มีวัตถุมงคลสายพระป่ากรรมฐานให้บูชาราคาเบาๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Somchai 2510, 8 กันยายน 2019.

  1. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 238 ล็อกเก็ตฉากฟ้าปลอดภัยครอบจักรวาลหลวงปู่สอ พันธุโล พระอรหันต์เจ้าวัดป่าบ้านหนองเเสง อ.เมือง จ.ยโสธร สร้างปี 2550 สร้างเนื่ององค์หลวงปู่อายุครบ 86 ปี หลังล็อกเก็ตฝังตะกรุด 1 ดอกฝังฝ้ายเจ็ดสี,เเละฝังพระเกศาหลวงปู่สอ
    >>>>>ประวัติย่อๆพอสังเขป "พระครูภาวนากิจโกศล" หรือ "หลวงปู่สอ พันธุโล" วัดป่าบ้านหนองแสง ต.สิงห์ อ.เมือง จ.ยโสธร พระป่ากัมมัฏฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธา
    เกิดในสกุลขันเงิน เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 8 ปีระกา ตรงกับวันที่ 7 ก.ค. 2464 ที่บ้านทุ่งมน ต.ทุ่งมน อ.ลุมพุก (คำเขื่อนแก้ว) จ.อุบลราชธานี มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 2 คน เป็นชายทั้งหมด ท่านเป็นบุตรชายคนโต

    ในสมัยหนุ่มเป็นฆราวาสนั้น นายสอเป็นคนที่ชอบสนุกสนานร่าเริง เข้ากับหมู่คณะได้ทุกคน ขณะเดียวกันยังเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีความสามารถในการกล่าวกลอนสด (ผญา) เป็นที่ชอบใจของผู้ฟัง แม้เรียนจบเพียงแค่ชั้น ป.3
    ถึงจะชอบสนุกสนานรื่นเริง แต่มีนิสัยประจำตัวอย่างหนึ่งคือ ความอดทน ความขยันหมั่นเพียร นับว่าเป็นคุณสมบัติอันสำคัญยิ่ง ที่ส่งผลให้การทำความเพียรของท่านในภายหลังจากอุปสมบทแล้วมีความเด็ดเดี่ยวมั่นคงและเจริญก้าวหน้าไปโดยลำดับ
    กระทั่งอายุประมาณ 20 ปี แต่งงานกับนางบับ หญิงสาวชาวบ้านเดียวกัน
    หลังจากแต่งงานมีครอบครัว ด้วยความเป็นหัวหน้าครอบครัวทำให้ต้องตื่นแต่เช้า ขยันทำการงาน หนักเอาเบาสู้ โดยหวังจะให้ภรรยาและลูกๆ มีความสุข บางครั้งต้องเดินทางรอนแรมไปต่างจังหวัดเพื่อหาเงินมาจุนเจือเลี้ยงครอบครัว
    ต่อมาท่านเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิต ตัดสินใจบอกภรรยาว่าจะขอออกบวช
    ในปีพ.ศ.2496 ขณะอายุ 32 ปี นายสอเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เป็นครั้งแรก ที่พัทธสีมา วัดสร่างโศก (วัดศรีธรรมาราม) ต.ในเมือง อ.ยโสธร จ.อุบลราช ธานี มีพระครูปลัดบุญสิงห์ เป็นพระอุปัชฌาย์
    ภายหลังอุปสมบทพระสอมีความพอใจมาก มีความปลอดโปร่ง เกิดความสงบเยือกเย็น มองเห็นชีวิตแห่งการบวชเป็นทางที่จะแสวงหาความสุขได้อย่างแท้จริง
    ในการบวชครั้งนี้ท่านพยายามจะทำตามกำหนดเวลาของภรรยา คือบวช 15 วัน แต่ในขณะที่บวชอยู่นั้นมีความรู้สึกสบายกายสบายจิต คิดว่าจะบวชให้นานที่สุด และท่านก็ได้ขอผัดผ่อนภรรยาเรื่อยมา
    สุดท้ายเมื่อครบ 15 วันท่านก็ไม่ได้สึกตามที่ภรรยากำหนดไว้ จึงทำให้ท่านอยู่ในเพศบรรพชิตและปฏิบัติธรรมแสวงหาควพ.ศ.2496 ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหนองแสง ต.สิงห์ อ.เมือง จ.ยโสธร ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ (ปัจจุบันอยู่วัดป่าบ้านนาคู) เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้แนะนำสั่งสอนข้อวัตรปฏิบัติ ตลอดถึงในการอบรมด้านสมาธิภาวนา
    แต่ด้วยสาเหตุจากครอบครัวทำให้จำใจต้องลาสิกขา แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ท่านก็ตั้งใจว่าเมื่อมีโอกาสจะกลับมาบวชอีก
    พ.ศ.2501 อุปสมบทอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2501 ขณะมีอายุ 37 ปี ที่พัทธสีมา วัดศรีธรรมาราม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ยโสธร โดยมี พระครูปลัดบุญสิงห์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสังฆรักษ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระมหาสาย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า พันธุโล
    เมื่อได้อุปสมบทแล้วหลวงปู่สอพยายามฝึกฝนอบรมตัวเองด้วยการทำข้อวัตรปฏิบัติและฝึกสมาธิภาวนาอย่างสม่ำเสมอ ท่านได้เร่งประกอบความเพียรมากขึ้นโดยลำดับ
    ครั้นมีปัญหาอุปสรรคจากการภาวนาท่านจะเข้าไปกราบเรียนขอคำแนะนำจากครูบาอาจารย์ผู้ที่เคารพนับถืออยู่เสมอ พระมหาเถระที่หลวงปู่ท่านให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง และไปพักปฏิบัติธรรมรับการแนะนำสั่งสอนจากท่านเป็นประจำคือ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    นอกจากนี้ยังมีครูบาอาจารย์ที่เคยเดินทางไปธุดงค์ด้วยกัน อาทิ หลวงปู่สาม อกิญจโน หลวงปู่บัวพา วัดป่าพระสถิตย์ หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ และ หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร เป็นต้น
    สุดท้ายได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองแสง ต.สิงห์ อ.เมือง จ.ยโสธร และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส
    พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่พระครูภาวนากิจโกศล
    ด้วยวัยชราภาพหลวงปู่สอมีอาการอาพาธเป็นประจำ ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลยโสธร
    จนกระทั่งวันที่ 8 พ.ย.2552 เวลา 15.47 น. หลวงปู่สอมรณภาพด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต สิริอายุ 88 ปี 4 เดือน 4 วัน พรรษา 51

    หลวงปู่สอเป็นศิษย์หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด หลวงปู่ท่านเป็นพระที่มีอุปนิสัยเด็ดเดี่ยวอาจหาญมากๆท่านปฏิบัติจริงชนิดยอมตายได้ถ้าไม่บรรลุธรรม และสิ่งที่เป็นสิ่งที่เป็นบุญวาสนาที่หลวงปู่สอมีไว้ได้แก่ " องค์หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ " ที่เป็นพระที่ได้จากสมาธิและเป็นพระที่เป็นคุณอันวิเศษอย่างยิ่งและเป็นที่พึ่งของคนไทยทั้งประเทศ ( โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงโปรดให้หล่อหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ขนาด 99 " ไว้ในทุกๆเขื่อนของประเทศ
    ในส่วนภูมิธรรมของหลวงปู่สอ ท่านหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโณท่านได้กล่าวไว้ว่า " ท่านหลวงปู่สอ พัลธุโล ท่านเป็นพระที่บริสุทธิแล้วและท่านไม่เกิดอีกแล้ว " และที่พิเศษก็คือ เกสา และเล็บของหลวงปู่สอ ท่านแปรเป็นพระธาตุแม้ชีวิตท่านยังไม่สิ้นเลยก็ตาม (>>>>หมายเหตุ.....หลวงปู่สอก็เป็นพระอีกองค์ี่ผมเคยไปนวดรับใช้ท่านมาเเล้วครับ)>>>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาด้วยครับ *********บูชาที่ 425 บาทฟรีส่งems sam_6896-jpg-jpg.jpg sam_6897-jpg-jpg.jpg sam_6884-jpg-jpg.jpg sam_6885-jpg-jpg.jpg sam_1040-jpg-jpg.jpg sam_3774-jpg-jpg.jpg
     
  2. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 239 เหรียญกลมรุ่นสมปรารถนาหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต พระอรหันต์เจ้าวัดสวนทิพย์ (ซอยวัดกู้) อ.ปากเกร็ด จ,นนทบุรี หลวงปู่บุญฤทธิ์เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เนื้อทองฝาบาตร มีตอกโค๊ต คำว่า จิต หลังเหรียญ >>>>>ประวัติย่อๆพอสังเขปหลวงปู่บุญฤทธิ์
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ มีนามเดิมว่า บุญฤทธิ์ จันทรสมบูรณ์ เป็นบุตรชายของหลวงพินิจจินเภท กับ คุณแส จันทรสมบูรณ์ ท่านเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2458 ที่บ้านท่าอิฐ ต.ท่าอิฐ อ.พิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ ในวัยเยาว์ มารดาเป็นผู้มีความศรัทธาในพุทธศาสนา รวมถึงเคยเข้ารับการอบรมในวัง จึงถ่ายทอดลักษณะนิสัย ระเบียบชีวิต แนวคิดต่างๆ ให้หลวงปู่ สอนให้หลวงปู่สวดมนต์ไหว้พระ อ่านหนังสือธรรมะจนติดเป็นนิสัย

    160202-3-2-jpg-jpg-jpg.jpg

    ในอดีตท่านเป็นนักศึกษาปริญญาจากต่างประเทศ เป็นข้าราชการหนุ่มอนาคตสดใส ครั้งอายุ 10-11 ปี ถูกส่งตัวเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเซ็นคาเบรียล กรุงเทพฯ รุ่นที่ 1 อาศัยอยู่กับคุณพระโสภณเพชรรัตน์ จนจบม.8 ภาษาฝรั่งเศส หลวงปู่บุญฤทธิ์ เคยได้รับรางวัลประกวดเรียงความชนะเลิศจาก จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ซึ่งเป็น รมต.กลาโหมสมัยนั้น จากนั้นได้สอบชิงทุน (กพ.) ได้ไปศึกษาต่อที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม พ.ศ. ๒๔๗๕ กลับจากเวียดนามรับราชการที่หอสมุดแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และภายหลังเป็นทูตที่พระตะบอง

    44521372_2427482870612125_1041978200088903680_n-jpg-jpg-jpg.jpg
    แต่ด้วยความเลื่อมใสปฏิปทาพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงลาออกจากราชการแล้วออกบวช โดยบรรพชาอุปสมบทในปี 2489 ที่วัดศรีเมือง จ.หนองคาย และปฏิบัติธรรม ออกธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาโดยตลอด จนกลายเป็นศิษย์ของ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม และจำพรรษาด้วยกัน อุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่ชอบอยู่หลายเดือน จากนั้น หลวงปู่บุญฤทธิ์ ได้เป็นพระธรรมทูต เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศกว่า 30 ปี เช่น เม็กซิโก สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ จีน เยอรมัน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ซึ่งหลวงปู่พูดได้ถึง 6 ภาษา กระทั่งจำพรรษาที่สำนักปฏิบัติธรรมสวนทิพย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนมีอาการอาพาธ ต้องรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง และได้ละสังขารเมื่อวันที่ 14 พ.ย. เวลา 22.22 น. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สิริอายุ 104 ปี
    “หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต” ละสังขารเข้าอนุปาทิเสสนิพพาน ปี2561 สิริอายุ 104 ปี
    เปิดคำสอนสุดท้ายของ “หลวงปู่บุญฤทธิ์” ทุกสิ่งล้วนมีสังขาร >>>>>>>>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาด้วยครับ ********บูชาที่ 405 บาทฟรีส่งems(หายากเเล้วครับวัตถุมงคลหลวงปู่) sam_7255-jpg-jpg.jpg sam_1439-jpg-jpg.jpg sam_7717-jpg.jpg sam_7718-jpg.jpg sam_7719-jpg.jpg
     
  3. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 240
    รูปหล่อเหมือนลอยองค์หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม พระอรหันต์เจ้าวัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ หลวงปู่เป็นศิษย์หลวงปู่ดุล อตุโล รูปหล่อเหมือนสร้างปี 2554 เนื้อโลหะผสมรมดำ สร้างเนื่ององค์หลวงปู่อายุครบ 84 ปี มีตอกโค๊ต 3 โค๊ต โค๊ตตัวเลข 4263 เเละโค๊ต อักษร ล ใต้องค์พระ เเละโค๊ตตัวเลข 54 หลังองค์พระ มาพร้อมกล่องเดิม พระดีที่ควรกราบไหว้รูปหนึ่งในเวลานี้คือ หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม หรือ พระราชปัญญาวิสารัท เจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต)....>>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาด้วยครับมาพร้อมกล่องเดิม********บูชาที่ 305 บาฟรีส่งems
    .........ประวัติย่อพอสังเขปหลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม ท่านเป็นศิษย์อาวุโสรูปหนึ่งของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร และพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) วัดรังสีปาลิวัน จ.กาฬสินธุ์ หลวงปู่เหลืองมีนามเดิมว่า เหลือง ทรงแก้ว ท่านเกิดในยามใกล้รุ่งของวันอังคารที่ 1 พ.ค. ปี พ.ศ. 2470 ที่บ้านนาตรัง หมู่ที่ 2 ต.เขวาสินรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นบุตรคนที่ 6 ในครอบครัวของนายเที่ยง ทรงแก้ว และนางเบียน ทองเชิด หลังเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ขณะอายุได้ 15 ปี แล้วออกจาริกเดินตามหลังพระพี่ชายไปตอนอายุ 16 ปี หลังจากนั้นชีวิตของหลวงปู่เหลืองก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ด.ช.เหลือง ออกจากบ้านเดินตาม พระครูสมุห์ฉัตร ธมฺมปาโล และพระอาจารย์สมุห์เสร็จ ญาณวุฑโฒ 2 ภิกษุศิษย์หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “มือขวา” ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ไปใน พ.ศ. 2486 จากสุรินทร์ไปถึงนครราชสีมา ไปฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ระยอง
    ด้วยอายุเพียงเท่านั้นแต่ท่านมีบุญได้พบครูบาอาจารย์แล้วหลายรูป อาทิ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พระผู้สรุปอริยสัจ 4 จากการปฏิบัติไว้ชนิดคนสามัญขนานนามท่านว่า เจ้าแห่งจิต ท่านพ่อลี ธมฺมธโร แห่งวัดป่าคลองกุ้ง ฯลฯ รวมทั้งได้มอบกายถวายใจเป็นศิษย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ท่านเล่าถึงวันคืนในอดีตครั้งไปกราบท่านพ่อลีที่วัดป่าคลองกุ้งว่า “ตอนนั้นวัดป่าคลองกุ้งยังเป็นป่าอยู่ ต้นไม้ใหญ่ๆ มีศาลทำบุญไม้หนึ่งหลังและกุฏิกรรมฐานเล็กๆ ตั้งอยู่ตามโคนต้นไม้ เงียบสงัด พระฉันแล้วก็เข้ากรรมฐานหมด ไม่เพ่นพ่านรุ่งเรืองเหมือนสมัยนี้ ไปพักอยู่กับท่าน 1 เดือน ...บอกกับท่านว่าจะขอธุดงค์ต่อไปทางบ่อไพลิน เข้าสู่แดนเขมร ท่านพ่อลีก็ห้าม ตอนนั้นปลายสงครามโลก เหตุการณ์ยังไม่ปกติ เกรงจะเป็นอันตราย แต่พระอาจารย์ฉัตรพี่ชายก็จะขอไปให้ได้ก็ต้องยอมผ่อนผันให้ไป ท่านพ่อลีเมตตาอาตมามากเพราะยังเป็นเด็ก กลัวจะลำบาก ท่านเลยบอกว่า จะให้คาถากันตัว สั่งให้ท่องไว้ตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวเสือช้างอะไรทั้งสิ้น
    คาถาของท่านยังจำได้จนถึงบัดนี้ว่า นะบัง โมบัง พุทโธบังหน้า ธัมโมบังหลัง”
    สภาพบ้านเมืองในเวลานั้นช่างต่างจากเวลานี้นัก
    ท่านว่าใช้เวลาเดิน 3 คืนบุกป่าฝ่าดงจากจันทบุรีถึงทะลุถึงบ่อไพลิน ตามรายทางนั้น “เห็นพลอยเกลื่อนกลาด แต่ไม่ได้เก็บเพราะอาจารย์ฉัตรท่านว่า เรามาธุดงค์แสวงบุญไม่ได้มาหาเพชรพลอย”
    การธุดงค์จบลงด้วยการย้อนกลับมาที่ วัดป่าศรัทธารวม จ.นครราชสีมา
    ณ พ.ศ.นั้น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร กำลังเป็นสดมภ์หลักในการบุกเบิกขยายวงพระกรรมฐานโดยใช้ จ.นครราชสีมา เป็นฐาน โดยท่านเองรับเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้อยู่ถึง 12 ปีคือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2475-2487 ช่วงเวลานั้น วัดป่าศรัทธารวมซึ่งเป็นป่าช้าเก่าเป็นศูนย์รวมของพระกรรมฐานจำนวนมากไม่ว่า พระมหาปิ่น ปัญญาพโล หลวงปู่เทกส์ เทสรังสี หลวงปู่ภุมมี ฐิตธัมโม หลวงปู่หลุย จันทสาโร หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ ฯลฯ หลวงปู่เหลืองเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ฝั้น ขณะอายุ 17 ปี หรือราวช่วง พ.ศ. 2486-2487 โดยบรรพชาเป็นสามเณรที่ วัดสุทธจินดา จ.นครราชสีมา มีพระโพธิวงศาจารย์ (สังข์ทอง นาควโร) หรือเจ้าคุณโพธิฯ เป็นพระอุปัชฌาย์
    ลุถึง พ.ศ. 2490 จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธมฺมธโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ณ วัดป่าศรัทธารวมนั่นเอง
    “ไทยดำ” ผู้เคยเขียนประวัติหลวงปู่เหลืองลงในนิตยสารโลกทิพย์ ฉบับเดือน ธ.ค. 2530 เคยเรียนถามท่านว่า ระหว่างอยู่กับหลวงปู่ฝั้นนั้นหลวงปู่ฝั้นสอนอย่างไรบ้าง หลวงปู่เหลืองตอบทีเดียวเป็นความ 4 ประโยค แต่ครอบคลุมพระไตรปิฎกหมด 90 เล่ม ความนั้นมีว่า
    ท่านสอนง่ายๆ ว่า “ประสูติ หมายถึง ลมเข้า
    พระวินัย หมายถึง ลมออก
    ปรมัตถ์ หมายถึง ผู้รู้ลมเข้าลมออก
    เป็นอันจบพระไตรปิฎก นอกนั้นเป็นแต่กิ่งก้าน”
    การได้อยู่ที่ จ.นครราชสีมา ณ พ.ศ.นั้นเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้ได้พบและศึกษากับพ่อแม่ครูอาจารย์จำนวนมาก ซึ่งท่านเหล่านั้นกระจายกันอยู่หลายแห่ง อาทิ วัดป่าสาลวัน วัดสุทธจินดา วัดสว่างอารมณ์ ฯลฯ แต่รูปที่อัธยาศัยต้องกันมากที่สุดและจะมีผลต่อชีวิตของท่านในกาลข้างหน้าคือ พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล)
    เวลานั้น พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) รับภาระการบริหารคณะสงฆ์เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายธรรมยุต ท่าน|ทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังสติปัญญาจนทำให้การของคณะสงฆ์เป็นปึกแผ่น แต่ยศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ ก็เหนี่ยวรั้งท่านให้ห่างหายจากการปฏิบัติได้ไม่ กลับเตือนตนอยู่ตลอดเวลาว่า “การคลุกคลีกับหมู่คณะมากเกินไปทำให้เป็นผู้ประมาท...”
    เพราะตระหนักเช่นนั้นจึงมักจะปลีกตัวออกวิเวกเป็นครั้งคราวอยู่เสมอ ก่อนจะตัดสินใจทิ้งพัดยศออกปฏิบัติอย่างเดียวใน พ.ศ. 2498 นั้น ครั้งหนึ่งท่านชวนหลวงปู่เหลือง ซึ่งยังเป็นพระหนุ่มอยู่ในขณะนั้นออกไปปฏิบัติอยู่ในป่า จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของท่าน
    ท่านทั้งสองอยู่ด้วยกันสองคนหนึ่งพรรษา จากนั้นพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) ก็ต้องกลับมารรับภาระทางการคณะสงฆ์ต่อ ขณะที่หลวงปู่เหลืองได้พำนักและภาวนาอยู่ในสำนักสงฆ์กลางป่า อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ต่อเนื่องไปอีกถึง 7 ปี ต่อมาป่าแห่งนั้นได้รับการพัฒนากลายเป็น วัดป่ารังสีปาลิวัน ซึ่งเป็นถิ่นพำนักของพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) จนท่านละสังขาร เมื่อ พ.ศ. 2543
    ตลอดเวลาที่อยู่นั้น พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) ก็จะแวะเวียนมาภาวนาอยู่ ณ สำนักสงฆ์แห่งนั้นและช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ให้ชาวบ้านได้อาศัยแหล่งน้ำ ฯลฯ มาตลอด โดยมีหลวงปู่เหลืองเป็นผู้ช่วย แม้แต่เมื่อตัดสินใจออกจาริกอีกครั้งหลังอยู่ที่นั่นมาแล้ว 7 ปีก็เป็นการออกจาริกโดยมีพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) เป็นผู้นำ ท่านทั้งสองจาริกในถิ่นต่างๆ มีประสบการณ์ในภาวนาอันพิสดารหลายอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะที่ถ้ำขันตี ซึ่งอยู่ในเทือกเขาภูพาน ท่านว่า การภาวนา ณ สถานที่แห่งนั้นทำให้มีความก้าวหน้าอย่างมาก ขณะเดียวกันท่านทั้งสองก็ผ่านเป็นผ่านตายมาพร้อมกันด้วย กล่าวคือ พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) เป็นไข้ป่าเกือบจะเสียชีวิต ก็ได้หลวงปู่เหลืองดูแล พอหลวงปู่เหลืองเองล้มเจ็บเพราะไข้ป่าก็ได้ “เจ้าคุณอาจารย์” เป็นคนรักษา ท่านกล่าวถึงความทุกข์ยากในเวลานั้นว่า “แต่ก่อนที่อาตมาจะเป็นไข้นั้น ท่านเจ้าคุณเป็นมาก่อน เมื่อสองอาทิตย์ก่อน เรียกว่าเป็นมากทีเดียว จนเพ้อ ยาก็ไม่มีรักษา ท่านมีสติสั่งว่า ถ้าท่านตายก็ให้เผาที่นี่ แล้วกวาดขี้เถ้าทิ้งลงเขาไป อย่าเอาไปลำบากเพราะไม่ใช่ตัวตนอะไรของเรา อีกอย่างหนึ่งแม้ท่านจะลาออกจากตำแหน่งแล้วแต่พัดยศอยู่ที่กุฏิ ยังไม่ได้ส่งคืน ขอให้จัดการเอาไปคืนด้วยซึ่งทำให้ประทับใจในตัวท่านมาก ท่านไม่เคยแสดงความพรั่นพรึงต่อการมรณะเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องตาย...ถึงตาอาตมาบ้าง...ท่านเจ้าคุณก็ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เราฝากผีฝากไข้กันมาอย่างนี้” เพราะฝากผีฝากไข้ ผ่านเป็นผ่านตายร่วมกันมา จึงไม่แปลกที่ต่อมาเมื่อ พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) อาพาธ เนื่องจาก|เส้นเลือดฝอยในสมองแตกในปี 2527 ทำให้อวัยวะเบื้องขวาเป็นอัมพาต ใครนิมนต์ไปปฏิบัติอุปัฏฐากที่ไหนท่านก็ไม่ไป แต่เมื่อหลวงปู่เหลืองนิมนต์ ท่านรับ
    ทุกวันนี้หลวงปู่เหลือง รับภาระการบริหารคณะสงฆ์เป็นเจ้าเข้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต) ภาระนี้เกิดมาต่อเนื่องตั้งแต่กึ่งศตวรรษก่อนโน้นเพราะปี พ.ศ. 2499 ท่านเป็นเป็นพระครูสมุห์ ฐานานุกรมของท่านเจ้าคุณพระอริยเวที พร้อมกับเจ้าอาวาสวัดรังสีปาลิวัน พอปี พ.ศ. 2515 เป็นเจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง และเป็นเจ้าคณะตำบล วัดแห่งนี้เดิมเป็นวัดที่พระอาจารย์สมุห์เสร็จ พี่ชายเป็นคนบุกเบิกสร้างไว้ เมื่อท่านออกวิเวกเสียชีวิตเพราะไข้ป่า พระสมุห์ฉัตร พี่ชายคนรองก็เป็นคนมาดูแลแทน ถึงปี พ.ศ. 2519 ได้รับตราตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นเจ้าคณะอำเภอเมือง พ.ศ. 2523 เป็นเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต)
    หลวงปู่เหลืองกล่าวว่า พระพุทธองค์มิได้สอนให้เชื่อพระองค์เพียงอย่างเดียว หากแต่ให้ชื่อว่า “จิต คือ พุทธะ” ถ้าเราดำเนินตามที่พระองค์ทรงสอน จิตของเราก็เป็นพุทธะอย่างพระพุทธองค์ได้ ถ้าจะให้ถึงซึ่งพุทธะก็เหมือนกับเอาแก่ของต้นไม้ใหญ่ ถ้าจะเอาแก่นต้องใช้ขวานถากเปลือก ถากกระพี้ออก จิตคนเรานั้นเป็นพุทธะอยู่แล้ว หากแต่เราปล่อยให้กิเลสตัณหาห่อหุ้มจนจิตไม่ประภัสสร
    “จิตประภัสสรก็หมายถึงจิตเดิม ซึ่งเปรียบเสมือนเพชร ลักษณะแวววาวสุกใสอยู่แล้วตามธรรมชาติ แต่ที่มันเศร้าหมองจนเรามองไม่เห็นความประภัสสรของมัน เพราะมีสิ่งอื่นมาห่อหุ้ม ทำให้รัศมีเปล่งออกมาไม่ได้ อย่างไฟฉายของเรา พอเปิดสวิตช์ขึ้น มันก็สว่างเป็นลำพุ่งออกไปพอปิดสวิตช์มันก็มืด ไม่เห็นดวงไฟ ทั้งที่ความจริงจิตมันประภัสสรอยู่แล้วแต่คนเราทุกวันนี้ ก็เอากิเลส ความโกรธ ความหลงที่เปรียบเหมือนดินทรายเขม่าไฟต่างๆ ไปห่อหุ้มปิดบังมันเสียเอง มันเลยมืดบอดอยู่อย่างนั้น...เราอยากจะเห็นตามพระองค์บ้างก็ต้องลงทุนลงแรงเอาสิ่งที่หุ้มห่อออก แล้วจึงจัดสีให้มันเปล่งแสงประภัสสรขึ้น เอาอะไรมาขัดสีล่ะ ก็เอาสมาธินั่นแหละมาขัดสี...”
    “สิ่งต่างๆ ในโลกนี้มันก็อยู่ที่จิตนี้เอง ความรู้สึกของเราอยู่ที่ไหน จิตใจก็อยู่ที่นั้น หลวงปู่มั่นท่านก็เคยพูดว่า อยู่ที่ใจของเจ้า โลกนี้ไม่มีใจก็ไม่มีความหมาย โลกกับธรรมมันอิงกันอยู่ ก็อยู่อย่างไม่ขัดโลกขัดธรรมเขา รูปนาม ถ้าแยกออกก็เป็นอภิธรรมทั้งหมด
    รูปกับนามเป็นจุดแรกของปัญหา เรื่องราวต่างๆ ที่เราไม่รู้ก็เพราะไม่ได้ค้นคว้ากำหนด ท่านว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันเป็นวัฏฏะ หมุนเวียนตั้งแต่จุดเล็กไปถึงจุดใหญ่ เหมือนกับความมืดกับความแจ้ง มันต้องอยู่ที่เดียวกัน แต่คนละช่วง มันเกิดพร้อมกันไม่ได้
    ความจริงรูปนามมันมีอยู่แล้ว ถ้าปลงความเชื่อว่า คำสอนต่างๆ ล้วนมีอยู่แล้ว ถ้าไม่มี ท่านก็ไม่มีอะไรจะพูด เมื่อไม่มีอะไรจะพูดมันก็หยุดเป็นวิมุตติไป ถ้าเอามาพูดถึงมันก็เป็นสมมติไป ธรรมะจริงๆ จะพูดหรือไม่พูดมันมีอยู่แล้ว...”
    หลวงปู่เหลือง เป็นพระมหาเถระที่ควรแก่การอัญชลี ท่านเจริญรอยตามครูบาอาจารย์ของท่านคือ แน่วแน่กับการปฏิบัติภาวนาไม่เสื่อมคลาย อยู่อย่างสมถะ เรียบง่าย แทบไม่มีใครจำสมณศักดิ์ของท่านได้เรียกกันแต่ว่า หลวงปู่เหลือง วัดกระดึงทอง
    ************หยาดเหงื่อของพระผู้เฒ่า...“หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม” เกจิดังแดนอีสานใต้ ศิษย์หลวงปู่ฝั้น ผู้ไม่เคยถือสมณะศักดิ์ หรือชื่อเสียงใดใด

    หลวงปู่เหลือง ฉนฺทาคโม ...พระอรหันต์เจ้าแห่งบุรีรัมย์

    17264425_1318210878241151_6727615596988056689_n-1-jpg-jpg-jpg.jpg


    18195138_1299825823469287_5894137482331668998_n-20-1-jpg-jpg-jpg.jpg 18301921_1299825850135951_4657292737319483411_n-jpg-jpg-jpg.jpg


    11029896_918936891501887_5893762049328451839_n-1-jpg-jpg-jpg.jpg


    12295245_885208031597737_4176000914326203055_n-jpg-jpg-jpg.jpg sam_7518-jpg-jpg.jpg sam_7522-jpg-jpg.jpg sam_7523-jpg-jpg.jpg sam_7528-jpg-jpg.jpg sam_7489-jpg.jpg

     
  4. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 241
    ล็อกเก็ตนวสิริสันติมงคลรุ่นเเรกของวัดสันติธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    ล็อกเก็ตนวสิริสันติมงคล วัดสันติธรรม จังหวัด เชียงใหม่ สุดยอดแห่งมวลสาร สร้างปี 2551 นำมาเเจกผู้ร่วมทำบุญกฐินปี2552 ล็อกเก็ตพระนวสิริสันติมงคล สร้างขึ้นแด่ผู้ร่วมทำบุญสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ วัดสันติธรรม ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    ..... องค์นี้สวยไม่มีรอยราน พระธาตุเยอะ ถอดจากคอครับ มีเกศารวมพระอรหันต์สายหลวงปู่มั่นมาบูชาด้วยครับ เช่น เกศาหลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน,หลวงปู่หลอด ปโมฑิโต วัดใหม่เสนานิคม,หลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร,หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถํ้ากลองเพล,หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ วัดเลยหลง,หลวงปู่แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร,หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร วัดป่าสุนทราราม,หลวงปู่เนย สมจิตโต วัดป่าโนนแสนคำ,หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม วัดป่าสีห์พนม,หลวงปู่พัน ฐิตธัมโม วัดป่าบ้านนํ้าภู จ.เลย,หลวงปู่มหาโส กัสสโป วัดป่าคำเเคนเหนือ,หลวงปู่แฟ๊บ สุภัทโท วัดป่าดงหวาย,หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก,หลวงปู่เสน ปัญญาธโร วัดป่าหนองเเซง,หลวงปู่รินทร์ สันตมโน,หลวงปู่เคน เขมาสโย วัดป่าหนองหว้า,คุณเเม่ชีบุญฮู้ พรหมเทพ วัดป่าภูกระเเต เป็นต้น *********บูชาที่ 605 บาทฟรีส่งems(ออกจากวัดปี 52 ก็ 500 เเล้วครับ)

    รายละเอียด พ่อเเม่ครูอาจารย์ที่มาพักหรือจำพรรษา ณ วัดสันติธรรม ได้แก่
    ๑. หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
    ๒. หลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
    ๓. หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ จ.เลย
    ๔. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู
    ๕. หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
    ๖. หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม วัดอรัญญวิเวก จ.นครพนม
    ๗. หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่
    ๘. หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย
    ๙. หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต วัดสันติธรรม จ.เชียงใหม่

    ด้านหลังของล็อกเก็ตบรรจุมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ดังนี้
    ๑. ขี้ผึ้งเทียนชัย งานพุทธาภิเษกพระสีวลีมหาลาภ วัดสันติธรรมรุ่น ๑ ปี ๒๕๕๐ ,
    งานพุทธาภิเษกพระสีวลีมหาลาภ วัดสันติธรรมรุ่น ๒ ปี ๒๕๕๑ ,
    งานเถราภิเษกรูปเหมือนหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดสันติธรรม ปี ๒๕๕๒
    ๒. ผงพระธาตุพระอรหันต์ จากถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่
    ๓. อิฐยอดเจดีย์และใบพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พุทธคยา
    ประเทศอินเดีย , ดินและอิฐจากสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ประเทศอินเดีย
    ๔. ผงพระเก่า พระปางเปิดโลกจากอินเดีย, พระนางพญาจากอินเดีย,
    พระอัฏฐารสวัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่,พระปิดตาจัมโบ้หลวงปู่โต๊ะ,
    พระปิดตามหาลาภ วัดถ้ำเหง้า แม่ฮ่องสอน, พระผงหลวงพ่อเกษม เขมโก,
    พระผงหลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต, พระสมเด็จหลวงปู่ชอบ ฐานสโม,
    ธรรมจักรอธิษฐานจิตของหลวงปู่สังข์ สงฺกิจฺโจ
    ๕. ผงไม้กุฏิหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต วัดป่าภูริทัตตถิราวาส จ.สกลนคร
    ๖. ผงอังคารหลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย,
    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม วัดอรัญญวิเวก จ.นครพนม,
    หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่,
    หลวงปู่พุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา,
    หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๗. ผงอังคารหลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต วัดสันติธรรม จ.เชียงใหม่
    ๘. ผ้าเพดานเมรุพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อมหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต วัดสันติธรรม จ.เชียงใหม่
    ๙. ข้าวก้นบาตรหลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน,
    ข้าวก้นบาตรหลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว คนฺธสีโล วัดศรีสว่าง จ.เชียงใหม่
    ๑๐. สายสิญจน์, ข้าวตอก, ดอกไม้, ถั่ว, งา ที่พระเถระโปรยในงานเถราภิเษก รูปเหมือนหลวงพ่อประสิทธิ์ ปี ๒๕๕๒
    ๑๑. แร่กินบ่เสี้ยง
    ๑๒. ข้าวสารหิน
    ๑๓. หินพญานาค
    ๑๔. ไม้สักกลายเป็นหิน
    ๑๕. หินอุกกมณี
    ๑๖. ผงว่านมงคลร้อยแปด
    ๑๗. ตะกรุดพุทธคุณจารและอธิษฐานจิตโดย พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร วัดป่าโนนแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เป็นเวลา ๓ คืน
    >>>>>อธิฐานจิตโดยพระเกจิอาจารย์อาทิ
    1.ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่
    2.ครูบาดวงดี ยติโก วัดบ้านฟ่อน จ.เชียงใหม่
    3.ครูบาตั๋น ปัญโญ สำนักสงฆ์ม่อนปู่อินทร์ จ.เชียงใหม่
    4.ครูบาศรีจันทร์แก้ว คันธสีโล วัดศรีสว่าง จ.เชียงใหม่
    5.หลวงปู่ฟัก สันติธัมโม วัดเขาน้อยสามผาน จ.จันทบุรี
    6.หลวงพ่อบุญกู้ อนุวัฑฒโน วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กรุงเทพฯ
    7.หลวงพ่อเจริญ ญาณวุฒโฒ วัดถ้ำปากเปียงจ.เชียงใหม่
    8.หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ จ.เชียงใหม่
    9.หลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัยวิเวก จ.เชียงใหม่
    10.หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ จ.เชียงใหม่
    11.หลวงพ่อไพโรจน์ วิโรจโน สำนักสงฆ์ดอยปุย จ.เชียงใหม่
    12.หลวงปู่กวง โกสโร วัดป่านาบุญ จ.เชียงใหม่
    13.พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภสฺสโร วัดป่าโนนแพง จ.นครพนม sam_7473-jpg.jpg sam_7474-jpg.jpg sam_7476-jpg.jpg sam_7477-jpg.jpg sam_7478-jpg.jpg

     
  5. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 242 รูปหล่อเหมือนลอยองค์หลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ พระอรหันต์เจ้าวัดผาเทพนิมิต อ.นิคมนํ้าอูน จ.สกลนคร หลวงปู่บุญพินเป็นศิษย์หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถํ้ากลองเพล,หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นต้น องค์พระสร้างปี 2554 เนื้อโลหะผสมเเร่เหล็กไหลเกาะล้าน มาพร้อมกล่องเดิม มีตอกโค๊ต 3 โค๊ต โค๊ตตัวเลข 1309 เเละยันต์พระสิวลี เเละคำว่า ไตรมาส ใต้องค์พระ ******รุ่นนี้หลวงปู่ปลุกเสกอฐิษฐานจิต 1 ไตรมาส 3 เดือนเลยครับ
    >>>>สืบเนื่องจากมีผู้ใหญ่ในศาลยุติธรรมได้ไปขอสร้างพระเพื่อเป็นที่ระลึกในงานปฏิญาณตนของผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงานภาคสอง แต่อาจจะเป็นเพราะด้วยเหตุอย่างไรไม่ทราบหรือว่าท่านอาจจะมีเหตุให้ทราบว่าก่อนหลวงปู่ผ่านท่านจะมรณภาพท่านได้ฝากเรื่องนี้ไปกับหลวงปู่บุญหนาท่านจึงนิ่งเสียไม่ได้ปรารภอะไรและต่อมาพระที่จะสร้างเป็นที่ระลึกดังกล่าวก็ได้สร้างเป็นรูปหล่อของหลวงปู่บุญหนา หลังจากนั้นต่อมาท่านจึงได้พูดกับทางผู้ใหญ่ที่จะสร้างพระว่าถ้าได้แร่เหล็กไหลเกาะล้านมาเป็นมวลสารผสมคงจะดีถ้าอยากจะสร้างให้นำแร่ดังกล่าวมาผสม
    จึงเป็นที่มาของการสร้างพระหล่อรูปเหมือนรุ่นนี้
    แร่เกาะล้านเป็นแร่โครตรเหล็กไหลงอกเมื่ออยู่ในถ้ำจะแข็งมากแต่เมื่อถูกนำออกมาจะสามารถแกะเป็นรูปต่างๆได้และงอกได้บางทีงอกจนกรอบที่หุ้มไว้แตก
    เมื่อผสมแร่เข้าเป็นมวลสารจะทำให้ผิวของพระดำเป็นเงางามสวยมากส่วนพุทธคุณสิ่งสูง
    เพราะหลวงปู่ท่านเมตตาอธิษฐานจิตให้ถึง 1 ไตรมาส
    จำนวนการสร้างไม่มากสร้างเท่าไหร่เอากลับมาหมดเลยเพราะมีการจองหมดตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ >>>>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาด้วยครับ********บูชาที่ 405 บาทฟรีส่งems sam_0656-jpg-jpg-jpg.jpg sam_6434-jpg-jpg-jpg.jpg sam_6437-jpg-jpg-jpg.jpg sam_6439-jpg-jpg-jpg.jpg sam_6440-jpg-jpg-jpg.jpg sam_7300-jpg-jpg.jpg sam_7301-jpg-jpg.jpg
    sam_7499-jpg.jpg sam_1646-jpg-jpg.jpg
     
  6. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 243 รูปหล่อเหมือนโบราณรุ่นเเรก+เหรียญบาตรนํ้ามนต์ 90 ปีหลวงปู่อุดม ญาณรโต พระอรหันต์เจ้าวัดป่าสถิตย์ธรรมมาราม อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ หลวงปู่เป็นศิษย์หลวงปู่เเหวน สุจิณโณ,หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม เป็นต้น รูปหล่อเหมือนสร้างปี 2542 เนื้อโลหะรมดำมันปู,ส่วนเหรียญบาตรนํ้ามนต์ 90 ปี สร้างปี 2559 เนื้อทองเเดงผิวไฟ มีตอกโค๊ต น พ หน้าเหรียญ>>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาเป็นมงคลด้วยครับ*******บูชาที่ 295 บาทฟรีส่งems sam_2151-jpg-jpg.jpg sam_2152-jpg-jpg.jpg sam_2153-jpg-jpg.jpg sam_7313-jpg-jpg.jpg sam_7314-jpg-jpg.jpg sam_7316-jpg-jpg.jpg sam_2488-jpg-jpg.jpg
    sam_7496-jpg.jpg sam_7497-jpg.jpg
     
  7. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    บูชาครับ
     
  8. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    SAM_7858.JPG รายการที่ 244 พระบูชารูปเหมือนขนาดหน้าตักกว้าง 4 นิ้ว สูงจากฐาน 9 นิ้วหลวงปู่พระอุปคุตเถระเจ้า พระอรหันต์เจ้าผู้มีฤทธิ์สมัยพุทธกาล สร้างปี 2549 โดยวัดเทพนิมิตวนาราม อ.เมือง จ.ยโสธร เนื้อทองเหลืองรมมันปู หายากมากๆ ผมบูชาที่หิ้งพระหลายปีเเล้วครับ ปลุกเสกอฐิษฐานจิตโดยหลวงตาพวง สุขินททริโย พระอรหันต์เจ้าวัดศรีธรรมมาราม(ศิษย์รุ่นสุดท้ายหลวงปู่มั่น) >>>>>>>>>>>>>>>>>>>รายการนี้มีเเถมมอบพระอุปคุตองค์เล็กขนาดห้อยคอมาบูชาเพิ่มด้วยครับ พระห้อยคอรุ่นนี้ปลุกเสก 2 วาระ 1,พระอาจารย์สมบัติ,2 ,หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิด้วยครับ*******ภายในบรรจุเกศารวมของพระอรหันต์สายหลวงปู่มั่นไม่น้อยกว่า 20 อรหันต์ เช่น เกศา มีเกศารวมพระอรหันต์สายหลวงปู่มั่นมาบูชาด้วยครับ เช่น เกศาหลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน,หลวงปู่หลอด ปโมฑิโต วัดใหม่เสนานิคม,หลวงปู่สมภาร ปัญญาวโร,หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถํ้ากลองเพล,หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ วัดเลยหลง,หลวงปู่แปลง สุนทโร วัดป่าอุดมสมพร,หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร วัดป่าสุนทราราม,หลวงปู่เนย สมจิตโต วัดป่าโนนแสนคำ,หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม วัดป่าสีห์พนม,หลวงปู่พัน ฐิตธัมโม วัดป่าบ้านนํ้าภู จ.เลย,หลวงปู่มหาโส กัสสโป วัดป่าคำเเคนเหนือ,หลวงปู่แฟ๊บ สุภัทโท วัดป่าดงหวาย,หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก,หลวงปู่เสน ปัญญาธโร วัดป่าหนองเเซง,หลวงปู่รินทร์ สันตมโน,หลวงปู่เคน เขมาสโย วัดป่าหนองหว้า,คุณเเม่ชีบุญฮู้ พรหมเทพ วัดป่าภูกระเเต เป็นต้นเเละพระธาตุของหลวงปู่ลือเเละมีบรรจุพระธาตุข้าวบิณฑ์ของพระพุทธเจ้าพร้อมเกศา,จีวร,สำลีเช็นํ้าตาครูบาวงศาพัฒนา เเละรูปถ่ายขนาดล็อกเก็ตของหลวงปู่จันทาที่ถ่ายเเล้วมีเเสงสีขาวนวลปรากฏในรูปภาพที่ถ่าย มาบูชาด้วครับสร้างโดย พระอาจารย์สมบัติ จิตตปัญโญ วัดป่าโพธิ์ศรีวิไล(เป็นศิษย์ของหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต หนองคาย) *********พระอุปคุต ( พระบัวเข็ม ) เจ้าแห่งโชดลาภอุดมสมบูรณ์ และยังมีฤทธิ์ทางปราบมารขจัดศัตรู ในงานบุญมหาเวส ( อิสาณ เรียก บุญผะเวส ) จะมีการแห่พระอุปคุต เพื่อมาปัดเป่ารังควานด้วย
    องค์นี้รมมันปู ขนาด 4 นิ้ว สูง 9 นิ้ว ออกที่ วัดเนรมิตรวนาราม ( บ๋านางเจิม ป่าช้าแขกเดิม ) ที่เป็น วัดสาขาของท่าน หลวงปู่มา สันติวิเวก ร้อยเอ็ด เป็นประธานจุดเทียนชัย นั่งปรก หลวงตาพวง นั่งปรกและดับเทียนชัย พร้อม หลวงตาสรวง หลวงพ่อพระครูประกาศ วัดป่าหนองไคร้ หลวงปู่สอ หลวงปู่บุญหลาย พร้อมคณาจารย์สายกรรมฐานนั่งปรกตลอดคืน สร้างปี 2549 ครับ สวยเดิมๆ ทุกวันนี้ไม่ค่อยเห็นแล้วครับเก็บกันหมด


    *****คาถาบูชาและวิธีตั้งบูชา******
    คาถาบูชาพระอุปคุต
    อุปคุตโต จะมะหาเถโร สัมพุทเธนะ วิยากะโต มารัญจะ มารัญจะ มาระพะลัญจะ โส อิทานิ มะหาเถโร นะมัสสิตตะวา ปะติฏฐิโต อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะมะหาเถรัง ยัง ยัง อุปัททะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุ ฯ
    คาถาบทนี้ สวดบูชาพระอุปคุตทุกวัน จะบันดาลให้บังเกิดโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองมากมาย และป้องกันภัยอันตรายทั้งปวงแก่ผู้บูชา หากมีเวลาจำกัด อาจสวดแบบย่อก็ได้ ดังนี้
    อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร ยักขาเทวา นะระปูชิโต โส ระโห ปัจจะยาทิมหิ มะ หาลาภัง ภะวันตุ เม ฯ
    คาถาขอลาภพระอุปคุต
    มะหาอุปคุต จะ มะหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชาปุริโส อิถีโยมานัง นะโม โจรา เมตตาจิตตัง เอหิจิตติจิตตัง ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มนุสสานัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม ฯ
    เอหิจิตติจิตตัง พันธะนัง อุปะคุตโต จะมหาเถโร พุทธะสาวะกะอานุภาเวนะ มาระวิชะยะ นิระภะยะ เตชะปุณณะตา จะ เทวะตานัมปิ มะนุสสานัมปิ เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ อิมัง กายะพันธะนัง อะทิถามิ ปะอัยยิสสุตัง อุปัจสะอิ
    คาถาพระอุปคุตผูกมาร
    มหาอุปะคุตโต มหาอุปะคุตตัง กายะพันทะนัง อมยิสะ พุทธังทะเถโร ธัมมังทะเถโร สังฆังทะเถโร ปะอัยยะสุตัง อุปัจสะอิ อิมังกายะพันทะนัง อะทิถามิ >>>>>>มีพระเกศาหลวงตาพวงมาบูชาเป็นมงคลด้วยครับ
    *********บูชาที่ 7,200 บาทฟรีส่งems sam_6794-jpg.jpg sam_7438-jpg.jpg sam_7440-jpg.jpg sam_7439-jpg.jpg sam_7442-jpg.jpg sam_7443-jpg.jpg sam_7444-jpg.jpg sam_7445-jpg.jpg sam_7446-jpg.jpg sam_7447-jpg.jpg sam_7448-jpg.jpg sam_7449-jpg.jpg sam_7451-jpg.jpg sam_7450-jpg.jpg sam_7452-jpg.jpg sam_7453-jpg.jpg sam_7455-jpg.jpg sam_7457-jpg.jpg sam_7458-jpg.jpg sam_7464-jpg.jpg sam_7465-jpg.jpg sam_7460-jpg.jpg sam_7461-jpg.jpg SAM_7846.JPG SAM_7847.JPG SAM_7848.JPG SAM_7850.JPG SAM_7852.JPG SAM_7853.JPG SAM_7854.JPG SAM_7855.JPG SAM_7856.JPG SAM_7857.JPG sam_7462-jpg.jpg SAM_7858.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2021
  9. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    **สมาชิกที่สนใจ โอนเข้าบัญชีธนาคาร กรุงเทพ สาขาบ้านเเพง เลขบัญชีที่ 496-055842-9,ธนาคาร กรุงไทย สาขาบิ๊กซี ลำพูน เลขบัญชี 854-0-31280-8,ธนาคาร กสิกรไทย สาขาเสนา เลขที่บัญชี 016-3-45911-6, ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเสนา เลขที่บัญชี 770-270878-6 ขอขอบคุณครับ *************นอกเวปโทร 098-5981468
     
  10. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    หายไปนานเลยนะครับ
     
  11. PKongja

    PKongja Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +238
    ขอจองบูชาครับ
     
  12. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    PKongjaรับทราบการจองครับ ขอขอบคุณครับ
     
  13. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    >>>>เรียนเเจ้งเพื่อนสมาชิกทราบที่ผมหายไปจากจอเดือนกว่าๆเพราะว่าพี่ชาย(คนละพ่อ)ที่อยู่บ้านสวนหลังเดียวกันกับผม เขาป่วยครับ ผมต้องเป็นภาระพาเทียวไปหาหมอที่โรงพยาบาล เเรกๆพี่ชายบอกว่าเจ็บตรงซี่โครงด้านขวา เพราะว่าไปอุ้มหลานอายุ 2ขวบ พอไปหาหมอที่โรงพยาบาลที่อำเภอ หมอตรวจอาการเเล้วก็ให้ยามากิน มาอยู่บ้านได้อาทิตย์กว่า พี่ชายก็บอกผมว่าเจ็บตรงซื่โครงอีกเเล้ว มันเจ็บจี๊ดๆตรงที่เดิมผมก็เลยพาไปหาหมออีก คราวนี้เจอหมอผู้หญิง เขาให้พี่ชายผมนอนลงบนเตียงเเล้วคุณหมอก็กดตรงซื่โครง ปรากฏว่าพี่ชายไม่ปวดเจ็บเลย เเต่พอคุณหมอลองกดตรงปลายซี่โครง พี่ชายร้องเจ็บลั่นเลย คุณหมอเลยพาพี่ชายไปอุุลต้าซาวน์ดูภายใน ผลปรากฏว่าเจอเนื้องอกตรงที่ใต กว้าง 11 เซนต์ หมอเลยเขียนใบส่งตัวนัดไปผ่าที่โรงพยาบาลตัวจังหวัดนครพนม เเต่คุณหมอห่วงร่างกายคุณตา(พี่ชายผม อายุ 64 กว่าปีจะรับไม่ไหวเพราะนํ้าหนัก 38 กิโลกรัม คุณหมอเลยสั่งให้ญาติพามาอยู่ที่บ้าน ให้ญาติบำรุงร่างกายคุณตาให้มีนํ้าหนักมากกว่านี้หน่อย พอมาอยู่บ้านได้ไม่กี่วัน พี่ชายทราบข่าวว่าเมียที่อยู่ด้วยกันปัจจุบัน เเกไปเอาผัวใหม่ เมียเเกอายุก็ 62 ปีเเล้ว พี่ชายผมพอทราบข่าวเมียเอาผัวใหม่ อาการเลยทรุดเร็วมากขึ้น เพราะตรอมใจครับ ก็ดูเเลกันมาจนกระทั่งก่อนจะถึงปีใหม่ สัก 2 อาทิตย์พี่ชายก็จากไปโดยสงบ นอนหลับไปเลยครับ
     
  14. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 245
    พระผงเนื้อว่านรุ่นถิ่นกำเนิดหลวงตาพวง สุขินททริโย พระอรหันต์เจ้าวัดศรีธรรมราม อ.เมือง จ.ยโสธร หลวงตาพวงเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นยุคสุดท้าย องค์พระสร้างปี 2539 เนื้อว่านองค์นี้มีพระเกศาฝังในองค์พระโผล่ที่เเก้มขวาหลวงตา เเละเกศาโผล่ที่ตัวอักษร ด หลังองค์พระ องค์พระสวยระยิบระยับทั้งหน้าหลัง หายากครับ >>>>>>มีพระเกศาขาวใสหลวงตามาบูชาด้วยครับ ******>>>>> พระผงยุคต้นๆของหลวงตาพวง ประวัติย่อของหลวงตาพวง
    หลวงตาพวงเป็นชาว จ.ยโสธร นามเดิม พวง ลุล่วง เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งลุ่มน้ำชี มีศิษยานุศิษย์ทั่วทุกภาค อาจารย์องค์แรก คือ พระอาจารย์สอ สุมังคโล ซึ่งพา ด.ช.พวง อายุ 14 ปี ไปฝากตัวเป็นศิษย์ดูแลหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล แห่งวัดดอนธาตุ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี หลังจากหลวงปู่เสาร์มรณภาพ ด.ช.พวง จึงบรรพชาเป็นสามเณร และอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์มาตลอด

    หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ กล่าวถึง หลวงตาพวง ชื่อ เสียงของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ย่อมเป็นที่รู้จักกันดีในสายวงวัตถุมงคลโชคลาภ ของคนไทยทั่วประเทศเพราะด้วยปฏิปทาที่เรียบง่าย สมถะและเมตตาแก่ทุก ๆ คนที่ไปหา มิใช่แต่ชาวจังหวัดนครราชสีมาที่เลื่อมใสและศรัทธาท่าน ชาวยโสธรเองก็เช่นเดียวกันที่เลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติ และพากันไปกราบนมัสการหลวงพ่อคูณ เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งขอวัตถุมงคลเพื่อคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่าง ๆมิได้ขาด
    แต่ทุก ๆ ครั้งที่ชาวยโสธรไปกราบนมัสการหลวงพ่อคูณนั้น หากท่านทราบว่าเป็นชาวยโสธรแล้วหลวงพ่อคูณท่านจะไม่ยอมให้วัตถุมงคล และบอกว่าให้กลับไปเอาที่ยโสธร ท่านมักจะพูดว่า "ที่ ยโสธรมีคนเก่งกว่ากูมีอีก ผมหงอก ๆ ขาว ๆ ที่นั่งอยู่ริมแม่น้ำชีนั่นแหละ ท่านหมดกิเลสแล้ว ท่านไม่แสดงเฉยๆ กูยังไม่ถึงเท่าท่านเลย ไป"
    เมื่อสัมภาษณ์หลวงตาพวง ถึงเรื่องนี้ ท่านก็เล่าให้ฟังว่า "ก็เคยได้ยินมาจากญาติโยมหลายสิบคนแล้ว ที่เล่าให้ฟังเหมือนกันว่าเมื่อชาวยโสธรไปกราบหลวงพ่อคูณ ท่านมักจะไล่กลับมาหาหลวงตา"
    "หลวงตาเองก็ ไม่เคยได้พูดคุยกับหลวงพ่อคูณสักครั้งเดียว หลวงตาก็เคยไปวัดบ้านไร่มาสองครั้ง แต่ไม่เคยมีโอกาสพูดคุยกับท่านเพราะมีญาติโยมเป็นจำนวนมากจึงไม่มีโอกาสพูด คุยกัน หลวงพ่อคูณจะทราบได้อย่างไรก็ไม่ทราบหรืออาจเป็นเพราะมีลูกศิษย์เล่าให้ฟัง ถึงประวัติหลวงตากระมัง"

    ปาฏิหาริย์หลวงตาพวง เดินข้ามบิณฑบาตรแม่น้ำชี
    มีเรื่องเล่าขานกันใน หมู่ชาวบ้านแถบลำน้ำชีอันเป็นที่ตั้งของ วัดศรีธรรมารามซึ่งหลวงตาพวงเคยจำพรรษาอยู่ ฝั่งตรงข้ามของวัดศรีธรรมารามเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในเขตของอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ชาวบ้านเล่ากันว่ามีคนออกไปเก็บกับดักหนูที่ดักไว้ในช่วงเช้ามืดได้เห็นหลวง ตาพวงออกเดินบิณฑบาตโดยเดินบนแม่น้ำชีจากวัดศรีธรรมารามไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน ฝั่งอำเภอพนมไพร
    คุณสมจันทร์ โพธิศรี อยู่บ้านเลขที่ 68 บ้านกุดกุง (คุ้มหนองแสง) ต. เขื่อนคำ อ.เมือง จ. ยโสธร เล่าให้ฟังเป็นภาษาอิสานว่า "เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2538- 2539 เช้าวันหนึ่งข่อยไปดักหนูป่าแมะ ได้เห็นหลวงตาพวงเพิ่นเดินข้ามแม่น้ำชีไปแมะ ข่อยนี้แหละเป็นผู้เห็นท่านเองเลย" (คัดจากหนังสือโลกทิพย์)

    เมื่อถามเรื่องนี้กับหลวงตา หลวงตาก็ตอบว่า "เป็นเรื่องของเขาเห็นปรากฏในสายตา หลวงตาไม่ค้าน ไม่ได้ปฏิเสธ เขาคงเห็นด้วยสายตาของเขา จะเล่าลืออย่างไร หลวงตาไม่ได้พูด ไม่ได้อวดอะไร" แล้วหลวงตาก็เปลี่ยนเรื่องพูดถึงเรื่องหมู่บ้านในฝั่งอำเภอพนมไพรว่า " หลวงตาก็รับนิมนต์ไปสวดหรือไม่ก็ฉันที่หมู่บ้านฝั่งนี้เป็นประจำทุกวันออก พรรษาชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน ก็พากันมามอบกายถวายตัวเป็นลูกศิษย์ มากราบขอพรเพราะพวกเขาไม่มีที่พึ่งในหมู่บ้าน เขาจึงมาพึ่งหลวงตา เมื่อมีการงานอะไรพวกเขาก็มาช่วยเสมอ ๆ แม้แต่มาอยู่ที่วัดป่าใหม่นิคมพัฒนาราม พวกเขาก็ยังมา"

    หลวงตาพวง สุขินทริโย วัดศรีธรรมาราม จ.ยโสธร มรณภาพละสังขารเข้าอนุปาทิเสสนิพพาน
    เมื่อเวลา 10.52 น. วันที่ 2 เมษายน 2552
    ณ โรงพยาบาลยโสธร จังหวัดยโสธร หลวงตาพวงมีอาการอาพาธกะทันหันขณะเป็นประธานทอดผ้าป่ าที่วัดสิริดำรงวนาราม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมื่อคืนวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โรงพยาบาลยโสธรรับตัวมารักษาต่ออยู่ในห้องไอซียูกระท ั่งมรณภาพ
    พระเทพสังวรญาณ หรือหลวงตาพวง สุขินทริโย สิริอายุ 81 ปี 11 เดือน เจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม อ.เมือง จ.ยโสธร
    *******หลวงตาพวง มีน้องชาย อีกหนึ่งท่านคือ หลวงปู่สรวง สิริปัญโญ พระอรหันต์เจ้าอาวาสวัดบ้านศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร *********บูชาที่ 345 บาทฟรีส่งems sam_6789-jpg.jpg sam_6790-jpg.jpg sam_7419-jpg.jpg sam_7420-jpg.jpg sam_7421-jpg.jpg sam_7422-jpg.jpg sam_7423-jpg.jpg sam_7424-jpg.jpg sam_7425-jpg.jpg

     
  15. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 246 พระผงปิดตาจัมโบ้รุ่นหนุนดวงมหาลาภหลวงพ่อหนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกข์ อ.โพนนาเเก้ว จ.สกลนคร พระเกจิอาจารย์ศิษย์เอกสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อหนุนท่านเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี องค์พระสร้างปี 2556 หลังองค์ฝังเเร่เหล็กไหลจากประเทศลาวเเละโรยทรายคำระยิบระยับหน้าองค์พระด้วยครับ มาพร้อมกล่องเดิม มีพระเกศาหลวงพ่อมาบูชาด้วยครับ ******บูชาที่ 245 บาทฟรีส่งems sam_0067-jpg-jpg.jpg sam_6843-jpg-jpg.jpg sam_6844-jpg-jpg.jpg sam_6845-jpg-jpg.jpg sam_6846-jpg-jpg.jpg sam_6848-jpg-jpg.jpg sam_2030-jpg-jpg.jpg
     
  16. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 247 พระผงพิมพ์เตารีดหลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร พระอรหันต์เจ้าวัดป่าประชาชุมพลพัฒนาราม อ.เมือง จ.อุดรธานี หลวงปู่อ่อนสาเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นยุคกลาง ด้านหลังองค์พระมีฝังเม็ดพระธาตุ ประวัติย่อๆหลวงปู่มีนามเดิมว่า อ่อนสา เมืองศรีจันทร์ เกิด ณ บ้านโนนทัน ตำบลบ้านจั่น อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมือวันที่ 10 กรกฎาคม 2457 ปีขาล วันศุกร์ โยมบิดา นามว่านายมา เมืองศรีจันทร์ โยมมารดาชื่อนางโม้ เมืองศรีจันทร์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 10 คน เป็นผู้ชาย 5 คน ผู้หญิง 5 คน หลวงปู่อ่อนสาเป็นคนโตซึ่งมีน้องต้องค่อยดูแลถึง 9 คน ครอบครัวของหลวงปู่เป็นเกษตรกร และท่านเป็นบุตรคนโตมีโอกาสศึกษาจนจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที 4 จากนั้นได้ออกมาช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนาและดูแลน้องๆ
    เมื่ออายุได้ 21 ปี ท่านได้ไปเกณฑ์ทหารแต่ไม่ติด ท่านจึงได้ขอโยมบิดา- มาดาไปบวช โดยได้อุปสมบท ณ วัดโยธานิมิต ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานีเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2478 เวลา 13.47 น. โดยมีพระธรรมเจดีย์ ( จูม พันธุโล ) เป็นประอุปัชฌาย์ มีพระครูประสาทคณานุกิจ เป็นพระกรรมวาจารย์ พระครูศาสนูปกรณ์ ( อ่อนตา เขมงกโร ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายาว่า สุขกาโร ภิกขุ
    ต่อมาหลวงปู่ได้ออกธุดงไปอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เพื่อหาที่สัปปายะบำเพ็ญภาวนาและบังเอิญท่านได้พบกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แล้วได้พากันไปภาวนาที่ภูลังกาและออกธุดงค์ด้วยกันตา ต่อมาหลวปู่ได้มีโอกาสกราบนมัสการพระอาจารย์หลวงปู่มั่นภูริทัตโต และได้ข้าจำพรรษากับพระอาจารย์หลวงปู่มั่น
    หลังจากที่หลวงปู่อ่อนสา ได้บำเพ็ญภาวนาพอสมควรแล้วท่านได้ย้ายกลับมายังภาคอีสาน ท้ายสุดท่านได้มาจำพรรษา ณ วัดประชาชุมพลพัฒนาราม บ้านหนองใหญ่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี อันเป็นแผ่นดินเกิดของท่าน
    หลวงปู่ละสังขารเข้าอนุปาทิเสสนิพพานที่วัด เวลา 16.17 น. สิริอายุ 95 ปี 75 พรรษา
    >>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชาด้วย *********บูชาที่ 205 บาฟรีส่งems sam_0307-jpg.jpg sam_7366-jpg.jpg sam_7368-jpg.jpg SAM_7863.JPG SAM_7861.JPG SAM_7862.JPG SAM_7864.JPG sam_1439-jpg.jpg
     
  17. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 248
    เหรียญครบ 7 รอบ84ปีหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา พระโพธิสัตโตเเห่งวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ จ.ลำพูน เหรียญสร้างปี 2539 เนื้อทองเเดงรมนํ้าตาลมันปู สร้างเนื่องหลวงปู่อายุครบ 84 ปี เหรียญใหม่ไม่เคยใช้********บูชาที่ 255 บาทฟรีส่งems
    con374_20160421130240_2-jpg-jpg.jpg
    ประวัตพอสังเขปครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์)
    >>>>>วัยเด็ก
    ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ครูบาวงศ์” มีนามเดิมว่า วงศ์ หรือ ชัยวงศ์ นามสกุล ต๊ะแหนม เกิดที่ ตำบลหันก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูนเมื่อวันอังคาร เดือน 7 แรม 2 ค่ำ ปีฉลู ตรงกับวันที่ 22 เมษายน พ.ศง 2456 เวลา 24.15 น. โยมบิดาชื่อ น้อย จันต๊ะ (ถึงแก่กรรม เมื่ออายุ 44 ปี) โยมมารดาชื่อ บัวแก้ว (ถึงแก่กรรม เมื่ออายุ 78 ปี) จำนวนพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 8 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 3 มีน้องต่างบิดาอีก 1 คน รวมเป็น 9 คน
    ท่านเกิดในตระกูลชาวไร่ชาวนาที่ยากจน พ่อแม่ของท่านมีสมบัติติดตัวมาแค่ที่นาไม่กี่ไร่ ทำนาได้ข้าวปีละแค่ 20-30 หาบ แม้ว่าครอบครัวของท่านต้องดิ้นรนต่อสู้กับความอดทนอยากแต่ก็ไม่เคยละทิ้งเรื่องการทำบุญให้ทาน
    ท่านมีโรคประจำตัวคือ โรคลมสันนิบาต ตั้งแต่เด็กๆ แต่ท่านก็ยังช่วยพ่อและแม่ทำนา เก็บของป่าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นับว่าท่านเป้นผู้ที่มีความขยันอดทนและกตัญญูเป็นอย่างมาก
    >>>>>บรรพชาและอุปสมบท
    เมื่อท่านอายุย่าง 13 ปี (พ.ศ. 2468) ท่านได้รบเร้าขอให้พ่อแม่พาท่านไปบวช เพื่อท่านจะได้บำเพ็ญธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพ่อแม่ก็ได้นำท่านไปฝากกับหลวงอา จากนั้นหลวงอานำท่านไปฝากตัวเป็นศิษย์และบวชเณรกับครูบาชัยลังก๋า (เป็นธุดงค์กรรมฐานรุ่นพี่ของครูบาศรีชัย) ครูบาชัยลังก๋าได้ตั้งชื่อให้ท่านใหม่หลังจากเป็นสามเณรแล้วว่า “สามเณรชัยลังก๋า” เช่นเดียวกับชื่อของครูบาชัยลังก๋า
    เมื่ออายุ 20ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีครูบาพรหมจักร วัดพระบาทตากผ้าเป็นอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ชัยยะวงศา” ในระหว่างนั้น ท่านได้อยู่ปฏิบัติและศึกษาธรรมะกับครูบาพรหมจักร ในบางโอกาสท่านก็จะเดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปในที่ต่างๆทั้งลาวและพม่า ท่านได้อยู่กับครูบาพรหมจักรระยะหนึ่งแล้ว จึงได้กราบลาครูบาพรหมจักรออกจาริกธุดงค์ไปแสวงหาสัจจธรรมความหลุดพ้นจากวัฏสงสารแห่งนี้เพียงลำพังองค์เดียวต่อ เพื่อเผยแพร่สั่งสอนธรรมะขององค์สมเด็จ-พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กับพวกชาวเขาในที่ต่างๆ
    เมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่ช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ร่วมกับครูบาขาวปี และชาวกะเหรี่ยง
    >>>>ละสังขาร
    นับตั้งแต่ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา ได้มาอยู่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 ที่หลวงปู่ ได้เข้ามาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จนกระทั่งมรณภาพในเวลา 01.00 น. ของวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 เป็นเวลาถึง 54 ปี หลวงปู่ได้ใช้ความพยายามพัฒนาวัด จนสามารถพลิกสภาพความเป็นวัดร้างให้เป็นวัดที่มีความเจริญ จนทำให้ผู้คนจากทุกสารทิศ ทั้งในและต่างประเทศ ทุกระดับชั้นทางสังคม หลั่งไหลเข้ามาสักการะ สมกับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง ของประเทศไทย

    >>>>โอวาธรรมหลวงปู่ ...... “อย่าเข้าใจว่า มาทำบุญที่นี่ จะตัดบาป ตัดกรรม ตัดเวร ได้นะ ... ตัดไม่ได้
    อโหสิกรรม ... ถือว่าตัดได้
    จะต้องขอเอง ... ให้คนอื่นไปขอไม่ได้ ไม่พ้นจากกรรม
    เราต้องของเอง ต้องอ่อนน้อม กล่าวคำสารภาพกับตัวเขา
    เขาจึงจะอโหสิ งดโทษให้เรา...”
    พระพุทธองค์ กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกว่า ...
    เรามีกรรมเป็นของตน เรามีกรรมเป็นผู้ให้ยล เรามีกรรมเป็นแดนเกิด เรามีกรรมเป็นผู้ติดตาม
    เรามีกรรมเป็นผู้อาศัย
    กรรมอันใดที่ทำไว้ ... ความดี หรือ ความชั่ว ตัวเราเป็นผู้รับผลกรรมนั้น”
    “เวลาเราก็มีไม่มาก เกิดมาชาติหนึ่ง
    เวลาสูญเปล่ามีมาก เวลาทำงานจริงๆ มีไม่มาก
    เวลาสูญเปล่ามีตลอดชีวิต
    เวลาเหลือน้อ จะทำอะไรก็ให้รีบทำ >>>>>>มีพระเกศา,สำลีเช็ดนํ้าตา,จีวรเเละพระธาตุข้าวบิณฑ์บาตรพระพุทธเจ้า มาบูชาเป็นมงคล sam_9152-jpg-jpg.jpg sam_7075-jpg-jpg.jpg sam_7074-jpg-jpg.jpg sam_1900-jpg.jpg

     
  18. Perfectionist

    Perfectionist เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    659
    ค่าพลัง:
    +1,444
    จอง 247 ครับ
     
  19. Khun Kriang

    Khun Kriang สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2019
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +4
    จองครับ
     
  20. Somchai 2510

    Somchai 2510 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2019
    โพสต์:
    1,740
    ค่าพลัง:
    +125
    รายการที่ 249 เหรียญรุ่นเมตตาหลวงปู่หนูเพชร ปัญญาวุโธ พระอรหันต์เจ้าวัดป่าภูมิพิทักษ์ อ.สว่างเเดนดิน จ.สกลนคร หลวงปู่หนูเพชรเป็นศิษย์หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ วัดป่าประสิทธิธรรม เหรียญสร้างปี 2556 มีตอกโค๊ตตัวเลข 1506 หน้าเหรียญ มาพร้อมกล่องเดิม
    หลวงปู่หนูเพชร ปัญญาวุโธ พระอริยะสงห์แห่งวัดป่าภูมิพิทักษ์ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร หลวงปู่ท่านเป็นผู้มักน้อยสันโดษ ชอบอยู่เงียบๆเรียบง่าย ไม่ติดในลาภสักการะ เมื่อเข้าไปพบเจอ สนทนากับหลวงปู่ มีแต่ความเยือกเย็น เมตตาหาที่สุดไม่มีประมาณ เป็นธรรมยิ่งนัก สาธุ สาธุ สาธุ.(หลวงปู่หนูเพชร องค์ท่านไม่รับกิจนิมนต์ออกจากนอกวัดเลย ใครจะมากราบก็มากราบที่วัดได้ตลอดเวลาครับ) >>>>ประวัติย่อพอสังเขปหลวงปู่หนูเพชร ปัญญาวุโธ
    วัดป่าภูมิพิทักษ์
    ต.คำสะอาด อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    หลวงปู่หนูเพชร ปัญญาวุโธ
    เกิดวันพฤหัสบดีที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๔๗๒
    ณ.บ้านบึงโน ต.บ้านหัน อ.บ้านหัน จ.สกลนคร
    ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น
    ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    บิดาชื่อนายบุญ ไพบูลย์ มารดาชื่อนางเคน ไพบูลย์
    มีบุตรร่วมกัน 6คน
    ๑.หลวงปู่หนูเพชร ปัญญาวุโธ (ไพบูลย์)
    ๒.นางเล็ก ไพบูลย์ (เสียชีวิตแล้ว)
    ๓.นางสอง ไพบูลย์ (เสียชีวิตแล้ว)
    ๔.นางทอง ไพบูลย์ (เสียชีวิตแล้ว)
    ๕.น้องชาย (ไม่ทราบชื่อ) เสียชีวิตแล้ว
    ๖.น้องชาย (ไม่ทราบชื่อ)เสียชีวิตแล้ว
    เมื่ออายุ ๗ ปีท่านได้เข้าเรียนโรงเรียนวัดศรีชมภู
    บ้านบึงโนในปีพ.ศ. ๒๔๗๘ ได้เล่าเรียนจนจบชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ ๔ ในปีพ.ศ.๒๔๘๓ ใช้เรียนเรียนอยู่๕ปี ช้ากว่าเด็กไว้เดียวกัน ๑ปี เพราะไม่ได้ไปสอบเลื่อนชั้น จึงได้เรียน ๕ปี เมื่อจบโรงเรียนวัดศรีชมภู
    ท่านมีอายุ๑๑ปี ในปี๒๔๘๓ หลวงปู่ธรรม เคยเป็นสามี พี่สาวมารดาหลวงปู่ เคยแต่งงานกับพี่สาวมารดาหลวงปู่แต่งไม่มีลูก จึงเลี้ยงดูหลวงปู่
    ต่อมาได้ทราบประวัติหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ
    ว่าท่านสละทรัพย์สมบัติ ชวนภรรยาออกบวช
    หลวงปู่ธรรมจึงได้ชวนภรรยาที่เป็นพี่สาวมารดาหลวงปู่ออกบวชเหมือนกัน
    หลวงปู่ธรรมได้มารับเด็กชายหนูเพชร ไพบูลย์
    ไปอยู่ด้วยที่วัดผดุงธรรม บ.ดงเย็น ต.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.สกลนคร (ซึ่งเป็นวัดแรกที่องค์หลวงปู่พรหม. จิรปุญโญได้สร้างขึ้น ก่อนจะสร้าวัดประสิทธิธรรม) ในปี ๒๔๘๓-๒๔๘๗ องค์หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ ท่านยังไปวิเวกในเขตภาคเหนือ และเดินทางกับมาภาคอีสานในปีพ.ศ.๒๔๘๗
    เข้าร่มผ้ากาสาวพัสตร์ครั้งแรก
    อายุได้๑๒ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดชัยมงคล
    บ้านง่อน ต.โพนสูง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    ในปี.พ.ศ.๒๔๘๔ โดยมีพระอุปัชฌาย์ฮวด สุมโน
    เป็นพระอุปัชฌาย์
    พรรษาที่๑ ได้สอบนักธรรมชั้นตรีได้ในปีพ.ศ.๒๔๘๔
    พรรษาที่๒ได้สอบนักธรรมชั้นโทไม่ได้ในปี พ.ศ.๒๔๘๕
    พรรรษาที่๓ ได้สอบนักธรรมชั้นโทไม่ได้อีกในปีพ.ศ.๒๔๘๖
    พรรษาที่ ๔ ได้สอบนักธรรมชั้นโทไม่ได้อีกในปี พ.ศ.
    ๒๔๘๗
    พรรษาที่๕ ได้สอบนักธรรมชั้นโทไม่ได้อีกในปีพ.ศ.๒๔๘๘
    รวมระยะเวลาท่านสอบนักธรรมชั้นโทไม่ได้อยู่๔ปี
    ท่านจึงเลิกสอบ
    พรรษาที่ 6. พ.ศ. ๒๔๘๙ ระหว่างปี๒๕๘๗-๒๔๘๙ สามเณรหนูเพชร ไพบูลย์ ได้มีโอกาสศึกษาธรรมกับองค์หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ ศิษยในองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่พรหมถือเป็นศิษย์ในหลวงปู่มั่นที่สำเร็จธรรมเป็นพระอรหันต์องค์แรกที่หลวงปู่มั่นชมเชย
    เนื่องจากปี๒๔๘๗องค์หลวงปู่พรหมกลับภาคอีสาน
    ต่อมาไม่นานปี๒๔๘๙
    บิดาหลวงปู่ได้ป่วยไม่มีใครทำนาท่านจึงได้ตัดสินใจลาสิกขาออกไปทำนาเพื่อเลี้ยงน้องๆ ตามประเพณีที่ท่านเป็นลูกชายคนเดียวและคนโต
    *****เข้าร่มผ้ากาสาวพัสตร์ครั้งที่สอง
    ต่อมาอายุ ๒๐ย่าง๒๑ปี
    ท่านได้ชอบสาวในหมู่บ้านเดียวกัน เลยขอมารดาอยากแต่งงาน แต่มารดาไม่อนุญาติ พร้อมขอให้ท่าน
    อุปสมบทให้มารดาก่อนเพราะท่านเป็นลูกชายคนเดียวและคนโต ท่านจึงได้ตกลงจึงได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ พระอาจารย์ลี ฐิตธัมโม ณ.วัดศรีชมภู เพื่อให้พระอยู่ในสำนักสอนขานนาค (คำขออุปสมบท)
    ขณะท่านเข้านาคเป็นผ้าขาวอยู่นั้นผู้สอนคำอุปสมบทให้ท่านคือหลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร
    ขณะนั้นทางวัดศรีชมภู ชาวบ้านและครูบาอาจารย์ กำลังร่วมกันสร้างโบสถ์ขึ้น โดยมี พระอาจารย์ลี ฐิตธัมโม(พระครูฐิตธรรมญาณ) เป็นหัวหน้า
    พระอาจารย์มหาเถื่อน อุชุกโร(พระครูอดุลสังฆกิจ)
    พระอาจารย์คำฟอง เขมจาโร(พระครูพิพิธธรมสุนทร) พระอาจารย์โง่น โสรโย พระอาจารย์สมภาร ปัญญาวโร(พระครูปัญญาวรากร) พระอาจารย์อ่อนศรี ฐานวโร พระอาจารย์อุดม ญาณรโต(พระครูอุดมศีลวัฒน์) จนเสร็จสมบูรณ์ จึงทำการผูกพัทธสีมาพร้อมทั้งอุปสมบทพระภิกษุ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง
    บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นของขวัญแก่ชาวบ้าน
    นาคผ้าขาวหนูเพชร ได้รับการอุปสมบทหลังจากผ่านการฝึกหัดท่องคำขออุปสมบท พร้อมข้อวัตรปฏิบัติสมควรแก่การอุปสมบท
    >>>>>อุปสมบท
    ในวันจันทร์ที่ ๓๐ เดือนมกราคม ๒๔๙๓
    เวลาประมาณ๐๔ฺ.๐๐น เริ่มปลงผมโกนผมเวลา๐๒.๐๐น. ณ.อุโบสถวัดศรีชมภู บ้านบึงโน ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    เช้าวันอังคารที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๙๓
    เป็นวันถวายเพลิงศพท่านพระอาจารย์ใหญ่
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ.วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง
    จ.สกลนคร
    โดยมี
    ๑.พระครูพุฒิวรคม (พุฒิ ยโส) เป็นพระอุปัชฌาย์
    ๒.พระอาจารย์คำฟอง เขมจาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ (พระครูพิพิธธรรมสุนทร )
    ๓.พระอาจารย์ลี ฐิตธัมโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    (พระครูฐิติธรรมญาณ)
    มีนาคผ้าขาวร่วมอุปสมบทจำนวณ๑๒ตัว(คน)
    จาก๔หมู่บ้าน
    ✅หลังจากเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้ว ท่านได้ไปเรียนกัมมัฏฐานกับหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นใหญ่ของพระอาจารย์มั่น อยู่ปฏิบัติพระกัมมัฏฐานกับหลวงปู่พรหมระยะหนึ่ง หลังจากนั้นท่านได้ไปเดินธุดงค์กับหลวงปู่ลี ฐิตธัมโม วัดเหวลึก อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ถึงปี พ.ศ.2513 หลวงปู่หนูเพชรได้มาเจอวัดโบราณที่เป็นวัดร้าง ได้ตั้งชื่อวัดว่า "วัดป่าภูมิพิทักษ์" ท่านจึงมาจำพรรษาปฏิบัติธรรมจนถึงปัจจุบัน
    หลวงปู่หนูเพชร เป็นพระเถระที่วัตรปฏิบัติเคร่งครัด เป็นพระชอบเก็บตัวเงียบ ซึ่งในขณะนั้น คณะศิษย์สายชลบุรีได้รู้จักจากการแนะนำของหลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร วัดถ้ำประทุน จ.ชลบุรี เนื่องจากหลวงปู่หนูเพชรได้เคยป
    pic_2067_1-jpg-jpg.jpg
    pic_2067_2-jpg-jpg.jpg

    sam_7456-jpg.jpg sam_3280-jpg.jpg sam_7373-jpg.jpg sam_7375-jpg.jpg sam_2721-jpg.jpg
    ( ล่าง ) หลวงปู่ถ่ายภาพหน้ากุฏิสมัยที่ท่านยังแข็งแรงดีอยู่
    ฏิบัติธรรมกับหลวงปู่อ่อนศรี
    หลวงปู่อ่อนศรี ยังพูดบอกอีกด้วยว่า "หลวงปู่หนูเพชร ท่านเก่งกว่าฉันอีก" ก่อนที่หลวงปู่อ่อนศรี ท่านจะมรณภาพ ท่านเคยสั่งไว้ให้คณะศิษย์ไปกราบหลวงปู่หนูเพชร >>>>>>มีพระเกศาหลวงปู่มาบูชา********บูชาที่ 175 บาทฟรีส่งems
     

แชร์หน้านี้

Loading...