พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2071.หน้ากาก พรานบุญ “มหาลาภ” พ่อแก่เจ้าแสง หลังฝังตระกรุด นะเศรษฐี ปี 2559 ให้บูชา 999 บาท


    upload_2023-8-2_10-25-7.png

    ตระกรุด “นะเศรษฐี” …. “นะเศรษฐี มีเงินทองข้าทาสบริวาณไหลมาเทมาดั่งวาริณ จักบริบูรณ์ด้วยข้าทาสแลบริวารทรัพย์สินเงินทอง"

    พรานบุญหน้าแดง เป็นพรานบุญปางสมัยตอนหนุ่มออกป่าล่าสัตว์ เหมาะสำหรับคนที่กำลังทำงานอยู่ อยู่ในวัยแรงงาน ผู้ทำกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ใช้พรานบุญหน้าแดงจักดีหนักแล

    หน้ากากพรานบุญพ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง ที่สุดเครื่องรางโชคลาภ เมตตาค้าขาย สายใต้ ผู้คนที่นำไปบูชาต่างเจอประสบการณ์อย่างอัศจรรย์
    พรานบุญของพ่อแก่เจ้าแสง แห่งสำนักวัดบ้านตรัง เป็นพรานบุญที่มีเอกลักษณ์และประสบการณ์ที่ยากจะหาที่ใดเหมือน เพราะปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์สายหมอครูมโนราห์ใหญ่โดยตรง ท่านเป็นครูอาจารย์ที่เคารพนับถือของมโนราห์จากทั่วสารทิศ ซึ่งหากสรุปแล้ว หน้ากากพรานบุญของท่านมีความขลัง แรง ประสบการณ์สูง แตกต่างจากของสำนักอื่นดังนี้
    1. ข้อวัตรปฏิบัติต่างๆที่บริสุทธิ์ของพ่อแก่เจ้าแสง พ่อแก่เจ้าแสง ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา เมื่ออายุ 21 ปี ที่วัดประเวศน์ภูผาหรือวัดบ้านตรัง ในปี 2483 โดยมี พ่อท่านจันทร์ทอง แห่งวัดตะเคียนทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยตลอดอายุของท่านท่านได้ครองเพศสมณะมาโดยตลอด ท่านเป็นภิกษุที่มีข้อวัตรปฏิบัติที่เรียบง่าย ไม่แสวงหาใน ลาภ ยศ สรรเสริญ แต่ในขณะเดียวกัน ท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นยอดพระภิกษุอีกรูปในสามจังหวัดชายแดนใต้ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับเป็นอย่างมาก พ่อแก่เจ้าแสงท่านเป็นพระภิกษุอีกรูปที่มีเมตาไม่มีประมาณให้ความช่วยเหลือคนทุกชนชั้น ไม่แยก ชั้นวรรณะ เชื้อชาติ ศาสนา ดังจะเห็นได้จากในบางครั้งยังมีชาวบ้านต่างศาสนามาขอความช่วยเหลือจากท่านในการแก้ของแก้คุณไสยมนต์ดำ
    2.สายวิชาตวามรู้ต่างๆที่ท่านได้ร่ำเรียนมา โดยเฉพาะสายหมอครูมโนราห์ใหญ่ โดยก่อนที่จะจะอุปสมบทได้ท่านร่ำเรียนเวทย์วิทยาคม มนตราอาคมขลังแห่งสายโนราห์มาอย่างครบถ้วน โดยได้ศึกษาจาก โนรานุ่ม โนรานิ่ม โนราแคล้ว ซึ่งมีชื่อเสียงมากในขณะนั้นในหัวเมืองปัตตานี ซึ่งพิธีกรรมหนึ่ง ผู้สำเร็จวิชาสายมโนราห์ก่อนจะอุปสมบทต้องกระทำคือ พิธีการ “ตัดจุกบวช” โดยเป็นอีกวันที่เหล่าโนราห์ต่างๆพร้อมใจกันมาร่วมประกอบพิธีมากมาย การตัดจุกบวชมีความหมายโดยนัยว่า ได้สำเร็จวิชาอาคมทางมโนราห์ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว จักต้องได้บวชเรียนทางพระพุทธศาสนาเพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและวิทยาคม วิทยาคุณจากพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณต่อไป ด้วยเหตุนี้พ่อแก่เจ้าแสงท่านจึงเป็นพระเถราจารย์ที่ลูกหลานมโนราห์ต่างให้ความเคารพ นับถือแลศรัทธาเป็นที่สุด และนอกจากวิชาหมอครูมโนราห์ใหญ่ที่ท่านสำเร็จแล้ว ท่านยังได้สำเร็จวิชาต่างๆจากพระเถราจารย์สายใต้อีกหลายรูป อาทิ พ่อท่านจันทร์ทอง อริยะเถราจารย์อาคมขลังแห่งวัดตะเคียนทอง ปัตตานี ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ท่าน พ่อแก่เจ้าแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควาย พระอริยะเถราจารย์แห่งเมืองใต้ ผู้สร้างพระปิดตาอันโด่งดังประสบการณ์มากมาย ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม และพ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย สองพระเกจิเถราจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษของเมืองปัตตานี ท่านแลกเปลี่ยนภูมิรู้ ภูมิธรรมกันเสมอมา....นอกจากที่ท่านศึกษามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง แล้วท่านยังได้ศึกษาวิชาอาถรรพณ์โบราณมาจากพ่อท่านไชย อดีตเจ้าอาวาสของวัดบ้านตรังอีกมากมาย ทั้งจากตำรับตำราโบราณของคู่วัดบ้านตรังที่สืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องและยาว
    3.สายเลือดมโนราห์บริสุทธิ์ กล่าวคือ พ่อแก่เจ้าแสง ก่อนที่จะอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระบวรพุทธศาสนานั้น ท่านได้สืบเชื้อสาย สายเลือดมโนราห์จากบรรพบุรุษ หลายชั่วอายุคน ทำให้แรงครูของบรรพบุรุษนั้นได้มาสถิตอยู่กับพ่อแก่เจ้าแสง เวลาท่านจะกระทำการปลุกเสกหน้ากากพรานบุญ หรือวัตถุมงคลสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้ว ย่อมได้แรงครูจากเชื้อสายหมอครูมโนราห์ของบรรพบุรุษท่านด้วย ซึ่งข้อนี้เองเป็นเหตุให้หน้ากากพรานบุญของพ่อแก่เจ้าแสงมีความแตกต่างจากของที่อื่น นับเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของหน้ากากพรานบุญ “พ่อแก่เจ้าแสง” ในปัจจุบัน ที่ยากจะหาสำนักใดเหมือน!!!

    น้ากากพรานเฒ่าหน้าทอง พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง รุ่น มหาลาภ ปี 2559 “กรรมการ” ตามแบบต้นฉบับสายวัดบ้านตรัง...กฐินปี ๕๙ พิมพ์ใหญ่ พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี…มาพร้อมกล่องเดิม…..ปลุกเสกตามแบบพิธีโบราณสายวัดบ้านตรัง พ่อแก่เจ้าแสงเป็นประธานในการปลุกเสก.. ..สุดยอดแห่งเสน่หามนตรา ตามตำรับวิชา ครูโนราห์ แต่ครั้งโบราณ นี่คืออานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ใดมีไว้บูชา ย่อมสมปรารถนาในสิ่งทั้งปวง มีประสบการณ์โชคลาภากมากมายครับ…..….
    กฐินปี 2559 พิมพ์ใหญ่ พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง !!!!...สุดยอดแห่งเสน่หามนตรา ตามตำรับวิชา ครูโนราห์ แต่ครั้งโบราณ นี่คืออานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ใดมีไว้บูชา ย่อมสมปรารถนาในสิ่งทั้งปวง มีโค๊ตชัดเจน พร้อมกล่องเดิมๆครับ"...หน้านี้ได้มาใหม่นานๆจะได้มาสักองค์ครับ.....

    ด้านหลังเป็นอักขระยันต์ “นะไม่ตรึก” เป็นเอกอุวิชาที่ พ่อแก่เจ้าแสง พระเถระเฒ่าแห่งสำนักวัดบ้านตรัง ได้สำเร็จวิชานี้ โดย นะไม่ตรึก เป็นคำเรียกชื่อยันต์โบราณ ภาษาท้องถิ่นโบราณภาคใต้ ที่มีความหมายว่า "มีกิน มีใช้ ไม่รู้จักอด ไม่รู้จักอยาก"......…หน้ากากพรานบุญ มหาลาภ พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง ปี 2559 เนื้อกระเบื้องโบสถ์เก่าอายุกว่า 100 ปี ของวัดบ้านตรัง รุ่น “มหาลาภ” สร้างตามแบบต้นฉบับสายวัดบ้านตรัง ออกให้ทำบุญกฐินปี 2559


    ด้านหลังเป็นอักขระยันต์ “นะไม่ตรึก” เป็นยันต์ประจำตัวของพ่อแก่เจ้าแสง และเป็นเอกอุวิชาที่ พ่อแก่เจ้าแสง พระเถระเฒ่าแห่งสำนักวัดบ้านตรัง ได้สำเร็จวิชานี้ โดย นะไม่ตรึก เป็นคำเรียกชื่อยันต์โบราณ ภาษาท้องถิ่นโบราณภาคใต้ ที่มีความหมายว่า "มีกิน มีใช้ ไม่รู้จักอด ไม่รู้จักอยาก" สุดยอดแห่งเสน่หามนตรา ตามตำรับวิชา ครูโนราห์ แต่ครั้งโบราณ นี่คืออานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้ใดมีไว้บูชา ย่อมสมปรารถนาในสิ่งทั้งปวง ทุกหน้ามีมีโค๊ตชัดเจนและหมายเลขชัดเจนครับ.......

    หน้ากากพราน รุ่นนี้พ่อแก่เจ้าแสงได้อธิฐานจิตหลายรอบหลายวาระ เผื่อให้คุณที่เข้มขลังทางด้านโชคลาภ นอกจากนี้ พรานบุญชุดนี้ยังมีมวลสารอื่นๆได้แก่ เกศาพ่อแก่เจ้าแสง ผงไม้ตะเคียนเก่าของวัดบ้านตรังอายุหลายร้อยปี ผงไม่จันทันรอดโบสถ์เก่าของวัดบ้านตรัง ผงแป้งเสกมโนราห์มหาเสน่ห์ ผงว่านมงคลต่างๆ ผงนะลือชา ผงปัทฐมัง ผงนอโม ผงเศรษฐี ผงมหาตะหมื่น. ผงเก่าในการสร้างพระของวัดบ้าน เป็นต้น……โดยมีพิมพ์ที่จัดสร้างดังต่อไปนี้
    1.หน้ากากพรานบุญ “สามตระกรุด” จัดสร้าง ๑๐๐ หน้า
    2.หน้ากากพรานเฒ่าหน้าทอง “สามตระกรุด” จัดสร้าง ๑๐๐ หน้า
    3.หน้ากากพรานเฒ่าหน้าทอง จัดสร้าง ๑,๐๐๐ หน้า
    4.หน้ากากพรานบุญ ตระกรุด “นะเศรษฐี” จัดสร้าง ๑,๐๐๐ หน้า
    5.หน้ากากพรานบุญ ตระกรุด “นะเมตตา” จัดสร้าง ๑,๐๐๐ หน้า
    6.หน้ากากพรานบุญ ตระกรุด “นะไม่ตรึก” จัดสร้าง ๑,๐๐๐ หน้า
    7.หน้ากากพรานบุญธรรมดา จัดสร้าง ๑๐,๐๐๐ หน้า
    8.หน้ากากพรานบุญจิ๋ว จัดสร้าง ๑๐,๐๐๐ หน้า…..

     
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2072. หน้ากากพรานบุญ เนื้อกระเบื้องหลังคาโบสถ์ รุ่นแรก พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง ปี 2557 ให้บูชา 1450 บาท เลี่ยมพร้อมบูชา


    upload_2023-8-2_10-32-52.png

    หน้ากากพรานบุญเนื้อกระเบื้องหลังคาโบสถ์ รุ่นแรก พ่อแก่เจ้าแสง จนฺทวณฺโณ (พระครูมงคลประภาต) วัดประเวศน์ภูผา (วัดบ้านตรัง) จ.ปัตตานี จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2557 โดยการนำกระเบื้องหลังโบสถ์เก่าของวัดบ้านตรัง อายุเกือบร้อยปี นำมาบดเป็นชนวนมวลสาระสำคัญ
    ในวาระโอกาสที่จะมีการบูรณะโบสถ์ใหม่ ซึ่งกระเบื้องนี้ได้ผ่านพิธีกรรมต่างๆของวัดบ้านตรังมามากมายสงผลให้กระเบื้องนี้จึงเป็นมวลสารศักสิทธิ์ในตัว โดยกระเบื้องดังกล่าวได้นำมาบดและขึ้นรูปเป็นหน้ากากพรานบุญจำนวน 14,000 หน้า และมีหน้ากรรมการ ทาสีทอง อยู่ในชุดกรรมการ จำนวน 199 หน้าโดยจัดสร้างเพียงแค่เนื้อเดียวเท่านั้น เพื่อให้สาธุชนทั้งหลายได้ร่วมกันทำบุญในวาระโอกาสทอดกฐินปี 57 โดยหน้ากากพรานบุญที่เหลือจากการทำบุญส่วนหนึ่งได้บรรจุกรุใต้ฐานรูปเหมือนพ่อแก่เจ้าแสง ตามโอวาทพ่อแก่เจ้าแสง เพื่อที่เวลาผ่านไปหลายสิบปีภายภาคหน้าจะได้นำหน้ากากพรานบุญส่วนนี้ นำมาออกให้สาธุชนทั้งหลายได้ทำบุญบูชาเพื่อที่จะนำปัจจัยมาบูรณะวัดบ้านตรังต่อไป…..
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2073.ศิษย์ในองค์หลวงปู่คง วัดบางกะพ้อม เหรียญ รุ่น3 ปี2517 หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ แม่ กลอง จ. สมุทรสงคราม ให้บูชา 750 บาท เหรียญรุ่นนี้ หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ร่วมปลุกเสก


    upload_2023-8-2_17-45-51.png

    หลวงพ่อเก๋ สุนันโท หรือ พระครูสุนันทวิริยาภรณ์ วัดแม่น้ำ สมุทรสงคราม เป็นพระเกจิขลังอีกองค์ของเมืองแม่กลอง ที่มรณภาพแล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อย หลวงพ่อเก๋ ถือได้ว่าเป็นศิษย์ผู้น้องของหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี เพราะมีอาจารย์องค์เดียวกันคือ หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม หลวงพ่อเก๋ เป็นพระที่ไม่ค่อยพูด สมถะสันโดษ แต่เรื่องวิชาอาคมหรือพลังจิตของท่านก็เก่งไม่เป็นรองใคร ท่านบวชตั้งแต่อายุ 20ปี เรียนวิชาต่างๆมากับครูบาอาจารย์รุ่นเก่าๆเยอะเช่น หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม หลวงพ่อโต วัดคู้ธรรมสถิตย์ หลวงพ่อบุญรอด วัดบางขันแตก หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ เป็นต้น

    วัถตุมงคลหลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ ถ้าเป็นเหรียญจะมีไม่กี่รุ่นเองครับ นานๆทางวัดจะออกพระเครื่องของท่านสักรุ่น เช่น เหรียญรุ่นแรกสร้างปี2490 เหรียญจิ๊กโก๋(ประสบการณ์ นับเป็นรุ่นสอง)สร้างปีเดียวกัน ถัดมาคือเหรียญรุ่น3ปี 17 คือเหรียญรุ่นนี้
     
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2074.เหรียญรุ่น4 หลวงปู่บุญจันทร์ จนฺทวโร วัดถ้ำผาผึ้ง เนื้อนวะโลหะ ปี2535 ปิดรายการครับ




    upload_2023-8-2_17-52-56.png

    upload_2023-8-2_17-55-2.png



    เหรียญหลวงปู่บุญจันทร์ จันทวโร วัดถ้ำผาผึ้ง รุ่น4 เนื้อนวะ ปี 2535 เหรียญรุ่นนี้ คณะศิษยานุศิษย์ขออนุญาตจัดสร้างถวายแจกในงานวันเกิดของท่าน
    เนื้อนวะประมาณ 500 เหรียญ
    เนื้อทองแดงประมาณ 3,000 เหรียญ

    หลวงพ่อบุญจันทร์ จันทวโร เป็นพระป่าวิปัสสนากรรมฐานในสาย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ตื้อ, หลวงปู่แหวน, ท่านพ่อลี, หลวงปู่ชอบ, หลวงปู่สิม ที่มีปฏิปทาน่าเคารพศรัทธาเลื่อมใสยิ่งนัก ท่านเป็นผู้มีจิตใจเด็ดเดี่ยวเด็ดขาดผาดโผนมาโดยตลอด
    เมื่อเอ่ยถึงพระคณาจารย์ในสายปฎิบัติพระเดชพระคุณหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในจังหวัดเชียงใหม่ หลายท่านคงนึกถึงหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ. เชียงใหม่
    แต่ครั้งหนึ่งมีชาวบ้านจาก อ.ฝางหรือกิ่งอำเภอไชยปราการ ไปกราบหลวงปู่แหวนท่านก็บอกว่า " มาหาเฮาทำไมตั้งไกล อยู่ใกล้ๆทำไมไม่ไปหาอาจารย์บุญจันทร์กัน ท่านเป็นพระดีแท้เน้อ" ซึ่งอาจารย์บุญจันทร์ที่หลวงปู่แหวนพูดถึงก็คือ "หลวงพ่อบุญจันทร์ จนฺวโร" แห่งวัดถ้ำผาผึ้ง อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ นั่นเอง
    ประวัติหลวงพ่อบุญจันทร์ จนฺทวโร
    ท่านเป็นชาวเมืองพล จ. ขอนแก่น ท่านเป็นพระป่าสายวิปัสสนากรรมฐานในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต นามเดิมชื่อ " นายบุญจันทร์ พงษสวัสดิ์ " อุปสมบทวันที่ 13 กรกฏาคม 2490 ท่านเป็นพระที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยว อาจหาญแบบครูบาอาจารย์ที่ท่านปฏิบัติมาประวัติของท่าน ท่านเป็นอภิชาติบุตรโดยแท้เพราะท่านได้ชักนำโยมบิดาท่านบวชพระและโยมมารดาบวชชีเพื่อปฎิบัติธรรมจวบจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของโยมบิดามารดาท่าน
    ท่านธุดงค์จำพรรษาหลายที่ไม่ว่า สกลนคร จันทบุรี พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ สถานที่ที่ท่านอาจหาญมากเมื่อท่านจำพรรษาอยู่ที่ ลำปาง คือวัดป่าสำราญนิวาส เกาะคา ลำปาง
    เรื่องคือว่า ขณะที่ท่านนั่งทำสมาธิอยู่นั้น มีชายวิกลจริตเดินเข้ามาในวัด ถือมีดมาไล่ฟันคนในวัด ผู้คนแตกตื่นกันหมด แต่อนิจจา ชายวิกลจริตวิ่งตรงไปหาโยมมารดาท่าน แล้วเงื้อมมือฟันลงที่คอของโยมมารดาท่านเกือบขาด โยมแม่ท่านสิ้นใจต่อหน้าของท่านขณะที่ท่านกำลังจะเข้าไปช่วย ปรากฏว่าภาพอันเสียดแทงใจ ทำลายจิตใจของมนุษย์ปถุชนอย่างรุนแรง ท่านเมื่อเห็นแล้ว ท่านพิจารณาและหันหลังกลับไปที่กุฏิท่านภาวนาเพื่อดับความสลดสังเวชอย่างนี้
    ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเช่นวันวิสาขบูชาป็นต้น ท่านจะนำพาพระภิกษุสามเณรนั่งสมาธิภาวนาหลังจากสวดมนต์ทำวัตรเย็นจนกระทั่งรุ่งเช้าถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา สละเป็นสละตายพระภิกษุที่อยู่ร่วมจำพรรษากับท่านจะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวจริงๆ มิเช่นนั้นแล้วต่างก็พากันย้ายไปจำพรรษาที่อื่นกันหมด
    เกี่ยวกับฤทธิ์อภิญญาของหลวงพ่อบุญจันทร์นั้น
    เมื่อเริ่มแรกท่านมาสร้างวัดถ้ำผาบิ้งใหม่ๆ ท่านต้องระเบิดหินเพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างวัดและทางเดิน ท่านไม่ได้ใช้ระเบิดลูกเกลี้ยงแต่ท่านใช้ ไดนาไมท์มาระเบิดหิน พอวางชนวนเสร็จท่านก็เดินทางจากไป แต่เอ๊ะ! ไม่ระเบิดเสียที ท่านก็เดินกลับไปดู พระเณรที่อยู่ด้วยก็เฉยไม่ได้เดินตามไปด้วย คิดว่าไม่มีอะไร แต่ปรากฏว่าพอท่านเดินทางไปถึงจุดนั้นปุ๊ป ระเบิดก็ระเบิดบึ้มๆๆๆๆ เสียงดังสนั่นหวั่นไหว พระเณรตะลึงตะเหลือกมองหน้ากันฝุ่นฟุ้งตลบเป็นมุมวงกว้าง ท่านเดินออกมาเอามือปัดอังสะสองสามทีไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
    ในช่วงบั้นปลายชีวิต
    ท่านได้เป็นอัมพาตตั้งแต่ปี 2531 ในช่วงแรกท่านพูดไม่ได้แต่พอทีจะขยับแขนขวาได้เมื่อมีญาติโยมมากราบนมัสการท่าน ท่านก็จะเขียนธรรมะใส่กระดาษส่งให้อ่านแทนการเทศนาตลอดระยะเวลาแห่งการอาพาธนี้ การรุมเร้าของวิบากขันธ์มิอาจหยุดยั้งเมตตาธรรมของท่านในการถ่ายทอดธรรมะแก่บรรดาศิษยานุศิษย์ได้ด้วยคำพูดในเบื้องต้นด้วยตัวหนังสือในกาลต่อมาและที่สุดท่านได้ละสังขารไปในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2543 สิริอายุรวม 75 ปี หลวงพ่อบุญจันทร์ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์รูปหนึ่งที่อัฐิ,เกศาของท่านกลายเป็นพระธาตุเฉกเช่นเดียวกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านอื่น
    จำนวนการสร้างไม่มากนัก จึงไม่ค่อยได้พบเห็นกันนัก เหรียญหลวงพ่อบุญจันทร์เป็นเหรียญที่มีพุทธคุณโดดเด่นในเรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย ถือได้ว่าเป็นยุคปัจจุบันที่มีความงดงามสมบูรณ์แบบคงกลิ่นแห่งงานโบราณของเหรียญยุคเก่าโดยแท้ หากไม่พลิกดูปีพ.ศ.ด้านหลังเหรียญ เชื่อแน่หลายท่านอาจคิดว่าเป็นเหรียญที่สร้างในยุคปี 24กว่าๆ หรือก่อนปีพ.ศ. 2500อย่างแน่นอน ศิลปะ การแกะเป็นงานแบบนูนต่ำต้องแกะด้วยฝีมือช่างล้วนๆไม่มีการใช้เครื่องมือสมัยใหม่ ช่างเเกะผู้นี้ก็คือ " ช่างประดิษฐ์ คล้ายมาลี " งานแกะสไตร์นุ่มนวลนูนต่ำแนวคลาสลิกแบบนี้ในปัจจุบันหาคนทำได้ยากมากๆไม่ใช่แกะกันง่ายๆหากผู้แกะพิมพ์ไม่มีฝีมือจริงๆแล้วก็จะกลายเกรดต่ำไปเลย นับว่าเป็นเหรียญที่ทรงคุณค่าในด้านพุทธคุณและศิลปะที่งดงามมากอีกเหรียญหนึ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2023
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    สวัสดียามเช้าครับ
     
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2075. พระสมเด็จหลังตราเมือง เนื้อผง พิธีจตุรพิธพรชัย ปี18 ปิดรายการครับ


    upload_2023-8-3_12-4-19.png

    upload_2023-8-3_12-3-9.png



    พิธีจตุรพิธพรชัย
    ประวัติการสร้างวัตถุมงคลชุดนี้น่าสนใจมากเพียงแต่คนจะทราบรายละเอียดค่อนข้างน้อยทำให้หลายคนมองข้ามของดีในพิธีนี้ไปอย่างน่าเสียดายครับ ประวัติมีอยู่ว่าเนื่องจากนายเรียน นุ่มดี ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่ดู่ วัดสะแก) ในสมัยนั้นท่านกำลังใกล้จะเกษียณอายุราชการและจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิดที่อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี แต่เนื่องด้วยวัดเขาใหญ่ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และเป็นวัดใกล้บ้านเกิดนั้นมีสภาพทรุดโทรม เสนาสนะก็ไม่ได้รับการบูรณะมานานมาก ดังนั้นนายเรียนจึงมีความตั้งใจที่จะหารายได้จำนวนหนึ่งไปปฏิสังขรณ์วัดเขาใหญ่ให้สวยงาม พร้อมทั้งสร้างวิหารจตุรพิธพรชัยขึ้นใหม่ จึงได้นำความมาปรึกษากับหลวงปู่ดู่ท่านว่าจะทำอย่างไรดี หลวงปู่ดู่ท่านจึงได้เมตตาแนะนำและให้คำปรึกษาในการจัดสร้างวัตถุมงคลตลอดจนการนิมนต์ครูบาอาจารย์มาร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลในพิธีนี้อย่างละเอียด โดยพิธีพุทธาภิเษกถูกหนดขึ้นที่วัดรัตนชัย (วัดจีน) อ.เมือง จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่รับนิมนต์มาร่วมพิธีมีทั้งหมด 16 รูปคือ

    1. พระครูสังวรวิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อ.บางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ

    2. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

    3. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเรไรย์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

    4. พระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

    5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี

    6. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา

    7. พระครูกัลยานุกูล (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพฯ

    8. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

    9. พระครูอดุลวรวิทย์ (หลวงพ่อไวทย์) วัดบางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา

    10. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา

    11. พระราชสุวรรณโสภณ วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

    12. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี

    13. พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อเฉลิม) วัดพระญาติการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

    14. พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธสวรรค์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

    15. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

    16. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ (ศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาในนามของท่าน)

    ส่วนวัตถุมงคลที่ปลุกเสกในพิธีนี้มีอยู่ 4 ประเภท (ไม่นับรวมของฝากในพิธีนี้) คือ

    1. เหรียญ 9 พระอาจารย์ - จัดสร้าง 5,599 เหรียญ แบ่งออกเป็นอีกสองเนื้อคือ เนื้อเงิน (มีเพียงบางพระอาจารย์เท่านั้น) และเนื้อทองแดง มีทั้งแบบที่บรรจุในกล่องกำมะหยี่และที่ออกให้บูชาแบบเดี่ยว ๆ ที่นิยมเรียกว่า "เหรียญ 9 พระอาจารย์" นั้นเพราะว่าทางคณะกรรมการจัดทำเป็นเหรียญรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ที่ด้านหน้า และประทับยันต์ครูของท่านที่ด้านหลัง รวม 9 แบบ คือ หลวงพ่อนอ วัดกลาง หลวงพ่อถิร วัดป่าเรไรย์ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง หลวงพ่อไวทย์ วัดบางซ้าย หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม โดยเมื่อปั๊มเหรียญเสร็จจากโรงงาน คณะกรรมการได้นำเหรียญของแต่ละพระอาจารย์ไปมอบให้ที่วัดเพื่อให้ท่านปลุกเสกเหรียญของท่านล่วงหน้า 1 เดือนก่อนพิธีพุทธาภิเษกใหญ่

    2. พระสมเด็จ พิมพ์ต่างๆ - จัดสร้างเป็นเนื้อผงแก่น้ำมัน จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุ ตามประวัติกล่าวว่าพระชุดนี้หลวงปู่ดู่ท่านตั้งใจออกแบบพิมพ์และมวลสาร เพื่อถวายให้หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคเป็นกรณีพิเศษ โดยด้านหน้าจะล้อพิมพ์พระสมเด็จวัดไชโย ด้านหลังเป็นยันต์ครูของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค และมีคำว่า "วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี" ประทับอยู่ใต้ยันต์ครู โดยหลวงปู่ดู่ท่านได้มอบผงมหาจักรพรรดิ์จำนวนหนึ่งไปผสมเป็นมวลสาร จากนั้นนายเรียนจึงนำเรื่องนี้ได้กราบเรียนหลวงปู่สีทราบ ซึ่งท่านก็อนุโมทนาและอนุญาตตามนั้นและได้มอบผงวิเศษของท่านมาอีกจำนวนหนึ่ง สุดท้ายหลังจากได้มวลสารและกดพิมพ์เป็นองค์พระเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ดู่ท่านได้บอกให้นายเรียนนำพระสมเด็จชุดนี้กลับไปให้หลวงปุ่สีท่านปลุกเสกเป็นปฐม ซึ่งหลวงปู่ท่านก็เมตตาปลุกเสกให้เป็นกรณีพิเศษ 1 เดือน (เป็นพระอีกชุดหนึ่งของสายนี้ที่ปลุกเสกนานมาก) เสร็จแล้วจึงให้นายเรียนมารับกลับไปเพื่อรอเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่

    3. พระแก้ว 3 ฤดู - จัดสร้างเป็นเนื้อผงและมีการลงสีเขียวที่พระวรกาย ปิดทองที่เครื่องทรง เฉกเช่นเดียวกับพระแก้วมรกตที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จ.กรุงเทพฯ จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุไว้ มีทั้งแบบบรรจุกล่อง (ครบ 3 ฤดู) และที่ออกให้บูชาแบบเดี่ยว ๆ ด้านหน้าเป็นรูปพระแก้วมรกตทรงเครื่องตามฤดู (ร้อน / ฝน / หนาว) ด้านหลังประทับยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ (นะโมพุทธายะ) และมีคำว่า "วัดรัตนชัย (จีน) อยุธยา"


    4. พระสามสมัย - จัดสร้างเป็นเนื้อผงโดยแบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ คือ เชียงแสน สุโขทัย อู่ท่อง ขนาดจะเล็กประมาณพระของขวัญ วัดปากน้ำ จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุไว้ ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธรูปและที่ใต้พระพุทธรูปจะมีคำอธิบายศิลปะของพระพุทธรูปไว้ด้วย คือ เชียงแสน หรือ สุโขทัย หรือ อู่ทอง ด้านหลังประทับยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ (นะโมพุทธายะ) และมีคำว่า "วัดเขาใหญ่ สุพรรณบุรี"

    เกล็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เล่าขานมาสืบมาเกี่ยวกับพิธีจตุรพิธพรชัย ว่ากันเป็นประเด็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ดังนี้
    ครูบาอาจารย์หลายรูปรวมถึงหลวงพ่อกวยกล่าวกับศิษย์ของท่านว่า "พิธีนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก"
    พิธีนี้หลวงปู่ดู่ท่านให้นายเรียนนิมนต์หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคมาร่วมพิธีพุทธาภิเษก แต่ขณะนั้นท่านอายุ 126 ปีเข้าไปแล้ว ท่านจึงมอบหมายให้พระอาจารย์สมบูรณ์ ศิษย์ก้นกุฎิและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในขณะนั้นไปร่วมพิธีในนามของท่าน แต่จะว่าไปแล้วเรื่องที่คนคิดไม่ถึงก็คือ หลวงปู่สีท่านก็ได้เดินญาณมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกเช่นเดียวกัน เพราะท่านถือว่าท่านได้รับรับนิมนต์หลวงปู่ดู่ไว้แล้ว
    พิธีนี้ว่ากันว่า นอกจากหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เดินญาณมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ยังมีอีกรูปหนึ่งที่เดินญาณมาร่วมพิธีเหมือนกัน ซึ่งก็คือ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เพราะท่านรับปากนายเรียนว่าจะช่วยปลุกเสกอย่างเต็มที่
    ลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงพ่อกวยเคยถามว่า "หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เป็นใคร ทำไมถึงมีเหรียญของท่านในชุดเหรียญ" หลวงพ่อกวยท่านตอบว่า "ท่านเป็นพระอรหันต์.."
    หลังจากพุทธาภิเษกเสร็จ มีนักเลงพื้นที่พูดคุยกันว่า "จะขลังแค่ไหน.." ปรากฎว่าคำพูดนี้ได้ยินไปถึงนายเรียน ทำให้นายเรียนนำความนี้เข้าปรึกษาครูบาอาจารย์ในพระอุโบสถว่า "จะทำอย่างไรดี.." เพราะเป็นที่ทราบกันว่าสมัยนั้นการลองของประเภทจะ ๆ นิยมกันมาก เช่น เอาปืนยิง เพราะต้องการทดสอบพุทธคุณในวัตถุมงคลนั้น ๆ ว่าดีจริงเพียงใด ถ้าสมมติว่า "ยิงออกหรือเหรียญโดนยิงทะลุ" ทุกอย่างที่ทำมาเป็นอันจบกัน ซึ่งในเวลานั้นครูบาอาจารย์ที่พรรษาน้อยไม่กล้าออกความเห็นจึงสงบนิ่งเพื่อให้ท่านที่พรรษาสูงกว่าปรึกษาและตัดสินใจกัน ระหว่างนั้นหลวงพ่อกวย ท่านได้ขออนุญาตครูบาอาจารย์ทุกรูปว่า "กระผมอาสา.." หลังจากนั้นท่านจึงนำเหรียญรูปเหมือนของท่านติดตัวไปด้วยหนึ่งเหรียญออกไปนอกพระอุโบสถ แล้วพูดขึ้นว่า "ใครจะเอาไปลองบ้าง" ปรากฎว่านักเลงคนหนึ่งขออาสาเป็นผู้ทดสอบ และได้นำเหรียญดังกล่าวไปยิงที่หลังพระอุโบสถ ปรากฎว่า "แชะ ๆ ๆ.." และได้นำเหรียญมาคืนหลวงพ่อกวยท่านพร้อมขอขมาท่าน พอชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็ประจักษ์ในพุทธคุณและเริ่มบอกปากต่อปากไปในวงกว้าง ส่วนหลวงพ่อกวยท่านจึงกลับเข้าไปในพระอุโบสถพร้อมกับกล่าวว่า "เรียบร้อย.."
    ก่อนพระเกจิอาจารย์ทั้งหมดจะเดินทางกลับวัด ทางคณะกรรมการได้มอบวัตถุมงคลในพิธีนี้จำนวนหนึ่งให้แก่พระเกจิอาจารย์ทุกรูป เพื่อให้ท่านนำกลับไปแจกลูกศิษย์ลูกหาที่วัด ทำให้วัตถุมงคลในพิธีนี้กระจายในหลายพื้นที่
    มหาพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลจตุรพิธพรชัย ที่วัดรัตนชัย เมื่อปี พ.ศ. 2518 นั้น หลวงพ่อกวยท่านพบอภินิหารของพระคณาจารย์ผู้ร่วมพิธีปลุกเสกหลายรูปด้วยกัน เมื่อท่านเดินทางกลับมาถึงวัดโฆสิตาราม ได้เล่าให้คณะศิษย์ฟังว่า พระวัดกลาง อ.ท่าเรือฯ (หมายถึงหลวงพ่อนอ) มีคุณวิเศษในทาง มหาอุดเป็นเลิศ พระวัดบ้านช้าง อ.วังน้อยฯ (หมายถึงหลวงพ่อออด) มีความเข้มขลังทางคงกระพันชาตรี เวลาปลุกเสก ตัวเฑาะว์จะหลุดลอยออกมาจากในปาก พระวัดโบสถ์ ลพบุรี (หมายถึงหลวงพ่อพริ้ง) มีดีทางแคล้วคลาด กำบังภัยอย่างยอดเยี่ยม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2023
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2076.พระดีที่น่าบูชา พระสมเด็จปรกโพธิ์ หลวงปู่โต๊ะ วัดศาลาครืน ปี2521 ให้บูชา 2950 บาท หลวงปู่โต๊ะ ปลุกเสกให้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นวัดที่อยู่ในความอุปถัมภ์ขององค์หลวงปู่ครับ



    upload_2023-8-3_15-32-59.png

    upload_2023-8-3_15-35-39.png

    upload_2023-8-3_15-37-36.png

     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465

    upload_2023-8-3_21-5-32.png
     
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2077. พิมพ์นี้อาจารย์ลอยอยู่เรือ สุดยอดตำนานหุ่นพยนต์ ราคาตัวละเป็นแสน เป็นผู้รวบรวมมวสาร และกดพิมพ์พระที่วัดรัตนชัย (จีน) จ.พระนครศรีอยุธยา พระสมเด็จ(มีกิน) เนื้อผงน้ำมัน ให้บูชา 1550 บาท


    upload_2023-8-3_22-12-46.png

    พิธีจตุรพิธพรชัย
    ประวัติการสร้างวัตถุมงคลชุดนี้น่าสนใจมากเพียงแต่คนจะทราบรายละเอียดค่อนข้างน้อยทำให้หลายคนมองข้ามของดีในพิธีนี้ไปอย่างน่าเสียดายครับ ประวัติมีอยู่ว่าเนื่องจากนายเรียน นุ่มดี ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่ดู่ วัดสะแก) ในสมัยนั้นท่านกำลังใกล้จะเกษียณอายุราชการและจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิดที่อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี แต่เนื่องด้วยวัดเขาใหญ่ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และเป็นวัดใกล้บ้านเกิดนั้นมีสภาพทรุดโทรม เสนาสนะก็ไม่ได้รับการบูรณะมานานมาก ดังนั้นนายเรียนจึงมีความตั้งใจที่จะหารายได้จำนวนหนึ่งไปปฏิสังขรณ์วัดเขาใหญ่ให้สวยงาม พร้อมทั้งสร้างวิหารจตุรพิธพรชัยขึ้นใหม่ จึงได้นำความมาปรึกษากับหลวงปู่ดู่ท่านว่าจะทำอย่างไรดี หลวงปู่ดู่ท่านจึงได้เมตตาแนะนำและให้คำปรึกษาในการจัดสร้างวัตถุมงคลตลอดจนการนิมนต์ครูบาอาจารย์มาร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลในพิธีนี้อย่างละเอียด โดยพิธีพุทธาภิเษกถูกหนดขึ้นที่วัดรัตนชัย (วัดจีน) อ.เมือง จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ส่วนพระเกจิอาจารย์ที่รับนิมนต์มาร่วมพิธีมีทั้งหมด 16 รูปคือ

    1. พระครูสังวรวิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อ.บางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ

    2. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

    3. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเรไรย์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

    4. พระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

    5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี

    6. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา

    7. พระครูกัลยานุกูล (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพฯ

    8. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท

    9. พระครูอดุลวรวิทย์ (หลวงพ่อไวทย์) วัดบางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา

    10. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา

    11. พระราชสุวรรณโสภณ วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

    12. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี

    13. พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อเฉลิม) วัดพระญาติการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

    14. พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธสวรรค์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

    15. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

    16. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ (ศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาในนามของท่าน)

    เกล็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เล่าขานมาสืบมาเกี่ยวกับพิธีจตุรพิธพรชัย ว่ากันเป็นประเด็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ดังนี้
    ครูบาอาจารย์หลายรูปรวมถึงหลวงพ่อกวยกล่าวกับศิษย์ของท่านว่า "พิธีนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก"
    พิธีนี้หลวงปู่ดู่ท่านให้นายเรียนนิมนต์หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคมาร่วมพิธีพุทธาภิเษก แต่ขณะนั้นท่านอายุ 126 ปีเข้าไปแล้ว ท่านจึงมอบหมายให้พระอาจารย์สมบูรณ์ ศิษย์ก้นกุฎิและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในขณะนั้นไปร่วมพิธีในนามของท่าน แต่จะว่าไปแล้วเรื่องที่คนคิดไม่ถึงก็คือ หลวงปู่สีท่านก็ได้เดินญาณมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกเช่นเดียวกัน เพราะท่านถือว่าท่านได้รับรับนิมนต์หลวงปู่ดู่ไว้แล้ว
    พิธีนี้ว่ากันว่า นอกจากหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เดินญาณมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ยังมีอีกรูปหนึ่งที่เดินญาณมาร่วมพิธีเหมือนกัน ซึ่งก็คือ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เพราะท่านรับปากนายเรียนว่าจะช่วยปลุกเสกอย่างเต็มที่
    ลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงพ่อกวยเคยถามว่า "หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เป็นใคร ทำไมถึงมีเหรียญของท่านในชุดเหรียญ" หลวงพ่อกวยท่านตอบว่า "ท่านเป็นพระอรหันต์.."
    หลังจากพุทธาภิเษกเสร็จ มีนักเลงพื้นที่พูดคุยกันว่า "จะขลังแค่ไหน.." ปรากฎว่าคำพูดนี้ได้ยินไปถึงนายเรียน ทำให้นายเรียนนำความนี้เข้าปรึกษาครูบาอาจารย์ในพระอุโบสถว่า "จะทำอย่างไรดี.." เพราะเป็นที่ทราบกันว่าสมัยนั้นการลองของประเภทจะ ๆ นิยมกันมาก เช่น เอาปืนยิง เพราะต้องการทดสอบพุทธคุณในวัตถุมงคลนั้น ๆ ว่าดีจริงเพียงใด ถ้าสมมติว่า "ยิงออกหรือเหรียญโดนยิงทะลุ" ทุกอย่างที่ทำมาเป็นอันจบกัน ซึ่งในเวลานั้นครูบาอาจารย์ที่พรรษาน้อยไม่กล้าออกความเห็นจึงสงบนิ่งเพื่อให้ท่านที่พรรษาสูงกว่าปรึกษาและตัดสินใจกัน ระหว่างนั้นหลวงพ่อกวย ท่านได้ขออนุญาตครูบาอาจารย์ทุกรูปว่า "กระผมอาสา.." หลังจากนั้นท่านจึงนำเหรียญรูปเหมือนของท่านติดตัวไปด้วยหนึ่งเหรียญออกไปนอกพระอุโบสถ แล้วพูดขึ้นว่า "ใครจะเอาไปลองบ้าง" ปรากฎว่านักเลงคนหนึ่งขออาสาเป็นผู้ทดสอบ และได้นำเหรียญดังกล่าวไปยิงที่หลังพระอุโบสถ ปรากฎว่า "แชะ ๆ ๆ.." และได้นำเหรียญมาคืนหลวงพ่อกวยท่านพร้อมขอขมาท่าน พอชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็ประจักษ์ในพุทธคุณและเริ่มบอกปากต่อปากไปในวงกว้าง ส่วนหลวงพ่อกวยท่านจึงกลับเข้าไปในพระอุโบสถพร้อมกับกล่าวว่า "เรียบร้อย.."
    ก่อนพระเกจิอาจารย์ทั้งหมดจะเดินทางกลับวัด ทางคณะกรรมการได้มอบวัตถุมงคลในพิธีนี้จำนวนหนึ่งให้แก่พระเกจิอาจารย์ทุกรูป เพื่อให้ท่านนำกลับไปแจกลูกศิษย์ลูกหาที่วัด ทำให้วัตถุมงคลในพิธีนี้กระจายในหลายพื้นที่
    มหาพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลจตุรพิธพรชัย ที่วัดรัตนชัย เมื่อปี พ.ศ. 2518 นั้น หลวงพ่อกวยท่านพบอภินิหารของพระคณาจารย์ผู้ร่วมพิธีปลุกเสกหลายรูปด้วยกัน เมื่อท่านเดินทางกลับมาถึงวัดโฆสิตาราม ได้เล่าให้คณะศิษย์ฟังว่า พระวัดกลาง อ.ท่าเรือฯ (หมายถึงหลวงพ่อนอ) มีคุณวิเศษในทาง มหาอุดเป็นเลิศ พระวัดบ้านช้าง อ.วังน้อยฯ (หมายถึงหลวงพ่อออด) มีความเข้มขลังทางคงกระพันชาตรี เวลาปลุกเสก ตัวเฑาะว์จะหลุดลอยออกมาจากในปาก พระวัดโบสถ์ ลพบุรี (หมายถึงหลวงพ่อพริ้ง) มีดีทางแคล้วคลาด กำบังภัยอย่างยอดเยี่ยม

    สำหรับ "จตุรพิธพรชัย" คือ พรที่จะทำให้เกิดความสวัสดีมีชัย ๔ ประการ เป็นพรที่พระสงฆ์ให้แก่ชาวบ้านเป็นปกติหลังจากทำบุญแล้ว พร ๔ ประการนี้ คือ
    1 . อายุ คือ ให้มีอายุยืน มีชีวิตที่ดี
    2 . วรรณะ คือ ให้มีความสวยงาม มีชื่อเสียงเกียรติยศ
    3 . สุขะ คือ ให้มีความสุขกายสบายใจมีความสะดวก
    4 . พละ คือ ให้มีกำลังกายกำลังใจกำลังทรัพย์ มีพวกพ้องบริวาร
     
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2078.พระผงหลวงปู่สรวง" มหารวยสมปราถนา" มวลสารเก่า ทันหลวงปู่ ออกสำนักสงฆ์แก่งคันสูง ปี 2562 ให้บูชา 699 บาท


    upload_2023-8-4_20-35-52.png

    upload_2023-8-4_20-36-1.png

    upload_2023-8-4_20-36-11.png



    มวลสารเก่าแท้ทันยุค เกษาหลวงปู่สรวง แท้ๆนำมาตัดมาแบ่ง ผสมลงไปกับมวลสาร อื่น ทั้งผงตะใบเหรียญล็อกเก็ตวังหิน ผงพระสมเด็จโคกแก้ว แบงค์เสก ผ้าลายลิขิต และของทนสิทธิ์ เช่นพลอยเสก เพชรหน้าทั่ง กว่าจะได้แต่ละองค์ ต้องผ่านกระบวนการหลายอย่าง ทำให้ครบ ทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ บรรจุพลังพุทธคุณ 108 เสกให้ขลัง ให้ผู้ที่นำติดตัว เกิดโชคลาภ ไม่มีหนี้สิ้น บูชาหลวงปู่สรวง

    ปลุกเสก 2 วาระ โดย
    หลวงปู่ทอง ปภากโร 115 ปี วัดบ้านคูบ
    หลวงปู่วัน จันทวังโส วัดโนนไทยเจริญ
    รุ่นแรกสำนักสงฆ์แก่งคันสูง ปี 2562

    หลวงปู่สรวง มหามุนีเทพดาบส เทพเนรมิต พิชิตความจน ข้าวน้ำดี มั่งมีเงินทอง “เทวดาเล่นดิน” ถ้าเอ๋ยถึงหลวงปู่สรวงคงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จัก หลวงปู่เป็นใคร มาจากไหน อายุเท่าไหร่ ไม่มีใครทราบ รู้แต่ว่า อริยะสงฆ์ผู้อยู่เหนือกาลเวลา 500 พรรษา จำวัดทั่วจักรวาล นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป บางคนให้ฉายาท่านว่าเทวดาเดินดิน บางคนก็เรียกเทวดาเล่นดิน อันนี้เป็นนามสมมติที่คนไทยเรียกท่าน หลวงปู่สรวง ไม่มีใครทราบประวัติของท่านแม้แต่อายุก็ไม่มีใครทราบ หลวงปู่โง่น โสรโย เคยธุดงค์พบหลวงปู่สรวง ในป่าสมัยที่หลวงปู่โง่น ยังอยู่ในวัยกลางคน ผ่านไปหลายสิบปี หลวงปู่โง่น ได้เจอหลวงปู่สรวง ท่านบอกว่าหน้าตาไม่เปลี่ยน แสดงว่าหลวงปู่สรวง ต้องมีอายุเกิน 100 ปีแน่นอน แต่จะกี่ร้อยก็ไม่มีใครทราบ หลวงปู่สรวง เป็นชาวเขมร มักจะพักอาศัยอยู่ตามกระท่อมในไร่นาของชาวบ้าน ระหว่างชายแดนไทยกับกัมพูชา บริเวณชายป่าบ้านตะเคียนราม วัดตะเคียนราม อำเภอภูสิงห์ , บ้านลุมพุก บ้านโคกโพน ต.กันทรารมย์ เขตชายแดนเป็นต้น
    เชื่อว่าหลวงปู่สรวง เป็นพระวิเศษที่บรรลุธรรมขั้นสูง มีอภินิหารมาก หลวงปู่สรวง ในสมัยยังมีชีวิตอยู่มักจะเดินทางมาปลุกเสกพระเครื่องให้กับวัดเลียบราษฏร์บำรุง โดยที่หลวงพ่อสร้อย นิมนต์หลวงปู่สรวงมาทางจิต มีคนเห็นหลวงปู่สรวง มาร่วมปลุกเสกพระในพิธี แต่เมื่อปลุกเสกเสร็จก็ไม่มีใครทราบว่าหลวงปู่สรวง เดินทางกลับไปตอนไหน เหมือนล่องหนหายตัวได้ วัตถุมงคลของหลวงปู่มีลูกศิษย์ลูกหานำไปบูชาเกิดประสบการณ์มามากมาย พุทธคุณ ทั้งด้านโชคลาภ หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง การทำมาค้าขายดี แคล้วคลาดปลอดภัย ที่โดดเด่น และเป็นที่นิยมทั้งในด้านประสบการณ์และปาฏิหารย์ต่างๆ ในด้านโชคลาภ เมตตา มหาเสน่ห์และขอพรต่างๆ
    ((ความเป็นอยู่แม้จะธรรมดาแต่กลับมากด้วยปาฏิหาริย์ แม้กระทั่งหลวงปู่ละสังขารเข้าสู่นิพพานไปแล้ว แต่ปาฏิหาริย์แห่งท่านก็ยังเล่าขานและปรากฏการเป็นอัศจรรย์อย่างเรื่อยมา))
    ได้มีผู้เคยถาม หลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์ว่า หลวงปู่รู้จัก หลวงปู่สรวง แห่งท้องทุ่งศรีสะเกษ หรือเปล่า หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านบอกว่ารู้จัก และรู้จักมานานแล้ว เมื่อ คราวที่หลวงปู่ฤทธิ์ ทำบุญวางศิลาฤกษ์ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ที่วัดชลประทานราชดำริ หลวงปู่สรวงท่านก็มา เวลาท่านมาท่านก็มาของท่านเองไม่รู้ว่าท่านมาเมื่อไหร่ มารู้อีกทีก็เมื่อตอนที่เห็นท่าน เวลาท่านจะไปท่านก็ไปท่านเดินออกไปทางป่าด้านโน้น อยู่ด้านหน้าศาลาเป็นป่ากว้างมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ท่านเดินตรงไปแต่พอมองออกไปจะเห็นฝูงสัตว์เดินตามท่านเป็นพรวนแล้วสักพักท่านก็หายไป หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านยังได้พูดว่า เรื่อง หลวงปู่สรวงพูดไปแล้วก็เหมือนกับนิยาย เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ท่านก็มีตัวตนจริง เมื่อหลายสิบปีก่อน ได้พบเห็นท่านอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เห็นท่านเหมือนเดิม ตัวของหลวงพ่อเองนี่ซิแก่ลงไปทุกวันทุกปีนี่ก็อายุ 82 แล้ว แต่หลวงปู่สรวงท่านก็อยู่ของท่านอย่างนั้น
    ผู้ใดมีไว้บูชาจะ ไม่มีคำว่าตกต่ำ ทำมาค้าขึ้น มีโชคลาภ แคล้วคลาดปลอยภัย ฯลฯ ให้รีบหานำมาใช้ติดตัวกัน
    คาถา บูชาหลวงปู่สรวงนะโม 3 จบก่อนแล้วว่าตามนี้
    นะโมพุทธายะ อิติปิโสภควา อริยะ อ็องสรวง สัมปันโณ ยะธาพุทโมนะ นะมะพะทะ อะหังนุกา
    ท่อง 9 ครั้งแล้วบอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของเรากับท่านบอกความทุกข์บอกกล่าวใน สิ่งที่ปรารถนาให้ท่านช่วย ทุกข์โศกโรคภัยที่มีอยู่
    จะค่อยๆหายไปในที่สุด นำขัน 5 ขัน 8 ขึ้นถวายวันพฤหัส ถือศีล ทำกรรมฐานนั่งสมาธิ
    (บูชาแล้ว รวย รวย รวย รวย รวย เห็นมาแล้วกับตา )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2023
  11. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    สวัสดีตอนเช้าครับ
     
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465

    ###Close
     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    ###Close
     
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2079. พระรอดหลวงปู่เปี่ยม วัดเกาะหลัก ประมาณ พ.ศ.๒๔๘๐ พิมพ์เล็ก ฐานตาราง (บางท่านเรียกฐานบัว) ให้บูชา 850 บาท (เนื้อผงกรุเก่าจากวัดมหาวัน)


    upload_2023-8-5_11-30-21.png



    หลวงปู่เปี่ยม สร้างพระเครื่องเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๐
    โดยก่อนหน้านั้นท่านได้ธุดงค์ขึ้นเหนือไปลำพูน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการขุดหา พระรอดมหาวัน อย่างเอิกเกริก จึงไปพบกับเจ้าอาวาสวัดมหาวัน
    เพื่อขอเศษชิ้นส่วนพระรอดที่ชำรุดแตกหัก นำมาบดตำเพื่อสร้างพระรอดที่ วัดเกาะหลัก
    พิธีสร้าง พระรอดเกาะหลัก หลวงพ่อท่านได้กระทำตามฤกษ์โหราศาสตร์ ที่ท่านชำนิชำนาญ มีการขึงสายสิญจน์ประรำพิธีรอบปริมณฑล แล้วตำผงเศษชิ้นส่วนพระรอดมหาวัน ระหว่างนั้นท่านจะโรยผงวิเศษ และประพรมน้ำพุทธมนต์ลงในครก แล้วปลุกเสกก่อนพิมพ์พระ หลังจากนั้นได้ทำการปลุกเสกนานถึง ๓ ไตรมาส ก่อนที่จะแจกลูกศิษย์ลูกหาใกล้ชิดและทหารหาญพุทธคุณใน พระรอดเกาะหลัก หลวงพ่อเปี่ยม เด่นดังทางแคล้วคลาด จากภัยยันตรายต่างๆ มีประสบการณ์มาก
     
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2080. พระดีที่น่าบูชา พระชุด วัดสว่างภพ ปี 2497 พิมพ์สมเด็จหลังยันต์ อะระหัง / พิมพ์กลีบบัวใหญ่ หลวงพ่อแสวง จัดสร้าง พระทองคำแห่งอยุธยา หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เสก ให้บูชาคู่ละ 1550 บาท


    upload_2023-8-5_11-58-3.png

    upload_2023-8-5_11-58-11.png

    ต้นแบบที่ทางวัดประสาทนำไปสร้างเป็นพิมพ์หลวงพ่อจง ปี ๒๕๐๖

    ประมาณปี พ.ศ.2497 หลวงพ่อแสวงต้องการทำวัตถุมงคลไว้แจกเป็นที่ระลึก แด่สาธุชนที่มาทำบุญ จึงเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อจง ขออนุญาติสร้างพระดังนี้

    1.สมเด็จหลังยันต์อะระหัง พิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่
    2.พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อจง ทรงกลีบบัวใหญ่(หยดน้ำ)
    3.พระผงรูปเหมือน พิมพ์หัวแม่มือ สูงประมาณนิ้วครึ่ง

    หลวงพ่อจงจึงได้มอบมวลสารเป็นผงพุทธคุณจำนวน 1 บาตรพระเต็มๆ มอบให้หลวงพ่อแสวงผสมเป็นมวลสารหลัก เพื่อสร้างวัตถุมงคลชุดนี้ และได้ทำการแกะแม่พิมพ์และพิมพ์พระ โดยพระและเณรภายในวัดช่วยกันทำจนได้ครบตามจำนวน เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงไปนิมนต์หลวงพ่อจงให้ท่านมาเป็นประธานพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดสว่างภพ หลวงพ่อจงท่านได้เมตตามาอยู่ปลุกเสกเดี่ยวก่อนวันงานประมาณ 7 วัน พระชุดนี้ หลวงพ่อจงตั้งใจเสกมาก หลวงพ่อแสวงท่านเล่าให้ฟังว่า
    "ตอนเช้ามืด หลวงพ่อจงนั่งเสกเดี่ยวให้ 1 รอบ
    ฉันเพลเสร็จแล้ว ท่านก็นั่งเสกซ้ำให้ 1 รอบ
    และก่อนจำวัดท่านก็เสกให้อีก 1 รอบ

    และในงานวันพุทธาภิเศกใหญ่ได้นิมนต์พระเกจิมาหลายรูป เท่าที่จำได้มี
    หลวงปู่นาค วัดระฆัง
    หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช
    หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ
    หลวงพ่ออู๊ด วัดหัตถสาร ฯลฯ
    และหลวงพ่อจงนั่งเป็นประธานปลุกเสกตลอดงาน" ซึ่งโดยปกติแล้ว วัตถุมงคลของหลวงพ่อจงเองนั้น เวลาใครไปหาท่านที่วัดหน้าต่างนอก ท่านจะเป่าเพียงเพี้ยงเดียวเท่า
    นั้น ก็ทรงอานุภาพแล้ว แต่ที่วัดสว่างภพหลวงพ่อจงท่านเสกให้วันละ 3 รอบ(ท่านก็คิดเอาแล้วกันว่าจะทรงอานุภาพแค่ไหน)
     
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2081. เด่นด้านโภคทรัพย์ โชคลาภ พระปิดตา นะ เศรษฐี (ปิดตาเงินล้าน) ผงพุทธคุณ ฝังข้าวเปลือกพิรอด ตำรา ลพ. เดิม
    หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน สร้างปี45
    ปิดรายการครับ


    upload_2023-8-5_13-10-9.png

    upload_2023-8-5_13-10-21.png


    พระปิดตาเงินล้าน พระสร้างปี พศ.2545 สวยสมบูรณ์มาก ทำเป็นพิมพ์สังกัจจายนะปิดตาดู สวยงาม แฝงความสมบูรณ์มั่งคั่ง มีกินมีใช้ มีสุข ฝังข้าวเปลือก พิรอดที่ใต้เข่าพระ ตำหรับ ลพ.เดิม ที่ ลพ ทรง ได้ไปศึกษามา

    หลวงพ่อทรง ท่านสร้างพระปิดตาผงพุทธคุณ น้อยมาก เพียงแค่ 2 รุ่นเท่านั้นครับ1 ขมิ้นกับปูน และ 2 ปิดตาเงินล้าน


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2023
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2082. ศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงพ่อกบ เขาสาริกา ล็อกเก็ตไตรภาคี หลวงพ่อบุญเกิด วัดเขาดิน จ.ชัยนาท ฝังแร่ และแผ่นเงิน ให้บูชา 599 บาท


    upload_2023-8-5_14-31-22.png


    หลวงพ่อเกิด ปัณฑิโต วัดเขาดิน ต.หนองมะโมง กิ่ง อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท ท่านเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงพ่อกบ สำนักเขาสาริกา และเป็นศิษย์น้องของหลวงพ่อโอภาสี แห่งอาศรมบางมด ศิษย์กรรมฐานสายหลวงพ่อกบ เหลือเพียงหลวงพ่อเกิดองค์เดียวเท่านั้น ท่านเป็นพระที่อยู่ติดดิน แต่จิตเหนือดิน พระผู้อยู่ใต้ฟ้า แต่มีจิตเหนือฟ้า พระผู้มีจิตแก่กล้า และเป็นบูรพาจารย์ที่ปล่อยวาง ปัจจุบันหลวงพ่อเกิดเป็นที่ศรัทธาของลูกศิษย์ทุกชนชั้นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างกว้างขวาง แม้มิได้ดังทะลุฟ้า แต่ศรัทธาที่ศิษยานุศิษย์มีต่อท่านนั้นมิเคยถดถอย มีแต่ทวีคูณขึ้นทุกวัน ท่านมีฤทธิ์เพราะความบารมี มีปาฏิหาริย์เพราะความดีและคุณธรรม
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2083. เหรียญจตุรพิธพรชัย (รุ่นที่ 3 ) หลังยันต์จินดามณีวังหลวง หลวงปู่นิ่ม วัดพุทธมงคล เนื้อนวะโลหะ ปิดรายการครับ


    upload_2023-8-5_14-42-10.png

    สำหรับเหรียญจตุรพิธพร ของหลวงปู่นิ่ม พิมพ์สวย มีเอกลักษณ์ เหรียญรุ่นนี้ หลวงปู่เสกด้วยคาถาพระปัจเจกโพธิ์ หรือ คาถาเรียกลาภ เรียกเงินทอง อัญเชิญบารมีพระพุทธเจ้า ภาวนาพระคาถาหมื่นจบ อัญเชิญพระปัจเจกโพธิ์ เสด็จมาเบิกเนตรเหรียญนี้
    หลวงปู่นิ่ม เน้นว่าผู้ที่ได้ครอบครองเหรียญนี้ จะมีลาภผลมาก คล่องตัว ได้ทรัพย์สินร่ำรวยขึ้นตามลำดับแล้วท่านยังขอพรพระปัจเจกโพธิ์ ให้ผู้นั้นอุดมไปด้วยจตุรพิธพรชัย ทั้ง 4 ประการ
    1.อายุ คือ อายุยืนยาว ปลอดภัยจากอันตราย ทั้งปวงที่มาจากทุกสารทิศ ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น
    2.วรรณะ คือ งามสง่าผุดผ่อง มีราศี สดใส เป็นที่จับจิตจับใจคนเมื่อเห็นหน้าตา ชื่นอกชื่นใจเปิดอกอ้าแขนยิ้มรับเหนือคนอื่น
    3.สุขะ ไกลจากความทุกข์ทั้งกายและใจ มีความสุข ความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป
    4.พละ พลังทางกายพร้อม พลังทางปัญญาเพิ่มพูน มีความฉลาดทันคน มีความเพียรในการทำความดี
    ด้านหลังเหรียญ ประทับยันต์จินดามณีวังหลวง หรือเรียกอีกชื่อว่า ‘ยันต์เศรษฐีสามหาบ-เป็นเศรษฐีไม่มีวันอด’ มีอานุภาพประสบ การณ์มีให้เห็นอย่างชัดเจน เป็นยันต์ต้นตระกูลตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ยันต์ศักดิ์สิทธิ์ของโบราณเป็นยันต์ประจำตัวหลวงปู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2023
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465
    2084. เด่นด้าน ค้าขาย โภคทรัพย์ พระสมเด็จเทียนชัย หลวงพ่อสมจิตร วัดสว่างอารมณ์
    ให้บูชา 899 บาท หายากครับ นานๆได้มา


    upload_2023-8-5_17-53-53.png

    upload_2023-8-5_17-53-58.png


    พระเนื้อผง”สมเด็จเทียนชัย”ลพ.สมจิตร์ วัดสว่างอารมณ์ ต.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ
    เป็นพระเกจิอาจารย์ที่คนนอกพื้นที่รู้จักน้อยเพราะท่านเป็นพระสันโดษ พูดน้อย สไตล์พระปฏิบัติจึงไม่ค่อยมีการเผยแพร่เกียรติคุณของท่านให้เป็นที่รู้จักกันครับ ตามประวัติกล่าวว่าลพ.สมจิตร์ เดิมท่านชอบธุดงค์รุกขมูลไปเรื่อย ๆ และชอบศึกษาพุทธาคมจากครูบาอาจารย์รุ่นเก่า ๆ เรียกได้ว่า "เป็นคนแก่เรียน" แต่เนื่องจากประวัติความเป็นมาของท่านไม่ได้มีการจดบันทึกไว้ตั้งแต่ครั้งก่อน จึงไม่อาจทราบว่าท่านได้มอบตัวเป็นศิษย์ของครูบาอาจารย์รูปใดบ้าง จนครั้งหนึ่งราวปี 248.. กลาง ๆ ท่านจาริกพื้นที่ว่างเปล่าที่ตำบนคลองด่านและได้นิมิตเห็นลพ.ปาน(วัดคลองด่าน)มาบอกให้ท่านสร้างวัด ณ ที่แห่งนี้ เพราะครั้งหนึ่งสมัยที่ลพ.ปานท่านจาริกผ่านมาทางนี้ ท่านทราบด้วยญาณว่า ณ ที่แห่งนี้ต่อไปจะต้องเป็นธรณีสงฆ์ จึงได้อธิษฐานไว้เพื่อรอให้ผู้ที่เหมาะสมมาสร้างวัดเพื่อจะได้เป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาในภายภาคหน้าและจะประสบความส ำเร็จในกาลต่อมา หลังจากลพ.สมจิตร์ทราบถึงนิมิตดังกล่าวท่านจึงได้เริ่มสร้างวัด ณ ที่แห่งนั้นโดยให้ชื่อว่า "วัดสว่างอารมณ์" ตั้งแต่นั้นมา
    แรก ๆ ท่านไม่นิยมสร้างวัตถุมงคลแต่เนื่องด้วยจำเป็นจะต้องหาสิ่งตอบแทนน้ำใจของญาติโยมที่เสียสละปัจจัยมาช่วยสร้างวัดกับท ่าน แท้จริงแล้วท่านมีความสามารถในการเขียนลบผงพุทธคุณได้เยี่ยมยอดไม่แพ้ครูบาอาจารย์รูปใด แต่ไม่เคยพูดหรือเล่าให้ใครฟัง ดังนั้นท่านจึงดำริสร้างพระผงพุทธคุณขึ้นมาชุดหนึ่งในปี 249.. ปลาย ๆ มีอยู่หลายพิมพ์อาทิ สมเด็จเทียนชัย (นิยมสุด-เป็นรูปสมเด็จโตบริกรรมบาตรน้ำมนต์ ตามภาพที่ท่านนิมิตเห็น) พระสังกัจจาย พระปิดตา ฯลฯ รวม ๆ แล้วหลายสิบพิมพ์ โดยท่านเป็นผู้เขียนและลบผงวิเศษและยังได้นำพระสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหักมาบดละเอียดและผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ตลอดจนปลุกเสกเดี่ยวในพระอุโบสถจนมั่นใจ จึงนำมามอบให้ญาติโยมไว้บูชากัน อีกส่วนหนึ่งได้บรรจุไว้ที่ฐานชุกชีองค์พระประธานของวัด ปรากฎว่าประสบการณ์พระของท่านนั้นเรื่องเมตตา มหานิยม และค้าขายนั้นโด่งดังมาก จนกระทั่งคนพื้นที่แถบนั้นต้องดั้นด้นไปหาท่าน เพื่อขอพระไปบูชากัน เนื่องด้วยมีอยู่ครั้งหนึ่งมีศิษย์ของท่านอุตตรินำพระของท่านไปขูดผสมน้ำให้หญิงสาวคนหนึ่งดื่มเข้าไป แล้วเกิดความลุ่มหลงและรักเจ้าหนุ่มคนนั้นอย่างจริงจัง เซียนพระรุ่นเก่าให้ฉายาว่า “ขูดหลังรับเลี้ยง” ทำให้ผู้คนหลั่งไหลไปขอพระจากท่าน ซึ่งท่านก็แจกจนหมด คนอยากได้ก็ขอเช่าจากคนที่ได้รับไปแล้ว แต่ทุกคนต่างหวงแหนจึงทำให้พระชุดนี้ดูเหมือนจะสาบสูญไปจากการหมุนเวียนในสนามพระมานานแล้ว
    สำหรับท่านที่มีพระเนื้อผงของท่านไว้อาราธนาติดตัว นับว่าโชคดีมากครับ แต่ถ้าจะให้ประสิทธิเมมากขึ้น ให้ว่าคาถาจากใบฝอยเก่าของวัดดังนี้
    นะโม (3 จบ)
    อะระหังสุคคะโต นะโมพุทธายะ นะเมตตาจิต จิตติจิตตัง อะหังจะโต โรตินังติ ภะคะวะโต อิติธัมโม ภะคะวาติ
     
  21. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465

    upload_2023-8-6_12-36-54.png
     
  22. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,599
    ค่าพลัง:
    +465

    upload_2023-8-6_13-22-12.png
     

แชร์หน้านี้

Loading...