พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมไปตั้งกระทู้ กราบหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง และ หลวงปู่เผือก วัดสาลีโข

    -http://palungjit.org/threads/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%82.391803/-

    -http://www.tairomdham.net/index.php/topic,8157.msg32131/topicseen.html#msg32131-

    กราบหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง และ หลวงปู่เผือก วัดสาลีโข

    http://palungjit.org/threads/กราบหลวงปู่เอี่ยม-วัดสะพานสูง-และ-หลวงปู่เผือก-วัดสาลีโข.391803/


    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กราบหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง และ หลวงปู่เผือก วัดสาลีโข

    ผมไปกราบหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2555

    หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง

    [​IMG]

    [​IMG]

    ประวัติวัดสะพานสูง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หน้าพระอุโบสถ

    [​IMG]

    พระอุโบสถ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หน้าบัน

    [​IMG]

    [​IMG]

    ที่วิหารด้านหน้า

    [​IMG]

    วิหารด้านข้าง

    [​IMG]

    [​IMG]



    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตอนบ่ายไปทานข้าวที่ชลบุรี

    ร้านนี้ไปทานหลายครั้งแล้วครับ

    [​IMG]

    ป้ายติดกำแพง บอกเมนูแนะนำ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ป้ายบอกว่า มีขนมอะไรบ้าง

    [​IMG]

    [​IMG]

    เมนูครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    จานแรกที่ต้องทานแน่ๆ

    [​IMG]

    ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทยดำ

    [​IMG]

    ต้มยำปลาแมงภู่

    [​IMG]

    กรรเชียงปูอบวุ้นเส้น

    [​IMG]

    จานนี้ อร่อยมาก ชอบ โรยนมข้น ยิ่งชอบ

    กะลอจี๊

    [​IMG]

    ชมภาพอย่างมีความสุขกันครับ

    รูปผมลงไว้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้ครับ

    -http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%81-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89.22445/page-2570#post7080168-

    http://palungjit.org/threads/พระวัง...้าต้องการที่จะได้.22445/page-2570#post7080168
    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ประวัติ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง
    -http://www.itti-patihan.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1-%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87.html-


    ประวัติ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง

    [​IMG]

    หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ( อ่านว่า ปะถะมะนามะ หรือ ปถมนาม ) เกิดในรัชกาลที่ ๒ เมื่อปีฉลู พ.ศ. 2359 เป็นบุตรนายนาค นางจันทร์ โดยมีพี่น้องท้องเดียวกัน รวมด้วยกัน 4 คน คือ
    1. หลวงปู่เอี่ยม
    2. นายฟัก
    3. นายขำ
    4. นางอิ่ม

    บ้านเกิดของหลวงปู่เอี่ยมอยู่ที่ตำบลบานแหลมใหญ่ ฝั่งใต้ ข้างวัดท้องคุ้ง อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อปี พ.ศ.๒๓๘๑ อายุท่านได้ ๒๒ ปี ได้อุปสมบท ที่วัดบ่อ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด (วัดบ่อนี้อยู่คิดกับตลาดในท่าน้ำปากเกร็ด) ท่านอุปสมบท ได้ประมาณหนึ่งเดือน ท่านก็ได้ย้ายไปประจำพรรษาอยู่ที่วัดกัลยาณมิตร ธนบุรีซึ่งในขณะนั้นพระพิมลธรรมพร เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งย้ายมาจากวัดราชบูรณะ พระนคร หลวงปู่เอี่ยมท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรม และแปลพระธรรมบทอยู่ที่วัดนี้อยู่ได้ถึง ๗ พรรษาท่านจึงได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดประยูรวงศาวาส

    เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๘ อยู่วัดประยูรวงศาวาสได้ ๓ พรรษา ถึงปี พ.ศ. ๒๓๘๙๑ นายแขก สมุห์บัญชีได้นิมนต์หลวงปู่เอี่ยม ไปจำพรรษาเจริญพระกัมมัฏฐานเป็นเริ่มแรก และได้ศึกษาอยู่ ๕ พรรษา ถึงปี ๒๓๙๖ ญาติโยมพร้อมด้วยชาวบ้านภูมิลำเนาเดิมในคลองแหลมใหญ่ (ซึ่งปัจจุบันนี้ คือคลองพระอุดม) อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้เดินทางมา อาราธนานิมนต์หลวงปู่เอี่ยม กลับไปปกครองวัดสว่างอารมณ์ หรือวัดสะพานสูง ในปัจจุบันนี้

    สาเหตุที่เปลี่ยนชื่อวัดสว่างอารมณ์เดิมมาเป็นชื่อวัดสะพานสูงนั้น มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า ในสมัยนั้นสมเด็จกรมพระยาวชิญาณวโรรส ท่านได้เสร็จไปตรวจการคณะสงฆ์ได้เสด็จขึ้นที่วัดสว่างอารมณ์นี้ ได้ทอดพระเนตรเห็นสะพานสูงข้ามคลองวัด (คลองพระอุดมปัจจุบันนี้)

    ซึ่งชาวบ้านมักจะเรียกวัดสว่างอารมณ์นี้ว่า วัดสะพานสูง จึงทำให้วัดนี้มีชื่อเรียกกัน ๒ ชื่อ ฉะนั้น สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงเห็นว่า สะพานสูงนี้ก็เป็นนิมิตดีประจำวัดประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งชาวบ้านก็นิยมเรียกกันติดปากว่าวัดสะพานสูง จึงได้ประทานเปลี่ยนชื่อวัดสว่างอารมณ์ มาเป็น "วัดสะพานสูง" จนตราบเท่าทุกวันนี้
    หลวงปู่เอี่ยม มาวัดสะพานสูงใหม่ๆ ที่วัดนี้มีพระประจำวันพรรษาอยู่เพียง ๒ รูปเท่านั้น
    ขณะที่ท่านหลวงปู่เอี่ยม ได้ย้ายมาอยู่วัดสะพานสูงได้ ๘ เดือน ก่อนวันเข้าพรรษาหลวงพิบูลย์สมบัติ บ้านท่านอยู่ปากคลองบางลำภู พระนคร ได้เดินทางมานมัสการหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่เอี่ยมได้ปรารภถึงความลำบาก ด้วยเรื่องการทำอุโบสถและสังฆกรรม
    เนื่องจากสถานที่เดิมได้ชำรุดทรุดโทรมมาก จึงอยากจะสร้างให้เป็นถาวรสถานแก่วัดให้เจริญรุ่งเรือง หลวงพิบูลยสมบัติ ท่านจึงได้บอกบุญเรี่ยไรหาเงินมา เพื่อก่อสร้างโบสถ์ และถาวรสถานขึ้น จึงเป็นที่เข้าใจกันว่าหลวงปู่เอี่ยม ได้เริ่มสร้างพระปิดตาและตะกรุดเป็นครั้งแรก

    เพื่อเป็นของชำร่วยแก่ผู้บริจาคทรัพย์และสิ่งของที่ใช้ในการก่อสร้างพระอุโบสถและถาวรสถาน ต่อมาถึง พ.ศ. ๒๔๓๑ ได้สร้างศาลาการเปรียญ หลังจากนั้นอีกหลวงปู่เอี่ยมได้สร้างพระเจดีย์ฐาน ๓ ชั้นขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ ขณะที่ท่านหลวงปู่เอี่ยม ท่านได้มาอยู่วัดสะพานสูง ท่านได้ไปธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร

    โดยมีลูกวัดติดตามไปด้วยเสมอ แต่ท่านจะให้ลูกวัดออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ๖-๗ ชั่วโมง แล้วจะนัดกันไปพบที่แห่งใดแห่งหนึ่ง แล้วท่านหลวงปู่เอี่ยม ได้ไปพบชีปะขาวชาวเขมรท่านหนึ่งชื่อว่าจันทร์หลวงปู่เอี่ยม จึงได้เรียนวิชาอิทธิเวทย์ จากท่านอาจารย์ผู้นี้อยู่หลายปี จนกระทั่งชาวบ้านแหลมใหญ่นึกว่าท่านออกธุดงค์ไปได้ถึงแก่มรณภาพไปแล้ว เนื่องจากหลวงปู่เอี่ยม ท่านไม่ได้กลับมาที่วัดหลายปี

    จึงได้ทำสังฆทานแผ่ส่วนกุศลไปให้ท่าน ทำให้ท่านหลวงปู่เอี่ยม ทราบในญาณของท่านเอง และท่านหลวงปู่เอี่ยม จึงได้เดินทางกลับมายังวัดสะพานสูง การไปธุดงค์ครั้งนี้ หลวงปู่เอี่ยม ได้ไปเป็นเวลานาน และอยู่ในป่าจึงปรากฏว่าท่านหลวงปู่เอี่ยม ท่านไม่ได้ปลงผม ผมจึงยาวถึงบั้นเอว จีวรก็ขาดรุ่งริ่ง หมวดท่านยาวเฟิ้มพร้อมมีสัตว์ป่าติดตามท่านหลวงปู่เอี่ยม มาด้วย อาทิเช่น หมี, เสือ, และงูจงอาง ฯลฯ

    จากการเจริญกรรมฐานนี้ จึงทำให้หลวงปู่เอี่ยมสำเร็จ "โสรฬ" มีเรื่องเล่ากันว่ามีต้นตะเคียนต้นหนึ่งมีน้ำมันตกและดุมากเป็นที่เกรงกลัวแก่ชาวบ้านแถบนั้น หลวงปู่จึงช่วยยืนเพ่งอยู่ 3 วันเท่านั้น ต้นตะเคียนก็เฉาและยืนต้นตาย หลวงปู่เป็นผู้มีอาคมฉมัง วาจาสิทธิ์ มักน้อยและสันโดษ ท่านเป็นต้นแบบในการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านได้สร้างถาวรวัตถุที่ได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้คือพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ พระเจดีย์ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระปิดตา และตะกรุดโทนมหาโสฬสมงคลอันลือลั่นนั่นเอง
    ท่านหลวงปู่เอี่ยม เป็นพระผู้มีอาคมขลัง มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ มักน้อย ถือสันโดษ ด้วยเหตุนี้เองทำให้หลวงปู่เอี่ยม ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งชาวบ้านและเจ้านายผู้ใหญ่ในพระนครนับถือท่านมากจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ก่อนที่หลวงปู่เอี่ยมจะมรณภาพด้วยโรคชรา นายหรุ่น แจ้งมา ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดคอยอยู่ปรนนิบัติท่านหลวงปู่เอี่ยมได้ขอร้องท่านว่า “ท่านอาจารย์มีอาการเต็มที่แล้ว ถ้าท่านมีอะไรก็กรุณาได้สั่ง และให้ศิษย์เป็นครั้งสุดท้าย” ซึ่งท่านหลวงปู่เอี่ยมก็ตอบว่า “ถ้ามีเหตุทุกข์เกิดขึ้นให้ระลึกถึงท่านและเอ่ยชื่อท่านก็แล้วกัน”หลวงปู่เอี่ยมท่านได้มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๙ รวมอายุได้ ๘๐ ปี บวชได้ ๕๙ พรรษา

    ก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้มีศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นตัวแทนของชาวบ้าน และผู้เคารพนับถือศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้บูชา กราบเรียนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่เอี่ยม ได้มรณภาพแล้วจักทำประการใด ท่านจึงได้มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสุข ทุกข์ เกิดนั้น ให้ระลึกถึงชื่อของเรา"

    จึงเป็นที่ทราบและรู้กันว่า หากผู้ใดต้องการมอบตัวเป็นศิษย์หรือต้องการให้ท่านช่วยแล้วด้วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรดและคุ้มครองและหากเป็นเรื่องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ท่าน รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่เอี่ยม ท่านประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ สร้าง(หล่อ) ขึ้นเมื่อพ.ศ. 2480 ในสมัยหลวงปู่กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะบูชา ต่อมาจนทุกๆวันจะมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทงใส่ดอกไม้เจ็ดสี จะมีผู้นำมาถวายและแก้บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้แต่ผงขี้ธูปและน้ำในคลองหน้าวัดก็ยังมีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง

    และหลังจากที่ท่านมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้วก็ตามที ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ท่าน เคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ฐานของหลวงปู่เอี่ยม เพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหม้ไฟ

    เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ้นเช่นนั้น ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้วนเป็นตะกรุดจนหมดสิ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังมารื้อเอาตัวไม้ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่านไปบูชา
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    -http://www.google.co.th/#hl=th&spell=1&q=%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81+%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%82&sa=X&ei=1h6GUOatEoGNrgfGgYH4Aw&ved=0CB0QvwUoAA&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.r_qf.&fp=ddd490a8592615ff&bpcl=35466521&biw=1016&bih=569-

    พุทธอุทยานธรรมโกศล ตอนปฐมสมภารวัดสาลีโข

    บทความพระเครื่อง เขียนโดย romulus

    -http://www.web-pra.com/Article/Show/1356-

    [​IMG]
    พระครูธรรมโกศล(หลวงปู่เผือก) ปฐมสมภารวัดสาลีโข จ.นนทบุรี

    [​IMG]
    รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่เผือก ภายในพุทธอุทยาน

    วันนี้(10 ก.พ. 2551ไปทำบุญที่พุทธอุทยานธรรมโกศล จังหวัดปทุมธานีครับ หลวงพ่อสมภพท่านได้เมตตาเล่าประวัติของ ท่านพระครูธรรมโกศล หรือหลวงปู่เผือก ให้ลูกศิษย์ที่มากราบนมัสการท่านฟังอาจมีหลายท่านเคยอ่านประวัติของหลวงปู่เผือกผ่านทางสื่อต่างๆ เช่นหนังสือ หรือคำบอกเล่า ครั้งนี้ได้มีโอกาสรับฟังจากหลวงพ่อเลยขอจดบันทึกไว้เพื่อระลึกถึงความมีเมตตาของท่านครับ

    [​IMG]
    หลวงปู่เผือก เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือนอ้าย (ปีชวด พ.ศ.2299) เป็นชาวกรุงศรีอยุธยา บิดาเป็นชาวจีนที่เดินทางเข้ามาประกอบอาชีพค้าขายในประเทศไทย ส่วนมารดาเป็นคนไทย หลวงปู่เผือกบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดพุทไธสวรรย์ สมัยนั้นความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคนไทยมีมาก หลวงปู่เผือกท่านจึงได้เล่าเรียนพระปริยัติธรรม ควบคู่ไปกับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนแตกฉานตั้งแต่เป็นสามเณรครับ

    [​IMG]
    รูปหล่อหลวงปู่เผือก(ขนาดใหญ่) ประดิษฐานบนเนิน ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์

    ก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตก
    โยมบิดามารดาของหลวงปู่เผือกได้อพยพหลบภัยสงครามจากรุงศรีอยุธยาหลวงปู่เผือกที่ขณะนั้นยังเป็นสามเณรได้ติดตามมาคอยดูแลโยมบิดามารดาพร้อมกลุ่มผู้อพยพจนมาถึงบริเวณสุดแนวโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามกับเกาะเกร็ดกลุ่มผู้อพยพจึงได้ตั้งหลักแหล่งพักอาศัยทำมาหากิน ในบริเวณดังกล่าวมีสำนักสงฆ์เก่าแก่อยู่แห่งหนึ่ง
    สามเณรเผือกจึงได้จำพรรษาในสำนักสงฆ์นั้น ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นวัดสาลีโข
    ในปัจจุบันนี้

    ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ทรงขับไล่พม่าออกไปจากประเทศไทยได้สำเร็จและทรงตั้งกรุงธนบุรีขึ้นเป็นเมืองหลวงสามเณรเผือกจึงได้เดินทางย้อนกลับไปกรุงศรีอยุธยา เพื่อศึกษาวิชาการต่อพออายุท่านครบบวช ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดป่าแก้วซึ่งเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี เมื่อวันศุกร์ ขึ้น7 ค่ำ เดือน8 ปีมะแม จ.ศ.1138
    (พ.ศ.2319) ได้รับฉายาว่าธัมมะโกศลเวลาออกพรรษาหลวงปู่เผือกท่านชอบออกธุดงควัตรเสมอจนทำให้ท่านมีความเชี่ยวชาญด้านกรรมฐานและมีวิชาอาคมแก่กล้าเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปถึงแม้ท่านจะมีอายุไม่มากนัก(สหธรรมมิกของท่านที่มีชื่อเสียงคือ สมเด็จพระสังฆราช สุกไก่เถื่อน)

    สมัยรัชการที่ 1 หลวงปู่เผือกท่านมีชื่อเสียงมากและโด่งดังเข้าไปถึงหูของบรรดาขุนนางเจ้านายในวัง ต่างมากันมาหาท่านเพื่อขอวัตถุมงคลหรือขอให้ท่านลงอักขระเพื่อความเป็นมงคลหรือต้องการหนังเหนียวว่ากันว่าท่านทำได้ขลังนักทำให้มีลูกศิษย์มาขึ้นกับท่านมาก เรียกว่าในช่วงนั้นวัดสาลีโขเจริญรุ่งเรืองสุดขีด

    สมัยรัชการที่4 หลวงปู่เผือกได้รับพระราชทานพระราชทินนามว่า พระครูธรรมโกศลตำแหน่งสังฆปาโมกข์ฝ่ายอรัญวาสีแขวงนนทบุรี และเป็นเจ้าคณะเมืองนนทบุรีหลวงปู่เผือกได้รับพระราชทานเรือกันยาหลังคาแดงมีฝีพายเต็มอัตราเป็นเรือประจำตำแหน่งสำหรับออกตรวจคณะสงฆ์ในเขตปกครอง หลวงปู่เผือกละสังขารในสมัยรัชการที่ 4 พ.ศ.2405 สิริอายุรวม 106 ปีครับ

    อะระหัง สุคะโต ภะคะวา
    หลวงพ่อสมภพท่านบอกว่าให้ภาวนาอย่าขาดครับสามารถคุ้มครองและเป็นสิริมงคลกับตัวครับ

    บทความโดย ศิษย์กวง

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  11. คนอาสา

    คนอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,025
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คนเจริญชอบที่จะปีนขึ้นไปหาสิ่งที่อยู่สูงกว่าเพื่อเทียบเท่า ไม่ใช่ดึงสิ่งที่สูงกว่าลงมาเพื่อให้เท่ากับตัวเอง

    หนึ่งก้าวที่ยาวไกล...อาจไหวหวั่นและล้มลง...หนึ่งก้าวที่มั่นคง...แม้จะสั้นแต่มั่นใจ...

    คนที่รู้จักจุดหมายปลายทางของตนเอง...คือคนที่เดินทางไปได้ไกลที่สุด...

    ความดีเป็นการลงทุนเพียงอย่างเดียว...ที่ไม่เคยทำให้ใครล้มละลาย...

    แรงของปลา...อยู่ที่หาง...กำลังของคนอยู่ที่ใจ...

    ลิ้นยาวเพียงสองนิ้วเท่านั้น...ทำให้ขงเบ้งยกเมืองให้เล่าปี่ได้...

    ความสำเร็จของคน...ไม่ได้เกิดจากสวรรค์...ไม่ได้เกิดจากโชคชะตา...แต่เกิดจากการฝึกฝน...อย่างจริงจัง...และสม่ำเสมอ...

    ถ้าไม่พบกับความทุกข์ยาก...ก็ไม่ได้สิ่งไดมา...

    เวลาเจอคนเลว...ให้บอกตัวเองว่า...นี่คือตัวอย่างของชีวิต...ที่ไม่พึงประสงค์...

    ถ้าตั้งใจว่าทำได้...แม้หินหนักก็ยังยกไหว...

    จงประหยัด...คำติ...แต่อย่าตระหนี่...คำชม...

    สิ่งที่มีค่ามาก...ย่อมมีอุปสรรคเยอะ...

    เจอคนเก่ง...จงเรียนรู้จากเขา...เจอคนงี่เง่า...ให้เอามาสอนตัวเอง...

    น้ำ...ทำให้เรือลอยได้...น้ำก็ทำให้เรือจมได้...

    ที่มา คำคม.net


    "ยังไม่รวย อยู่อย่างคนรวย ไม่มีวันรวย.. ยังไม่จน อยู่อย่างคนจน ไม่มีวันจน"

    .
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สูตรน้ำผลไม้ ที่ในวังกำลังนิยมกันมาก
    เป็นสูตรน้ำผลไม้ที่ได้จากข้าหลวงประจำพระองค์ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์

    เป็นสูตรที่ในวังกำลังนิยมกันมาก....นายหลวงทรงเสวยทุกวัน
    ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีผิวพรรณสดใส
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นโรคมะเร็งจะดีมาก

    มีคนแถวบ้านเป็นมะเร็ง อายุประมาณ 80 กว่าแล้วค่ะต้องให้คีโม
    แต่ปรากฏว่าพอรับประทานน้ำผลไม้สูตรนี้ไปเป็นเวลาประมาณไม่ถึง1 เดือน
    ปรากฏว่ามีผมงอกขึ้น และ แข็งแรงขึ้นมาก
    จนหมอตกใจ

    ลองนำไปปั่นทานกันดูน่าจะดีต่อสุขภาพไม่มากก็น้อย
    ส่วนประกอบก็ราคาไม่แพงมากด้วย
    สูตรน้ำผักผลไม้
    1. แอปเปิ้ล 1 ผล
    2. แครอท 1 ลูก
    3. ผักสลัด(ผักกาดแก้ว) 3 ใบ
    4. ตั้งโอ๋ 2 ก้าน
    5. มะนาว 1 ลูก
    6. น้ำเสาวรส 1/2 แก้ว
    ( ถ้าไม่มีสดให้ซื้อน้ำเสาวรสกระป๋องก็ได้ค่ะ)
    7. น้ำผึ้งแท้ 1/2 แก้ว
    8. น้ำเปล่า 1-2 แก้ว แล้วแต่ความชอบ
    9. ฝรั่ง 1 ผล
    10. มะเขือเทศสีดา ( ลูกเล็กๆ) 5 ลูก
    11. น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
    นำทุกอย่างมาปั่นรวมกัน

    สูตรนี้จะทำได้ประมาณ 1 ลิตร
    ในกรณีที่เป็นคนป่วย ให้รับประทานวันละ 1 ลิตร
    แต่ถ้าดื่มเพื่อสุขภาพเฉยๆ
    สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 2-3 วัน

    -http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=756cb0193c1d4ad6-


    ---------------------------------------------------

    อ่า ผลการตรวจร่างกายประจำปี 2555 มาแล้ว

    ปกติเกือบทุกอย่าง ยกเว้น ไขมัน

    ไขมัน แอล ดี แอล 153 (อัตราปกติ 0 - 130 mg/dl)

    ไขมันไตรกลีเซอร์ไรต์ 282 (อัตราปกติ 50 - 190 mg/dl)

    โดน ผบทบ.ด่า เป็นไง ไปกินข้างนอกบ้านเยอะ ก็เลยโดนมาตรการควบคุม

    วันแรกประเดิมน้ำผักแล้วครับ

    [​IMG]



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2012
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กรมศิลป์ขุดพระราชวังหน้า พบกำแพง-โบราณวัตถุอายุ 230 ปี
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 ธันวาคม 2555 18:15 น.

    [​IMG]

    ‘กรมศิลป์’ ขุดพระราชวังหน้าครั้งแรก ตลึงพบแนวกำแพงโบราณ-โบราณวัตถุอายุกว่า 230 ปีต้นรัตนโกสินทร์ เร่งเก็บข้อมูลเปรียบเทียบหลักฐานเดิม

    นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร โรงละครแห่งชาติ โรงละครหอศิลป์วังหน้า และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) ซึ่งเป็นโครงการอนุรักษ์ พัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่พระราชวังบวรสถานมงคล ให้เหมาะสมกับความสำคัญการเป็นวังหน้าในอดีต จึงต้องรวบรวมและเก็บกู้หลักฐานทางโบราณคดี ข้อมูลทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม รวมถึงความเปลี่ยนแปลงในการใช้พื้นที่บริเวณวังหน้า ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันใหม่อีกครั้ง เนื่องจากพื้นที่วังหน้า คือพระราชวังที่ประทับของพระมหาอุปราช เรียกทางการว่า พระราชวังบวรสถานมงคล ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง


    ทั้งนี้ จากการขุดค้นในระยะที่ 1 พื้นที่ด้านทิศใต้หมู่พระวิมาน ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร จำนวน 2 หลุม ขนาดพื้นที่ 330 ตารางเมตร พบแนวอิฐส่วนฐานรากอาคารก่ออิฐถือปูน ตั้งอยู่ด้านหน้าพระที่นั่งทักษิณาภิมุข ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นอาคารยุคแรกๆ ของวังหน้า และพบเป็นแนวกำแพงล้อมพระที่นั่งอิศราวินิจฉัยด้านทิศใต้ รวมถึงพบร่องรอบธรณีประตูจากแผ่นหินดาดปูด้านข้างด้วย ที่สำคัญยังพบโบราณวัตถุในดินจำนวนหนึ่งเป็นวัตถุประเภทเศษภาชนะ เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องประกอบสถาปัตยกรรมและเครื่องอาวุธปืน เครื่องประกอบเครื่องแต่งกายทหาร ทั้งนี้ได้ตรวจสอบข้อมูลของโบราณวัตถุจำนวนดังกล่าวคาดว่าน่าจะอยู่ในรัชสมัยรัชกาลที่ 1-5 มีอายุตั้งแต่ 150-230 ปี เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวเคยเป๋นพระราชวังมาก่อน แต่ละรัชสมัยได้มีการรื้อถอนและปรับโครงสร้างของพระราชวังจึงทำให้โบราณวัตถุถูกฝังไว้ในดิน อย่างไรก็ตาม การขุดค้นทางโบราณคดีในพื้นที่ดังกล่าวถือว่าเป็นครั้งแรก เพราะที่ผ่านมามีการขุดค้นเฉพาะพื้นที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และสนามหลวงเท่านั้น

    นายสหวัฒน์กล่าวว่า หลังจากขุดแล้วจะต้องนำหลักฐานและข้อมูลที่ได้จากการขุดค้นทั้งหมดกลับไปวิเคราะห์และเปรียบเทียบกับข้อมูลทางประวัติศาสตร์ว่าเป็นโบราณสถานในรัชสมัยใดของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่สำคัญต้องศึกษารายละเอียดว่าเป็นไปตามบันทึกเอกสารประวัติศาสตร์ของแต่ยุคแต่ละสมัยว่าตรงกันหรือไม่ หากเห็นตรงกับหลักฐานที่จารึกไว้ก็จะมีการบันทึกจัดทำเป็นรายละเอียดความเป็นมาให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แต่ถ้าไม่ตรงก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเพื่อนำไปบันทึกให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ในระยะที่ 2 ยังต้องดำเนินการต่อไปโดยจะดำเนินการขุดค้นในบริเวณด้านหน้าโรงราชรถ โรงละครแห่งชาติ โรงละครหอศิลป์วังหน้า และ สบศ.ต่อด้วย

    [​IMG]

    -http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000151465-
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. คนอาสา

    คนอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,025
  17. neo6108

    neo6108 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    พระหลวงปู่เทพโลกอุดรกรุวังหน้าครับ,PLEASE HELP VERIFY....
     
  18. neo6108

    neo6108 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2012
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ไม่ต้องตรวจสอบครับ

    ที่สำคัญ ไม่ต้องลงรูปโฆษณาพระตัวเองว่าแท้ครับ

    เรื่องแท้ ไม่แท้ เรื่องใช่ ไม่ใช่ ต้อง..........................

    ต้องกลับไปอ่านเรื่องราวต่างๆในกระทู้พระวังหน้าฯ ตั้งแต่ต้น ก็จะเริ่มพอเข้าใจได้

    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อุ๊ปส์ บางครั้งดูว่าแท้ แต่กลายเป็นเก๊

    เจอมาเยอะ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...