รวบรวมการคาดการณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดในปี 2012, survival guide, รวบรวมเหตุการณ์จากหนัง 2012

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 22 สิงหาคม 2011.

  1. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    ภัยพิบัติ 2012

    ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หมายถึง มหันตภัยที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันเป็นการนำมาซึ่งการทำลายล้างทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากสภาพดั้งเดิม โดยยากที่จะคาดการณ์ได้ (Webster’s New Encyclopedic Dictionary, 1994) ภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศไทยจำแนกออกเป็น 8 ประเภท ประกอบด้วย
    วาตภัย จำแนกได้ 2 ประเภท ดังนี้

    1.1 วาตภัยจากพายุฤดูร้อน เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน เกิดจากถูกกระแสอากาศกระทำให้ลอยขึ้นสู่เบื้องบนอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการกลั่นตัวของไอน้ำเป็นละอองน้ำและมีการเสียดสีระหว่างลิงน้ำกับอากาศจนเกิดประจุไฟฟ้า จึงทำให้ เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและอาจมีลูกเห็บทำความเสียหายได้ในบริเวณเล็กๆ ช่วงเวลาสั้นๆ ความเร็วลมประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    1.2 วาตภัยจากพายุฤดูหมุนเขตร้อน จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน เป็นพายุที่เกิดขึ้นเหนือทะเลจีนใต้ และมหาสมุทรแปซิฟิกในเขตร้อน มีศูนย์กลางประมาณ 200 กิโลเมตร มีลมพัดเวียนรอบศูนย์กลางทิศทวนเข็มนาฬิกาในซึกโลกเหนือ ศูนย์กลางเป็นวงกลมประมาณ 15-60 กิโลเมตร
    อุทกภัย เกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน มีสาเหตุจาก พายุหมุนเขตร้อน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรง ร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรง และแผ่นดินไหวทำให้เขื่อนแตก อุทกภัยแบ่งได้ 2 ประเภท

    1.1 อุทกภัยจากน้ำบ่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน เกิดจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ดินซึมซาบน้ำไม่ทัน น้ำฝนไหลบ่าเหนือผิวดินลงสู่พื้นราบอย่างรวดเร็ว ความแรงของน้ำทำลายต้นไม้ อาคาร ถนน สะพาน ชีวิต ทรัพย์สิน

    1.2 อุทกภัยจากน้ำท่วมขังและน้ำเอ่อนอง เกิดจากน้ำในแม่น้ำ ลำธารล้นตลิ่ง มีระดับสูงเกินจากสภาวะปกติ ท่วมและแช่ขัง ทำให้การคมนาคมชะงัก เกิดโรคระบาด ทำลายสาธารณูปโภค และพืชผลการเกษตร

    ทุกขภิกขภัย ภัยธรรมชาติซึ่งเกิดจาก ฝนแล้ง ไม่ตกตามฤดูกาล มีสาเหตุจาก พายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนผ่านประเทศไทยน้อย ร่องความกดอากาศต่ำมีกำลังอ่อน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังอ่อน เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน หรือเกิดปรากฏการณ์เอลนิโนรุนแรง ทำให้ฝนน้อยกว่าปกติ ทำให้ผลผลิตการเกษตรเสียหาย

    พายุฝนฟ้าคะนอง ภัยธรรมชาติซึ่งเกิดจากฝนฟ้าคะนอง และลมแรง อากาศร้อนลอยสูงขึ้น อากาศข้างเคียงไหลเข้ามาแทนที่ ไอน้ำกลั่นตัวเป็นเมฆ ทวีความสูงมากขึ้น มองเห็นคล้ายทั่งตีเหล็กสีเทาเข้ม มีฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง บางครั้งมีลูกเห็บ หากตกต่อเนื่องหลายชั่วโมง อาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน อาจ เกิดพายุลมหมุนหรือ พายุงวงช้างมีลมแรงมาก ทำความเสียหายบริเวณที่เคลื่อนผ่าน

    แผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติซึ่งเกิดจากการปลดปล่อยพลังงานใต้พิภพ จากการเกิดภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินเลื่อน แผ่นดินถล่ม และเกิดจากมนุษย์ เช่นระเบิดปรมาณู แผ่นดินไหวในประเทศไทยมักเกิดขึ้นบริเวณภาคเหนือ มักเกิดแผ่นดินไหวขนาด 3-4 ริกเตอร์ และเคยเกิดขนาดใหญ่สุดที่บันทึกได้ 5.6 ริกเตอร์ ที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก วันที่ 17 ก.พ.2518
    แผ่นดินถล่ม การเคลื่อนที่ของแผ่นดินและกระบวนการซึ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของดินและหิน เนื่องจากแรงดึงดูดของโลก ตามความลาดชันของลาดเขา

    ไฟป่า ภัยธรรมชาติซึ่งเกิดจากมนุษย์เป็นส่วนมาก ได้แก่การเผาหาของป่า เผาทำไร่เลื่อนลอย เผากำจัดวัชพืช ส่วนน้อยที่เกิดจากการเสียดสีของต้นไม้แห้ง ปลายเดือนกุมภาพันธ์-ต้นพฤษภาคม ทำให้เกิดมลพิษในอากาศมากขึ้น ผงฝุ่น ควันไฟกระจายในอากาศทั่วไป ไม่สามารถลอยขึ้นเบื้องบนได้ มองเห็นไม่จัดเจน สุขภาพเสื่อม พืชผลการเกษตรด้อยคุณภาพ แหล่งทรัพยากรลดลง
    สึนามิ (Tsunami) เป็นคลื่นขนาดยักษ์ที่เกิดจากการแทนที่น้ำอย่างรุนแรง ทำให้มวลของน้ำเกิดการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ในลักษณะเดียวกันกับการโยนก้อนหินลงในน้ำ แล้วเกิดระลอกคลื่นแผ่ออกจากจุดที่ก้อนหินตกกระทบ ปรากฏการณ์ธรรมชาติบางอย่าง ได้แก่ ภูเขาไฟระเบิดในทะเล แผ่นดินไหวหรือแผ่นดินถล่มในทะเล และอุกกาบาต หรือดาวหางที่ตกลงในทะเล จะทำให้เกิดปรากฏการณ์แทนที่น้ำในลักษณะดังกล่าวอย่างรุนแรง ทำให้มวลของน้ำเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เกิดเป็นคลื่นสึนามิที่มีพลังงานมหาศาลและมีความเร็วสูงมาก ในระหว่างที่สึนามิเคลื่อนที่อยู่ในมหาสมุทรจะมีลักษณะเป็นคลื่นใต้น้ำ ที่เห็นเป็นเพียงระลอกสูงราว 30 เซนติเมตร ถึง 1 เมตรเท่านั้น แต่เมื่อสึนามิเคลื่อนที่เข้าหาฝั่ง สู่เขตน้ำตื้น ความเร็วจะลดลง ในขณะที่ความสูงของคลื่นกลับยิ่งทวีขึ้น

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 เวลา 7:58:53 ได้เกิดแผ่นดินไหวบริเวณใต้น้ำอย่างรุนแรง มีขนาดความรุนแรงระดับ 9 ตามมาตราริคเตอร์ บริเวณเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้เกิดคลื่นสึนามิเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งทะเลด้านทะเลอันดามันและชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของประเทศอินเดียและชายฝั่งทะเลของประเทศศรีลังกา รวมถึงทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล ในประเทศไทยเองก็ได้รับผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายใน 6 จังหวัดทางภาคใต้ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล มีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและผู้สูญหายจากภัยพิบัติในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

    แผ่นดินไหว เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติ เกิดจากการเคลื่อนตัวโดยฉับพลันของเปลือกโลก ส่วนใหญ่แผ่นดินไหวมักเกิดตรงบริเวณขอบ ของแผ่นเปลือกโลกเป็นแนวแผ่นดินไหวของโลก การเคลื่อนตัวดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากชั้นหินหลอมละลาย ที่อยู่ภายใต้เปลือกโลก ได้รับพลังงานความร้อนจากแกนโลก และลอยตัวผลักดันให้เปลือกโลกตอนบนตลอดเวลา ทำให้เปลือกโลกแต่ละชิ้นมีการเคลื่อนที่ในทิศทางต่าง ๆ กันพร้อมกับสะสมพลังงานไว้ภายใน บริเวณขอบของชิ้นเปลือกโลกจึงเป็นส่วนที่ชนกันเสียดสีกัน หรือแยกจากกัน หากบริเวณขอบของชิ้นเปลือกโลกใด ๆ ไม่ผ่านหรืออยู่ใกล้กับประเทศใดประเทศนั้น ก็จะมีความเสี่ยงต่อภัยแผ่นดินไหวสูง เช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ เป็นต้น
    แหล่งกำเนิด

    1. แนวแผ่นดินไหวของโลก ตรงบริเวณขอบของแผ่นเปลือกโลก ในกรณีของประเทศไทย แนว แผ่นดินไหวโลกที่ใกล้ ๆ ได้แก่ แนวในมหาสมุทรอินเดีย สุมาตรา และ ประเทศพม่า
    2. แนวรอยเลื่อนต่าง ๆ ในกรณีประเทศไทย ได้แก่ แนวรอยเลื่อนในประเทศเพื่อนบ้าน พม่า จีนตอนใต้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

    3. บริเวณที่มนุษย์มีกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหว เช่น เหมือง เขื่อน บ่อน้ำมัน เป็นต้น

    Actharatip: ภัยพิบัติ 2012
     
  2. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    ปี พ.ศ.๒๕๕๕ ประเทศไทยจะขาดแคลนน้ำจืด
    (เพราะมีแต่น้ำทะเลเต็มไปหมด)


    [​IMG]

    คำตอบจากพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล

    คำถามนี้ถามเนื่องจาก เมื่อวันเสาร์ที่ 21 พ.ย. 2552 เวลาสองทุ่มกว่าๆ เกือบสามทุ่ม หลวงปู่พูดเปรยๆว่า:

    อีก 3 ปีไทยจะขาดแคลนน้ำ(เพราะน้ำจืดไม่มี มีแต่น้ำเค็ม) แต่ที่ไหนมีการแก้ไข ก็จะมีน้ำพออยู่กันได้

    ประมาณนี้.. ซึ่งเราก็เลยสงสัยเล็กน้อย ก็เลยคุยกับเพื่อนๆ คนนู้นคนนี้ เพื่อนคนหนึ่งเลยบอกให้ตั้งคำถามถามหลวงปู่สิ คนที่อยากรู้คงมีเยอะ เราจึงได้ถามคำถามไป 5 ข้อค่ะ และเมื่อวาน วันที่ 28 พ.ย. 2552 เวลาดึกๆหลังสามทุ่ม หลวงปู่ก็ตอบค่ะ:

    1. เฉพาะกับเหตุการณ์ครั้งนี้ มีรายละเอียดเรื่องนี้ในพระไตรปิฎก เล่มไหน หน้าไหน หรือเปล่าคะ (ส่วนเหตุการณ์ภัยพิบัติอื่นๆ หนูได้อ่านพระไตรปิฎกตามหัวข้อที่วัดคัดลอกมาแล้ว)

    หลวงปู่บอกว่า ทำนายฝัน พระเจ้าปเสนทิโกศล .. เหตุภัยพิบัติมันมีมานานแล้ว และมันก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ มา ไป มา ไป เป็นธรรมดาๆของมัน ไม่ถึงขนาดในหนังเรื่อง 2012 ที่มันเว่อร์ๆแบบนั้นหรอก

    2. ขาดแคลนน้ำด้วยสาเหตุอะไรคะ

    หลวงปู่บอกว่า เพราะน้ำจืดไม่มี มีแต่น้ำเค็ม เครื่องกรองน้ำเค็มเป็นน้ำจืดเดี๋ยวนี้ก็มี(ที่ประเทศบาห์เรน) แต่พอถึงเวลานั้นมันใช้ไม่ได้หรอก(คงเป็นเพราะสนามแม่เหล็กโลกแปรปรวน ระบบไฟฟ้าขัดข้องไปทั่วโลก)

    3. และพระอาจารย์พอจะบอกรายละเอียดเพิ่มเติมได้หรือไม่คะ ว่าท่านเห็นอะไรและอย่างไรบ้าง ผู้ช่วยอ่านคำถามบอกว่า เริ่มวิตกแล้วล่ะ

    หลวงปู่บอกว่า ไม่ต้องกังวลว่าจะตายหรอก ได้ตายแน่ๆแหละ(คนเราเมื่อหมดอายุขัยก็ต้องตายด้วยกันทุกคน)

    4. ที่อื่นๆนอกจากแถวน้ำหนาว พออยู่ได้ไหมคะ เช่น กรุงเทพ, นครปฐม, อเมริกาเหนือ

    หลวงปู่บอกว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งทวีป อยู่ได้หมด ที่ไหนมีการแก้ไขก็อยู่ได้ อุทิศบุญต่างๆนานา เกิดปัญหาอะไรก็ให้ค่อยๆแก้ไขไป

    ผู้ช่วยถามคำถามถามหลวงปู่ว่า มีคนรอดเยอะไหม

    หลวงปู่บอกว่า รอดเยอะมาก และตายเยอะมากเช่นกัน

    5. หนูและครอบครัวถือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างเคร่งครัด พอช่วยได้ไหมคะ

    หลวงปู่บอกว่า ตอบไปแล้ว

    ประมาณนี้ค่ะ.. ขอบคุณค่ะ

    ไฟล์เสียง คำตอบจากพระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

    ที่มา=http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=2268.0

    ขอบคุณข้อมูลจาก คุณเกษม พลังจิต
     
  3. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    น่ากลัวจัง เรื่องพายุฟ่าผ่าเหมือนดังคำสาปศรีวิชัยเลยครับ อ่านเจอในบทความของคุณสันติรักษ์ เศวตอาชา
     
  4. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    B1

    โปรดใช้วิจารณาญาณในการอ่าน

    ยานอวกาศต่างดาว จะโจมตีโลก!!! ในเดือนพฤศจิกายน 2011

    on วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554 with 4 comments

    [​IMG]




    ยานอวกาศต่างดาวขนาดยักษ์สามลำ กำลังมุ่งตรงมายังโลก !!!
    นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ยานเหล่านั้นจะมาถึงโลกในเดือนพฤศจิกายน 2011 ปัจจุบันการเผชิญหน้ายาน UFO เริ่มมีเพิ่มมากขึ้น – ตามที่มีรายงานเอกสารใน WWN และนักวิทยาศาสตร์ที่สถาบัน SETI( Search for Extraterrestrial Intelligence) องค์กรอิสระมิใช่เชิงพาณิชย์ ได้ประกาศอย่างจริงจังว่า

    [​IMG]


    “ ยานอวกาศขนาดยักษ์สามลำ กำลังเดินทางตรงมาสู่โลก ลำที่ใหญ่ที่สุดกว้างถึง 300 ไมล์ อีกสองลำเล็กลงกว่าเล็กน้อย ปัจจุบันวัตถุทั้งสามดังกล่าวกำลังโคจรผ่านดาวพฤหัสบดีเข้ามา เมื่อดูจากความเร็วของยานทั้งสาม มันคงจะมาถึงโลกในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2011 “ ผู้รายงานข่าวนี้คือ John Malley ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุนอกโลกชั้นนำที่สถาบัน SETI

    ยานอวกาศทั้งสามลำถูกจับได้โดยระบบสอดส่ายหาของ HAARP ระบบข่ายงานตั้งอยู่ที่ Alaska ถูกจัดตั้งเพื่อศึกษาปรากฎการณ์แสงเหนือ ตามผู้วิจัยของ SETI วัตถุที่เห็นคือยานอวกาศนอกโ,ก พวกยานเหล่านี้จะมองเห็นได้ด้วยกล้องโทรทัศน์เลนส์กระจก ทันทีที่มันมาถึงเส้นทางโคจรของดาวอังคาร( Mars) -- ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2011 รัฐบาลสหรัฐได้รับการบอกกล่าวให้ทราบเกี่ยวกับปรากฎการณ์นี้แล้ว



    ไม่ใช่ข่าวล้อเล่น แต่เป็นเรื่องความเป็นความตายของมนุษย์บนโลกที่ชื่อ Earth ใบนี้ และขอให้ติดตามตอนต่อไป อย่าได้กระพริบตา

    จะบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ข้อมูลนี้ไปตรงกับคำทำนายของนาย Harold Camping ที่ทำนายว่าจะเกิดวันสิ้นโลกจริงในวันที่ 21 ตุลาคม 2011 นี้

    มิหนำซ้ำข่าวร้อนที่ NASA ยืนยันว่า ยานอวกาศต่างดาวขนาดยักษ์สามลำ กำลังมุ่งตรงมาสู่โลกเรา ทำท่าคุกคามขนาดไหนไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้พวกเขาอาจกำลังเตรียมปกป้องโลกจากการโจมตีของมนุษย์นอกโลกแล้ว - แน่นอน


    ยานอวกาศต่างดาว จะโจมตีโลก!!! ในเดือนพฤศจิกายน 2011|เรื่องลึกลับจากทั่วโลก mystery w
     
  5. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    B1

    โปรดใช้วิจารณาญาณในการอ่าน

    เด็กจากดาวอังคารกลับชาติมาเกิดพร้อมเรื่องลึกลับ

    on วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554 with 1 comment

    [​IMG]

    ตกเป็นข่าวใหญ่โต เมื่อสื่อหลายสำนักในต่างประเทศ
    พูดถึงเด็กที่มีความทรงจำแปลกๆ
    หลายคนได้ซักถามถึงความทรงจำครั้งเก่า
    บ้างก็ว่าเป็นเด็กกลับชาติมาเกิดจากดาวอังคาร

    Project camelot ได้ทำการสัมภาษณ์เด็กชายชาวรัสเซียคนนี้
    เกี่ยวกับความทรงจำในอดีตชาติและสัมผัสพิเศษของเขา

    Boriska (ชื่อของเด็กคนนี้)


    เด็กชาวรัสเซีย อ้างว่า ชาติก่อนเคยอาศัยอยู่ในยุค
    ที่อารยธรรมดาวอังคารยังคงรุ่งเรืองก่อนที่จะเกิด
    สงครามมหาประลัย

    Boris Kipriyanovich เป็นเด็กอินดิโก ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในรัสเซีย
    หลังจาก Gennady Belimov อาจารย์มหาวิทยาลัยในภูมิภาค Volgograd ของรัสเซีย
    ตั้งแต่ Boriska อายุเจ็ดขวบ เขาทำให้ผู้ใหญ่ตกตะลึงในระหว่างการเข้าค่ายพักแรม
    เป็น เวลาชั่วโมงครึ่งที่ทุกคนเคลิบเคลิ้มกับการฟังบรรยายเรื่องราวชีวิตที่ผ่าน มาของเขาบนดาวอังคารและ Lemuria เขาได้เตือนถึงหายนะที่จะมีผลกระทบต่อโลกในปี 2009 และ 2013


    อาจารย์ Belimov ได้เผยแพร่บันทึกคำสนทนาโดยลำพังของ Boriska
    คำสนทนานี้ได้ถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วทั่วรัสเซียจนพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ชั้นนำของรัสเซีย
    ถ้อยคำถูกแปลเป็นภาษาตะวันตกผ่านทางบทความ Pravda
    เมื่อต่ออินเตอร์เน็ตก็จะมีบทความสั้นๆเกี่ยวกับเขาและมีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจ
    ทางเอกสารของโครงการของเราในโครงการ Camelot ตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังรัสเซียเพื่อค้นหา Boriska
    และจับพยานของเขาในกล้อง ดูเหมือนว่าพวกเราชาวตะวันตกคนแรกที่ได้ทำให้การเดินทาง

    ในวันที่ 8 ตุลาคมเราได้สิทธิพิเศษในการสัมภาษณ์เขาด้วย
    Nadya มารดาของเขาอาศัยอยู่ใกล้ๆกรุงมอสโก Nadya
    ได้นำเขาไปเข้าโรงเรียนพิเศษสำหรับเด็กปัญญาเลิศ
    พวกเขาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นเล็กหลังหนึ่ง
    พ่อเขายังไม่มาเนื่องด้วยติดประชุม -- Bill Ryan


    เรามุ่งหน้าไปรับ Boriska และแม่ของเขาจากกรุงมอสโก ... เราฝ่าการจราจรไปหนึ่งชั่วโมง
    ในที่สุดเราก็พบตัวอพาร์ทเม้นท์
    เราใช้เวลาไม่กี่นาทีในลานจอดรถเมื่อเราสังเกตเห็นเจ้าหนู peeking gangly
    รอบมุมของอาคารที่เรามา ... และ เดินดุ่มๆออกไปเมื่อเขาเห็นฉันกำลังมองหา
    เขาสวมหมวกเบสบอลสีแดงไปข้างหลังและการแสดงออกเหมือนผีตัวเล็กซุกซน
    ฉันพอจะสังกตุเห็นได้แม้ระยะทางจะไกล
    หลังจากนั้นฉันคิดว่าพวกเขาจะต้องรู้จัก Boriska อย่างแน่นอน

    .. และเมื่อแม่ของเขาปรากฏ เธอโบกมือให้เราไปพบกับเขา
    เขาได้ทำงานอยู่ด้านหลังพาร์ทิชันและเห็นได้ชัดถึงความขี้อาย ...
    ฉันได้เดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็วไปทั่วมุมและทักทายด้วยรอยยิ้ม ...
    บอกกับเขาเป็นภาษาอังกฤษว่าทุกอย่างจะโอเค
    เขาจับมือของฉันและยิ้มหวาน ฉันรู้ว่าเราจะเป็นมิตรต่อกัน

    ต่อมาในระหว่างการสัมภาษณ์,Boriska แสดงสัญญาณทั้งหมดของเด็กสาวเป็นวัยรุ่น,
    ลังเลที่จะแสดงออกมากกว่ามีความจำเป็นอย่าง .
    เขาโบกมือออกไปแสดงรายละเอียดตามสิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับในตอนเด็กของเขา
    สภาพจิตใจของเขาต่อสิ่งอื่นๆ ชีวิตนี้ได้ยึดไว้
    แววตาของเขาไม่สดใสเมื่อเขากล่าวถึงความทรงจำในอดีตของชีวิตที่ผ่านมาของเขา
    บนดาวอังคารหรือแม้กระทั่ง Lemuria

    [​IMG]

    แม้เขาดูมีเสน่ห์แต่บุคคลิกภาพโดยทั่วไปก็เหมือนเด็กตัวเล็กๆ
    ที่ชอบซุกซนเขาอดทนที่จะตอบคำถามและให้การปฏิบัติต่อเรา
    ตาของเขา เลื่อนลอย และจินตนาการของเขาเร่งเร้าค้นหาสิ่งกระตุ้น
    ให้มากขึ้นกว่าห้องเล็ก ๆ นี้ ที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยใหญ่หนาตากับผู้ใหญ่และกล้อง ...
    เขา อยากที่จะหลบหนีไปเล่นเกมส์ที่เขาชอบเล่นเช่นแมว Avatar ส่วนหนึ่งและส่วนหนึ่ง superman ...

    เขารู้สึกเบื่อกับเรา! แต่ตั้งใจจริงและสุภาพกับความผิด ..
    มันดูเหมือนเป็นผิดปกติสำหรับเด็กผู้ชายวัย 11ปี
    เขาพูดเกี่ยวกับสงครามที่ทำให้เกิดการสิ้นสุดของอารยธรรมดาวอังคาร,
    เขาเผยถึงวิธีการที่พวกเขาพยายามที่จะเปิดดาวพฤหัสบดีเป็นดวงอาทิตย์ดวงที่ 2 ...
    กับบางสิ่งที่จุดประสงค์ไม่ชัดเจน
    เขารู้สึกประหลาดใจในวิธีการอ่อนน้อมถ่อมตนมากที่สุดในการเรียนรู้
    ว่าความเป็นเพื่อนของอาจารย์ Vladislav Lugovenko
    เขาจำได้ดีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ Boris tapped
    ในเหตุการณ์อันตรายที่เกิดขึ้นระหว่างทางกลับบ้านของเขาในรถไฟใต้ดิน

    เมื่อเขากลับบ้าน Boris ถามเขาเกี่ยวกับนักเลงที่วิ่งเข้าหาและข่มขู่เขา ....
    เมื่ออาจารย์ได้กล่าวว่าไม่มีอะไร "คุณกำลัง telepath"ผมบอกเขาว่า "ไม่เลย"...
    เขากล่าวอย่างถ่อมตัวตอบ ...

    ด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ ,ฉลาดเกินกว่าวัยของเขามีความสุขุมรอบคอบและละเอียดอ่อน
    เมื่อถามถึงว่าเขารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับมนุษย์บนโลกนี้ เขาเงียบ ๆ
    แล้วถอนหายใจ แล้วกล่าวว่าเขา"ไม่ชอบที่จะพูดไม่ดีเกี่ยวกับมนุษย์บนโลก"นี้

    สิ่งที่เขาพูดกล่าวมาทั้งหมด เขาอาจจะเห็นอะไรจริงๆ
    ด้วยสายตาที่ชัดเจนอย่างน่าพิศวงเหล่านั้นหรือไม่
    เวลานี้ยังมีไม่มากในการสัมภาษณ์ ส่วนใหญ่เป็นการสำรวจของสถานที่และเวลาที่นี้
    อายุ 11 ปีเด็กชายพบว่าตัวเองมีบางอย่างที่น่าแปลกใจ

    เขาพูดถึงอนาคตของน้ำท่วมมาถึงกรุงมอสโกในปี 2009
    เรื่องหลักความจริง ของ ... เขาจะอยู่รอดหรือไม่?
    แม่ของเขาจะเป็นยังไง? เขา shrugs ...

    [​IMG]

    การพบกันเป็นครั้งที่สองทำให้เราต้องทึ่งกับการพูดจาของเด็กชาย
    ที่ฟังดูโตเกินกว่าเด็กๆในวัยเดียวกัน เขามักจะใช้ความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์เฉพาะ
    และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับดาวอังคารและโลกที่เขา
    อ้างว่ามีประสบการณ์มา ทำให้ยิ่งทวีความน่าสนใจมากขึ้น

    "ทำไมเขาจึงเริ่มพูดในเรื่องพวกนี้ และครั้งแรกที่ไหน"ผู้สัมภาษณ์เริ่มถาม
    "และบางทีเขาอาจถูกจับโกหกได้ง่ายๆโดยบรรดาคนของเราที่มีความรู้และรอบด้านมาก"
    เธอกล่าวต่อ

    "เขาสามารถสร้างเรื่องทั้งหมดนี้ได้หรือไม่"

    "ไม่น่าจะ" เพื่อนของฉันกล่าวคัดค้าน

    " "สำหรับผมนี้ดูเหมือนเด็กมีลักษณะการเล่าที่มีจากความทรงจำส่วนตัวของเขาจาก
    การเกิดในชาติที่แล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เรื่องราวดังกล่าว
    ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่มีความรู้เชื่อตาม".




    วันนี้หลังการพบปะกับผู้ปกครองของ Boris และเพื่อทำความรู้จักกับเด็กให้ดีขึ้น
    ฉันจะเริ่มต้นอย่างรอบคอบเช็คทุกข้อมูลที่ได้รับจากการค้นหามา
    เขาเกิดในเมือง Volzhskii ในโรงพยาบาลชานเมืองในทางด้านเอกสาร
    แต่บ้านเกิดของเขาเป็นเมือง Zhirnovsk ของเขต Volgograd
    วันเกิดของเขาคือ 11 มกราคม 1996
    (บางทีมันอาจจะมีประโยชน์สำหรับโหราศาสตร์)


    พ่อแม่ ของเขาดูเหมือนจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยม Nadezhda แม่ของ Boriska
    เป็นแพทย์ผิวหนังที่คลินิกรัฐ จบการศึกษาจากสถาบันการแพทย์ Volgograd
    ได้ไม่นานในปี 1991 พ่อของเด็กเป็นข้าราชการเกษียณอายุ
    พวกเขาทั้งสองจะมีความสุขถ้ามีคนสามารถคุยในเรื่องที่เป็นความลึกลับของลูกชาย
    ในขณะเดียวกันพวกเขาก็สังเกตเห็นเขาและเลี้ยงดูเขาให้เติบโตไปเรื่อยๆ

    [​IMG]

    หลังจาก Boriska เกิด ฉันสังเกตเห็นว่าเขาสามารถบังคับหัวของเขาได้ใน 15 วัน,
    การเรียก Nadezhda แม่ของเขาเป็น คำแรกว่า"บาบา"
    เมื่อเขามีอ่ยุได้ 4 เดือนและจากนั้นไม่นานก็เริ่มพูดคุยได้
    และ 7 เดือน เริ่มพูดเป็นประโยคแรกของเขาว่า"ผมต้องการหอยทาก "
    เขากล่าวว่าวลีนี้โดยเฉพาะหลังจากที่สังเกตเห็นหอยทากติดอยู่ในผนัง
    ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความสามารถทางปัญญาที่เกินวัยของเขา เอง

    - ความสามารถพิเศษเหล่านี้เริ่มปรากฏให้พ่อแม่เขารู้สึกได้เมื่อไหร่

    - เมื่อบอริสมีอายุเพียงหนึ่งขวบ ฉันเริ่มให้เขาอ่านตัวอักษร (ภาษา Nikitin)
    ให้ทายว่าคือตัวอักษรอะไร,

    [​IMG]

    1 ขวบครึ่ง เขาสามารถอ่านข้อความพาดหัวของหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่
    และใช้เวลาไม่นานสำหรับเขาที่จะทำความรู้จักกับสีและเฉดสีต่างๆ
    และเขาเริ่มระบายสีตอนสองขวบ

    จากนั้นเมื่อเขา 2 ขวบ เราพาเขาไปยังศูนย์ดูแลเด็ก
    ครูทุกคนตะลึงในความสามารถและลักษณะผิดปกติของเขา
    การคิดของเขา เด็กชายผู้มีความจำที่ดีและความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ เรียนรู้ได้เร็ว

    แต่พ่อแม่ของเขาก็พบว่าเด็กของพวกเขาควรได้รับการดเรียนรู้
    ที่เป็นเฉพาะทางของตัวเด็กเองจากสถานที่อื่นบาง ...

    - ไม่มีใครเคยสอนเขาเลย ให้เรียกแม่เขาว่า Nadya
    แต่ บางครั้งเขาจะนั่งในตำแหน่งดอกบัวและเริ่มต้นพูดถึงสิ่งเหล่านี้
    เขาจะพูดคุยเกี่ยวกับดาวอังคารเกี่ยวกับระบบดาวเคราะห์,

    อารยธรรมที่อยู่ห่างไกล ... เราไม่อยากจะเชื่อหูของเราเอง
    เด็กสามารถรู้ว่าเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร จักรวาล,
    เรื่องราวที่ไม่รู้จบของโลกอื่น ๆ และท้องฟ้าอันยิ่งใหญ่
    ราวกับเขามีเวทมนต์ตั้งแต่เขาอายุ 2 ขวบ

    [​IMG]

    หลังจากนั้น Boriska ก็บอกเราเกี่ยวกับชีวิตก่อนหน้าของเขาบนดาวอังคาร
    เกี่ยวกับความจริงที่ว่าดาวเคราะห์สีแดงนั้นเคยเป็นที่อยู่อาศัยจริง
    แต่เป็นเพราะมหาภัยพิบัติที่มีความรุนแรงมากที่สุดและได้ทำลาย
    จนสูญเสียชั้น บรรยากาศ และว่าในปัจจุบันชาวดาวอังคารทั้งหมดจะอยู่ในเมืองใต้ดิน
    ต่อมาพวกเขาก็เคยใช้ยานอวกาศบินมายังโลกค่อนข้างบ่อยเพื่อการค้าแลก
    เปลี่ยนและใช้ในวัตถุประสงค์การวิจัยอื่น ๆ

    เขาเล่าราวกับว่าเป็นผู้ขับยานบินของเขาด้วยตัวเอง
    ซึ่งอยู่ในสมัยที่โลกปกครองโดยอารยธรรม Lemurian(แผ่นดินในมหาสมุทรแปซิฟิก)
    ซึ่งเขามีเพื่อนชาว Lemurian ที่ได้ถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาของเขา ...

    - และภัยพิบัติครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นในโลกยุคนั้น ทวีปขนาดยักษ์ถูกคลื่นยักษ์กลืนกิน
    แล้วทันใดนั้นก็มีก้อนหินขนาดใหญ่หล่นลงมาทับเขาในระหว่างก่อสร้าง ...
    ซึ่งนั่นก็คือเพื่อนของเขา , Boriska บอก
    ผมไม่สามารถช่วยเขาได้ เราหวังว่าจะได้มาพบเจอกันในชาตินี้

    เด็กชาย ถ่ายทอดเรื่องราวของโลกในยุค Lemuria ราวกับว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวานนี้
    เขาพูดถึงการตายของเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาราวกับว่ามันเป็นความผิดของเขา

    [​IMG]

    วันหนึ่งเขาสังเกตเห็นหนังสือในกระเป๋าแม่ของเขาเรื่อง"เรามาจากไหนที่ไหน"
    โดยเอินส์ท มัลดาเชฟ ผู้ซึ่งมีความสุขและความหลงใหลในการค้นพบเด็กชายตัวเล็กๆ
    ซึ่งกำลังเปิดอ่านหนังสือหลายชั่วโมง
    การดูภาพที่สเก็ตช์ของชาว Lemurians ภาพถ่ายของทิเบต
    แล้วเขาก็เริ่มพูดถึงสติปัญญาชั้นสูงของชาวLemurians ...

    - แต่อารยธรรม Lemuria สิ้นสุดไปเมื่อ 800 000 ปีมาแล้ว ... ,
    ชาวLemurians มีความสูง 9 เมตร! ? เขาจำเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร

    - ผมจำได้จริงๆ เด็กชายตอบ

    หลังจากนั้นเขาก็เริ่มอ่านหนังสือเล่มอื่นๆของ Muldashev
    "ในการค้นหาของเมืองแห่งเทพเจ้า."
    หนังสือเล่มนี้ส่วนใหญ่จะกล่าวถึงสุสานเก่าแก่และปิรามิด
    Boriska ช่วยยืนยันข้อความในหนังสือว่า ผู้คนจะพากันพบความรู้ภายใต้ปิรามิดหนึ่ง
    (น่าจะเป็นคัมภีร์มรกตแห่งโธท) มันยังไม่ได้รับการค้นพบ
    "ชีวิตจะเปลี่ยนไปเมื่อสฟิงซ์จะถูกเปิด(คัมภีร์มรกตของโธทถูกพบใต้สฟิงค์)
    " เขากล่าวเสริมว่ามหาสฟิงซ์มีกลไกการเปิดอยู่ตรงไหนสักแห่ง (แต่เขาจำไม่ได้)
    (การที่ชีวิตเปลี่ยนไปนั่นหมายถึงมนุษย์ย่อมเปลี่ยนวิธีคิดด้วย
    การลุกขึ้นมาต่อต้านผู้มีสัญลักษณ์ปิรามิดเพราะเหตุนี้ - ผู้แปล)

    [​IMG]

    เด็กชายยังมีพูดถึงความรักที่ยิ่งใหญ่อย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับอารยธรรมมายัน
    ตามเขากล่าวมา ทำให้คิดว่าเรายังรู้น้อยมาก
    เกี่ยวกับอารยธรรมอันยิ่งใหญ่นี้และพลเมืองของเขา

    และที่น่าสนใจมากที่สุด Boriska คิดว่าปัจจุบันได้เวลาในการมาของ"บุรุษสำคัญผู้หนึ่ง"
    ที่จะมาเกิดในโลก
    การเกิดใหม่ของโลกใกล้เข้ามา องค์ความรู้ใหม่จะอยู่เป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง,
    ความคิดที่แตกต่างทางด้านจิตใจจากโลกปัจจุบัน

    เธอรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเด็กมีความสามารถพิเศษเหล่านี้และทำไมมันจึงเกิดขึ้นได้
    เธอกลัวไหมที่จะถูกเรียกว่า
    เด็กพิเศษ(เด็กอินดิโก้)?

    - ผมรู้ว่าพวกเขากำลังมาเกิด แต่ผมยังไม่เคยเจอพวกเขาในเมืองนี้
    บางทีอาจจะเป็นเด็กผู้หญิงที่ชื่อ Yulia Petrova เธอเป็นคนเดียวที่เชื่อผม
    เด็กคนอื่นๆก็จะหัวเราะเยาะในเรื่องราวของผม

    บางสิ่งที่จะเกิด ขึ้นในโลกใบนี้ ;
    นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเด็กเหล่านี้จึงมีความสำคัญ พวกเขาจะสามารถช่วยผู้คนได้
    แกนโลกจะเปลี่ยน ภัยพิบัติใหญ่ครั้งแรกจะเกิดกับทวีปหนึ่งในปี 2009
    และต่อไปจะเกิดขึ้นใน 2013 มันจะทำลายล้างมากยิ่งขึ้น


    [​IMG]

    เธอไม่กลัวเหรอว่าชีวิตของเธออาจจะไปสิ้นสุดเพราะผลจากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น?
    (หมายถึงจึงกลับมาเกิดในยุคนี้)

    - ไม่ ผมไม่กลัว ผมมีชีวิตที่ผ่านภัยพิบัติบนดาวอังคารมาแล้ว
    และที่นั่นยังคงเป็นที่อาศัยของคนเช่นเดียวกับเรา แต่หลังจากสงครามนิวเคลียร์
    ทุกอย่างถูกเผาผลาญ คนเหล่านั้นต่างมีวิธีเพื่อความอยู่รอด พวกเขาสร้างที่พักอาศัย,
    อาวุธใหม่ และยังมีการเปลี่ยนแปลงของทวีปก็มี แม้ทวีปจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก
    ชาวดาวอังคารหายใจเอาก๊าซชนิดหนึ่ง ในกรณีที่พวกเขาเดินทางมาถึงโลกของเรา
    ก็จะมีการยืนติดกับท่อและการมีอากาศ หายใจจากท่อนั้น


    คุณหมายถึงหายใจเอาก๊าซออกซิเจน?
    - เมื่อคุณอยู่ในร่างกายนี้คุณต้องหายใจเอาออกซิเจน
    แต่ชาวดาวอังคารไม่ชอบอากาศนี้ อากาศของโลกเพราะ

    มันทำให้พวกเขาแก่เร็วขึ้น ชาวดาวอังคารจะมีอายุประมาณ 30-35 ปี
    จำนวนประชากรชาวดาวอังคาร จะเพิ่มขึ้นเป็นประจำทุกปี

    - Boris, ทำไมสถานีอวกาศของเราถึงพังก่อนที่จะถึงดาวอังคาร?
    - ดาวอังคารส่งสัญญาณพิเศษเพื่อทำลายมัน สถานีเหล่านั้นมีรังสีที่เป็นอันตรายต่อพวกเขา

    ผมต้องประหลาดใจในความรู้ของเขาเกี่ยวกับเรื่องรังสี "Fabos" นี้
    ซึ่งเป็นจริงอย่างแน่นอน ย้อนกลับไปในปี 1988 ที่เมือง Volzhsky ยูริ ลุชนิเชนโก,
    คนที่มีพลังสัมผัสพิเศษ พยายามที่จะเตือนผู้นำโซเวียตเกี่ยวกับการพังของสถานีอวกาศโซเวียต
    สองลำแรก คือ "Fobos 1"และ"Fobos 2"
    นอกจากนี้เขายังกล่าวถึง"ความไม่คุ้นเคย"
    และเป็นอันตรายสำหรับการฉายรังสีไป ยังดาวเคราะห์ แน่นอนไม่มีใครเชื่อเขา

    เธอรู้เกี่ยวกับความหลากหลายของมิติมั๊ย?
    คุณรู้ใช่ไหมว่าเราไม่ควรบินเป็นทางตรง แต่อาศัยการผ่านประตูมิติ?

    Boriska ลุกขึ้นยืนทันทีและเริ่มเล่าข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับยูเอฟโอ
    "เราได้ขึ้นบินและลงจอดสู่พื้นบนโลกเกือบในทันที!"
    เด็กชายหยิบชอล์คและเริ่มวาดภาพวัตถุวงรีบนกระดานดำ
    "มันประกอบด้วยหกชั้น" เขากล่าวว่า
    25% ชั้นนอกทำจากโลหะทนทาน,
    30% ชั้นที่สองที่ทำจากสิ่งที่คล้ายกับยาง,
    ชั้นที่สามประกอบด้วย 30% โลหะอีกครั้ง
    4% สุดท้ายประกอบด้วยแม่เหล็กชั้นพิเศษ


    "ถ้าเราชาร์จพลังงานแม่เหล็กกับเครื่องเหล่านั้นจะสามารถบินได้ทุกที่ในจักรวาล."

    - Boriska มีภารกิจพิเศษที่ต้องทำหรือไม่?
    เขาได้ตระหนักถึงมันมั๊ย ?
    ฉันตั้งคำถามเหล่านี้เพื่อถามพ่อแม่ของเขาและตัวเด็กชายเอง

    - เขากล่าวว่าเขาสามารถคาดเดาได้,
    แม่ของเขาบอก เขาบอกว่าเขารู้อะไรเกี่ยวกับอนาคตของโลก
    เขากล่าวว่าผมรู้ว่าจะได้เล่นบทบาทที่สำคัญที่สุดในอนาคต ...

    [​IMG]

    บอริส, เธอรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้อย่างไร

    - มันอยู่ข้างในสมองของผม

    - Boris, ช่วยบอกเหตุผลที่ทำคนไม่สบาย?

    - การเจ็บป่วยเกิดมาจากการไม่ใช้ชีวิตของผู้คนให้อยู่อย่างถูกต้องและมีความสุข
    คุณต้องได้รับครึ่งหนึ่งของพลังงานจักรวาล
    คุณไม่ควรไปก้าวก่ายและไปลบล้างความต้องการของคนอื่นๆ
    ผู้คนไม่ควรทุกข์เพราะความผิดพลาดที่ผ่านมาของพวกเขา
    แต่ควรพยายามทำสิ่งที่ถูกตั้งไว้สำหรับภารกิจของพวกเขา
    และพยายามที่จะเข้าถึงสิ่งสูงสุดเหล่านั้นและไปเพื่อพิชิตฝันของพวกเขา
    (คำเหล่านี้เป็นคำพูดที่เขาใช้ทั้งหมด)

    คุณต้องได้รับการเพิ่มเติมกำลังใจและความอบอุ่น
    ในกรณีที่มีคนต่อต้านคุณกอดศัตรูของคุณเสีย ขอโทษตัวคุณเองและเขา
    ในกรณีที่มีคนเกลียดคุณ รักเขาเสียด้วยความรักทั้งหมดที่คุณมี
    และความจงรักภักดีและขอขมาต่อเขา
    เหล่านี้เป็นกฎแห่งความรักและความอ่อนน้อมถ่อมตน
    คุณรู้หรือไม่ว่าทำไม ชาวLemurians ตาย?

    นอกจากนี้ผมต้องติอยู่อย่าง พวกเขาไม่ต้องการพัฒนาจิตวิญญาณมากกว่านี้อีก
    พวกเขาหลงผิดไปจากเส้นทางที่ตั้งไว้จึงถูกทำลายโลกส่วนรวมทั้งหมด
    เส้นทางของพลังวิเศษคือการนำไปสู่การหยุดตาย(หยุดเวียนว่ายตายเกิด)
    และ รักคือ พลังวิเศษที่แท้จริง!

    สิ่งที่ต้องทำทั้งหมดนี้เธอรู้ได้อย่างไร?

    - ผมรู้ ... Kailis ...

    - เธอพูดว่าอะไร?

    - ผม กล่าวว่า"สวัสดีครับ"นี่เป็นภาษาของดาวเคราะห์ของผม ... (Kailis)

    http://allmysteryworld.blogspot.com/2011/06/blog-post_05.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กันยายน 2011
  6. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 กันยายน 2011
  7. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    เห็นด้วย...อย่างยิ่งยวด....ครับ



     
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    we petition the obama administration to:

    form a presidential commission to investigate the covert use of mind control technologies on American citizens.


    The Church Committee's investigation of the FBI, NSA, and CIA in the early 1970s uncovered the existence of the CIA's secret mind control program, MKULTRA. This program non-consensually co-opted men, women, and children into experiments to access and control the human mind. Although officially shut down, in actuality mind control research programs are secretly thriving today among the US military and intelligence agencies. After several decades, these covert programs have achieved a high degree of success at the expense of the lives and livelihoods of many thousands of citizens whose complaints of stalking and intrusions have so far gone unheeded. The complete dissolution of our rights to privacy and other civil liberties as citizens and human beings is imminently at risk.
    Created: Sep 26, 2011
    Issues: Human Rights

    https://wwws.whitehouse.gov/petitions/!/petition/form-presidential-commission-investigate-covert-use-mind-control-technologies-american-citizens/Ycp9XxVD?utm_source=wh.gov&utm_medium=shorturl&utm_campaign=shorturl
     
  9. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


    ในวันที่ 21 เดือน 12 ปี 2012 โลกจะอวสานจริงหรือ ?? ?? ?? ??

    1.ทางวิทยาศาสตร์ NASA ออกมาบอกว่าสนามแม่เหล็กโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง

    2.ทางโหราศาสตร์ บ่งบอกว่าจะเกิดการเรียงตัวกันของ โลก กาแล็คซี่ทางช้างเผือก และดวงอาทิตย์

    3.ทางโบราณคดี ชาวมายามีปฏิทินถึงเพียงแค่ปี 2012 และระบุวันจุดจบของโลกไว้

    4.ทางการทำนาย นอสตราดามุสได้ทำนายไว้กับราศีตีความแล้วสอดคล้องกับทางโหราศาสตร์

    5.ทาง UFO ผู้ที่ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้อ้างว่ามนุษย์ต่างดาวได้บอกเค้า(แล้วแต่ความเชื่อ)

    6.ทางความคิดผมเอง ศาสนาพุทธและคริส ได้ระบุวันจุดจบไว้แล้วในปี พุทธศักราชและคริสศักราช



    คำ ทำนายเรื่องวันสิ้นโลกนี้ มาจากวันในปฏิทินของชาวเผ่ามายัน (ชาวเผ่าโบราณที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาตอนกลาง)

    ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 21 ธันวาคม ปีคศ. 2012

    ไม่ว่าจะทางใด ดูจากหลาย ๆ ทางแล้วชี้ไปในปีเดียวกัน

    ความเชื่อมั่นกับสิ่งที่จะเกิดในปี 2012 นั้นน่าจะมีอะไรเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ

    แต่ที่แน่ ๆ ในปัจจุบันผมมั่นใจว่ามันน่าจะเริ่มเกิดขึ้นแล้ว

    โดยสังเกตุจากผลกระทบจากภัยธรรมชาตินี่เอง เมื่อกลับมามองดูปี 2012

    ก็เลยมานั่งพิจรณาดูเล่น ๆ (การนับเลขฐานสิบจะนับศูนย์ถึงเก้า)

    ถ้าเราตัดเลขสองออกก็จะได้เลขนับ 0->1->2 เมื่อมาดูเป็นปี พ.ศ. มันเป็นปี 2555 (เลยสวยมาก)

    ถ้าเราตัดเลขสองออกเช่นกัน จะได้เลข 5 เรียงตัวกัน 3 ตัว

    ผมขอโยงไปเรื่องโหราศาตร์ที่จะมี โลก กาแล็คซี่ และดวงอาทิตย์

    ที่จะเกิดการเรียงตัวกัน ผลลัพธ์นั้นคงบอกไม่ได้

    อาจเกิดผลกระทบรุนแรงต่อโลกหรืออาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้

    เพราะสิ่งที่เราไม่รู้นั้นยังมีอีกมากมายทั้งในอวกาศและจักรวาล




    1.ปฏิทินมายัน

    ทำไมต้องเชื่อปฏิทินของชาวเผ่ามายัน

    เป็น ที่ยอมรับว่าปฏิทินของชาวมายันมีความเที่ยงตรงอย่างมาก เที่ยงตรงกว่าปฏิทินระบบที่เราใช้กันในสากลมากมาย

    เพราะชาวมายันทำปฏิทินจากระบบดวงดาว โดยปฏิทินนี้ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรเลยถึง 380,000 ปี

    (ในขณะที่ปฎิทินที่เราใช้ต้องมี Leap Year ทุกๆ 4 ปีเป็นต้น)

    จะเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น

    คำถามนี้เป็นปัญหาโลกแตก (literally speaking) จริงๆ

    เพราะนอกจากจะเกี่ยวกับเรื่องวันสิ้นโลกแล้ว ยังเป็นคำถามที่ไม่มีใครให้คำตอบที่แน่นอนได้

    มีเพียงการคาดเดา การผูกโยงข้อมูลต่างๆ เพื่อทำนายถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันสิ้นโลก

    (ดู 21 December 2012, Articles you need to read.)

    เหตุการณ์ที่คาดเดากันว่าจะเกิดและเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องมีทั้งเรื่องของ

    ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติบนดวงอาทิตย์ที่จะเกิดผลกระทบยิ่งใหญ่กับระบบสุริยะ จักรวาลและโลกของเรา

    ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นจนถึงวันที่ 21 ธันวา 2012 การเปลี่ยนขั้วของขั้วโลกเหนือใต้ ฯลฯ

    แล้วชาวมายันทำนายไว้ว่าอย่างไร

    ชาว มายันไม่ได้เขียนชัดเจนว่า วันที่ 21 ธันวา 2012 จะเป็นวันสิ้นสุดของโลก

    มีผู้คนจำนวนมากเชื่อว่า มันคือวันที่โลกจะเปลี่ยนแปลงจากยุคหนึ่งเป็นอีกยุคหนึ่ง

    และเรามีหน้าที่ที่จะต้องเตรียมรับมือกับวันนั้นให้ได้ เพื่อความอยู่รอดจากการเปลี่ยนแปลง และหลังจากวันนั้น

    โลกของเราจะมีสันติสุขอย่างแท้จริง

    ปฏิทินของชาวมายันโดยคร่าว

    จาก ปฏิทินของชาวมายัน เรากำลังอยู่ในช่วงปลายของ 1 วันแห่งระบบจักรวาล

    หรือ End of a Galactic Day ซึ่งระยะเวลา 1 วัน แห่งระบบจักรวาลนั้นยาวนานถึง 25,625 ปี

    และแบ่งได้เป็น 5 ช่วง ช่วงละ 5,125 ปี และขณะนี้เราอยู่ในช่วงปลายของช่วงที่ 5

    แล้ว ชาวมายันบอกว่า นับจากปี 1999 เราจะมีเวลา 13 ปีที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติ

    และจิตสำนึกของการอยู่บนโลกใบนี้เพื่อที่จะรอดจาก การทำลายล้าง

    และในขณะเดียวกัน ก็ก้าวสู่เส้นทางที่จิตสำนึกใหม่ปูให้กับการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

    ตามศาสตร์ของชาวมายัน ทุกๆ 5,125 ปี

    ดวงอาทิตย์จะเกิดปรากฏการณ์บางอย่างที่สัมพันธ์กับศูนย์กลางทางช้างเผือกอัน กว้างใหญ่

    และจากปรากฏการณ์นั้นเอง ดวงอาทิตย์จะได้รับ ?ประกายไฟ? (Spark of light)

    ซึ่งทำให้ดวงอาทิตย์ส่องแสงและส่งผ่านความร้อนรุนแรงมากขึ้น

    อย่างที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า ?Solar Flares? และยังทำให้ขั้วแม่เหล็กของดวงอาทิตย์เปลี่ยนแปลง

    ซึ่งส่งผลต่อมายังโลก เกิดการสับเปลี่ยนขั้วโลก และทำให้เกิดหายนะทางธรรมชาติตามมามากมาย

    ปรากฏการณ์เหล่านี้ ชาวมายันเชื่อว่าเป็นเพียงกระบวนการทางธรรมชาติกระบวนการหนึ่งที่จะเกิดขึ้น

    ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างสม่ำเสมอ เปรียบเหมือนการหายใจของคน

    และจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงหรือหยุดไป เหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 4 ครั้ง

    (4 รอบแรกของปรากฏการณ์จากดวงอาทิตย์)

    และจะเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 5 เมื่อครบ 5,125 ปี ซึ่งก็คือวันที่ 21 ธันวาคม 2012 นั่นเอง




    2.Planet X NIBIRU

    Planet X NIBIRU ที่มีวงโคจรตัดกับวงโคจรของโลกเราจะตัดผ่านมาใกล้โลกอีกครั้ง

    ดาวดวงนี้จะผ่านมาที่วงโคจรของเราทุกๆ3600 ปี นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทวีปแอตแลนติกหายไป

    นั่นอาจเป้นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเรื่องโนฮากับเรือสมัยน้ำท่วมโลก

    ดาวดวงนี้จะเข้ามาใกล้โลกเรื่อยๆปี 2009 จะสามารถมองเห็นทางขั้วโลกใต้ด้วยกล้องส่องดาว

    ปี 2011 จะสามารถมองเห้นด้วยตาเปล่า ขนาดเท่าดวงจันทร์ของเรา ดาวดวงนี้เป็นสีแดง

    ปี 2012 จะเริ่มมีปฏิริยาต่อมวลสภาพอากาศบนโลก เศษหินในอวกาศที่มากับดาวนิบิรุจะตกลงมาบนพื่นโลก

    เป็นฝนดาวตกอันตรายต่อมวลชีวิตทั้งโลก


    วันที่ 21 ธันวาคม 2012 หายนะครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดบนพื้นแผ่นดิน อย่างใครไม่เคยคาดคิดมาก่อน

    วัน14 กุมภาพันธ์ 2013 วันนั้น

    เป็นวันที่ โลก +นิบิรุ+ดวงอาทิตย์ โคจรมาอยู่แนวแกนเดียวกัน แกนแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนไป

    โลก จะหยุดหมุนรอบตัวเอง 3 วัน แผ่นดินจะแยกตัวเป็นเสี่ยง น้ำทะเลจะเป็นคลื่นมหาอภิสึนามิ

    ถล่มตามเมืองชายทะเลทุกแห่ง เมื่อแผ่นดินเคลื่อนตัวตามเปลือกโลก

    ลาวาก็จะถลักขึ้นมาเกิดเป็นภูเขาไฟมากมาย

    3.UFOบอก ?? ??(แล้วแต่ความเชื่อ)

    ?อู แรนเดอร์ โอลิเวียร่า? ผู้ซึ่งอ้างว่าเคยได้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวผู้โด่งดังนั้น

    ก็อ้างว่าเขามีโทรจิตที่เห็นภาพอนาคตจากการบอกเล่าของมนุษย์ต่างดาว

    ว่าในปี ค.ศ.2012 นั้น จะมีแสงสว่างมากที่สุดในกาแลกซี่และสะท้อนไปยังดาวเคราะห์ที่โคจรรอบตัว

    สิ่งมีชีวิตและโลกจะปั่นป่วนอย่างยิ่ง


    (คงจะจำเครื่องนี้ได้ LHC)

    4.หลุมดำ ?? ??

    ในที่นี้ก์อคือทั้งหลุมดำของแกแล็กซี่ทางช้างเผือกและวหลุมดำพที่อาจเกิดขึ้นเองตามที่มนุษย์สร้างCERN

    ในทางศาสนาพุทธ ถึงอย่างไรก็ยังผู้แย้งว่าพระพุทธเจ้าได้เคยตรัสกับพระอานนท์ไว้

    ว่าในพุทศศาสนาจะมีอายุ5000ปีและมันจะเสื่อมลงในตัวของมันเอง

    ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ยังคงเป็นเพียงคำทำนายที่ยังบอกคำตอบที่แท้จริงไม่ได้หรอกว่าโลกเราจะอวสานวันไหน

    ************************************************************************

    แกนโลกจะพลิกกลับขั้ว" Pole Shift " บรรดา ET กำลังให้ความช่วยเหลือในการรอดของมนุษย์


    แบบจำลองคอมพิวเตอร์ ทำนายการพลิกกลับขั้วของแม่เหล็กโลก อาจนำมาสู่การสิ้นสุดอารยธรรมมนุษย์ในปี 2012


    จากการทำงานของนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่ง ที่ได้ศึกษาปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัว

    บอกว่าโลกและดวงอาทิตย์ ทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกันและสัมพันธ์กัน

    โดยจะแลกเปลี่ยนพลังงานและใช้จนหมดกระบวนการหนึ่ง

    จนเกิดกระบวนการของการพลิกกลับขั้วเกิดขึ้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน

    เมื่อสัตว์จำพวกไดโนเสาร์ที่สาบสูญไปในช่วงเวลานั้น

    ในการค้นคว้าวิจัยส่วนตัวและของบริษัท ได้วิเคราะห์หรือทำนายด้วยระบบคอมพิวเตอร์ Hyderabad

    ซึ่งมีแนวโน้มเกี่ยวกับการยกระดับพลังงานขึ้นสูงสุด จะเกิดขึ้นในปี 2012 นี้

    การพลิกกลับขั้วของแกนแม่เหล็กโลก คือกระบวนการเมื่อขั้วทิศเหนือและขั้วทิศใต้กลับตำแหน่งกัน

    เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น, ที่จุดหนึ่งของเวลา สนามแม่เหล็กโลกจะลดลงเกือบจะถึงศูนย์เกาซ์

    โลกที่จุดนั้นของเวลามีคุณสมบัติของแม่เหล็กเป็นศูนย์

    สิ่งนี้บังเอิญมาเกิดขึ้นพร้อมกัน กับการหมุนรอบพลิกกลับขั้วของดวงอาทิตย์ในทุกๆสิบเอ็ดปีพอดี

    ในประวัตศาสตร์ของมนุษย์ยุคใหม่ ปรากฎการณ์แกนโลกพลิกตัวที่เคยเกิดขึ้นนั้นไม่เคยถูกบันทึกมาก่อน

    แต่ในปัจจุบัน, แบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์สามารถทำนายผลลัพธ์ที่เป็นจริงได้

    ซึ่ง NASA เคยนำคำพูดที่น่ากลัว มากล่าวถึงในที่สาธารณะเกี่ยวกับ

    การพลิกกลับขั้วจะทำคุณสมบัติของแม่เหล็กของโลกอ่อนแอและเบี่ยงเบนไป แต่ไม่ใช่ศูนย์

    ตามแบบตัวอย่างคอมพิวเตอร์ Hyderabad การพลิกกลับเกี่ยวกับขั้วของโลก

    และดวงอาทิตย์สามารถเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาที่จริงจังดังต่อไปนี้

    - ระบบอิเล็กโทรนิคจำนวนมากจะทำงานผิดปกติ (ระบบขีปนาวุธ ,computer)

    - การอพยพของฝูงสัตว์ เช่น นก หรือปลาวาฬ ทำให้สูญเสียทิศทางและอื่นๆ

    - ระบบภูมิคุ้มกันโรคในบรรดาสัตว์รวมถึงมนุษย์จะทำให้อ่อนอย่างมาก

    - ทำให้ภูเขาไฟเพิ่มขึ้น, เกิดการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก แผ่นดินไหว และแผ่นดินถล่ม


    - สนามแม่แหล็กโลก (Magnetosphere) จะอ่อนแอลง และการแผ่รังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มปริมาณถึงระดับอันตราย ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังตามมา ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้

    - กลุ่มวัตถุในอวกาศที่มีเส้นผ่านมากมายจะเฉียดเข้าใกล้โลกได้ง่ายขึ้น

    -แรงดึงดูดของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม



    ถ้าคุณรวมเค้าเรื่องการทำลายล้างกับเหตุผลทางวิทยาศาสตร์

    ความเป็นไปได้เหล่านี้เป็นไปได้ทั้งหมด, คุณสามารถดูได้โดยง่าย,

    โลกอาจจะกลายเป็นที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับอารยธรรมของมนุษย์เมื่อถึงปี 2012

    และผู้ที่จะรอดได้นั้นอาจต้องมีชีวิตอยู่ใด้ดินหรือใต้เปลือกโลกเท่านั้น..

    .
    กลุ่มนักค้นคว้าเรื่อง UFO จำนวนมาก (ในต่างประเทศ)

    ที่ได้ทำการติดต่อกับพวกเขาอย่างลับๆ รายงานว่ามนุษย์ต่างดาวได้ตระหนักถึง

    เหตุการณ์เกี่ยวกับโลกในช่วงระยะอันใกล้นี้

    ได้เข้ามาบันทึกและศึกษาเหตุการณ์การสูญพันธุ์ของรูปแบบอารยธรรมเกี่ยวกับมนุษย์

    อันเนี่องมาจากการขาดของความรู้ของเราเอง

    ขณะนี้เขากำลังจัดเตรียมเครื่องมือสำหรับการตรวจวัด

    และคัดเลือกมนุษย์ที่เขาจะช่วยชิวิตเอาไว้ได้จำนวนหนึ่งแล้ว...

    พวกเขาได้รับสัญญาณและรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับโลก ว่ามีบางสิ่งที่รุนแรงจะเกิดขึ้น

    ซึ่งเขากำลังเตรียมช่วยเหลือเราอย่างเงียบๆ รวมถึงการเคลื่อนย้ายเราไปสู่ปลายทางที่ปลอดภัยที่เราไม่อาจรู้

    (ซึ่งฃ่าวนี้ตรงกับข้อมูลทางกลุ่มเขากะลาของไทยที่บอกไว้คล้ายกัน

    เกี่ยวกับการเตรียมการช่วยเหลือตามจุดต่างๆ 8จุด ทั้งในไทยและต่างประเทศ)

    หลายๆเหตุการณ์ เช่นTsunami, มันเป็นไปได้ที่เราจะงงงวยและจ้องมองมัน

    กับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ถ้าเรื่องราวนี้ถูกต้อง,

    มันอาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่เราจะอยู่รอดจะเพื่ออารยธรรมของเรา

    บางทีเราอาจต้องเคลื่อนย้ายสู่ดาวเคราะห์อื่นๆ

    เช่นที่มันอาจจะเคยเกิดขึ้นบนดาวอังคารเมื่อหลายล้านปีมาแล้ว...

    ******************************************************************************

    บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด

    เมื่อเร็วๆ มานี้ องค์การ NASA ได้เคยทำให้สาธารณะชนเกิดความหวาดหวั่นด้วยการ

    ออกมาเปิดเผยว่าการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลกจะทำให้ความเข้มข้นของ

    สนามแม่เหล็กโลกอ่อนลง และไร้ความมั่นคงแต่ไม่ถึงกับลดลงถึงระดับศูนย์

    แต่จากการศึกษาร่วมกันของนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งกับ

    กลุ่มนักธรณีฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์พบว่า ทั้งโลกและดวงอาทิตย์จะสิ้นสุด

    ระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็ก (Magnetic Pole Reversal)

    ในปี ค.ศ. 2012 โดยครั้งล่าสุดกระบวนการนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีที่ผ่านมา

    จนทำให้สัตว์จำพวกไดโนเสาร์สูญพันธุ์จนหมดสิ้น จากการค้นคว้าวิจัยและการวิเคราะห์

    ร่วมกันใน Hyderabad ได้คาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงครั้งใหม่นี้จะเกิด

    ขึ้นในปี ค.ศ. 2012

    คำถาม......? โลกจะเป็นอย่างไรเมื่อขั้วแม่เหล็กโลกกำลังพลิกด้าน


    การพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก คือ กระบวนการที่ขั้วแม่เหล็กเหนือและขั้วแม่เหล็กใต้สลับตำแหน่งกัน

    เมื่อการพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กนี้เกิดขึ้น ณ ขณะเวลาใดเวลาหนึ่ง

    (ซึ่งไม่สามารถทำนายได้ว่าจะกินเวลานานเท่าใด อาจกินเวลาแค่ 1 ช.ม.

    หรืออาจเป็นเดือนก็ได้) มันหมายถึงว่าค่าการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กโลกจะลดลง

    จนมีค่าเป็นศูนย์หน่วยกาซ และโลก ณ ขณะเวลานั้นจะสูญเสียอำนาจ

    แห่งสนามแม่เหล็กโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    คำถาม.......? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลก

    โดยปกติสนามแม่เหล็กโลก จะเป็นเสมือนโล่กำบังที่ช่วยปกป้องโลกไว้อีกชั้นหนึ่ง

    โดยเฉพาะ การช่วยกำบังโลกจากพายุสุริยะที่เกิดจากดวงอาทิตย์

    แต่เมื่อไม่มีสนามแม่เหล็กโลกในเวลาที่ว่านั้น สิ่งมีชีวิตบนโลกจะต้องเจอกับหายนะ

    นั่นก็คือ พายุสุริยะ(บางคนเรียกลมสุริยะ มันเหมือนกันนะเดี๋ยวจะสับสน)

    พายุสุริยะ คือ พลังงานที่เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่เกิดจากธาตุไฮโดรเจนบนพื้นผิวดวงอาทิตย์

    ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาสู่อวกาศด้วยแรงระเบิดมหาศาล

    ซึ่งพายุสุริยะนั้นประกอบด้วย รังสีคอสมิก(และอีกมากมาย) และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอันมหาศาล

    คำถาม........? เราจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเผชินกับพายุสุริยะ


    'ฮารัลด์ เลสช์' (Harald Lesch) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย 'มิวนิค'

    ได้สร้างแบบจำลองสนามแม่เหล็กโลกขึ้นมาศึกษาในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ

    เพื่อหาคำตอบว่าโลกเราจะเป็นอย่างไรหากไม่มีสนามแม่เหล็ก แบบจำลองที่ 'ฮารัลด์ เลสช์' สร้างขึ้นพบว่า

    ถ้าโลกเราถูกพายุสุริยะกระหน่ำ ผลที่ได้สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่ง

    จากภาพจำลองที่คอมพิวเตอร์สร้างขึ้นแสดงให้เห็นว่า เมื่อ มวลอนุภาค

    คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะมาถึงโลก จะทำปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ

    เกิดเป็นสนามแม่เหล็กชุดใหม่มาแทนที่และทรงพลัง พอที่จะทานแรงปะทะของ

    รังสีคอสมิก ทำให้รังสีคอสมิกที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์เบนออกสู่อวกาศแต่ทะว่า

    โลกเรานั้นสามารถรอดพ้นจากอันตรายจากรังสีคอสมิกไปได้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจาก

    กระบวนการนี้ไม่ได้เป็นผลดีต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย ตามหลักแล้วกระแสไฟฟ้าจะไหล

    ไปสู่ที่ๆมีความต่างศักย์ที่น้อยกว่า และสนามแม่เหล็กชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นจาก

    คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นไม่ได้เสถียรเหมือนแม่เหล็กโลกเดิม ฉะนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

    ที่ทำปฏิกิริยากับบรรยากาศโลกย่อมไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้น สิ่งที่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

    จะกระทำต่อไปนั้นก็คือ การปลดปล่อยพลังงานไฟฟ้าอันมหาศาลสู่ที่ๆมีความต่างศักย์

    ที่น้อยกว่า นั่นก็คือพื้นผิวโลก เหตุการณ์ที่ว่านี้คือ พายุฟ้าผ่านั้นเอง พายุฟ้าผ่านี้

    อาจกินเนื้อที่ทั้งทวีปหรือทั่วโลก สายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจากก้อนเมฆอิเล็กตรอนนั้น

    จะกระหน่ำผ่าลงมาทุกๆที่โดยไม่หยุดจนกว่าพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากพายุสุริยะจะหมดลง

    และจะเกิดขึ้นอีกถ้าพายุสุริยะลูกต่อไปมาถึง หรือจนกว่าการกลับขั้วของแม่เหล็กโลก

    จะเสร็จสมบูรณ์จนทำให้กระบวนการสร้างสนามแม่เหล็กโลกจะทำงานได้อีก

    สิ่งมีชีวิตบนโลกมากมายจะต้องตาย และเทคโนโลยีต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นจะถูกทำลาย

    ลงในครั้งนี้ แต่ถ้ารังสีคอสมิกสามารถหลุดรอดมากจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้

    สิ่งมีชีวิตที่รอดจากการถูกฟ้าผ่า ก็อาจจะต้องตายจากโรคมะเล็งและความร้อน

    คำถาม........? เมื่อสนามแม่เหล็กโลกเกิดการพลิกตัวอย่างสมบูรณ์จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก

    สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้อาจะเหลือเชื่อแต่ตามหลักการแล้วย่อมเป็นไปได้

    การพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนี้ไม่ได้ทำให้เกิดความหายนะจากพายุสุริยะ

    แค่เพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดหายนะจากการหมุนกลับทางของโลกที่จะเกิดตามมาอีก ยกตัวอย่าง

    เช่น การหมุนของมอเตอร์ มอเตอร์แบบธรรมดามี 2 ขั้ว

    โดยให้สัญลักษณ์ A และ B ก่อนที่ขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกตัว

    ให้เปรียบโดยการใช้ ไฟฟ้าขั้ว + ต่อเข้ากับ A และไฟฟ้าขั้ว - ต่อเข้ากับ B

    มอเตอร์จะหมุนไปทางใดทางหนึ่ง แต่เมื่อเราต่อขั้วไฟฟ้ากลับด้านกัน

    ย่อมทำให้มอเตอร์เกิดการหมุนทิศทางตรงกันข้ามกับครั้งแรก

    และนี่ก็เปรียบกับการพลิกด้านของขั้วแม่เหล็กโลกนั่นเอง

    คำถาม........? แล้วสิ่งมีชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป


    เมื่อโลกหมุนกลับทาง สิ่งมีชีวิตที่เหลืออาจจะต้องเจอกับภัยธรรมชาติมากมาย

    โลกหมุนกลับทางย่อมทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยน ทั้งกระแสน้ำทะเล กระแสลม

    รวมถึงแผ่นดิน จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นย่อมไม่มีใครรู้ได้ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตรอด

    จะปรับตัวอย่างไรเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก มนุษย์ที่เหลือจะทำอย่างไรเมื่อ

    วันนั้นมาถึง...........................

    ในแง่ความคิดของผู้มีญาณในไทย

    ผู้มีฌาณทั้งหลายได้บรรยายภาพที่ได้เห็นมาว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตบ้าง

    เช่นประเทศไทยในอนาคตจะเหลือแค่ภาคเหนือและภาคอีสานเท่านั้น

    ที่เป็นพื้นที่แผ่นดินผืนใหญ่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะรอดพ้นภัย

    อย่างเช่นที่เชียงใหม่ จะเกิดการยุบตัวและการเลื่อนของผิวดิน

    ภูเขาจะถล่มลงมา... ประมาณนี้ครับ


    แต่จะเริ่มเห็นลางภัยพิบัติในครั้งนี้ชัดเจนขึ้นในอีกประมาณ 5 ปีนับจากนี้

    และจะเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ เช่นมีภัยพิบัติมากกว่าเดิมในหลายๆที่

    ไปจนถึงเวลาที่แกนโลกพลิกตัวจริงๆ ในอีก 10-15ปี


    -----------------------------------------------------------------------------------------------

    ขอขอบพระคุณเจ้าของกระทู้ครับ

    ที่มา : 21 -12 -2012 วันสิ้นโลก !!

    ในวันที่ 21 เดือน 12 ปี 2012 โลกจะอวสานจริงหรือ ?????
     
  10. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

    2012 นาซ่า ออกมาเผยความจริงเรื่องวันสิ้นโลก

    [​IMG]

    2012 เดวิด มอร์ริสัน (David Morrison) นักวิทยาศาสตร์นาซ่า (NASA)

    เดวิด มอร์ริสัน (David Morrison) นักวิทยาศาสตร์นาซ่า (NASA) เปิดเผยถึงข่าวที่กำลังแพร่สะพัดไปทั่วอินเทอร์เน็ตที่ว่า โลกจะถึงคราวสิ้นสุดลงในปี 2012 ด้วยเหตุผลทางดาราศาสตร์เป็นแค่"ข่าวลือ"เท่านั้น โดยด็อกเตอร์มอร์ริสันระบุว่า อาการ"วิตกจักรวาล" (cosmophobia) ถูกยัดเยียดโดยเว็บไซต์วิทยาศาสตร์"ปลอม" และผู้ที่พยายามจะหาเงินจากความไม่รู้ของสาธารณชน...

    [​IMG]

    วันที่ 21 ธันวาคม 2012 จะเป็นวันโลกาวินาศจริงหรือไม่

    ความเชื่อที่แพร่กระจายอยู่บนเน็ตที่ว่า วันที่ 21 ธันวาคม 2012 จะเป็นวันโลกาวินาศ (doomsday) เนื่องจากเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในจักรวาลจะทำลายโลก กลายเป็นเรื่องหลอกลวง โดยคำยืนยันดังกล่าวมาจากด็อกเตอร์เดวิด มอร์ริสัน นักวิทยาศาสตร์นาซ่า ซึ่งข้อสรุปของคำอ้างต่างๆ และการโต้ตอบของนักวิทยาศาสตร์ที่มีต่อเรื่องดังกล่าว กำลังได้รับการเผยแพร่โดยสมาคมดาราศาสตร์แห่งภาคพื้นแปซิฟิก

    [​IMG]

    2012 การพุ่งชนของดาวเคราะห์ชื่อว่า Nibiru

    หลายเดือนที่ผ่านมา ทางนาซ่า และนักบินอวกาศหลายคนได้รับจดหมาย และอีเมล์แสดงความวิกตกังวลจากข่าวสารที่มีการเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตถึงความเป็นไปได้ที่โลกจะคราววินาศ และความสูญเสียของชีวิตมนุษย์อย่างมากมายในปี 2012 เหตผลและเงื่อนไขที่จะทำให้โลกแตกได้รับการนำเสนออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพุ่งชนของดาวเคราะห์ชื่อว่า Nibiru จุดดับบนดวงอาทิตย์ที่เกิดขึ้นอย่งต่อเนื่อง ตำแหน่งใหม่ของการจัดวางศูนย์กลางกาแล็กซี่ และอื่นๆ อีกสารพัดเดวิด มอร์ริสัน บัญญัติอาการหวาดวิตกต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า "cosmophobia" ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้คนทั่วโลกในวงกว้าง

    [​IMG]

    2012,ภาพยนต์ "2012"

    ด็อกเตอร์ มอร์ริสัน ผู้เชี่ยวชาญระบบสุริยจักรวาล (solar system) ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก (และการชนของดาวเคราะห์) และเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ทำหน้าที่เผยแพร่ข่าวสารของนาซ่า บริการ "Ask an Astobiologist" โดยเขาจะตอบคำถามต่างๆ ให้กับสาธารณชน ซึ่งเขาได้รับคำถามมากมายเกี่ยวกับปี 2012 โลกาวินาศจนรู้สึกว่า เขาต้องสืบหาต้นตอ และความจริงในเรื่องนี้ ประเด็นที่เขาให้ความสนใจมากที่สุดในการค้นหาก็คือ ผู้แพร่กระจายหลายรายเริ่มต้นจากภาพยนต์ "2012" ที่มีกำหนดฉายในเดือนพฤศจิกายน โดยการสร้างเว็บไซต์วิทยาศาสตร์"ปลอม" และกระตุ้นให้ผู้คนค้นหาคีย์เวิร์ด "2012" บนเว็บ ซึ่งเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะที่ค้นพบได้จะเต็มไปด้วยข้อมูลไร้สาระ และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะผู้ที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับความหายนะที่พยายามจะขายหนังสือของพวกเขา

    [​IMG]

    บทความของมอร์ริสันจะอยู่ในรูปของคำถามและคำตอบ ตามด้วยแนะนำแหล่งข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่ผู้อ่านสามารถค้นหาเกียวกับเหตุผลที่ว่า ทำไมถึงไม่มีการพูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดความหายนะในปี 2012 มันมีเหตุผลมากมายที่น่ากังวลเกียวกับอนาคตของโลก แต่ที่แน่ๆ ไม่มีเหตุผล หรือกำหนดช่วงเวลาที่โลกจะแตกในปีนั้น ตัวอย่างแหล่งข้อมูลที่แนะนำ เพื่อแสดงให้เห็นว่า สิ่งแปลกๆ หรือเหตุการณ์ประหลาดต่างๆ เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้


    หลังจากไฟล้างโลก
    ยุคพระศรีอริยเมตไตรย์ คือ ยุคต่อไป


    [​IMG]

    พระศรีอริยเมตไตรย์
    กล่าวคือ...

    [​IMG]

    พระศรีอริยเมตไตรย์

    เราเกิดมาช้าเกินไป จึงได้ยินแค่เรื่องราวของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อ 2500 กว่าปีที่ผ่านมาเราไม่ได้เห็นลักษณะมหาบุรุษอีกทั้งพุทธลีลาไม่ได้ฟังพระธรรมเทศนาโปรดเราให้ได้บรรลุธรรมแต่อีกไม่นานเท่าใด

    [​IMG]

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หน้าผู้ทรงมีพระฉัพพรรณรังสี

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หน้าผู้ทรงมีพระฉัพพรรณรังสีแผ่ครอบไปหมื่นโลกธาตุตลอดเวลาทรงพระนามว่า พระศรีอริยเมตไตรย์พระองค์ท่านจะบังเกิดขึ้นมาใหม่เมื่อมนุษย์อายุได้ 8 หมื่นปีทรงสร้างบารมีมายาวนานกว่า 80 อสงไขยจะมีผู้บรรลุธรรมมากมายพระศาสนาจะยืนยาวได้เกือบ 2 แสนปี

    [​IMG]

    โลกจะเป็นดั่งคล้ายสรวงสวรรค์เป็นโลกแก้วแห่งความอัศจรรย์ที่มีแต่ความศิวิไลซ์

    [​IMG]

    พระเจ้าสังขบรมจักรพรรดิ์

    พระเจ้าสังขบรมจักรพรรดิผู้บังเกิดในยุคนั้นจะสละราชสมบัติพร้อมรัตนะ 7 ประการอันเกรียงไกรอีกทั้งทวีปน้อยใหญ่ออกบวชด้วยใจที่เลื่อมใสในพระบรมศาสดา ยากหนักหนาที่มีผู้มีบุญญาบารมีจะบังเกิดขึ้นมาในยุคสมัยเดียวกัน โอ้ อัศจรรย์ โอ้ อัศจรรย์ โลกในอดุมคติยุคเหนือความฝันจะบังเกิดขึ้นมาอีกไม่นานแค่อีก 1 อสงไขยเศษเท่านั้นเอง


    พระศรีอริยเมตไตรย์

    หลังสิ้นพระพุทธศาสนา หลังจากกึงพุทธกาลไปแล้ว๔,๐๐๐ ปี (เลยพุทธศาสนาครบ๕,๐๐๐ ปีไปอีก ๑,๕๐๐ ปี)จะมีไฟล้างโลก ล้างแต่มนุษย์เท่านั้น ไม่ลามไปถึงเทวดา ท่านบอกว่า ความชั่วที่จะเป็นเหตุให้ไฟล้างโลกนั้น เป็นผลของสัตว์ที่สร้างอกุศลกรรมมาก มารวมกันอยู่ เป็นสมัยสัตว์นรกครองโลก มีแต่ความเร่าร้อน หาความสงบสุขไม่ได้ ความจริงแล้วมันเริ่มมีความเร่าร้อนตั้งแต่ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปีแล้ว จากนั้นไป พวกอธรรมเกิดมาก มีอำนาจวาสนามาก ทำให้ความสงบสุขไม่มี เพราะพวกอธรรมเป็นพวกเห็นแก่ตัว มากกว่าเห็นแก่ส่วนรวม

    หลังจากไฟล้างโลกแล้ว : โลกจะร้างไม่มีต้นหญ้ากอไม้ แม้แต่น้ำในมหาสมุทรก็ไม่มีไปครบ ๑,๐๐๐ ปี หลังจากนั้นแล้วจะมีฝนใหญ่ตกลงในมนุษย์โลก แม่น้ำและมหาสมุทรจะเต็มไปด้วยน้ำ พื้นโลกจะชุ่มชื้น ต้นหญ้า ต้นไม้ จะเริ่มงอกงามขึ้นเป็นลำดับ จนโลกทั้งโลกกลายเป็นป่าไม้

    หลังจากที่โลกเขียวชอุ่ม ไปด้วยต้นหญ้าใบไม้นั้น : ทิ้งระยะนาน ๑ หมื่นปี สัตว์โลกเริ่มเกิด สัตว์และคนที่มาเกิดยุคต้นนั้น ไม่ได้อาศัยบิดามารดาเป็นแดนเกิด มาเกิดแบบ อุปปาติกะ คือ มาเกิดด้วยอำนาจกรรม คือเป็นตัวคนขึ้น จะยังไม่มีพระอาทิตย์ พระจันทร์ส่องแสง มีแสงเกิดจากอำนาจบุญของแต่ละคน คือมีแสงสว่างออกจากตัวเองเป็นสำคัญ เรื่องอาหารนั้นนระยะแรกยังไม่ต้องการอาหาร มีความอิ่มด้วยธรรมปิติ เพราะแต่ละคนที่มาเกิด ล้วนแล้วแต่มาจากเทวดาหรือพรหมทั้งนั้น ไม่มีสัตว์นรกหรือเปรตเจือปน โลกจึงเต็มไปด้วยความสุข หาความทุกข์ไม่ได้ นอจากกฏธรรมดา คือ ความเสื่อมของสังขาร เรื่องการทะเลาะยื้อแย่งไม่มี คนทุกคนเป็นคนสวยหมด ผิวเหลือง เนื้อละเอียดทั้งหญิงและชาย มีแต่คนรวย ไม่มีคนจน มีแต่คนใจบุญ ไม่มีใครใจบาป

    พระศรีอาริย์มาตรัสรู้ : เมื่อโลกมีมนุษย์ และสัตว์บริบูรณ์ มีดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์แล้ว ระยะเวลานับแต่มีสัตว์โลกเกิดในโลก เวลาล่วงมาได้ล้านปี คนสมัยนั้นีอายุครองตนได้ ๘ หมื่นปีเป็นอายุขัย ท่านว่าตอนนั้นพระศรีอาริย์จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า


    พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า"ยุคศิวิไลซ์อันน่าอัศจรรย์"

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=JfwUkYomTWw&feature=player_embedded]พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 22 - YouTube[/ame]

    พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อ ธมฺมชโย)


    ๑. คนสวยทุกคน มีผิวเหลือง เนื้อละเอียด คนแก่ที่สุด มีทรวดทรงเท่ากับคนอายุประมาณ ๒๐ ปีเศษสมัยนี้เท่านั้นเอง อายุคนสมัยนั้นท่านว่ามีอายุถึง ๔ หมื่นปีเป็นอายุขัย

    ๒. สมัยของท่าน ไม่มีคนจน มีแต่คนรวย มีต้นไม้สารพัดนึกอยู่ในที่ทุกสถาน สัตว์นรก เปรต อสุรกาย มีจิตใจชั่วร้าย ยังไม่มีโอกาสเกิดในสมัยของพระองค์ ท่านที่จะไปเกิดที่นั้น ต้องเป็นเทวดา หรือพรหมเท่านั้น โลกจึงมีแต่ความสุข ไม่มีตำรวจทหาร มีแต่พ่อบ้านแม่เรือน

    ๓. การสัญจรไปมาสะดวกสบาย ไปไหนก็พายเรือตามน้ำ

    ๔. คนเข้าถึงธรรมทุกคน ท่านว่าคนที่เจริญสมถะพอมีญาณ หรือมีวิปัสสนาญาณบ้างพอสมควรจะเข้าถึงธรรมพิสมัยได้โดยฉับพลัน คือเป็นพระอริยเจ้า คนที่ได้อริยะต้นแล้ว จะเข้าถึงอรหัตผลได้โดยฉับพลัน

    ไม่ต้องรอ 2012 แค่ 2011 โลกก็จะแย่แล้ว

    นอสตราดามุสเมืองไทย พยากรณ์เอาไว้ว่า การโคจรของดวงดาวในปีเถาะ 2554นี้เป็นสิ่งวิปริตผิดอาเพศมากกว่าปีที่ผ่านมาอย่างใหญ่หลวง ปี 2554นี้จะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติสุดมหาหฤโหดไปทั่วโลกทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทุกสิ่งทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว“น้ำในแม่น้ำและคลองทั้งปวงจะแดงเป็นโลหิต เมฆและท้องฟ้าจะแดงเป็นแสงไฟ แผ่นดินไหวสั่นสะเทือนฤดูหนาวจะเป็นฤดูร้อนที่ลุ่มจะกลับดอนที่ดอนจะกลับลุ่มโรคภัยจะเบียดเบียนสัตว์และมนุษย์ทั้งปวงมนุษย์หนึ่งในสี่ของโลกจะพลันตายลงจะเกิดข้าวยากหมากแพง ฝูงมนุษย์จะอดอยากเสื้อเมืองทรงเมืองจะหลีกเลี่ยง”

    แต่ยังไม่ถึง “วันสิ้นโลก” ในวันที่ 12ธ.ค.2555แค่ในปี2554นี้ก็อ่วมอรทัยไปซะก่อนแล้วการโคจรของดวงดาวและดาวพระเคราะห์ในปีนี้ไม่เป็นไปตามกำหนด จัดเป็นวิกล จะเกิดแผ่นดินไหว กัมปนาทไปทั่วเหมือนแผ่นดินจะแตกแยกออกทุกหัวระแหงทั่วโลกจะถูกทำลายด้วยไฟประลัยกัลป์ ฝนจะตกเป็นเวลายาวนานความแห้งแล้งจะแผ่ขยายไปในวงกว้างมากขึ้น จะเกิดทะเลทรายขนาดใหญ่ไปทั่ว มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ทั้งหลายจะเหี่ยวแห้งและตายเป็นจำนวนมากจากการลิขิตจากดวงดาวในอนาคตที่โลกจะสิ้นสูญไป โลกเราคงไม่แตกสลายหรือสิ้นไปจากอุกาบาตพุ่งชนโลกหรอก แต่จะเกิดจากไฟของมนุษย์เรานี่เอง

    [​IMG]

    ไฟแห่งกิเลสตัณหา

    ไฟที่ว่านั้นก็คือไฟแห่งกิเลสตัณหา กำลังแผดเผาไหม้ให้ย่อยยับไปทุกๆ วันเวลาเพราะในปัจจุบันมนุษย์ในโลกนี้เต็มไปด้วยการทำความชั่วและเต็มไปด้วยสิ่งเลวร้าย การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น กอบโกยทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตนเองและพวกพ้องขาดความรักความเมตตาที่มีต่อกันและต่อสรรพสิ่งที่มีชีวิตทั้งปวง และมีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นจะถูกธรรมชาติและสวรรค์ลงโทษอย่างมหันต์อีกเช่นกันเพราะจากปี 2554 เป็นต้นไป ดวงดาวจะเดินผิดปกติไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ทางโหราศาสตร์ไทยสามารถตีความหมายไปได้อย่างเช่นในปี 2554นี้ เมืองใหญ่ๆที่อยู่ในซีกโลกตอนเหนือเกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดคลื่นทะเลยักษ์ จะฆ่าชีวิตคนเป็นล้านคน

    ดาวเสาร์ตั้งฉากกับพระราหูและพระราหูตั้งฉากกับมฤตยู จะทำให้ท้องฟ้าจะแปรปรวน ดวงอาทิตย์ ดวงดาวจะไม่ส่องแสงเหมือนเคย ลมฟ้าอากาศวิปริตและโลกจะร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วอุณหภูมิของโลกจะสูงขึ้นในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก บ่งชี้ว่าสภาวะโลกร้อนกำลังเกิดขึ้นรวดเร็ว ประกอบกับธารน้ำแข็งใหญ่บริเวณขั้วโลกเหนือละลายเร็วขึ้น ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นในทุกๆ ที่ และเกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกครั้งใหญ่ เกิดภัยพิบัติต่อประชากรมนุษย์และระบบนิเวศอิทธิพลจากการที่ดาวเสาร์เล็งมฤตยูปีนี้จะทำให้เกิดการพลิกตัวของแกนโลกจากเดิมไปเล็กน้อย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อวิถีการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตบนพื้นผิวโลกกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ของโลก อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงและฤดูกาลเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่เราไม่สามารถระบุฤดูกาลลงไปได้อย่างแน่นอนกันอีก สภาพอากาศและฤดูกาลผิดเพี้ยนไปหมด ประเทศไทยที่เคยร้อนก็กลับมีอากาศหนาวเย็นจนหิมะตกลงมา

    อิทธิพลของดวงดาวทั้งสอง ยังส่งผลให้เกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติ สลับขั้วกันระหว่างพื้นที่ที่เคยฝนตกชุกก็จะเกิดความแห้งแล้ง ส่วนพื้นที่ที่เคยแห้งแล้งนั้นก็จะกลับมีฝนตกชุก สร้างความเสียหายกับพื้นที่เพาะปลูก นำมาซึ่งอุทกภัยยาวนานตลอดทั้งปี 2554 นี้ หรือไม่ก็เกิดสภาพอากาศแห้งแล้งซึ่งนำความอดอยาก ทำให้ผู้คน เด็ก ผู้หญิง ต้องหิวโหยและล้มตายในปีเถาะสุดโหดจะเกิดปรากฏการณ์ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว แผ่นดินทรุด แผ่นดินแยก แผ่นดินถล่ม และคลื่นยักษ์สึนามิบ่อยครั้ง และถี่มากขึ้นกว่าที่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ทางภูมิศาสตร์ของโลกตั้งแต่ 1, 000 ปีที่ผ่านมาก็ว่าได้น้ำแข็งบริเวณทวีปอาร์กติก และแอนตาร์กติกา จะเริ่มละลายอย่างรวดเร็ว คือในปี 2554 นี้ ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นจำนวนมากและเพียงพอที่จะทำให้เมืองใหญ่ๆ ตามชายฝั่งทะเลทั่วโลกจมอยู่ใต้น้ำได้ รวมถึงประเทศไทยจะเริ่มมีน้ำท่วมเกิดจากน้ำแข็งขั้วโลกละลาย และเข้าท่วมมาถึงกรุงเทพฯ บางส่วนเป็นนครใต้บาดาลชั่วนิจนิรันดร์

    และในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้า กรุงเทพฯ และทั่วทุกภาคทุกจังหวัดจะถูกน้ำท่วมไปหมด ที่เกิดจากน้ำทะเลไหลทะลักเข้ามาและเกิดจากอุทกภัยอีกหลายครั้งจนต้องอพยพผู้คนหนีน้ำขึ้นเหนือไปเรื่อย ๆ เกือบสุดเขตแดนไทย เมื่อนั้นคนไทยก็คงไร้สิ้นแผ่นดินได้?นี่เป็นเพียง คำพยากรณ์เท่านั้น !!!!

    2012 รึโลกจะแตกเข้าจริงๆ

    [​IMG]

    2012 โลกจะแตกจริงๆหรือ

    ต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นได้เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 9.0 ริกเตอร์ และตามมาด้วยคลื่นสึนามิขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 10 เมตร ถาโถมเข้าใส่พื้นที่ตามแนวชายฝั่งทางเหนือของประเทศญี่ปุ่น จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น ทำให้กระแสข่าวลือในโลกอินเทอร์เน็ต เกี่ยวกับวันโลกาวินาศ หรือวันโลกแตก ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.2012 หรือ พ.ศ.2555 ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดอีกครั้ง


    ทฤษฎีดาวนิบิรุชนโลก

    เนื่องด้วยเรื่องราวของดาวนิบิรุ ดาวปริศนาดวงที่ 12 ของระบบสุริยะจักรวาลที่ถูกค้นพบเมื่อปี 2002 โดยนักเขียนนามว่า เซคาราย ซิตชิน (Zecharia Sitchin) เชื่อว่า ดาวนิบิรุจะพุ่งเข้าชนโลก เนื่องจากว่า ดาวนิบิรุมีวงโคจรกว้างใหญ่ไพศาลมาก จนมาทับซ้อนลงบนกาแล็คซี่ ซึ่งความจริงแล้วเส้นทางการเดินทางของวงโคจรดาว นิบิรุ เข้ามาทับเส้นวงโคจรเดียวกับโลกพอดี ทำให้ดาวนิบิรุมีสิทธิ์เข้าชนโลกได้ หรือแม้เฉียดกันก็เกิดอันตรายได้ เพราะว่าแกนของดาวนิบิรุ ก็มีสนามแม่เหล็กอยู่ ซึ่งเมื่อเข้ามาใกล้โลกสนามแม่เหล็กจะทำปฎิกิริยากับสนามแม่เหล็กโลก จนทำให้เกิดมหันตภัยครั้งใหญ่ขึ้นในโลก อาทิ เกิดสภาพอากาศแปรปรวน เกิดภัยพิบัติธรรมชาติ เกิดภาวะน้ำขึ้นกะทันหัน ซุปเปอร์สึนามิ แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เกิดพายุต่าง ๆ และอื่น ๆ นับไม่ถ้วน ประกอบกับมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2012 ดาวนิบิรุ จะเข้าใกล้โลกของเรามากที่สุด

    ทฤษฎีแม่เหล็กโลกกลับขั้ว

    สนามแม่เหล็กของเราจะมีอยู่ 2 ขั้ว โดยขั้วหนึ่งอยู่ทางทิศเหนือ และอีกขั้วหนึ่งอยู่ทางทิศใต้ โดยขั้วแม่เหล็กทั้ง 2 ขั้ว จะมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลา และเป็นอิสระจากกัน ทั้งทำหน้าที่ปกป้องโลกจากรังสีและอันตรายภายนอกโลก แต่เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งการเปลี่ยนขั้วของสนามแม่เหล็ก ซึ่งมีช่วงระยะเวลาห่างกันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 250,000 ปีต่อครั้ง และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2008 นาซ่า (nasa) ได้ออกมาระบุเพิ่มเติมว่า อีกประมาณ 4 ปีข้างหน้า ซึ่งก็คือ ปี 2012 จะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่มากคือ การกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลก อันนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มากมาย อาทิ ทำให้ประเทศเขตร้อนมีหิมะตก หรือมีอากาศหนาวเหน็บจนยากที่จะปรับตัวได้ทัน เกิดพายุหมุนอย่างรุนแรง แผ่นดินไหว แต่ไม่อาจคร่าชีวิตประชากรโลกจนสูญพันธุ์ได้ หรืออย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศญี่ปุ่นนั้น เชื่อว่า เกิดจากแม่เหล็กโลกกำลังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดเปลือกโลกเคลื่อนตัว จนเกิดแผ่นดินไหว ก่อนที่จะเกิดคลื่นสึนามิตามมา

    [​IMG]

    2012 โลกจะแตกจริงๆหรือ


    อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่า นอกจากการที่โลกและดวงอาทิตย์ทำการแลกเปลี่ยนพลังงานและใช้จนหมดกระบวนการหนึ่ง ซึ่งก็คือทุก ๆ 11 ปีนั่นเอง และเมื่อถึงเวลานั้นจะเกิดปรากฎการณ์การกลับขั้วของสนามแม่เหล็ก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน จนทำให้สัตว์จำพวกไดโนเสาร์ต้องสาบสูญไปในช่วงเวลานั้น ก็ยังมีอีกสาเหตุหนึ่ง คือ การกลับขั้วของสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์ เนื่องจากมนุษย์ได้ทำลายธรรมชาติไปมากมาย จนเป็นเหตุให้โลกเสียสมดุล อย่างกรณีโลกร้อน ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือการเลื่อนของแผ่นเปลือกโลกที่รุนแรงขึ้น ฯลฯ กระทั่งทำให้แกนโลกเกิดการเบี่ยงเบนไป จนนำไปสู่การกลับขั้วสนามแม่เหล็กโลกนั่นเอง

    ทฤษฎีชนเผ่ามายัน

    ชนเผ่ามายัน ได้ชื่อว่าเป็นชนเผ่าที่มีความสามารถในการคิดค้นปฏิทินและการคำนวณบางประการได้ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ทันสมัยแบบเรา โดยปฏิทินของชาวมายาใช้ในระยะวงโคจร 5000 ปี และวันสุดท้ายของปฏิทินชนเผ่ามายา คือ วันที่ 21 ธันวาคม 2012 ซึ่งในวันนี้เองที่เป็นมาของความเชื่อที่ว่า เป็นวันสิ้นโลก โดยเชื่อกันว่า ในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 จะเกิดปรากฎการณ์ที่ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เพราะช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์อยู่ในระนาบเดียวกับใจกลางของทางช้างเผือกเป็นครั้งแรกในรอบ 2.6 หมื่นปี ทำให้พลังงานทุกประเภทจากใจกลางของทางช้างเผือกจะถาโถม และเกิดการปะทะกับพลังงาน ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นของโลก อาจทำให้เกิดซูเปอร์โวลคาโน หรือภูเขาไฟใต้น้ำครบกำหนดเวลา 7.4 หมื่นปี ที่จะทำลายหรือระเบิดตัวเอง โดยสัญญาณเตือนภัย ก็คือ โศกนาฏกรรมคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2004 ที่บอกให้ชาวโลกรู้ว่า โครงสร้างพื้นผิวโลกได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 ได้เกิดคลื่นสึนามิซัดถล่มประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า การระเบิดของซูเปอร์โวลคาโนอาจกำลังใกล้เข้ามาแล้วก็ได้

    ทฤษฎีน้ำท่วมโลก

    ด้วยสภาวะโลกร้อน อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งปริมาณฝน ระดับน้ำทะเล และมีผลกระทบอย่างกว้างขวาง โดยผลกระทบที่เราสามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ การละลายตัวของน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ ที่ทำให้ปริมาณน้ำในทะเลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรื่องนี้เอง ที่ทำให้เกิดทฤษฎีน้ำท่วมโลกขึ้น โดยเชื่อกันว่า หากเราไม่สามารถแก้ไข สภาวะโลกร้อนได้ ในปี 2012 โลกจะเกิดหายนะจากอุทกภัยน้ำท่วมโลก จากการละลายตัวของน้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ ซึ่งเรื่องนี้สอดคล้องกับผลสำรวจของนักวิทยาศาสตร์ที่กรีนแลนด์เมื่อปี 2003 ที่ระบุว่า ขณะนี้อุณหภูมิที่ขั้วโลกเหนือและใต้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การละลายตัวของน้ำแข็งในแต่ละวันมีปริมาณสูงถึงวันละ 1 ล้านตัน และหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่เกิน 5-7 ปี น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือและใต้จะละลายหมด ซึ่งก็คือ ปี 2012 นั่นเอง

    ทฤษฎีต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น สามารถเกิดขึ้นได้ หรืออาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ไม่ว่า อย่างไรก็ตาม ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนโลกของเรานั้น ส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ทั้งสิ้น ดังนั้น การเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เอื้อต่อธรรมชาติมากขึ้น อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุด ดีกว่าการมานั่งวิตกกังวลว่าโลกจะแตกเมื่อไหร่

    บทความที่เกี่ยวข้อง

    โลกแตก 2012 วันสิ้นโลก ตอนที่ 1
    โลกแตก 2012 วันสิ้นดลก ตอนที่ 2

    สุดตะลึง!! ภาพโลกที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนต้องดู

    พระศรีอริยเมตไตรย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 กันยายน 2011
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <center>คำต่อคำ ศ.ดร.เทพพนม เมืองแมน ฟันธง!มนุษย์ต่างดาวเตือนมนุษย์รับภัยพิบัติ 2012

    </center>สัมภาษณ์ ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์เทพพนม เมืองแมน เกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวที่มาจากดาวอังคารมีชื่อว่า พาราซิทัล มาจากดาวศุกร์มีชื่อว่า เอ็ดดี้ เขาบอกว่าเขากับมนุษย์ต่างดาวมีการติดต่อกันตลอด

    คุณนพดล : เคยคุยกับอาจารย์นานพอสมควร จำได้ว่าตอนนั้นมีคนส่ง SMS มา อยากให้อาจารย์มาออกรายการกับชั่วโมงเตือนภัย จำได้ว่าตอนนั้นอยากฟังข้อมูลมากพอสมควร ถ้านับจากนี้ไปก็จะถึงปี 2012 ข้อมูลที่เคยคุยกับอาจารย์ก่อนหน้านี้ ปี 2542-2543 ตอนนั้นอาจารย์บอกว่า อาจารย์ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว หรือสิ่งมีชีวิตที่มาจากดาวอังคารชื่อว่า พาราซิทัลและมาจากดาวศุกร์ชื่อว่า เอ็ดดี้

    ดร.นายแพทย์เทพพนม : เอ็ดดี้มาจากทางช้างเผือก เป็นชื่อที่ทางนาซ่าเขาเรียก ปี 2542-2543 มีการติดต่อกันตลอด ตอนนี้ก็ยังมีการติดต่อกับเขาอยู่ เขามาเตือนในหลายๆอย่าง และหลายๆอย่างมันก็เป็นจริงขึ้นมา เขาบอกว่าเขาอยู่มิติที่ 3 ถ้าเขาอยู่มิติที่ 6 เขาสามารถหยุดเวลาได้ เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตสำหรับโลกนี้

    ผมเคยทดสอบกับเขาหลายอย่าง เช่น เหตุการณ์ที่เกิดภัยพิบัติทางภาคใต้ เขาก็ยังมาทำให้เห็นภาพบนท้องฟ้าแล้วเอากล้องถ่าย ตอนที่ 2 เขาบอกว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ให้ระวังแผ่นดินไหวใต้น้ำ คนจะตาย อันนั้นเขาบอก 4 กุมภาพันธ์ แต่มันเกิด 6 ธันวาคม สึนามิ 2547 เขาบอกมาตั้งแต่ต้นปี เขาบอกว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ผมว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เขาบอกว่าเขาสามารถมองเห็นอนาคต ล่าสุดมีการติดต่อกันแทบทุกเดือน เขาบอกให้ระวังการเกิดแผ่นดินไหวที่ไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ให้ระวังการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่อาจจะทำให้เขื่อนใหญ่ที่สุดของเราแตกคือ เขื่อนศรีนครินทร์ 3 เดือนนับจากเดือน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม ให้ระวังการเกิดภัยพิบัติใหญ่ในประเทศไทย แต่ว่าเรื่องแผ่นดินไหวมันบอกล่วงหน้าไม่ได้ เพราะว่าอยู่ดีๆมันก็เกิด เขาบอกเขารู้ล่วงหน้า ปีนี้ให้ระวัง แต่ปีหน้ายิ่งจะมีมากกว่าในปีนี้ เขาบอกว่ามนุษย์ต่างดาวเดินทางมายังโลกนี้ตั้งเยอะ จนถึงปัจจุบันสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกอื่น เขาก็มีการแลกเปลี่ยนความรู้ เรื่องอาวุธต่างๆ แล้วก็ได้รับการเตือนภัยพิบัติ แม่เหล็กจะมีการกลับตัวอะไรอย่างนี้ ตอนนี้ก็มีนักวิทยาศาสตร์มาอยู่ในเมืองไทย นักวิทยาศาสตร์เขาบอกว่าพ่อของเขาได้สร้าง UFO ให้ฮิตเลอร์ เขาบอกว่าฮิตเลอร์ไม่ได้ฆ่าตัวตาย เขามีข้อมูลอะไรต่างเยอะเลย

    คุณนพดล : ย้อนข้อมูลไปเมื่อปี 2542 จากข้อมูลที่อาจารย์สอบถามมนุษย์ต่างดาวมีอยู่ 1 ประเด็นก็คือ เรื่องภัยพิบัติทางภาคใต้

    ดร.นายแพทย์เทพพนม :
    ปัจจุบันยังมีการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว เตือนประเทศไทยเรื่องของแผ่นดินไหวหลัง 3 เดือน เขาเตือนให้ระวัง เขาบอกว่าอันนั้นอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้ เขาบอกว่ามนุษย์นี้ก็มีส่วนทำให้กำหนดการเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้

    คุณนพดล : จากข้อมูลที่ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์เทพนม บอกสิ่งที่เขาเตือนคือ 1.เรื่องของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้น 2.แกนแม่เหล็กจะมีการสลับขั้วและพายุสุริยะที่จะเกิดขึ้น ในปี 2012

    ดร.นายแพทย์เทพพนม : การยิงภาพให้เห็นเรียกว่า เลเซอร์ยูเอสซี ให้ระวังพายุงวงช้าง มันดูดน้ำขึ้นไปสูง อีกข้างเป็นคลื่นยักษ์ เขาบอกว่าถ้าเกิดพายุงวงช้าง ให้ระวังว่าอาจจะตามมาด้วยคลื่นยักษ์ พายุหมุนมันม้วนน้ำทะเลขึ้นสูงขนาดยอดมะพร้าวแล้ววิ่งเข้าฝั่ง และจะดึงน้ำจำนวนมหาศาลเข้ามา ตอนนี้ให้ระวัง ที่เคยถามก็เจอบ่อย ยังไม่ทำอันตรายมาก อย่างน้ำท่วมเขาก็บอกล่วงหน้าว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ทางภาคใต้

    คุณนพดล : แล้วทำไมอาจารย์ไม่เอาข้อมูลพวกนี้มาเผยแพร่

    ดร.นายแพทย์เทพพนม : ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นจริงแค่ไหน แล้วผมก็ไม่อยากให้คนว่าผม แล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริง แล้วผมถามเขาว่าน้ำพวกนี้มาจากไหน มาจากน้ำทะเลเหรอ เขาบอกว่ามาจากท้องฟ้า ก็ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ผมก็ฟังหูไว้หู แต่ถ้าจะเกิดอันตราย ผมก็มีหน่วยงานแพทย์เคลื่อนที่ แล้วเราก็ไปรักษาประชาชนร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตหรือส่วนภูมิภาค ปลายเดือนนี้ก็จะไปที่นครศรีธรรมราช

    คุณนพดล : อาจารย์ ดร.สมิทธ เชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวหรือเปล่าครับ

    ดร.สมิทธ : ผมเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาว แต่ยังไม่เคยเจอด้วยตัวเอง

    ดร.นายแพทย์เทพพนม :
    ตอนนี้ก็มีหลายกลุ่มที่เขาไปดูที่เชียงใหม่ เชียงราย เขากะลา นครสวรรค์ ที่ยานเขามา การประชุมมีคนไทยร่วมทั้งหมด 3 คนให้ไปประชุมกับเขาด้วย ในระยะเวลา 3 เดือน ที่มหาวิทยาลัยสุรนารี ผมถามว่าทำไมมาประชุมที่เมืองไทยล่ะ เขาบอกว่ามี 2 ปาระเทศที่มีประตูมิติมากที่สุดคือ ไทยแลนด์และชิลี เขาบอกว่าที่ชิลีก็ประชุมมาแล้ว ทีนี้ก็มาประชุมที่ไทยว่าอยู่ที่ไหน เขาเก็บเป็นความลับ เขาไม่บอกว่ามันอยู่ที่ไหน

    คุณนพดล :
    มีข่าวจากองค์การนาซ่าว่าจะมีการเกิดดาวเคราะห์ยักษ์พุ่งชนโลกในเดือนพฤศจิกายนนี้ มีโอกาสมากแค่ไหน

    ดร.นายแพทย์เทพพนม :
    ดาวอังคารนี้มีแอสเตอร์ลอยเยอะเป็นล้านๆดวง มีโครงการ NEO ผมพยามที่ศึกษาพวก 7 ดวงดาวที่วิ่งมาทางโลก แล้วเขาบอกว่ามันจะมีมาหลายดวงเหมือนกัน แต่ดวงหนึ่งเขาบอกว่าจะยาวประมาณ 1 กิโลเมตรกว่า ถ้าเข้ามาใกล้โลกจะทำไง เพราะวิธีกำจัดมันลำบาก แต่บางคนบอกว่ามันง่ายมากก็เอาจรวดหัวนิวเคลียร์ยิงซิ ไม่ได้ซิถ้าเอาจรวดหัวนิวเคลียร์ยิงมันก็จะแตกเป็นล้านชิ้น และวิ่งเข้าสู่โลก โลกก็จะแย่ ในประเทศมหาอำนาจ ในจีน รัสเซีย สหรัฐ เขาก็คอยดูอยู่ ว่ามันจะมาจริงในเดือนนั้นๆหรือเปล่า ผมไม่รู้ เขาบอกว่าจะมีมา พวกฝรั่งเขาก็คอยดูอยู่ ฝรั่งเขาก็ทดลองอะไรเยอะแยะ ยกตัวอย่าง โครงการฮาฟ ที่ยิงกระแสไฟฟ้าต่างๆทั่วขั้วโลก ทำให้อากาศต่างๆเปลี่ยนแปลง ผมเคยเป็นประธานที่ปรึกษาฝนหลวง ตอนนั้นผมเคยไปขอเงินสหรัฐให้ช่วย ได้ 200 กว่าล้าน ซื้อเครื่องบิน คือของอเมริกาจะสูงกว่าหมื่นฟุต แล้วในหลวงก็ให้พิสูจน์ ผมก็คอยวัดน้ำฝน นาซาบอกว่ายานมนุษย์ต่างดาวใช้ธาตุที่ 115 ที่ไม่มีในโลกนี้ เตาปฏิกรณ์ปรมาณู แต่บางพวกเขาบอกไม่ได้ใช้ เขาใช้บังคับด้วยจิต จนบินมาตกที่เมืองไทยที่สันกำแพงลำ 1958 อันนี้มีเรคคอร์ด อยู่ในทำเนียบขาวด้วย เราเตือนประชาชนให้มีสติ ไม่ให้ตื่นตกใจกลัว เพราะกลัวจะทำอะไรไม่ได้ มีภัยพิบัติ มีฝนตกหนักแล้วเราจะต้องทำยังไง หน่วยงานราชการอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหน่วยงานของเอกชน เข้ามาช่วยด้วย

    คุณนพดล :
    ผมขอถามอาจารย์เป็นประเด็นสุดท้ายแล้วกัน อาจารย์เชื่อเรื่องของปี 2012 ไหมครับ

    ดร.นายแพทย์เทพพนม :
    เขาก็ทำนายกันเยอะนะว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า ในฐานะผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ผมก็ยังไม่เชื่อนะ ว่ามันจะเกิดแต่ผมว่าเราต้องเตรียมคนเอาไว้ ถ้ามันเกิดเราจะทำยังไง อย่างเช่น ในกรุงเทพฯมันไหว 6-7 ริกเตอร์แล้วตึกพังลงมาสักร้อยตึกมันก็แย่แล้ว

    ที่มา
     
  13. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    คำเตือนจากเพื่อนนอกพิภพ (โปรดใช้วิจารณญาณ)
    คำเตือนจากสิ่งมีชีวิตจากดาวอังคาร ผ่านศ.ดร. นพ. เทพนม เมืองแมน
    [​IMG]

    ดร.เทพพนม เมืองแมน (ภาพประกอบเท่านั้น)
    บันทึกจากงานมหกรรม ยู เอฟ โอ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ (๑๑/๑๑/๐๗) สรุปได้ดังนี้ว่า เกิดภัยพิบัติในโลกแน่นอน
    ๑) ระวังเขื่อนแตก มนุษย์ต่างดาวบอก (ดูเขื่อนศรีนครินทร์ ถ้าแตกในเมืองมีเวลาหนี ๑/๒ ชม. น้ำจะสูงเท่าภูเขา)
    ๒) ให้เก็บของมีค่า เงิน ยาประจำตัว อาวุธขนาดเล็กไว้ป้องกันตัวไว้ในรถยนต์ รถเติมน้ำมันไว้เสมอ หรือเอาไปติด แอล พี จี อย่าติด เอ็น จี วี จะไปได้ไม่เกินนครสวรรค์
    ๓) ตอนนี้ขั้วแม่เหล็กโลกวัดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาหล่นจาก ๓๕ เป็น ๕ เกาจน์แล้ว ถ้าลดลงอีกจะเกิดแผ่นดินไหวได้
    ๔) มนุษย์ต่างดาวบอกว่า จะเกิดเหตุการณ์ลำดับตามนี้ ...แผ่นดินไหว น้ำท่วมใหญ่ สงครามโลกครั้งที่ ๓ ... แล้วอุกกาบาตวิ่งชน ตายหมดแบบไดโนเสาร์ เหตุการณ์หลังนี้รุ่นดร.เทพนมไม่ต้องห่วงเพราะคงตายไปแล้ว เขาบอก
    ๕) ถามมนุษย์ต่างดาวเรื่อง ครอป เซอร์เคิลหน้าทำเนียบขาวที่มี ๖ หย่อม เขาบอกว่าเป็นสัญญานว่าสงครามโลกครั้งที่ ๓ เกิดแน่ เร็วๆนี้ แต่ต้องเกิดภัยพิบัติก่อน จะเกิดสงครามย่อย ๖ แห่งจึงจะเป็นสงครามโลกดังนี้ คือ อิสราเอลในตะวันออกกลาง (จะยุ่งเมื่อจีนเข้าแทรกแซง) ปากีสถาน อินเดีย จีนกับไต้หวัน เกาหลีและเกาหลีเหนือ ท้ายที่สุดคืออินโดนีเซีย

    คำเตือนจากกลุ่มผู้ติดต่อมนุษย์ต่างดาวจากสหพันธ์ดวงดาวในประเทศไทย กลุ่มเขากะลา

    จาก โน๊ตย่อบันทึกการสนทนาที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ระหว่างคุณสุดใจ ชื่นสำนวน สมาชิกกลุ่มเขากะลา และศ.ดร.นพ. เทพพนม เมืองแมน ๓๐ มค ๒๕๕๓ เวลา ๑๖.๐๐ น.

    ข้อมูล สื่อสารโทรจิตจากระบบสมาพันธ์ระหว่างดวงดาวถึงคุณสุดใจ ชื่นสำนวน ให้เรียนท่านดร. เทพนม เมืองแมนว่า ให้ดูภัยพิบัติที่เกิดกับต่างประเทศ ความรุนแรงเกิดขึ้นที่ต่างประเทศก่อน ปัจจุบันการแพทย์ปัจจุบันและเพื่อนมนุษย์ยังพอช่วยเหลือกันได้

    ดร.เทพนมถามว่าที่อยู่ข้าวปลาอาหารจะเตรียมกันอย่างไร คนในกลุ่มจะไปอยู่ที่ไหนกัน

    พี่ สุดใจแจ้งว่าสำหรับกลุ่มปฏิบัติการในช่วงนี้เรามีหน้าที่แค่ประสานงาน คนที่ทำเรื่องอาหาร ที่อยู่อาศัยเขารู้ตัวเองแล้ว เราแค่พบกับเขา ต่างดาวไม่ให้ข้อมูลเราทีละมากๆ เพราะขันธ์มนุษย์จะกลัวจนทำงานตามจุดมุ่งหมายไม่ได้ ในที่ๆเป็นที่กำหนดของเขาเขาจะทำบริเวณคลุมไว้ไม่ให้รังสีเข้าได้ สถานที่ๆเขากะลาจะเป็นแค่ที่ประสานงานส่งต่อ ไม่ใช่ที่อยู่ถาวร เก้าดวงดาวประสานงานเรื่องภัยพิบัติผ่านเขากะลา

    พี่ สุดใจบอกว่าต่างดาวบอกว่ากลุ่มเขากะลากลับกับคนอื่น เมื่อมีภัยคนอื่นหนีออก แต่ผู้ฝึกแล้ววิ่งเข้าแหล่งเกิดเหตุ (แปลว่าตอนเกิดเหตุกลุ่มเขากะลาต้องอยู่นอกเหตุการณ์จึงจะรอดวิ่งเข้าไปทำ การช่วยเหลือได้)

    ดร. เทพนมบอกว่าสหายชาวดาวอังคารจะมาเตือนท่านเมื่อถึงเวลา บอกว่าถ้าเตือนแล้วไม่ไปคราวนี้ก็ตาย

    เทพบุตร ชาวดิน (ชื่อในเว็ปพลังจิต) แจ้งว่า เมื่อสนทนากับมนุษย์ต่างดาวในร่างจำลองพลังงานเหมือนมนุษย์จากดาว Zeta reticuli ที่งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิต .... ธันวาคม ๒๕๕๒ เขาบอกว่าจะมาบอกเองเมื่อถึงเวลาว่าภัยมาเมื่อไร

    พี่ สุดใจว่าคราวก่อนสึนามิ ๒๕๔๗ ทางมนุษย์ต่างดาวจัดให้เตือนภัยปรากฏตัวทางโทรทัศน์ ๑๐ วันก่อนเกิดภัยพิบัติ แต่คนไม่เชื่อไม่เตรียมตัว มนุษย์ต่างดาวไม่สามารถแทรกแซงวิบากกรรมของใครได้ มนุษย์ต้องฝึกการลดละเลิก ว่าเราเก่งและแน่จะได้รับข้อมูลได้เอง

    ดร. เทพนมกล่าวว่าทางกายภาพโลกเปลี่ยนไปแล้ว แผ่นดินไหวรุนแรงบ่อยครั้ง อากาศเปลี่ยน แม่คะนิ้งทางเหนือมีมากขึ้นอยู่นานขึ้นในแต่ละครั้ง วันข้างหน้าหิมะจะตกในประเทศไทย

    ดร. เทพนมถามเมื่อเกิดภัยจะสื่อสารอย่างไร ท่านทราบว่าสนามแม่เหล็กจะเปลี่ยน แม้แต่เรือน็อตเชื่อมเหล็กก็จะหลุดหมด เหนือบรรยากาศมีพายุสุริยะด้วยเครื่องบินขับเคลื่อนไม่ได้ การสื่อสารจะถูกตัดขาดหมด

    พี่ สุดใจกล่าวว่า ในอนาคตผู้ปฏิบัติงานจะได้รับจอโทรภาพ คล้ายที่คุณบรรพตใช้สแกนกรรมในขณะนี้ แต่ละคนมีคนละเครื่องเหมือน CCTV เห็นสถานการณ์และสื่อสารกับคณะทำงานได้

    พี่ สุดใจย้ำว่า ข้อมูลจากมนุษย์ต่างดาวกล่าวว่า งานช่วยเหลือภัยพิบัติโลกครั้งนี้ใหญ่หลวงหนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติ ศาสตร์ดาวเคราะห์ดวงนี้ และได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกสหพันธ์ดวงดาวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โลกอื่นเคยเกิดภัยพิบัติในหลายดวงดาว เกิดขึ้นทีละดวงๆ แต่เขามีจานบินจอดบนโครงอาคาร พวกเขาอาศัยอยู่ด้านล่าง พอเกิดภัยเขาก็ขึ้นจานบินขับออกมา ความเสียหายจึงเกิดกับชีวิตเป็นส่วนน้อย โลกมนุษย์เคยเกิดภัย เขาช่วยมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้งานใหญ่ระดมความร่วมมือระหว่างดวงดาวมากเป็นประวัติการณ์ ดาวเสาร์ค้นคว้าเตรียมอาหารพลังงานเม็ด ดาวอังคารและ Zeta reticuli เตือนภัย ดาวพลูโตฝึกยกระดับจิต ดาวโลกุกะตาปาปะดิกองเตรียมทีมช่วยยกระดับจิตใจและให้อุปกรณ์เทคโนโลยีรักษา อาการบาดเจ็บและซ่อมแซมยีนต่างๆ อุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวมีความละเอียดอ่อนต้องฝึกลดละอัตตาจึงจะอนุญาตให้ ติดตั้งใช้งานได้

    เรื่องขนาด ของความหายนะและอุปกรณ์ช่วยเหลือนี้มนุษย์ต่างดาวกล่าวไว้กับกลุ่มเขากะลามา นับสิบปีมาแล้ว เหมือนให้ทฤษฎีมาก่อน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๕๑ เป็นต้นมาขยายจำนวนสต๊าฟฝึกจิตให้ธรรมะปล่อยวางติดอุปกรณ์ ตั้งแต่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ นี้เป็นปีภัยพิบัติ จะเริ่มเห็นว่าข้อความที่มนุษย์ต่างดาวให้ไว้ (ดูเป็นไปไม่ได้ในขณะนั้น) กลายเป็นถูกต้องขึ้นมา เขาเตรียมการความช่วยเหลือไว้มาก ฝึกให้กับบุคคลในหลายประเทศ ต้องรีบยกระดับจิตใจเร่งปฏิบัติตาม มนุษย์ต่างดาวไม่สามารถช่วยมนุษย์ได้หมดทุกคน ผู้ที่ติดตั้งอุปกรณ์และได้ผ่านการใช้งานระยะหนึ่งแล้วจะได้รับการ upgrade และทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับคนใหม่ที่รับอุปกรณ์ในภายหลังได้

    ดร. เทพนม กล่าวว่า ก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยได้เท่านั้นคงไม่ใช่ทุกคน.....

    ที่มา : คำเตือนจากต่างดาว
    --------------------------------------------------------



    คลิปรายการวู๊ดดี้ ได้เชิญ ดร.เทพพนม เมืองแมนมาคุยในรายการ​


    สรุปโดยสังเขป
    ใน รายการวู้ดดี้ ออกอากาศ 22 เมย. ดร.เทพพนม เมืองแมน กล่าวว่ีาได้รับข้อมูลล่าสุดจากมนุษย์ต่างดาวในวันที่ 20 เมย.ที่ผ่านมาว่า ว่าภายใน 2 เดือนข้างหน้านี้ จะมีภัยจาก
    - แผ่นดินแยก
    - น้ำท่วม โดยน้ำอาจจะมาจากทะเลหรือจากฝน
    - และคนไทยจะออกมาฆ่ากันเอง ในเดือน 2 เดือนนี้


    ฝรั่งเคยมาประชุมที่ประเทศไทยในปี 1999 ว่าประเทศไทยมีประตูมิติมีมากที่สุดในโลก และจะมีคนไทยรอดมากที่สุดเมื่อเกิดภัยพิบัติ

    -------------------------------------------------------------------------​
    การ ทำนายและการเตือนภัยของมนุษย์นอกโลกนั้น ผมเองก็ยังไม่เคยศึกษามาก่อน จึงไม่อาจจะออกความเห็นใดๆได้มากเท่าไหร่ จึงได้แค่ขอนำเสนอแก่ทุกท่าน จริงเท็จประการใด ขึ้นอยู่กับเวลา แค่ภัยพิบัติ หากท่านผู้อ่านคิดเห็นเป็นประการใดก็ร่วมแชร์กันได้ผ่าน FB ด้านล่างได้นะครับ




    ที่มา
     
  14. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    คาดการณ์ 2012

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=e9BCOhPGWc0&feature=related]เจาะใจ : มหันตภัยธรรมชาติ 21/04/54 [Part 3/4] - YouTube[/ame]
     
  15. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    วันเวลาใกล้เค้ามาอาจจะไม่เิกดอะไรกับคุณก็ได้
     
  16. DukeSonic

    DukeSonic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +831
    <object width="640" height="360"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/r36vMY_m2bo&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/r36vMY_m2bo&hl=en_US&feature=player_embedded&version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></embed></object>
     
  17. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    คาดว่า อาจจะใกล้หมดเวลาของความทันสมัยไฮเทค ในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า ตอนนั้น เครื่องมือสื่อสาร ที่อุตส่าห์คิดประดิดประดอย พอไฟฟ้าถูกตัด ก็จะใช้การไม่ได้ สังคมทุนนิยมจะล่มสลาย ด้วยภัยธรรมชาติ ด้วยสงครามนิวเคลียร์

    บ้านเมืองราบเป็นหน้ากลอง คนต้องจร ต้องอพยพ ไปตายเอาดาบหน้า มือที่เคยคลิกเมาส์ ต้องไปจับจอบจับเสียม ทำไร่ไถนา ประทังชีวิตด้วยวิถีเกษตรกรรม (ในกรณีที่รอดชีวิตจากภัยพิบัติ)

    ขอรวมฮิต ที่เคยโพสไว้ก็แล้วกัน จากหลายครั้งหลายวาระ

    ---------------------------------------------------------------------------------

    [​IMG]


    <TABLE style="MARGIN: 6px 0px" id=post5261533 class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="FONT-WEIGHT: normal" class=thead>20-10-2011, 06:53 PM </TD></TR><TR><TD class=alt1>คำตอบ: 12,957
    [​IMG] แนะนำ กลียุค...[.178/COLOR][/I]

    กลียุค (อักษรเทวนาครี...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ่อ ลืมบอกไป คิดว่าอีกซักพัก สภาพบ้านเมือง ถนนหนทางจะกลับมาเกือบปกติ

    พอคลื่นลมสงบ คนส่วนใหญ่ ก็จะลืมตัวลืมใจ ลืมคิดถึง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ขาดธรรมะ แม้แต่ศีล 5 ก็ไม่มี แล้วไปใช้ชีวิตระเริงกันอีก เหมือนแมงเม่าที่ชอบไปตอมไฟ


    แต่หลังจากนั้น พิบัติภัยระลอกใหม่ครั้งใหญ่ ในรูปแบบใหม่จะมา เพื่อกวาดล้างบรรดาแมงเม่าไปเรียบ

    เพราะอย่างนั้น อย่าประมาทในการใช้ชีวิต เดินดีๆ มีธรรมะ ที่ต้องทำให้ได้ตลอดไป คือศีล 5
     
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <center> [​IMG]</center>
    [​IMG]© 2011 By Gary Vey Has "doomsday" begun already?

    The horrific earthquake and nuclear meltdown in Japan has shaken the world. There's a discussion ensuing on the internet that the "2012 Doomsday" has begun. It seems appropriate to write about this, since everything else pales in significance. So we dare to ask, "Has the doomsday finally begun?"
    <center><table border="0" cellpadding="10"><tbody><tr><td bgcolor="#ddccee" width="728">Editor's Note: I know that attention spans on the internet are short. I will therefore tell you that, yes, I believe a kind of doomsday has begun and it is caused by a cyclical interaction between the Earth and the Sun. I will attempt to explain this as best I can later in this article. It's only a theory for you to consider and I strongly advise viewzone readers to do your own research.</td></tr></tbody></table></center> In researching this story I considered some of the most popular prophets of doom on the internet. I've written about them before, but I will describe them again for those who are new to this sort of thing.
    The "Time Wave" Theory of Doomsday
    Terrence McKenna was a genius who focused his vast intellect on the I-Ching (among many other complex issues), an ancient Chinese system for predicting future trends. His "discovery" was that, hidden in the structure of the I-Ching, there was a fractal pattern of time that could describe the events of human civilization in terms of routine and novel life. Routine life was when civilization copes well and makes quick adjustments to their changing world. This is contrasted by novelty, when civilization struggles to cope with unfamiliar circumstances.
    McKenna produced a graph that plotted these trends over time. He called this graph the "Time Wave" and he noted that the graph ended in maximum novelty on the traditional doomsday, December 21, 2012.
    We first reported about McKenna's Time Wave Theory, in the Spring of 2010 and noted that some pivotal event was predicted to occur in early July when routine life plateaued. This was believed by many to be the "beginning of the end" for humanity. But this never happened. Another significant date was November 11th of that year when the Time Wave dropped sharply, plunging to the depths of novelty. But that also failed to prove significant.
    So, in light of the catastrophe in Japan on March 11th, we thought we'd see how the Time Wave plotted this particular disaster -- certainly a novel event for almost everyone in the Pacific area. The chart below shows the Time Wave predictions.

    <center>[​IMG]</center> OK. Unless something dramatic happens with the Japanese nuclear meltdown on March 23rd, it's pretty much a bust. Anyone who knows about McKenna will also be aware that he consumed many hallucinogenic substances and wrote extensively about psychedelics. Does that figure in his obvious miscalculations? Maybe. We'll have to see.
    Clif High's Web Bot Program
    The Web Bot is a computer program that scans the internet and looks for subtle changes in language, how certain words are used, and analyses this information to predict certain trends in our changing human culture. The web bot has been able to predict the future so well that the it has been used by economists and stock traders with a good to excellent rating.
    I've written about the web bot for viewzone before. I became interested when the program's designer, Clif High, started applying his linguistic analysis to social phenomenon and natural disasters. Clif publishes a series of quarterly predictions that foretell "doomsday" in some detail.
    Clif High has quite a following. But that following dropped precipitously when he linked doomsday to the BP Gulf oil disaster back in 2010, and even more so when his "Israeli Mistake" -- a nuclear disaster resulting from Isreal's raid on the nuclear facilities in Iraq -- didn't happen.
    Clif was quiet for a while and many thought he was finished with his predictions. But he had one last bit of future insight up his sleeves -- the "Expanding Earth Theory". It's not a new theory, and it's not Clif's. But he did always mention some linguistic clues about a "Sun disease" that, in hindsight, mesh with this doomsday theory and could save his credibility. Let's take a look.

    <center><table border="0" cellpadding="10"><tbody><tr><td bgcolor="#cceedd" width="728">Something Old & Something New
    If you have ever looked at a map of the world, you have undoubtedly noticed that the East coast of South America appears to mimic the shape of the West coast of Africa. This observation was also noticed by German born geophysicists, Alfred Wegener, who proposed that the continents we see today were once connected. His theory (Kontinentalverschiebung) [1] was ridiculed and dismissed for 40 years because no one could imagine how continents could move and essentially plow through the ocean floor's crust. But in the 1950s a research ship of the Lamont-Doherty Earth Observatory of Columbia University, conducted a deep sea survey of the Atlantic Ocean's floor and discovered an enormous submerged mountain chain which they named the "Mid-Atlantic Ridge" [2][3][4]. It was later discovered that every ocean contains parts of the same, interconnected mid-ocean ridge system. Although the ridge system runs down the middle of the Atlantic Ocean, the ridge is located away from the center of other oceans.
    Close examination of the Mid-Atlantic Ridge, and other mid-ocean ridges, revealed that these were formed by cracks in the earth's crust which allowed magma to come to the surface, cool and solidify to become new crust. In fact, core samples of the crust on either side of the ridges showed that it was relatively new and spreading out, away from the ridge. At last, Wegener's plate tectonic theory was accepted!
    Subduction Zones?
    One of the interesting things about paradigms is that they stubbornly refuse to die. The idea that the Earth had never changed persisted, even though Wegener's plate tectonic theory was the new paradigm. Sure, new crust was being formed in the mid-ocean ridges and this was moving the continents, but the size of the planet wouldn't change-- would it?

    <center>[​IMG]</center> [Above: Assuming the planet was the same size as it presently is, the original continent, Pangaea, would have been surrounded by a vast ocean.]
    To maintain a planet of the same size, there has to be a method to compensate for the new crust being made in the ridges. To solve this dilemma, scientists theorized that the plates sometimes move under other plates in a process called subduction.

    <center>[​IMG]</center> [Above: 1 Mid-ocean ridges can be seen all over the planet, adding about a cubic mile of crust each year. Contrast this to the relatively few and dispersed subduction zones Above: 2 around the globe.]

    <center>[​IMG]</center> The map above shows the age of the earth's oceanic crust from newest (red) to oldest (blue).
    There is no "direct" proof of subduction. No experimental objects have been placed to measure it and no land masses have ever been oberved moving towards each other. [*] So the question arises: is there an alternate theory? And what does this theory reveal about "doomsday"?
    The Expanding Earth Theory -- cycles of doom
    Shortly after Wegener's continental drift theory was introduced, many people tried to piece together the continents. Some pieces (like South America and Africa) were an obvious fit, but others did not fit together because of the belief that a vast ocean had to be accommodated in the models. Sam Carey, an Australian, dared to solve the puzzle without an ocean and found that the continents fit together perfectly. Of course, this was in the 1930s at a time when Wegener's theory was still being ridiculed and mocked.
    But Carey was on to something big... or small. His solution only worked if the Earth was a fraction of its present size. But it worked perfectly. Check this out:


    <center> </center> There is strong evidence that the oceans are a relatively recent addition to planet Earth. All the present ocean floors are geologically young [5]. Present-day continents, such as Australia, were formed about 4.3 billion years ago. In contrast, the geologically oldest seafloor formed only 180 million years ago.
    The Plate Tectonic model assumes this is because older oceanic crust has been subducted [6]. For this assumption to be correct, an area equivalent to the Pacific Ocean would have had to be subducted under the Americas since the Jurassic period, with no debris or remnants of older oceanic crust left behind. We just don't see that kind of vigorous subduction taking place anywhere on the planet today.
    Biologists have looked at ancient plant and animal fossils to determine which continents and oceans they once inhabited. They concluded that, "The balance of evidence seems to require an expanding earth..." [7].
    Carey suggested that an experiment should be conducted to measure the expansion and, in 1986, his suggestion was carried out.
    A pair of receivers [A & B below] were set up at different locations on the earth, each looking at the same quasar and listening to its radio emissions.[8] Quasars are radio sources which serve as a universal beacon. Because of the curvature of the Earth, one location (A) was slightly nearer to the quasar signal and so received it first. Using the time delay and a little geometry, the difference in the distance between the two stations and the quasar can be determined. If the same measurements are taken at a later time, when the two receivers are oriented with respect to the quasar as before, if receiver B has moved closer to the quasar, the delay time between them will be less.

    <center>[​IMG]</center> Since we know that the distance between the two receivers [A and B] has not changed, evidence of their apparent change in distance from the Quasar [C] must be attributed to the fact that the curvature of the Earth has lessened from expansion. Over a ten year period, experimental results showed an earth expansion of about two centimeters per year (2.0 cm/yr), while the actual surface separation [A and B] remained constant.
    This may sound small, but the volume is enormous.
    Giraffes and Dinosaurs
    If the Earth were the size of Carey's model, 250-million years ago, it would likely have had just 50% of its present gravity. As it grew larger the gravity would increase. Proponents of the Expanding Earth theory are quick to note that this explains some mysteries that have puzzled archaeologists and biologists. It seems that they are at a loss to explain how animals such as dinosaurs could have evolved to be so huge.
    [​IMG] Giraffes have a maximum height to which their necks can grow. This is determined by the pull of gravity on the blood in the arteries travelling up to their brains. A height over 17 feet apparently reaches the limits of heart muscles. But dinosaurs were much larger. How did they achieve adequate blood perfusion in their brains?
    According to researcher and author, Stephen Hurrell:

    "To understand why dinosaurs were so large we need to turn the question of their large size on its head and ask why the animals of today don't grow as large as the dinosaurs. As any animal becomes larger its mass (and hence its weight) varies in relation to its unit length cubed, while the area (and hence the strength) of its legs varies in relationship to its unit length squared. This mathematical relationship governs the size of all life, so as animals increase in size their strength-to-weight ratio reduces until they reach an upper size limit.
    This upper limit is the reason why it is so surprising that dinosaurs were so gigantic. Today's life appears to have reached the maximum size achievable, but life during the dinosaurs' time was much larger. This larger size could be explained if dinosaurs weighed less because gravity was less at that time."[9]

    </td></tr> </tbody></table></center> What about that DOOMSDAY?
    So if the earth was smaller in the past, and is growing larger every year, how does this figure into the doomsday scenario?
    According to Clif High, the reason that Earth grows in size has to do with what's inside of it. He suggests that the core of the planet is not made of molten iron, as the Plate Tectonics theory proposes. Clif considers the new plasma paradigm that is rapidly winning over astrophysicists as the basic substance of the universe -- slowly but surely pushing aside the gravity model to explain how things are made and held together.
    Plasma is the fourth state of matter (different from solid, liquid and gas) and it's everywhere in the universe. Plasma has unusual properties that explain how matter is created from pure energy. While we may not yet understand these properties, the existence of matter in the plasma universe is proof that it is so. That same process is supposedly going on inside our planet -- new matter is being created from streaming plasma that comes from our Sun and possibly other sources such as Gamma Ray Bursts [10].
    But wait... there's more!
    This stream of plasma doesn't just trickle through the solar system. NASA has detected a portal through which our Sun's magnetic field connects directly to Earth's magnetic field about once every eight minutes.[11] While that could account for the average yearly increase in matter, there's something even more significant. Our Sun has cycles of 11,500 to 12,000 years where it ramps up its blasts of plasma, sending huge vollies of energy in the form of Coronal Mass Ejections and flares that rapidly increase the Earth's expansion. [12] And, according to Cliff High, we have just entered one of these cycles.
    We've written about this cycle in the past (see The Last Doomsday) in some detail. It's real and based on sound scientific evidence. We'll be writing more about this in our next installment of this series which will discuss the superwave theory developed by Dr. Paul Laviolette.
    Our previous speculation was that a powerful solar blast would produce atmospheric disturbances and fry electrical circuits on Earth -- bringing us back to the pre-electric, pioneer days. We failed to see the link between seismic disturbances -- earthquakes, tsunamis and floods -- until Cliff made the Expanding Earth connection. The 9.0 quake in Japan reinforced this link.
    Mega-Flares and X-Flares
    [​IMG]On March 9th, 2011, the following report was issued in the Earth Changes Newsletter:
    "Over the last 48 hours, ten (10) M-Class flares have fired off from at least three separate sunspot regions. Space Shuttle was put on alert and lands safely prior to elevated solar activity ... Forty-eight hours after the first set of flares, a 7.2 mag. earthquake hit Japan setting off a small tsunami. Ten hours later, a series of "straight-line winds" along with several tornadoes hit the southeastern United States."
    Then, the next day, this report came from the Space Weather Observatory:
    Space Weather News for March 10, 2011
    SpaceWeather.com -- News and information about meteor showers, solar flares, auroras, and near-Earth asteroids
    X-CLASS SOLAR FLARE: March 9th ended with a powerful solar flare. Less than an hour before midnight (UT), Earth-orbiting satellites detected an X1.5-class explosion from behemoth sunspot 1166. First-look data suggest that the blast did hurl some material toward Earth. Check spaceweather.com for movies of the flare and updates on its possible effects.
    Then, on March 11, 2011, the unprecedented 9.0 earthquake hit Japan causing a massive tsunami that killed an estimated 16,000 people. Coincidence?
    Pole Shift Madness
    For a while here on viewzone we have been hearing from readers who believe that the crust of the Earth will slip around the mantle, re-arranging the continental plates and causing what is curiously referred to as a "pole shift". This is a theory that was put forth by Charles Hapgood (again, we have written about this HERE).
    The most popular version of this doomsday scenario has a rogue planet -- planet-X -- entering the solar system and disturbing the gravity of our planet. This prediction features most prominently on Nancy Lieder's website "zetatalk.com" and has an international following. Nancy claims to receive her information from grey aliens called "Zetas" who have the star system Zeta Reticuli as their origin and communicate with her telepathically.
    [​IMG] While one could spend considerable time debating her predictions, the following information seems to bear witness against her. First, the typical "Grey" alien made popular by Whitley Strieber in his book Communion is not a Zeta. The term "Zeta" originated from the UFO encounter with Betty and Barney Hill back in the 1960s. According to Betty Hill, she was shown a star map of the alien's home planet which she later drew under hypnosis. Analysis of this drawing showed that it was remarkably similar to the star system we call Zeta Reticuli, thus the name. But the aliens that Betty described looked nothing like the big-eyed, grey skinned aliens depicted by Strieber. In fact, Betty was asked outright in an interview if she met the Greys and she emphatically said "No!" Her abductees -- the real Zetas -- were more human like in appearance.
    Then there is the problem with planet-X. This has its origins in the rogue planet first described by Zecharia Sitchin in The Twelfth Planet. This wandering giant supposedly has an orbit of 3600 years around our Sun and periodically enters the vicinity of Earth, causing gravity problems and tidal waves. The flood of the Bible and the Sumerian legend of Utnapishtam is supposedly related to one of its more recent passages near our planet. Nancy Lieder relies on this planet -- called "Nibiru" by Sitchin -- to trigger her pole shift doomsday. But before he passed away, Sitchin was asked specifically about Nancy's prediction and whether this planet could be involved in a 2012 doomsday scenario. Sitchin totally distanced himself from her predictions stating that Nibiru was still 1200 years away in its outer orbit.
    And lastly, there is the belief that pole shifts have happened in the past, giving credence to the validity of Nancy Lieder's predictions.
    As we have discussed in this article, core samples were taken on both sides of the mid-Atlantic ridge to determine the age of the oceanic crust. These samples also revealed the direction of the earth's magnetic field when they were created. These core samples go back millions of years and show that the earth has never had its crust oriented to a different magnetic pole (other than those times when the poles naturally reversed polarity), nor has the Earth's crust ever been displaced by a so-called pole-shift. Totally busted!
    We will write more stories about predictions in the coming weeks. For now, it looks like the problems we will encounter -- or are currently already experiencing -- are from our Sun, coupled with our own human ineptness in relying too much on vulnerable technologies.
    Please write to viewzone and tell us what YOU think.
    Next... Glaactic Core Explosions
    We're preparing to present Dr. Paul Laviolette's superwave theory which has a cyclical periodicity of about 12,000 years. This dramatic breakthrough further explains the solar storms we have described in our discussion about the expanding earth. It's very important information that has just recently been subjected to intense scientific scrutiny ... next on viewzone!




    ที่มา
     
  19. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    มนุษย์ต่างดาวเตือนภัยฯ 2012 - 1/4
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=qyZ13rhl98A&feature=related]มนุษย์ต่างดาวเตือนภัยฯ 2012 - 1/4 - YouTube[/ame]


    มนุษย์ต่างดาวเตือนภัยฯ 2012 - 2/4
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=siRM6G0Q7M8&feature=related]มนุษย์ต่างดาวเตือนภัยฯ 2012 - 2/4 - YouTube[/ame]


    มนุษย์ต่างดาวเตือนภัยฯ 2012 - 3/4
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=qJrwdwCju9g]มนุษย์ต่างดาวเตือนภัยฯ 2012 - 3/4 - YouTube[/ame]


    มนุษย์ต่างดาวเตือนภัยฯ 2012 - 4/4
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Ee_bkEzBoYs]มนุษย์ต่างดาวเตือนภัยฯ 2012 - 4/4 - YouTube[/ame]
     
  20. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    จากคุณ karan20


     

แชร์หน้านี้

Loading...