ปู่โสม ให้สมบัติ

ระวังนะคะ ให้นะให้จริง แต่ให้ในแง่ที่เราต้องดูแลอยู่ในความครอบครอง เพราะตัวท่านหมดเวลาแล้วต้องไป จึงหาตัวแทนมารับสมบัติ ท่านให้จริงๆ นะ แต่เราตีความหมายผิดกัน

 

เมื่อประมาณปี 2520 ดิฉันอยู่ ป.5 ได้มีสามี-ภรรยามียศเป็นพระยาอะไรสักอย่างสามีชื่ออะไรจำไม่ได้แต่ภรรยาชื่อแม่มณีซึ่งบอกว่ามีสมบัติให้ดิฉันไปขุดที่ท้ายบ้านติดกันระหว่างที่ดินของที่บ้านและที่ดินของข้างบ้านโดยมีต้นตาลเป็นจุดสังเกตุห่างจากต้นตาล 3 เมตร ดิฉันก็ไปขุดตอนกลางวันพอตอนค่ำก็ให้พี่ชายและพี่สาวไปช่วยขุดด้วยขุดไปประมาณ 1 เมตรก็ได้แค่ถ้วย-ชามที่แตกไม่กี่ใบเลยเลิกขุดพี่ๆหาว่าเราโกหก (ที่ใกล้ๆที่ขุดมีศาลไม้ซึ่งดิฉันมีหน้าที่ให้นำอาหารไปไหว้ทุกวันพระและทำึความสะอาดศาลดิฉันเคยขึ้นไปเช็ดถูบนศาล) แม่มาเห็นยังดุว่าขึ้นไปได้ยังไง
ผ่านมาหลายปีจะมีถนนสี่เลนผ่านที่บ้าน ก็มาบอกให้ไปขุดสมบัติอีกและทำบุญให้เขาและบริวารเขาด้วยให้ไปขุดแล้วเวลา 2 ยามหลังจากเสียงไก่ขันก็จะพบเอง ดิฉันก็ไปบอกพี่ๆ มาช่วยกันขุดเป็นหลุมกลมกว้างประมาณ เมตรกว่าช่วงเกือบค่ำมีเพื่อนบ้านมาถามว่าขุดทำอะไรดิฉันบอกว่าจะขุดทำบ่อน้ำเขาไม่เชื่อและพูดคุยอยู่นานคือคอยดู ขุดไปสักพักพบแจกันสีเขียว 1 คู่ แต่ไม่สมบรูณ์จนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ดิฉันไม่รู้คิดยังไงก็ทำเป็นเสียงไก่ขัน สักพักหลานชายก็ได้สร้อยยาวประมาณ 5-6 นิ้วไม่มีขอคือเหมือนสร้อยที่ขาดพี่ีชายคนโตรีบมาดูและเก็บเอาไว้เองบอกว่าขุดต่อซิคงมีอีกเยอะเหมือนพูดว่าใครขุดได้ต้องนำมาเก็บที่เค้าเพราะเค้าเป็นพี่คนโตและจะแบ่งให้เอง ดิฉันคิดในใจนี่แค่ได้นิดเดียววจะใช่ทองจริงหรือเปล่ายังมีปัญหาถ้าได้มากๆ มิฆ่ากันตายเลยเรอะ (มีพี่น้อง 11 คนดิฉันเป็นคนที่ 10) ดิฉันเลยไม่สนใจเพราะง่วงนอนแล้ว รุ่งเช้าถามว่าได้จะอะไรเพิ่มอีกไหมบอกว่าได้ถ้วย-ชาม 3-4 ใบแตกๆวางอยู่ข้างปากหลุม มีพี่อีกคนได้เหมือนกำไล 1 วงเอาไส่ประเป๋ากางเกงถามเค้าๆบอกว่าไม่ได้่ วันต่อมาขุดเพิ่มอีกไม่ได้อะไรก็เลิกขุด (ที่ดินที่เป็นถนนสี่เลนเกือบไร่ปัจจุบันเหลือที่ดิน 240 ตารางวา ติดโฮมโปรและปั้มแก็ส )แถววัดเลียบ นครราชสีมา

 

ที่ดินที่เหลือเป็นของดิฉัน 60 ตารางวาเมื่อดิฉันอายุ 60 ปีก็จะกลับไปอยู่ถาวร

 

ตอนขุดใหม่ญาติๆก็มาขอดูกันเห็นเก่าๆแตกๆก็ไม่มีใครสนใจไม่ได้เก็บไม่รู้อยู่ไหนแล้ว

 

เรื่องนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับพ่อของเรา คือสมัยก่อนพ่อไปรับจ้างในไร่มันติดกับป่าซึงมีลุงที่รู้จักเป็นเจ้าที่นั้น แล้วตอนเย็นๆพ่อเห็นมีแสงลอยขึนจากป่าแล้วก็ฝันว่ามีคนให้ไปเอาของในที่ตรงนั้น พ่อเลยไปเล่าให้เจ้าของที่ฟังแต่เจ้าของเขาไม่สนใจ คงจะไม่เชื่อด้วย พอดีมีคนจากกรุงเทพมาถามหาซื้อของเก่า ลุงเลยเล่าให้เขาฟัง แล้วบอกเขาว่าถ้าเจอก็ให้เอาไปได้เลย คนนั้นเขาเลยจ้างรถแบคโฮไปขุดก็เจอจริงๆเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่หนึ่งองค์ คนมาหาซื้อของเก่าเขาเลยเอาเอง และพระเครื่ององค์เล็กๆ เขาให้ลุง พ่อก็เลยได้แต่เสียดาย คงจะบุญไม่ถึง

ส่วนที่นาติดกับบ้านพี่เราที่เราเพิ่งซื้อมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้ก็พอดีปีแรกที่แม่เราทำนาเอง พ่อกับพี่สาวเล่าให้ฟังว่า น้องชายไถนาแล้วไถไปกระทบกับกระเบื้องดินเผาเก่าๆที่แตก แล้วไม่น่าเชื่อว่าทำให้เกิดเสียงดังมาก จนคนที่อยู่ไกลๆทำนาอยู่ได้ยืนขึ้นมามองว่ารถไถเป็นอะไรหรือมีอุบัติเหตุอะไรหรือเปล่า ซึ่งร้อยวันพันปีเจ้าของเก่าหรือคนที่ทำนามาก่อนก็ไม่เคยเจอ หลังจากที่เจอพ่อเลยเอามาเก็บไว้หน้าหิ้งพระในบ้าน
ก็มีเจ้าที่ที่นาผืนที่ซื้อมาเข้าแม่ และมาบอกกล่าวว่า,,เป็นเจ้าที่ที่นั่น อยู่ที่นั่นมานานแล้ว แต่ก่อนเพื่อนเยอะ เวลาค่ำๆเขาจะเล่นเพลงเหมือนมโหรีกันสนุกสนาน แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้เพื่อนไปไหนหมด เงียบ และเจ้าที่ก็บอกว่าที่มานี้แค่อยากให้รู้ว่าท่านชื่อนี้ๆแค่มาบอกกล่าวเฉยๆ ทางคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ถามว่าท่านต้องการอะไรหรืออยากให้ยกศาลให้หรือเปล่า ท่านบอกว่าไม่ได้ต้องการอะไร แถมบอกว่าให้คนในบ้านสามัคคีกัน คำพูดตอนที่พ่อกับพี่สาวเล่าให้ฟังมาเราจำไม่ค่อยได้ แต่ความหมายคือ ถ้าคนในบ้านสามัคคีกัน แค่นี้ยังน้อย ต่อไปจะได้เยอะกว่านี้,, แต่ทางครอบครัวเราไม่ค่อยจะรักใคร่สามัคคีกัน มีความเห็นไม่ลงรอยกัน เลยทำให้สามัคคีกันจริงๆไม่ได้สักที ถ้าสามัคคีกันได้เมื่อไหร่ก็จะคอยดูว่าจะจริงเหมือนที่ท่านพูดหรือเปล่า ตอนนี้ก็ภาวนาขอให้ครอบครัวสงบสุข ขอให้พ่อแม่พี่น้องมีจิตใจไปในทางที่ดี เป็นคนดี และกลับมารักใคร่สามัคคีกันเหมือนเดิมเร็วๆ