ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เขียน ๒๒.๒๕

    แหม..แจ๋วกว่าคำใบ้หวยที่หน้า ๑๙๑ เบอร์ ๓๘๑๑ ซะอีกแฮะ
    คำใบ้ในรูปนั้น ต้องลบศูนย์ที่ไม่มีค่าทิ้ง แล้วยังต้องเพิ่มอีกหนึ่ง
    ถึงจะถูก สองตัวบนที่ออก ๘๖ อีกนะ เนอะ จะมีใครถูกบ้างไม๊น๊า
    ไอ้เราก็เห็นนะ แต่ไม่อยากเล่นหวย เราจะเอารางวัลใหญ่ๆ เท่านั้น หึหึหึ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / เงินดีงานเดิน เงินเกินงานวิ่ง

    .
     
  2. EMILY CHE

    EMILY CHE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +191
    ร่วมทำบุญ จำนวน500 บาท
    โอนเมื่อ 08/03/2016 เวลา 09:39
     
  3. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ทุกคนรอคอยคำสั่งเจ้าหอหน้า พระพักตร์นั้นดุดันมาก นัยน์ตาวาวโรจน์ ราวกับเสือจ้องเหยือ สิงห์นั้นคิดเพียงว่า ท่านคงโมโหโกรธาพวกกบฏ และโดนลอบสังหาร

    แต่แท้จริงในใจของพระองค์นั้น ล้ำลึกกว่านั้นมาก พระองค์ไม่ตรัสใดๆ ทรงกระชากม้า และควบไป โดยไม่รอการจัดกระบวนม้า พวกท่านขุน เหล่าราชองครักษ์รีบควบม้าตามแทบไม่ทัร แต่พระอนุชา กลับชักม้ามาคู่กับสิงห์ และควบไปด้วยกันที่ด้านหลังแทน

    สิงห์หันไปสบพระเนตร ในดวงพระเนตรของพระอนุชา แฝงไว้ด้วยความกังวล

    .... แล้วทุกคนก็ควบม้าห้อตะบึงไปในราตรี ที่มืดสนิทลงเรื่อยๆ
     
  4. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ควบม้าไป จนเกือบรุ่งสาง ควบกันเกือบทั้งคืน จนสิงห์ทนไม่ได้ หันไปตะโกนกับพระอนุชา "ม้าล้าเต็มกลืน เจ้าพี่ เราต้องพัก" พระอนุชาพยักหน้า แล้วควบม้าขึ้นไปคู่กับเจ้าหอหน้า แต่ที่สิงห์เห็นผิดสังเกตุ คือ พวกเหล่าราชองครักษ์ ควบม้าเว้นที่ห่างไว้เกือบศอก จากม้าของเจ้าหอหน้า เมื่อพระอนุชาควบม้าจนเกือบเอื้อมไปแตะพระองค์ได้

    เจ้าหอหน้ากลับชักม้าเฉียงออก แล้วหยุดแบบกระทันหัน ทำเอาม้าที่พระอนุชาหยุดไม่ทันเตลิดเลยไปไม่ทันได้แตะตัวพระองค์

    ส่วนม้าของพวกขุนพลองครักษ์ ก็โดนบังคับให้หยุดกระทันหัน เลยเสียจังหวะ ม้าเปะปะชนกันเอง

    ส่วนพวกสิงห์ที่ตามมา ก็หยุดม้าไม่ทัน ชนกับม้าของพวกท่านขุน

    รู้สึกถึงสายตาที่มองมา ทุกคนหันไป เจ้าหอหน้าชักม้าขึ้นไปบนเนินดินเตี้ยๆ

    สายพระเนตรหรีลง ปากเม้ม มุมปากุงุ้มลง
     
  5. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    " ตั้งค่าย " คำเดียวสั้นๆ จากพระสุรเสียง ท่านขุนต่างก็รู้หน้าที่ รีบจุดไฟ พักม้า
    จัดเตรียมอาหาร แม้แต่พระอนุชาก็ไม่กล้าดำเนินไปคู่กับเจ้าหอหน้าที่อยู่ยนหลังม้าบนเนิน

    พวกขุนพลทั้งหลาย นำผ้าแพรมาปูรอพระองค์ ใต้ร่มม้าริมทาง กลางผืนดินนั้น
    ไฟกองเล็กติดขึ้น ให้แสงสว่างในยามไกล้รุ่ง

    ซักครู่ ทรงดำเนินลงจากหลังม้า มายืนอยู่ที่ท่านขุนพลทั้งหลาย ที่ตอนนี้นั่งประนมมือ
    รอฟังพระดำรัส
     
  6. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    พวกมึง มึง มึง มึง ทรงชี้หน้า ท่านขุนทั้งหลาย
    มึงทำอันใด มึงรู้มั้ย หากนี่เป็นศึกจริง หัวกูคงไม่ได้อยู่บนบ่า

    ความผิดพวกมึง วันนี้ จักต้องประหารเจ็ดชั่วโคตร

    ฟังพระสุรเสียงอันดุดัน สิงห์ เข้ม ทอง ได้แต่กลืนน้ำลาย

    พวกมึงร่ำเรียนจนเจนจบ อันตำราพิชัยสงครามชั้นสูง อันเมตตาของกู
    บัดนี้ สรรพวิชาใดของพวกมึง หาได้ช่วยให้มึงช่วยเหลือกูได้ ในการศึกสงครามแล้ว
    ชีวิตมึงหรือ ชีวิตแม่ทัพ ที่สำคัญ

    มึงผู้ใด จักตอบกูได้ไม่
     
  7. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    แล้วพระองค์ จึงทรงพระราชดำรัส ตำราพิชัยสงคราม ความว่า

    กลหนึ่งลักษณส้อนเงื่อน เตือนกำหนดกฎหมายตรา แยกปีกกาอยู่สรรพ นับทหารผู้แกล้ว
    แล้วกำหนดจงคง แต่งให้ยงยั่งเย้า ลากศึกเข้าในกล แต่งคนแต่งช้างม้า
    เรียงหน้าหลังโจเจ รบโยเยแล้วหนี ศึกติดตีตามติด สมความคิดพาดฆ้องไชย
    ยกพลในสองข้าง ยกช้างม้ากระทบ ยอหลังรบสองข้าง จึ่งบ่ายช้างอันหนี
    คระวีอาวุทธโห่ร้อง สำทับก้องสำคัญ ยืนยันรบทั้งสี่ คลี่พลออกโดยสั่ง
    สัตรูตั้งพังฉิบหาย อุบายศึกนี้ ชื่อว่าลักษณซ่อนเงื่อนฯ”
     
  8. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ศึกเพียงเท่านี้ ยังเพลี่ยงพล้ำ กูเหมือนกรำศึกอยู่ผู้เดียว เหลียวหาใครไม่เห็น
    ม้าแตกกระบวน กระบวนทัพก็ไม่มี

    ยังไม่มีใครฉุกใจคิดได้ ไม่มีใครทันกล กูจักวางใจ ให้น้ำหน้าอย่างพวกมึง
    ไปเป็นแม่ทัพนายกองได้เยี่ยงไร

    มึงรู้มั้ย การสงครามไม่ใช่การละคร การอยู่การตายของแม่ทัพ คือการอยู่การตายของทัพ ขาดแม่ทัพ ทัพย่อมแตกพ่าย ความโทษ อันหนักของพวกมึงมิใช่เพียงเท่านี้ นอกจากกูจะหาใครไม่เห็นหัว บัดนั้น น้องกูยังตกในวงล้อมศตรูหมู่พาล

    หากวันนี้เป็นทัพเรือนหมื่นเรือนแสน มึงปล่อยให้แม่ทัพโดนล้อม มึงปล่อยให้รองแม่ทัพ ตัดขาดสิ้นจากทัพ กูอยากรู้น้ำใจมึงนักว่า จะให้กูกระอักออกมาเป็นเลือด จึงจะสาสมใจกับที่ต้องมองพวกมัน ลูกศิษย์ที่กูฝึกมากับมือ เพลี่ยงพล้ำได้ถึงเพียงนี้

    มึงต้องให้กูรอให้ไอ้ขุนสิงห์ แหกมาช่วยกู หากไอ้สิงห์เอาม้ามารับกูไม่ทัน กูต้องตกลงแม่พระธรณี กูจักดพลี่ยงพล้ำเยี่ยงไร

    กูแค้นใจนัก กูออกจากวังอย่างลับๆ ยังมิได้พ้นเขต กูก็โดนซุ่มเสียแล้ว

    กูควรจักเก็บหัวพวกมึงไว้ หรือกูควรประหารพวกมึงเสียเอง
     
  9. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    "ขุนสิงห์ มึงจงออกมานั่งข้างๆ กู" สิงห์รีบคลานเข่าเข้าไป อยู่ด้านขวาของพระบาท

    "มึงจงร่าย ตำราพิชัยสงคราม 21 กล ให้พวกมันฟัง บัดเดี๋ยวนี้"

    ขุนสิงห์ก้มลงกราบแม่พระธรณี สูดลมหายใจ นึกถึงครูบาอาจารย์ที่เคารพ แล้วเริ่มร่ายกล(พิชัยสงคราม)

    “กลศึกอันหนึ่ง ชื่อว่าฤทธีนั้น ซั้นทะนงองค์อาจ ผกผาดกล่าวเริงแรง
    สำแดงแก่ข้าแกล้วหาร ชวนทำการสอนสาตร อาจเอาบ้านเอาเมือง ชำนาญเนืองณรงค์
    ยงใจผู้ใจคน อาษาเจ้าตนทุกค่ำเช้า จงหมั่นเฝ้าอย่าคลา ภักตราชื่นเทียมจันทร์
    ทำโดยธรรม์จงภักดิ์ บันเทิงศักดิจงสูง จูงพระยศยิ่งหล้า กลศึกนี้ชื่อว่า ฤทธีฯ”

    “กลหนึ่งชื่อว่าสีหจักร ให้บริรักษพวกพล ดูกำลังตนกำลังท่าน คิดคเนการแม่นหมาย
    ยกย้ายพลเดียรดาษ พาษไคลคลี่กรรกง ตั้งพลลงเป็นทิศ สถิตรช้างม้าอย่าไหว
    ตั้งพระพลาไชยจงสรรพ จงตั้งทับโดยสาตร ฝังนพบาทตรีโกณ ให้ฟังโหรอันแม่น
    แกว่นรู้หลักหมีคลาด ให้ผู้องอาจทะลวงฟัน ให้ศึกผันแพ้พ่าย ย้ายพลใหญ่ให้ไหว
    ไสพลศึกให้หนี กลศึกอันนี้ชื่อว่า สีหจักรฯ”

    “กลหนึ่งลักษณส้อนเงื่อน เตือนกำหนดกฎหมายตรา แยกปีกกาอยู่สรรพ นับทหารผู้แกล้ว
    แล้วกำหนดจงคง แต่งให้ยงยั่งเย้า ลากศึกเข้าในกล แต่งคนแต่งช้างม้า
    เรียงหน้าหลังโจเจ รบโยเยแล้วหนี ศึกติดตีตามติด สมความคิดพาดฆ้องไชย
    ยกพลในสองข้าง ยกช้างม้ากระทบ ยอหลังรบสองข้าง จึ่งบ่ายช้างอันหนี
    คระวีอาวุทธโห่ร้อง สำทับก้องสำคัญ ยืนยันรบทั้งสี่ คลี่พลออกโดยสั่ง
    สัตรูตั้งพังฉิบหาย อุบายศึกนี้ ชื่อว่าลักษณซ่อนเงื่อนฯ”

    “กลหนึ่งชื่อว่าเถื่อนกำบัง รั้งรบพลตนน้อย ชัดคนคล้อยแฝงป่า แต่งพลหล้าแล่นวง
    ทั้งกงนอกกงใน ไว้ช้างม้าให้แฝง แทงให้ร้องทรหึง มี่อึงฆ้องกลองไชย
    ไว้ให้เสียงสำทับ ปืนไฟกับธนู น่าไม้กรูกันมา ดาบถะลวงฟันดาหน้า
    ประดังช้างม้าเรี่ยชายไพร ลูกหาบในป่าโห่ เกราะเสโลห์นี่นั่น ให้ศึกงันร่าถอย
    ครั้นศึกคล้อยเหนผู้ห้าว กลเสือคราวครึมป่า แล้วออกล่าเเล่นฉาว ทำสำหาวซ่อนเล็บ
    เกบแต่เตียนกินรก ลอบฉวยฉกเอาจงเนือง ให้ศึกเคืองใจหมอง คลองยุบนดังนี้
    ชื่อว่าเถื่อนกำบังฯ”

    “กลนี้ชื่อพังภูผา แม้ศึกมาปะทะ อย่าเพ่อระเริงแรง สำแดงดุจเหนน้อย
    ชักคล้อยแฝงป่าเข้า ศึกเหนเราดูถูก ผูกช้างม้าออกไล่ ยอพลใหญ่กระทบ
    ผิรบเข้าบอไหว ให้ช้างม้าโรมรุม กลุ้มกันหักอย่าคลา อย่าช้าเร่งรุมตี
    ศึกแล่นหนีตามต่อย ให้ยับย่อยพรายพรัด ตัดเอาหัวโห่เล่น เต้นเริงรำสำแดงหาร
    ให้ศึกคร้านคร้ามกลัว ระรั้วระเสิดสัง กลศึกอันนี้ ชื่อว่าพังภูผาฯ”

    “กลหนึ่งชื่อว่าม้ากินสวน ให้หาผู้ควนหารห้าว ลาดเอาเย่าเอาเรือน บ้านถิ่นเถื่อนอยู่ใกล้
    จับกุมได้เอามา นานาเลศเทศกาล ปันพนักงานจงขาด ปรนไปลาดเนืองเนือง
    ให้ศึกเคืองใจแค้น แม้นจะอยู่บมีสุข บุกขับกับทุกเดือน เตือนใจตื่นไปมา
    กลขับปลาให้ห้อม ด้อมดักสักสุ่มเอา ให้ศึกเหงาใจถอย ค่อยเก็บนอกเข้ามา
    ให้ระอาใจอ่อน ผ่อนผู้คนให้หนี กลอนกล่าวกลศึกนี้ ชื่อว่าม้ากินสวนฯ”


    “กลศึกอันหนึ่ง ชื่อว่าพวนเรือโยง ประดุจผะโองปืนตาล ทำจงหวานแช่มชื่น
    ผูกเปนมิตรไมตรี สิ่งใดดียกให้ ละไลต่ออย่าเสีย แต่งลูกเมียให้สนิจ
    ติดต่อตั้งยังกล ยุบลช้างเถื่อนตามทั้งโขลง โยงเบ็ดราวคร่าวเหยื่อกาม ค่อยลากก้ามเอามา
    ด้วยปัญญาพิสดาร กลการศึกอันนี้ ชื่อว่าพวนเรือโยงฯ”


    “กลหนึ่งชื่อว่าโพงน้ำบ่อ คิดติดต่อข้าศึก ฝ่ายเขานึกดูแคลน ใครรุกแดนรุกด้าว
    เลียบเลียมกล่าวข่มเหง ชระเลงดูหมิ่นเรา โอนเอนเอาอย่าขวาง ข้างเราทำดุจน้อย
    ค่อยเจรจาพาที ลับคดีชอบไว้ อ่อนคือใครตามใจ น้ำไหลลู่หลั่งหลาม
    พูดงามก้านกิ่งใบ อัทยาไศรถ่อมถด อดคำกล่าวท่าวเอา ครั้นว่าเขาดูหมิ่น
    ผินฟังพลดูแคลน แดนพังพลดูถูก ประดุจลูกหลายตน ครั้นสปสกลไซ้
    จึ่งยกได้เขาคืน เราลุกยืนผูกเอา ได้เขาทำสง่าเงย เตยหน้าตาโอ่โถง
    ดุจหนึ่งโพงได้น้ำ คำคิดติดต่อ ชื่อว่าโพงน้ำบ่อฯ”


    “กลหนึ่งชื่อว่าฬ่อช้างป่า ผี้ศึกมาคะคึก ศึกครั้นหนีครั้นไล่ บค่อยไต่ค่อยตาม
    ลามปามแล่นไล่มา ให้แทงหาขุมขวาก พากยที่เหวที่ตม แต่งให้ล้มหลุมขุม
    ซุ่มซ่อนตนสองปราด แต่งให้ลาดเบื้องน่า คอยอยู่ท่าที่ดี ถ้าไพรีเหนได้
    ศึกเหนใคร่ใจคด ค่อยถอยถดฝ่ายเรา ฝ่ายเขาขามบไล่ ฝ่ายเราไปล่รี้พล
    ไว้เปนกลหลายถาน ปันการตามน่าหลัง ระวังยอหลายแห่ง สบที่แต่งเนืองเนือง
    พลเขาเปลืองด้วยกล ยุบลฬ่อช้างเถื่อน แล้วแต่งเตือนน่าหลัง ทั้งไปน่าก็บได้
    ถอยหลังไปก็บรอด ทอดตนตายกลางช่อง คลองยุบลดังนี้ ชื่อว่าฬ่อช้างป่าฯ”
     
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    “กลศึกอันหนึ่ง ชื่อว่าฟ้างำดิน หมั่นสำเนียกพลพฤนทรามตย์ ให้ใจอาจใจหาญ
    ชำนาญช้างม้ากล้าณรงค์ หมั้นคงชี้ฉับเฉียว เหลือบเหลียวน่าซ้ายขวา ไปมาผับฉับไว
    ใช้สอยยอดยวดยง จงชำนาญแล่นแอ่นไว ปืนไฟน่าไม้พิศม์ สนิทธนูดาบดั้งแพน
    แสนเสโลหโตมร กรไว้พุ่งเชี่ยวชาญ ชำนาญศิลป์ทั้งปวง ถลวงฟันรันรุม
    ชุมพลสิบพลร้อย อย่าให้คล้อยคลายกัน ทั่วพลพันพลหมื่น หื่นพลแสนพลล้าน
    จรเดียวดาลเด็ดมา แปรงาช้างบ่ายตาม ฟังความตามบังคับ กับเสบียงเรียงถุง
    ประดุงไพร่พลช้างม้า กลศึกอันนี้ว่า ชื่อฟ้างำดินฯ”

    “กลหนึ่งชื่อว่า อินทพิมาน ให้อาจารยผู้รู้ เทพยาครูฝังนพบาท
    แต่งสีหนาทข่มนาม ตามโบราณผู้แม่น อันชาญแกวนเหนประโยชน์ บรรเทาโทษโดยสาตร
    ยุรยาตรโดยอรรถ ให้ประหยัดซึ่งโทษ อย่าขึ้งโกรธอหังกา มนตราคมสิทธิ์ศักดิ์
    พำนักน์ในโบราณ บูรพาจารยพิไชย โอบเอาใจพลหมู่ ให้ดูสกุณนิมิตร
    พิศโดยญาณุประเทศ พิเศศราชภักดี ศรีสุริยศักดิ์มหิมา แก่ผู้อาษานรนารถ
    เทพาสาธุการ โดยตำนานดั่งนี้ ชื่อว่าอินทพิมานฯ”


    “กลหนึ่งชื่อว่าผลานศัตรู ข้าศึกดูองอาจ บ่พลาดราษฎรกระทำ นำพลพยัคฆะปะเมือง
    พลนองเนืองแสนเต้า แจกเล่าเข้าเชาเรา เอาอาวุธจงมาก ลากปืนพิศม์พาดไว้
    ขึ้นน่าไม้ธนู กรูปืนไฟจุกช่อง สองจงแม่นอย่าคลา ชักสารพาบันทุก
    อย่าอุกลุกคอยฟัง อย่าประนังตนเด็ด เล็ดเล็งดูที่หมั้น กันที่พลจงคง
    คนหนึ่งจงอย่าฉุก ปลุกใจคนให้หื่น ฆ้องกลองพรรณแตรสังข์ ประนังโรมรันรุม
    เอาจุมพลดาศึก พิฦกคะเปนนาย ครั้นถูกกระจายพ่ายพัง พลเสริดสั่งฤาอยู่
    บ่เปนหมู่เปนการ โดยสารโสลกดั่งนี้ ชื่อว่า ผลานศัตรูฯ”


    “กลหนึ่งว่าชูพิศม์แสลง ข้าศึกแรงเรืองฤทธิ์ คิดไฝ่ไภยเอาเรา เคยเขามากมาก
    ภากย์ที่แคบที่คับ สลับรี้พลช้างม้า เคยคลาปล้นรุกราม ผลานฬ่อลวงบ้านเมือง
    เนืองเนืองมาเพื่อนตน ให้ใส่กลปราไศรย ฝากของไปฝากรักษ์ ลักลอบให้เงินทอง
    รังวันปองขุนใหญ่ หัวเมืองไพร่ข้าศึก ให้ตฤกจงลับแล้ง แข่งอุบายเลห์คิด
    ไปมาสนิทเปนกล ให้เขาฉงนสนเท่ห์ เพราะเปนเล่ห์ภายใน บไว้ใจแก่กัน
    ผันใจออกกินแหนง แยงให้ผิดด้วยกัน บเป็นเอกใจเดียว บเปนเกี่ยวเปนการ
    เพราะพิศม์ผลานศัตรู กลศึกอันนี้ ชื่อว่าชูพิศม์แสลงฯ”


    “กลหนึ่งแข็งให้อ่อน ผ่อนเมื่อศัตรูยก ให้ดูบกดูน้ำ ซ้ำดูเข้ายาพิศม์
    พินิตพิศม์จงแหลก ตัดไม้แบกเบื่อเมา เอาไปทอดในน้ำ ทัพซ้ำหนามขวาก
    แต่งจงมากท่าทาง วางจาวห้าวแหลมเล่ห์ บ่อดานทางเข่าที่ขัน กันหลายแห่งที่คับ
    แต่งสนับไว้จ่อไฟ ไล่เผาคลอกป่าแขม แนมขวากแนมห่วงน้ำค่าม ตามเผาป่าแทบทัพ
    ยับไม้เผาเปนถ่าน หว่านไฟไว้รายเรียง รอเผาเสบียงจงสิ้น อย่าให้กินเปนอาหาร
    แต่งคนชาญหลอกทัพ ให้เสียหับเสียหาย ทำลายคาบเนืองเนือง เปลืองเสบียงเปล่าเฉาแรง
    กลเชื้อแขงให้อ่อนฯ”


    “กลหนึ่งยอยภูเขา ข้าศึกเนาประชิะ ให้ริดูช่องชอบ ที่จะขอบจะขัง
    แต่งระวังยักย้าย ฝ่ายพลเขาเอาเสบียง เรียงงานในเมืองเรา เอาใจไพร่ใจพล
    คนอยู่ประจำการ พนักงานใครใครรบ แต่งบรรจบพลแล่น ให้ทำแกว่นชวนกัน
    แต่งถลวงฟันบุกทัพ คอยฟังศัปทสำคัญ หาที่ยันที่อ้าง เอาม้าช้างเป็นดิน
    ปืนคูหักค่ายเข้า รบรุกเร้ารุมแทง อย่าคลายแคลงพรายพรัด ตัดให้ม้วยด้วยกัน
    ให้สำคัญจงแม่น แล่นช้างม้าวางขวาก เขาตามยากเอาเรา เท่าทิศที่ตนหมาย
    ฆ่าให้ตายกลากลาด ต้องบาดเจ็บป่วยการ ศัตรูดาลระทด ขดด้วยเสียงปืนไฟ
    ในเมืองเร่งโห่ร้อง ให้มี่ก้องนิรนาท มีปี่พาทย์เสียงสรวญใน ชมชื่นใจขับรำ
    ซ้ำทนงองอาจ ปืนไฟพาดประนัง กลชื่อพังภูเขาฯ”


    “กลหนึ่งเย้าให้ผอมนั้น บั้นเมื่อให้เธอลีลา พาธาอธิราช ให้พินาศศัตรู
    หมั่นตรวจดูกำลัง ช้างม้าทั้งรี้พล ปรนกันเปลี่ยนไปลาด ผาดจู่เอาแต่ได้
    หนังสือไว้หมายหมก ว่าจะยกพลหลวง ลวงใส่กลเป็นเขตร ดูในเทศการ
    ให้ป่วยงานทำนา แสงตรวจตราพลแกล้ว แล้วคลายพลเราเสีย เยียกลเมฆมืดฝน
    ฝนไป่ตกตรนกอางขนาง ให้แผ้วถางแส้งทำ คคึกคำแรงรณ ครั้นหลงกลกลยกเล่า
    ลากพลเข้าเนืองเนือง แยงให้เปลืองไปมา ดุจกลกาลักไข่ จะไล่ก็ไล่มิทัน
    วันคืนปีป่วยการ ข้าศึกต้านยืนอยาก ให้ข้าวยากหมากแพง สิ่งเปนแรงให้แรงถอย
    ร่อยรอนไข้ใจหิว ตีนมือปลิวพลัดพราย ไพร่หนีนายนายเปลี่ยว บเป็นเรี่ยวเปนแรง
    ใครใครแขงมิได้ ใครใครไม่มีลาภ ถ้ารูปงามเสาวภาพย์ก็จะเศร้า กลอุบายนี้เล่า
    ชื่อว่าเย้าให้ผอมฯ”


    “กลหนึ่งชื่อจอมปราสาท องอาจมุ่งมาทดู คูหอคอยเวียงวัง ตั้งไชยภุมจงผับ
    รู้ตั้งทัพพระพลาไชย อย่าได้ไหวได้หวั่น หมั่นดูฉบับธรรมเนียม เตรียมปูนปันเป็นกอง
    น่าหลังสองตราบข้าง รอบไว้ช้างม้ารถ ห้วยธารคชโยธา ให้รักษาจงรอบ
    ทุกคันขอบนอกใน อย่าได้ไหวปั่นป่วน อย่าได้ด่วนคอยฟัง คอยดูหลังดูน่า
    จัดช้างม้ารี้พล ปรนกันกินกันนอน อย่ายอหย่อนอุส่าห์ ให้หมั่นว่าหมั่นตรวจตรา
    ทังกระลากระแลงแกง อย่าได้แฝงนายไพร่ ไภยรักษาจงมาก อย่าให้ยากใจพล
    อย่าทำกลดุจเสือ บกเรือจงชำนาญ ชาญทั้งที่โดยกระบวน คิดควรรู้จงผับ
    นับหน้าดูผู้อาษา หาคนดีเป็นเพื่อน อย่าเลื่อนถ้อยให้เสียคำ ทำอันใดทำโดยสาตร์
    ตามฉบับราชโบราณ กระทำการให้รอมชอม กลศึกนี้ชื่อว่าจอมปราสาทฯ”


    “กลหนึ่งชื่อว่าราชปัญญา..........พร้อมเสนาทั้งสองข้าง
    ช้างม้ารถเสมอกัน...........................หานักธรรม์ผู้ฉลาด
    อาจใส่กลไปปลอม..........................ด้อมดูที่ดูทาง
    วางต้นหนคนใช้..............................ไว้กังวลแก่เขา
    เอาสินให้หฤหรรษ์...........................ให้คิดผันใจออก
    ทั้งภายนอกภายใน..........................หวั่นไหวใจไปมา
    แต่งโยธาหัดกัน..............................หลายหมู่พรรค์หลายกอง
    จองนายหนึ่งไพร่สี่...........................ทวีนายหนึ่งไพร่หก
    ยกนายหนึ่งไพร่เก้า..........................เคล้านายห้าจองพล
    ซ้ายขวาพลหน้าหลัง.........................ทั้งอาวุธท่าทาง
    ถอยพึงกางกันรบ.............................ทบท่าวอย่าหนีกัน
    คอยยืนยันรบพลาง..........................ใส่ยาวางเรียเด็ก
    นายไพร่เล็ดลอดตาม.......................ให้ฟังความสั่งสำคัญ
    ฆ้องกลองพลันธงไชย......................กดให้ไล่ให้หนี
    ลีลาลาดศึกเข้า...............................ในพลเคล้าเป็นกล
    สองกองพลซ้ายขวา.........................ดูมรรคาชอบกล
    เอาพลตั้งสองข้าง............................กองกลางง้างพลถอย
    ศึกตามลอยแล่นไล่..........................ครั้นศึกไปล่ออกข้าง
    คอยดูช้างดูม้า................................ ดูทวยค้ารี้พล
    สบสกลโดยสำคัญ............................จึ่งกระทบกันเข้ารบ
    สบสำเหนียกเสียกสา.........................อย่าให้คลาให้คลาด
    ผาดเอาคงเอาวัน..............................หยิบเอาพลันจงได้
    ไว้กำหนดนายกอง............................ช่างปองปูนจงสลับ
    นับอ่านเร่งตรวจตรา...........................กลศึกอันนี้ชื่อว่า
    กลราชปัญญา”
     
  11. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    “กลชื่อฟ้าสนั่นเสียง..........เรียงพลพยุหกำหนด
    กดประกาศถึงตาย.....................หมายให้รู้ถ้วนตน
    ปรนปันงานณรงค์......................ยวดยงกล่าวองอาจ
    ผาดกำหนดกดตรา....................ยามล่าอย่าลืมตน
    ทำยุบลสีหนารท.......................ดุจฟ้าฟาดแสงสาย
    สำแดงการรุกรัน.......................ปล้นปลอมเอาชิงช่อง
    ลวงเอาบุรีราชเสมา....................ตรารางวัลเงินทอง
    ปองผ้าผ่อนแพรพรรณ................ยศอนันต์ผายผูก
    ไว้ชั่วลูกชั่วหลาน.......................การช้างม้าพลหาญ
    ใช้ชำนาญการรบ.......................สบได้แก้จงรอดราษฏร์
    ดุจฟ้าฟาดเผาผลาญ...................แต่งทหารรั้งรายเรียง
    เสียงคะเครงคะคร้าน..................ทังพื้นป่าคะครัน
    สนั่นฆ้องกลองไชย....................สรในสรรพแตรสังข์
    กระดึงดังฉานฉ่า........................ง่อนงาช้างรายเรียง
    เสียงบรรณพาคร้านครั่น...............กล่าวกลศึกนั้น
    ชื่อฟ้าสนั่นเสียง”


    “กลศึกชื่อเรียงหลักยืน..........ให้ชมชื่นรุกราน
    ผลาญให้ครอบทั่วพัน....................ผันเอาใจให้ชื่น
    หื่นสร้างไร่สร้างนา.......................หาปลาล่วงแดนต่าง
    โพนเลื่อนช้างล่วงแดนเขา..............เอาเป็นพี่เป็นน้อง
    พร้องตั้งค่ายตั้งเวียง.....................บ้านถิ่นเรียงรายมั่น
    เร่งกระชั้นเข้ารียงราย...................เกาะเอานายเอาไพร่
    ไว้ใจกายใจถึง............................ระวังพึงจงให้
    ใส่ไคร้เอาเป็นเพื่อน.....................ใครแข็งกล่นเกลื่อนเสีย
    ให้เมียผูกรัดรึง............................ให้เป็นจึ่งม่ามสาย
    รายรอบเอาจงมั่น.........................จงเอาชั้นเป็นกล
    กลให้เขาลอบลัน.........................ปล้นบ้านถิ่นเถื่อนไปมา
    ระวาเพศแทบเวียง........................กลศึกอันนี้ชื่อว่าเรียงหลักยืน”


    “กลชื่อว่าปืนพระราม..........ว่าอย่ามีความโกรธขึ้ง
    ทรอึงใจหนักพฤกษ์.....................สำแดงศึกใหญ่มา
    พาธาจงคอยฟัง..........................ให้ระวังถอยแกล้ง
    แม่นอย่าแอ่วแวนไว้....................ได้แล้วกลับคืนรอด
    ริรอบปลอดมีชัย.........................หวั่นไหวใจศัตรู
    ดูสนั่นใจเศร้า.............................ให้พระยศเจ้ารุ่งเรือง
    เลื่องลือเดชหาญห้าว....................ทุกทั่วท้าวเกรงขาม
    ชื่อปืนพระรามสำเร็จ.....................ยี่สิบเอ็ดกลณรงค์
    ด้วยประสงค์ดั่งนี้”
     
  12. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ ค่อยลุ้นกันว่า ท่านขุนทั้งหลาย จักโดนอะไรกันบ้างค่ะ
     
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ส่วนคนเขียนอ่านกลพิชัยสงครามให้ลูกชายฟังจนหลับ
     
  14. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน ๑๙.๒๗

    ระบบเวบมันเจ๊งไปแล้ว หรือโดนโจมตีอยู่ล่ะหว่า เซ็งเป็ด
    กด like ให้เจ๊ก็ไม่ได้ ตั้งกะวานนี้แล้ว เกิดไรขึ้น
    เวบก็อืดๆ สลึมสลือจังแฮะ ใครรู้ไรบ้าง

    "พันธมิตร พี่น้องญาติเพื่อนที่ฝั่งโน้น" ของเรา
    มีใครทำอะไรได้บ้างป่าว กะไอ้ฝ่ายศัตรู
    ช่วยจัดหนัก จัดเต็มให้หน่อยดิ

    วันนี้วันคราส มีรูปที่ต้องลงหลายชุดเลย
    แต่มันทำให้ลงรูปไม่ได้ ขัดขวางทำไม
    กองหนุนชุดล่าสุด รอให้เนรมิตอยู่นะ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ผู้หลบเรายัง ผู้ขวางเรา..ตาย
    .

    ปล.เมนูตกแต่งข้างบน ก็ใช้ไม่ได้ อะไรของมันวะ
    สงสัยต้องให้เพื่อนต่างดาวลงมือเองซะล่ะมั้ง นะ เนอะ
     
  15. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    นึกว่าเป็นที่เน็ตตัวเองเมื่อคืน เลยหยุดเขียน เพราะมันส่งไม่ไปค่ะ ขอบคุณพี่ต่ายที่ติดตามค่ะ
     
  16. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ร่ายกลอน กลพิชัยสงคราม ที่ได้ร่ำเรียนมาจนขึ้นใจ

    ท่านขุนท่านหลายยิ่งให้สงสัยในชาติกำเนิดของสิงห์

    การท่องนั้นไม่ใช่ครูพักลักจำ แต่เป็นการท่องตามจังหวะ การทอดเสียงนั้นบ่งบอกได้ว่าได้รับการอบรมเฉกเช่น เจ้าฟ้า เชื้อพระวงค์ หรือลูกของเจ้าเมืองต่างๆ

    ในดินแดนของอโยธยา

    แล้วเจ้าหอหน้าก็ตรัสสืบไปว่า "น้ำใจของแม่ทัพนั้นวัดได้จากอันใด พวกมึงจงรู้ไว้
    กูมิได้เลือกแม่ทัพ เพราะมึงติดตามกู กูมิได้เลือกแม่ทัพเพราะอยู่ในวัยฉกรรจ์
    กูมิได้เลือกแม่ทัพเพราะแค่มันเก่งการสรรพยุทธ มึงบอกกูว่ากูควรจะเลือกแม่ทัพเพราะอันใดกัน"
     
  17. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    อัพไม่ขึ้นเลยค่ะ ช้ามาก เวปมีปัญหา
     
  18. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    คัดลอกจาก fb ของวัดป่าอ่างแก้ว

    เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบ่อน้ำบาดาล
    วัดป่าอ่างแก้ว ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนน จ.นครราชสีมา
    มีน้ำใช้ไม่เพียงพอ เพราะในขณะนี้ ทางวัดต้องใช้น้ำใดารก่อสร้าง
    ใช้น้ำในงานปฏิบัติธรรม จึงต้องทำการหาช่างมาเจาะน้ำบาดาลเพิ่ม
    ช่างคิดค่าเจาะ ๑๒๐,๐๐๐ บาท ซึ้ง ค่าเจาะและค่าทอ pvc กันทรุดและท่อสูบน้ำ
    ส่วนปั้มน้ำสูบทางวัดมีแล้ว ทางช่างจึงคิด ๑๐๐,๐๐๐ บาท
    ขอเชืญท่านผู้ใจบุญ ร่วมเป็นเจ้าภาพเจาะน้ำบาดาลในครั้งนี้ โดยทั่วกันเทอญ....

    โหลดรูปบัญชีพระอาจารย์ไม่ขึ้น บัญชีเดิมนะคะ
    ช่วงบ่ายจะมาอัพอีกทีค่ะ

    ชื่อบัญชี พระมานะ
    ธ.กรุงเทพ สาขาสูงเนิน เลขที่ 559-0-75006-2
    ธ.กรุงไทย สาขาสีคิ้ว เลขที่ 327-0-05235-9
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2016
  19. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,333
    ค่าพลัง:
    +4,793
    ให้เดาก็คง DDOS ละมั้งครับ
     
  20. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,333
    ค่าพลัง:
    +4,793
    การที่พระองค์ดำ ให้ ขุนสิงห์ ร่ายกลอนกลศึก เพื่อเป็นการโปรโมตขุนศึก และสั่งสอนให้ขุนศึกท่านอื่นได้ทราบ อย่างล้ำลึกมาก

    เพราะความสมดุลย์วิทยายุทธ์ ทั้งรุก และรับ และ ความเป็น Elite

    หลังจากนั้นขุนศึกท่านอื่น อาจะโดนอาญาขนมตุบตับ เป็นแน่แท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...