ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

เหมือนแม่ทัพซ้ายขวา แต่ละคนมีอณาเขต การดูแลต่างกัน

อาจจะเป็นอริกัน แต่รับใช้และภักดี เทพองค์เดียวกัน ราชาคนเดียวกัน

พญานาคกับครุฑ ไม่ได้มีใครเหนือใคร แต่วิถีชีวิต ความคิด ต่างกันทุกอย่าง

ความเป็นอริย่อมเลี่ยงไม่ได้

 

หอแห่งดวงจิตนาคราช ความลับของเหล่านาคราช
เป็นถ้ำที่ผนังถ้าเป็นสีขาวราวกับมุก ขนาดใหญ่ ถ้ำนั้นเพดานสูงมาก เป็นเขตอาคม ห้องแห่งนั้นเต็มไปด้วยลูกแก้ว ลูกแก้วลอยอยู่ราวกับมีชีวิตจิตใจ และมีแสงในตัวเอง บางลูกก็สีทอง บางลูกก็สีรุ้ง บางลูกก็ขาวสว่าง บางทีก็ขยายใหญ่ บางทีก็เล็ก มีผู้ดูแล คือ นาคิณีน้อย เจ้าหญิงนาคราช รูปร่างนางงดงาม นางเป็นผู้มีพลังจิตสูงส่ง ว่ากันว่า บิดาของนางเป็นเทพผู้มีฤทธิ์องค์หนึ่ง นางมีหน้าที่สะสมบุญ และปกป้องลูกแก้วเหล่านั้น
ที่แท้ลูกแก้วนั้น คือ ดวงจิตของนาคที่ขึ้นไปปฏิบัติ สะสมบุญบนโลกมนุษย์ มีแต่เรื่องเล่าของเหล่าเทวพเทวา ที่หมดบุญต้องลงมาจุติ แต่ไม่เคยมีใครเอ่อยถึงพญานาคราช ที่ตั้งจิต ถอดจิตไปแบ่งบุญ สะสมอิทธิฤทธิ์บารมี พญานาคเหล่านี้ เป็นพญานาคชั้นสูง มีถิ่นอาศัย อยู่บนสวรรค์ แต่บางตนก็มาจากนาคที่มีฤทธิ์ ซึ่งเคยมีบุญสัมพันธ์ หรือ กำเน ิดขึ้นเอง เหมือนเหล่าเทพบุตร เทพธิดา ความทรงจำ สัญญาต่างๆ ฤทธิ์ คาถาอาคมที่เรียนมา จะถูกบรรจุในดวงจิตใสนั้น หากนั่งสมาธิกำหนดจิตจนนิ่งพอ เหล่าสายพญานาคมักเห็นนิมิต เป็นดวงแก้วแห่งจิต และมีพลังมากมายมหาศาล อธิบายได้เหมือนกับการแยกร่าง หรือแบ่งจิตมาเกิดเป็นมนุษย์ บางคนก็ได้หูทิพย์ ตาทิพย์ โดยที่ไม่เคยปฏิบัติเลยในชาตินี้ เป็นต้น

 

เจ้าหญิงนาคี ผู้รักษากฏ ผู้ดูแล ผู้เยียวยา เมื่อดวงจิตใด มีแสงหม่นลง หรือ หดเล็กจนเหลือเท่าลูกแก้ว ดวงจิตนั้นจะได้รับการเยียวยา และปกป้อง โดยพลังเทพของนาง
บางทีก็เนรมิตฝัน นิมิตต่างๆ ไม่ให้นาคนั้นหลงทาง ไปจากจิตที่ตั้งใจปฏิบัติเพื่อจะได้หลุดพ้น ... นางเป็นผู้เยียวยา ทำไมต้องคายดวยจิตไว้แปรเป็นลูกแก้ว มีเหตุผลมากมาย ... แต่ไม่อาจบอกได้

 

ขออธิบายต่อ หลังจากเปรียบเทียบไปซะนาน

หินทุกก้อน ต้นไม้ทุกต้น สายลม แสงแดด มีผล พลังงานบวกกับมนุษย์

หินบางก้อน มีพลังงานที่จะปลุกธาตุ พลังในตัวเรา ให้จิตใจมีอำนาจหรือสงบ

เรื่องนี้เป็นศาสตร์สากล ทั่วโลก

ถ้ามีเหล็กไหล มันเหมือนมีตัวชาร์ตแบตมือถือตลอด เหมือนจิตมีพลัง
ชาร์ตไฟเต็ม

หินบางก้อนก็ว่าปกป้องภูติผีได้

บ้างก็ว่ารักษาโรคได้ ทำให้ร่างกายแข็งแรง

คงเหมือนชายไทยใส่พระเครื่อง

 

ขอสารภาพว่า ไม่เคยดูหนังพระนเรศวร จบเรื่อง

มันรู้สึกเครียด เจ็บปวด แค้น เสียงกรีดร้อง วิญญาน

จนต้องหยุดดู ภาพมันเข้ามาในหัว จนล้นปรี่

ภพพระนเรศ เป็นภพที่ใจเรายังเกาะเหนียวแน่นนน

 

เราไม่ได้นอนฝันไปทุกฝันที่เล่า บางทีเมื่อคุยกับบางคน ดูหนังบางเรื่อง
ไปบางสถานที่

เหมือนจิตเราเห็นภาพ ห้วงเวลาในจิต และที่แปลกกว่านั้นคือ ฝันเมื่อตื่นเช้ามาจะลืม
แต่ภาพที่เห็น ฝันของเราแจ่มชัด เหมือนเพิ่งฝันเมื่อกี้

 

เครื่องรู้ภายในระดับใช้งานได้ของคุณดีนะครับ.
ตาก็ดีกว่าปกติครับ. สัมผัสเรื่องพลังงานก็ดี.
แต่คุณทราบไหมครับ ว่าทำไมพวกภูมิที่มีฤิทธิ์ทั้งหลาย
เค้าถึงไม่ให้ความเคารพและเกรงใจคุณครับ.
จริงๆย้อนไปดูที่เขียนก่อนหน้าให้ดีๆนะครับ
ถ้ากลุ่มที่คุณมองว่าเป็นเพียงแค่ก้อนหิน
เค้าจะทำให้พวกอภิญญาจิตภายในสัมผัส
พลังงานได้จิตไวแบบคุณกลับเค้าร่างไม่ได้มันง่ายมาก
สำหรับพวกเค้าครับ.ต่อให้คุณมีอาวุธพิเศษที่เป็นแก้วติดตัวมา
หรือคุณจะเล่นหรือรวมกสิณได้ทั้ง ๑๐ กอง
มีความสามารถเชื่อมองค์ความรู้ได้ทั้งจักรวาลคุณ
ก็ไม่ใช่คู่ต่อเค้าครับ. คุณยังไม่ผ่านบางด่าน
และแนวทางเดินในการใช้ชีวิตของคุณนั้นยังไม่ถึงขั้น
ที่เค้าจะมาทดสอบและให้ความเกรงใจคุณครับ. เพราะฉนั้นเล่าเฉพาะที่เห็นในฝัน
ไม่เคยปะชะดะ กับภูมินั้นมาก่อน. อย่าคิดเอาเองว่าไม่มีอะไรนะครับ
พวกนั้นเค้ามาเพราะมีศรัทธาในผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพ ชำนาญการรบ
แต่รักอิสระและความสงบครับ
ปล.แค่เพียงแต่เล่าความฝันให้ฟังครับ

 

เราในชาตินี้ ไม่ได้มีธาตุกายสิทธิ์ หรืออะไรมากมายตามที่ท่านว่า
ไม่เคยเรียนเวทย์ มนต์ คาถา ไม่เคยมีกสิณ
แค่คนชอบเล่าเรื่อง และชอบความสงบที่สุด
เราก็เฉยๆ ที่ภพอื่นจะไม่เคารพเรา เพราะเราก็แค่คนนึง ที่ล่องลอยไป
เพื่อค้นหาหนทางออกจากวัฏสงสาร

แต่ขอบคุณท่านที่เตือนสติ

ขออธิบายอีกนิด ว่าเราบังคับฝันไม่ได้ เมื่อจิตหลับไหล มันก็ไปของมันเอง

เคยมีบางครั้งที่กายเจ็บเหมือนกับที่โดนในฝัน..ด้วยซ้ำ

หากท่านมีข้อชี้แนะ ก็ขอบพระคุณค่ะ

ป.ล.ก็แค่ผญ ตุ้ยนุ้ย คนนึง ถ้าท่านพบตัวจริงของเราคงจะขำเลยทีเดียว

สงสัยประโยคนสุดท้ายค่ะ

พวกนั้นเค้ามาเพราะมีศรัทธาในผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพ ชำนาญการรบ
แต่รักอิสระและความสงบครับ

 

..ขออนุญาต ถามคำถามค้างคาใจ จากการปฏิบัติ...
..คำถามคือ..
."พระนิพพาน" (พระ ที่อยู่ ณ แดนนิพพาน)
.. เป็นแบบ นั่งเก้าอี้ ทรงเครื่องจักรพรรดิ์ แบบทางสาย มโนมยิทธิ..
หรือ. เป็นแบบ พระแก้วใส นั่งสมาธิ เกตุบัวตูม แบบวิชชาธรรมกาย..
....ตกลงว่า แดนนิพพาน ของ 2 วิชชานี้ เหมือนกันหรือไม่ ? อย่างไร ? จงอธิบาย (๕ คะแนน)

 

ตอบแบบเฉไฉไร้ความจริงใจในกระแสจิตอย่างนี้นะครับ
ผมไม่แปลกใจหรอกครับ บวกกับคำถามแบบที่ไม่น่าถามกลับ
เห้อ!!! พยายามอ่านดีๆอีกรอบนะครับคุณ
จะไม่พูดอีกแล้วนะครับ..
ถ้าไม่มาเบรคให้คุณฉุกคิดก่อนที่คุณ
จะพูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่ ๓ บอกได้เลยว่าชาตินี้ดวงจิตคุณหมดสิทธิ์ที่จะพ้น
ล้านเปอร์เซนต์ครับ
และถ้าอ่านดีๆจะพบว่าพยายามจะสื่อ
ให้พิจารณาก่อนที่จะด่วนสรุปในบางประเด็น
เท่านั้นเองครับคุณ..เพราะบางครั้งเราก็อาจจะคาดไม่ถึงผลที่จะเกิด
กับตัวเอง.ส่วนตัวมีประสบการณ์มาก่อนจึงมาเขียนเพื่อเตือนคุณ
เพื่อคุณจะคิดได้..เพราะมันจะส่งผลทำให้เราไม่พ้นแน่ๆในชาติ
นี้ครับ.เพราะตอนคุณใกล้จะตาย เค้าจะรวมกันมาเยี่ยมคุณเด่วเอาไว้พิสูจน์
ดูก็ได้นะครับ..อย่างมากก็กลับไปอยู่กับสหายเก่าๆคุณเด่วก็ต้องลงมาเกิดอีก
อย่างที่เราอาจจะไม่รู้ตัวนั่นเองครับ..
และถ้าอ่านใหม่อีกรอบ
และตีความดีๆ..คุณจะเข้าใจที่สื่อ.คุณจะไม่งงคุณจะไม่สงสัย
ประโยคที่คุณถามครับ.เพราะอะไรรู้ไหมคุณถึงถาม
เพราะคุณยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพวกเค้าเลย
ยังไงครับและก็ด่วนสรุปเอาเอง.และก็ยังไม่มีประสบการณ์กับพวก
ที่อยู่ในกายสิทธิบางกลุ่ม.และคุณก็ไม่รู้ว่าจริงๆเค้ามีสัมพันธ์อย่างไร
กับภูมิอื่นๆที่คุณเล่าในกระทู้นี้อย่างไรด้วยครับ....
คุณถึงมองว่าเป็นเพียงก้อนหิน และก็ไปเน้นอีกภูมิ.
ที่มันมีสัญญาในจิตคุณแรงกว่า..
.ผมถึงบอกว่าพวกภูมิมีฤิทธิ์เค้าถึงไม่เคารพ
และเกรงใจคุณยังไงนั่นหละครับ.
เพราะคุณไม่รู้เรื่องภูมิมีฤิทธิ์พวกนี้
แล้วก็สรุปเองเองตามความคิดตนเอง....

และอีกอย่าง คำว่า ''ต่อให้''ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้คุณจะทำได้
แต่หมายความว่าถ้าคุณสามารถทำได้ในอนาคต.และ
และไม่ได้บอกว่าคุณ มีธาตุกายสิทธิ์.คุณอ่านจากตรงไหนครับ
. คุณไม่ต้องพูดอะไรมากหรอกครับ
พวกนั้นเค้าไม่มาอยู่กับคุณหรอกครับ..
และไม่ได้ว่าคุณเรียนโน้นเรียนนี่มันคนละประเด็น.
คุณไม่ต้องบอกก็จับกระแสจิตคุณได้ ตามที่เขียนนั้นหละครับ
และเพียงแต่บอกว่าต่อให้คุณฝึกจนมีกสิณ ๑๐ กองหรือมีอาวุธอะไร..
คุณก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้เค้าครับ เพราะฉนั้นอย่าหลงและเบี่ยงเบนประเด็น
และอย่าพึ่งรีบด่วนสรุป
เอาว่าเป็นแค่ก้อนหินเข้าใจที่พูดนะครับ..
.เพราะฉนั้นตีความดีๆ
ถ้าคุณยังไม่เข้าใจที่ผมสื่ออีก..
ก็แสดงว่าการเขียนภาษาไทยของผม
มันคงยังไม่ดีพอคุณเลยอ่านไม่รู้เรื่อง.ก็ต้องขออภัยนะครับ..
ปล.อ่านดีๆก่อนจะตอบเนาะ..
และตุ๋ยนุ้ย มันเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวกับที่จะสื่อ
ขอบคุณที่เล่า่ให้ฟังครับ..ขอบคุณมากครับ..

 

ผมมีความฝันสองสถานที่ ที่อยากไปอิกในความฝันนะครับ ขอเล่าบ้างนะครับ
1.ฝันว่าไปพบเจอวัดหนึ่งมีลำธารไหลผ่านบริเวณวัดมีหาดทราย น้ำใสมาก มีชาวบ้านมาเล่นน้ำเดินเที่ยวริมชายหาด ซึ่งเป็นวัดกลางหุบเขา ทางไปวัดลำบากมากแต่ผมก็ไปถึงจนได้ เมื่อผมเดินเข้าไปในบริเวณวัด ก็มีพระรูปหนึ่งเรียกผมเข้าไปพบ และก็มอบพระให้ผมมาสามองค์ บอกผมว่าเป็นพระรุ่นแรกของวัดที่นี้โดยความดีใจที่ได้รับพระมา ก็ได้ตื่นจากความฝัน เป็นความฝันที่มีความสุขมากๆ
2.สถานที่แห่งนี้แตกต่างจากสถานที่แห่งแรกอย่างสิ้นเชิง เป็นสถานที่แบบทะเลทรายแต่ไม่ได้ร้อน มีสามศาสนสถาน อยู่บริเวณเดียวกัน พุทธ อิสลาม คริสต์ แต่ละสถานที่สร้างแบบไหญ่โตอลังการสวยงามมากและคนทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นสามารถเดินทะลุถึงกันได้ไม่มีแบ่งแยกศาสนา อยู่กันมีแบบความสุข และนี้ก็เป็นความฝันที่ผมอยากฝันอิก
ขออภัยหากการพิมพ์เรียงความไม่ค่อยถูกต้อง
ขอขอบคุณครับ

 

ทำไมต้องมีอธิบาย แล้วให้คะแนนคะ ???
ข้อ1 ตามความเข้าใจของเราเอง พระนิพพานไม่มี ไม่รูปร่างมีแต่ดวงจิต
ข้อ2 สิ่งที่พูดทั้ง 2 สาย คือดวงจิตของพรหม
ข้อ3 เราเคยเห็นแต่แบบพระแก้วใสนั่งสมาธิเกตุบัวตูม

ป.ล.ไม่ได้แปลว่าไปเห็นแดนนิพพาน แต่เคยเห็น ตอนแรกเป็นดวงสีขาวเล็ก แล้วก็ขยายอย่างรวดเร็วเป็นพระแก้วใส ขนาดใหญ่ แต่นั่งอยู่บนดอกบัวแก้ว แล้วหดเล็กลงขนาดพระขนาดเท่าคน ลอยนิ่งเบื้องหน้าเรา แล้วจิตก็สงบไปซักพักหนึ่ง

สอบตกหรือไม่ไม่รู้ ตอบผิดหมดก็ไม่รู้ เพราะเป็นเพียงคนปกติ ที่จิตใจใฝ่ธรรมะ

ป.ล. 2 รู้สึกเหมือนโดนพระอาจารย์ สอบอารมณ์

 

..ออ ขอบคุณครับ..
.เพื่อไม่ให้บรรยากาศ ตรึงเครียด 555.
.อ่านทุกๆ ความคิดเห็น แล้วได้ความรู้ มากมาย ครับ

 

ขอโทษที่ตอบอย่าไงที่คุณเรียกว่าไม่จริงใจ แต่สำหรับเรานั้น ขอใช้คำว่า

เลี่ยงบาลีแทน

ธาตุกายสิทธิ์ วัชรธาตุ ไม่ใช่หิน (ตามที่ท่านกล่าวทุกประการ
และขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย)

ธาตุกายสิทธิ์หรือวัชรธาตุ มีเหตุให้เกิดหลายประการ

อธิบายแล้วคงต้องอธิบายย้อนๆๆไปหลายตลบ

โลกเรานี้ มีธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

เป็นพื้นฐานของเวทย์ มนต์ และความเข้าใจเรื่องการเกิดดับ

ก่อนหน้านี้มีคำถามที่เราได้เขียนกล่าวถึงฤาษี ที่อยู่มาหลายกัปหลายกัลป์

คนเรานั้นเข้าใจว่าการคงอยู่นั้น ต้องอาศัยร่างกาย ไม่มีร่างกายก็คือตาย

ที่แท้แค่ธาตุที่มาประชุมกันเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังอยู่ คือจิต

อธิบายลงไปอีกว่าจิต สามารถแยกได้ หลายที่ในเวลาเดียวกัน ในหลายภพ

อธิบายต่อไปอีก เช่น เรื่องลูกแก้วพญานาคที่คาย เป็นดวงจิต และกายเนื้อสลายไป

และความเป็นอมตะ ของการดำรงอยู่ของธาตุ ตามตำนานก็มีเพียงเทพเท่านั้น

ฤาษีบางตน เมื่อปฏิบัติจนนาน แต่ไม่สามารถดำรง หรือ ประชุมธาตุ หรือ เบื่อหน่ายธาตุขันธ์ ก็ย้ายดวงจิตและสัญญาออกไป กลายเป็นวัชรธาตุ
(ส่วนมากเป็นเหล็กไหล)

วัชรธาตุบ้างก็เกิดจากมีเทวดามารักษา เช่น พระธาตุต่างๆ มีฤทธิ์มากเช่นจิตของเทพ

พระสมเด็จ คือ การอัญเชิญเทพมารักษา เหมือนเชิญเทพมาคุ้มครองดูแล
คุณค่าจึงอเนกอนันต์ ราวกับมีเทวดาประจำตัวเพิ่ม
คนที่ได้ครอบครอง ย่อมระลึกถึงกระแสเย็น ดึงดูดแต่เรื่องอันเป็นมงคล
ดึงดูดให้พบคนดี ตามกระแสของเทวดาที่รักษา
ยิ่งคนฝึกมโนมยิทธิ ยิ่งทำให้มีอำนาจแบบก้าวกระโดด
ทั้งทางสมาธิ และฤทธิ์ทางใจ

การเขียนเรื่องนี้เราค่อนข้างลำบากใจ ดูมันเกินตัวไป และอาจทำให้คนคิด
ไปต่างๆ ว่าเราอวดอุตริ หรือขี้โม้ แต่เราก็ขอย้ำว่า เป็นความเชื่อส่วนตน

แต่ของเช่นนี้ เคยทำให้เกิดความเศร้าและความทุกข์จากความโลภ มาหลายยุค หลายสมัย หลายภพ

ขอโทษอีกครั้งที่ใช้คำว่าหิน กับภพภูมิเหล่านั้น

อย่างที่ท่านกล่าว จะทำให้เรากลับร่างไม่ได้นั้นง่าย

และเราก็ขอกล่าวอีกครั้งก่อนมาที่เวปพลังจิต เมื่อก่อนเราก็แวะมาบ้าง

มาอ่านหาความรู้ แต่ไม่ค่อยกล้าแสดงความเห็น

เพราะหลังจากอ่านบางกระทู้ รู้สึกราวกับที่นี่เป็นแค่สนามประลอง

จนเรากลัว...

 

....ในก้อนหิน ก้อนหนึ่งๆ ที่มีความพิเศษ
..หรือในผลึก อัญมณี มรกต ทับทิม เพชร พลอย บุษราคัม เหล็กไหล..
...จะมีกายสิทธิ์ อยู่กัน น้อย -/ มาก ต่างกันไป
บ้างก็อยู่กันเป็น หมู่บ้าน กันเลยทีเดียว ..555
เป็นครอบครัวใหญ่ เป็นหมู่คณะใหญ่
เป็นฤาษีก็มี เป็นเทวดา เป็นพรหม ก็มี
...มันเป็นความหลากหลาย เป็นความวิจิตร ของ โลกธาตุ นี้..

..ชิมิ ชิมิ...
..รอผู้รู้มาอธิบายให้ฟัง ต่อไป.....

 

ขอบคุณท่านที่มาแลกประสบการณ์

ขออนุญาต แสดงความเห็น ฝันแรก เป็นปริศนาธรรม
ขอให้ถึงพร้อมได้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
คือสวดมนต์ ไหว้พระ ศึกษาพระไตรปิฏก เคารพพระสงฆ์ด้วยใจ
จงสิ้นความสงสัย และข้อกังขาในพระสงฆ์ ถึงแม้พระสงฆ์สมัยนี้จะมีข่าวมากมาย แต่ครูบาอาจารย์พระปฏิบัติก็ยังมีอยู่มาก

 

ขอเสริมอีกนิด

เรื่องแดนฤาษีที่เคยกล่าวว่า ถ้ำบางถ้ำ ชาวบังบัดไม่กล้าเข้า เพราะเป็นถ้ำเหล็กไหล ที่เกิดจากฤาษี อยู่กันเป็นหมู่คณะ เป็นก๊ก เป็นเหล่า ธาตุเหล่านั้น ไหลไปได้ เช่นเห็นอยู่ตรงนี้ จะตัดกลับบ้าน ท่านก็ไหลไปอีกที่ ตัดมาก็ตัดได้แค่ก้อนหิน

ส่วนธาตุกายสิทธิ์ที่มีเทวดาชั้นสูงอยู่ เช่น พรหม ก็เป็นของวิเศษประจำเมืองของโลกทิพย์ต่างๆ

บ้างก็มีวิมานอยู่ในธาตุ พิศดารเกินจิตมนุษย์รับได้

พระธาตุเสด็จ มาเพิ่มขึ้น ความเข้าใจ เทวดาชวนเพื่อนมาอยู่

รอท่านผู้รู้อธิบายต่อไป

 

จากนี้ขอเล่าเรื่องยุคพระนเรศที่เคยฝันถึง

ขอเล่าเรื่องยุคนี้ก่อนกลับไปที่ภพภูมิ

เพราะต้องใช้สมาธิ สติ กำลังใจอย่างมาก

ก่อนเล่าเมื่อคืนเรารู้สึกบางอย่าง คือ นอนอยู่ แล้วตัวกระตุกขึ้นมาทั้งตัว
เหมือนโดนช็อตไฟฟ้า แต่จุดที่รวม อยู่ที่ลิ้นปี่ เราเหนื่อยมากวันนี้

 

อยากฟังเรื่องราวจาก คุณ center-in-center ครับ ดูเหมือนกับเคยไปเที่ยวมาเลยถึงได้รู้ว่าอยู่กันอย่างไร เล่าให้ฟังบ้างนะครับ ผมเองก็สะสมหินสีอยู่บ้าง เพราะสนใจเรื่องหินบำบัด และเรื่องจักรพรรดิ กายสิทธิ์มานานแล้ว

 

ไม่ชอบเรื่องรบ แต่บางทีก็คิดจับดาบ ...(เอาเรื่องสบายๆงะคะ จะได้ไม่เครียดจนเกินไป)