พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

พระเนื้อผงรูปเหมือนหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ / นางกวักเปลือกrาแกะหลังปีจอ

พระผงคลุกรักเก่า ออกที่วัดอินทาราม อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ราวๆปีพ.ศ.2493 คนในพื้นที่แถวพยุหะ ตาคลี หนองหลวงจะมีเก็บพระรุ่นนี้เยอะซึ่งต่างก็หวงแหนรักษาวัตถุมงคลของท่านไว้เป็นอย่างดีครับ จากหนังสือประวัติหลวงพ่อเดิมรวบรวมโดยวัดหนองบัวจะเห็นว่าพระเนื้อผงของหลวงพ่อเดิมที่ได้พิมพ์ลงเอาไว้ก็มีหลากหลายแบบ ถือว่าเป็นของดีที่ราคาจับต้องได้จริง สำหรับคนที่ศรัทธาหลวงพ่อเดิมท่าน ที่อยากมีวัตถุมงคลที่ทันท่านปลุกเสกให้

พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเดิม บูชา 2,000 บาท
นางกวักเลี่ยมเงิน บูชา 3,500 บาท

 

พ. พาน หลวงปู่เย็น ทานรโต วัดสระเปรียญ จ.ชัยนาท

พยน หรือ หุ่นพยนต์ ตัว พ. พาน ของ หลวงปู่เย็น ทานรโต วัดสระเปรียญ จ.ชัยนาท เป็น สัญาลักษณ์แทนองค์พระพุทธเจ้า
พยน หรือ หุ่นพยนต์ ตัว พ. พาน ของหลวงปู่เย็น ทานรโต เป็นสุดยอดเครื่องรางที่อัศจรรย์ พระครูเทพโลกอุดร กล่าวว่า เป็นบุญวาสนาของผู้นั้น เหมือนกับมีแก้วสารพัดนึก พ. พาน ย่อมาจากคำว่า พ่อ ในความหมายนี้คือ พ่อพระพุทธ พ่อพระธรรม พ่อพระสงฆ์ พ่อแม่ พ่อครู น้อมนำพระคุณไว้ที่ใจ นำรูปกาย พ. พาน ติดตัวไป จะได้เป็นสิ่งกันภัย ให้โชคลาภ เมตตา ค้าขายดีให้คุณตามที่ขอ พ.เป็นรูปปริศนาธรรม เป็นสิ่งมงคล เตือนใจให้ทำความดี คนเนรคุณไม่ควรมี พ. พ่อ เพราะจะไม่ได้ผลอะไร
เครื่องรางหุ่นพยนต์ หรือ พยน รูปตัว พ. พาน สัญญาลักษณ์แทนคำว่า พ่อ อานุภาพสุดขลังพกติดตัวแล้วอุ่นใจไร้อุบัติภัย เมตตาดี

เสมอ วิธีใช้ให้ตั้ง นะโม 3 จบ คาถาให้บริกรรมภานาว่า อิสวาสุ คาถาบูชา “ยังกิจจิ ระตะนังโลเก วิชชะ ติคิคิตัง ปุถุระตะนัง พุทธะสะมัง นัตติตัสษมา โสตถีภะวันตุเม” หากท่านเข้าสู่ยามคับขันจริงและลืมคาถาให้พูดว่า พ่อช่วยลูกด้วยนะพ่อ ให้ว่าคำนี้ซ้ำๆ ก็จะเกิดผล
พ่อพอพาน หลวงปู่เย็นท่านบรรจงสร้างเองพันเองตามตำราของครูบาอาจารย์ที่ท่านสืบมา งานนี้อยู่ในช่วง ปี 2515 ถึง ปี 2525 ในยุคของวัดกลางชูศรี และ เลี่ยมโดยช่างโอเลี้ยง หลังจากนั้นก็เป็นการเลี่ยมในรูปแบบอื่นถัดมา สุดท้ายวิชานี้ก็สูญสิ้นไปพร้อมกับท่านในปีสุดท้ายของการคงสังขารใน พ.ศ.2539 ที่วัดสระเปรียญ

บูชา 3,500 บาท

 

ปิดครับ



เหรียญพรหมสี่หน้าหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน

ผิวเดิมสวยคม รับประกันแท้สากล

 

เหรียญเสด็จเตี่ยหลังพระธาตุพนมปี 2522

บูชา 1,200 บาท

ลพ.คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย พร้อมเกจิในตำนาน หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี /ลพ.เกษม เขมโก /ลป.แหวน สุจิณโณ ลพ.ฤาษีลิงดำ โดยอาจารย์ทุกองค์ปลุกเสกเดี่ยว
#จากคำบอกเล่าของทีมงานผู้สร้างว่าสร้างแค่ 5,000 เหรียญ เนื้อทองแดงเนื้อเดียว
จากคำบอกเล่า ของ น.อ.ประดิตถ์ แทนสง่า หนึ่งในคณะผู้สร้าง
ขอขอบพระคุณในวิทยาทานมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

แต่ก่อนคนไม่ทราบข้อมูลการสร้างมากนัก หลังๆ เป็นที่นิยมในกลุ่มเสด็จในกรมกันมาก เผื่อใครพบเจอ ตอนนี้ราคาเช่าหา ไม่มีหลักร้อยนะครับ

 

พระปิดตาเนื้อผงจุ่มรัก หลวงปู่วาส วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี หลัง วอ.

บูชา 600 บาท

ประวัติการสร้าง พระปิดตาแร่บางไผ่ รุ่นแรก หลวงปู่วาส สีลเตโช วัดสพานสูง รุ่น วาสนาบารมี ปี๒๕๕๕
วัตถุประสงค์ เพื่อหารายได้จัดสร้างกุฏิสงฆ์ของวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตที่ทรุดโทรมมากเพราะปลวกกินทั้งหลัง จึงคิดสร้างขึ้นใหม่โดยเป็นเรือนไม้สักทรงไทยสองชั้น พระอาจารย์ช้างจึงกราบเรียนหลวงปู่วาส เพื่อขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ขึ้นมาโดยให้ชื่อว่า รุ่น วาสนาบารมี
พระปลัดศิริชัย สิริชยฺโย หรือ ท่านพระอาจารย์ช้าง เจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิต ตำบลหนองเพรางาย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี แต่เดิมวัดนี้เป็นสำนักสงฆ์ป่ากก ซึ่งมีต้นกกขึ้นอยู่หนาแน่น เจ้าของที่ดินเดิมคือ สจ.สาย อ่วมอ่อง และผู้ใหญ่สี อ่วมอ่อง ได้บริจาคที่ดินจำนวน ๑๕ ไร่ และด้วยความร่วมแรงร่วมใจของผู้มีจิตศรัทธาจึงสร้างเป็นวัดขึ้นมา โดยใช้นามสกุลของผู้บริจาคที่ดินเป็นชื่อวัด ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๔๑ จึงได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา

แนวคิดในการจัดสร้างพระปิดตาวัดสพานสูง เนื้อแร่บางไผ่ ด้วยเหตุผลที่ว่ามีแร่ธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่ง ที่เรียกกันว่า แร่บางไผ่ ซึ่งมีแต่เฉพาะที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เท่านั้น จัดอยู่ในสายแร่ชนิดหนึ่งที่มักพบอยู่บริเวณน้ำท่วมขังและอยู่ลึกลงไปใต้ผิวดิน ส่วนมากต้องดำน้ำลงไปแล้วขุดลงใต้ผิวดินโคลนใต้น้ำจึงจะได้แร่มา ก้อนแร่มักมีลักษณะสีดำ หรือสีดำอมเขียว ซึ่งในสมัยโบราณมีพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองนาม คือ หลวงปู่จัน วัดโมลี จังหวัดนนทบุรีได้สร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ ซึ่งงมแร่ได้ในคลองบางคูรัด ขึ้นชือลือชาด้านความคงกระพันและยังแฝงด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย และเป็นวัตถุมงคลยอดนิยมอยู่แถวหน้าของวงการพระเครื่องมาโดยตลอด ซึ่งค่านิยมของพระปิดตาแร่บางไผ่ที่หลวงปู่จันวัดโมลีสร้างมีสนนราคาเป็นล้านบาทและหาของแท้ยากมากในปัจจุบัน การสร้างพระปิดตารุ่นวาสนาบารมีในครั้งนี้จึงเป็นการรวมความสุดยอดของพระปิดตาทั้งสองวัดเข้าด้วยกัน ทั้งแบบพิมพ์ทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ของหลวงปู่เอี่ยม วัดสพานสูง และมวลสารโลหะแร่บางไผ่ตำรับ หลวงปู่จัน วัดโมลี มาหลอมรวมไว้ในองค์เดียวกัน

การได้มาซึ่งแร่บางไผ่ ต้องหาในตอนที่น้ำสะอาดถึงจะมีแร่อยู่ และต้องทำพิธีบวงสรวงขอขมาและบอกกล่าวหลวงปู่จัน วัดโมลี สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเจ้าที่เจ้าทางเสียก่อนจึงลงงมหาแร่บางไผ่ได้ พระอาจารย์ช้างกล่าวว่า ได้ให้คณะศิษย์ลงงมแร่บางไผ่ที่คลองบางคูรัด ถึง 3 ครั้ง ได้ก้อนแร่มาจำนวนน้อย เมื่อได้แร่มาก็ต้องนำมาเลี้ยงโดยนำน้ำคาวปลามาใส่โอ่งแล้วนำก้อนแร่แช่ไว้ ไม่เช่นนั้นแร่จะตายหรือที่เรียกว่าแร่กินตัวเอง ถ้านำไปหลอมก็ได้เพียงขี้แร่ ใช้หล่อพระไม่ได้ และมีความเชื่อกันว่าเมื่อแร่ตายความศักดิ์สิทธิ์ของแร่ก็จะหายไปหมดซึ่งแร่ที่ตายนั้นจะมีลักษณะสีแดงเหมือนสนิมเหล็ก

ในปัจจุบัน พระครูวิสาลสรคุณ หรือ หลวงพ่อไวพจน์ กตปุญโญ เจ้าอาวาสวัดสามง่าม ตำบลลำโพ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ท่านได้ศึกษาวิชาเก็บและหุงแร่บางไผ่แบบโบราณ กล่าวว่าจริงๆแล้วถิ่นกำเนิดของแร่บางไผ่นั้นไม่ได้กำเนิดที่บางไผ่ แต่ถือกำเนิดที่คลองบางคูลัด อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ดินเหนียวเหมาะแก่การทำเกษตรกรรมมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแร่ชนิดหนึ่งซึ่งเมื่อดูผิวเผินแล้วเหมือนดินดาน ชาวบ้านที่อาศัยพื้นที่ทำนาทำสวนไม่ทราบเลยว่านี่คือแร่บางไผ่ ซึ่งเมื่อนำมาหลอมด้วยไฟแรงสูงแล้วจะกลายสภาพเป็นแร่เหล็กทันที เพราะแม่เหล็กสามารถดูดติด แต่ถ้าอยู่ตามธรรมชาติ แม่เหล็กจะดูดไม่ติด
การหลอมแร่บางไผ่ในเบ้าหลอมต้องใช้ไฟแรงสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส และเบ้าหลอมจะใช้หลอมได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น เพราะการหลอมครั้งที่ 2 นั้นจะต้องใช้ไฟแรงกว่าเดิม ถ้าใช้ถึงครั้งที่ 3 เบ้าจะแตกทันที ซึ่งต่างจากการหลอมทองแดง ซึ่งเบ้าจะใช้ได้ 7-8 ครั้ง

อธิษฐานจิตครั้งแรก ในวันพฤหัสบดีที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ซึ่งตรงกับวันอาสาฬหบูชา ซึ่งถือว่าเป็น “วันครู” ณ กุฏิหลวงปู่วาส ณ วัดสพานสูง หลวงปู่วาส และพระสงฆ์วัดสพานสูงเจริญพระพุทธมนต์ สวดธัมมจักกัปปวัฒนสูตร และพระคาถาโสฬสมงคล และหลวงปู่วาสท่านได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ตลอดไตรมาส วัตถุมงคลทั้งหมดจะนำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่อีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๕ ก่อนจะออกให้ผู้มีจิตศรัทธาเช่าบูชา และมารับพระได้ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๕

 

ลูกสะกดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย จ.สุพรรณุรี เนื้อเมฆพัด ประมาณพุทธศักราช 2430-2452

บูชา 3,500 บาท ตัวจริงสุดยอดของหายาก

ลูกนี้ผมแกะพลาสติกออกซีกนึงเพื่อตรวจเช็คตามภาพ

......ในวงการพระเครื่องน้อยคนนักที่จะไม่เคยรู้จัก หรือได้ยินชื่อหลวงพ่อเนียม วัดน้อย อ.บางปลาม้าา จ.สุพรรณบุรี เพราะท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เป็นสหธรรมิกกับ หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน, หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว, หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ฯลฯ และยังเป็นอาจารย์ของพระเกจิชื่อดังอีกหลายองค์ เช่น หลวงพ่ออ่ำ วัดชีปะขาว, หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน, หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ฯลฯ ท่านเป็นพระสงฆ์ ๓ แผ่นดิน เกิด พ.ศ. ๒๓๗๐ (รัชกาลที่ ๓) และมรณภาพในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ (รัชกาลที่ ๕) เชื่อกันว่าท่านเป็นลูกศิษย์ที่เรียนวิชาอาคมจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง เพราะเมื่อท่านบวชแล้วได้เข้ามาศึกษาต่อที่เมืองหลวง ในช่วงที่สมเด็จฯ โต ยังไม่ละสังขาร และครองวัดระฆังจนถึงปี ๒๔๑๕ อันเป็นปีที่ท่านมรณภาพ ....ลูกสะกด หลวงพ่อเนียม วัดน้อย สุพรรณบุรี นับเป็นเครื่องรางอย่างหนึ่ง ที่มีการสร้างกันมาแต่โบราณ และเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก มีอานุภาพเชื่อกันว่าสะกดทัพได้ทีเดียว ถ้าใช้ไปในทางบู๊ สะกดให้หลับใหลไม่ได้สติ แต่ถ้าใช้ในทางเสน่ห์ เมตตามหานิยม ก็จะทำให้ผู้คนหลงใหลได้ปลื้ม เป็นที่ชื่นชอบรักใคร่ของคนทั่วไป หรือแล้วแต่ประสงค์จะให้บังเกิดผล เช่น สะกดสิ่งชั่วร้ายอัปมงคล สะกดเคราะห์กรรมต่างๆ ที่มาเบียน, สะกดโรคร้าย โรคระบาดให้หมดไป สะกดวิญญาณ ขับไล่ภูติผีปีศาจ ฯลฯ .........ลูกสะกดมีขนาดที่ใกล้เคียงกับลูกอม ส่วนมากทำลักษณะคล้ายกับลูกรักบี้ แต่ตัดหัวท้ายออก มีรูสำหรับร้อย บางท่านเรียงเป็นประคำลูกสะกด หรือนำมาร้อยเป็นพวง ๙ ลูก เรียกว่า ลูกสะกดนวหรคุณ แต่ที่นิยมมากๆ ต้องเป็นลูกสะกดโทน คนสมัยก่อนนิยมอมไว้ในปากเวลา คราวคับขัน ........ลูกสะกดของหลวงพ่อเนียม สร้างด้วยเนื้อตะกั่วผสมปรอท เนื้อเดียวกับพระเครื่องของท่านที่มีอยู่หลายพิมพ์ เช่น พิมพ์เศียรโล้น พิมพ์เศียรแหลม พิมพ์งบน้ำอ้อย พิมพ์พระประธานเล็ก-ใหญ่ พิมพ์พระเจ้าห้าพระองค์ ฯลฯ เป็นที่โดงดังทั้วสารทิศ เป็นที่รู้จักทั้งในและนอกวงการพระเครื่อง ว่ามีคุณวิเศษมากมายในด้านแคล้วคลาด คงกระพัน และเมตตามหานิยม ........โดยการสร้างพระในสมัยก่อน การทำปรอทให้แข็งไม่ใช่ของง่ายนัก ว่ากันว่าต้องใช้คาถาอาคม ทั้งต้องทำในฤดูฝนฤดูเดียวเท่านั้น เพราะพืชบางอย่าง เช่น ใบแตงหนู ซึ่งขึ้นในท้องนา จะขึ้นในฤดูฝน ส่วนผสมต่างๆ มีใบสลอด, ข้าวสุก หลวงพ่อท่านเอาของสามอย่างมาโขลกปนกัน เพื่อไล่ขี้ปรอทออกให้หมด ทั้งนี้เพื่อให้ได้ปรอทขาวที่สุด การโขลกจะต้องโขลก และกวนอยู่ถึง ๗ วัน จึงจะเข้ากัน พอครบ ๗ วันเอาไปตากแดดเสร็จ แล้วนำเอาไปกวนต่อจนเข้ากันดี จึงทำการแยกชั่งเป็นส่วนๆ ส่วนละหนึ่งบาทต่อจากนั้นเอาไปใส่ครกหิน เติมกำมะถัน และจุนสีโขลกตำให้เข้ากัน โดยใช้เวลาทำตอนกลางคืนเท่านั้น ทำเช่นนั้นอยู่ ๓ คืน จึงเอาปรอทใส่ลงไปในกระปุกเหล้าเกาเหลียง ผสมกับตะกั่วเอาเข้าไฟสุมอยู่ถึง ๗ วัน บางครั้งอุณหภูมิสูงจัด กระปุกเหล้าเกาเหลียงแตกเสียหายก็มี การสุมไฟสุมเฉพาะเวลากลางวัน ส่วนเวลากลางคืน ทำพิธีปลุกเสกด้วยคาถาอาคม พอครบ ๗ ไฟ เทลงในแม่พิมพ์จึงจะได้พระตามที่ต้องการ ...........สำหรับลูกสะกดนั้น เมื่อท่านเทแผ่นตะกั่วผสมปรอทเป็นแผ่นแล้ว ท่านจะลงด้วยพระคาถาหัวใจนวหรคุณ คือ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ และพระยันต์ต่างๆ ๑๐๘ แล้วเสกกำกับ จากนั้นจึงนำไปสุมไฟ แล้วเทรีดเป็นแผ่นอีก ทำอย่างนี้ติดต่อกัน ๗ ครั้ง หรือ ๗ ราตรี จึงจะนำมาเทลงในแม่พิมพ์ เมื่อแข็งตัวดีแล้วก็จะลงเหล็กจารกำกับอีกทีหนึ่ง **คาถาอาราธนาลูกสะกด** อิติพันธะเกษามะอะอุ พันธะโลมาจะภะกะสะพันธะนักขามะนะนพะทะ พันธะทันตากระมะถะ พันธะตะ โจอิสวาสุ พันธะนังสังจิปีเสดิ พันธนะหะรูหะรูสุวิสังอะ พันธะอัฐิทุสะมะนิ พันธะอัตถิมินชังนะสังสิโม พันธะวักกังปะวะอะปะ ทิมะสังอังขุ นะมะอะอุ นะมามิหัง สิทธิเตชัง สิทธิวาจัง กายะพันธะนัง องคะพันนธะนัง สารพัดสิทธิ ภะวันตุเมฯ คาถานี้ให้ตั้งนะโมฯ 3 จบก่อน แล้วยกลูกสะกดขึ้นจดเหนือหน้าผาก จึงค่อยภาวนาพระคาถาให้จบบท สูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วผ่อนออก และเมื่อเวลาจะคาดเข้าเอวให้ภาวะนาพระคาถานี้จนกว่าจะผูกเงื่อนเสร็จให้ภาวนาดังนี้ “อิมังกะยะพันธะนังอธิษฐานมินะมะพะทะ”

 

ปลัดขลิกrาแกะ หลวงพ่อกวย

พร้อมเชือกเดิมๆ เป็นชุด เก่าถึงยุค ที่มาดี

บูชา 5,500 บาท

 

เหรียญหลวงพ่อพรหมสร(รอด) พิมพ์ขอบบิ่น พ.ศ.2502

บูชา 2,000 บาท

เหรียญหลวงพ่อพรหมสร รอด อ.โนนสูง พระเกจิเก่าแก่ของโคราชที่มีพุทธภาคมสูงยิ่ง เหรียญรุ่น1 ปี2492 ราคาหลักแสน เหรียญนี้เป็นเหรียญ พ.ศ.2502 หลวงพ่อทอง วัดบ้านกลึง ศิษย์เอกผู้ปลุกเสก ลักษณะเหรียญจะคล้ายกับรุ่น1 เหรียญนิยมมีเอกลักษณ์ขอบด้านหลังมีรอยบิ่น ถือว่าเป็นรุ่นแรกที่หลวงพ่อทองเสกเช่นกัน มีพุทธคุณสูง นิยมเล่นหากันพอสมควร มีประสบการณ์ แคล้วคลาดคงกระพัน ถูกยิง รถล้ม รถคว่ำ รอดกันมาหลายราย ทั้งติดตัวไปเกณฑ์ทหาร ว่ากันว่าจะไม่ถูกทหาร ล่าสุดได้ข่าวช่างการไฟฟ้าแขวนเหรียญรุ่นนี้ถูกสายไฟแรงสูงสองหมื่นโวลท์ช็อตไม่ตาย แต่มีอีกกลุ่มเชื่อว่าเหรียญขอบบิ่น สร้างปี 2498-99 ทันหลวงพ่อรอดปลุกเสก เพราะยันต์เหมือนกับรุ่น1เปะ แต่พบเห็นน้อยมาก ไม่มีใครฟันธง

 

ลูกอมเมฆสิทธิ์ พระอุปัชฌาย์ตัน วัดอู่ตะเภา

ตัวจริงหายากมากๆ รับประกันสากล พร้อมใบประกาศรางวัลที่1 เมฆสิทธิ์ท่านเก่ากว่าหลวงพ่อทับ แต่ราคาต่างกันมากครับ

บูชา 28,500 บาท

มือใหญ่ เปิดกัน 4-50,000 ครับ

 

พระปิดตาเมฆพัตรท่านเจ้าคุณพระสุนทรสมาจารย์ (หลวงปู่ พรหม) วัดกัลยานิมิตร กรุงเทพฯ (เจ้าของพระปรกมะขามอันลือชื่อติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย)

สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๕ สร้างประมาณ 300 องค์ รับประกัน

บูชา 18,500 บาท

 

ปิดครับ



เลข ๑๒๑๓

บูชา 1,600 บาท

 

พระปิดตาพระครูญาณ วัดสัมปะทวน จ.ฉะเชิงเทราพิมพ์มาตรฐานเนื้อผงคลุกรักจุ่มรัก

บูชา 3,500 บาท

พระปิดตาของท่านจัดเป็นหนึ่งในพระปิดตายอดนิยมของเมืองแปดริ้วปัจจุบันหาชมได้ยากแล้วและต่อไปจะเป็นตำนาน ...........................................

พระครูญาณรังษีมุนีวงษา(ทำ อาจภักดี)อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมปทวน(นอก)อดีตเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา นามเดิม ทำเกิดเมื่อพ.ศ.2382 ณ.ตำบลบ้านใหม่ จ.ฉะเชิงเทรา_อุปสมบท พ.ศ.2405 ที่วัดแหลมบน(สายชล ณ รังษี)จ.ฉะเชิงเทรา พระครูญาณรังษีมุนีวงษา(มี)วัดแหลมบน เป็นพระอุปัชฌาย์_พ.ศ.2424 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดพยัคฆ์อินทาราม(เจดีย์)พร้อมกับได้รับการแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และย้ายมาปกครองวัดสัมปทวน(นอก)ในเวลาต่อมา_พ.ศ.2448 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทราและเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัติ ในทินนามเดิม...............

พระครูญาณรังษีมุนีวงษ์ (ทำ อาจภักดี) วัดสัมปทวน (นอก) อดีตเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา พระเถราจารย์ยุคเก่าผู้มีตบะบารมีแก่กล้า มีพุทธาคมเข้มขลัง ทั้งท่านยังขึ้นชื่อมากในเรื่องการเทศน์ (พระครูญาณฯ วัดสัมปทวน ท่านเทศน์แหล่ได้ไพเราะจับใจยิ่งนัก)


กล่าวกันว่าโยมบิดาของท่าน หมื่นอาจภักดี นั้นเป็นผู้ที่เก่งกล้าในเรื่องวิชาอาคมและตำราพิชัยสงคราม เมื่อเจริญวัยท่านจึงได้ร่ำเรียนสรรพวิชาอันนับเป็นปฐมครู (อาจารย์คนแรก) จากบิดาของท่าน และเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ท่านได้เข้ารับราชการช่วยงานบิดา ซึ่งขณะนั้นบิดาของท่านรับราชการอยู่ในสังกัดของ (พระยาวิเศษฤาชัย) เข้าสู่ร่มเงาแห่งพระศาสนา เมื่อเจริญวัยอายุได้ ๒๓ ปี ตรงกับพุทธศักราช ๒๔๐๕ ท่านได้เข้าอุปสมบทที่ วัดแหลมบน อำเภอเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี พระครูญาณรังสีมุนีวงษา (มี) อดีตเจ้าอาวาสวัดแหลม(สายชล ณ รังษี) เป็นพระอุปัชฌาย์เมื่ออุปสมบทแล้ว พระภิกษุทำ ก็ได้เล่าเรียนสรรพวิชาจากพระอุปัชฌาย์ ด้วยวิริยะความเพียรอันแรงกล้า เป็นผู้ที่ตั้งใจใฝ่ศึกษาเล่าเรียนทั้งพระปริยัติธรรม และครองปฎิบัติของพระสงฆ์ พากเพียรปฎิบัติพระวิปัสสนากรรมฐานมิได้ขาด ทั้งแสวงหาอาจารย์ผู้สอนวิชาเทศน์ (มีผู้รู้สันนิษฐานว่า ท่านน่าจะเคยเป็นศิษย์ร่วมสำนักกับพระอาจารย์ภู วัดต้นสน ก็เป็นได้ เพราะสำนักนี้โด่งดังมากในเรื่องการเทศแหล่น์มหาชาติ) เล่ากันว่าชื่อเสียงเรื่องการเทศน์ของท่านพระครูญาณฯ วัดสัมปทวน นั้นโด่งดังมาก เพราะท่านเป็นพระที่แตกฉานในอรรถธรรม ทั้งน้ำเสียงก็ไพเราะจับใจ ยากที่จะหาตัวจับได้ ทางด้านวิปัสสนากรรมฐาน ก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่าเรื่องเทศน์ ด้วยความที่เป็นผู้มีวิชาติดตัวมาตั้งแต่เด็กจากโยมบิดาเมื่อมาต่อยอดวิชาจากที่พระอุปัชฌาย์สั่งสอน ทั้งด้วยวิริยะความเพียรในการปฎิบัติ วันเดือนผ่านไป ท่านกลายเป็นพระภิกษุผู้มีตบะบารมีแก่กล้า เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลายทั้งใกล้และไกล จนต่อมาท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูญาณรังสีมุนีวงษ์ และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดฉะชิงเทรา ตามลำดับ

ท่านยังมีส่วนร่วมในการตั้ง โรงเรียน เบญจมราชรังสฤษ์ จนท่านได้รับตำแหน่งชั้นยศ มากมาย จนเป็นที่ยอมรับเลยว่าท่านคือ พระนักพัฒนาในเขต มณฑล ตะวันออก สมัยนั้น ท่านยังเป็นหมอยา คอยรักษา คนป่วยในเขตวัดและไกล้เคียง จนมีชื่อเสียงโด่งดังอีกด้านหนึ่ง ทางด้านวิชาอาคม นั้นท่านแก่กล้ามาก ท่านก็ได้ ออกหา ว่าน 108 ไม้มงคลนามต่างๆตามตำรา ที่ได้เล่าเรียนจาก ลป จีน เพื่อ นำมารวมกับผง พุทธคุณต่างๆที่ท่านได้ทำไว้ เพื่อสร้างพระปิดตา ผงพุทธคุณ คลุกรัก จุ่มรักขึ้น ซึ่งมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวทั้งพิมพ์ทรงและเนื้อหา เล่นหาได้ ไม่สับสน แต่ หายากมาก เก๊เก่ามีมากมาย ท่านใดมีบุญได้บุชา จะสัมพัสได้ถึงพุทธคุณ ครอบจักวาล ทั้งด้าน แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มหาอำนาจบารมี และที่สำคัญ สุดยอดเมตตามหาสเน่ห์ มหานิยม โชคลาภ เหลือหลาย เหนือคำบรรยาย มีตัวอย่างให้เห็นเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า วิชาอาคมท่าน เก่งกล้ามากขนาดใหน ในยุค ปี 2461 ทางวัดหัวเนิน ฉะเชิงเทรา ได้มีการจัดสร้างพระเครื่อง ปิดตาเนื้อเมฆพัต วัดหัวเนิน ขึ้น เป็นพิธียิ่งใหญ่มากในยุคนั้น นิมนต์ เกจิย์อาจารย์ ที่มีวิชาอาคม มาร่วมปลุกเสก มากมาย รวม ทั้ง หลวงปู่ ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า มาร่วม ปลุกเสกด้วย ซึ่ง พระครู ญาณ ฯ ก็ได้มาร่วมปลุกเสก ในพิธี หลวงปู่ ศุข ได้เข้ามาสนทนาธรรมกับ พระครูญาณฯ อย่าง สนิทสนม ทั้งที่เพิ่งเคยพบกันครั้งแรก และได้แลกเปลี่ยน วัตถุมงคลซึ่งกันและกัน เพื่อนำกลับไปแจก ลูกศิษย์ ของแต่ละท่าน ซึ่งผมได้พบเจอ ภาพถ่ายกระจก ซีเปีย ขนาดห้อยคอบูชา ของ หลวงปู่ ศุข ในพื้นที่ แปดริ้ว บ่อยครั้งในสมัยก่อน เป็นเครื่องยืนยันได้อีกอย่าง นั่นก็แปลได้ว่า ท่านทั้งสอง มีวิชาอาคม เสมอกันต่างยอมรับซึ่งกัน ลป ไข่ วัดเชิงเลน ที่เหรียญราคาเป็นสิบล้าน ก็ยังได้ไปมาหาสู่ เพื่อขอศึกษาวิชาอาคมจาก พระครูญาณฯ ในยุคนั้น


ท่านพระครูญาณฯ ถึงแก่มรณภาพ เมื่อ วันพุธ ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๔๖๔ สิริรวมอายุได้ ๘๒ ปี กล่าวถึงวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างไว้ เช่น พระปิดตา ก็เป็นที่เล่าลือกันมากถึงเรื่องปาฎิหาริย์ที่ผู้คนได้ประสบพบเจอ และวัตถุมงคลของท่านก็เป็นที่นิยมของวงการผู้นิยมพระเครื่อง นักเลงพระน้อยใหญ่ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันต่างเสาะแสวงหาเพื่อมีไว้บูชา

 

พระผงหลวงปู่ทวดพิมพ์เปิดโลก รุ่นพินัยกรรม อาจารย์ ศุภรัตน์ แสงจันทร์) มวลสาร หลวงปู่ดู่ อธิฐานจิต

พระรุ่นนี้ มวลสารที่นำมาใช้ในการสร้างหลวงปู่ทวด
ในงานพระราชทานเพลิงศพบิดาของอาจารย์ศุภรัตน์ (พ.ต. ศักดิ์สิทธิ์ แสงจันทร์)
- ผงสมเด็จวัดระฆัง
- ผงสมเด็จบางขุนพรหม
- ผงวัดสามปลื้ม
- ผงวัดปากน้ำ
- ผงพระปิลันท์
- ผงหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
- ผงพระครูอาคมสมุทร (มา)วัดสุทัศน์
- ผงสายวัดเขาอ้อ
- ผงวัดสะพานสูง ปากเกร็ด
- รวมทั้งผงพระเครื่องที่แตกหักอีกมากมายจึงนำผงทั้งหมดเหล่านี้มารวมกับผงของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ซึ่งได้รับการอธิษฐานจิตเป็นคำรพสุดท้ายพร้อมกับปูนที่ใช้สร้างองค์พระหลังจากได้นำไปให้ครูบาอาจารย์อธิฐานเรียบร้อยแล้วมีดังนี้
- หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง 2 ครั้ง
- หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม 1 ครั้ง
- หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ 1 ครั้ง
- หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ 1 ครั้ง
- หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรี 2 ครั้ง
- พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง 2 ครั้ง
- หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ 1 ครั้ง
- เมื่ออธิฐานเรียบร้อยแล้วหลวงปู่ท่านต้องทราบด้วยยานวิถีว่าท่านต้องมรณะภาพก่อน แน่นอนจึงกล่าวว่าสร้างเสร็จแล้วถือว่าสำเร็จเรียบร้อยไม่ต้องนำมาให้ค่าเสกอีกใช้ได้เลย ปัจจุบันเป็นที่นิยมบูชากันมาก องค์นี้มีเกศาที่ด้านหลังและพระธาตุเสด็จติดที่ด้านหน้าพร้อมพลอยชัดเจน

บูชา 1,200 บาท

 

ปิด




แผ่นปั๊มรูปเหมือน พระญาณวิศิษฏ์ฯ (สิงห์ ขนฺตยาคโย) นกเล็ก ปี2518...อาจารย์ฝั้นปลุกเสก

.....สภาพเก็บเก่า ยันต์นกเล็ก มีหู นิยม รับประกันสากลทุกสนาม

เมื่อก่อนราคาพุ่งไปครึ่งหมื่น

บูชา 2,800 บาท

.....เกี่ยวกับแผ่นปั๊มรูปเหมือนที่จัดสร้างเป็นรูปนั่งสมาธิของพระอาจารย์สิงห์นั้น ในปี พ.ศ.๒๕๑๘ ได้มีการนำแม่พิมพ์เหรียญด้านหน้าชุดนี้มาใช้จัดสร้างเหรียญอีกครั้ง
.....โดยครั้งนี้ได้จัดทำแม่พิมพ์ด้านหลังใหม่ เรียกกันว่า เหรียญยันต์นกเล็ก
..... แผ่นปั๊มปี พ.ศ.๒๕๑๘ นี้ แม้จะจัดสร้างขึ้นหลัง ท่านอาจารยสิงห์ มรณภาพแล้ว แต่ก็ได้รับการพุทธาภิเษก โดยท่านพระอาจารย์ฝั้นและลูกศิษย์พระสายอาจารย์มั่น ที่วัดป่าสาละวัน นับเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยม หายากเช่นกัน

 

เหรียญหลวงพ่อกลั่น ปี2505

ออกวัดสะแก หลวงปู่ดู่ ปลุกเสก

บูชา 3,500 บาท

 

ตะกรุดเงิน หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์

เก่า รับประกัน พร้อมเลี่ยมเงิน

บูชา 7,500 บาท

 

ปิด



เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นแรก วัดพะโค๊ะ จ.สงขลา ปี2506

สภาพใช้มา เอาใว้ใช้พุทธคุณ ราคาจับต้องได้ รับประกันแท้สากล

บูชา 1,200 บาท

เหรียญรุ่นนี้หายากมากแล้วครับ โดยเฉพาะของแท้ เพราะมีหลายท่านที่ให้ความเคารพท่าน แต่เหรียญมีจำนวนน้อยกว่าความต้องการ พุทธคุณเยี่ยมยอดเป็นเชื่อถือได้ครับ

หลวงพ่อทวดวัดพะโคะ เริ่มจัดสร้างตั้งแต่ปี 2506 เรื่อยมา มีทั้งเนื้อว่าน ทั้งเหรียญ เหรียญรุ่นนี้ บางท่านว่าปี 06 บางท่านว่าปี 09 มีทั้งพิมพ์ มีลูกแก้ว (นิยม) และ พิมพ์ไม่มีลูกแก้ว จัดสร้างพิธีใหญ่สุดในสายใต้ ค่านิยมเป็นรองเพียงวัดช้างไห้ อาจารย์ทิมวัดช้างไห้เป็นเจ้าพิธี พร้อมเกจิอาจารย์สายใต้ยุคนั้นมากมายร่วมอธิษฐานเ นื่่องจากมีพิธีการสร้างชัดเจนบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พระมีจำนวนค่อนข้างเยอะ มีหมุนเวียนให้คนได้เลือกบูชาตามสภาพความคล่องตัวของการเงิน

 

ปิดแล้วครับ



พระสิวลียืน วัดชิโนรส ปี2512

อุดผงวิเศษ ตอกโค๊ต ชร. (วัดชิโนรส) ผสมชนวนมวลสารชินราชอินโดจีนที่โด่งดัง ผงที่อุดใต้ฐานคือ ผงวิเศษผสมชานหมากกับเกศาของหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง เกจิดังของอีสานใต้ และหลังจากเสร็จพิธี หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตามราม เมตตานั่งปรกปลุกเสกเดี่ยวให้กับวัตถุมงคลชุดนี้เป็นพิเศษจนใกล้สว่างเลยทีเดียว หลวงพ่อกวย ท่านสำเร็จวิชาหัวใจพระสิวลี จึงได้รับความนิยมทั้งด้านศิษย์ของหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง และของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม กันอย่างมาก ปัจจุบันนี้พระพิมพ์นี้หายากมากๆแทบไม่เจอในสนามพระ องค์นี้เจ้าของเดิมยืนยันว่าหลวงพ่อกวยมอบให้กับมือ และเขาได้ใช้แช่น้ำมนต์มา รับประกันพระแท้สากลทุกสนาม

ประวัติการจัดสร้าง พระเครื่องวัดชิโนรส ปีพ.ศ. 2512 วัดชิโนรสารามวรวิหาร (วัดชิโนรส) ตั้งอยู่ริมคลองมอญ ติดถนนอิสรภาพ ตรงข้ามกับกรมอู่ทหารเรือ ฝั่งธนบุรี สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโรรส เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมหมื่นนุชิตชิโนรส ทรงสร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ. 2379 ในสมัยรัชกาลที่ 3 จึงเป็นวัดที่มีความสำคัญ และได้รับแต่งตั้งเป็นพระอารามหลวง ในปี พ.ศ. 2512 วัดชิโนรส มีพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่หลายวาระ และปีนี้มีวันเสาร์ห้าด้วย โดยมีจุดประสงค์การสร้างวัตถุมงคล เพื่อหาเงินมาบูรณะถาวรวัตถุภายในวัด ได้มีการสร้างพระบูชา และพระเครื่องอยู่หลายพิมพ์ เช่น พระผงหลายสิบพิมพ์ เหรียญ พระกริ่ง รูปหล่อ ฯลฯ เป็นต้น หัวแรงใหญ่ในการจัดสร้างพระเครื่องต่างๆ นี้เท่าที่ทราบมี 3 ท่านคือ 1. พระมหาประดับ แน่นหนา เป็นชาวสรรคบุรี จ.ชัยนาท มีความนับถือ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม เป็นอย่างยิ่ง และได้นิมนต์ หลวงพ่อกวย มาร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล เป็นกรณีพิเศษ 2. พระปลัดมานพ เป็นศิษย์ของ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จึงนิมนต์ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง มาร่วมปลุกเสก 3. พระอาจารย์แก้ว มณีงาม เนื่องจากวัดชิโนรส เป็นพระอารามหลวง ดังนั้น การจัดพิธีพุทธาภิเษกแต่ละครั้ง จึงต้องทำอย่างดี และในงานนี้ มีพระเกจิดังๆ จากทั่วประเทศในยุคนั้น มาร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกมากมาย (มีบันทึกไว้เป็นหลักฐาน) เช่น 1. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. 2. หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์ 3. หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท 4.หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง บุรีรัมย์ 5. พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา พัทลุง 6.หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ระยอง 7. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณ์ฯ กทม 8. หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี 9. หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี 10. หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี 11. หลวงพ่อเสมียน วัดหนองกระทุ่ม ชลบุรี 12. พระอาจารย์เชื้อ หนูเพชร วัดสะพานสูง กทม. 13. หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา 14. หลวงพ่อทอง วัดหมอสอ กาญจนบุรี 15. หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน ลำปาง 16. หลวงพ่อสุข วัดบันไดทอง เพชรบุรี ฯลฯ เป็นต้น

 

ปิดครับ



เหรียญพรหมวิหารธรรม หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุนนาคปี2518

รับประกันแท้สากล

บูชา 2,800 บาท

 

ปิดครับ



25 ศตวรรษ มีเข็ม

เลี่ยมทองพร้อมบูชา รับประกันพระแท้ ทองแท้

บูชา 8,000 บาท