มาดูสมเด็จกัน

คุณchaiyaput ผมต้องเรียนก่อนว่า พระที่พวกเราเช่าหากันมานั้น ก่อนเช่าเขาไม่ได้บังคับเรา เรามีเวลาศึกษาก่อนตามความชอบ ดูอย่างเดียวก็ไม่เสียสตางค์ เขาให้เราดู เราก็ดูให้พอใจ หากไม่มั่นใจหรือคิดว่าเราดูไม่เป็น ก็ไม่ควรเสียเงินเช่ามานะครับ อันนี้เป็นหลักการของผม และยังนำไปใช้ ได้ประสบการณ์ที่ดีด้วย

พระที่ส่งมาเอาแค่เนื้อหามวลสาร ก็ไม่ถูกต้องแล้วครับ ส่วนทรงพิมพ์ก็ไม่ต้องดู เนื่องจากเหตุไม่ดี ผลย่อมจะไม่ดีตามมาด้วย

เนื้อนี้ก็เป็นครูของเรา เราจะไม่หยิบเนื้อลักษณะนี้อีกนะครับ

อนุโมทนา

 

คุณmansung ดูกระทู้นี้มาตั้งแต่แรก ผมเชื่อว่าคุณ น่าจะมีความเข้าใจในเรื่องพระสมเด็จติดตัวไปไม่มากก็น้อย ก็ขอให้มีความเข้าใจ และความสำเร็จตามความมุ่งมั่นที่ปรารถนาไว้นะครับ

 

องค์นี้ไม่ผ่านครับ ผมว่าทรงพิมพ์ไม่ถูกต้องครับ ส่วนเนื้อมวลสารก็ยังดูใหม่ครับ



ส่วนพระสมเด็จองค์นี้ ต้องเรียนว่าสวยมากครับ ถึงจะไม่สามารถเห็นเนื้อมวลสารได้ก็จริง แต่ทรงพิมพ์ขององค์นี้แท้อย่างไม่มีที่ติ การแกะพิมพ์ เป็นการแกะที่เป็นธรรมชาติมาก(หากมองอย่างช่าง) เนื้อด้านหลังอย่างนี้ผมก็มีเช่นกัน ผมเรียกหลังสังขยา คล้ายเนื้อของขนมสังขยามาก

สรุปว่าองค์นี้ต้องยกนิ้วให้ว่าสวยจริงๆครับ

 

ส่วนพระสมเด็จองค์นี้ ต้องเรียนว่าสวยมากครับ ถึงจะไม่สามารถเห็นเนื้อมวลสารได้ก็จริง แต่ทรงพิมพ์ขององค์นี้แท้อย่างไม่มีที่ติ การแกะพิมพ์ เป็นการแกะที่เป็นธรรมชาติมาก(หากมองอย่างช่าง) เนื้อด้านหลังอย่างนี้ผมก็มีเช่นกัน ผมเรียกหลังสังขยา คล้ายเนื้อของขนมสังขยามาก

สรุปว่าองค์นี้ต้องยกนิ้วให้ว่าสวยจริงๆครับ[/QUOTE]

ผมเจอกะทู้แบบนี้แล้วรู้สึกไม่ดียังไงไม่รู้ครับอาจารย์ WSB องค์นี้เห็นที่ไหนๆก็แท้ลงหนังสืออยู่หลายๆเล่ม แต่ไม่รู้ใครเป็นคนครอบครอง

ในวันนี้ผมจะขออนุญาติรบกวนขอความรู้เรื่อง "เงาสว่าง" ครับ ขอรบกวนอาจารย์ช่วยอธิบายให้ด้วยครับ
ปล.อันนี้เป็นตำราที่ผมใช้ศึกษาอยู่ครับ แต่ยังไม่เข้าใจเลยครับ

 

ผมเจอกะทู้แบบนี้แล้วรู้สึกไม่ดียังไงไม่รู้ครับอาจารย์ WSB องค์นี้เห็นที่ไหนๆก็แท้ลงหนังสืออยู่หลายๆเล่ม แต่ไม่รู้ใครเป็นคนครอบครอง

ในวันนี้ผมจะขออนุญาติรบกวนขอความรู้เรื่อง "เงาสว่าง" ครับ ขอรบกวนอาจารย์ช่วยอธิบายให้ด้วยครับ
ปล.อันนี้เป็นตำราที่ผมใช้ศึกษาอยู่ครับ แต่ยังไม่เข้าใจเลยครับ[/QUOTE]

เรื่องพระสมเด็จที่คุณหลานปากน้ำ นำมาโพสต์นั้น ผมเคยไม่แสดงความคิดเห็นมากระทู้หนึ่งแล้ว เพราะผมสืบค้นตามชื่อในgoogle แล้วไปพบว่าเป็นพระของเซียนที่ขายพระในเวป และผมไม่ทราบวัตถุประสงค์ว่าคิดอย่างไร หากผมไปตอบในทางลบ ก็จะส่งผลต่อผู้ค้าพระในเวปของเขา อันนี้จะกลายเป็นการสร้างความไม่พึงพอใจกันได้ในอนาตค แต่กระทู้ที่ผ่านมาผมยังไม่มีเวลาสืบค้น จึงตอบไป หากมีการลงในหนังสือพระอย่างนี้ ต้องกลับไปถามคุณหลานปากน้ำว่า มีวัตถุประสงค์ใดแอบแฝงหรือเปล่า หากเป็นไปได้ ผมขออนุญาตไม่ตอบข้อถามของคุณหลานปากน้ำนะครับ เพราะท่านไม่ได้นำพระที่ท่านมีมาถาม


การถ่ายภาพ มีการถ่ายแบบIndoor(ถ่ายในร่ม) และOutdoor(กลางแจ้ง)

ผมแนะนำให้เริ่มถ่ายแบบกลางแจ้ง เพราะแสงที่ได้รับจะมีความคมชัดมากกว่า โดยใช้ขาตั้งกล้องแบบถ่ายMarco

เมื่อมีความชำนาญดีแล้ว จึงหัดจัดแสงถ่ายในร่ม ลองปรับค่าของรูรับแสง และจดจำค่าของกล้องว่า มีความคมชัดที่จุดไหน รูรับแสงจะสัมพันธ์กับความเร็วชัตเตอร์ ผมว่าต้องลองสักพักก็จะรู้เองครับ

 

W a r n i n g !..(eek) ให้คุณหลาน...

 

thank you:VO:VO:VO



เรื่องพระสมเด็จที่คุณหลานปากน้ำ นำมาโพสต์นั้น ผมเคยไม่แสดงความคิดเห็นมากระทู้หนึ่งแล้ว เพราะผมสืบค้นตามชื่อในgoogle แล้วไปพบว่าเป็นพระของเซียนที่ขายพระในเวป และผมไม่ทราบวัตถุประสงค์ว่าคิดอย่างไร หากผมไปตอบในทางลบ ก็จะส่งผลต่อผู้ค้าพระในเวปของเขา อันนี้จะกลายเป็นการสร้างความไม่พึงพอใจกันได้ในอนาตค

 

เป็นไปตามนั้นครับ
ต้องการลองความเห็น และมาขอความรู้จริงๆ เพราะว่าผมเองก็ดูพระสายสมเด็จไม่ค่อยจะเป็น
จึงอยากให้วิเคราะห์ ภาพออกเป็นฉากๆอย่างที่เคยมีมา

ภาพส่วนใหญ่ที่ได้มาก็จากในเว็บทั้งนั้น
ยังไงก็กราบขอโทษและขอคมา คุณ วาซาบิด้วยนะครับ ยังไงต่อไปคงไม่มาขอให้ดูพระให้แล้วคงจะมานั่งอ่านอย่างเดียวแล้วที่นี้ ^^ ละอายครับ


ปล.ภาพหลังสมเด็จสังขยามาจากที่นี่นะครับ http://www.itti-patihan.com/images/stories/amulet/budd410.jpg




ส่วนภาพอีกอันมาจาก เว็บเพื่อนบ้านเรานี่เหละครับ DD pra
http://www.dd-pra.com/uploads/auction/2010/20100911/full/129286742803266366_1.jpg ต้องขอโทษทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะครับ


เดียวยังไงผมลบออกให้ละกันนะครับ

 

เอ......อีตา xlmen หายไปไหนหนอ..เงียบไปเลยนะ อิอิอิ

 

ขอบคุณพี่wasabi san มากครับ ผมต้องพยามศึกษาต่อไป ขอเรียนถามพี่ครับ เรื่องมวลสาร ในพระสมเด็จผมควรจะเริ่มศึกษายังไงดีครับ เพราะพยามศึกษาบางกระทู้ที่พี่โพสแนะนำเรื่องมวลสารแล้ว ก็ยังหลงทางเรื่องมวลสารอยู่ครับพี่

 

คุณหลานปากน้ำ ผมไม่ต้องการให้คุณคิดมาก ผมไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้เป็นความผิดร้ายแต่อย่างไร หวังว่าคุณคงเข้าใจผมนะครับ การเรียนรู้บางครั้ง อาจจะสร้างความเดือดร้อนถึงผู้อื่นได้ หากเราไม่ระวัง

การที่คนในสังคมนี้มีทั้งดี และไม่ดี เราจะสงเคราะห์ให้ทุกคนนั้น เป็นไปไม่ได้ บางครั้งกรรมส่งผล ทั้งดี และไม่ดี ก็ทำให้ผู้ที่ค้าพระได้เงิน เนื่องจากผู้เช่าบูชาขาดประสบการณ์ หรือผู้ค้าอาจพระเสียโอกาส เนื่องไม่ชำนาญในพระนั้นก็เป็นได้ ในฐานะที่ผมเปิดการวิจารณ์พระสมเด็จ ผมไม่ต้องการทำลายโอกาสของทั้งผู้ให้เช่า และผู้เช่า หากนำการตัดสินของผมไปใช้ พูดง่ายๆตามภาษาธรรม คือ ไม่ต้องการสร้างกรรมใหม่ร่วมกับผู้อื่นโดยไม่จำเป็น เพราะจะกลายเป็นบ่วงกรรมในอนาคต(วัฏสงสาร)โดยไม่รู้จักจบจักสิ้น เนื่องจากผลของการสร้างกรรมใหม่โดยไม่เจตนานั่นเอง

 

การศึกษาเืรื่องมวลสาร ควรจะหาผู้รู้ที่มีพระสมเด็จองค์จริงมาถ่ายทอด เนื่องจากผมเองก็ศึกษามาอย่างนี้ หากได้ศึกษาองค์พระสมเด็จจากของจริง จะสามารถบอกขนาดที่แน่ชัด มวลสารที่ถูกต้อง ว่าคนเขาดูกันอย่างไร ภาพที่ถ่ายมาลงหนังสือก็พอจะช่วยได้นะครับ แต่ต้องเลือกหน่อยว่าจะดูเล่มไหน ส่วนหนังสือพระผมไม่ถนัดที่จะแนะนำ เนื่องจากในใจลึกๆผมยังมีอคติอยู่ เพราะบางเล่มที่เคยเห็น เขียนเพื่อสร้างภาพก็มี อธิบายความไม่กระจ่าง บางครั้งผู้รู้ที่สอนผมยังให้เคล็ดลับมากกว่าในหนังสือหลายเท่า จึงทำให้ผมไม่ค่อยอ่านหนังสือพระสักเท่าไหร่(แทบไม่ซื้อเลย) ผู้เขียนบางท่านก็เป็นนัก Copy จากหนังสือเก่าๆ ฉนั้นศึกษาจากผู้รู้จริงจะดีกว่าครับ

 

เรียนคุณ wasabi san และคุณ xlmen จากภาพที่ได้เคยวิเคราะห์พระพิมพ์นี้มา ผมขออนุญาติถามปัญหาหนึ่งข้อครับ ( ผมถามเอง เจ้าของพระ เขายิ้มเผล่ไปนานแล้ว )
กล่าวคือ คราบสีเทาที่ด้านหลังซึ่งเห็นได้ชัดเจน และมากนั้น ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรครับ เป็นมวลสาร หรือสี หรือดินโคลน หรือเกิดจากปฏิกริยาใด เช่นจากน้ำอ้อยเคี่ยว หรือตังอ๊ว หรือส่วนผสมใดของท่านครับ รบกวนด้วยครับ เพื่อเป็นความรู้ อนุโมทนาครับ ขอบคุณมากครับ

 

แหะๆ ต้องขอโทษด้วยครับ ออกจะเปลืองโพสไปหน่อย คราบสีเทาที่ถามนั้น คือผงธูป ใช่ไหมครับ ลืมใส่ไปโพสแรก ผมเองพยามยามฝึก และค้นหาความรู้จากคุณ wasabi san และคุณ xlmen ก็ได้ความรู้แท้จริงที่นี่แหละครับ ขอบคุณครับ

 

ท่านใดมีวิธีถ่ายรูปกลางคืนให้ชัดไหมครับ ผมลองถ่ายปรับโน่นนี่แล้วยังเบลอ ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณพี่wasabi san มากครับ ที่ชี้แนะ ปัญหาคือผมจะไปหาผู้รู้ที่ไหนสอนดีหล่ะทีนี้

 

คราบด้านหน้า-ด้านหลัง น่าจะเป็นคราบน้ำผึ้ง และคราบผิวปูนทั้งปูนหิน และปูนเพชร ลักษณะเกิดจากปฏิกิริยาของพระที่ผ่านการใช้อย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานานพอสมควร โดยเหงื่อของมนุษย์ที่มีความเป็นด่าง เมื่อรวมกับพลาสมา(Plasma)ในร่างกายที่ซึมเข้าในมวลสาร เกิดเป็นเนื้อปูนตาย สีขององค์พระจะนวลคล้ายสีของน้ำผึ้ง บางส่วนที่ปูนแปลงสภาพเป็นสีออกขาวสลับน้ำตาล และเกิดความหนึกนุ่ม ตามธรรมชาติ

 

คุณทรงกด555 ผมแนะนำว่าต้องใช้ขาตั้งกล้อง เพื่อไม่ให้ภาพสั่นไหวครับ

 

เชื่อผมหรือเปล่าไม่รู้ คุณต้องน้อมจิตในทางธรรมมากๆ หมั่นสวดมนต์ภาวนา ปฏิบัติธรรม แล้วอธิฐาน แล้วสิ่งที่ปรารถนาก็จะเริ่มปรากฏกับคุณเอง และสิ่งที่เราไม่เชื่อต่างๆนานา ก็จะถูกทำลายลงไปเอง ดีไม่ดีพระที่เราเคารพที่มีอายุหลายร้อยปี ก็จะมาโปรดเราเอง(ผมไม่ได้กล่าวเกินความจริงนะครับ) เรื่องเรียนรู้พระสมเด็จ จะเป็นเพียงเรื่องที่ไม่ยากนัก เมื่อเทียบกับบุญที่เราได้สร้างไว้ พระท่านก็สงเคราะห์เราเองตามกรรมที่เราทำเอาไว้

พระดี คนดี คู่กัน

 

เรียนคุณ wasabi san พระสมเด็จองค์นี้ เคยเอามาถามแล้ว และคุณwasabi san บอกว่า เป็นพระสมเด็จวัดระฆัง ฝากกรุวัดบางขุนพรม แต่ผมก็ดูไม่ค่อยมีคราบกรุเท่าไร ก็เลยขออนุญาติถามว่า ในการพิจารณาคราบกรุของพระสมเด็จองค์นี้เพื่อเป็นความรู้ครับ ด้วยความเคารพ