พอใจรูม

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย ppojai, 3 ตุลาคม 2010.

  1. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 พฤศจิกายน 2016
  2. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    นำสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปบริจาคผู้ลี้ภัยน้ำท่วม
    ที่ศูนย์กีฬาอำเภอมวกเหล็ก สระบุรี
    เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2554

    [​IMG]
    ที่นอนน่านอนจัง..แต่ก็คิดถึงบ้านน้ำท่วมที่กรุงเทพฯ
    [​IMG]

    [​IMG]
    เอา..ช่วยกันขนเข้าเด็ก ๆ [​IMG]

    [​IMG]
    นู่จะหม่ำหนม ๆ ๆ แย๊ว
    [​IMG]
    ฮุยเลฮุย ๆ ๆ ผนึกกำลัง..คนละไม้คนละมือ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010562.JPG
      P1010562.JPG
      ขนาดไฟล์:
      179.9 KB
      เปิดดู:
      329
    • P1010563.JPG
      P1010563.JPG
      ขนาดไฟล์:
      193.6 KB
      เปิดดู:
      338
    • P1010543.JPG
      P1010543.JPG
      ขนาดไฟล์:
      145.8 KB
      เปิดดู:
      317
    • P1010531.JPG
      P1010531.JPG
      ขนาดไฟล์:
      203.1 KB
      เปิดดู:
      322
    • P1010533.JPG
      P1010533.JPG
      ขนาดไฟล์:
      191.8 KB
      เปิดดู:
      327
    • P1010535.JPG
      P1010535.JPG
      ขนาดไฟล์:
      202.6 KB
      เปิดดู:
      419
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 พฤศจิกายน 2011
  3. librarianstory

    librarianstory สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +15
    :cool::cool:
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยจ้าคุณพี่ขา
    ดีจังเลยค่ะ
    หนูน้อยก็ไปด้วยน่ารักซะน๊า
    เห็นใจผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมจริงๆ
    ขอส่งกำลังใจไปให้ทุกๆท่านด้วยนะคะ
    และภาวนาขอให้น้ำลดเร็วๆ
    ไหลไปลงทะเลไวๆด้วยเทอญ...สาธุ
     
  4. librarianstory

    librarianstory สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +15
    ได้เวลาออกไปล่อระเบิดเหอๆ
    ไปหาอาหารใส่ปากใส่ท้องน่ะค่ะ
    ลูกเต้าก็ไปเที่ยวกับสาวๆ
    ทิ้งให้แม่อดอยากปากแห้งอยู่ที่บ้านคนเดียว
    ฮือๆๆ
     
  5. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    การปฏิบัติตนเพื่อความพ้นทุกข์แบบย่อๆ

    ผู้ถาม หลวงพ่อเจ้าคะ อยากจะเรียนถามว่า การปฏิบัติตนเพื่อความพ้นทุกข์แบบย่อๆ มีบ้างไหมเจ้าคะ...
    หลวงพ่อ ต้องการแบบย่อหรือ...ต้องไม่ยืนตรง
    ผู้ถาม อ้าว...ทำไมละครับหลวงพ่อ...
    หลวงพ่อ งอเข่ามานิด...แล้วก็ย่อตัวลงมา ก็ความจริงอันดับแรกจับ พุทธานุสสติ ให้ทรงตัว หลังจากนั้นก็พิจารณากายคตานุสสติ ร่างกายนี้มันไม่ดีเต็มไปด้วยความสกปรก ร่างกายเป็นชิ้นเป็นตอนเป็นท่อน่ใช่ไหม...ไม่เป็นแท่งทึบมีอาการ ๓๒ คือ ผม...เล็บ...และฟัน เป็นต้น นี่เขาถือเป็น กายคตานุสสติ
    เห็นว่าทุกส่วนของร่างกายเต็มไปด้วยความสกปรกอันนี้เป็น อสุภกรรมฐาน เห็นว่ามันไม่ดีมันก็เป็นทุกข์ แล้วก็ สลายตัวไปในที่สุด หลังจากนั้นก็ตั้งจิตใจไว้เฉพาะ พระนิพพานเป็นอารมณ์ และก็พยายามตั้งตนตั้งใจทำตามนี้คือ
    ตัดโลภะ ความโลภ ด้วย จาคานุสสติกรรมฐาน ด้วยการให้ทาน
    ตัดโทสะ ความโกรธ ด้วยการรักษาศีล มีพรหมวิหาร ๔ เป็นเบื้องหน้า
    ตัดโมหะ ความหลง ด้วยการเข้าใจตามความเป็นจริงว่า ร่างกายมันไม่ดี เราไมต้องการมัน ต้องการนิพพาน แค่นี้ง่ายๆ
    ผู้ถาม แค่นี้ไปได้แน่ๆ เลย
    หลวงพ่อ จะไปก็ได้จะอยู่ก็ได้
    ผู้ถาม ไม่ขัดข้องเลย
    หลวงพ่อ ไม่ขัดข้อง คำว่าไป...หมายถึงนิพพาน ยังไม่นิพพานก็ยัง
    ไม่ไป เนื้อแท้จริงๆ ต้องตัด โลภะ โทสะ โมหะ ๓ ตัวเท่านั้น แต่ว่าถ้าเราไม่ยึดพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ มันจะไม่มีการทรงตัวนะ
    ผู้ถาม ครับ...
    หลวงพ่อ เอาง่ายๆ ดีกว่า ถือบันไดขั้นแรกไว้ก่อน ถืออารมณ์พระโสดาบันไว้ก่อน ง่ายดี อารมณ์พระโสดาบันนี้ก็คือ
    1. เคารพพระพุทธเจ้า
    2. เคารพพระธรรม
    3. เคารพพระอริยสงฆ์
    4. มีศีล ๕ บริสุทธิ์
    5. ตั้งจิตไว้เฉพาะพระนิพพาน
    อันนี้ง่ายๆ ถ้าอันนี้ได้แล้ว...ไอ้เรื่องมรรคผลก็กลายเป็นของไม่ยาก


    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๕ หน้า ๑๒๐-๑๒๑)



    คุณพี่ใจ่ใจ๋ ก็ยังม่ะเลิกงานเล้ยยยยยยยย อ.กาย...
    บัญชียังไม่ตรงเยยย....กลับบ้านยังม่ะด้ายยย...
    หิวข้าวเหมียนกัลลล์จ้า ๆ ๆ จุฟ จุฟ จุฟ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 ตุลาคม 2016
  6. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=aR_uxI2oMCA]ทุกข์แท้แก้ที่ใจ พระไพศาล วิสาโล 2/3 - YouTube[/ame]
     
  7. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=xl8z-cCYXqA]ทุกข์แท้แก้ที่ใจ พระไพศาล วิสาโล 3/3 - YouTube[/ame]
     
  8. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    จขกท คนหนายจ๊ะมีป่าว

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
  9. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าการ คบหา “เพื่อน” นั้นเป็นอีกสิ่งที่สำคัญมาก ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะ การคบหา “กัลยาณมิตร”…. ผู้ซึ่งจะช่วยประคับประคองชีวิตเราไปสู่จดหมายที่ดีในชีวิต ช่วยเหลือเรา รองจาก พ่อ- แม่ ,พี่น้อง และครูบาอาจารย์
    ก่อนสิ่งอื่นใด เรามาทำความรู้จักกับคำว่า “กัลยาณมิตร” กันก่อนนะครับ
    “กัลยาณมิตร” นั้น หมายถึง “เพื่อน” ผู้ซึ่งเป็นบุคคลผู้ที่มีคุณสมบัติที่สั่งสอน แนะนำ ชี้แจง ช่วยเหลือ ชักจูงในทางที่ดี บอกช่องทางในการดำเนินไปในหนทางแห่งการฝึก การศึกษา การประพฤติปฏิบัติ ให้เข้าใจสิ่งต่างๆ ตามความจริงที่เป็นอยู่อย่างถูกต้องทำนองคลองธรรม…

    แม้มหาบุรุษแห่งโลกอย่างองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังยกย่อง และให้ความสำคัญกับการสมาคม คบค้า กับเพื่อนนั้นเป็นสิ่งสำคัญ อันดับ ต้นๆ โดยเฉพาะ ”การคบหา กัลยาณมิตร” ซึ่งแสดงไว้ในมงคลชีวิต 38 ประการ อันหมายถึงคุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ 38 ประการ
    คุณอาจจะสงสัยว่าแล้ว “เพื่อน แบบไหนล่ะที่เป็น “กัลยาณมิตร” เป็นเพื่อนดีที่ควรคบหา?
    [​IMG]
    ผมมีคุณสมบัติ 7 ประการของ กัลยาณมิตร ซึ่งเรียกว่า กัลยาณมิตรธรรม 7 ประการ ที่จะทำให้คุณรู้ได้ว่าใครคือเพื่อนที่น่าคบ…จริงๆ
    1. ปิโย แปลว่า น่ารัก หมายถึง เป็นที่สบายใจเมื่อเข้าใกล้ พบเจอครั้งใดก็มีความสุข สดชื่น มีกิริยามารยาทเรียบร้อย น่าคบหา น่าสนทนาด้วย มีอัธยาศัยดี เป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งหลาย
    2. ครุ แปลว่า น่าเคารพ หมายถึง เป็นผู้ที่อุดมไปด้วยคุณธรรมความดีจนเป็นที่ทราบไปทั่ว เป็นที่พึ่ง ที่ปรึกษาที่ดี ให้คำตอบที่ถูกตรง และรักษาคำพูด วางตนได้อย่างเหมาะสม ไม่ลำเอียงเพราะรัก หรือชัง
    3. ภาวนีโย แปลว่า น่าเทิดทูน หมายถึง น่ายกย่องชื่นชมเพราะความเพียบพร้อมในภูมิปัญญาทางโลก และภูมิปัญญาทางธรรม ทั้งความคิด คำพูด และการกระทำ
    4. วัตตาจะ แปลว่าฉลาดในการพร่ำสอน หมายถึง ฉลาดในการพูดชี้แจง พร่ำสอนผู้อื่นในคุณธรรม และสิ่งดีๆ
    5. วจนักขโม แปลว่า อดทนต่อถ่อยคำของคนรอบข้าง พร้อมฟังคำปรึกษา ซักถามของเพื่อนอยู่เสมอ ไม่ฉุนเฉียวหรือโต้ตอบโดยใช้อารมณ์
    6. คัมภีรัญจะ กะลัง กัตตา แปลว่า สามารถแถลงในเรื่องลึกล้ำ นำเรื่องที่ยาก มาอธิบายให้เห็นภาพ และเข้าใจได้ง่าย
    7. โน จัฏฐาเน นิโยชะเย แปลว่า ไม่ชักนำไปในทางเสื่อม ทั้งในเรื่องการงาน, ครอบครัว , ไม่ชวนเพื่อนไปสู่อบายมุข รู้จักแยกแยะ ดี – ชั่ว ผิด – ถูก สิ่งใดควรทำ ไม่ควรทำ
    การคบหา พื่อนแท้” หรือ “มิตรแท้” นั้น… ไม่ใช่การคบตามใจชอบ แต่ต้องคบกันด้วย “ธรรม” เหมือนดั่งพุทธวจนะ ของพระพุทธองคที่ว่า…
    “ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงคบมิตรผู้ประกอบด้วยองค์ 7 ประการ คือ 1. มิตรผู้ให้ของที่ให้ได้ยาก 2. รับทำกิจที่ทำได้ยาก 3. อดทนถ้อยคำที่อดใจได้ยาก 4. บอกความลับของตนแก่เพื่อน 5. ปิดความลับของเพื่อน 6. ไม่ละทิ้งในยามวิบัติ 7. เมื่อเพื่อนสิ้นโภคสมบัติก็ไม่ดูหมิ่น ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงคบมิตรผู้ประกอบด้วยองค์ 7 ประการนี้แล
    “กัลยาณมิตรแม้มีน้อย แต่มีค่าประดุจเพชรน้ำเอกที่ควรค่ากับการแสวงหา”
    ลองหลับตา แล้วนึกดูสิครับว่าคุณ มีกลัยาณมิตรอยู่ในใจ อยู่ข้าง ค่อยเป็นที่ปรึกษา ของคุณหรือไม่ ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤศจิกายน 2011
  10. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [​IMG]“ทรัพย์สมบัติ เงินทอง เป็นของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้”
    คุณคิดอย่างไรกับประโยคนี้…
    กับการ ที่มีเพื่อน พ่อแม่พี่น้อง ชาวไทย ยอมที่จะทนทุกข์อยู่เฝ้าบ้าน เฝ้าสมบัติของตน ไม่ยอมอพยพหนี ในสภาวะภัยพิบัติ น้ำท่วม เพราะกลัวโจรขโมยมาลักขโมยสิ่งของอันเป็นที่รักที่สร้างมา…
    สวัสดีครับวันนี้ผมมีเรื่องราวของ “ทรัยพ์สมบัติ” ที่ไม่ว่าจะโจร หรือคนอื่นๆ ไม่สามารถโกงหรือ ขโมยไปจากเราได้ เป็นสมบัติอันมีค่ามหาศาลที่ติดตัวเราไปได้ตลอดเวลา และเป็นตัวกำหนดให้ชีวิตเราสูงขึ้น หรือลงต่ำ
    ซึ่่งเรียกว่า ทรัพย์สมบัติภายใน 5 ประการ อันประกอบด้วย
    1. ศรัทธา และความเชื่อ: ในเหตุ และผลของการกระทำ การศรัทธาในสิ่งที่ถูกต้อง และเหมาะสมนั้นนำไปสู่การลงมือทำงาน ทำธุรกิจ ทำสิ่งที่นำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต
    2. ความพยายามรักษาใจ ความคิด การกระทำ และคำพูด : ไม่ให้ทำร้ายตัวเอง และคนอื่น เพราะนี้คือหลักในการสร้างมหามิตร การพยายามแก้ไข ปรับปรุง สิ่งที่ไม่ดีที่เคยทำในอดีต และคอยระมัดระวังไม่เกิดขึ้นอีก นั้นเป็นคุณสมบัติของผู้นำที่ดี
    3. ความใฝ่ใจในการเรียนรู้ : การพัฒนาใจ พัฒนาความคิดของตนเอง จากการเรียนรู้ประสบการณ์ในสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ้น นี้คือหนทางที่นำไปสู่ความสำเร็จของผู้ที่ไม่หยุดนิ่งกับการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น
    4. การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การให้ทาน และการให้อภัย : เป็นการสร้างกระแสดีๆ จากใจเราไปสู่ผู้อื่น ซึ่งจะดึงดูดสิ่งที่ดีงามกลับมาสู่ชีวิตเราอย่างเช่นโชคดี แบบที่ทั้งเก่งและเฮง หรือไม่เก่งแต่เฮงจริงๆ , เป็นที่รักของเพื่อน และญาติมิตร หรือคนแปลกหน้าที่พบเป็นครั้งแรก
    5. ารฝึกสร้างทรัพย์ในใจ: ซึ่งทำให้เรารู้เหตุผล รู้ว่าควรทำอะไร ทำอย่าไร เข้าใจ คุณ-โทษ, ประโยชน์ของการมีสติ ทรัพย์ในใจก็คือ “ปัญญา” คือ “ความรู้” ที่เกิดจากการฝึกฝน อบรม สังเกต สิ่งที่เข้ามากระทบจิตใจตัวเอง และการมีสติ การไม่หลงไหลไปกับอารมณ์ สิ่งยั่วยุที่ทำให้สูญเสียทั้งทรัพย์ภายใน และทรัพย์ภายนอก
    ทรัพย์สมบัติภายใน 5 ประการนี้…เป็นทุนทางใจที่ทำให้ชีวิตอ้างว้าง อับจน เป็นทุนที่สำคัญที่สุดในการสร้างทรัพย์สมบัติภายนอก สร้างชีวิตที่มั่นคง มีความสุขอย่างแท้จริงในการทำงาน และการสร้างธุรกิจ
    ยังไม่สาย ถ้าคุณเริ่มสร้างทรัพย์สมบัติภายในตั้งแต่วันนี้…
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤศจิกายน 2011
  11. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    ถ้าพูดถึงเรื่องการตั้งเป้าหมายเพื่อความสำเร็จในชีวิตนั้นก็คงจะได้ยินแต่เรื่อง… วิธีการตั้งเป้าหมายที่ถูกต้อง… วิธีการเลือกเป้าหมายในชีวิต… หรือเรื่องวิธีคิดที่นำไปสู่ความสำเร็จ
    ผมเชื่อว่าไม่มีใครในโลกนี้ที่ต้องการ… เกิดมาเพื่อมีชีวิตที่ล้มเหลว ผิดหวัง หรือตั้งเป้าหมายชีวิตว่า… ต้องเป็นมหาโจร หรือเป็นขอทานที่ยากจนที่สุดในโลก แต่ยังมีคนมากมายที่ล้มเหลวในชีวิต มีชีวิตที่ผิดพลาดเพราะ กำหนดเป้าหมายผิดจึงทำให้ชีวิตดิ่งลงเหว
    ผมมีตัวอย่างของ “การกำหนดเป้าหมายผิด ชีวิตดิ่งลงเหว” มาให้คุณได้เห็นภาพอย่างชัดเจน…
    สมัยพุทธกาลมีมหาโจรที่ชื่อว่าองคุลิมาล ซึ่งก็คือ อหิงสกะผู้เกิดในสกุลพราหม์ผู้มีฐานะ ในกรุงสาวัตถี ภายใต้ในฤกษ์มหาโจร ซึ่งหลงเชื่อคำของอาจารย์ ว่าถ้าฆ่าคน 1000 คน แล้วจะเรียนจบสุดยอดวิชาสูงสุดจากสำนักที่เขาเรียนอยู่​
    ด้วยความที่อหิงสกะปรารถนาที่จะเป็นผู้ที่เรียนจบวิชาสูงสุด และเป็นผู้ที่เคารพบูชาและเชื่อฟังครูอย่างที่สุด เขาจึงเริ่มฆ่าคนให้ครบตามจำนวน ฆ่าหนึ่งคนก็ตัดนิ้วมาคล้องคอเป็นมาลัยเพื่อเตือนความจำ จึงถูกเรียกว่า “องคุลิมาล” ตามคำของอาจารย์โดย มิได้เฉลียวใจว่า ตนนั้นกำลังหลงกระทำผิด ไปตามคำหลอกลวงของอาจารย์
    [​IMG]
    จนกระทั่งนิ้วที่ 999 นั้น พระพุทธองค์ได้ทรงได้เสร็จมาโปรด เพื่อชี้ทางสว่างมิให้ตัดนิ้วที่ 1,000 ซึ่งเป็นของมารดาตนเอง ซึ่งจะทำให้ตกมหาอเวจีนรก ไม่มีทางบรรลุธรรมโอสถอันวิเศษ
    เมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์มหาโจรองคุลิมาล จึงคลายความหลงผิด และได้บวชเป็นภิกษุในพุทธศาสนา จนกระทั่งบรรลุเป็นพระอรหันต์ “พระองคุลิมาล” และดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้องจนสิ้นอายุขัย
    จากตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมานี้ ผมอยากให้คุณใช้กำลังสติปัญญาของคุณ ตรวจสอบว่าสิ่งที่คุณทำ หรือเป้าหมายในชีวิตที่คุณตั้งเอาไว้นั้นนำคุณไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง หรือนำคุณลงสู่หุบเหวแห่งความล้มเหลว ด้วยวิธีการง่ายๆ
    [​IMG]
    เป้าหมายชีวิตที่ถูกต้องนั้นจะทำให้คุณมีความสุขทุกเวลาที่ทำ, ทำได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้ตัวคุณและคนรอบข้างมีความสุขมากขึ้น, อย่างเช่นตั้งเป้าหมายว่าจะมีบ้านเป็นของตัวเองภายในเวลา 1 ปี จึงขยันทำงานมากขึ้น เก็บเงินมากขึ้น หรือลงมือสร้างธุรกิจของตนเองเพื่อให้มีเงินซื้อบ้าน
    แต่ถ้าหากสิ่งที่คุณทำนั้น ทำให้รู้สึกผิดหวัง ท้อแท้ ไร้พลัง มองไปทางไหนมีแต่คนตำหนิติเตียนแล้ว ยกตัวอย่างเช่น คุณโกงเงินบริษัทเพื่อเอาเงินมาซื้อบ้าน หรือ ไปปล้นธนาคาร หรือขายยาเสพติด เพื่อเอามาซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีชีวิตที่ตกต่ำ มีความสุขน้อยลง
    ผมแนะนำให้เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนเป้าหมายของคุณเป็นการด่วน …
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤศจิกายน 2011
  12. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [​IMG]เมื่อพูดถึงการทำงาน หรือการที่ต้่องออกไปทำงานตอนเช้าวันจันทร์ แล้ว ผมคิดว่าคงมีมนุษย์เงินเดือนแค่ 1% ที่ตื่นขึ้นมาอย่างกระฉับกระเฉง และเตรียมพร้อมที่จะออกไปทำงานอย่างมีความสุข เมื่อก่อนนี้ คำว่า ความสุข กับการทำงานเป็นเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้ จนเมื่อผมได้พบกับเคล็ดลับ วิธีคิด เพื่อการทำงานอย่างมีความสุข ที่ว่า
    “ความคิดกำหนดการกระทำ …การกระทำกำหนดนิสัย… นิสัยกำหนดความเคยชิน…ความเคยชินกำหนดชะตากรรม…”
    เมื่อสิ่งที่จะกำหนดชะตากรรมหรือ การกระทำนั้นก็ คือความคิดของคุณ เมื่อใดที่คุณรู้เท่าทันความคิดในหัวคุณแล้ว คุณก็สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของคุณได้ ดังนั้นขบวนการเปลี่ยนวิธีคิดเพื่อการทำงานที่น่าเบื่อ ให้กลายเป็นการทำงานอย่างมีความสุขนั้นจะเริ่มต้นที่
    • ใจของคุณก่อน ด้วยการพิจารณาว่าทำไมคุณถึงเลือกที่จะทำงานนี้ด้วยความสมัครใจ หรือเพราะไม่มีทางเลือก
    • ถ้าคุณไม่สามารถเปลี่ยนไปทำงานที่คุณต้องการได้…เป้าหมายในการทำงานของคุณคือ กำลังสั่งสมประสบการณ์
    • มองหาข้อดี หรือสิ่งที่ทำให้คุณสนุก หรือมีความสุขในการทำงาน จากเพื่อนร่วมงาน จากตัวงาน หรือจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน
    • จงคิดอยู่เสมอว่างานที่คุณทำนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ที่นำมาซึ่งความมสุข และความรุ่งเรืองในอนาคต
    • เมื่อคุณให้ความสำคัญกับการทำงานของคุณ ผลงานที่ได้ก็จะออกมาดี
    • เมื่อคุณทำงานเสร็จ และมีผลงานดีีทุกครั้งจนติดเป็นนิสัย จนกลายเป็นความเคยชิน
    • ความเคยชินจะทำให้คุณรักในสิ่งที่คุณทำ คุณก็จะสร้างสรรค์งานที่ดีเยี่ยมออกมา
    • จนในที่สุดคุณก็จะพบกับความสุขในการทำงานอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
    [​IMG]
    หลักการสำคัญที่ผมอยากให้คุณจดจำให้ขึ้นใจก็คือ… หมั่นตรวจสอบความคิด…ตรวจสอบการกระทำ….และทัศนคติที่คุณมีต่องาน หรือธุรกิจที่คุณทำอยู่เสมอ เพราะ “ความคิดกำหนดการกระทำ …การกระทำกำหนดนิสัย… นิสัยกำหนดความเคยชิน…ความเคยชินกำหนดชะตากรรม…” ผมคิดว่า วิธีคิด เพื่อการทำงานอย่างมีความสุข นี้จะทำให้โรคเกลียดวันจันทร์ของทุกคนหายไปได้นะครับ ปรับความคิด…เปลี่ยนการกระทำ…ลงมือทำจนติดเป็นนิสัย แล้วทุกวันทำงานของคุณจะกลายเป็น “วันสุข” มากกว่าจะนั่งรอให้ถึงวันศุกร์ อีกต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤศจิกายน 2011
  13. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=FnezPzhKBSo]วัดป่าสุคะโต. watpasukato. saiyapoom thailand - YouTube[/ame]
     
  14. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=xJompwtlra8&NR=1]วัดป่าสุคะโต 2, Wat Pa Sukato 2 - YouTube[/ame]
     
  15. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=FQmSQb192AU]วัดป่าสุคะโต 3, Wat Pa Sukato 3 - YouTube[/ame]
     
  16. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=noFDS2wk51s]วิธีการเจริญสติ โดย หลวงพ่อเทียน - YouTube[/ame]
     
  17. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=XRJZx7EOJa0]ความจริงไม่มีใครทุกข์ - YouTube[/ame]
     
  18. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=P3dgwdZ5rLk]สาเหตุแห่งทุกข์ - YouTube[/ame]
     
  19. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [​IMG]



    สมาธิแบบเคลื่อนไหว


    หลวงพ่อเทียน จิตะสุโภ สมัยที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่พระอาจารย์มุ่งสอนคือการเจริญสติในรูปแบบของกายเคลื่อนไหว ถือเป็นหัวใจหลักในการสอน หลวงพ่อสอนฉีกแนวการทำสมาธิรูปแบบที่เราคุ้นเคยกันมาเป็นที่แปลกใจของผู้ที่พบเห็น และเป็นผลประจักษ์แก่ผู้ทดลองปฏิบัติ หลวงพ่อท่านเพียรพยายามสอนร่วม 27 ปีก่อนที่จะละสังขาร<SUB> </SUB><SUB></SUB>

    <SUB></SUB>การเจริญสติ การเจริญปัญญานั้น เรียกว่า เจริญวิปัสสนา
    การเจริญวิปัสสนานี้ มันเป็นขั้นปัญญา ไม่ใช่เป็นการรักษาศีล ให้ทาน หรือการทำสมถกรรมฐาน คนเราส่วนมากไม่สนใจเรื่องสติ หรือเรื่องการเจริญวิปัสสนา จึงเข้าใจหลักพระพุทธศาสนานี่น้อยเกินไป ไม่เข้าใจอย่างแท้จริง แม้จะบวชมาแล้วก็ตาม ไม่เข้าถึงเนื้อแท้ของพระพุทธศาสนา

    พระพุทธองค์สอนเรื่องทุกข์นี้ หมายถึงอะไร ก็หมายถึงการสอนให้ไม่มีทุกข์นั่นเอง คนที่มีทุกข์ไปนิพพานไม่ได้ เพราะนิพพานมันเป็นเรื่องไม่มีทุกข์นั่นเอง ทุกข์คือความเดือดร้อน คือความโกรธ ความโลภ ความหลง หรือความพอใจ ความไม่พอใจนี่เอง

    พระพุทธองค์ท่านสรรเสริญเรื่องการเจริญสติ การเจริญสมาธิ เพราะสามารถดับทุกข์ได้ กิเลสมันไม่มีตัว ไม่มีตน จะไปหาสมุฎฐานมันได้ที่ตรงไหน เพราะมันไม่มีที่อยู่ มันไม่มีที่เกิด เรามองไม่เห็น เมื่อเราขาดสติแล้วมันก็เกิดขึ้นมาทันที พระพุทธองค์จึงสอนการเจริญสติ เพื่อควบคุมตน วิธีที่ทำง่ายๆ อย่างลัด คือ คอยกำหนดจิตและดูใจตน เมื่อเห็นสิ่งต่างๆ ควรรู้และเข้าใจ ตามความเป็นจริง เราไม่รู้จักนิพพาน มันก็ไปนิพพานไม่ได้ ไม่รู้จักสวรรค์ มันก็ไปสวรรค์ไม่ได้ พระนิพพานก็อยู่ที่ใจนี่ คำว่าใจนี้ มันไม่มีตัว ไม่มีตน เราจะไปมองดูที่หัวใจ มันมองไม่ได้ คือสำหรับจิตใจที่มันปรากฏ มันนึก มันคิดขึ้นมา มันซาบซ่านอยู่ทั่วตัว มันอยู่ที่ตรงไหน ไม่รู้ ไม่เห็น เพียงแต่เรามีสติมากำหนด ความคิดต่างๆที่คิดขึ้นมา เมื่อเรากำหนดรู้แล้ว ความคิดมันหยุด มันก็เลยไม่ได้ปรุง อันนี้เรียกว่า
    วิชชา แปลว่า รู้จริงๆ

    [​IMG][​IMG][​IMG] [​IMG]

    การภาวนาของหลวงพ่อใช้ความรู้สึก แทน ติง นิ่ง หลวงพ่อซึ่งผมนับถือเป็นพระอาจารย์รูปหนึ่ง ก็เพราะว่าผมนำมาฝึกแล้วได้ผลดีมากครับ เพียงฝึกครั้งแรกก็รู้สึกได้ทันที ผมฝึกได้ 7-9 ครั้งเองครับ ก็ไม่ได้ฝึกอีกเพราะขี้เกียจครับ ตอนนี้ผมมาเริ่มฝึกใหม่ ก็เพราะว่าวิธีการฝึกของพระอาจารย์นั้นง่าย และใช้เวลาน้อยเพียงแค่ทำการเคลื่อนไหว จับความรู้สึก 5-10 คาบเท่านั้น เพียงแต่ต้องทำโดยสม่ำเสมอแค่นั้นเอง คำว่าแค่นั้นเอง คือทุกวันน่ะครับ
    เมื่อพิจารณาถึงสมาธิรูปแบบอื่น เช่น กสิณ ก็ไม่เหมาะกับความเป็นฆราวาส เพราะตื่นนอนจะเพลีย คือพักผ่อนไม่เพียงพอ(ฆราวาสต้องทำงานน่ะครับ) แต่สมาธิแบบเคลื่อนไหวแบบหลวงพ่อท่านท้าเลย ว่าไม่เกิน 3 ปี เป็นเห็นผลคือได้ ญาณ นั่นเอง ต่างกับ ฌาน น่ะครับ ถ้าฌาน มุ่งเน้น อภิญญา ไม่ได้ว่า ฌานไม่ดีน่ะครับ
    อ้างอิง จากหนังสือ จิตหลุดพ้นแล้ว ฌานย่อม
    มีหลวงพ่อเทียน จิตตะสุโภ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤศจิกายน 2011
  20. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=8573ykqEkiQ]วชิรเมธี คาถากันน้ำตาไหล - YouTube[/ame]
     

แชร์หน้านี้

Loading...