พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ขอโมทนาด้วยครับ ถึงวาระก็มาช่วยกันนะครับ คนเดียวทำไม่สำเร็จแน่นอนเลย...

 

ขอเป็นกองหนุน ให้ทุกโครงการของคุณเพชรและคณะ สำเร็จดังที่ตั้งใจ ครับ
โมทนาบุญ ครับ

 

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ

ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นนะครับ

โมทนาบุญกับทุกๆบุญกุศลที่ทุกๆท่านได้ทำด้วยนะครับ
เอ

 

555555 ผมว่าคุณnewcomer มาเล่นแทนผมเป็นกองหน้าก่อนก็ได้นะครับ เหนื่อยแล้วสลับกัน

 

โรงเรียนหนุดเปิดวันจันทร์ครับ *-*




ผมชอบพระอุปคุตองค์นี้สวยชอบสวยสุดๆลงสีแดงแล้วปิดทองหน่อยดูแล้วมีพลังอำนาจ อิอิ

 

ตอนเล่นฟุตบอลเป็นกองหน้า ส่วนใหญ่จะออฟไซด์ ครับ
ผมเป็นกองหนุน ดีแล้ว ครับ

 

<TABLE class=tborder id=post1766302 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 06:31 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #26241 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ake7440<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1766302", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jul 2008
สถานที่: รพ.พัฒนานิคม
ข้อความ: 713
<IF condition="">
</IF>พลังการให้คะแนน: 77


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1766302 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">
</TD></TR></TBODY></TABLE>



พี่มีพระหิน ที่แกะเป็นรูปพระอานนท์เถระเจ้า ซึ่งหลวงปู่ท่านมาอธิษฐานจิตให้เองครับ

เห็นได้ข่าวแววๆมาแต่ไกลๆว่า งานบุญนี้ จะมีพระอานนท์(เป็นพระหินขนาดเล็ก) มามอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญด้วยเช่นกัน ต้องติดตามครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
(good) (good) (good) (good) (good)

สุดยอดครับท่านปาทาน ถามอะไรก็มี
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอบอกไว้ล่วงหน้าก่อนครับ มีเพียง ๔ องค์เท่านั้น จะนำไปให้พี่ใหญ่อธิษฐานจิตขอกำลังพระอานนท์เมตตาสงเคราะห์เนื่องด้วยมูลเหตุการจัดสร้างรูปท่านไว้ล่วงหน้าก่อนครับ เมื่อถึงวาระมอบให้ผู้ใด ผู้นั้นก็จะทราบเองครับ

 

ปีใหม่นี้ต้องเปลี่ยนจาก off side มาเป็น kick off นะครับ

 

ถามผมปล่าวครับ ถ้าใช่....ไม่ทราบครับ หุ หุ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
เมื่อถึงวาระที่ได้สร้างพระอานนท์ ธรรมะในกองกรรมฐานที่เกี่ยวเนื่องกับพระอานนท์ ก็จะออกมาในรูปแบบเดียวกับที่ผม และเพื่อนๆได้ทำเป็นธรรมทานแล้วเช่นเดียวกัน ก็เป็นหน้าที่ส่วนหนึ่งของสาวกภูมิ..


</TD></TR></TBODY></TABLE>


อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ake7440
ผมตั้งใจว่าจะต้องขอร่วมทำบุญในวาระนี้ให้ได้ครับ โดยส่วนตัวเมื่อได้อ่าน และ ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับพระอานนท์
ก็นึกอยากกราบท่าน แต่ก็ได้แต่ระลึกถึง เพราะไม่ค่อยมีวัดใดสร้างพระอานนท์ไว้
เมื่อมีโอกาสได้พระธาตุมากราบไหว้บูชาที่บ้าน แต่เดิมก็อยากจะมีโอกาสได้บูชาพระธาตุของพระอานนท์ท่าน แต่ก็หาไม่ได้

ดังนั้นถ้าคุณเพชรได้วาระนี้เมื่อใด ผมจะถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ อย่างที่ได้เคยตั้งใจไว้ครับ


</TD></TR></TBODY></TABLE>











ถ้าคุณเพชร สร้างพระอานนท์เป็นเนื้อโลหะ ผมมีแผ่นทอง(เหลือง) ,เงิน(แท้) ,นาค(ทองแดง) ที่ผมฝากพระอาจารย์นิล ไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกผ้ายันต์ครอบจักรวาล หลวงปู่สุภาท่านเมตตาอธิษฐานจิตและอีกส่วนนำเข้าพิธีในครั้งที่สองที่บ้านท่านอาจารย์ประถมครับ ซึ่งแผ่นทอง(เหลือง) ,เงิน(แท้) ,นาค(ทองแดง) ถ้านำไปหล่อเป็นพระอานนท์ หรือหล่อพระพุทธรูปที่เป็นเนื้อโลหะ ดีมากๆ

ทั้งผมและคุณเพชร มีเหล็กจาร ที่หลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่(เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน,หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ,หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ ,หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร เป็นต้น) ท่านเคยใช้มา สามารถขออนุญาต ,ขอขมา แล้วนำมาจารชื่อ,นามสกุล วันเดือนปีเกิดตนเองได้ด้วยครับ

.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ผมยังมีมวลสารอีกหลายอย่างครับคุณเพชร ตอนนี้ยังไม่บอก เมื่อถึงเวลาและเพื่องานนี้ ผมต้องนำมาร่วมด้วยแน่นอนครับ

เอ้ แต่ผมว่า ไม่ใช่ 4 องค์นะครับ หุหุหุ

.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รับขวัญปีใหม่ ทัวร์ 5 เส้นทางธรรมะในเมืองกรุงฯ
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000151557

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 ธันวาคม 2551 17:10 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระพุทธรูปยืนในวัดเครือวัลย์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ขอกล่าวสวัสดีปีใหม่กับคนอ่านทุกคน ปีฉลูหรือปีวัวที่ผ่านมาถึงแล้วนี้ ใครๆก็ว่าเป็นวัวหน้าโหด โหดทั้งเรื่องสภาพเศรษฐกิจ สภาพสังคม การเมือง ที่ย่อมส่งผลถึงสภาพจิตใจของคนด้วยเช่นกัน

การเริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งที่เป็นสิริมงคล จึงน่าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี เช่นการทำบุญไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เราเคารพ หาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้เข้มแข็ง เมื่อจิตใจเข้มแข็งดีแล้ว ก็อย่าลืมยึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องของความไม่ประมาทในการใช้ชีวิต เท่านี้ก็น่าจะใช้ชีวิตผ่านปีวัวที่ว่าโหดไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ด้วยเหตุนี้เราจึงได้นำเส้นทางไหว้พระ 5 เส้นทางในกรุงเทพมหานคร โดยอ้างอิงจากคอลัมน์ลุยกรุง ที่เขียนโดยคุณหนุ่มลูกทุ่ง มาให้ได้เดินทางไปกราบไหว้กันตามศรัทธา ซึ่งเส้นทางเหล่านี้ก็เป็นเส้นทางไหว้พระใหม่ๆ นอกเหนือไปจากเส้นทางไหว้พระ 9 วัด ที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระศรีรัตนเจดีย์ในวัดพระเเก้ว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เส้นทางไหว้ 9 พระธาตุ

พระธาตุที่ว่านี้ก็คือพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากการถวายพระเพลิงพระบรมศพ ได้แก่ กระดูก ฟัน และเถ้าที่เหลือหลังจากการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระองค์ที่เมืองกุสินารา

สำหรับ 9 พระบรมสารีริกธาตุนั้นก็เริ่มจากที่ "วัดพระศรีรัตนศาสนาดาราม" หรือ "วัดพระแก้ว" ที่พระบรมสารีริกธาตุนั้นประดิษฐานอยู่ใน "พระศรีรัตนเจดีย์

 

วิเคราะห์ศก.โลก ปีวัวบ้า"เผาจริงทั่วโลก"สหรัฐ-อังกฤษ-รัสเซีย จ่อคิวตกงานกว่า 2 ล้านคน
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1230608704&grpid=01&catid=05

ปีหน้าสหรัฐจะมียอดคนตกงานกวา 1 ล้านคน ส่วนภาพรวมภูมิภาคยุโรปนั้น ที่น่าตกตะลึง เริ่มจาก"อังกฤษ" กลุ่มผู้ว่าจ้างระบุว่า ปี 2009 จะเป็นปีแห่งการตกงานที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษของอังกฤษ โดยคาดว่าในปีหน้าจะมีคนตกงานเป็นจำนวน 6 แสนคน และโดยรวมคาดว่าจะมีคนตกงานจำนวน 1 ล้าน และในปี 2010 คาดว่าจะมีคนตกงานทั้งสิ้น 3 ล้านคน

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>คงจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่า เศรษฐกิจปี 2009 เห็นทีจะเป็นปีแห่งการ"เผาจริง"เหมือนอยางที่เกจิทั้งหลายทำนายกันแน่แท้ หลังจากช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นระส่ำ กิจการต่าง ๆ ทั้งอ่วมและล้มละลาย คนตกงานชนิดเป็นประวัติการณ์ เพราะผลพวงจากพิษวิกฤตสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือซับไพรม์ ที่ลุกลามกลายเป็นแผลเหวอะหวะ และร้ายแรงกว่าที่หลายคนคาดเมื่อธนาคารและกิจการต่าง ๆ ทั่วโลกได้ประกาศการ"ปลดพนักงาน"เป็นจำนวนหลายแสนคน เพราะวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เน่าซึ่งรุนแรงเกินกว่าที่หลายคนคาด จนหลายคนบอกว่ารุนแรงกว่า มหาวิกฤตเศรษฐกิจหดตัวปี 1930 เสียด้วยซ้ำ



ยิ่งไปกว่านั้น ฝันร้ายของทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะในสหรัฐ ต้นตอของแผลเน่า ซึ่งรัฐบาลสหรัฐต้องประกาศแผนช่วยเหลือเศรษฐกิจมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นภาคสถาบันการเงิน ตั้งแต่ซิตี๊ กรุ๊ป มอร์แกน สแตนเลย์ เฟรดดี้ แม็ค และเฟนนี่ เมย์ และอีกมากมาย ซึ่งเอาตัวไม่รอดหลังกิจการเจอพิษซับไพรม์เข้าไปเต็ม ๆ จนหลังพิงฝาต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐ



ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ ก็ไปไม่รอด รัฐบาลบุชต้องโดนเข้าอุ้มช่วยการอนุมัติเงินกู้ฉุกเฉินให้แก่อุตสาหกรรม ซึ่งประกอบด้วยสามกิจการหลักคือ เจเนอรัล มอเตอร์,ไคร้สเล่อร์ และฟอร์ด ด้วยมูลค่า 17.400 ล้านดอลลาร์ เพื่อป้องกันการล้มละลายของสามกิจการยักษ์ดังกล่าว ที่จะส่งผลให้มีพนักงานต้องตกงานเป็นจำนวนหลายแสนคน

ขณะที่ภาระใหญ่ตกเป็นของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ นายบารัก โอบามา ซึ่งต้องรับ"งานร้อน"เข้าแก้ไขเศรษฐกิจอย่างฉับพลัน เรียกว่างานเข้าตั้งแต่ได้รับตำแหน่งทันที โดยนายโอบามาได้มีการตั้งทีมศก.ขึ้นมารับมือกับวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ขึ้นมาอย่างทันควัน ท่ามกลางกระแสคาดหวังของชาวอเมริกันว่า รัฐบาลใหม่สหรัฐจะสามารถฉุดศก.ขึ้นมาจากปากเหวได้



หลังจากถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว 2009 นักวิเคราะห์ประเมินว่า อัตราคนตกงานของสหรัฐจะอยู่ที่ระดับ 7.8 % ขณะที่ภาวะศก.ถดถอยจะดำเนินไปจนถึงช่วงกลางปี 2009 เป็นอย่างน้อย โดยผลผลิตมวลรวมประชาชาติหรือจีดีพีจะลดลงเหลือเพียง 1.0 % นอกจากนี้ ยังประเมินด้วยว่า ปีหน้าสหรัฐจะมียอดคนตกงานกวา 1 ล้านคน!



ส่วนภาพรวมภูมิภาคยุโรปนั้น ที่น่าตกตะลึง เริ่มจาก"อังกฤษ"เมืองผู้ดี กลุ่มผู้ว่าจ้างระบุว่า ปี 2009 จะเป็นปีแห่งการตกงานที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษของอังกฤษ โดยคาดว่าในปีหน้าจะมีคนตกงานเป็นจำนวน 6 แสนคน และโดยรวมคาดว่าจะมีคนตกงานจำนวน 1 ล้าน และในปี 2010 คาดว่าจะมีคนตกงานทั้งสิ้น 3 ล้านคน ขณะที่สภาหอการค้าอังกฤษยังได้เรียกร้องให้มีการระงับเพดานแรงงานขั้นต่ำเพราะธุรกิจไม่สามารถจ่ายเงินในระดับดังกล่าวได้อีกต่อไป ขณะเดียวกัน ผลสำรวจพบว่า พนักงานยังหวั่นวิตกต่ออนาคตของตัวเอง โดยจำนวนมากวิตกว่าจะถูกระงับการจ่ายเงินเดือน และจำนวนหนึ่งคาดว่าจะถูกตัดลดเงินเดือน



ด้าน"ฝรั่งเศส"ก็มีการประเมินแล้วว่า เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1993 โดยคาดว่าเศรษฐกิจฝรั่งเศสในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าหดตัวอยู่ที่ระดับ 0.4 % โดยไตรมาสที่ 4 ของปี 2009 ก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 0.8 % และไตรมาสที่สามอยู่ที่ 0.1 % ขณะที่อัตราคนว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8 % ในช่วงก่อนครึ่งปีหน้า หรือเพิ่มจากอัตรา 7.3 เดือนก.ย.ปี 2008 ส่วนเยอรมันก็ถูกประกาศว่าเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว



ส่วนไอซ์แลนด์ ก็ประเมินเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเจ็บปวด โดยผลผลิตมวลรวมประชาชาติหรือจีพีดีปีหน้าคาดว่าจะลดลง 3.9 % มากกว่าปีที่แล้ว 2.4 % โดยก่อนหน้านี้ ผู้สันทัดกรณีบอกว่า เศรษฐกิจของประเทศนี้ได้เริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของปี 2008 หรือถือเป็นประเทศแรกของกลุ่มยูโรโซนที่เข้าสู่ภาวะถดถอย

สำหรับรัสเซีย มีการประเมินการณ์ตัวเลขคนว่างงานจะเพิ่มขึ้น 5 แสนคน หรือจากเดิม 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นเป็น 2.1-2.2 ล้านคนในปีหน้า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวเลขคนตกงานแดนหมีขาวจะเพิ่มขึ้นสูงกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ด้านรัฐบาลรัสเซียเปิดเผยว่า เศรษฐกิจของรัสเซียจะขยายตัวประมาณ 6 % แม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยลบในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาก็ตาม



ขณะที่นายโดมินิก สเตร้าส์ คาห์น ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ ได้เตือนให้รัฐบาลต่าง ๆ เพิ่มมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้น โลกจะต้องเสี่ยงกับการถดถอยทางเศรษฐกิจในปี 2009 หรืออาจยืดเยื้อถึงปี 2010 ส่วนสถาบันอินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นตัวแทนของสถาบันการเงินใหญ่กว่า 375 แห่งของโลก ประเมิน ศก.โลกปี 2009 จะหดตัวเหลือ 0.4 % จากปีที่แล้ว 2 %



ด้านนายโรเบิร์ต โซเอลลิค ประธานธนาคารโลกเตือนว่า เศรษฐกิจโลกในปีหน้า จะเต็มไปด้วยปัญหา โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งจะคายพิษกระทบต่อภูมิภาคเอเชียและอาเซียนด้วย โดยประเมินว่า เอเชีย-แปซิฟิก จะยังคงฟ่ากระแสวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยไปได้ โดยมีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2009 ที่ระดับ 2009 ลดลงจากปีก่อน 7.0 % ขณะที่เศรษฐกิจโลกคาดว่าจะขนาดตัวเพียง 0.9 เศรษฐกิจเท่านั้น ส่วนมูลค่าการค้าก็ลดลง 2.1 % ถือเป็นการลดลงครั้งแรกในปีรอบ 26 ปี โดยบิ๊กธนาคารโลกมองว่า โอกาสว่า เศรษฐกิจโลกจะสามารถต่อสู้ขยับขยายได้ดีแค่ไหน ต้องขึ้นกับการดำเนินมาตรการ"ตลาดการค้าเปิด"ของแต่ละประเทศด้วย



สำหรับภูมิภาคเอเชีย มองกันว่า เศรษฐกิจภูมิภาคนี้ ไม่พ้นจะต้องเจอผลพวงวิกฤตเศรษฐกิจโลกอย่างช่วยไม่ได้ โดยคาดว่าไตรมาสแรกของปี 2009 เอเชียจะเข้าสู่ภาวะศก.ถดถอย โดยบริษัทต่าง ๆ จะลดปริมาณการผลิต และการปลดพนักงาน เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โดยโรงงานผลิตต่างๆ ต้องสะเทือนไปทั่วภูมิภาคเพราะวิกฤตเครดิตตึงเครียดของสหรัฐและยุโรป แต่เคราะห์ยังดีที่นักวิเคราะห์คิดว่า เศรษฐกิจเอเชียปีหน้า จะไม่เลวร้ายเท่าวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเมื่อปี 1997 เนื่องจากธนาคารเอเชียส่วนใหญ่ รอดตัวจากวิกฤตซับไพรม์ของสหรัฐ ผิดกับยุโรปซึ่งต้องเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มที่



แต่กระนั้น สำหรับจีน มหาอำนาจยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย ก็ต้องพลอยฟ้าพลอยฝน เจอพิษแฮมเบอร์เกอร์เน่าของสหรัฐไปโดยปริยาย ซึ่งนักวิเคราะห์บอกว่า จะฉุดตัวเลขขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนลงจากสองหลักเหลือเพียง 7 % ซึ่งเป็นอัตราชะลอตัวช้าที่สุดในรอบ 19 ปี และที่ผ่านมา รัฐบาลจีนต้องประกาศแผนกระตุ้นศก.มูลค่า 586,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายใน เพื่อผ่อนคลายวิกฤตเศรษฐกิจจากสหรัฐและยุโรป ส่วนเศรษฐกิจอย่างประเทศญี่ปุ่น จะหดตัวเหลือ 2 %



สำหรับสถานการณ์ด้านน้ำมัน นักวิเคราะห์เขาประเมินว่า ตลาดน้ำมันจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากในปีหน้า เพราะความต้องการน้ำมันตกต่ำ จากพิษวิกฤตเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันได้ปรับลดลง 70 % นับตั้งแต่เดือนก.ค.จากที่เคยพุ่งกระฉูดถึงหลัก 147 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กลายเป็นเศรษฐีน้ำมันตกกระป๋องไปชั่วพริบตาอย่างเหลือเชื่อ



โดยงานนี้นายอับดุลลาห์ อัล อัตติยาห์ รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันกาตาร์บอกว่า เขาคาดว่าปี 2009 จะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับเอเปก เพราะดัชนีทุกอย่างบ่งชี้ว่า ความต้องการของภาคหลายส่วนการผลิตนั้นจะบริโภคน้ำมันลดลงอย่างแรง รวมทั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และไตรมาสแรกของปี 2009 งานนี้ต้องรอดูว่า โอเปกจะแก้เกมส์อย่างไร เพราะก่อนหน้านี้กลุ่มประกาศจะหั่นกำลังผลิตน้ำมันลงชนิดอย่างรุนแรงเป็นประวัติศาสตร์ โดยลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เรียกว่าพี่แขกสู้สุดฤทธิ์ ไม่ยอมให้ภาวะกำไรน้ำมันตัวเองต้องหดฮวบจากพิษเศรษฐกิจปัจจุบัน แต่ก็ล้มเหลวเพราะราคาน้ำมัน กลับตกลงเหมือนไม่สนกระแสกดดันของโอเปกแม้แต่น้อย



ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ว่า ซาอุดิอาระเบีย และประเทศผู้ผลิตน้ำมัน จะต้องประสบภาวะขาดดุลในปีหน้า จากสภาพราคาน้ำมันยังคงตกลงถึงเท่าตัวเหมือนช่วงที่ผ่านมา โดยหากน้ำมันอยู่ในระดับ 45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก็มีโอกาสจะเห็นหลายประเทศเสี่ยอาหรับเช่น บาห์เรน โอมาน หรือซาอุดิอาระเบีย ต้องขาดทุนงบประมาณกันอย่างแรง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลตะวันออกกลางได้นำเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ไปลงทุนพัฒนาฮับทางการเงิน หรือสร้างแหล่งท่องเที่ยว สร้างอุตสาหกรรม ปิโตรเรมี และเร่งโครงการก่อสร้างเพื่อรองรับชาวต่างชาติที่เข้าพำนักในประเทศด้วย

 

ปีหน้าโดนแบงก์โขกดอก

http://www.posttoday.com/finance.php?id=25361

ผู้ประกอบการหน้าแห้ง ธนาคารวิเคราะห์ดอกเบี้ยเงินกู้รายตัว สะท้อนพิษความเสี่ยงเศรษฐกิจ เลิกฝันเอ็มแอลอาร์ลบ

นายสุรศักดิ์ ดุษฎีเมธา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้การคิดดอกเบี้ยเงินกู้ของลูกค้าจะพิจารณาลูกค้าเป็นรายตัว ไม่ได้ดูเป็นภาพรวมอุตสาหกรรม ดังนั้นดอกเบี้ยคงจะต้องพิจารณาตามฐานะลูกค้า
<TABLE class=content_caption cellSpacing=0 cellPadding=2 width=130 align=right border=0><TBODY><TR><TD class=""></TD></TR><TR><TD class="">สุรศักดิ์ ดุษฎีเมธา</TD></TR></TBODY></TABLE>นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ผู้ประกอบการต่างมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ฉะนั้น การคิดดอกเบี้ยเงินกู้จะสะท้อนเครดิตของลูกค้า เช่น เดิมธนาคารอาจ คิดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ ชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ลบตามความสามารถชำระหนี้ ในกรณีลูกค้าที่มีประวัติดี แต่จากนี้ไปแม้จะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ก็ยากที่จะเห็นดอกเบี้ยลบ มีแต่ธนาคารจะคิดส่วนต่างดอกเบี้ยเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม แม้จะคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับลดได้อีก 0.5% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่จะถึง ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดดอกเบี้ยตามทั้ง 2 ขา หากเป็นเช่นนั้น ก็มีโอกาสที่เอ็มแอลอาร์จะปรับลดลงมาอยู่ในระดับ 6.25% หรืออาจจะมากกว่านั้น จากปัจจุบันเอ็มแอลอาร์อยู่ที่ 6.75% ซึ่งถือเป็นโอกาสดีของลูกค้ารายย่อยที่กู้เงินซื้อที่อยู่อาศัย แต่สำหรับลูกค้าทั่วไปที่เป็นผู้ประกอบการก็ยังถูกคิดดอกเบี้ยบวก

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>รู้ไว้รักษาทัน (โรค)...ภัยหน้าหนาว


</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=25450

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>รายงานโดย :มัลลิกา นามสง่า:

</TD><TD>วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2551

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เพราะอากาศเปลี่ยนบ่อย ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงเป็นห่วงสุขภาพของคนไทย ยิ่งขณะนี้เป็นฤดูหนาว หากร่างกายปรับตัวไม่ทันอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ขึ้นได้


ซึ่งโรคที่มักเกิดในฤดูหนาว อาทิ ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม หัด หัดเยอรมัน อีสุกอีใส และอุจจาระร่วง
แต่อย่าตกใจไป เพราะส่วนใหญ่เป็นโรคที่ป้องกันได้ แต่เรามักไม่ค่อยใส่ใจกันต่างหาก พานทำให้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่หมดสนุกเพราะต้องล้มหมอนนอนเสื่อ แทนที่จะยืนรับลมหนาวเคาต์ดาวน์



(โรค)...ภัยหน้าหนาว
นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล อายุรแพทย์ สาขาโรคติดเชื้อ ผู้อำนวยการนอกเวลา โรงพยาบาลบีเอ็นเอช และหัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้บอกถึงโรคที่ควรระวังในฤดูหนาว โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ คือ

กลุ่มโรคติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดใหญ่ อีสุกอีใส หัดเยอรมัน ปอดบวม อุจจาระร่วง (มักเกิดกับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ติดต่อโดยการดื่มน้ำหรือกินอาหารที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อนเข้าไป) และไข้หวัดนก ทั้งนี้ในปีนี้ยังไม่พบเชื้อกับคน แต่เพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ หากอยู่ในพื้นที่ที่เลี้ยงสัตว์ปีก และป่วยหลังจากมีสัตว์ตายอย่างผิดปกติ ควรพบแพทย์และแจ้งปศุสัตว์ทันที
กลุ่มโรคผิวหนัง มักเกิดในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
กลุ่มโรคภูมิแพ้ เช่น ริดสีดวงจมูก หอบหืด
กลุ่มโรคหัวใจ
กลุ่มสุดท้าย คืออาการที่เกิดจากการสัมผัสความเย็นโดยตรง เช่น สัมผัสหิมะ หรือไปอยู่ในที่อุณหภูมิติดลบ และร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันหรือไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศหนาวเย็น

รู้ไว้จะได้รักษาทัน
ฮัดชิ้ว! ไม่เพียงแค่เสียงจามจากตัวเองคนเดียว แต่คนรอบๆ ตัวก็จามสลับไอรับกันเป็นจังหวะเลยเชียว แม้ว่าโรคหวัด หรือโรคอื่นๆ ที่มักมาเยือนเราในฤดูหนาวนั้นจะเป็นโรคที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ควรประมาท เตรียมพร้อมรับมือและหาวิธีป้องกันไว้ดีกว่า



โรคไข้หวัด เป็นโรคท็อปฮิตติดเทรนด์หน้าหนาวเลยล่ะ และสามารถลุกลามไปเป็นโรคปอดบวมได้ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากที่สุดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ

ทั้งนี้ โรคไข้หวัดติดต่อได้ง่ายโดยการหายใจ และเชื้อจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย การไอ จาม และอาจติดจากการใช้ภาชนะ และสิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ติดต่อได้โดยการสัมผัส แพร่กระจายในสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก และอากาศไม่ถ่ายเท เช่น โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า รู้อย่างนี้แล้ว ทั้งคนที่เป็นและไม่อยากป่วยในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยง
วิธีป้องป้องกันง่ายๆ ที่ใช้ได้สำหรับทุกโรคในเบื้องต้นคือ คือรักษาร่างกายให้แข็งแรง ทำให้มีภูมิต้านทานที่ดี อบอุ่น ออกกำลังกาย กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ พยายามพักผ่อนให้มากที่สุด หมั่นล้างมือบ่อยๆ

โรคตาแดง เกิดจากมือไม่สะอาดจับไปทั่ว แล้วมาป้ายตาตัวเอง ระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็กนักเรียน ป้องกันไม่ยาก หมั่นล้างมือให้สะอาด ไม่เอามือขยี้ตา ไม่คลุกคลีกับคนเป็นโรค เมื่อเป็นโรคควรหยุดงานหรือหยุดเรียน จะได้ไม่ไปติดต่อผู้อื่น

โรคอีสุกอีใส มักเกิดในเด็ก อาการเริ่มด้วยมีไข้ต่ำๆ เหมือนไข้หวัด หัด ไข้หวัดใหญ่ แล้วจะมีผื่นแดง ตุ่มนูน และเปลี่ยนเป็นตุ่มพองใสในวันที่ 2-3 นับแต่เริ่มมีไข้ หลังจากนั้นจะเป็นหนอง เริ่มแห้งตกสะเก็ด ในช่วง 5-20 วัน ผื่นอาจขึ้นในคอ ตา และปาก โดยทั่วไปจะไม่เกิดโรคแทรกซ้อน
โรคผิวหนัง เกิดจากอากาศแห้ง ความชื้นลดลงไม่เกี่ยวกับว่าอากาศจะหนาวเย็นหรือไม่ ซึ่งอุณหภูมิ 20 องศานิดๆ หรือต่ำ 20 องศา ก็สามารถเจอกับปัญหานี้ได้ โรคนี้ในผู้สูงอายุและคนผิวแห้ง ผิวไม่แข็งแรงจะเป็นได้ง่าย เพราะต่อมไขมันใต้ผิวหนังมีจำนวนน้อย การผลิตสารไขมันเพื่อเคลือบผิวหนังก็น้อยลง ยิ่งถ้าในช่วงอากาศหนาว ความชื้นในอากาศลดลง จะทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงลงไปมาก ส่งผลให้ขาดความชุ่มชื้น ปลายประสาทที่ใต้ผิวหนังถูกกระตุ้นจนเกิดอาการคันอย่างมาก



จะมีอาการคันตามผิวที่เราสัมผัส (ไม่ใช่อาการของผิวแตก เพราะมีอาการร้ายแรงกว่า) มีผิวลอก แดง มีตุ่มขึ้น คันเหมือนแพ้ ถ้าเกาจะมีเชื้อเข้าไปในผิวหนังทำให้เป็นตุ่มหนอง เป็นแผล อักเสบแดง ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ต้องไปพบแพทย์

วิธีดูแลรักษาผิวเบื้องต้น อยู่ในที่อุ่นๆ อาบน้ำอุ่นสลับกับน้ำเย็น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ไม่ควรเช็ดหรือถูแรงๆ ต้องทาโลชันให้ผิวชุ่มชื่น พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อผิวจะได้รับการซ่อมแซมในระหว่างหลับอย่างเต็มที่ การออกกำลังกายจะช่วยให้เลือดนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกายได้ดีขึ้น

แพ้ (ทาง) หนาว
ในกลุ่มโรคภูมิแพ้ และกลุ่มโรคหัวใจ ผู้ป่วยที่มีโรคนี้ต้องระมัดระวังและรักษาสุขภาพร่างกายให้ดีในฤดูหนาว อย่างเช่น คนเป็นโรคหอบหืด ถ้าอากาศเย็นมากๆ จะมีอาการคัดจมูก เป็นหวัด ไอ เหนื่อย และมีอาการของหอบหืดบ่อยมากขึ้น
โรคหัวใจอาจกำเริบได้ เพราะอุณหภูมิต่ำทำให้หัวใจทำงานหนัก ชีพจรเต้นเร็ว เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอก จะมีอาการกำเริบได้ พยายามอย่าออกแรงในที่อากาศเย็นจะเหนื่อยเร็ว หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ
กลุ่มที่มีภาวะภูมิแพ้ ควรระวังพิเศษสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมยารักษาและบรรเทาอาการของโรคไว้ให้พร้อม เพื่อป้องกันการเกิดภาวะโรคฉุกเฉิน



ส่วนกลุ่มอาการที่เกิดจากการสัมผัสความเย็นโดยตรง สามารถเกิดขึ้นได้ในกลุ่มคนไทยที่ไปยังต่างประเทศที่มีอุณหภูมิติดลบ เพราะถ้าสัมผัสความเย็นมากๆ จะถูกกัดเป็นแผล เลือดไปเลี้ยงปลายนิ้วไม่พอก็เป็นแผลเรื้อรัง ร้ายแรงจนถึงขั้นตัดนิ้วก็มี เพราะปลายนิ้วชามากจนเนื้อบริเวณส่วนนั้นตาย หรือเจออากาศเย็นจัดสามารถทำให้ช็อก หน้ามืดหมดสติได้
ดังนั้น ถ้าต้องไปเยือนประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นจัดต้องเตรียมเสื้อผ้าปกคลุมร่างกายให้ดี ต้องหนามากกว่าปกติ ถ้ามีอาการต้องทำให้ร่างกายอุ่นให้เร็วที่สุด ใช้ความร้อนประคบจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ง่าย

ปล. ถึงนักดื่ม (จัด) ที่มีคำบอกต่อๆ กันว่า ดื่มแอลกอฮอล์ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นนั้น แต่ถ้าดื่มจัดอาจจะเผาร่างกายให้มอดม้วยมรณาได้ เพราะแอลกอฮอล์จะกดประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วง งง ซึม และหมดสติได้ หากอยู่ในที่มีอากาศหนาวเย็น ยิ่งอันตราย เนื่องจากความเย็นจะทำให้ร่างกายมีความหนืดมากขึ้น การไหลเวียนของโลหิต ยากลำบาก อวัยวะต่างๆ ขาดออกซิเจน หัวใจต้องทำงานเพื่อสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ง่ายขึ้น

 

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่


..ขอร่วมพร ปีใหม่ ใจแช่มชื่น
ยามเริงรื่น ใกล้สิ้นปี มีสุขสรรค์
ขอเหล่าผอง เพื่อนพี่ อย่าประมาทกัน
มีสติมั่น รำลึกอยู่ คู่เบิกบาน

หลีกพ้นไกล อโคจร ลอดทางเสื่อม
พ้นมารเงื้อม คว้าใจ-กาย ไปเผาผลาญ
ขอนำตน อยู่แต่กุศล ดลสราญ
เจริญทาน ศีล สุขสงบ พบน้ำธรรม

น้ำเย็นใจ ไม่เท่า น้ำธรรมรส
ส่องใสสด สุขศานต์ เดินทางสัมฯ
ส่องให้เห็น แจ่มชัด พลัดอกุศลกรรม
เจริญธรรม เจริญสุข ทุกทิวา... ​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

การจะได้สิ่งที่ดีที่สุดต้อง "บำเพ็ญบารมี"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>การปฏิบัติบารมีแบบนี้ เป็นแบบที่ผู้คนส่วนใหญ่มักเคยได้ยินได้ฟังมาแล้วจากนิทานชาดก ทั้งพระโพธิ์สัตว์ พระสาวก และผู้ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระอรหันต์
การบำเพ็ญบารมีแบบนี้ ตั้งจุดหมายไว้ที่สิ่งสูงสุดในพุทธศาสนาเหมือนๆกัน นั่นก็คือ บำเพ็ญความดีอะไรก็ตามเพื่อให้ไปถึง นิพพาน ความหมดทุกข์ การบำเพ็ญบารมีแบบนี้จึงไม่ได้กระทำกันในระดับธรรมดา นอกจากต้องบำเพ็ญให้ครบทั้งสิบประการของบารมีแล้ว ยังต้องบำเพ็ญให้เต็มเปี่ยมอย่างที่สุด

ตัวอย่างในพระสูตรเกี่ยวกับการบำเพ็ญบารมีทั้งหลาย จึงมักดูยากและหนักหนา ไม่ว่าจะเป็นการเสียสละชีวิตเพื่อผู้อื่น การบริจาคทานจนต้องถูกขับจากเมือง การพากเพียรอดทนทำหน้าที่แม้มองไม่เห็นโอกาสจะสมหวัง ด้วยมุมมองนี้ ทำให้วิธีปฏิบัติที่มีประโยชน์มากมาย ต้องกลายเป็นเพียงตำนานในสายตาของปุถุชนคนทั่วไป เพราะเราย่อมคิดว่า"ทำไม่ได้" แต่ถ้าเราลองมองบารมีว่าเป็นของดี เป็นของกลาง ผู้ที่เห็นข้อดี มีความตั้งใจ ทุกคนก็มีสิทธิ์ปฏิบัติได้ตามกำลังความสามารถของตนจะอำนวย

บารมีก็ไม่ใช่เรื่องที่ตึง และสุดโต่งเหมือนตัวอย่างที่เราคุ้นเคยในวัยเด็กอีกต่อไป

"พระพุทธเจ้า ทรงส่งเสริมให้เราประกอบกิจอันเป็นประโยชน์อยู่เสมอ ดังนั้นสิ่งใดดีมีประโยชน์ ต่อให้ทำได้ไม่ครบและเต็มเปี่ยม หรือแม้ทำได้เพียงบางส่วน บางข้อ ก็ยังเป็นประโยชน์แก่เรา และแก่โลกนี้อย่างมากแล้ว"
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่มีพระอรหันตธาตุหลายองค์อื่นๆอีกหลายองค์ ตอนนี้ก็เริ่มแจกให้คนอื่นไปบูชาแล้ว เป็นความสุขใจที่ได้เห็นความสุขของคนที่ได้รับค่ะ เป้นของขวัญปีใหม่น้องหมอค่ะ

 

สุขสันต์ปีใหม่ทุกท่านนะคะ ขอให้ทุกๆวันจากนี้ไปเป็นวันที่ดีสำหรับการพูดดี ทำดี คิดดี ตลอดไปนะคะ

 

อนโมทนาครับคัวเห็นพี่แล้วนึกถึงแมว แมวที่บ้านนิสัยเป็นไงไม่รู้วิ่งหรนีมันมันยิ่งตามยิ่งถ้าหนีมันแล้วมันตามไม่ทันพอมันตามทันมันขยำขาผมเลยแมวตัวนี้คึกมาก

 

วันนี้ไปเจอมาครับ นำมาให้ชมกัน งานนี้ขายครับ บานละ 50 บาท ผมกัดฟันซื้อลายเซ็นผมมาเอง

รูปหลวงปู่รูปนี้มีมากมาย
แต่ไม่มีการลงอักขระครับ
ผู้ทำ ไม่เจริญนะครับ



http://palungjit.org/showthread.php?p=1767978#post1767978

http://palungjit.org/showthread.php?t=22445&page=1314
.