{[พระสายหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง}]แบ่งให้ผู้มีศรัทธาได้บูชาครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย dekpra, 18 ตุลาคม 2010.

  1. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    ได้ครับผม รับทราบครับ:VO
     
  2. dekpra

    dekpra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,470
    ค่าพลัง:
    +2,484
  3. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11mar11.jpg
      11mar11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      634.6 KB
      เปิดดู:
      560
  4. dekpra

    dekpra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,470
    ค่าพลัง:
    +2,484
    กติกาการจองพระ ท่านต้องโอนเงินให้ก่อนนะขอรับ แล้วทางเราจะนำเงินของท่านไปจองพระยอดธงที่วัดท่าซุงให้ เจ้าหน้ารับจองพระ ท่านไม่รับจองปากเปล่านะขอรับ โปรดทราบ อีก ๒ ถึง ๓ จะตัดบัญชีท่านที่โอนแล้วไปทำการจองให้ก่อนนะขอรับ
    ขอแสดงความนับถือ
    เด็กพระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 มีนาคม 2011
  5. dekpra

    dekpra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,470
    ค่าพลัง:
    +2,484
    ขอบคุณมาก ครับเสี่ยจารุที่เข้ามาเยี่ยม

    <TABLE class=tborder id=post4467964 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->จารุ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4467964", true); </SCRIPT>
    สมาชิก PREMIUM

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2006
    ข้อความ: 12,455
    พลังการให้คะแนน: 4619 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_4467964 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->พี่มหาหิน วันที่ 20 มีนาคม นิมนต์ที่วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ด้วยนะครับ:cool:<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เพื่อการกุศล พระสมเด็จองค์ปฐมกอบกู้ธรณีสงฆ์วัดศาลฯ ทำบุญได้ลุ้นรับพระทองคำ<!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    [​IMG]
     
  7. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    [​IMG]
     
  8. FoFo

    FoFo สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอเพิ่มและเปลี่ยนรายการร่วมทําบุญครับ
    1) พระยอดธงเนื้อเงิน ทำบุญองค์ละ ๖๐๐ บาท องค์
    2) พระยอดธงเนื้อนวโลหะ(พิงค์โกลด์) ทำบุญองค์ละ ๔๐๐ บาท องค์
    4) พระยอดธงชุบทอง ทำบุญองค์ละ ๓๐๐ บาท องค์
    5) พระยอดธงเนื้อสัมฤทธิ์ใน ทำบุญองค์ละ ๓๐๐ บาท องค์

    โอนเงินแล้วครับ 12/03/54
    เวลา 09.23 น. 7,850 บาท ครับ
    กราบอนุโมทนาบุญ อย่างสูงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2011
  9. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 12mar11.jpg
      12mar11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      633.7 KB
      เปิดดู:
      482
  10. bowbom

    bowbom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +139
    สวัสดีค่ะ คูณอาวินัย
    ที่กรุณารับไปจองพระยอดธงให้ เพื่อให้คนได้สร้างกุศลสร้างพระนอนสร้างรอยพระพุทธบาทเเละอื่นๆ ส่วนดิฉันก็จองที่บ้านสายลมค่ะเพราะพ่อบอกให้เอาใบจองแปะไว้ที่หัวนอนเมื่อไหว้พระเสร็จก้ดูใบจองคิดถึงบุญที่ทำทุกวันตื่นก็เห็นนอนก็เห็นค่ะ มีอีกอย่างค่ะที่น่าสนใจพระยอดธงเนื้อสัมฤทธิ์นอกนั้นเป็นเนื้อเดียวกันกับที่ใช้หล่อรอยพระพุทธบาท โรงงานหล่อพระเนื้อสัมฤทธิ์นอกนี้เเยกจากชุดทอง เงิน นวะ เเละชุบทอง เป็นโรงงานหล่อรูปบุคคลสำคัญที่สร้างเป็นอนุเสาวรีย์ เนื้อสัมฤทธิ์นอกนี้ทนเเดดทนฝนอยู่ได้เป็น1,000ปี งานหล่อฝีมือสูง รับหล่อเฉพาะชุดเนื้อสัมฤทธิ์นอกอย่างเดียว
    ใครอยู่กรุงเทพก็เชิญที่บ้านสายลมน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02990.JPG
      DSC02990.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      43
    • DSC02991.JPG
      DSC02991.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      40
  11. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    [​IMG]
     
  12. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    จดหมายเหตุ"พระพุทธบาทสี่รอย"
    <table border="0" cellpadding="5" cellspacing="0" width="98%"> <tbody><tr> <td class="text2" height="30" valign="middle" width="65%">
    </td> <td class="text2" align="right" valign="middle">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> นับตั้งแต่มีธาตุ มีธรรมบังเกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นในกาลอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตอันมิอาจจะกำหนดขอบเขตที่สิ้นสุดได้ก็ตามที ยอดแห่งเอกอัครมหาบุรุษเพียงหนึ่งเดียว ผู้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรมและคุณสมบัติอันเลอเลิศประเสริฐอย่างถึงที่สุดด้วย ลักษณาการทั้งปวง ชนิดที่บรรลุถึงขีดขั้นหาที่ติมิได้ หาที่เปรียบมิได้ และหาที่เสมอสองมิได้เท่าที่ประวัติศาสตร์แห่งมวลหมู่มนุษยชาติจะพึงได้พบ ได้เห็นหรือได้รู้จัก แม้เพียงยลยินเพียงด้วยชื่ออย่างแท้จริงนั้น ย่อมไม่อาจจะที่จะเป็นใดอื่นไปได้อีกแล้ว นอกจากพระบรมศาสดาแห่งบวรพระพุทธศาสนา ผู้มีพระนามอันบังเกิดแต่พระคุณแห่งพระองค์เองทั้งสิ้นว่า “สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า” เป็นแน่นอน....
    องค์สมเด็จพระบรม ศาสดา ผู้ทรงพระสวัสดิโสภาคย์ทั้งหลายนั้น ทรงเป็นจอมอรหันต์ผู้อนุตรบุคคล คือทรงเป็นบุคคลเอก เป็นหนึ่งไม่มีสอง หาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ เพราะทรงกอรปไปด้วยคุณาธิคุณอันยอดยิ่งกว่าผู้ทรงคุณอื่นๆทั่วไป ด้วยต้องทรงสร้างสมอบรมอธิการบารมีทั้ง 30 ทัศมาอย่างเหลือล้น จนสุดที่จะนับจะประมาณได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องยาวนานถึง 20 อสงไขย 100,000 มหากัป สำหรับ “พระปัญญาธิกะพุทธเจ้า”(พระพุทธเจ้าผู้ยิ่งด้วยปัญญา) ส่วน “พระสัทธาธิกะพุทธเจ้า”(พระพุทธเจ้าผู้ยิ่งด้วยศรัทธา) หรือ “พระวิริยาธิกะพุทธเจ้า” (พระพุทธเจ้าผู้ยิ่งด้วยวิริยะความพากเพียร) ก็ยิ่งต้องใช้เวลาสร้างพระบารมีเป็นทบเท่าทวีคูณ ถึง 40 และ 80 อสงไขย กำไร 100,000 มหากัปตามลำดับ จึงจักสามารถตรัสรู้พระปรมาภิเษก สำเร็จยังพระสร้อยศรีสรรเพชญ์พุทธรัตนอนาวรญาณเป็นองค์สมเด็จพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า ผู้เป็นครูของทั้งมนุษย์และเทวดาทั้งปวงอย่างสมบูรณ์แบบและสมภาคภูมิอย่าง แท้จริงได้ เพราะด้วยเหตุที่การอุบัติบังเกิดขึ้นของที่สุดแห่งอัจฉริยบุคคลอันดับหนึ่ง เฉกเช่นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายนั้น ย่อมจะเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง ด้วยเหตุแห่งเงื่อนไข,จิตใจ,ข้อจำกัดและระยะแห่งกาลที่ยาวนานจนเหลือที่จะ นับได้ดังกล่าว จึงมีสรรพชีวิตเพียงไม่กี่ดวงเท่านั้นที่จักสามารถอดทน อดกลั้น ฟันฝ่าต่ออุปสรรค ความยากลำบาก และมหันตทุกข์ในสังสารวัฏต่างๆ สร้างสมไตรทศบารมีทั้ง 30 ประการจนตลอดรอดฝั่ง ถึงขั้นสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้ ดังปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ว่า ในตลอดระยะเวลา 4 อสงไขย 100,000 มหากัป ที่ผ่านพ้นมา ได้มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ในโลกเพียง “28” พระองค์เท่านั้น โดยบางกัป ก็มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้เพียงพระองค์เดียว บางกัปก็มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้เพียง 2 หรือ 3 หรือ 4 พระองค์ และบางพุทธันดร(ช่วงเวลาจากพุทธสมัยของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งถึงพระ พุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง)บางคราว ก็ยืดยาวนานถึง 70,000 กัป ถึง อสงไขยกัปก็มี ซึ่งการดังกล่าวย่อมเป็นการยืนยันถึงพระพุทธพจน์หนึ่งให้เป็นที่แจ้งใจทั่ว ไปเป็นอย่างดีที่สุดว่า “กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท” หรือ “การบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย หาได้ยากยิ่ง” โดยแท้ฯ และด้วยเหตุที่การอุบัติบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย หาได้ยากยิ่งเยี่ยงนี้นี่เอง ตลอดระยะเวลา 4 อสงไขย 100,000 มหากัปที่ผ่านมา ตลอดไปจนถึงพระพุทธเจ้าอีก 10 พระองค์ ที่จะมาตรัสรู้ในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า ตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ในคัมภีร์ “อนาคตวงศ์”ก็ตาม สรรพชีวิตและโลกทั้งสิ้นก็ยังไม่เคยที่จะมีบุญวาสนาสูงสุดที่จะได้ประสพพบ กับช่วงเวลาอันประเสริฐสุด ที่เรียกว่า “มหาภัทรกัป” คือกัปอันเจริญ ที่ประดับด้วยการอุบัติบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้ามากถึง 5 พระองค์ในกัปๆเดียวอย่างที่เราท่านทั้งหลายกำลังดำรงอยู่ในขณะปัจจุบัน ณ.บัดเดี๋ยวนี้เลยจริงๆ

    เอโก พุทฺโธ สารกปฺเป
    มณฺฑกปฺเป ชินา ทุเว

    วรกปฺเป ตโย พุทฺธา
    สารมณฺเฑ จตุโร พุทฺธา

    ปญฺจ พุทฺธา ภทฺทกปฺเป
    ตโต นตฺถาธิกา ชินา
    ในสารกัป มีพระพุทธเจ้า 1 พระองค์
    ในมัณฑกัป มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์

    ในวรกัป มีพระพุทธเจ้า 3 พระองค์

    ในสารมัณฑกัป มีพระพุทธเจ้า 4 พระองค์

    ในภัทรกัป มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์

    พระพุทธเจ้ามากกว่านี้ ไม่มี

    ก็หลักฐานหรือพยานทางวัตถุเพียงหนึ่งเดียว ที่เป็นเครื่องแสดงและยืนยันถึงการเสด็จขึ้นมาแล้วแห่งพระพุทธเจ้าถึง 4-5 พระองค์ ของช่วงเวลาแห่ง “มหาภัทรกัป”ที่ชัดเจนและชัดแจ้งที่สุดเท่าที่โลกทั้งสิ้นอาจสามารถพึงพบพึง เห็นและเข้าพิสูจน์ได้ด้วยตาด้วยใจแห่งตนอย่างสิ้นสงสัยสิ้นเชิงนั้น โดยแท้แล้วก็คือ “พระพุทธบาทสี่รอย อันเป็นรอยพระพุทธบาทแห่งองค์สมเด็จพระโลกนาถ สัมมาสัมพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์ ซึ่งปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่นี่เอง....
    สำหรับพระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้ นับเป็นมหาปูชนียสถานพิเศษที่ทรงไว้ซึ่งความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งยวด ด้วยเป็น “บริโภคเจดีย์”ที่เนื่องโดยตรงในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้เสด็จอุบัติขึ้นมาแล้วถึง 4 พระองค์คือ

    1. พระกกุสันธพุทธเจ้า

    2. พระโกนาคมนพุทธเจ้า

    3. พระกัสสปพุทธเจ้า

    4. พระโคตมพุทธเจ้า(พระองค์ปัจจุบัน)


    โดย รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์นี้ ได้ปรากฏเป็นรอยลึกลดหลั่นลงไปในแท่งหินใหญ่บนยอดเขาสูงในเขตป่าดงดิบอันลึก ล้ำมาแต่บูรพกาล แม้พระไตรปิฎก ก็ยังได้จดจารึกบันทึกพระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้ไว้ในฐานะ 1 ใน 5 รอยพระพุทธบาทที่สำคัญที่สุดมาเนิ่นนานกว่า 20 ศตวรรษ ในนามรอยพระพุทธบาทแห่ง “โยนกปุระ
    หมายเหตุ , รอยพระพุทธบาท 5 แห่งที่ปรากฏในพระไตรปิฎก ประกอบด้วย

    1. สุวัณณมาลิก (ลังกา)

    2. เขาสัจจพันธ์คีรี (สระบุรี ประเทศไทย)

    3. เขาสุมนกูฏ (ลังกา)

    4. แม่น้ำนัมมทานที (อินเดียหรือพม่า)

    5. โยนกปุระ (ดินแดนทางภาคเหนือของไทย)ที่เคยเป็นอาณาจักรล้านนา ที่นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดีทั่วโลกต่าง

    สืบ เสาะแสวงหากันมาเนิ่นนานก็ได้ปรากฏหลักฐานทั้งทางฝ่ายวัตถุและบุคคล ดังเช่น คำบอกเล่าของพระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี ก็ได้เคยเล่าให้ผู้เขียน(เนาว์ นรญาณ) ฟังโดยตรงเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2538-2539 ว่า
    พระพุทธบาทสี่รอยนี้ เราเคยได้ธุดงค์ไปกราบมาแล้ว...

    สมัยก่อน ตอนที่เรายังธุดงค์อยู่ในเขตภาคเหนือนั้นเราเคยได้ยินเขาเล่าลือกันว่า มีรอยพระพุทธบาทอยู่ที่โยนกนคร(ปุระ)เราก็ธุดงค์ไปหาอยู่ สมัยที่เราไปนั้น เป็นราวพ.ศ. 2490 ถนนหนทางยังไม่มีเราต้องธุดงค์ข้ามเขาไปหลายลูก จึงไปถึง พบเป็น 4 รอยพระบาท...
    และที่สำคัญที่สุด ก็คือการที่หลวงพ่ออุตตมะได้กล่าวย้ำอย่างหนักแน่นว่า
    พระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้เป็นรอยพระพุทธบาทที่พระพุทธเจ้าทรงเหยียบไว้เองจริงๆนะ..!!!!!
    และ
    พระพุทธบาทสี่รอยนี้ ทางเมืองนอก(พม่า)เขาก็รู้ และเสาะหาอยู่เหมือนกันคิดกันไปว่าน่าจะอยู่ในเขตพม่า แต่จริงๆแล้ว ก็มาอยู่ที่เมืองไทยเรานี่แหละ....
    นอก จากนี้ หลักฐานในทางวัตถุที่ยืนยันว่า รอยพระพุทธบาทแห่ง “โยนกปุระ” แท้จริงแล้วก็คือ “พระพุทธบาทสี่รอย” ก็คือ แผ่นศิลาจารึก ที่ติดอยู่บนพื้นผนังกำแพงมุขหลังพระวิหาร พระนาคปรก วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กทม. อันสถาปนามาแต่รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยในศิลาจารึกนั้น ได้บรรยายถึงรอยพระพุทธบาททั้ง 5 แห่ง โดยเฉพาะรอยพระพุทธบาทที่โยนกปุระนั้น ในศิลาจารึกแผ่นนี้ ได้ขยายความระบุถึงที่ประดิษฐานไว้อย่างชัดเจนยิ่งว่า
    รอยพระพุทธบาท อันพระพุทธเจ้าทรงประดิษฐานไว้บนยอดเขา “รังรุ้ง” แดนโยนกประเทศ คือเมืองเชียงใหม่
    ยิ่ง ไปกว่านี้ หลักฐานในทางวัตถุที่สำคัญอย่างยิ่งยวดอีกประการก็คือ “คำให้การของขุนหลวงหาวัด” อันว่าด้วยเรื่องราวต่างๆของกรุงศรีอยุธยา ที่พระเจ้ามังระ กษัตริย์พม่าให้อาลักษณ์บันทึกรับสั่งของเจ้าฟ้าอุทมพร(ขุนหลวงหาวัด) ภายหลังจากที่กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 เมื่อปีพ.ศ. 2310 ไว้อย่างละเอียด โดยตอนหนึ่งได้กล่าวถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จพระราชดำเนินปทรง นมัสการพระพุทธบาทสี่รอย (สมัยโบราณเรียก “พระพุทธบาทรังรุ้ง) ไว้อย่างชัดเจนว่า
    “....สมัยสมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปรบที่เมืองหางพระองค์ทรงทราบว่า มีรอยพระพุทธบาทอยู่บนยอดเขา เรียก เขารังรุ้งจึงได้เสด็จขึ้นไปนมัสการ ทรงเปลื้องเครื่องทรง ทั้งสังวาลและภูษาแล้วทรงถวายไว้ในรอยพระบาท และทำสักการบูชาด้วยธง ธูปเทียน ข้าวตอกดอกไม้มีเครื่องทั้งปวงเป็นอันมาก แล้วจึงทำการพิธีสมโภชอยู่เจ็ดราตรี
    ด้วยเหตุดังพรรณนามานี้เอง “พระพุทธบาทสี่รอย ที่มีหลายชื่อหลายนาม ไม่ว่าจะเป็น “พระพุทธบาทรังรุ้ง หรือ “พระพุทธบาทแห่งโยนกปุระ จึงเป็นรอยพระพุทธบาทรอยแรกที่คนไทยได้เคยค้นพบและกราบนมัสการ สมดังที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทยได้ทรงรับรองไว้ครั้งหนึ่งว่า

    “พระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้ เป็นรอยพระพุทธบาทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย"
    ด้วยเหตุนี้ แม้พระเดชพระคุณพระญาณสิทธาจารย์ หรือหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร พระอริยเจ้าผู้ทรงคุณธรรมและญาณสมาบัติชั้นสูงสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระ แห่งสำนักถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก็เคยธุดงค์ไปกราบพระพุทธบาทสี่รอย และนำมาเทศนาบอกเล่ารับรอง ภายหลังจากตรวจการทั้งปวงด้วยญาณวิถีแห่งพระอรหันตเจ้าที่ไม่มีกิเลสาสวะใด มากีดกันปิดกั้นได้แก่บรรดาศิษยานุศิษย์เป็นหลายครั้ง จนพระพุทธบาทสี่รอยแห่งนี้ เป็นที่รู้จักมักคุ้นและแพร่หลายกันโดยทั่วไปในเวลาต่อมาว่า


    “ใน เขตเชียงใหม่นี้ ยังมีพระบาทสี่รอย อยู่ในเขตอำเภอแม่ริม แต่ว่าลึกเข้าไปในภูเขาหลวงปู่ผู้เทศน์ไปดูมาแล้ว ไปกราบไปไหว้ มันเป็นก้อนหินก้อนใหญ่ เป็นก้อนสี่เหลี่ยมขึ้นไปอยู่ข้างริมแม่น้ำ.....พระพุทธเจ้ากกุสันโธ ได้มาตรัสรู้ในโลก ท่านก็มาเหยียบรอยพระพุทธบาทไว้ในยอดก้อนหินนั้น ยาวขนาด 12 ศอก...ขนาดนั้น.... พระพุทธเจ้ากกุสันโธก็โปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลาย นำพระสาวก อุบาสก อุบาสิกาไปสู่นิพพาน

    เมื่อ หมดศาสนาพระพุทธเจ้ากกุสันโธแล้ว ศาสนาพระพุทธเจ้าโกนาคมโน ก็มาตรัสมาสอนรื้อขนสัตว์ไปอีก ก่อนนิพพาน ท่านก็มาเหยียบไว้ที่พระบาทแม่ริมนี้ เป็นรอยที่สอง (ขนาด) ลดลงมา คือคนสมัยนั้นก็เรียกว่า มันกำลังทดลง ไม่ได้ใหญ่ขึ้น(ตัวเล็กลง)
    เมื่อ พระพุทธเจ้าโกนาคมโนนิพพานไปพร้อมด้วยสาวกแล้วศาสนธรรมคำสอนท่านหมดไป ก็ มาถึงพระสั มมาสัมพุทธเจ้ากัสสโปมาตรัสรู้ ท่านก็มาเหยียบไว้ ได้สามรอยละ....
    เมื่อศาสนาพระพุทธเจ้ากัสสโปหมด ไปแล้ว มาถึงศาสนาพระพุทธเจ้าของเราในปัจจุบันนี้ ให้ชื่อว่าพระพุทธเจ้าโคตมโคตร พระพุทธเจ้าโคดมมาตรัสรู้ ก่อนที่ท่านจะนิพพาน ก็มาเหยียบรอยพระบาทไว้ในก้อนหินก้อนเดียวกัน จึงให้ชื่อว่า “พระพุทธบาทสี่รอย”.......
    คือในโลกนี้แผ่นดินนี้ ยังเหลืออยู่อีพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ที่เราทุกคนได้ยินได้ฟังกันมาจนชินหูแล้วก็มี ว่ายังมี
    พระศรีอาริยเมตไตรโยโพธิสัตว์ จะมาตรัสรู้เป็นองค์สุดท้ายเมื่อตรัสรู้แล้ว โปรดเวไนยสัตว์แล้ว ก็มาเหยียบไว้อีกเหยียบทีนี้น่ะดูเหมือนจะใหญ่ คือว่าเหยียบเต็มเลย ก็คล้ายๆกันกับว่า เหยียบปิดเลยละลายหินก้อนนั้นเพราะว่าเมื่อหมดศาสนาพระศรีอาริย์แล้ว.....ก็ไม่มีศาสดาใดที่จะมาตรัสรู้อีกเรียกว่า แผ่นดินที่เราเกิดนี้ นับว่าเป็นแผ่นดินที่ร่ำรวยที่สุด ....แผ่นดินนี้เรียกว่า ภัทรกัปมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ได้ห้าพระองค์....

    หรือ แม้แต่ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม พระอริยเจ้าผู้ทรงฤทธิ์อย่างยวดยิ่งแห่งวัดป่าอรัญญวิเวก จ.นครพนม เมื่อครั้งยังเที่ยวธุดงค์อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้กล่าวรับรองไว้ด้วยเช่นกันว่า
    พระพุทธบาทสี่รอยนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งมหาภัทรกัป ที่มีความสำคัญที่สุดในจักรวาล...

    ด้วย เหตุดังกล่าวมาทั้งหมดนี้เอง จึงเป็นที่สมมุตยุติสรุปการทั้งปวงได้อย่างสิ้นสงสัยอย่างสิ้นเชิงแล้วว่า อัน “พระพุทธบาทแห่งโยนกปุระ” หรือ “พระพุทธบาทรังรุ้ง” และหรือ “พระพุทธบาทสี่รอย” ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ ที่วัดพระพุทธบาทสี่รอย ต.สะลวง อ. แม่ริม จ.เชียงใหม่ดังที่พรรณนามานี้ เป็นรอยพระพุทธบาทที่แท้จริง และมีความสำคัญอย่างที่สุด อย่างที่ไม่เคยปรากฏมีมาก่อนตลอดระยะเวลา 4 อสงไขย 100,000 มหากัปถึงเพียงไหน..???
    เพราะที่สุด พระคุณเจ้า หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ พระผู้ที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระบุพพาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานแห่งยุคก็ยังได้เคยพยากรณ์ไว้ เมื่อครั้งที่หลวงปู่สิมยังเป็นสามเณรอยู่ว่า “เณรสิมนี้ ยังเป็นดอกบัวที่ยังตูมอยู่ ถ้าเบ่งบานเมื่อได้ จะหอมกว่าหมู่ เมื่อได้เล็งญาณพิจารณาการทั้งสิ้นแล้ว จึงได้กล่าวสรุปปิดท้ายไว้ก่อนละสังขารไม่นานว่า
    พระบาทสี่รอยนี้เป็นที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาเหยียบรอยพระบาทไว้เองจริงๆ....
    รอยพระบาทที่จังหวัดสระบุรีเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโคดมเพียงพระองค์เดียว แต่ที่พระบาทสี่รอยนั้นเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าถึง 4 พระองค์ ไหว้พระบาทสี่รอยครั้งหนึ่งก็เท่ากับได้ไหว้พระพุทธเจ้ารวดเดียวถึง 4 พระองค์นั่นแหละ....

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> [​IMG]
     
  13. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    นังสือ"พุทธาจาโรวาท 2" หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร ตีพิมพ์เมื่อปีพ.ศ. 2530 ซึ่งได้ลงเรื่องเรื่อง"พระพุทธบาทสี่รอย" จากพระธรรมเทศนาของหลวงปู่สิมอกเผยแพร่สู่สาธารณชนเป็นครั้งแรก
    [FONT=courier new,courier]
    [/FONT]
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table align="center" bgcolor="#f4f4f4" border="0" cellpadding="5" cellspacing="1" width="250"> <tbody><tr> <td align="center" bgcolor="#FFFFFF">[​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
  14. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    เพียงตัวหนังสือไม่กี่บรรทัด แต่เพราะเหตุที่เป็นคำพูดรับรองของ"หลวงปู่สิม" พระอริยเจ้าซึ่งมีบารมีเบื้องลึกอันยิ่ง จึงได้จุด"ไฟแห่งศรัทธา"และ"ความเชื่อมั่น"ใน"พระพุทธบาทสี่รอย"แก่มวลหมู่มหาชนจำนวนมากอย่างสิ้นสงสัย อันส่งผลให้มีการเผยแพร่และพัฒนาวัดพระพุทธบาทสี่รอยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในกาลต่อมา <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    [​IMG]
     
  15. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    อาจที่กล่าวได้ว่า การที่"พระพุทธบาทสี่รอย"เป็นที่รู้จักและยอมรับนับถืออย่างกว้างขวางทั่วไปในทุกระดับชั้นอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ นอกจากจะเป็นเรื่องของ"พุทธบารมี"ของพระพุทธบาทสี่รอยจนถึงเวลา"เปิด"ตามที่มีพุทธพยากรณ์ไว้เป็นปฐมแล้ว ก็ยังได้"อริยบารมี"ของหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโรรองรับและการันตีถึงความ"จริงแท้"ไว้อย่างเต็มๆทั้งสิ้น
    เคยมี
    "ผู้ใหญ่" ระดับคณบดี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแนวหน้าของประเทศ(ขอสงวน นาม)ซึ่งคุ้นเคยกันมาแต่ก่อน เคยถามเป็นเชิงไม่เชื่อกับ"พุทธวงศ์" ในสมัยแรกๆที่คิดอ่านช่วยพระพุทธบาทสี่รอยเมื่อราวพ.ศ. 2530-32 อย่างตรงไปตรงมาว่า
    "รู้ได้อย่างไร ว่าพระพุทธบาทสี่รอยนี่เป็นของจริง..???"
    เมื่อได้ฟัง "พุทธวงศ์"ก็เรียนกลับไปอย่างนิ่งๆเรียบๆแต่แน่นอนว่า
    "อ๋อ..หลวง ปู่สิมท่านรับรองกับผมไว้เองว่า พระบาทสี่รอยเป็นของที่พระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์มาประทับรอยพระบาทไว้ด้วยพระองค์เองครับ..!!!!!"
    เพียงเท่านี้ "อาจารย์"ท่านนั้น ก็ได้แต่นิ่งอึ้ง และยอมรับเรื่อง"จริงตามความเป็นจริง"นี้โดยดุษณีภาพ ไม่อาจมีปากมีเสียงใดๆมาโต้แย้งในเรื่องความ"แท้"ของ"พระพุทธบาทสี่รอย"ได้อีกเลยตลอดกาล.......... <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    [​IMG]
     
  16. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    ก็ใครเลยจักปลงใจเชื่อได้ง่ายๆว่า ในยุคนี้ สมัยนี้ ยังจะมีพุทธสถานใด ที่"อดีตพุทธะ"ถึง 4 พระองค์ รวมถึงพระศรีอาริยเมตไตรยจักได้เสด็จมาประดิษฐานรอยพระพุทธบาทไว้ในที่แห่ง เดียวกัน อันสามารถพบเห็นกันอย่างจะๆต่อหน้าต่อตาเห็นปานนี้ได้...???
    แท้จริงแล้ว พุทธสถานในประเทศไทยหลายๆแห่ง ก็มีประวัติเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ด้วยเช่นกัน
    มิหนำ ยังเป็นที่รู้จักกันมาเก่าก่อนเนิ่นนานนับเป็นหลายสิบหลายร้อยปีด้วย
    แต่ความ"ยอมรับ"โดยกว้างขวางที่สุดนั้น กลับเป็นของ"พระพุทธบาทสี่รอย" เพราะอริยบารมีของ"หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร" ค้ำไว้เต็มๆมาแต่เบื้องต้นนั่นเอง
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    [​IMG]
     
  17. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    หาไม่แล้ว การณ์ก็จะเป็นเหมือนกับ"พุทธสถาน"ในตำนานบางที่ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ด้วยพระองค์เอง....
    ในชั้นแรก "พุทธวงศ์"ก็อดให้ตื่นใจศรัทธาไปด้วยมิได้
    แต่เพื่อให้เกิดความ"แน่นอน"และ"ไม่ผิดพลาด" จึงได้นำเอาเรื่องของพุทธสถานบางแห่งนั้น(ขอสงวนชื่อ)ไปกราบเรียนถามหลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี(ซึ่งการันตีความจริงแท้ของพระพุทธบาทสี่รอยอย่างเต็มที่มาแต่ต้นด้วยเช่นกัน) เพื่อขอให้ท่าน"พิจารณา"(ทั้งโดยหลักฐานและทางญาณ) ว่า"พุทธสถาน"แห่งนั้นๆเป็นของจริงตามที่มีในตำนานหรือไม่???
    เพียงชั่วอึดใจ หลวงพ่ออุตตมะ ก็ตอบกลับออกมาสั้นๆเพียงว่า
    "ไม่มีในพระบาลี..!!!!!!!!!" <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    [​IMG]
     
  18. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    เมื่อ"หลักฐาน"ไม่ปรากฏชัด และ"ครูบาอาจารย์"ท่าน"ไม่รับรอง"ดังกล่าว คราวนี้... ก็ถึงทีที่"พุทธวงศ์"ต้องรีบหุบปาก เก็บปากกาโดยด่วนเช่นกัน..!!!!
    ไม่กล้าที่จะนำมาขยายความ ทั้งๆที่"การันตี"ยังไม่"ปึ้ก"เต็มที่เป็นอันเด็ดขาด
    แบบว่า ไม่อยาก"ล่อ"หรือ"ลวง" ใครๆด้วยความอันไม่แน่ว่าจะจริงทั้งๆที่ไม่รู้ให้ตะขิดตะขวงใจสิ้นเชิง
    ไม่จำต้องกล่าวเลยเถิดไปถึงขั้น"หลอก"ให้เสียศีลเลย....
    ตรงข้ามกับ"พระพุทธบาทสี่รอย" ที่หลวงพ่ออุตตมะท่านถึงกับอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น ชนิดที่ยากจะเคยเห็นในวาระใดมาก่อน เมื่อครั้งที่"พุทธวงศ์"นำ"พระเครื่อง" ที่สร้างถวายพระพุทธบาทสี่รอยไปขอให้ท่านอธิษฐานจิตในยุคแรกๆทีเดียวว่า
    "มีพระพุทธบาทสี่รอยสร้างออกมาแล้วรึนี่..!!!???"
    ประโยคต่อมาก็คือ
    "เราเอง ก็เคยธุดงค์ไปที่พระพุทธบาทสี่รอยมาก่อนแล้ว เมื่อตอนที่เข้ามายังเมืองไทยใหม่ๆ ราวปีพ.ศ. 2490 โน่น..??!!"
    ก่อนที่หลวงพ่ออุตตมะจะสรุปปิดท้ายในเบื้องต้นทีเดียวว่า
    "พระพุทธบาทสี่รอยนี้ เป็นรอยพระบาทที่พระพุทธเจ้ามาประทับไว้เองจริงๆน๊ะ..!!!!!!!!!!!!"
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    [​IMG]
     
  19. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    "พระแก้ว พระพุทธบาทสี่รอย รุ่นแรก"ที่หลวงพ่ออุตตมะอุทานขึ้นมาด้วยความดีใจเมื่อแรกเห็น <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    [​IMG]
     
  20. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    ยิ่งไปกว่านี้ "หลวงพ่ออุตตมะ"ยังได้สั่งความแก่"พุทธวงศ์"เพิ่มเติมตามวิสัยของ"ผู้รู้จริง"อีกด้วยว่า
    "เห็น รอยพระบาทที่ไหน อย่าคิดว่าจะต้องเป็นรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าเสมอไป เพราะรอยพระบาทบางแห่งนั้น เป็นของศาสนาอื่นสร้างไว้เคารพแทนเทพเจ้าของเขา โดยบางที่ อาจเป็น"วิษณุบาท"(รอยเท้าพระวิษณุนารายณ์) มิใช่"พระพุทธบาท"ก็ได้.!!!???"
    แต่ที่สุด หลวงพ่ออุตตมะก็ยังคงย้ำเหมือนเดิมว่า
    "พระพุทธบาทสี่รอยนี่ เป็นของจริง จริงๆนะ..!!!!!!!!!!!!!!!!!" <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...