ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

พี่ทองคนใจร้อน ถึงกับบ่นออกมา
" ข้าว่าพวกเอ็งมองผิด เชิงมวยมิอาจตัดสินจากหน้าตา แลกิริยาท่าทาง
ไม่ควรประมาท คิดไปเองจักดีกว่า อีกทั้งขุนแก้วเป็นคนใจคอนักเลงนัก
เมื่อวนหนีดูเชิงนานเยี่ยงนี้ แสดงว่าเลี่ยงการปะทะ คุณหลวงคงมีเชิงมวย
มิธรรมดาเป็นแน่แท้ ดูอย่างขุนสิงห์ หน้าตายังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม แลดูสะโอดสะอง
แต่เวลาเข้าคลุก อย่างกับหมาบ้า"

สิงห์ถึงแม้จะเห็นคล้อยตามอีก แต่ก็รู้สึกว่าคำพูดของขุนทองฟังยวนหูยิ่งนัก

แล้วขุนแก้วที่เดินวนเหมือนเสือติดจั่น ก็อดรนทนไม่ได้ กระโดดขึ้นเตรียมลง
ด้วยท่าฤาษีบดยา แต่พระอนุชาไม่โยกหลบตามที่สิงห์คิดเชิงแก้ในใจ
กลับกระโดดสวนขึ้นไป แล้วตีเข่ากลางอากาศกลางอกของขุนแก้ว

เข้ม ทอง สิงห์ อ้าปากค้าง ด้วยท่ากระโดดอันพิศดาร ราวกับมีแรงส่งขึ้นไป
นัยน์ตาอันไม่ธรรมดาของสิงห์ เห็นมากกว่าคนทั่วไป เห็นแสงสีขาวเป็นคลื่นยาว
ไปตามวิถีที่พระอนุชาโดดแลลอยขึ้น

ขุนแก้วแทบหงายหลังลง แต่ด้วยเปรียบมวยมามาก จึงกวาดเท้าออก ฝืนยืดตัวไปทิศตรงข้าม
แล้วใช้แรงขาส่งกลับ จึงลงในท่าก้ม ขากวาดไปด้านขวาข้างหนึ่ง
จังหวะนั้น คู่มวยก็ไม่ปราณี คุณหลวง ลอยเข่าลงมา แม้ไม่หนักมาก
แต่ก็กระแทกเต็มแผ่นหลัง ขุนแก้วแม้ไม่ถึงกับกระอักเลือด แต่ก็ลุกขึ้นมาไอไม่หยุด เข่าด้านซ้ายกระแทกพื้นจนเลือดอาบ

ส่วนพระอนุชา ลุกขึ้นมายืนตัวตรง อย่างสง่า จบในสองเพลง
มีรอยพระสรวลที่มุมพระโอษฐ์นิดๆ

 

"โอว" เสียงขุนทองอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ
"หากเป็นดาบ ขุนแก้วคงจะหัวหลุดจากบ่า ในท่าลงแน่นอน
หากหงายหลังลงพื้นก็โดน แก้มวยลงเซเพียงจังหวะเดียว
อย่างงี้ จักแก้เยี่ยงไร ตายแน่แท้ ขนาดคุณหลวงออมแรงตอนโดดลง
ขุนแก้วยังเลือดอาบ หากไม่ออมมือ คงจักได้หยอดข้าวเป็นแน่แท้"

เข้มกระซิบต่อ"แปลกแท้ ใยท่านขุนอื่นๆ ไม่ไปช่วยพยุงขุนแก้ว
และทำหน้าดูกังวลเยี่ยงนี้"

ขุนแก้วค่อยๆดันตัวลุกขึ้น ด้วยความจุก ความอายนั้นมิมีแล้ว
แม้จักพ่ายเชิงมวยอย่างหมดรูป ก้มหน้าอยู่เพียงชั่วครู่ ก็สูดลมหายใจ
พูดติดๆขัดๆ ด้วยเจ็บยอกไปทั้งอกว่า "ขอบพระคุณ คุณหลวงที่สั่งสอน"

ขุนแก้วพยายามพยุงตัวยืนขึ้นเพื่อเดินออกจากลานประลอง
เข้มคนมีน้ำใจทนไม่ไหว ลุกขึ้นไปช่วยหิ้วปีก สิงห์เห็นเช่นนั้น
ลุกไปประคองอีกด้าน ไม่ทันที่พี่ทองจักได้ห้ามปราม
แต่ท่านขุนคนอื่นกลับนั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาดินเผา มีเพียงสายตากังวลใจที่มองตามมา

บ่าวชายสองคนมาช่วยหิ้วปีกต่อ เมื่ออกไปจากบริเวณที่ท่านขุนนั่งล้อมวงอยู่
แล้วจัดแจงให้ขุนแก้วนอนบนแคร่ เตรียมดูแลต่อไป

 

คนรับใช้นำยามาพอกที่เข่าให้ขุนแก้ว แล้วพันผ้าให้จนเลือดหยุด ขุนแก้ว
กับไม่นอนพัก ลุกขึ้นเดินเขย่งขา สิงห์กับเข้มจะเข้าประคอง ขุนแก้วกับ
ทำท่าทางมือปัดออก แล้วเดินกระเผลกเข้าลานประลอง ในวงล้อมอีกครั้ง

พระอนุชาทรงประทับยืนรออยู่
ขุนแก้วตั้งท่ามวย งอเข่าอีก เลือดก็ไหลซึมออกมาจากเข่า
สิงห์กับเข้มให้สงสัยนัก ขุนแก้วจะฝืนไปเพื่อการใด น่าจักพอได้แล้ว
เแต่ก็ไปนั่งล้อมวงต่อ เพื่อรอการเปรียบมวยต่อไป

ครานี้เป็นคุณหลวงที่เปิดฉาก ซึ่งได้เปรียบขุนแก้วที่เคลื่อนไหวไม่สะดวก
จึงจับขุนแก้วถลุงเสีย ทั้งศอกและเข่า เชิงมวยนั้นดุดัน ต่อยเร็วแบบไม่ต้องนับ
ไม่รอให้จบกระบวนท่า ผสมผสานทั้ง ศอกหมัดเข่า โน้มตัวขุนแก้วลง
แล้วประเคนเข่าไม่ยั้ง พอปล่อยขุนแก้วก็ล้มลงเหมือนนกปีกหัก

"แค่นี้หรือวะ!! เป็นถึงท่านขุน จักคอยดูแลคุณหลวงเดช ตัวมึงยังเอาตัวมิรอด"
พระสุรเสียงนั้นนุ่มนวลเช่นเคย แต่คำนั้นบาดใจขุนแก้ว จนน้ำตาลูกผู้ชายแทบจะร่วง

"ข้าขอยอมแพ้คุณหลวง และขออภัย จักฝึกฝนต่อไป ตามที่คุณหลวงสั่งสอน"

ขุนแก้วซึ่งตอนนี้เลือดกลบปาก พูดมาด้วยเสียงสั่นไหวตามอารมณ์ข้างใน

เป็นคราแรกที่สิงห์รู้สึกกลัวพระอนุชา เหมือนกับที่กลัวเจ้าหอหน้า และเป็นคราแรก
ที่สิงห์รู้สึกเห็นใจขุนแก้วขึ้นมา นิดๆ

 

ในประวัติศาสตร์ พระอนุชารูปงาม เป็นดั่งตัวประกอบในพงศาวดาร ทรงอ่อนแอและแพ้พ่าย
แต่ในฝันของเรา พระอนุชา คือชายชาตินักรบที่ดุดันและรักชาติยิ่งชีพ

 

สิงห์พ่อคนตาไว แอบชำเลืองมองไปที่แม่หนูอินที่หน้าซีดลงทุกที มือที่คอยพัดอยู่ข้างคุณหลวงเดชเริ่มแผ่วลง
ซึ่งในสายพระเนตรของคุณหลวงเดช ในเพลานั้น มีแววระยิบระยับ แม้ไม่ทราบสาเหตุ
แต่คงรื่นรมย์ในพระอารมณ์เป็นแน่แท้ สิงห์ให้ฉงนนัก ฤาคุณหลวงจักชอบดู
ขุนแก้วโดนถลุง

พระอนุชา เหลือบมาเห็นสายตาสิงห์ที่มองหนูอินอย่างเป็นห่วง ก็ทรงให้รู้สึกขุ่นใจนัก
"ขุนเข้ม ออกมา ข้าจักสั่งสองเอ็ง ที่บังอาจไปช่วยขุนทอง โดยข้ามิได้สั่ง"

เข้มรู้สึกวูบในอก แต่ก็มีกล้าขัด รีบคลานเข่าออกไปกลางลาน แล้วเริ่มไหว้ครู
เสียงสั่งสอนของพ่อครูเอก ดังขึ้นมาในมโนความคิด
"เมื่อพบคู่มวย ที่เชี่ยวเชิง จงอย่าโต้ตอบด้วยหมัดต่อหมัด จงหลบให้นึกว่ากลัว
แล้วตั้งสติ จับทางมวย เรียนจากการออกอาวุธ จึงจักผ่อนหนักเป็นเบาได้"

เข้มจบการไหว้ครู ด้วยเพลาอันสั้น แล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เรียกสติ
ริมฝีปากเม้มเข้าอย่างกังวลโดยมิรู้ตัว รู้สึกราวกับอยู่ต่อหน้าพยัคฆ์ในพงไพร

 

ส่วนสิงห์ รู้สึกร้อนในอก และขุ่นใจนัก ใยพระอนุชาจึงตอบแทนขุนเข้มคนมีน้ำใจ
ด้วยการเรียกไปถลุงต่อหน้าท่านขุนและบ่าวไพร่ เช่นนี้จักเรียกการสั่งสอนได้เยี่ยงไร
พระอนุชาปรายพระเนตรมามองสิงห์ ที่อารมณ์ร้อนจนโหนกแก้มแดงด้วยเลือดที่สูบฉีดตามอารมณ์
ภายใต้แสงแดดที่แผดกล้าขึ้นเรื่อยๆ แล้วก่อนที่จะเปรียบมวยกับเข้ม
สายตาของพระอนุชาและขุนสิงห์สบกันชั่วครู่ ในสายพระเนตรมีแววตาเย้ยหยันและท้าทาย
ก่อนที่จะทรงหันพระพักตร์เข้าหาขุนเข้ม คู่มวยของพระองค์

สิงห์เริ่มคิดแล้วว่า ตนไปทำการใดให้พระองค์ขุ่นใจเป็นแน่ และรู้ว่าขุนแก้วเป็นเพียงคนเบี่ยงความสนใจ
แต่ที่ถลุงไป คงอยากถลุงหมัดและศอกใส่สิงห์ แต่ด้วยเป็นผู้นำจึง
จักให้มีตัวล่อเสียก่อน ส่วนขุมเข้มก็เป็นเพียงหมากที่จักให้สิงห์อารมณ์ร้อนจนคุมสติไม่อยู่
คู่เปรียบคนต่อไป คงไม่พ้นตนเป็นแน่แท้ คิดได้ดังนั้น จึงแกล้งส่งเสียงให้กำลังใจขุนเข้ม
อย่างไม่ถือตามประเพณีมวย โดยไม่สนใจว่าคนจะมองตนอย่างไร

"พี่เข้ม แม้เป็นคุณหลวงก็อย่าออมมือ อย่าให้เสียชื่อพ่อครูเอก"

เข้มสะดุ้ง ที่สิงห์ทำตนดั่งผู้ไม่รู้ธรรมเนียม และไม่ให้เกียรติคู่มวยที่อาวุโสกว่า
แต่ก็ได้ผล พระอนุชา หน้าแดงด้วยโทสะ

ส่วนเจ้าหอหน้า ทรงพระสรวลออกมาเบาๆ แล้วเอ่ยสำทับว่า

"ขุนเข้ม ล้างแค้นให้ขุนแก้วเลย อย่าให้เสียทีที่ข้าตั้งให้เป็นขุน
หาไม่ข้าจักริบเมียพระราชทานของเอ็งคืน"

ขุนเข้มคนรักเมียในนาม ได้ฟังเช่นนั้น ก็มิได้คิดว่าเจ้าหอหน้าทรงตรัสเล่นๆ
จึงหมายมั่นว่า หากจักแพ้ ก็จักแสดงฝีมือเต็มที่ มิให้เสียทีที่เป็นศิษย์เอกของพ่อครู

 

เขียน ๒๐.๑๙

ส่งเมล์ก็ได้มั้ง นะ
ง่ายดี ประหยัดด้วย


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

กราบขอบพระคุณ ในธรรมทานนะคะ สาธุ

 

.
เขียน ๒๒.๒๓

เริ่มส่งให้แล้วนะครับ อาจจะช้าหน่อย
สิบกว่าเมกทุกไฟล์เลย
วันนี้อาจไม่ครบ






ส่วนรูปนี้ เก็บไว้ในโฟลเดอร์เดียวกัน
เลยส่งมาให้ดูก่อนละกัน เนอะ
อาจมีอะไรเกี่ยวข้องกัน




แต่ส่งผ่านเมล์ก็ช้าเหมือนกันนะ ใช้เนทมือถือ
สปีดแค่ 384k แถมไฟล์ก็ใหญ่ สิบกว่าเมก
จะโหลดใส่กูเกิ้ลไดร์ฟ ให้ไปโหลดเอาเอง
ก็ยังไม่เคยลองทำ เลยยังไม่ค่อยแน่ใจน่ะ
พวกเวบฝากไฟล์ ก็ไม่เคยลองใช้เลย
แต่โหลดให้คนเดียว เลยไม่เท่าไหร่
ถ้าสนใจหลายคน คงต้องใช้วิธีอื่น


กระต่ายป่า แห่งเกาะนาฬิเกร์ / เหล่าเต้บในสวน
.

 

@ gatrypa
Zip ไฟล์ได้มั้ยคะ

 

เขียน ๙.๐๕

เอ้า..รูดซิปเสร็จแล้ว ส่งเมล์ให้แล้วนะ
แต่ร้อยกว่าเมก เค้าให้ฝากในกูเกิ้ลไดร์ฟ
ลองดูละกันว่าโหลดได้มั้ย ถ้าได้ทุกคนก็ดีนะ
ทำตามนี้ เค้าว่าพาไปได้ถึงนิพพานเชียวนะ จริงๆ

ไฟล์ซิปทั้งชุด หนึ่งถึงสิบเลยนะครับ
https://drive.google.com/file/d/0B5m9u_7Km1aKV2FWT05xdlE0bUU/view?usp=drive_web


มีรหัสลับเพิ่มเติม สำหรับเจ๊ และสหายท่านอื่นๆ
คือว่า เราส่งเมล์พร้อมแนบไฟล์ไปให้เจ๊จา
ไฟล์หนึ่งถึงแปด แยกเป็นหลายเมล์
แต่เจ๊ได้รับแต่ไฟล์หกและเจ็ด




ไฟล์หกคือ 6122-06_การปฏิบัติเพื่อมีสติในอิริยาบถ_20ตค31
เจ็ดคือ การปฏิบัติอานาปานสติหมวดที่ 2 เวทนานุปัสสนา_21ตค31
พอได้รับรู้ ก็เลยสงสัย แล้วสังเกตุ แล้วแจ้งเหตุ หนึ่งเก้าหนึ่ง เอ้ย..ไม่ใช่

พอสงสัย เลย นั่งนิ่งนึกโน้ม แล้วน้าวมโน ว่า
อาจจะให้เจ๊เริ่มเน้นที่สติในอริยาบถเลย รึป่าวน๊า
แบบว่า โตแล้วเรียนลัดน่ะนะ จับตรงนี้ให้มันมั่นแม่น
ทำในใจให้ดีๆ จับข้อความสำคัญให้ได้ แยกเคล็ดออกมา

เวลาเปิดฟังอย่างตั้งใจ น่าจะมีบางข้อความ ที่มันโดน
มันโดด มันเด่น มันเด้ง ออกมาอ่ะ ชวนให้คิด พินิจให้ลึก
ให้ตรอง ให้ตรึก ให้ลึก ให้กว้าง ให้ยกมาวาง อยู่กลางหัวใจ
วิปัสสนา เข้าตาเข้าใจ แล้วประยุกต์ใส่ ฝังไว้ในทุกอริยาบถ มั้ง

แนะนำให้ฟังไฟล์เดียวก่อน ฟังหลายๆ ครั้ง
ฟังทั้งวัน เวลานอนก็ใส่หูฟังยัดหูไว้เลย
ฟังในฝันด้วยน่ะนะ ให้จิตใต้สำนึก
ได้ฟังด้วย และช่วยนำทางให้

แล้วค่อยไล่เปิดฟังตั้งแต่ไฟล์แรก มั้งนะ
โหลดใส่มือถือไว้เลย เปิดมันเข้าไป
เปิดไว้ตลอด เข้าหูบ้างไม่เข้าบ้าง
ไม่เป็นไร เดี๋ยวเข้าจิตไปเองอ่ะ


กระต่ายป่า แห่งเกาะนาฬิเกร์ / เหล่าเต้บในสวน
.

 

ร่วมทำบุญ ซื้อกระดิ่ง ประดับรอบโบสก์ วัดหาดนาค จ.เชียงใหม่ 2 ใบค่ะ
400 บาท สาธุ
รายได้ส่วนหนึ่งจากการดูดวง

ตามกระทู้นี้ค่ะ ยังขาดอีก ร้อยกว่าใบค่ะ

http://palungjit.org/threads/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81-149-%E0%B9%83%E0%B8%9A.568638/

 

น้ำใจของคุณกระต่ายป่า ดูแล้วช่างงดงาม

 

แล้วการเปรียบมวยอันพิศดารก็เริ่มขึ้น
เข้มหรือมวยพ่อครูเอกนั้นเป็นมวยหลบ และใช้เข่าเข้ารุกหนัก ไม่ว่าจะเป็นเข้ากระแทกปลายคาง
เข่ากระแทกท้อง แล้วจึงตามด้วยอาวุธอื่น ตามไม้มวยที่ต้องแก้ ไม่ว่าจะเป็นศอกหรือเท้า
แต่จะไม่ใช้หมัดเป็นอาวุธหนัก เพราะหมัดหรือมือ จักถนอมไว้ใช้กับอาวุธในสงคราม หรือมวยรักษามือนั่นเอง

ส่วนมวยของพระอนุชาที่ใช้กับขุนแก้วเมื่อครู่ก็เป็นมวยเข่าหนัก เฉกเช่นกัน

เข้มครุ่นคิด แล้วจึงเตรียมจะแก้มวยเข่า ด้วยการเตะตัดตวัดให้ล้ม

 

ช่วงนี้เน็ตบ้านป้าจารุ เน่ามากค่ะ อัพแล้วค้างตลอด จะพยายามต่อไปนะคะ

 

เข้มเดินวนไม่ถึงรอบ ก็โดนมวยหมัดเข้าไปแบบไม่ยั้ง
จากที่คาดว่า จะเปรียบมวยแบบสวยงาม แม่ไม้ที่คิดแก้ไว้
ก็เล่นเอามึนงงไปหมด แม้พระพักตร์จะงดงามอ่อนโยนเพียงใด
แต่ร่างกายของพระอนุชาก็เป็นชายชาตรี ช่วงแขนอันยาวและ
พลังหมัดจากไหล่กล้ามที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ก็ทำให้เข้มถึงกับเซ
แม้จะยกแขนขึ้นมาป้องหมัด แต่จะโยกหลบอย่างไร ก็แทบไม่พ้นวิถึ
เข้มเห็นท่าจะไม่ได้การ จึงใช้สัญชาตญาน มวยเข่าของตน
กระโดด โยกหลบหมัดไปด้านหลัง แล้วกระแทกเข่าลอย

สิงห์เห็นกิริยาท่ามวยนั้น ได้แต่ร้องอุทานอยู่ในใจว่า "ตายโหง"

พระอนุชาแก้มวยได้รุนแรงและโหดร้ายนัก ช่วงจังหวะเข้มจะโดดขึ้นเข่า
ก็หมุนตัว แล้วจระเข้ฟาดหางเต็มแรง เข้มยกมือตามป้องไม่ทัน เพราะ
ท่ากระโดดเข่าลอยเข้าปลายคางแขนสองข้างจะลดไป เกือบขนานกับลำตัว

แค่ดอกเดียว เข้มก็ร่วงลงเป็นนกปีกหักอีกคน

 

สิงห์นั้นเริ่มหนักใจ มวยเช่นพระอนุชา เค้าเรียกว่า "มวยเหนือเชิง"
คือ เชิงมวยทั้ง หมัด ศอก เข่า เท้า ดุดัน และประเสริฐมาก
รวดเร็ว ดุดัน จนเดาทางหรือเชิงมวยไม่ถูก การแก้มวยแบบนี้
เค้าเรียกว่า วัดดวง วัดไหวพริบ ใช้การแก้มวยแบบตายตัวไม่ได้

สิงห์หันไปมองพี่ทอง เหมือนรู้ใจทองหันมาส่ายหน้า ปรามสิงห์ไม่ให้
ออกไปช่วยพยุงขุนเข้ม ที่ตอนนี้ แม้ไม่ถึงกับสลบกลางอากาศ แต่ก็ยันตัว
ไม่ขึ้น เอาแต่สะบัดหัวไปมา เข้มกระอักเลือด แล้วถ่มลงพื้น

สิงห์คนบ้าดีเดือด เห็นเช่นนั้นก็เลือดขึ้นหน้า ลุกขึ้นยืนทันที
แม้นไม่ได้ชี้พระพักตร์พระอนุชา แต่กริยาก็เชิงท้าทาย ไม่เคารพยำเกรงแม้แต่น้อย

 

อยู่ดีดี ก็มีลมฝนมาหอบหนึ่ง ลมปั่นป่วนอยู่กลางลานประลอง สิงห์เดินย่างสามขุม
พระอนุชาทำหน้าเรียบเฉยแต่สายพระเนตรแวววาวเช่นกัน

ในความรู้สึกของขุนทองนั้น ราวกับพญาราชสีห์สองตน กำลังจะเข้าประหัตประหารกันสิงห์นั้นถึงแม้จะวัยเยาว์กว่า
แต่มองไปให้ประหลาดนัก เมื่อทั้งสองยืนประจัญหน้ากันเยี่ยงนี้ ท่ามกลางลมที่หอบดินและทรายให้คละคลุ้งไปนั้น
ร่างสองร่างที่อยู่กลางลานประลองดูคล้ายคลึงกันมาก แลมีรัศมีความน่าเกรงขามไม่ต่างกัน

 

เพิ่งหาทางโหลดไฟล์เสียง ท่านพุทธทาสภิกขุค่ะ จะเริ่มฟังคืนนี้
ขอบพระคุณกระต่ายป่า มากๆค่ะ บุญใดในอนาคตกาล ในการเจริญทางธรรม
ขอบุญนั้นจงสำเร็จกับท่าน(กระต่ายป่า) เช่นเดียวกัน อนุโมทนา สาธุ

 

เจ้าหอหน้า ขมวดพระขนงโดยมิรู้พระองค์ ทรงทราบในพระทัยว่า
ลมฝนที่หอบอยู่กลางลานนั้น มิใช่เหตุตามธรรมชาติ แต่เป็นลมของ
ผู้ฝึกกสิณ ที่กำลังอยู่ในอาการโกรธจนปั่นป่วน แทบสะกดอารมณ์ของตนไม่อยู่

ส่วนสิงห์นั้น ไม่พูดพล่ามทำเพลง เดินไปถึงกลางลานประลอง ลงไป
ไหว้ครูด้วยท่าพรหมสี่หน้า แล้วก้มลงกราบไปกับพระแม่ธรณี

แล้วลุกด้วยการดีดตัวด้วยขาทั้งสองข้าง แล้วเข้าคลุกทันที

มวยมีชั้นเชิง มวยสวยงาม มวยเล่นท่าที่สิงห์เคยใช้ เมื่อได้เปรียบมวยที่ผ่านมา
วันนี้ สิงห์ทิ้งสิ้นกลับไปใช้มวยแบบตามอารมณ์อันประทุของตนในเพลานี้