พยากรณ์กรรม โดยยึดหลักธรรมคำสอนพระพุทธเจ้า

น่าสงสารนะครับที่มันเป็นเรื่องจิงคิดสะว่ามันเป็นกรรมและรับความจิงในโลกใบนี้ไม่มีไรที่แน่นอนอย่าหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สอนธรรมอย่างเดียวจะประเสริฐสุดแล้วไม่ต้องมีเรื่องอื่นแอบแฝง 55555555555

 

พระอภิธรรมคืออะไร ?http://palungjit.org/groups/พระอภิธรรม-2492.html#gmessage30837


พระอภิธรรม คือ คำสอนหมวดหนึ่งใน "พระไตรปิฎก" ซึ่งพระไตรปิฎกแบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ :-

หมวด ที่ 1 พระวินัยปิฎก หรือเรียกสั้นๆ ว่า "พระวินัย" เป็นหมวดที่กล่าวถึง วินัยสำหรับพระภิกษุ เพื่อให้ปฎิบัติตนอยู่ในกรอบแห่งความถูกต้องทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ มีทั้งหมด 21,000 พระธรรมขันธ์

หมวด ที่ 2 พระสุตตันตปิฎก หรือเรียกสั้นๆ ว่า "พระสูตร" เป็นหมวดที่กล่าวถึงเรื่องเล่า ตลอดจนชาดกต่างๆ และพระธรรมเทศนาที่ทรงแสดงไว้หลายนัย เพื่อให้เหมาะแก่จริตของผู้ฟังและเหมาะกับโอกาสต่างๆ มีทั้งหมด 21,000 พระธรรมขันธ์

หมวดที่ 3 พระอภิธรรมปิฎก หรือเรียกสั้นๆ ว่า " พระอภิธรรม " เป็นหมวดที่กล่าวถึงธรรมชาติการทำงานของกายและใจ กล่าวถึงเรื่องชีวิตว่าคืออะไรและมาจากไหน ชีวิตมีองค์ประกอบที่สำคัญอะไรบ้าง เรื่องจิต (วิญญาณ) เรื่องเจตสิก เรื่องอำนาจจิต เรื่องกรรมและการส่งผลของกรรม การเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ในภพภูมิต่างๆ กลไกการทำงานของกิเลส การข่มกิเลส การทำลายกิเลส การทำสมาธิ การปฏิบัติวิปัสสนา เมื่อได้ศึกษาและปฏิบัติตามแล้ว จะทำให้เกิดปัญญาสามารถละกิเลสนำตนให้พ้นทุกข์ได้ เป็นคำสอนที่มีความสุขุมลุ่มลึกที่สุด มีทั้งหมด 42,000 พระธรรมขันธ์

• สรุป แล้ว พระอภิธรรมก็คือธรรมะหมวดที่ 3 ในพระไตรปิฎก ที่สอนให้รู้จักธรรมชาติอันแท้จริงที่มีอยู่ในตัวเรา และสัตว์ทั้งหลาย อันได้แก่ จิต เจตสิก รูป และรู้จักพระนิพพาน ซึ่งเป็นจุดหมายอันสูงสุดในพระพุทธศาสนา ธรรมชาติทั้งสี่ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน นี้ รวมเรียกว่า ปรมัตถธรรม

• หาก แปลตามศัพท์ คำว่า อภิธัมม หรือ อภิธรรม แปลว่า ธรรมอันประเสริฐ ธรรมอันยิ่ง ธรรมที่มีอยู่แท้จริงโดยปราศจากสมมุติ เนื้อความในพระอภิธรรมเกือบทั้งหมด จะกล่าวถึง ปรมัตถธรรม อันเป็นธรรมชาติที่เป็นจริงแท้แน่นอน ที่ดำรงลักษณะเฉพาะของตนไว้โดยไม่แปรผันเปลี่ยนแปลง เป็นธรรมที่ปฏิเสธความเป็นสัตว์ ความเป็นบุคคล ความเป็นตัวตนโดยสิ้นเชิง

 

ประโยชน์ที่จะได้รับจากการศึกษาพระอภิธรรม


* จะทราบว่า หลักธรรมคำสอนที่ถูกต้อง ในพระพุทธศาสนาคืออะไร และหัวใจของพระพุทธศาสนาอยู่ที่ไหน

* จะเข้าใจธรรมชาติของร่างกายและจิตใจ ที่รวมกันเป็นชีวิตหรือขันธ์ 5 อันประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาน ว่าแท้จริงแล้ว เป็นแค่เพียงสถาวะที่ปรากฏเกิดขึ้น ตามเหตุตามปัจจัย ที่ปรุงเเต่งขึ้นมาเท่านั้น มิใช่สัตว์ มิใช่เป็นบุคคล มิใช่เป็นเรา มิใช่เป็นเขา ตามที่หลงผิดกัน

* จะมีความเข้าใจ เรื่องของบัญญัติธรรม และปรมัตถธรรมอย่างชัดเจน

* จะตัดสินได้ด้วยตนเอง ว่าอะไรเป็น ''บุญ'' อะไรเป็น ''บาป''

* จะมีความเข้าใจในเรื่อง ของการทำบุญมากขึ้น รู้ว่าจะต้องทำบุญอย่างไรจึงจะได้รับอานิสงส์สูงสุด

* จะทราบว่าบุญบาปที่ทำไปแล้ว กลับมาส่งผลได้อย่างไร ทำไมเราจึงเกิดมาแตกต่างกัน

* จะทราบว่าตายแล้วไปไหน ชาติหน้ามีจริงหรือไม่ นรก สวรรค์ อยู่ที่ไหน

* จะเข้าใจเรื่องกรรมและผลของกรรม (วิบาก) เป็นอย่างดี

* จะเข้าใจเรื่องการทำสมาธิและ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่ถูกต้อง

* จะเข้าใจเรื่อง มรรค ผล นิพพาน อย่างถ่องแท้

* จะได้รับความรู้ในสาระอื่น ๆ อันเป็นประโยชน์ ในการดำเนินชีวิตมากมาย ฯลฯ

 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาพระอภิธรรมมีอยู่มากมายหลายประการ แต่ที่สำคัญมี โดยสังเขปดังนี้

๑. การศึกษาพระอภิธรรมจะทำให้เข้าถึงแก่นของพระพุทธศาสนา เพราะพระอภิธรรมเกิดจากพระสัพพัญญุตญาณของพระพุทธองค์ การเข้าถึงพระอภิธรรมจึงเท่ากับเข้าถึงพระปัญญาคุณของ พระพุทธองค์อย่างแท้จริง

๒. การศึกษาพระอภิธรรม ก็คือศึกษาธรรมชาติการทำงานของกายและใจซึ่งเป็นธรรมชาติ ที่มีอยู่ในตัวเราและสัตว์ทั้งหลายเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ เรื่องจิต (วิญญาณ), เรื่องเจตสิก, เรื่องอำนาจจิต, เรื่องวิถีจิต, เรื่องกรรมและการส่งผลของกรรม, เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด, เรื่องสัตว์ใน ภพภูมิต่างๆ และเรื่องกลไกการทำงานของกิเลส ทำให้รู้ว่าชีวิตของเราในชาติปัจจุบันนี้มาจากไหนและ มาได้อย่างไร มีอะไรเป็นเหตุมีอะไรเป็นปัจจัย เมื่อได้คำตอบชัดเจนดีแล้วก็จะรู้ว่าตายแล้วไปไหนและ ไปได้อย่างไร อะไรเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างชาตินี้กับชาติหน้า ทำให้หมดความสงสัยแล้วเกิดอีกหรือไม่ นรก สวรรค์ มีจริงไหม ทำให้มีความเข้าใจเรื่องกรรม และการส่งผลของกรรม (วิบาก) อย่างละเอียด ลึกซึ้ง

๓. ผู้ศึกษา พระอภิธรรมจะเข้าใจเรื่องของปรมัตถธรรม หรือสภาวธรรมอันจริงแท้ตาม ธรรมชาติ ในพระอภิธรรมจะแยกสภาวะออกให้เห็นว่าทุกสิ่งไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลอะไร ทั้งนั้น คงมีแต่สภาวธรรมคือ จิต เจตสิก รูป ที่วนเวียนอยู่ในความเกิด แก่ เจ็บ ตาย โดยอาศัยเหตุอาศัยปัจจัยอุดหนุนซึ่งกันและกัน เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เกิดขึ้นใหม่แล้วก็ดับไปอีก มีสภาพเกิดดับอยู่เช่นนี้ โดยไม่รู้จักจบจักสิ้น แม้ใครจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม สภาธรรมทั้ง ๓ นี้ก็ทำงานอยู่เช่นนี้โดยไม่มีเวลาหยุด พักเลย สภาวธรรมหรือธรรมชาติเหล่านี้มิใช่เกิดขึ้นจากพระผู้เป็นเจ้า พระพรหมพระอินทร์ หรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ เป็นผู้บันดาลหรือเป็นผู้สร้าง แต่สภาวธรรมเหล่านี้เป็นผลอันเกิดมาจากเหตุ คือ กิเลสตัณหานั่นเองที่เป็นผู้สร้าง

๔. การศึกษาพระอภิธรรม จะทำให้เข้าใจสภาวธรรมอีกประการหนึ่ง อันเป็นจุดมุ่งหมาย สูงสุดในพระพุทธศาสนาที่ต้องการให้เข้าถึงนั่นก็คือนิพพาน นิพพาน หมายถึง ความหลุดพ้นจากกิเลสตัณหา ผู้ที่ปราศจากกิเลสตัณหาแล้วนั้น เมื่อหมดอายุขัย ก็จะไม่มีการสืบต่อของ จิต + เจตสิก และรูป อีกต่อไป ไม่มีการสืบต่อภพชาติ หยุดการเวียนว่ายตายเกิด พ้นจากทุกข์ทั้งปวงโดยสิ้นเชิง จึงกล่าวว่านิพพานเป็นธรรมชาติที่ปราศจากกิเลสตัณหา เป็นธรรมชาติที่ดับทุกข์โดยสิ้นเชิงและเป็นธรรมชาติที่ พ้นจากจิต เจตสิก รูป นิพพานมิใช่เป็นแดนสุขาวดีที่เป็นอมตะและเพียบพร้อมด้วยความสุขล้วน ๆ ตลอดนิรันดร์กาลตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ

๕. การศึกษาพระอภิธรรมจะทำให้เข้าใจคำสอนที่มีคุณค่าสูงสุดในพระพุทธศาสนา เพราะ แค่การทำทาน รักษาศีล และการทำสมาธิก็ยังมิใช่คำสอนที่มีค่าสูงสุดในพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นเหตุให้ต้องเกิดมารับผลของกุศลเหล่านั้นอีก ท่านเรียกว่า วัฎฎกุศล เพราะกุศลชนิดนี้ยังไม่ทำให้พ้นไปจากการเวียนว่ายตายเกิด คำสอนที่มีค่าสูงสุดในพระพุทธศาสนาคือ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวมหาสติปัฎฐาน ๔ เพื่อให้เห็นว่าทั้งนามธรรม (จิต + เจตสิก) และรูปธรรม (รูป) มีสภาพที่ไม่เที่ยง ทนอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตน บังคับบัญชาไม่ได้ มีการเกิดดับ เกิดดับ ตลอดเวลา หาแก่นสาร หาตัวตน หาเจ้าของไม่ได้เลย เมื่อมีปัญญาเห็นแจ้งในสภาวธรรมตามความเป็นจริงเช่นนี้แล้วก็จะนำไปสู่ การประหาณกิเลสและเข้าถึงพระนิพพานได้ในที่สุด

๖. การศึกษาพระอภิธรรม จะทำให้เข้าใจเรื่องอารมณ์ของวิปัสสนาซึ่งต้องใช้นามธรรม (จิต + เจตสิก) และรูปปรมัตถ์เป็นอารมณ์ เมื่อกำหนดรู้อารมณ์ในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานได้ ถูกต้อง การปฏิบัติก็ย่อมได้ผลตามที่ต้องการ
๗. การศึกษาพระอภิธรรม เป็นการสั่งสมปัญญาบารมีที่ประเสริฐที่สุดไม่มีวิทยาการใด ๆ ในโลกที่ศึกษาแล้วจะทำให้เกิดปัญญารู้แจ้งโลกเท่ากับการศึกษาพระอภิธรรม

๘. การศึกษาพระอภิธรรม เป็นการช่วยกันรักษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ไว้ ให้อนุชนรุ่นหลังและเป็นการช่วยสืบต่อพระพุทธศาสนาให้มั่นคงถาวรตลอดไป

 

ช่วยตอบผมด้วยครับ คุณปัตจะตัง

 

ขอผม เมื่อไีรจะมาตอบให้ครับ อยู่หน้า 13 ชื่อ chaianant รอฟังอยู่นานแล้ว

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> Wanwin[FONT=&quot][/FONT][FONT=&quot][/FONT]

-[FONT=&quot]อยากทราบว่าครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้อง ทำไมถึงแตกแยก ไม่สามัคคีเหมีอนแต่ก่อน มีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง[/FONT]
-[FONT=&quot]สุขภาพร่างกายจะเป็นอย่างไรต่อไป (ตอนนี้มีโรคประจำตัวอยู่)[/FONT]
-[FONT=&quot]อนาคตจะเป็นอย่างไร จะรวยมั๊ย หรือจะสามารถได้มีญาณทิพย์ช่วยเหลือคนได้หรือไม่[/FONT]
[FONT=&quot] ขอให้คุณปฏิบัติขั้นพื้นฐาน ข้อ1.สมาทานศีล 5 ข้อ2 สวดมนต์ ข้อ3 นั่งสมาธิ[/FONT]
[FONT=&quot] สิ่งที่คุณและครอบครัวคุณต้องมีปัญหากัน ก็เนื่องจากวจีกรรม กับพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ ผู้มีศีล มีธรรม ต้องขอขมากรรมและก็สวดมนต์ให้มาก ๆ ระวังคำพูด ความคิด การกระทำ ให้สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น ก่อนสวดมนต์อื่นนะค่ะ และสวดขอขมาพระรัตนตรัย บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ทำบุญมูลนิธิเด็ก ไปวัดก็ชำระหนี้สงฆ์ก่อนเป็นอันดับแรก และอธิษฐานขอขมากรรม[/FONT]
[FONT=&quot] เรื่องของโรคภัยไข้เจ็บก็จากผิดศีลข้อ 2 ควรให้ทานบ่อย ๆ ปล่อยชีวิตสัตว์ เช่น โค-กระบือ ขออโหสิกรรมต่อทรัพย์ของแผ่นดิน หรือทรัพย์ใดที่เคยคดโกงมาด้วยการทำร้ายมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย จะด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทำบุญ ทำทานก็อธิษฐาน แผ่เมตตาเรื่อย ๆ นะค่ะ[/FONT]
[FONT=&quot] ส่วนอนาคตขึ้นอยู่กับกุศลและความตั้งใจ ต้องอธิษฐานจิตนะค่ะ[/FONT]

 

วัน เดือน ปี เกิด และคำถามส่งทาง PM แล้วค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ขออนุโมทนาบุญค่ะ

 

วันเดือนปีเกิด PM ไปให้แล้วนะค่ะ รบกวนด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องที่อยากถามก็เป็นเรื่อง

1. กิจการงานส่วนตัวที่ขาดทุนตลอด
2. เรื่องหนี้สินที่ต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจะใช้หมดเมื่อไหร่ และไม่อยากหาหนี้มาเพิ่มอีกแล้ว
3. เรื่องคดีความ
4. เรื่องความรักที่ไม่สมหวัง

ขอบคุณมากๆค่ะ

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> tonmay
1. [FONT=&quot]อยากรู้ว่าทำไมไม่ค่อยมีเพื่อนอ่ะค่ะ[/FONT]
2. [FONT=&quot]ครอบครัวมีหนี้สินมาก ควรจะแก้ยังไง[/FONT]
3. [FONT=&quot]ควรจะทำกิจการต่อจากที่บ้านดีรึป่าว[/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เรื่องเพื่อนของคุณให้คุณเมตตากับบริวารของคุณ แล้วเวลาทำบุญก็ชักชวนคนให้ทำบุญสร้างกุศล ผลบุญนี้จะช่วยให้มีบริวารที่ดี และให้คุณขอขมาพระรัตนตรัยทุกวันพร้อมกับสมาทานศีล5 [/FONT] [FONT=&quot]สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็นพร้อมคำแปล สวดพาหุง อิติปิโส มงคลสูตร กรณียเมตสูตร (มีกัลยาณมิตร มีผู้เมตตา) [/FONT]
[FONT=&quot] ครอบครัวมีหนี้สินก็หมั่นไปทำบุญที่วัด ชำระหนี้สงฆ์ ซื้อที่ดิน อิฐ หิน ปูน ทราย กระเบื้อง สังฆทาน ผ้าไตร ปัจจัยต่าง ๆ แก่พระภิกษุสงฆ์ หรือร่วมงานบวชพระ กฐิน ผ้าป่า และอธิษฐานขอให้มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายที่เคยสร้างเวรสร้างกรรมและคดโกงใครมา ขอให้อนุโมทนาร่วมบุญในครั้งนี้ อโหสิกรรม ขอให้หนี้สินที่มีอยู่หมดสิ้นลงโดยเร็ว และไม่มีหนี้สินต่อกันอีก [/FONT]
[FONT=&quot] ส่วนเรื่องกิจการที่บ้านต้องอดทน ค่อยๆ คิด หมั่นทำบุญใส่บาตร อุทิศให้เทวดา เจ้าที่ เจ้าทาง ทำบุญบ้าน ขอให้ช่วยให้กิจการเจริญรุ่งเรือง และที่สวดกรณียเมตสูตร ก็ช่วยให้เทวดาเมตตา และสวดรัตนสูตร เพิ่มก็ได้ค่ะ[/FONT]
<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> Madsai[FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot]คำถามเรื่อง ครอบครัวคะ ลูก สามีคะ[/FONT]
2. [FONT=&quot]เปิดร้านขายข้าวแกงเมื่อไหร่กิจการจะรุ่งเรืองคะ[/FONT]
3.[FONT=&quot]กำลังดูที่อยู่อาศัย อยากทราบที่อยู่อาศัยเกือบไหนถูกกับเรา และเลขที่บ้าน เลขไหนทีไม่เหมาะกับเราคะ[/FONT]
[FONT=&quot] ทำบุญบวชพระ บวชเณร ถวายเครื่องบวช ทำบุญมูลนิธิเด็ก ถ้าเคยรับรู้เรื่องการทำแท้ง ก็ให้เค้าไปอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้น ให้ได้ไปเกิดใหม่กับคนที่พร้อม เวลาสมาทานศีล5 สวดมนต์ ทำสมาธิ ก็แผ่เมตตาให้ลูก สามี อธิษฐานจิตขอให้มีศีลธรรม ได้พบแต่กัลยาณมิตร ถ้าเป็นลูกก็ให้เชื่อฟังพ่อแม่ เรื่องร้านขายข้าวแกง ก็ต้องอดทน ทำบุญใส่บาตร แผ่เมตตาให้สัมมาอาชีพ ปัจจัยสี่ที่ประกอบสัมมาอาชีพ สวดมนต์พระแม่กวนอิม เปิดเพลงสวดมนต์ที่บ้านบ่อย ๆ ตลอดก็ได้ แผ่เมตตาให้พระแม่ธรณี เรื่องที่อยู่อาศัย ถ้าถูกใจ ดูแล้วดี เหมาะสม เราชอบ อยู่แล้วมีความสุขสบายใจ ก็ดีแล้วค่ะ[/FONT]

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]พิมพ์แพร[/FONT]
[FONT=&quot]ความก้าวหน้าในการปฎิบัติธรรม[/FONT]
-[FONT=&quot]จะมีโอกาสทำธุระกิจส่วนตัวใหม...และควรทำทางด้านใดดี[/FONT]
-[FONT=&quot]ครอบครัว[/FONT]
[FONT=&quot]สำหรับการปฏิบัติธรรมนั้นอยู่ที่ความขยัน อดทนในการปฏิบัติ ถ้าทำบ้างไม่ทำบ้างไม่ต่อเนื่องความก้าวหน้าก็ช้า[/FONT]
[FONT=&quot] งานที่จะทำเป็นด้านบริการก็ดีค่ะ หรืองานด้านความสวยความงาม เสื้อผ้า ของสวยงามของผู้หญิง[/FONT]

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> chaianant
[FONT=&quot]ทำไร มีแต่อุปสรรค ไม่เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน[/FONT] [FONT=&quot]โดนคนโกงเงินเดือน เอาเปรียบ ในชีวิต นี้เปลี่่ยนงานมา[/FONT] [FONT=&quot]เรียกว่าจะมากกว่าอายุตัวเองอีก เคยฝันเห็นตัวเองเป็นพระมาหาในฝันบ่อย[/FONT] [FONT=&quot]และัฝันว่าตัวเองบวชเป็นพระ บ่อยๆ[/FONT] [FONT=&quot]รบกวนพหูสูตร ที่เถิดท่าน[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]คุณลองคิดถึงอดีตที่ผ่านมาว่าคุณได้เคยผิดศีล5 บ้างมั้ยค่ะ ที่เกี่ยวกับเรื่องของวจีกรรม และเรื่องคู่ครองคนรัก หุ้นส่วน ทั้งเรื่องการเงิน หรือได้ล่วงเกินพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ ล่วงเกินผู้มีพระคุณ ผู้อยู่ในศีล ในธรรม ผู้ใหญ่ หัวหน้างาน ขอให้คุณเริ่มต้นใหม่นะค่ะ หมั่นฝึกจิต ดูใจตัวเอง อย่าส่งจิตออกนอกกาย อย่าวิตกกัง หวาดระแวง ลังเลสงสัย ให้ปฏิบัติตามพื้นฐานที่บอก คือ สมาทานศีล5 สวดมนต์ ทำสมาธิ ทุกเช้า-เย็น หรือก่อนนอน อ่านหนังสือธรรม ฟังเทศน์ ฟังธรรม เรียนรู้เกี่ยวกับธรรม [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] ขอขมากรรมพระรัตนตรัย แผ่เมตตาให้สัมมาอาชีพ ปัจจัยสี่ที่ประกอบสัมมาอาชีพ ทรัพย์ของแผ่นดิน คนของแผ่นดิน ที่เคยทำผิดเป็นถูก ทำถูกเป็นผิด หรือเคยคดโกง ยักยอก ผิดศีลข้อ2 ต่อบุคคลใดหรือสัตว์ทั้งหลาย ขอให้อย่าจองเวรต่อกัน อย่าพยาบาทต่อกัน อโหสิกรรม และอธิษฐานจิตขออโหสิกรรม และขอให้ได้งานดี มั่นคง ไม่มีอุปสรรค์ เจริญก้าวหน้า ถ้าไม่เคยบวช มีโอกาสที่บวชได้ก็บวช แล้วตั้งใจปฏิบัติ หรือทำบุญงานบวชพระ บวชเณร ถวายผ้าไตร บาตรพระ ชำระหนี้สงฆ์[/FONT]

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> maolovedora
1.[FONT=&quot]เรื่องการเรียนต่อคับว่าจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า[/FONT]
2.[FONT=&quot]เรื่องธุรกิจที่คิดจะทำคับว่าจะทำสำเร็จหรือเปล่าคับ[/FONT]
3.[FONT=&quot]ผมจะมีเนื้อคู่กันชายหรือหญิงคับ ตอนนี้ผมสับสนไปหมด เป็นเพราะกรรมอะไรทีทำให้เราเกิดมาเป็นแบบนี้[/FONT]
[FONT=&quot] เรื่องการเรียนและการงานยังไม่แน่นอน คุณต้องระวังคำพูดให้มากๆ คุณเคยได้ไปรับรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำแท้งรึป่าว อันเนื่องมาจากวจีกรรมของเรา จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ คุณต้องแผ่เมตตา ให้เค้าไปเกิดกับคนที่พร้อม ให้อยู่ภพภูมิที่สูงขึ้น อย่าจองเวรหรือพยาบาทกันและกัน แล้วสมาทานศีล5 สวดมนต์ ทำสมาธิทุกวัน สวดบทพระปริตรด้วย พาหุง อิติปิโส[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot] ส่วนข้อ3 ที่ถามมานั้น ก็คงเป็นเรื่องผิดศีลข้อ3 มาก่อน ทำให้คู่ครอง คนรัก เสียใจมาก ๆ เพราะผิดหวัง ทั้งลูก ทั้งเมีย ตรอมใจ จนเสียชีวิต คุณบวชเนกขัมมะ อุทิศบุญ แผ่เมตตา ขออโหสิกรรมต่อกัน เป็นคนดี อย่าผิดศีล5[/FONT][FONT=&quot][/FONT]

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->[FONT=&quot]arisara70-ไม่ทราบจะถามอะำไรบ้างค่ะ ช่วยส่งมาใหม่ด้วยค่ะ
[/FONT]

 

อันธสูตร

ว่าด้วยคนตาบอด - ตาเดียว - สองตา

[๔๖๘] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๓ มีอยู่ในโลก บุคคล ๓
คือใคร ? คือ (อนฺธ) คนบอด (เอกจกฺขุ) คนตาเดียว (ทฺวิจกฺขุ) คนสองตา
ก็บุคคลบอดเป็นอย่างไร ? บุคคลลางคนในโลกนี้ ไม่มีดวงตา
(คือปัญญา) ที่เป็นเหตุจะให้ได้โภคทรัพย์อันยังไม่ได้ก็ดี เป็นเหตุจะที่
โภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีขึ้นก็ดี ทั้งไม่มีดวงตา (คือปัญญา) ที่เป็นเหตุจะ
ให้รู้ธรรมทั้งหลายอันเป็นกุศลและอกุศล ... อันมีโทษและไม่มีโทษ ... อัน
หยาบและละเอียด ... อันเป็นฝ่ายดำและฝ่ายขาว นี่ ภิกษุทั้งหลาย เราเรียกว่า
บุคคลบอด.
ก็บุคคลตาเดียวเป็นอย่างไร ? บุคคลลางคนในโลกนี้ มีดวงตาที่
เป็นเหตุจะให้ได้โภคทรัพย์อันยังไม่ได้ก็ดี เป็นเหตุจะทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้ว
ให้ทวีขึ้นก็ดี แต่ไม่มีดวงตาที่เป็นเหตุจะให้รู้ธรรมทั้งหลายอันเป็นกุศลและ
อกุศล ฯลฯ นี่ ภิกษุทั้งหลาย เราเรียกว่า บุคคลตาเดียว.
</pre>“อันธสูตร” ซึ่งพระพุทธเจ้าพูดถึงเรื่องการสอนคนว่าคนเราแบ่งออกเป็น ๓ ประเภท คือ
๑. คนตาบอดสองข้าง
๒. คนตาบอดข้างเดียว
๓. คนตาดีสองข้าง
พระพุทธเจ้าบอกว่า คนตาดีสองข้างหมายถึง หนึ่ง-เป็นคนที่รู้จักหา เงิน-หาโภคทรัพย์เก่ง และสอง-เป็นคนที่รู้จักใช้ธรรมะ เอาธรรมะมาใช้เป็น รู้ว่าธรรมะฝ่ายใดเป็นธรรมะฝ่ายดำ� และธรรมะฝ่ายใดเป็นธรรมะฝ่ายขาว ธรรมะอะไรยังไม่สมควรเอามาใช้ ธรรมะอะไรควรจะต้องเอามาใช้ก่อน
ไม่ใช่ขึ้นชื่อว่าธรรมะแล้วดีทั้งหมด ฝ่ายไม่ดีมันก็มี ต้องแยกให้เป็น ถึงจะเรียกว่า “คนตาดีสองข้าง”
ส่วนคนตาบอดข้างเดียวหมายถึงใคร? ... พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าคนตาบอดข้างเดียวหมายถึงคนที่รู้จักหาโภคทรัพย์คือหาสตางค์เก่ง แต่ยังไม่รู้ธรรมะ
อ้าว-แล้วคนรู้ธรรมะแต่หาสตางค์ไม่เก่งล่ะ ท่านไม่ได้พูดถึงแฮะ!?
เพียงแต่บอกว่าคนตาบอดสองข้างคือ หนึ่ง-ไม่รู้จักหาโภคทรัพย์ และสอง-ไม่รู้จักใช้ธรรมะ

 

อย่าเผลอไปว่าพระ จะทำ�กินไม่ขึ้น
้คนยังจนอยู่ก็คือการไปล่วงเกินผู้ที่มีคุณธรรมสูงกว่า
บางทีเราเผลอไปว่าคน เราไม่รู้หรอกว่าคนที่เราไปว่าเขามีคุณธรรมสูง กว่าเรามั้ย?
ยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่องพระสงฆ์ เราได้ข่าวพระภิกษุบางรูปไปปล้ำ�สีกา จริงอยู่การปล้ำ�สีกาอย่างน้อยก็ผิดศีลประมาณข้อสองข้อ แต่ศีลของท่าน ๒๒๗ ข้อ ผิดไปสองข้อยังเหลืออีกตั้ง ๒๒๕
แล้วศีลของเราเท่าไร? ... แค่ศีล ๕ ยังไม่ค่อยจะครบเลย ยังไงก็ยังเหลือน้อยกว่าพระ แล้วเราไปว่าท่าน เขาเรียกว่าอยู่แผนกซ้ำ�เติม
นั่นล่ะการไปล่วงเกินคนที่มีคุณธรรมสูงกว่าก็เป็นเหตุให้เราทำ�กินไม่ขึ้น!
อย่างนี้เรียกว่าล่วงเกินแบบเห็น ๆ ยังมีประเภทล่วงเกินแบบไม่รู้ตัวอีก เช่น บางทีเรากำ�ลังขับรถ เห็นรถคันหน้าอยู่เลนขวาแต่ขับช้า ที่จริงคนขับเขาเป็นคนสูงอายุ แล้วเลนขวามันว่าง เขาไม่ได้คิดอะไรหรอก ก็ขับช้าไปตามประสา
แต่บังเอิญผู้สูงอายุคนนั้นเป็นคนมีคุณธรรมสูง เขาฝึกกรรมฐานเป็นผู้ทรงฌาน ผู้ทรงฌานหนักกว่าผู้ทรงศีลอีก เราไปล่วงเกินท่าน-ก็ทำ�กินไม่ขึ้นอีกเหมือนกัน

 

เพราะฉะนั้นเราไม่รู้หรอกว่าใครเป็นใคร เขาเป็นผู้ทรงฌานหรือเปล่า ทรงฌานคือทำ�สมาธิแล้วได้ฌานเป็นประจำ� เราขับตามหลังมาเห็นเขาขับช้า ก็บีบแตรว่าเลย การล่วงเกินไม่จำ�เป็นต้องว่าด้วยคำ�พูดอย่างเดียว
นี่ก็เป็นเหตุให้ทำ�กินไม่ขึ้นเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่เราเป็นคนขยันแทบตาย ทำ�งานสองที่สามที่ แต่ทำ�เท่าไรก็ไม่พอใช้ นั่นเป็นเพราะว่าเราไปล่วงเกินผู้มีคุณธรรมสูงกว่า

 

ขโมยเวลานายจ้าง ทำ�ยังไงก็ไม่รวย
บางทีเราเผลอทำ�อทินนาทาน (ศีลข้อ ๒ ห้ามลักทรัพย์) เป็นเหตุให้ทำ�กินไม่ขึ้น-ทำ�เท่าไรก็ไม่เหลือ
อย่างเช่นเราไปสวนมะม่วงบ้านอื่น เห็นมะม่วงเขามีเป็นร้อย ๆ ต้น ลูกดกเต็มต้น เราก็นึกว่าเด็ดซะลูกสองลูกเจ้าของเขาคงไม่เดือดร้อนอะไรหรอก แล้วยิ่งมะม่วงสวนอื่นมันมักจะหวานอร่อยกว่าบ้านเรา บ้านเรามันกินชินแล้วไม่ค่อยอร่อยไม่เหมือนสวนบ้านอื่น เราก็ไปเด็ดกิน
อันนี้ยังเห็นชัดว่าเป็นอทินนาทาน ไปเอาของที่เขาไม่อนุญาต มันก็เป็นเหตุให้เราทำ�กินไม่ขึ้น
บางคนทำ�งานวันละ ๘ ชั่วโมง อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทำ�เป็นเครียด ที่จริงกำ�ลังเล่นเกม (ฮา) งานมันไม่มีอะไรเราก็เอาเกมมาเล่น แปลว่าเรากำ�ลังโกงเวลาบริษัท

 

หรือบางทีเจ้านายใช้ให้ไปซื้อของ จริง ๆ ซื้อของแค่ครึ่งชั่วโมงก็กลับได้
แล้ว เราแถมเดินช้อปปิ้งต่ออีกสองชั่วโมง แล้วบอกว่ารถมันติด ที่จริงรถข้างนอก
ไม่ติดหรอก แต่มันติดอยู่แถวในห้างนั่นแหละ-ติดรถเข็นสินค้า (หัวเราะ)
งานนี้เราก็ทำ�อทินนาทานไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นเหตุให้ทำ�กินไม่ขึ้นเหมือน
กัน!
พวกเราหลายคนที่เป็นลูกจ้างเขาก็ต้องเคยมีเผลอแบบนี้บ้าง
แหละ เผลอโกงเวลานายจ้างโดยไม่เจตนา ทำ�ด้วยความคะนองเฉย ๆ ก็
เป็นเหตุให้ทำ�กินไม่ขึ้น มันก็เลยจนอยู่อย่างนี้!

 

มหากุศล

ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ คือการทำ�บุญให้เกิดบุญ ๑๐ ประการ มีอยู่ ๗ ข้อที่เป็นกุศลธรรมดา อีก ๓ ข้อถึงเป็นมหากุศล
เรื่องที่ ๑ การให้ทาน อาจจะไม่ได้ให้ด้วยเงินหรือสิ่งของ แต่เป็นการให้ด้วยคำ�พูด-ให้กำ�ลังใจก็ได้ชื่อว่าเป็นการให้ทาน
แต่จริง ๆ แล้วคำ�ว่าให้ทาน - พระพุทธเจ้าหมายถึงการทำ�ตัวให้เป็นประโยชน์ อย่างเช่นตอนนี้เรานั่งอยู่บนศาลา รู้สึกเบื่อมาก-ง่วงมากเลย เราก็ขอย้ายไปอยู่โรงครัวไปช่วยหั่นผักทำ�ตัวให้เป็นประโยชน์ซะยังจะได้บุญมากกว่า ถึงมันจะไม่ได้บุญเรื่องทำ�วิปัสสนาก็ไม่เป็นไร ไปเอาบุญหั่นผักแทน ได้ทำ�ตัวให้เป็นประโยชน์ ก็ได้ชื่อว่าสร้างทาน
เรื่องที่ ๒ คือการรักษาศีล ... การที่เรายึดถือศีลข้อ ๓ เพียงข้อเดียวก็เป็นเหตุให้รวยได้ โดยขอให้เราอธิษฐานว่าจากนี้ไปเราจะไม่ล่วงละเมิดทางเพศคนอื่นเลยชั่วชีวิต แล้วเราก็รักษากายรักษาใจให้ดี แค่มีศีลข้อนี้เพียงข้อเดียวก็เป็นเหตุให้รวยได้แล้ว
เรื่องที่ ๓ มหากุศลที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ก็คือ มหากุศลจากการทำ�กรรมฐาน ซึ่งมีอยู่สองประเภท อย่างที่พูดไปแล้วตอนต้นก็คือสมถกรรมฐานที่ต้องการความสงบ กับวิปัสสนากรรมฐานที่ต้องการสติ
วิปัสสนาไม่ได้ต้องการความสงบ พอมีเสียงดังเราก็กำ�หนดยินหนอ ไม่ใช่ว่าไม่สงบ มาหงุดหงิดกับความไม่สงบไม่ได้ เพราะว่าวิปัสสนาไม่ได้ต้องการความสงบเป็นเป้าหมาย แต่เราต้องการสติ
ขณะที่เราฝึกวิปัสสนากรรมฐาน เราจะลืมเรื่องอื่นทั้งหมด ในวิปัสสนากรรมฐานจะเหลืออยู่ ๒ เรื่อง คือ รูปกับนาม
ในชีวิตประจำ�วันเรายังแบ่งแยกชนชั้น เรายังแบ่งแยกว่านี่เป็นคน-นี่เป็นสัตว์-นี่เป็นสิ่งของ-นั่นเขา-นี่เรา
แต่ตอนเดินจงกรมเมื่อสักครู่ มีเราอยู่ในนั้นมั้ย? ... เรายกหนอ ... เราย่างหนอ ... เราเหยียบหนอ ... มีตัวตนมั้ย? -- ไม่มี ...
ใครยก? ใครย่าง? ใครเหยียบ?
ไม่มีใครยก ไม่มีใครย่าง ไม่มีใครเหยียบ
แต่เป็นใครยก รูปมันยก-ก็ยกหนอ ไม่ต้องมีประธานเป็นตัวยก มีกริยาเลย
อันนี้คือการฝึกเพื่อให้เกิดความเห็นถูกต้อง ที่เราเห็นผิดว่านี่เป็นเรา นั่นเป็นเขา แล้วก็มุ่งร้ายอาฆาตกันอย่างนี้ มันก็จองเวรกันไม่จบ
แต่ถ้าเราไม่มีตัวตน ไม่มีเราไม่มีเขา ตอนนี้ใครนั่งอยู่ ... รูปนั่ง - ไม่ใช่เรานั่ง ... ใครก็ไม่รู้-ไม่มีใคร เป็นรูปนั่ง ... ใครเมื่อย รูปมันเมื่อย ไม่เกี่ยวกับเรา