานาคมีที่สถิตอยู่ใต้ดินหรือบาดาล ไตรภูมิพระร่วงบันทึกกล่าวว่า นาคอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 1 โยชน์ (หรือ 16 กิโลเมตร) มีปราสาทราชวังที่วิจิตรพิสดารคล้ายสวรรค์มีถึง 7 ชั้น เรียงซ้อนๆกัน ชั้นสูงๆ จะมีความสุขเหมือนสวรรค์ ตำนานสุสวรรณโคมคำกล่าวถึงการกำเนิดแม่น้ำโขง พญานาคที่เมืองหนองแสประเทศจีน เกิดทะเลาะกัน จนมีพวกหนึ่งต้องหลบหนีลงใต้ การอพยพของนาคนั้น ทำให้หน้าอกไถแผ่นดินจนเป็นร่องใหญ่ ก็คือแม่น้ำโขงปัจจุบัน แก่งหลี่ผีก็มีความเชื่อกันว่าเป็นฝายกั้นน้ำที่พญานาคทำขึ้น ในพระพุทธประวัติกล่าวถึงพญานาคเอาไว้มากมาย พระสุกที่จมน้ำต่างเชื่อว่าเป็นความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของเหล่าพญานาค แปลงกายขึ้นมาขอแบบเจาะจงที่พระสุกจากเจ้าเมืองล้านช้าง ปัจจุบันพระสุกยังจมอยู่ในแม่น้ำโขงอันเป็นที่อยู่ของเหล่าพญานาคในเมืองบาดาล เรียกว่า “เวินสุก” บริเวณนี้เป็นปากน้ำซึมไหลมาออกแม่น้ำโขง กลายเป็นแม่น้ำสองสี เมื่อถึงวันออกพรรษา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) ของทุกปี จะมีลูกไฟประหลาดมีลักษณะสีแดงอมชมพู พุ่งขึ้นจากใต้น้ำ ไม่มีเสียง ไม่มีเปลวไฟ ไม่มีควัน พุ่งขึ้นตรง แล้วดับหายกลางอากาศ ไม่ตกลงมา ชาวบ้านเรียกว่า “บั้งไฟพญานาค”
    แก่งอาฮง เชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของพญานาค เพราะว่า มีลูกไฟพญานาคที่แตกต่างจากที่อื่น คือมีสีเขียว ลูกไฟโตเท่าแท้งค์น้ำ ทำให้บริเวณใกล้เคียงสว่างไสวราวกับเวลากลางวัน และชาวบ้านมีความเชื่อว่าแก่งอาฮงเป็นสะดือแม่น้ำโขง และบริเวณดังนั้นเป็นถ้ำใต้น้ำที่ทะลุออกไปประเทศลาว ความเชื่อเรื่องพญานาค กลายเป็นวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณ และจากพลังความเชื่อความศรัทธา ทำให้บังเกิดมีวัตถุธาตุ วัตถุมงคลที่เรียกกันว่า “หงอนพญานาค” ตรงกับตำนานพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ซึ่งมีพระราชธิดา 3 พระองค์ คือ เจ้าหญิงคำสุก เจ้าหญิงคำเสริม และเจ้าหญิงคำใส ทั้ง 3 พระองค์มีความเคารพศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จึงสร้างพระพุทธรูปตามพระนาม

    แม่น้ำโขงมีตำนานที่กล่าวถึงพญานาคมากที่สุด ถือกันว่าพญานาคเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และพลังอำนาจ
    “หงอนพญานาค” ที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย ลักษณะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ฐานยาว 4 นิ้ว สูง 6 นิ้ว จำนวน 2 ชิ้น มีผิวขรุขระคล้ายหินปูน มีรอยตามแนวความสูง 4 รอย และ 5 รอย ฐานสีน้ำตาลเข้ม ปลายสีขาวและโค้งงอเล็กน้อย ชาวลาวซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ได้แห่วัตถุธาตุทั้ง 2 นี้ มาอย่างยิ่งใหญ่พร้อมเครื่องบรรณาการเช่น แจกันเงิน พานเงิน ขันเงิน น้ำเต้าเงิน กระติบข้าวเงิน งาช้าง และพระพุทธรูปที่ทำจากไม้จันทร์หอม เมื่อมาถึงหนองคายจึงแบ่งขบวนเป็น 3 ขบวน เพื่อนำเครื่องบรรณาการต่างๆไปประดิษฐานที่วัดทั้ง 3 คือ วัดโพธิ์ชัย วัดน้ำโมง และวัดหลวงพ่อพระสุก ปัจจุบัน “หงอนพญานาค” ประดิษฐานอยู่ที่โบสถ์วัดโพธิ์ชัย ซึ่งมีหลวงพ่อพระใสพระคู่บ้านคู่เมืองประดิษฐานอยู่ และปัจจุบันก็มี “หงอนพญานาค”เพิ่มมาอย่างอัศจรรย์คล้ายเป็นการดึงดูดซึ่งกันและกันของวัตถธาตุชนิดนี้ที่เรียกกันว่า “หงอนพญานาค” ดังนั้นความเชื่อและศรัทธาจึงมาจากตำนานมหัศจรรย์ของพญานาค ทั้งที่ถูกบันทึกเอาไว้ในพระพุทธศาสนาและการสืบทอดบอกกล่าวถึงความศักดิ์สิทธิ์ ความมีอาถรรพ์ ความลี้ลับ ที่ยากจะพิสูจน์ นอกจากความเชื่อ ความศรัทธา ในด้านจิตวิญญาณเป็นหลัก จึงสามารถจะสัมผัสภพภูมิของพญานาคได้แบบไม่ต้องสงสัย
    **หงอนพญานาคเนื้อเหล็กไหล เป็นธาตุที่มีพลังแห่งนาคเป็นวัตถุที่สูงกว่าเนื้อขาวทั่วไป จากการบำเพ็ญเพียรบารมีของเหล่านาคราชที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา จนร่างกายสังขารสำเร็จเป็นคดเป็นแร่ที่มีความพิเศษ เกินกว่าปุถุชนคนธรรมดาจะเข้าใจได้ กลิ่นธาตุจะแปรเปลี่ยนเป็นกลิ่นหอมแบบที่ไม่เคยได้กลิ่นจากที่ไหน ความแวววาว มันมะเมื่อมของเนื้อธาตุย่อมแสดงให้เห็นถึงพลังงานด้านชีวิตสูง ธรรมชาติสังขารของพญานาคจะไม่ค่อยเลือนหายไป แทบจะอยู่ครบครัน จึงเป็นความเชื่อความศรัทธาเฉพาะตน ว่ามีมีจริงหรือไม่มีจริง ใช่หรือไม่ใช่ คุณต้องรับและสัมผัสในด้านพลังงานแห่งจิตเท่านั้น**
     
  10. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    37.แก้วแห่งพญานาค
    แก้วแห่งนาคราช
    กายสิทธิ์ลุ่มน้ำนาคา
    ลักษณะแก้วเป็นเม็ดกลมๆผิวเนื้อแก้วเป็นคลื่นเกล็ดงูเล็ก เมื่อหลุดตัวออกมาคล้ายไข่ปลา แต่มีขนาดใหญ่กว่าและบางชิ้นเป็นรังไข่ ที่โตได้เรื่อยๆ บ้างสีเขียวอมดำ เพราะมีแร่เหล็กไหลที่มีลักษณะคล้ายเกล็ดปลาฝัง แร่ชนิดนี้ทำให้เนื้อแก้วหลุดและเป็นสีเขียวใส เวลานำมาจับด้วยสมาธิจะพบพลังงานของเหล่านาคราช ด้วยเนื้อแก้วที่มองเป็นแก้ว เป็นหินแปลกตาใส ถ้าจับกำในสมาธิ จะรู้สึกนุ่มนิ่ม คล้ายสำลียุบตัว เป็นตระกูลแห่งนาคราชแท้จริง คุณว่าไข่พญานาคมีมั้ย ??? อานุภาพอิทธิคุณ มีความสงบเยือกเย็น โขคลาภ และเมตตา บูชาเพื่อเป็นมงคล ชีวิตมีความรุ่งโรจน์
    38.หน้าผากพญามังกร
    หน้าผากพญามังกร
    สุดยอดทนสิทธิ์ ในตำนาน แหล่งรวมพลังงานจุดศูนย์กลางจิตที่หน้าผาก ความเชื่อว่ามังกรเป็นสัตว์แห่งเทพที่มีคุณลักษณะ คุณวิเศษ ในอำนาจ และบารมี ผู้มีแม้เพียงหนัง ก็ได้ชื่อว่า มีพลังงานมหาศาลของเทพในตำนาน หน้าผากพญามังกร แร่เหล็กไหล เป็นการรวมธาตุต่างเผ่าพันธุ์ บางท่านคงคิดว่าเป็นเพียงฟอสซิลอะไรบางอย่าง แต่ลองสัมผัสดูจะมีความรู้สึกถึงสิ่งนี้เป็นจุดรวมพลัง จุดรวมจิต การเพ่งพลังรวมมาไว้ที่หน้าผาก ด้านหนึ่งเป็นโครงสร้างของภายใน ร่องประสาทและมีรูพรุนเนื้อกะโหลก อีกด้านเป็นหนังที่กลายเป็นหินแกร่งเป็นคลื่นหลากหลาย และสายแร่ธาตุ รวมทั้งพันธุ์เหล็กไหล จึงทำให้หน้าผากเพิ่มพลังอิทธิคุณทวีคูณ เป็นของแปลก ของหายาก (พลิกแผ่นดินหาก็ว่าได้) ความเชื้อในโบราณคนไทยถ้ามีงาช้างหรือโครงกระดูกจะเรียกได้ว่าคนนั้นเป็นผู้มีอำนาจ แต่ถ้าเป็นชาวจีนมังกรเป็นสัตว์เทพที่ทรงพลังอำนาจที่สุด ถ้านำสิ่งที่เชื่อศรัทธาว่าเป็นเขามังกร กะโหลกมังกร หน้าผากมังกร และข้อต่อมังกร มารวมกัน จะให้คุณ ให้อำนาจ วาสนา บารมี มีพลังงานล้ำเลิศ
    39.เกศาธาตุ แก้วแห่งเทพนิมิต
    เกศาธาตุ แก้วแห่งเทพนิมิต (บรมครูพระเทพโลกอุดร)
    กายสิทธิ์เกศาธาตุ (บางท่านเรียกเส้นผมพระแม่ธรณี) แต่เกศาธาตุนี้ จะแตกต่างกับเส้นสีดำทั่วๆไป เช่น เส้นไหมแก้วขนเหล็กเป็นต้น เพราะมีความพิเศษกว่า ด้วยการก่อตัวเองของเส้นเกศาล้วนๆ จนมองดูโดยรวมเป็นแก้วสีดำสนิท แต่ถ้าส่องแสงสว่างเส้นกลับเป็นเงินยวงไขว้ไปมาทับถมกันโดยไม่ผนึกกับหินแร่ใดๆ และถึงแม้ว่าจะผนึกกับแร่ใด เกศาธาตุจะเป็นต้นธาตุทำให้สิ่งนั้นเป็นเกศาแก้วทั้งหมด กายสิทธิ์เกศาธาตุเป็นสิ่งที่หายากมากโดยเฉพาะแล้วเป็นการนิมิตมาตลอดระยะเวลาสิบกว่าปี จนกว่าจะไขปริศนาธรรมได้ในแต่ละข้อ เมื่อเข้าใจปริศนาแห่งธาตุกายสิทธิ์แล้ว ถึงจะพบอย่างน่าอัศจรรย์ และผู้บอกกล่าวเรื่องเกศาธาตุนี้ คือท่านบรมครูพระเทพโลกอุดร (หลวงปู่ใหญ่)
    เมื่อนิมิต การพบกายสิทธิ์จึงบังเกิด จะมีกายสิทธิ์ใดมั้ย ที่เหมือนเกศาธาตุนี้ บริเวณที่พบนั้นจะมีดอกบัวผุดรองรับ คล้ายดั่งมีการเคารพบูชาจากเทวา เพราะเป็นของสูงนั่นเอง แต่ถึงอย่างไรแล้ว เกศาธาตุเป็นกายสิทธิ์จากบรมครูหลวงปู่พระเทพโลกอุดรมอบให้เพื่อเปิดบารมีกับท่านผู้ศรัทธา ลองสัมผัสด้วยจิตใสบริสุทธิ์จะรู้ว่าเกศาธาตุมีพลังงานมหาศาลในทุกด้าน ถือว่าเป็นกายสิทธิ์หายาก ของหลวงปู่ใหญ่
    40.หินลาวาภูเขาไฟ
    หินลาวาภูเขาไฟ
    เป็นลาวาที่ปะทุ และไหลทะลักออกมา จากปล่องภูเขาไฟ เมื่อกระทบกับอุณหภูมิภายนอกระยะเวลาหนึ่ง จนเกิดการเย็นตัวและแข็ง สำหรับชิ้นนี้กลายเป็นแก้ว สวยงามมาก บางจุดจะเห็นเม็ดกรวดเม็ดทราย ชัดเจน มีร่องรอยของความร้อนที่เราเห็นกันแดงๆ เวลาลาวาร้อน และไหลลงมาตามไหล่เขา ตามทาง แต่พอเย็นตัว จะเห็นการไหลเวียนของเนื้อลาวา ที่ผสมแร่ธาตุต่างๆเอาไว้ในตัว (หายากครับ) ลึกลงไปในใต้ดิน ย่อมมีแร่ธาตุที่วิเศษและบริสุทธิ์อยู่มาก มีพลังเย็นในตัว และนำมาแกะเป็นสิ่งมงคลคุ้มครองตัว ปรับความสมดุล ในร่างกายได้ดีอีกด้วย มีความแข็งเป็น
     
  11. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    41.เกล็ดแก้วนาคา
    เกล็ดแก้วนาคา
    เกล็ดแก้วนาคา เป็นกายสิทธิ์ตามธรรมชาติเผ่าพันธ์หนึ่ง มีชีวิต และพลังงาน น่าสนใจ มีเหล่าทวยเทพเทวดาเจ้าป่า เจ้าเขา ดูแลรักษา หายากมาก เพราะมักแฝงตัวในถ้ำสูงชัน และลึก มีความชื้นสูง ไม่ค่อยมีอากาศถ่ายเท เหตุนี้จึงไม่ค่อยมีใครนำมาเผยแพร่บริเวณที่พบจะเป็นแอ่งกะทะใบใหญ่ คล้ายห้องโถง ลักษณะคล้ายพระธาตุพระสีวลี หรือจะเรียกว่า หินพระธาตุ พระสีวลี ก็ไม่ผิด ก่อนจะเป็นเกล็ดแก้วนาคานั้น จะเกิดจากเกล็ดระยิบระยับคล้ายเพชรขาวใสบริสุทธิ์ ที่เป็นเหมือนทางเลื้อยผ่านของพญานาค คดเคี้ยว ท่านจะทิ้งรอยนี้เอาไว้ จากนั้นอานุภาพของรอยพญานาค จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นตุ่มๆ เม็ดๆ กระจายไปทั่ว ถ้าแถวนั้น มีเชื้อเหล็กไหลแฝงอยู่ก็จะผสมเข้าด้วยกัน และจะก่อตัวคล้ายโหนกหรือเกล็ดพญานาค สีออกโทนน้ำตาลแดง ด้านบน ส่วนด้านล่างจะเป็นเกล็ดที่เกิดจากรอยเลื้อยพญานาคราชและจะโตขึ้นเรื่อยๆ มีขนาดเท่าหัวแม่โป้งมือ จนถึงขนาดกำปั้น ฝังตัวในแอ่งน้ำ อานุภาพคุ้มครองรักษา โชคลาภ ตามอธิษฐาน มีเหล่าทวยเทพชั้นพรหมรักษาดูแล พญานาคเป็นผู้เนรมิต กายสิทธิ์ประเภทนี้
    42.ไหลเพชรดำ(ของคุณครุฑยุดนาค)
    (ไหลเพชรดำ)
    เป็นตระกูลแก้ว ถือว่าเป็นเทพฝ่ายผู้หญิงแตกเผ่าพันธุ์กระจายตกลงมาคู่โลก กับทองคำดำ ซึ่งเป็นฝ่ายชาย ทองคำดำแท้ๆ แม่เหล็กจะดูดติด มีน้ำหนักมาก แม้จะเป็นก้อนเล็ก ๆ ทั้งสองชนิดนี้เป็นแร่ธาตุชั้นเลิศบริสุทธิ์ที่ถูกฤาษีผู้ทรงฤทธิ์ใช้อำนาจเรียกขึ้นมาจากใต้พื้นโลก เพื่อจะสร้างธาตุกายสิทธิ์อันทรงอานุภาพ แร่บางอย่างรวมตัวกันก็กระจัดกระจายไปเป็นเหล็กไหลเผ่าพันธุ์ต่างกัน แต่ทั้งสองชนิดนี้เป็นแร่ที่ไม่ยอมรวมตัวกัน จึงแตกและระเบิด กระจายเป็น 2 ตระกูล คือทองคำดำ และไหลเพชรดำ ดังนั้นทั้งสองชนิดจึงเป็นต้นธาตุของเหล่าตระกูลเหล็กไหล และแก้ว ทั้งปวง ไหลเพชรดำ ลักษณะ จะมีสายแร่สีเงินยวงเป็นเส้นๆ แบนๆ คล้ายแก้วขนเหล็ก แต่ไม่ใช่ จัดอยู่ในเหล็กไหล ดั้งเดิม และจะแทงสลับไปมา งอกได้ราวปาฏิหาริย์ ผู้ที่นิยมกายสิทธิ์ไม่ควรพลาดชิ้นนี้ เพราะถือว่าเป็นแม่ธาตุ ไหลเพชรดำ มีวิธีป้องกันตัวเอง โดยเรียกความชื้น จากอากาศ หรือหยดน้ำภายในถ้ำ มาปกป้องตัวเข็มสีเงินยวงเอาไว้ เป็นแร่ที่มีความมหัศจรรย์ ตอนแรกจะเป็นสีเงินยวงกระจายไปทั่วทั้งก้อน เมื่องอกหรือแทงออกมา จะกลายเป็นสีดำ โดยเอาธาตุน้ำมาคลุมจนแข็งสลับไขว้ไปมา จึงเรียก "ไหลเพชรดำ"
    43.แร่โคตรเหล็ก เขาอึมครึม จ.กาญจนบุรี
    เป็นแร่เหล็กไหลในตระกูลเหล็กไหลงอกและเหล็กไหลทรหด ซึ่งมีคุณสมบัติอานุภาพมากชนิดหนึ่ง ตามแต่จะนำไปใช้ทางสายวิชาที่ร่ำเรียนมา บางตำราให้นำมาแช่น้ำ ถ้าดวงดี น้ำจะใส ไม่มีกลิ่น ถ้าดวงตก น้ำจะมีกลิ่น ให้ดื่มกินน้ำนั้น เพราะเหล็กไหลงอก จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ในตัวเหล็ก สามารถนำมาแช่น้ำอาบ ดื่มกิน เพราะน้ำจะเย็น กันคุณไสยได้ ทั้งยาเบื่อเหล็กไหลงอกและเหล็กทรหด มีอานุภาพหลักๆ ถึง 6 ข้อ
    1. เป็นเมตตามหานิยม
    2. นำโชคลาภ โภคทรัพย์
    3. แคล้วคลาดขั้นพื้นฐาน
    4. มีพลังผลักดันแก่ผู้ที่มีดวงถึงฆาต ให้เลื่อนออกไปได้ไม่เกิน 7 ปี
    5.อยู่ยงคงกระพัน
    6. ภูติผี ปีศาจ คุณไสย ทั้งมาร ไม่อยากเข้าใกล้ ด้วยมีเตโชธาตุมาก (ธาตุไฟ) และป้องกันสัตว์มีพิษ เช่น ตะขาบ แมงป่อง งู เป็นต้น อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์มีทั้งก้อน ไม่ว่าการงอกเองของโคตรเหล็กไหลที่งอกได้ระดับหนึ่ง และแร่ดินแดง ก็มีคุณประโยชน์มากมาย
     
  12. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    44.เหล็กไหลย้อย!!! ถือเป็นของขลังตามธรรมชาติ จะพบตามพื้นใต้ดินและซอกหน้าผา มีขนาดใหญ่ตั้งแต่กำปั้นมือขึ้นไป มีทั้งสีน้ำตาลแดงเข้ม (ตัวเมีย) ไปจนดำ (ตัวผู้) ชิ้นนี้มีหลายวรรณะ ทั้งน้ำตาลและดำ ทอเป็นสีเงินยวง ลักษณะคล้ายนำตาเทียนไหลมาทับถมกัน อาจารย์บางท่านเรียก "เหล็กไหลนาคา" เป็นของอาถรรพณ์มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษา ชิ้นนี้แปลกที่สุด!!คือบางจุดทอสีเป็นรุ้งหรือออกสีทอง บางที่เรียก ลักษณะแบบนี้ว่า "ทองคำดำ" เนื้อเหมือนแก้ว คล้ายหินต่างดาว ที่เรียกว่า "อุลกมณี" ครูบาอาจารย์ทดลองตรวจดูพบว่าเป็นสิ่งที่มีอำนาจญาณฤาษีประจุอยู่ด้วย
    45.แร่เหล็กไหลพระธาตุนิลพัท
    เป็นก้อนแร่ที่รวมหลากหลายความเป็นกายสิทธิ์ในตัว คือมีทั้งแร่เหล็กไหล เพลิงหรือโคตรรังเหล็กไหลเพลิงที่เป็นวรรณะ สีน้ำตาล และสีเปลือกมังคุด ซึ่งถือว่าเป็นตระกูลเหล็กไหลเพลิงทั้งสิ้น อีกทั้งบางแห่งเรียกเป็นพระธาตุชื่อ พระธาตุนิลพัท การรวมตัวนับว่าแปลกมากเพราะจะมีเชื้อเหล็กไหลเป็นตัวเชื่อมคือมีสีดำคล้ายยางเหนียวทั่วทั้งก้อน บางจุดจะเห็นเป็นหินเขี้ยวแก้วที่งอกออกมา แต่ยังไม่ใสนัก ภายในก้อนแร่จะมีพลังแม่เหล็กอ่อนๆสัมผัสได้ ลองนำแม่เหล็กมาดูด จะรู้สึกถึงพลังวิ่งภายในหนักๆ บูชาทั้งแร่เหล็กไหลและพระธาตุพร้อมกันทีเดียว อานุภาพตรวจสอบโดยนักปฏิบัติธรรม ว่ามีความมั่งมีเกี่ยวกับ ทรัพย์สินและโชคลาภ ความมีทรัพย์เรียกเงิน-ทอง การเกิดของแร่ชนิดนี้จะคล้ายโคตรเหล็กไหลเพลิงคือฝังตัวในชั้นดิน ดังนั้นแร่เหล้กจึงมาก ปกติจะมีเผ่าพันธุ์เดียว แต่ชิ้นนี้กลับมีหลายชนิดรวมตัวเป็นหนึ่ง นับว่าอัศจรรย์ !!!
    46.ไหลหิน 1000ปี
    47."สมิงเหล็ก"
    สมิงมักจะเกิดกับวัตถุธาตุอาถรรพณ์มีฤทธิ์ในตัว ขึ้นชื่อว่า สมิง จะมีตบะ แม้รูปลักษณ์ของสมิงจะไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่มองโดดเด่นคือ เขาจะมีอำนาจ มีตบะ น่าเกรงขามลึกๆ ในตำราโบราณสิ่งที่มีชีวิตแล้วซึมซับวิญญาณเข้าในตนจนเป็นสมิง เรียกกันว่าวิชา "4 สมิง" จะเกิดกับสัตว์ 4 ชนิด คือ งู จระเข้ กระทิงโทน และเสือ คำว่า "สมิง" มาจากภาษาตะเลง หมายถึง พระเจ้าแผ่นดิน เจ้าเมือง ผู้ปกครอง ผู้เป็นใหญ่ เจ้าฯ แสดงความหมายเป็นใหญ่ในสิ่งนั้นๆ "สมิง" เป็นคำลักษณะยกย่อง เขมร จะเรียกว่า "สิง" แปลว่า อยู่ แน่นิ่ง "สมิง" จะเป็นอชครังค ผสม มหิทธิกา แม้เป็นภพที่ด้วยกว่ามนุษย์ แต่ก็มีฤทธิ์มาก บางตนเรืองฤทธิ์ขนาดเทวดายังต้องหนีไกล เมื่อสัตว์ที่เป็นสมิง ดับจิต ละร่าง ดวงจิตสมิงก็จะแฝงในวัตถุธาตุ เช่น สายแร่เหล็ก ทำให้เรียกกันว่า "สมิงเหล็ก" และก็สามารถจะดูดแร่ธาตุ ซับวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรอาถรรพณ์ สัตว์ต่างๆ ในป่า ในธรรมชาติไปเรื่อยๆ "สมิงเหล็ก" ปราชญ์ผู้รู้มักนำ "สมิงเหล็ก" นี้มาใช้ และควบคุม โดยวิธีต่างๆกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ครอบครองทรงอำนาจเหนือสิ่งรอบข้าง มีอำนาจบัญชา เป็นจอมคน ยอดคน "สมิงเหล็ก" ที่แฝงในสายแร่เหล็ก ถือเป็นสุดยอด "สมิง" จะมีหลายวรรณะ ทั้งสีดำ สีน้ำตาล ไม่ยอมรวมตัวกัน แต่จะกระจายไปทั่ว ถ้ารวมตัวกันได้มักจะเรียก "พญาสมิงเหล็ก" หรือเหล็กไหล เพราะด้วยมีอำนาจบางอย่างเข้ามาเกี่ยวพัน คือมีพลังแห่งฤาษีชีไพร จึงทำให้รวมตัวเป็นหนึ่งมักจะมีสีดำ เงา มัน แวววาว ลี่นไหลไปได้ "สมิงเหล็ก" ชิ้นนี้ มีทั้งดำและน้ำตาล จะกระจายอยู่ทั่ว แฝงในสายแร่สีเงิน ซึ่งหินนี้มีสายแร่สีเงิน เป็นลักษณะเกล็ดแวววาวกระจายอยู่ทั่วทั้งก้อน เป็นแหล่งกำเนิดและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามผิวเนื้อดินที่แข็ง ถ้ามองดูดีๆจะเห็นพื้นผิวขรุขระมีเม็ดเล็กๆเป็นจุดๆทั้งสีน้ำตาลและสีดำอยู่ทั่วไป นั่นคือการงอกงามของ ตัว "สมิง"
    สุดยอดจริง!!!แท้ๆ ครับ (หายาก)ส่วนมากปราชญ์ผู้รู้มักจะเจอแบบมีสีเดียวคือไม่สีดำก็สีน้ำตาลแดง
     
  13. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    48.แร่เหล็กไหล 7 สี
    หรือโคตรเหล็กไหลงอกสีปีกแมลงทับ เขาอึมครึม จ. กาญจนบุรี
    สวยมากครับชิ้นนี้ เลี่ยมกรอบแสตนเลสรูปหยดน้ำ (ขนาดกลาง) เป็นเหล็กไหลธรรมชาติ สีสัน เป็นรุ้ง มีความมันแวววาว สะท้อนแสงดี เห็นเป็นพรายกระจายอยู่ทั่ว แสดงถึงพลังชีวิตที่ดีมาก เนื้อเหล็กเป็นคลื่น แร่เหล็กไหล 7 สีนั้น มีพลังคุ้มครองชีวิตสูง มีอานุภาพมากมายหลายประการ และยังเห็นหินดินแดงที่เรียกกันว่าเป็น "เลือดหมาดำ" มีสรรพคุณป้องกันเขี้ยวงาได้ชงัด
    49.อุลกมณีหรือสะเก็ดดาวได้จากหลวงพ่อหนุน
    ธาตุกายสิทธิ์จากฟากฟ้า
    อุลกมณี เป็นวัตถุที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ มีพลังงานสะสมอยู่มหาศาล จึงมีฤทธิ์ในตัวเอง สามารถสลายพลังงานเชิงลบที่ไม่พึงประสงค์ออกโดยอัตโนมัติ และเนื่องจากเป็นวัตถุที่มีสีดำสนิทจึงทำให้สามารถดึงดูดพลังที่ดีดีเข้ามา อุลกมณีมีพลังที่ครอบคลุมหลายรูปแบบ เป็นแหล่งของพลังงานกระตุ้นเตือนจิตสำนึก ก่อให้เกิดความจำที่แม่นยำ การนำอุลกมณีวางไว้ที่จักระ 6 ขณะทำสมาธิจิต จะช่วยเสริมสร้างให้เกิดพลังความรู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรมแห่งธรรมชาติ สามารถต่อเชื่อมกับผู้รู้หรือทวยเทพเบื้องบนได้ อุลกมณีเป็นหินแก้วสีดำชนิดหนึ่งเดินทางมาจากนอกโลก ผ่านกาลเวลาและระยะทางอันแสนยาวนานของจักรวาล บันทึกเรื่องราวของโลกในทุกยุค โลกของเราแตกดับมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ภาพเหตุการณ์ต่างๆที่ได้เกิดขึ้นกับโลก ถูกบันทึกไว้ด้วยเส้นแสงภายในสะเก็ดดาวตกแต่ละชิ้น อุลกมณีชนิดนี้พบเห็นได้ค่อนข้างมากอยู่เหมือนกันมีอายุราว 7 แสนปี ขึ้นไป จึงถือว่ามีพลังงานมหาศาลที่ถูกซึมซับไว้ภายใน มีอานุภาพคล้ายเหล็กไหล หรือเป็นเผ่าพันธุ์ต้นกำเนิดของเหล็กไหล ผู้รู้จึงมักเรียกว่า "เหล็กไหลต่างดาว" บางแห่งนับถือว่ามีอานุภาพมากมาย แบ่งเป็น 2 เพศ คือ เพศผู้ จะคล้าย "ลึงศ์" มีลักษณะยาว เรียกว่า "หำอวกาศ" ดีทางป้องกันภัยพิบัตินานา ส่วนเพศเมียมักจะเป็นก้อนกลมๆ มนๆ เป็นแป้น ดีทางเมตตามหานิยม
    บางชนิดเป็นเหล็ก บางชนิดเป็นแก้วแต่มีสายแร่เหล็กอยู่ภายใน
    อุลกมณีเหล็กไหลจากต่างดาวคู่นี้ เพศเมียและเพศผู้ เป็นประเภทแก้ว แต่มีสายแร่เหล็ก ทั้งเพศเมียและเพศผู้จะเห็นเนื้อในแก้วเป็นเหมือนเนื้อเหล็ก เห็นเป็นสีรุ้งภายใน สิ่งนี้ถือว่าเป็นการบันทึกเรื่องราวการเดินทางของจักรวาลมาไว้ในตัวอุลกมณีจึงจำให้วัตถุประเภทนอกโลกนี้มีพลังงานแม้ชาวต่างชาติก็นิยมนำมาเลี่ยมแขวนติดตัว
    50.ผงขอสับช้างอายุ 1000ปี(ความแรงสุดๆ)
    เป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่ผ่านพิธีมาแล้วอย่างเข้มขลัง และถือว่าเป็นของขลังคู่กายควานช้างทั้งหลาย ขอสับช้างนี้สร้างด้วยเนื้อสังขวานร ที่ขอสับมีแรงครูปะกำช้างครบทั้ง 4 องค์ ทำพิธีถูกต้องตามโบราณที่เพนียดคล้องช้าง ครูปะกำช้างทั้งสี่คือ
    1. พระโภควรรดี ครูปะกำช้างอันสิงอยู่ในเลกซรอง (ที่คล้องช้าง)
    2. นางศรีระวังครูปะกำช้างอันสิงอยู่ในบ่วงบาทะ (บ่วงรัดช้าง)
    3. พระคชศาสตร์ครูปะกำช้างอันสิงอยู่ในยขอ (ขอสับ)
    4.พระสาตกำม์ครูปะกำช้างอันสิงอยู่ในเสาตลุง (เสาล่ามช้าง)

    ครูปะกำทั้ง ๔ จะขาดไม่ได้ เพราะการคล้องช้างป่าที่ดุร้าย ถ้าขาดครูใดครูหนึ่งก็จะไม่สามารถจะจับช้างได้เลย ขอสับช้างนี้ทำด้วยเหล็กที่มีอาถรรพณ์ในตัว คือ สังขวานร ด้ามเป็นไม้ในป่าลึกที่มีเถาวัลย์รัดเข้าในเนื้อไม้ (แต่ไม่จะไม่ตาย) มักจะพบเจอในป่าดงดิบลึกประเภทโซนที่ 3 คือ เป็นป่าที่อันตรายด้วยไข้มาเลเลีย ไข้ป่า และเป็นที่อาศัยของสัตว์ป่าดุร้าย มักจะหลงทางในป่าลักษณะนี้ จึงนับว่าตะขอสับช้างนี้ สร้างถูกต้องตามตำราครูปะกำและหายาก ใช้ป้องกันเสนียดจัญไร ภูตผีปีศาจ แม้จะเข้าป่าก็พกใช้จะมีอานุภาพสัตว์เกรงกลัว มีอำนาจ และกวักทรัพย์เหมือนตัวตะขอที่มีลักษณะกวัดเข้าหา แขวนเอาไว้ใช้ได้ครอบคลุมทุกสรรพคุณ จึงไม่ควรมองข้ามวัตถุมงคลอาถรรพณ์ชิ้นนี้ และพิธีการจัดสร้างนั้นก็ไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ ต้องถือฤกษ์วาระอันเหมาะสม เท่านั้นถึงจะเข้มขลังที่สุด
    ตะขอสับช้าง เมื่อได้ไปให้เอาไว้ที่สูง เพราะอัญเชิญครูปะกำเข้าสิงตะขอสับแล้ว ห้ามเอาตัวตะขอสับเล่นที่มือ เพราะแม้ว่าจะเพียงสับเล่นๆ ก็จะมีอาการบวมและเจ็บมาก
    51.เหล็กไหลตาแรด
    จัดเป็นเหล็กที่มีคุณสมบัติพิเศษอีกเผ่าพันธุ์หนึ่ง ค้นพบโดยหลวงพ่อสัมฤทธิ์ บรมครูเจ้าแห่งเหล็กไหล ของวัดถ้ำแฝด สีเนื้อเหล็กดำสนิท พบที่เขาแรด กาญจนบุรี หลวงพ่อสัมฤทธิ์กล่าวว่า เหล็กไหลตาแรดมีคุณมาก 108 ประการ หลวงพ่อสัมฤทธิ์ นิมิตจากหลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ ให้นำเหล็กชนิดนี้มาเพื่อสร้างบารมีทางพระพุทธศาสนา นำมาฝนเป็นเม็ดเล็กๆเท่าถั่วเขียวผ่าซีก ฝังใต้ท้องแขนจนเป็นตำนานฝังเหล็กไหลตาแรดจวบจนปัจจุบัน เนื่องจากเหล็กไหลตาแรดมีความดำสนิท เงา แวววาว และไม่มีสนิมเหล็กเจือ จึงฝังที่ใต้ท้องแขน ประสบการณ์มากมายนักสำหรับเหล็กชนิดนี้ เมื่อคราวสมัยหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ฝังจะเชือดคอทันที ขณะผู้ฝังเผลอ แต่ก็เป็นแค่รอยแมวข่วนเท่านั้น ชุดนี้เป็นเหล็กไหลตาแรด ยุคเก่าสมัยหลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดถ้ำแฝด จ.กาญจนบุรี อาจารย์ผมเป็นศิษย์ต่อจากศิษย์เอกท่านที่เป็นฆราวาสอีกทีหนึ่ง รับมาจำนวนไม่มากนัก ของดีที่ราคาถูกที่นี่ที่เดียว นำไปบูชาทั้งก้อน หรือ แกะเป็นเม็ดฝังใต้ท้องแขนได้เลยครับ(ได้มากมายหลายเม็ดทีเดียว) ของเก่ายุคหลวงพ่อสัมฤทธิ์แน่นอน....ฟันธง!!!
     
  14. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    52.ผงพระธาตุพระปัจเจก
    ทรงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เป็นเลิศนานัปการ เพื่อใช้ในการสวดมนต์ภาวนาคู่พระคาถาเงินล้าน และในวาระต่างๆ ให้จิตดิ่งเป็นสมาธิ มีความร่มเย็นเป็นสุข ติดตัวให้โชคลาภและเป็นเมตตา-มหานิยม กำจัดทุกข์ภัย ๑o๘ ประการ
    อิทธิคุณของหินพระธาตุขุนเขาสามร้อยยอด มีมากมาย มีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์มายาวนาน สรุปได้ถึง ๙ หัวข้อใหญ่ด้วยกัน
    ข้อที่ ๘. หินพระธาตุเขาสามร้อยยอดเป็นหินแห่งญาณ ผู้พกพาหินพระธาตุเป็นประจำ จะบังเกิดญาณหยั่งรู้ที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ สามารถรู้เหตุดี - ร้ายล่วงหน้า เนื่องจากกระแสญาณบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาหินนั้น จะคอยส่งญาณหยั่งรู้หรือบันดาลเทพสังหรณ์ให้เกิดขึ้นแก่ผู้ที่พกพา นับเป็นคุณวิเศษอันลี้ลับที่ยากจะอธิบายของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด...
    "ถ้ำแม่ย่า" พบเมื่อ พ.ศ.2540 คนที่มีสมาธิจิตบอกว่าภายในถ้ำมีแม่ย่าเฝ้าปกปักรักษาอยู่ จึงเรียกกันว่า "ถ้ำแม่ย่า" มีความศักดิ์สิทธิ์มาก มีคนเคยนำไฟไปเผาภายในถ้ำ เพื่อหวังว่าจะได้ตัดหินพระธาตุได้ง่ายขึ้น ปรากฏว่า!!!ครอบครัวประสบชะตากรรม ต้องขายบ้านทิ้งไปอยู่ที่อื่น นายอำเภอคนแรกของเขาสามร้อยยอดใช้หินพระธาตุจากถ้ำ "แม่ย่า" แกะเป็นองค์พ่อปู่สามร้อยยอดองค์ใหญ่มาก ประดิษฐานไว้หน้าที่ว่าการอำเภอ มีลักษณะสวยงาม และมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
    53.เหล็กไหลนาคราช

    "อกธรณี"

    เป็นสิ่งที่มีคุณภาพสูงส่งหลายอย่าง เป็นกายสิทธิ์มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายด้าน เป็นของมหามงคลที่มีญาณบารมีของเหล็กไหลอยู่ภายใน บูชาไว้ร่มเย็นเป็นสุข
    อกธรณีตามธรรมชาติเป็นของหายาก ลักษณะเป็นก้อนหินที่มีธาตุเหล็กอยู่ภายในมีน้ำหนักเหมือนเหล็ก ผิวมีสีอมดำเป็นเมฆพัตร แม่เหล็กดูดติด และยังมีอำนาจเป็นแม่เหล็กอ่อนๆอยู่ภายในสามารถดูดเหล็กที่มีน้ำหนักเบาๆได้ เช่นลูกแม็ก หรือแม้แต่ตะปู เหล็กไหลชนิดนี้เป็นที่ยอมรับในหมู่ที่ศึกษาแร่เหล็กและโลหะธาตุกายสิทธิ์ว่าเป็นของสำคัญ ครูบาอาจารย์ทางอีสานเรียกว่า "ทรหด"
    แต่!!!ที่แน่ๆ คือโลหะธาตุชนิดนี้มีพุทธคุณในความคงกระพันอย่างเหลือเชื่อ!!!
    54.ผงเหล็กดาบสายฟ้าพิฆาตศัตรูพ่าย(มวลสารยาวมากๆ)
    55.เหล็กไหลพระธาตุอำพัน
    กายสิทธิ์ของพระอริยเจ้า
    ประวัติการสร้างพระกรุนาดูน เป็นเรื่องที่น่าทึ่ง
    ผู้สร้างนั้นทรงคุณวิเศษ ด้วยอภิญญาสมาบัติ
    และท่านเหล่านั้นทรงฤทธิ์อำนาจ สร้างพระเพื่อสืบพระพุทธศาสนาให้ครบ 5,000 ปี ด้วยจิตศรัทธา
    ในพระพุทธศาสนาจึงหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมากมายมาจัดสร้างพระ หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นก็คือ เหล็กไหลพระธาตุอำพัน ที่ขึ้นปกคลุมพระกรุนาดูน เป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่หาได้ยากยิ่งนัก เป็นการใช้จิตอัญเชิญเหล็กไหลพระธาตุอำพันมาจากอนันตจักรวาล ใช้จิตอำนาจฤทธิ์อภิญญาสมาบัติให้เข้าสู่องค์พระธาตุนาดูน และเข้าไปฝังตัวอยู่ในพระเครื่องนาดูน เป็นที่พักอาศัยสร้างรังแล้วค่อยเจริญงอกโตจนคลุมพระเครื่องนาดูน การรวมธาตุที่เดินทางผ่านห้วงสายธารอันยาวไกล ทำให้พระกรุนาดูนกลายเป็นเนื้อธาตุกายสิทธิ์เหล็กไหลอำพัน (เป็นเรื่องอจินไตยธาตุ) เป็นเหล็กไหลของอริยสงฆ์มากมายในจักรวาล เหมือนอำพัน มองดูเปียกชุ่มชื้น แต่ความจริงเนื้อไม่เปียกเลย จับแล้วจะรู้สึกลื่นมือ มีน้ำหนักเบา บางครั้งมีไอน้ำจับอยู่ที่องค์เหล็กไหลพระธาตุอำพัน และที่แปลกคือ มีลักษณะใสหลายสีในองค์เดียวกัน มีสีขาว สีเขียว สีดำ สีแดง ที่ขึ้นปกคลุมพระกรุนาดูน
    แม้จะเป็นองค์กายสิทธิ์ล้วนๆ ก็จะเห็นเป็นหลายสีสะท้อนแสง มีพรายน้ำ มองคล้ายกระจกเงา เห็นเป็นรุ้ง 7 สี เป็นกายสิทธิ์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ขั้นโลกุตตระธรรม
    56.ตะกรุดหินโบราณ
    รายละเอียด
    ตะกรุดหินโบราณ ของทนสิทธิ์มีฤทธิ์ในตัว เป็นตะกรุดที่ขุดพบในแม่น้ำ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้คร่ำหวอดในวงการธาตุทนสิทธิ์กล่าวว่าเป็นตะกรุดดินในสมัยนั้น ที่นักรบในสมัยก่อนพกพากัน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อสู้กับทับพม่าข้าศึก โดยพระเกจิสมัยนั้น นำดินมาปั้นให้พอดีมือ ปลุกเสกประจุด้วยพุทธาคม แล้วมอบให้นักรบนำไปร้อยห้อยคอ เมื่อเวลาผ่านนานนับร้อยปีพันปีความมีมนต์ขลังของตะกรุดดิน ยังคงรักษาตะกรุดนั้น จนกลายเป็นหิน ตะกรุดหินโบราณนี้คนรุ่นเก่ามีความเชื่อว่า ถ้าใครมีไว้ในบ้านหรือติดตัว จะช่วยปัดเป่าป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ เพราะตะกรุดได้กลายเป็นของทนสิทธิ์ เป็นของอาถรรพณ์มีฤทธิ์ในตัวเอง ผู้ที่มีวิชาอาคมนั้นมักจะนำมาใช้รักษาคนป่วยที่โดนคุณไสย ลมเพลมพัด เป็นที่ยำเกรงแก่ภูตผีปีศาจ เป็นของหายาก
     
  15. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    57.กุหลาบหินทะเลทราย
    Gypsum Desert Roses Stone / ผลึกหินกุหลาบทะเลทราย
    โดย minigemshop · อัพเดทล่าสุดเมื่อ มากกว่าหนึ่งปี
    Gypsum Desert Roses Stone / ผลึกหินกุหลาบทะเลทราย


    ช่วยเรื่องระบบปอด และกระเพาะอาหาร, ให้ความอบอุ่น เพิ่มพลังงาน แก่เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บ จากบาดแผลต่าง ๆ
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------
    กุหลาบหินทะเลทราย เป็นโครงผลึกแบบหนึ่งของสารประเภทยิปซั่ม ซึ่งมักเรียกรวมกันสารโครงผลึกกลุ่มนี้ว่า เซเลไนต์

    คุณสมบัติของเซเลไนต์
    เซเลไนต์เป็นแร่แห่งความสงบ มีคุณสมบัติในการขับไล่พลังงานด้านลบ การครอบครองเซเลไนต์จะช่วยลดความรู้สึกเคร่งเครียด เหนื่อยล้าหรือโกรธเคือง ทำให้จิตใจสงบแน่วแน่ การมีเซเลไนต์ชิ้นใหญ่ประดับไว้ในห้องจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบ หรือการมีเซเลไนต์ไว้ใกล้ๆ เตียงนอนจะช่วยให้บรรยากาศรอบๆ สงบเหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง
    และด้วยสมบัติที่ช่วยเหนี่ยวนำให้สิ่งที่อยู่รอบๆ เกิดความสงบ จึงถูกนำมาใช้ในการทำสมาธิ การถือเซเลไนต์ไว้ในมือขณะทำสมาธิช่วยให้จิตใจสะอาด สงบและแน่วแน่ ช่วยกรองความคิดยึดมั่นถือมั่น เห็นแก่ตัว ความกลัวและความโกรธไปจากจิตใจเราได้ ทั้งยังช่วยเพิ่มการรับรู้ถึงจิตในเบื้องลึกของตนเองและการรับรู้ทางด้านจิตวิญญาณ

    บางคนพบว่า เซเลไนต์ทำให้จิตใจล่องลอยเคว้างคว้าง จึงแนะนำให้ใช้เซเลไนต์ร่วมกับอัญมณีอื่นเพื่อเรียกสติ เปรียบเสมือนการเดินออกสู่ภายนอกโดยมีความรู้สึกว่าเท้ายังสัมผัสพื้นดินอยู่ อัญมณีที่มีคุณสมบัติเหมาะจะใช้ร่วมกับเซเลไนต์ ได้แก่ ออบซิเดียน เฮมาไทต์ เรดแจสเปอร์หรือนิลดำ เป็นต้น

    เนื่องจากคุณสมบัติที่ส่งผลต่อความคิดและจิตวิญญาณ จึงไม่ควรเก็บเซเลไนต์ไว้ไกลตัวหรือตั้งทิ้งไว้เป็นของตกแต่งบ้าน และยิ่งผู้ครอบครองมีความเคารพและเชื่อมั่นในพลังของเซเลไนต์มากเท่าใด ยิ่งทำให้เซเลไนต์แสดงพลังที่ซ่อนอยู่ออกมาได้มากขึ้นเท่านั้น
    58.ธาตุนิพาน-เทวาจุติ
    เป็นธาตุตระกูลเหล็กไหล สิ่งนี้คือ ธาตุที่เหนือธาตุ มองเหมือนหิน เหล็กธรรมดา แต่มีจิตวิญญาณ สามารถสื่อสารได้ถ้าคุณเข้าใจ และเปิดใจ ศรัทธาให้บังเกิด เป็นแร่ต้นธาตุ ที่ไม่ธรรมดา แหล่งอาศัยจะติดกับผนังหน้าผาสูง คนเราเข้าใจว่ากายสิทธิ์เผ่าพันธุ์เหล็กไหลผุๆพังๆ เป็นตัวแร่ที่ตาย ไม่มีชีวิต ไม่มีพลังงานหลงเหลืออยู่ แต่ความจริงเราคิดผิดทั้งหมด กายสิทธิ์ทุกเผ่าพันธุ์ เมื่อตายได้ก็เป็นได้ นี่คือสิ่งที่เรายังไม่เข้าใจ "ธาตุนิพาน-เทวาจุติ" เป็นแร่เหล็กไหลอาถรรพ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนจะมีสีสัน วรรณะแห้งผาก มองเป็นเหล็กผุๆ สีแดงคล้ายสนิม นั่นคือสาเหตุหนึ่งที่เรียก "ธาตุนิพาน" เท่านั้น แต่มีหลายๆประเด็นที่ทำให้ธาตุกำเนิดเกิดขึ้นมาใหม่ดั่งมีชีวิตอีกครั้ง คือ จิตวิญญาณเดิมปฏิสนธิใหม่หรือการพ้นทุกข์ไป เรียก "นิพาน" แล้วบังเกิดดวงจิตวิญญาณระลอกใหม่ เรียก "เทวาจุติ" เทพเทวาจะใช้วิบากกรรมใดๆก็ตาม แต่เมื่อเข้ามาแฝงในธาตุจะบังเกิดธาตุใหม่ รวมธาตุเก่า เดิม เป็นจิตวิญญาณใหม่ สามารถทำให้ธาตุมีฤทธิ์ อำนาจ และหลบซ่อนเร้นตัว ผู้สัมผัสด้านจิตวิญญาณจะเข้าใจดี ส่วนผู้ที่ยังคงติดในรูปลักษณะจะยังไม่เข้ากายสิทธิ์ชนิดนี้ กายสิทธิ์ต้องสื่อสารให้คุณรู้ได้ สามารถจะบอกกล่าวตนเองว่าชื่อเรียงเสียงไรได้ และเมื่อคุณทำสมาธิจิตคุณจะรับรู้ได้ทันที การดูกายสิทธิ์พื้นฐานนี้ ให้ดูความชื้น มีน้ำนวล มองดูเหมือนแร่กำลังไหลไปทั่วก้อนหิน ซึ่งเราจะเห็นว่าบางจุดเป็นสนิมเหล็ก แต่กลับแข็ง มันวาว และจะกลับมาดำเหมือนเดิม น้ำหนักจากเบามาก จนถึงหนักมากๆ ชิ้นนี้คือธาตุเหล็กไหลดั้งเดิมที่พาเราไปพบเจอได้ด้วยนิมิต ทำไมคนเราชอบพูดกันว่า "ตาย" แต่สำหรับธาตุบางชนิดหรือแทบจะทุกชนิดที่เป็นกายสิทธิ์ธาตุที่เหนือธาตุ เมื่อตายได้ก็เป็นได้ และเป็นชื่อที่จิตวิญญาณตั้งขึ้นมาเอง คนเราไม่สามารถที่จะตั้งให้เขาได้ เพราะเขาเป็นกายสิทธิ์โดยแท้จริง อาศัยในโลกธาตุมากโขกว่ามนุษย์ มีจิตวิญญาณ อาถรรพ์จริง หลายท่านแปลกใจ ว่าเหล็กไหลเป็นแบบนี้หรือ
    จิตที่สถิตภายในบอกกล่าวนั่นคือเหล็กไหล เพราะเคยนำไปถวายวัดแล้วท่านมาบอก
    ถ้าสนใจในเรื่องธาตุเหนือธาตุเหล่านี้ เชิญท่านอ่านบทความในเวป arjariyatat : บทความในกระทู้ หัวข้อเหล็กไหลธาตุแห่งความเพ้อฝันสู่ความเป็นจริง ทั้งหมดทั้งมวลที่เกี่ยวกับกายสิทธิ์พิเศษต้นธาตุเหล็กไหลที่นำออกเผยแพร่ในกระทู้นี้ มาจากนิมิตจริงมีสถานที่จริงทั้งสิ้น
    59.ยอดเขาพญามังกร
    สุดยอดทนสิทธิ์ ในตำนาน แหล่งรวมพลังงานทางอำนาจ วาสนาสูง ร้ายกลายเป็นดี เหมือนมีพลังงานของเขามังกรที่จะดึงดูดสิ่งดีเข้ามาหาผู้ครอบครอง และผลักดันสิ่งร้ายออกไป ความเชื่อว่ามังกรเป็นสัตว์แห่งเทพที่มีคุณลักษณะ คุณวิเศษ ในอำนาจ และบารมี ผู้มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของชิ้นหนัง ก็ได้ชื่อว่า มีพลังงานมหาศาลของเทพในตำนาน ยอดเขามังกร คุ้มรักษาตัว ยอดเขามังกรเนื้อแร่เหล็กไหล เป็นการรวมธาตุต่างเผ่าพันธุ์ บางท่านคงคิดว่าเป็นเพียงฟอสซิลอะไรบางอย่าง แต่ลองสัมผัสดูจะมีความรู้สึกถึงสิ่งนี้เป็นจุดรวมพลังชั้นดี การไหลวนของพลังงานบางอย่างบริเวณชิ้นส่วนของเขา โพรงในเขาจะเห็นเป็นฟองน้ำซึ่งแกร่งเป็นหินหลงเหลืออยู่ และสายแร่ธาตุ รวมทั้งพันธุ์เหล็กไหล จึงทำให้เพิ่มพลังอิทธิคุณทวีคูณ เป็นของแปลก ของหายาก (พลิกแผ่นดินหาก็ว่าได้) ความเชื้อในโบราณคนไทยถ้ามีงาช้างหรือโครงกระดูกจะเรียกได้ว่าคนนั้นเป็นผู้มีอำนาจ แต่ถ้าเป็นชาวจีนมังกรเป็นสัตว์เทพที่ทรงพลังอำนาจที่สุด ถ้านำสิ่งที่เชื่อศรัทธาว่าเป็นเขามังกร กะโหลกมังกร หน้าผากมังกร และข้อต่อมังกร มารวมกัน จะให้คุณ ให้อำนาจ วาสนา บารมี มีพลังงานล้ำเลิศที่เพิ่มพูนให้แก่ผู้ครอบครองเป็นเจ้าคนนายคน
    60.แก้วขนเหล็กน้ำใสธรรมชาติ
    โป่งข่าม อ.เถิน มีความเชื่อกันมาช้านานแล้ว ในเรื่องอิทธิคุณ และอานุภาพ โดยเฉพาะแก้วโป่งข่ามที่มีเส้นสีดำทั้งชนิดน้ำตันและน้ำใส แก้วขนเหล็กน้ำใสเป็นแก้วโป่งข่ามที่มีคนรู้จักกันมากที่สุด และมักมีความเชื่อหลักๆ คือแก้วชนิดนี้สามารถป้องกันภูตผีได้เพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแก้วขนเหล็กใสยังมีอิทธิคุณอีกมากมายนานัปการ โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ และเสริมบารมี ให้กับบุคคลที่ครอบครองแก้ว แก้วขนเหล็กมีอำนาจสูงส่งในการคุ้มครอง จากอำนาจลึกลับที่มองไม่เห็น เช่นไสยศาสตร์มนต์ดำต่างๆ ภูตผีปีศาจ ป้องกันคุ้มครองอุบัติภัยทั้งหลายทั้งปวง แก้วขนเหล็กที่จัดให้เป็นแก้วโป่งข่าม ๒๔ ตระกูล ซึ่งตัวของแก้วขนเหล็กมีอยู่หลายชนิด แต่ที่นิยมหามีเพียง ๒ ชนิด คือ แก้วขนเหล็กน้ำใส (ที่เรียกกันว่าแก้วตัวผู้) และแก้วขนเหล็กน้ำตัน (ที่เรียกกันว่าแก้วตัวเมีย) แก้วขนเหล็กทั้ง ๒ ชนิดมีอิทธิคุณที่ไม่แตกต่างกันคือการคุ้มครองภัยที่สูงส่งเสมอกัน แต่แก้วน้ำใสจะเด่นทางตบะเดชะอำนาจ ทำให้คนเกรงกลัว ส่วนแก้วน้ำตันจะเด่นในทางร่มเย็นเป็นสุข เมตตามหานิยม คนโบราณจึงนิยมหามาครอบครองทั้ง ๒ ชนิด เชื่อว่าจะทำให้แก้วมีฤทธิ์อำนาจสมบูรณ์ที่สุด เพราะแก้วขนเหล็กแต่ละชนิดสามารถส่งเสียงที่เราไม่สามารถจะได้ยินเรียกหากันได้ ที่เรียกกันว่าคลื่นความถี่การสั่นสะเทือนบางอย่างออกมาจากตัวแก้วทั้ง ๒ ชนิด การรวมตัวกันของพลังงานบางอย่างที่แผ่ออกมา เช่นผู้ที่มีแก้วขนเหล็กน้ำใสอยู่แล้ว เจตสิกบางดวงที่เป็นตัวรู้ภายในแก้วจะส่งโทรจิตหากัน อาจจะดลจิตใจให้ผู้เป็นเจ้าของหาแก้วมาเพิ่มหรือพบเจอแก้วน้ำตันโดยบังเอิญ อย่างไม่คาดคิดมาก่อน แก้วขนเหล็กน้ำใสเนื้อแก้วจะใส สามารถส่องแสงทะลุผ่านได้ ภายในมักมีเส้นขนดำเป็นเส้นแร่ปรากฏภายใน แบบต่างๆ ลักษณะทะแยงมุม ไขว้สลับไปมา และเส้นขนหมู มากบ้างน้อยบ้าง แก้วขนเหล็กถือกันว่าเป็นแก้วกายสิทธิ์ ที่มีตำนานมาหลายร้อยปี เป็นแก้วที่มีเทวดารักษา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ภายในเนื้อแก้ว เป็นระดับขั้นที่สำเร็จเป็นแก้วทนสิทธิ์ คือคงกระพันนั่นเอง
    61.ไม้ตะเคียนทองพันปี(กลายเป็นแร่เงินแร่ทอง)
    ไม้ตะเคียน หรือ ต้นตะเคียน จัดว่าเป็นไม้มงคลที่หายากมากอีกชนิดหนึ่งเช่นกัน
    ไม้ตะเคียนที่ทางทีมงานของเราขุดพบนั้น โดยมากจะมีอายุตั้งแต่พันปีขึ้นไป
    ทางวัดได้เป็นเจ้าของ และได้นำไม้นั้นมาให้ทางเราแกะสลักอีกครั้งหนึ่ง
    ความศักดิ์สิทธิ์ของไม้ตะเคียนทอง
    1) เป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ มีเทวดา และนางไม้สิงสถิตย์อยู่
    2) เป็นไม้แก้อาถรรพ์ ขับไล่เสนียดจัญไร
    3) เป็นไม้มหามงคลแห่งโชคลาภ ใครมีไว้จะมีกิน มีใช้ ไม่ขาด
    4) เป็นไม้ที่มีอายุหลายพันปี อยู่ใต้ท้องน้ำ พระแม่ธรณีและพระแม่คงคา
    คอยปกปักรักษา
    ไม้ตะเคียนพันปี กลายเป็นหิน เป็นไม้มีอาถรรพ์และสักดิ์สิทธิ์ในตัว หากผู้ใดได้มีไว้ครอบครอง ถือว่ามีบุญญาธิการมาก ส่งผลให้เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน พร้อมด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ โชคลาภเงินทอง แคล้วคลาดปลอดภัย
    ไม้ตะเคียนดำกลายเป็นหินอายุหลายพันล้านปี แข็งแกร่งสวยเข้มดูขลังมีพลังแฝง ขอเลขถ้ามีโชคจะฝันดี โอบอุ้มคุ้มครองแคล้วคลาดกันภัยดี รางสังหรณ์ดี ดลจิตดลใจ หมั่นทำบุญอุทิศแผ่ส่วนกุศลให้นางตะเคียนจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นในชีวิต
     
  16. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    62.กระดูกข้อต่อพญามังกร
    สุดยอดทนสิทธิ์ ในตำนาน ความเชื่อว่ามังกรเป็นสัตว์แห่งเทพที่มีคุณลักษณะ คุณวิเศษ ในอำนาจ และบารมี ผู้มีแม้เพียงหนัง ก็ได้ชื่อว่า มีพลังงานมหาศาลของเทพในตำนาน แร่เหล็กไหล เป็นการรวมธาตุต่างเผ่าพันธุ์ บางท่านคงคิดว่าเป็นเพียงฟอสซิลอะไรบางอย่าง แต่ลองสัมผัสดูจะมีความรู้สึกถึงสิ่งนี้เป็นจุดรวมพลัง จุดรวมจิต การเพ่งพลังรวมมาไว้ที่ ด้านหนึ่งเป็นโครงสร้างของภายใน ร่องประสาทและมีรูพรุนเนื้อกะโหลก อีกด้านเป็นหนังที่กลายเป็นหินแกร่งเป็นคลื่นหลากหลาย และสายแร่ธาตุ รวมทั้งพันธุ์เหล็กไหล จึงทำให้หน้าผากเพิ่มพลังอิทธิคุณทวีคูณ เป็นของแปลก ของหายาก (พลิกแผ่นดินหาก็ว่าได้) ความเชื้อในโบราณคนไทยถ้ามีงาช้างหรือโครงกระดูกจะเรียกได้ว่าคนนั้นเป็นผู้มีอำนาจ แต่ถ้าเป็นชาวจีนมังกรเป็นสัตว์เทพที่ทรงพลังอำนาจที่สุด ถ้านำสิ่งที่เชื่อศรัทธาว่าเป็นเขามังกร กะโหลกมังกร หน้าผากมังกร และข้อต่อมังกร มารวมกัน จะให้คุณ ให้อำนาจ วาสนา บารมี มีพลังงานล้ำเลิศ เป็นเครื่องรางนำโชค ชิ้นขนาดกะทัดรัด โครงสร้างสัตว์ในตำนาน บางท่านนำไปบรรจุอักขระตามความเชื่อ เก็บรักษาให้บรรพบุรุษ
    63.ผงมหาโพธิญาณเป็นผงรวมจากผู้ที่ได้ชื่อว่ามีบารมีโพธิญาณ เช่นผงหลวงปู่ปาน ผงทำพระครูบาเจ้าศรีวิชัย ผงทำพระหลวงพ่อพระราชพรหมญาณวัดท่าซุง ผงรวมมวลสารทำพระหลวงปู่ทวดทุกที่ที่เกี่ยวกับหลวงปู่ทวด ผงรวมทำพระของสมเด็จโตเช่นวัดระฆัง บางขุนพรหม เกศไชโย วัดสะตือ ผงหลวงปู่จันทร์นครพนม ผงมหาจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่และหลวงตาม้า ผงทำพระหลวงปู่ครูบาบุญทา
     
  17. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    เกศาที่ผสมบรรจุในเบี้ย
    ตอบเป็นเกษารวมครูบาอาจารย์ ที่ได้บรรจุในไม้ครูชุดก่อนครับ เอาที่จำได้
    1.หลวงปู่ญาท่านสวน
    2.หลวงปู่สุภา
    3.หลวงตาม้า
    4.หลวงปู่บู่
    5.หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    6.หลวงปู่บุญหนา
    7.หลวงปู่ขาว
    8.หลวงปู่ญาท่านเภา
    9.หลวงปู่เจริญ
    10.หลวงตาวชิรชัย เขาวง(ได้มาใหม่)
    11.หลวงปู่เหมือน
    12.แม่ชีเสี้ยน(หลวงพ่อชา ยกให้เป็นอาจารย์เลย)
    13.หลวงพ่อวิชชา
    14.หลวงปู่เคน
    15.หลวงปู่บุญมา(ลำปาง)
    16.หลวงปู่สำเร็จลุน
    17.หลวงปู่จันทร์
    18.แม่ชีบุญฮู้(ศิษย์ปู่อุ่น)
    19.หลวงพ่อสมควร
    20.หลวงพ่อบุญลือ
    21.หลวงปู่เผย
    22.ผ้าขาวข้องน้อย
    23.หลวงพ่ออิน
    24.หลวงปู่บุญมา(สกลนคร)
    25.หลวงปู่แฟ๊บ
    26.หลวงปู่พัน
    27.หลวงปู่มั่น(บ้านแพง)
    28.หลวงตาแตงอ่อน
    29.หลวงพ่อกัณหา(บ้านแพง)
    30.หลวงปู่สมภาร
    31.หลวงปู่วิไล
    32.หลวงปู่เคน(สว่างแดนดิน)
    33.หลวงปู่เสน
    34.หลวงปู่จันทรา
    35.หลวงปู่ประสาร
    36.หลวงปู่ถวิล
    37.หลวงปู่บุญพิณ
    38.หลวงปู่แปลง
    39.หลวงปู่ไม
    40.หลวงปู่สิงทอง
    41.หลวงปู่สมดา
    42.สมเด็จเกี่ยว
    43.เกษาแม่ชีประทุม
    44.เกษาหลวงปู่บุญศรี(แม่ชีประทุม ท่านได้ไปกราบมา)
    45.เกษาหลวงปู่ประไพ(ศิษย์หลวงปู่ผาง ขอนแก่น)
    แปลกเกษาตัดรวมกัน จับกันเป็นก้อนเดี่ยวกันเลยครับ ถ่ายรูปลงให้ดูครับ เกษาพระอริยะเจ้า
    ต่อพอดีได้มาเพิ่มนิดหน่อยครับ
    46.เกศาหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
    47.เกศาหลวงพ่อหนุน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2014
  18. rs83

    rs83 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    8,671
    ค่าพลัง:
    +20,380
    อ้างอิง

     
  19. ไปคนเดี่ยว

    ไปคนเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6,419
    ค่าพลัง:
    +18,460
    ทั้งมวลสารกว่า 63หรือมากกว่า ตลอดถึงเส้นเกศาอีก 47 ครูบาอาจารย์ ส่วนที่เพิ่มเติมจากของเดิม ในทุกเบี้ยจะบรรจุปรอทชมภูนุชเป็นเม็ดๆในปรอทรวมด้วยครับ
     
  20. flowco

    flowco เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +789
    ชุดนี้พี่ชัยวิท ได้มาช่วยจัดทำไหมครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...